1. การ์ตูนควรจะเริ่มต้นด้วยฉากกับแม่ของสโนว์ไวท์ แต่ความคิดนี้ต้องละทิ้งเพื่อหลีกเลี่ยงความโกรธแค้นจากการเซ็นเซอร์
2. ในระหว่างการเผยแพร่การ์ตูนบนหน้าจอในปี 2480 คำพหูพจน์ภาษาอังกฤษ dwarf (dwarf) ถูกเขียนขึ้นเช่นเดียวกับในเครดิต - dwarfs หลังจากการเปิดตัว The Lord of the Rings ของโทลคีน การเขียนคนแคระก็กลายเป็นเรื่องธรรมดา

3. ในการผลิตการ์ตูนมีอนิเมเตอร์ 32 คนผู้ช่วยแอนิเมชั่น 102 คน 167 คน "ในปีก" ศิลปิน 25 คนที่วาดพื้นหลังด้วยสีน้ำเข้ามามีส่วนร่วม แอนิเมเตอร์เอฟเฟกต์ 65 แบบ, ศิลปินหญิง 158 คนที่วาดภาพกรอบด้วยหมึกและสี มีการสร้างภาพประกอบประมาณ 2 ล้านภาพโดยใช้เฉดสีประมาณหนึ่งและครึ่งพันเฉด
4. Dancer Marge Champion กลายเป็นต้นแบบของ Snow White ระหว่างการถ่ายทำ เธอได้พบกับแอนิเมชั่น Art Babbitt แต่งงานกับเขา แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ฟ้องหย่า

ต่อจากนั้น วัสดุบางส่วนถูกนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อใช้ใน "โรบิน ฮูด"

5. สำหรับการ์ตูนมีการเขียนเพลง 25 เพลงและมีเพียง 8 เพลงเท่านั้นที่รวมอยู่ในเวอร์ชันสุดท้าย
6. แนวคิดในการสร้าง "สโนวไวท์" มาจากวอลท์ ดิสนีย์ ตอนอายุ 15 ปี เมื่อเขาทำงานเป็นผู้ขายหนังสือพิมพ์ในแคนซัสซิตี้ เขาเห็นการนำเสนอภาพยนตร์เงียบที่มีมาร์กาเร็ต คลาร์ก และเข้าร่วมรอบปฐมทัศน์ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2460 ภาพยนตร์เรื่อง "Snow White" แสดงบนหน้าจอ 4 ด้านพร้อมไฟสปอร์ตไลท์ 4 ดวง ดังนั้น Walt จึงดูสองหน้าจอพร้อมกันและชื่นชมการประสานกันของการเคลื่อนไหว สิ่งที่เขาเห็นทำให้วอลต์ประทับใจมากจนไม่ต้องสงสัยเลยว่าการ์ตูนเรื่องไหนจะสร้างเรื่องเต็มเรื่องเป็นเรื่องแรก
7. เพื่อให้สโนว์ไวท์ดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น ช่างแต่งหน้าจึงใช้บลัชออนปัดแก้มของเธอเอง เมื่อวอลท์ ดิสนีย์ ถามว่าจะใช้เทคนิคนี้ในทุกช็อตหรือไม่ หนึ่งในนั้นตอบว่า "คุณคิดว่าผู้หญิงจะทำอะไรทั้งชีวิต"


8. ต้นแบบของ Evil Queen คือนักแสดงหญิง Gail Sondergaard

9. อนิเมเตอร์แจ้ง Lucille La Verne ผู้ให้เสียง Evil Queen ว่าเสียงของแม่มดควรแก่กว่าและแหบแห้ง ดังนั้นพวกเขาจะมองหาคู่แข่งรายอื่นสำหรับบทบาทนี้ จากนั้น Lucille ออกจากห้องบันทึกเสียง กลับมาที่นั่นอีกสองสามนาทีต่อมาและให้เสียงที่น่าเชื่อถือของแม่มด อนิเมชั่นที่ตกใจถามว่าเธอทำได้อย่างไรซึ่งนักแสดงหญิงตอบว่า "โอ้ ฉันเพิ่งถอนฟัน"


10. ในเรื่อง Brothers Grimm ดั้งเดิม Evil Queen เสียชีวิตเมื่อเธอต้องเต้นรำในรองเท้าโลหะร้อน (เรื่องโหดร้ายสำหรับเด็กที่โหดร้าย)


11. ในเรื่องดั้งเดิม พวกโนมส์ไม่มีชื่อ


12. อนิเมเตอร์สร้างชื่อให้กับพวกโนมได้ประมาณ 50 ชื่อ เช่น Terrible, Big, Chatterbox, Dirty, Talker, Zadokhlik, Gloomy, Jumping Horse, Screamer, Careless, Dodger, Tricky เป็นต้น Zadohlik ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Chihun ในนาทีสุดท้าย เฉื่อยชาเป็นคนแคระคนสุดท้ายที่ได้รับการตั้งชื่อ
13. เพื่อกระตุ้นการทำงานของอนิเมเตอร์ วอลท์ ดิสนีย์ ได้แนะนำนโยบาย "Five Dollars a Joke" อันโด่งดังของเขาในสตูดิโอ ตัวอย่างที่เด่นชัดของประสิทธิผลของมาตรการดังกล่าวคือแนวคิดของวอร์ด คิมบัลล์ ผู้เสนอให้แสดงจมูกของพวกโนมส์ ทีละส่วนยื่นออกมาจากหัวเตียง


14. คนเซื่องซึมน่าจะพูดได้ แต่ไม่มีเสียงที่เหมาะสม หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันคือ Mel Blank ซึ่งพากย์เสียง Bugs Bunny และตัวละคร Looney Tunes คนอื่นๆ ในขณะนั้น
15. Sonya และ Grumpy ให้เสียงโดย Pinto Colvig ผู้ให้เสียงพากย์ Goofy

16. อนิเมเตอร์บางคนคัดค้านชื่อ Dopey สำหรับคำพังเพย โดยอ้างว่าคำว่า dopey นั้นทันสมัยเกินกว่าจะใช้ในนิทานอมตะ วอลท์ ดิสนีย์ ค้าน โดยบอกว่าวิลเลียม เชคสเปียร์ใช้คำนี้ในละครของเขาเรื่องหนึ่ง ทุกคนพอใจกับคำตอบ แม้ว่าในความเป็นจริง คำว่า "เฉื่อยชา" ไม่เคยปรากฏในผลงานของเช็คสเปียร์เลย
17. เมื่อนักแสดงตลก Billy Gilbert พบว่ามีโนมส์ตัวหนึ่งชื่อ Chihun เขาจึงเรียก Walt Disney ให้เขาดูตลกจามอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา และได้รับบทบาททันที

18. ในฉากที่สโนว์ไวท์ส่งคนแคระไปล้างมือก่อนรับประทานอาหาร แฟรงก์ โธมัส นักสร้างการ์ตูนแอนิเมชัน วาดภาพว่าคนเกียจคร้านพยายามตามคนอื่นๆ ด้วยท่าทีอึดอัด วอลท์ ดิสนีย์ชอบคุณลักษณะที่โดดเด่นของคำพังเพยผู้เคราะห์ร้ายนี้มากจนเขาสั่งให้ใช้เทคนิคนี้ในทุกฉากด้วยการมีส่วนร่วมของเขา อนิเมเตอร์ที่เหลือ "ขอบคุณ" แฟรงค์อย่างอบอุ่นสำหรับงานพิเศษ


19. มีฉากที่เจ้าชายเขียนอยู่ในสคริปต์มากกว่านี้ แต่ความซับซ้อนของแอนิเมชั่นของเขาทำให้ผู้สร้างต้องลดเวลาในการแสดงของเขาให้มากที่สุด
20. เมื่อการ์ตูนพร้อม ปรากฏว่าในฉากสุดท้าย เจ้าชายกระตุกเนื่องจากวางเฟรมผิด งบประมาณไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีกต่อไป ดังนั้น Roy Disney พี่ชายและหุ้นส่วนธุรกิจของ Walt Disney จึงแนะนำให้ปล่อยไว้อย่างที่เป็น ข้อผิดพลาดได้รับการแก้ไขเฉพาะในปี 1993 ระหว่างการคืนค่าการ์ตูนแบบดิจิทัล
21. ฉากที่ถูกลบ:
1). ราชินีแห่งความชั่วร้ายจับเจ้าชายไว้เป็นเชลยและทำให้โครงกระดูกเต้นไปรอบ ๆ ตัวเขาเพื่อความสนุกสนาน
2). ระหว่างเพลง Some Day My Prince Will Come สโนว์ไวท์ต้องจินตนาการว่าเธอและเจ้าชายกำลังเต้นรำอยู่ในเมฆใต้ทะเลแห่งดวงดาวอย่างไร
3). คนแคระและชาวป่าสร้างโลงศพให้สโนว์ไวท์
4). ในระหว่างการฟอกล้างคนแคระก่อนอาหารค่ำ คนเฉื่อยชากลืนสบู่ก้อนหนึ่ง ในเวอร์ชั่นสุดท้ายของการ์ตูน มันไม่ได้แสดงให้เห็นว่าพวกโนมส์เอามันออกมาจากที่นั่นได้อย่างไร ฉากนี้ใช้ดินสอเขียนเพลงคนแคระ The Music In Your Soup ที่ดิสนีย์แลนด์ในภายหลัง
5). คนแคระควรจะร้องเพลง You "re Never Too Old To Be Young"

6). คนแคระทะเลาะกันในห้องนอนเรื่องสโนว์ไวท์

7). กินซุปและร้องเพลงในซุปของคุณ

แปด). เวอร์ชั่นดั้งเดิมของการประชุมระหว่าง Snow White และ Prince

22. อนิเมเตอร์ Wolfgang Reiterman สามารถทำให้ Slave ใน Magic Mirror เคลื่อนไหวได้สำเร็จในการพยายามครั้งที่เก้า เขาต้องพับครึ่งแผ่น วาดส่วนหนึ่งของใบหน้า จากนั้นพลิกแผ่นไปด้านหลัง ทาสีส่วนที่เหลือให้เสร็จ เขาตกใจมากเพียงใดเมื่อความอุตสาหะอันอุตสาหะของเขาถูกซ่อนอยู่ใต้ไฟ ควัน และกระจกที่บิดเบี้ยวระหว่างการถ่ายทำ
23. สมมติว่า "สโนว์ไวท์" จะล้มเหลวในบ็อกซ์ออฟฟิศตัวแทนของวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรียกการ์ตูนว่า "ความผิดพลาดของ Walt Disney"
24. สโนว์ไวท์ครองตำแหน่งภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์เป็นเวลาประมาณหนึ่งปีจนกระทั่งถูกแทนที่ด้วย Gone With the Wind
25. หลังจากรอบปฐมทัศน์ของการ์ตูนที่ New York Music Hall ปรากฎว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนเบาะบนเก้าอี้ส่วนใหญ่เนื่องจากเด็กหลายคนตกใจกับฉากของ Snow White ที่หลงทางในป่าหลงเสน่ห์และการเปลี่ยนแปลง ของนางมารร้ายกลายเป็นแม่มด


26. Sergei Eisenstein เรียกว่า "Snow White" "ภาพยนตร์ที่ดีที่สุดในโลก" ศิลปินชาวดัตช์ Pete Mondrian ยอมรับว่านี่เป็นภาพยนตร์เรื่องโปรดของเขา
27. กระดานเรื่องราวสำหรับภาคต่อของการ์ตูนเรื่อง "The Return of Snow White" ถูกค้นพบในร้านของ Disney Company พิจารณาจากจำนวนภาพร่าง การ์ตูนควรจะสั้น รวมถึงฉากคัทซีนของพวกโนมที่กินซุปและทำเตียงให้สโนว์ไวท์ ที่วอร์ด คิมบอลล์ประดิษฐ์ขึ้น ใครจะเดาได้ว่าทำไม Walt Disney ถึงเลิกคิดที่จะสร้างภาคสอง
28. การ์ตูนได้รับรางวัลออสการ์พิเศษ - รูปปั้นขนาดใหญ่และรูปปั้นขนาดเล็กเจ็ดชิ้น

พวกเขาอยู่กับเราตลอดวัยเด็กและช่วยให้เราเชื่อในปาฏิหาริย์และความรักแม้เมื่อเราเป็นผู้ใหญ่ คุณจำชื่อพวกโนมส์จากเทพนิยายที่สวยงาม "สโนว์ไวท์" ได้ไหม? มาจดจำไปด้วยกัน

พวกโนมส์คือใคร?

โนมส์สามารถพบได้ในหน้า Volclair ของสแกนดิเนเวียและเยอรมัน มีรูปร่างคล้ายคนตัวเล็กและมีเครา อาชีพของสิ่งมีชีวิตที่ยอดเยี่ยมนั้นเกี่ยวข้องกับการสกัดเพชรและเครื่องประดับที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน พวกโนมส์ไม่ชอบคนมากนัก แต่ตามกฎแล้วพวกเขาก็ไม่ทำชั่วเช่นกัน

สิ่งมีชีวิตที่ยอดเยี่ยมมีชื่ออย่างไร

ชื่อของพวกโนมส์สำหรับ "สโนว์ไวท์" ถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยคนที่ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่เป็นหนี้บุญคุณในวัยเด็กที่เหลือเชื่อคือวอลท์ดิสนีย์ ในต้นฉบับโดยพี่น้องกริมม์ สิ่งมีชีวิตในเทพนิยายที่น่ารักเหล่านี้ไม่มีชื่อ นอกจากนี้ยังมีข้อแตกต่างอื่นๆ อีกหลายประการ ตัวอย่างเช่น ในต้นฉบับ ราชินีสิ้นพระชนม์หลังจากเต้นรำในรองเท้าสุดฮอต แต่พล็อตดังกล่าวไม่เหมาะสำหรับผู้ดูตัวเล็ก ๆ จึงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย นี่คือชื่อคนแคระที่ชื่นชอบจาก Snow White:

1. เจ้าเลห์. นี่คือพวกโนมส์ที่เก่าแก่ที่สุดและตามที่คาดไว้ สำคัญที่สุด มีแว่นเพื่อความแข็งแรง รู้ทุกอย่างและทุกสิ่ง จริงอยู่ เขาตะกุกตะกักระหว่างการสนทนา
2. เสียงฮึดฮัด คนแคระคนนี้มักไม่พอใจทุกคน ทุกที่ที่เขาสงสัยว่าจับได้ สิ่งมีชีวิตที่น่าอัศจรรย์เพียงตัวเดียวที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อเจ้าหญิงสโนว์ไวท์
3. เวเซลชัก. คำพังเพยที่รักนี้เป็นจิตวิญญาณของ บริษัท ใด ๆ ที่มีรอยยิ้มที่ติดเชื้อ หวานและใจดี
4. ซอนย่า คำพังเพยนี้ต้องการนอนตลอดเวลาและทุกที่ เขาหาวอย่างต่อเนื่องและถูกยับยั้งเล็กน้อย
5. เจียมเนื้อเจียมตัว - นี่คือแบบอย่างของความเขินอาย ในกรณีนี้ คำพังเพยมักจะหน้าแดงอยู่เสมอ
6. ชีฮุน. คำพังเพยเห็นได้ชัดว่าเป็นโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะกับกลิ่นของดอกไม้ เขาจามแรงมากจนเมื่อสัญญาณแรก พวกโนมส์วิ่งไปหยุดเขา และในตอนหนึ่งพวกเขาก็ผูกเคราของเขาเป็นปม
7. Vyalenkiy หรือ Prostachok น้องคนสุดท้องของโนมส์ทั้งหมด น่ารักและตลกมาก นี่เป็นโนมส์เพียงคนเดียวที่ยังไม่มีเครา และเขาไม่มีผมด้วย

พวกโนมส์ไหนดีที่สุด?

ชื่อของคนแคระทั้งเจ็ดได้รับการฟื้นฟูแล้ว แต่จำได้ไหมว่าคุณเป็นคนแคระคนโปรดคนไหน? Vyalenky กลายเป็นผู้ชนะท่ามกลางเหล่าฮีโร่ในเทพนิยายตัวน้อย! ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะเขาอายุน้อยที่สุดในบรรดาคนแคระทั้งเจ็ด คนใจดีและใจง่าย ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเด็กๆ ถึงรักเขามากที่สุด

เทพนิยายแต่ละเรื่องมีเรื่องราวของตัวเอง ซึ่งเขียนขึ้นในระหว่างการสร้างแอนิเมชั่น ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจบางประการเกี่ยวกับการสร้างการ์ตูน "สโนว์ไวท์":

ใครเอาสโนว์ไวท์ออกจากบัลลังก์

แม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์และความสงสัย "Snow White" ยังคงเป็นผู้นำของบ็อกซ์ออฟฟิศจนถึงการปรากฏตัวของภาพยนตร์เรื่อง "Gone with the Wind" นี่เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในสี "สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด" ได้รับรางวัลออสการ์

เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าชื่อของพวกโนมส์จะช่วยให้คุณกลับไปสู่วัยเด็กโดยสังเขปและพักสมองจากความซับซ้อนของโลกผู้ใหญ่

สโนว์ไวท์พบกับคนแคระ

เจ้าหญิงสโนว์ไวท์อาศัยอยู่ในปราสาทกับแม่เลี้ยงราชินีของเธอ

แม้ว่าพระโลหิตของราชวงศ์จะไหลเวียนอยู่ในเส้นเลือดของหญิงสาว แต่แม่เลี้ยงของเธอบังคับให้เธอทำงานที่สกปรกที่สุดและแต่งกายให้เธอด้วยผ้าขี้ริ้ว อย่างไรก็ตาม เด็กสาวก็มีความสุขทันทีที่เธอพบช่วงเวลาที่จะร้องเพลงและฝันเพียงลำพัง อย่างไรก็ตาม แม่เลี้ยงเริ่มอิจฉาความงามของเธอมากขึ้น เมื่อสโนไวท์รู้ว่าราชินีต้องการบีบเธอออกจากแสง เธอจึงตัดสินใจวิ่งหนี

เธอวิ่งด้วยความกลัวผ่านป่ามืด กิ่งไม้ฉีกเสื้อผ้าของเธอ และค้างคาวก็เกาะผมของเธอ หญิงสาวนึกฝันว่าสัตว์ประหลาดที่น่าเกลียดซ่อนตัวอยู่หลังลำต้นสีดำบิดเบี้ยว และเมื่อเธอสะดุดล้มลงในสระน้ำ ท่อนซุงที่อยู่ในน้ำนั้นดูเหมือนจระเข้ที่น่ากลัวของเธอ ในที่สุด จากความกลัวและความเหนื่อยล้า เธอหมดแรงและล้มลงกับพื้นโดยไม่รู้ตัว

เมื่อเธอตื่นขึ้น สโนวไวท์เห็นว่าสัตว์น่ารักและเป็นมิตรอยู่รอบตัวเธอ พวกเขาพาเธอไปที่บ้านหลังเล็ก ๆ ในที่โล่งที่หลงทางอยู่ในป่า

สโนวไวท์เคาะประตู ไม่มีใครตอบเธอ แล้วเธอก็เข้าไปในบ้านอย่างระมัดระวัง

โอ้ ฉันเห็นเก้าอี้ตัวเล็กเจ็ดตัว!” หญิงสาวอุทานด้วยความประหลาดใจ “ ต้องมีเด็กเจ็ดคนอาศัยอยู่ที่นี่

เธอปัดฝุ่น ทิ้งขยะ ขัดถูพื้นทั้งวัน บนชั้นสอง เด็กหญิงพบเปลเด็กน่ารักเจ็ดตัว

ดูสิ!” สโนว์ไวท์ร้องอุทาน “ เปลทุกหลังมีชื่อเขียนไว้! และชื่อตลกๆ เช่น Doc, Prostak, Chihun, Tikhonya เด็ก ๆ จะมีชื่อเช่นนี้ได้อย่างไร? และยังไม่พอใจ Veselchak และ Sonya อา ... '' หญิงสาวหาว

ง่วงนอนสุดๆ ฉันจะนอนสักครู่ '' สโนว์ไวท์พึมพำง่วงนอนบนเตียงแล้วหลับไปอย่างหวาน ...

เธอฝันว่ามีคนตัวเล็กเจ็ดคนปรากฏตัวในห้อง สโนว์ไวท์คิดว่าเธอได้ยินบทสนทนาของพวกเขา: “ว้าว นี่มันสัตว์ประหลาด! กระจายไปทั่วสามเตียง! ฆ่ามันก่อนที่มันจะตื่น!”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ สโนว์ไวท์ก็ตื่นขึ้นและนั่งลงบนเตียงในทันใด

โอ้ คุณเป็นตัวจริง - เธอประหลาดใจเมื่อมองลงมาที่ร่างเล็กเจ็ดตัว - คุณเป็นอย่างไรบ้าง?

คุณเป็นอย่างไร? สิ่งต่าง ๆ เป็นสีขาวเหมือนเขม่า” คนแคระคนหนึ่งพึมพำพลางเอาแขนโอบหน้าอกและขมวดคิ้ว

โอ้ ใช่ คุณรู้วิธีพูด - สโนว์ไวท์ยิ้มอย่างมีความสุข - แต่อย่าบอกชื่อของคุณกับฉัน ฉันจะพยายามเดาตัวเอง คุณ - ด็อก - เธอชี้ด้วยนิ้วชี้ไปที่คนแคระพร้อมแว่น เลื่อนลงมาที่ปลายจมูกของเขา

อืม อืม ... - หมอทำหน้าบึ้ง - ใช่แล้ว!

และคุณเงียบใช่ไหม

คนแคระหน้าแดงและมัดเคราเป็นปมด้วยความเขินอาย เมื่อเห็นคนแคระคนที่สามยืดออกและหาว สโนว์ไวท์พูดอย่างไม่ต้องสงสัย:

และชื่อของคุณคือซอนย่า

ฉันสงสัยว่าคุณเดาได้อย่างไร” คนแคระพึมพำอย่างง่วงนอน คนแคระที่เหลือเริ่มหัวเราะ และสโนว์ไวท์ก็เงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ ดีใจที่เธอเดาชื่อได้อย่างง่ายดาย

โนมส์ตัวหนึ่งจับจมูกเขา พยายามไม่ให้จาม และเด็กหญิงก็รู้ทันทีว่าชื่อของเขาคือชีฮุน และอีกคนก็หัวเราะอย่างหนักจนเขาไม่สามารถแม้แต่จะออกเสียงชื่อของเขาได้

ฉันชื่อ Veselchak - ในที่สุดเขาก็สำลักด้วยเสียงหัวเราะและชี้ไปที่เพื่อนบ้านของเขาซึ่งจ้องมองสโนว์ไวท์ด้วยรอยยิ้มโง่ ๆ จากปากของเขา หูของเขาใหญ่ ยื่นออกมาและเคลื่อนไหวตลอดเวลา

นี่คือ Simpleton - Veselchak แนะนำเขา - เขาไม่เคยพูด

ทำไม? ไม่ได้เหรอ?” หญิงสาวถามอย่างเห็นอกเห็นใจ

เขาไม่รู้ว่าอย่างไร ไม่เคยลองเลย

นี่มันน่าทึ่งมาก!” สโนว์ไวท์อุทานแล้วหันไปหาคนแคระที่ยืนอยู่ด้วยท่าทางไม่พอใจ เลียนแบบเขา เธอเอาแขนโอบหน้าอกและมองเขาจากใต้คิ้ว พยายามดูมีความสำคัญไม่แพ้กัน

และแน่นอนว่าคุณไม่พอใจ

แล้วไงล่ะ - คนแคระพึมพำ - ทุกคนรู้จักชื่อของฉัน เฮ้ คุณ - เขาแหย่เข้าข้างหมอ - และตอนนี้คุณถามชื่อเธอและเธอมาทำอะไรที่นี่

บอกเราหน่อยว่าคุณเป็นใครและมาทำอะไรที่นี่” คนแคระถาม แต่แก้ไขตัวเองทันที:“ นั่นคือคุณเป็นใครที่รัก”

อ้อ จริงสิ ฉันลืมแนะนำตัว ฉันคือเจ้าหญิงสโนวไวท์

เจ้าหญิง?” คนแคระอุทานพร้อมกัน ด็อกรู้สึกประทับใจกับคำพูดเหล่านี้เป็นพิเศษ

อา Snow White ของคุณ ... นั่นคือฝ่าบาทเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งกับเกียรติที่คุณให้เกียรติเรา” คนแคระโค้งคำนับอย่างเป็นพิธี

สโนวไวท์ตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน

หุบปากไปเลยคลับ - Grunt เตะ Dok ด้านข้าง - บอกให้เธอออกไปดีกว่า!

ได้โปรดอย่าไล่ฉันออกไป - เจ้าหญิงถามอย่างคร่ำครวญ - หากคุณทำเช่นนี้เธอจะฆ่าฉัน! พวกคนแคระแข็งค้างด้วยความสยดสยอง

ฆ่าคุณ? ใครจะกล้าทำเรื่องแบบนี้? ใครบอกฉัน?

แม่เลี้ยงของฉัน ราชินี

ราชินี!” คนแคระร้อง สโนว์ไวท์พยักหน้าอย่างเศร้าๆ

เธอเป็นคนชั่วร้าย - Tikhonya กล่าว

เธอแย่มาก” ชีฮุนบ่นออกมา

เธอเป็นแม่มดแก่ที่น่าขยะแขยง!” บ่นพึมพำ “ ฉันเตือนคุณว่าถ้าราชินีพบสโนวไวท์ที่นี่ เธอจะแก้แค้นอย่างโหดร้ายกับพวกเราทุกคน

แต่เธอไม่รู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน!” สโนว์ไวท์กล่าว

ราชินีรู้ทุกอย่าง "คำบ่นตอบอย่างเศร้าสร้อย" เธอกวัดแกว่งมนต์ดำ!

เธอจะไม่พบฉันที่นี่ ฉันรับรอง และถ้าคุณอนุญาตให้ฉันอยู่ ฉันจะจัดการบ้านของคุณ เย็บ ทำความสะอาด ทำอาหารและ ...

เธอจะทำอาหาร!” พวกโนมส์กระโดดขึ้นด้วยความยินดี

คุณรู้วิธีทำมอร์กาลิกิด้วยรูบาร์บจากหมากฝรั่งไหม - ด็อกเตอร์ถามอย่างตื่นเต้น นั่นคือ...

เบเกิลแยมรูบาร์บ!” คำรามและชีฮุนตะโกน

แน่นอน ฉันทำได้ - สโนว์ไวท์ยิ้ม - และเบอร์รี่มูสด้วย

ไชโย! เบอร์รี่มูส!” พวกโนมส์ตะโกนพร้อมกันด้วยความดีใจ สโนว์ไวท์ยังคงอยู่!

เสียงโห่ร้องยินดีดังก้องไปทั้งบ้าน คนแคระควบม้า เต้นรำ และปรบมือ และเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ก็สนุกกับพวกเขา เธออยู่ในอารมณ์ที่ยอดเยี่ยม เด็กหญิงพบเพื่อนใหม่และที่พักพิงเจ็ดคน ที่ซึ่งเธอสามารถซ่อนตัวจากราชินีชั่วร้ายและมนต์ดำของเธอได้อย่างน่าเชื่อถือ ทุกคนมีความสุข - แม้แต่ Grumpy

แอปเปิ้ลพิษ

แม้ว่าคนแคระจะเตือนว่าราชินีจะไล่ตามเธอต่อไป แต่สโนวไวท์มั่นใจว่าจะไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นกับเธออีก ดังนั้นเมื่อเช้าวันหนึ่งพวกโนมส์เข้าไปในป่าและเด็กผู้หญิงถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง เธอจึงได้พบกับหญิงชราผู้น่าสงสารในชุดผ้าขี้ริ้วซึ่งมาเคาะประตูบ้าน สโนว์ไวท์ที่ใจดีและไว้ใจไม่ได้แม้แต่จะสงสัยว่าหญิงชราคนนี้เป็นแม่เลี้ยงที่น่ากลัวของเธอ ซึ่งเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเธอไป

หญิงชรามอบแอปเปิ้ลแดงให้เจ้าหญิง สโนว์ไวท์ลังเล แต่แอปเปิ้ลดูน่าอร่อยจนในที่สุดเธอก็กัดเข้าไป

แอปเปิ้ลถูกวางยาพิษ! เจ้าหญิงสโนไวท์ตกลงไปในความฝันที่เหมือนกับความตาย ซึ่งมีเพียงจุมพิตแห่งรักแท้เท่านั้นที่จะดึงเธอออกมาได้

เมื่อคนแคระกลับมา พวกเขาพบสโนไวท์ที่ไร้ชีวิต คนแคระไม่สามารถปลอบโยนได้ พวกเขาทำโลงศพคริสตัลด้วยเครื่องราชอิสริยาภรณ์สีทองสำหรับสโนว์ไวท์ แต่พวกเขาไม่สามารถตัดสินใจฝังเจ้าหญิงที่สวยงามได้ คนแคระนำโลงศพไปไว้กับหญิงสาวบนผืนป่าอันร่มรื่นและใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนที่นั่นด้วยความเศร้าโศก ตกแต่งโลงศพด้วยดอกไม้ป่าที่สวยงามที่สุด

ฉันจะไม่มีวันลืมวันที่เจ้าหญิงมาที่บ้านของเราและอาหารเย็นที่เธอเตรียมไว้” ด็อกถอนหายใจเศร้า

เอ๊ะ - บ่นพึมพำ - อย่างน้อยตอนนี้ไม่มีใครเอาฉันลงในอ่างน้ำร้อนและไม่บังคับให้ฉันล้าง ด็อกมองเขาด้วยความประหลาดใจ

คุณเสียใจจริงๆที่เราปล่อยให้เธออยู่?

แน่นอน. ฉันรู้ทันทีว่าสิ่งนี้จะไม่นำไปสู่สิ่งที่ดี - และนี่คือผลลัพธ์

เจ้าคิดว่าเราควรไล่นางออกไปงั้นหรือ?” ด็อกสงสัย

คราวนี้ Grunt ไม่ได้พูดอะไรเพียงก้มศีรษะลงอย่างเศร้า

คนธรรมดาก็กังวลมากเช่นกัน เขาครุ่นคิดผ่านทุ่งหญ้าและเก็บดอกเดซี่ รู้สึกหนักอึ้งในใจ เขาจำไม่ได้ว่าสโนว์ไวท์บอกลาเขาอย่างไรเมื่อเขาเข้าไปในป่า เธอค่อย ๆ ขยี้หูของเขาเบา ๆ และจูบเบา ๆ ที่ส่วนบนสุดของศีรษะล้าน

เพื่อน ๆ ยึดมั่นไว้อย่ายอมแพ้ต่อความสิ้นหวัง - หมอเรียกคนแคระเมื่อเห็นใบหน้าที่หดหู่ใจ

ใช่แล้ว - Veselchak เห็นด้วย - เราต้องยึดมั่นและค้นหาการปลอบโยนในความทรงจำ จำได้ไหมว่าเราสนุกแค่ไหนในวันที่สโนว์ไวท์มาถึง?

ชายผู้เงียบงันหน้าแดงจากหูถึงหู ขณะที่เขานึกถึงเย็นวันนั้นอย่างต่อเนื่อง ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยเพลงที่คนแคระร้องร่วมกับสโนวไวท์ คนที่ร่าเริงร้องเพลงของเขาอย่างสวยงาม แต่เมื่อเขาเข้าใกล้ Tikhoni ถึงคราวของเขาเขาเริ่มหน้าแดงและพูดติดอ่างและนี่คือต่อหน้าเจ้าหญิง! อย่างไรก็ตาม รอยยิ้มที่เห็นด้วยของสโนว์ไวท์ทำให้เขามีความกล้าหาญ เขาสงบสติอารมณ์และอ่านกลอนของเขาให้เรียบร้อย

ฉัน pppo ... '' ชิฮุนเริ่ม `` ปอม ... '' เขาบีบจมูกด้วยสองนิ้วแล้ววางช่อดอกไม้ไว้ข้างๆ อย่างรวดเร็ว ละอองเรณูทำให้เขาจามอยู่เสมอ เขาเริ่มพูดเร็ว เร็ว โดยกลัวว่าเขาจะจามก่อนจะพูดจบ:

I-remember-how-Simpleton-stood-up-on-my-shoulders-and-we-so-danced-with-the-princess ... aaa-pchi!

พวกเขาคิดขึ้นได้ยอดเยี่ยม มีเพียง Chihun เท่านั้นที่มองไม่เห็นสิ่งใดสิ่งหนึ่ง: เสื้อคลุมยาวของ Simpleton คลุมศีรษะของเขาจนหมดและกระตุ้นให้จามอย่างไม่อาจต้านทานได้ ชายผู้ยากไร้ต่อสู้ด้วยตัวเองอย่างสุดความสามารถ แต่สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหว เสียงจามดังราวกับกระสุนปืนใหญ่ เขย่าพวกเขาอย่างแรงจน Simpleton เสียการทรงตัวและล้มลงกับพื้นด้วยการชน ทุกคนหัวเราะกันใหญ่ และสโนว์ไวท์ก็ดังที่สุด

ใช่ มันดูตลก - ซอนยายิ้มอย่างไม่เต็มใจและหาว - แต่สิ่งที่ดีที่สุด ... ฉันจำได้ ... คือเรื่องที่เจ้าหญิงบอกเราในเย็นวันนั้น

มันเป็นเรื่องราวความรัก” Tikhonya เล่า

เรื่องไร้สาระ - บ่นพึมพำ - จากเรื่องราวดังกล่าวไม่มีความรู้สึก

คุณเป็นอะไร สวยจัง - หมอปฏิเสธอย่างเพ้อฝัน - ฉันจำได้ว่าสโนว์ไวท์เคยบอกไว้ว่า: “กาลครั้งหนึ่งมีเจ้าหญิงแสนสวยผู้ตกหลุมรักเจ้าชาย เจ้าชายสวยและโรแมนติกมากจนเธออดไม่ได้และแอบจูบเขา ... "

เธอจูบ ... '' Tikhonya พูดซ้ำเหมือนเสียงสะท้อน

คนแคระเงียบไปนาน พวกเขาไม่ได้โกรธ Grunt เพราะพวกเขารู้ว่าเขารักสโนว์ไวท์มากเท่ากับที่พวกเขารัก แม้ว่าพวกเขาจะไม่ต้องการที่จะยอมรับก็ตาม

ฉันจะไม่มีวันลืมเพลงที่เธอร้องให้เราฟัง "ในที่สุด Veselchak ก็พูด" ว่าเจ้าชายจะมาพาเธอไปที่ปราสาทของเขา เธอร้องเพลงเกี่ยวกับฤดูใบไม้ผลิเมื่อความรักของพวกเขาเบ่งบาน เกี่ยวกับนก ดอกไม้ และระฆังวิวาห์ประกาศการเติมเต็มความปรารถนา

ทีละคน ก้มศีรษะลงทีละคน คนแคระเข้าหาโลงศพทองคำคริสตัลและพับช่อดอกไม้ที่นั่น Doc และ Veselchak ถอดฝาออกและวางพวงหรีดดอกไม้ที่สวยที่สุดไว้ในมือของเจ้าหญิงแล้วคุกเข่าลงที่โลงศพทั้งสองข้าง

ทันใดนั้นคนแคระก็เงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ ได้ยินเสียงกีบเท้าและเสียงผู้ชายดังก้องอยู่ไม่ไกล ไม่นาน ชายหนุ่มรูปงามร่างสูงก็ขับรถเข้าไปในที่โล่ง เขากระโดดลงจากหลังม้า เดินไปที่โลงศพ และคุกเข่าข้างหนึ่ง จุมพิตริมฝีปากที่ไร้ชีวิตของสโนวไวท์

เปลือกตาของเจ้าหญิงสั่นเทา เธอลืมตาและเห็นเจ้าชายยิ้มอย่างมีความสุข เด็กสาวยื่นแขนออกไปหาเขา เขาก็กอดเธอและจูบเธออีกครั้ง จากนั้นจึงยกเธอขึ้นราวกับขนนกแล้วนั่งลงบนอาน

จากภาพดังกล่าว พวกโนมส์ส่งเสียงโห่ร้องอย่างกระตือรือร้น และจากนั้นก็เริ่มควบม้าอย่างมีความสุขข้ามทุ่งโล่ง หัวเราะและร้องเพลงร่าเริง พวกเขาส่งเสียงดังจนคนทั้งป่ารู้ถึงความสุขของพวกเขาในไม่ช้า

ชั่วโมงแห่งการพรากจากกันมาถึงแล้ว เจ้าชายผลัดกันเลี้ยงคนแคระเพื่อให้สโนว์ไวท์ซึ่งนั่งอยู่บนหลังม้าสามารถบอกลาพวกเขาได้

ในที่สุด ตัวเขาเองก็กระโดดขึ้นไปบนอานม้า และม้าก็เคลื่อนไปตามทางในป่า และสโนว์ไวท์มองไปรอบๆ เป็นครั้งสุดท้ายและโบกมือให้คนแคระ

คนแคระยืนอยู่ข้างถนนเป็นเวลานานและเฝ้าดูเจ้าชายรูปงามพาสโนว์ไวท์อันเป็นที่รักของพวกเขาไปที่ปราสาท ในไม่ช้าเสียงกริ่งก็ประกาศไปทั่วทั้งราชอาณาจักรเกี่ยวกับงานแต่งงานของคู่รักหนุ่มสาวซึ่งตั้งแต่นั้นมาก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป

แปลโดย A. Kocharov

ข่าวสารและสังคม

มาเขียนชื่อพวกโนมส์จาก "สโนว์ไวท์" กันเถอะ คุณรู้กี่คน?

สร้างจากเทพนิยายที่เขียนขึ้นเมื่อนานมาแล้วโดยพี่น้องตระกูลกริมม์ ในปี 1937 สตูดิโอภาพยนตร์ของ Walt Disney ได้จัดทำการ์ตูนเรื่องยาวโดยใช้ชื่อเดิมคือ Snow White and the Seven Dwarfs โครงเรื่องบอกเราเกี่ยวกับเด็กกำพร้าที่ถูกไล่ออกจากบ้านโดยแม่เลี้ยงแม่มดที่ชั่วร้าย เมื่อเดินเตร่อยู่ในป่า เธอได้พบกับพี่น้องชาวลิลลิปูเตียนเจ็ดคนซึ่งเสนอที่พักพิงให้กับเธอ เด็กและผู้ใหญ่ทุกคนรู้ดีว่าเทพนิยายนี้จบลงอย่างไร แต่ใช่ว่าทุกคนจะจำชื่อพวกโนมส์ซึ่งเป็นตัวละครหลักได้ ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะพบกับตัวละครตลกเหล่านี้

เจ้าเลห์

เรามาเริ่มเขียนชื่อพวกโนมส์จากชื่อหลักกันดีกว่า ซึ่งพาหะซึ่งเป็นผู้นำของพี่น้องของเขา ในการ์ตูนเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษเขาถูกเรียกว่า "หมอ" จากคำว่า "หมอ" เพราะมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ทุกอย่างและตลอดเวลา ลักษณะเด่นของพี่ชายคนนี้คือพูดติดอ่าง แต่ข้อบกพร่องนี้ไม่ได้ขัดขวางไม่ให้เขาสั่งสอนทุกคนและให้คำแนะนำที่ทรงคุณค่า

Grunt

เดาได้ไม่ยากว่าฮีโร่ตัวนี้มีตัวละครอะไร เสียงฮึดฮัดไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ เขาไม่ชอบอากาศและคนรอบข้าง หรือแม้แต่อาหาร ยิ่งกว่านั้นเขาเป็นพี่น้องคนเดียวของเขาที่เชื่อว่าผู้หญิงนำโชคร้ายมาสู่บ้าน ดังนั้นเขาจึงต่อต้าน Snow White ที่อาศัยอยู่ในกระท่อมของพวกเขาอย่างเด็ดขาด

เป็นที่น่าสังเกตว่าตัวละครตัวนี้เป็นหนึ่งในตัวละครหลักในซีรีส์กาลครั้งหนึ่ง จากตัวอย่างของเขา เราแสดงให้เห็นว่าชื่อของพวกโนมส์ปรากฏอย่างไรและแม้กระทั่งการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ตัวอย่างเช่น Grunt ก่อนหน้านี้เรียกตัวเองว่าผู้เพ้อฝัน และหลังจากที่ความฝันของเขาไม่กลายเป็นความจริง เขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรารู้จักเขามาโดยตลอด

เวเซลชัก

คำพังเพยนี้คือความเข้มข้นของผลบวก เขามองเห็นแต่ความดีในทุกสิ่ง เธอเต้นหรือร้องเพลงได้ทุกโอกาส เขาร้องเพลงแรงจูงใจของ Tyrolean อย่างต่อเนื่องโดยมักจะระบุชื่อคนแคระ - พี่น้องของเขา

ซอนย่า

ในการแปลภาษารัสเซีย ดูเหมือนชื่อผู้หญิง แต่ถ้าไม่ใช่เพราะ ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะถ่ายทอดแก่นแท้ของคาแร็กเตอร์ของน้องชายคนเล็กคนนี้ Sonya หาวอย่างต่อเนื่องใช้เวลาว่างทั้งหมดของเธอในการงีบและหากคุณต้องการทำอะไรหรือไปที่ไหนสักแห่งเขาจะแสดงความเหนื่อยล้าและเซื่องซึมด้วยรูปลักษณ์ทั้งหมดของเขา

เจียมเนื้อเจียมตัว

คุณอาจเดามานานแล้วว่าชื่อทั้งหมดของคนแคระจาก "สโนว์ไวท์" เป็นคำอธิบายที่ถูกต้องของฮีโร่และคุณสมบัติหลักของพวกเขา นี่คือชายเจียมเนื้อเจียมตัวที่เราเข้าหา เป็นคนขี้อายสุดๆ ในการสนทนาใด ๆ เขาก้มศีรษะดูดคอและดูเหมือนว่าเขาไม่มีกำลังพอที่จะฟังคู่สนทนา ลักษณะเฉพาะของ Modest One คือทุกครั้งที่เขาเปลี่ยนเป็นสีแดงและดูเหมือนมะเขือเทศลูกใหญ่

ชีฮุน

บางครั้งดูเหมือนว่าในฮีโร่ตัวนี้ผู้เขียนได้รวบรวมอาการแพ้ทุกประเภทซึ่งบุคคลสามารถตอบสนองต่ออาการน้ำมูกไหลได้ สำหรับคำพังเพยนี้ ดอกไม้และฝุ่น ปุยหิมะ ฝน และแม้แต่อาหารเป็นสิ่งที่ทนไม่ได้ บางครั้งเขาชอบงีบหลับเพียงเพื่อเอาใจพี่น้องของเขา

ซิมเปิลตัน

หรือ "เดอะซิมเปิลตัน" อย่างที่สโนว์ไวท์เรียกเขาอย่างเสน่หา เป็นพี่น้องที่ตัวเล็กที่สุดในบรรดาพี่น้องตระกูลลิลลิพูเตียน ตัวละครเดียวในเทพนิยายที่ไม่เครียดเลยและถึงขนาดที่เขาไม่พูดด้วยซ้ำ เขาใช้ท่าทางหรือทำเสียงเฉพาะที่เขาเข้าใจและได้ยิน แต่ด้วยทั้งหมดนี้ ซิมเปิลตันจึงดูตลกและเสริมภาพรวมเสมอ

หากคุณจำชื่อคนแคระทั้งเจ็ดจาก "สโนว์ไวท์" ได้ เราสามารถพูดได้อย่างปลอดภัยว่าคุณได้พบกับตัวละครหลักของเรื่องนี้ แต่ละชื่อจะเผยให้เห็นถึงลักษณะและลักษณะของเจ้าของอย่างเต็มที่ และยังทำให้สามารถสันนิษฐานได้ว่าพวกเขาจะประพฤติตนอย่างไรในสถานการณ์ที่ต่างกัน อย่างไรก็ตามบางครั้งพี่น้องคำพังเพยสร้างความประหลาดใจให้กับผู้ชมโดยแสดงให้เราเห็นถึงความกล้าหาญและความกล้าหาญซึ่งอาจดูเหมือนในแวบแรกไม่ได้มีอยู่ในตัวพวกเขาเลย

แท้จริง

เบ็ดเตล็ด
เบ็ดเตล็ด

พวกโนมส์ที่ร่าเริงและขยันขันแข็งในเทพนิยายถูกลิดรอนจากชื่อบุคคล ชื่อหรือชื่อเล่น พวกมันปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่ชาวอเมริกันสวมมันเข้าไป และวอลท์ ดิสนีย์ทำให้ชื่อเล่นเหล่านี้โด่งดังไปทั่วโลก พวกโนมส์ถูกเรียกว่า:

Grunt - บ่นตลอดเวลาและไม่พอใจกับทุกสิ่ง

จาม - อันนี้จามเสมอ

ฉลาด - คนแคระมีการศึกษา

Sonya เป็นคนรักการนอน

ซิมเปิลตันเป็นคำพังเพยที่ใจง่ายและเข้ากับคนง่าย

ผู้ชายร่าเริง - ยิ้มตลอดเวลา

ความเงียบเป็นสิ่งที่ไม่เด่นที่สุด

ที่น่าสนใจ ธีมของพวกโนมส์มีการพัฒนาใหม่เป็นครั้งคราว ตัวอย่างเช่น ในละครโทรทัศน์ยอดนิยม Once in a fairy tale โนมส์ในขั้นต้นกลายเป็นแปดคนเจียมเนื้อเจียมตัวถูกเพิ่มเข้ามาและชื่อแรกของ Grumbler กลายเป็น Dreamer ที่โรแมนติกมากขึ้นซึ่งเขาแพ้เนื่องจากความรักผิดหวัง - เขาตกหลุมรักกับนางฟ้า

นิทานเทพนิยาย สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด; ประกาศทันทีว่าใครเป็นตัวละครหลักในนั้น

นี่คือชื่อของพวกเขา:

ฉลาด, ซิมเปิลตัน, เงียบ, ซอนย่า, ฮึกเหิม, เวเซลชัก, ชีฮุน พวกเขาตกหลุมรักสโนว์ไวท์ เธอรักคนแคระ เจ้าชายผู้สง่างามช่วยชีวิตสโนว์ไวท์



นี่คือรายชื่อคนแคระในการ์ตูนเรื่อง Snow White and the Seven Dwarfsquot ;:

Veselchak นี่คือชื่อของคนแคระ สโนว์ไวท์รักพวกเขามากและพวกเขาตอบแทนเธอ

ในการ์ตูน Snow White and the Seven Dwarfs คำพังเพยที่รักมากที่สุดในหมู่ลูกหลานของเราคือ Simpleton เขาเป็นคนที่ตัวเล็กที่สุดในบรรดาพวกโนมส์ (ในหมวกสีม่วงและหูที่ยื่นออกมา) และตลกที่สุดอาจเป็นเพราะเขาไม่พูด แต่แสดงด้วยท่าทางและการแสดงออกทางสีหน้าเท่านั้น ความต้องการ

โนมส์อีกหกตัวมีชื่อว่า: Chihun, Clever, Quiet, Sonya, Grumpy และ Veselchak ตลก (ในกางเกงสีน้ำเงิน)



สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ดเป็นหนึ่งในการ์ตูนดิสนีย์ที่ฉันชื่นชอบ เธอรู้จักคนแคระทั้งเจ็ดด้วยใจ ฉันยังจำพวกเขาได้

• Dwarf Smarty เป็นคนที่มีไหวพริบฉับไว เขาเป็นหัวหน้าของเจ็ด พูดติดอ่างเมื่อเขาพูด



• คำพังเพย Grumpy - คนนี้มักไม่พอใจกับทุกสิ่งและยังคงสงสัยทุกคนอยู่มาก เขาเป็นคนเดียวในกลุ่มคนแคระที่เชื่อว่าผู้หญิงนำโชคร้ายมากับพวกเขาและต่อต้านการค้นหา Snow White ท่ามกลางคนแคระ



• คำพังเพย Veselchak - คนรักการเต้นหรือร้องเพลง น่ารักจริง ๆ และเป็นเพียงเพื่อนร่าเริงในบริษัท



• คำพังเพย Sonya - คำพังเพยนี้ง่วงอยู่เสมอเขาเดินง่วงและเฉื่อยและหาวอย่างต่อเนื่อง



• คำพังเพย เจียมเนื้อเจียมตัว - มักขี้อายและในเวลาเดียวกันก็หน้าแดงด้วยความเขินอาย



• คำพังเพย Chihun - จามอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะเมื่อเห็นดอกไม้ โดยทั่วไปเขาจามจากทุกสิ่งและตลอดเวลา



• gnome Simpleton หรือ Simpleton - ตัวเล็กที่สุดในบรรดาพวกโนมส์ด้วยเหตุผลบางอย่างที่เขาไม่ได้พูด แต่เขาเข้าใจทุกอย่างสื่อสารด้วยท่าทาง



สโนว์ไวท์ - นั่นคือชื่อของเทพนิยายที่ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2355 โดยพี่น้องกริมม์ เพียง 100 ปีต่อมาในปี 1912 ในรายการบรอดเวย์ Snow White and the Seven Dwarfs; พวกโนมส์ได้รับชื่อบุคคล ในปี 2480 ดิสนีย์เปิดตัวการ์ตูนที่มีชื่อเสียงของเขา เขาตั้งชื่อมันเหมือนกับละครเพลงบรอดเวย์ แต่ชื่อของพวกโนมส์ต่างกัน

เงียบ, เรียบง่าย, ฉลาด, Sonya, Grumpy, Veselchak, Chihun - ชื่อเหล่านี้ปรากฏตัวครั้งแรกในการ์ตูนดิสนีย์ที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้ที่ยึดมั่นในวีรบุรุษของเทพนิยายนี้

ในเรื่อง Brothers Grimm คนแคระไม่มีชื่อ ผู้เขียนมักจะพูดถึงพวกเขาแบบนี้: โนมเจ็ดตัว, โนมส์ห้าตัว, โนมส์นั้นปราศจากความแตกต่าง

มีโนมส์ 7 ตัวและชื่อของพวกเขาคือ:

• คนที่ฉลาดเพราะเขาฉลาดที่สุด
• คนบ่นที่บ่นไปเรื่อยและทุกอย่างก็ผิดกับเขา
• คนร่าเริงมักขบขันทุกคน
• คนง่วงนอนมักจะจำศีลเสมอ
• คนขี้อายมักขี้อาย
• คนธรรมดา ธรรมดาสามัญ
• ข้าราชการจามอย่างต่อเนื่อง

• ในนิทาน สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด; คนแคระทั้งหมดมีชื่อที่สื่อความหมายได้ดีมากซึ่งเข้ากับพฤติกรรมและลักษณะนิสัยของพวกเขาได้ดี ชื่อของพวกเขาคือ Clever, Simpleton, Tikhonya, Sonya, Grumpy, Veselchak และ Chihun

  เทพนิยายที่ผสมผสานทุกสิ่งเล็กน้อยจากเทพนิยายอื่น ๆ คล้ายกับที่ Masha มาเยี่ยมหมี 3 ตัว กิน ดื่ม นอน แล้วหมีก็ถามกลับว่าใครใช้ของพวกนี้ ดังนั้นในเทพนิยายเกี่ยวกับสโนว์ไวท์ คนแคระจึงประหลาดใจมากที่บ้านของพวกเขาไม่เป็นระเบียบ

  ชื่อของพวกโนมส์ในเทพนิยายนั้นเรียบง่าย - Veselchak และ Grumpy, Clever and Simpleton, Sonya และ Tikhonya และยังมี Chihun ด้วย

  แต่ละคนมีลักษณะของตัวเอง ซึ่งมีคุณลักษณะสะท้อนอยู่ในชื่อ สนุกกับ Veselchak แต่ Sonya นอนเยอะ นิทานมีความสวยงามและใจดีเหมือนนิทานเจ้าหญิงผู้ล่วงลับของพุชกิน

  อย่างไรก็ตาม Alexander Sergeevich Pushkin มีเรื่องราวสยองขวัญในบทกวี

  PROSTAK - ไม่คุยกับใครเลยและไม่ได้พยายามด้วยซ้ำ ไม่เครียดโดยทั่วไป

  TIKHONYA เป็นคำพังเพยที่ขี้อายมากเกือบจะอายทันที

  SONYA - อันนี้น่าจะอยู่บนอินเทอร์เน็ตตอนกลางคืน (ล้อเล่น!)

  GRUMMER - บ่นตลอดเวลา ไม่พอใจกับทุกสิ่งเสมอ

  DOC เป็นโนมฉลาด ใส่แว่น รู้เยอะ

  VESELCHAK - เขาหัวเราะในปาก ร่าเริงและร่าเริงอยู่เสมอ

  CHIHUN - คำพังเพยนี้ดูเหมือนจะแพ้และจามไม่รู้จบ