คำอธิบายจูบ Rodin ประติมากรรมโดย Rodin: ภาพถ่ายพร้อมคำอธิบาย

ประติมากรรม "รูปปั้นจูบแห่งความตาย" ตั้งอยู่ในสุสาน Poblenou เก่าแก่ของคาตาลันในบาร์เซโลนา มันตั้งอยู่ในมุมหนึ่งของสุสาน ราวกับว่ามีคนต้องการซ่อนมันจากการสอดรู้สอดเห็น

ในปี 1930 ครอบครัว Llaudet ได้โศกเศร้ากับการสูญเสียลูกชายของพวกเขา และไม่นานหลังจากงานศพ หลุมศพดั้งเดิมดังกล่าวก็ปรากฏขึ้นบนหลุมศพ บนรูปปั้นความตายในรูปแบบของโครงกระดูกมีปีกจูบชายหนุ่มที่หน้าผาก ผู้สร้างผลงานชิ้นเอกแห่งความมืดนี้ยังไม่เป็นที่รู้จัก ซึ่งเพิ่มความลึกลับให้กับ Kiss of Death

คำจารึกบนหลุมศพเป็นแนวของกวีผู้ยิ่งใหญ่และนักบวช Verdaguer Jacint ซึ่งต่อมาถูกเรียกว่าเป็นคนนอกรีตและถูกถอดความสำหรับบทกวีลึกลับของเขา ต้นฉบับและการแปลคำจารึก:

“และหัวใจหนุ่มของเขาไม่สามารถช่วยได้
ในเส้นเลือดของเขาเลือดจะหยุดและแข็งตัว
และกำลังใจที่หมดศรัทธาโอบกอด
รู้สึกได้ถึงจูบแห่งความตาย "

“หัวใจหนุ่มของเขาจะไม่มีวันเต้น
เลือดหยุดและแข็งตัวในเส้นเลือดของฉัน
และปราศจากการสนับสนุนที่สูญเสียศรัทธา โอบกอด
เปิดฤดูใบไม้ร่วงสัมผัสจูบแห่งความตาย "

ประติมากรรมนี้กระตุ้นความรู้สึกคลุมเครือ: คำถามที่มองไม่เห็นเกี่ยวกับความสยองขวัญและความชื่นชมที่ยืดยาวชั่วนิรันดร์ พวกเขาบอกว่าเธอเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้สร้างภาพยนตร์ Ernst Ingmar Bergman สร้างภาพวาด "The Seventh Seal" - เกี่ยวกับการสื่อสารของอัศวินและความตาย

คุณอาจสนใจ:

• รูปปั้นใต้น้ำ
• ประติมากรรม

ตั้งแต่วัยเด็กฉันใฝ่ฝันที่จะเป็นศิลปินที่ยิ่งใหญ่และมีเพียงดินสออยู่ในมือ ออกุสต์ โรดิน (ค.ศ. 1840-1917)ตลอดทั้งวันได้คัดลอกผลงานชิ้นเอกหายากจากคอลเลคชันพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ จากนั้นเขาก็เดินเตร่เป็นเวลาหลายชั่วโมงผ่านห้องโถงหรูหราที่มีการนำเสนอประติมากรรมกรีก ถึงอย่างนั้นการต่อสู้ระหว่างภาพวาดกับหินก็เริ่มขึ้นในหัวใจของ Rodin รุ่นเยาว์ เมื่อเวลาผ่านไป เขายังไม่มีเงินพอที่จะซื้อสี และเขาตัดสินใจที่จะไปทำงานในเวิร์กช็อปเล็กๆ ที่มีการตกแต่งประติมากรรม ดังนั้นการขาดเงินจึงกำหนดเส้นทางของอัจฉริยะที่ดื้อรั้น

ศิลปะของเขาในขณะที่เขาสารภาพกับ Camille Mauclair ไม่ได้มาหาเขาทันที เขากล้าช้า ฉันกลัว. จากนั้น เมื่อเขาเริ่มเข้าใจธรรมชาติ เขาเริ่มปฏิเสธอนุสัญญาใดๆ อย่างเฉียบขาดมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในเวิร์กช็อปนั้นเองที่เขาค้นพบครั้งแรก - la science du modele - ศาสตร์แห่งการสร้างแบบจำลอง และคอนสแตนท์บางคนได้ริเริ่มให้เขาเข้าสู่ศีลระลึกนี้ ตามที่ Rodin เองกล่าวไว้ Constant ทำงานในโรงงานเดียวกันกับที่เขาเริ่มเข้าใจประติมากรรม

ครั้งหนึ่งเมื่อเห็น Rodin แกะสลักเมืองหลวงที่ตกแต่งด้วยใบไม้จากดินเหนียว Constant ก็หยุดเขา:

“โรดิน คุณไม่ได้ทำอย่างนั้น ใบของคุณแบน ดูเหมือนไม่มีชีวิตชีวา พยายามทำให้ปลายของพวกเขาพุ่งเข้าหาคุณแล้วคุณจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่า "

Rodin ทำตามคำแนะนำของเขาและรู้สึกทึ่งกับผลลัพธ์ที่ได้

“จำคำพูดของฉันไว้ให้ดี- ต่อเนื่องอย่างต่อเนื่อง - เมื่อคุณปั้น อย่ามองวัตถุเป็นพื้นผิว พยายามให้ความลึก มองที่พื้นผิวเฉพาะเมื่อปริมาตรสมบูรณ์เท่านั้น โดยให้ส่วนนูนหันเข้าหาคุณ ด้วยวิธีนี้คุณจะเชี่ยวชาญศาสตร์แห่งการสร้างแบบจำลอง "

และจากช่วงเวลานั้นเอง Rodin ก็ไม่รับรู้ส่วนต่างๆ ของร่างกายว่าเป็นพื้นผิวเรียบอีกต่อไป ตอนนี้ในทุกส่วนที่หนาขึ้นของลำตัวหรือแขนขา เขาพยายามทำให้กล้ามเนื้อหรือกระดูกรู้สึกได้ และเมื่อเวลาผ่านไป ในงานของเขา ปริมาณเริ่มสร้างเส้น ไม่ใช่เส้นปริมาณ

โครงเรื่องซึ่งพูดเพื่อตัวเองนั้นกระตุ้นจินตนาการของผู้ชมโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภายนอก แต่ด้วยการเปิดโลกกว้างสำหรับจินตนาการ เขาจำกัดความรู้สึก และเพื่อปลุกความรู้สึกและปล่อยให้พวกเขาพัฒนาไปเรื่อย ๆ สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งของงานประติมากรรมคือสี

ตามกฎแล้วในห้องโถงพิพิธภัณฑ์หลายแห่งแสงไม่ดี ลองเปิดไฟฉายบนสมาร์ทโฟนแล้วยกขึ้นไปที่ลำตัวของเทพธิดา คุณจะเห็นสิ่งผิดปกติเล็กๆ น้อยๆ มากมายในทันที ความผิดปกติเหล่านี้ทำให้เกิดแสงล้น: แสงจ้าที่หน้าอกและเงาหนาบนรอยพับ, chiaroscuro โปร่งใสบนชิ้นส่วนที่บอบบางที่สุดซึ่งค่อยๆจางหายไปถูกพ่นไปในอากาศ จากนั้นเธอก็ทำให้ประติมากรรมมีรูปลักษณ์ที่มหัศจรรย์ของร่างกายที่มีชีวิต ความงามและศาสตร์แห่งการแกะสลักมักจะเป็นของคู่กัน Brilliance เป็นของขวัญจาก Rodin ศิลปินที่ส่งต่อให้ Rodin ประติมากร นี่ไม่ใช่แค่มงกุฎของการสร้างแบบจำลองที่สวยงาม ความรู้สึกที่ตื่นขึ้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่สามารถกำหนดการพัฒนาของโครงเรื่องได้

นี่คือผลงานสองชิ้นของ Rodin "The Kiss" และ "The Birth of Spring"

ในขั้นต้น คนเหล่านี้เป็นคู่รักที่มีชื่อเสียง Paolo Malatesta และ Francesca da Rimini แต่เนื่องจากรูปปั้นนี้อยู่ในกลุ่ม "ประตูนรก" อย่างมาก Rodin จึงแยกมันออกและเรียกมันว่า "The Kiss" หากคุณเคยเห็นผลงานชิ้นเอกชิ้นนี้ที่ทำด้วยหินอ่อน และถึงแม้จะได้รับแสงที่ส่องถึงอย่างมีพรสวรรค์ คุณต้องยอมรับว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะละสายตาจากผลงานชิ้นนี้

หนาและหายวับไป น่ากลัวและหุนหันพลันแล่น ลึกและรบกวน และในขณะเดียวกันก็อ่อนแอและสงบสุข - เงาใน The Kiss เป็นเหมือนเสียงที่ทำให้มึนเมาของขลุ่ย พิณ หรือเชลโล ซิมโฟนีอันศักดิ์สิทธิ์ของ "ขาวและดำ" และในวงซิมโฟนีทุกๆ อย่าง ทุกสิ่งทุกอย่างมีแนวโน้มที่จะครอบงำ ดังนั้นจานสีแห่งแสงและเงานี้จึงโอบล้อมความลึกลับของความรัก

เงาที่นี่ทำให้องค์ประกอบมีความใกล้ชิดสนิทสนม เธอยังรวบรวมความรู้สึกทั้งหมดที่คู่รักมีต่อกันและสามารถแสดงในช่วงเวลาสั้นๆ ของความสันโดษและความเงียบ

ในประติมากรรม "การกำเนิดของฤดูใบไม้ผลิ" หรือ "ฤดูใบไม้ผลินิรันดร์" หลักการที่ตรงกันข้ามทำงาน หากใน "The Kiss" ไดนามิกมักจะอยู่ภายใน จากนั้นใน "The Birth of Spring" จะเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ หรือแม้แต่การระเบิดเป็นชุด เมื่อเทียบกับ The Kiss ประติมากรรมชิ้นนี้เต็มไปด้วยแสง คือเงาหนาเล็กๆ ใต้วงแขนของชายคนนั้นกำลังเพิ่มความหนาแน่นอย่างรวดเร็วเพื่อให้ได้ยินการระเบิดอีกครั้ง "การกำเนิดของฤดูใบไม้ผลิ" เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ขึ้น ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทุกหนทุกแห่ง เธอดูเหมือนจะหายใจมีความสุข ในชั่วพริบตา เสียงนกร้องดังก้องกังวานในฤดูใบไม้ผลิ เสียงนกร้องดังก้องในจินตนาการ กลิ่นหอมของหญ้าสดและดอกไม้แผ่กระจาย แล้วมีฝนโปรยปราย ตามด้วยแสงแดดส่องทั่วท้องฟ้าอีกครั้ง

ออกุสต์ โรแด็งเป็นผู้นำศิลปะฝรั่งเศสในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 และแน่นอนว่าต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงที่สุด แต่เป็นผู้ที่สร้างความสามัคคีที่แข็งแกร่งของสิ่งที่ชัดเจนและความลับ - ศาสตร์แห่งการสร้างแบบจำลองและสี - ที่ซึ่งจินตนาการแรกทำให้ประหลาดใจและความรู้สึกที่สองปลุกให้ตื่นขึ้นเผยให้เห็นถึงความตั้งใจทางศิลปะของผู้แต่งผลงานอันยิ่งใหญ่

ร่างผู้หญิงครอบครองสถานที่พิเศษในงานของเขา พวกเขาร้องเพลงเกี่ยวกับความสุขของความรักและความงามของร่างกายที่เปลือยเปล่า เรามักจะเดาแบบเดียวกันในหมู่พวกเขา เรารู้จักเธอด้วยความซับซ้อนของรูปแบบ สัดส่วนและเส้นที่สง่างาม ความสง่างามและความสง่างามของการเคลื่อนไหว นี่คือคามิลล์ คลอเดล ร่างกายที่เปลือยเปล่าของเธอทำให้ชื่อบทความนี้ดูสง่างาม เธอเป็นนักเรียน รำพึง และผู้เป็นที่รักของ Rodin ตั้งแต่ก้าวเข้ามาในบ้านของเขาในปี 1883 แต่เช่นเดียวกับผู้หญิงทุกคนที่รักเขา เธอจ่ายในราคาที่แพงมาก อย่างไรก็ตาม ฉันจะบอกคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้ในบทความหน้า

เราคุ้นเคยกับงานของ Rodin แล้ว แต่วันนี้เราจะมาดูอย่างใกล้ชิด หนึ่งในผลงานที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รักของ Auguste Rodin คืองานประติมากรรม KISS

ดังนั้นพวกเขาจึงพูดคุยเกี่ยวกับ Rodin

“ไม่เคยมีและจะไม่มีวันเป็นนายที่สามารถปั้นดินเหนียว ทองสัมฤทธิ์ และหินอ่อนได้”

แรงกระตุ้นของเนื้อหนังนั้นทะลุทะลวงและรุนแรงกว่า Rodin เสียอีก "

(อีเอ เบอร์เดล)

ประติมากรชาวฝรั่งเศส Auguste Rodin หนึ่งในผู้ก่อตั้งอิมเพรสชั่นนิสม์ในงานประติมากรรม เขาเกิดเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2383 ที่กรุงปารีสในตระกูลข้าราชการผู้เยาว์ ใน 1,854-1857 เขาเรียนที่ Paris School of Drawing and Mathematics ซึ่งเขาเข้ามาขัดต่อความต้องการของพ่อของเขา. ในปี พ.ศ. 2407 เขาศึกษาภายใต้ A.L. Bari ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ

คามิล คลอเดล.

ในปี พ.ศ. 2428 ออกุสต์ โรแด็งได้นำคามิลล์ คลอเดล (น้องสาวของนักเขียนพอล คลอเดล) วัยสิบเก้าปี ซึ่งใฝ่ฝันอยากจะเป็นประติมากรเป็นผู้ช่วยในเวิร์กช็อปของเขา

คามิลล์เป็นนักเรียนที่มีความสามารถ นางแบบ และเป็นคู่รักของโรแด็ง แม้จะอายุต่างกันเพียง 26 ปี และแม้ว่าโรแด็งจะอยู่กับโรส เบเรต์ ซึ่งกลายมาเป็นคู่ชีวิตของเขามาตั้งแต่ปี 2409 และไม่ได้ตั้งใจจะเลิกรากับ ของเธอ.

แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่าง Rodin และ Claudel เริ่มทำให้การทะเลาะวิวาทมืดลง คามิลล์ตระหนักว่าออกุสต์จะไม่ทิ้งโรสเพื่อเธอ และทำให้ชีวิตของเธอเป็นพิษ หลังจากแยกทางกันในปี 2441 Rodin ยังคงไล่ตามอาชีพของ Claudel โดยเห็นความสามารถของเธอ

อย่างไรก็ตาม บทบาทของ "ลูกน้องของ Rodin" นั้นไม่น่าพอใจสำหรับเธอ และเธอก็ปฏิเสธความช่วยเหลือจากเขา น่าเสียดายที่ผลงานของ Camille Claudel สูญหายไปตลอดหลายปีที่เธอป่วย แต่งานที่รอดตายได้พิสูจน์ว่า Rodin พูดถูก โดยกล่าวว่า "ฉันแสดงให้เธอเห็นว่าจะมองหาทองคำได้ที่ไหน แต่ทองคำที่เธอพบนั้นเป็นของเธอเองจริงๆ"

Camille Claudel ในที่ทำงาน

ในช่วงหลายปีแห่งความใกล้ชิดกับ Camille Auguste Rodin กลุ่มผู้ชื่นชอบประติมากรรมจำนวนมาก - KISS ได้ถูกสร้างขึ้น ก่อนสร้าง The Kiss in Marble Rodin ได้สร้างรูปปั้นขนาดเล็กหลายชิ้นด้วยปูนปลาสเตอร์ ดินเผา และทองแดง

มีสามผลงานต้นฉบับของ KISS

นำเสนอประติมากรรมชิ้นแรกออกุสต์ โรดิน ในปี พ.ศ. 2432 ที่งานนิทรรศการระดับโลกในกรุงปารีส คู่รักโอบกอดในตอนแรกเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มลายนูนที่ประดับประดาประตูประติมากรรมสำริดขนาดใหญ่ประตูนรกได้รับมอบหมายจาก Rodin สำหรับพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งอนาคตในปารีส ต่อมาถูกนำออกจากที่นั่นและแทนที่ด้วยรูปปั้นของคู่รักอีกคู่หนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บนเสาเล็กๆ ทางขวา

งานปั้นได้รับความนิยมจนบริษัทบาร์เบดินิส เสนอสัญญา Rodin สำหรับสำเนาทองสัมฤทธิ์ที่ลดลงจำนวน จำกัด ในปี พ.ศ. 2443 ได้ย้ายรูปปั้นมาที่พิพิธภัณฑ์ในสวนลักเซมเบิร์ก , และในปี พ.ศ. 2461 ได้ถูกวางไว้ในพิพิธภัณฑ์โรดิน ที่มันยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้

Rodin, The Kiss. ​​2425 พิพิธภัณฑ์ Rodin

เมื่อมองดูคู่รักที่เกาะติดกันและกัน เป็นการยากที่จะจินตนาการถึงรูปแบบที่แสดงออกถึงความรักได้มากกว่านี้ ความอ่อนโยนความบริสุทธิ์และความเย้ายวนใจและความหลงใหลในท่าทางของคู่รักคู่นี้มากแค่ไหน

ความตื่นเต้นและความอ่อนโยนของการสัมผัสทั้งหมดถูกส่งไปยังผู้ชมโดยไม่สมัครใจ ดูเหมือนว่าคุณจะเริ่มรู้สึก ... กิเลส, ยังคงถูกควบคุมโดยความเหมาะสม งานนี้เหมือนเพชรที่สะท้อนความรู้สึกทั้งหมด เราไม่ได้เห็นการโอบกอดร้อน ๆ และความปรารถนาที่ไม่รู้จักพอ แต่เป็นจูบแห่งความรักที่แท้จริง

ความระมัดระวังและความไวซึ่งกันและกัน ริมฝีปากของพวกเขาแทบจะไม่ได้สัมผัส พวกเขาสัมผัสกันเบา ๆ และในขณะเดียวกันก็พยายามเข้าหากันอย่างมาก

ความงามของร่างกายที่เปลือยเปล่าทำให้ Rodin หลงใหล ร่างกายมนุษย์เป็นแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจที่ไม่สิ้นสุดสำหรับประติมากร และในโครงร่างและแนวเส้นที่ซ่อนความเป็นไปได้ในการตีความไว้นับไม่ถ้วน “บางครั้งก็ดูเหมือนดอกไม้ ส่วนโค้งของลำตัวเหมือนก้านอมยิ้มที่หน้าอก ศีรษะและผมส่องแสง - เหมือนกลีบดอกไม้บาน ... "

ใน The Kiss หมอกควันอันนุ่มนวลปกคลุมร่างของหญิงสาว และแสงวาบและเงาวาบผ่านลำตัวกล้ามเนื้อของชายหนุ่ม ความปรารถนาของ Rodin ในการสร้าง "บรรยากาศที่โปร่งสบาย" การเล่นของ chiaroscuro ซึ่งช่วยเพิ่มผลกระทบของการเคลื่อนไหวทำให้เขาใกล้ชิดกับอิมเพรสชั่นนิสต์มากขึ้น

งานที่สอง.

ในปี 1900 Rodin ได้ทำสำเนาให้กับ Edward Perry Warren นักสะสมชาวอเมริกันผู้แปลกประหลาดจาก Lewis, Sussex ประเทศอังกฤษซึ่งมีคอลเล็กชั่นศิลปะกรีกโบราณ แทนที่จะเป็นประติมากรรมดั้งเดิม Rodin เสนอให้ทำสำเนาซึ่ง Warren เสนอราคาเริ่มต้นครึ่งหนึ่งที่ 20,000 ฟรังก์ แต่ผู้เขียนไม่ยอมแพ้ เมื่อรูปปั้นมาถึงลูอิสในปี 1904 วอร์เรนวางรูปปั้นนั้นไว้ในคอกหลังบ้านของเขา ซึ่งมันยังคงอยู่เป็นเวลา 10 ปี

ทายาทของ Warren นำรูปปั้นไปประมูลโดยที่ไม่พบผู้ซื้อในราคาเดิมและถูกถอนออกจากการขาย ไม่กี่ปีต่อมารูปปั้นก็ถูกยืม Tate Gallery ในลอนดอน. ในปี 1955 Tate ซื้อรูปปั้นนี้ในราคา 7,500 ปอนด์ ในปี 2542 ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน ถึง 30 ตุลาคมจูบกลับมาที่ลูอิสชั่วครู่โดยเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการผลงานของโรแดง

ฉบับที่สาม ได้รับคำสั่งในปี พ.ศ. 2443คาร์ล จาค็อบเซ่น สำหรับพิพิธภัณฑ์ในอนาคตของเขาในโคเปนเฮเกน ... แบบจำลองที่สร้างขึ้นในปี 1903 และกลายเป็นส่วนหนึ่งของคอลเล็กชั่นดั้งเดิมใหม่ Carlsberg Glyptotek เปิดในปี 1906

"The Kiss" ในหินอ่อนที่ New Carlsberg Glyptotek, Copenhagen (สำเนาที่สาม)

ตั้งแต่กลางทศวรรษ 1880 ลักษณะความคิดสร้างสรรค์ของ Auguste Rodin ค่อยๆเปลี่ยนไป: ผลงานได้รับตัวละครที่ไม่สมบูรณ์ ที่งาน World's Fair 1900 รัฐบาลฝรั่งเศสได้มอบศาลาทั้งหลังให้กับ Auguste Rodin

19 ม.ค. ที่บ้านพักในเมอดอนRodin แต่งงานกับ Rosa Børe โรสป่วยหนักและเสียชีวิตไปยี่สิบห้าวันหลังจากพิธี... เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน Rodin ป่วยหนัก แพทย์วินิจฉัยว่าเขาเป็นโรคปอดบวม... ประติมากรเสียชีวิตในเช้าวันที่ 17 พฤศจิกายน ที่บ้านของเขาในเมดง งานศพถูกจัดขึ้นที่นั่น และติดตั้งสำเนา The Thinker ไว้บนหลุมศพ

ในปี 1916 Rodin ได้ลงนามในพินัยกรรมตามที่งานและต้นฉบับทั้งหมดของเขาถูกโอนไปยังรัฐ ในช่วงปีสุดท้ายของชีวิต Rodin ถูกห้อมล้อมไปด้วยนายหญิงจำนวนมากที่เกือบจะปล้นทรัพย์สินของเขาอย่างเปิดเผย โดยนำผลงานศิลปะออกจากคอลเล็กชันของประติมากร

Rodin's จะมีคำต่อไปนี้:

“สำหรับศิลปินแล้ว ทุกสิ่งล้วนสวยงาม เพราะในสิ่งมีชีวิต ในทุก ๆ
นัยน์ตาอันเฉียบแหลมเผยอุปนิสัย กล่าวคือ ความจริงภายในที่ฉายแสงผ่านรูปภายนอก และความจริงข้อนี้คือความงามนั่นเอง ศึกษามันด้วยความคารวะและในการค้นหานี้คุณจะพบมันอย่างแน่นอน ค้นหาความจริง "

ประติมากรรมที่สร้างขึ้นโดย Auguste Rodin และนำเสนอในปี 1889 ที่ World Exhibition ในปารีส ในขั้นต้น ภาพคู่โอบกอดเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบรรเทาทุกข์ที่ประดับประดาประตูประติมากรรมสำริดขนาดใหญ่ ประตูนรกได้รับมอบหมายจาก Rodin สำหรับพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งอนาคตในปารีส ต่อมาถูกนำออกจากที่นั่นและแทนที่ด้วยรูปปั้นของคู่รักอีกคู่หนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บนเสาเล็กๆ ทางขวา

“ไม่เคยมีและจะไม่มีวันเป็นนายที่สามารถปั้นดินเหนียว ทองสัมฤทธิ์ และหินอ่อนได้”

การระเบิดของเนื้อเจาะลึกและรุนแรงกว่า Rodin ทำได้: "

(อีเอ เบอร์เดล)

ประวัติศาสตร์

ประติมากรรม จูบ,แต่เดิมเบื่อชื่อ ฟรานเชสก้า ดา ริมินีเพื่อเป็นเกียรติแก่สตรีชาวอิตาลีผู้สูงศักดิ์แห่งศตวรรษที่ 13 ที่ปรากฎบนนั้นซึ่งมีชื่อเป็นอมตะ The Divine Comedyดันเต้ (วงที่สอง, คันโตที่ห้า). ผู้หญิงคนนี้ตกหลุมรักน้องชายของสามี จิโอวานนี มาลาเทสตา เปาโล ตกหลุมรักกันและกันขณะอ่านเรื่องราวของแลนสล็อตและกินนีเวียร์ พวกเขาถูกค้นพบและถูกสามีของเธอฆ่าตาย ประติมากรรมแสดงให้เห็นว่าเปาโลถือหนังสืออยู่ในมือ คู่รักไม่ได้แตะกันด้วยริมฝีปากจริง ๆ ราวกับว่าพวกเขาถูกฆ่าตายโดยไม่ทำบาป

เปลี่ยนชื่อประติมากรรมเป็นนามธรรมมากขึ้น - จูบ (เลอ ไบเซอร์) - ทำโดยนักวิจารณ์ที่เห็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2430

การแสดงตัวละครหญิงในแบบของเขาเองทำให้ Rodin ยกย่องพวกเขาและร่างกายของพวกเขา สำหรับเขา ผู้หญิงไม่เพียงแต่อยู่ในความเมตตาของผู้ชายเท่านั้น แต่ยังเป็นหุ้นส่วนที่เท่าเทียมกันในความปรารถนาที่ดึงดูดใจทั้งสองคน ลักษณะทางกามารมณ์ที่เห็นได้ชัดของประติมากรรมทำให้เกิดการถกเถียงกันมากมาย สำเนาสีบรอนซ์ จูบ(สูง 74 ซม.) ถูกส่งไปงาน World's Fair ปี 1893 ในเมืองชิคาโก สำเนานี้ถือว่าไม่สามารถแสดงต่อสาธารณะได้ และถูกย้ายไปยังห้องเล็กๆ แยกต่างหาก ซึ่งสามารถเข้าถึงได้โดยแอปพลิเคชันส่วนบุคคล

ตัวเลือกขนาดเล็ก

เมื่อสร้างงานประติมากรรมขนาดใหญ่ Rodin จ้างผู้ช่วยที่สร้างรูปปั้นขนาดเล็กจากวัสดุที่แปรรูปได้ง่ายกว่าหินอ่อน เมื่อรูปแบบเหล่านี้เสร็จสมบูรณ์ Rodin ได้ปรับแต่งรูปปั้นขนาดใหญ่

ก่อนสร้าง The Kiss in Marble Rodin ได้สร้างรูปปั้นขนาดเล็กหลายชิ้นด้วยปูนปลาสเตอร์ ดินเผา และทองแดง

ประติมากรรมหินอ่อนขนาดใหญ่

สั่งซื้อสำหรับฝรั่งเศส

ในปี พ.ศ. 2431 รัฐบาลฝรั่งเศสได้มอบหมายให้ Rodin เป็นหินอ่อนเต็มรูปแบบรุ่นแรก จูบสำหรับนิทรรศการระดับโลก แต่ถูกนำมาจัดแสดงต่อสาธารณะในปี พ.ศ. 2441 ที่ Paris Salon เท่านั้น ประติมากรรมดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างมากจนบริษัท Barbedinni เสนอสัญญาจ้าง Rodin สำหรับสำเนาทองสัมฤทธิ์ที่ลดจำนวนลงจำนวนจำกัด ในปี 1900 รูปปั้นถูกย้ายไปที่พิพิธภัณฑ์ในสวนลักเซมเบิร์ก และในปี 1918 รูปปั้นถูกเก็บไว้ใน Musée Rodin ซึ่งยังคงหลงเหลือมาจนถึงทุกวันนี้

คำสั่งของวอร์เรน

ในปี 1900 Rodin ได้ทำสำเนาให้กับ Edward Perry Warren นักสะสมชาวอเมริกันผู้แปลกประหลาดจาก Lewis, Sussex ประเทศอังกฤษซึ่งมีคอลเล็กชั่นศิลปะกรีกโบราณ หลังจากได้เห็น The Kiss ที่ Paris Salon ศิลปิน William Rothenstein แนะนำให้ Warren ซื้อรูปปั้น แต่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลฝรั่งเศสและไม่ได้ขาย แทนที่จะเป็นประติมากรรมดั้งเดิม Rodin เสนอให้ทำสำเนาซึ่ง Warren เสนอราคาเริ่มต้นครึ่งหนึ่งที่ 20,000 ฟรังก์ แต่ผู้เขียนไม่ยอมแพ้ เมื่อรูปปั้นมาถึงลูอิสในปี 1904 วอร์เรนวางรูปปั้นนั้นไว้ในคอกหลังบ้านของเขา ซึ่งมันยังคงอยู่เป็นเวลา 10 ปี ไม่ทราบสาเหตุที่ Warren เลือกสถานที่ดังกล่าวสำหรับเธอ - เนื่องจากมีขนาดใหญ่หรือไม่เป็นไปตามความคาดหวังของเขาอย่างเต็มที่ ในปีพ.ศ. 2457 หน่วยงานท้องถิ่นได้ยืมรูปสลักประติมากรรมและนำไปจัดแสดงในศาลากลางจังหวัด ผู้อยู่อาศัยที่เคร่งครัดในท้องถิ่นหลายคน นำโดยอาจารย์ใหญ่ Miss Fowler-Tutt ได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับการสนับสนุนของประติมากรรมชิ้นนี้ สิ่งที่น่ากังวลเป็นพิเศษคือเธอสามารถจุดไฟเผาทหารในหลาย ๆ คนที่ประจำการอยู่ในเมืองได้ ในท้ายที่สุด รูปสลักก็ถูกปิดบังไว้ไม่ให้คนเห็น รูปปั้นกลับสู่ความครอบครองของ Warren ในปี 1917 โดยถูกเก็บไว้ในคอกม้าเป็นเวลา 12 ปี จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในปี 1929 ทายาทของ Warren นำรูปปั้นขึ้นเพื่อประมูล โดยไม่พบผู้ซื้อในราคาเริ่มต้นและถูกถอนออกจาก การขาย ไม่กี่ปีต่อมา รูปปั้นถูกยืมไปที่ Tate Gallery ในลอนดอน ในปี 1955 Tate ซื้อรูปปั้นนี้ในราคา 7,500 ปอนด์ ในปี 2542 ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน ถึง 30 ตุลาคม จูบกลับไปหาลูอิสโดยสังเขปโดยเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการผลงานของโรดิน ตำแหน่งถาวรของประติมากรรมคือเทต โมเดิร์น แม้ว่าในปี 2550 จะมีการนำรูปปั้นดังกล่าวมาที่ลิเวอร์พูล ซึ่งได้รับเกียรติให้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองครบรอบ 800 ปีของเมือง รวมทั้งการประกาศให้ลิเวอร์พูลเป็นเมืองหลวงของยุโรป วัฒนธรรมในปี 2551 ปัจจุบัน (มีนาคม 2555) ยืมโดยพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยของ Turner ในเมือง Kent

คำสั่งของจาคอบเซ่น

สำเนาที่สามได้รับมอบหมายในปี 1900 โดย Carl Jacobsen สำหรับพิพิธภัณฑ์ในอนาคตของเขาในโคเปนเฮเกน สำเนาถูกสร้างขึ้นในปี 1903 และกลายเป็นส่วนหนึ่งของคอลเล็กชั่นดั้งเดิมของ New Carlsberg Glyptotek ซึ่งเปิดในปี 1906

ตัวเลือกอื่น

ประติมากรรมหินอ่อนขนาดใหญ่สามรุ่นจัดแสดงที่Musée d'Orsay ในปี 1995 สำเนาขนาดเล็กชุดที่สี่สูงประมาณ 90 ซม. (รูปปั้นในปารีส - 181.5 ซม.) สร้างขึ้นหลังจาก Rodin เสียชีวิตโดยประติมากร Henri-Léon Grebe สำหรับ Rodin พิพิธภัณฑ์ในฟิลาเดลเฟีย รูปปั้นปูนปลาสเตอร์สามารถพบได้ที่พิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์แห่งชาติในบัวโนสไอเรส

ประติมากรรมนี้ทำหน้าที่เป็นต้นแบบสำหรับสำเนาสำริดหลายชุด ตามรายงานของพิพิธภัณฑ์ Rodin พบว่า 319 คนในจำนวนนี้ถูกคัดเลือกในโรงหล่อของบริษัท Barbedinni ตามกฎหมายฝรั่งเศสปี 1978 มีเพียง 12 ฉบับแรกเท่านั้นที่สามารถนำมาประกอบกับฉบับพิมพ์ครั้งแรกได้

Cornelia Parker

ในฤดูใบไม้ผลิปี 2546 ศิลปิน Cornelia Parker "เสริม" (รบกวนศิลปะ) จูบ(พ.ศ. 2429) (โดยได้รับอนุญาตจากเทตบริเตน ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงประติมากรรมในขณะนั้น) ห่อด้วยเชือกยาวหนึ่งไมล์ นี่เป็นข้อมูลอ้างอิงทางประวัติศาสตร์ถึงเครือข่ายที่มีความยาวเท่ากันซึ่งสร้างขึ้นในแกลเลอรีโดย Marcel Duchamp ในปี 1942 แม้ว่าการแทรกแซงจะได้รับการอนุมัติจากแกลเลอรี แต่ผู้เยี่ยมชมจำนวนมากคิดว่ามันเป็นอันตรายต่อประติมากรรมดั้งเดิม กระตุ้นให้ Stackist Pierce ตัดเชือกโดยไม่ได้รับอนุญาตในภายหลัง บัตเลอร์เมื่อมีคนจูบกันมากมายรอบ ๆ ไอน้ำ

ลิงค์

• เฮล, วิลเลียม ฮาร์แลน. โลกของ Rodin 1840-1917... นิวยอร์ก: ห้องสมุดศิลปะ Time-Life, 1969

ลิงค์ภายนอก

• เชื่อมโยงไปยัง จูบบนเว็บไซต์ทางการของ Musée Rodin
• Ny Calsberg Glyptotoek, โคเปนเฮเกน, เดนมาร์ก
• เทตบริเตน, ลอนดอน, อังกฤษ
• วิดีโอ TateShots ของประติมากรรมใน Tate Britain

มูลนิธิวิกิมีเดีย 2010.

ดูว่า "Kiss (Rodin)" ในพจนานุกรมอื่น ๆ คืออะไร:

- (Rodin) (1840 1917) ประติมากรชาวฝรั่งเศส เรียนที่ปารีสที่โรงเรียนมัณฑนศิลป์ เขารับคำแนะนำจาก J.B. Carlo และ A.L. Bari ได้รับอิทธิพลจาก Donatello, Michelangelo, ประติมากรรมแบบโกธิก เยี่ยมชมเบลเยียม (1871 77), อิตาลี ... ... สารานุกรมศิลปะ

Rodin Rene François Auguste (11/12/1840, Paris, - 11/17/1917, Meudon ใกล้ปารีส), ประติมากรชาวฝรั่งเศส บุตรของข้าราชการผู้น้อย ศึกษาในปารีสที่โรงเรียนการวาดภาพและคณิตศาสตร์ (1854–1857) และกับ A. L. Bari ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ (1864) วี …

คำขอ Rodin ถูกเปลี่ยนเส้นทางที่นี่ ดูความหมายอื่นๆ ด้วย François Auguste René Rodin ... Wikipedia

- (Rodin, Auguste) (1840 1917) ประติมากรชาวฝรั่งเศส เกิดที่ปารีสเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2383 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2397 เขาเรียนที่ School of Drawing and Mathematics และกับ Antoine Bari หลังจากที่ Rodin ถูกปฏิเสธไม่ให้แสดงผลงานชิ้นแรกของเขา The Man with ... สารานุกรมของถ่านหิน

- (Rodin) Rene Francois Auguste (11/12/1840, Paris, 11/17/1917, Meudon ใกล้ปารีส), ประติมากรชาวฝรั่งเศส บุตรของข้าราชการผู้น้อย ศึกษาในปารีสที่โรงเรียนการวาดภาพและคณิตศาสตร์ (ในปี 1854 57) และกับ A. L. Bari ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ (1864) วี … สารานุกรมแห่งสหภาพโซเวียตผู้ยิ่งใหญ่

Auguste Rodin François Auguste Rene Rodin (fr. François Auguste René Rodin) (12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2383 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2460) เป็นประติมากรชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งอิมเพรสชั่นนิสม์ในงานประติมากรรม ออกุสต์ โรแดง เกิดที่ปารีส เรียนที่ Paris School ... ... Wikipedia

ซ้าย - คามิลล์ คลอเดล ขวา - ออกุสต์ โรดิน The Kiss, 1886. ปารีส, Musée Rodin

คามิลล์ คลอเดล

ซ้าย - ออกุสต์ โรดิน ขวา - Camille Claudel ในเวิร์กช็อป

คามิลล์ คลอเดล

ออกุสต์ โรดิน. Danaida, 1885 - ประติมากรรมที่อุทิศให้กับ Camille Claudel

ซ้าย - คามิลล์ คลอเดล ไอดอลนิรันดร์ 2431 ขวา - ออกุสต์โรแด็ง เทวรูปนิรันดร์ พ.ศ. 2432

ซ้าย - ออกุสต์ โรดิน ขวา - คามิลล์ คลอเดล

ออกุสต์ โรดิน. จูบ. ชิ้นส่วน

คามิล คลอเดล. ซ้าย - * บินจากพระเจ้า * ยุค 1890 ขวา - * บรอนซ์วอลทซ์ *, 1893

คามิล คลอเดล. * Age of Maturity *, 1900 - อุปมาอุปมัยของเธอกับ Rodin รูปคนอ้อนวอน - ภาพเหมือนตนเองของคามิลลา

คามิลล์ คลอเดล