"มีบางครั้งเมื่อประชาชาติอื่น ๆ ถูกแบ่งออกในหมู่แผ่นดินและน้ำและเราชาวเยอรมันเป็นเนื้อหาที่มีเพียงท้องฟ้าสีฟ้าเท่านั้น ... เราต้องการและวางไว้ภายใต้ดวงอาทิตย์" กระสุนพื้นหลังของนายกรัฐมนตรีกล่าว ในช่วงเวลาของสงครามครูเซอร์หรือฟรีดริชที่สองอัตราการล่องแพกลายเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญชั้นนำของการเมืองเบอร์ลิน แรงบันดาลใจดังกล่าวอาศัยฐานวัสดุที่เป็นของแข็ง สมาคมอนุญาตให้เยอรมนีเพิ่มศักยภาพอย่างมีนัยสำคัญและการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วกลายเป็นพลังงานอุตสาหกรรมที่ทรงพลัง ที่จุดเริ่มต้นของศตวรรษที่ XX เธอเข้าสู่สถานที่ที่สองในโลกในแง่ของการผลิตภาคอุตสาหกรรม

สาเหตุของความขัดแย้งในการผลิตเบียร์โลกถูกหยั่งรากในอาการกำเริบของการดิ้นรนของการพัฒนาอย่างรวดเร็วเยอรมนีและพลังอื่น ๆ สำหรับแหล่งที่มาของวัตถุดิบและตลาด เพื่อให้บรรลุการปกครองของโลกเยอรมนีพยายามที่จะเอาชนะคู่แข่งที่แข็งแกร่งที่สุดสามคนในยุโรป - อังกฤษฝรั่งเศสและรัสเซียซึ่งรวมกันก่อนภัยคุกคามที่เกิดขึ้น วัตถุประสงค์ของประเทศเยอรมนีคือการยึดทรัพยากรและ "พื้นที่นั่งเล่น" ของประเทศเหล่านี้ - อาณานิคมจากอังกฤษและฝรั่งเศสและดินแดนตะวันตกในรัสเซีย (โปแลนด์, บอลติก, ยูเครน, เบลารุส) ดังนั้นทิศทางที่สำคัญที่สุดของกลยุทธ์เชิงรุกของเบอร์ลินยังคงอยู่ "ทางตะวันออก" ในดินแดนสลาฟซึ่งดาบเยอรมันควรจะชนะสถานที่สำหรับไถเยอรมัน ในเยอรมนีนี้สนับสนุน Austro-Hungary พันธมิตร เหตุผลของการปลดปล่อยสงครามโลกครั้งที่หนึ่งคือการทำให้รุนแรงขึ้นของสถานการณ์ในคาบสมุทรบอลข่านซึ่งการทูตออสโตร - เยอรมันสามารถแบ่งสหภาพของประเทศบอลข่านบนพื้นดินและทำให้เกิดสงครามบอลข่านที่สองระหว่างบัลแกเรียและส่วนที่เหลือของ ประเทศของภูมิภาค ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2457 ในเมืองบอสเนียของ Sarajevo นักเรียนเซอร์เบีย G. Prinzip ฆ่าทายาทกับบัลลังก์ออสเตรียของเจ้าชายเฟอร์ดินานด์ สิ่งนี้ทำให้ Viennese Rake เป็นเหตุผลที่จะตำหนิสงครามและเริ่มทำสงครามกับเธอที่มีเป้าหมายในการอนุมัติการครอบงำของออสเตรีย - ฮังการีในบอลข่าน การรุกรานทำลายระบบของรัฐออร์โธดอกซ์อิสระที่สร้างขึ้นโดยการต่อสู้ของยุคเก่าของรัสเซียกับจักรวรรดิออตโตมัน รัสเซียในฐานะผู้ค้ำประกันอิสรภาพเซอร์เบียพยายามที่จะมีอิทธิพลต่อตำแหน่งของ Habsburg การระดมกำลังเริ่มต้น สิ่งนี้ทำให้การแทรกแซงของ Wilhelm II เขาเรียกร้องจาก Nicholas II เพื่อหยุดการชุมนุมแล้วขัดจังหวะการเจรจาประกาศสงครามในวันที่ 19 กรกฎาคม 2457

สองวันต่อมาวิลเฮล์มประกาศสงครามกับฝรั่งเศสในการปกป้องอังกฤษ ตุรกีกลายเป็นพันธมิตรของออสเตรีย - ฮังการี เธอโจมตีรัสเซียบังคับให้มันต่อสู้บนหน้าบ้านสองแห่ง (ตะวันตกและคอเคเซียน) หลังจากเข้าร่วมสงครามของตุรกีปิดช่องแคบจักรวรรดิรัสเซียกลายเป็นที่โดดเดี่ยวจริง ๆ จากพันธมิตร ดังนั้นสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเริ่มขึ้น แตกต่างจากผู้เข้าร่วมรายใหญ่อื่น ๆ ในโลกที่ขัดแย้งกันรัสเซียไม่มีแผนก้าวร้าวสำหรับการต่อสู้เพื่อทรัพยากร รัฐรัสเซียอยู่ในตอนท้ายของศตวรรษที่ XVIII บรรลุเป้าหมายหลักอาณาเขตหลักในยุโรป มันไม่จำเป็นต้องมีที่ดินและทรัพยากรเพิ่มเติมดังนั้นจึงไม่สนใจสงคราม ในทางตรงกันข้ามมันเป็นทรัพยากรและตลาดการขายดึงดูดผู้รุกราน ในการเผชิญหน้าทั่วโลกรัสเซียครั้งแรกของทั้งหมดที่ทำขึ้นเพื่อเป็นจุดแข็งถือการขยายตัวของเยอรมัน - ออสเตรียและการแก้แค้นของตุรกีซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อยึดดินแดนของตน ในเวลาเดียวกันรัฐบาลราชสำนักพยายามที่จะใช้สงครามนี้เพื่อแก้ปัญหาของธรรมชาติเชิงกลยุทธ์ ก่อนอื่นพวกเขาเกี่ยวข้องกับการยึดของการควบคุมโรงเก็บของและการให้ทางออกฟรีในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน การภาคยานุวัติของกาลิเซียที่โบสถ์ออร์โธดอกซ์รัสเซียที่เป็นมิตรตั้งอยู่ Uniates

การโจมตีของเยอรมนีพบว่ารัสเซียอยู่ในขั้นตอนการติดอาวุธซึ่งมีการวางแผนที่จะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 1917 ส่วนนี้อธิบายถึงความคงทนของ Wilhelm II ในการปลดปล่อยความก้าวร้าวการกระชับซึ่งทำให้ชาวเยอรมันถูกกีดกันโอกาสของความสำเร็จ นอกเหนือจากความอ่อนแอทางเทคนิคทางทหารแล้ว "Achilles ที่ห้า" ของรัสเซียเป็นการฝึกอบรมทางจริยธรรมที่ไม่เพียงพอของประชากร ความเป็นผู้นำของรัสเซียตระหนักถึงลักษณะรวมของสงครามในอนาคตที่ไม่ดีซึ่งการต่อสู้ทุกประเภทถูกนำมาใช้รวมถึงอุดมการณ์ มันมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อรัสเซียเนื่องจากทหารของเธอไม่สามารถชดเชยการขาดกระสุนและตลับหมึกที่มั่นคงและชัดเจนในความยุติธรรมของการต่อสู้ของพวกเขา ตัวอย่างเช่นคนฝรั่งเศสเสียไปในสงครามกับปรัสเซียนส่วนหนึ่งของดินแดนและความมั่งคั่งของชาติ Humidiatied โดยความพ่ายแพ้เขารู้ว่าเขากำลังต่อสู้อะไร สำหรับประชากรรัสเซียหนึ่งศตวรรษครึ่งไม่ได้ต่อสู้กับเยอรมันความขัดแย้งอยู่กับพวกเขาในหลาย ๆ ด้านที่คาดไม่ถึง และในแวดวงที่สูงที่สุดไม่ใช่ทุกคนที่เห็นในจักรวรรดิเยอรมันของ NEF ที่โหดร้าย สิ่งนี้อำนวยความสะดวกโดย: พันธบัตรราชวงศ์ที่เกี่ยวข้องระบบการเมืองที่คล้ายกันความสัมพันธ์ที่ยาวนานและใกล้ชิดระหว่างสองประเทศ ตัวอย่างเช่นเยอรมนีเป็นหุ้นส่วนการค้าต่างประเทศหลักของรัสเซีย โคตรยังให้ความสนใจกับความรู้สึกรักชาติที่อ่อนตัวลงในชั้นเรียนที่มีการศึกษาของสังคมรัสเซียซึ่งบางครั้งก็นำไปสู่การทำลายล้างที่ไร้ความคิดไปยังบ้านเกิดของพวกเขา ดังนั้นในปี 1912 นักปรัชญา V.V. Rosanov เขียนว่า: "The Frenchman -" Che "Re France" จากอังกฤษ - "Old England" เยอรมัน - "Fritz เก่าของเรา" เฉพาะในอดีตโรงยิมรัสเซียและมหาวิทยาลัย - "รัสเซียสาปแช่ง" การคำนวณผิดเชิงกลยุทธ์ที่ร้ายแรงของรัฐบาลนิโคลัสที่สองคือการไม่สามารถมั่นใจได้ถึงความสามัคคีและการทำงานร่วมกันของประเทศในวันก่อนการชนทางทหารที่น่าเกรงขาม สำหรับสังคมรัสเซียมันตามกฎแล้วไม่รู้สึกถึงโอกาสของการต่อสู้ที่ยาวนานและเหนื่อยล้าด้วยคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งและมีพลัง ไม่กี่คนที่คาดว่าจะได้รับความก้าวร้าวจาก "ปีที่น่ากลัวของรัสเซีย" หวังว่าจะเสร็จสิ้นการรณรงค์ภายในเดือนธันวาคม 2457

Campania 1914 โรงละครตะวันตกของการกระทำทางทหาร

แผนการของสงครามเยอรมันในสองหน้า (เทียบกับรัสเซียและฝรั่งเศส) ถูกดึงขึ้นในปี 1905 โดยหัวหน้าของพนักงานทั่วไป A. Von Schriffen เขานึกภาพกองกำลังที่เล็กที่สุดของการระดมอย่างช้า ๆ ของรัสเซียและฝากการนัดหยุดงานหลักในตะวันตกในฝรั่งเศส หลังจากความพ่ายแพ้และยอมแพ้มันก็สันนิษฐานว่าจะโอนกองกำลังไปทางทิศตะวันออกอย่างรวดเร็วและจัดการกับรัสเซีย แผนภาษารัสเซียมีสองตัวเลือก - การล่วงละเมิดและการป้องกัน ครั้งแรกได้รับการรวบรวมภายใต้อิทธิพลของพันธมิตร เขาคาดการณ์ไว้ก่อนที่จะเสร็จสิ้นการระดมทุนที่น่ารังเกียจบนปีก (ต่อปรัสเซียตะวันออกและออสเตรียกาลิเซีย) เพื่อให้แน่ใจว่าการประท้วงกลางในกรุงเบอร์ลิน อีกแผนรวบรวมในปี 2453-2455 ดำเนินการจากความจริงที่ว่าหัวหน้าชาวเยอรมันจะถูกนำไปใช้ในภาคตะวันออก ในกรณีนี้กองทหารรัสเซียถูกปลดออกจากโปแลนด์ไปยังแนวป้องกันของ Vilna-Bialystok Brest-Rest ท้ายที่สุดเหตุการณ์เริ่มพัฒนาในศูนย์รวมแรก การเริ่มต้นสงครามเยอรมนีพันพลังของเขาไปยังฝรั่งเศส แม้จะมีการขาดเงินสำรองเนื่องจากการระดมทุนช้าในการขยายตัวอย่างกว้างใหญ่ของรัสเซียกองทัพรัสเซียซื่อสัตย์ต่อภาระผูกพันของสหภาพผ่านไปที่ 4 สิงหาคม 2457 ในความไม่พอใจในปรัสเซียตะวันออก การร้องขออย่างเร่งด่วนและการร้องขออย่างต่อเนื่องเพื่อขอความช่วยเหลือจากพันธมิตรฝรั่งเศสซึ่งทนต่อ Natik ที่แข็งแกร่งของชาวเยอรมัน

การดำเนินงานปรัสเซียตะวันออก (2457). จากด้านรัสเซียการดำเนินการนี้มีส่วนร่วม: 1st (General Rennenkopf) และ 2 (General Samsonov) ของกองทัพบก ด้านหน้าของการล่วงละเมิดของพวกเขาถูกหารด้วยทะเลสาบ Mazuri กองทัพที่ 1 ตกลงไปทางเหนือของ Mazur Lakes ที่ 2 - South ในภาคตะวันออกปรัสเซีย, กองทัพเยอรมันที่ 8 คัดค้านรัสเซีย (นายพลของ preciano แล้ว hindenburg) ในวันที่ 4 สิงหาคมภายใต้เมือง Passlopennene มีการต่อสู้ครั้งแรกซึ่งอาคารที่ 3 ของกองทัพรัสเซียที่ 1 (นายพล Eadanchin) ต่อสู้กับกองทหารที่ 1 ของกองทัพเยอรมันที่ 8 (General Francois) ชะตากรรมของการต่อสู้ที่ดื้อรั้นนี้ตัดสินใจกองทหารราบรัสเซียที่ 29 (General Rosenshild-Paulin) ซึ่งทำให้เกิดการประท้วงของเยอรมันกับปีกและบังคับให้พวกเขาล่าถอย ในขณะเดียวกันส่วนที่ 25 ของ General Bulgakov ครอบครอง Passlopennene การสูญเสียของรัสเซียมีจำนวน 6.7,000 คน, เยอรมัน - 2,000 สิงหาคม 7 สิงหาคม, กองทัพเยอรมันให้การต่อสู้ที่ใหญ่กว่าของกองทัพที่ 1 การใช้การแยกกองกำลังของมันที่เกิดขึ้นภายใต้สองทิศทางใน Goldap และ Humbinnin ชาวเยอรมันพยายามที่จะทำลายกองทัพที่ 1 ในส่วนต่างๆ ในเช้าวันที่ 7 สิงหาคม The Strike German Group ถูกโจมตี 5 เขตรัสเซียอย่างรุนแรงในพื้นที่ของ Humbinnin พยายามที่จะนำพวกเขาไปที่เห็บ ชาวเยอรมันผลักปีกรัสเซียที่ถูกต้อง แต่ในศูนย์กลางพวกเขาได้รับความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญจากไฟปืนใหญ่และถูกบังคับให้ต้องเสียของเสีย Natisk เยอรมันสิ้นสุดลงด้วย Goldapa การสูญเสียทั้งหมดของชาวเยอรมันมีจำนวนประมาณ 15,000 คน รัสเซียสูญเสียคน 16.5 พันคน ความล้มเหลวในการต่อสู้จากกองทัพที่ 1 รวมถึงการก้าวร้าวจากตะวันออกเฉียงใต้ของกองทัพที่ 2 ซึ่งขู่ว่าจะตัดรากไปทางทิศตะวันตกบังคับให้ผู้บัญชาการเยอรมันในตอนแรกเพื่อให้คำสั่งเกี่ยวกับการออกเดินทางสำหรับ Wovel (สิ่งนี้มีไว้สำหรับ เวอร์ชันแรกของแผน Schriffen) แต่คำสั่งนี้ไม่เคยปฏิบัติตามส่วนใหญ่เนื่องจากการอยู่เฉยของ Reneencampf เขาไม่ได้ไล่ตามชาวเยอรมันและยืนอยู่ในสองวัน สิ่งนี้อนุญาตให้กองทัพที่ 8 ออกมาจากการระเบิดและกองกำลังจัดกลุ่มใหม่ หากไม่มีข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการค้นหากองกำลังของแฟลตผู้บัญชาการกองทัพที่ 1 ย้ายไปที่Königsberg ในขณะเดียวกันกองทัพเยอรมันที่ 8 ย้ายไปในทิศทางที่แตกต่างกัน (ทางใต้ของKönigsberg)

ในขณะที่ Rennencup กำลังเดินอยู่บน Koenigsberg กองทัพที่ 8 นำโดยนายพลฮินเนินเบิร์กมุ่งเน้นไปที่ความแข็งแกร่งทั้งหมดกับกองทัพของ Samsonov ซึ่งไม่ทราบเกี่ยวกับการซ้อมรบดังกล่าว ชาวเยอรมันต้องขอบคุณการสกัดกั้นของ Radiograms ตระหนักถึงแผนภาษารัสเซียทั้งหมด เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม Hindenburg ได้รับการประท้วงการประท้วงที่ไม่คาดคิดของแผนกตะวันออกปรัสเซียนเกือบทั้งหมดของเขาต่อกองทัพที่ 2 และเป็นเวลา 4 วันการต่อสู้ทำให้เธอเสียความพ่ายแพ้ที่โหดร้าย Samsonov สูญเสียการควบคุมกองทหารยิงตัวเอง ตามข้อมูลเยอรมันความเสียหายของกองทัพที่ 2 มีจำนวน 120,000 คนรวมถึงนักโทษมากกว่า 90,000 คน) ชาวเยอรมันสูญเสียคน 15,000 คน จากนั้นพวกเขาก็โจมตีกองทัพที่ 1 ซึ่งเขาส่งให้คนใหม่ในวันที่ 2 กันยายน การดำเนินงานปรัสเซียตะวันออกมีผลกระทบรุนแรงต่อรัสเซียในยุทธวิธีและโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ศีลธรรม มันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ในการต่อสู้กับชาวเยอรมันที่ได้รับความเหนือกว่าศัตรู อย่างไรก็ตามชาวเยอรมันได้รับรางวัลอย่างมีกลยุทธ์การดำเนินงานนี้หมายถึงความล้มเหลวของแผนของสงครามฟ้าผ่า เพื่อบันทึกปรัสเซียตะวันออกพวกเขาต้องถ่ายทอดความแข็งแกร่งอย่างมากจากโรงละครตะวันตกของกิจกรรมทางทหารที่ชะตากรรมของสงครามทั้งหมดได้รับการแก้ไข มันช่วยฝรั่งเศสจากความพ่ายแพ้และบังคับให้เยอรมนีเข้าสู่การต่อสู้ที่หายนะสำหรับมันในสองมุมมอง รัสเซียเติมเต็มความแข็งแรงด้วยทุนสำรองสดอีกครั้งในไม่ช้าถ่ายโอนไปยังการรุกรานในปรัสเซียตะวันออก

Galicia Battle (1914). ความทะเยอทะยานและจำเป็นที่สุดสำหรับการดำเนินงานของรัสเซียที่จุดเริ่มต้นของสงครามคือการต่อสู้ของ Galicia ออสเตรีย (5 สิงหาคม - 8 กันยายน) มันเข้าร่วม 4 กองทัพของหน้าตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย (ภายใต้คำสั่งของนายพล Ivanov) และ 3 กองทัพออสเตรีย - ฮังการี (ภายใต้คำสั่งของ Ersgertzog Friedrich) รวมถึงกลุ่มเยอรมันของ Warzha ฝ่ายต่างๆมีนักสู้ที่เท่ากันประมาณ จำนวนเงินรวมถึง $ 2 ล้าน การต่อสู้เริ่มต้นด้วยจำนวนของ Lublin-Holm และ Galich-Lviv แต่ละคนเกินระดับของการดำเนินงานของปรัสเซียตะวันออก การดำเนินงานของ Lublin Holm เริ่มต้นด้วยการนัดหยุดงานของกองทัพออสเตรีย - ฮังการีบนปีกขวาของด้านหน้าตะวันตกเฉียงใต้ในพื้นที่ของลูบินและเนินเขา มี: 4th (General Zankl, จากนั้น Evert) และกองทัพรัสเซียที่ 5 (ทั่วไปของ Plevoy) หลังจากการต่อสู้แบบเคาน์เตอร์ที่โหดร้ายที่ Krasnik (10-12 สิงหาคม) ชาวรัสเซียพ่ายแพ้และถูกกดไปยัง Lublin และ Hill ในเวลาเดียวกันการดำเนินงาน Galich Lviv ถูกเก็บไว้ที่ปีกซ้ายของด้านหน้าทางตะวันตกเฉียงใต้ ในนั้นกองทัพรัสเซีย levoflang - 3 (General Ruzsky) และ 8 (ทั่วไปของ Brusilov) สะท้อนให้เห็นถึง Natisk ย้ายไปที่การล่วงละเมิด หลังจากได้รับรางวัลการต่อสู้ของแม่น้ำริเวอร์ลีเปรา (16-19 สิงหาคม) กองทัพที่ 3 จะระเบิดเข้าสู่ลวิฟและอันดับที่ 8 เธอได้ครอบครองกาแลค มันสร้างภัยคุกคามต่อชาวนาของกลุ่มออสเตรเลีย - ฮังการีซึ่งกำลังก้าวหน้าที่ Kholmsko-Lublin Direction อย่างไรก็ตามสถานการณ์ทั่วไปที่ด้านหน้าพัฒนาขึ้นเพื่อรัสเซียคุกคาม ความพ่ายแพ้ของ Samsonov Army ที่ 2 ใน Prussia ตะวันออกได้สร้างโอกาสที่ดีสำหรับชาวเยอรมันสำหรับชาวเยอรมันต่อการโจมตีของเขาและกองทัพลูบลินออสเตรีย - ฮังการีซึ่งเป็นการประชุมที่เป็นไปได้ของกองทัพเยอรมันและออสเตรีย - ฮังการีเวสต์วอร์ซอว์ในพื้นที่ ของเมืองเซนต์ถองคุกคามด้วยสภาพแวดล้อมของกองทัพรัสเซียในโปแลนด์

แต่ถึงแม้จะมีการอุทธรณ์อย่างต่อเนื่องของคำสั่งของออสเตรีย แต่นายพลฮินเดนเบิร์กไม่ได้ก้าวเข้ามาในอาน เขาหยิบครั้งแรกในการทำให้บริสุทธิ์ของปรัสเซียตะวันออกทั้งหมดจากกองทัพที่ 1 และโยนพันธมิตรของเขาไปสู่ความเมตตาของโชคชะตา ในเวลานั้นกองทหารรัสเซีย, ฮิลล์ที่พ่ายแพ้และลูบินได้รับการเสริมกำลัง (กองทัพที่ 9 ของนายพล Lechitsky) และเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมถูกโอนไปยังโครงการตอบโต้ อย่างไรก็ตามมันพัฒนาช้า เมื่อต้องยับยั้งบน Natisk จากทางเหนือออสเตรียในตอนท้ายของเดือนสิงหาคมพยายามที่จะสกัดกั้นความคิดริเริ่มในทิศทาง Galich-Lviv พวกเขาโจมตีกองทัพรัสเซียที่นั่นพยายามที่จะเอาชนะ Lviv ในการต่อสู้ที่ดุเดือด Rava-Russian (25-26 สิงหาคม) กองกำลังออสเตรเลีย - ฮังการีทะลุหน้ารัสเซีย แต่กองทัพที่ 8 ของนายพล Brusylov ยังคงพยายามที่จะปิดการพัฒนาจากความแข็งแกร่งสุดท้ายและรักษาตำแหน่งของ West Lviv ในขณะเดียวกันการโจมตีของชาวรัสเซียจากภาคเหนือ (จากเขต Lublin-Holmsky) ทวีความรุนแรงมากขึ้น พวกเขาบุกทะลุด้านหน้าที่ Tomashov ข่มขู่โดยวารสาร Austro-Hungarian ของ Rava-Russian กลัวการล่มสลายของหน้าของเขากองทัพออสเตรีย - ฮังการีเริ่มต้นเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมของเสียทั้งหมด ไล่ตามพวกเขารัสเซียขั้นสูง 200 กม. พวกเขาเอากาลิเซียและปิดกั้น Movelyl ป้อมปราการ กองทัพออสเตรีย - ฮังการีสูญเสีย 325,000 คนในการต่อสู้แบบกาลาปาก (รวมถึง 100,000 นักโทษ), รัสเซีย - 230,000 คน การต่อสู้ครั้งนี้ได้ทำลายกองกำลังของออสเตรีย - ฮังการีทำให้รัสเซียมีความเหนือกว่าศัตรู ในอนาคตออสเตรีย - ฮังการีหากประสบความสำเร็จในหน้ารัสเซียที่ประสบความสำเร็จจากนั้นก็มีการสนับสนุนที่แข็งแกร่งสำหรับชาวเยอรมันเท่านั้น

วอร์ซอ - ivangorodskaya การดำเนินงาน (1914). ชัยชนะในกาลิเซียเปิดกองทหารรัสเซียไปยัง Silesia ตอนบน (ภูมิภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดของเยอรมนี) สิ่งนี้บังคับให้ชาวเยอรมันช่วยพันธมิตรของพวกเขา เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวรัสเซียไม่พอใจกับ West Hindenburg เขาโยนเข้าไปในพื้นที่ของ Varta River สี่ลูกของกองทัพที่ 8 (รวมถึงผู้ที่มาจากด้านหน้าตะวันตก) จากเหล่านี้กองทัพเยอรมันที่ 9 ก่อตั้งขึ้นซึ่งรวมถึงกองทัพออสเตรีย - ฮังการีที่ 1 (นายพล Dankl) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2457 ที่รุกรานในวอร์ซอว์และ Ivangorod ในตอนท้ายของเดือนกันยายน - ต้นเดือนตุลาคมกองกำลังออสเตรีย - เยอรมัน (จำนวนรวมของพวกเขามีจำนวน 310,000 คน) มาถึงแนวทางที่ใกล้ที่สุดกับวอร์ซอว์และ ivangorod ที่นี่การต่อสู้ที่ดุเดือดเกิดขึ้นซึ่งความก้าวหน้าของการสูญเสียครั้งใหญ่ (สูงถึง 50% ของบุคลากร) ในขณะเดียวกันคำสั่งของรัสเซียได้โอนกองกำลังเพิ่มเติมไปยังวอร์ซอว์และ Ivangor เพิ่มจำนวนกองกำลังของพวกเขาในพื้นที่นี้มากถึง 520,000 คน การกลัวเงินสำรองของรัสเซียที่เข้าสู่การต่อสู้ชิ้นส่วนของออสเตรีย - เยอรมันเริ่มออกเดินทางอย่างเร่งรีบ ฤดูใบไม้ร่วงละลายการทำลายโดยเส้นทางถอยห่างออกไปปริมาณที่ไม่ดีของชิ้นส่วนรัสเซียไม่อนุญาตให้กดขี่ข่มเหง ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2457 กองทัพออสเตรีย - เยอรมันย้ายไปที่ตำแหน่งเริ่มต้น ความล้มเหลวในกาลิเซียและ Varzavaw ไม่อนุญาตให้บล็อกออสเตรเลียเยอรมันเอียงรัฐบอลข่านในปี 2457

การดำเนินงานเดือนสิงหาคมครั้งแรก (2457). สองสัปดาห์หลังจากความพ่ายแพ้ในภาคตะวันออกปรัสเซียผู้บัญชาการรัสเซียพยายามยึดความคิดริเริ่มเชิงกลยุทธ์ในพื้นที่นี้ การสร้างความเหนือกว่าในกองกำลังในช่วงวันที่ 8 (นายพล Schubert แล้ว Eichgorn) ของกองทัพเยอรมันมันย้ายไปที่การโจมตีของ 1st (General Rennencpf) และกองทัพที่ 10 (Generals Fluhe แล้ว Sivers) การระเบิดหลักถูกนำไปใช้ในป่าสิงหาคม (ในพื้นที่ของเมืองโปแลนด์แห่งออกัสตัส) เนื่องจากการต่อสู้ในพื้นที่ป่าไม่ได้ให้โอกาสกับชาวเยอรมันในการใช้ประโยชน์ในปืนใหญ่หนัก ในช่วงต้นเดือนตุลาคมกองทัพรัสเซียที่ 10 เข้าร่วมกับปรัสเซียตะวันออกเข้าร่วมกับ Passlopennene และไปถึงสาย Gumbinnen - Mazur Lakes เมื่อถึงคราวนี้การต่อสู้ที่ดุเดือดก็เกิดขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากการที่รัสเซียหยุดยั้ง ในไม่ช้ากองทัพที่ 1 ถูกย้ายไปที่โปแลนด์และกองทัพที่ 10 ต้องถือไว้ข้างหน้าเพียงลำพังในปรัสเซียตะวันออก

Autoscrus-Hungarian กองกำลังในกาลิเซีย (1914). ล้อมและสละรัสเซีย (2457-2458) ในระหว่างนี้บนปีกทางใต้ในกาลิเซียกองทัพรัสเซียในเดือนกันยายน 2457 ถูกปิดล้อม Menchl ป้อมปราการออสเตรียที่ทรงพลังนี้ปกป้องกองทหารภายใต้คำสั่งของ Kymansek ทั่วไป (มากถึง 150,000 คน) สำหรับการปิดล้อมของ MISLEY กองทัพล้อมพิเศษถูกสร้างขึ้นโดย General Shcherbachev ในวันที่ 24 กันยายนชิ้นส่วนของเธอบุกป้อมปราการ แต่ถูกผลักดัน ในตอนท้ายของเดือนกันยายนกองทัพออสเตรีย - ฮังการีโดยใช้การถ่ายโอนส่วนหนึ่งของกองกำลังด้านหน้าตะวันตกเฉียงใต้ไปยังวอร์ซอว์และ Ivangor ไปที่การรุกรานในกาลิเซียและจัดการเพื่อปล่อยย้าย อย่างไรก็ตามในการต่อสู้ในเดือนตุลาคมที่โหดร้าย Hyrova และ San กองทหารรัสเซียในกาลิเซียภายใต้คำสั่งของนายพล Brusylov หยุดการล่วงละเมิดที่เหนือกว่าตัวเลขที่เหนือกว่ากับกองทัพออสเตรีย - ฮังการีแล้วโยนพวกเขาเข้าไปในเขตแดนดั้งเดิม สิ่งนี้ได้รับอนุญาตเมื่อสิ้นเดือนตุลาคม พ.ศ. 2457 เพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง การปิดล้อมของป้อมปราการดำเนินการกองทัพล้อมของนายพล Selivanov ในช่วงฤดูหนาวของปี 1915 ออสเตรีย - ฮังการีได้ทรงพลังอีกครั้ง แต่ความพยายามที่ไม่ประสบความสำเร็จในการขับไล่การย้าย จากนั้นหลังจากล้อม 4 เดือนกองทหารรักษาการณ์พยายามที่จะบุกเข้าไปในเขา แต่เสียงอวยพรของเขาในวันที่ 5 มีนาคม 2458 สิ้นสุดในความล้มเหลว สี่วันต่อมาเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2458 ผู้บัญชาการ Kosmank มีแรงผลักดันทั้งหมดของการป้องกันที่ยอมจำนน 125,000 คนถูกจับ และปืนมากกว่า 1,000 กระบอก มันเป็นความสำเร็จที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซียในแคมเปญ 2458 อย่างไรก็ตามหลังจาก 2.5 เดือน 21 พฤษภาคมพวกเขาออกจากการย้ายเนื่องจากการออกเดินทางทั่วไปจาก Galicia

การดำเนินงาน Lodz (1914). หลังจากเสร็จสิ้นการดำเนินงานวอร์ซอ - Ivangorodskaya ด้านหน้าทิศตะวันตกเฉียงเหนือภายใต้คำสั่งของ General Ruzsky (367,000 คน) ก่อตัวขึ้นอย่างที่เรียกว่า หิ้ง Lodzsky จากที่นี่คำสั่งของรัสเซียวางแผนที่จะเริ่มการรุกรานของเยอรมนี คำสั่งภาษาเยอรมันจากเรสซิแกรมที่สกัดกั้นรู้เกี่ยวกับการเตรียมการ ในความพยายามที่จะป้องกันไม่ให้เขาชาวเยอรมันของวันที่ 29 ตุลาคมสร้างแรงผลักดันเชิงรุกที่ทรงพลังเพื่อล้อมรอบและทำลาย 5 (General Plev) ในภูมิภาค Lodz (General Sheideman) และ 2nd (General Sheideman) กองทัพรัสเซีย แกนกลางของกลุ่มเยอรมันกำลังจะมาถึงจำนวน 280,000 คน ส่วนหนึ่งของกองทัพที่ 9 (นายพล Makenzen) การระเบิดหลักสู่กองทัพที่ 2 ซึ่งอยู่ภายใต้การโจมตีของกองกำลังที่เหนือกว่าของชาวเยอรมันถอยกลับโดยมีความต้านทานที่ดื้อรั้น การต่อสู้ที่ดุเดือดเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนทางเหนือของ Lodz ซึ่งชาวเยอรมันพยายามปกปิดปีกขวาของกองทัพที่ 2 สุดยอดของการต่อสู้ครั้งนี้เป็นความก้าวหน้าในวันที่ 5-6 พฤศจิกายนของนายพล Schaeffer ไปยังพื้นที่ Lodz ตะวันออกซึ่งคุกคามกองทัพที่ 2 ด้วยสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์ แต่การเข้าใกล้กองทัพที่ 5 ในเวลานั้นสามารถหยุดการส่งเสริมการส่งเสริมของกองทัพเยอรมันต่อไปได้ คำสั่งภาษารัสเซียไม่ได้เริ่มลบทหารออกจากลอดซ์ ในทางตรงกันข้ามมันเสริมสร้าง "ลูกหมู Lodz" และการโจมตีหน้าของเยอรมันที่ต่อต้านมันไม่ได้นำผลลัพธ์ที่ต้องการ ในเวลานี้ส่วนต่าง ๆ ของกองทัพที่ 1 (General Rennencpf) ได้รับแรงหนุนจาก Conrtuddar จากภาคเหนือและสหกับหน่วยงานด้านขวาของกองทัพที่ 2 หยุดพักที่เว็บไซต์ของการพัฒนากรณีของแชฟเฟอร์ถูกปิดและตัวเขาเองก็ถูกล้อมรอบไปด้วย แม้ว่าคณะผู้สอนชาวเยอรมันสามารถแยกออกจากกระเป๋าได้ แต่แผนการของคำสั่งของเยอรมันในความพ่ายแพ้ของกองทัพของด้านหน้าตะวันตกเฉียงเหนือล้มเหลว อย่างไรก็ตามและคำสั่งของรัสเซียต้องบอกลาแผนการที่ไม่เหมาะสมสำหรับกรุงเบอร์ลิน เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2457 การดำเนินงานของ Lodz สิ้นสุดลงโดยไม่ต้องประสบความสำเร็จอย่างเด็ดขาดต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อย่างไรก็ตามฝั่งรัสเซียสูญเสียไปอย่างมีกลยุทธ์ การผ่อนคลายด้วยการสูญเสียขนาดใหญ่ (110,000 คน) Natisk เยอรมันกองทหารรัสเซียจากนี้ไปไม่สามารถคุกคามดินแดนของเยอรมนีได้จริงๆ การเสียชีวิตของชาวเยอรมันมีจำนวน 50,000 คน

"Battle of Four Rivers" (1914). โดยไม่บรรลุความสำเร็จในการดำเนินงานของ Lodz คำสั่งของเยอรมันต่อสัปดาห์ต่อมาพยายามที่จะเอาชนะรัสเซียในโปแลนด์และทิ้งพวกเขาไว้สำหรับ Wovel เมื่อได้รับ 6 ดิวิชั่นสดใหม่จากฝรั่งเศสกองกำลังเยอรมันโดยกองทัพที่ 9 (นายพล Makenenzen) และกลุ่ม Warzha ในวันที่ 19 พฤศจิกายนอีกครั้งย้ายไปที่การรุกรานในทิศทางลอดซ์ หลังจากการต่อสู้อย่างหนักในพื้นที่ของแม่น้ำ Bzura ชาวเยอรมันผลักดันรัสเซียให้กับ Lodz ไปยังแม่น้ำ Ravka หลังจากนั้นกองทัพออสเตรีย - ฮังการี (นายพล DUNCL) ถูกเปลี่ยนมาเป็นที่น่ารังเกียจและตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคมทั่วทั้งแนวหน้าของรัสเซียในโปแลนด์ "Battle of Four Rivers" ที่ดุเดือด (Bzure, Ravka, Pivice และ Nida) เปิดตัว . ทหารรัสเซียสลับการป้องกันและการตอบโต้สะท้อนการโจมตีของชาวเยอรมันใน Ravka และทิ้งออสเตรียสำหรับ Nida "การต่อสู้ของแม่น้ำสี่สาย" โดดเด่นด้วยความเพียรมากและการสูญเสียที่สำคัญทั้งสองด้าน ความเสียหายของกองทัพรัสเซียมีจำนวน 200,000 คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้รับผลกระทบจากบุคลากรของเธอซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากผลลัพธ์ที่น่าเศร้าของการรณรงค์ 1915 การสูญเสียกองทัพเยอรมันที่ 9 เกินกว่า 100,000 คน

แคมเปญ 1914 โรงละครทหารคอเคเซียน

รัฐบาลที่ดีที่สุดในอิสตันบูล (ซึ่งเข้ามามีอำนาจในตุรกีในปี 2451) ไม่รอให้รัสเซียลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปในการเผชิญหน้ากับเยอรมนีและในปี 2457 เขาเข้าสู่สงคราม ทหารตุรกีที่ไม่มีการฝึกอบรมอย่างจริงจังย้ายไปสู่การรุกรานอย่างเด็ดขาดในทิศทางของคอเคซัสเพื่อขับไล่โลกที่หายไปในช่วงสงครามรัสเซีย - ตุรกี 2420-2321 เขาเป็นหัวหน้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการทหารของกองทัพตุรกี 90,000 คน Enver Pasha ทหารเหล่านี้ถูกต่อต้านส่วนหนึ่งของกองทัพคอเคเซียน 63,000 คนภายใต้คำสั่งทั่วไปของผู้ว่าราชการใน Caucasus General Vorontsova-Dashkova (ได้รับคำสั่งให้ทหารทั่วไป A.z.myslaevsky) กิจกรรมกลางของแคมเปญ 1914 ในโรงละครแห่งสงครามนี้คือการดำเนินงาน Sarykamysh

ปฏิบัติการ SaryKamysh (2457-2458). มันเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2457 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2458 ผู้บัญชาการตุรกีได้วางแผนที่จะล้อมรอบและทำลาย Sarykamysh Detachment of the Caucasian Army (General Berkhman) จากนั้นมาสเตอร์ Kars การขว้างส่วนขั้นสูงของรัสเซีย (OLTA Detachment), เติร์กในวันที่ 12 ธันวาคมถึงน้ำค้างแข็งที่โหดร้ายมาถึงแนวทางของ Sarykamusha มีเพียงไม่กี่หน่วย (สูงสุด 1 กองพัน) สำนักงานใหญ่ของพนักงานทั่วไปของเจ้าหน้าที่ทั่วไปนำโดยเนื้อเรื่องของพนักงานทั่วไปพวกเขาสะท้อนการโจมตีครั้งแรกของกองพลที่ตุรกีทั้งหมด วันที่ 14 ธันวาคมการเสริมกำลังมาถึงผู้พิทักษ์ของ Sarykamysh และการป้องกันของเขาก็นำโดย General Przhevalsky ฉันไม่ได้จัดการที่จะใช้ SaryKamysh กรณีตุรกีในภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะหายไปเพียงแช่แข็ง 10,000 คน เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมชาวรัสเซียเปลี่ยนไปเป็นปฏิรูปและทิ้งพวกเติร์กจาก Sarykamysh จากนั้น Enver Pasha ได้รับความเดือดร้อนจากการระเบิดหลักของ Karaudan ซึ่งได้รับการปกป้องจากส่วนของ General Berkhman แต่ที่นี่ความดุร้ายบนเติร์กสะท้อนให้เห็น ในขณะเดียวกันกองทหารรัสเซียที่อยู่ภายใต้ Sarykamysh เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมล้อมรอบกองกำลังตุรกีที่ 9 อย่างสมบูรณ์ ในวันที่ 25 ธันวาคมผู้บัญชาการของกองทัพคอเคเซียนกลายเป็นนายพลยูดนิชผู้ให้คำสั่งให้เริ่มตอบโต้และภายใต้ Karaudan การขว้างปาภายในวันที่ 5 มกราคม 2458 ซากของกองทัพที่ 3 เป็นเวลา 30-40 กม. รัสเซียหยุดการประหัตประหารซึ่งดำเนินการในสเตรน 20 องศา กองกำลังของ Enver-Pasha หายไปฆ่าแช่แข็งบาดเจ็บและเชลย 78,000 คน (มากกว่า 80% ขององค์ประกอบ) การสูญเสียของรัสเซียมีจำนวน 26,000 คน (ฆ่า, บาดเจ็บ, frostbed) ชัยชนะใกล้ SaryTamysh หยุดรุกรานของตุรกีใน Transcaucasus และเสริมสร้างตำแหน่งของกองทัพคอเคเซียน

แคมเปญ 1914 สงครามแห่งทะเล

ในช่วงเวลานี้การกระทำหลักที่เปิดอยู่บนทะเลดำที่ตุรกีเริ่มสงครามจากการปอกเปลือกของพอร์ตรัสเซีย (โอเดสซาเซวาสโทพอล, Feodosia) อย่างไรก็ตามในไม่ช้ากิจกรรมของกองยานตุรกี (พื้นฐานซึ่งเป็นเรือลาดตระเวนเชิงเส้นของเยอรมัน "GHEBEN") ถูกระงับโดยกองทัพเรือรัสเซีย

ต่อสู้ที่ Cape Sarych 5 พฤศจิกายน 2457 เรือลาดตระเวนเชิงเส้นของเยอรมัน "GHEBEN" ภายใต้คำสั่งของ Susp-Admiral Sushon โจมตีฝูงบินรัสเซียห้าชุดจาก Cara Sarych ในความเป็นจริงการต่อสู้ทั้งหมดถูกเก็บไว้บนปืนใหญ่ต่อสู้ระหว่าง "Geeben" และ Russian Head Linkor "Eust Afius" ขอบคุณ metagome ของเจ้าหน้าที่ปืนใหญ่รัสเซีย "GHEBEN" ได้รับ 14 เพลงฮิตที่แม่นยำ บนเรือลาดตระเวนของเยอรมันไฟที่เกิดขึ้นและ Sushhon โดยไม่ต้องรอเรือรัสเซียส่วนที่เหลือให้คำสั่งให้ถอยกลับไปยังคอนสแตนติโนเปิล (ที่นั่น "GHEBEN" ได้รับการซ่อมแซมจนถึงเดือนธันวาคมและจากนั้นก็ส่งผ่านไปยังทะเลระเบิด ในเหมืองและซ่อมแซมอีกครั้ง) "Eustafium" ได้รับการโจมตีที่แม่นยำเพียง 4 ครั้งและออกจากการต่อสู้โดยไม่เกิดความเสียหายร้ายแรง การต่อสู้ของ Cape Sarych กลายเป็นจุดเปลี่ยนในการต่อสู้เพื่อการครอบงำบนทะเลดำ การตรวจสอบในการต่อสู้นี้ป้อมปราการของชายแดนทะเลดำของรัสเซียกองเรือตุรกีหยุดการกระทำที่กระตือรือร้นจากชายฝั่งรัสเซีย กองทัพเรือรัสเซียในทางตรงกันข้ามค่อยๆยึดความคิดริเริ่มในการสื่อสารทางทะเล

แคมเปญ 1915 West Front

ในช่วงต้นปี 2458 กองทหารรัสเซียยังคงอยู่ใกล้ชายแดนเยอรมันและในกาลิเซียออสเตรีย แคมเปญ 1914 ไม่ได้นำผลลัพธ์ที่เด็ดขาด ผลลัพธ์หลักคือความพินาศของแผนเยอรมันของ Schliffene "หากไม่มีผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจากรัสเซียในปี 1914" นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวในภายหลัง "กองทหารเยอรมันจะไม่เพียง แต่จับปารีสเท่านั้น แต่ Garrisons ของพวกเขาจะอยู่ในช่วงเวลานี้ในเบลเยียมและฝรั่งเศส" ในปี 1915 คำสั่งของรัสเซียวางแผนที่จะดำเนินการที่น่ารังเกียจต่อขำขัน สิ่งนี้บอกเป็นนัยถึงอาชีพของปรัสเซียตะวันออกและการบุกรุกของธรรมดาชาวฮังการีผ่านคาร์พาเทียน อย่างไรก็ตามสำหรับการล่วงละเมิดพร้อมกันชาวรัสเซียยังไม่เพียงพอและมีความหมาย ในการดำเนินงานทางทหารที่ใช้งานอยู่ในปี 1914 ในสาขาโปแลนด์กาลิเซียและปรัสเซียตะวันออกกองทัพรัสเซียกองทัพดังขึ้น การลดลงของเธอต้องกรอกข้อมูลเนื่องจากอะไหล่ที่ผ่านการฝึกอบรมไม่เพียงพอ "จากเวลานั้น" นายพลก. บรูซิลฟกล่าว - ลักษณะปกติของกองทหารก็หายไปและกองทัพของเราก็ยิ่งมากขึ้นเหมือนกองทัพทหารอาสาที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างไม่ดี " ปัญหาที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือวิกฤตอาวุธไม่ทางใดก็ทางหนึ่งหรือลักษณะอื่นของทุกประเทศของการต่อสู้ ปรากฎว่าการบริโภคกระสุนนั้นสูงกว่าการคำนวณสิบเท่า รัสเซียที่มีอุตสาหกรรมที่พัฒนาไม่เพียงพอปัญหานี้ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรงงานในประเทศสามารถตอบสนองความต้องการของกองทัพได้เพียง 15-30% เท่านั้น มันต้องเผชิญอย่างชัดเจนกับงานของการปรับโครงสร้างอย่างเร่งด่วนของอุตสาหกรรมทั้งหมดในทางทหาร ในรัสเซียกระบวนการนี้ล่าช้าจนกระทั่งสิ้นสุดฤดูร้อนปี 2458 การขาดอาวุธถูกทำให้รุนแรงขึ้นจากการจัดหาที่ไม่ดี ดังนั้นในปีใหม่กองกำลังกองทัพรัสเซียเข้ามาด้วยการขาดอาวุธและทหารบุคลากร วิธีที่ร้ายแรงนี้มีอิทธิพลต่อการรณรงค์ของปี 1915 ผลการต่อสู้ในภาคตะวันออกบังคับให้ชาวเยอรมันในรากเพื่อแก้ไขแผน Schriffen

ปัจจุบันเป็นผู้นำของคู่แข่งหลักของเยอรมันตอนนี้เชื่อว่ารัสเซีย กองทหารของเธออยู่ใกล้กับเบอร์ลิน 1.5 เท่ากว่ากองทัพฝรั่งเศส ในขณะเดียวกันพวกเขาขู่ว่าจะไปที่ธรรมดาของฮังการีและเอาชนะออสเตรีย - ฮังการี กลัวสงครามที่ยืดเยื้อในสองมุมมองชาวเยอรมันตัดสินใจที่จะออกจากกองกำลังพื้นฐานไปทางทิศตะวันออกจนจบด้วยรัสเซีย นอกเหนือจากบุคลากรและวัสดุที่อ่อนตัวลงของกองทัพรัสเซียงานนี้อำนวยความสะดวกจากความเป็นไปได้ของการเป็นผู้นำในตะวันออกสงครามที่คล่องแคล่ว (ทางตะวันตกในเวลานั้นมีตำแหน่งอย่างต่อเนื่องของด้านหน้าด้วยระบบเสริมสร้างความเข้มแข็งที่ทรงพลังแล้ว ความก้าวหน้าของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อขนาดใหญ่) นอกจากนี้การยึดของเขตอุตสาหกรรมโปแลนด์ทำให้เยอรมนีเป็นแหล่งทรัพยากรเพิ่มเติม หลังจากที่ Frontiska ที่ไม่ประสบความสำเร็จในโปแลนด์คำสั่งของเยอรมันผ่านไปสู่แผนของการนัดหยุดงานของ Flank เขาประกอบไปด้วยความคุ้มครองอย่างลึกซึ้งจากภาคเหนือ (จากปรัสเซียตะวันออก) ของปีกขวาของกองทัพรัสเซียในโปแลนด์ ในทำนองเดียวกันกองทัพออสเตรีย - ฮังการีนำมาจากภาคใต้ (จากเขตของคาร์พาเทียน) เป้าหมายสูงสุดของ "ยุทธศาสตร์ Canns" เหล่านี้คือการเป็นสภาพแวดล้อมของกองทัพรัสเซียในถุงโปแลนด์

การต่อสู้ Carpathian (1915). เธอกลายเป็นความพยายามครั้งแรกในการดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ที่จะดำเนินการโดยทั้งสองฝ่าย กองกำลังของด้านหน้าทางตะวันตกเฉียงใต้ (นายพล Ivanov) พยายามที่จะบุกทะลุผ่านคาร์พาเทียนที่ราบฮังการีและเอาชนะออสเตรีย - ฮังการี ในทางกลับกันคำสั่ง Austro-German ยังมีแผนที่ไม่เหมาะสมในคาร์พาเทียน มันทำให้งานแตกสลายจากที่นี่เพื่อกดและทำให้รัสเซียออกจากกาลิเซีย ในแง่ยุทธศาสตร์ความก้าวหน้าของกองทัพออสเตรีย - เยอรมันในคาร์พาเทียนพร้อมกับ Natius of Germans จาก East Prussia มุ่งเป้าไปที่สภาพแวดล้อมของกองทัพรัสเซียในโปแลนด์ การต่อสู้ในคาร์พาเทียนเริ่มในวันที่ 7 มกราคมการโจมตีของกองทัพออสเตรีย - เยอรมันเกือบพร้อมกันและกองทัพรัสเซีย 8th (นายพลบรูลิฟ) การต่อสู้ที่กำลังจะมาถึงชื่อของ "สงครามยาง" ทั้งคู่ที่ให้กันและกันซึ่งกันและกันต้องเข้าไปลึกเข้าไปในคาร์พาเทียนแล้วเลื่อนกลับ การต่อสู้ในภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะนั้นโดดเด่นด้วยความเพียรอย่างมาก ทหารออสเตรีย - เยอรมันสามารถกดปีกซ้ายของกองทัพที่ 8 ได้ แต่พวกเขาไม่สามารถบุกเข้าไปในขนมได้ มีการเสริมกำลัง Brusilov สะท้อนให้เห็นถึงความไม่พอใจของพวกเขา "วงศิษิตที่ตำแหน่งภูเขา" เขาจำได้ว่า "ฉันคำนับวีรบุรุษเหล่านี้ที่ถ่ายโอนความรุนแรงที่น่ากลัวของสงครามฤดูหนาวของภูเขาภายใต้อาวุธไม่เพียงพอมีศัตรูที่น่ากลัว" ความสำเร็จบางส่วนสามารถบรรลุเพียงกองทัพออสเตรียที่ 7 เท่านั้น (General Pfalzer Baltin) ซึ่งนำ Chernivtsi ในตอนต้นของเดือนมีนาคม 2458 หน้าทิศตะวันตกเฉียงใต้เปลี่ยนไปใช้ความไม่พอใจโดยรวมภายใต้เงื่อนไขของฤดูใบไม้ผลิ Rasputle การปีนวงกลมคาร์พาเทียนและเอาชนะความต้านทานที่ดุเดือดของศัตรูกองทัพรัสเซียก้าวไปถึง 20-25 กม. และเชี่ยวชาญในส่วนของการผ่าน เพื่อสะท้อนการโจมตีของพวกเขาคำสั่งของเยอรมันถ่ายโอนกองกำลังใหม่เข้าสู่พื้นที่นี้ อัตราของรัสเซียเนื่องจากการต่อสู้อย่างหนักในทิศทางที่สวยงามไม่สามารถให้ทิศตะวันตกเฉียงใต้กับทุนสำรองที่จำเป็น การต่อสู้ด้านหน้าของเลือดในคาร์พาเทียนยังคงดำเนินต่อไปจนถึงเดือนเมษายน พวกเขาเสียค่าใช้จ่ายผู้ที่ตกเป็นเหยื่อรายใหญ่ แต่ไม่ได้ประสบความสำเร็จอย่างเด็ดขาดต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง รัสเซียสูญเสียคนประมาณ 1 ล้านคนในการต่อสู้คาร์พาเทียนออสเตรียและเยอรมัน - 800,000 คน

การดำเนินงานเดือนสิงหาคมที่สอง (1915). ไม่นานหลังจากการเริ่มต้นของการต่อสู้คาร์พาเทียนการต่อสู้ที่ดุเดือดก็เกิดขึ้นและบนปีกเหนือของหน้ารัสเซีย - เยอรมัน ในวันที่ 25 มกราคม 1915 จากปรัสเซียตะวันออกที่ 8 (นายพลฟอนเบลฟ) และ 10 (นายพลไอคอร์น) ถูกเปลี่ยนจากปรัสเซียตะวันออก การระเบิดหลักของพวกเขาตกลงไปในพื้นที่ของเมืองโปแลนด์แห่งออกุสโตสซึ่งเป็นกองทัพรัสเซียที่ 10 (นายพล Siver) ตั้งอยู่ การสร้างความเหนือกว่าเชิงตัวเลขในทิศทางนี้ชาวเยอรมันโจมตีปีกของกองทัพบกและพยายามล้อมรอบ ในขั้นตอนที่สองความก้าวหน้าของด้านหน้าทิศตะวันตกเฉียงเหนือทั้งหมดถูกมองเห็น แต่เนื่องจากความต้านทานของทหารของกองทัพที่ 10 เขาจึงล้มเหลวในการทำเครื่องหมายอย่างสมบูรณ์ เฉพาะกองพลที่ 20 ของ General Bulgakov เข้าสู่สภาพแวดล้อม ภายใน 10 วันเขาบริจาคการโจมตีของยูนิตเยอรมันในป่าสิงหาคมที่ปกคลุมไปด้วยหิมะเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาก้าวร้าว มีการบริโภคกระสุนทั้งหมดซากศพของร่างกายในแรงกระตุ้นที่หมดหวังที่โจมตีตำแหน่งเยอรมันด้วยความหวังที่จะทำลายตัวเอง มีพลิกคว่ำทหารราบชาวเยอรมันในการต่อสู้ด้วยมือทหารรัสเซียของวีรชนเสียชีวิตภายใต้ไฟของปืนเยอรมัน "ความพยายามที่จะฝ่าฝืนนั้นเป็นความบ้าคลั่งที่สุด แต่ความบ้าคลั่งศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นความกล้าหาญซึ่งแสดงให้เห็นว่านักรบรัสเซียในแสงเต็มซึ่งเรารู้จากเวลาของ Skobelev เวลาที่ทำร้ายท่าเรือการต่อสู้ในคอเคซัสและ การโจมตีของวอร์ซอว์! ทหารรัสเซียรู้วิธีการต่อสู้ได้ดีมากเขาถ่ายโอนการกีดกันทุกชนิดและสามารถทนได้แม้ว่าจะหลีกเลี่ยงไม่ได้และความตายที่ถูกต้อง! "ฉันเขียนในสมัยนั้นผู้สื่อข่าวทหารเยอรมัน R. แบรนด์ ด้วยความต้านทานความกล้าหาญนี้กองทัพที่ 10 จึงสามารถนำกองกำลังส่วนใหญ่ของเขามาจากกลางกำลังของเขาและทำการป้องกันในสาย Coveno-Osovets ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือต่อต้านแล้วจัดการเพื่อเรียกคืนตำแหน่งที่หายไปบางส่วน

การดำเนินงานของ Prasnysh (1915). เกือบเต็มไปด้วยการต่อสู้และบนพล็อตอื่นของชายแดน EastOprug ซึ่งกองทัพรัสเซียที่ 12 ยืนอยู่ (General Plevie) เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์มันถูกโจมตีโดยส่วนหนึ่งของกองทัพเยอรมันที่ 8 ในพื้นที่ Prachnya (โปแลนด์) (General von Belov) เมืองปกป้องทีมภายใต้การบังคับบัญชาของพันเอก Barybin ซึ่งเป็นเวลาหลายวัน Heroic สะท้อนการโจมตีของกองกำลังเยอรมันที่เหนือกว่า 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2458 แพศยาลดลง แต่การป้องกันอย่างต่อเนื่องของเขาให้เวลากับรัสเซียเพื่อกระชับเงินสำรองที่จำเป็นที่กำลังเตรียมตามแผนการที่ไม่เหมาะสมของรัสเซียในปรัสเซียตะวันออก เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์คณะไซบีเรียที่ 1 ของ General Pleshkov ซึ่งโจมตีชาวเยอรมันได้มาถึง Prasnosha ในการต่อสู้ในช่วงฤดูหนาวสองวันของไซบีเรียส์ข้อต่อของเฮอร์มันน์เอาชนะศีรษะและเคาะพวกเขาออกจากเมือง ในไม่ช้ากองทัพที่ 12 ทั้งหมดเติมเต็มด้วยเงินสำรองถูกไขว้กันโดยเงินสำรองซึ่งหลังจากการต่อสู้ที่ดื้อรั้นโยนชาวเยอรมันไปยังชายแดนปรัสเซียตะวันออก ในระหว่างนี้เขาย้ายไปที่กองทัพที่น่ารังเกียจและ 10 ซึ่งล้างป่าสิงหาคมจากชาวเยอรมัน ด้านหน้าได้รับการฟื้นฟู แต่กองทัพรัสเซียมากขึ้นไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ชาวเยอรมันสูญเสียคนประมาณ 40,000 คนในการต่อสู้ครั้งนี้รัสเซีย - ประมาณ 100,000 คน การต่อสู้แบบเคาน์เตอร์ที่ขอบเขตของปรัสเซียตะวันออกและในคาร์พาเทียนถูกเนรเทศขอสงวนของกองทัพรัสเซียในวันหยุดของการประท้วงที่น่ากลัวซึ่งกำลังเตรียมตัวสำหรับการสั่งซื้อ Austro-German ของเธอแล้ว

Gorlitsky Breakthrough (1915). จุดเริ่มต้นของการล่าถอยที่ยอดเยี่ยม ฉันไม่สามารถกดกองทัพรัสเซียได้ที่ขอบเขตของปรัสเซียตะวันออกและในคาร์พาเทียนคำสั่งของเยอรมันตัดสินใจที่จะตระหนักถึงการพัฒนาเวอร์ชั่นที่สาม เขาสันนิษฐานว่าจะดำเนินการระหว่าง Vistula และ Carpathians ในพื้นที่ของกอร์ลิซ ในเวลานั้นมากกว่าครึ่งหนึ่งของกองกำลังติดอาวุธของ Bloc ออสเตรีย - เยอรมันมุ่งเน้นไปที่รัสเซีย ที่ส่วน 35 กิโลเมตรของการพัฒนากลุ่มฝังศพถูกสร้างขึ้นภายใต้คำสั่งของ General Makerzen เธอเกินกองทัพรัสเซียที่ 3 ยืนอยู่ที่พล็อตนี้ (General Radko-Dmitriev): ความแข็งแกร่งสด - 2 ครั้งในปืนใหญ่แสง - 3 ครั้งในปืนใหญ่หนัก - 40 ครั้งในปืนกล - 2.5 ครั้ง เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2458 กลุ่ม Paenzen (126,000 คน) ผ่านการรุกราน คำสั่งของรัสเซียรู้ถึงการเพิ่มขึ้นของกองกำลังในพื้นที่นี้ไม่ได้ให้เป็นหนึ่งในเวลาที่เหมาะสม การเสริมกำลังขนาดใหญ่ถูกส่งที่นี่ด้วยความล่าช้าซึ่งนำไปสู่การต่อสู้ในชิ้นส่วนและแต่งกายอย่างรวดเร็วในการต่อสู้กับกองกำลังศัตรูที่เหนือกว่า การพัฒนา Gorlitsky เปิดเผยปัญหาการขาดกระสุนโดยเฉพาะกระสุน ความเหนือกว่าที่เหนือกว่าในปืนใหญ่หนักเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักสำหรับความสำเร็จที่ใหญ่ที่สุดของชาวเยอรมันในหน้ารัสเซีย "สิบเอ็ดวันของการฉวัดเฉวียนที่น่ากลัวของปืนใหญ่หนักของเยอรมันทำให้เกิดการขัดจังหวะทั้งชุดพร้อมกับกองหลังของพวกเขา - เรียกคืนผู้เข้าร่วมของเหตุการณ์เหล่านั้นทั่วไป AI Denikin - เราแทบไม่ได้ตอบ - ไม่มีอะไรชั้นวางของหมดแล้ว ปริญญาล่าสุดเอาชนะการโจมตีหนึ่งครั้ง - ดาบปลายปืนหรือการยิงในโฟกัสเลือดไหลเวียนของเรดนีย์เพิ่มหลุมฝังศพ ... ชั้นสองเกือบจะถูกทำลายด้วยไฟเดียว "

การพัฒนา Gorlitsky สร้างภัยคุกคามต่อสภาพแวดล้อมของกองทหารรัสเซียในคาร์พาเทียนกองทหารของด้านหน้าตะวันตกเฉียงใต้เริ่มขยะที่แพร่หลาย ภายในวันที่ 22 มิถุนายนสูญเสียคน 500,000 คนพวกเขาออกจากกาลิเซียทั้งหมด ด้วยความต้านทานความกล้าหาญของทหารและเจ้าหน้าที่รัสเซียกลุ่ม PaEnzen ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็ว โดยทั่วไปแล้วความก้าวร้าวของเธอเมาไปที่ "การละลาย" ของหน้ารัสเซีย เขาย้ายไปอยู่ทางทิศตะวันออกอย่างจริงจัง แต่ไม่ได้บดขยี้ อย่างไรก็ตามการพัฒนา Gorlitsky และการก้าวร้าวของชาวเยอรมันจากปรัสเซียตะวันออกสร้างภัยคุกคามต่อสิ่งแวดล้อมของกองทัพรัสเซียในโปแลนด์ มันเริ่มต้นขึ้น การพูดนอกเรื่องที่ยิ่งใหญ่ในช่วงที่กองทัพรัสเซียในฤดูใบไม้ผลิ - ในช่วงฤดูร้อนปี 2458 ออกจากกาลิเซียลิทัวเนียโปแลนด์ ในขณะเดียวกันพันธมิตรของรัสเซียมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างการป้องกันของพวกเขาและไม่ได้เกือบจะไม่ต้องเสียสมาธิอย่างจริงจังจากการโจมตีในภาคตะวันออก คู่มือยูเนี่ยนใช้การพักผ่อนที่ปล่อยออกมาให้เขาเพื่อระดมเศรษฐกิจเพื่อความต้องการของสงคราม "เรา" Lloyd George สารภาพในภายหลัง "รัสเซียให้โชคชะตาของเธอ"

Prasnysh และ Naren Battles (1915). หลังจากสำเร็จความสำเร็จของการพัฒนา Gorlitsky คำสั่งของเยอรมันเริ่มตอบสนองการกระทำที่สองของ "Cannn เชิงกลยุทธ์" ของมันและตีจากทิศเหนือจากตะวันออกปรัสเซียนตามตำแหน่งของด้านหน้าทิศตะวันตกเฉียงเหนือ (Alekseev) เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2458 กองทัพเยอรมันที่ 12 (General Galvitz) ผ่านไปในพื้นที่ Prasnysh เธอถูกคัดค้านที่นี่ที่ 1 (General Litvinov) และกองทัพรัสเซียที่ 12 (General Churin) ทหารเยอรมันมีความเหนือกว่าในจำนวนบุคลากร (177,000 คนเทียบกับ 141,000 คน) และอาวุธ ความสำคัญอย่างยิ่งคือความได้เปรียบในปืนใหญ่ (1256 กับปืน 377 ครั้ง) หลังจากไฟไหม้พายุเฮอริเคนและการโจมตีที่ทรงพลังส่วนของเยอรมันเชี่ยวชาญแถบป้องกันหลัก แต่สายการพัฒนาที่คาดหวังของด้านหน้าและยิ่งไปกว่านั้นดังนั้นความพ่ายแพ้ของกองทัพที่ 1 และ 12 จึงไม่สามารถทำได้ รัสเซียเป็นคนดื้อรั้นทุกที่ย้ายไปรับการตอบโต้ในพื้นที่ที่ถูกคุกคาม เป็นเวลา 6 วันของการต่อสู้อย่างต่อเนื่องทหารกัลเวียสามารถเคลื่อนย้ายได้ 30-35 กม. โดยไม่เอื้อมถึงแม้แต่แม่น้ำนาเรฟชาวเยอรมันก็หยุดรุก คำสั่งของเยอรมันเริ่มที่จะจัดกลุ่มกองกำลังและดึงเงินสำรองสำหรับการนัดหยุดงานใหม่ ในการต่อสู้ Prasnysh ชาวรัสเซียสูญเสียคนประมาณ 40,000 คนชาวเยอรมันอยู่ที่ประมาณ 10,000 คน ความต้านทานของนักรบของกองทัพที่ 1 และ 12 ทำลายแผนเยอรมันสำหรับสิ่งแวดล้อมของกองทัพรัสเซียในโปแลนด์ แต่อันตรายที่แขวนจากภาคเหนือเหนือพื้นที่ของวอร์ซอว์บังคับให้คำสั่งของรัสเซียเริ่มการกำจัดกองทัพของพวกเขาสำหรับ Vistula

มีการขันทุนสำรองอย่างเข้มงวดชาวเยอรมันถูกเปลี่ยนไปกับความไม่พอใจอีกครั้ง การดำเนินการเข้าร่วม 12th (General Galvitz) และกองทัพเยอรมันที่ 8 (General Scholz) Natisk เยอรมันที่ 140 กิโลเมตร Nevic Front จัดขึ้นในกองทัพที่ 1 และ 12 เดียวกัน มีความเหนือกว่าเกือบสองเท่าในความแข็งแกร่งที่มีชีวิตชีวาและห้าเท่าในปืนใหญ่ชาวเยอรมันพยายามที่จะบุกทะลุชายแดนของ Namenev อย่างต่อเนื่อง พวกเขาพยายามที่จะบังคับให้แม่น้ำในหลาย ๆ แห่ง แต่ภาษารัสเซียโดยการตอบโต้ที่รุนแรงจนกระทั่งต้นเดือนสิงหาคมไม่ได้รับอนุญาตให้ขยายสะพาน บทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งถูกเล่นโดยการป้องกันของป้อมปราการ Osovo ซึ่งครอบคลุมปีกขวาของกองทัพรัสเซียในการต่อสู้เหล่านี้ ความทนทานของผู้พิทักษ์ของเธอไม่อนุญาตให้ชาวเยอรมันเข้าไปในกองทัพรัสเซียที่ได้รับการปกป้องวอร์ซอว์ ในขณะเดียวกันกองทหารรัสเซียก็สามารถอพยพออกจากพื้นที่วอร์ซอว์ได้อย่างง่ายดาย รัสเซียเสีย 150,000 คนในการต่อสู้ Narev ชาวเยอรมันยังได้รับความเสียหายอย่างมาก หลังจากการต่อสู้กรกฎาคมพวกเขาไม่สามารถก้าวร้าวต่อไปได้ ความต้านทานต่อความเป็นวีรบุรุษของกองทัพรัสเซียใน Prasnysk และการต่อสู้ของนาร์เวียนได้รับความรอดจากกองทหารรัสเซียในโปแลนด์จากสภาพแวดล้อมและผลลัพธ์ของการรณรงค์ของปี 1915 ตัดสินใจในระดับหนึ่ง

Vilensky Battle (1915). เสร็จสิ้นของแผนกที่ยิ่งใหญ่ ในเดือนสิงหาคมผู้บัญชาการของนายพลทางตะวันตกเฉียงเหนือของ Mikhail Alekseev วางแผนที่จะนำมาใช้จากภูมิภาค Kovnas (ตอนนี้ Kaunas) แปลนเป็นสัดส่วนในกองทัพเยอรมันที่กำลังจะมาถึง แต่ชาวเยอรมันปกป้องการซ้อมรบนี้และในตอนท้ายของเดือนกรกฎาคมพวกเขาโจมตีตำแหน่งทรงกลมโดยกองทัพเยอรมันที่ 10 (นายพลฟอน Eikhorn) หลังจากผ่านไปหลายวันของการโจมตี Kovno Grigoriev ผู้บัญชาการได้แสดงให้เห็นถึงปัญหาและ 5 สิงหาคมผ่านป้อมปราการไปยังเยอรมัน (ในภายหลังเขาถูกตัดสินจำคุก 15 ปีในคุก) การล่มสลายของ Coveno แย่ลงสำหรับสถานการณ์เชิงกลยุทธ์ของรัสเซียในลิทัวเนียและนำไปสู่การเบี่ยงเบนของปีกขวาของกองทหารของภาคเหนือทางตะวันตกสำหรับ Nizhny Neman Mastering Coveno ชาวเยอรมันพยายามที่จะล้อมรอบกองทัพรัสเซียที่ 10 (General Rajkevich) แต่ในการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมการต่อสู้ที่น่ารังเกียจของเยอรมันที่น่ารังเกียจ จากนั้นชาวเยอรมันมุ่งเน้นไปที่การจัดกลุ่มที่ทรงพลังในพื้นที่ Svlenhayan (ทางตอนเหนือของไวน์) และวันที่ 27 สิงหาคมมีการระเบิดของ Molodechno พยายามที่จะไปถึงด้านหลังของกองทัพที่ 10 จากภาคเหนือและจับมินสค์ เนื่องจากภัยคุกคามต่อสิ่งแวดล้อมชาวรัสเซียจึงต้องออกจากไวน์ อย่างไรก็ตามชาวเยอรมันล้มเหลวในการพัฒนาความสำเร็จ เส้นทางของพวกเขาถูกบล็อกตรงเวลากองทัพที่ 2 (General Smirnov) ซึ่งเป็นเกียรติของการเสร็จสิ้นเพื่อหยุดยุกของเยอรมัน อย่างเด็ดขาดโจมตีชาวเยอรมันจาก Molodechno เธอเอาชนะพวกเขาและบังคับให้พวกเขาถอยกลับไปที่ Svlenzians เมื่อวันที่ 19 กันยายนความก้าวหน้าของ Svenzyan ถูกชำระบัญชีและด้านหน้าในพื้นที่นี้มีเสถียรภาพ การต่อสู้ของ Vilen จบลงโดยทั่วไปแล้วการล่าถอยที่ยิ่งใหญ่ของกองทัพรัสเซีย กองกำลังก้าวร้าวที่เหนื่อยล้าชาวเยอรมันไปทางทิศตะวันออกเพื่อป้องกันตำแหน่ง แผนการของเยอรมันสำหรับความพ่ายแพ้ของกองกำลังติดอาวุธของรัสเซียและทางออกจากสงครามล้มเหลว ต้องขอบคุณความกล้าหาญของนักรบของเขาและการประปาที่มีทักษะกองทัพรัสเซียหลีกเลี่ยงสิ่งแวดล้อม "รัสเซียหนีออกจากเห็บและประสบความสำเร็จในการเสียดสีในทิศทางที่ดีสำหรับพวกเขา" หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทั่วไปของชาวเยอรมันของ Feldmarshal Paul Von Hindenburg ถูกบังคับให้รัฐ ด้านหน้ามีความเสถียรบน Riga Line - Baranovichi - Ternopil ที่นี่สามด้านหน้าถูกสร้างขึ้น: เหนือตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ จากที่นี่ชาวรัสเซียไม่ได้ถอยกลับไปสู่การล่มสลายของพระมหากษัตริย์ ในระหว่างการออกเดินทางครั้งใหญ่รัสเซียประสบการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับสงคราม - 2.5 ล้านคน (ฆ่าบาดเจ็บและเชลย) ความเสียหายของเยอรมนีและออสเตรีย - ฮังการีเกิน 1 ล้านคน การล่าถอยแข็งแกร่งถึงวิกฤตการณ์ทางการเมืองในรัสเซีย

แคมเปญ 1315 โรงละครคอเคเซียนของการกระทำทางทหาร

จุดเริ่มต้นของการพูดนอกเรื่องที่ยิ่งใหญ่ได้รับผลกระทบอย่างจริงจังจากการพัฒนากิจกรรมในหน้ารัสเซีย - ตุรกี ในส่วนนี้ด้วยเหตุนี้การถือครองการดำเนินการเชื่อมโยงไปถึงรัสเซียอันยิ่งใหญ่ของบอสฟอรัสซึ่งวางแผนที่จะสนับสนุนกองกำลังพันธมิตรลงจอดใน Gallipoli ภายใต้อิทธิพลของความสำเร็จของชาวเยอรมันกองทหารตุรกีทวีความรุนแรงมากในหน้าคอเคเชี่ยน

ปฏิบัติการ Alashkert (1915). ในวันที่ 26 มิถุนายน 1915 ในพื้นที่ของ Alashkert (ตุรกีตะวันออก) กองทัพตุรกีที่ 3 (Makhmud Kiamil-Pasha) ผ่านการรุกราน ภายใต้การโจมตีของกองกำลังที่เหนือกว่าของพวกเติร์กกองทหารผิวขาวที่ 4 (Yoganovsky ทั่วไป) เริ่มล่าถอยไปสู่ชายแดนรัสเซีย สิ่งนี้สร้างภัยคุกคามต่อการก้าวหน้าของหน้ารัสเซียทั้งหมด จากนั้นผู้บัญชาการกองทัพของชาวคอเคเซียนนายพลนิโคไลนิโคเกลวิชยูเดียนิชแนะนำทีมภายใต้คำสั่งของนายพลนิโคไลบารัตอฟผู้ตีระเบิดที่แตกหักไปที่ปีกและด้านหลังของกลุ่มตุรกี สภาพแวดล้อมที่เกรงกลัวส่วนต่าง ๆ ของ Mahmoud Kiamil เริ่มต้นการเดินทางไปที่ทะเลสาบแวนใกล้ซึ่งด้านหน้ามีเสถียรภาพในวันที่ 21 กรกฎาคม การผ่าตัด Alashkent ทำลายความหวังของตุรกีเพื่อสกัดกั้นความคิดริเริ่มเชิงกลยุทธ์ที่โรงละครคอเคซัสของการกระทำทางทหาร

การดำเนินงาน Hamadan (1915). 17 ตุลาคม - 3 ธันวาคม 2458 กองทหารรัสเซียได้ดำเนินการที่น่ารังเกียจในอิหร่านตอนเหนือเพื่อควบคุมประสิทธิภาพที่เป็นไปได้ของรัฐนี้ที่ด้านข้างของตุรกีและเยอรมนี สิ่งนี้อำนวยความสะดวกโดยชาวเยอรมัน - ตุรกีซึ่งทวีความรุนแรงมากในเตหะรานหลังจากความล้มเหลวของอังกฤษและฝรั่งเศสในการดำเนินงานของ Dardanelle รวมถึงการล่าถอยที่ยิ่งใหญ่ของกองทัพรัสเซีย การเปิดตัวกองกำลังรัสเซียไปยังอิหร่านและพันธมิตรของอังกฤษที่แสวงหาพวกเขาเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยของทรัพย์สินของพวกเขาในอุตสาหกรรมของตน ในเดือนตุลาคมปี 1915 อาคารของ Nikolai Baratov (8,000 คน) ถูกส่งไปยังอิหร่าน (8,000 คน) ซึ่งใช้เตหะรานได้รับการเสนอชื่อเข้าสู่ Hamadan, รัสเซียพ่ายแพ้การปลดปล่อยของตุรกี - เปอร์เซีย (8,000 คน) และการเลิกกิจการเยอรมัน - ตัวแทนตุรกีในประเทศ ดังนั้นอุปสรรคที่เชื่อถือได้ต่ออิทธิพลของเยอรมัน - ตุรกีในอิหร่านและอัฟกานิสถานถูกสร้างขึ้นและเป็นภัยคุกคามที่เป็นไปได้ที่ปีกซ้ายของกองทัพคอเคเซียนก็ถูกกำจัดออกไป

แคมเปญ 1915 โดยสงครามแห่งทะเล

การกระทำทางทหารในทะเลในปี 1915 ได้รับการพัฒนาโดยรวมสำเร็จสำหรับกองทัพเรือรัสเซีย จากการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดของแคมเปญ 1915 คุณสามารถเน้นเป้าหมายของฝูงบินรัสเซียไปยังบอสฟอรัส (ทะเลดำ) การต่อสู้ Gotlansky และการดำเนินงาน Irbena (ทะเลบอลติก)

ไต่เขาไปที่ Bosphorus (1915). มีการเดินป่าไปที่บอสฟอรัสซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1-6 พฤษภาคม 2458 ได้เข้าร่วมโดยกองเรือทะเลสีดำซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ 5 ลิงก์ 3 เรือลาดตระเวนที่ 9 ของกระทรวงเมสเทอแวน 1 การขนส่งทางอากาศที่มี 5 การขนส่งทางอากาศ เมื่อวันที่ 2-3 พฤษภาคมเรือประจัญบาน "สามเซนต์" และ "Pantelemon" ไปที่บริเวณช่องแคบบอสเสริมสุมยิงป้อมปราการชายฝั่งของเขา เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม Rostislav Linner เปิดไฟบนเขตเสริมของ Iniad (North-West Bosphorus) ซึ่งถูกโจมตีโดย Aircaps จากอากาศ apotheosis ของการรณรงค์ไปยัง Bosporu คือการต่อสู้ในวันที่ 5 พฤษภาคมที่ทางเข้าสู่ช่องแคบระหว่างเรือธงของกองทัพเรือเยอรมัน - ตุรกีบนทะเลดำ - เรือลาดตระเวนเชิงเส้น "Gheben" และผู้เชื่อมต่อรัสเซียสี่คน ในการยิงครั้งนี้เช่นเดียวกับในการต่อสู้ที่ Cape Sarych (1914) The Eustafium Battleship โดดเด่นด้วยตัวเองซึ่งถูกแยกออกจากความแม่นยำสองครั้ง เรือธงของเยอรมัน - ตุรกีหยุดไฟและออกจากการต่อสู้ การเดินทางไปที่บอสฟอรัสนี้เสริมความแข็งแกร่งของกองเรือรัสเซียในการสื่อสารทะเลดำ ในอนาคตเรือดำน้ำเยอรมันได้นำเสนออันตรายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับกองเรือทะเลดำ กิจกรรมของพวกเขาไม่อนุญาตให้เรือรัสเซียปรากฏจากชายฝั่งตุรกีจนถึงสิ้นเดือนกันยายน ด้วยการเข้าสู่สงครามบัลแกเรียโซนของการกระทำของกองเรือทะเลสีดำขยายครอบคลุมเขตหลักใหม่ในภาคตะวันตกของทะเล

Gotland Fight (1915). การต่อสู้ทางทะเลนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2458 ในทะเลบอลติกที่เกาะสวีเดนโกสแลนด์ระหว่างกองพลน้อยที่ 1 ของเรือลาดตระเวนรัสเซีย (เรือลาดตระเวน 5 แห่งเรือพิฆาต 9 คน) ภายใต้คำสั่งของเคาน์เตอร์ - พลเรือเอกของ Bakhiyrev และการปลดปล่อยเรือเยอรมัน ( เรือลาดตระเวน 3 ลำเรือพิฆาต 7 ลำและอุปสรรค 1 คน) การต่อสู้เป็นลักษณะของการดวลปืนใหญ่ ในระหว่างการยิงชาวเยอรมันสูญเสียการทำเหมืองบาร์ "อัลบาทรอส" เขาได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงและเปลวไฟที่ใช้ร่วมกันเปลวไฟถูกโยนเข้าไปในชายฝั่งสวีเดน ทีมของเขาถูกแทรกแซง จากนั้นการต่อสู้ที่ล่องเรือเกิดขึ้น มันเกี่ยวข้องกับด้านเยอรมันของเรือลาดตระเวน "Roon" และ "Lubeck" จากรัสเซีย - Cruiser "Bayan", "Oleg" และ "Rurik" หลังจากได้รับความเสียหายเรือเยอรมันก็หยุดไฟและออกจากการต่อสู้ การต่อสู้ Grotala มีความสำคัญในเรื่องนี้เป็นครั้งแรกในกองทัพเรือรัสเซียสำหรับการบำรุงรักษาไฟวิทยุให้บริการวิทยุ

การดำเนินงาน Irbenskaya (1915). ในระหว่างการโจมตีของกองทัพบกเยอรมันในทิศทางริกาฝูงบินเยอรมันภายใต้คำสั่งของ Admiral Schmidt (7 Batches, 6 Cruisers และ 62 เรืออื่น ๆ ) พยายามที่จะบุกทะลุช่องแคบ Irbensky ในอ่าวริกาเพื่อทำลายในอ่าวริกา พื้นที่ของเรือรัสเซียและการปิดล้อมทะเลริกา ที่นี่ชาวเยอรมันถูกต่อต้านเรือของกองเรือทะเลบอลติกนำโดยผู้ตอบโต้ Bakhiyev (1 เรือรบและเรืออีก 40 ลำ) แม้จะมีความเหนือกว่าอย่างมีนัยสำคัญในกองกำลังเรือกลไฟเยอรมันไม่สามารถทำภารกิจได้เนื่องจากการโจมตีของเหมืองและการกระทำที่ประสบความสำเร็จของเรือรัสเซีย ในระหว่างการผ่าตัด (26 กรกฎาคม - 8 สิงหาคม) เขาสูญเสียเรือ 5 ลำในการต่อสู้ที่ดุเดือด (เรือพิฆาต 2 คน, 3 ถังขยะ) และถูกบังคับให้ล่าถอย รัสเซียสูญเสีย Canoners เก่าสองคน ("Sivuch"\u003e และ "เกาหลี") ความล้มเหลวในการล้มเหลวในการต่อสู้ Gotland และการดำเนินงานของ Irbensk ชาวเยอรมันล้มเหลวในการบรรลุความเป็นเลิศในภาคตะวันออกของทะเลบอลติกและย้ายไปดำเนินการป้องกัน ในอนาคตกิจกรรมที่จริงจังของกองทัพเรือเยอรมันเป็นไปได้เท่านั้นที่นี่ด้วยชัยชนะของกองกำลังที่ดิน

แคมเปญ 1916 West Front

ความล้มเหลวทางทหารบังคับให้รัฐบาลและสังคมระดมทรัพยากรเพื่อปะทุต่อศัตรู ดังนั้นในปี 1915 การมีส่วนร่วมในการป้องกันของอุตสาหกรรมเอกชนกำลังขยายตัวกิจกรรมที่ประสานงานคณะกรรมการอุตสาหกรรมทหาร (MIC) ด้วยการระดมทุนของอุตสาหกรรมบทบัญญัติของด้านหน้าในปี 1916 ได้รับการปรับปรุง ดังนั้นตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2458 ถึงมกราคม 2459 การผลิตปืนไรเฟิลในรัสเซียเพิ่มขึ้น 3 ครั้งปืนประเภทต่าง ๆ - 4-8 ครั้งโหมดต่าง ๆ ของกระสุน - 2.5-5 ครั้ง แม้จะมีการสูญเสียกองกำลังรัสเซียในปี 2458 ขยายตัวเนื่องจากการระดมทุนเพิ่มเติม 1.4 ล้านคน แผนของคำสั่งของเยอรมันสำหรับปี 1916 ที่มีให้สำหรับการเปลี่ยนไปสู่การป้องกันตำแหน่งในภาคตะวันออกซึ่งชาวเยอรมันสร้างระบบการป้องกันที่ทรงพลัง การระเบิดหลักต่อชาวเยอรมันวางแผนที่จะสมัครในกองทัพฝรั่งเศสในพื้นที่ของ Verden ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2459 "เครื่องบดเนื้อ Verden" ที่มีชื่อเสียงถูกบิดเบี้ยวซึ่งบังคับให้ฝรั่งเศสอีกครั้งเพื่อขอความช่วยเหลือจากพันธมิตรตะวันออกของเธอ

การดำเนินงาน narcent (1916). ในการตอบสนองต่อคำขอถาวรเพื่อขอความช่วยเหลือจากฝรั่งเศสคำสั่งของรัสเซียที่จัดขึ้นในวันที่ 5-17 มีนาคม 2459 การโจมตีของกองกำลังตะวันตก (General Evert) และภาคเหนือ (General Kuropatkin) ของด้านหน้าในพื้นที่ของทะเลสาบ Narochi (เบลารุส) และ Jacobstadt (ลัตเวีย) ที่นี่พวกเขาไม่เห็นด้วยกับบางส่วนของกองทัพเยอรมันที่ 8 และ 10 คำสั่งของรัสเซียวางเป้าหมายเพื่อเคาะชาวเยอรมันจากลิทัวเนียเบลารุสและทิ้งพวกเขาไปยังชายแดนปรัสเซียตะวันออก แต่ช่วงเวลาของการล่วงละเมิดจะต้องลดลงอย่างมากเนื่องจากการร้องขอของพันธมิตรเพื่อเร่งให้เขา ตำแหน่งที่ยากภายใต้ Verte เป็นผลให้การดำเนินการดำเนินการโดยไม่มีการฝึกอบรมที่เหมาะสม การระเบิดหลักในพื้นที่ของ Narius ได้ใช้กองทัพที่ 2 (General Ragoza) ภายใน 10 วันเธอพยายามที่จะทำลายป้อมปราการเยอรมันที่ทรงพลัง ความล้มเหลวในการขาดปืนใหญ่หนักและ Rasoller สปริง ค่าใช้จ่ายในการฆ่า Naritional รัสเซีย 20,000 ฆ่าและ 65,000 บาดเจ็บ การก้าวร้าวของกองทัพที่ 5 (Gurny Gurko) จากพื้นที่ Jacobstadt 8-12 มีนาคมเช่นกันในความล้มเหลว ที่นี่การสูญเสียของรัสเซียมีจำนวน 60,000 คน ความเสียหายทั่วไปของชาวเยอรมันมีจำนวน 20,000 คน การดำเนินงานของ Naroral ได้รับประโยชน์ก่อนอื่น Allies ของรัสเซียเนื่องจากชาวเยอรมันไม่สามารถถ่ายโอนจากตะวันออกภายใต้จุดสุดยอดของส่วนเดียว "การล่วงละเมิดของรัสเซีย" นายพล Joffre ชาวฝรั่งเศสเขียนว่า "บังคับชาวเยอรมันที่มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่จะแนะนำการสำรองเหล่านี้ทั้งหมดและนอกจากนี้ดึงดูดกองกำลังเวทีและถ่ายโอนหน่วยงานทั้งหมดที่นำมาจากเว็บไซต์อื่น ๆ " ในทางกลับกันความพ่ายแพ้ภายใต้การเล่าเรื่องและจาโคบสตาดท์มีผลต่อการทำลายล้างของกองทหารของภาคเหนือและตะวันตก พวกเขาไม่สามารถไม่เหมือนกับกองกำลังของด้านหน้าทางตะวันตกเฉียงใต้เพื่อใช้การดำเนินงานที่น่ารังเกียจในปี 1916

Brusilovsky พัฒนาและก้าวร้าวที่ Baranovichi (1916). เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2459 การโจมตีของกองกำลังของด้านหน้าทางตะวันตกเฉียงใต้ (573,000 คน) ซึ่งนำโดยนายพล Alexey Alekseevich Brusilov กองทัพออสเตรีย - เยอรมันที่ตรงข้ามกับเขาเป็น 448,000 คนในเวลานั้น ความก้าวหน้าถูกดำเนินการโดยกองทัพทุกคนของด้านหน้าซึ่งทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับศัตรูที่จะโอนเงินสำรอง ในเวลาเดียวกัน Brusilov นำยุทธวิธีใหม่ของการระเบิดแบบขนาน มันประกอบไปด้วยการสลับไซต์การพัฒนาที่ใช้งานและพาสซีฟ มันทำให้กองกำลังออสเตรเลีย - เยอรมันเป็นไปไม่ได้และไม่อนุญาตให้พวกเขามุ่งเน้นความแข็งแกร่งในพื้นที่ที่ถูกคุกคาม การพัฒนา Brusilovian นั้นโดดเด่นด้วยการฝึกอบรมอย่างรอบคอบ (ขึ้นอยู่กับการฝึกอบรมในรูปแบบที่ถูกต้องของตำแหน่งศัตรู) และอุปทานที่เพิ่มขึ้นของกองทัพรัสเซีย ดังนั้นแม้แต่จารึกพิเศษที่ยืนอยู่บนกล่องชาร์จ: "อย่าเสียใจเปลือกหอย!" การฝึกอบรมปืนใหญ่ในเว็บไซต์ต่าง ๆ ใช้เวลาตั้งแต่ 6 ถึง 45 ชั่วโมง ตามที่นักประวัติศาสตร์ของนักประวัติศาสตร์ Nn Yakovlev ในจุดเริ่มต้นของการพัฒนา "กองกำลังออสเตรียไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นแทนที่จะเป็นรังสีซันนี่ที่เงียบสงบจากทางทิศตะวันออกความตายมา - เปลือกหอยนับพันหันตำแหน่งที่ชื่นชอบในนรก . " มันอยู่ในความก้าวหน้าที่โด่งดังนี้ที่กองทัพรัสเซียสามารถบรรลุการกระทำที่สอดคล้องกันของทหารราบและปืนใหญ่

ภายใต้หน้าปกของไฟปืนใหญ่ทหารราบรัสเซียถูกปกคลุมไปด้วยคลื่น (3-4 โซ่ในแต่ละ) คลื่นลูกแรกโดยไม่อ้อยอิ่งผ่านสายด้านหน้าและโจมตีบรรทัดการป้องกันครั้งที่สองทันที คลื่นที่สามและสี่กลิ้งผ่านสองคนแรกและโจมตีแนวป้องกันที่สามและสี่ วิธีการที่ Brusilovsky "การโจมตีโดย Pocatami" ถูกใช้โดยพันธมิตรในการพัฒนาป้อมปราการเยอรมันในฝรั่งเศส ตามแผนเริ่มต้นด้านหน้าทางตะวันตกเฉียงใต้ต้องใช้การประท้วงเพียงอย่างเดียว การรุกรนหลักได้รับการวางแผนในช่วงฤดูร้อนทางฝั่งตะวันตก (General Evert) ซึ่งมีจุดประสงค์หลัก แต่การก้าวร้าวทั้งหมดของฝั่งตะวันตกได้รับความนิยมจากการต่อสู้รายสัปดาห์ (19-25 มิถุนายน) บนเว็บไซต์เดียวกันจาก Baranovich ผู้ปกป้องกลุ่ม Austro-German ของ Warzha โดยไปที่การโจมตีหลังจากการเตรียมศิลปะหลายชั่วโมงรัสเซียสามารถย้ายไปข้างหน้าได้ แต่เจาะทะลุการป้องกันที่ทรงพลังอย่างสมบูรณ์ (เฉพาะในแถวหน้าเท่านั้นที่สูงถึง 50 แถวของลวดไฟฟ้า) ที่พวกเขาล้มเหลว หลังจากการต่อสู้กับเลือดซึ่งมีราคา 80,000 คนที่มีกองกำลังรัสเซีย การสูญเสีย Evert ได้หยุดการล่วงละเมิด ความเสียหายของกลุ่ม Warzha มีจำนวน 13,000 คน Brusilov ไม่มีทุนสำรองเพียงพอสำหรับความต่อเนื่องที่ประสบความสำเร็จในการก้าวร้าว

อัตราไม่สามารถเปลี่ยนงานในการใช้การประท้วงหลักไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้และเขาเริ่มได้รับการเสริมกำลังเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของเดือนมิถุนายน สิ่งนี้ใช้คำสั่ง Austro-German เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนชาวเยอรมันของกลุ่มที่สร้างขึ้นของการสลายตัวทั่วไปถูกสร้างขึ้นในเขตของ Kontell Kontrudar ในกองทัพที่ 8 (General Kalden) ของด้านหน้าทางตะวันตกเฉียงใต้ แต่เขาสะท้อนให้เห็นบน Natisk และเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนพร้อมกับที่ได้รับในที่สุดในการเสริมกำลังของกองทัพที่ 3 ย้ายไปสู่การรุกรานใหม่บนไม้กางเขน ในเดือนกรกฎาคมการต่อสู้หลักหันไปทางทิศทาง Kovel พยายาม Brusylov เพื่อใช้ม้า (การประกอบการขนส่งที่สำคัญที่สุด) ไม่ได้รับการสวมมงกุฎด้วยความสำเร็จ ในช่วงเวลานี้ด้านหน้าอื่น ๆ (ตะวันตกและภาคเหนือ) แช่แข็งในสถานที่และไม่มี Brousilov จริง ๆ แล้วไม่มีการอัพโหลด ชาวเยอรมันและชาวออสเตรียถูกย้ายไปยังการเสริมกำลังจากแนวรบยุโรปอื่น ๆ (กว่า 30 หน่วยงาน) และจัดการเพื่อปิดแท่งที่เกิดขึ้น ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมการเคลื่อนไหวของด้านหน้าตะวันตกเฉียงใต้หยุดลง

ในหลักสูตรของ Brusilovsky Breakthrough กองทหารรัสเซียแฮ็คการป้องกัน Austro-German ที่ความยาวทั้งหมดจาก Pripyat Marsh ไปยังชายแดนโรมาเนียและขั้นสูง 60-150 กม. การสูญเสียของกองทัพออสเตรีย - เยอรมันในช่วงเวลานี้มีจำนวน 1.5 ล้านคน (ฆ่าบาดเจ็บและเชลย) รัสเซียเสียไป 0.5 ล้านคน เพื่อจับด้านหน้าในภาคตะวันออกชาวเยอรมันและชาวออสเตรียถูกบังคับให้คลายในฝรั่งเศสและอิตาลี ภายใต้อิทธิพลของความสำเร็จของกองทัพรัสเซียในสงครามที่ด้านข้างของประเทศ Entente โรมาเนียเข้าร่วม ในเดือนสิงหาคม - กันยายนได้รับการเสริมกำลังใหม่ Brusilov ต่อไปบน Natisk แต่เขาไม่ได้ประสบความสำเร็จในอดีต บนปีกซ้ายของด้านหน้าทางตะวันตกเฉียงใต้ชาวรัสเซียก็สามารถยึดชิ้นส่วนของออสเตรเลีย - เยอรมันในพื้นที่คาร์พาเทียนได้บ้าง แต่การโจมตีที่ดื้อรั้นในทิศทาง Kovel ซึ่งกินเวลาก่อนต้นเดือนตุลาคมสิ้นสุดลงไม่มีประโยชน์ Austin-German Parts เสริมด้วยเวลานั้นสะท้อนให้เห็นถึงการโจมตีของรัสเซีย โดยทั่วไปแม้จะประสบความสำเร็จทางยุทธวิธีการดำเนินงานที่น่ารังเกียจของด้านหน้าตะวันตกเฉียงใต้ (ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม) ไม่ได้แตกหักต่อสงคราม พวกเขาเสียค่าใช้จ่ายผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของรัสเซีย (ประมาณ 1 ล้านคน) ซึ่งกลายเป็นเรื่องยากมากขึ้นและยากต่อการฟื้นฟู

แคมเปญ 1916 โรงละครคอเคเซียนของการกระทำทางทหาร

ในตอนท้ายของปี 1915 เมฆเริ่มข้นให้เหนือหน้าคอเคเชี่ยน หลังจากชัยชนะในการดำเนินงาน Dardanelle ผู้บัญชาการตุรกีวางแผนที่จะถ่ายโอนชิ้นส่วนที่มีการต่อสู้มากที่สุดจาก Gallipoli ไปยังหน้าคอเคเชี่ยน แต่ Yudenich อยู่ข้างหน้าการซ้อมรบนี้โดยดำเนินการ Erzrum และ Trapezund ในพวกเขากองทหารรัสเซียประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่โรงละครคอเคซัสแห่งการกระทำทางทหาร

การดำเนินงาน Erzrum และ Trapezund (1916). วัตถุประสงค์ของการดำเนินงานเหล่านี้คือการจับกุมของป้อมปราการ Erzum และท่าเรือ Trapezund - ฐานหลักของพวกเติร์กเพื่อดำเนินการกับ Transcaucasia รัสเซีย ในทิศทางนี้กับกองทัพคอเคเชียนทั่วไป Yudenich (103,000 คน) ดำเนินการกองทัพตุรกีที่ 3 ของ Mahmoud Kiamil-Pasha (ประมาณ 60,000 คน) เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 1915 Turkestan ที่ 2 (General Przhevalsky) และคอเคเซียนที่ 1 (General Kalitin) ของคณะกองกำลังถูกเปิดใช้งานที่น่ารังเกียจใน Erzumum การล่วงละเมิดเกิดขึ้นในภูเขาปกคลุมด้วยหิมะที่มีลมแรงและน้ำค้างแข็ง แต่แม้จะมีสภาพภูมิอากาศตามธรรมชาติที่หนักหน่วง แต่รัสเซียก็ทะลุผ่านหน้าตุรกีและวันที่ 8 มกราคมมาถึงแนวทางสู่ Erzum การโจมตีในป้อมปราการตุรกีที่มีป้อมปราการนี้ในเงื่อนไขของแยมและหิมะที่โหดร้ายในกรณีที่ไม่มีปืนใหญ่ล้อมมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ แต่ Yudenich ตัดสินใจดำเนินการต่อไปโดยคำนึงถึงความรับผิดชอบทั้งหมดของเธอ ในตอนเย็นของวันที่ 29 มกราคมการโจมตีที่ไม่เคยมีมาก่อนในตำแหน่ง Erzrum เริ่มขึ้น หลังจากห้าวันของการต่อสู้ที่ดุเดือดชาวรัสเซียบุกเข้าไปใน Erzum แล้วเริ่มการประหัตประหารของกองทหารตุรกี มันกินเวลาจนถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์และสิ้นสุดที่ 70-100 กม. ทางตะวันตกของ Erzumum ในระหว่างการผ่าตัดกองทัพรัสเซียก้าวรายจากพรมแดนลึกเข้าไปในดินแดนของตุรกีมากกว่า 150 กม. นอกเหนือจากความกล้าหาญของกองกำลังความสำเร็จของการดำเนินการมีไว้และการฝึกอบรมวัสดุที่เชื่อถือได้ นักรบมีเสื้อผ้าที่อบอุ่นรองเท้าฤดูหนาวและแม้กระทั่งแว่นตาสีเข้มเพื่อปกป้องดวงตาจากประกายหิมะของภูเขา ทหารแต่ละคนยังมีฟืนเพื่อให้ความร้อน

การสูญเสียของรัสเซียมีจำนวน 17,000 คน (รวมถึง 6,000 frostbed) ความเสียหายของพวกเติร์กเกิน 65,000 คน (รวมถึงนักโทษ 13,000 คน) เมื่อวันที่ 23 มกราคมการดำเนินงานรูปแบบของการทำงูหมึกเริ่มซึ่งดำเนินการโดยกองกำลังของการปลดประจำการของ Primorsky (ทั่วไป Lyakhov) และการปลดอ้อนวอนของเรือของ Black Sea Fleet (กัปตันอันดับ 1 ของโรมัน Korsakov) ลูกเรือสนับสนุนกองกำลังภาคพื้นดินด้วยปืนใหญ่ที่เกิดเพลิงไหม้เชื่อมโยงไปถึงการลงจอดและนำกำลังการเสริมกำลัง หลังจากการต่อสู้ที่ดื้อรั้นการปลดทะเล (15,000 คน) ออกมาในวันที่ 1 เมษายนถึงตำแหน่งตุรกีที่มีป้อมปราการในแม่น้ำ Kara-Dere ซึ่งครอบคลุมวิธีการของ Trapezund ที่นี่การก้าวหน้าได้รับการเสริมแรงด้วยทะเล (สองกลุ่มกะหล่ำปลีที่มีจำนวน 18,000 คน) หลังจากที่ Tracksound เริ่มพายุ ครั้งแรกในวันที่ 2 เมษายนทหารแม่น้ำเย็นที่มีพายุแห่งกองทหารตุรกีที่ 19 ภายใต้การบังคับบัญชาของพันเอก Litvinova ถูกบังคับ กองทัพเรือได้รับการสนับสนุนจากไฟไหม้พวกเขาทอไปที่ฝั่งซ้ายและทำให้เติร์กออกจากสนามเพลาะ ในวันที่ 5 เมษายนกองทัพรัสเซียเข้าร่วมกับ Trapesund ออกจากกองทัพตุรกีแล้วก้าวไปทางทิศตะวันตกไปยัง Polhatkhan ด้วยการทาน Trapezund พื้นฐานของกองเรือทะเลดำได้ดีขึ้นและปีกขวาของกองทัพคอเคเซียนสามารถรับการเสริมกำลังทางทะเลได้อย่างอิสระ การจับกุมของตุรกีรัสเซียตะวันออกมีความสำคัญทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่ เขาแข็งแกร่งขึ้นในตำแหน่งของรัสเซียอย่างจริงจังในการเจรจาในอนาคตกับพันธมิตรเกี่ยวกับชะตากรรมต่อไปของคอนสแตนติโนเปิลและช่องแคบ

Kerind Casreshirinsky Operation (1916). หลังจากทาน Trapezund ซึ่งเป็นกองทุนแยกต่างหากที่ 1 ของ Caucasian ของ General Baratov (20,000 คน) ดำเนินการรณรงค์จากอิหร่านไปยัง Mesopotamia เขาต้องช่วยเหลือทีมภาษาอังกฤษล้อมรอบด้วยเติร์กใน Kut-el-Amara (อิรัก) การรณรงค์ผ่านพ้นจากวันที่ 5 เมษายนถึง 9 พฤษภาคม 1916 คณะ Baratov นำ Kerind, Casre-Shirin, Hanekekin และเข้าร่วม Mesopotamia อย่างไรก็ตามการรณรงค์ที่ยากและอันตรายในทะเลทรายสูญเสียความหมายตั้งแต่วันที่ 13 เมษายนกองทหารอังกฤษใน Kut-El-Amara ยอมจำนน หลังจากเรียน Kut-el-Amara ซึ่งเป็นคำสั่งของกองทัพตุรกีที่ 6 (Khalil-Pasha) ส่งฟอร์สในเมโสโปเตเมียกับการผอมบางอย่างรุนแรง (จากความร้อนและโรค) ของกองทหารรัสเซีย Haneken (150 กม. แบกแดดตะวันออกเฉียงเหนือ) Baratov มีการต่อสู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จกับพวกเติร์กหลังจากนั้นอาคารรัสเซียทิ้งเมืองที่วุ่นวายและถอยกลับไปที่ฮาดิน Eastern City of Iranian ที่น่ารังเกียจตุรกีหยุดลง

Erzrinjan และปฏิบัติการดับเพลิง (1916). ในช่วงฤดูร้อนปี 1916 คำสั่งชาวตุรกีโดยการถ่ายโอนไปยังหน้าคอเคเซียนไปยัง 10 ดิวิชั่นจาก Gallipoli ตัดสินใจที่จะแก้แค้น Erzurum และ Trapezund วันที่ 13 มิถุนายนแรกได้ก้าวไปสู่ความไม่พอใจจากพื้นที่ของ Erzindjana กองทัพตุรกีที่ 3 ภายใต้คำสั่งของ Weib-Pasha (150,000 คน) การต่อสู้ที่ร้อนแรงที่สุดเกิดขึ้นบนปลายทางของ Trapezund ที่ซึ่งกองทหารตุรกียืนอยู่ เขาจัดการเพื่อให้ Natisk ตุรกีเป็นครั้งแรกต่อความยืดหยุ่นของพวกเขาและมอบโอกาสที่จะจัดกลุ่มกองกำลังของเขา เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน Yudenich ต่อสู้กับ Conrtuddar ในเขต Mamahatun (ตะวันตกของ Erzumum) โดย Caucasus Corps ที่ 1 (General Kalitin) ในการต่อสู้สี่วันชาวรัสเซียได้รับความเชี่ยวชาญโดย Mamahatun จากนั้นเปลี่ยนไปใช้เพื่อตอบโต้โดยรวม สิ้นสุดวันที่ 10 กรกฎาคมโดยการรับสถานี Erzincan หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้กองทัพตุรกีที่ 3 ประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ (มากกว่า 100,000 คน) และหยุดการดำเนินงานที่กระตือรือร้นกับรัสเซีย ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อพ่ายแพ้ภายใต้ Erzincan คำสั่ง Turkish เปิดตัวงานเพื่อกลับ Erzrum ไปยัง 2-Army ที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ภายใต้คำสั่งของ Akhmet-Pasha (120,000 คน) ในวันที่ 21 กรกฎาคม 1916 เธอย้ายไปที่การล่วงละเมิดในทิศทาง Erzrum และผลักดัน Caucasus 4th Corps (General de Watht) ดังนั้นการคุกคามของปีกซ้ายของกองทัพคอเคเซียนถูกสร้างขึ้นในการตอบสนอง Yudenich หลง Kontrudar Turks ในกองกำลังของกลุ่ม Vorobyev ทั่วไป ในการต่อสู้ที่ดื้อรั้นที่กำลังจะมาถึงบน Firewalk ซึ่งดำเนินต่อไปทั้งหมดในเดือนสิงหาคมกองทหารรัสเซียทำลายกองทัพตุรกีและบังคับให้ต้องไปที่การป้องกัน การสูญเสียของเติร์กมีจำนวน 56,000 คน รัสเซียสูญเสียคน 20,000 คน ดังนั้นความพยายามของคำสั่งตุรกีที่จะสกัดกั้นความคิดริเริ่มเชิงกลยุทธ์ในหน้าคอเคเซียนล้มเหลว ในระหว่างการดำเนินงานทั้งสองกองทัพตุรกีที่ 2 และ 3 ประสบความสูญเสียที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้และหยุดดำเนินการกับรัสเซีย การผ่าตัดไฟได้กลายเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายของกองทัพคอเคเซียนรัสเซียในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

แคมเปญ 1916 สงครามแห่งทะเล

บนทะเลบอลติกกองเรือรัสเซียสนับสนุนปีกด้านขวาของการป้องกันริกาของกองทัพที่ 12 เช่นเดียวกับหัวข้อศาลช้อปปิ้งของชาวเยอรมันและขบวนรถของพวกเขา สิ่งนี้ประสบความสำเร็จในการมีส่วนร่วมในเรือดำน้ำรัสเซีย จากการกระทำการตอบสนองของกองทัพเรือเยอรมันเป็นไปได้ที่จะตั้งชื่อการปอกเปลือกของท่าเรือบอลติก (เอสโตเนีย) การจู่โจมครั้งนี้ขึ้นอยู่กับความคิดไม่เพียงพอเกี่ยวกับการป้องกันของรัสเซียสิ้นสุดลงสำหรับชาวต่างชาติของภัยพิบัติ ในระหว่างการดำเนินการ 7 จาก 11 การเข้าร่วมในการรณรงค์ของ Germans Squadrocaders เกิดขึ้นระหว่างการดำเนินงานบนสายรัดเหมืองของรัสเซีย กรณีที่คล้ายกันไม่ทราบโดยไม่มียานพาหนะสำหรับสงครามทั้งหมด บนทะเลดำกองทัพเรือรัสเซียส่งเสริมการก้าวร้าวของปีกริมทะเลของหน้าคอเคเซียนเข้าร่วมในการขนส่งของกองกำลังการลงจอดของการลงจอดและการสนับสนุนการยิงสำหรับชิ้นส่วนที่จะมาถึง นอกจากนี้กองเรือท้องทะเลสีดำยังคงบล็อกบอสฟอรัสและสถานที่สำคัญอื่น ๆ ของชายฝั่งตุรกี (โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ถ่านหิน Zonguldak) และยังได้โจมตีการสื่อสารทางทะเลของศัตรู ก่อนหน้านี้กิจกรรมบนทะเลดำนั้นแสดงโดยเรือดำน้ำเยอรมันซึ่งทำให้เกิดความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญต่อเรือขนส่งของรัสเซีย นักสู้คนใหม่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับพวกเขา: กระสุนดำน้ำ, ระเบิดลึก hydrostatic, เหมืองต่อต้านเรือดำน้ำ

แคมเปญ 1917

ในตอนท้ายของปี 1916 ตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ของรัสเซียแม้จะมีอาชีพส่วนหนึ่งของดินแดนยังคงมีเสถียรภาพค่อนข้างยุติธรรม กองทัพของเธอเก็บตำแหน่งไว้อย่างแน่นหนาและดำเนินการในการดำเนินงานที่น่ารังเกียจจำนวนมาก ตัวอย่างเช่นฝรั่งเศสมีเปอร์เซ็นต์ของที่ดินที่ครอบครองสูงกว่ารัสเซีย หากเยอรมันอยู่ห่างจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กมากกว่า 500 กม. จากปารีส - เพียง 120 กม. อย่างไรก็ตามสถานการณ์ภายในในประเทศมีความจริงจังแย่ลงอย่างจริงจัง ข้าวที่เก็บเกี่ยว 1.5 เท่าราคาเพิ่มการขนส่งขนส่ง ผู้ชายจำนวนมหาศาลถูกเรียกขึ้นมาถึงกองทัพ - 15 ล้านคนและเศรษฐกิจของชาติสูญเสียคนงานจำนวนมาก เหล็กอื่น ๆ และขนาดของการสูญเสียของมนุษย์ โดยเฉลี่ยแล้วประเทศโกหกที่ด้านหน้าเป็นนักรบจำนวนมากที่ด้านหน้าเช่นเดียวกับสงครามที่ผ่านมาตลอดปี ทั้งหมดนี้จำเป็นจากประชาชนของแรงดันไฟฟ้าที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกสังคมที่มีภาระสงคราม สำหรับบางชั้นความยากลำบากทางทหารกลายเป็นแหล่งของการตกแต่ง ตัวอย่างเช่นกำไรขนาดใหญ่นำเสนอการจัดวางคำสั่งทางทหารในโรงงานภาคเอกชน แหล่งที่มาของการเติบโตของรายได้ได้กลายเป็นการขาดดุลที่อนุญาตให้ราคากลืนกิน การหลีกเลี่ยงการชนกันอย่างกว้างขวางจากด้านหน้าโดยใช้อุปกรณ์ลงในองค์กรด้านหลัง โดยทั่วไปปัญหาของด้านหลังองค์กรที่เหมาะสมและครอบคลุมเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีช่องโหว่ที่สุดในรัสเซียในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ทั้งหมดนี้สร้างความตึงเครียดทางสังคมที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่หัวหน้าแผนเยอรมันสำหรับการสิ้นสุดสายฟ้าของสงครามโลกแห่งแรกกลายเป็นสงครามเพื่อไอเสียกองกำลัง ในการต่อสู้ครั้งนี้ประเทศของ Entente มีข้อได้เปรียบทั้งหมดในจำนวนกองกำลังติดอาวุธและศักยภาพทางเศรษฐกิจ แต่การใช้ประโยชน์เหล่านี้ในระดับใหญ่ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของประเทศผู้นำที่มั่นคงและมีทักษะ

ในแง่นี้รัสเซียก็มีความเสี่ยงมากที่สุด ไม่มีที่ไหนเลยที่ได้รับการสังเกตการแยกที่ขาดความรับผิดชอบในด้านสังคม ผู้แทนของรัฐดูมาขุนนางชนชั้นสูงทั่วไปฝ่ายซ้ายปัญญาชนเสรีนิยมและวงกลมที่เกี่ยวข้องกับมันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการไร้ความสามารถของกษัตริย์นิโคลัสที่สองเพื่อนำคดีไปสู่จุดจบที่ได้รับชัยชนะ การเติบโตของความรู้สึกของฝ่ายค้านบางส่วนถูกกำหนดโดยการทำเป็นบางส่วนของหน่วยงานของตัวเองล้มเหลวในการนำคำสั่งซื้อมาถึงด้านหลังในช่วงสงคราม ในที่สุดสิ่งนี้นำไปสู่การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์และโค่นล้มสถาบันกษัตริย์ หลังจากสละออกมานิโคไลที่ 2 (2 มีนาคม 2460) รัฐบาลชั่วคราวก็เข้าสู่อำนาจ แต่ตัวแทนของเขาทรงพลังในการวิพากษ์วิจารณ์ของระบอบราชวงศ์นั้นทำอะไรไม่ถูกในการจัดการของประเทศ ประเทศมี Droi ระหว่างรัฐบาลเฉพาะกาลและสภา Petrograd ของพนักงานชาวนาและทหารของทหาร สิ่งนี้นำไปสู่การชะลอตัวต่อไป ในด้านบนมีการต่อสู้เพื่อพลัง กองทัพเริ่มกระจุยตัวประกันของการต่อสู้ครั้งนี้ การผลักดันครั้งแรกของการล่มสลายของคำสั่งที่โด่งดังครั้งที่ 1 ที่ตีพิมพ์โดยสภา Petrograd ซึ่งกีดกันเจ้าหน้าที่ของอำนาจการลงโทษทางวินัยเหนือทหาร เป็นผลให้วินัยลดลงในส่วนและการสุ่มตัวอย่างเพิ่มขึ้น ในสนามเพลาะโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านสงครามเพิ่มขึ้น เจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างมากซึ่งกลายเป็นเหยื่อรายแรกของความไม่พอใจของทหาร การทำความสะอาดผู้บัญชาการสูงสุดคือรัฐบาลชั่วคราวเองซึ่งไม่ได้รับสิทธิทหาร ภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้กองทัพที่ไวมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่รัฐบาลชั่วคราวภายใต้แรงกดดันของพันธมิตรยังคงทำสงครามอย่างต่อเนื่องหวังว่าจะเสริมสร้างตำแหน่งของเขาด้วยความสำเร็จที่ด้านหน้า ความพยายามดังกล่าวเป็นมิถุนายนที่น่ารังเกียจที่จัดโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทหาร Alexander Kerensky

มิถุนายนที่น่ารังเกียจ (1917). การระเบิดหลักถูกนำไปใช้กองกำลังของด้านหน้าตะวันตกเฉียงใต้ (General Gutor) ในกาลิเซีย การรุกรานถูกเตรียมไว้อย่างอ่อนโยน ในระดับใหญ่มันเป็นโฆษณาชวนเชื่อและคือการเลี้ยงศักดิ์ศรีของรัฐบาลใหม่ ในขั้นต้นรัสเซียมาพร้อมกับความสำเร็จซึ่งมีการสังเกตเห็นได้ชัดในพื้นที่ 8th Army (General Kornilov) เธอทะลุหน้าและก้าวเข้าสู่ 50 กม. นำเมืองกาลิชและคัลลัช แต่กองทหารที่ยิ่งใหญ่ของด้านหน้าตะวันตกเฉียงใต้ไม่สามารถทำได้ หัวของพวกเขานั้นรวดเร็วภายใต้อิทธิพลของการโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านสงครามและความต้านทานต่อกองกำลังออสเตรเลีย - เยอรมัน ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2460 บัญชาการออสเตรีย - เยอรมันโอน 16 แผนกใหม่ไปยังกาลิเซียและทำให้เคาน์ตดาร์ทรงพลัง อันเป็นผลมาจากกองทหารของด้านหน้าตะวันตกเฉียงใต้พ่ายแพ้และถูกทิ้งอย่างมีนัยสำคัญโอเรียนเต็ลในเขตแดนดั้งเดิมของพวกเขาไปยังชายแดนของรัฐ ด้วยการกระทำที่น่ารังเกียจในเดือนมิถุนายนที่น่ารังเกียจในเดือนกรกฎาคม 2460 ของโรมาเนีย (นายพล Shcherbachev) และภาคเหนือ (General Clembovsky) ของชายแดนรัสเซียก็เชื่อมต่อกันเช่นกัน การรุกรานในโรมาเนียภายใต้การคาบจูงการพัฒนาได้สำเร็จ แต่ถูกหยุดตามคำสั่งของ Kerensky ภายใต้อิทธิพลของความพ่ายแพ้ในกาลิเซีย ความก้าวร้าวจากภาคเหนือของ Jacobstadt ล้มเหลวอย่างสมบูรณ์ ความเสียหายทั่วไปของรัสเซียในช่วงเวลานี้มีจำนวน 150,000 คน บทบาทสำคัญในความล้มเหลวของพวกเขาถูกเล่นโดยกิจกรรมทางการเมืองที่มีผลกระทบที่ไม่เกิดจากกองกำลัง "สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นรัสเซียก่อนหน้านี้อีกต่อไป" General General Ludendorf จำได้ว่าการต่อสู้เหล่านั้น รอยโรคของฤดูร้อนปี 1917 เสริมสร้างวิกฤตพลังงานและทำให้สถานการณ์ทางการเมืองภายในของประเทศรุนแรงขึ้นในประเทศ

การดำเนินงานริกา (1917). หลังจากความพ่ายแพ้ของรัสเซียในเดือนมิถุนายน - กรกฎาคมชาวเยอรมันในวันที่ 19-24 สิงหาคม 2460 ถือกองกำลังของกองทัพที่ 8 (General Gutier) การดำเนินการที่น่ารังเกียจเพื่อที่จะจับริกา ทิศทางริกาปกป้องกองทัพรัสเซียที่ 12 (General Parsky) ในวันที่ 19 สิงหาคมทหารเยอรมันเปลี่ยนไปใช้ความไม่พอใจ โดยเที่ยงพวกเขาบังคับให้ DVINA ขู่ว่าจะไปทางด้านหลังไปยังชิ้นส่วน Riga จำเลย ภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้คู่ที่สั่งให้อพยพริกา เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมชาวเยอรมันเข้าสู่เมืองที่ Kaiser เยอรมัน Wilhelm II มาถึงในโอกาสของการเฉลิมฉลองนี้ หลังจากทานริกาทหารเยอรมันก็หยุดการล่วงละเมิดในไม่ช้า การสูญเสียของรัสเซียในการดำเนินงานริกามีจำนวน 18,000 คน (จากนักโทษ 8,000 คนเหล่านี้) ความเสียหายของชาวเยอรมัน - 4,000 คน ความพ่ายแพ้ภายใต้ริกาทำให้เกิดวิกฤตวิกฤตการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ

Moison Operation (1917). หลังจากการจับกุมของริกาคำสั่งของเยอรมันตัดสินใจควบคุมอ่าวริกาและทำลายกองกำลังทะเลรัสเซียที่นั่น สำหรับสิ่งนี้เมื่อวันที่ 29 กันยายน - 6 ตุลาคม พ.ศ. 2460 ชาวเยอรมันจัดงานผ่าตัด Moonzund สำหรับการดำเนินการของมันพวกเขาจึงจัดสรรการปลดปล่อยริมทะเลของจุดประสงค์พิเศษประกอบด้วย 300 ลำในชั้นเรียนต่าง ๆ (รวม 10 ชุด) ภายใต้คำสั่งของ Admiral Schmidt สำหรับการลงจอดของเกาะบนเกาะ Moonzund ซึ่งปิดทางเข้าสู่อ่าวริกามีไว้สำหรับคณะสงวนที่ 23 ของนายพลฟอนแคทเทน (25,000 คน) ทหารรักษาการณ์รัสเซียของหมู่เกาะที่มีหมายเลข 12,000 คน นอกจากนี้อ่าวริกาปกป้องเรือ 116 ลำและเรือเสริม (รวมถึง 2 Linkra) ภายใต้คำสั่งของ Bakheirev Counter-Adviral ชาวเยอรมันไม่มีปัญหาในการครอบครองเกาะ แต่ในการต่อสู้ของทะเลกองทัพเรือเยอรมันได้พบกับความดื้อรั้นของลูกเรือชาวรัสเซียและประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ (16 ลำถูกทำให้แห้ง 16 ลำได้รับความเสียหายรวมถึง 3 Lincars) รัสเซียแพ้ Battleship การต่อสู้ที่กล้าหาญ "สง่าราศี" และเรือพิฆาต "ฟ้าร้อง" แม้จะมีความเหนือกว่าที่ยิ่งใหญ่ในอำนาจชาวเยอรมันไม่สามารถทำลายเรือของกองเรือทะเลบอลติกซึ่งจัดขึ้นสู่อ่าวฟินแลนด์ปิดกั้นฝูงบินเยอรมันไปยัง Petrograd การต่อสู้สำหรับหมู่เกาะ Moonzund เป็นการดำเนินการต่อสู้ครั้งสุดท้ายในหน้ารัสเซีย ในนั้นกองทัพเรือรัสเซียปกป้องเกียรติยศของกองกำลังติดอาวุธของรัสเซียและเสร็จสิ้นการมีส่วนร่วมในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

การสู้รบของ Brest Lithuanian (1917) Brest World (1918)

ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2460 รัฐบาลชั่วคราวถูกโค่นล้มโดย Bolsheviks ซึ่งดำเนินการเพื่อสรุปต้นของโลก 20 พฤศจิกายนใน Brest Litovsk (Brest) พวกเขาเริ่มต้นด้วยการเจรจาแยกต่างหากของเยอรมนีในโลก ในวันที่ 2 ธันวาคมการสู้รบได้ข้อสรุประหว่างรัฐบาลบอลเชวิคและตัวแทนชาวเยอรมัน ในวันที่ 3 มีนาคม 2461 โลกเบรสต์ได้ข้อสรุประหว่างโซเวียตรัสเซียและเยอรมนี จากรัสเซียดินแดนสำคัญถูกปฏิเสธ (รัฐบอลติกและส่วนหนึ่งของเบลารุส) ทหารรัสเซียถูกแสดงจากดินแดนแห่งความเป็นอิสระของฟินแลนด์และยูเครนเช่นเดียวกับ Ardagan, Kars และ Batum และ Batum Districts ซึ่งส่งไปยังตุรกี โดยรวมแล้วรัสเซียสูญเสีย 1 ล้านตารางเมตร กม. จากดินแดน (รวมถึงยูเครน) โลกเบรสต์โยนมันไปทางทิศตะวันตกไปยังชายแดนของศตวรรษที่สิบเจ็ด (ช่วงเวลาของการครองราชย์ของอีวานที่น่ากลัว) นอกจากนี้โซเวียตรัสเซียมีหน้าที่ต้องแก้ไขกองทัพและกองเรือเพื่อสร้างหน้าที่ศุลกากรที่เป็นประโยชน์ต่อเยอรมนีรวมถึงการจ่ายเงินสมทบที่สำคัญในด้านเยอรมัน (จำนวนทั้งหมดมีจำนวน 6 พันล้านเกรดทองคำ)

โลกเบรสต์หมายถึงความพ่ายแพ้ที่ยากที่สุดของรัสเซีย ความรับผิดชอบทางประวัติศาสตร์สำหรับเขาเอา Bolsheviks แต่ในหลาย ๆ ด้านโลก Brest บันทึกสถานการณ์ที่ประเทศถูกนำไปสู่การล่มสลายของสงครามซึ่งเป็นประโยชน์ของรัฐบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม ชัยชนะเหนือรัสเซียให้โอกาสกับเยอรมนีและพันธมิตรของมันครอบครองรัฐบอลติกชั่วคราวยูเครนเบลารุสและ Transcaucasia จำนวนครั้งแรกของโลกที่ถูกฆ่าตายในกองทัพรัสเซียมีจำนวน 1.7 ล้านคน (ฆ่าตายจากบาดแผลก๊าซก๊าซเชลย ฯลฯ ) สงครามค่าใช้จ่ายของรัสเซีย 25 พันล้านดอลลาร์ การบาดเจ็บทางศีลธรรมอย่างลึกซึ้งของประเทศถูกนำไปใช้เป็นครั้งแรกในหลายศตวรรษที่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของความพ่ายแพ้อย่างรุนแรง

หัวหน้า N.A สงครามที่โด่งดังที่สุดและการต่อสู้ของรัสเซีย M. "Veche", 2000
"จากรัสเซียรัสเซียไปยังอาณาจักรของรัสเซีย" Shishkin Sergey Petrovich, Ufa

สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
(28 กรกฎาคม 2457 - 11 พฤศจิกายน 2461) ความขัดแย้งทางทหารครั้งแรกของระดับโลกซึ่งมีส่วนร่วมใน 38 รัฐที่มีอยู่ 59 รัฐอิสระ กำลังระดมกำลังประมาณ 73.5 ล้านคน ของพวกเขาฆ่าตายและเสียชีวิตจาก RAS 9.5 ล้านมากกว่า 20 ล้านคนบาดเจ็บ 3.5 ล้านคนที่เหลืออยู่
เหตุผลหลัก การค้นหาสาเหตุของสงครามนำไปสู่ปี 1871 เมื่อกระบวนการของการผสมผสานระหว่างประเทศเยอรมนีและเจ้าโลกปรัสเซียถูกประดิษฐานอยู่ในจักรวรรดิเยอรมัน เมื่อนายกรัฐมนตรี O.fon Bismarck ผู้พยายามฟื้นฟูระบบของสหภาพนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลเยอรมันถูกกำหนดโดยความปรารถนาที่จะบรรลุตำแหน่งที่โดดเด่นของเยอรมนีในยุโรป เพื่อกีดกันโอกาสในการแก้แค้นในสงคราม Franco-Prussian Bismarck พยายามผูกรัสเซียและออสเตรียฮังการีด้วยข้อตกลงลับของเยอรมนี (1873) อย่างไรก็ตามรัสเซียพูดในการสนับสนุนของฝรั่งเศสและสหภาพแห่งจักรพรรดิสามคนทรุดตัวลง ในปี 1882 บิสมาร์กเสริมสร้างตำแหน่งของเยอรมนีโดยการสร้างสหภาพสามทางซึ่งออสเตรียฮังการีอิตาลีและเยอรมนียูไนเต็ด ในปี 1890 เยอรมนีถึงบทบาทแรกในการเจรจาต่อรองในยุโรป ฝรั่งเศสออกมาจากการแยกทางการทูตและในปี 1891-1893 การใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ของความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับเยอรมนีรวมถึงความต้องการของรัสเซียในเมืองหลวงใหม่มันสรุปการประชุมทางทหารกับรัสเซียและข้อตกลงยูเนี่ยนกับรัสเซีย สหภาพรัสเซีย - ฝรั่งเศสคือการทำหน้าที่เป็นถ่วงน้ำหนักต่อสหภาพ Trimal สหราชอาณาจักรอยู่ไกลจากการแข่งขันบนทวีปอย่างไรก็ตามความกดดันของสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจเมื่อเวลาผ่านไปทำให้เขาเลือก ชาวอังกฤษไม่สามารถรบกวนความเชื่อมั่นของชาตินิยมที่ครองราชย์ในเยอรมนีการเมืองอาณานิคมก้าวร้าวการขยายตัวของอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็วและส่วนใหญ่ขยายอำนาจของกองทัพเรือ ชุดของการชุมนุมอย่างรวดเร็วนำไปสู่การกำจัดความแตกต่างในตำแหน่งของฝรั่งเศสและบริเตนใหญ่และบทสรุปในปี 1904 ที่เรียกว่า "ความยินยอมของหัวใจ" (Entende Cordiale) อุปสรรคระหว่างทางไปสู่ความร่วมมือภาษาอังกฤษ - รัสเซียได้รับการเอาชนะและในปี 1907 ข้อตกลงภาษาอังกฤษ - รัสเซียได้รับการสรุป รัสเซียได้กลายเป็นสมาชิกของ Entente สหราชอาณาจักรฝรั่งเศสและรัสเซียได้ก่อให้เกิดความยินยอมจาก Tripal (Triple Entegente) ในทางตรงกันข้ามกับสหภาพสามทาง ดังนั้นส่วนของยุโรปสำหรับค่ายติดอาวุธสองแห่งจึงมีรูปร่าง หนึ่งในสาเหตุของสงครามคือการเสริมสร้างความเชื่อมั่นอย่างกว้างขวางของลัทธิชาตินิยม การกำหนดความสนใจของคุณวงกลมของประเทศในยุโรปแต่ละประเทศพยายามที่จะนำเสนอพวกเขาเป็นแรงบันดาลใจของพื้นบ้าน ฝรั่งเศสได้สิ้นสุดแผนการส่งคืนของดินแดนที่หายไปของ Alsace และ Lorraine อิตาลีแม้จะอยู่ในสหภาพกับออสเตรีย - ฮังการีใฝ่ฝันที่จะคืนดินแดนของพวกเขา Trentino, Trieste และ Fiume เสาเห็นความเป็นไปได้ในการสร้างรัฐที่ถูกทำลายโดยส่วน 18 V หลายคนที่อาศัยอยู่ในออสเตรีย - ฮังการีแสวงหาความเป็นอิสระแห่งชาติ รัสเซียเชื่อมั่นว่าเขาจะไม่สามารถพัฒนาได้โดยไม่ จำกัด การแข่งขันของเยอรมันการคุ้มครองสลาฟจากออสเตรีย - ฮังการีและขยายอิทธิพลในคาบสมุทรบอลข่าน ในกรุงเบอร์ลินอนาคตมีความสัมพันธ์กับความพ่ายแพ้ของฝรั่งเศสและบริเตนใหญ่และสมาคมยุโรปกลางภายใต้การนำของเยอรมนี ในลอนดอนพวกเขาเชื่อว่าผู้คนในบริเตนใหญ่จะมีชีวิตอยู่อย่างใจเย็นเพียงแค่บดขยี้หัวหน้าศัตรู - เยอรมนี ความเข้มข้นในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมีความเข้มแข็งด้วยวิกฤตการณ์ทางการทูต - การปะทะกันของฝรั่งเศส - เยอรมันในโมร็อกโกในปี 2448-2449; Annexia Austrians Bosnia และ Herzegovina ในปี 1908-1909; ในที่สุด Balkan Wars 1912-1913 สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสสนับสนุนผลประโยชน์ของอิตาลีในแอฟริกาเหนือและทำให้ความมุ่งมั่นของเธออ่อนแอต่อสหภาพสามเท่าที่เยอรมนีอาจไม่ไว้วางใจจากอิตาลีอีกต่อไปในฐานะพันธมิตรในสงครามในอนาคต
วิกฤตกรกฎาคมและการเริ่มต้นของสงคราม หลังจากสงครามบอลข่านกับสถาบันพระมหากษัตริย์ออสเตรเลีย - ฮังการีการโฆษณาชวนเชื่อชาตินิยมที่กระตือรือร้นได้เปิดตัว กลุ่มของ Serbs สมาชิกขององค์กรสมรู้ร่วมคิด "Young Bosnia" ตัดสินใจที่จะฆ่าทายาทกับบัลลังก์ของ Austro-Hungary ของ ertzgertzog Franz Ferdinand โอกาสนี้ได้รับการแนะนำเมื่อเขาไปบอสเนียกับคำสอนของกองทัพออสเตรีย - ฮังการีพร้อมกับภรรยาของเขา Franz Ferdinand ถูกฆ่าตายในเมืองซาราเยโวโดย Gymnasium Gavrilo เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 1914 การมีปฏิสัมพันธ์เพื่อเริ่มสงครามกับเซอร์เบียออสเตรีย - ฮังการีได้รับการสนับสนุนจากประเทศเยอรมนี หลังเชื่อว่าสงครามจะใช้อักขระท้องถิ่นหากรัสเซียจะไม่ปกป้องเซอร์เบีย แต่ถ้าเธอมีความช่วยเหลือจากเซอร์เบียเยอรมนีจะพร้อมที่จะปฏิบัติตามภาระผูกพันตามสัญญาและสนับสนุนออสเตรีย - ฮังการี ใน Ultimatum ส่งไปยังเซอร์เบียเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมออสเตรีย - ฮังการีเรียกร้องให้การก่อตัวทางทหารของพวกเขาได้รับอนุญาตให้ป้องกันการก่อตัวทางทหารของพวกเขาเข้าไปในดินแดนเพื่อป้องกันการโปรโมตศัตรูร่วมกับกองกำลังเซอร์เบีย การตอบสนองต่อ ULTIMATUM ได้รับระยะเวลา 48 ชั่วโมงที่กำหนดไว้ แต่เขาไม่พอใจกับ Austro-Hungary และในวันที่ 28 กรกฎาคมเธอประกาศสงครามเซอร์เบีย S.D. Zazonov รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเปิดอย่างเปิดเผยต่อออสเตรีย - ฮังการีได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีฝรั่งเศส R. Puancar 30 กรกฎาคมรัสเซียประกาศการระดมชาติสากล เยอรมนีใช้เหตุผลนี้ในการประกาศสงครามของรัสเซียในวันที่ 1 สิงหาคมและวันที่ 3 สิงหาคม - ฝรั่งเศส ตำแหน่งของบริเตนใหญ่ยังคงยังคงไม่แน่นอนเนื่องจากภาระผูกพันตามสัญญาในการปกป้องความเป็นกลางของเบลเยี่ยม ในปี 1839 จากนั้นในช่วงสงครามฝรั่งเศส - ปรัสเซียสหราชอาณาจักรปรัสเซียและฝรั่งเศสได้ให้การรับประกันโดยรวมของประเทศนี้เกี่ยวกับความเป็นกลาง หลังจากการบุกรุกของชาวเยอรมันในวันที่ 4 สิงหาคมสหราชอาณาจักรประกาศสงครามในประเทศเยอรมนี ตอนนี้พลังอันยิ่งใหญ่ของยุโรปถูกดึงเข้าสู่สงคราม ร่วมกับพวกเขาการปกครองและอาณานิคมของพวกเขามีส่วนร่วมในสงคราม สงครามสามารถแบ่งออกเป็นสามช่วงเวลา ในช่วงระยะเวลาแรก (2457-2459) อำนาจกลางประสบความสำเร็จในการจัดการกองกำลังบนบกและพันธมิตรครองท้องทะเล ตำแหน่งดูเหมือนกับกบาล ช่วงเวลานี้เสร็จสมบูรณ์โดยการเจรจาต่อรองในโลกที่ยอมรับร่วมกัน แต่แต่ละภาคียังคงหวังว่าจะได้รับชัยชนะ ในช่วงต่อไป (1917) มีเหตุการณ์สองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งนำไปสู่ความไม่สมดุลของกองกำลัง: ครั้งแรก - การเข้าสู่สงครามของสหรัฐอเมริกาที่ด้านข้างของ Entente ที่สองคือการปฏิวัติในรัสเซียและทางออกของมันจาก สงคราม. ช่วงที่สาม (2461) เริ่มการโจมตีครั้งใหญ่ครั้งใหญ่ของอำนาจกลางในตะวันตก สำหรับความล้มเหลวของการล่วงละเมิดนี้การปฏิวัติตามมาในออสเตรีย - ฮังการีและเยอรมนีและการยอมจำนนของอำนาจกลาง
ช่วงแรก. กองกำลังยูเนี่ยนรวมถึงรัสเซียฝรั่งเศสบริเตนใหญ่เซอร์เบียมอนเตเนโกรและเบลเยียมและครอบครองเหนือกว่าทะเลอย่างล้นหลาม Entente มีเรือลาดตระเวน 316 คนและชาวเยอรมันและชาวออสเตรียมี 62. แต่หลังพบเครื่องมือที่ทรงพลังของฝ่ายค้าน - เรือดำน้ำ โดยจุดเริ่มต้นของสงครามกองทัพของอำนาจกลางประกอบด้วย 6.1 ล้านคน; กองทัพของ Antanka อยู่ที่ 10.1 ล้านคน พลังกลางมีความได้เปรียบในการสื่อสารภายในซึ่งอนุญาตให้พวกเขาถ่ายทอดกองกำลังและอุปกรณ์ได้อย่างรวดเร็วจากด้านหน้าหนึ่งไปอีกหน้าหนึ่ง ในระยะยาวของประเทศ Entente มีทรัพยากรที่เหนือกว่าของวัตถุดิบและอาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากกองทัพเรืออังกฤษเป็นอัมพาตการสื่อสารของประเทศเยอรมนีกับประเทศต่างประเทศจากที่ทองแดงและนิกเกิลมาถึงสงครามกับผู้ประกอบการเยอรมัน ดังนั้นในกรณีของสงครามที่ยืดเยื้อ Anntan สามารถนับได้ในชัยชนะ เยอรมนีรู้เรื่องนี้ทำเดิมพันบนสงครามฟ้าผ่า - "Blitzkrieg" ชาวเยอรมันมีผลบังคับใช้แผนของ Schliffene สันนิษฐานว่าเพื่อให้แน่ใจว่าการโจมตีของกองกำลังขนาดใหญ่ไปยังฝรั่งเศสผ่านเบลเยี่ยมที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในตะวันตก หลังจากความพ่ายแพ้ของฝรั่งเศสเยอรมนีนับรวมกับออสเตรีย - ฮังการีโดยได้ย้ายกองกำลังที่ปลดปล่อยให้กับการระเบิดที่เด็ดขาดไปทางทิศตะวันออก แต่แผนนี้ไม่ได้ดำเนินการ หนึ่งในสาเหตุหลักของความล้มเหลวของเขาคือการจัดส่งส่วนหนึ่งของหน่วยงานของเยอรมันในลอร์เรนเพื่อป้องกันการรุกรานของฝ่ายตรงข้ามของเยอรมนีตอนใต้ของเยอรมนี ในคืนวันที่ 4 สิงหาคมชาวเยอรมันบุกเข้าดินแดนเบลเยียม พวกเขาต้องการหลายวันเพื่อทำลายความต้านทานของผู้พิทักษ์ของเขตเสริมของ Namury และ Liege ทับเส้นทางไปยังบรัสเซลส์ แต่ต้องขอบคุณความล่าช้านี้ชาวอังกฤษถูกบดขยี้เกือบ 90,000 กองกำลังเดินทางผ่าน La Mans ไปยังฝรั่งเศส (9 สิงหาคม 17) ชาวฝรั่งเศสชนะเวลาในการสร้างกองทัพ 5 คนที่ทำให้ชาวเยอรมันก้าวร้าว อย่างไรก็ตามในวันที่ 20 สิงหาคมกองทัพเยอรมันครอบครองบรัสเซลส์จากนั้นบังคับให้ชาวอังกฤษออกจาก Mons (23 สิงหาคม) และในวันที่ 3 กันยายนกองทัพของนายพล A.fon Club กลายเป็น 40 กม. จากปารีส การก้าวร้าวอย่างต่อเนื่องชาวเยอรมันบังคับให้แม่น้ำ Marna และ 5 กันยายนหยุดตามแนวปารีส - Verden ผู้บัญชาการกองกำลังฝรั่งเศส General Zh.Zhoffre สร้างกองทัพใหม่สองแห่งจากกองหนุนตัดสินใจเปลี่ยนเป็นโครงการตอบโต้ การต่อสู้ครั้งแรกของ Marne เริ่ม 5 และสิ้นสุดวันที่ 12 กันยายน มีส่วนร่วมใน 6 กองทัพอังกฤษ - ฝรั่งเศสและ 5 กองทัพเยอรมัน ชาวเยอรมันพ่ายแพ้ หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ความพ่ายแพ้ของพวกเขาคือการขาดดิวิชั่นหลายตัวที่ปีกขวาซึ่งต้องถ่ายโอนไปยังด้านหน้าด้านตะวันออก การโจมตีของฝรั่งเศสบนปีกขวาที่อ่อนแอลงทำให้เสียชีวิตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของกองทัพเยอรมันไปทางทิศเหนือในสายของแม่น้ำ Ena ความล้มเหลวสำหรับชาวเยอรมันคือการต่อสู้ในแฟลนเดอร์สในแม่น้ำแห่งอิสราเอลและ IPR เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม - 20 พฤศจิกายน เป็นผลให้พอร์ตหลักของ La Manne ยังคงอยู่ในมือของพันธมิตรซึ่งให้ข้อความระหว่างฝรั่งเศสและอังกฤษ ปารีสได้รับการบันทึกและประเทศ Entente ได้รับเวลาในการระดมทรัพยากร สงครามในทิศตะวันตกมีลักษณะของตำแหน่งการคำนวณของเยอรมนีในความพ่ายแพ้และบทสรุปของฝรั่งเศสจากสงครามก็ล้มละลาย การเผชิญหน้าผ่านเส้นที่ทอดยาวขึ้นไปทางใต้ของนิวพอร์ตและ IPRA ในเบลเยียมกับCompièreและ Susson จากนั้นไปทางทิศตะวันออกรอบ ๆ Verpena และใต้เพื่อการแสดงใกล้ Saint-Miyel จากนั้นไปทางตะวันออกเฉียงใต้ - ไปยังชายแดน Swiss ตามแนวร่องลึกและอุปสรรคลวดนี้มีความยาวประมาณ 970 กม. สี่ปีเป็นสงครามทหาร จนถึงเดือนมีนาคม 2461 ใด ๆ แม้แต่การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในแนวหน้าก็ประสบความสำเร็จด้วยราคาของการสูญเสียครั้งใหญ่ทั้งสองด้าน มีความหวังว่ารัสเซียจะสามารถบดขยี้กองทัพของพลังกลางทางด้านตะวันออก เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมกองทหารรัสเซียเข้าร่วมกับปรัสเซียตะวันออกและเริ่มปิดเยอรมันไปยังKönigsberg นายพลชาวเยอรมันของ Hindenburg และ Ludendorf ได้รับมอบหมายให้เป็นปฏิรูป การใช้ประโยชน์จากความผิดพลาดของคำสั่งของรัสเซียชาวเยอรมันสามารถขับรถ "ลิ่ม" ระหว่างกองทัพรัสเซียสองคนเอาชนะพวกเขาในวันที่ 26-30 สิงหาคมใกล้กับ Tannenberg และแทนที่จากปรัสเซียตะวันออก ออสเตรีย - ฮังการีไม่ประสบความสำเร็จมากนักปฏิเสธที่จะเอาชนะเซอร์เบียอย่างรวดเร็วและมุ่งเน้นไปที่กองกำลังสำคัญระหว่าง Vistula และ Dniester แต่ชาวรัสเซียเริ่มเป็นที่น่ารังเกียจในทิศทางภาคใต้ได้ทำลายการป้องกันของกองทัพออสเตรีย - ฮังการีและจับคนหลายพันคนเอาจังหวัดกาลิเซียออสเตรียและส่วนหนึ่งของโปแลนด์ การส่งเสริมกองกำลังรัสเซียสร้างภัยคุกคามต่อ Silesia และ Poznan - เขตอุตสาหกรรมที่สำคัญสำหรับประเทศเยอรมนี เยอรมนีถูกบังคับให้ถ่ายโอนกองกำลังเพิ่มเติมจากฝรั่งเศส แต่การขาดกระสุนและอาหารที่คมชัดหยุดการส่งเสริมกองกำลังรัสเซีย การล่วงละเมิดนั้นคุ้มค่าในรัสเซียของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมหาศาล แต่ทำลายพลังของออสเตรียฮังการีและบังคับเยอรมนีเพื่อให้กองกำลังสำคัญอยู่ด้านหน้าตะวันออก ย้อนกลับไปในเดือนสิงหาคม 2457 ญี่ปุ่นประกาศสงครามในประเทศเยอรมนี ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2457 ตุรกีเข้าร่วมด้านข้างของหน่วยขับเคลื่อนกลาง ด้วยการเริ่มต้นของสงครามอิตาลีสมาชิกของ Triple Union ประกาศความเป็นกลางบนพื้นฐานที่ประเทศเยอรมนีและ Austro-Hungary ถูกโจมตี แต่ในการเจรจาลับลอนดอนในเดือนมีนาคม - พฤษภาคม 2458 ประเทศของแอนตุกาสัญญาว่าจะตอบสนองการเรียกร้องอาณาเขตของอิตาลีในช่วงหลังสงครามสงบสุขหากอิตาลีปรากฏอยู่ข้างๆ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2458 อิตาลีประกาศสงครามแห่งออสเตรียฮังการีและวันที่ 28 สิงหาคม 2459 - เยอรมนี ที่ด้านหน้าตะวันตกอังกฤษประสบความพ่ายแพ้ในการต่อสู้ครั้งที่สองภายใต้ IPROM ที่นี่ในระหว่างการต่อสู้ต่อเนื่องในระหว่างเดือน (22 เมษายน - 25, 1915) ใช้อาวุธเคมีเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นก๊าซพิษ (คลอรีนฟอสเจินและต่อมาคือสปิต) เริ่มที่จะใช้ทั้งสองฝ่ายสงคราม รอยโรคเสร็จสมบูรณ์และการดำเนินงานของ Dardalandell Airborne ขนาดใหญ่ - การเดินทางทางเดินทางทะเลซึ่งติดตั้งประเทศ Entente ในต้นปี 2458 เพื่อที่จะพาคอนสแตนติโนเปิลเปิด Sprildren ของ Dardanelles และ Bosphorus เพื่อสื่อสารกับรัสเซียผ่านทะเลดำ นำตุรกีมาจากสงครามและดึงดูดรัฐบอลข่านไปที่ด้านข้างของพันธมิตร ในด้านหน้าตะวันออกภายในสิ้นปี 2458 กองทหารเยอรมันและออสโตร - ฮังการีแออัดชาวรัสเซียจากกาลิเซียเกือบทุกแห่งและมีอาณาเขตส่วนใหญ่ของโปแลนด์รัสเซีย แต่บังคับรัสเซียให้กับโลกที่แยกจากกันและล้มเหลว ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2458 บัลแกเรียประกาศสงครามของเซอร์เบียหลังจากนั้นอำนาจกลางพร้อมกับอัลลี่บอลข่านใหม่ข้ามเขตของเซอร์เบียมอนเตเนโกรและแอลเบเนีย จับโรมาเนียและติดปีกนกบอลข่านพวกเขาหันมาต่อต้านอิตาลี

สงครามบนทะเล การควบคุมของทะเลให้โอกาสกับอังกฤษได้อย่างอิสระย้ายกองกำลังและเทคนิคจากทุกส่วนของอาณาจักรไปยังฝรั่งเศส พวกเขายังคงเปิดการสื่อสารทางทะเลสำหรับเรือช้อปปิ้งในสหรัฐอเมริกา อาณานิคมของเยอรมันถูกจับและการค้าของชาวเยอรมันผ่านเส้นทางของกองทัพเรือหยุดลง โดยทั่วไปแล้วกองทัพเรือเยอรมัน - ยกเว้นใต้น้ำ - ถูกบล็อกในพอร์ตของมัน เพียง แต่เป็นครั้งคราว Flotillas ขนาดเล็กก็ออกไปโจมตีเมืองและการโจมตีของ British Seaside Cities บนเรือค้าพันธมิตร สำหรับสงครามทั้งหมดที่มีการต่อสู้ทางทะเลขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่เกิดขึ้นเมื่อกองทัพเรือเยอรมันออกมาสู่ทะเลเหนือและพบกับอังกฤษใกล้ชายฝั่งเดนมาร์กแห่งจุตแลนด์ Yutland Battle เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน 1916 นำไปสู่การสูญเสียอย่างหนักทั้งสองด้าน: เรือ 14 ลำที่หายไป 14 ลำ 6,800 คนฆ่านักโทษและบาดเจ็บ; ชาวเยอรมันที่ถือว่าตัวเองเป็นผู้ชนะ - เรือ 11 ลำและประมาณ 3100 คนเสียชีวิตและบาดเจ็บ อย่างไรก็ตามอังกฤษบังคับให้กองทัพเรือเยอรมันย้ายไปที่คิลล์ซึ่งถูกบล็อกจริง ๆ กองทัพเรือเยอรมันในทะเลเปิดไม่ปรากฏอีกต่อไปและผู้หญิงของทะเลยังคงเป็นสหราชอาณาจักร หลังจากทำตำแหน่งที่โดดเด่นในทะเลพันธมิตรค่อยๆตัดอำนาจกลางจากแหล่งวัตถุดิบและอาหารต่างประเทศ ตามกฎหมายระหว่างประเทศประเทศที่เป็นกลางเช่นสหรัฐอเมริกาสามารถขายสินค้าที่ไม่ได้พิจารณาว่า "การลักลอบขนทางทหาร" ประเทศที่เป็นกลางอื่น ๆ - เนเธอร์แลนด์หรือเดนมาร์กที่สามารถส่งมอบสินค้าเหล่านี้ไปยังประเทศเยอรมนี อย่างไรก็ตามประเทศสงครามมักจะไม่ได้เชื่อมโยงตนเองในการปฏิบัติตามบรรทัดฐานของกฎหมายระหว่างประเทศและสหราชอาณาจักรขยายรายการสินค้ามากขึ้นถือว่าเป็นการลักลอบขนสินค้าซึ่งพลาดอะไรผ่านยุ้งฉางในทะเลเหนือ ทะเลปิดล้อมบังคับให้เยอรมนีหันไปใช้มาตรการชี้ขาด กองเรือดำน้ำยังคงมีประสิทธิภาพเพียงอย่างเดียวต่อทะเลที่สามารถข้ามแบรนด์พื้นผิวที่รุกรานและให้ความร้อนกับเรือการค้าของประเทศที่เป็นกลางที่มีพันธมิตรที่ให้มา ทางแยกของประเทศ Entente ที่จะตำหนิชาวเยอรมันในการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศซึ่งจำเป็นต้องช่วยทีมและผู้โดยสารของเรือตอร์ปิโด เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2458 รัฐบาลเยอรมันประกาศน้ำรอบหมู่เกาะอังกฤษโดยเขตทหารและเตือนเกี่ยวกับอันตรายจากการเข้าสู่เรือของประเทศที่เป็นกลาง เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2458 เรือดำน้ำเยอรมันตอร์ปิโดและจมลงเรือกลไฟในมหาสมุทร "Lusitania" กับผู้โดยสารหลายร้อยคนบนเรือรวมถึงพลเมือง 115 คน ประธาน V.Vilson ทำการประท้วงสหรัฐอเมริกาและเยอรมนีแลกเปลี่ยนบันทึกการทูตที่คมชัด
Verden และ Somme เยอรมนีพร้อมที่จะไปรับสัมปทานทะเลและมองหาทางออกจากจุดจบของการกระทำบนบก ในเดือนเมษายนปี 1916 กองทหารอังกฤษได้รับความพ่ายแพ้อย่างจริงจังกับ Kut El-Amara ใน Mesopotamia ที่ 13,000 คนยอมจำนนต่อพวกเติร์ก ในทวีปประเทศเยอรมนีกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการดำเนินการที่น่ารังเกียจขนาดใหญ่ทางด้านตะวันตกซึ่งควรจะย้อนกลับเส้นทางของสงครามและบังคับให้ฝรั่งเศสถามเกี่ยวกับโลก ประเด็นสำคัญของการป้องกันของฝรั่งเศสคือวงป้อมปราการเก่า หลังจากที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วยพลังของการปอกเปลือกปืนใหญ่ของ 12 หน่วยงานเยอรมันในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2459 ถ่ายโอนไปยังความไม่พอใจ ชาวเยอรมันขยับช้าจนกระทั่งต้นเดือนกรกฎาคม แต่ไม่บรรลุเป้าหมาย Merden "เครื่องบดเนื้อ" อย่างชัดเจนไม่ได้แสดงให้เห็นถึงการคำนวณคำสั่งของเยอรมัน ของความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนปี 1916 มีการดำเนินงานบนแนวรบตะวันออกและตะวันตกเฉียงใต้ ในเดือนมีนาคมกองกำลังรัสเซียตามคำร้องขอของชาวอัลลีนได้ดำเนินการที่ทะเลสาบนอroชซึ่งส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการสู้รบในประเทศฝรั่งเศส คำสั่งของเยอรมันถูกบังคับให้หยุดการโจมตีของ Verden และถือ 0.5 ล้านคนในแนวรบด้านตะวันออกเพื่อถ่ายโอนส่วนอื่น ๆ ของกองหนุนทางตะวันออก ในตอนท้ายของพฤษภาคมปี 1916 คำสั่งศาลฎีกาของรัสเซียเริ่มโจมตีด้านหน้าทางตะวันตกเฉียงใต้ ในระหว่างการสู้รบภายใต้คำสั่งของ A.A BRUSYLOV ซึ่งเป็นความก้าวหน้าของกองทัพออสโตร - เยอรมันที่มีความลึก 80-120 กม. ถูกดำเนินการ ทหารของ Brusilov ครอบครองส่วนหนึ่งของ Galicia และ Bukovina เข้าสู่ Carpathians เป็นครั้งแรกในช่วงเวลาก่อนหน้าของสงครามตำแหน่งด้านหน้าถูกทำลาย หากความก้าวร้าวนี้ได้รับการสนับสนุนจากแนวรบอื่น ๆ มันจะอยู่เหนือภัยพิบัติสำหรับพลังกลาง เพื่อลดแรงกดดันให้กับ Verden เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 1916 พันธมิตรทำให้ Conrtudar บนแม่น้ำ Somme ใกล้ BAPP เป็นเวลาสี่เดือนจนถึงเดือนพฤศจิกายน - การโจมตีที่ไม่หยุดหย่อนได้ดำเนินการ ทหารฝรั่งเศส - ฝรั่งเศสสูญเสียตกลง 800,000 คนและไม่สามารถทะลุผ่านหน้าเยอรมันได้ ในที่สุดในเดือนธันวาคมคำสั่งของเยอรมันตัดสินใจที่จะหยุดการล่วงละเมิดซึ่งคุ้มค่ากับชีวิตของทหารเยอรมัน 300,000 นาย แคมเปญ 1916 ใช้ชีวิตมากกว่า 1 ล้านคน แต่ไม่ได้นำผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
พื้นฐานสำหรับการเจรจาสันติภาพ ในตอนต้นของศตวรรษที่ 20 วิธีการเปลี่ยนแปลงอย่างเต็มที่ในการทำสงคราม ความยาวของด้านหน้าเพิ่มขึ้นมากกองทัพต่อสู้ที่พรมแดนเสริมและขับรถจากสนามเพลาะปืนกลและปืนใหญ่เริ่มมีบทบาทอย่างมากในการต่อสู้ที่น่ารังเกียจ อาวุธชนิดใหม่ถูกนำไปใช้: รถถังสู้รบและเครื่องบินทิ้งระเบิดเรือดำน้ำ, ก๊าซที่หายใจไม่ออก, ระเบิดมือ ผู้อยู่อาศัยที่สิบสามของประเทศสงครามได้รับการระดมทุนและ 10% ของประชากรมีส่วนร่วมในการจัดหากองทัพ ในประเทศต่อสู้เพื่อชีวิตพลเรือนทั่วไปไม่มีที่ใด ๆ : ทุกอย่างเป็นผู้ใต้บังคับบัญชากับความพยายามไททานิคที่มุ่งมั่นที่จะรักษาเครื่องจักรทหาร ต้นทุนสงครามรวมรวมถึงการสูญเสียทรัพย์สินตามการประมาณการต่าง ๆ มาจาก $ 208 ถึง 359 พันล้านดอลลาร์ในตอนท้ายของปี 1916 ทั้งสองฝ่ายเบื่อสงครามและดูเหมือนว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมได้เริ่มสันติภาพ การเจรจาต่อรอง
ช่วงที่สอง.
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2459 อำนาจกลางยื่นอุทธรณ์ต่อสหรัฐอเมริกาด้วยคำขอโอนพันธมิตรโน้ตที่มีข้อเสนอสำหรับการเริ่มต้นของการเจรจาสันติภาพ Antena ปฏิเสธข้อเสนอนี้สงสัยว่ามันทำเพื่อทำลายพันธมิตร นอกจากนี้เธอไม่ต้องการพูดคุยเกี่ยวกับโลกที่จะไม่ให้การชำระเงินของการชดใช้และการรับรู้สิทธิของชาติในการกำหนดตนเอง ประธานาธิบดีวิลสันตัดสินใจที่จะเริ่มต้นการเจรจาสันติภาพและเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2459 กลายเป็นประเทศที่มีการร้องขอเพื่อระบุเงื่อนไขที่ยอมรับร่วมกันของโลก เยอรมนี 12 ธันวาคม 1916 เสนอให้ประชุมการประชุมสันติภาพ เจ้าหน้าที่พลเรือนของเยอรมนีเป็นที่ต้องการอย่างชัดเจนต่อโลก แต่พวกเขาถูกคัดค้านโดยทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งทั่วไป Ludendorf ผู้มีความมั่นใจในชัยชนะ พันธมิตรเป็นรูปธรรมเงื่อนไขของพวกเขา: การฟื้นฟูเบลเยียมเซอร์เบียและมอนเตเนโกร; การถอนทหารจากฝรั่งเศสรัสเซียและโรมาเนีย การชดใช้; ผลตอบแทนของฝรั่งเศส Alsace และ Lorraine; การปลดปล่อยของผู้คนรวมถึงชาวอิตาเลียน Polyakov, Chekhov, กำจัดการปรากฏตัวของตุรกีในยุโรป พันธมิตรไม่ไว้วางใจชาวเยอรมันดังนั้นจึงไม่เข้าใจความคิดของการเจรจาสันติภาพอย่างจริงจัง เยอรมนีตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2459 ในการประชุมสันติภาพพึ่งพาผลประโยชน์ของสถานการณ์ทางทหารของเขา กรณีสิ้นสุดลงด้วยความจริงที่ว่าพันธมิตรได้ลงนามในข้อตกลงลับที่ออกแบบมาเพื่อเอาชนะพลังกลาง ตามข้อตกลงเหล่านี้สหราชอาณาจักรอ้างว่าอาณานิคมของเยอรมันและส่วนหนึ่งของเปอร์เซีย ฝรั่งเศสควรได้รับ Alsace และ Lorraine เช่นเดียวกับการควบคุมการควบคุมที่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำไรน์; รัสเซียซื้อคอนสแตนติโนเปิล; อิตาลี - Trieste, ออสเตรียทิโรลส่วนใหญ่ของแอลเบเนีย; ทรัพย์สมบัติของตุรกีอยู่ภายใต้หัวข้อระหว่างพันธมิตรทั้งหมด
เข้าสู่สงครามสหรัฐ ในตอนต้นของสงครามความคิดเห็นของประชาชนในสหรัฐอเมริกาถูกแบ่งออก: บางคนดำเนินการอย่างเปิดเผยที่ด้านข้างของพันธมิตร; ตัวอย่างเช่นเช่นตัวอย่างเช่นชาวอเมริกันของแหล่งกำเนิดไอริชจูนศัตรูที่มีต่ออังกฤษและชาวอเมริกันที่มาจากเยอรมัน - สนับสนุนเยอรมนี เมื่อเวลาผ่านไปเจ้าหน้าที่ของรัฐและพลเมืองสามัญมีแนวโน้มที่จะเข้าข้าง Entente มากขึ้นเรื่อย ๆ หลายปัจจัยที่สนับสนุนสิ่งนี้และเหนือกว่าการโฆษณาชวนเชื่อของประเทศของ Entente และสงครามใต้น้ำของเยอรมนี ประธานาธิบดีวิลสัน 22 มกราคม พ.ศ. 2460 สรุปเงื่อนไขของโลกในวุฒิสภาสำหรับสหรัฐอเมริกา สิ่งสำคัญจากพวกเขาถูกลดลงสู่ความต้องการของ "โลกที่ไม่มีชัยติกา", I.e. โดยไม่มีการอภิปรายและการมีส่วนร่วม คนอื่น ๆ รวมถึงความเท่าเทียมกันของประชาชนสิทธิในการตัดสินใจด้วยตนเองและการเป็นตัวแทนเสรีภาพของทะเลและการค้าการลดอาวุธการปฏิเสธระบบพันธมิตรคู่แข่ง หากคุณสรุปโลกบนพื้นฐานของหลักการเหล่านี้วิลสันแย้งแล้วคุณสามารถสร้างองค์กรระดับโลกของรัฐที่รับประกันความปลอดภัยสำหรับทุกคน 31 มกราคม 2460 รัฐบาลเยอรมันประกาศการเริ่มต้นใหม่ของสงครามใต้น้ำที่ไม่ จำกัด เพื่อที่จะละเมิดการสื่อสารของศัตรู เรือดำน้ำถูกบล็อกบรรทัด Entertencea และใส่พันธมิตรในตำแหน่งที่ยากมาก ในบรรดาชาวอเมริกันเพิ่มความเป็นศัตรูกับเยอรมนีตั้งแต่การปิดล้อมของยุโรปจากการสร้างปัญหาทางตะวันตกของเวสต์สไทรพอดีส์และสำหรับสหรัฐอเมริกา ในกรณีที่มีชัยชนะเยอรมนีสามารถควบคุมมหาสมุทรแอตแลนติกได้ พร้อมกับสถานการณ์ที่ทำเครื่องหมายไว้ในสงครามที่ด้านข้างของพันธมิตรของสหรัฐแรงจูงใจอื่น ๆ กำลังผลักดัน ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเกี่ยวข้องโดยตรงกับประเทศ Entente เนื่องจากคำสั่งทางทหารนำไปสู่การเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมอเมริกัน ในปี 1916 จิตวิญญาณของการรับประกันกระตุ้นแผนการพัฒนาโครงการฝึกอบรมการต่อสู้ อารมณ์แปรปรวนของอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้นมากขึ้นหลังจากการตีพิมพ์ในวันที่ 1 มีนาคม 2460 ของเงินฝากลับของ Cimmerman ของวันที่ 16 มกราคม 1917 สกัดกั้นการสำรวจของอังกฤษและโอนไปยังวิลสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมัน A. Simmerman เสนอให้เม็กซิโกไปยังรัฐเท็กซัสนิวเม็กซิโกและแอริโซนาถ้าเธอสนับสนุนการกระทำของเยอรมนีเพื่อตอบสนองต่อสหรัฐฯเข้าร่วมสงครามในด้าน Entente ในช่วงต้นเดือนเมษายนอารมณ์ต่อต้านแกรนด์ในสหรัฐอเมริกาถึงความร้อนที่สภาคองเกรส 6 เมษายน 2460 โหวตให้ประกาศสงครามแห่งเยอรมนี
ทางออกของรัสเซียจากสงคราม ในเดือนกุมภาพันธ์ 1917 การปฏิวัติเกิดขึ้นในรัสเซีย ซาร์นิโคลัสที่สองถูกบังคับให้ยกเลิกบัลลังก์ รัฐบาลเฉพาะกาล (มีนาคม - พฤศจิกายน 2460) ไม่สามารถนำไปสู่การสู้รบที่ด้านหน้าอีกต่อไปเนื่องจากประชากรที่เหนื่อยล้าอย่างมากในสงคราม เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 1917, Bolsheviks ซึ่งมีอำนาจในเดือนพฤศจิกายน 1917 ราคาของสัมปทานขนาดใหญ่ลงนามในข้อตกลงการจราจรด้วยพลังกลาง สามเดือน, 3 มีนาคม 1918 สนธิสัญญาสันติภาพของ Brest-Lithuanian ได้ข้อสรุป รัสเซียปฏิเสธสิทธิ์ของเขาในโปแลนด์, เอสโตเนีย, ยูเครน, ส่วนหนึ่งของเบลารุส, ลัตเวีย, transcaucasia และฟินแลนด์ Ardagan, Kars และ Batum ย้ายไปที่ตุรกี; สัมปทานขนาดใหญ่ดำเนินการโดยเยอรมนีและออสเตรีย โดยรวมแล้วรัสเซียแพ้โอเค 1 ล้านตารางเมตร กม. นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องจ่ายเยอรมนีในจำนวน 6 พันล้านเกรด
ช่วงเวลาที่สาม
ชาวเยอรมันมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการมองโลกในแง่ดี ความเป็นผู้นำของเยอรมันใช้การอ่อนตัวลงของรัสเซียและจากนั้นก็ออกไปจากสงครามเพื่อเติมเต็มทรัพยากร ตอนนี้มันสามารถถ่ายโอนกองทัพตะวันออกไปทางทิศตะวันตกและมุ่งเน้นไปที่กองทหารในทิศทางหลักของการรุกราน พันธมิตรไม่รู้ว่าการระเบิดจะตามที่จะถูกบังคับให้เสริมสร้างตำแหน่งของพวกเขาไปทั่วด้านหน้า การดูแลอเมริกันล่าช้า ในฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรอารมณ์ที่ได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นด้วยกำลังคุกคาม 24 ตุลาคม 2460 กองทัพออสเตรีย - ฮังการีทะลุหน้าอิตาลีภายใต้ Kaorpetto และเอาชนะกองทัพอิตาลี
ที่น่ารังเกียจของเยอรมัน 2461 Misty ในเช้าวันที่ 21 มีนาคม 1918 เยอรมันก่อให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ในตำแหน่งภาษาอังกฤษใกล้กับ Saint Cantna ชาวอังกฤษถูกบังคับให้ถอยไปที่ Amiena เกือบและการสูญเสียของเขาขู่ว่าจะทำลายด้านหน้าของอังกฤษ - ฝรั่งเศส ชะตากรรมของผักคะน้าและ buloni แขวนอยู่ในสมดุล ในวันที่ 27 พฤษภาคมเยอรมันได้เปิดตัวที่น่ารังเกียจต่อชาวฝรั่งเศสในภาคใต้โยนพวกเขาไปที่ Chateau-Tierry สถานการณ์ถูกทำซ้ำ 2457: เยอรมันออกไปที่แม่น้ำ Marne เพียง 60 กม. จากปารีส อย่างไรก็ตามความก้าวร้าวนั้นคุ้มค่ากับการสูญเสียของเยอรมนี - ทั้งมนุษย์และวัสดุ ทหารเยอรมันหมดแรงระบบของอุปทานของพวกเขาจะคลาย พันธมิตรจัดการเพื่อต่อต้านเรือดำน้ำเยอรมันสร้างระบบป้องกันขบวนและต่อต้านเรือดำน้ำ ในเวลาเดียวกันการปิดล้อมของอำนาจกลางถูกดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพว่าการขาดอาหารเริ่มรู้สึกถึงความรู้สึกในออสเตรียและเยอรมนี ในไม่ช้าความช่วยเหลือของชาวอเมริกันที่รอคอยมานานเริ่มมาถึงฝรั่งเศส พอร์ตจากบอร์โดซ์เพื่อเบรสต์เต็มไปด้วยกองทัพอเมริกัน ในช่วงเริ่มต้นของฤดูร้อนปี 1918 ทหารอเมริกันประมาณ 1 ล้านคนลงจอดในฝรั่งเศส ในวันที่ 15 กรกฎาคม 1918 ชาวเยอรมันใช้ความพยายามครั้งสุดท้ายของการพัฒนาที่ Chateau Tierry การต่อสู้ที่เด็ดขาดครั้งที่สองบน Marne แฉ ในกรณีที่มีการพัฒนาฝรั่งเศสจะต้องออกจากแร็มส์ซึ่งในทางกลับกันอาจนำไปสู่การถอยพันธมิตรทั่วด้านหน้า ในชั่วโมงแรกของการก้าวร้าวกองทัพเยอรมันขยับไปข้างหน้า แต่ไม่เร็วเท่าที่คาดไว้
การก้าวร้าวครั้งสุดท้ายของพันธมิตร 18 กรกฎาคม 1918 การตีโต้ของกองทัพอเมริกันและฝรั่งเศสเริ่มต้นด้วยจุดประสงค์ของแรงกดดันต่อ Chateau-Thierry ในตอนแรกพวกเขากำลังเคลื่อนไหวอย่างหนัก แต่ในวันที่ 2 สิงหาคม Susson ได้รับ ในการต่อสู้ใกล้ Amiens ในวันที่ 8 สิงหาคมกองทหารเยอรมันประสบความพ่ายแพ้อย่างรุนแรงและสิ่งนี้ทำลายสถานะทางศีลธรรมของพวกเขา ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเยอรมันเจ้าชายฟอน Gertling เชื่อว่าภายในเดือนกันยายนพันธมิตรจะถามโลก "เราหวังที่จะพาปารีสภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม" เขาจำได้ "ดังนั้นเราจึงคิดว่าในวันที่สิบห้าของเดือนกรกฎาคมและแม้แต่ผู้มองโลกในแง่ดีที่สำคัญที่สุดในหมู่พวกเราตระหนักว่าทุกอย่างหายไป" ทหารบางคนเชื่อว่า Kaiser Wilhelm II ที่สงครามหายไป แต่ Ludendorf ปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ การก้าวร้าวของพันธมิตรเริ่มขึ้นในแนวรบอื่น ๆ ในวันที่ 20-26 มิถุนายนกองทัพออสเตรีย - ฮังการีถูกทิ้งไว้เบื้องหลังแม่น้ำ Pialation การสูญเสียของพวกเขามีจำนวน 150,000 คน ความไม่สงบของชาติพันธุ์ที่เปล่งประกายในออสเตรีย - ฮังการี - ไม่ได้มีอิทธิพลของพันธมิตรที่สนับสนุนการละทิ้ง Slavs ของ Polyakov, Chekhov และ South Slavs อำนาจกลางรวบรวมซากของกองกำลังเพื่อให้การรุกรานที่คาดหวังของฮังการี เส้นทางสู่เยอรมนีเปิดขึ้น ปัจจัยสำคัญของการเกิดขึ้นของถังเหล็กและปลอกกระสุนปืนใหญ่ขนาดใหญ่ ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2461 การโจมตีในตำแหน่งที่สำคัญของเยอรมันเพิ่มขึ้น ในบันทึกความทรงจำของเขา Ludendorf เรียกว่า 8 สิงหาคม - จุดเริ่มต้นของการต่อสู้ภายใต้ Amieth - "Black Day สำหรับกองทัพเยอรมัน" หน้าเยอรมันเสีย: แผนกทั้งหมดยอมจำนนเกือบโดยไม่ต้องต่อสู้ ในตอนท้ายของเดือนกันยายนแม้แต่ Ludendorf ก็พร้อมที่จะยอมแพ้ หลังจากการโจมตีของ Antena กันยายนใน Solonik Front ในวันที่ 29 กันยายนบัลแกเรียลงนามในการพักรบ ในหนึ่งเดือนตุรกียอมจำนนและวันที่ 3 พฤศจิกายน - ออสเตรีย - ฮังการี สำหรับการเจรจาต่อรองในโลกในประเทศเยอรมนีรัฐบาลระดับปานกลางถูกก่อตั้งขึ้นโดย Prince Max Badensky ซึ่งในวันที่ 5 ตุลาคม 1918 เสนอประธานาธิบดีวิลสันเพื่อเริ่มกระบวนการเจรจาต่อรอง ในสัปดาห์ที่ผ่านมาของเดือนตุลาคมกองทัพอิตาลีรับบทเป็นความก้าวร้าวโดยทั่วไปกับออสเตรีย - ฮังการี ภายในวันที่ 30 ตุลาคมความต้านทานของกองทัพออสเตรียเสีย ยานเกราะทหารม้าและเกราะของชาวอิตาเลียนทำให้การจู่โจมในด้านหลังของศัตรูและจับสำนักงานใหญ่ของออสเตรียใน Vittorio-Veneto เมืองให้ชื่อการต่อสู้ทั้งหมด ในวันที่ 27 ตุลาคมจักรพรรดิคาร์ลฉันได้รับการแปลงสภาพการจราจรและเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2461 ตกลงที่จะสรุปความสงบสุขในทุกเงื่อนไข
การปฏิวัติในประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม Kaiser แอบออกจากกรุงเบอร์ลินและไปที่สำนักงานใหญ่ทั่วไปรู้สึกปลอดภัยภายใต้การคุ้มครองของกองทัพ ในวันเดียวกันในท่าเรือคีลทีมเรือรบสองแห่งออกมาจากการเชื่อฟังและปฏิเสธที่จะเข้าไปในทะเลเพื่อทำภารกิจการต่อสู้ ภายในวันที่ 4 พฤศจิกายน Kiel ผ่านไปภายใต้การควบคุมของผู้กบฏกบฏ 40,000 คนติดอาวุธตั้งใจที่จะสร้างในภาคเหนือของเยอรมนีคำแนะนำของทหารและเจ้าหน้าที่กะลาสีในตัวอย่างของรัสเซีย ภายในวันที่ 6 พฤศจิกายนกบฏได้รับอำนาจในLübeck, Hamburg และ Bremen ในขณะเดียวกันพันธมิตรผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพันธมิตรฟอร์ฟโฟร์กล่าวว่าเขาพร้อมที่จะยอมรับตัวแทนของรัฐบาลเยอรมันและหารือเกี่ยวกับเงื่อนไขเครื่องปรับอากาศกับพวกเขา Kaizer รายงานว่ากองทัพเขาไม่เชื่อฟังอีกต่อไป ในวันที่ 9 พฤศจิกายนเขาละทิ้งบัลลังก์สาธารณรัฐได้รับการประกาศ ในวันถัดไปจักรพรรดิแห่งเยอรมนีหนีไปเนเธอร์แลนด์ซึ่งเขาอาศัยอยู่ในการถูกเนรเทศจนกระทั่งการตายของเขา (ใจ 2484) 11 พฤศจิกายนที่สถานี Retund ใน Compi Wood (ฝรั่งเศส) คณะผู้แทนเยอรมันได้ลงนามในการสู้รบ ชาวเยอรมันได้รับการกำหนดเป็นเวลาสองสัปดาห์ในการปล่อยดินแดนที่ถูกยึดครองรวมถึง Alsace และ Lorraine, ฝั่งซ้ายของแม่น้ำไรน์และความชุกของป้อมปราการในไมนซ์, Koblenz และโคโลญ; ติดตั้งบนฝั่งขวาของโซน Neutral Rhine; ถ่ายโอนไปยังพันธมิตร 5,000 อาวุธหนักและสนามปืนกล 25,000 คันเครื่องบิน 1,700 ลำตู้รถไฟขนาด 5,000 คันรถยนต์รถไฟ 150,000 คันรถยนต์ 5,000 คัน ฟรีนักโทษทุกคนฟรีทันที กองกำลังเรือควรจะส่งเรือดำน้ำทั้งหมดและเกือบทุกกองเรือรบและส่งคืนสนามซื้อขายพันธมิตรทั้งหมดที่จับโดยเยอรมนี บทบัญญัติทางการเมืองของสัญญาที่มองเห็นการบอกเลิกสัญญาพลเรือน Brest-Lithuanian และบูคาเรสต์; การเงิน - การชำระเงินของการชดใช้การทำลายล้างและการคืนค่า ชาวเยอรมันพยายามที่จะสรุปการสู้รบตาม "คะแนนที่สิบสี่" วิลสันซึ่งตามที่พวกเขาเชื่อว่าสามารถทำหน้าที่เป็นพื้นฐานเบื้องต้นของ "โลกที่ไม่มีชัยชนะ" เงื่อนไขของการสู้รบจำเป็นต้องยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข พันธมิตรกำหนดเงื่อนไขสำหรับการแกล้งเยอรมนี
บทสรุปของโลก การประชุมที่สงบสุขเกิดขึ้นในปี 1919 ในปารีส; ในระหว่างการประชุมข้อตกลงเกี่ยวกับสนธิสัญญาสันติภาพห้าแห่ง หลังจากเสร็จสิ้นมันลงนามแล้ว: 1) สนธิสัญญาสันติภาพแวร์ซายกับเยอรมนีเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2462 2) สนธิสัญญาสันติภาพ Saint-Germene กับออสเตรียเมื่อวันที่ 10 กันยายน 1919; 3) สนธิสัญญาสันติภาพทางทะเลกับบัลแกเรียเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2462; 4) สนธิสัญญา Trianon Mirny กับฮังการีในวันที่ 4 มิถุนายน 1920; 5) Sevrian Peace Treaty กับตุรกีเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 1920 ต่อมาในสนธิสัญญาโลซานในวันที่ 24 กรกฎาคม 1923 การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับข้อตกลง SEVRA ที่การประชุมสันติภาพในรัฐปารีส 32 รัฐถูกนำเสนอ คณะผู้แทนแต่ละคนมีสำนักงานใหญ่ของผู้เชี่ยวชาญที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางภูมิศาสตร์ประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจของประเทศเหล่านั้นที่มีการตัดสินใจ หลังจากที่ออร์แลนโดออกมาจากสภาภายในไม่พอใจกับปัญหาของดินแดนในเอเดรียติกสถาปนิกหลักของโลกหลังสงครามกลายเป็น "Troika ใหญ่" - วิลสันมีความงดงามและลอยด์จอร์จ วิลสันประนีประนอมในรายการสำคัญหลายรายการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายหลัก - การสร้างลีกแห่งชาติ เขาเห็นด้วยกับการปลดอาวุธเฉพาะอำนาจกลางแม้ว่าเขาจะยืนยันในการปลดอาวุธสากล จำนวนกองทัพเยอรมันมี จำกัด และไม่เกิน 115,000 คน การรับราชการทหารสากลถูกยกเลิก; กองทัพเยอรมันจะต้องแล้วเสร็จจากอาสาสมัครด้วยอายุการใช้งาน 12 ปีสำหรับทหารและ 45 ปีสำหรับเจ้าหน้าที่ ห้ามมิให้เยอรมนีมีเครื่องบินรบและเรือดำน้ำ เงื่อนไขที่คล้ายกันถูกเก็บไว้ในสนธิสัญญาสันติภาพที่ลงนามกับออสเตรียฮังการีและบัลแกเรีย มีการเปิดตัวการสนทนาที่ดุเดือดระหว่าง Clelembo และ Wilson เกี่ยวกับสถานะของฝั่งซ้ายของแม่น้ำไรน์ ภาษาฝรั่งเศสเพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัยที่มีจุดประสงค์เพื่อวางพื้นที่นี้ด้วยเหมืองถ่านหินที่ทรงพลังและอุตสาหกรรมและสร้างรัฐแม่น้ำไรน์อิสระ แผนการของฝรั่งเศสขัดแย้งกับข้อเสนอของวิลสันกับ Annecons และการตัดสินใจด้วยตนเองของประเทศ การประนีประนอมประสบความสำเร็จหลังจากวิลสันตกลงที่จะลงนามในสนธิสัญญาทหารฟรีกับฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรตามที่สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรมีหน้าที่สนับสนุนฝรั่งเศสในกรณีที่การโจมตีของเยอรมัน การตัดสินใจต่อไปนี้ทำ: ฝั่งซ้ายของแม่น้ำไรน์และแถบ 50 กิโลเมตรบนฝั่งขวาถูก demilitarized แต่ยังคงอยู่ในเยอรมนีและภายใต้อำนาจอธิปไตยของมัน พันธมิตรใช้ไอเท็มจำนวนมากของโซนนี้เป็นระยะเวลา 15 ปี ถ่านหินที่รู้จักกันในชื่อ Saari Pool ยังผ่านไปสู่ความครอบครองของฝรั่งเศสเป็นเวลา 15 ปี ภูมิภาค Saari นั้นมาภายใต้สำนักงานคณะกรรมาธิการลีกของประเทศ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลา 15 ปี Plebiscite จะได้รับความนิยมจากการเป็นพันธมิตรของรัฐในดินแดนนี้ อิตาลีไปที่ Trentino, Trieste และส่วนใหญ่ของ Istria แต่ไม่ใช่เกาะ Fiume อย่างไรก็ตามพวกหัวรุนแรงชาวอิตาลีจับ Fiume อิตาลีและรัฐยูโกสลาเวียที่สร้างขึ้นใหม่ได้รับสิทธิในการแก้ไขปัญหาของดินแดนที่ถกเถียงกัน ตามข้อตกลง Versailles ประเทศเยอรมนีถูกกีดกันจากการครอบครองอาณานิคมของเขา สหราชอาณาจักรได้รับชาวแอฟริกาตะวันออกของเยอรมันและภาคตะวันตกของเยอรมันแคเมอรูนและ Tangan Dominion - สหภาพแอฟริกาใต้, ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ - แอฟริกาตะวันตกเฉียงใต้ถูกโอนไปยังภูมิภาคทางตะวันออกเฉียงเหนือของนิวกินีกับหมู่เกาะซามัวที่อยู่ติดกัน ฝรั่งเศสไปส่วนใหญ่ของเยอรมันและตะวันออกของแคเมอรูน ญี่ปุ่นได้รับมาร์แชลมาร์แชลมาเรียนาและหมู่เกาะแคโรไลน์ในแปซิฟิกและท่าเรือชิงเต่าในประเทศจีน สนธิสัญญาลับในหมู่ผู้ชนะของผู้นำยังถือว่าส่วนของจักรวรรดิออตโตมัน แต่หลังจากการจลาจลของ Turk นำโดย Mustafa Kamalim Allies ตกลงที่จะแก้ไขข้อกำหนดของพวกเขา ข้อตกลง Lausanne ใหม่ยกเลิกสนธิสัญญา SEVRA และอนุญาตให้ตุรกีออกจาก Eastern Frace ตุรกีกลับไปที่ตัวเองอาร์เมเนีย ซีเรียย้ายไปฝรั่งเศส สหราชอาณาจักรได้รับ Mesopotamia, Transice และปาเลสไตน์; หมู่เกาะ Dodecanese ในทะเล Aegean ถูกย้ายไปอิตาลี ดินแดนอาหรับของ Hijaz บนชายฝั่งทะเลแดงต้องได้รับอิสรภาพ การละเมิดหลักการของการกำหนดตัวเองของประชาชาติทำให้เกิดความขัดแย้งของวิลสันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาประท้วงอย่างมากต่อการถ่ายโอนของญี่ปุ่นของพอร์ตจีนชิงเต่า ญี่ปุ่นตกลงที่จะคืนอาณาเขตของจีนนี้ในอนาคตและปฏิบัติตามสัญญาของเขา ที่ปรึกษาของวิลสันเสนอแทนการถ่ายโอนอาณานิคมที่แท้จริงให้กับเจ้าของใหม่เพื่อให้พวกเขาจัดการพวกเขาในฐานะผู้พิทักษ์แห่งสันนิบาตแห่งชาติ ดินแดนดังกล่าวถูกเรียกว่า "SUNGANDAL" แม้ว่า Lloyd George และ Wilson คัดค้านบทลงโทษสำหรับความเสียหายที่ก่อให้เกิดการต่อสู้ในเรื่องนี้จบลงด้วยชัยชนะของฝั่งฝรั่งเศส เยอรมนีมีการชดใช้; คำถามที่ควรรวมอยู่ในรายการของการทำลายที่ยื่นต่อการอภิปรายในระยะยาว ในตอนแรกจำนวนที่แน่นอนไม่ปรากฏเฉพาะในปี 1921 มันถูกกำหนด - 152 พันล้านแบรนด์ (33 พันล้านดอลลาร์); ในอนาคตจำนวนนี้ลดลง หลักการของการกำหนดตนเองของประเทศกลายเป็นกุญแจสำคัญต่อผู้คนจำนวนมากที่นำเสนอในการประชุมสันติภาพ โปแลนด์ได้รับการบูรณะ มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับงานในการกำหนดพรมแดน ความสำคัญเป็นพิเศษคือการส่งไปยังเธอที่เรียกว่า "ทางเดินโปแลนด์" ซึ่งทำให้ประเทศเข้าสู่ทะเลบอลติกแยกปรัสเซียตะวันออกออกจากส่วนที่เหลือของเยอรมนี ในภูมิภาคบอลติกรัฐอิสระใหม่ได้โผล่ออกมา: ลิทัวเนียลัตเวียเอสโตเนียและฟินแลนด์ เมื่อถึงเวลาของการประชุมการประชุมกษัตริย์ออสเตรีย - ฮังการีก็หยุดอยู่แล้วออสเตรียเชโกสโลวะเกียฮังการียูโกสลาเวียและโรมาเนียโผล่ออกมาในสถานที่ของเธอ ขอบเขตระหว่างรัฐเหล่านี้เป็นที่ถกเถียงกัน ปัญหาเป็นเรื่องยากเนื่องจากการตั้งถิ่นฐานที่หลากหลายของประเทศต่าง ๆ เมื่อสร้างเขตแดนของรัฐเช็กผลประโยชน์ของสโลวักได้รับผลกระทบ โรมาเนียเพิ่มอาณาเขตเป็นสองเท่าเนื่องจากทรานซิลวาเนียบัลแกเรียและฮังการีดินแดน ยูโกสลาเวียถูกสร้างขึ้นจากอาณาจักรเก่าของเซอร์เบียและมอนเตเนโกรส่วนของบัลแกเรียและโครเอเชียบอสเนียเฮอร์เซโกวีนาและบาสเนียเป็นส่วนหนึ่งของ Timisoare ออสเตรียยังคงเป็นรัฐเล็ก ๆ ที่มีประชากร 6.5 ล้านชาวออสเตรียชาวออสเตรียซึ่งเป็นอันดับสามที่อาศัยอยู่ในกรุงเวียนนาที่สูงเกินจริง ประชากรของฮังการีลดลงอย่างมากและมีจำนวนประมาณ 8 ล้านคน ในการประชุมปารีสการต่อสู้ที่ดื้อรั้นเป็นพิเศษได้ดำเนินการรอบแนวคิดในการสร้างลีกแห่งชาติ ตามแผนของ Wilson นายพลยา. Smets ลอร์ด R. Sille และคนที่มีใจเดียวกันของพวกเขาลีกแห่งชาติควรได้รับการรับประกันความปลอดภัยสำหรับทุกประเทศ ในที่สุดกฎบัตรของลีกถูกนำมาใช้และหลังจากการอภิปรายเป็นเวลานานสี่กลุ่มทำงานได้ก่อตั้งขึ้น: การชุมนุมสภาลีกแห่งชาติสำนักเลขาธิการและหอการค้าถาวรของความยุติธรรมระหว่างประเทศ League of Nations จัดตั้งกลไกที่ประเทศสมาชิกสามารถใช้เพื่อป้องกันสงคราม นอกจากนี้ยังสร้างค่าคอมมิชชั่นต่าง ๆ สำหรับการแก้ปัญหาอื่น ๆ
ดูลีกแห่งชาติ ข้อตกลงของประชาชาติแสดงให้เห็นว่าส่วนหนึ่งของข้อตกลงแวร์ซายซึ่งเสนอให้ลงชื่อและเยอรมนี แต่คณะผู้แทนชาวเยอรมันปฏิเสธที่จะใส่ลายเซ็นภายใต้บริเวณที่ข้อตกลงไม่สอดคล้องกับ "คะแนนที่สิบสี่" ของวิลสัน ในตอนท้ายของประเทศเยอรมนีได้รับการยอมรับในสัญญาในวันที่ 23 มิถุนายน 2462 การลงนามที่ได้รับการตกแต่งอย่างมากเกิดขึ้นห้าวันต่อมาในพระราชวังแวร์ซายซึ่งในปี 1871 บิสมาร์กในชัยชนะฝีรานในสงครามฟรังโก - ปรัสเซียนประกาศการสร้างเยอรมัน จักรวรรดิ
วรรณคดี
ประวัติความเป็นมาของสงครามโลกครั้งที่หนึ่งใน 2 TT M. , 1975 Ignatiev A.V รัสเซียในสงครามจักรวรรดินิยมของศตวรรษที่ XX ต้น รัสเซีย, สหภาพโซเวียตและความขัดแย้งระหว่างประเทศของครึ่งแรกของศตวรรษที่ XX M. , 1989 ถึงวันครบรอบ 75 ปีของจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง M. , 1990 Pisarev Yu.A. ความลับของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง รัสเซียและเซอร์เบียในปี 2457-2458 M. , 1990 Kudrina Yu.v. หันไปหาต้นกำเนิดของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง วิธีที่จะปลอดภัย M. , 1994 สงครามโลกครั้งที่สอง: ปัญหาการอภิปรายของประวัติศาสตร์ M. , 1994 สงครามโลกครั้งที่สอง: หน้าประวัติศาสตร์ Chernivtsi, 1994 Basyshev S.V. , Sergen S.V สงครามโลกครั้งที่สองและโอกาสในการพัฒนาสังคมของรัสเซีย Komsomolsk-on-Amur, 1995 สงครามโลกครั้งที่สอง: ศตวรรษอารัมภบท M. , 1998
วิกิพีเดีย

เบอร์ลินลอนดอนปารีสต้องการเริ่มสงครามครั้งใหญ่ในยุโรปเวียนนาไม่ได้ต่อต้านความพ่ายแพ้ของเซอร์เบียแม้ว่าสงครามแพน - ยุโรปไม่ต้องการ เหตุผลในการทำสงครามที่ผู้สมรู้ร่วมคิดของเซอร์เบียซึ่งยังต้องการสงครามซึ่งจะทำลายจักรวรรดิ "การเย็บปะติดปะต่อกัน" Austro-Hungarian และได้รับอนุญาตให้ดำเนินการตามแผนการสร้าง "เซอร์เบียที่ยิ่งใหญ่"

28 มิถุนายน 1914 ในซาราเยโว (บอสเนีย) ผู้ก่อการร้ายฆ่าทายาทเพื่อบัลลังก์ออสโตร - ฮังการี Franz Ferdinand และ Sophia ภรรยาของเขา ที่น่าสนใจกระทรวงต่างประเทศของรัสเซียและนายกรัฐมนตรีเซอร์เบีย PASICH ได้รับข้อความเกี่ยวกับช่องทางเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของความพยายามและพยายามเตือนหลอดเลือดดำ Pashich เตือนผ่าน Serb Messenger ในกรุงเวียนนาและรัสเซียผ่านโรมาเนีย

ในกรุงเบอร์ลินพวกเขาตัดสินใจว่ามันเป็นเหตุผลที่ยอดเยี่ยมในการเริ่มสงคราม Kaiser Wilhelm II ที่ค้นพบเกี่ยวกับการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในการเฉลิมฉลอง "Fleet Week" ใน Kiel ในสาขารายงานที่เขียนว่า: "ตอนนี้หรือไม่เคย" (จักรพรรดิเป็นคนรักของวลี "ประวัติศาสตร์" ที่ดัง) และตอนนี้มู่เล่ที่ซ่อนอยู่ของสงครามเริ่มผ่อนคลาย แม้ว่าชาวยุโรปส่วนใหญ่เชื่อว่าเหตุการณ์นี้เช่นเดียวกับจำนวนมากก่อนหน้านี้ (เช่นวิกฤตโมร็อกโกสองครั้งสงครามบอลข่านสองแห่ง) จะไม่กลายเป็นผู้ต้องขังสงครามโลกครั้งที่ นอกจากนี้ผู้ก่อการร้ายเป็นวิชาออสเตรียไม่ใช่เซอร์เบีย ควรสังเกตว่าสังคมยุโรปของจุดเริ่มต้นของศตวรรษที่ 20 ส่วนใหญ่มีความสงบและไม่เชื่อในความเป็นไปได้ของสงครามครั้งใหญ่เชื่อว่าผู้คนมี "อารยธรรม" เพื่อแก้ปัญหาการโต้เถียงของสงครามสำหรับเรื่องนี้ มีเครื่องมือทางการเมืองและการทูตเพียงความขัดแย้งในท้องถิ่นเท่านั้นที่เป็นไปได้

ในกรุงเวียนนาเหตุผลของความพ่ายแพ้ของเซอร์เบียกำลังมองหาเหตุผลสำหรับความพ่ายแพ้ของเซอร์เบียซึ่งถือเป็นภัยคุกคามหลักของจักรวรรดิเครื่องยนต์ "Panzlavan Politics" จริงสถานการณ์ขึ้นอยู่กับการสนับสนุนของเยอรมนี ถ้าเบอร์ลินกดรัสเซียและเขาจะล่าถอยจากนั้นสงครามออสเตรีย - เซอร์เบียก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในระหว่างการเจรจาในกรุงเบอร์ลิน 5-6 กรกฎาคมไกเซอร์เยอรมันมั่นใจในด้านออสเตรียในการสนับสนุนอย่างเต็มที่ ชาวเยอรมันได้ติดต่อกับอารมณ์ของอังกฤษ - เอกอัครราชทูตชาวเยอรมันได้แจ้งหัวหน้าของกระทรวงต่างประเทศของสหราชอาณาจักร Eduardo Grey ว่าเยอรมนี "การใช้ความอ่อนแอของรัสเซียพิจารณาว่าจำเป็นต้องยับยั้งออสเตรีย - ฮังการี" สีเทาออกจากการตอบสนองโดยตรงและชาวเยอรมันนับว่าอังกฤษจะยังคงอยู่ข้างกัน นักวิจัยหลายคนเชื่อว่าในทางนี้ลอนดอนผลักดันเยอรมนีไปสู่สงครามตำแหน่งที่มั่นคงของสหราชอาณาจักรจะหยุดยั้งชาวเยอรมัน รัสเซีย, เกรย์รายงานว่า "อังกฤษจะครอบครองตำแหน่งที่เอื้ออำนวยต่อรัสเซีย" ชาวเยอรมันครั้งที่ 9 บอกใบถึงชาวอิตาเลียนว่าถ้ากรุงโรมมีตำแหน่งที่ดีสำหรับพลังกลางจากนั้นอิตาลีก็สามารถรับ Trieste และ Trentino ออสเตรียได้ แต่ชาวอิตาเลียนออกจากการตอบสนองโดยตรงและในท้ายที่สุดจนถึงปี 1915 พวกเขาซื้อขายรอ

เติร์กก็ขับรถออกมาเริ่มมองหาสคริปต์ที่ทำกำไรได้มากที่สุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทะเล Ahmed Gemal Pasha เยี่ยมชมปารีสเขาเป็นผู้สนับสนุนของสหภาพกับฝรั่งเศส รัฐมนตรีทหาร Ismail Enver Pasha เยี่ยมชมกรุงเบอร์ลิน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายใน Mehmed Talaat Pasha ออกจาก St. Petersburg เป็นผลให้หลักสูตรที่เหมาะสมชนะ

ในกรุงเวียนนาในเวลานี้พวกเขาขึ้นมากับคำขาดของเซอร์เบียและพวกเขาพยายามที่จะรวมรายการดังกล่าวว่า Serbs ไม่สามารถยอมรับได้ 14 กรกฎาคมข้อความได้รับการอนุมัติและวันที่ 23 ถูกส่งมอบให้กับ Serbam คำตอบนั้นจำเป็นต้องให้ภายใน 48 ชั่วโมง Ultimatum มีความต้องการที่คมชัดมาก จาก Serbs เรียกร้องให้ห้ามตีพิมพ์สิ่งพิมพ์ซึ่งส่งเสริมความเกลียดชังของออสเตรีย - ฮังการีและละเมิดความสามัคคีดินแดน ห้ามไม่ให้สังคม "คนโฆ์วินใหญ่ของประชาชน" และสหภาพแรงงานและการเคลื่อนไหวที่คล้ายคลึงกันและการเคลื่อนไหวที่นำไปสู่การโฆษณาชวนเชื่อต่อต้าน Aavustic ลบการโฆษณาชวนเชื่อต่อต้าน Aavustian จากระบบการศึกษา การยกเลิกจากกองทัพและข้าราชการพลเรือนของเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีส่วนร่วมในการโฆษณาชวนเชื่อกำกับการต่อต้านออสเตรีย - ฮังการี; ช่วยให้เจ้าหน้าที่ออสเตรียในการปราบปรามการเคลื่อนไหวมุ่งเป้าไปที่ความซื่อสัตย์ของจักรวรรดิ หากต้องการหยุดการลักลอบขนและวัตถุระเบิดให้กับดินแดนออสเตรียเพื่อจับกุมเจ้าหน้าที่ชายแดนที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมดังกล่าว ฯลฯ

เซอร์เบียไม่พร้อมสำหรับสงครามเธอเพิ่งผ่านสงครามบอลข่านสองแห่งกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ทางการเมืองภายใน และไม่มีเวลาที่จะชะลอปัญหาและอายุทางการทูต สิ่งนี้เป็นที่เข้าใจกันโดยนักการเมืองคนอื่นรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียของ Sazonov ได้เรียนรู้เกี่ยวกับ Ultimatum ออสเตรียกล่าวว่า: "นี่เป็นสงครามในยุโรป"

เซอร์เบียเริ่มระดมกองทัพและเซอร์เบียเจ้าชายรีเจ้นท์อเล็กซานเด "Beclenged" รัสเซียให้ความช่วยเหลือ Nicholas II รายงานว่าความพยายามทั้งหมดของรัสเซียมีวัตถุประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือดและหากสงครามเริ่มขึ้นเซอร์เบียจะไม่อยู่คนเดียว Serbs ที่ 25 ให้คำตอบสำหรับ Ultimatum ของออสเตรีย เซอร์เบียเห็นด้วยเกือบทุกจุดยกเว้นหนึ่ง ด้านเซอร์เบียปฏิเสธที่จะเข้าร่วมออสเตรียในการสืบสวนคดีฆาตกรรมของ Franz Ferdinand ในเซอร์เบียเนื่องจากมันส่งผลกระทบต่ออำนาจอธิปไตยของรัฐ แม้ว่าพวกเขาสัญญาว่าจะทำการสอบสวนและรายงานความเป็นไปได้ในการส่งผลของการสอบสวนของออสเตรีย

เวียนนามองว่าคำตอบดังกล่าวเป็นลบ ในวันที่ 25 กรกฎาคมจักรวรรดิออสเตรีย - ฮังการีเริ่มระดมกองทหารบางส่วน ในวันเดียวกันจักรวรรดิเฮอร์มันน์ก็เริ่มที่ซ่อนเร้น เบอร์ลินเรียกร้องจากกรุงเวียนนาเพื่อเริ่มสงครามกับ Serbs ทันที

พลังอื่น ๆ พยายามที่จะแทรกแซงด้วยเป้าหมายของการตั้งถิ่นฐานทางการทูตของปัญหา ลอนดอนทำข้อเสนอเพื่อประชุมการประชุมของพลังมหาศาลและแก้ปัญหาอย่างสงบสุข บริติชสนับสนุนปารีสและโรม แต่เบอร์ลินปฏิเสธ รัสเซียและฝรั่งเศสพยายามโน้มน้าวให้ชาวออสเตรียนำแผนการตั้งถิ่นฐานบนพื้นฐานของข้อเสนอเซอร์เบีย - เซอร์เบียพร้อมที่จะถ่ายทอดการสอบสวนในศาลระหว่างประเทศในกรุงเฮก

แต่ชาวเยอรมันได้ตัดสินใจแล้วว่าคำถามแห่งสงครามในกรุงเบอร์ลินครั้งที่ 26 จัดเตรียมคำขาดของเบลเยียมซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่ากองทัพฝรั่งเศสวางแผนที่จะโจมตีในประเทศเยอรมนีผ่านประเทศนี้ ดังนั้นกองทัพเยอรมันจะต้องเตือนการโจมตีนี้และใช้ดินแดนเบลเยียม หากรัฐบาลเบลเยียมตามที่ชาวเบลเยียมสัญญาว่าจะจ่ายค่าเสียหายหลังจากสงครามถ้าไม่เช่นนั้นเบลเยียมถูกประกาศโดยศัตรูของเยอรมนี

ในลอนดอนมีการต่อสู้กลุ่มพลังงานต่าง ๆ ตำแหน่งที่แข็งแกร่งมากเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนนโยบายดั้งเดิมของ "การไม่แทรกแซง" พวกเขาได้รับการสนับสนุนจากความคิดเห็นของประชาชน ชาวอังกฤษต้องการอยู่ห่างจากสงครามแพน - ยุโรป ลอนดอน Rothschilds ที่เกี่ยวข้องกับ Austrian Rothschilds ได้รับทุนการส่งเสริมนโยบายที่ไม่รบกวน เป็นไปได้ว่าหากการระเบิดหลักของเบอร์ลินและเวียนนาถูกส่งต่อเซอร์เบียและรัสเซียชาวอังกฤษไม่ได้เข้าไปในสงคราม และโลกเห็น "สงครามแปลก" ของปี 2457 เมื่อออสเตรียฮังการีถูกบดขยี้เซอร์เบียและกองทัพเยอรมันมุ่งหน้าไปยังจักรวรรดิรัสเซีย ในสถานการณ์เช่นนี้ฝรั่งเศสอาจนำไปสู่ \u200b\u200b"สงครามตำแหน่ง" จำกัด เฉพาะการดำเนินงานภาคเอกชนและสหราชอาณาจักร - ไม่เข้าสู่สงครามเลย ลอนดอนถูกบังคับให้เข้าไปแทรกแซงในสงครามความจริงที่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ความพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ของฝรั่งเศสและอำนาจเยอรมันในยุโรป ลอร์ดแห่งกองทัพเรือแห่งแรกของเชอร์ชิลล์ด้วยความกลัวและความเสี่ยงหลังจากเสร็จสิ้นการซ้อมรบในฤดูร้อนของกองทัพเรือที่มีการมีส่วนร่วมของกองหนุนไม่ปล่อยให้พวกเขาลงที่บ้านและยังคงอยู่ในความเข้มข้นโดยไม่ส่งพวกเขาไปยังสถานที่ใช้งาน

ประเทศรัสเซีย

รัสเซียในขณะนี้มีความประพฤติอย่างระมัดระวัง จักรพรรดิเป็นเวลาหลายวันนำไปสู่การประชุมยาวนานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทหารสุขห์มลินอฟ, การเดินเรือ - Grigorovich และหัวหน้าพนักงานทั่วไป Yanushkevich Nicholas II ไม่ต้องการให้การเตรียมการทางทหารของกองทัพรัสเซียสงคราม Provok War
มาตรการดังกล่าวถูกนำมาจากเบื้องต้นเท่านั้น: วันหยุดที่ 25 ถูกถอนออกเจ้าหน้าที่จักรพรรดิที่ 26 ตกลงที่จะทำกิจกรรมเตรียมการสำหรับการระดมชิ้นส่วนบางส่วน และมีเฉพาะในเขตทหารหลายแห่ง (Kazan, Moscow, เคียฟ, โอเดสซา) ในเขตทหารวอร์ซอว์การระดมพลไม่ได้ดำเนินการเพราะ เขาล้อมรอบด้วยกันกับออสเตรียฮังการีและเยอรมนี Nicholas II หวังว่าสงครามจะสามารถหยุดและสล็อต "Cousin Willy" (Kaizer Kaizer) โทรเลขเพื่อขอออสเตรีย - ฮังการี

ความผันผวนของรัสเซียในรัสเซียได้กลายเป็นหลักฐานที่กรุงเบอร์ลินว่า "ตอนนี้รัสเซียมีเอกลักษณ์" ที่นิโคไลกลัวสงคราม ข้อสรุปที่ไม่ถูกต้องถูกสร้างขึ้น: เอกอัครราชทูตเยอรมันและทูตทหารที่เขียนจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กว่ารัสเซียไม่มีแผนการที่น่ารังเกียจอย่างเด็ดขาด แต่เป็นการถอยอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามตัวอย่างของปี 1812 สื่อมวลชนเยอรมันเขียนเกี่ยวกับ "การสลายตัวที่สมบูรณ์" ในจักรวรรดิรัสเซีย

จุดเริ่มต้นของสงคราม

28 กรกฎาคมเวียนนาประกาศสงครามเบลเกรด ควรสังเกตว่าสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเริ่มขึ้นในการเพิ่มขึ้นของผู้รักชาติขนาดใหญ่ ในเมืองหลวงของ Austro-Hungary, Universal Education ครองราชย์, ฝูงชนของผู้คนท่วมถนน, การแชทเพลงรักชาติ อารมณ์เดียวกันครองตำแหน่งในบูดาเปสต์ (เมืองหลวงของฮังการี) มันเป็นวันหยุดที่แท้จริงผู้หญิงถูกรังแกโดยทหารที่ต้องทำลาย Serbs, ดอกไม้และสัญญาณของความสนใจ จากนั้นผู้คนเชื่อว่าสงครามกับเซอร์เบียจะได้รับชัยชนะ

โดยการล่วงละเมิดกองทัพออสเตรีย - ฮังการียังไม่พร้อม แต่เรือที่ 29 ของกองเรือดานูบและป้อมปราการแห่งโลกซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามเมืองหลวงของเซอร์เบียเริ่มต้นอลเทลัมย์ที่เข้มงวด

Reichscancler เยอรมัน Empire Theobald Von Betman Golveg ส่งบันทึกการคุกคามไปยังปารีสและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ฝรั่งเศสรายงานว่าการเตรียมการทางทหารที่ฝรั่งเศสกำลังจะเริ่มต้น "บังคับให้เยอรมนีประกาศสถานะของการคุกคามของสงคราม" รัสเซียได้รับการเตือนว่าหากรัสเซียดำเนินการเตรียมการทางทหารต่อไป "จากนั้นมันก็แทบจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงสงครามยุโรป"

ลอนดอนเสนอแผนการตั้งถิ่นฐานต่อไป: ชาวออสเตรียสามารถครอบครองส่วนหนึ่งของเซอร์เบียเป็น "หลักประกัน" เพื่อการสอบสวนที่เป็นธรรมซึ่งพลังอันยิ่งใหญ่จะมีส่วนร่วม คำสั่งซื้อเชอร์ชิลล์เพื่อแปลเรือไปทางทิศเหนือห่างจากการโจมตีเรือดำน้ำเยอรมันที่เป็นไปได้และเรือพิฆาต "กฎหมายอำนาจเบื้องต้น" ได้รับการแนะนำในสหราชอาณาจักร แม้ว่าชาวอังกฤษยังปฏิเสธที่จะพูดคำพูดของพวกเขา "แม้ว่าปารีสถามเกี่ยวกับเรื่องนี้

ในปารีสรัฐบาลจัดประชุมเป็นประจำ หัวหน้าพนักงานทั่วไปของฝรั่งเศส Joffre จัดกิจกรรมเตรียมการก่อนเริ่มการระดมทุนเต็มรูปแบบและแนะนำให้นำกองทัพมาสู่ความพร้อมของการต่อสู้เต็มรูปแบบและรับตำแหน่งที่ชายแดน สถานการณ์ดังกล่าวได้รับการกำเริบจากความจริงที่ว่าทหารฝรั่งเศสภายใต้กฎหมายสามารถออกจากบ้านในระหว่างการเก็บเกี่ยวครึ่งหนึ่งของกองทัพขับรถไปรอบ ๆ หมู่บ้าน Joffre รายงานว่ากองทัพเยอรมันจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งของอาณาเขตของฝรั่งเศสโดยไม่ต้องต่อต้านอย่างจริงจัง โดยทั่วไปรัฐบาลฝรั่งเศสสับสน ทฤษฎีเป็นสิ่งหนึ่งและความเป็นจริงนั้นค่อนข้างมาก สถานการณ์ดังกล่าวได้รับการกำเริบจากสองปัจจัย: ครั้งแรกที่อังกฤษไม่ได้ให้คำตอบที่แน่นอน ประการที่สองนอกเหนือไปจากเยอรมนีอิตาลีสามารถโจมตีฝรั่งเศสได้ เป็นผลให้ Jofffru ได้รับอนุญาตให้ถอนทหารออกจากวันหยุดพักผ่อนและระดมอาคารชายแดน 5 แห่ง แต่ในเวลาเดียวกันพาพวกเขาออกไปจากชายแดน 10 กิโลเมตรเพื่อแสดงให้เห็นว่าปารีสจะไม่โจมตีครั้งแรกและไม่ก่อให้เกิดสงครามกับ ความขัดแย้งแบบสุ่มของทหารเยอรมันและฝรั่งเศสใด ๆ

ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กไม่มีความแน่นอนนอกจากนี้ยังมีความหวังว่าเขาจะสามารถหลีกเลี่ยงสงครามครั้งใหญ่ได้ หลังจากเวียนนาประกาศสงครามของเซอร์เบียรัสเซียประกาศการระดมกำลังบางส่วน แต่มันกลายเป็นเรื่องยากที่จะดำเนินการเพราะ ในรัสเซียไม่มีการวางแผนสำหรับการระดมพลกับออสเตรีย - ฮังการีแผนดังกล่าวเป็นเพียงการต่อต้านจักรวรรดิออตโตมันและสวีเดน เป็นที่เชื่อกันว่าแยกต่างหากโดยปราศจากเยอรมนีออสเตรียจะไม่เสี่ยงต่อการต่อสู้กับรัสเซีย และรัสเซียก็โจมตีจักรวรรดิออสเตรเลีย - ฮังการีไม่ได้ไป จักรพรรดิยืนยันในการระดมพลบางส่วนหัวหน้าพนักงานทั่วไป Yanushkevich แย้งว่าหากไม่มีการระดมเขตทหารวอร์ซอว์, รัสเซียเสี่ยงที่จะพลาดการระเบิดที่ทรงพลังเพราะ ตามความฉลาดมันกลับกลายเป็นว่ามันอยู่ที่นี่ที่ชาวออสเตรียจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผลกระทบ นอกจากนี้หากคุณเริ่มการชุมนุมบางส่วนที่ไม่ได้เตรียมตัวไว้มันจะนำไปสู่ชั้นของแผนภูมิการขนส่งทางรถไฟ จากนั้น Nikolai ตัดสินใจที่จะไม่ทำการกระพือปีกเลยรอ

ข้อมูลที่ได้รับความอับอายขายหน้ามากที่สุด เบอร์ลินพยายามที่จะชนะเวลา - Kaiser เยอรมันส่งโทรเลขเป็นครั้งคราวรายงานว่าเยอรมนีประกาศออสเตรีย - ฮังการีสัมปทานและเวียนนาดูเหมือนจะเห็นด้วย และบันทึกของ Betman Golvega ทันทีข้อความของการทิ้งระเบิดของเบลเกรด และเวียนนาหลังจากช่วงเวลาของพ่อมดรายงานการปฏิเสธการเจรจากับรัสเซีย

ดังนั้นในวันที่ 30 กรกฎาคมจักรพรรดิรัสเซียให้คำสั่งซื้อการระดม แต่ยกเลิกทันทีเพราะ จากเบอร์ลินโทรเลขที่มีความสามารถในการรักสันติภาพหลายคน "ลูกพี่ลูกน้อง" มาซึ่งรายงานความพยายามของเขาในการเอียงเวียนนาเพื่อเจรจาต่อรอง วิลเฮล์มถามว่าอย่าเริ่มทำอาหารทหารเพราะ มันจะป้องกันการเจรจาต่อรองของเยอรมันกับออสเตรีย Nikolai ในการตอบสนองที่เสนอให้ทำคำถามเพื่อประกอบการประชุมกรุงเฮก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียของ Sazonov ไปที่เอกอัครราชทูตเยอรมันเพื่อทำประเด็นหลักในการแก้ไขความขัดแย้ง

จากนั้น Petersburg ได้รับข้อมูลอื่น ๆ Kaiser เปลี่ยนโทนของเขาให้แข็งยิ่งขึ้น เวียนนาปฏิเสธการเจรจาใด ๆ หลักฐานปรากฏว่าออสเตรียเห็นด้วยอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการกระทำของพวกเขากับเบอร์ลิน จากประเทศเยอรมนีพวกเขาได้รับการรายงานว่าการเตรียมการทางทหารในการแกว่งเต็ม เรือเยอรมันจาก Kiel ถูกย้ายไปที่ Danzig บน Baltic ชิ้นส่วนทหารม้าถูกหยิบยกไปที่ชายแดน และรัสเซียจำเป็นต้องระดมกองกำลังติดอาวุธเป็นเวลา 10-20 วันมากกว่าเยอรมนี เป็นที่ชัดเจนว่าชาวเยอรมันเพียงแค่หลอมรวมหัวหน้าเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเพื่อชนะเวลา

31 กรกฎาคมรัสเซียประกาศการชุมนุม และมีรายงานว่าทันทีที่ชาวออสเตรียหยุดสงครามและการประชุมจะได้รับการประชุมการระดมชาติของรัสเซียจะหยุดลง เวียนนารายงานว่าโฮสต์ของการสู้รบเป็นไปไม่ได้และประกาศการระดมทุนเต็มรูปแบบที่นำไปสู่รัสเซีย ไกเซอร์ส่งโทรเลขนิวโคลัสซึ่งเขากล่าวว่าความพยายามอย่างสงบของเขาคือ "Ghostly" และสิ่งอื่นใดที่สามารถหยุดได้หากรัสเซียยกเลิกการเตรียมการทางทหาร เบอร์ลินได้รับเหตุผลในการทำสงคราม และหลังจากหนึ่งชั่วโมง Wilhelm II ในกรุงเบอร์ลินภายใต้คำรามที่กระตือรือร้นของฝูงชนกล่าวว่าเยอรมนี "สงครามสงครามบังคับ" ในจักรวรรดิเยอรมันกฎหมายการต่อสู้ได้รับการแนะนำซึ่งเป็นเพียงการเตรียมการทางทหารก่อนหน้านี้ (พวกเขาได้ดำเนินการเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์)

ฝรั่งเศสส่ง ultimatum เกี่ยวกับความต้องการที่จะรักษาความเป็นกลาง ชาวฝรั่งเศสควรตอบคำถาม 18 ชั่วโมงว่าฝรั่งเศสจะเป็นกลางในกรณีสงครามในเยอรมนีกับรัสเซีย และในกุญแจสำคัญในการ "ความตั้งใจที่ดี" เรียกร้องให้ป้อมปราการชายแดน Tul และ Verden ซึ่งสัญญาว่าจะกลับมาหลังจากสงคราม ชาวฝรั่งเศสเพียงเดินจากความเย่อหยิ่งเช่นนี้เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสไปเบอร์ลินแม้เลือกที่จะถ่ายทอดข้อความเต็มของคำขาดของ ultimatum จำกัด ความต้องการของความเป็นกลาง นอกจากนี้ปารีสยังกลัวความตื่นเต้นและการนัดหยุดงานจำนวนมากซึ่งขู่ว่าจะจัดระเบียบด้านซ้าย มีการเตรียมแผนที่พวกเขาวางแผนไว้ตามรายการที่เตรียมไว้ล่วงหน้าถือการจับกุมของนักสังคมนิยมผู้นิยมอนาธิปไตยและ "น่าสงสัย" ทั้งหมด

สถานการณ์มีความซับซ้อนมาก ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กใน Ultimatum ของเยอรมนีการยกเลิกการระดมกำลังได้รับการยอมรับจากสื่อมวลชนเยอรมัน (!) ทูตเยอรมัน Purtales ได้รับคำแนะนำในการมอบมันในเวลาเที่ยงคืนตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคมถึงวันที่ 1 สิงหาคมเวลาได้รับเวลา 12 โมงเช้าเพื่อลดความเป็นไปได้สำหรับการซ้อมรบทางการทูต คำว่า "สงคราม" ไม่ได้ใช้ ที่น่าสนใจ Petersburg ไม่มั่นใจในการสนับสนุนจากฝรั่งเศสเพราะ ข้อตกลงยูเนี่ยนไม่ได้ให้สัตยาบันโดยรัฐสภาฝรั่งเศส ใช่และอังกฤษเสนอภาษาฝรั่งเศสให้รอ "การพัฒนากิจกรรม" เพราะ ความขัดแย้งระหว่างเยอรมนีออสเตรียและรัสเซีย "ไม่ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของอังกฤษ" แต่ฝรั่งเศสถูกบังคับให้เข้าร่วมสงครามเพราะ ชาวเยอรมันไม่ได้ให้ทางเลือกอื่น - เวลา 7.00 น. ในวันที่ 1 สิงหาคมกองทหารเยอรมัน (กองทหารราบที่ 16) ข้ามชายแดนกับลักเซมเบิร์กและครอบครองเมืองของยูเรียวีเยร่า ("สามพรหมจารี") มีพรมแดนและการสื่อสารทางรถไฟของ เบลเยี่ยมเยอรมนีและลักเซมเบิร์ก ในประเทศเยอรมนีพวกเขาพูดติดตลกว่าสงครามเริ่มต้นด้วยการวางอุปกรณ์สามเครื่อง

ปารีสในวันเดียวกันเริ่มการชุมนุมสากลและปฏิเสธคำขาด และเกี่ยวกับสงครามฉันยังไม่ได้พูดบอกเบอร์ลินว่า "การระดมพลไม่ใช่สงคราม" ชาวเบลเยียมที่เกี่ยวข้อง (สถานะเป็นกลางของประเทศของพวกเขาถูกกำหนดโดยสัญญา 1839 และ 1870 สหราชอาณาจักรเป็นผู้ค้ำประกันหลักของความเป็นกลางของเบลเยียม) ถามชาวเยอรมันจากเยอรมนีเกี่ยวกับการบุกรุกของลักเซมเบิร์ก เบอร์ลินตอบว่าไม่มีอันตรายต่อเบลเยียม

ชาวฝรั่งเศสยังคงอุทธรณ์ต่ออังกฤษระลึกถึงความจริงที่ว่าการกองทัพเรืออังกฤษตามข้อตกลงที่สรุปไว้ก่อนหน้านี้ควรปกป้องชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของฝรั่งเศสและกองเรือฝรั่งเศสจะต้องมุ่งเน้นไปที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในระหว่างการประชุมของรัฐบาลอังกฤษที่ 12 จากสมาชิก 18 คนคัดค้านการสนับสนุนของฝรั่งเศส สีเทาแจ้งให้เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสทราบว่าฝรั่งเศสควรตัดสินใจตัวเองในขณะนี้สหราชอาณาจักรไม่สามารถช่วยได้

ลอนดอนถูกบังคับให้แก้ไขตำแหน่งของเขาเพราะเบลเยียมซึ่งเป็นจุดจบที่อาจเกิดขึ้นกับอังกฤษ กระทรวงต่างประเทศของอังกฤษร้องขอเบอร์ลินและปารีสเกี่ยวกับความเป็นกลางของเบลเยียม ฝรั่งเศสยืนยันสถานะที่เป็นกลางของเบลเยี่ยมเยอรมนีเงียบ ดังนั้นอังกฤษจึงประกาศว่าเมื่อโจมตีเบลเยี่ยมอังกฤษไม่สามารถบันทึกความเป็นกลางได้ แม้ว่าลอนดอนยังคงอยู่ลอนดอนเพื่อตัวเอง Lloyd George แสดงความคิดเห็นว่าถ้าชาวเยอรมันไม่ยืมชายฝั่งเบลเยียมจากนั้นการละเมิดถือได้ว่า "ไม่มีนัยสำคัญ"

รัสเซียเสนอให้เบอร์ลินเพื่อทำการเจรจาต่อรอง ที่น่าสนใจคือชาวเยอรมันกำลังจะประกาศสงครามในกรณีใด ๆ แม้ว่ารัสเซียได้นำคำขาดออกจากการยกเลิกการชุมนุม เมื่อเอกอัครราชทูตชาวเยอรมันนำเสนอโน้ตเขาให้เอกสารสองฉบับในครั้งเดียวทั้งในรัสเซียประกาศสงคราม

ในกรุงเบอร์ลินมีข้อพิพาท - ทหารเรียกร้องให้เริ่มสงครามหากไม่มีโฆษณาของเธอพวกเขากล่าวว่าฝ่ายตรงข้ามของเยอรมนีการตอบสนองจะประกาศสงครามและกลายเป็น "ผู้บุกรุก" และ Reichskancler เรียกร้องการอนุรักษ์กฎของกฎหมายระหว่างประเทศไกเซอร์เอาไปข้างหน้าเพราะ เขารักท่าทางที่สวยงาม - การประกาศสงครามเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ในวันที่ 2 สิงหาคมในเยอรมนีพวกเขาได้ประกาศการระดมชาติสากลและสงครามรัสเซียอย่างเป็นทางการ มันเป็นวันของการเริ่มต้นของการประหารชีวิตของแผนSchlöffen - อาคารเยอรมัน 40 แห่งควรใช้งานในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม ที่น่าสนใจคือสงครามของเยอรมนีประกาศอย่างเป็นทางการรัสเซียและกองกำลังเริ่มย้ายไปทางทิศตะวันตก ในที่สุดลักเซมเบิร์กที่ 2 ก็ถูกครอบครองในที่สุด และเบลเยียมได้รับรางวัล ultimatum เกี่ยวกับการผ่านกองกำลังเยอรมันชาวเบลเยียมที่จะตอบกลับในระยะเวลา 12 ชั่วโมง

เบลเยียมตกใจ แต่ในท้ายที่สุดพวกเขาตัดสินใจที่จะปกป้อง - ในการเกณฑ์ทหารของเยอรมันพวกเขาไม่เชื่อกองกำลังหลังสงครามพวกเขาจะไม่ได้เปิดตัวความสัมพันธ์ที่ดีกับอังกฤษและฝรั่งเศส King Albert เรียกร้องให้ปกป้อง แม้ว่าชาวเบลเยียมก็หวังว่าการยั่วยุและเบอร์ลินจะไม่ทำลายสถานะที่เป็นกลางของประเทศ

ในวันเดียวกันอังกฤษถูกกำหนด ฝรั่งเศสรายงานว่ากองทัพเรืออังกฤษจะครอบคลุมชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของฝรั่งเศส และเหตุผลของสงครามจะเป็นการโจมตีของเยอรมนีไปยังเบลเยียม รัฐมนตรีจำนวนหนึ่งที่ต่อต้านการตัดสินใจครั้งนี้ได้ลาออก ชาวอิตาเลียนประกาศความเป็นกลางของพวกเขา

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมเยอรมนีและตุรกีลงนามในข้อตกลงความลับพวกเติร์กที่ให้คำมั่นที่จะพูดที่ด้านข้างของชาวเยอรมัน ตุรกีที่ 3 ประกาศความเป็นกลางซึ่งเป็นทู่ที่ได้รับข้อตกลงกับเบอร์ลิน ในวันเดียวกันอิสตันบูลเริ่มระดมกองกำลังสำรองสำหรับ 23-45 ปี, I.e. เกือบสากล

ในวันที่ 3 สิงหาคมเบอร์ลินประกาศสงครามของฝรั่งเศสชาวเยอรมันกล่าวหาว่าฝรั่งเศสในการโจมตี "การทิ้งระเบิดอากาศ" และแม้แต่การละเมิดความเป็นกลางของเบลเยียม ชาวเบลเยียมปฏิเสธคำขาดของชาวเยอรมันเยอรมันประกาศสงครามแห่งเบลเยียม อันดับที่ 4 เริ่มบุกรุกของเบลเยียม King Albert ขอความช่วยเหลือจากผู้ค้ำประกันความเป็นกลาง ลอนดอนนำเสนอคำขาด: หยุดการรุกรานของเบลเยียมหรือสหราชอาณาจักรจะประกาศสงครามในประเทศเยอรมนี ชาวเยอรมันไม่พอใจและเรียกว่า ultimatum "การทรยศทางเชื้อชาติ" หลังจากการหมดอายุของ Ultimatum, Churchill สั่งให้กองทัพเรือเริ่มการต่อสู้ ดังนั้นสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเริ่มต้น ...

รัสเซียสามารถป้องกันสงครามได้ไหม

มีความเชื่อกันว่าถ้าเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กให้เซอร์เบียกับความสับสนของออสเตรีย - ฮังการีสงครามสามารถป้องกันได้ แต่นี่เป็นความคิดเห็นที่ผิดพลาด ดังนั้นรัสเซียจึงสามารถชนะเวลาได้ - ไม่กี่เดือนหนึ่งปีสอง สงครามถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าจากการพัฒนาพลังเวสเทิร์นที่ยิ่งใหญ่ระบบทุนนิยม เธอต้องการโดยเยอรมนี, จักรวรรดิอังกฤษ, ฝรั่งเศส, สหรัฐอเมริกา, และมันจะยังคงเริ่มต้นมันไม่ช้าก็เร็ว พวกเขาจะพบโอกาสอื่น

รัสเซียสามารถเปลี่ยนทางเลือกเชิงกลยุทธ์ได้เท่านั้น - สำหรับผู้ที่จะต่อสู้ - เมื่อถึงเวลาประมาณปี 1904-1907 จากนั้นลอนดอนและสหรัฐอเมริกาได้รับการช่วยเหลืออย่างตรงไปตรงมาญี่ปุ่นและฝรั่งเศสปฏิบัติตามความเป็นกลางเย็น ในช่วงเวลานั้นรัสเซียสามารถเข้าร่วมกับเยอรมนีกับพลัง "แอตแลนติก"

Intrigues ลับและการฆาตกรรม Ersgertzog Ferdinanda

ภาพยนตร์จากชุดสารคดี "รัสเซียแห่งศตวรรษที่ XX" ผู้อำนวยการโครงการ - Smirnov Nikolai Mikhailovich นักข่าวผู้เชี่ยวชาญทางทหารผู้เขียนโครงการ "กลยุทธ์ของเรา" และวงจรการส่งสัญญาณ "มุมมองของเรารัสเซีย Rubezh" ภาพยนตร์เรื่องนี้จะถูกลบออกด้วยการสนับสนุนของคริสตจักรออร์โธดอกรัสเซีย ตัวแทนของมันเป็นผู้เชี่ยวชาญในประวัติศาสตร์คริสตจักรนิโคไล Kuzmich Simakov ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความสนใจ: นักประวัติศาสตร์ Nikolai Starikov และ Peter Multatuli ศาสตราจารย์ SPBSU และ RSPU ตั้งชื่อตาม Herzen และ Dr. Philosophical Sciences Andrei Leonidovich Vassoevich หัวหน้าบรรณาธิการของนิตยสาร Patriotic National Patriotic "Boris Smolin เจ้าหน้าที่ของสติปัญญาและการต่อต้าน .

ctrl ใส่

สังเกต OSH bku ไฮไลต์ข้อความและคลิก Ctrl + Enter

ลงวันที่ 1 สิงหาคม 1914 เหตุผลหลักสำหรับการเริ่มต้นของการกระทำที่เป็นเลือดนี้สามารถเรียกว่าความขัดแย้งทางการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างรัฐซึ่งรวมอยู่ในกลุ่มทหาร - การเมืองสองแห่ง: สหภาพ Trimal ซึ่งประกอบด้วยประเทศเยอรมนีอิตาลีและออสเตรียฮังการี และ Entente ซึ่งรวมถึงรัสเซียฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร

วิดีโอในหัวข้อ

เคล็ดลับที่ 2: ทำไมประเทศเยอรมันจึงล้มเหลวในการดำเนินการตามแผน Schriffen

แผนกลยุทธ์ Schliffene ซึ่งสันนิษฐานว่าได้รับชัยชนะอย่างรวดเร็วในเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งไม่ได้ดำเนินการ แต่เขายังคงรบกวนจิตใจของนักประวัติศาสตร์ทหารเพราะแผนนี้มีความเสี่ยงและน่าสนใจอย่างยิ่ง

นักประวัติศาสตร์ทหารส่วนใหญ่มักจะคิดว่าหากแผนของหัวหน้าพนักงานทั่วไปของอัลเฟรดฟอนชลิฟฟ์ได้ดำเนินการสงครามโลกครั้งที่หนึ่งสามารถไปสถานการณ์ที่สมบูรณ์ได้ แต่ในปี 1906 นักยุทธศาสตร์ชาวเยอรมันถูกขยับจากโพสต์ของเขาและผู้ติดตามของเขากลัวที่จะตระหนักถึงความคิดของ SHLiffene

แผนสงครามฟ้าผ่า

ในช่วงต้นศตวรรษที่ผ่านมาเยอรมนีเริ่มวางแผนสงครามครั้งใหญ่ มันเชื่อมต่อกับความจริงที่ว่าก่อนหน้านี้พ่ายแพ้มาหลายทศวรรษฝรั่งเศสอย่างชัดเจนยอมรับแผนการแก้แค้นทางทหารอย่างชัดเจน ความเป็นผู้นำของเยอรมันไม่ได้กลัวภัยคุกคามของฝรั่งเศสเป็นพิเศษ แต่ในภาคตะวันออกของรัสเซียกำลังได้รับอำนาจทางเศรษฐกิจและการทหารซึ่งเป็นพันธมิตรของสาธารณรัฐที่สาม สำหรับเยอรมนีมีอันตรายร้ายแรงจากสงครามสองหน้า นี่คือการตระหนักถึง Kaiser Wilhelm ให้คำสั่งซื้อ Von Schliffen เพื่อพัฒนาแผนแพลตฟอร์มในเงื่อนไขเหล่านี้

และชิลิฟเฟนในเวลาอันสั้นตามแผนดังกล่าวสร้างขึ้น ตามความคิดของเขาเยอรมนีควรเริ่มสงครามครั้งแรกกับฝรั่งเศสมุ่งเน้นไปที่ทิศทางนี้ 90% ของกองกำลังของเขาทั้งหมด และสงครามนี้ควรมีฟ้าผ่า ปารีสใช้เวลาเพียง 39 วัน ในชัยชนะรอบชิงชนะเลิศ - 42

สันนิษฐานว่ารัสเซียจะไม่สามารถระดมได้ในเวลาอันสั้น กองทัพเยอรมันหลังจากชัยชนะเหนือฝรั่งเศสจะถูกนำไปใช้กับชายแดนกับรัสเซีย Kaiser Wilhelm อนุมัติแผนพูดในเวลาเดียวกันวลีที่มีชื่อเสียง: "เราจะเพลิดเพลินไปกับปารีสและเราจะต้องทานอาหารเย็นในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก"

แผนการล้มเหลว shliffene

เปลี่ยน Schliffene บนหัวของพนักงานทั่วไปของเยอรมัน Hellmut Back Moltke รับรู้แผน Schriffen โดยไม่มีความสุขมากเมื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงมากเกินไป และด้วยเหตุนี้จึงได้รับการประมวลผลที่มั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาปฏิเสธที่จะมุ่งเน้นไปที่ด้านหน้าตะวันตกกองกำลังหลักของกองทัพเยอรมันและเพื่อคารคส์ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของกองทหารที่ส่งไปทางทิศตะวันออก

แต่ชลิฟฟีนออกมาในความคุ้มครองของกองทัพฝรั่งเศสที่มีปีกและสภาพแวดล้อมเต็มรูปแบบ แต่เนื่องจากการถ่ายโอนกองกำลังสำคัญไปทางทิศตะวันออกกลุ่มของกองทัพเยอรมันที่ด้านหน้าตะวันตกก็ไม่มีเครื่องมือที่มีอยู่เพียงพอ เป็นผลให้กองทหารฝรั่งเศสไม่เพียง แต่ไม่ได้ล้อมรอบ แต่ยังสามารถใช้เคาน์เตอร์ที่ทรงพลัง

การคำนวณความเชื่องช้าของกองทัพรัสเซียในแง่ของการชุมนุมเป็นเวลานานก็ไม่ได้เป็นธรรม การบุกรุกของกองทัพรัสเซียไปยังปรัสเซียตะวันออกอย่างแท้จริงขโมยคำสั่งของเยอรมัน เยอรมนีอยู่ในตำแหน่งสองหน้า

แหล่งที่มา:

• วางแผนโดยปาร์ตี้

ศตวรรษที่ผ่านมาทำให้เกิดความขัดแย้งที่เลวร้ายที่สุดสองประการต่อมนุษยชาติ - สงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสองที่จับโลกทั้งโลก และหากเสียงสะท้อนในประเทศยังคงเสียงการชนของปี 1914-1918 ได้ถูกลืมไปแล้วแม้จะโหดร้าย ใครที่เรียกว่าใครเป็นสาเหตุของการเผชิญหน้าและโลกแรกที่เริ่มต้นปีใด

ความขัดแย้งทางทหารไม่ได้เริ่มต้นทันทีมีจำนวนของข้อกำหนดเบื้องต้นที่โดยตรงหรือโดยอ้อมในที่สุดกลายเป็นสาเหตุของการปะทะกันของกองทัพ ความขัดแย้งระหว่างผู้เข้าร่วมหลักในความขัดแย้งอำนาจที่ทรงพลังเริ่มเติบโตนานก่อนเริ่มการต่อสู้แบบเปิด

จักรวรรดิเยอรมันเริ่มมีอยู่ซึ่งกลายเป็นจุดสิ้นสุดตามธรรมชาติของการต่อสู้ของ Franco-Prussian ในปี 1870-1871 ในเวลาเดียวกันรัฐบาลของจักรวรรดิแย้งว่ารัฐไม่มีความปรารถนาเกี่ยวกับการยึดอำนาจและการครอบงำในยุโรป

หลังจากทำลายความขัดแย้งภายในของสถาบันพระมหากษัตริย์เยอรมันก็ใช้เวลาในการคืนค่ากองกำลังและกองกำลังทหารเพื่อความสงบสุขครั้งนี้จำเป็น นอกจากนี้รัฐในยุโรปต้องการที่จะร่วมมือกับมันและงดเว้นจากการสร้างพันธมิตรที่เป็นปฏิปักษ์

การพัฒนาอย่างสงบสุขชาวเยอรมันในช่วงกลางทศวรรษที่ 1880 มีความแข็งแกร่งเพียงพอในการทหารและเศรษฐกิจและเปลี่ยนแปลงลำดับความสำคัญของนโยบายต่างประเทศเริ่มต่อสู้เพื่อการปกครองในยุโรป ในขณะเดียวกันหลักสูตรถูกนำไปสู่การขยายดินแดนทางใต้เนื่องจากประเทศไม่มีอาณานิคมในต่างประเทศ

การแบ่งอาณานิคมของโลกอนุญาตให้รัฐที่แข็งแกร่งที่สุดสองรัฐ - บริเตนใหญ่และฝรั่งเศสที่จะครอบครองดินแดนที่น่าดึงดูดทางเศรษฐกิจทั่วโลก เพื่อที่จะได้รับตลาดการขายต่างประเทศชาวเยอรมันจำเป็นต้องเอาชนะรัฐเหล่านี้และจับอาณานิคมของพวกเขา

แต่นอกเหนือจากเพื่อนบ้านชาวเยอรมันก็ต้องเอาชนะพลังของรัสเซียตั้งแต่ปี 1891 เขาสรุปการป้องกันสหภาพซึ่งเรียกว่า "ข้อตกลงการเต้นของหัวใจ" หรือ Anntante กับฝรั่งเศสและอังกฤษ (เข้าร่วมในปี 1907)

ในทางกลับกันออสเตรีย - ฮังการีพยายามที่จะรักษาดินแดนผนวกที่เกิดขึ้น (เฮอร์เซโกวีนาและบอสเนีย) และในเวลาเดียวกันพยายามที่จะเผชิญหน้ากับรัสเซียซึ่งคือการปกป้องและรวมกลุ่มชาวสลาฟในยุโรปและสามารถเริ่มเผชิญหน้าได้ อันตรายต่อออสเตรีย - ฮังการียังเป็นตัวแทนของพันธมิตรของรัสเซีย - เซอร์เบีย

สถานการณ์ที่รุนแรงเช่นเดียวกับทั้งในตะวันออกกลาง: มันมีความสนใจนโยบายต่างประเทศของรัฐในยุโรปที่ต้องเผชิญกับผู้ที่ต้องการดินแดนใหม่และผลประโยชน์ที่ยอดเยี่ยมจากการล่มสลายของจักรวรรดิออตโตมัน

ที่นี่รัสเซียอ้างสิทธิ์ในชายฝั่งสองช่องแคบ: บอสฟอรัสและ Dardanelles นอกจากนี้จักรพรรดินิโคลัส II ต้องการควบคุม Anatoly เพราะอาณาเขตนี้ได้รับอนุญาตให้ออกไปจากดินแดนสู่ตะวันออกกลาง

รัสเซียไม่ต้องการให้การออกจากดินแดนเหล่านี้ของกรีซและบัลแกเรีย ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นประโยชน์ต่อการปะทะแบบยุโรปเพราะพวกเขาได้รับอนุญาตให้จับดินแดนที่ต้องการในภาคตะวันออก

ดังนั้นทั้งสองสหภาพจึงถูกสร้างขึ้นผลประโยชน์และการเผชิญหน้าซึ่งเป็นแกนแรกของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง:

1. Annta - ในองค์ประกอบของมันคือรัสเซีย, ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร
2. The Triple Union - จักรวรรดิและออสเตรีย - ฮังการีเช่นเดียวกับชาวอิตาเลียนถูกระบุไว้ในองค์ประกอบของมัน

เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องรู้! ต่อมา Ottomans และบัลแกเรียเข้าร่วมกับ Tripard Union และชื่อถูกเปลี่ยนเป็นสหภาพสี่โลก

เหตุผลหลักสำหรับการเริ่มต้นของสงครามคือ:

1. ความปรารถนาของชาวเยอรมันในการเป็นเจ้าของดินแดนขนาดใหญ่และครอบครองตำแหน่งที่โดดเด่นในโลก
2. ความปรารถนาของฝรั่งเศสที่จะดำรงตำแหน่งผู้นำในยุโรป
3. ความปรารถนาของสหราชอาณาจักรที่จะทำให้ประเทศในยุโรปอ่อนแอลงที่เป็นตัวแทนของอันตราย
4. ความพยายามของรัสเซียที่จะครอบครองดินแดนใหม่และปกป้องชนชาติสลาฟจากการรุกราน
5. การเผชิญหน้าระหว่างรัฐยุโรปและอเมริกาสำหรับทรงกลมของอิทธิพล

วิกฤตการณ์ของฟาร์มและความเข้าใจผิดของผลประโยชน์ของมหาอำนาจชั้นนำของยุโรปและหลังจากนั้นและรัฐอื่น ๆ นำไปสู่จุดเริ่มต้นของความขัดแย้งทางทหารแบบเปิดซึ่งเปิดตัวจาก 2457 ถึง 2461

เป้าหมายในประเทศเยอรมนี

ใครเริ่มการต่อสู้? เยอรมนีถือเป็นผู้รุกรานหลักและประเทศที่เริ่มสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันเชื่อว่าเธอมีความขัดแย้งอย่างผิด ๆ แม้จะมีการฝึกซ้อมของเยอรมันและการยั่วยุซึ่งกลายเป็นสาเหตุอย่างเป็นทางการของการปะทะแบบเปิด

ทุกประเทศในยุโรปมีความสนใจของตนเองซึ่งมีความสำเร็จในการชัยชนะเหนือเพื่อนบ้าน

จักรวรรดิในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วและถูกเตรียมอย่างสมบูรณ์แบบจากมุมมองทางทหาร: เขามีกองทัพที่ดีอาวุธสมัยใหม่และเศรษฐกิจที่ทรงพลัง เนื่องจากความขัดแย้งอย่างถาวรระหว่างดินแดนเยอรมันจนถึงกลางศตวรรษที่ 19 ยุโรปไม่ได้พิจารณาชาวเยอรมันในฐานะคู่ต่อสู้ที่จริงจังและคู่แข่ง แต่หลังจากการรวมดินแดนเอ็มไพร์และการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในชาวเยอรมันไม่เพียง แต่กลายเป็นตัวละครที่สำคัญในเวทียุโรป แต่ก็เริ่มคิดเกี่ยวกับการยึดดินแดนอาณานิคม

ส่วนของโลกบนอาณานิคมนำประเทศอังกฤษกับฝรั่งเศสไม่เพียง แต่เป็นตลาดการขายที่ขยายออกไปและมีความแข็งแกร่งในราคาถูก แต่ยังมีอาหารมากมาย เศรษฐกิจของเยอรมนีจากการพัฒนาอย่างเข้มข้นเริ่มที่จะทำให้เกิดความเมื่อยล้าเนื่องจากการดูดฝุ่นของตลาดและการเติบโตของประชากรและดินแดนที่ จำกัด นำไปสู่การขาดดุลอาหาร

ความเป็นผู้นำของประเทศจึงมีการตัดสินใจที่จะเปลี่ยนนโยบายต่างประเทศอย่างสมบูรณ์และแทนที่จะมีส่วนร่วมอย่างสันติในสหภาพยุโรปเลือกการปกครองของผีโดยการยึดครองดินแดนของดินแดน สงครามโลกครั้งที่หนึ่งเริ่มทันทีหลังจากการฆาตกรรมของออสเตรีย Franz Ferdinand ซึ่งถูกปรับโดยชาวเยอรมัน

ความขัดแย้งของผู้เข้าร่วม

ใครต่อสู้กับใครตลอดการต่อสู้ทั้งหมด? ผู้เข้าร่วมหลักมีความเข้มข้นในสองค่าย:

• ทริปเปิลแล้วสหภาพสี่ปี
• Entente

ค่ายแรกได้รับการปฏิบัติต่อชาวเยอรมันออสเตรีย - ฮังการีและชาวอิตาเลียน สหภาพนี้ถูกสร้างขึ้นในยุค 1880 เป้าหมายหลักคือการต่อต้านฝรั่งเศส

ในช่วงเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่หนึ่งอิตาลีครอบครองเป็นกลางจึงเป็นการละเมิดแผนของพันธมิตรและต่อมาพวกเขาทรยศพวกเขาทั้งหมดในปี 1915 เขาเดินทางไปที่ด้านข้างของอังกฤษและฝรั่งเศสและดำรงตำแหน่งตรงข้าม แต่ชาวเยอรมันมีพันธมิตรใหม่: เติกส์และบัลแกเรียที่มีการปะทะกับสมาชิกของ Entente

ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งจดทะเบียนสั้น ๆ นอกเหนือไปจากเยอรมันชาวฝรั่งเศสและอังกฤษที่ทำหน้าที่ในกรอบของหน่วยทหารหนึ่งหน่วย "ความยินยอม" (นี้แปลโดยคำ anntha) มันถูกสร้างขึ้นในปี 1893-1907 เพื่อปกป้องพันธมิตรจากพลังทางทหารที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของชาวเยอรมันและเพื่อเสริมสร้างสหภาพสามทาง พันธมิตรที่สนับสนุนและรัฐอื่น ๆ ที่ไม่ต้องการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับชาวเยอรมันในหมู่พวกเขาเบลเยี่ยม, กรีซ, โปรตุเกสและเซอร์เบีย

เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องรู้! พันธมิตรของรัสเซียในความขัดแย้งอยู่นอกยุโรปในหมู่พวกเขาจีนญี่ปุ่นสหรัฐอเมริกา

รัสเซียในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งต่อสู้ไม่เพียง แต่กับเยอรมนี แต่มีจำนวนที่เล็กกว่าจำนวนมากเช่นแอลเบเนีย มีด้านหน้าหลักเพียงสองแห่งเท่านั้น: ในตะวันตกและตะวันออก นอกเหนือจากพวกเขาการต่อสู้ถูกจัดขึ้นใน Transcaucasia และในอาณานิคมตะวันออกกลางและแอฟริกา

ผลประโยชน์ของงานปาร์ตี้

ความสนใจที่สำคัญของการต่อสู้ทั้งหมดคือที่ดินในมุมมองของสถานการณ์ต่าง ๆ แต่ละฝ่ายพยายามที่จะพิชิตดินแดนเพิ่มเติม ทุกรัฐมีความสนใจของตนเอง:

1. จักรวรรดิรัสเซียต้องการการเข้าถึงทะเลที่เปิดกว้าง
2. สหราชอาณาจักรพยายามที่จะอ่อนตัวลงตุรกีและเยอรมนี
3. ฝรั่งเศส - ส่งคืนดินแดนของคุณ
4. เยอรมนีจะขยายอาณาเขตผ่านการยึดรัฐในยุโรปใกล้เคียงรวมถึงได้รับอาณานิคมจำนวนมาก
5. ออสเตรีย - ฮังการีคือการควบคุมทะเลและรักษาดินแดนผนวก
6. อิตาลี - เพื่อครอบครองในทางใต้ของยุโรปและในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

การล่มสลายที่ใกล้เข้ามาของจักรวรรดิออตโตมันทำให้รัฐยังคิดเกี่ยวกับการจับกุมดินแดนของมัน แผนที่การกระทำของทหารแสดงด้านหน้าหลักและการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม

เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องรู้! นอกเหนือจากผลประโยชน์ทางทะเลแล้วรัสเซียที่ต้องการรวมดินแดนสลาฟทั้งหมดภายใต้เขาในขณะที่รัฐบาลมีความสนใจในคาบสมุทรบอลข่าน

แต่ละประเทศมีแผนชัดเจนที่จะยึดดินแดนและกำหนดค่าอย่างเด็ดขาดที่จะชนะ ประเทศในยุโรปส่วนใหญ่เข้าร่วมในความขัดแย้งในขณะที่ความสามารถทางทหารของพวกเขาอยู่ใกล้ ๆ กันซึ่งนำไปสู่สงครามที่ยืดเยื้อและเรื่อย ๆ

ผล

เมื่อสิ้นสุดโลกแห่งแรก? ในตอนท้ายของมันลดลงเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2461 - มันเป็นที่ยอมจำนนต่อยอดเยี่ยมของเยอรมนีสรุปสัญญาในแวร์ซายในเดือนมิถุนายนปีหน้าจึงแสดงให้เห็นว่าใครชนะในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง - ฝรั่งเศสและอังกฤษ

ชาวรัสเซียเป็นผู้แพ้ที่ผู้ชนะในขณะที่พวกเขาออกมาจากการต่อสู้ในเดือนมีนาคม 2461 เนื่องจากหน่วยงานทางการเมืองในประเทศที่ร้ายแรง นอกจาก Versailles แล้วอีก 4 สนธิสัญญาสันติภาพถูกเซ็นสัญญากับฝ่ายตรงข้ามหลัก

สำหรับจักรวรรดิสี่แห่งการล่มสลายครั้งแรกครั้งแรกคือ: Bolsheviks มาถึงอำนาจ Ommanov เยอรมันและออสเตรีย - ฮังการีก็กลายเป็นรีพับลิกันในตุรกี

นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงในดินแดนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการยึด: Western Thrace Greece, Tanzania England, โรมาเนียยึดทรานซิลวาเนีย, Bukovina และ Bessarabia และฝรั่งเศส - Alsace Lorraine และเลบานอน จักรวรรดิรัสเซียได้สูญเสียอาณาเขตจำนวนมากที่ประกาศอิสรภาพในหมู่พวกเขา: เบลารุสอาร์เมเนียจอร์เจียและอาเซอร์ไบจานยูเครนและบอลติก

ชาวฝรั่งเศสครอบครองภูมิภาคเยอรมันของ Saara และเซอร์เบียเข้าร่วมกับดินแดนจำนวนหนึ่ง (ในหมู่พวกเขาและสโลวีเนียกับโครเอเชีย) และสร้างสถานะของยูโกสลาเวียต่อมา การต่อสู้ของรัสเซียในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งราคาแพง: นอกเหนือจากการสูญเสียครั้งใหญ่ที่อยู่ด้านหน้ากำเริบโดยสถานการณ์ที่ซับซ้อนในระบบเศรษฐกิจ

สถานการณ์ภายในได้รับการบริหารมานานก่อนที่แคมเปญจะเริ่มต้นและเมื่อหลังจากปีแรกที่เข้มข้นประเทศส่งไปยังการต่อสู้ในตำแหน่งจากนั้นความทุกข์ทรมานของผู้คนสนับสนุนการปฏิวัติและโค่นล้มกษัตริย์เลิกจ้าง

การเผชิญหน้านี้แสดงให้เห็นว่าจากนี้ในตอนนี้ความขัดแย้งทางอาวุธทั้งหมดจะมีลักษณะทั้งหมดและในเวลาเดียวกันประชากรทั้งหมดและทรัพยากรของรัฐที่มีอยู่ทั้งหมดจะมีส่วนร่วม

เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องรู้! เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของฝ่ายตรงข้ามใช้อาวุธเคมี

ทั้งบล็อคทหารเข้าสู่การเผชิญหน้ามีอาวุธประมาณเดียวกันซึ่งนำไปสู่การต่อสู้ยืดเยื้อ กองกำลังที่เท่าเทียมกันที่จุดเริ่มต้นของการรณรงค์นำไปสู่ความจริงที่ว่าหลังจากสิ้นสุดแต่ละประเทศมีส่วนร่วมในการสร้างทนไฟและการพัฒนาอาวุธที่ทันสมัยและทรงพลังอย่างกระตือรือร้น

สเกลและธรรมชาติแบบพาสซีฟของการต่อสู้นำไปสู่การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่สมบูรณ์และการผลิตของประเทศที่มีต่อการพลเมืองซึ่งส่งผลกระทบต่อทิศทางของการพัฒนาเศรษฐกิจยุโรปอย่างมีนัยสำคัญในปี 2458-2482 ลักษณะสำหรับช่วงเวลานี้คือ:

• การเสริมสร้างอิทธิพลของรัฐและการควบคุมในทรงกลมเศรษฐกิจ
• การสร้างคอมเพล็กซ์ทหาร
• การพัฒนาระบบพลังงานอย่างรวดเร็ว
• ผลิตภัณฑ์ป้องกันการขึ้น

วิกิพีเดียกล่าวว่าความยาวทางประวัติศาสตร์ของเวลาของเลือดเป็นโลกแห่งแรก - เธอใช้ชีวิตเพียง 32 ล้านคนรวมถึงทหารและประชากรที่สงบสุขเสียชีวิตจากความหิวโหยและการทิ้งระเบิด แต่ทหารเหล่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ได้รับบาดเจ็บทางจิตวิทยาจากสงครามและไม่สามารถนำไปสู่การดำเนินชีวิตตามปกติ นอกจากนี้หลายคนถูกวางยาพิษด้วยอาวุธเคมีที่ใช้บนด้านหน้า

วิดีโอที่มีประโยชน์

มาสรุปกันเถอะ

เยอรมนีผู้มีความมั่นใจในชัยชนะของเขาในปี 2457 ในปี 1918 หยุดเป็นสถาบันพระมหากษัตริย์สูญเสียที่ดินจำนวนมากและมีความอ่อนแอทางเศรษฐกิจมากไม่เพียง แต่การสูญเสียทางทหาร แต่ยังมีการชดใช้ที่บังคับเช่นกัน เงื่อนไขที่ยากลำบากและความอัปยศอดสูครั้งทั่วไปของประเทศที่รอดชีวิตจากชาวเยอรมันหลังจากเอาชนะจากพันธมิตรเบื่อและอุ่นความเชื่อมั่นของชาตินิยมซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. 2472-2488 ความขัดแย้ง