Franz Schubert: ชีวประวัติข้อเท็จจริงที่น่าสนใจวิดีโอความคิดสร้างสรรค์ Franz Schubert: ชีวประวัติชีวิตส่วนตัวและผลงานของนักแต่งเพลงชื่อเพลงของนักแต่งเพลงชาวออสเตรีย f Schubert ชื่ออะไร

ชะตากรรมของคนที่ยอดเยี่ยมนั้นน่าทึ่งมาก! พวกเขามีสองชีวิต คนหนึ่งจบลงด้วยความตาย อีกคนหนึ่งยังคงดำเนินต่อไปหลังจากการตายของผู้เขียนในการสร้างสรรค์ของเขาและอาจจะไม่จางหายไปโดยได้รับการอนุรักษ์โดยคนรุ่นต่อ ๆ มาขอบคุณผู้สร้างสำหรับความสุขที่ผลงานของเขานำมาสู่ผู้คน บางครั้งชีวิตของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ (ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะ สิ่งประดิษฐ์ การค้นพบ) เริ่มต้นหลังจากการตายของผู้สร้างเท่านั้นไม่ว่าจะขมขื่นเพียงใด
นี่เป็นวิธีที่ชะตากรรมของชูเบิร์ตและผลงานของเขาพัฒนาขึ้น ผู้เขียนไม่เคยได้ยินผลงานที่ดีที่สุดของเขา โดยเฉพาะประเภทใหญ่ๆ ดนตรีส่วนใหญ่ของเขาอาจหายไปอย่างไร้ร่องรอยหากไม่ใช่เพราะการค้นหาที่กระฉับกระเฉงและผลงานอันยิ่งใหญ่ของผู้เชี่ยวชาญที่กระตือรือร้นของ Schubert (รวมถึงนักดนตรีเช่น Schumann และ Brahms)
ดังนั้น เมื่อหัวใจอันร้อนแรงของนักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่หยุดเต้น ผลงานที่ดีที่สุดของเขาก็เริ่ม "เกิดใหม่" พวกเขาเองก็เริ่มพูดถึงนักแต่งเพลง ดึงดูดผู้ชมด้วยความงาม เนื้อหาที่ลึกซึ้ง และทักษะ

ดนตรีของเขาค่อยๆ ดังขึ้นในทุกที่ที่งานศิลปะของแท้เป็นที่ชื่นชม
เมื่อพูดถึงลักษณะเฉพาะของงานของ Schubert นักวิชาการ BV Asafiev ตั้งข้อสังเกตว่า "ความสามารถที่หายากในการเป็นนักแต่งบทเพลง แต่จะไม่ถูกโดดเดี่ยวในโลกส่วนตัวของเขา แต่เพื่อความรู้สึกและถ่ายทอดความสุขและความเศร้าโศกของชีวิตในแบบที่คนส่วนใหญ่รู้สึก และต้องการจะสื่อถึงพวกเขา" บางทีอาจเป็นไปไม่ได้ที่จะแสดงสิ่งสำคัญในดนตรีของชูเบิร์ตอย่างแม่นยำและลึกซึ้งยิ่งขึ้นบทบาททางประวัติศาสตร์ของมันคืออะไร ชูเบิร์ตสร้างผลงานมากมายทุกประเภทที่มีอยู่ในสมัยของเขาโดยไม่มีข้อยกเว้น - ตั้งแต่เสียงร้องและเปียโนขนาดเล็กไปจนถึงซิมโฟนี
ในทุกสาขายกเว้นดนตรีละคร เขาพูดคำใหม่ที่ไม่เหมือนใคร ทิ้งงานที่ยอดเยี่ยมที่ยังคงมีอยู่จนถึงทุกวันนี้ ด้วยความอุดมสมบูรณ์ ท่วงทำนอง จังหวะ และความสามัคคีที่หลากหลายเป็นพิเศษจึงโดดเด่น
“ช่างเป็นความร่ำรวยที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของการประดิษฐ์ไพเราะในการสำเร็จการศึกษาก่อนวัยอันควรนี้
อาชีพของเขาในฐานะนักแต่งเพลง Tchaikovsky เขียนด้วยความชื่นชม - ช่างเป็นจินตนาการอันหรูหราและความคิดริเริ่มที่เฉียบแหลม! "
ความมั่งคั่งในการร้องเพลงของชูเบิร์ตนั้นยอดเยี่ยมมาก เพลงของเขามีค่าและเป็นที่รักของเราไม่เพียง แต่เป็นงานศิลปะอิสระเท่านั้น พวกเขาช่วยนักแต่งเพลงค้นหาภาษาดนตรีของเขาในประเภทอื่น การเชื่อมต่อกับเพลงไม่เพียงแต่ในโทนเสียงและจังหวะทั่วไปเท่านั้น แต่ยังรวมถึงลักษณะเฉพาะของการนำเสนอ การพัฒนาธีม ความหมายและความฉลาดของวิธีการฮาร์มอนิกด้วย ชูเบิร์ตเปิดทางให้กับแนวดนตรีใหม่ๆ มากมาย - อย่างกะทันหัน ช่วงเวลาทางดนตรี รอบเพลง ซิมโฟนีเนื้อร้องและละคร แต่ในประเภทใดก็ตามที่ชูเบิร์ตเขียน ไม่ว่าจะเป็นแบบดั้งเดิมหรือแบบที่เขาสร้างขึ้น ทุกที่ที่เขาปรากฏตัวในฐานะนักแต่งเพลงของยุคใหม่ ยุคแห่งแนวโรแมนติก แม้ว่างานของเขาจะมีพื้นฐานมาจากศิลปะดนตรีคลาสสิกอย่างแน่นหนา
คุณสมบัติหลายอย่างของสไตล์โรแมนติกใหม่ได้รับการพัฒนาในผลงานของ Schumann, Chopin, Liszt และนักประพันธ์เพลงชาวรัสเซียในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19

ดนตรีของชูเบิร์ตเป็นที่รักของเราไม่เพียง แต่เป็นอนุสาวรีย์ทางศิลปะที่งดงามเท่านั้น เธอกังวลอย่างมากกับผู้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นการสาดน้ำด้วยความสนุกสนาน ดื่มด่ำกับการไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง หรือทำให้เกิดความทุกข์ - ทุกคนสามารถเข้าใจได้อย่างใกล้ชิดและชัดเจน เผยให้เห็นความรู้สึกและความคิดของมนุษย์ที่แสดงออกมาโดยชูเบิร์ตผู้ยิ่งใหญ่ในความเรียบง่ายไร้ขอบเขตของเขา

งานหลักของชูเบิร์ต

สำหรับวงซิมโฟนีออร์เคสตรา
แปดซิมโฟนี ได้แก่ :
Symphony No. 4 ใน C minor (โศกนาฏกรรม), 1816
ซิมโฟนีหมายเลข 5 ใน B-flat major, 1816
Symphony No. 7 in B minor (ยังไม่เสร็จ), 1822
ซิมโฟนีหมายเลข 8 ในซีเมเจอร์ พ.ศ. 2371
เจ็ดทาบทาม.

งานขับร้อง(หมายเหตุ)
กว่า 600 เพลงรวมถึง:
วงจร "The Beautiful Miller", 1823
วงจร "เส้นทางฤดูหนาว" พ.ศ. 2370
คอลเลกชัน "เพลงหงส์" (มรณกรรม), พ.ศ. 2371
มากกว่า 70 เพลงตามเนื้อร้องของเกอเธ่ ได้แก่:
"มาร์การิต้าที่ล้อหมุน", พ.ศ. 2357
"ป่าซาร์", พ.ศ. 2358
ผลงานทางจิตวิญญาณมากกว่า 30 ผลงาน ได้แก่ :
มิสซาในแฟลตเมเจอร์ พ.ศ. 2365
มิสซาในอีแฟลตเมเจอร์ พ.ศ. 2371
งานฆราวาสมากกว่า 70 งานสำหรับคณะนักร้องประสานเสียงและตระการตาต่างๆ

หอการค้าตระการตา
สิบห้าสี่รวมถึง:
Quartet in A minor, พ.ศ. 2367
Quartet ใน D minor, 1826
Trout Quintet, พ.ศ. 2362
String Quintet, พ.ศ. 2371
เปียโนทริโอ 2 ตัว ค.ศ. 1826 และ พ.ศ. 2370
ออคเต็ต, 1824

งานเปียโน
แปดอย่างกะทันหัน 1827-1828
หกช่วงเวลาทางดนตรี พ.ศ. 2370
แฟนตาซี "พเนจร", พ.ศ. 2365
สิบห้า sonatas รวมถึง:
โซนาตาในผู้เยาว์ พ.ศ. 2366
Sonata in A major, พ.ศ. 2368
โซนาตาในบีแฟลตเมเจอร์ พ.ศ. 2371
56 เปียโนคลอ
การกระจายการลงทุนของฮังการี พ.ศ. 2367
แฟนตาเซียใน F minor, 1828
24 คอลเลกชันของการเต้นรำ

งานดนตรีและละคร
แปด singspils ได้แก่ :
เพื่อนจากซาลามังกา ค.ศ. 1815
"ราศีเมถุน" ค.ศ. 1819
โอเปร่า:
Alfonso และ Estrella, 1822
"Fierabras", พ.ศ. 2366
"สงครามบ้าน" ("ผู้สมรู้ร่วมคิด"), พ.ศ. 2366
ที่เหลือไม่ครบ
Melodrama "The Magic Harp", พ.ศ. 2363

Schubert Franz (31.01. 1797 - 19.11.1828) - นักแต่งเพลงและนักเปียโนชาวออสเตรียที่มีชื่อเสียง ผู้ก่อตั้งเพลงรักโรแมนติก ในรอบเพลง Shu-bert ได้รวบรวมโลกแห่งจิตวิญญาณของคนร่วมสมัย - "ชายหนุ่มแห่งศตวรรษที่ 19" เขียน appr. 600 เพลง (ตามคำพูดของ F. Schiller, IV Goethe, G. Heine และคนอื่น ๆ ) รวมถึงจากรอบ "The Beautiful Miller Woman" (1823), "Winter Path" (1827 ทั้งคำพูดของ V. Müller ) ; 9 ซิมโฟนี (รวมถึง "Unfinished", 1822), สี่, ทริโอ, กลุ่มเปียโน "Trout" (1819); เปียโนโซนาต้า (เซนต์ 20), กะทันหัน, จินตนาการ, วอลซ์, เจ้าของที่ดิน ฯลฯ เขายังเขียนผลงานกีตาร์อีกด้วย

มีการดัดแปลงผลงานกีตาร์ของชูเบิร์ตมากมาย (A. Diabelli, I.K.Mertz และอื่นๆ)

เกี่ยวกับ Franz Schubert และผลงานของเขา

วาเลรี อกาบาบอฟ

นักดนตรีและคนรักดนตรีจะสนใจที่จะรู้ว่า Franz Schubert ไม่ได้ใช้เปียโนที่บ้านมาหลายปีแล้ว ส่วนใหญ่ใช้กีตาร์ในการแต่งเพลงของเขา "เซเรเนด" อันโด่งดังของเขาถูกทำเครื่องหมาย "สำหรับกีตาร์" ในต้นฉบับ และถ้าเราฟังท่วงทำนองที่ไพเราะและเรียบง่ายในเพลงที่จริงใจของ F. Schubert อย่างใกล้ชิด เราจะแปลกใจที่สังเกตเห็นว่าสิ่งที่เขาเขียนในเพลงและการเต้นส่วนใหญ่มีลักษณะ "กีตาร์" ที่เด่นชัด

Franz Schubert (1797-1828) - นักแต่งเพลงชาวออสเตรียผู้ยิ่งใหญ่ เกิดในครอบครัวครูโรงเรียน เขาถูกเลี้ยงดูมาในคอนแวนต์เวียนนา ซึ่งเขาศึกษาเบสทั่วไปภายใต้ V. Ruzicka ความแตกต่างและองค์ประกอบภายใต้ A. Salieri

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2357 ถึง พ.ศ. 2361 เขาทำงานเป็นผู้ช่วยครูที่โรงเรียนของบิดา รอบ ๆ ชูเบิร์ตมีกลุ่มเพื่อนและผู้ชื่นชมผลงานของเขา (ในหมู่พวกเขามีกวี F. Schober และ I. Mayrhofer ศิลปิน M. Schwind และ L. Kupilwieser นักร้อง I. M. Vogl ซึ่งกลายเป็นผู้ก่อการเพลงของเขา) การประชุมที่เป็นมิตรเหล่านี้กับชูเบิร์ตเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ภายใต้ชื่อ "ชูเบอร์เทียด" ในฐานะครูสอนดนตรีสำหรับธิดาของ Count I. Esterhazy ชูเบิร์ตไปฮังการีพร้อมกับ Vogl เดินทางไปอัปเปอร์ออสเตรียและซาลซ์บูร์ก ในปี ค.ศ. 1828 ไม่กี่เดือนก่อนการเสียชีวิตของชูเบิร์ต คอนเสิร์ตของผู้แต่งก็เกิดขึ้น ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก

สถานที่ที่สำคัญที่สุดในมรดกของ F. Schubert คือเพลงสำหรับเสียงและเปียโน (ประมาณ 600 เพลง) หนึ่งในนักท่วงทำนองที่ใหญ่ที่สุด Schubert ได้ปฏิรูปแนวเพลงโดยมีเนื้อหาที่ลึกซึ้ง ชูเบิร์ตสร้างเพลงแนวใหม่ของการพัฒนาแบบ cross-cutting รวมถึงตัวอย่างศิลปะชั้นสูงชุดแรกของวัฏจักรเสียงร้อง ("The Beautiful Miller's Woman", "Winter Path") Peru Schubert เป็นของโอเปร่า singspils ฝูง cantatas, oratorios, quartets สำหรับเสียงชายและหญิง (ในคณะนักร้องประสานเสียงชายและ op. 11 และ 16 เขาใช้กีตาร์เป็นเครื่องดนตรีประกอบ)

ในดนตรีบรรเลงของชูเบิร์ตตามประเพณีของนักประพันธ์เพลงของโรงเรียนคลาสสิกเวียนนา ธีมของประเภทเพลงมีความสำคัญอย่างยิ่ง พระองค์ทรงสร้างซิมโฟนี 9 บท 8 บท ตัวอย่างที่ดีที่สุดของซิมโฟนีโรแมนติกคือซิมโฟนี "ยังไม่เสร็จ" ที่ไพเราะและซิมโฟนี "บิ๊ก" ที่กล้าหาญและยิ่งใหญ่

เพลงเปียโนเป็นส่วนสำคัญของงานของชูเบิร์ต เมื่อได้สัมผัสกับอิทธิพลของเบโธเฟน ชูเบิร์ตได้ก่อตั้งประเพณีการตีความแนวเปียโนโซนาต้าแบบอิสระเสรี (23) แฟนตาซี "The Wanderer" คาดการณ์รูปแบบ "บทกวี" ของความโรแมนติก (F. Liszt) Impromptu (11) และโมเมนต์ทางดนตรี (6) โดย Schubert เป็นภาพจำลองโรแมนติกชิ้นแรก ใกล้กับผลงานของ F. Chopin และ R. Schumann เปียโนมินูเอ็ต วอลซ์ "นาฏศิลป์เยอรมัน" เจ้าของบ้าน อีโคเซส ฯลฯ สะท้อนถึงความทะเยอทะยานของนักแต่งเพลงที่จะแต่งบทกวีประเภทการเต้น ชูเบิร์ตเขียนมากกว่า 400 การเต้นรำ

งานของ F. Schubert มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับศิลปะพื้นบ้านออสเตรีย กับดนตรีประจำวันของเวียนนา แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยใช้ธีมพื้นบ้านที่แท้จริงในผลงานของเขา

F. Schubert เป็นตัวแทนหลักคนแรกของแนวโรแมนติกทางดนตรีที่แสดงในคำพูดของ Academician B.V. Asafiev "ความสุขและความเศร้าโศกของชีวิต" ในแบบที่ "คนส่วนใหญ่รู้สึกและต้องการถ่ายทอด"

นิตยสาร "กีตาร์" №1, 2004

วิธีที่สร้างสรรค์ บทบาทของดนตรีในครัวเรือนและดนตรีพื้นบ้านในการก่อกำเนิดศิลปะของชูเบิร์ต

Franz Schubert เกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2340 ที่ Lichtenthal ในเขตชานเมืองเวียนนาในครอบครัวครูในโรงเรียน สภาพแวดล้อมทางประชาธิปไตยที่ล้อมรอบเขาตั้งแต่วัยเด็กมีอิทธิพลอย่างมากต่อนักแต่งเพลงในอนาคต

การแนะนำศิลปะของชูเบิร์ตเริ่มต้นด้วยการเล่นดนตรีที่บ้าน ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของชีวิตในเมืองในออสเตรีย เห็นได้ชัดว่าตั้งแต่อายุยังน้อยชูเบิร์ตเริ่มเชี่ยวชาญด้านดนตรีพื้นบ้านของเวียนนา

ในเมืองนี้ บนพรมแดนของตะวันออกและตะวันตก เหนือและใต้ เมืองหลวงของอาณาจักร "งานเย็บปะติดปะต่อกัน" วัฒนธรรมประจำชาติมากมายรวมถึงวัฒนธรรมทางดนตรีผสมผสานกัน ออสเตรีย, เยอรมัน, อิตาลี, สลาฟในหลาย ๆ สายพันธุ์ (ยูเครน, เช็ก, รูเธเนียน, โครเอเชีย), ยิปซี, นิทานพื้นบ้านฮังการีฟังทุกที่

ในผลงานของชูเบิร์ต จนถึงผลงานล่าสุด เราสามารถสัมผัสได้ถึงความเกี่ยวพันกับแหล่งกำเนิดที่หลากหลายของดนตรีประจำวันของเวียนนา ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากระแสที่โดดเด่นในงานของเขาคือออสโตร - เยอรมัน ในฐานะนักแต่งเพลงชาวออสเตรีย ชูเบิร์ตยังได้ประโยชน์จากวัฒนธรรมดนตรีเยอรมันเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเทียบกับพื้นหลังนี้ คุณลักษณะของนิทานพื้นบ้านสลาฟและฮังการีนั้นแสดงออกอย่างชัดเจนและต่อเนื่องเป็นพิเศษ

การศึกษาด้านดนตรีที่หลากหลายของชูเบิร์ต (เขาคุ้นเคยกับพื้นฐานของการแต่งเพลงอยู่แล้วที่บ้าน การเล่นออร์แกน กลาเวียร์ ไวโอลิน) ไม่ใช่เรื่องที่เป็นมืออาชีพ ในยุคของความหลากหลายและศิลปะอัจฉริยะที่เกิดขึ้นใหม่ มันยังคงเป็นปิตาธิปไตยและค่อนข้างล้าสมัย อันที่จริง การขาดการฝึกเปียโนอัจฉริยะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ชูเบิร์ตเลิกเล่นคอนเสิร์ต ซึ่งในศตวรรษที่ 19 ได้กลายเป็นวิธีการที่ทรงพลังที่สุดในการส่งเสริมดนตรีใหม่ โดยเฉพาะเพลงเปียโน ต่อจากนั้น เขาต้องเอาชนะความเขินอายต่อหน้าสาธารณชน อย่างไรก็ตาม การขาดประสบการณ์ในการแสดงคอนเสิร์ตก็มีข้อดีเช่นกัน: ได้รับการชดเชยด้วยความบริสุทธิ์และความจริงจังของรสนิยมทางดนตรีของผู้แต่ง

ผลงานของชูเบิร์ตปราศจากความอวดดีโดยเจตนา จากความปรารถนาที่จะเอาใจรสนิยมของชนชั้นนายทุนซึ่งแสวงหาความบันเทิงในงานศิลปะเป็นหลัก เป็นลักษณะเฉพาะของจำนวนทั้งหมด - ประมาณหนึ่งและครึ่งพันงาน - เขาสร้างเพียงสององค์ประกอบที่หลากหลายจริง ๆ ("Concertstuck" สำหรับไวโอลินและวงออเคสตราและ "Polonaise" สำหรับไวโอลินและวงออเคสตรา)

Schumann หนึ่งในผู้ชื่นชอบแนวโรแมนติกชาวเวียนนาคนแรกเขียนว่าคนหลัง "ไม่จำเป็นต้องเอาชนะอัจฉริยะในตัวเองก่อน"

การเชื่อมต่ออย่างสร้างสรรค์ที่ไม่เปลี่ยนแปลงของชูเบิร์ตกับแนวเพลงพื้นบ้านที่ได้รับการปลูกฝังในสภาพแวดล้อมที่บ้านของเขานั้นเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ประเภทศิลปะหลักของชูเบิร์ตคือเพลง - ศิลปะที่มีอยู่ในหมู่ผู้คน ชูเบิร์ตดึงคุณลักษณะที่ล้ำสมัยที่สุดของเขามาจากดนตรีพื้นบ้านแบบดั้งเดิม เพลง เปียโนสี่มือ การเรียบเรียงของนาฏศิลป์พื้นบ้าน (วอลซ์ แลนเลอร์ มินูเอต และอื่นๆ) ทั้งหมดนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดภาพลักษณ์ที่สร้างสรรค์ของความโรแมนติกแบบเวียนนา ตลอดชีวิตของเขา นักแต่งเพลงไม่เพียงแต่ติดต่อกับดนตรีในชีวิตประจำวันของเวียนนาเท่านั้น แต่ยังมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของย่านชานเมืองเวียนนาอีกด้วย

เรียนห้าปีที่ Konvikte *,

* ปิดสถาบันการศึกษาทั่วไปซึ่งเป็นโรงเรียนสำหรับนักร้องในศาลในเวลาเดียวกัน

จากปีพ.ศ. 2351 ถึง พ.ศ. 2356 ได้ขยายขอบเขตทางดนตรีของชายหนุ่มอย่างมีนัยสำคัญและเป็นเวลาหลายปีที่กำหนดธรรมชาติของความสนใจทางอุดมการณ์และศิลปะของเขา

ที่โรงเรียน เล่นและดำเนินวงออเคสตรานักเรียน ชูเบิร์ตคุ้นเคยกับผลงานที่โดดเด่นมากมายของเฮย์เดน โมสาร์ท เบโธเฟน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการก่อตัวของรสนิยมทางศิลปะของเขา การมีส่วนร่วมโดยตรงในคณะนักร้องประสานเสียงทำให้เขามีความรู้ที่ยอดเยี่ยมและความรู้สึกของวัฒนธรรมการร้อง ซึ่งสำคัญมากสำหรับงานในอนาคตของเขา ใน Konvikt กิจกรรมสร้างสรรค์อันเข้มข้นของนักแต่งเพลงเริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2353 และยิ่งไปกว่านั้น ในหมู่นักเรียน ชูเบิร์ตพบสภาพแวดล้อมที่อยู่ใกล้เขา ซึ่งแตกต่างจาก Salieri ผู้จัดการองค์ประกอบอย่างเป็นทางการซึ่งพยายามให้ความรู้แก่นักเรียนเกี่ยวกับประเพณีของโอเปร่าอิตาลีคนหนุ่มสาวเห็นอกเห็นใจกับภารกิจของ Schubert ยินดีต้อนรับในผลงานของเขาด้วยแรงดึงดูดที่มีต่อศิลปะประชาธิปไตยแห่งชาติ ในเพลงและเพลงบัลลาดของเธอ เธอสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณของกวีนิพนธ์ระดับชาติ ซึ่งเป็นศูนย์รวมของอุดมคติทางศิลปะของคนรุ่นใหม่

ในปี ค.ศ. 1813 ชูเบิร์ตลาออกจากนักโทษ ภาย​ใต้​ความ​กดดัน​อย่าง​หนักแน่น​จาก​ครอบครัว เขา​ยอม​เป็น​ครู และ​สอน​อักษร​และ​วิชา​พื้น​ฐาน​อื่น ๆ ที่​โรง​เรียน​ของ​บิดา​จน​ถึง​สิ้นปี 2360 นี่เป็นบริการแรกและครั้งสุดท้ายในชีวิตของผู้แต่ง

ในช่วงหลายปีที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการสอนที่ทำให้เขาต้องแบกรับภาระ พรสวรรค์ด้านความคิดสร้างสรรค์ของชูเบิร์ตพัฒนาขึ้นด้วยความเฉลียวฉลาดที่น่าทึ่ง แม้จะขาดการติดต่อกับโลกดนตรีมืออาชีพโดยสิ้นเชิง เขาก็แต่งเพลง ซิมโฟนี ควอเตต ดนตรีจิตวิญญาณและการขับร้องประสานเสียง เปียโนโซนาตา โอเปร่า และผลงานอื่นๆ ในช่วงเวลานี้บทบาทนำของเพลงถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจนในงานของเขา ในปี 1815 เพียงปีเดียว ชูเบิร์ตแต่งเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ มากกว่าหนึ่งร้อยสี่สิบเรื่อง เขาเขียนอย่างกระตือรือร้นโดยใช้ทุก ๆ นาทีที่ว่างแทบจะไม่สามารถเขียนความคิดลงในกระดาษได้ เกือบจะไม่มีรอยตำหนิและการเปลี่ยนแปลงใดๆ เขาสร้างงานที่เสร็จแล้วขึ้นมาอีกชิ้น ความแปลกใหม่เฉพาะตัวของตุ๊กตาจิ๋วแต่ละชิ้น ความละเอียดอ่อนทางกวีของอารมณ์ ความแปลกใหม่และความสมบูรณ์ของสไตล์ช่วยยกระดับงานเหล่านี้เหนือทุกสิ่งที่สร้างขึ้นในประเภทเพลงโดยรุ่นก่อนของชูเบิร์ต ใน "Margarita at the Spinning Wheel", "Forest Tsar", "Wanderer", "Trout", "To the Music" และเพลงอื่น ๆ อีกมากมายในปีนี้ ภาพที่มีลักษณะเฉพาะและเทคนิคการแสดงออกของเนื้อเพลงเสียงร้องโรแมนติกได้ถูกกำหนดไว้อย่างสมบูรณ์แล้ว .

ตำแหน่งครูประจำจังหวัดก็เหลือทนสำหรับผู้แต่ง ในปี ค.ศ. 1818 พ่อของเขาต้องเจ็บปวดจากการที่ชูเบิร์ตปฏิเสธที่จะรับใช้ เขาเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยอุทิศตนให้กับความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่

ปีเหล่านี้ได้รับการทำเครื่องหมายโดยความต้องการที่รุนแรงและต่อเนื่อง ชูเบิร์ตไม่มีแหล่งรายได้ที่เป็นวัตถุ ดนตรีของเขาซึ่งค่อยๆ ได้รับการยอมรับในหมู่นักปราชญ์ในระบอบประชาธิปไตย ได้บรรเลงในบ้านส่วนตัวโดยเฉพาะและส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัด โดยไม่ดึงดูดความสนใจของผู้มีอิทธิพลในโลกดนตรีของเวียนนา สิ่งนี้ดำเนินต่อไปเป็นเวลาสิบปี เฉพาะช่วงก่อนการเสียชีวิตของชูเบิร์ตเท่านั้นที่ผู้จัดพิมพ์เริ่มซื้อบทละครเล็กๆ จากเขา และราคาเพียงเล็กน้อย ไม่มีเงินทุนที่จะเช่าอพาร์ตเมนต์ นักแต่งเพลงอาศัยอยู่กับเพื่อนเป็นส่วนใหญ่ ทรัพย์สินที่เหลืออยู่หลังจากเขามีมูลค่า 63 ฟลอริน

สองครั้งในปี พ.ศ. 2361 และ พ.ศ. 2367 ภายใต้แรงกดดันจากความยากจนอย่างสุดขีด Schubert ได้เดินทางไปฮังการีเป็นเวลาสั้น ๆ ในฐานะครูสอนดนตรีในครอบครัวของ Count Esterhazy ความมั่งคั่งสัมพัทธ์และแม้แต่ความแปลกใหม่ของความประทับใจที่ดึงดูดนักแต่งเพลงโดยเฉพาะเพลงที่ทิ้งร่องรอยที่เป็นรูปธรรมไว้ในงานของเขายังไม่ได้ชดใช้แรงโน้มถ่วงของตำแหน่งของ "คนรับใช้ในศาล" และความเหงาทางวิญญาณ

และอย่างไรก็ตาม ไม่มีสิ่งใดมาขัดขวางความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาได้ ไม่ว่าจะเป็นระดับขอทานหรือโรคภัยที่ค่อยๆ ทำลายสุขภาพของเขา เส้นทางของเขาคือการก้าวขึ้นอย่างสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง ในปี ค.ศ. 1920 ชูเบิร์ตใช้ชีวิตทางจิตวิญญาณที่เข้มข้นเป็นพิเศษ เขาย้ายไปอยู่ท่ามกลางปัญญาชนประชาธิปไตยขั้นสูง *

* วงกลมชูเบิร์ตประกอบด้วย I. von Spaun, F. Schober, ศิลปินยอดเยี่ยม M. von Schwind, พี่น้อง A. และ I. Hüttenbrevner, กวี E. Meyerhofer, กวีปฏิวัติ I. Zenn, ศิลปิน L. Kupelwieser ใน I. Telcher นักเรียน E. von Bauernfeld นักร้องชื่อดัง I. Vogl และคนอื่น ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Franz Grillparzer นักเขียนบทละครและกวีชาวออสเตรียผู้มีชื่อเสียงได้เข้าร่วมกับเขา

ความสนใจของสาธารณชนและประเด็นการต่อสู้ทางการเมือง งานวรรณกรรมและศิลปะล่าสุด ปัญหาปรัชญาสมัยใหม่อยู่ในความสนใจของชูเบิร์ตและเพื่อนๆ ของเขา

นักแต่งเพลงตระหนักดีถึงบรรยากาศกดดันจากปฏิกิริยาของ Metternich ซึ่งเข้มข้นขึ้นเป็นพิเศษในช่วงหลายปีสุดท้ายของชีวิตเขา ในปี ค.ศ. 1820 แวดวงชูเบิร์ตทั้งหมดได้รับการประณามอย่างเป็นทางการสำหรับความรู้สึกปฏิวัติ การประท้วงต่อต้านคำสั่งที่มีอยู่นั้นแสดงออกมาอย่างตรงไปตรงมาในจดหมายและข้อความอื่น ๆ ของนักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่

“มันเป็นแค่ความโชคร้าย ที่ตอนนี้ทุกอย่างแข็งทื่อด้วยร้อยแก้วหยาบคาย และหลายคนมองมันด้วยความเฉยเมยและรู้สึกดีทีเดียว กลิ้งผ่านโคลนไปในขุมนรกอย่างสงบ” เขาเขียนถึงเพื่อนคนหนึ่งในปี พ.ศ. 2368

“... โครงสร้างของรัฐที่ชาญฉลาดและมีประโยชน์ทำให้แน่ใจได้ว่าศิลปินยังคงเป็นทาสของนักเลงที่น่าสงสารทุกคนเสมอ” จดหมายอีกฉบับกล่าว

บทกวีของชูเบิร์ตเรื่อง "Complaint to the People" (1824) ยังคงมีชีวิตรอดตามที่ผู้เขียนกล่าวไว้ "ในช่วงเวลาที่มืดมนเมื่อฉันรู้สึกถึงความแห้งแล้งและไม่สำคัญของลักษณะชีวิตในยุคของเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างเฉียบพลันและเจ็บปวด" นี่คือบรรทัดจากการหลั่งไหลนี้:

เยาวชนในสมัยของเราคุณรีบไป!
เสียอำนาจประชาชน
และสว่างน้อยลงทุกปี
และชีวิตดำเนินไปตามทางแห่งความไร้สาระ
อยู่เป็นทุกข์ยากขึ้นเรื่อย ๆ
แม้ว่าฉันจะยังมีเรี่ยวแรง
วันที่เสียไปที่ฉันเกลียด
สามารถตอบสนองวัตถุประสงค์ที่ดี ...
และมีเพียงคุณเท่านั้น Art ที่ถูกลิขิต
จับภาพทั้งแอ็คชั่นและเวลา
เพื่อแบ่งเบาภาระอันแสนเศร้า ... *

* แปลโดย L. Ozerov

อันที่จริง Schubert อุทิศพลังงานทางจิตวิญญาณที่ไม่ได้ใช้ทั้งหมดของเขาให้กับงานศิลปะ

วุฒิภาวะทางปัญญาและจิตวิญญาณสูงที่เขาได้รับในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นในเนื้อหาใหม่ของดนตรีของเขา ความลึกเชิงปรัชญาและละครที่ยิ่งใหญ่ การโน้มน้าวไปสู่ตาชั่งขนาดใหญ่ ไปสู่การคิดแบบใช้อุปกรณ์ทั่วไป ทำให้งานของชูเบิร์ตในทศวรรษที่ 1920 แตกต่างไปจากดนตรีในยุคแรก เบโธเฟนซึ่งเมื่อไม่กี่ปีก่อนในช่วงที่ชูเบิร์ตชื่นชมโมสาร์ทอย่างไม่มีขอบเขต บางครั้งทำให้นักแต่งเพลงรุ่นเยาว์หวาดกลัวด้วยความหลงใหลและความจริงใจที่ไร้ขอบเขตซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นเกณฑ์ทางศิลปะสูงสุดสำหรับเขาแล้ว เบโธเฟน - ในแง่ของขนาด ความลึกซึ้งทางปัญญา การตีความภาพที่น่าทึ่งและแนวโน้มที่กล้าหาญ - เสริมสร้างลักษณะทางอารมณ์และทันทีทันใดของดนตรีของชูเบิร์ตยุคแรก

ในช่วงครึ่งแรกของปี ค.ศ. 1920 ชูเบิร์ตได้สร้างผลงานชิ้นเอกซึ่งต่อมาได้กลายเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดของดนตรีคลาสสิกระดับโลก ในปี ค.ศ. 1822 วงซิมโฟนีที่ยังไม่เสร็จถูกเขียนขึ้น ซึ่งเป็นงานไพเราะชิ้นแรกที่ภาพที่โรแมนติกได้รับการถ่ายทอดทางศิลปะที่สมบูรณ์

ในช่วงแรกๆ ธีมโรแมนติกใหม่ๆ เช่น เนื้อเพลงรัก รูปภาพของธรรมชาติ นิยายพื้นบ้าน อารมณ์เชิงโคลงสั้น ถูกรวบรวมโดยชูเบิร์ตในการแต่งเพลง ผลงานเครื่องมือของเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมายังคงขึ้นอยู่กับตัวอย่างแบบคลาสสิก ตอนนี้ประเภทโซนาตาได้กลายเป็นโฆษกของโลกแห่งความคิดใหม่ ไม่เพียงแค่ "Unfinished Symphony" เท่านั้น แต่ยังมีควอเตตที่โดดเด่นอีกสามวงที่แต่งขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 1920 (ยังไม่เสร็จ, พ.ศ. 2363; ผู้เยาว์ พ.ศ. 2367; ดีไมเนอร์ พ.ศ. 2367-2469) แข่งขันกับเพลงของเขาเพื่อความแปลกใหม่ ความงาม และความสมบูรณ์ ความกล้าหาญของคีตกวีหนุ่มดูโดดเด่น ผู้ซึ่งชื่นชอบเบโธเฟนอย่างไม่มีขอบเขต ได้เดินไปตามทางของเขาเองและสร้างทิศทางใหม่ของซิมโฟนีแสนโรแมนติก อิสระอย่างเท่าเทียมกันในช่วงเวลานี้คือการตีความดนตรีแชมเบอร์มิวสิคซึ่งไม่เป็นไปตามเส้นทางของสี่ของ Haydn ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นนางแบบหรือเส้นทางของ Beethoven ซึ่งสี่กลายเป็นแนวปรัชญาที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ อย่างมีสไตล์จากการแสดงซิมโฟนีที่แสดงเป็นละครในระบอบประชาธิปไตย

และในดนตรีเปียโนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชูเบิร์ตได้สร้างคุณค่าทางศิลปะที่สูงส่ง Fantasy "The Wanderer" (อายุเท่ากับ "Unfinished Symphony"), การเต้นรำแบบเยอรมัน, waltzes, landlers, "Musical Moments" (1823-1827), "Impromptu" (1827) โซนาต้าเปียโนจำนวนมากสามารถประมาณได้โดยไม่ต้องพูดเกินจริงเช่น เวทีใหม่ในประวัติศาสตร์วรรณกรรมดนตรี ... เพลงเปียโนนี้ปราศจากการเลียนแบบแผนผังของโซนาตาคลาสสิก ดนตรีเปียโนนี้มีความโดดเด่นด้วยการแสดงออกทางโคลงสั้น ๆ และจิตวิทยาอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน เติบโตจากการแสดงด้นสดอย่างใกล้ชิด จากการเต้นรำทุกวัน โดยมีพื้นฐานมาจากวิธีการทางศิลปะแนวโรแมนติกแบบใหม่ ไม่มีการสร้างสรรค์เหล่านี้จากเวทีคอนเสิร์ตในช่วงชีวิตของชูเบิร์ต ดนตรีเปียโนของชูเบิร์ตที่ลุ่มลึกและควบคุมไม่ได้นั้นแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง แฝงไปด้วยอารมณ์กวีที่ละเอียดอ่อน ด้วยรูปแบบการเล่นเปียโนที่พัฒนาขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา - อัจฉริยะ-ความเก่งกาจ มีประสิทธิภาพ แม้แต่แฟนตาซี "The Wanderer" ซึ่งเป็นงานเปียโนอัจฉริยะเพียงงานเดียวของชูเบิร์ต ก็ยังต่างไปจากข้อกำหนดเหล่านี้ ซึ่งมีเพียงการจัดเรียงของ Liszt เท่านั้นที่ช่วยให้เปียโนนี้ได้รับความนิยมในเวทีคอนเสิร์ต

Mass As-dur (1822) ปรากฏในวงประสานเสียง - หนึ่งในผลงานดั้งเดิมและทรงพลังที่สุดที่สร้างขึ้นในแนวเพลงโบราณนี้โดยนักประพันธ์เพลงแห่งศตวรรษที่ 19 ด้วยชุดเสียงร้องสี่ส่วน "บทเพลงแห่งวิญญาณเหนือผืนน้ำ" ที่แต่งโดยเกอเธ่ (1821) ชูเบิร์ตได้ค้นพบแหล่งเพลงประสานเสียงที่มีสีสันและแสดงออกอย่างคาดไม่ถึงโดยสิ้นเชิง

เขายังทำการเปลี่ยนแปลงเพลง - พื้นที่ซึ่งเกือบจะตั้งแต่ก้าวแรก Schubert พบรูปแบบโรแมนติกที่สมบูรณ์ ในวงจรเพลง "The Beautiful Miller's Woman" (1823) ที่อิงจากข้อความของกวีMüller การรับรู้ถึงโลกที่น่าทึ่งและลึกซึ้งยิ่งขึ้น ในเพลงถึงบทของ Rückert, Pirker จาก "Wilhelm Meister" โดย Goethe และคนอื่นๆ จะเห็นเสรีภาพในการแสดงออกที่มากขึ้นและการพัฒนาทางความคิดที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

"คำพูดมีข้อจำกัด แต่เสียงโชคดีที่ยังมีอิสระ!" - Beethoven พูดถึง Metternich Vienna และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ชูเบิร์ตได้แสดงทัศนคติต่อความมืดมิดของชีวิตรอบตัวเขา ในวง D minor Quartet (1824-1826) ในวงจรเพลง The Winter Path (1827) ในเพลงที่อิงจากข้อความของ Heine (1828) ธีมที่น่าเศร้านั้นเป็นตัวเป็นตนด้วยพลังที่โดดเด่นและความแปลกใหม่ เต็มไปด้วยการประท้วงอย่างหลงใหล ดนตรีของชูเบิร์ตในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีความโดดเด่นด้วยความลึกทางจิตวิทยาที่ไม่เคยมีมาก่อน ทว่าทัศนคติอันน่าเศร้าของผู้ประพันธ์เพลงนั้นกลับไม่มีครั้งใดเลยในผลงานต่อมา กลายเป็นความไม่เชื่อ กลายเป็นโรคประสาทอ่อน โศกนาฏกรรมในงานศิลปะของชูเบิร์ตไม่ได้สะท้อนถึงความไร้สมรรถภาพ แต่เป็นความเศร้าโศกของบุคคลและศรัทธาในจุดประสงค์อันสูงส่งของเขา เมื่อพูดถึงความเหงาทางวิญญาณ ยังแสดงถึงทัศนคติที่เข้ากันไม่ได้ต่อความทันสมัยที่มืดมน

แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แนวความคิดที่กล้าหาญและยิ่งใหญ่ก็ปรากฏออกมาอย่างชัดเจนพร้อมกับหัวข้อที่น่าเศร้าในงานศิลปะของชูเบิร์ต ถึงเวลานั้นเองที่เขาสร้างเพลงที่ยืนยันชีวิตและเบาที่สุดของเขา ตื้นตันกับสิ่งที่น่าสมเพชของชาติ The Ninth Symphony (1828), วงเครื่องสาย (1828), cantata "The Victory Song of Miriam" (1828) - งานเหล่านี้และงานอื่น ๆ พูดถึงความพยายามของ Schubert ในการจับภาพศิลปะของความกล้าหาญภาพของ "เวลาแห่ง อำนาจและการกระทำ"

ผลงานล่าสุดของนักประพันธ์เพลงได้เปิดมุมมองใหม่ที่ไม่คาดคิดของบุคลิกภาพเชิงสร้างสรรค์ของเขา ผู้แต่งบทเพลงและนักย่อส่วนเริ่มหลงใหลไปกับผืนผ้าใบที่ยิ่งใหญ่และยิ่งใหญ่ จับภาพโดยขอบเขตทางศิลปะใหม่ที่เปิดขึ้นต่อหน้าเขา เขาคิดว่าจะอุทิศตัวเองทั้งหมดให้กับแนวเพลงที่กว้างใหญ่และเป็นภาพรวม

“ ฉันไม่ต้องการได้ยินอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับเพลง ในที่สุดฉันก็พร้อมที่จะทำงานโอเปร่าและซิมโฟนี” ชูเบิร์ตกล่าวเมื่อสิ้นสุดซีเมเจอร์ซิมโฟนีคนสุดท้ายของเขาหกเดือนก่อนสิ้นชีวิต

ความคิดสร้างสรรค์ที่เข้มข้นของเขาสะท้อนให้เห็นในการค้นหาใหม่ๆ ตอนนี้ ชูเบิร์ต ไม่เพียงแต่เปลี่ยนมาเป็นนิทานพื้นบ้านของชาวเวียนนาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงธีมพื้นบ้านในแผนเบโธเวเนียที่กว้างกว่าด้วย เขาสนใจทั้งดนตรีประสานเสียงและโพลีโฟนีเพิ่มขึ้น ในปีสุดท้ายของชีวิต เขาได้แต่งเพลงประสานเสียงหลักสี่งาน รวมทั้งงานมิสซาที่โดดเด่นในเมืองเอส-ดูร์ แต่ขนาดที่ยิ่งใหญ่ของเขาถูกรวมเข้ากับรายละเอียดที่ประณีต และละครของเบโธเฟน - ด้วยภาพที่โรแมนติก ชูเบิร์ตไม่เคยประสบความสำเร็จในด้านความเก่งกาจและความลึกของเนื้อหามาก่อนเช่นในการสร้างสรรค์ล่าสุดของเขา นักแต่งเพลงผู้แต่งผลงานมาแล้วมากกว่าหนึ่งพันชิ้น ยืนอยู่ในปีที่เขาจะเสียชีวิตจากการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ครั้งใหม่

จุดจบของชีวิตของชูเบิร์ตมีเหตุการณ์ที่โดดเด่นสองเหตุการณ์เกิดขึ้น ซึ่งอย่างไรก็ตาม เกิดขึ้นพร้อมกับความล่าช้าอย่างร้ายแรง ในปี ค.ศ. 1827 เบโธเฟนชื่นชมเพลงของชูเบิร์ตหลายเพลงและแสดงความปรารถนาที่จะทำความคุ้นเคยกับผลงานของนักเขียนรุ่นเยาว์ แต่เมื่อชูเบิร์ตเอาชนะความประหม่าได้มาหานักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่ เบโธเฟนก็อยู่บนเตียงมรณะแล้ว

อีกเหตุการณ์หนึ่งคือคืนแรกอย่างเป็นทางการของชูเบิร์ตในกรุงเวียนนา (มีนาคม 1828) ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่หลังจากนั้นไม่กี่เดือนหลังจากคอนเสิร์ต ซึ่งดึงดูดความสนใจจากชุมชนดนตรีในวงกว้างของเมืองหลวงมาสู่นักแต่งเพลงในตอนแรก เขาก็จากไป การตายของชูเบิร์ตซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2371 ถูกเร่งด้วยอาการอ่อนเพลียทางร่างกายและจิตใจเป็นเวลานาน

Franz Peter Schubert เกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2340 ในเขตชานเมืองเวียนนา ความสามารถทางดนตรีของเขาแสดงออกมาเร็วพอ เขาได้รับบทเรียนดนตรีครั้งแรกที่บ้าน พ่อของเขาสอนให้เขาเล่นไวโอลิน และพี่ชายของเขาสอนให้เขาเล่นเปียโน

ตอนอายุหกขวบ Franz Peter เข้าโรงเรียน Lichtenthal parish นักแต่งเพลงในอนาคตมีเสียงที่ไพเราะอย่างน่าอัศจรรย์ ด้วยเหตุนี้ เมื่ออายุได้ 11 ขวบ เขาจึงได้รับเลือกให้เป็น "เด็กร้องเพลง" ในโบสถ์ในเมืองหลวง

จนกระทั่งปี พ.ศ. 2359 ชูเบิร์ตศึกษาฟรีกับเอ. ซาลิเอรี เขาเรียนรู้พื้นฐานขององค์ประกอบและจุดแตกต่าง

พรสวรรค์ของนักแต่งเพลงปรากฏตัวในวัยรุ่นแล้ว ศึกษาชีวประวัติของ Franz Schubert , คุณควรรู้ว่าในช่วงระหว่าง พ.ศ. 2353 ถึง พ.ศ. 2356 เขาแต่งเพลงหลายเพลง ชิ้นส่วนเปียโน ซิมโฟนีและโอเปร่า

ผู้ใหญ่ปี

เส้นทางสู่งานศิลปะเริ่มต้นด้วยความคุ้นเคยของชูเบิร์ตกับบาริโทน I.M. โวกเล็ม. เขาแสดงหลายเพลงโดยนักแต่งเพลงที่ต้องการ และพวกเขาก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ความสำเร็จที่จริงจังครั้งแรกสำหรับนักประพันธ์เพลงรุ่นเยาว์นำโดยเพลงบัลลาด "The Forest Tsar" ของเกอเธ่ซึ่งเขาได้เปลี่ยนมาเป็นดนตรี

มกราคม พ.ศ. 2361 ได้รับการตีพิมพ์ผลงานเพลงแรกของนักดนตรี

ชีวประวัติสั้น ๆ ของนักแต่งเพลงมีความสำคัญ เขาได้พบและเป็นเพื่อนกับ A. Hüttenbrenner, I. Mayrhofer, A. Milder-Hauptmann การเป็นแฟนตัวยงของความคิดสร้างสรรค์ของนักดนตรีพวกเขามักจะช่วยเขาด้วยเงิน

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1818 ชูเบิร์ตเดินทางไปเซลิซ ประสบการณ์การสอนทำให้เขาได้งานเป็นครูสอนดนตรีให้กับ Count I. Esterhazy ในช่วงครึ่งหลังของเดือนพฤศจิกายน นักดนตรีกลับไปเวียนนา

คุณสมบัติของความคิดสร้างสรรค์

ทำความรู้จักกับชีวประวัติสั้น ๆ ของ Schubert , คุณควรรู้ว่าก่อนอื่นเขาเป็นที่รู้จักในฐานะนักแต่งเพลง คอลเล็กชั่นดนตรีตามบทกวีของ V. Mueller มีความสำคัญอย่างยิ่งในวรรณคดีแกนนำ

เพลงจากคอลเลกชันล่าสุดของนักแต่งเพลง Swan Song โด่งดังไปทั่วโลก การวิเคราะห์งานของชูเบิร์ตแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นนักดนตรีที่กล้าหาญและเป็นต้นฉบับ เขาไม่ได้เดินตามทางที่เบโธเฟนพ่ายแพ้ แต่เลือกเส้นทางของเขาเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเปียโน "เทราต์" เช่นเดียวกับในบีไมเนอร์ "Unfinished Symphony"

ชูเบิร์ตทิ้งงานเขียนของโบสถ์ไว้มากมาย ในจำนวนนี้ Mass No. 6 ใน E-flat major ได้รับความนิยมสูงสุด

ความเจ็บป่วยและความตาย

พ.ศ. 2366 การเลือกตั้งชูเบิร์ตเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของสมาคมดนตรีในลินซ์และสไตรี โดยสรุปโดยย่อเกี่ยวกับชีวประวัติของนักดนตรี ว่ากันว่าเขาได้สมัครตำแหน่งร้อยโทวงดนตรี แต่มันตกเป็นของเจ ไวเกิล

คอนเสิร์ตสาธารณะครั้งเดียวของชูเบิร์ตเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2371 ประสบความสำเร็จอย่างมากและทำให้เขาได้รับค่าธรรมเนียมเล็กน้อย ผลงานสำหรับเปียโนและเพลงของผู้แต่งได้รับการตีพิมพ์

ชูเบิร์ตเสียชีวิตด้วยไข้ไทฟอยด์ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2371 เขาอายุน้อยกว่า 32 ปี ในช่วงชีวิตอันแสนสั้นของเขา นักดนตรีสามารถทำสิ่งที่สำคัญที่สุดได้ – ตระหนักถึงของขวัญที่น่าตื่นตาตื่นใจของคุณ

ตารางตามลำดับเวลา

ตัวเลือกชีวประวัติอื่นๆ

ชูเบิร์ต

งานของ Franz Schubert เป็นจุดเริ่มต้นของกระแสโรแมนติกในดนตรี

ในงานที่งดงามของเขา เขาเปรียบเทียบความเป็นจริงในชีวิตประจำวัน - ความมั่งคั่งของโลกภายในของชายร่างเล็ก พื้นที่ที่สำคัญที่สุดในดนตรีของเขาคือเพลง

ในงานของเขา ความมืดและแสงสว่างสัมผัสกันเสมอ ฉันต้องการแสดงสิ่งนี้ในตัวอย่าง 2 วงรอบเพลงของเขา: "The Beautiful Miller's Woman" และ "The Winter Path"

"NS. ชอล์ก." 2366 - วัฏจักรเขียนขึ้นในบทกวีของMüllerซึ่งดึงดูดนักแต่งเพลงด้วยความไร้เดียงสาและความบริสุทธิ์ มากในพวกเขาใกล้เคียงกับประสบการณ์และชะตากรรมของชูเบิร์ตเอง เรื่องราวที่ไม่โอ้อวดเกี่ยวกับชีวิต ความรัก และความทุกข์ยากของนักปั่นมือใหม่

รอบนี้มี 2 เพลง "On the Road" และ "Lullaby of the Brook" ซึ่งเป็นตัวแทนของบทนำและบทสรุป

ระหว่างจุดสุดโต่งของวัฏจักรเป็นเรื่องราวของชายหนุ่มเกี่ยวกับการหลงทางของเขาเกี่ยวกับความรักที่เขามีต่อลูกสาวของเจ้าของโรงสี

วัฏจักรอย่างที่เคยเป็นมาแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน:

1) จาก 10 เพลง (จนถึง "หยุดชั่วคราว" หมายเลข 12) - นี่คือวันแห่งความหวังอันสดใส

2) เหตุอื่นแล้ว สงสัย อิจฉา เศร้า

การพัฒนาละครวัฏจักร:

1 การแสดงภาพ №1-3

2 ผูกหมายเลข 4 "ขอบคุณสตรีม"

3 พัฒนาการของประสาทสัมผัสหมายเลข 5-10

4 ไคลแม็กซ์ #11

5 พักอย่างน่าทึ่งการปรากฏตัวของคู่ต่อสู้ # 14

6 ทางแยก 20

"ไปตีถนนกันเถอะ"- เผยโครงสร้างความคิดและความรู้สึกของมิลเลอร์หนุ่มที่เพิ่งก้าวเท้าบนเส้นทางแห่งชีวิต อย่างไรก็ตามฮีโร่ใน "The Beautiful Miller" ไม่ได้อยู่คนเดียว ถัดจากเขามีฮีโร่อีกคนหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน - สตรีม เขาใช้ชีวิตอย่างดุเดือดและเปลี่ยนแปลงอย่างเข้มข้น ความรู้สึกของฮีโร่เปลี่ยนไปและกระแสก็เปลี่ยนไปเพราะวิญญาณของเขาผสานเข้ากับจิตวิญญาณของมิลเลอร์และเพลงก็แสดงออกถึงทุกสิ่งที่เขาประสบ
สื่อทางดนตรีของ 1 เพลงนั้นง่ายมากและใกล้เคียงกับวิธีการของศิลปะเพลงพื้นบ้านมากที่สุด

ไคลแม็กซ์นัมเบอร์ "ของฉัน"- ความเข้มข้นของความรู้สึกสนุกสนานทั้งหมด เพลงนี้ปิดรอบที่ 1 ของรอบ ด้วยเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นและความคล่องตัวที่ร่าเริง ความยืดหยุ่นของจังหวะและรูปแบบท่วงทำนองที่กว้างไกล จึงคล้ายกับเพลงเริ่มต้น "On the Road"

ในเพลงของภาค 2 ชูเบิร์ตแสดงให้เห็นว่าความเจ็บปวดและความขมขื่นเติบโตในจิตวิญญาณของนักทำสีรุ่นเยาว์อย่างไร ความเจ็บปวดนั้นแตกสลายไปด้วยความอิจฉาริษยาและความเศร้าโศกอย่างรุนแรง มิลเลอร์เห็นคู่แข่ง - นักล่า

หมายเลข 14 "ฮันเตอร์"ในการอธิบายตัวละครนี้ผู้แต่งใช้เทคนิคที่คุ้นเคยในสิ่งที่เรียกว่า "เพลงล่าสัตว์": ขนาด 6/8 "ว่าง" 4 และ 5 - "เขาทองขยับ" วาดภาพเขาล่าสัตว์ ลักษณะการเคลื่อนไหวก็ 63 // 63

3 เพลง "ความหึงหวงและความภาคภูมิใจ", "สีโปรด", "The Miller and the Stream" - ประกอบเป็นแกนหลักของภาค 2 ความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้เกิดความสับสนในความรู้สึกและความคิดทั้งหมด

"เพลงกล่อมเด็กแห่งลำธาร"- การถ่ายทอดอารมณ์ที่เขาจบชีวิตของเขา เต็มไปด้วยความรู้สึกเศร้าและเศร้าโศกที่เงียบสงบ จังหวะโมนาโทนิคที่โยกเยกและโทนิคของความสามัคคี โหมดหลัก รูปแบบที่สงบของท่วงทำนองเพลงสร้างความประทับใจของความสงบการประมาณ

ในตอนท้ายของวัฏจักร ชูเบิร์ตกลับมาหาเราในวิชาเอก ทำให้เรื่องนี้มีรสชาติที่เบา - นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับความสงบสุขนิรันดร์ ความอ่อนน้อมถ่อมตน แต่ไม่ใช่ความตาย

"ฤดูหนาว. ทาง" 2370 - ในบทกวีของMüllerเช่นกันวัฏจักรนั้นตรงกันข้ามกับความจริงที่ว่าตอนนี้ฮีโร่หลักจากชายหนุ่มที่ร่าเริงและร่าเริงได้กลายเป็นคนเหงาที่ทุกข์ทรมานและผิดหวัง (ตอนนี้เขาเป็นคนเร่ร่อนที่ถูกทอดทิ้ง)

เขาถูกบังคับให้ทิ้งที่รักของเขาไป ยากจน. เขาเริ่มออกเดินทางโดยไม่จำเป็น

ธีมของความเหงาในวัฏจักรนี้นำเสนอในหลายเฉดสี ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงเชิงโคลงสั้นไปจนถึงการสะท้อนเชิงปรัชญา

ความแตกต่างจาก "เปรม" ก็คือไม่มีโครงเรื่อง เพลงประกอบกับธีมที่น่าเศร้า

ความซับซ้อนของภาพ - การเน้นที่ด้านจิตวิทยาภายในของชีวิต ทำให้เกิดความซับซ้อนของรำพึง ภาษา. :

1) มีการแสดงรูปแบบ 3 ส่วน (กล่าวคือ ความผันแปรในแต่ละส่วนปรากฏขึ้น ส่วนสื่อที่ขยายออก และส่วนสรุปจะเปลี่ยนไปเมื่อเปรียบเทียบกับส่วนที่ 1

2) ท่วงทำนองเต็มไปด้วยรูปแบบการกล่าวสุนทรพจน์ (ข้อความสำหรับบทสวดมนต์)

3) Harmony (การมอดูเลตอย่างกะทันหัน, โครงสร้างที่ไม่ใช่เฮิรตซ์ของคอร์ด, การรวมคอร์ดที่ซับซ้อน)

มี 24 เพลงในหนึ่งรอบ: 2 ส่วน, 12 เพลงแต่ละ.

ในส่วนที่ 2 (13-24) - หัวข้อของโศกนาฏกรรมถูกนำเสนออย่างชัดเจนยิ่งขึ้นและธีมของความเหงาถูกแทนที่ด้วยธีมของความตาย

เพลงแรกของรอบ "ฝันดี"เช่นเดียวกับ "ระหว่างทาง" ที่ทำหน้าที่เป็นบทนำ - นี่เป็นเรื่องราวที่น่าเศร้าเกี่ยวกับความหวังและความรักในอดีต บทสวดของเธอเรียบง่ายและน่าเศร้า ท่วงทำนองไม่ได้ใช้งาน และมีเพียงจังหวะและการบรรเลงเปียโนเท่านั้นที่สื่อถึงการเคลื่อนไหวที่ซ้ำซากจำเจที่วัดได้ของผู้หลงทางที่โดดเดี่ยว ก้าวย่างที่ไม่หยุดนิ่งของเขา ทำนองแสดงถึงการเคลื่อนไหวจากจุดสูงสุดของแหล่งกำเนิด (katabasis - การเคลื่อนไหวลง) - ความเศร้าโศกความทุกข์ 4 ข้อถูกแยกออกจากข้ออื่นโดยการสูญเสียด้วยน้ำเสียงของการควบคุมตัว - การกำเริบของละคร

ในเพลงต่อๆ มาของ Section 1 ชูเบิร์ตมีแนวโน้มที่จะใช้คีย์ย่อยๆ มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อใช้คอร์ดที่ไม่ลงรอยกันและถูกดัดแปลง บทสรุปของทั้งหมดนี้คือ ความงามเป็นเพียงภาพลวงตาของความฝัน ซึ่งเป็นอารมณ์ทั่วไปของนักแต่งเพลงในช่วงหลายปีสุดท้ายของชีวิต

ในตอนที่ 2 หัวข้อของความเหงาถูกแทนที่ด้วยหัวข้อของความตาย อารมณ์เศร้าก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ชูเบิร์ตยังแนะนำลางสังหรณ์แห่งความตาย ลำดับที่ 15 "นกกา"ด้วยอารมณ์เศร้าหมองหม่นหมอง บทนำน่าเศร้า เต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว พรรณนาถึงการเคลื่อนไหวอย่างไม่หยุดยั้งและปีกที่วัดได้ นกกาสีดำบนที่สูงที่ปกคลุมไปด้วยหิมะไล่ตามเหยื่อในอนาคต - นักเดินทาง นกกามีความอดทนและไม่รีบร้อน เขากำลังรอเหยื่อ และรอเธอ

สุดท้าย # 24 เพลง "เครื่องบดอวัยวะ".เธอเสร็จสิ้นวงจร และไม่เหมือนคนอื่นๆ อีก 23 คน พวกเขาวาดภาพโลกตามที่ปรากฏต่อฮีโร่ หนึ่งนี้แสดงให้เห็นชีวิตตามที่เป็นอยู่ ใน "Organ Grinder" ไม่มีทั้งโศกนาฏกรรมที่กระวนกระวาย หรือความตื่นเต้นแบบโรแมนติก หรือการประชดอันขมขื่นที่มีอยู่ในเพลงที่เหลือ นี่คือภาพชีวิตที่เหมือนจริง เศร้าและซึ้ง จับได้ทันทีและถ่ายได้อย่างแม่นยำ ทุกอย่างในนั้นเรียบง่ายและไม่โอ้อวด
นักแต่งเพลงที่นี่เป็นตัวเป็นตนกับนักดนตรีที่ยากจนและยากจนในเพลงแมวถูกสร้างขึ้นจากการสลับเสียงร้องของวลีและเครื่องมือแห่งความสูญเสีย อวัยวะโทนิค ประเด็นนี้แสดงถึงเสียงของออร์แกนแบบลำกล้องหรือปี่ การทำซ้ำที่ซ้ำซากจำเจสร้างอารมณ์แห่งความเศร้าโศกและความเหงา

สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในวรรณคดีเสียงคือคอลเล็กชั่นเพลงของชูเบิร์ตตามบทกวีของวิลเฮล์มมุลเลอร์ - "The Beautiful Miller" และ "Winter Path" ซึ่งเป็นความต่อเนื่องของแนวคิดของ Beethoven ที่แสดงในคอลเล็กชั่นเพลง "Beloved" ผลงานทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถอันไพเราะและหลากหลายอารมณ์ ความสำคัญมากขึ้นของดนตรีประกอบความหมายทางศิลปะสูง เมื่อค้นพบเนื้อเพลงของมุลเลอร์เกี่ยวกับการเร่ร่อน ความทุกข์ ความหวัง และความผิดหวังของจิตวิญญาณโรแมนติกที่อ้างว้าง ชูเบิร์ตได้สร้างวงจรเสียงร้อง - อันที่จริงเพลงเดี่ยวชุดใหญ่ชุดแรกในประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงกันด้วยโครงเรื่องเดียว