ใช้งานได้กับปัญหาหน่วยความจำ ข้อโต้แย้งในหัวข้อ "สงคราม" กับองค์ประกอบของการสอบรัฐเอกภาพ

หลัก / สามีนอกใจ

สองปีก่อนนักเรียนของฉันและฉันได้โต้แย้งกับ Variant S.

1) ความหมายของชีวิตคืออะไร?

1. ผู้เขียนเขียนเกี่ยวกับความหมายของชีวิตและยูจีนวันจินก็นึกถึงในนวนิยายชื่อเดียวกันของ A.S. Pushkin ความขมขื่นคือชะตากรรมของผู้ที่ไม่พบที่อยู่ในชีวิต! Onegin เป็นคนที่มีพรสวรรค์เป็นหนึ่งในคนที่ดีที่สุดในยุคนั้น แต่เขาไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากความชั่วร้าย - เขาฆ่าเพื่อนคนหนึ่งนำความโชคร้ายมาสู่ทาเทียนาผู้รักของเขา:

ใช้ชีวิตโดยไม่มีเป้าหมายโดยไม่ต้องทำงาน

จนถึงยี่สิบหก

อิดโรยในการเพิกเฉยต่อการพักผ่อน

ไม่มีบริการเมียไม่มีงานทำ

ฉันไม่รู้ว่าจะทำอะไร

2. คนที่ไม่พบจุดมุ่งหมายของชีวิตไม่มีความสุข Pechorin ใน "A Hero of Our Time" โดย M.Yu Lermontov มีความกระตือรือร้นฉลาดมีไหวพริบช่างสังเกต แต่การกระทำทั้งหมดของเขาเป็นไปโดยบังเอิญกิจกรรมก็ไร้ผลและเขาไม่มีความสุขไม่มีอาการใด ๆ ของเจตจำนงของเขาที่ลึกล้ำ วัตถุประสงค์. พระเอกถามตัวเองอย่างขมขื่น:“ ทำไมฉันถึงมีชีวิตอยู่? ฉันเกิดมาเพื่อจุดประสงค์อะไร .. "

3. ตลอดชีวิตของเขาปิแอร์เบซูคอฟค้นหาตัวเองและความหมายที่แท้จริงของชีวิตอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย หลังจากการทดลองอันเจ็บปวดเขาไม่เพียง แต่สามารถไตร่ตรองถึงความหมายของชีวิต แต่ยังสามารถดำเนินการเฉพาะที่ต้องใช้เจตจำนงและความมุ่งมั่น ในบทส่งท้ายของนวนิยายของ Leo Tolstoy เราได้พบกับปิแอร์ซึ่งดำเนินไปโดยความคิดของ Decembrism ประท้วงต่อต้านระบบสังคมที่มีอยู่และต่อสู้เพื่อชีวิตที่ยุติธรรมของผู้คนซึ่งเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่ง ในการผสมผสานอินทรีย์ของบุคคลและชาติตามที่ตอลสตอยมีทั้งความหมายของชีวิตและความสุข

2) พ่อและลูก การศึกษา.

1. ดูเหมือนว่า Bazarov จะเป็นฮีโร่เชิงบวกในนวนิยายของ IS Turgenev "Fathers and Sons" เขาเป็นคนฉลาดกล้าหาญมีความเป็นอิสระในการตัดสินเป็นคนที่ก้าวหน้า แต่ผู้อ่านรู้สึกสับสนกับทัศนคติของเขาที่มีต่อพ่อแม่ที่หลงรักลูกชายอย่างบ้าคลั่ง แต่เขาจงใจหยาบคายกับพวกเขา ใช่ยูจีนไม่ได้สื่อสารกับคนชรา มันขมแค่ไหน! และสำหรับ Odintsova เท่านั้นเขาพูดคำพูดที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับพ่อแม่ของเขา แต่คนชราไม่เคยได้ยิน

2. โดยทั่วไปปัญหาเรื่อง "พ่อ" และ "ลูก" เป็นเรื่องปกติสำหรับวรรณกรรมรัสเซีย ในละครเรื่อง AN Ostrovsky "The Thunderstorm" ได้รับเสียงที่น่าเศร้าเมื่อคนหนุ่มสาวที่ต้องการมีชีวิตอยู่ด้วยความคิดของตัวเองได้โผล่ออกมาจากการเชื่อฟังคนตาบอดในการสร้างบ้าน

และในนวนิยายของ I.S. Turgenev รุ่นของเด็ก ๆ ในบุคคลของ Evgeny Bazarov กำลังดำเนินไปตามทางของตัวเองอย่างเฉียบขาดกวาดล้างหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้น และความขัดแย้งระหว่างคนทั้งสองรุ่นมักจะเจ็บปวด

3) ความไม่สุภาพ ความหยาบคาย พฤติกรรมในสังคม.

1. ความไม่หยุดยั้งของมนุษย์ทัศนคติที่ไม่สุภาพต่อผู้อื่นความหยาบคายและความหยาบคายเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสมในครอบครัว ดังนั้น Mitrofanushka ในหนังตลกเรื่อง The Minor ของ DI Fonvizin จึงพูดคำหยาบที่ไม่น่าให้อภัย ในบ้านของนางพรอสตาโควาภาษารุนแรงและการเฆี่ยนตีเป็นเรื่องปกติ นี่คือแม่ของฉันและพูดกับ Pravdin:“ …บางครั้งฉันก็สาบานบางครั้งฉันก็ทะเลาะกัน ดังนั้นบ้านจึงคงอยู่ "

2. ฟามูซอฟปรากฏตัวต่อหน้าเราในฐานะคนหยาบคายและไม่ใส่ใจในภาพยนตร์ตลกเรื่อง "Woe from Wit" ของ A. Griboyedov เขาหยาบคายกับคนติดยาพูดจาไม่พอใจหยาบคายเรียกคนรับใช้ของเขาทุกวิถีทางโดยไม่คำนึงถึงอายุ

3. สามารถนำภาพนายกเทศมนตรีจากหนังตลกเรื่องจเรตำรวจ ตัวอย่างเชิงบวก: A. Bolkonsky

4) ปัญหาความยากจนความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม

1. ด้วยความสมจริงที่น่าทึ่ง FM Dostoevsky แสดงให้เห็นถึงโลกแห่งความเป็นจริงของรัสเซียในนวนิยายเรื่อง "Crime and Punishment" เขาแสดงให้เห็นถึงความอยุติธรรมทางสังคมความสิ้นหวังทางตันทางจิตวิญญาณซึ่งก่อให้เกิดทฤษฎีไร้สาระของ Raskolnikov พระเอกของนวนิยายเรื่องนี้เป็นคนที่น่าสงสารอับอายขายหน้าจากสังคมคนยากจนมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ร่วมกับผู้เขียนเรารู้สึกเจ็บปวดกับชะตากรรมของเด็ก ๆ การยืนหยัดเพื่อผู้ด้อยโอกาส - นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผู้อ่านนึกถึงเมื่อได้ทำความคุ้นเคยกับงานนี้

5) ปัญหาของความเมตตา

1. ดูเหมือนว่าจากทุกหน้าของนวนิยาย "อาชญากรรมและการลงโทษ" ของ Dostoevsky ผู้ด้อยโอกาสขอความช่วยเหลือจากเรา: Katerina Ivanovna ลูก ๆ ของเธอ Sonechka ... ภาพที่น่าเวทนาของภาพของคนที่น่าอับอายดึงดูดความเมตตาและความสงสารของเรา : "รักเพื่อนบ้าน ... " ผู้เขียนเชื่อว่าคน ๆ หนึ่งต้องหาทาง "เข้าสู่อาณาจักรแห่งแสงสว่างและความคิด" เขาเชื่อว่าเวลาจะมาถึงเมื่อคนจะรักกัน เขาอ้างว่าความงามจะช่วยโลก

2. ในการรักษาความเมตตาต่อผู้คนจิตวิญญาณที่มีความเมตตาและอดทนความสูงทางศีลธรรมของผู้หญิงถูกเปิดเผยในเรื่อง "Matryonin's Court" ของ A. Solzhenitsyn ในการทดสอบทั้งหมดที่ทำให้เสียศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ Matryona ยังคงจริงใจตอบสนองพร้อมที่จะช่วยเหลือสามารถชื่นชมยินดีในความสุขของผู้อื่น นี่คือภาพลักษณ์ของสตรีผู้ชอบธรรมผู้รักษาคุณค่าทางวิญญาณ นี่คือไม่มีเธอตามภาษิตที่ว่า "หมู่บ้านเมืองทั้งแผ่นดินไม่มีค่า"

6) ปัญหาเกียรติยศหน้าที่ความกล้าหาญ

1. เมื่อคุณอ่านว่า Andrei Bolkonsky ได้รับบาดเจ็บสาหัสเพียงใดคุณจะรู้สึกสยองขวัญ เขาไม่รีบไปข้างหน้าพร้อมกับแบนเนอร์เขาไม่ได้นอนบนพื้นเหมือนคนอื่น ๆ แต่ยังคงยืนอยู่ต่อไปโดยรู้ว่าแกนกลางจะระเบิด Bolkonsky ไม่สามารถทำอย่างอื่นได้ ด้วยความสำนึกในเกียรติและหน้าที่ความกล้าหาญอันสูงส่งจึงไม่ต้องการทำตัวแตกต่าง มักจะมีคนที่วิ่งไม่ได้เงียบซ่อนตัวจากอันตราย พวกเขาตายเร็วกว่าคนอื่นเพราะมันดีกว่า และการตายของพวกเขาไม่ได้ไร้ความหมายมันก่อให้เกิดบางสิ่งในจิตวิญญาณของผู้คนซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

7) ปัญหาของความสุข

1. ลีโอตอลสตอยในนวนิยายเรื่อง "สงครามและสันติภาพ" นำเราผู้อ่านไปสู่ความคิดที่ว่าความสุขไม่ได้แสดงออกในความมั่งคั่งไม่ใช่ในคนชั้นสูงไม่ใช่ในชื่อเสียง แต่อยู่ในความรักการบริโภคและการกอด ความสุขเช่นนี้สอนไม่ได้ ก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์เจ้าชายแอนดรูว์ให้คำจำกัดความของเขาว่าเป็น“ ความสุข” ซึ่งอยู่ในอิทธิพลภายนอกของจิตวิญญาณที่ไม่สำคัญและไม่สำคัญนั่นคือ“ ความสุขแห่งความรัก” ... พระเอกดูเหมือนจะกลับไปสู่ช่วงเวลาแห่งความเยาว์วัยอันบริสุทธิ์เพื่อ น้ำพุแห่งการดำรงอยู่ตามธรรมชาติที่เคยมีมา

2. เพื่อให้มีความสุขคุณต้องจำกฎง่ายๆห้าข้อ 1. ปลดปล่อยหัวใจของคุณจากความเกลียดชัง - ฉันขอโทษ 2. ปลดปล่อยใจจากความกังวล - ส่วนใหญ่ไม่เป็นจริง 3. นำชีวิตที่เรียบง่ายและให้คุณค่ากับสิ่งที่คุณมี 4. ให้มากขึ้น 5. คาดหวังให้น้อยลง

8) ชิ้นโปรดของฉัน

พวกเขากล่าวว่าทุกคนในชีวิตของเขาต้องเลี้ยงดูลูกชายสร้างบ้านปลูกต้นไม้ สำหรับฉันแล้วดูเหมือนว่าในชีวิตฝ่ายวิญญาณไม่มีใครสามารถทำได้หากไม่มีสงครามและสันติภาพนวนิยายของลีโอตอลสตอย ฉันคิดว่าหนังสือเล่มนี้สร้างขึ้นในจิตวิญญาณของมนุษย์ซึ่งจำเป็นต้องมีรากฐานทางศีลธรรมซึ่งใคร ๆ ก็สามารถสร้างวิหารแห่งจิตวิญญาณได้แล้ว นวนิยายเรื่องนี้เป็นสารานุกรมแห่งชีวิต ชะตากรรมและประสบการณ์ของวีรบุรุษมีความเกี่ยวข้องกันจนถึงทุกวันนี้ ผู้เขียนสนับสนุนให้เราเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวละครในงานและใช้ชีวิต "จริง"

9) รูปแบบของมิตรภาพ

Andrei Bolkonsky และ Pierre Bezukhov ในนวนิยายเรื่อง "War and Peace" ของ Leo Tolstoy เป็นบุคคลที่มี "จิตวิญญาณที่ซื่อสัตย์และเป็นคริสตัล" พวกเขาประกอบด้วยชนชั้นสูงทางจิตวิญญาณซึ่งเป็นแกนกลางทางศีลธรรมของสังคมที่เน่าเฟะ คนเหล่านี้เป็นเพื่อนเชื่อมโยงกันด้วยความมีชีวิตชีวาของตัวละครและจิตวิญญาณ ทั้งคู่เกลียด "หน้ากากคาร์นิวัล" ของสังคมชั้นสูงซึ่งเสริมซึ่งกันและกันและกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับกันและกันแม้ว่าจะแตกต่างกันมากก็ตาม เหล่าฮีโร่แสวงหาและเรียนรู้ความจริง - เป้าหมายดังกล่าวแสดงให้เห็นคุณค่าของชีวิตและมิตรภาพของพวกเขา

10) ศรัทธาในพระเจ้า แรงจูงใจของคริสเตียน

1. ในภาพลักษณ์ของ Sonya FM Dostoevsky แสดงให้เห็นถึง "มนุษย์ของพระเจ้า" ที่ไม่ได้สูญเสียการเชื่อมต่อกับพระเจ้าในโลกที่โหดร้ายต่อความปรารถนาอันแรงกล้าที่มีต่อ "ชีวิตในพระคริสต์" ในโลกที่น่ากลัวของอาชญากรรมและการลงโทษเด็กผู้หญิงคนนี้คือแสงทางศีลธรรมที่ทำให้หัวใจของอาชญากรอบอุ่น Rodion รักษาจิตวิญญาณของเขาและกลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วย Sonya ปรากฎว่าไม่มีชีวิตใดที่ปราศจากพระเจ้า ดังนั้น Dostoevsky จึงคิดดังนั้น Gumilev จึงเขียนในภายหลัง:

2. วีรบุรุษของนวนิยายโดย FM Dostoevsky "อาชญากรรมและการลงโทษ" อ่านคำอุปมาเกี่ยวกับการคืนชีพของลาซารัส ผ่านซอนยาลูกชายผู้สุรุ่ยสุร่าย - โรดิออนกลับสู่ชีวิตจริงและพระเจ้า เป็นเพียงตอนท้ายของนวนิยายเรื่องนี้ที่เขาเห็น "เช้า" และใต้หมอนของเขาคือพระวรสาร วิชาในพระคัมภีร์กลายเป็นพื้นฐานของผลงานของ Pushkin, Lermontov, Gogol กวี Nikolai Gumilyov มีคำพูดที่ยอดเยี่ยม:

มีพระเจ้ามีโลกมีชีวิตตลอดไป

และชีวิตของผู้คนก็เป็นทุกข์ทันที

แต่ทุกอย่างมีอยู่ในตัวคน

ผู้รักโลกและเชื่อในพระเจ้า

11) ความรักชาติ

1. ผู้รักชาติที่แท้จริงในนวนิยายเรื่อง "สงครามและสันติภาพ" ของลีโอตอลสตอยไม่คิดเกี่ยวกับตัวเองพวกเขารู้สึกว่าต้องการการมีส่วนร่วมและเสียสละของตนเอง แต่พวกเขาไม่คาดหวังรางวัลสำหรับสิ่งนี้เพราะพวกเขามีความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง มาตุภูมิ

ปิแอร์เบซูคอฟให้เงินขายที่ดินเพื่อจัดหากรมทหาร ผู้ที่ออกจากมอสโกวโดยไม่ต้องการยอมจำนนต่อนโปเลียนก็เป็นผู้รักชาติอย่างแท้จริงเช่นกัน Petya Rostov กระตือรือร้นที่จะก้าวไปข้างหน้าเพราะ“ ปิตุภูมิตกอยู่ในอันตราย” ชาวนารัสเซียสวมเสื้อโค้ทของทหารต่อต้านศัตรูอย่างดุเดือดเพราะความรู้สึกรักชาติเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และไม่สามารถเข้าใจได้สำหรับพวกเขา

2. ในกวีนิพนธ์ของพุชกินเราพบแหล่งที่มาของความรักชาติที่บริสุทธิ์ที่สุด "Poltava", "Boris Godunov" ของเขาความสนใจทั้งหมดของเขาต่อปีเตอร์มหาราช "ผู้ใส่ร้ายรัสเซีย" บทกวีของเขาที่อุทิศให้กับวันครบรอบ Borodino เป็นพยานถึงความลึกซึ้งของความรู้สึกของประชาชนและความเข้มแข็งของความรักชาติความรู้แจ้งและประเสริฐ

12) ครอบครัว

พวกเราผู้อ่านรู้สึกเห็นอกเห็นใจครอบครัวรอสตอฟเป็นพิเศษในนวนิยายเรื่องสงครามและสันติภาพของลีโอตอลสตอยซึ่งพฤติกรรมนี้แสดงออกถึงความรู้สึกที่สูงส่งความเมตตาแม้แต่ความเอื้ออาทรที่หาได้ยากความเป็นธรรมชาติความใกล้ชิดกับผู้คนความบริสุทธิ์ทางศีลธรรมและความซื่อสัตย์ ความรู้สึกของครอบครัวซึ่ง Rostovs ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขจะกลายเป็นเรื่องสำคัญทางประวัติศาสตร์ในช่วงสงครามรักชาติปี 1812

13) ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี

1. อาจเป็นไปได้ว่าเราผู้อ่านอย่างน้อยที่สุดก็คาดหวังจาก Dolokhov ในนวนิยายเรื่อง "War and Peace" ของลีโอตอลสตอยที่ขอโทษปิแอร์ในวันรบโบโรดิโน ในช่วงเวลาแห่งอันตรายในช่วงเวลาแห่งโศกนาฏกรรมทั่วไปความรู้สึกผิดชอบชั่วดีได้ตื่นขึ้นในชายผู้แข็งแกร่งคนนี้ Bezukhov ประหลาดใจกับเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าเราจะเห็น Dolokhov จากอีกด้านหนึ่งและเราจะต้องประหลาดใจอีกครั้งเมื่อเขาร่วมกับคอสแซคและฮัสซาร์คนอื่น ๆ จะปลดปล่อยงานเลี้ยงของนักโทษโดยที่ปิแอร์จะอยู่ด้วยเมื่อเขาแทบไม่สามารถพูดได้เมื่อเห็น Petya นอนนิ่งไม่ไหวติง ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเป็นหมวดหมู่ทางศีลธรรมโดยที่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงคนจริงๆ

2. มีสติสัมปชัญญะ - หมายถึงบุคคลที่ดีมีคุณธรรมซื่อสัตย์มีศักดิ์ศรีความยุติธรรมความกรุณา ความสงบและความสุขคือผู้ที่ดำเนินชีวิตสอดคล้องกับมโนธรรมของตน ไม่อาจปฏิเสธได้คือชะตากรรมของคนที่คิดถึงเธอเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ชั่วขณะหรือละทิ้งเธอจากความเห็นแก่ตัวส่วนตัว

3. สำหรับฉันแล้วดูเหมือนว่าประเด็นของความรู้สึกผิดชอบชั่วดีและการให้เกียรตินิโคไลรอสตอฟในนวนิยายเรื่อง "สงครามและสันติภาพ" ของลีโอตอลสตอยเป็นแก่นทางศีลธรรมของคนดี หลังจากสูญเสียเงินจำนวนมากให้กับ Dolokhov เขาสาบานว่าจะคืนให้กับพ่อของเขาซึ่งช่วยให้เขารอดพ้นจากความอับอาย และอีกครั้งที่รอสตอฟทำให้ฉันประหลาดใจเมื่อเขาได้รับมรดกและยอมรับหนี้ทั้งหมดของพ่อของเขา โดยปกติแล้วคนที่มีเกียรติและหน้าที่จะทำโดยคนที่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่พัฒนาแล้ว

4. คุณลักษณะที่ดีที่สุดของ Grinev จากเรื่อง "The Captain's Daughter" โดย AS Pushkin ซึ่งมีเงื่อนไขโดยการเลี้ยงดูปรากฏให้เห็นในช่วงเวลาแห่งการทดลองที่รุนแรงและช่วยให้เขาหลุดพ้นจากสถานการณ์ที่ยากลำบากได้อย่างสมเกียรติ ในสภาพของการจลาจลฮีโร่ยังคงรักษาความเป็นมนุษย์ให้เกียรติและความภักดีต่อตัวเองเขาเสี่ยงชีวิต แต่ไม่ยอมถอยจากหน้าที่ที่สั่งการปฏิเสธที่จะสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อ Pugachev และประนีประนอม

14) การศึกษา มีบทบาทในชีวิตมนุษย์

1. A.S. Griboyedov ภายใต้การแนะนำของอาจารย์ที่มีประสบการณ์ได้รับการศึกษาขั้นต้นที่ดีซึ่งเขาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยมอสโกว โคตรของนักเขียนรู้สึกทึ่งในระดับการศึกษาของเขา เขาจบการศึกษาจากสามคณะ (ภาควิชาวาจาของคณะปรัชญาคณะคณิตศาสตร์ธรรมชาติและกฎหมาย) และได้รับตำแหน่งทางวิชาการของผู้สมัครในสาขาวิทยาศาสตร์เหล่านี้ Griboyedov ศึกษาภาษากรีกละตินอังกฤษฝรั่งเศสและเยอรมันรู้ภาษาอาหรับเปอร์เซียและอิตาลี Alexander Sergeevich ชอบละครเวที เขาเป็นนักเขียนและนักการทูตที่ดีที่สุดคนหนึ่ง

2. M.Yu. Lermontov เราจัดอยู่ในกลุ่มนักเขียนที่ยิ่งใหญ่ของรัสเซียและกลุ่มปัญญาชนชั้นสูงที่ก้าวหน้า เขาถูกเรียกว่าโรแมนติกนักปฏิวัติ แม้ว่า Lermontov จะออกจากมหาวิทยาลัยเพราะผู้นำถือว่าการอยู่ที่นั่นไม่เป็นที่พึงปรารถนา แต่กวีก็มีความโดดเด่นด้วยการศึกษาด้วยตนเองในระดับสูง เขาเริ่มเขียนบทกวีตั้งแต่เนิ่น ๆ วาดอย่างสวยงามเล่นดนตรี Lermontov ได้พัฒนาความสามารถของเขาอย่างต่อเนื่องและทิ้งมรดกทางศิลปะไว้ให้ลูกหลาน

15) เจ้าหน้าที่ อำนาจ.

1.I Krylov, N.V. Gogol, M.E. Saltykov-Shchedrin ในงานของพวกเขาเยาะเย้ยเจ้าหน้าที่เหล่านั้นที่ทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาอับอายและทำให้ผู้บังคับบัญชาพอใจ นักเขียนประณามพวกเขาสำหรับความหยาบคายไม่แยแสประชาชนการโกงกินและการติดสินบน ไม่น่าแปลกใจที่ Shchedrin ถูกเรียกว่าพนักงานอัยการ การเสียดสีของเขาเต็มไปด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับนักข่าวที่เฉียบคม

2. ในภาพยนตร์ตลกเรื่อง "The Inspector General" Gogol แสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่ที่อาศัยอยู่ในเมืองซึ่งเป็นศูนย์รวมของความหลงใหลที่อุกอาจอยู่ในนั้น เขาประณามระบบราชการทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงสังคมที่หยาบคายที่จมดิ่งสู่การหลอกลวงสากล เจ้าหน้าที่อยู่ห่างไกลจากผู้คนพวกเขายุ่งเฉพาะกับความเป็นอยู่ที่ดีทางวัตถุ ผู้เขียนไม่เพียง แต่เปิดโปงการทารุณกรรมของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นว่าพวกเขาได้รับลักษณะของ "โรค" ด้วย ต่อหน้าผู้บังคับบัญชา Lyapkin-Tyapkin, Bobchinsky, Strawberry และตัวละครอื่น ๆ พร้อมที่จะทำให้ตัวเองอับอายและผู้วิงวอนธรรมดาไม่ถือว่าเป็นคน

3. สังคมของเราได้ก้าวไปสู่การปกครองรอบใหม่ดังนั้นจึงมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งในประเทศการต่อต้านการทุจริตการตรวจสอบกำลังดำเนินการ เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ต้องรับรู้ถึงความว่างเปล่าของข้าราชการและนักการเมืองสมัยใหม่หลายคนซึ่งปกคลุมไปด้วยความเฉยเมย ประเภทของโกกอลยังไม่หายไป พวกเขามีอยู่ในหน้ากากใหม่ แต่มีความว่างเปล่าและหยาบคายเหมือนเดิม

16) ความฉลาด จิตวิญญาณ.

1. ฉันประเมินบุคคลที่ชาญฉลาดจากความสามารถในการประพฤติตนในสังคมและโดยจิตวิญญาณ Andrei Bolkonsky ในนวนิยายเรื่อง "War and Peace" ของลีโอตอลสตอยคือฮีโร่คนโปรดของฉันซึ่งชายหนุ่มในยุคของเราสามารถเลียนแบบได้ เขาฉลาดมีการศึกษาเฉลียวฉลาด เขามีลักษณะนิสัยที่ประกอบเป็นจิตวิญญาณเช่นสำนึกในหน้าที่เกียรติยศความรักชาติความเมตตา อันเดรย์ไม่ชอบแสงด้วยความขี้เกียจและความจอมปลอม สำหรับฉันแล้วดูเหมือนว่าความสำเร็จของเจ้าชายไม่เพียง แต่เขาพุ่งเข้าใส่ศัตรูเท่านั้น แต่เขายังจงใจละทิ้งคุณค่าที่ผิดพลาดเลือกความเมตตาความกรุณาและความรัก

2. ในภาพยนตร์ตลกเรื่อง The Cherry Orchard A.P. Chekhov ปฏิเสธความฉลาดของคนที่ไม่ทำอะไรเลยไม่มีความสามารถในการทำงานไม่อ่านอะไรที่รุนแรงพวกเขาพูดถึงวิทยาศาสตร์ แต่เข้าใจศิลปะเพียงเล็กน้อย เขาเชื่อว่ามนุษยชาติควรปรับปรุงความเข้มแข็งทำงานหนักช่วยเหลือผู้ทุกข์ยากมุ่งมั่นเพื่อความบริสุทธิ์ทางศีลธรรม

3. Andrei Voznesensky มีคำพูดที่ยอดเยี่ยม:“ มีปัญญาชนชาวรัสเซีย คุณคิดว่าไม่? มี!”

17) แม่ มารดา.

1. ด้วยความกังวลใจและความตื่นเต้นทำให้นึกถึงแม่ของเขา A.I. Solzhenitsyn ผู้เสียสละมากเพื่อลูกชายของเธอ ถูกข่มเหงโดยเจ้าหน้าที่เนื่องจาก "White Guards" ของสามีของเธอ "ความมั่งคั่งในอดีต" ของพ่อของเธอเธอไม่สามารถทำงานในสถาบันที่พวกเขาได้รับค่าตอบแทนอย่างดีแม้ว่าเธอจะรู้ภาษาต่างประเทศดีและเรียนชวเลขและตัวพิมพ์ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่รู้สึกขอบคุณแม่ของเขาสำหรับความจริงที่ว่าเธอทำทุกอย่างเพื่อปลูกฝังให้เขามีความสนใจหลากหลายเพื่อให้เขาได้รับการศึกษาที่สูงขึ้น ในความทรงจำของเขาแม่ของเขายังคงเป็นต้นแบบของคุณค่าทางศีลธรรมสากลของมนุษย์

2. V. Ya.Bryusov เชื่อมโยงเรื่องของความเป็นแม่เข้ากับความรักและแต่งเพลงสรรเสริญแม่หญิงอย่างกระตือรือร้น นี่คือประเพณีความเห็นอกเห็นใจของวรรณกรรมรัสเซีย: กวีเชื่อว่าการเคลื่อนไหวของโลกของมนุษยชาติมาจากผู้หญิง - สัญลักษณ์แห่งความรักการเสียสละความอดทนและความเข้าใจ

18) ความเกียจคร้านแรงงาน

Valery Bryusov สร้างเพลงสรรเสริญเพื่อการทำงานซึ่งมีแนวที่หลงใหลเช่นนี้:

และสถานที่ที่เหมาะสมในชีวิต

เฉพาะผู้ที่มีวันทำงาน:

สำหรับคนงานเท่านั้น - สง่าราศี

สำหรับพวกเขาเท่านั้น - พวงหรีดมานานหลายศตวรรษ!

19) ธีมแห่งความรัก

ทุกครั้งที่พุชกินเขียนเกี่ยวกับความรักจิตวิญญาณของเขาก็รู้แจ้ง ในบทกวี: "ฉันรักคุณ ... " ความรู้สึกของกวีกำลังตื่นตระหนกความรักยังไม่เย็นลงมันยังคงอยู่ในตัวเขา ความเศร้าเบา ๆ เกิดจากความรู้สึกเข้มแข็งที่ไม่สมหวัง เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นที่รักและแรงกระตุ้นของเขาแข็งแกร่งและสูงส่งเพียงใด:

ฉันรักคุณอย่างเงียบ ๆ ไร้ความหวัง

ตอนนี้เราอ่อนระทวยด้วยความขี้อายตอนนี้ด้วยความหึงหวง ...

ความรู้สึกอันสูงส่งของกวีที่แต่งแต้มด้วยแสงและความเศร้าที่ละเอียดอ่อนนั้นแสดงออกมาอย่างเรียบง่ายและตรงไปตรงมาอบอุ่นและเช่นเคยกับพุชกินที่มีเสน่ห์ทางดนตรี นี่คือพลังแห่งความรักที่แท้จริงซึ่งต่อต้านความไร้สาระความเฉยเมยความหมองคล้ำ!

20) ความบริสุทธิ์ของภาษา

1. ในประวัติศาสตร์รัสเซียได้ผ่านยุคแห่งการปนเปื้อนของภาษารัสเซียมาแล้วสามยุค ครั้งแรกเกิดขึ้นภายใต้ปีเตอร์ 1 เมื่อมีศัพท์ภาษาต่างประเทศมากกว่าสามพันคำเพียงอย่างเดียว ยุคที่สองล้มลงในการปฏิวัติ พ.ศ. 2460 แต่ช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดสำหรับภาษาของเราคือการสิ้นสุดของ XX ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของศตวรรษที่ XXI เมื่อเราเห็นความเสื่อมโทรมของภาษา มีเพียงวลีเดียวที่ฟังในโทรทัศน์: "อย่าช้าลง - สนีกเกอร์สนีย์!" คำพูดของเรา ฉันแน่ใจว่าจะต้องมีการตรวจสอบความบริสุทธิ์ของคำพูดอย่างเคร่งครัดจำเป็นต้องกำจัดลัทธินับถือศัพท์แสงคำต่างประเทศมากมายที่เข้ามาแทนที่สุนทรพจน์วรรณกรรมที่สวยงามและถูกต้องซึ่งเป็นมาตรฐานของคลาสสิกรัสเซีย

2. พุชกินไม่มีโอกาสช่วยปิตุภูมิจากศัตรู แต่ได้รับการตกแต่งยกระดับและเชิดชูภาษาของเขา กวีดึงเสียงที่ไม่เคยได้ยินมาจากภาษารัสเซียและ "กระแทกใจ" ผู้อ่านด้วยพลังที่ไม่รู้จัก หลายศตวรรษจะผ่านไป แต่สมบัติทางบทกวีเหล่านี้จะยังคงอยู่สำหรับลูกหลานในเสน่ห์แห่งความงามและจะไม่มีวันสูญเสียความแข็งแกร่งและความสดชื่น:

ฉันรักคุณด้วยความจริงใจอ่อนโยนมาก

พระเจ้าอวยพรให้คุณแตกต่างแค่ไหน!

21) ธรรมชาติ นิเวศวิทยา.

1. กวีนิพนธ์ของ I.Bunin โดดเด่นด้วยทัศนคติที่ระมัดระวังต่อธรรมชาติเขากังวลเกี่ยวกับการเก็บรักษาเพื่อความบริสุทธิ์ดังนั้นในเนื้อเพลงของเขาจึงมีสีสันแห่งความรักและความหวังที่สดใสและชุ่มฉ่ำมากมาย ธรรมชาติเลี้ยงดูกวีด้วยการมองโลกในแง่ดีผ่านภาพของเธอเขาแสดงออกถึงปรัชญาชีวิตของเขา:

ฤดูใบไม้ผลิของฉันจะผ่านไปและวันนี้จะผ่านไป

แต่มันสนุกที่จะเดินไปรอบ ๆ และรู้ว่าทุกอย่างหายไป

ในขณะที่ความสุขของการมีชีวิตอยู่ตลอดไปจะไม่ตาย ...

ในบทกวี "Forest Road" ธรรมชาติเป็นแหล่งความสุขและความงามสำหรับมนุษย์

2. หนังสือของ V. Astafiev "ซาร์ - ปลา" ประกอบด้วยเรียงความเรื่องราวและเรื่องสั้นมากมาย บท "Dream of the White Mountains" และ "Tsar-Fish" เล่าถึงปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์กับธรรมชาติ ผู้เขียนตั้งชื่อสาเหตุของการทำลายธรรมชาติอย่างขมขื่น - นี่คือความยากจนทางจิตวิญญาณของมนุษย์ การต่อสู้กับปลาของเขามีผลลัพธ์ที่น่าเศร้า โดยทั่วไปในการอภิปรายของเขาเกี่ยวกับมนุษย์และโลกรอบตัวเขา Astafyev สรุปว่าธรรมชาติคือวิหารและมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติดังนั้นจึงต้องปกป้องบ้านทั่วไปนี้สำหรับสิ่งมีชีวิตทุกชนิดรักษาความงามของมันไว้

3. อุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ส่งผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัยทั่วทั้งทวีปแม้แต่ทั้งโลก พวกเขามีผลต่อเนื่องยาวนาน เมื่อหลายปีก่อนเกิดภัยพิบัติที่มนุษย์สร้างขึ้นครั้งร้ายแรงที่สุดนั่นคืออุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ดินแดนของเบลารุสยูเครนและรัสเซียได้รับผลกระทบมากที่สุด ผลของภัยพิบัตินั้นเกิดขึ้นทั่วโลก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ที่เกิดอุบัติเหตุทางอุตสาหกรรมในระดับที่สามารถพบผลที่ตามมาได้ทุกที่บนโลก หลายคนได้รับรังสีในปริมาณที่น่ากลัวและเสียชีวิตอย่างเจ็บปวด มลพิษในเชอร์โนบิลยังคงทำให้อัตราการตายของประชากรทุกวัยเพิ่มขึ้น มะเร็งเป็นหนึ่งในอาการทั่วไปของผลกระทบของรังสี อุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทำให้อัตราการเกิดลดลงอัตราการตายเพิ่มขึ้นความผิดปกติทางพันธุกรรม ... ผู้คนควรจดจำเกี่ยวกับเชอร์โนบิลเพื่ออนาคตข้างหน้าระวังอันตรายจากรังสีและทำทุกอย่างเพื่อให้ ภัยพิบัติดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นอีก

22) บทบาทของศิลปะ.

นักเขียนร่วมสมัยกวีและร้อยแก้วของฉัน Elena Taho-Godi เขียนเกี่ยวกับอิทธิพลของศิลปะต่อบุคคล:

และคุณสามารถอยู่ได้โดยไม่มีพุชกิน

และไม่มีเพลงของ Mozart ด้วย -

หากปราศจากทุกสิ่งที่รักทางวิญญาณ

สงสัยไม่มีใครอยู่ได้

ยิ่งดีสงบง่าย

ปราศจากความสนใจและความกังวลที่ไร้สาระ

และไม่ประมาทแน่นอน

แต่จะทนได้อย่างไรในเทอมนี้ ..

23) เกี่ยวกับพี่น้องคนเล็กของเรา.

1. ฉันจำเรื่องราวที่น่าทึ่ง "Tame Me" ได้ทันทีที่ Yulia Drunina พูดถึงสัตว์ที่โชคร้ายตัวสั่นจากความหิวความกลัวและความหนาวเย็นซึ่งไม่จำเป็นในตลาดซึ่งทำให้กลายเป็นไอดอลประจำบ้านในทันที ทั้งครอบครัวของกวีต่างก็นมัสการเขาด้วยความยินดี ในอีกเรื่องหนึ่งชื่อที่เป็นสัญลักษณ์ - "รับผิดชอบต่อทุกคนที่ฉันเชื่อง" เธอจะบอกว่าทัศนคติที่มีต่อ "พี่น้องที่น้อยกว่าของเรา" ที่มีต่อสิ่งมีชีวิตขึ้นอยู่กับเราอย่างสมบูรณ์นั้นเป็น "หลักสัมผัส" สำหรับเราแต่ละคน ...

2. ในผลงานหลายชิ้นของ Jack London มนุษย์และสัตว์ (สุนัข) ต้องผ่านชีวิตเคียงข้างกันและช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทุกสถานการณ์ เมื่อความเงียบที่เต็มไปด้วยหิมะเป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตรคุณเป็นตัวแทนเพียงหนึ่งเดียวของเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่มีผู้ช่วยที่ดีและทุ่มเทไปกว่าสุนัขและนอกจากนี้ไม่เหมือนกับมนุษย์คือไม่สามารถโกหกและทรยศได้

24) บ้านเกิด บ้านเกิดเล็ก ๆ

เราแต่ละคนมีบ้านเกิดเล็ก ๆ ของตัวเองซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการรับรู้โลกรอบตัวเราเป็นครั้งแรกความเข้าใจในความรักที่มีต่อประเทศ ความทรงจำที่รักที่สุดของกวี Sergei Yesenin เกี่ยวข้องกับหมู่บ้าน Ryazan: กับสีน้ำเงินที่ตกลงไปในแม่น้ำทุ่งสีแดงเข้มดงต้นเบิร์ชที่ซึ่งเขาประสบกับ "ความเศร้าโศกของทะเลสาบ" และความเศร้าที่น่าปวดหัวซึ่งเขาได้ยินเสียงร้องไห้ของชาวโอริโอ , บทสนทนาของนกกระจอก, เสียงกรอบแกรบของหญ้า และฉันก็จินตนาการถึงเช้าอันแสนสดชื่นที่กวีได้พบในวัยเด็กทันทีและนั่นทำให้เขามี "ความรู้สึกถึงบ้านเกิด" อันศักดิ์สิทธิ์:

สานเหนือทะเลสาบ

แสงสีแดงของรุ่งอรุณ ...

25) ความทรงจำทางประวัติศาสตร์

1. A. Tvardovsky เขียนว่า:

สงครามผ่านไปความทุกข์ทรมานผ่านไปแล้ว

แต่ความเจ็บปวดดึงดูดผู้คน

มากับคนไม่เคย

อย่าลืมเรื่องนี้

2. ผลงานของกวีจำนวนมากอุทิศให้กับความสำเร็จของประชาชนในมหาสงครามแห่งความรักชาติ ความทรงจำของประสบการณ์ไม่ตาย A.T. Tvardovsky เขียนว่าเลือดของผู้ที่ตกลงมาไม่ได้หลั่งออกมาโดยเปล่าประโยชน์ผู้รอดชีวิตต้องรักษาความสงบสุขเพื่อให้ลูกหลานของพวกเขาอยู่อย่างมีความสุขบนโลก:

ฉันจะอยู่ในชีวิตนั้น

คุณมีความสุขที่ได้

ขอบคุณพวกเขาวีรบุรุษแห่งสงครามเราอยู่อย่างสันติ เปลวไฟนิรันดร์กำลังลุกไหม้เตือนเราถึงชีวิตที่มอบให้เพื่อบ้านเกิดเมืองนอน

26) เรื่องของความงาม

Sergei Yesenin ในเนื้อเพลงของเขาเชิดชูทุกสิ่งที่สวยงาม ความงามสำหรับเขาคือความสงบและความสามัคคีธรรมชาติและความรักที่มีต่อมาตุภูมิความอ่อนโยนต่อคนที่เขารัก: "โลกและมนุษย์สวยงามแค่ไหน!"

ผู้คนจะไม่สามารถเอาชนะความรู้สึกสวยงามในตัวเองได้เพราะโลกจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่จะมีบางสิ่งที่ทำให้ตาพอใจและทำให้จิตวิญญาณตื่นเต้นอยู่เสมอ เราดื่มด่ำกับความสุขฟังเพลงนิรันดร์ที่เกิดจากแรงบันดาลใจชื่นชมธรรมชาติอ่านบทกวี ... และเรารักชื่นชอบความฝันถึงบางสิ่งที่ลึกลับและสวยงาม ความงามคือทุกสิ่งที่ให้ความสุข

27) ลัทธิฟิลิสเตีย

1. ในคอเมดีเสียดสีเรื่อง "Bedbug" และ "Bath" V. Mayakovsky เยาะเย้ยความชั่วร้ายเช่นลัทธิปรัชญาและระบบราชการ ไม่มีที่ในอนาคตสำหรับตัวเอกของละครเรื่อง "The Bedbug" การเสียดสีของ Mayakovsky มีจุดเน้นที่เฉียบคมเผยให้เห็นข้อบกพร่องที่มีอยู่ในสังคมใด ๆ

2. ในเรื่องชื่อเดียวกันโดย A.P. Chekhov โยนาห์เป็นตัวตนของความหลงใหลในเงิน เราเห็นความอับจนของจิตวิญญาณการ "สละ" ทางร่างกายและจิตวิญญาณของเขา ผู้เขียนบอกเราเกี่ยวกับการสูญเสียบุคลิกภาพการเสียเวลาที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดของชีวิตมนุษย์เกี่ยวกับความรับผิดชอบส่วนบุคคลต่อตนเองและสังคม ความทรงจำเกี่ยวกับบิลเครดิตที่เขาอยู่ด้วย ด้วยความยินดีเขาจึงควักกระเป๋าในตอนเย็นดับความรู้สึกรักและความดีงามในตัวเขา

28) คนที่ดี พรสวรรค์.

1. Omar Khayyam เป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่มีการศึกษาที่ยอดเยี่ยมและมีชีวิตที่ร่ำรวยทางสติปัญญา ทับทิมของเขาเป็นเรื่องราวของการขึ้นสู่จิตวิญญาณของกวีสู่ความจริงอันสูงส่งของการเป็น Khayyam ไม่เพียง แต่เป็นกวี แต่ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านร้อยแก้วนักปรัชญาผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง เขาเสียชีวิตและเป็นเวลาเกือบพันปีแล้วที่ดาวของเขาส่องแสงใน "นภา" ของวิญญาณมนุษย์และแสงของมันที่มีเสน่ห์และลึกลับไม่จางหาย แต่ในทางกลับกันกลับสว่างขึ้น:

เป็นฉันผู้สร้างผู้ปกครองแห่งความสูง

จะเผานภาเก่า

และใส่อันใหม่ซึ่งอยู่ภายใต้

ความอิจฉาไม่ต่อยความโกรธไม่เหี่ยวแห้ง

2. Alexander Isaevich Solzhenitsyn - เกียรติยศและความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในยุคของเรา เขาเป็นผู้มีส่วนร่วมในมหาสงครามแห่งความรักชาติได้รับรางวัลสำหรับความกล้าหาญที่แสดงในการต่อสู้ สำหรับข้อความที่ไม่อนุมัติเกี่ยวกับเลนินและสตาลินเขาถูกจับและถูกตัดสินจำคุกแปดปีในค่ายแรงงาน ในปี 1967 เขาส่งจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐสภานักเขียนสหภาพโซเวียตเพื่อเรียกร้องให้ยุติการเซ็นเซอร์ เขาซึ่งเป็นนักเขียนชื่อดังถูกข่มเหง ในปี 1970 เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม หลายปีแห่งการจดจำเป็นเรื่องยาก แต่เขากลับไปรัสเซียเขียนข่าวมากมายวารสารศาสตร์ของเขาติดอันดับหนึ่งในคำเทศนาทางศีลธรรม Solzhenitsyn ได้รับการพิจารณาอย่างถูกต้องว่าเป็นนักต่อสู้เพื่อเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนนักการเมืองนักอุดมการณ์บุคคลสาธารณะที่รับใช้ประเทศอย่างซื่อสัตย์และไม่เห็นแก่ตัว ผลงานที่ดีที่สุดของเขา ได้แก่ The Gulag Archipelago, Matryonin's Dvor, Cancer Ward ...

29) ปัญหาการรองรับวัสดุ ความมั่งคั่ง.

น่าเสียดายที่เงินและความหลงใหลในการกักตุนได้กลายเป็นตัวชี้วัดสากลของคุณค่าทั้งหมดของคนจำนวนมาก แน่นอนว่าสำหรับพลเมืองจำนวนมากนี่คือตัวตนของความเป็นอยู่ที่ดีความมั่นคงความน่าเชื่อถือความปลอดภัยแม้แต่ผู้ค้ำประกันความรักและความเคารพไม่ว่าจะฟังดูขัดแย้งกันอย่างไร

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Chichikov ในบทกวี "Dead Souls" ของ Nikolai Gogol และสำหรับนายทุนชาวรัสเซียหลายคนในตอนแรกมันไม่ใช่เรื่องยากที่จะ "ชอบแกง" ประจบสอพลอให้สินบนเพื่อ "ผลักดัน" จากนั้น "ผลักดัน" และรับสินบนตัวเองใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ...

30) เสรีภาพ - ไม่ใช่เสรีภาพ

ในช่วงหนึ่งลมหายใจฉันอ่านนวนิยายเรื่อง "เรา" โดย E. Zamyatin ในที่นี้ความคิดนั้นสืบเนื่องมาจากสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับบุคคลสังคมเมื่อพวกเขาเชื่อฟังความคิดที่เป็นนามธรรมจึงละทิ้งอิสรภาพโดยสมัครใจ ผู้คนเปลี่ยนเป็นอวัยวะของเครื่องจักรเป็นฟันเฟือง Zamyatin แสดงให้เห็นถึงโศกนาฏกรรมของการเอาชนะมนุษย์ในตัวบุคคลการสูญเสียชื่อเป็นการสูญเสีย "I" ของตัวเอง

31) ปัญหาเรื่องเวลา.

ในช่วงชีวิตที่ยาวนานของ L.N. ตอลสตอยหมดเวลาอย่างต่อเนื่อง วันทำงานของเขาเริ่มตั้งแต่เช้ามืด นักเขียนซึมซับกลิ่นยามเช้าเห็นพระอาทิตย์ขึ้นตื่นและ .... สร้างขึ้น เขาพยายามอยู่ก่อนเวลาเตือนมนุษยชาติให้พ้นจากหายนะทางศีลธรรม คลาสสิกที่ชาญฉลาดนี้อยู่ในช่วงเวลาหนึ่งจากนั้นก็นำหน้าเขาไปหนึ่งก้าว ผลงานของตอลสตอยยังคงเป็นที่ต้องการทั่วโลก: "Anna Karenina", "War and Peace", "Kreutzer Sonata" ...

32) เรื่องของศีลธรรม

สำหรับฉันแล้วดูเหมือนว่าจิตวิญญาณของฉันคือดอกไม้ที่นำทางฉันไปตลอดชีวิตเพื่อให้ฉันดำเนินชีวิตตามมโนธรรมของฉันและความเข้มแข็งทางจิตวิญญาณของคน ๆ หนึ่งก็คือสสารเรืองแสงที่ทอด้วยโลกแห่งดวงอาทิตย์ เราต้องดำเนินชีวิตตามพระบัญญัติของพระคริสต์เพื่อให้มนุษยชาติมีมนุษยธรรม เพื่อให้มีศีลธรรมคุณต้องทำงานหนักกับตัวเอง:

และพระเจ้าทรงเงียบ

สำหรับบาปร้ายแรง

สำหรับความจริงที่ว่าพวกเขาสงสัยในพระเจ้า

เขาลงโทษทุกคนด้วยความรัก

สิ่งที่ได้เรียนรู้ที่จะเชื่อในการทรมาน

33) ธีมอวกาศ

hypostasis ของ T.I. Tyutchev เป็นโลกของโคเปอร์นิคัสโคลัมบัสคนที่หยิ่งผยองที่ไปสู่นรกอเวจี นี่คือสิ่งที่กวีอยู่ใกล้ตัวฉันชายในศตวรรษแห่งการค้นพบที่ไม่เคยมีมาก่อนความกล้าหาญทางวิทยาศาสตร์การพิชิตจักรวาล เขาปลูกฝังให้เรารู้สึกถึงความไม่มีที่สิ้นสุดของโลกความยิ่งใหญ่และความลึกลับของมัน คุณค่าของบุคคลขึ้นอยู่กับความสามารถในการชื่นชมและทึ่ง "ความรู้สึกของจักรวาล" นี้ได้รับการถ่ายทอดด้วย Tyutchev ที่ไม่เหมือนใคร

34) ธีมของเมืองหลวงคือมอสโก

ในกวีนิพนธ์ของ Marina Tsvetaeva มอสโกเป็นเมืองที่สง่างาม ในบทกวี "เหนือดงสีฟ้าของภูมิภาคมอสโกว… .. " เสียงระฆังแห่งมอสโกเทลงไปด้วยยาหม่องบนดวงวิญญาณของคนตาบอด เมืองนี้ศักดิ์สิทธิ์สำหรับ Tsvetaeva เธอสารภาพรักกับเขาซึ่งดูเหมือนว่าเธอจะซึมซับด้วยน้ำนมของแม่และส่งต่อไปยังลูก ๆ ของเธอเอง:

และคุณไม่รู้ว่ารุ่งอรุณอยู่ในเครมลิน

หายใจง่ายกว่าทั้งโลก!

35) รักมาตุภูมิ

ในบทกวีของ S. Yesenin เรารู้สึกถึงความเป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์ของพระเอกเนื้อเพลงกับรัสเซีย กวีเองจะบอกว่าความรู้สึกของมาตุภูมิเป็นสิ่งสำคัญในงานของเขา Yesenin ไม่สงสัยถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงในชีวิต เขาเชื่อในเหตุการณ์ในอนาคตที่จะปลุกรัสเซียที่อยู่เฉยๆ ดังนั้นเขาจึงสร้างผลงานเช่น "Transfiguration", "O Rus, flap your wings":

โอ้รัสเซียกระพือปีก

สนับสนุนที่แตกต่างกัน!

ด้วยชื่อที่แตกต่างกัน

บริภาษอื่นกำลังเพิ่มขึ้น

36) ธีมหน่วยความจำสงคราม

1. "สงครามและสันติภาพ" โดย Leo Tolstoy, "Sotnikov" และ "Obelisk" โดย V. Bykov - ผลงานทั้งหมดนี้รวมเข้าด้วยกันในรูปแบบของสงครามทำให้เกิดภัยพิบัติที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ความน่ากลัวและไร้สติความโหดร้ายของมันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนโดยลีโอตอลสตอยในนวนิยายเรื่องสงครามและสันติภาพของเขา วีรบุรุษคนโปรดของนักเขียนตระหนักถึงความไม่สำคัญของนโปเลียนซึ่งการรุกรานเป็นเพียงความบันเทิงของบุคคลที่ทะเยอทะยานซึ่งพบว่าตัวเองอยู่บนบัลลังก์อันเป็นผลมาจากการรัฐประหารในพระราชวัง ตรงกันข้ามกับเขาภาพของ Kutuzov ปรากฏขึ้นซึ่งถูกชี้นำในสงครามครั้งนี้ด้วยแรงจูงใจอื่น ๆ เขาไม่ได้ต่อสู้เพื่อชื่อเสียงและความมั่งคั่ง แต่เพื่อความภักดีต่อปิตุภูมิและหน้าที่

2. 68 ปีแห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่แยกเราออกจากมหาสงครามแห่งความรักชาติ แต่เวลาไม่ได้ลดความสนใจในหัวข้อนี้ดึงดูดความสนใจของคนรุ่นของฉันไปยังแนวหน้าที่ห่างไกลไปถึงต้นกำเนิดของความกล้าหาญและความสำเร็จของทหารโซเวียต - วีรบุรุษผู้ปลดปล่อยนักมนุษยนิยม เมื่อเสียงปืนดังสนั่นมิวส์ก็ไม่เงียบ ในขณะที่ส่งเสริมความรักต่อมาตุภูมิวรรณกรรมก็ส่งเสริมความเกลียดชังศัตรูด้วย และความแตกต่างนี้ถือเป็นความยุติธรรมสูงสุดมนุษยนิยม แหล่งเงินทุนทองของวรรณกรรมโซเวียตรวมถึงผลงานที่สร้างขึ้นในช่วงสงครามปีในชื่อ "Russian Character" โดย A. Tolstoy "Science of Hatred" โดย M. Sholokhov "Unconquered" โดย B. Gorbaty ...

ข้อโต้แย้งสำหรับบทความเกี่ยวกับภาษารัสเซีย
ความทรงจำในอดีต: อดีตปัจจุบันอนาคต
ปัญหาเกี่ยวกับความทรงจำประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอนุสาวรีย์ขนบธรรมเนียมและประเพณีบทบาทของวัฒนธรรมทางเลือกทางศีลธรรม ฯลฯ

ทำไมต้องรักษาประวัติศาสตร์? บทบาทของหน่วยความจำ J. Orwell "1984"


ในนวนิยายของจอร์จออร์เวลล์ปี 1984 ผู้คนไร้ซึ่งประวัติศาสตร์ บ้านเกิดของตัวเอกคือโอเชียเนีย เป็นประเทศใหญ่ที่ทำสงครามต่อเนื่อง ภายใต้อิทธิพลของการโฆษณาชวนเชื่อที่โหดร้ายผู้คนเกลียดชังและพยายามที่จะประชาทัณฑ์อดีตพันธมิตรโดยประกาศว่าศัตรูเมื่อวานนี้เป็นมิตรที่ดีที่สุด ประชากรถูกปราบปรามโดยระบอบการปกครองไม่สามารถคิดอย่างอิสระและปฏิบัติตามคำขวัญของพรรคที่ควบคุมผู้อยู่อาศัยเพื่อจุดประสงค์ส่วนตัว การตกเป็นทาสของสติสัมปชัญญะดังกล่าวเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อการทำลายความทรงจำของผู้คนโดยสิ้นเชิงโดยไม่มีมุมมองของตนเองเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของประเทศ
ประวัติความเป็นมาของชีวิตหนึ่งชีวิตเช่นเดียวกับประวัติศาสตร์ของทั้งรัฐเป็นชุดเหตุการณ์ที่มืดและสว่างไม่สิ้นสุด เราจำเป็นต้องเรียนรู้บทเรียนที่มีค่าจากพวกเขา ความทรงจำเกี่ยวกับชีวิตของบรรพบุรุษของเราควรปกป้องเราจากการทำผิดซ้ำซากรับใช้เราเป็นเครื่องเตือนใจชั่วนิรันดร์ถึงทุกสิ่งที่ดีและไม่ดี ไม่มีอนาคตที่ปราศจากความทรงจำของอดีต

ทำไมต้องจำอดีต? ประวัติศาสตร์มีไว้เพื่ออะไร? อาร์กิวเมนต์จาก D.S. Likhachev "จดหมายเกี่ยวกับความดีและความสวยงาม".

ความทรงจำและความรู้ในอดีตเติมเต็มโลกทำให้น่าสนใจมีความสำคัญและเป็นจิตวิญญาณ หากคุณไม่เห็นอดีตที่อยู่เบื้องหลังโลกรอบตัวคุณก็ว่างเปล่าสำหรับคุณ คุณเบื่อเศร้าและอยู่คนเดียวในที่สุด ปล่อยให้บ้านที่เราเดินผ่านไปปล่อยให้เมืองและหมู่บ้านที่เราอาศัยอยู่แม้กระทั่งโรงงานที่เราทำงานหรือเรือที่เราแล่นอยู่มีชีวิตเพื่อเรานั่นคือมีอดีต! ชีวิตไม่ใช่การดำรงอยู่ชั่วขณะเดียว เราจะรู้ประวัติศาสตร์ - ความเป็นมาของทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเราทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก นี่คือมิติที่สี่ที่สำคัญมากของโลก แต่เราต้องไม่เพียง แต่รู้ประวัติศาสตร์ของทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเราเท่านั้น แต่ยังต้องรักษาประวัติศาสตร์นี้ไว้ซึ่งความลึกล้ำอันยิ่งใหญ่ของสิ่งแวดล้อมนี้ด้วย

เหตุใดบุคคลจึงต้องรักษาธรรมเนียม? อาร์กิวเมนต์จาก D.S. Likhachev "จดหมายเกี่ยวกับสิ่งที่ดีและสวยงาม"

โปรดทราบ: เด็ก ๆ และคนหนุ่มสาวชื่นชอบประเพณีการเฉลิมฉลองตามประเพณีเป็นพิเศษ เพราะพวกเขาเชี่ยวชาญโลกจงฝึกฝนมันตามประเพณีในประวัติศาสตร์ ขอให้เราปกป้องทุกสิ่งที่ทำให้ชีวิตของเรามีความหมายร่ำรวยและมีจิตวิญญาณมากขึ้น

ปัญหาของการเลือกทางศีลธรรม ข้อโต้แย้งจากบทละครโดย M.A. "วันแห่งกังหัน" ของ Bulgakov

วีรบุรุษของงานจะต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาดสถานการณ์ทางการเมืองของเวลาบังคับให้พวกเขาทำเช่นนี้ ความขัดแย้งหลักของบทละครของ Bulgakov สามารถอธิบายได้ว่าเป็นความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับประวัติศาสตร์ ปัญญาชนที่เป็นฮีโร่ในระหว่างการพัฒนาแอ็คชั่นแต่ละคนเข้าสู่บทสนทนาโดยตรงกับประวัติศาสตร์ ดังนั้น Alexey Turbin โดยตระหนักถึงการลงโทษของขบวนการสีขาวการทรยศของ "ฝูงชนสำนักงานใหญ่" จึงเลือกความตาย Nikolka ซึ่งมีจิตวิญญาณใกล้ชิดกับพี่ชายของเขามีความเห็นว่านายทหารผู้บังคับบัญชาผู้มีเกียรติ Alexei Turbin จะชอบความตายเพื่อความอับอายขายหน้า เมื่อรายงานเกี่ยวกับการเสียชีวิตที่น่าเศร้าของเขา Nikolka กล่าวอย่างเศร้าใจว่า: "พวกเขาสังหารผู้บัญชาการ ... " - ราวกับว่าตกลงอย่างเต็มที่กับความรับผิดชอบในขณะนี้ พี่ชายตัดสินใจเลือกทางแพ่ง
คนที่ยังอยู่จะต้องอยู่กับทางเลือกนี้ Myshlaevsky ด้วยความขมขื่นและการลงโทษได้กล่าวถึงตำแหน่งระดับกลางและสิ้นหวังของปัญญาชนในความเป็นจริงที่หายนะ: "ข้างหน้ามี Red Guards เหมือนกำแพงด้านหลังเป็นนักเก็งกำไรและยาจกทุกชนิดกับ hetman และฉันอยู่ใน ตรงกลาง?" เขาใกล้จะได้รับการยอมรับจากบอลเชวิค "เพราะชาวนาเป็นกลุ่มเมฆที่อยู่เบื้องหลังบอลเชวิค ... " Studzinsky เชื่อมั่นในความจำเป็นที่จะต้องต่อสู้ต่อไปในตำแหน่งของ White Guards และรีบวิ่งไปที่ Don เพื่อ Denikin เอเลน่าออกจากทัลเบิร์ตชายคนหนึ่งที่เธอไม่สามารถเคารพได้โดยการยอมรับของเธอเองและจะพยายามสร้างชีวิตใหม่กับเชอร์วินสกี้

เหตุใดจึงต้องอนุรักษ์อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม? อาร์กิวเมนต์จาก D.S. Likhachev "จดหมายเกี่ยวกับความดีและความสวยงาม".

แต่ละประเทศเป็นกลุ่มศิลปะ
มอสโกวและเลนินกราดไม่เพียง แต่แตกต่างกันเท่านั้น แต่ยังแตกต่างกันและมีปฏิสัมพันธ์ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่พวกเขาเชื่อมต่อกันด้วยทางรถไฟตรงจนเมื่อเดินทางด้วยรถไฟในเวลากลางคืนโดยไม่ต้องเลี้ยวและหยุดเพียงครั้งเดียวและเมื่อไปถึงสถานีในมอสโกวหรือเลนินกราดคุณจะเห็นอาคารสถานีเดียวกันเกือบทั้งหมดที่มาพร้อมกับคุณ ในตอนเย็น; อาคารของสถานีรถไฟมอสโกในเลนินกราดและสถานีรถไฟเลนินกราดสกี้ในมอสโกนั้นเหมือนกัน แต่ความคล้ายคลึงกันของสถานีเน้นความแตกต่างอย่างชัดเจนของเมืองความแตกต่างนั้นไม่ง่าย แต่เสริมซึ่งกันและกัน แม้แต่ศิลปวัตถุในพิพิธภัณฑ์ก็ไม่ได้จัดเก็บไว้เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงวงดนตรีทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของเมืองและประเทศโดยรวมด้วย
ดูในเมืองอื่น ๆ ไอคอนที่น่าชมใน Novgorod นี่คือศูนย์กลางภาพวาดรัสเซียโบราณที่ใหญ่และมีค่าที่สุดอันดับสาม
ใน Kostroma Gorky และ Yaroslavl ควรเห็นภาพวาดของรัสเซียในศตวรรษที่ 18 และ 19 (เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมอันสูงส่งของรัสเซีย) และใน Yaroslavl ยังมี "Volga" ในศตวรรษที่ 17 ซึ่งนำเสนอที่นี่ไม่เหมือนที่อื่น
แต่ถ้าคุณใช้ทั้งประเทศคุณจะประหลาดใจกับความหลากหลายและความคิดริเริ่มของเมืองและวัฒนธรรมที่เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์และของสะสมส่วนตัวและตามท้องถนนเพราะบ้านเก่าเกือบทุกแห่งเป็นอัญมณี บ้านบางหลังและทั้งเมืองเป็นถนนที่มีการแกะสลักด้วยไม้ (Tomsk, Vologda) และอื่น ๆ - มีรูปแบบที่น่าทึ่งถนนริมเขื่อน (Kostroma, Yaroslavl) อื่น ๆ - มีคฤหาสน์หินและอื่น ๆ - มีโบสถ์ที่สลับซับซ้อน
การรักษาความหลากหลายของเมืองและหมู่บ้านของเราการรักษาความทรงจำทางประวัติศาสตร์ไว้ในนั้นความคิดริเริ่มทางประวัติศาสตร์ของชาติที่พบบ่อยถือเป็นงานที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของนักวางผังเมืองของเรา ทั้งประเทศเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ เขาต้องได้รับการรักษาไว้ในความมั่งคั่งที่น่าประหลาดใจของเขา ไม่เพียง แต่เป็นความทรงจำทางประวัติศาสตร์ที่ส่งเสริมในเมืองของตนและในหมู่บ้านของตนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประเทศโดยรวมที่ให้ความรู้แก่บุคคลด้วย ปัจจุบันผู้คนไม่เพียงอาศัยอยู่ใน "ประเด็น" ของตน แต่ทั่วทั้งประเทศไม่ใช่เฉพาะในศตวรรษของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประวัติศาสตร์ของพวกเขาอีกหลายศตวรรษด้วย

อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมีบทบาทอย่างไรต่อชีวิตมนุษย์? เหตุใดจึงต้องอนุรักษ์อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม? อาร์กิวเมนต์จาก D.S. Likhachev "จดหมายเกี่ยวกับสิ่งที่ดีและสวยงาม"

ความทรงจำในประวัติศาสตร์มีความสดใสเป็นพิเศษในสวนสาธารณะและสวน - ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ
สวนสาธารณะมีคุณค่าไม่เพียง แต่สำหรับสิ่งที่พวกเขามี แต่ยังรวมถึงสิ่งที่อยู่ในนั้นด้วย มุมมองชั่วขณะที่เปิดขึ้นในพวกเขามีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ามุมมองภาพ "Memories in Tsarskoe Selo" - นี่คือสิ่งที่พุชกินเรียกว่าบทกวีที่ดีที่สุดของเขา
ทัศนคติในอดีตมีได้ 2 แบบคือแบบภาพแสดงละครการแสดงทิวทัศน์และในรูปแบบเอกสาร ความสัมพันธ์แรกพยายามที่จะสร้างซ้ำในอดีตเพื่อรื้อฟื้นภาพที่มองเห็น ประการที่สองพยายามที่จะรักษาอดีตไว้อย่างน้อยก็ในบางส่วนที่หลงเหลืออยู่ ประการแรกในศิลปะการทำสวนสิ่งสำคัญคือต้องสร้างภาพภายนอกที่เป็นภาพของสวนสาธารณะหรือสวนเหมือนที่เคยเห็นครั้งเดียวในชีวิตของเขา ประการที่สองสิ่งสำคัญคือต้องรู้สึกถึงหลักฐานของเวลาเอกสารเป็นสิ่งสำคัญ คนแรกพูดว่า: นี่คือลักษณะที่เขามอง; คนที่สองเป็นพยาน: นี่คือเขาบางทีอาจจะไม่ใช่แบบนั้น แต่นี่คือสิ่งที่แท้จริงเหล่านี้คือต้นมะนาวโครงสร้างสวนเหล่านั้นรูปแกะสลัก ดอกลินเดนกลวงเก่าแก่สองหรือสามต้นในบรรดาลูกหลานหลายร้อยคนจะเป็นพยานว่านี่คือตรอกเดียวกัน - ที่นี่พวกเขาเป็นคนแก่ และคุณไม่จำเป็นต้องดูแลต้นไม้เล็กพวกมันเติบโตอย่างรวดเร็วและในไม่ช้าตรอกก็จะกลับสู่สภาพเดิม
แต่ในความสัมพันธ์ทั้งสองกับอดีตมีความแตกต่างที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง เจตจำนงแรกต้องการ: ยุคเดียว - ยุคแห่งการสร้างสวนสาธารณะหรือยุครุ่งเรืองหรือสิ่งที่สำคัญ ประการที่สองจะกล่าวว่า: ปล่อยให้ยุคสมัยทั้งหมดมีความสำคัญไม่ทางใดก็ทางหนึ่งมีชีวิตอยู่ตลอดชีวิตของอุทยานมีคุณค่าความทรงจำในยุคต่างๆและกวีต่าง ๆ ที่ยกย่องสถานที่เหล่านี้มีค่าและการบูรณะจะไม่ต้องการการบูรณะ แต่ การเก็บรักษา. ทัศนคติแรกที่มีต่อสวนสาธารณะและสวนถูกค้นพบในรัสเซียโดย Alexander Benois กับลัทธิความงามของเขาในสมัยของจักรพรรดินี Elizabeth Petrovna และ Catherine Park ของเธอใน Tsarskoye Selo Akhmatova แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทกวีกับเขาซึ่งพุชกินมีความสำคัญในซาร์สโกเยไม่ใช่เอลิซาเบ ธ : "ที่นี่สวมหมวกง้างของเขาและผู้ชายที่ไม่เรียบร้อย"
การรับรู้เกี่ยวกับอนุสาวรีย์ศิลปะจะเต็มเปี่ยมก็ต่อเมื่อสร้างขึ้นใหม่ทางจิตใจสร้างร่วมกับผู้สร้างและเต็มไปด้วยความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์

ทัศนคติแรกในอดีตสร้างโดยทั่วไปอุปกรณ์ช่วยสอนแบบจำลองการฝึกอบรม: มองแล้วรู้! ทัศนคติที่สองในอดีตต้องใช้ความจริงความสามารถในการวิเคราะห์: จำเป็นต้องแยกอายุออกจากวัตถุจำเป็นต้องจินตนาการว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรจำเป็นต้องตรวจสอบในระดับหนึ่ง ทัศนคติที่สองนี้ต้องการวินัยทางปัญญามากขึ้นความรู้เพิ่มเติมจากผู้ชมเอง: มองและจินตนาการ และทัศนคติทางปัญญาต่ออนุสรณ์สถานในอดีตไม่ช้าก็เร็วก็เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าอดีตที่แท้จริงและแทนที่ด้วยการแสดงละครแม้ว่าการสร้างละครจะทำลายเอกสารทั้งหมด แต่สถานที่นั้นยังคงอยู่: ที่นี่ในสถานที่นี้บนพื้นดินนี้ในจุดทางภูมิศาสตร์นี้ - มันคือ มันเป็นสิ่งที่น่าจดจำเกิดขึ้น
การแสดงละครยังแทรกซึมเข้าไปในการบูรณะอนุสรณ์สถานทางสถาปัตยกรรม ความถูกต้องจะสูญหายไปท่ามกลางการบูรณะที่คาดคะเน ผู้บูรณะจะเชื่อถือหลักฐานแบบสุ่มหากหลักฐานนี้อนุญาตให้มีการบูรณะอนุสาวรีย์สถาปัตยกรรมนี้ในลักษณะที่น่าสนใจเป็นพิเศษ นี่คือวิธีการบูรณะโบสถ์ Evfimievskaya ใน Novgorod: มันกลายเป็นวิหารเล็ก ๆ บนเสา มีบางสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับ Novgorod โบราณ
จำนวนอนุสาวรีย์ที่ถูกทำลายโดยผู้บูรณะในศตวรรษที่ 19 เนื่องจากการนำองค์ประกอบของสุนทรียศาสตร์สมัยใหม่เข้ามาใช้ นักบูรณะแสวงหาความสมมาตรโดยที่มันแปลกไปจากจิตวิญญาณของสไตล์ - โรมาเนสก์หรือโกธิค - พวกเขาพยายามแทนที่เส้นชีวิตด้วยเส้นที่ถูกต้องทางเรขาคณิตคำนวณทางคณิตศาสตร์ ฯลฯ นี่คือวิธีที่มหาวิหารโคโลญ, นอเทรอดามในปารีสและ Abbey of Saint Denis ถูกทำให้แห้ง ... เมืองทั้งเมืองในเยอรมนีถูกทำให้แห้งตายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาแห่งอุดมคติของเยอรมันในอดีต
ทัศนคติต่ออดีตก่อตัวเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติของตนเอง เพราะทุกคนเป็นผู้แบกรับอดีตและเป็นผู้ถือเอาลักษณะประจำชาติ บุคคลเป็นส่วนหนึ่งของสังคมและเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์

หน่วยความจำคืออะไร? อะไรคือบทบาทของความทรงจำในชีวิตมนุษย์คุณค่าของความทรงจำคืออะไร? อาร์กิวเมนต์จาก D.S. Likhachev "จดหมายเกี่ยวกับสิ่งที่ดีและสวยงาม"

ความจำเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการเป็นสิ่งมีชีวิตใด ๆ : วัตถุจิตวิญญาณมนุษย์ ...
พืชแต่ละชนิดหินที่มีร่องรอยของต้นกำเนิดแก้วน้ำ ฯลฯ มีความทรงจำ
นกมีรูปแบบที่ซับซ้อนที่สุดของความทรงจำของบรรพบุรุษทำให้นกรุ่นใหม่บินไปในทิศทางที่ถูกต้องไปยังสถานที่ที่เหมาะสม ในการอธิบายเที่ยวบินเหล่านี้ไม่เพียงพอที่จะศึกษาเฉพาะ "เทคนิคและวิธีการเดินเรือ" ที่นกใช้เท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความทรงจำที่ทำให้พวกเขามองหาไตรมาสฤดูหนาวและไตรมาสฤดูร้อน - เหมือนกันเสมอ
และเราสามารถพูดอะไรได้บ้างเกี่ยวกับ "ความทรงจำทางพันธุกรรม" - ความทรงจำที่วางไว้ในหลายศตวรรษความทรงจำที่ส่งผ่านจากสิ่งมีชีวิตรุ่นหนึ่งไปสู่ยุคต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้นหน่วยความจำไม่ได้อยู่ที่กลไกทั้งหมด นี่เป็นกระบวนการสร้างสรรค์ที่สำคัญที่สุดนั่นคือกระบวนการและกระบวนการสร้างสรรค์ สิ่งที่จำเป็นคือจำไว้ ผ่านความทรงจำประสบการณ์ที่ดีถูกสะสมเป็นประเพณีก่อตัวทักษะในชีวิตประจำวันทักษะครอบครัวทักษะการทำงานสถาบันทางสังคม ...
หน่วยความจำต่อต้านพลังทำลายล้างของเวลา
ความทรงจำคือการเอาชนะเวลาเอาชนะความตาย

เหตุใดคนเราจึงต้องเก็บความทรงจำในอดีตไว้ อาร์กิวเมนต์จาก D.S. Likhachev "จดหมายเกี่ยวกับสิ่งที่ดีและสวยงาม"

ความสำคัญทางศีลธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของความทรงจำคือการเอาชนะเวลาการเอาชนะความตาย คน“ ขี้ลืม” ประการแรกคือคนที่เนรคุณไม่มีความรับผิดชอบและด้วยเหตุนี้จึงไม่สามารถกระทำการที่ดีและไม่สนใจได้
ความไม่รับผิดชอบเกิดจากการขาดสติที่ไม่มีอะไรผ่านไปโดยไร้ร่องรอย คนที่กระทำการที่ไร้ความปรานีคิดว่าการกระทำนี้จะไม่อยู่ในความทรงจำส่วนตัวของเขาและในความทรงจำของคนรอบข้าง เห็นได้ชัดว่าตัวเขาเองไม่คุ้นเคยกับการเก็บรักษาความทรงจำในอดีตรู้สึกขอบคุณบรรพบุรุษของเขาในการทำงานความเอาใจใส่ของพวกเขาและคิดว่าทุกอย่างจะถูกลืมเกี่ยวกับเขา
โดยพื้นฐานแล้วมโนธรรมเป็นความทรงจำซึ่งมีการเพิ่มการประเมินทางศีลธรรมเกี่ยวกับความสมบูรณ์แบบ แต่ถ้าความสมบูรณ์แบบไม่ได้ถูกเก็บไว้ในหน่วยความจำก็จะไม่มีการประเมิน ไม่มีจิตสำนึกไม่มีความทรงจำ
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมจึงสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการเลี้ยงดูในบรรยากาศทางศีลธรรมของความทรงจำ: ความทรงจำครอบครัวความทรงจำพื้นบ้านความทรงจำทางวัฒนธรรม รูปถ่ายครอบครัวเป็น "ทัศนูปกรณ์" ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการศึกษาศีลธรรมของเด็กและผู้ใหญ่ เคารพในการทำงานของบรรพบุรุษของเราสำหรับประเพณีการทำงานของพวกเขาสำหรับเครื่องมือของพวกเขาสำหรับประเพณีของพวกเขาสำหรับเพลงและความบันเทิงของพวกเขา ทั้งหมดนี้เป็นที่รักสำหรับเรา และเคารพหลุมฝังศพของบรรพบุรุษ
จำพุชกิน:
ความรู้สึกสองอย่างอยู่ใกล้เราอย่างน่าอัศจรรย์ -
ในใจพวกเขาพบอาหาร -
รักขี้เถ้าพื้นเมือง
รักโลงศพของพ่อ
ศาลเจ้าให้ชีวิต!
โลกจะตายโดยไม่มีพวกเขา
สติสัมปชัญญะของเราไม่สามารถชินกับความคิดที่ว่าโลกจะตายได้ในทันทีหากปราศจากความรักต่อหลุมศพของบิดาหากปราศจากความรักต่อขี้เถ้าพื้นเมือง บ่อยครั้งที่เราเฉยเมยหรือเกือบจะเป็นศัตรูกับสุสานและขี้เถ้าที่หายไปซึ่งเป็นแหล่งที่มาของความคิดมืดมนที่ไม่ฉลาดเกินไปและอารมณ์ที่หนักหน่วงอย่างผิวเผิน เช่นเดียวกับความทรงจำส่วนตัวของบุคคลก่อให้เกิดความรู้สึกผิดชอบชั่วดีทัศนคติที่มีมโนธรรมของเขาต่อบรรพบุรุษและคนที่เขารัก - ญาติและเพื่อนเพื่อนเก่านั่นคือคนที่ซื่อสัตย์ที่สุดที่เขาเกี่ยวข้องกับความทรงจำร่วมกันดังนั้นความทรงจำทางประวัติศาสตร์ของ ผู้คนก่อให้เกิดบรรยากาศทางศีลธรรมที่ผู้คนอาศัยอยู่ บางทีอาจมีคนคิดว่าจะสร้างคุณธรรมในสิ่งอื่นหรือไม่: ละเว้นอดีตโดยสิ้นเชิงด้วยบางครั้งความผิดพลาดและความทรงจำที่ยากลำบากและมุ่งสู่อนาคตอย่างสมบูรณ์สร้างอนาคตนี้บน "เหตุผลที่สมเหตุสมผล" ด้วยตัวเองลืมอดีต ด้วยด้านมืดและด้านสว่าง
สิ่งนี้ไม่เพียง แต่ไม่จำเป็น แต่ยังเป็นไปไม่ได้อีกด้วย ความทรงจำในอดีตเป็นสิ่งแรกที่ "สดใส" (สำนวนของพุชกิน) บทกวี เธอให้ความรู้เกี่ยวกับสุนทรียภาพ

แนวคิดเกี่ยวกับวัฒนธรรมและความทรงจำเกี่ยวข้องกันอย่างไร? ความทรงจำและวัฒนธรรมคืออะไร? อาร์กิวเมนต์จาก D.S. Likhachev "จดหมายเกี่ยวกับสิ่งที่ดีและสวยงาม"

วัฒนธรรมของมนุษย์โดยรวมไม่เพียง แต่มีความจำเท่านั้น แต่ยังมีความเป็นเลิศด้านความจำอีกด้วย วัฒนธรรมของมนุษยชาติเป็นความทรงจำที่ใช้งานของมนุษยชาติซึ่งนำมาสู่ปัจจุบัน
ในประวัติศาสตร์การเพิ่มขึ้นของวัฒนธรรมทุกอย่างมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดึงดูดอดีต กี่ครั้งแล้วที่มนุษยชาติหันไปหาของโบราณ? อย่างน้อยก็มีการแปลงครั้งใหญ่สี่ครั้ง: ภายใต้ชาร์เลอมาญภายใต้ราชวงศ์ Palaeologus ในไบแซนเทียมในช่วงยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาและอีกครั้งในปลายศตวรรษที่ 18 - ต้นศตวรรษที่ 19 และมีการอ้างอิงถึงวัฒนธรรมในสมัยโบราณเพียงเล็กน้อย - ในยุคกลางเดียวกัน การดึงดูดใจในอดีตแต่ละครั้งคือ "การปฏิวัติ" นั่นคือการเสริมสร้างความทันสมัยและการอุทธรณ์แต่ละครั้งเข้าใจอดีตนี้ในแบบของตัวเองโดยใช้เวลาจากอดีตที่ต้องก้าวต่อไป ฉันกำลังพูดถึงการดึงดูดความสนใจในสมัยโบราณ แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจในอดีตของชาติของตัวเองให้อะไรกับแต่ละคน? หากไม่ได้ถูกบงการโดยชาตินิยมความปรารถนาอันคับแคบที่จะแยกตัวเองออกจากชนชาติอื่นและประสบการณ์ทางวัฒนธรรมของพวกเขามันก็เกิดผลเพราะมันเสริมสร้างความหลากหลายขยายวัฒนธรรมของผู้คนความอ่อนไหวทางสุนทรียะ ท้ายที่สุดแล้วการอุทธรณ์ต่อของเก่าในเงื่อนไขใหม่เป็นสิ่งใหม่เสมอ
เธอรู้ข้อมูลอ้างอิงหลายประการเกี่ยวกับ Ancient Rus และ post-Petrine Russia การอุทธรณ์นี้มีหลายด้าน การค้นพบสถาปัตยกรรมและไอคอนของรัสเซียในตอนต้นของศตวรรษที่ 20 นั้นส่วนใหญ่ปราศจากความเป็นชาตินิยมแคบ ๆ และเป็นผลดีอย่างมากสำหรับศิลปะใหม่
ฉันต้องการแสดงให้เห็นถึงบทบาทด้านสุนทรียศาสตร์และศีลธรรมของความทรงจำโดยใช้ตัวอย่างบทกวีของพุชกิน
ในพุชกิน Memory มีบทบาทอย่างมากในงานกวี บทกวีของความทรงจำสามารถติดตามได้จากบทกวีสำหรับเด็กและเยาว์วัยของพุชกินซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "ความทรงจำในซาร์สโคเอเซโล" แต่ต่อมาบทบาทของความทรงจำนั้นยิ่งใหญ่มากไม่เพียง แต่ในเนื้อเพลงของพุชกินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบทกวีด้วย " ยูจีน”.
เมื่อพุชกินต้องการการเริ่มต้นโคลงสั้น ๆ เขามักจะหันไปหาสิ่งที่ระลึก ดังที่คุณทราบพุชกินไม่ได้อยู่ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในช่วงน้ำท่วมปี 2367 แต่อย่างไรก็ตามใน The Bronze Horseman น้ำท่วมเป็นสีตามความทรงจำ:
"มันเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายความทรงจำที่สดใหม่ของมัน ... "
พุชกินยังวาดภาพผลงานทางประวัติศาสตร์ของเขาโดยใช้ความทรงจำส่วนบุคคลและบรรพบุรุษ โปรดจำไว้ว่า: ใน "บอริสโกดูนอฟ" บรรพบุรุษของเขาแสดงพุชกินใน "อาราปาแห่งปีเตอร์มหาราช" - บรรพบุรุษของฮันนิบาลด้วย
ความจำเป็นพื้นฐานของความรู้สึกผิดชอบชั่วดีและศีลธรรมความทรงจำเป็นพื้นฐานของวัฒนธรรม "การสะสม" ของวัฒนธรรมความทรงจำเป็นหนึ่งในรากฐานของบทกวี - ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณค่าทางวัฒนธรรมที่สวยงาม เพื่อรักษาความทรงจำการรักษาความทรงจำเป็นหน้าที่ทางศีลธรรมของเราที่มีต่อตัวเราเองและลูกหลานของเรา หน่วยความจำคือความมั่งคั่งของเรา

อะไรคือบทบาทของวัฒนธรรมในชีวิตมนุษย์? อะไรคือผลของการหายตัวไปของอนุสาวรีย์สำหรับมนุษย์? อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมีบทบาทอย่างไรต่อชีวิตมนุษย์? เหตุใดจึงต้องอนุรักษ์อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม? อาร์กิวเมนต์จาก D.S. Likhachev "จดหมายเกี่ยวกับสิ่งที่ดีและสวยงาม"

เราดูแลสุขภาพของเราเองและสุขภาพของผู้อื่นเราตรวจสอบโภชนาการที่เหมาะสมเพื่อให้อากาศและน้ำยังคงสะอาดปราศจากมลพิษ
วิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องและฟื้นฟูธรรมชาติโดยรอบเรียกว่านิเวศวิทยา แต่นิเวศวิทยาไม่ควร จำกัด เฉพาะงานในการรักษาสิ่งแวดล้อมทางชีวภาพรอบตัวเรา บุคคลไม่เพียงอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ แต่ยังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นโดยวัฒนธรรมของบรรพบุรุษและตัวเขาเอง การรักษาสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมเป็นงานที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการรักษาธรรมชาติโดยรอบ หากธรรมชาติเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับบุคคลสำหรับชีวิตทางชีววิทยาของเขาสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมก็มีความจำเป็นไม่น้อยสำหรับชีวิตทางจิตวิญญาณทางศีลธรรมของเขาสำหรับ“ การตั้งถิ่นฐานทางจิตวิญญาณ” ของเขาสำหรับการยึดติดกับถิ่นกำเนิดของเขาตามหลักศีลของบรรพบุรุษ วินัยในตนเองและสังคมที่มีศีลธรรม ในขณะเดียวกันคำถามเกี่ยวกับนิเวศวิทยาทางศีลธรรมไม่เพียง แต่ไม่ได้รับการศึกษา แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณา วัฒนธรรมบางประเภทและสิ่งที่หลงเหลือจากอดีตทางวัฒนธรรมประเด็นของการบูรณะอนุสาวรีย์และการอนุรักษ์ของพวกเขาได้รับการศึกษา แต่ความสำคัญทางศีลธรรมและอิทธิพลที่มีต่อบุคคลในสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมทั้งหมดโดยรวมไม่ได้รับการศึกษาพลังที่มีอิทธิพล
แต่ข้อเท็จจริงของผลกระทบทางการศึกษาที่มีต่อบุคคลในสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมโดยรอบนั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าสงสัยแม้แต่น้อย
บุคคลถูกเลี้ยงดูมาในสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมที่อยู่รอบตัวเขาอย่างมองไม่เห็น เขาถูกเลี้ยงดูมาโดยประวัติศาสตร์อดีต อดีตเปิดหน้าต่างสู่โลกสำหรับเขาและไม่เพียง แต่หน้าต่างเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประตูแม้กระทั่งประตู - ประตูแห่งชัยชนะ เพื่ออาศัยอยู่ในที่ที่กวีและนักเขียนร้อยแก้วของวรรณกรรมรัสเซียผู้ยิ่งใหญ่อาศัยอยู่เพื่ออาศัยอยู่ในที่ที่นักวิจารณ์และนักปรัชญาผู้ยิ่งใหญ่อาศัยอยู่ซึมซับความประทับใจทุกวันที่สะท้อนให้เห็นไม่ทางใดก็ทางหนึ่งในผลงานวรรณกรรมยอดเยี่ยมของรัสเซียเยี่ยมชมอพาร์ตเมนต์ - พิพิธภัณฑ์หมายถึงการเสริมสร้างจิตวิญญาณทีละน้อย
ถนนสี่เหลี่ยมคูคลองบ้านแต่ละหลังสวนสาธารณะเตือนความจำย้ำเตือน ... ความประทับใจในอดีตเข้าสู่โลกแห่งจิตวิญญาณของบุคคลอย่างสงบเสงี่ยมและไม่มั่นคงและบุคคลที่มีจิตวิญญาณที่เปิดกว้างจะเข้าสู่อดีต เขาเรียนรู้ที่จะเคารพบรรพบุรุษและระลึกถึงสิ่งที่จำเป็นสำหรับลูกหลานของเขา อดีตและอนาคตกลายเป็นของตัวเองสำหรับบุคคล เขาเริ่มเรียนรู้ความรับผิดชอบ - ความรับผิดชอบทางศีลธรรมต่อผู้คนในอดีตและในเวลาเดียวกันต่อผู้คนในอนาคตซึ่งอดีตจะมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าเราและบางทีอาจจะมีวัฒนธรรมเพิ่มขึ้นและการเพิ่มจำนวนขึ้นของจิตวิญญาณ ความต้องการสำคัญยิ่งกว่า การดูแลอดีตคือการดูแลอนาคตในขณะเดียวกัน ...
การรักครอบครัวของคุณความประทับใจในวัยเด็กบ้านโรงเรียนหมู่บ้านเมืองของคุณประเทศวัฒนธรรมและภาษาของคุณโลกทั้งใบเป็นสิ่งที่จำเป็นซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการตั้งถิ่นฐานทางศีลธรรมของมนุษย์
ถ้าคนไม่ชอบดูรูปถ่ายเก่า ๆ ของพ่อแม่เป็นครั้งคราวไม่ชอบความทรงจำของพวกเขาที่ทิ้งไว้ในสวนที่พวกเขาปลูกฝังในสิ่งที่เป็นของพวกเขาเขาก็ไม่รักพวกเขา ถ้าคนไม่ชอบบ้านเก่าถนนเก่าแม้ว่าพวกเขาจะด้อยกว่าเขาก็ไม่รักเมืองของเขา หากบุคคลไม่แยแสกับอนุสรณ์สถานแห่งประวัติศาสตร์ของประเทศของเขาแสดงว่าเขาไม่สนใจประเทศของเขา
การสูญเสียในธรรมชาติสามารถกู้คืนได้ถึงขีด จำกัด ที่กำหนด มันค่อนข้างแตกต่างกับอนุสรณ์สถานทางวัฒนธรรม การสูญเสียของพวกเขาไม่สามารถแก้ไขได้เนื่องจากอนุสรณ์สถานทางวัฒนธรรมมักจะเป็นของแต่ละบุคคลซึ่งเกี่ยวข้องกับยุคสมัยหนึ่งในอดีตเสมอกับปรมาจารย์บางคน ทุกอนุสาวรีย์ถูกทำลายตลอดกาลบิดเบี้ยวตลอดกาลบาดเจ็บตลอดไป และเขาไม่มีที่พึ่งเขาจะไม่ฟื้นฟูตัวเอง
อนุสาวรีย์แห่งสมัยโบราณใด ๆ ที่สร้างขึ้นใหม่จะไร้เอกสารประกอบ มันจะเป็นเพียง "การมองเห็น
"คลัง" ของอนุสรณ์สถานทางวัฒนธรรม "คลัง" ของสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมมี จำกัด อย่างมากในโลกและกำลังหมดลงในอัตราที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่ผู้บูรณะเองซึ่งบางครั้งก็ทำงานตามทฤษฎีของพวกเขาเองการทดสอบทฤษฎีที่ไม่เพียงพอหรือแนวคิดร่วมสมัยเกี่ยวกับความงามของเราก็กลายเป็นผู้ทำลายอนุสาวรีย์ในอดีตมากกว่าผู้พิทักษ์ของพวกเขา อนุสาวรีย์และนักผังเมืองกำลังทำลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขาไม่มีความรู้ทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนและสมบูรณ์
ที่ดินเริ่มคับแคบสำหรับอนุสรณ์สถานทางวัฒนธรรมไม่ใช่เพราะมีที่ดินเพียงเล็กน้อย แต่เป็นเพราะผู้สร้างสนใจสถานที่เก่าแก่ที่มีคนอาศัยอยู่ดังนั้นจึงดูสวยงามและน่าดึงดูดเป็นพิเศษสำหรับนักวางผังเมือง
นักวางผังเมืองไม่เหมือนใครต้องการความรู้ในสาขานิเวศวิทยาวัฒนธรรม ดังนั้นควรมีการพัฒนาประวัติศาสตร์ท้องถิ่นควรเผยแพร่และสอนเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นบนพื้นฐานของมัน ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นส่งเสริมความรักในดินแดนพื้นเมืองและให้ความรู้โดยที่ไม่สามารถรักษาอนุสรณ์สถานทางวัฒนธรรมไว้ในสนามได้
เราไม่ควรรับผิดชอบอย่างเต็มที่ในการละเลยอดีตต่อผู้อื่นหรือเพียงแค่หวังว่าองค์กรพิเศษของรัฐและสาธารณะมีส่วนร่วมในการรักษาวัฒนธรรมในอดีตและ“ นี่คือธุรกิจของพวกเขา” ไม่ใช่ของเรา ตัวเราเองต้องเป็นคนฉลาดมีวัฒนธรรมมีการศึกษาเข้าใจความงามและมีความเมตตา - มีความกรุณาและขอบคุณบรรพบุรุษของเราที่สร้างมาเพื่อเราและลูกหลานของเราทุกสิ่งที่งดงามที่ไม่ใช่ใครอื่นกล่าวคือบางครั้งเราไม่รู้ว่าจะรับรู้ได้อย่างไร ยอมรับในโลกแห่งศีลธรรมเพื่อรักษาและปกป้องอย่างแข็งขัน
ทุกคนมีหน้าที่ต้องรู้ว่าตัวเองมีความงามและคุณค่าทางศีลธรรมอะไร เขาไม่ควรมั่นใจในตัวเองและหยิ่งผยองในการปฏิเสธวัฒนธรรมในอดีตอย่างไม่เลือกหน้าและ“ การตัดสิน” ทุกคนมีหน้าที่ต้องมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์วัฒนธรรม
เรารับผิดชอบทุกอย่างไม่ใช่ใครอื่นและอยู่ในอำนาจของเราที่จะไม่สนใจอดีตของเรา เป็นของเราอยู่ในความครอบครองร่วมกัน

เหตุใดการรักษาความทรงจำทางประวัติศาสตร์จึงสำคัญ อะไรคือผลของการหายตัวไปของอนุสาวรีย์สำหรับมนุษย์? ปัญหาการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ของเมืองเก่า อาร์กิวเมนต์จาก D.S. Likhachev "จดหมายเกี่ยวกับความดีและความสวยงาม".

ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2521 ฉันอยู่ที่สนามโบโรดิโนพร้อมกับนิโคไลอิวาโนวิชอิวานอฟนักฟื้นฟูที่น่าทึ่งที่สุด คุณเคยสนใจหรือไม่ว่าผู้อุทิศตนประเภทใดที่พบในหมู่ผู้บูรณะและคนงานพิพิธภัณฑ์ พวกเขาหวงแหนสิ่งของและสิ่งของตอบแทนพวกเขาด้วยความรัก สิ่งของและอนุสาวรีย์ทำให้ผู้ดูแลของพวกเขารักตัวเองความรักความทุ่มเทอย่างสูงส่งต่อวัฒนธรรมจากนั้นรสนิยมและความเข้าใจในศิลปะความเข้าใจในอดีตเป็นแรงดึงดูดใจต่อผู้คนที่สร้างพวกเขา ความรักที่แท้จริงสำหรับผู้คนสำหรับอนุสาวรีย์ไม่เคยมีคำตอบ นั่นคือเหตุผลที่ผู้คนพบกันและกันและดินแดนที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากผู้คนพบว่าคนที่รักและตอบสนองต่อพวกเขาในแบบเดียวกัน
เป็นเวลาสิบห้าปีที่ Nikolai Ivanovich ไม่ได้ไปพักร้อน: เขาไม่สามารถพักผ่อนนอกสนาม Borodino ได้ เขามีชีวิตอยู่เป็นเวลาหลายวันในการต่อสู้โบโรดิโนและวันก่อนการต่อสู้ สนามของโบโรดินมีคุณค่าทางการศึกษามหาศาล
ฉันเกลียดสงครามฉันต้องทนกับการปิดล้อมเลนินกราดการลอบยิงพลเรือนจากที่พักพิงอันอบอุ่นของนาซีในตำแหน่งบนความสูงดูเดอร์ฮอฟฉันเป็นสักขีพยานถึงวีรกรรมที่ชาวโซเวียตปกป้องมาตุภูมิของพวกเขาด้วยความแข็งขันที่ไม่สามารถเข้าใจได้ที่พวกเขาต่อต้านศัตรู บางทีนั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไม Battle of Borodino ซึ่งทำให้ฉันประหลาดใจอยู่เสมอด้วยความแข็งแกร่งทางศีลธรรมจึงมีความหมายใหม่สำหรับฉัน ทหารรัสเซียขับไล่การโจมตีอย่างดุเดือดแปดครั้งต่อแบตเตอรี่ Raevsky ซึ่งตามมาทีละครั้งด้วยความดื้อรั้นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน
ในท้ายที่สุดทหารของทั้งสองกองทัพต่อสู้ในความมืดมิดโดยการสัมผัส ความเข้มแข็งทางศีลธรรมของชาวรัสเซียทวีคูณเป็นสิบเท่าจากความจำเป็นในการปกป้องมอสโก และนิโคไลอิวาโนวิชกับฉันแยกเขี้ยวต่อหน้าอนุสาวรีย์ถึงวีรบุรุษที่สร้างบนสนามโบโรดิโนโดยลูกหลานที่กตัญญู ...
ในวัยเยาว์ฉันมามอสโคว์เป็นครั้งแรกและบังเอิญไปเจอ Church of the Assumption ที่ Pokrovka (1696-1699) เธอไม่สามารถจินตนาการได้จากภาพถ่ายและภาพวาดที่ยังมีชีวิตอยู่เธอน่าจะถูกมองว่ารายล้อมไปด้วยอาคารธรรมดาเตี้ย ๆ แต่แล้วผู้คนก็มารื้อถอนคริสตจักร ตอนนี้มีพื้นที่รกร้างอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ...
ใครคือคนเหล่านี้ที่ทำลายอดีตที่เป็นอยู่ - อดีตซึ่งก็คือปัจจุบันของเราเช่นกันเพราะวัฒนธรรมไม่ตาย? บางครั้งตัวสถาปนิกเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ต้องการสร้าง "ผลงาน" ให้เป็นที่ยอมรับและขี้เกียจคิดเรื่องอื่น บางครั้งคนเหล่านี้สุ่มเสี่ยงอย่างสมบูรณ์และเราทุกคนต้องตำหนิในเรื่องนี้ เราต้องคิดว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก อนุสรณ์สถานทางวัฒนธรรมเป็นของผู้คนไม่ใช่เฉพาะคนรุ่นเราเท่านั้น เรารับผิดชอบต่อสิ่งเหล่านี้ต่อลูกหลานของเรา เราจะเป็นที่ต้องการอย่างมากในอีกร้อยสองร้อยปี
เมืองประวัติศาสตร์ไม่เพียง แต่อาศัยอยู่โดยคนที่อาศัยอยู่ในขณะนี้ พวกเขาอาศัยอยู่โดยคนที่ยิ่งใหญ่ในอดีตซึ่งความทรงจำไม่สามารถตายได้ ช่องของเลนินกราดสะท้อนให้เห็นพุชกินและดอสโตเอฟสกีด้วยตัวละครใน "White Nights" ของเขา
ไม่สามารถจับภาพบรรยากาศทางประวัติศาสตร์ของเมืองของเราได้ด้วยภาพถ่ายการจำลองและแบบจำลองใด ๆ บรรยากาศนี้สามารถเปิดเผยเน้นย้ำโดยการสร้างใหม่ แต่ก็สามารถถูกทำลายได้อย่างง่ายดาย - ถูกทำลายอย่างไร้ร่องรอย ไม่สามารถกู้คืนได้ เราต้องรักษาอดีตของเราไว้: มีคุณค่าทางการศึกษาที่มีประสิทธิผลสูงสุด เป็นการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อมาตุภูมิ
นี่คือสิ่งที่ V.P. Orfinsky สถาปนิก Petrozavodsk ผู้เขียนหนังสือหลายเล่มเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมพื้นบ้านของ Karelia บอกฉัน เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2514 โบสถ์อันเป็นเอกลักษณ์ของต้นศตวรรษที่ 17 ในหมู่บ้าน Pelkula ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานทางสถาปัตยกรรมที่มีความสำคัญระดับชาติถูกไฟไหม้ในเขต Medvezhyegorsk และไม่มีใครเริ่มค้นพบสถานการณ์ของคดีนี้ด้วยซ้ำ
ในปีพ. ศ. 2518 อนุสาวรีย์สถาปัตยกรรมที่มีความสำคัญระดับชาติอีกแห่งหนึ่งถูกไฟไหม้ - โบสถ์ Ascension ในหมู่บ้าน Tipinitsy เขต Medvezhyegorsk ซึ่งเป็นวัดหลังคาทรงปั้นหยาที่น่าสนใจที่สุดแห่งหนึ่งในรัสเซียตอนเหนือ เหตุผลคือฟ้าผ่า แต่ต้นตอที่แท้จริงคือความไม่รับผิดชอบและความประมาท: เสาสูงระฟ้าของโบสถ์ Ascension และหอระฆังที่เชื่อมต่อกันโดยไม่มีการป้องกันฟ้าผ่าเบื้องต้น
เต็นท์ของคริสตจักรการประสูติของศตวรรษที่ 18 ตกอยู่ในหมู่บ้าน Bestuzhev เขต Ustyansky เขต Arkhangelsk ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์ที่มีค่าที่สุดของสถาปัตยกรรมหลังคาทรงปั้นหยาซึ่งเป็นองค์ประกอบสุดท้ายของวงดนตรีซึ่งวางไว้อย่างแม่นยำมากในส่วนโค้งของแม่น้ำ Ustya . เหตุผลก็คือการละเลยอย่างแท้จริง
และนี่คือข้อเท็จจริงเล็กน้อยเกี่ยวกับเบลารุส ในหมู่บ้าน Dostoyevo ซึ่งบรรพบุรุษของ Dostoevsky มาจากโบสถ์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งในศตวรรษที่ 18 เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเพื่อกำจัดความรับผิดชอบเกรงว่าอนุสาวรีย์จะถูกขึ้นทะเบียนกับผู้พิทักษ์จึงสั่งให้รื้อโบสถ์พร้อมควาญ จากเธอเหลือเพียงการวัดและรูปถ่ายเท่านั้น เกิดขึ้นในปีพ. ศ. 2519
สามารถรวบรวมข้อเท็จจริงดังกล่าวได้มากมาย จะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ทำซ้ำ ก่อนอื่นอย่าลืมเกี่ยวกับพวกเขาแสร้งทำเป็นว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ที่นั่น ไม่เพียงพอและข้อห้ามคำแนะนำและบอร์ดที่มีข้อความระบุว่า "Protected by the state." จำเป็นที่จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงของนักเลงหัวไม้หรือทัศนคติที่ขาดความรับผิดชอบต่อมรดกทางวัฒนธรรมอย่างเข้มงวดในศาลและผู้กระทำผิดควรได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง แต่แค่นี้ยังไม่พอ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่มีอยู่แล้วในโรงเรียนมัธยมศึกษาเพื่อศึกษาในแวดวงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และลักษณะของภูมิภาคของคุณ เป็นองค์กรเยาวชนที่ก่อนอื่นควรให้การอุปถัมภ์ในประวัติศาสตร์ของภูมิภาคของตน ประการสุดท้ายและที่สำคัญที่สุดคือโปรแกรมประวัติศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาจำเป็นต้องมีบทเรียนในประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
การรักบ้านเกิดไม่ใช่สิ่งที่เป็นนามธรรม เป็นความรักที่มีต่อเมืองของพวกเขาในท้องถิ่นของพวกเขาสำหรับอนุสรณ์สถานทางวัฒนธรรมความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของพวกเขา นั่นคือเหตุผลที่การสอนประวัติศาสตร์ในโรงเรียนควรมีความเฉพาะเจาะจง - เกี่ยวกับอนุสรณ์สถานแห่งประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอดีตการปฏิวัติในพื้นที่ของพวกเขา
เราไม่เพียงเรียกร้องความรักชาติเท่านั้น แต่ต้องได้รับการเลี้ยงดูอย่างเอาใจใส่ - ปลูกฝังความรักที่มีต่อถิ่นกำเนิดของตนเพื่อปลูกฝังการตั้งถิ่นฐานทางจิตวิญญาณ และสำหรับทั้งหมดนี้จำเป็นต้องพัฒนาวิทยาศาสตร์ของนิเวศวิทยาวัฒนธรรม ไม่เพียง แต่สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมสภาพแวดล้อมของอนุสรณ์สถานทางวัฒนธรรมและผลกระทบต่อมนุษย์ควรได้รับการศึกษาทางวิทยาศาสตร์อย่างละเอียด
จะไม่มีรากในพื้นที่พื้นเมืองในประเทศพื้นเมือง - จะมีคนจำนวนมากคล้ายกับพืชสาหร่ายบริภาษ

ประวัติศาสตร์มีไว้เพื่ออะไร? ความสัมพันธ์ระหว่างอดีตปัจจุบันและอนาคต Ray Bradbury "และ Thunder Came"

อดีตปัจจุบันและอนาคตเชื่อมโยงกัน ทุกการกระทำของเราสะท้อนให้เห็นในอนาคต ดังนั้นอาร์แบรดเบอรีในเรื่อง "" จึงขอเชิญชวนให้ผู้อ่านจินตนาการว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคน ๆ หนึ่งมีไทม์แมชชีน ในอนาคตจินตนาการของเขามีเครื่องจักรเช่นนี้ ผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้นสามารถนำเสนอซาฟารีข้ามเวลา ตัวละครหลัก Eckels เริ่มต้นการผจญภัย แต่เขาได้รับคำเตือนว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้มีเพียงสัตว์ที่ต้องตายด้วยโรคหรือด้วยเหตุผลอื่นเท่านั้นที่สามารถฆ่าได้ (ทั้งหมดนี้ระบุโดยผู้จัดงานล่วงหน้า) ครั้งหนึ่งในยุคของไดโนเสาร์ Eckels หวาดกลัวมากจนหนีออกจากภูมิประเทศที่ได้รับอนุญาต การกลับมาสู่ปัจจุบันของเขาแสดงให้เห็นว่าทุกรายละเอียดมีความสำคัญมากเพียงใดมีผีเสื้อเหยียบย่ำอยู่ที่พื้นรองเท้า ครั้งหนึ่งในปัจจุบันเขาพบว่าโลกทั้งใบเปลี่ยนไป: สีสันองค์ประกอบของบรรยากาศบุคคลและแม้แต่กฎการสะกดก็เปลี่ยนไป แทนที่จะเป็นประธานาธิบดีเสรีนิยมเผด็จการกลับอยู่ในอำนาจ
ดังนั้นแบรดเบอรีจึงสื่อถึงแนวคิดต่อไปนี้: อดีตและอนาคตเชื่อมโยงกัน เราต้องรับผิดชอบต่อทุกการกระทำที่เราได้ทำลงไป
การมองอดีตเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อที่จะรู้อนาคตของคุณ ทุกสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมีอิทธิพลต่อโลกที่เราอาศัยอยู่ หากคุณสามารถวาดเส้นขนานระหว่างอดีตกับปัจจุบันคุณก็สามารถมาถึงอนาคตแบบนั้นได้ทุกอย่างที่คุณต้องการ

ความผิดพลาดในประวัติศาสตร์มีค่าใช้จ่ายเท่าไร? Ray Bradbury "และ Thunder Came"

บางครั้งต้นทุนของความผิดพลาดอาจทำลายชีวิตของมวลมนุษยชาติ ดังนั้นในเรื่อง "" จึงแสดงให้เห็นว่าความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจนำไปสู่หายนะได้ เอคเคิลส์ตัวเอกของเรื่องได้ก้าวขึ้นไปบนผีเสื้อในระหว่างการเดินทางสู่อดีตโดยการกำกับดูแลของเขาทำให้เขาเปลี่ยนเส้นทางทั้งหมดของประวัติศาสตร์ เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าคุณต้องคิดอย่างรอบคอบก่อนที่จะทำอะไรบางอย่าง เขาได้รับการเตือนถึงอันตราย แต่ความกระหายที่จะผจญภัยนั้นแข็งแกร่งกว่าสามัญสำนึก เขาไม่สามารถประเมินความสามารถและขีดความสามารถได้อย่างถูกต้อง สิ่งนี้นำไปสู่หายนะ

นักเขียนหลายคนในผลงานของพวกเขาหันไปใช้ธีมของสงคราม ในหน้าของเรื่องราวนวนิยายและบทความพวกเขาเก็บรักษาความทรงจำของความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของทหารโซเวียตเกี่ยวกับราคาที่พวกเขาได้รับชัยชนะ ตัวอย่างเช่นเรื่องราวของ Sholokhov "The Fate of a Man" แนะนำผู้อ่านให้รู้จักกับคนขับง่ายๆ - Andrei Sokolov ในช่วงสงคราม Sokolov สูญเสียครอบครัวของเขา ภรรยาและลูกของเขาถูกฆ่าและบ้านของเขาถูกทำลาย อย่างไรก็ตามเขายังคงต่อสู้ต่อไป เขาถูกจับตัว แต่ก็หนีไปได้ หลังจากสงครามเขาพบว่ามีความเข้มแข็งในการรับเลี้ยงเด็กกำพร้า - Vanyushka “ The Fates of a Man” เป็นผลงานนิยาย แต่สร้างจากเหตุการณ์จริง ฉันแน่ใจว่ามีเรื่องราวคล้าย ๆ กันมากมายในช่วงสี่ปีที่เลวร้ายนั้น และวรรณกรรมช่วยให้เรารู้สึกถึงสถานะของผู้คนที่ผ่านการทดสอบเหล่านี้เพื่อที่จะชื่นชมความสำเร็จของพวกเขามากยิ่งขึ้น


(ยังไม่มีการให้คะแนน)

ผลงานอื่น ๆ ในหัวข้อนี้:

  1. สงครามครั้งที่แล้วมีผู้เสียชีวิตหลายสิบล้านคนนำความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานมาสู่ทุกครอบครัว เหตุการณ์ที่น่าเศร้าของสงครามความรักชาติไม่ได้หยุดที่จะสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้คนจนถึงทุกวันนี้ คนรุ่นใหม่ ...
  2. สงครามความรักชาติครั้งยิ่งใหญ่ไม่เพียง แต่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้บนร่างกายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงจิตวิญญาณของทหารโซเวียตด้วย ด้วยเหตุนี้แม้หลายปีต่อมาโปรดจำไว้ว่า ...
  3. ในข้อความนี้ V. Astafiev ทำให้เกิดปัญหาทางศีลธรรมที่สำคัญปัญหาเกี่ยวกับความทรงจำของสงคราม ผู้เขียนพูดถึงความกังวลใจและความระมัดระวังซึ่งเพื่อนของเขาและ ...
  4. สงครามเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นกับมนุษยชาติ แต่แม้ในศตวรรษที่ 21 ผู้คนยังไม่ได้เรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาอย่างสันติ และยังคง ...

การมอบหมายสำหรับการสอบ Unified State:

15.3 คุณเข้าใจความหมายของวลีอย่างไร: ปัญหาเกี่ยวกับความทรงจำของมหาสงครามแห่งความรักชาติ? กำหนดและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำจำกัดความของคุณ เขียนเรียงความ - ให้เหตุผลในหัวข้อปัญหาเกี่ยวกับความทรงจำของมหาสงครามแห่งความรักชาติ

เถียงวิทยานิพนธ์ของคุณให้ยกตัวอย่างข้อโต้แย้งและคำตอบ 2 (สอง) ตัวอย่างที่ยืนยันเหตุผลของคุณ: ยกตัวอย่างข้อโต้แย้งจากข้อความที่คุณอ่านและข้อที่สองจากประสบการณ์ชีวิตของคุณ

ความยาวของเรียงความหรือเรียงความต้องมีอย่างน้อย 70 คำ หากเรียงความเป็นการเล่าเรื่องหรือเขียนใหม่ทั้งหมดของข้อความต้นฉบับโดยไม่มีความคิดเห็นใด ๆ งานดังกล่าวจะได้รับการจัดอันดับเป็นศูนย์ เขียนเรียงความด้วยลายมือที่ชัดเจนและชัดเจน

ตัวอย่างเรียงความหมายเลข 1 ในหัวข้อ: ปัญหาความทรงจำของมหาสงครามแห่งความรักชาติ

“ สงครามเป็นภัยพิบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่สามารถสร้างความทุกข์ทรมานให้กับมนุษยชาติ มันทำลายศาสนารัฐครอบครัว ความหายนะใด ๆ เป็นที่นิยมสำหรับเธอ "มาร์ตินลูเทอร์นักศาสนศาสตร์คริสเตียนผู้ริเริ่มการปฏิรูปผู้แปลพระคัมภีร์เป็นภาษาเยอรมันกล่าว อันที่จริงสงครามลบล้างทุกสิ่งที่บุคคลได้เข้ามาในชีวิตนี้ ภัยพิบัติใด ๆ ไม่ได้เรียกร้องชีวิตมากมายไม่นำมาซึ่งความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานมากมายสงครามเป็นอย่างไรดังนั้นผู้คนอย่าลืมปีที่เลวร้ายเหล่านี้

ในข้อความของ Boris Lvovich Vasiliev ... ปัญหาเกี่ยวกับความทรงจำเกี่ยวกับมหาสงครามแห่งความรักชาติเพิ่มขึ้น

ผู้เขียนตั้งข้อสังเกตว่าทุกปีในวันที่ 22 มิถุนายนหญิงชราคนหนึ่งมาที่เมืองเบรสต์ เธอไม่มุ่งมั่นเพื่อป้อมปราการเบรสต์ หญิงชราคนหนึ่งเข้าไปในจัตุรัสซึ่งเธออ่านคำจารึกเดียวกันบนแผ่นหินอ่อนและระลึกถึงลูกชายของเธอ

ตัวอย่างที่พิสูจน์ความคิดของฉันคือบทกวีของ Olga Bergolts "ไม่มีใครถูกลืม - ไม่มีอะไรลืม" บรรทัดของบทกวีนี้เต็มไปด้วยความกตัญญูต่อทหารรัสเซียที่ต่อสู้และเสียชีวิตเพื่อปิตุภูมิ Olga Bergolts เรียกร้องให้ผู้คนจดจำว่าเพื่อนร่วมชาติของเราต้องผ่านอะไรมาบ้าง ผู้เขียนกล่าวว่าทุกๆปีทั้งประเทศ“ บูชาขี้เถ้าของผู้ถูกฆ่า” เพื่อเป็นการแสดงความเคารพ

อีกตัวอย่างหนึ่งที่พิสูจน์ประเด็นของฉันคือการปิดล้อมเลนินกราด ในวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2484 เยอรมันโจมตีเลนินกราด ด้วยความได้เปรียบทางตัวเลขและเทคนิคเยอรมันจึงวางแผนที่จะยึดเมืองนี้ในไม่ช้า อย่างไรก็ตามเรื่องนี้คนรัสเซียก็สามารถต้านทานการปิดล้อมได้ พวกเขาไม่เคยยอมยกเมืองให้ศัตรู ในความทรงจำของปีนี้เลนินกราดได้รับรางวัล "Hero City"

ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องระลึกถึงปีที่เลวร้ายของสงครามความรักชาติครั้งยิ่งใหญ่ไม่ลืมว่าประชาชนของเราต้องอดทนกับอะไร

ตัวอย่างเรียงความหมายเลข 2 ในหัวข้อ: ปัญหาความทรงจำของมหาสงครามแห่งความรักชาติ

เวลาผ่านไปกว่า 70 ปีแล้วที่มหาสงครามแห่งความรักชาติครั้งสุดท้ายสิ้นชีพลง แต่คำว่า "สงคราม" ยังคงก้องอยู่กับความเจ็บปวดในหัวใจของมนุษย์ วันที่ 9 พฤษภาคมเป็นวันหยุดอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับทุกคนในประเทศของเรา

ปัญหาเกี่ยวกับความทรงจำของมหาสงครามแห่งความรักชาติฟังอยู่ในข้อความของนักเขียนชาวรัสเซีย B.Vasiliev

การป้องกันป้อมปราการเบรสต์กลายเป็นหนึ่งในหน้าตำนานมากมายของสงครามที่เลวร้ายผู้เขียนเขียนว่า“ ป้อมปราการไม่ล่มสลาย ป้อมปราการแตกหมดแล้ว” กาลเวลาลบใบหน้าของทหารที่ปกป้องป้อมปราการ เราไม่รู้จักชื่อทั้งหมด แต่เรารู้สิ่งหนึ่ง: เลือดหยดสุดท้ายพวกเขาต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์

ปัจจุบันป้อมปราการเบรสต์เป็นพิพิธภัณฑ์ ลูกหลานที่กตัญญูมาที่นี่เพื่อระลึกถึงผู้ที่ยังคงนอนอยู่บนโลกนี้ตลอดไปเพื่อกราบไหว้พวกเขา

ทุกปีในวันที่ 22 มิถุนายนหญิงชราคนหนึ่งมาที่เมืองเบรสต์และวางดอกไม้ลงบนแผ่นหินอ่อนที่มีชื่อของลูกชายของเธอที่ปกป้องสถานีรถไฟเบรสต์อย่างกล้าหาญ หลายทศวรรษผ่านไปตั้งแต่ลูกชายของเธอเสียชีวิต แต่เธอเป็นแม่และในใจของเธอเขาจะอยู่ตลอดไป

แต่ละบรรทัดของข้อความนี้เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจสำหรับทุกคนของเราผู้ซึ่งได้รับชัยชนะเหนือลัทธิฟาสซิสต์ในสงครามโลกครั้งที่สอง ตำแหน่งของผู้เขียนชัดเจน: เราเป็นลูกหลานของทหารในสงครามโลกครั้งที่สองเราจะจดจำความสำเร็จความกล้าหาญและความกล้าหาญของพวกเขาตลอดไป

ฉันจำได้ว่า "The Dawns Here Are Quiet" โดย B.Vasiliev พลยิงต่อต้านอากาศยานหญิง 5 คนถูกสังหารโดยเข้าร่วมการต่อสู้ที่ไม่เท่าเทียมกับฝ่ายยกพลขึ้นบกของเยอรมัน พวกเขาตาย แต่พวกเขาไม่ยอมแพ้ พวกเขามีโอกาสที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะกันนี้ แต่พวกเขาตัดสินใจเลือกพวกเขาตาย แต่ไม่ยอมให้พวกนาซีเข้าใกล้ทางรถไฟ แต่มีเสาโอเบลิสก์ที่เรียบง่ายปรากฏขึ้นที่ขอบป่า หัวหน้าคนงาน Vaskov และลูกชายของ Rita Osyanina มาที่นี่เพื่อรำลึกถึงปีสงครามและเป็นเกียรติแก่ความทรงจำของเหยื่อ

ในนวนิยายเรื่อง "Young Guard" A. Fadeev เล่าถึงคนงานใต้ดินที่ต่อสู้อยู่เบื้องหลังแนวศัตรูกับลัทธิฟาสซิสต์ พวกเขายังเด็กมากและใฝ่ฝันถึงชีวิตที่มีความสุข แต่พวกเขาถูกทรยศและพวกเขาทั้งหมดเสียชีวิต ชื่อของพวกเขาถูกสลักไว้ตลอดไปบนแผ่นหินอ่อนของอนุสรณ์ในเมือง Krasnodon

เวลาเป็นสิ่งที่ไร้ความปรานี ทหารผ่านศึกจากไป เหลืออยู่น้อยมาก จากริมฝีปากของพวกเขาเราเรียนรู้ความจริงเกี่ยวกับสงคราม พวกเราเยาวชนสมัยใหม่รู้สึกขอบคุณทุกคนที่มอบท้องฟ้าที่ไร้เมฆและความสุขในวันที่สงบสุข

สวัสดีเพื่อนรัก ในบทความนี้เราเสนอเรียงความในหัวข้อ ""

จะใช้อาร์กิวเมนต์ต่อไปนี้:
- B. L. Vasiliev "หมายเลขจัดแสดง"
- V. S. Vysotsky "ฝังอยู่ในความทรงจำของเรามานานหลายศตวรรษ ... "

ชีวิตของเราประกอบด้วยช่วงเวลาปัจจุบันแผนการสำหรับอนาคตและความทรงจำในอดีตของสิ่งที่เราประสบมาแล้ว เราคุ้นเคยกับการบันทึกภาพในอดีตเพื่อสัมผัสถึงอารมณ์และความรู้สึกเหล่านั้นนี่คือวิธีที่สติของเราถูกจัดเรียง โดยปกติเราจะจดจำความทรงจำที่สดใสที่สุดสิ่งที่ทำให้เราเกิดประสบการณ์เชิงบวกนอกจากนี้เรายังจำข้อมูลที่เราต้องการ แต่ก็มีช่วงเวลาที่ไม่พึงประสงค์เช่นกันเมื่อความทรงจำปฏิเสธเราหรือในภาพที่สดใสที่สุดที่เราจำสิ่งที่เราอยากจะลืม ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งความทรงจำคือคุณค่าของเราซึ่งจมดิ่งลงไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราได้สัมผัสกับเหตุการณ์ที่เป็นที่รักของเราอีกครั้งและคิดถึงความผิดพลาดที่เราได้ทำเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งที่คล้ายคลึงกันในอนาคต

ในเรื่องราวของ BL Vasiliev "หมายเลขจัดแสดง" ด้ายที่เชื่อมต่อ Anna Fedorovna กับลูกชายของเธอคือความทรงจำของเขา คนที่รักเพียงคนเดียวของผู้หญิงออกจากสงครามโดยสัญญาว่าจะกลับมาซึ่งไม่ได้ถูกกำหนดให้เป็นจริง หลังจากได้รับจดหมายฉบับเดียวจากลูกชายของอิกอร์ผู้หญิงคนต่อไปก็อ่านข่าวการเสียชีวิตของเขา เป็นเวลาสามวันที่แม่ที่ไร้ความสามารถไม่สามารถสงบสติอารมณ์และหยุดร้องไห้ได้ ไว้อาลัยชายหนุ่มและอพาร์ทเมนต์ส่วนกลางทั้งหมดที่เขาอาศัยอยู่กับแม่ของเขาทุกคนที่มากับเขาในการเดินทางครั้งสุดท้ายของเขา อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมางานศพก็มาถึงหลังจากนั้น Anna Fedorovna "หยุดกรีดร้องและร้องไห้ตลอดไป"

หลังจากเปลี่ยนงานหญิงโสดคนนี้แบ่งปันบัตรปันส่วนอาหารและเงินให้กับครอบครัวอพาร์ตเมนต์ 5 ครอบครัวซึ่งกำพร้าพ่อจากสงครามครั้งใหญ่ ทุกเย็น Anna Fyodorovna ทำตามพิธีกรรมที่มีชื่อเสียงของเธอเธออ่านจดหมายที่ได้รับซ้ำ เมื่อเวลาผ่านไปกระดาษจะเสื่อมสภาพและผู้หญิงก็ทำสำเนาและต้นฉบับจะถูกเก็บไว้ในกล่องพร้อมสิ่งของของลูกชายอย่างระมัดระวัง ในวันครบรอบชัยชนะพวกเขาแสดงพงศาวดารทางทหาร Anna Fedorovna ไม่เคยดูเลย แต่ในเย็นวันนี้สายตาของเธอยังคงจ้องมองอยู่บนหน้าจอ หลังจากตัดสินใจว่าแผ่นหลังแบบเด็ก ๆ ที่ฉายแววบนหน้าจอเป็นของอิกอร์เธอจึงไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองจากทีวีเลย ความหวังที่จะได้เห็นลูกชายของเธอพรากสายตาของหญิงชราไป เธอเริ่มที่จะตาบอดและการอ่านจดหมายที่รักนั้นกลายเป็นไปไม่ได้

ในวันเกิดปีที่แปดของเธอ Anna Fedorovna มีความสุขที่รายล้อมไปด้วยผู้คนที่จดจำ Igor อีกไม่นานวันครบรอบชัยชนะครั้งต่อไปจะผ่านไปและผู้บุกเบิกมาหาหญิงชราพวกเขาขอให้แสดงจดหมายรักของเธอ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งเรียกร้องให้ส่งพวกเขาไปที่พิพิธภัณฑ์ของโรงเรียนซึ่งทำให้เกิดความเกลียดชังจากแม่ที่กำพร้าแม่ แต่หลังจากที่เธอขับไล่ผู้บุกเบิกที่กล้าแสดงออกไปแล้วก็ไม่พบจดหมายในจุดนั้น: ใช้ประโยชน์จากวัยที่น่าเคารพและความตาบอดของหญิงชราเด็ก ๆ ก็ขโมยพวกเขาไป พวกเขาเอามันมาจากกล่องและจากวิญญาณของเธอ น้ำตาไหลอาบแก้มของแม่ที่สิ้นหวังอย่างไม่หยุดหย่อนคราวนี้อิกอร์ของเธอเสียชีวิตไปตลอดกาลเธอไม่ได้ยินเสียงของเขาอีกต่อไป Anna Fyodorovna ไม่สามารถรอดชีวิตจากแรงระเบิดนี้ได้น้ำตายังคงค่อยๆไหลลงมาตามแก้มที่เหี่ยวย่นของเธอแม้ว่าร่างกายของเธอจะไร้ชีวิตชีวา และสถานที่ของจดหมายคือลิ้นชักโต๊ะในห้องเก็บของพิพิธภัณฑ์โรงเรียน

ในบทกวีของ Vladimir Vysotsky "ฝังอยู่ในความทรงจำของเรามานานหลายศตวรรษ ... " กวีเปรียบเทียบความทรงจำของคนกับภาชนะดินที่เปราะบางเรียกร้องให้มีทัศนคติที่ระมัดระวังกับอดีต เหตุการณ์วันที่ใบหน้าที่สำคัญสำหรับเราถูกฝังอยู่ในความทรงจำของเรามานานหลายศตวรรษและความพยายามที่จะจดจำไม่ได้ถูกสวมมงกุฎด้วยความสำเร็จเสมอไป

Vladimir Semyonovich ยกตัวอย่างความทรงจำของสงครามความจริงที่ว่าทหารสามารถเข้าใจผิดได้เพียงครั้งเดียว หลังจากความผิดพลาดครั้งร้ายแรงดังกล่าวมีคนลังเลที่จะจำบุคคลนั้นในขณะที่คนอื่นไม่อยากจำเลยด้วยซ้ำ สิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นในชีวิตของเราโดยรวม: มีคนขุดคุ้ยอดีตอยู่ตลอดเวลาและอีกคนไม่ชอบที่จะกลับไปหามัน ปีที่ผ่านมากลายเป็นคลังเก่าของประสบการณ์ความคิดอารมณ์และเศษเสี้ยวของชีวิตในอดีตที่เราไม่ต้องการขุดขึ้นมา มันง่ายมากที่จะหลงทางทั้งหมดนี้และยังง่ายกว่าที่จะทำพลาดอีกด้วย เวลาที่ผ่านมาของเราเป็นเหมือนเขาวงกตเพื่อให้เข้าใจเราต้องการคำแนะนำเพราะ "สายน้ำแห่งปี" ผสมความทรงจำของเราลบมัน

เช่นเดียวกับในสงครามในความทรงจำของเรามี "เหมือง" ซึ่งเป็นความทรงจำที่ไม่พึงประสงค์ที่สุดและการกระทำผิดทุกอย่างที่เราต้องการวางไว้ใน "เงา" ลืมไป วิธีแก้ปัญหานี้คือการป้องกันความผิดพลาดเพื่อให้หลังจากผ่านไประยะหนึ่งพวกเขาไม่สามารถทำ "อันตราย" ได้

สรุปได้ว่าจำเป็นต้องเน้นความสำคัญของความทรงจำในชีวิตของเราซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก เราต้องหวงแหนสิ่งที่เก็บรักษาไว้ในความทรงจำของเรา: ประสบการณ์ของเราช่วงเวลาแห่งความสุขและช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวังทุกสิ่งที่เราเคยประสบ เราไม่ควรทิ้งอดีตเพื่อการลืมเลือนเพราะการสูญเสียมันไปคน ๆ หนึ่งก็สูญเสียส่วนหนึ่งของตัวเองไป

วันนี้เรามาพูดถึง“ ปัญหาความจำ: ข้อโต้แย้งจากวรรณกรรม“. คุณสามารถใช้ตัวเลือกนี้เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบรัฐรวม

ความทรงจำทางประวัติศาสตร์ไม่ใช่แค่อดีต แต่ยังรวมถึงปัจจุบันและอนาคตของมนุษยชาติด้วย หน่วยความจำจะถูกเก็บไว้ในหนังสือ สังคมที่อ้างถึงในงานทำหนังสือหายโดยลืมนึกถึงคุณค่าของมนุษย์ที่สำคัญที่สุด มันกลายเป็นเรื่องง่ายที่จะจัดการคน บุคคลที่ส่งไปยังรัฐโดยสมบูรณ์เพราะหนังสือไม่ได้สอนให้เขาคิดวิเคราะห์วิจารณ์และกบฏ สำหรับคนส่วนใหญ่ประสบการณ์ของคนรุ่นก่อนได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย Guy Montag ผู้ซึ่งตัดสินใจต่อต้านระบบและพยายามอ่านหนังสือกลายเป็นศัตรูของรัฐซึ่งเป็นผู้สมัครคนแรกในการทำลายล้าง ความทรงจำที่เก็บไว้ในหนังสือเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งการสูญเสียนี้ทำให้ทั้งสังคมตกอยู่ในความเสี่ยง

อ. เชคอฟ "นักเรียน"

Ivan Velikopolsky นักศึกษาเซมินารีศาสนศาสตร์เล่าเรื่องผู้หญิงที่ไม่คุ้นเคยในพระวรสาร เป็นเรื่องเกี่ยวกับการที่อัครสาวกเปโตรปฏิเสธพระเยซู ผู้หญิงตอบสนองต่อสิ่งที่นักเรียนบอกโดยไม่คาดคิดนั่นคือน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของพวกเขา ผู้คนร้องไห้ให้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนานก่อนที่พวกเขาจะเกิด Ivan Velikopolsky เข้าใจดีว่าอดีตและปัจจุบันเชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก ความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาถ่ายทอดผู้คนไปสู่ยุคอื่นไปสู่คนอื่นทำให้พวกเขาเห็นอกเห็นใจและเห็นอกเห็นใจพวกเขา

เช่น. พุชกิน "ลูกสาวของกัปตัน"

ไม่ควรพูดถึงความทรงจำในระดับประวัติศาสตร์เสมอไป Pyotr Grinev จำคำพูดของพ่อเกี่ยวกับเกียรติยศ ไม่ว่าในสถานการณ์ใด ๆ ในชีวิตเขากระทำด้วยศักดิ์ศรีด้วยความกล้าหาญอดทนต่อการทดลองของโชคชะตา ความทรงจำของผู้ปกครองหน้าที่ทหารหลักการทางศีลธรรมอันสูง - ทั้งหมดนี้กำหนดไว้ล่วงหน้าของการกระทำของฮีโร่

สงครามเป็นคำที่น่ากลัวและน่ากลัวที่สุดในโลก จากอาการขนลุกการออกเสียงคำหนึ่งของเขาดำเนินไปและมันจะอึดอัด

สงครามเรียกร้องหลายพันชีวิต ทำลายทุกสิ่งรอบตัว พวกเขานำความหิวโหย เมื่ออ่านเกี่ยวกับสงครามที่ผ่านมาเราเข้าใจว่าผู้คนได้ทำเพื่อเรามากเพียงใดผู้ที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อชีวิตและความตาย ไม่มีใครถามพวกเขาว่าพวกเขาต้องการต่อสู้หรือไม่ พวกเขาต้องเผชิญกับความจริงที่ถูกบังคับ และด้วยความเข้มแข็ง - พวกเขาได้รับชัยชนะ

ปัจจุบันมีทหารผ่านศึกเหลืออยู่น้อยมาก ครั้งหนึ่งพวกฉันและฉันโชคดีได้ไปเยี่ยมทหารผ่านศึกคนหนึ่ง เราไปหาเขาเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรของโรงเรียน เขาเป็นคนเดียวในเมืองของเรา

มันเป็นผู้ชาย คุณสามารถพูด - ปู่ เขาทักทายเราอย่างอบอุ่นและยิ้ม ตอนนั้นน้ำตาแทบไหล และเมื่อเขาบอกว่าเขามีเพียงน้องสาวที่อาศัยอยู่ในประเทศอื่นและภรรยาของเขาเสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อนฉันไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองได้ คุณก็รู้ว่ามาตรฐานการครองชีพของคุณปู่คนนี้แย่กว่าพวกเราหลายคน และนี่เป็นสิ่งที่ผิด คนที่ปกป้องปัจจุบันของเราควรอยู่อย่างมีความสุขและไม่ต้องการอะไร และทหารผ่านศึกของเราไม่มีแม้แต่น้ำในบ้านของเขา เขาต้องไปที่บ่อน้ำและเก็บด้วยถัง แล้วลากเข้าบ้าน.

ผู้สูงอายุที่ต้องการความช่วยเหลือ - ไม่มีใครช่วยได้ นี่คือความยุติธรรม?

เขาเล่าเรื่องที่น่าสนใจและน่ากลัวมากมายในเวลาเดียวกัน คุณไม่พบสิ่งนั้นในหนังสือประวัติศาสตร์ กลับมาถึงบ้านเราแต่ละคนประทับใจ เรามาดูสงครามกันที่ผู้คนที่ผ่านมันไป และนี่คือสิ่งที่ฉันต้องการจะพูด เราต้องจดจำและให้เกียรติทุกคนที่ต้องเรียนรู้ว่ามันคืออะไร เราต้องให้ความเคารพพวกเขา เราต้องช่วยเหลือและกล่าวขอบคุณทุกวันที่มีอนาคต ที่เราเห็นท้องฟ้าสีครามเหนือศีรษะไม่ใช่สีดำควัน

ความทรงจำของการกระทำที่สำเร็จควรมีชีวิตอยู่เสมอ ผู้คนจำเป็นต้องพกติดตัวไปหลายชั่วอายุคนโดยไม่พลาดอะไรเลย ท้ายที่สุดแล้วทุกคำพูดทุกการกระทำล้วนมีความสำคัญอย่างไม่น่าเชื่อ ความกล้าหาญของพวกเขาควรค่าแก่การลงโทษ สถานที่แห่งความทรงจำต้องไม่ลืม!

เราต้องระลึกถึงวีรบุรุษทุกคนที่ช่วยเรา ประเทศของเรา. ชีวิตของเรา.

องค์ประกอบ 2

ใครในหมู่คนไม่สะดุ้งเมื่อได้ยินคำว่า "สงคราม"? ไม่ใช่เพื่ออะไรที่คุณยายของฉันยอมทุกอย่าง - ถ้าไม่มีสงครามซึ่งเธอได้เรียนรู้มากมายจากเรื่องราวของยายของเธอ สงครามใด ๆ แม้แต่สงครามสมัยใหม่ที่มีการนัดหยุดงานที่ "ระบุ" คือความทุกข์ทรมานเลือดและความตาย เราจะพูดอะไรได้บ้างเกี่ยวกับความเจ็บปวดและความสุขที่เลวร้ายที่สุดของเรา - มหาสงครามแห่งความรักชาติ ชัยชนะทำให้เกิดความสุขอย่างแน่นอน แต่ก็ยังจำเป็นที่จะต้องมีชีวิตอยู่เพื่อดูมันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง หยาดเหงื่อเลือดความตายและความหวังคือแก่นแท้ของสงคราม

ทวดของฉันเดินไปข้างหน้าพร้อมกับกองกำลังทหารมอสโกและหายไปใกล้เมือง Vyazma อย่างที่ฉันเพิ่งค้นพบว่าเขามี "ชุดเกราะ" - นี่คือชื่อของผู้เลื่อนจากการรับราชการทหาร Yakov Yemelyanovich เป็นคนทำขนมปังมืออาชีพและเป็นที่ต้องการของกองหลัง แต่เขาถอด "การจอง" นี้และไปที่ด้านหน้า กองทหารติดอาวุธที่ไม่ดีและไร้ประสิทธิภาพเสียชีวิต แต่กักขังชาวเยอรมันได้รีบไปมอสโคว์ ด้วยต้นทุนชีวิตของพวกเขาและความทุกข์ทรมานหลายปีของญาติของพวกเขา Anna Ivanovna ภรรยาของเขารอเขามายี่สิบห้าปีแล้ว เธอหวังว่าเขาจะไม่ถูกฆ่า แต่ถูกจองจำหรืออยู่ในบ้านที่ไม่ถูกต้อง ฉันหวังรอและเลี้ยงลูกห้าคน ฉันรอและมีความหวัง

เราควรคำนับผู้คนที่คิดค้นและจัดการปฏิบัติการ "กองทหารอมตะ" นี่เป็นความทรงจำที่แท้จริงของสงครามไม่ใช่การเลียนแบบโฆษณาชวนเชื่อที่รุนแรงเกินไป เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมฉันพร้อมทั้งครอบครัวและรูปเหมือนของคุณทวดของฉันได้เข้าร่วมในขบวนส่วนเล็ก ๆ ของ "กองทหาร" นี้ในวันที่ 9 พฤษภาคม ฉันเห็นความโศกเศร้าอย่างจริงใจและความสนใจของผู้คนที่ถือภาพของญาติแถวหน้าของพวกเขา พวกเขาจำได้ พวกเขาจำความสำเร็จความเสียใจและในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจสำหรับพวกเขา - ผู้ปกป้องปิตุภูมิของพวกเขา ตราบเท่าที่ความคิดและการปฏิบัติของขบวนการนิยมนี้ยังมีชีวิตอยู่ความทรงจำของสงครามก็จะยังมีชีวิตอยู่

การโทรมักจะทำเพื่อหยุดกวนอดีตและคิดถึง แต่ปัจจุบัน พวกเขาบอกว่าในไม่ช้าจะไม่มีใครเหลืออยู่แม้แต่คนที่เกิดในช่วงสงครามไม่ใช่แค่คนที่ผ่านมันมา แต่ความทรงจำเกี่ยวกับสงครามก็จำเป็นเช่นกันเพราะคนตายไม่ต้องการมันคนมีชีวิตก็ต้องการมัน ใครบางคนไม่สามารถพยายามที่จะตระหนักถึงความคิดที่บ้าคลั่งของพวกเขาได้อีกครั้งทำให้เกิดสงครามระดับโลก

ความทรงจำของสงคราม (ตัวเลือก 3)

เหตุการณ์ใด ๆ จะถูกเก็บรักษาไว้ในความทรงจำของคนจำนวนมากทิ้งร่องรอยไว้ในนั้นซึ่งประกอบด้วยภาพโครงร่างโดยประมาณและแน่นอนความรู้สึกที่บุคคลประสบในเหตุการณ์นั้น ความทรงจำของเหตุการณ์นี้สามารถส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นหรืออาจเป็นเพียงข้อมูลที่ถูกลืมและไร้ประโยชน์ แต่สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเสมอไปตัวอย่างเช่นมันเกิดขึ้นกับความทรงจำที่ไม่ดีและน่าเสียดายที่ความทรงจำที่ไม่ดีจะถูกจดจำ ดีกว่าสิ่งใด ๆ

สงครามใด ๆ เป็นตัวอย่าง สงครามในตัวเองเป็นเหตุการณ์เลวร้ายที่นำไปสู่ห่วงโซ่แห่งความตายความหายนะและความเศร้าโศกครั้งใหญ่ สงครามเป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนให้เห็นตลอดไปในจิตใจของคนหลายรุ่นเนื่องจากความทรงจำของสงครามยังมีข้อความชี้นำ ท้ายที่สุดถ้าคนจำได้เกี่ยวกับสงครามจำได้ว่ามันทำให้เกิดความสยดสยองในดินแดนที่สงบสุขจากนั้นเขาจะพยายามไม่ยอมให้มีสงครามอีกและจะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้มีสงครามอีกต่อไปนี่คือข้อดีของความทรงจำ ของเหตุการณ์ที่เลวร้าย - พวกเขาบังคับให้จำสิ่งที่อยู่ในกรณีที่ไม่สามารถทำซ้ำได้

สงครามยังส่งผลกระทบต่อสิ่งอื่น ๆ อีกมากมายไม่ใช่แค่ประชาชนเท่านั้น สงครามเป็นกระบวนการที่เต็มไปด้วยความสยองขวัญซึ่งเป็นกระบวนการที่จะทิ้งร่องรอยไว้บนดินแดนที่น่าเสียดายที่มีการนองเลือดไปตลอดกาล บนดินแดนแห่งนี้จะยังคงเป็นอนุสรณ์สถานแห่งสงครามตลอดไปหลุมฝังศพจำนวนมากหลุมอุกกาบาตจากระเบิดแผ่นดินที่ฉีกขาดจากการระเบิด ไม่มีสิ่งใดสามารถลบล้างเหตุการณ์นี้ไปจากประวัติศาสตร์ได้ แต่สิ่งนี้ก็ไม่เลวเพราะคนรุ่นต่อไปจะจดจำสิ่งนี้จดจำความสำเร็จที่พวกเขาแสดงต่อหน้าพวกเขาสิ่งนี้จะกระตุ้นให้พวกเขาก้าวต่อไปสร้างโลกที่ไม่มีสงครามและความเจ็บปวดอีกต่อไปที่ที่ไม่มีความโหดร้ายและ ที่ที่ไม่มีการนองเลือดพวกเขาจะสร้างโลกที่ดีขึ้นโดยระลึกถึงความเลวร้ายในสมัยก่อน

สรุปได้ว่าหน่วยความจำใดมีความสำคัญ การจดจำเหตุการณ์ใด ๆ ที่ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งทิ้งร่องรอยไว้ในประวัติศาสตร์นั้นมีคุณค่ามาก แต่ความทรงจำที่มีค่าที่สุดในวัฒนธรรมโลกจะเป็นความทรงจำเกี่ยวกับสงคราม เพราะสงครามเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดที่มนุษย์เคยคิด ความทรงจำเกี่ยวกับความน่าสะพรึงกลัวเหล่านั้นซึ่งเราต้องพยายามไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก ดังนั้นคนรุ่นต่อไปจะจดจำผู้ที่มีโอกาสเข้าร่วมในสงครามผู้ที่ได้เรียนรู้ถึงความน่าสะพรึงกลัวและสิ่งน่ารังเกียจทั้งหมดที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้นโดยไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นช่วงเวลาที่เลวร้าย

ภาพและลักษณะของ Kazbich ในนวนิยาย Hero of our time โดยองค์ประกอบของ Lermontov

Kazbich เป็นโจรนักขี่ม้า เขาไม่กลัวสิ่งใดและเช่นเดียวกับคนผิวขาวคนอื่น ๆ เขารักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของเขา

  • การวิเคราะห์การทำงานของความทุกข์ของหนุ่มเวอร์เธอร์เกอเธ่

    นวนิยายเรื่อง The Suffering of Young Werther ได้กลายเป็นผลงานที่โดดเด่นที่สุดเรื่องหนึ่งในวรรณคดีเยอรมัน ในงานชิ้นนี้โยฮันน์โวล์ฟกังฟอนเกอเธ่วัยยี่สิบห้าปีเล่าถึงความรักที่โชคร้ายของชายหนุ่ม Werther ที่มีต่อหญิงสาว Charlotte

  • ในบทกวีอัตชีวประวัติของเขาผู้เขียนนึกถึงอดีตที่ในระหว่างการรวมกลุ่มกันพ่อของเขาถูกกดขี่เหมือนกำปั้นชาวนาที่ทำงานตั้งแต่เช้าจรดค่ำด้วยมือของเขาที่เขาไม่สามารถช่วยอะไรได้นอกจากการงอตัวและกำหมัดแน่น " .. ไม่มีข้าวโพดแยก - แข็ง ... กำปั้นทุบดิน!” ความเจ็บปวดจากความอยุติธรรมถูกเก็บไว้ในใจของผู้เขียนมานานหลายทศวรรษ เขาถูกตราหน้าว่าเป็นบุตรชายของ "ศัตรูของประชาชน" และทุกสิ่งล้วนมาจากความปรารถนาของ "บิดาแห่งประชาชาติ" ที่จะทำให้เขาคุกเข่าลงเพื่อปราบประชากรทั้งหมดในประเทศข้ามชาติตามความประสงค์ของเขา ผู้เขียนเขียนเกี่ยวกับลักษณะเฉพาะที่น่าทึ่งของสตาลินในการโอนไปยังบัญชีของใครบางคน "การคำนวณผิด ๆ ของเขา" ไปยัง "การบิดเบือนของศัตรู" ของใครบางคนไปจนถึง "ความมึนงงจากชัยชนะที่คาดการณ์ไว้" ของใครบางคน ในที่นี้กวีอ้างถึงบทความของหัวหน้าพรรคซึ่งเรียกว่า "อาการวิงเวียนศีรษะจากความสำเร็จ"

    หน่วยความจำเก็บเหตุการณ์เหล่านี้ไว้ในชีวิตของทั้งบุคคลและทั้งประเทศ A. Tvardovsky พูดถึงเรื่องนี้ด้วยสิทธิแห่งความทรงจำโดยสิทธิของบุคคลที่รอดชีวิตจากความสยดสยองของการปราบปรามร่วมกับผู้คนของเขา

    2. วี. เอฟ. Tendryakov "ขนมปังสำหรับสุนัข"

    ตัวละครหลักเป็นนักเรียนมัธยมปลาย แต่เขาไม่ใช่พลเมืองโซเวียตธรรมดาพ่อของเขาเป็นคนงานที่มีความรับผิดชอบครอบครัวมีทุกอย่างแม้ในช่วงเวลาที่หิวโหยทั่วไปเมื่อผู้คนไม่มีอะไรกินเมื่อผู้คนกำลังจะตายด้วยความเหนื่อยล้าเป็นล้าน ๆ คนก็มี Borscht ในบ้านของพวกเขาแม้จะมีเนื้อสัตว์พายที่มีไส้อร่อย kvass ของจริงขนมปังเนยนม - ทุกสิ่งที่ผู้คนถูกกีดกัน เด็กชายเมื่อเห็นความหิวโหยของผู้คนรอบข้างและโดยเฉพาะ "ช้าง" และ "ขี้เหล็ก" ที่ตายในจัตุรัสสถานีก็รู้สึกสำนึกผิด เขากำลังมองหาวิธีที่จะแบ่งปันกับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือโดยพยายามนำขนมปังและอาหารที่เหลือไปให้กับขอทานที่ได้รับเลือก แต่ผู้คนเมื่อได้เรียนรู้เกี่ยวกับเด็กชายผู้มีเมตตาแล้วก็เอาชนะเขาด้วยการขอทานของพวกเขา ด้วยเหตุนี้เขาจึงเลือกสุนัขที่ได้รับบาดเจ็บซึ่งเห็นได้ชัดว่าผู้คนหวาดกลัวและอยากจะกินมันในบางครั้ง และความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเขาค่อยๆตายลง ไม่ไม่จริง แต่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต หัวหน้าสถานีซึ่งผู้ด้อยโอกาสเหล่านี้อาศัยอยู่ทนไม่ไหวและยิงตัวตาย หลายปีต่อมา V.Tendryakov พูดถึงสิ่งที่ยังคงตามหลอกหลอน

    3. A. Akhmatova "บังสุกุล"

    บทกวีทั้งหมดเป็นความทรงจำเกี่ยวกับปีแห่งการปราบปรามอันเลวร้ายเมื่อผู้คนนับล้านยืนเรียงแถวกันเพื่อรอผู้คนนับล้านที่อยู่ในคุกใต้ดินของ NKVD อ. Akhmatova ต้องการที่จะจดจำเหตุการณ์ที่เลวร้ายนี้ในประวัติศาสตร์ของประเทศอย่างแท้จริงไม่มีใครควรลืมแม้กระทั่ง "... ถ้าปากที่อ่อนล้าของฉันถูกหนีบ" กวีเขียน "ซึ่งผู้คนกว่าร้อยล้านคนกำลังตะโกน" หน่วยความจำจะยังคงอยู่

    4. V. Bykov "Sotnikov"

    ความทรงจำในวัยเด็กมีบทบาทสำคัญมากในชะตากรรมของตัวละครหลักของเรื่อง ชาวประมงเคยช่วยม้าน้องสาวแฟนของเธอหญ้าแห้ง เมื่อตอนเป็นเด็กเขาแสดงความกล้าหาญความกล้าหาญและสามารถออกจากสถานการณ์ได้อย่างสมเกียรติ ความจริงเรื่องนี้เล่นตลกกับเขา เมื่อถูกพวกนาซีจับได้เขาหวังว่าเขาจะสามารถดิ้นออกจากสถานการณ์ที่เลวร้ายและช่วยชีวิตเขาได้โดยให้การปลดตำแหน่งและอาวุธของมัน วันรุ่งขึ้นหลังจากการประหาร Sotnikov เขาตระหนักว่าไม่มีทางกลับมา Sotnikov ในวัยเด็กของเขาประสบกับสถานการณ์ที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง เขาโกหกพ่อของเขา คำโกหกไม่ได้ร้ายแรง แต่ความขี้ขลาดที่เขาพูดทั้งหมดนี้ทิ้งรอยประทับฝังลึกในความทรงจำของเด็กชาย ตลอดชีวิตของเขาเขาจดจำความรู้สึกผิดชอบชั่วดีความทุกข์ทรมานที่ทำให้จิตวิญญาณแตกสลาย เขาไม่ได้ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของสหายของเขาเขาใช้ระเบิดตัวเองเพื่อช่วยผู้อื่น ทนต่อการทรมานขึ้นนั่งร้านและตายอย่างสมศักดิ์ศรี ความทรงจำในวัยเด็กจึงนำเหล่าฮีโร่ไปสู่ตอนจบในชีวิตของพวกเขา: หนึ่งไปสู่การกระทำที่กล้าหาญอีกคนหนึ่งคือการทรยศ

    5. วี. รัสปูติน "บทเรียนภาษาฝรั่งเศส"

    หลายทศวรรษต่อมาผู้เขียนนึกถึงครูผู้มีบทบาทชี้ขาดในชีวิตที่ยากลำบากของเขา Lydia Mikhailovna ครูสาวที่ต้องการช่วยเหลือนักเรียนอัจฉริยะในชั้นเรียนของเธอ เธอเห็นว่าความปรารถนาในการเรียนรู้ของเด็กถูกทำลายโดยความใจแข็งของผู้คนที่เขาถูกบังคับให้มีชีวิตอยู่ เธอลองใช้ทางเลือกต่างๆเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่มีเพียงทางเดียวเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จคือการพนัน เขาต้องการเงินเหล่านี้เพื่อซื้อนม ผู้อำนวยการจับครูเพื่อก่ออาชญากรรมเธอถูกไล่ออก แต่เด็กชายยังอยู่ในโรงเรียนเรียนจบและกลายเป็นนักเขียนเขียนหนังสืออุทิศให้ครู


    หน่วยความจำเป็นทรัพย์สินที่จำเป็นสำหรับชีวิตมนุษย์ซึ่งให้มาตั้งแต่แรกเกิด หากไม่มีเราก็ไม่สามารถดำรงอยู่ได้เพราะต้องขอบคุณความรู้ที่เราเก็บรักษาไว้เราสามารถเรียนรู้บทเรียนหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด แต่ความทรงจำมีบทบาทอย่างไรในชีวิตของแต่ละคน? คำถามนี้เกิดขึ้นโดยผู้เขียนข้อความ BL Vasiliev

    ผู้เขียนเปิดเผยปัญหาที่แตกต่างกันมากมาย แต่หนึ่งในปัญหาหลักในความคิดของฉันคือปัญหาเรื่องความจำ

    ปัญหานี้มีความเกี่ยวข้องเนื่องจากผู้คนมักจะทำผิดพลาดและการจดจำจะช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ในอนาคต ดังนั้นการสั่งสมประสบการณ์บุคคลจึงส่งต่อไปยังคนรุ่นหลัง ความรู้นี้มีค่ามากดังนั้นเราต้องจัดเก็บและส่งต่อสัมภาระล้ำค่านี้อย่างระมัดระวัง

    BL Vasiliev เชื่อว่าจำเป็นต้องรักษาอนุสรณ์สถานขนบธรรมเนียมประเพณีเพราะประวัติศาสตร์ของเราถูกวางไว้ในนั้น ทั้งหมดนี้จะต้องได้รับการอนุรักษ์ไว้สำหรับผู้คนในอนาคตสำหรับผู้หญิงที่“ ทุกปีในวันที่ 22 มิถุนายนโดยรถไฟเร็วที่สุดมาถึงเบรสต์” และ“ ยืนเงียบ ๆ ใกล้กระดานหินอ่อน”

    ดังนั้นหน่วยความจำจึงมีบทบาทสำคัญ

    ตัวอย่างเช่นในงานของ V. V. Bykov "Sotnikov" ตัวละครหลักตอนเป็นเด็กโกหกพ่อของเขาหลังจากนั้นความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเขาทำให้เขาทรมาน การโกหกครั้งนี้ทิ้งรอยลึกไว้ในความทรงจำของเด็กและ Sotnikov สัญญากับตัวเองว่าจะกระทำตามความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเขาเท่านั้น ความเจ็บปวดของจิตวิญญาณนั้นไม่ได้ถูกลืมโดยพระเอกจนถึงที่สุดซึ่งมีส่วนในการทำตามเส้นทางแห่งความรับผิดชอบทางศีลธรรมตามเส้นทางของฮีโร่

    และในผลงานของ BL Vasiliev หมายเลขจัดแสดงความทรงจำเกี่ยวกับลูกชายของเธอเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เชื่อมโยงระหว่าง Anna Fedotovna และคนที่เธอรักและฝังอยู่ในตัวอักษรจากด้านหน้า ความทรงจำนี้มีความสำคัญสำหรับนางเอกและเมื่อจดหมายของเธอถูกขโมยไปด้ายที่รวมลูกชายและแม่ของเธอก็ถูกฉีกขาดซึ่งทำให้ Anna Fedotovna ต้องตายทั้งกายและใจ

    ดังนั้นความทรงจำจึงมีบทบาทสำคัญในชีวิตของบุคคลเราจึงควรปกป้องมันปกป้องประวัติศาสตร์ของเรา

    © 2021 skudelnica.ru - ความรักการทรยศจิตวิทยาการหย่าร้างความรู้สึกการทะเลาะวิวาท