หนังสือน้ำแข็งดาวอ่านออนไลน์ Alastair Reynolds Star Ice รีวิว Alastair Reynolds Star Ice

บ้าน / อดีต

ทุกคนสรุปได้ว่าเจนัสถูกตั้งโปรแกรมให้ลงโทษการกระทำที่ซ้ำซากจำเจ และเขารับเชนเพราะเขาเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกันเสมอ

ไม่กี่ทศวรรษที่แล้ว ฮีโร่ของ SF เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นและจะแก้ไขอย่างไร ฮีโร่ของ "Star Rain" อยู่ใกล้เราในแง่ของโลกทัศน์ กลไกที่ใช้นั้นซับซ้อนจนไม่มีใครสามารถจัดการได้ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ฉันไม่รู้ฟังก์ชันของสมาร์ทโฟนของฉันเลยด้วยซ้ำ... ดังนั้นในหน้าแรกของนิยาย ตัวละครตัวหนึ่งซึ่งเป็นพนักงานสถานีอวกาศผู้มีประสบการณ์ ถามว่าเขาจะเปลี่ยนการตั้งค่าหมวกกันน็อคได้อย่างไร แม้ว่านวนิยายเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขาให้เครดิตรายละเอียดดังกล่าว มีข้อสังเกตต่างๆ มากมายกระจายอยู่ตามหน้ากระดาษจนแทบจะอ่านไม่ออก นี่คือความคิดเกี่ยวกับอวกาศ อารยธรรมนอกโลก เทคโนโลยี และผู้คน ยิ่งไปกว่านั้น การสังเกตเหล่านี้ค่อนข้างกระชับและไม่เบี่ยงเบนความสนใจจากโครงเรื่องที่น่าตื่นเต้นเลย ฉันยังชอบที่ผู้เขียนสังเกตเห็นลักษณะเฉพาะของความคิดระดับชาติอย่างละเอียดถี่ถ้วนและด้วยจังหวะที่พูดน้อย ๆ แบบเดียวกันก็นำบุคคลที่สดใสจากวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่ทำงานด้วยกันออกมา สำหรับพล็อตหลักมันเป็นเรื่องของความไว้วางใจและความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจที่เป็นเวรเป็นกรรม เกี่ยวกับราคาของการตัดสินใจเหล่านี้ เกี่ยวกับความยากลำบากที่ผู้คนจะยอมรับกับข้อเท็จจริงที่ว่ามีการตัดสินใจเพื่อพวกเขา แม้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะดีที่สุดจริงๆ ปัญหานี้รองรับความขัดแย้งส่วนใหญ่ของนวนิยาย ซ้อนทับในเรื่องของความสามารถพิเศษและความเป็นผู้นำ ความแตกต่างระหว่างคนดี คนฉลาด และผู้นำที่ดี เงาและฮาล์ฟโทนหลายๆ แบบเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในนวนิยายเรื่องนี้ โดยที่ไม่มีอักขระเชิงลบ แต่ทุกคนทำผิดพลาด บางครั้งไม่เป็นที่พอใจและโหดร้ายมาก ยากแค่ไหนที่จะยอมรับความผิดพลาดหรือชดใช้ให้กับมัน การเป็นตัวของตัวเองในบางครั้งยากเพียงไร และคุ้มค่าที่จะเป็นหนึ่งเดียว เรามาดูกันว่าตำนานเกิดและตกอย่างไร ผู้คนสร้างประวัติศาสตร์ของตัวเองอย่างไร ตอนแรกดูเหมือนว่าในตอนสุดท้ายเราจะเห็นเหล่าทวยเทพ ดีที่เราไม่ต้อง - หลังจากบาบิโลน 5 ด้วย "คุณเป็นใคร" แล้วคุณต้องการอะไร?" ในเรื่องของเทพเจ้าต่างดาวนั้นไม่สามารถพูดได้มากนัก ไม่ ผู้เขียนใช้เส้นทางที่ต่างออกไป: ไม่มีพระเจ้า แต่มีสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดซึ่งจะต้องเข้ากันได้ ฉันชอบการตัดสินใจครั้งนี้ที่นำพล็อตเรื่องไปนอกเส้นทางเล็กน้อย

bear_bobo

ในปี 2057 นักดาราศาสตร์จับที่หัวใจ ดวงจันทร์ดวงหนึ่งของดาวเสาร์ เจนัส ตกลงมาจากแรงโน้มถ่วง เมื่อสูญเสียเปลือกน้ำแข็งในระหว่างการเดินทาง เจนัสรีบออกจากระบบสุริยะ วัตถุที่อยู่ใกล้ผู้หลบหนีมากที่สุดคือนกเพนกวินหงอน เรือขุดซึ่งไม่เคยขยายภารกิจออกไปนอกเหนือการขุดและขนส่งน้ำแข็งดาวหาง ได้รับอำนาจฉุกเฉินทันทีและออกเดินทางเพื่อไล่ตามดวงจันทร์ที่หลบหนี การเข้าใกล้ Janus ไม่เพียงหมายถึงโอกาสที่จะค้นพบความลับของเขาและสัมผัสข่าวกรองและเทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาวเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญไม่น้อยสำหรับเจ้าของเรืออีกด้วย ผลประโยชน์มหาศาลขององค์กร และสิ่งที่สำคัญสำหรับทีมคืออะไร?..เอาตัวรอดจากการทำงานล่วงเวลา จากและถึง พร้อมโบนัสสำหรับการประมวลผล
มันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงนั้น การแข่งขันที่เสี่ยงสำหรับกลไกของเอเลี่ยน, โรบินสันที่ไม่คาดคิด, การติดต่อครั้งแรก - แต่ละส่วนของการผจญภัยของ Crested Penguin ควรดึงดูดแฟน ๆ ของประเภทนี้
Alastair Reynolds เป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง พาโนรามาของห้วงอวกาศและศักยภาพมากมายสำหรับความลับที่ดาวเย็นเฉียบเก็บไว้คือจุดแข็งของเขา แต่ชายร่างเล็กและฝูงสัตว์ทำให้ภาพเสียไป ความแตกต่างของโฟกัสมีมากเกินไป และการขว้างปาอย่างต่อเนื่องระหว่างกล้องโทรทรรศน์กับกล้องจุลทรรศน์ไม่เป็นประโยชน์ต่อหนังสือ ในระดับกาลอวกาศ-เวลาซึ่งเรย์โนลด์สชอบดำเนินการ การเห็นคนกลุ่มเดียวกันที่มีปัญหาเดียวกันเป็นพันๆ ปี นับหมื่นปีเป็นโอกาสที่เลวร้าย แน่นอนว่าสิ่งนี้เพิ่มความสิ้นหวังให้กับบรรยากาศ แต่ ... ลองนึกภาพว่าคุณกำลังเฝ้าดูการตายของดวงดาวและทันใดนั้นคุณสังเกตเห็นว่าน้ำมูกของใครบางคน (อาจเป็นของคุณ) ไหลลงมาจากขอบของ หน้าต่าง. แล้วจู่ๆ คุณก็เริ่มนึกถึงละครเกี่ยวกับแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ ดังนั้น... อลาสแตร์ เราต้องการดาว ไม่เจือปน
ตัวละครไม่เคยมีเหตุผลที่จะรักหนังสือของ Reynolds ชัดเจนเกินไป โครงสร้างปรากฏผ่านผิวหนัง ซึ่งทำงานอย่างหมดจดเพื่อตอบสนองความตั้งใจของผู้เขียน "สตาร์ไอซ์" เป็นแบบดั้งเดิมในเรื่องนี้เช่นกัน ความขัดแย้งของ "อัลฟ่าหญิง" สองคนเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ยืดออกทั้งเล่ม? ทีมงานทั้งหมดสามารถตาบอดได้จริง ๆ และไม่สังเกตเห็นอันตรายของเขาที่มีต่อสาเหตุทั่วไปหรือไม่? ทีมงาน - คนงานเหมืองที่แข็งแกร่งและแข็งแกร่ง - ไม่สามารถบีบคอความขัดแย้งด้วยกำลัง หากการโต้แย้งของเหตุผลนั้นไร้ประโยชน์? เห็นได้ชัดว่าเป็นเช่นนั้น เพราะผู้เขียนต้องการมากในการควบคุมโครงเรื่อง
Alastair Reynolds ในละครของเขา: หยุดเขียนเมื่อใกล้ถึงจุดสิ้นสุด เมื่อความคิดดีๆ มากมายอาจจะทำให้คุณปวดหัว จะเกิดอะไรขึ้นกับ Alastair Reynolds ขณะเขียน/แก้ไขตอนจบหนังสือ คำถามนี้อาจเป็นเรื่องของการวิจัยอย่างจริงจังและวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอก มีข้อยกเว้นที่ไม่ค่อยเกิดขึ้น ตอนจบทั้งหมดเหมือนกับการเลือก: 1. เหตุการณ์จุดสุดยอดผ่านไปในเบื้องหลัง / ถูกกล่าวถึงหลังจากข้อเท็จจริง / ยังคงถูกระงับ; 2. ตัวละครเริ่มมีบทสนทนาที่ยาวและไร้ความหมาย Star Ice เป็นแบบฉบับของ Alastair Reynolds ความคิดที่ยิ่งใหญ่ หลักฐานที่น่าสนใจ บรรยากาศที่น่าทึ่ง ตัวละครสูงส่ง และตอนจบที่ยับยู่ยี่ ผู้ที่รู้จักผู้เขียนรู้ว่าจะคาดหวังอะไรและจะไม่ผิดหวัง

หนังสือเล่มก่อนหน้าของ Reynolds ซึ่งตีพิมพ์เป็นภาษารัสเซีย The Doomed World กลายเป็นความผิดหวังโดยสิ้นเชิง หนึ่งในโอเปร่าอวกาศที่ดีที่สุดจนถึงปัจจุบัน เวลส์แมนส่งนวนิยายที่ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง ตำบล (แม้ว่าโครงเรื่องจะเป็นการเดินทางรอบโลก) และด้วยตัวละครที่เลือนลาง
และสตาร์ไอซ์ดูเท่แค่ไหนเมื่อตัดกับพื้นหลังของมัน ซึ่งไฮไลท์สำคัญของเรื่องราวของ Reynolds กลับคืนมา - ความรู้สึกที่ว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าอย่างนับไม่ถ้วน ยิ่งใหญ่กว่าอย่างอนันต์เหมือนกาแล็กซี่เอง ใช่ บางครั้งเหตุการณ์ก็น่าสลดใจ บางครั้งมันก็กำหนดชะตากรรมของอารยธรรมทั้งหมด แต่เป็นเวลาหลายปีแสง สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน สิ่งนี้ไม่เคยพูดเป็นข้อความธรรมดา แต่เรารู้
ค่อนข้างไม่คาดคิด "Star Ice" โดยธรรมชาติของมันบุกเข้าไปในอาณาเขตของ "False Blindness" โดย Peter Watts ที่นั่นและที่นั่น มีลูกเรือหลายลำที่พึงพอใจ เช่นเดียวกับยานอวกาศขนาดใหญ่ที่ไม่รู้จัก เข้าใจยาก และมนุษย์ต่างดาวอย่าง Janus ของ Reynolds และ Rorschach ของ Watts ที่จริงแล้ว ในนิยาย สถานที่ศูนย์กลางไม่ได้ถูกครอบครองโดยการกระทำเช่นนี้ แต่โดยจิตวิทยาของผู้คนและชุมชน ปฏิกิริยาของพวกเขาต่อสถานการณ์แปลกประหลาดที่เข้าใจยากซึ่งพวกเขาพบว่าตัวเองอยู่ ใช่แล้ว ตัวเอกหลักของนวนิยายเรื่องนี้คือคนงานเหมืองรับจ้าง ด้วยความแข็งแกร่งและความเฉลียวฉลาดที่ชวนให้นึกถึงเพื่อนร่วมงานจากหนังสือของไฮน์ไลน์เรื่อง "The Moon is a Harsh Mistress" ของไฮน์ไลน์
แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุด นอกเหนือจากความโชคร้ายทั้งหมดและการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด คือการเผชิญหน้าระหว่างสองตัวละครหลักในนวนิยายเรื่องนี้ - กัปตันเบลล่า ลินด์ และหัวหน้าแผนกวิศวกรรม Svetlana Barseghyan เรื่องราวของความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงของพวกเขาดำเนินไปราวกับด้ายสีแดงตลอดทั้งเล่มและกำหนดชะตากรรมของคนรอบข้างไม่ว่าพวกเขาจะชอบหรือไม่ก็ตาม และในที่สุด มันนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างคาดไม่ถึง แต่เป็นธรรมชาติ
เบื้องหลังของเรื่องนี้คือองค์ประกอบมาตรฐานของนวนิยายของ Reynolds - การเดินทางในอวกาศ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว ช่องว่างของเวลาขนาดมหึมา การหลอกลวง และความสัมพันธ์ทางการค้าที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ท้ายที่สุดจักรวาลไม่ได้ให้อะไรแบบนั้น

ดวงดาวมีเวลาที่ดีที่สุด - แล้วพวกเขาก็ออกไป

นิค เคฟ

Alastair Reynolds

ลิขสิทธิ์ © 2005 โดย Alastair Reynolds

สงวนลิขสิทธิ์

© D. Mogilevtsev, การแปล, 2016

© ฉบับในภาษารัสเซีย LLC Publishing Group Azbuka-Atticus, 2016 โดย

สำนักพิมพ์ AZBUKA®

Alastair Reynolds เป็นหนึ่งในนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ชั้นนำของอังกฤษ เขาอาศัยอยู่ในฮอลแลนด์เป็นเวลาหลายปี โดยทำงานร่วมกับศูนย์วิจัยและเทคโนโลยีอวกาศแห่งยุโรป เช่นเดียวกับนักเขียนหลายคนที่มีประสบการณ์จริงในสาขาวิทยาศาสตร์ "สุดยอดวิทยาศาสตร์" เช่น ดาราศาสตร์และฟิสิกส์ เขาหลงใหลในนิยายที่ "ยาก" แต่ในขณะเดียวกัน ผลงานของเขาก็มีพลวัตและเต็มไปด้วยจิตวิทยาอยู่เสมอ - นี่คือการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดอย่างแท้จริงในสภาพแวดล้อมของอวกาศที่ไร้ความปราณี

อนาคตที่ Reynolds เห็นคือความมืดมิดและมืดสนิทของอวกาศระหว่างดวงดาวซึ่งถูกครอบงำโดยปัญญาประดิษฐ์

สำนักพิมพ์รายสัปดาห์

แฟนนิยายวิทยาศาสตร์ดีๆ จะไม่ผิดหวัง

สำนักพิมพ์รายสัปดาห์

สเตรนจ์ฮอไรซันส์

จินตนาการไซไฟของ Reynolds นั้นไม่มีใครเทียบได้

เรย์โนลด์สเขียนบทร้อยแก้วที่มีกล้ามแน่นซึ่งผสมผสานการพัฒนาโครงเรื่องอย่างเข้มข้นเข้ากับภาษาวิทยาศาสตร์ที่ขัดเกลา ทั้งหมดนี้เป็นลักษณะเฉพาะของตัวอย่างที่ดีที่สุดของโอเปร่าอวกาศหลังสมัยใหม่

นิยายวิทยาศาสตร์รายสัปดาห์

เธอชื่อ Chromis Dream-Grass Bower ในความพยายามที่จะนำเสนอความคิดของเธอ เธอมาไกลมากแล้ว ลางสังหรณ์ของความล้มเหลวนั่งอยู่ที่ไหนสักแห่งในมุมไกลของจิตสำนึกหลังจากกระโดดข้ามปีแสงที่เวียนหัวไปยัง New Far Florence และลงจอดบนเมืองหลวงของดาวเคราะห์ที่สภาคองเกรสมาบรรจบกันกลายเป็นความเชื่อมั่นที่ชั่วร้ายและเป็นพิษที่เผาไหม้ภายใน: ความพ่ายแพ้อันน่าอัปยศอดสูรออยู่ข้างหน้า มีคนเพียงพอเสมอที่คาดการณ์ความล้มเหลวของโครงการ - แต่ตอนนี้ Chromis คิดเป็นครั้งแรกว่าพวกเขาอาจจะถูกต้อง ท้ายที่สุด เธอเองก็รู้ดีว่าข้อเสนอของเธอนั้นแปลกและกล้าหาญเพียงใด

“ใช่ วันนี้เป็นวันที่ยอดเยี่ยมสำหรับสาเหตุที่ยิ่งใหญ่ Indigo Mammatus Rudd ยืนอยู่ข้างเธอ

พวกเขาหยุดที่ระเบียงสูงเหนือชั้นเมฆที่ลอยอยู่เหนือค้ำยันและสวนบนเนินเขาด้านล่างของอาคารรัฐสภา

– คุณหมายถึงความพ่ายแพ้และความอัปยศอดสู?

รัดด์ส่ายหัวและพูดอย่างอารมณ์ดี:

- วันสุดท้ายของฤดูร้อน พรุ่งนี้อากาศจะหนาวเย็นและมีลมแรง นั่นดูเหมือนจะเป็นลางไม่ดีสำหรับคุณเหรอ?

- ฉันไม่สามารถสงบลงได้ ฉันกลัวที่จะเป็นตัวตลก

“ไม่ช้าก็เร็วเราทุกคนทำให้ตัวเองดูเหมือนตัวตลก ในการทำงานของเรา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

รัดด์และโครมิสเป็นนักการเมืองและพันธมิตรจากกลุ่มต่างๆ ของสภาลินด์บลัดริง

Chromis พูดถึงกลุ่มเล็กๆ ของโลกที่มีคนอาศัยอยู่: มีวัตถุระดับดาวเคราะห์เพียงหนึ่งร้อยสามสิบชิ้นเท่านั้นที่บรรจุอยู่ในปริมาตรของพื้นที่ซึ่งมีความกว้างกว่า 21 ปีแสงเพียงเล็กน้อย เขตเลือกตั้งของรัดด์อยู่บนขอบของวงแหวน ติดกับโลกภายนอกที่กระจัดกระจายของจักรวรรดิลูป 2 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่กว่ามาก มีวัตถุระดับดาวเคราะห์เพียงสี่โหล จากมุมมองทางการเมือง มีความเหมือนกันน้อยมาก - แต่มีเหตุผลเพียงเล็กน้อยสำหรับการทะเลาะวิวาท

ผู้หญิงคนนั้นใช้นิ้วชี้ไปตามแหวนที่มือขวา แกะรอยลวดลายอันสลับซับซ้อนของเส้นที่พันกัน

คิดว่าพวกเขาจะตกลงไหม? ท้ายที่สุดแล้วหนึ่งหมื่นแปดพันปีผ่านไป เรียกร้องจากผู้คนมากเกินไปหรือเปล่าที่พวกเขาตระหนักถึงความสำคัญของเหตุการณ์เมื่อนานมาแล้ว?

“จุดสำคัญของการดำเนินการเล็กๆ น้อยๆ ของเราคือการเฉลิมฉลองวันครบรอบ—เก้าพันปีของรัฐสภาอันรุ่งโรจน์” รัดด์กล่าว โดยแทบไม่มีคำประชดประชันใดๆ “หากผู้แทนที่เหลือไม่สามารถขยับการบิดตัวที่บวมขึ้นได้อีกเล็กน้อย และจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อแปดพันปีที่แล้ว ผู้พิพากษาก็ควรถูกปลดปล่อยออกมา

“อย่าพูดเล่นแบบนั้น” โครมิสเตือนอย่างเคร่งขรึม “เพียงสี่ร้อยปีที่พวกเขาต้องส่งผู้พิพากษาไปที่เฮมล็อค

ใช่มันเป็นเรื่องยุ่งยาก เสียชีวิตอย่างน้อยหนึ่งโหล แต่ Chromis ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ ถ้าพวกเขาไม่เข้าใจ ฉันแนะนำให้โทรหาตำรวจเป็นการส่วนตัว

ทุกคนคงคิดอย่างนั้น!

“ไปที่นั่นและทำให้พวกเขาตกลง!” รัดด์อุทานพร้อมกับยื่นมือออกมา - ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ต้องการทดสอบความอดทนของพวกเขาด้วยการมาสาย

เธอจับมือเขาอย่างสง่างาม รุดน่ารักมาก Chromis รู้ว่าเธอก็เช่นกัน หลายคนถือว่าเธอมีเสน่ห์มากในสภาคองเกรส พวกเขาอาจเป็นคู่รักที่สวยงาม แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นสงบสุขอย่างหมดจด ทั้งสองมีคู่ครองในโลกบ้านเกิดของพวกเขานอนหลับอยู่ในภาวะชะงักงันจนกระทั่งรัดด์และโครมิสกลับมาจากนิวฟาร์ฟลอเรนซ์ Khromis รักสามีของเธอแม้ว่าเธอจะไม่ได้คิดถึงเขาทุกวัน หากปราศจากความช่วยเหลือจากเขา มันจะเป็นเรื่องยากมากที่จะโน้มน้าวดาวเคราะห์หนึ่งร้อยสามสิบดวงว่าพวกเขาควรสนับสนุนแนวคิดเดียวกัน โครงการน่าจะหยุดไปนานแล้ว

- รัดด์ ฉันเป็นห่วง ฉันเกรงว่าฉันจะทำลายการฝึกเกือบพันปี

ใจเย็นๆ ทำตามแผน! รัดด์เตือนอย่างเคร่งขรึม ไม่มีไอเดียเจ๋งๆ ในนาทีสุดท้าย!

- เช่นเดียวกับคุณ จำคำสำคัญ: "ผู้รับที่ตั้งใจไว้"

เพื่อนเก่ายิ้มให้เธออย่างมั่นใจและพาเธอเข้าไปในห้องประชุมกว้างใหญ่

อาคารหลังนี้สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษแรก ๆ ของรัฐสภา โดยหวังว่าจะขยายอิทธิพลไปยังดินแดนที่รัฐเพื่อนบ้านยึดครองอยู่ในขณะนี้ นิวฟาร์ฟลอเรนซ์มีพื้นที่เพียงพอ: ผู้เข้าร่วมประชุมมากกว่าหนึ่งร้อยคนกระจัดกระจายไปทั่วอัฒจันทร์หนึ่งตารางกิโลเมตรในขณะที่เพดานสูงขึ้นสิบกิโลเมตรเหนือพวกเขา ตรงกลางห้องโถง จอลูกบาศก์ที่ไม่มีหลักประกันถูกหมุนช้าๆ บนใบหน้าของผู้พูดมักจะเข้ามาแทนที่กัน แต่ตอนนี้ ระหว่างรอเซสชั่นเริ่มต้น สัญลักษณ์โบราณของสภาคองเกรสกำลังหมุนอยู่บนจอแสดงผล: การจำลองสามมิติของ Vitruvian Man ที่มีชื่อเสียงของ Leonardo da Vinci

Chromis และ Rudd ขึ้นแท่น ผู้เข้าร่วมประชุมคนสุดท้ายมาถึงเปลือกหอย: ร่างมนุษย์สีดำก็ปรากฏขึ้นในห้องโถงจากนั้นเปลือกก็ละลายเผยให้เห็นคน เครื่องเฟมโตของเปลือกหอยผสานเข้ากับเครื่องจักรของอาคาร วัตถุประดิษฐ์ทั้งหมดใน Lindblad Ring Congress—ตั้งแต่ไลเนอร์ขนาดใหญ่ที่ขยับเฟรมไปจนถึงหุ่นยนต์ทางการแพทย์ที่เล็กที่สุด—ประกอบด้วยสำเนาขององค์ประกอบขนาดเฟมโตสากลเดียวกันจำนวนนับไม่ถ้วน

ชั่วโมงแรกของการประชุมถูกครอบครองโดยธุรกิจประจำ Chromis นั่งอย่างอดทนและครุ่นคิดคำพูด บางทีคุณควรเริ่มต้นด้วยอย่างอื่น? อืม... เป็นการยากที่จะวัดอารมณ์ของคนในปัจจุบัน แต่รัดด์พูดถูกแน่นอน คุณไม่สามารถเปลี่ยนแผนในระหว่างการเดินทาง Chromis สงบลง รวบรวมตัวเอง และเมื่อถึงเวลาต้องพูด เธอพูดในสิ่งที่เธอได้เรียนรู้และซ้อมล่วงหน้าอย่างแน่นอน

“ผู้แทนที่รัก” เธอกล่าวขณะที่ภาพของเธอปรากฏบนลูกบาศก์แสดงผล “วันครบรอบหมื่นปีของการก่อตั้งอาณานิคมแห่งแรกของเรา จุดเริ่มต้นของสิ่งที่เราเรียกว่ารัฐสภาลินด์บลัดริงกำลังใกล้เข้ามาแล้ว ฉันคิดว่าเราทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าเพื่อเป็นเกียรติแก่เหตุการณ์สำคัญเช่นนี้ ควรมีการจัดสิ่งที่สำคัญ ควรสะท้อนถึงความสำเร็จของเรา ความสำเร็จของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงวิธีการเฉลิมฉลองวันครบรอบในเมืองใกล้เคียง มีข้อเสนอมากมายเกี่ยวกับวิธีที่จะทำให้การออกเดทที่ยอดเยี่ยมตลอดไป ตัวอย่างเช่น โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่: แปลงสภาพเป็นดาวเคราะห์ที่มีคุณค่า หรือการชุบตัวของดาวฤกษ์ในเวลาที่เหมาะสม โลกาภิวัตน์ของไดสัน หรือ - เพียงเพราะเป็นไปได้ - การกระโดดอย่างเป็นระบบของคนทั้งโลก นอกจากนี้ยังมีโครงการเล็กๆ น้อยๆ เช่น การสร้างโดมหรือน้ำพุประติมากรรม

Alastair Reynolds

สตาร์ไอซ์

ดวงดาวมีเวลาที่ดีที่สุด - แล้วพวกเขาก็ออกไป

นิค เคฟ

Alastair Reynolds

ลิขสิทธิ์ © 2005 โดย Alastair Reynolds

สงวนลิขสิทธิ์


© D. Mogilevtsev, การแปล, 2016

© ฉบับในภาษารัสเซีย LLC Publishing Group Azbuka-Atticus, 2016 โดย

สำนักพิมพ์ AZBUKA®

* * *

Alastair Reynolds เป็นหนึ่งในนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ชั้นนำของอังกฤษ เขาอาศัยอยู่ในฮอลแลนด์เป็นเวลาหลายปี โดยทำงานร่วมกับศูนย์วิจัยและเทคโนโลยีอวกาศแห่งยุโรป เช่นเดียวกับนักเขียนหลายคนที่มีประสบการณ์จริงในสาขาวิทยาศาสตร์ "สุดยอดวิทยาศาสตร์" เช่น ดาราศาสตร์และฟิสิกส์ เขาหลงใหลในนิยายที่ "ยาก" แต่ในขณะเดียวกัน ผลงานของเขาก็มีพลวัตและเต็มไปด้วยจิตวิทยาอยู่เสมอ - นี่คือการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดอย่างแท้จริงในสภาพแวดล้อมของอวกาศที่ไร้ความปราณี

อนาคตที่ Reynolds เห็นคือความมืดมิดและมืดสนิทของอวกาศระหว่างดวงดาวซึ่งถูกครอบงำโดยปัญญาประดิษฐ์

สำนักพิมพ์รายสัปดาห์

แฟนนิยายวิทยาศาสตร์ดีๆ จะไม่ผิดหวัง

สำนักพิมพ์รายสัปดาห์สเตรนจ์ฮอไรซันส์

จินตนาการไซไฟของ Reynolds นั้นไม่มีใครเทียบได้

โลคัส

เรย์โนลด์สเขียนบทร้อยแก้วที่มีกล้ามแน่นซึ่งผสมผสานการพัฒนาโครงเรื่องอย่างเข้มข้นเข้ากับภาษาวิทยาศาสตร์ที่ขัดเกลา ทั้งหมดนี้เป็นลักษณะเฉพาะของตัวอย่างที่ดีที่สุดของโอเปร่าอวกาศหลังสมัยใหม่

นิยายวิทยาศาสตร์รายสัปดาห์

เธอชื่อ Chromis Dream-Grass Bower ในความพยายามที่จะนำเสนอความคิดของเธอ เธอมาไกลมากแล้ว ลางสังหรณ์ของความล้มเหลวนั่งอยู่ที่ไหนสักแห่งในมุมไกลของจิตสำนึกหลังจากกระโดดข้ามปีแสงที่เวียนหัวไปยัง New Far Florence และลงจอดบนเมืองหลวงของดาวเคราะห์ที่สภาคองเกรสมาบรรจบกันกลายเป็นความเชื่อมั่นที่ชั่วร้ายและเป็นพิษที่เผาไหม้ภายใน: ความพ่ายแพ้อันน่าอัปยศอดสูรออยู่ข้างหน้า มีคนเพียงพอเสมอที่คาดการณ์ความล้มเหลวของโครงการ - แต่ตอนนี้ Chromis คิดเป็นครั้งแรกว่าพวกเขาอาจจะถูกต้อง ท้ายที่สุด เธอเองก็รู้ดีว่าข้อเสนอของเธอนั้นแปลกและกล้าหาญเพียงใด

“ใช่ วันนี้เป็นวันที่ยอดเยี่ยมสำหรับสาเหตุที่ยิ่งใหญ่ Indigo Mammatus Rudd ยืนอยู่ข้างเธอ

พวกเขาหยุดที่ระเบียงสูงเหนือชั้นเมฆที่ลอยอยู่เหนือค้ำยันและสวนบนเนินเขาด้านล่างของอาคารรัฐสภา

– คุณหมายถึงความพ่ายแพ้และความอัปยศอดสู?

รัดด์ส่ายหัวและพูดอย่างอารมณ์ดี:

- วันสุดท้ายของฤดูร้อน พรุ่งนี้อากาศจะหนาวเย็นและมีลมแรง นั่นดูเหมือนจะเป็นลางไม่ดีสำหรับคุณเหรอ?

- ฉันไม่สามารถสงบลงได้ ฉันกลัวที่จะเป็นตัวตลก

“ไม่ช้าก็เร็วเราทุกคนทำให้ตัวเองดูเหมือนตัวตลก ในการทำงานของเรา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

รัดด์และโครมิสเป็นนักการเมืองและพันธมิตรจากกลุ่มต่างๆ ของสภาลินด์บลัดริง

Chromis พูดถึงกลุ่มเล็กๆ ของโลกที่มีคนอาศัยอยู่: มีวัตถุระดับดาวเคราะห์เพียงหนึ่งร้อยสามสิบชิ้นเท่านั้นที่บรรจุอยู่ในปริมาตรของพื้นที่ซึ่งมีความกว้างกว่า 21 ปีแสงเพียงเล็กน้อย เขตเลือกตั้งของรัดด์อยู่บนขอบของวงแหวน ติดกับโลกภายนอกที่กระจัดกระจายของจักรวรรดิลูป 2 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่กว่ามาก มีวัตถุระดับดาวเคราะห์เพียงสี่โหล จากมุมมองทางการเมือง มีความเหมือนกันน้อยมาก - แต่มีเหตุผลเพียงเล็กน้อยสำหรับการทะเลาะวิวาท

ผู้หญิงคนนั้นใช้นิ้วชี้ไปตามแหวนที่มือขวา แกะรอยลวดลายอันสลับซับซ้อนของเส้นที่พันกัน

คิดว่าพวกเขาจะตกลงไหม? ท้ายที่สุดแล้วหนึ่งหมื่นแปดพันปีผ่านไป เรียกร้องจากผู้คนมากเกินไปหรือเปล่าที่พวกเขาตระหนักถึงความสำคัญของเหตุการณ์เมื่อนานมาแล้ว?

Alastair Reynolds

สตาร์ไอซ์

ดวงดาวมีเวลาที่ดีที่สุด - แล้วพวกเขาก็ออกไป

เธอชื่อ Chromis Dream-Grass Bower ในความพยายามที่จะนำเสนอความคิดของเธอ เธอมาไกลมากแล้ว ลางสังหรณ์ของความล้มเหลวนั่งอยู่ที่ไหนสักแห่งในมุมไกลของจิตสำนึกหลังจากกระโดดข้ามปีแสงที่เวียนหัวไปยัง New Far Florence และลงจอดบนเมืองหลวงของดาวเคราะห์ที่สภาคองเกรสมาบรรจบกันกลายเป็นความเชื่อมั่นที่ชั่วร้ายและเป็นพิษที่เผาไหม้ภายใน: ความพ่ายแพ้อันน่าอัปยศอดสูรออยู่ข้างหน้า มีคนเพียงพอเสมอที่คาดการณ์ความล้มเหลวของโครงการ - แต่ตอนนี้ Chromis คิดเป็นครั้งแรกว่าพวกเขาอาจจะถูกต้อง ท้ายที่สุด เธอเองก็รู้ดีว่าข้อเสนอของเธอนั้นแปลกและกล้าหาญเพียงใด

ใช่ วันนี้เป็นวันที่ยอดเยี่ยมสำหรับสาเหตุอันยิ่งใหญ่ - Redfin Indigo Mammatus ยืนอยู่ข้างเธอ

พวกเขาหยุดที่ระเบียงสูงเหนือชั้นเมฆที่ลอยอยู่เหนือค้ำยันและสวนบนเนินเขาด้านล่างของอาคารรัฐสภา

คุณหมายถึงการเอาชนะและอัปยศ?

รัดด์ส่ายหัวและพูดอย่างอารมณ์ดี:

วันสุดท้ายของฤดูร้อน พรุ่งนี้อากาศจะหนาวเย็นและมีลมแรง นั่นดูเหมือนจะเป็นลางไม่ดีสำหรับคุณเหรอ?

ฉันไม่สามารถสงบลง ฉันกลัวที่จะเป็นตัวตลก

ไม่ช้าก็เร็วเราทุกคนทำให้ตัวเองดูเหมือนตัวตลก ในการทำงานของเรา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

รัดด์และโครมิสเป็นนักการเมืองและพันธมิตรจากกลุ่มต่างๆ ของสภาลินด์บลัดริง

Chromis พูดถึงกลุ่มเล็กๆ ของโลกที่มีคนอาศัยอยู่: มีวัตถุระดับดาวเคราะห์เพียงหนึ่งร้อยสามสิบชิ้นเท่านั้นที่บรรจุอยู่ในปริมาตรของพื้นที่ซึ่งมีความกว้างกว่า 21 ปีแสงเพียงเล็กน้อย เขตเลือกตั้งของรัดด์อยู่บนขอบของวงแหวน ซึ่งติดกับโลกภายนอกที่กระจัดกระจายของจักรวรรดิลูป-2 ครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่กว่ามาก มีวัตถุระดับดาวเคราะห์เพียงสี่โหล จากมุมมองทางการเมือง มีความเหมือนกันน้อยมาก - แต่มีเหตุผลเพียงเล็กน้อยสำหรับการทะเลาะวิวาท

ผู้หญิงคนนั้นใช้นิ้วชี้ไปตามแหวนที่มือขวา แกะรอยลวดลายอันสลับซับซ้อนของเส้นที่พันกัน

คิดว่าพวกเขาจะยอมไหม? ท้ายที่สุดแล้วหนึ่งหมื่นแปดพันปีผ่านไป เรียกร้องจากผู้คนมากเกินไปหรือเปล่าที่พวกเขาตระหนักถึงความสำคัญของเหตุการณ์เมื่อนานมาแล้ว?

จุดประสงค์ทั้งหมดของการดำเนินการเล็กๆ น้อยๆ ของเราคือการเฉลิมฉลองวันครบรอบ - เก้าพันปีแห่งสภาคองเกรสอันรุ่งโรจน์ - รัดด์กล่าวว่าแทบไม่มีคำประชดประชัน - หากผู้ได้รับมอบหมายที่เหลือไม่สามารถขยับการบิดตัวที่บวมขึ้นได้อีกเล็กน้อย และจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อแปดพันปีที่แล้ว ผู้พิพากษาก็ควรได้รับการปลดปล่อยจากพวกเขา

อย่าล้อเล่นอย่างนั้น โครมิสเตือนอย่างเคร่งขรึม “เพียงสี่ร้อยปีที่พวกเขาต้องส่งผู้พิพากษาไปที่เฮมล็อค

ใช่มันเป็นเรื่องยุ่งยาก เสียชีวิตอย่างน้อยหนึ่งโหล แต่ Chromis ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ ถ้าพวกเขาไม่เข้าใจ ฉันแนะนำให้โทรหาตำรวจเป็นการส่วนตัว

ทุกคนคงคิดอย่างนั้น!

ออกไปที่นั่นและทำให้พวกเขาเห็นด้วย! รัดด์อุทานพร้อมกับยื่นมือออกมา - ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ต้องการทดสอบความอดทนของพวกเขาด้วยการมาสาย

เธอจับมือเขาอย่างสง่างาม รุดน่ารักมาก Chromis รู้ว่าเธอก็เช่นกัน หลายคนถือว่าเธอมีเสน่ห์มากในสภาคองเกรส พวกเขาอาจเป็นคู่รักที่สวยงาม แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นสงบสุขอย่างหมดจด ทั้งสองมีคู่ครองในโลกบ้านเกิดของพวกเขานอนหลับอยู่ในภาวะชะงักงันจนกระทั่งรัดด์และโครมิสกลับมาจากนิวฟาร์ฟลอเรนซ์ Khromis รักสามีของเธอแม้ว่าเธอจะไม่ได้คิดถึงเขาทุกวัน หากปราศจากความช่วยเหลือจากเขา มันจะเป็นเรื่องยากมากที่จะโน้มน้าวดาวเคราะห์หนึ่งร้อยสามสิบดวงว่าพวกเขาควรสนับสนุนแนวคิดเดียวกัน โครงการน่าจะหยุดไปนานแล้ว

รัดด์ ฉันเป็นห่วง ฉันเกรงว่าฉันจะทำลายการฝึกเกือบพันปี

ใจเย็นๆ ทำตามแผน! รัดด์เตือนอย่างเคร่งขรึม - ไม่มีไอเดียเจ๋ง ๆ ในนาทีสุดท้าย!

เช่นเดียวกับคุณ จำคำสำคัญ: "ผู้รับที่ตั้งใจไว้"

เพื่อนเก่ายิ้มให้เธออย่างมั่นใจและพาเธอเข้าไปในห้องประชุมกว้างใหญ่

อาคารหลังนี้สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษแรก ๆ ของรัฐสภา โดยหวังว่าจะขยายอิทธิพลไปยังดินแดนที่รัฐเพื่อนบ้านยึดครองอยู่ในขณะนี้ นิวฟาร์ฟลอเรนซ์มีพื้นที่เพียงพอ: ผู้เข้าร่วมประชุมมากกว่าหนึ่งร้อยคนกระจัดกระจายไปทั่วอัฒจันทร์หนึ่งตารางกิโลเมตรในขณะที่เพดานสูงขึ้นสิบกิโลเมตรเหนือพวกเขา ตรงกลางห้องโถง จอลูกบาศก์ที่ไม่มีหลักประกันถูกหมุนช้าๆ บนใบหน้าของผู้พูดมักจะเข้ามาแทนที่กัน แต่ตอนนี้ ระหว่างรอเซสชั่นเริ่มต้น สัญลักษณ์โบราณของสภาคองเกรสกำลังหมุนอยู่บนจอแสดงผล: การจำลองสามมิติของ Vitruvian Man ที่มีชื่อเสียงของ Leonardo da Vinci

Chromis และ Rudd ขึ้นแท่น ผู้เข้าร่วมประชุมคนสุดท้ายมาถึงเปลือกหอย: ร่างมนุษย์สีดำก็ปรากฏขึ้นในห้องโถงจากนั้นเปลือกก็ละลายเผยให้เห็นคน เครื่องเฟมโตของเปลือกหอยผสานเข้ากับเครื่องจักรของอาคาร วัตถุประดิษฐ์ทั้งหมดใน Lindblad Ring Congress - ตั้งแต่ไลเนอร์ขนาดใหญ่ที่ขยับเฟรมไปจนถึงหุ่นยนต์ทางการแพทย์ที่เล็กที่สุด - ถูกสร้างขึ้นจากสำเนาจำนวนนับไม่ถ้วนขององค์ประกอบขนาดเฟมโตสากลเดียวกัน

ชั่วโมงแรกของการประชุมถูกครอบครองโดยธุรกิจประจำ Chromis นั่งอย่างอดทนและครุ่นคิดคำพูด บางทีคุณควรเริ่มต้นด้วยอย่างอื่น? อืม... เป็นการยากที่จะวัดอารมณ์ของคนในปัจจุบัน แต่รัดด์พูดถูกแน่นอน คุณไม่สามารถเปลี่ยนแผนในระหว่างการเดินทาง Chromis สงบลง รวบรวมตัวเอง และเมื่อถึงเวลาต้องพูด เธอพูดในสิ่งที่เธอได้เรียนรู้และซ้อมล่วงหน้าอย่างแน่นอน

ผู้ได้รับมอบหมายที่มีชื่อเสียง” เธอกล่าวขณะที่ภาพของเธอปรากฏบนลูกบาศก์แสดงผล “วันครบรอบหมื่นปีของการก่อตั้งอาณานิคมแห่งแรกของเรา จุดเริ่มต้นของสิ่งที่เราเรียกว่ารัฐสภาลินด์บลัดริงกำลังใกล้เข้ามา ฉันคิดว่าเราทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าเพื่อเป็นเกียรติแก่เหตุการณ์สำคัญเช่นนี้ ควรมีการจัดสิ่งที่สำคัญ ควรสะท้อนถึงความสำเร็จของเรา ความสำเร็จของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงการฉลองวันครบรอบในนโยบายใกล้เคียง มีข้อเสนอมากมายเกี่ยวกับวิธีที่จะทำให้การออกเดทที่ยอดเยี่ยมตลอดไป ตัวอย่างเช่น โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่: แปลงสภาพเป็นดาวเคราะห์ที่มีคุณค่า หรือการชุบตัวของดาวฤกษ์ในเวลาที่เหมาะสม โลกาภิวัตน์ของไดสัน หรือ - เพียงเพราะเป็นไปได้ - การกระโดดอย่างเป็นระบบของคนทั้งโลก นอกจากนี้ยังมีโครงการเล็กๆ น้อยๆ เช่น การสร้างโดมหรือน้ำพุประติมากรรม

Chromis เงียบและมองอย่างตั้งใจไปที่ผู้เขียนของโครงการเจียมเนื้อเจียมตัวเหล่านี้ บางทีผู้ที่กล้าทำสิ่งนี้อาจจะละอายใจกับสายตาสั้นที่น่าสะพรึงกลัวของพวกเขา?

ในบรรดาโครงการต่างๆ มีโครงการที่โดดเด่นมากมาย ย่อมมีมาใหม่ไม่คู่ควรแน่นอน แต่ฉันต้องการเสนอการกระทำที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง อย่ารบกวนตัวเองเลย สร้างอนุสาวรีย์ในสวนหลังบ้านทางช้างเผือกของเรา ฉันขอเสนอสิ่งที่เห็นแก่ผู้อื่นมากขึ้นอย่างนอบน้อมถ่อมตน ฉันเสนอการกระทำที่ชัดเจนของความกตัญญูกตเวที: ข้อความข้ามเวลาและระยะทาง ผู้รับจะเป็นบุคคล - หรือลูกหลานของเธอ - โดยที่โครงสร้างของสังคมของเราจะดูแตกต่างไปจากเดิมอย่างจำไม่ได้!

Chromis เงียบอีกครั้ง ไม่สามารถวัดอารมณ์ของผู้ร่วมประชุมได้ ใบหน้าที่เฉยเมยของผู้ที่นั่งใกล้ ๆ ไม่ได้แสดงให้เห็นอะไรเลย เธอหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดต่อ:

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราจะทำสำเร็จทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่มีข้อสงสัยว่าการเคลื่อนไหวของเราจะใช้เวลาหลายหมื่นปี ไม่ใช่แค่สองสามพันปีเท่านั้น? แทนที่จะเป็นภาพโมเสกของเมืองที่แผ่กระจายไปทั่วดิสก์กาแล็กซี่หนึ่งหมื่นสองพันปีแสง เราจะยังคงผูกติดอยู่กับระบบดาวจำนวนหนึ่ง และต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่ความเข้มข้นดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และอย่าลืมว่าความรู้อันมีค่าที่สุดที่ทำให้สามารถก้าวข้ามการพัฒนาที่ก้าวหน้าอย่างช้าๆ ไปหลายศตวรรษได้นั้นมอบให้เราโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ผู้มีพระคุณของเราส่งความรู้มายังโลกเพราะเธอคิดว่ามันถูกต้อง

ที่นี่ Chromis ลังเล โดยตระหนักดีว่าผู้ที่มาชุมนุมหลายคนเรียกผู้หญิงคนนั้นอย่างเป็นทางการว่าผู้มีพระคุณในทางที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ความรู้นั้นเกือบจะทำลายมนุษยชาติในขณะที่มันหลอมรวมเข้ากับมัน แต่หนึ่งหมื่นแปดพันปีผ่านไป ทำไมจึงต้องบ่มเพาะความอาฆาตพยาบาท ก่อนที่คนจะเรียนรู้วิธีจัดการกับไฟ ต้องถูกเผาหลายนิ้วเสียก่อน

ร่างบางสะอื้นเบาๆแต่ไม่ได้ขัดจังหวะ Chromis รั้งตัวเอง

ข้าพเจ้าทราบว่าพวกท่านหลายคนลืมแก่นแท้ของพระคุณที่มีมาช้านาน ฉันหวังว่าในไม่ช้าฉันจะสามารถฟื้นฟูความทรงจำทั่วไปของเราได้ แต่ก่อนอื่น ให้ฉันร่างข้อเสนอของฉัน

เธอหันศีรษะและเหลือบมองที่ลูกบาศก์แสดงผล ภาพเหมือนของเธอถูกแทนที่ด้วยของกาแล็กซี่: ขนาดใหญ่ โบราณ รกด้วยสิ่งประดิษฐ์ของสปิกัน แต่เท่าที่ผู้คนรู้ ไร้ชีวิต - ยกเว้นส่วนเล็ก ๆ ของกิ่งก้านเดียว ค่อนข้างเล็กเหมือนจุดหมึกเบลอ

ผู้อุปถัมภ์และผู้คนของเธอยังคงอยู่ที่นั่นอยู่ที่ไหนสักแห่ง พวกเขาเกือบจะอยู่เหนือขอบเขตวัสดุอย่างแน่นอน หรืออาจจะอยู่นอกกาแล็กซี่ เว้นแต่จักรวาลจะมีเล่ห์เหลี่ยมมากเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้ ผู้มีพระคุณไม่สามารถไปไกลกว่าหนึ่งหมื่นแปดพันปีแสง - และจากนั้นก็ต่อเมื่อเธอยังคงย้ายจากเราไป หรือบางทีเธออาจถึงที่หมายแล้ว ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ฉันคิดว่าเราควรส่งจดหมายถึงเธอ และไม่ใช่การส่งผ่านภาคสนาม ไม่ว่ามันจะราคาถูกและเรียบง่ายเพียงใด แต่เป็นสิ่งประดิษฐ์ทางกายภาพ บางสิ่งที่สามารถอัดแน่นด้วยข้อมูลจนถึงขีดจำกัดของไฮเซนเบิร์ก แน่นอนว่ามีปัญหาที่ชัดเจนในการส่งสิ่งประดิษฐ์ทางกายภาพ เราไม่รู้แน่ชัดว่าจะส่งไปที่ไหน แต่การแก้ปัญหานั้นง่ายมาก เราจะผลิตสิ่งประดิษฐ์ให้ได้มากที่สุด - หลายพันล้าน - และส่งไปในทุกทิศทาง และหวังว่าจดหมายจะพบผู้รับไม่ช้าก็เร็ว

ก่อนอื่นเกี่ยวกับความดี นี่คือจักรวาล มืดมิด หนาวเย็น แต่ก็ยังเหมือนเดิม ซึ่งเหมือนคลาร์ก "เต็มไปด้วยดวงดาว" นี่คือห้วงอวกาศที่เชิญชวนคุณเข้าสู่การเดินทางครั้งยิ่งใหญ่พร้อมความลับมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะอธิบายไม่ถูก อย่างไรก็ตาม เหมาะสมกับความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุด นี่คือคอสมอสที่อยู่ห่างไกลออกไปมาก ซึ่งครอบคลุมระยะทางและเวลานับล้านปีแสง ความสัมพันธ์ของเหตุและผลที่ซับซ้อน มนุษย์ต่างดาวในทุกประเภทและเฉดสี และเทคโนโลยีที่เทียบได้กับเวทมนตร์

โครงเรื่องดีมากจริงๆ มนุษยชาติกำลังเข้าสู่ระบบสุริยะ พัฒนาทรัพยากรใหม่เมื่อดวงจันทร์ดวงหนึ่งของดาวเสาร์ถูกค้นพบว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ต่างดาว วางโดยไม่มีใครรู้ว่าใครและไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไหร่เขาก็เริ่มแสดงกิจกรรม เรือลำหนึ่งที่มีพนักงานธรรมดาของบริษัทหนึ่งในบริษัทนั้นอยู่ใกล้ที่สุดและรีบเร่งในการไล่ตามความลับที่เข้าใจยาก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เรือลำนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเดินทางนับล้านปีในจักรวาล เช่นเดียวกับใน Clark's Odyssey หรือใน Rendezvous with Rama ของเขา: ความลึกลับอันยิ่งใหญ่ที่เชื้อเชิญมนุษยชาติให้ออกจากเปลและมีส่วนร่วมในการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่

และโครงเรื่องนี้มีเกือบทุกอย่างที่เราต้องการจากนิยายอวกาศ ยานอวกาศ การเดินทางระหว่างดวงดาว มนุษย์ต่างดาว ความลึกลับที่ไม่สามารถแก้ไขได้ การสำรวจโลกใหม่ ภัยพิบัติ และแม้แต่การต่อสู้ในอวกาศ มีทุกอย่าง แต่ปัญหาคือวิธีการใช้ "ALL" นี้

ฉันจะพยายามอธิบายวิธีการดำเนินการนี้โดยสังเขปและเข้าใจได้ชัดเจนมาก ถ้าพระเจ้าห้าม ฉันต้องแนะนำหนังสือในชีวิตที่บอกว่าเหตุใดผู้หญิงไม่ควรได้รับอนุญาตให้ทำอะไรที่จริงจังเลย นิยายเรื่องนี้จะเป็นเล่มแรกในรายการ นอกจากนี้ เขาจะเป็นผู้นำในรายชื่อหนังสือที่บอกว่าเหตุใดมิตรภาพของผู้หญิงจึงเป็นเทพนิยายสำหรับเด็กหญิงตัวน้อย ผมยังสามารถแนะนำหนังสือเล่มนี้ให้กับผู้ที่สนใจปัญหานโยบายบุคลากร

โดยทั่วไปแล้ว ฉันมีข้อตำหนิอย่างมากเกี่ยวกับนโยบายด้านบุคลากรของยุคอวกาศ ตามที่นักเขียนสมัยใหม่อธิบายไว้ หนึ่งได้รับความประทับใจว่าในอนาคตอันใกล้พวกเขาจะส่งคนที่มีสุขภาพดีที่สุดมีระเบียบวินัยและได้รับการฝึกฝนอย่างมืออาชีพ แต่เฉพาะพลเมืองที่ไม่มั่นคงทางจิตใจที่ทุกข์ทรมานจากโรคกลัวและโรคประสาทที่จิตแพทย์คนใดจะอิจฉา แต่ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ง่าย ในอนาคตอันไกลโพ้น มีเพียงคนโรคจิต คนบ้า และพวกซาดิสม์เท่านั้นที่จะเข้าสู่จักรวาล

เนื่องจากเรากำลังพูดถึงอนาคตอันใกล้นี้ ตัวเลือกก็จะยังง่ายกว่า แต่การประลองของผู้หญิงในศตวรรษต่างๆ กลับกลายเป็นเรื่องหนักหนาสาหัส คุณต้องการสิ่งนี้อย่างไร ในอนาคตอันใกล้นี้มีเพื่อนสนิทสองคนคือ Bella และ Sveta (คุณเข้าใจไหม: แฟนไม่มีความลับจากกันและกันและพวกเขาก็เชื่อใจซึ่งกันและกันโดยไม่มีเงื่อนไข) แต่ปัญหาคือ คนหนึ่งเป็นเจ้านาย อีกคนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอ อยู่มาวันหนึ่งมีบางอย่างเกิดขึ้นและแฟนทะเลาะกัน ไม่มีอะไรสำคัญนักที่คนมีเหตุผลสองคนไม่สามารถตัดสินใจได้เพียงแค่พูดคุยกันโดยมีข้อเท็จจริงอยู่ในมือ แต่การเผชิญหน้ากันในระดับจักรวาลอย่างแท้จริง และดูเหมือนมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น นี่เป็นเรื่องธรรมดาที่เล่าซ้ำทุกชั่วโมงบนโลกอันเป็นที่รักของเราเกี่ยวกับเวลาที่หางของเราตกลงมา หรืออาจจะตั้งแต่สมัยก่อนเมื่อเราถูกแบ่งแยกเป็นเด็กชายและเด็กหญิง

เศร้าจนน้ำตาไหล เนื่องจากการค้นพบที่ยอดเยี่ยมทั้งหมด - การเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ผ่านอวกาศและเวลา, การต่อสู้ในอวกาศ, เอเลี่ยน, ความลับสากล, เทคโนโลยีขั้นสูง - กลายเป็นเพียงฉากหลังของความสัมพันธ์ที่ยาวนานระหว่างเพื่อนกับศัตรู . ผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกที่มีอายุตั้งแต่สามขวบขึ้นไปสามารถบอกสิ่งเหล่านี้ได้หลายสิบอย่าง โดยไม่มีรายละเอียดที่เลวร้ายแม้แต่น้อย แต่ฉันได้เรียนรู้บางสิ่งที่เป็นประโยชน์จากสิ่งนี้: รายการร้องเรียนเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่บุคคลในอนาคตของฉันถูกเติมเต็มด้วยรายการใหม่ในหัวข้อผู้นำหญิง และไม่ใช่แค่ในอวกาศเท่านั้น

คะแนน: 7

จากหน้าแรกหนังสือดูมีแนวโน้ม ผู้เขียนเปิดหน้าเราถึงความคาดหวังที่จะได้เห็นการเดินทางของขนาดมหึมาและความสำเร็จ เต็มไปด้วยช่องว่างอันไร้ขอบเขตของจักรวาล อันตรายของมัน การเปิดเผยความลึกลับของศักยภาพนับไม่ถ้วนที่เก็บไว้โดยดาวที่ห่างไกล การแสวงหาสิ่งที่ไม่รู้จัก ความเป็นไปได้ทีละน้อย ของการติดต่อที่ถูกกล่าวหาครั้งแรก ... เป็นต้น เป็นที่ชัดเจนว่าการเดินทางครั้งนี้จะต้องอันตราย ยากลำบาก จะต้องมีความขัดแย้งในความสัมพันธ์ระหว่างผู้เข้าร่วม ความขัดแย้ง ความผิดพลาด การตัดสินใจ - โดยทั่วไปจุดเริ่มต้นของหนังสือสัญญาทั้งหมดนี้ ฉันอ่านส่วนแรกอย่างสบายๆ และน่าสนใจ และฉันก็ชอบมัน แต่นั่นคือจุดสิ้นสุดความสนใจของฉัน

ผู้เขียนมักจะเพ้อฝันด้วยความคิดและส่วนใหญ่มีความน่าสนใจและสดใส แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง การนำความคิดไปใช้ในทางตรงข้าม - ในส่วนที่สองพวกเขากลายเป็นบ้าและบ้าคลั่งมากขึ้นเรื่อย ๆ และแทบจะไม่ไปถึงส่วนที่สามเลยสำหรับฉันดูเหมือนว่าหนังสือเล่มนี้เริ่มดูเหมือนใหญ่โต หม้อต้มเดือดที่ลอยอยู่เหนือไฟ ผู้เขียนโยนทุกอย่างเป็นแถวจำนวนส่วนผสมไม่มีที่สิ้นสุด - มีรสหวานเค็มและเผ็ดและเปรี้ยวใครจะรู้ว่ามันมาจากไหน เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะผสมมันทั้งหมดและไม่ได้อธิบายว่าทำไมเขาถึงต้องการมาก ... บางทีเขาอาจจินตนาการว่าจานควรมีลักษณะอย่างไรในตอนท้าย แต่ต่อหน้าต่อตาฉัน มีฟองมากมายออกมาจากหม้อต้มน้ำ ซึ่งดับไฟด้วยของที่อยู่ในนั้น มีควันและกลิ่นเหม็นมาก

บอกตรงๆ ว่าผิดหวังมาก เกือบเป็นครั้งแรกที่ฉันไม่ชอบตัวละครใด ๆ ฉันก็ไม่มีอะไรให้จับเลย ตอนแรกฉันยังคงจัดลำดับความสำคัญ แต่หลังจากนั้นทุกอย่างก็สูญเปล่า ความขัดแย้งระหว่างอัลฟ่าหญิงสองคนนั้นดีในตอนเริ่มต้นและเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการพัฒนาเรื่องราว แต่เขาก็กลายเป็นอาการเพ้อคลั่งที่กินเวลานานหลายทศวรรษ ความขัดแย้งที่ทำร้ายทุกตา และไม่มีใครคัดค้านความขัดแย้งนี้อย่างแข็งขันไม่มีใครมีเหตุผล สันนิษฐานว่านี่คือทีมของนักขุดที่ทรงพลังและแข็งแกร่งที่ผลักน้ำแข็ง "" - แต่ฉันไม่เห็นพวกเขาพวกมันมีอยู่ในคำพูดหรือที่ใดที่หนึ่งในพื้นหลังเท่านั้น และในเบื้องหน้า ผู้หญิงทุกคนเป็นผู้ตัดสิน - พวกเขาอยู่ในเสาหลักทั้งหมด การตัดสินใจทั้งหมดขึ้นอยู่กับพวกเขาเท่านั้น พวกเขาจัดการปฏิบัติการ พวกเขาทำรัฐประหาร ศาล และแม้กระทั่งประหารชีวิตพวกเขาเอง - พวกเขาดำเนินการทุกอย่าง แล้วผู้ชาย...ที่ไหน? คนงานเหมืองเหล่านี้อยู่ที่ไหน เบื้องหน้าของพวกเขาคือเกย์สองสามคน อีกคนหนึ่งอยู่บนเตียงมรณะ คนหนึ่งเป็นผู้ที่ขัดแย้งและเป็นผู้ก่อเหตุ และสามีที่ถูกสาปแช่งอย่างเงียบๆ เหล่านี้ล้วนเป็นผู้ชายที่อยู่เบื้องหน้า มีพวกที่ส่งเสียงอย่างงุ่มง่ามอย่างงุ่มง่าม บางครั้งก็แวบอยู่บนหน้าหนังสือ วรรณกรรมความอดทน "" ในตัวละครนี้ไม่ได้ทำให้ฉันพอใจ

สุดท้ายก็ไม่ชอบหนังสือ ฉันเข้าใจว่าหนังสือเล่มนี้อยู่ในสไตล์ของผู้แต่งอย่างสมบูรณ์: ความคิดที่น่าสนใจ, การวางอุบายที่ยอดเยี่ยม, บรรยากาศที่ยอดเยี่ยม, ความคิดมากมาย, ตอนจบยู่ยี่ - เขามักจะมีมัน แต่มีตัวละครที่ไม่ดี .. . นี่มันมากเกินไปแล้ว

คะแนน: 6

ทิ้งไว้ด้วยความรู้สึกผสม เนื้อหาส่วนใหญ่ของสิงโตถูกครอบครองโดยคำอธิบายของการกบฏที่ค่อยๆ ลุกเป็นไฟขึ้นบนเรือ การประลองระหว่างกัปตันเรือกับหัวหน้าส่วนหนึ่งของทีมที่ต่อต้านเธอ (ผู้หญิงทั้งคู่) ทั้งสองฝ่ายมีพฤติกรรมไม่เห็นอกเห็นใจ (ตามแบบฉบับของ Reynolds) ตอนจบของนวนิยายเรื่องนี้ชวนให้นึกถึง Rendezvous with Rama Clark อย่างยิ่ง:

สปอยเลอร์ (เปิดเผยพล็อต)

เจนัสกลายเป็นยานเอเลี่ยนปลอมตัวมาแน่นอน

ทั้งหมดนี้ ทักษะของ Reynolds ก็ไม่อาจเอาไปได้ น่าแปลกที่ผลลัพธ์นั้นค่อนข้างอ่านง่าย แม้ว่าจะไม่ใช่นิยายที่ดีที่สุดของเขาก็ตาม

คะแนน: 7

"Star Ice" เป็นผลงานการผลิต นิยายวิทยาศาสตร์ที่มีองค์ประกอบของนวนิยายผู้หญิง น่าเสียดายที่ทั้งส่วน "ผู้หญิง" และส่วนการผลิตมีชัยเหนือส่วนที่ยอดเยี่ยม

ดูเหมือนว่าโครงเรื่องจะเป็นโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยม มีหัวข้อต่างๆ มากมายที่เกี่ยวข้องกับอวกาศในคราวเดียว ซึ่งดูน่าสนใจอย่างยิ่งในตอนต้นของนวนิยายเรื่องนี้ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ในท้ายที่สุด กลับกลายเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก

ฉันไม่สามารถหยุดพูดว่า Alastair Reynolds เป็นหนึ่งในนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ที่มีความสามารถมากที่สุดของคลื่นลูกใหม่ เขามีไหวพริบดี เขารู้วิธีประดิษฐ์จักรวาลที่ซับซ้อนและแปลกประหลาดซึ่งมีมนุษย์ต่างดาวสายพันธุ์ที่ไม่คาดคิดอาศัยอยู่ แต่เขามักจะล้มเหลวในการแต่งนิยายให้จบ งานนี้ซึ่งเริ่มเป็นแฟนตาซีระยะใกล้ด้วยกฎฟิสิกส์ที่ไตร่ตรองมาอย่างดีและในส่วนทางเทคนิคนั้นมีความเป็นไปได้ค่อนข้างมากจะไม่เป็นข้อยกเว้น

ความจริงแล้ว นามธรรมดูสดใสและน่าสนใจมาก แต่ตัวหนังสือเองกลับสูญเสียภูมิหลังของมันไป ไม่ได้อยากจะบอกว่ามันไม่ดี เป็นเพียงว่าความคาดหวังสูงเกินไปทุกอย่างเอื้อต่อการพบกันที่สำคัญที่สุดแห่งอนาคตซึ่งจะเริ่มนับถอยหลังอารยธรรมมนุษย์ครั้งใหม่ ไม่ว่าการประชุมครั้งนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ ทุกคนจะตัดสินใจด้วยตัวเองและในที่สุดจะออกมาเป็นอย่างไร

ความสามารถของนักเขียนในการสร้างเทคโนโลยีแห่งอนาคต เพื่อแสดงให้เห็นว่ามนุษย์ต่างดาวและวิวัฒนาการของอารยธรรมที่อาศัยอยู่ในจักรวาลของเรานั้นอยู่ไกลอย่างเหลือเชื่อเพียงใด เป็นคุณลักษณะเด่นของเขา เชื่อเถอะว่า Reynolds "คนแปลกหน้า" ของเขานั้นค่อนข้างเหมือนจริงในจินตนาการ และคุณจะไม่มีวันพบสิ่งมีชีวิตที่คล้ายคลึงกันในหนังสือของเขาเลย ซึ่งมักจะเป็นสิ่งแปลกใหม่เสมอ

ฉันไม่มีข้อตำหนิใด ๆ เกี่ยวกับส่วนมหัศจรรย์ มีที่สำหรับส่วนวิทยาศาสตร์ และสำหรับแฟน ๆ ของการเดินทางระหว่างดวงดาว และสำหรับแฟน ๆ ของสิ่งมีชีวิตนอกโลก แต่มีข้อเรียกร้องอย่างมากในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลัก มันจึงเกิดขึ้นที่ผู้หญิงสองคนนี้เคยเป็นเพื่อนกันและต่อมากลายเป็นศัตรูที่เข้ากันไม่ได้ มีจำนวนมากที่ไม่สมจริงรู้สึกเหมือนคุณกำลังดูละคร "สบู่" เม็กซิกันบางประเภทที่นางเอกเปลี่ยนบทบาทและตำแหน่งอย่างต่อเนื่อง ทำไมผู้เขียนจึงสนใจพวกเขามาก? สำหรับฉัน นี่เป็นความลึกลับที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งการติดตามการทะเลาะวิวาทและการทะเลาะวิวาทของพวกเขาไม่น่าสนใจเลย

สรุปแล้ว Star Ice เป็นนิยายวิทยาศาสตร์อวกาศที่ดี แต่ไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดในคอลเล็กชั่นของ Alastair Reynolds แฟน ๆ ของผู้แต่งและแฟน ๆ ของนิยายวิทยาศาสตร์อ่านโดยไม่ล้มเหลว ถึงกระนั้น ไม่ใช่ทุกวันที่มีการจัดพิมพ์หนังสือโดยผู้แต่งขนาดนี้และไม่ควรพลาดไม่ว่ากรณีใดๆ

คะแนน: 8

ความหนาวเย็นของการเป็น

Star Ice ของ Alastair Reynolds หนาวมาก บรรยากาศของงานเขียนออกมาอย่างชำนาญจนคล้ายกับ Simmons' Terror หนังสือของแดนสามารถอ่านได้ทุกเวลาของปี ทุกที่บนโลก แต่ผลจะเหมือนเดิม - คุณจะเย็นชา หนาวตาย. สามารถพูดได้เช่นเดียวกันเกี่ยวกับหนังสือของ Reynolds

พล็อตเรื่อง "Star Ice" สร้างขึ้นจากยานอวกาศที่นำโดยกัปตันเบลล่า เพนกวินหงอนดันน้ำแข็ง นั่นคือทั้งหมดที่ต้องรู้เกี่ยวกับภารกิจการปล่อยตัวของลูกเรือ อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเจนัส - ดาวเทียมของดาวเสาร์ - ลงมาจากวงโคจรและ .... พยายามอยู่ห่างจากระบบสุริยะ ความเร็วของเจนัสนั้นยอดเยี่ยมมากจนไม่ใช่เรือที่เร็วที่สุดที่จะตามทัน แต่เรือที่อยู่ถัดจากนั้นคือนกเพนกวิน และนี่คือการเริ่มต้นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นที่สุดแห่งหนึ่งในโลกของอวกาศ

ความจริงก็คือเป็นการยากที่จะทำนายอนาคต ฉันยังจะบอกว่าเกินกว่าความเป็นจริง และเพื่อไม่ให้หลุดเข้าไปในสปอยล์ซ้ำซาก ฉันจะสรุปสถานการณ์โดยเรียกมันว่าการติดต่อ นี่ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในนวนิยาย แต่ให้สิ่งสำคัญยังคงเป็นปริศนาสำหรับผู้อ่าน ดังนั้นการติดต่อที่นำเสนอโดย Reynolds จึงดูน่าประทับใจมาก คนที่คุ้นเคยกับชีวิตมนุษย์ต่างดาวประสบปัญหามากมาย การติดต่อประเภทนี้สามารถเปรียบเทียบได้กับสิ่งที่ Mieville และ Stevenson เขียนไว้ในหนังสือของพวกเขา ในความคิดของฉันทั้งคู่จะยังคงแข็งแกร่งกว่า Reynolds หากเราพูดถึงการติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวโดยเฉพาะ

มีตัวละครมากมายใน "Star Ice" ทีมงานประกอบด้วยเกือบ 150 คน ผู้เขียนเรียกชื่อหลายคนและรวมถึงหลายคนในโครงเรื่อง และปล่อยให้หนังสือเล่มนี้อ่านยาก แต่สำหรับแต่ละคน แต่ละคนไม่ได้รู้สึกว่าเป็นแค่กระดาษแข็ง ในแง่ของระดับการพัฒนาของตัวละครระดับสาม Reynolds รับมือได้ไม่เลวร้ายไปกว่า Simmons ใน The Terror มีตัวละครหลักสองคนที่นี่ - Captain Bella และ Svetlana (!) ทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน ทั้งคู่เป็นแฟนงานของพวกเขา ในขณะเดียวกัน ตัวละครทั้งสองก็คาดเดาไม่ได้เท่าที่เป็นไปได้ โดยคำนึงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในส่วนที่สองและสามของหนังสือ ให้ฉันบอกว่าผ่านกลุ่มของ "Bella-Svetlana" Reynolds ทำลายมนุษยชาติด้วยความบอบบางและสายตาสั้น นี่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้อ่านจำนวนมากไม่พอใจกับผู้เขียน มีคนเห็นแง่ลบที่นี่สำหรับการใช้ผู้หญิงบางคนไม่พอใจกับพฤติกรรมของพวกเขา แต่อลาสแตร์ยังห่างไกลจากต้นแบบของพฤติกรรมที่แสดงภาพสเวตลานาและเบลล่าหรือไม่? แทบจะไม่.

ภาษาบรรยายและพลวัต ฉันมีคำถามเล็กน้อยสำหรับผู้แปล มากกว่าหนึ่งครั้งหรือสองครั้งที่ฉันได้พบโครงสร้างทางภาษาดังกล่าวในข้อความที่แทบจะไม่มีอยู่ในข้อความที่แปลที่พัฒนามาอย่างดี อย่างไรก็ตาม หนังสือเล่มนี้สามารถอ่านได้ ตาไม่ยึดติดกับสำนวนที่ "แปลก" มากนัก ฉันคิดว่าพลวัตของงานนั้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ปริมาณของนวนิยายมีขนาดใหญ่ผู้เขียนให้ความสำคัญกับรายละเอียดปลีกย่อยและวีรบุรุษที่อยู่ในบทบาทที่สามหรือสี่เป็นอย่างมาก แต่มันไม่ใช่แค่น้ำ แต่ละย่อหน้ามีจุดประสงค์ของตัวเอง ไม่ใช่ปริมาณเพื่อประโยชน์ของปริมาณ

ข้อเสียสามารถระบุไว้เป็นเวลานาน นี่เป็นทั้งเนื้อเรื่องที่เฉื่อยชาและผลงานของนักแปล (บรรณาธิการ) รวมถึงพฤติกรรมของตัวละครที่จะดูแปลกไปสำหรับหลายๆ คน อีกประเด็นหนึ่งที่ฉันไม่ชอบเป็นการส่วนตัวก็คือ Reynolds มักจะไม่ใส่ใจในรายละเอียดบางอย่าง และแม้ว่าบริบทจะยังให้คำตอบสำหรับคำถาม แต่ก็ยังเป็นไซไฟที่ยาก ไม่ใช่นิยายแปลก ๆ

สรุป: มีหนังสือที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นอุดมคติได้อย่างปลอดภัย ทุกอย่างดีมากในนั้นไม่มีข้อเสียเลย “สตาร์ไอซ์” ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย มันมีข้อเสียค่อนข้างมาก แต่หนังสือของ Alastair Reynolds สามารถสร้างความประหลาดใจและโปรดได้แม้จะมีข้อเสีย ในรายการส่วนตัวของฉันเกี่ยวกับผลงานไซไฟที่ดีที่สุด "Star Ice" ยืนเคียงข้างอย่าง "False Blindness" ของ Watts อย่างกล้าหาญ มาจาก "คนตาบอด" ที่ฉันสัมผัสได้ถึงแนวนี้และเริ่มคุ้นเคยกับมัน

คะแนน: 10

นี่เป็นการติดต่อครั้งแรกของฉันกับผู้เขียน อลังการงานสร้างมาก สิ่งที่ชอบ - อวกาศ ลึก เย็น และแข็ง เทคโนโลยีที่อธิบายในลักษณะที่ธรรมดาและสมเหตุสมผล และคุณเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ สิ่งประดิษฐ์ของอารยธรรมอื่นๆ นั้นน่าสนใจและน่าประทับใจจริงๆ โครงสร้างเอกภพและการพัฒนาจิตใจอื่นๆ ข้อดีที่ไม่ต้องสงสัยของงาน อ่านง่าย รวดเร็ว และน่าสนใจ โครงเรื่องจับได้เพราะมีอุบายและปริศนา แน่นอนว่าไม่พบเบาะแสทั้งหมด ฉันต้องการให้ผู้เขียนให้ความสำคัญกับอีกโลกหนึ่งและ "สวนสัตว์อวกาศ" มากขึ้น แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างผู้เขียนตีจิตวิทยาผู้หญิง และนี่คือลบในความคิดของฉัน มันอ้วนมากสำหรับฉัน เพราะสุดท้ายแล้ว แรงจูงใจก็หายไปในสุญญากาศ ความขัดแย้งในขั้นต้นอาจเป็นเรื่องวัตถุประสงค์ เป็นการจลาจลบนเรือและทั้งหมดนั้น แต่จากนั้นก็เปลี่ยนถ่ายจากที่ว่างเปล่าไปสู่ความว่างเปล่าและการเคี้ยวหมากฝรั่ง นอกจากนี้ เหตุการณ์ยังครอบคลุมหลายทศวรรษ แต่ผู้หญิงหลักของเราไม่ได้เปลี่ยนมิลลิเมตร - พวกเขายังคงพูดถึงความคิดโบราณจากจิตวิทยายอดนิยม เล่นกลสกปรกทั้งเล็กและใหญ่ และยังคงเป็นศัตรูที่โง่เขลาต่อไป ในตอนท้าย ฉันแค่อยากจะออกจากนิยาย ฉันเบื่อพวกป้าที่ทะเลาะวิวาทเหล่านี้มาก ใช่และเห็นได้ชัดว่าผู้เขียนก็เช่นกัน เพราะเขาตัดสินใจที่จะส่งมันลงนรกเพราะความไร้เหตุผลของความขัดแย้งในวัยชรานั้นทำให้ยุ่งเหยิง

ดังนั้นนวนิยายเรื่องนี้จึงทำให้เกิดความประทับใจและมีความปรารถนาที่จะทำความคุ้นเคยกับงานอื่น ๆ ของเขา

คะแนน: 7

เรย์โนลด์สจัดการถ่ายทอดบรรยากาศของห้วงอวกาศได้อย่างเชี่ยวชาญ บรรยายอุปกรณ์และตัวละครแห่งอนาคตทุกประเภทในสถานการณ์สุดขั้วต่าง ๆ กับฉากหลังของอวกาศ และผูกมันเข้าด้วยกันเป็นผลงานที่ไม่เหมือนใคร นิยายเรื่องนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญหลายกลุ่มเกี่ยวกับยานอวกาศขุดดาวหาง-น้ำแข็งมีส่วนร่วมในการไล่ตามดาวเทียมเจนัสที่กำลังเคลื่อนที่อย่างกะทันหัน ในวินาทีสุดท้าย ทีมตระหนักว่าพวกเขาตกลงไปในสนามแรงโน้มถ่วงของดาวเทียม และด้วยความสยดสยองที่เพิ่มขึ้น ก็ได้รู้ว่าอาจมีเชื้อเพลิงไม่เพียงพอสำหรับการเดินทางกลับ และดาวเทียมกำลังมุ่งหน้าไปที่ใด

สปอยเลอร์ (เปิดเผยพล็อต) (คลิกเพื่อดู)

มีรูปแบบวิศวกรรมดาราศาสตร์ที่มนุษย์สร้างขึ้นซึ่งสามารถกลายเป็นที่อยู่อาศัยของหน่วยงานลึกลับบางอย่างที่สามารถช่วยให้นักเดินทางที่โชคร้ายกลับบ้านได้

เป็นผลให้เกิดการแบ่งแยกในทีมของเรือซึ่งนำไปสู่การปรากฏตัวของสองฝ่ายตรงข้าม นวนิยายเรื่องนี้แบ่งออกเป็นหลายตอน โดยแต่ละตอนจะแสดงช่วงชีวิตของลูกเรือของ Crested Penguin เป็นเวลาหลายปี บทที่น่าสนใจที่สุดเริ่มต้นหลังจากดาวเทียมมาถึงโครงสร้างลึกลับ ขอโทษ Reynolds ในตอนท้าย

สปอยเลอร์ (เปิดเผยพล็อต) (คลิกเพื่อดู)

ไม่ได้เปิดเผยที่มาของโครงสร้างที่มนุษย์ดินและตัวแทนของอารยธรรมอื่น ๆ หลายสิบคนล้มลง

บทที่มีการสัมผัสครั้งแรกกับหัวน้ำพุและการติดต่อครั้งที่สองกับสุนัขมัสค์กลายเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก ด้วยสิ่งประดิษฐ์จากอดีตอันไกลโพ้นและในความเป็นจริงจากอนาคต - ลูกบาศก์ที่ผู้เขียนทำได้ดี สิ่งสำคัญคือเธอสามารถใช้พลังของเขากับสถานที่ที่เมื่อการแบ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้เริ่มขึ้นใน nanosmelter อย่างกลมกลืนและสวยงาม Reynolds ประสบความสำเร็จในการทอเทคโนโลยีและสิ่งประดิษฐ์จากต่างดาวจากอารยธรรมต่างๆ (อาจเป็นหัวข้อที่ฉันชอบ) สำหรับตัวละคร การเผชิญหน้าของผู้เขียนระหว่างผู้หญิงสองคนนั้นดูเหมือนจะแกล้งทำเป็นเล็กน้อย

Sci-Fi ที่เป็นของแข็งสำหรับคนรักช่องว่างลึก

คะแนน: 8

Reynolds มีรายละเอียดที่คาดเดาได้ แม้จะอยู่ในกรอบของนวนิยายเรื่องเดียว

แต่บรรยากาศของหนังสือก็มีอยู่ บรรยากาศของพื้นที่อันมืดมิดอันเยือกเย็น เต็มไปด้วยความลับอันน่าทึ่งและไร้ความปราณีต่อความผิดพลาดของคนอื่น เป็นที่อยู่อาศัยของเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่มีที่สิ้นสุดและว่างเปล่า

และผู้เขียนยังดำเนินการด้วยแนวคิดที่ยอดเยี่ยมที่น่าสนใจ ทฤษฎีของเขาเกี่ยวกับสาเหตุของการขาดการติดต่อกับชีวิตที่ชาญฉลาดอื่น ๆ (เศร้ามาก) และตัวเลือกทางออกที่เสนอ (ยอดเยี่ยมโดยสิ้นเชิง แต่ไม่ต้องสงสัยในขนาดใหญ่)

และฉันชอบการบรรยายในรูปแบบของพงศาวดารโดยแบ่งเป็นช่วงหลายปี มันสะท้อนมาตราส่วนได้ดี

ความเสียใจหลักจากหนังสือเล่มนี้คือการเลือกตัวละครหลักสำหรับเรื่อง เพราะทิวทัศน์ที่กว้างใหญ่เช่นนี้ - และเรื่องราวความเป็นปฏิปักษ์ซ้ำซากระหว่างเพื่อนสองคนที่สาบานไว้ ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมนักเขียนชายจึงทำให้ผู้หญิงสองคนเป็นตัวละครหลัก ดูเหมือนพวกเขาจะเป็นตัวละครธรรมดาๆ แต่เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ มันคือชุดของความผิดพลาดที่ไม่รู้จบและความภาคภูมิใจที่เพิ่มขึ้น หรือภาพประกอบว่าภาวะผู้นำของผู้หญิงสามารถนำไปสู่ผลที่ตามมาได้อย่างไร แม้ว่าฉันจะไม่คิดว่าผู้เขียนพยายามลบหลู่ใครบางคนโดยเฉพาะ ดูเหมือนว่าเขาจะเห็นด้วยกับตัวละครของเขาอย่างแท้จริง

คะแนน: 7

ประนีประนอม.

มีเพียงรายละเอียดเดียวเท่านั้น ที่ไม่ได้ยากที่สุดที่จะนำไปใช้ เพื่อป้องกันความยุ่งเหยิงที่เหล่าฮีโร่ของหนังสือเข้ามา

โศกนาฏกรรมทั้งหมดของพวกเขาเกิดขึ้นโดยตรงจากการคิดค้นความขัดแย้งในกลุ่มในสถานการณ์วิกฤติใดๆ และจากนั้นการที่คู่กรณีไม่เต็มใจอย่างยิ่งที่จะตกลงกัน สิ่งที่พวกเขาทำคือเริ่มดึงผ้าห่มคลุมตัวเอง ไม่สนใจว่าสิ่งนี้จะนำไปสู่อะไร เป็นเรื่องดีที่มีคนเพียงสองคนที่สวมบทบาทเป็นผู้นำ ในขณะที่คนอื่นๆ ตัดสินใจว่าจะทำงานให้ใคร แต่การเผชิญหน้าระหว่างผู้บังคับบัญชาทั้งสองก็เพียงพอแล้วที่จะเติมเต็มพื้นที่เกือบทั้งหมดของหนังสือ หนังสือที่ดูเหมือนว่าควรจะเกี่ยวกับอวกาศเพราะสิ่งแวดล้อมบ่งบอกถึงสิ่งนี้การประพันธ์ ...

ประนีประนอม. ด้วยเหตุผลบางอย่าง ผู้เขียนเองไม่ได้ไปเพื่อมันโดยเน้นที่ความสัมพันธ์ของผู้คน - และใคร ๆ ก็พูดได้ว่าเขาไม่ได้เลือกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด Reynolds เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในเรื่องอะไร? ใช่แล้ว ความรู้สึกที่น่ากลัวของความยิ่งใหญ่ของพื้นที่จริง เป็นที่รู้จักในด้านการผลิตที่สดใสและเชื่อถือได้ของโลกที่เขาคิดค้น ตัวละครมักจะไม่ธรรมดาและมีหลายแง่มุม

"Star Ice" ไม่ได้สูญเสียอะไรไปจากรายการนี้ แต่ในท้ายที่สุด พื้นที่และความสามารถในการผลิตได้สูญหายไปและถูกลืมไปพร้อมกับฉากหลังของการทะเลาะวิวาทของมนุษย์ชั่วนิรันดร์ ตลอดทั้งเล่ม ทุกคนยุ่งอยู่กับการแจกจ่ายพลังมากกว่าพยายามเอาชีวิตรอด และท้ายที่สุด เรื่องราวนี้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างแม่นยำเหมือนกับการเอาชีวิตรอดในห้วงอวกาศ (ประมาณนั้น) อุทิศเวลามากมายให้กับการต่อสู้เพื่อบัลลังก์ที่ท้ายเล่มเมื่อความคิดทั้งหมดหมดลงแล้วหนึ่งในผู้แข่งขันไม่พบสิ่งใดดีไปกว่าทำความโง่เขลาอย่างโจ่งแจ้งโดยทำข้อตกลงกับมนุษย์ต่างดาวที่เป็นศัตรูอย่างเห็นได้ชัด - เพียงเพื่อทำให้เสียคู่ต่อสู้ ความจริงที่ว่าเคล็ดลับนี้อาจคุกคามความตายของการตั้งถิ่นฐานและผู้อยู่อาศัยจำนวนมากไม่ได้นำมาพิจารณา

ควรสังเกตว่ามีตัวละครมากมายที่นี่ และแต่ละคนก็มีเอกลักษณ์อย่างน้อยสองสามอย่าง - แต่วิธีที่พวกเขาประพฤติ (โดยเฉพาะในตอนจบ) เวลาที่ให้กับพวกเขานั้นน่ารำคาญ

แต่ถ้ามองไปรอบ ๆ คุณจะเห็นว่าโลกที่น่ายินดีนั้นสูญเปล่าไปอย่างไร ดาวเทียมของดาวเสาร์ เจนัส ซึ่งกลายเป็นเรือเอเลี่ยน ไซโคลเปียน ในหน่วยดาราศาสตร์ โครงสร้างต่างดาวในกลุ่มดาวราศีกันย์ พยายามเอาชีวิตรอดโดยมีเพียงเรือขุดอยู่ในมือ และความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะกลับสู่โลก การติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวและ การค้นพบความลับ ถ้าไม่ใช่จักรวาล อย่างน้อยก็ตำแหน่งที่แท้จริงของคนงานเหมือง - และคำตอบ เชื่อฉันสิ ก็ไม่น่าประทับใจเช่นกัน! ในขณะนี้ "น้ำแข็ง" ที่น่าทึ่งและน่าทึ่งในระดับของมันกลับมาสู่ความสนใจที่เกิดในตอนแรก ...

... แต่ไม่ เราจะยังคงจับตาดูความขัดแย้งทางแพ่ง มีการเปิดเผยรายละเอียดใหม่เกี่ยวกับการสังหารสมาชิกลูกเรือคนหนึ่ง เพื่อนของหัวหน้าคนหนึ่งรู้เรื่องนี้ แต่ซ่อนไว้ และตอนนี้จำเป็นต้องรวบรวมศาลเพราะความยุติธรรมจะต้องเสร็จสิ้น แม้ว่าจะผ่านไปกว่าครึ่งศตวรรษ (มนุษย์ต่างดาวมอบความอ่อนเยาว์ให้กับผู้คน แต่ใครจะสน) ทั้งหมดนี้เล่นอยู่ในมือของเจ้านายอีกคนเพื่อแสดงให้เห็นถึงความไร้ความสามารถของคนแรกและรับอำนาจอีกครั้ง ...

จากที่กล่าวมา ให้ตัดสินใจว่า:

พิจารณาว่า "Star Ice" ไม่ใช่หนังสือที่ดีที่สุดของผู้แต่ง ตัวละครและการกระทำของพวกเขาได้รับความสนใจมากเกินไป จนในที่สุด ความขัดแย้งของพวกเขาดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัวและไม่น่าเชื่อ

น่าเสียดายที่คราวนี้ผู้เขียนไม่ได้รวมสองธีมเข้าด้วยกันอย่างประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับ "Rain of Oblivion" ของเขา - ที่นี่ผู้คนให้ความสนใจกับตัวเองทั้งหมดและโลกก็ถูกผลักเข้าไปในมุมมืด แต่อาจกลายเป็นรูปแบบที่ชาญฉลาดใน "Farscape" เดียวกันเป็นต้น

คะแนน: 7

สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้สำหรับเรย์โนลส์อย่างแน่นอนคือความกล้าหาญของความคิดและความสามารถในการถ่ายทอดความคิดเหล่านั้นไปยังกระดาษ เมื่อมองไปข้างหน้าสักนิด คงเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่า "Star Ice" มีทุกสิ่งที่มีอยู่ในงานของ Alastair: ความลับที่ซ่อนเร้นอย่างลึกล้ำ จักรวาล สิ่งประดิษฐ์จากเอเลี่ยนลึกลับ ความผิดปกติทางกายภาพ การเดินทางในอวกาศ (และอื่น ๆ ที่เหนือจินตนาการ) ระยะทาง) และเทคโนโลยีในอนาคต ทั้งหมดนี้ได้รับการประกอบและจัดเรียงอย่างชำนาญในระดับที่เหมาะสม ทำให้บรรยากาศของนวนิยายเรื่องนี้ซึมซับตั้งแต่หน้าแรกๆ และไม่ทำให้เนื้อเรื่องช้าลงจนถึงตอนจบ ส่วนที่เป็นไซไฟที่มีความมั่นใจของนวนิยายเรื่องนี้น่าทึ่งมาก Reynolds เขียนในลักษณะที่คุณสามารถเชื่อในความคิดของเขาได้อย่างง่ายดาย (แม้ซับซ้อนและซับซ้อนที่สุด) และการวิจัยทางเทคโนโลยีราวกับว่าเขากำลังอธิบายบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ใน จิตใต้สำนึก; กล่าวอีกนัยหนึ่ง Star Ice มีข้อดีเพียงพอที่จะแนะนำให้อ่านและไม่เสียใจในภายหลัง และทุกอย่างโดยทั่วไปอาจจะยอดเยี่ยมได้ถ้าอลาสแตร์ไม่ได้ตัดสินใจเล่นเป็นนักจิตวิทยาที่เก่งกาจ โดยไม่เปิดเผยโครงเรื่องดูเหมือนว่า: ในช่วงเวลาหนึ่งเพื่อนสนิทสองคนกลายเป็นศัตรูที่ถูกสาบานและการเผชิญหน้ากัน (และไร้สาระ) ที่เข้ากันไม่ได้ของพวกเขาจะคงอยู่จนถึงที่สุด - และนี่ขัดกับฉากหลังของเหตุการณ์ที่ตัวละครทั้งหมดอยู่ ที่เกี่ยวข้อง. กลายเป็น 260 (18,000/หลายล้าน - ขีดเส้นใต้ตามความเหมาะสม) ปีแสงจากบ้าน? ไม่เป็นไร ดีกว่าที่เราจะตัดสินคะแนนเป็นเวลาสี่สิบปีตามอัตนัย บางทีด้วยวิธีนี้ผู้เขียนต้องการแสดงทุกอย่างที่ "มนุษย์เป็นมนุษย์เกินไป" และอาจแสดงให้เห็นว่า homo sapiens ยังไม่พร้อมสำหรับการติดต่อ แต่น่าเสียดายที่นักจิตวิทยาหลอกที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้เพิ่มปริมาณให้กับนวนิยายเท่านั้น แต่ไม่ลึก

แต่ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเลิกอ่าน - โครงเรื่องและความกล้าหาญดังกล่าวแทนที่การระคายเคืองที่เห็นได้ชัดจากการบ่นของผู้หญิงสองคน (ไม่ใช่ความสดชื่นครั้งแรก) และสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นรูปเป็นร่างซึ่งไม่ได้พยายามอะไรเลย เพื่อเปลี่ยนสถานการณ์เป็นเวลาหลายสิบปี และแม้ว่าความปรารถนาที่จะอ่าน "Star Ice" อีกครั้งในภายหลังจะไม่เกิดขึ้น แต่ก็คุ้มค่าที่จะอ่านเพียงครั้งเดียว

คะแนน: 8

การกระทำที่น่าสนใจในความคิดของฉันเริ่มต้นจากหน้า 410-420 และสิ้นสุดที่จุดที่น่าสนใจที่สุด (หนังสือจบแล้ว อ่านอีก) และก่อนหน้านั้น ในจำนวนหน้าสี่ร้อยหน้า นักเขียนที่มีพรสวรรค์อย่างไม่ต้องสงสัยได้ผลักดันนวนิยายโปรดักชั่นด้วยการกระทำเพียงเล็กน้อย ข้อความสี่ร้อยหน้า ตัวอย่างเช่น Efremov สามารถอธิบาย Great Ring ส่วนใหญ่ของเขาประวัติศาสตร์ในอนาคตของโลกและโครงสร้างทางสังคมของมันการต่อสู้ของลูกเรือ Tantra ด้วยแรงโน้มถ่วงของดาวเหล็กอธิบาย โลกภายในของ Mven Mass ตะลึงในความสมบูรณ์และความงามของ Veda Kong .. เพื่อให้พอดีกับการอยู่รอดของลูกเรือของ "Penguin" ในหนึ่งร้อย - หนึ่งร้อยห้าสิบหน้ายังคงถูก แต่มี 400 หน้า มาก. ที่แย่กว่านั้นคือความหยาบคายต่อชนกลุ่มน้อยทางเพศและชาวจีน - ฉันคิดว่าหนังสือเล่มนี้จะขายในหมู่พวกเขา

และอีกหนึ่งคำถาม! ทำไมกลไกของเจนัสถึงทำลายทุกคนที่กระทำการซ้ำซากจำเจ? ทำไมไม่มีคำตอบในข้อความ? ไม่แม้แต่จะเดา

คะแนน: 7

ความแตกต่างระหว่างขนาดของเหตุการณ์และความละเอียดอ่อนของการกระทำของฮีโร่นั้นน่าทึ่ง Pied Piper ผู้เขียนอินเทอร์เน็ตซึ่งทำการวิเคราะห์นิยายวิทยาศาสตร์ของตะวันตกเขียนว่านักเขียนบทชาวอเมริกันดูเหมือนจะไม่สามารถจินตนาการถึงทีมที่แน่นแฟ้นได้: พวกเขาจะต่อสู้เพื่อเหตุผลที่งี่เง่าที่สุดอย่างแน่นอน ดูเหมือนว่าจะนำไปใช้กับร้อยแก้วเช่นกัน การกระทำทั้งหมดของ Svetlana ในนวนิยายเรื่องนี้มีสาเหตุมาจากความซับซ้อนมากมาย (ไม่ชัดเจนว่าพวกเขาผ่านการทดสอบความเข้ากันได้กับ Bella ได้อย่างไร ลูกเรือของเรือต้องมีการคัดเลือกทางจิตวิทยาบางอย่าง) ดังนั้นเธอจึงเสนอวิธีแก้ปัญหาที่สัญญาว่าจะช่วยให้ทุกคนรอด แต่เบลล่าผู้ชั่วร้ายไม่ฟัง แก้แค้นเธอสำหรับสิ่งนี้การแก้แค้นที่แย่มาก แต่เดี๋ยวก่อน ความถูกต้องของ Svetlana นั้นไม่ชัดเจน เบลล่ามีเหตุผลร้ายแรงมากที่จะไม่เชื่อเธอ แต่เธอยังทำเช็ค แต่บริษัทแย่ๆ ได้จัดการเปลี่ยนข้อมูลไปแล้ว นอกจากนี้ ในฐานะกัปตันเรือ เธอมีสิทธิที่จะตัดสินใจในสิ่งที่เธอทำ

สปอยเลอร์ (เปิดเผยพล็อต) (คลิกเพื่อดู)

Svetlana จัดรัฐประหารและเริ่มสร้างความสนุกสนานให้กับคอมเพล็กซ์ ครั้งแรกที่แยก Bella เป็นเวลาสองสามทศวรรษ จากนั้นปรากฎว่าเบลล่ามีข้อมูลบางอย่างที่เธอต้องการ พวกเขาสรุปข้อตกลงเกี่ยวกับการผ่อนคลายระบอบการปกครองที่สำคัญ แต่ Svetlana เพียงแค่ขยายคู่ต่อสู้ของเธอและไม่คิดว่าจะปฏิบัติตามภาระผูกพันของเธอ

ในความเชื่อมั่นอย่างสุดซึ้งของฉัน มีเพียงคนโรคจิตที่หมกมุ่นอยู่กับความซับซ้อนจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่สามารถทำได้

สปอยเลอร์ (เปิดเผยพล็อต) (คลิกเพื่อดู)

“นี่ไม่ใช่การแก้แค้นคุณ” เธอกล่าวในตอนท้าย โดยไม่รู้ว่าการกระทำของเธอเกือบจะนำไปสู่การตายของอาณานิคม "เพื่อประโยชน์ส่วนรวม"

ใช่แน่นอน มีช่องว่างที่ชัดเจนระหว่างจิตสำนึกและจิตใต้สำนึก

ดูเหมือนว่าตอนนี้ผู้เขียนหลายคนเชื่อว่าหากตัวละครไม่ซับซ้อนและมีอาการทางประสาท นวนิยายก็จะไม่สมจริง น่าเสียดาย! อย่างไรก็ตาม มีอีกเหตุผลหนึ่ง ความวุ่นวายของเมาส์ทั้งหมดนี้ช่วยให้คุณติดตามเพจได้มากขึ้น

© 2022 skudelnica.ru -- ความรัก การทรยศ จิตวิทยา การหย่าร้าง ความรู้สึก การทะเลาะวิวาท