วงดนตรีป็อปของอังกฤษในยุค 90 วงร็อคต่างประเทศของยุค 80

ไฟฟ้ากระแสสลับ / กระแสตรง (IC / กระแสตรง)

ไฟฟ้ากระแสสลับ / กระแสตรง (IC / กระแสตรง)- ทีมจากออสเตรเลียที่ก่อตั้งโดยพี่น้องสองคนตอนเป็นวัยรุ่น ครอบครัว Young หมกมุ่นอยู่กับดนตรีอย่างแท้จริง พี่น้องทั้ง 4 คน มัลคอล์ม จอร์จ อเล็กซ์ และแองกัส หัดเล่นกีตาร์ตั้งแต่เด็กจนโต ...

แอโรสมิธ

ศาสนาที่ไม่ดี

ภาษาอังกฤษไม่ดี

บองโจวี่

ซินเดอเรลล่า (ซินเดอเรลล่า)

เดฟ เลปพาร์ด

ช่องแคบไดเร่ (ช่องแคบดายะ)

ดอกเคน

ยุโรป (ยุโรป)

หนุ่มกินเนื้อคนเก่ง

ชาวต่างชาติ (ชาวต่างชาติ)

ปฐมกาล

ปฐมกาล- วงร็อคอังกฤษในตำนาน ปี 2017 เป็นวันครบรอบ 50 ปีของการก่อตั้งวง กลุ่มนี้เข้าสู่รายชื่อกลุ่มของยุค 80 เพราะยุค 80 ประสบความสำเร็จมากที่สุดในชีวิตของกลุ่มร็อค มันเป็นช่วงปลายยุค 70 ที่ปฐมกาลอย่างรุนแรง ...

ในปี 2560 การปฏิวัติทางดนตรีอีกครั้งเกิดขึ้น - แร็พรัสเซียกลายเป็นเพลงเยาวชนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด นับเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี ที่เพลงร็อคแอนด์โรลเก่าๆ เลิกเป็นหน้าเป็นตาของวัฒนธรรมวัยรุ่น เสียงของคนรุ่นหลังเลิกเล่นกีตาร์แล้ว และเพลงสวดสมัยใหม่จะมาพร้อมกับจังหวะแบบวนซ้ำ ในยุค 90 ดนตรีโอลิมปัสเป็นของเพลงที่เรียกกันว่า "ร็อครัสเซีย" มาลองหาเพลงฮิตยอดฮิตเมื่อยี่สิบปีที่แล้วกัน

1. Mumiy Troll "วลาดิวอสต็อก 2000"

เพลงในตำนานของวงในตำนาน ผู้บุกเบิกป๊อปร็อครัสเซียกลายเป็นเสียงของคนรุ่นในชั่วข้ามคืน "เวลาจะสะอาดขึ้น" - วลีนี้เพียงอย่างเดียวให้ความหวังสำหรับอนาคตที่สดใสสำหรับคนรุ่นใหม่ ความนิยมของ Lagutenko ยังคงเป็นที่นิยมไม่ใช่เพื่ออะไรที่ Vladivostok ปรากฎบนใบเรียกเก็บเงิน 2,000 รูเบิล

1. Lyapis Trubetskoy "Ay"

โรโกป๊อปตลกขบขันที่ระเบิดดิสโก้ของโรงเรียนในช่วงครึ่งหลังของยุค 90 กลุ่มที่ทำลายแนวคิดของ "เวที" Mikhalok และคณะในช่วงหลายปีที่ผ่านมายังไม่ได้ตีการเมืองที่รุนแรง แต่เพียงแค่ทำให้ผู้คนสนุกสนานและเยาะเย้ยมาตรฐานของเพลงป๊อป Lyapis Trubetskoy ร้องเพลงงี่เง่าที่เข้าใจได้สำหรับคนทุกกลุ่ม เป็นไปได้ทีเดียวที่ความเรียบง่ายและเฉพาะจุดของพวกทะลึ่งจากเบลารุสจะถูกนำมาใช้โดย Sergei Shnurov ที่ไม่เป็นที่รู้จักในภายหลัง

1. อกาธา คริสตี้ "แฟรี่ไทก้า"

พี่น้อง Samoilov เป็นผู้แปล The Cure ในพื้นที่หลังโซเวียต พี่ชายสองคนทำให้คุณยายตกใจด้วยริมฝีปากที่ทาด้วยยาขัดรองเท้าและข้อความที่มืดมน มันจะไม่เป็นความลับสำหรับทุกคนที่เป็นสมาชิกของกลุ่มนี้ซึ่งเป็นเจ้าพ่อของวัฒนธรรมย่อยแบบโกธิกในรัสเซีย ชาวกอธที่โตแล้วในยุค 00 สามารถพูดได้มากเท่าที่ต้องการว่าเคยฟัง Dark -folk หรือ post-punk มาตลอดชีวิต แต่ความจริงก็คือ 90% ของความหลงใหลในดนตรี "ความมืด" เริ่มต้นด้วยของ Agatha Christie อัลบั้ม "ฝิ่น"

1. ฉนวนกาซา« รวมฟาร์มพังค์»

ในฐานะผู้นำของฉนวนกาซา ยูริ คลินสกี้ กล่าวว่า ความนิยมของกลุ่มนี้เป็นที่นิยมอย่างแท้จริง และไม่มี Kirkorov ใดเทียบได้กับคอร์ดผู้ชายธรรมดาสามกลุ่มจากโวโรเนซ เป็นเวลากว่ายี่สิบปีที่ "ความหยาบคายลามกอนาจาร" ทางสังคมที่รุนแรงยังคงมีความเกี่ยวข้อง แน่นอนว่าฉนวนกาซาไม่เคยเล่นพังค์ร็อกมาก่อน (แม้จะมีความคิดเห็นของแฟน ๆ ส่วนใหญ่) แต่พวกเขามีส่วนสนับสนุนอย่างมากในการทำให้เพลงนี้เป็นที่นิยม ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่ขัดแย้งกัน นั่นคือกลุ่มฟาร์มพังก์

1. DDT "ฤดูใบไม้ร่วงคืออะไร"

เรือธงของร็อครัสเซียในยุคต้นของยุค 80 อันที่จริงแล้วผู้บุกเบิกใต้ดินของสหภาพโซเวียตกลายเป็นเพลงคลาสสิกที่มีชีวิตในยุค 90 โดยได้บันทึกเพลงฮิตหลัก "ฤดูใบไม้ร่วงคืออะไร" จนถึงตอนนี้ พวกที่หยิบกีต้าร์มาสเตอร์ขึ้นมาจากเพลงนี้ "ฤดูใบไม้ร่วงคืออะไร" ไปหาผู้คนพร้อมกับเพลงของ Kuban Cossack Choir ไม่มีคนเดียวในพื้นที่หลังโซเวียตที่ไม่รู้จักนักร้องด้วยหัวใจ: "เรือในฤดูใบไม้ร่วงกำลังลุกไหม้อยู่บนท้องฟ้า ... "

1. อลิซ "เส้นทาง E-95"

อีกหนึ่งตำนาน. ในปี 1997 "Route E-95" ที่ไม่มีวันเสื่อมสลายเล่นกับเหล็กเกือบทุกชนิด Konstantin Kinchev เติบโตเต็มที่ในเวลานี้ แต่ในที่สุดก็ยังไม่ได้เปลี่ยนเป็น Orthodoxy และรวมตัวเองไว้ในสถานะของนักร้องร็อครัสเซีย "คลาสสิก" ที่โหดเหี้ยมที่สุด

1. นอติลุส ปอมปิลิอุส "กลางสายฝน"

ไม่มีใครโต้แย้งว่า Butusov ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงครึ่งหลังของยุค 90 เหตุผลนี้ง่าย - ผลิตผลงานอมตะของ Balabanov - ภาพยนตร์เรื่อง "Brother" Danila Bagrov ฮีโร่ตัวจริงคนแรกของรัสเซียคนใหม่เป็นแฟนผลงานของ NAU ซึ่งกระตุ้นความสนใจที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนในหมู่ผู้คนในงานของกลุ่มนี้ "พวกเขามีอัลบั้มใหม่จริงๆเหรอ Yablokitai?" - วลีที่ทุกคนคุ้นเคย โดยไม่มีข้อยกเว้น.

1. ราชาและตัวตลก "ผู้ชายกินเนื้อ"

ในปี 1998 KiSh - คำใหม่ในเพลงรัสเซีย แน่นอนว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาพวกเขายังคงได้รับความนิยมเช่นเดียวกับในช่วงกลางทศวรรษที่00 แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขามุ่งเป้าไปที่การออกจากห้องใต้ดินไปจนถึงผู้จัดงานเทศกาล นิทานที่น่ากลัวสำหรับเด็กวัยยุติธรรมไม่ใช่พังค์ไซบีเรียนผู้ชั่วร้ายของเลตอฟในตำนานอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องจริงของยุคใหม่ คุณสามารถปฏิบัติต่องานของกลุ่มนี้ได้ตามที่คุณต้องการ แต่ความจริงก็คือภาพลักษณ์ของพังค์ที่สร้างโดยนักร้องของ The King และ Jester Mikhail Gorshenov (ผู้ล่วงลับไปในปี 2013) จะเชื่อมโยงกับตัวแทนของพังค์ทั้งหมดตลอดไป วัฒนธรรม.

1. เซมฟิรา "ทำไม"

ความก้าวหน้าที่แท้จริงของปลายยุค 90 ไม่มีใครคาดคิดว่าสักวันหนึ่งนักร้องร็อกตัวจริงเสียงรุ่นน้องจะปรากฏตัวในรัสเซีย แน่นอนว่ามี Aguzarova และ Yanka Diaghilev แต่สิ่งแรกนั้นไม่ใช่โลกนี้และ Yankee ไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปและเธอไม่เคยทำเครื่องหมายสถานะของดวงดาว Zemfira ในอัลบั้มแรกของเธอได้มอบลมหายใจใหม่ให้กับดนตรีรัสเซีย บทกวีที่สวยงาม การจัดเตรียมที่น่าสนใจ และการอภิปรายอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับปัญหาของคนหนุ่มสาวในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 - นี่คือเหตุผลสำหรับความนิยมอย่างบ้าคลั่งของเด็กผู้หญิงธรรมดาจากอูฟา

1. ม้าม "วงโคจรไม่มีน้ำตาล"

พวกง่าย ๆ ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กที่กลายเป็นตำนานหลังจากเพลงเกี่ยวกับผู้หญิงที่เคี้ยวหมากฝรั่ง หนึ่งในวงดนตรีรัสเซียที่โด่งดังที่สุด อัลบั้มขายได้หลายแสนอัลบั้ม (ไม่ต้องพูดถึงการลอกเลียนแบบ) วิดีโอโชว์ทางทีวีจำนวนนับไม่ถ้วน ขายหมดในทุกคอนเสิร์ต ... ถ่ายทอดอารมณ์ของฮีโร่ในบทเพลงของคุณ อาจเป็นไปได้ว่า "Pomegranate Album" ทั้งหมดซึ่งมีเพลงฮิตมากกว่าเพลงเป็นเพลงที่สำคัญที่สุดในเพลงรัสเซียในยุค 90

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่รายชื่อเพลงร็อคยอดนิยมจากยุค 90 ทั้งหมด แต่สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สะท้อนความเป็นจริงที่ขัดแย้งกันของยุคนั้นได้อย่างเต็มที่ที่สุด ในรายการนี้ ปรมาจารย์อยู่เคียงข้างนักดนตรีรุ่นเยาว์ในสมัยนั้น ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นนักดนตรีที่มีชีวิตคลาสสิก

คนรักดนตรียังคงโต้เถียงกันว่ามีแนวคิดในวัฒนธรรมโลกเช่น "ร็อครัสเซีย" ที่ได้รับความนิยมในประเทศของเราหรือไม่ ไม่มีประเทศอื่นใดที่ทิศทางดนตรีนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก ไม่มีที่ไหนอีกแล้วที่จะมีแฟน ๆ จำนวนมากเช่นนี้ และในวัฒนธรรมย่อยอื่นไม่มีเนื้อเพลงที่มีความสำคัญเป็นพิเศษดังกล่าว หินรัสเซียเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่น่าอัศจรรย์ที่แยกจากกันแพร่หลายใน 90 ของศตวรรษก่อนหน้า ท้ายที่สุดแล้วกลุ่ม "Nautilus Pompilius", "Aquarium", "Sounds of Mu", "Agatha Christie", "DDT", "Chizh and Co" และอื่น ๆ อีกมากมายกลายเป็นตำนานอย่างแท้จริง

จะดาวน์โหลดเพลงร็อคยุค 90 ที่เลือกได้อย่างไร?

ในยุค 90 มีเพลงยอดนิยมและวงดนตรียอดเยี่ยมมากมาย: Scooter, Spice Girls, Aqua, Ace of Base และอื่น ๆ อีกมากมาย พวกเขาส่งเสียงบนชายหาด ดิสโก้ จากแผงขายของและร้านกาแฟทุกแห่ง โปสเตอร์ของพวกเขาถูกแขวนไว้ในห้องของวัยรุ่น แต่เวลาผ่านไป วัยรุ่นผ่านไป นักดนตรีเปลี่ยนเอง ...

สาวแซ่บ. กลุ่มป๊อปหญิงชาวอังกฤษก่อตั้งขึ้นในลอนดอนในปี 1994 และอีกสองปีต่อมาซิงเกิ้ลเดบิวต์ "Wannabe" ของพวกเขาก็ขึ้นอันดับหนึ่งในชาร์ต ในประเทศของเราและทั่วโลก สาวๆ คลั่งไคล้นักร้องทั้งห้าคนมาก

หลังจากพยายามรวมตัวกันหลายครั้ง สาวๆ ก็แยกทางกัน แต่หลายคนก็ประสบความสำเร็จในรูปลักษณ์ใหม่

เอซแห่งฐาน อัลบั้ม "Happy Nation / The Sign" ของวงเป็นอัลบั้มเปิดตัวที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ดิสโก้หลายพันแห่งในประเทศของเราเต้นตามจังหวะและทำนองของกลุ่ม

ในปี 2009 ศิลปินเดี่ยว Jenny Berggren ออกจากวง สมาชิกที่เหลือสร้างโครงการดนตรีใหม่ แต่หลังจากสามปีกลุ่มใหม่ก็เลิกกัน

สกู๊ตเตอร์. วงดนตรีชาวเยอรมันเน้นการเต้นและดนตรีที่กระฉับกระเฉง ในยุค 90 มีเพียงกลุ่มขี้เกียจเท่านั้นที่ไม่ถามว่า “ปลาราคาเท่าไหร่” กับฟรอนต์แมน

ผู้จัดการและฟรอนต์แมนของวง H.P. Baxter เป็นคนเดียวที่เหลืออยู่กับไลน์อัพดั้งเดิม Scooter ยังคงออกทัวร์และออกอัลบั้ม

ไม่ต้องสงสัยเลย American ska punk band ก่อตั้งขึ้นในปี 1986 ในเมืองอนาไฮม์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอได้รับชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหลังจากออกอัลบั้ม Tragic Kingdom ในปี 1995 ซึ่งเป็นเพลงฮิตที่“ Don't speak” ฟังในทุกสถานีวิทยุ

กลุ่มยังคงมีอยู่แม้ว่าสมาชิกของกลุ่มจะมีสไตล์มากขึ้นและนักร้อง Gwen Stefani ได้สร้างอาชีพที่ประสบความสำเร็จในฐานะนักออกแบบแฟชั่น

ร็อกเซ็ตต์ วงดนตรีป๊อปร็อคชาวสวีเดนนำโดย Per Gessle และ Marí Fredriksson ในช่วงปลายยุค 80 และต้นยุค 90 ได้เอาชนะการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกทั่วโลกด้วยเพลงบัลลาดแสนโรแมนติกของพวกเขา

ในปี 2000 นักร้องนำได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งสมองและทำการผ่าตัดต่อไป งานของกลุ่มถูกระงับ แต่สมาชิกได้บันทึกรายการเดี่ยว

ในปี 2556-2559 นักดนตรีเดินทางไปทั่วโลกอย่างแข็งขันการแสดงครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2559 ที่แกรนด์อารีน่าในเคปทาวน์ประเทศแอฟริกาใต้หลังจากนั้นแพทย์แนะนำให้มารีหยุดกิจกรรมคอนเสิร์ตของเธอ

ร้านขายสัตว์เลี้ยงเด็ก. British synthpop duo ก่อตั้งขึ้นในปี 1981 ในลอนดอน

เป็นหนึ่งในวงดนตรีแดนซ์ของสหราชอาณาจักรที่ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์และอุดมสมบูรณ์ที่สุด ในช่วงสามสิบปีที่ผ่านมาพวกเขาได้ออกซิงเกิ้ลมากกว่าสี่สิบเพลง (20 ในจำนวนนั้นติดอันดับท็อป 10 ของชาร์ตอังกฤษ) พวกเขายังคงแสดงและบันทึกอัลบั้ม

รับมันไป. วงดนตรีป๊อปร็อคจากอังกฤษอีกกลุ่มที่แตกต่างจากวงบอยแบนด์อื่นๆ ในยุค 1990 ที่สมาชิกแต่งเพลงของตัวเอง แล้วในปี 1996 กลุ่มเลิกกัน

มีเพียง Robbie Williams เท่านั้นที่สามารถสร้างอาชีพเดี่ยวที่ประสบความสำเร็จได้ ในปี 2010 วงได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งและแม้กระทั่งออกอัลบั้มหลังจากนั้นเล็กน้อย แต่ในท้ายที่สุด มีเพียงสามคนเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในกลุ่มเดิม

ลา บูเช. โครงการของแฟรงค์ ฟาเรียน โปรดิวเซอร์ชื่อดังชาวเยอรมัน ซึ่งมีซิงเกิลที่สอง Be My Lover อยู่ในสิบอันดับแรกใน 14 ประเทศ และเป็นที่หนึ่งในเยอรมนี

นักร้องนำ เมลานี ธอร์นตัน เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2544 อัลบั้มของ La Bouche และการบันทึกเสียงเดี่ยวของนักร้องยังคงได้รับความนิยมและมีการออกและรีมิกซ์เป็นประจำ

แบดบอยส์ บลู. ในช่วงประวัติศาสตร์ กลุ่ม Eurodisco ได้เปิดตัวซิงเกิ้ลฮิตประมาณ 30 เพลงที่ติดชาร์ตในหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงสหรัฐอเมริกา

ปัจจุบัน Bad Boys Blue คือ John McInerney ผู้ซึ่งทะเลาะกับสมาชิกคนอื่นๆ และนักร้องสนับสนุนอีกสองคน - Sylvia McInerney ภรรยาของ John และ Edith Miracle กลุ่มนี้แสดงในหลายประเทศ เช่น เยอรมนี โปแลนด์ บริเตนใหญ่ ฟินแลนด์ อิสราเอล รัสเซีย โรมาเนีย ฮังการี เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย ยูเครน คาซัคสถาน ตุรกี สหรัฐอเมริกา และอื่นๆ

นาย. ประธาน. กลุ่มนักเต้นเยอรมันในสไตล์ Eurodance ซึ่งมีองค์ประกอบที่โด่งดังที่สุด "Coco Jamboo" ในช่วงกลางทศวรรษที่ 90 ไม่ได้ยินเฉพาะคนขี้เกียจเท่านั้น

กลุ่มหยุดเผยแพร่เนื้อหาใหม่ในช่วงปลายยุค 90 ตอนนี้มีเพียงนักร้อง Lay Zee เท่านั้นที่นำชีวิตสร้างสรรค์ที่กระตือรือร้น

โม-โด Fabio Frittelli เป็นนักร้องและดีเจชาวอิตาลีซึ่งมีซิงเกิลที่โด่งดังที่สุดคือ "Eins, Zwei, Polizei" ซึ่งฟังในดิสโก้ทั้งหมดในยุโรปและรัสเซีย

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2013 ฟาบิโอ ฟริทเตลลี่ถูกพบว่าไม่มีชีวิตที่บ้านของเขาในอูดิเน ตอนที่เขาเสียชีวิตเขาอายุ 46 ปี สาเหตุของการเสียชีวิตคือการฆ่าตัวตาย

หมอ อัลบันเป็นนักดนตรีชาวสวีเดนชาวไนจีเรียที่ทำงานในสไตล์ยูโรแดนซ์ บางทีผลงานที่โด่งดังที่สุดของเขาก็คือการแต่งเพลง "It's My Life" ซึ่งแทบจะกลายเป็นจุดเด่นของ Dr. อัลบัน

อัลบันสร้างค่ายเพลง Dr. บันทึกซึ่งดร. อัลบันเริ่มต้นด้วย "เกิดในแอฟริกา" ยังคงออกอัลบั้มและซิงเกิ้ลต่อไป

อควา. วงดนตรีแดนซ์-ป็อป ประกอบด้วย ลีเน่ สาวนอร์เวย์ 1 คน และชายเดนมาร์ก 3 คน ที่โด่งดังไปทั่วโลกในยุค 90 ต้องขอบคุณเพลง "Barbie Girl", "Roses are Red", "Doctor Jones", "Turn Back Time", " Lollipop (Candyman) "," My Oh My " เป็นต้น

กลุ่มยุบในช่วงต้นปี 2000 และกลับมารวมกันอีกครั้งในปี 2550 และออกอัลบั้มใหม่ในปี 2013 หลังจากนั้นกลุ่มก็กระจัดกระจายและรวมตัวกันอีกครั้งตอนนี้ทีมด้วยองค์ประกอบที่เปลี่ยนไปบางครั้งทัวร์เทศกาลย้อนยุค

ยุโรป. วงดนตรีร็อกสัญชาติสวีเดน ก่อตั้งโดยนักร้อง Joey Tempest และมือกีตาร์ John Norum ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจากเพลงฮิต "Final Countdown"

ในปี 1992 กลุ่มเลิกราและกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในปี 2547 เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2558 สตูดิโออัลบั้มที่สิบของพวกเขา War of Kings ได้รับการปล่อยตัวซึ่งเข้าสู่ชาร์ตในสวีเดนที่อันดับสอง

แบ็คสตรีท บอยส์. บอยแบนด์ชาวอเมริกันก่อตั้งเมื่อวันที่ 20 เมษายน 1993 และนับตั้งแต่อัลบั้มเปิดตัวในปี 1996 มียอดขายอัลบั้มของพวกเขาประมาณ 130 ล้านชุด

ตั้งแต่นั้นมา กลุ่มก็กระจัดกระจายและรวมตัวกันอีกครั้ง สมาชิกในกลุ่มได้รับการปฏิบัติจากการติดยาและแอลกอฮอล์ แต่บางครั้งพวกเขาก็ออกอัลบั้มด้วยซ้ำ

'N ซิงค์ กลุ่ม "เด็กผู้ชาย" ก่อตั้งขึ้นในปี 2538 และฮิสทีเรียวัยรุ่นรอบ ๆ วงนี้ถึงจุดสูงสุดในเดือนมีนาคม 2543

ตั้งแต่ปี 2002 จัสติน ทิมเบอร์เลค ฟรอนต์แมนของวงได้ทำงานเดี่ยว อันเป็นผลมาจากการที่กลุ่มไม่ได้ออกอัลบั้มใหม่ เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2013 การกลับมารวมตัวของวงเป็นเวลาสองนาทีได้เกิดขึ้นที่งาน MTV Video Music Awards

"สถานศึกษา". เพลงฮิตหลักของกลุ่มป๊อป "Autumn" ฟังในปี 1995 นอกจากเธอแล้ว ประวัติของ "Lyceum" ยังมีเพลงอีกหลายสิบเพลงที่ครองอันดับหนึ่งในการจัดอันดับเพลง

Anastasia Makarevich เป็นสมาชิกถาวรเพียงคนเดียวในทีมนับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1991 กลุ่มยังคงอยู่และกำลังบันทึกเพลงใหม่

"ราแดง". กลุ่มชาวรัสเซีย - ยูเครนที่สร้างโดยนักดนตรี Pavel Yatsyna ซึ่งบันทึกสี่อัลบั้มแรกเพียงลำพัง กลุ่มนี้ขึ้นชื่อในเรื่องการแสดงเพลงที่ใช้คำหยาบคาย รวมทั้งโคลงกลอน บทกลอน เทพนิยาย เพลงล้อเลียน บทกวีและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

ตอนนี้กลุ่มยังคงมีอยู่และกำลังออกทัวร์สำหรับกลุ่มที่แปด อย่างไรก็ตาม Pavel Yatsyna เป็นคนแรกที่สร้างกีตาร์ไฟฟ้าจากพลั่ว ซึ่งต่อมาเขาได้จดสิทธิบัตรและแสดงร่วมกับกีตาร์ไฟฟ้าในคอนเสิร์ต

"เต่าทอง". ในปี 1994 วงดนตรีประสบความสำเร็จด้วยเพลง "Granite Pebble" ของโซเวียต เสื้อผ้า รองเท้า และเครื่องประดับกลายเป็นจุดเด่นของกลุ่ม: รองเท้าบูท แจ็กเก็ต และร่มที่เก๋ไก๋เหมือนเต่าทอง

นักร้องนำ วลาดิมีร์ โวเลนโก รอดชีวิตจากการผ่าตัดที่ยากลำบาก หลังจากนั้นเขาและภรรยาก็เริ่มบันทึกเพลงเกี่ยวกับศาสนา กลุ่มยังบันทึกอัลบั้มปกติและจัดคอนเสิร์ตเป็นประจำ

บริษัท บาลากัน จำกัด ฮิตของกลุ่ม "คุณต้องการอะไร?" มีแต่คนเกียจคร้านไม่ได้ยิน กลุ่มได้ปรากฏตัวทางโทรทัศน์ บันทึกสามอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จ และออกทัวร์อย่างกว้างขวาง

ในปี 2542 โปรดิวเซอร์ของกลุ่มได้จดทะเบียนชื่อทางการค้าว่า "Balagan Limited" อย่างลับๆ และคัดเลือกรายชื่อใหม่ นักดนตรีเก่าหลังจากพยายามปกป้องชื่อไม่สำเร็จมาตลอดทั้งปีก็เริ่มถูกเรียกหลังจากตีครั้งแรก - "คุณต้องการอะไร"

"ลูกศร". กลุ่มป๊อปถูกสร้างขึ้นโดยสตูดิโอ Soyuz ในปี 1997 และถือเป็น "คำตอบของเรา" โดย "Spice Gilrs" กลุ่มนี้ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในปี 2542 หลังจากการเปิดตัวเพลงและวิดีโอ "คุณทิ้งฉันไว้" ซึ่งนักแสดงยอดนิยม Ivar Kalninsh นำแสดงโดย

ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นตัวจริงบ่อยครั้ง ความนิยมของกลุ่มจึงลดลง ข้อมูลเกี่ยวกับการเลิกราของกลุ่มจะแตกต่างกันไป บางคนบอกว่า 2004 คนอื่น ๆ - 2009 ผู้หญิงบางคนสามารถสร้างอาชีพเดี่ยวได้

"งานปาร์ตี้สละโสด". ฮิปฮอปทรีโอชาวรัสเซียก่อตั้งขึ้นในปี 1991 โดยโปรดิวเซอร์ Alexei Adamov อัลบั้มแรก "Bachelor Party" "Sex without a break" และ "Let's talk about sex" ซึ่งออกโดยสตูดิโอ "Soyuz" ในปี 1991 และ 1992 ทำให้บอยแบนด์ได้รับความนิยมอย่างไม่น่าเชื่อทั่วประเทศ

หลังจากประสบความสำเร็จในการทำงานร่วมกันจนถึงปีพ. ศ. 2539 นักดนตรีได้ปิดโครงการ "Bachelor Party" Dolphin เริ่มต้นอาชีพเดี่ยว Dan และ Mutobor ได้สร้างกลุ่ม "Barbitura" ซึ่งเน้นที่ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์

"เส้า? เปา!" ในปี 1997 กลุ่มยูเครนได้บันทึกเพลง "Kupyla mama is a horse (และม้าที่ไม่มีขา)" ซึ่งได้กลายเป็นจุดเด่นของนักดนตรีรุ่นเยาว์สามคนจาก Dnepropetrovsk

กลุ่มเปลี่ยนรายการ แต่อนิจจา "ม้า" ยังคงเป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้

อัลบั้มใหม่ของ Blur ออกเมื่อวาน- ซึ่งภาษาไม่กล้าพูดง่ายๆ ว่า "ใหม่" ครั้งสุดท้ายที่ Damon Albarn, Graham Coxon, Alex James และ Dave Rowntree นั่งอยู่ด้วยกันในสตูดิโอคือในปี 2003: ตั้งแต่นั้นมาโลกก็เปลี่ยนไปอย่างอ่อนโยนและกลุ่มก็สามารถแยกย้ายกันไปและมาบรรจบกันอีกครั้ง เราขอให้คนรักดนตรีจำวงดนตรีวงอื่นๆ ของกีตาร์คลื่นอังกฤษในยุค 90 (ยกเว้นวัวศักดิ์สิทธิ์ที่ยังไม่ลืมอย่าง Pulp, Oasis และ Suede) ซึ่งหลายวงก็ยังไม่รอดมาจนถึงทุกวันนี้

มานซุน

Anton Dolin
นักวิจารณ์ภาพยนตร์

เพื่อนของฉันและฉันได้ยินวง Chester Mansun quartet ทันทีหลังจากที่มันปรากฏตัว ในปี 1995 - จากนั้นเราก็เสพติดดนตรีใหม่ๆ ของอังกฤษและอเมริกัน เพื่อนของฉันคนหนึ่งนำเทปคาสเซ็ตมาที่มหาวิทยาลัยและสาบานว่าดีกว่าหนังนิ่มเสียอีก ถึงแม้ว่าจะถูกหลอกก็ตาม โดยทั่วไปแล้วมันกลับกลายเป็นอย่างนั้น บางทีอาจเป็นความวิกลจริตชั่วคราว ความมีไหวพริบจากยุคสมัย แต่อารมณ์ที่อ่อนโยนของเพลงมันซัน จังหวะที่ขาดหายไปและท่วงทำนองตามอำเภอใจ และเหนือสิ่งอื่นใดเสียงของ Mannerist ได้พัดหลังคาของเด็กชายและเด็กหญิงออกไปอย่างเท่าเทียมกัน สำหรับฉันเป็นการส่วนตัว ดนตรีของพวกเขา (โดยเฉพาะในอัลบั้มที่สอง Six ที่ปล่อยออกมาหนึ่งปีหลังจากที่ฉันจบการศึกษาจากวิทยาลัย) แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงที่มหัศจรรย์ของยุคในตำนาน - ภาษาอังกฤษปี 1970 ก่อนเกิดของฉัน เมื่อศิลปะร็อคในอุดมคติและลึกซึ้งเฟื่องฟู - ด้วยของขวัญที่ไม่สดใสและน่าตกใจ เมื่อเป็นเรื่องปกติมากกว่าที่จะดื่มด่ำกับแนวเทคโน กรันจ์ หรือการเติบโตอย่างช้าๆ องค์ประกอบที่ซับซ้อนอย่างไม่ยุติธรรม ปรุงแต่งด้วยความโรแมนติกที่ไม่โอ้อวดและความเศร้าโศกอันขมขื่นไหลเข้าหากัน เปลี่ยนแปลงอารมณ์ความรู้สึกโดยไม่ยากเย็น ด้วยความสง่างามและความเหลื่อมล้ำ พวกเขาสัญญากับอนาคตที่คิดไม่ถึง ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้น แผ่นดิสก์แผ่นที่สามกลายเป็นเรื่องไร้สาระและหลังจากนั้น Mansun ก็เลิกกันโดยเหลืออยู่ในความทรงจำราวกับความฝันที่ไม่สำเร็จ

Elastica

Vika Svetlichnaya
ผู้จัดการโครงการ

อัลบั้มเปิดตัวที่มีชื่อเดียวกันโดยวง Elastica ในปี 1995 ซึ่งเป็นปีทองของกระแสบริตป็อปทั้งหมด ยังคงเป็นอัลบั้มโปรดของฉันมาจนถึงทุกวันนี้ จัสติน ฟริชมันน์ ฟรอนต์วูแมนของ Elastica นั้นโดยทั่วไปแล้วจะมีความเท่ที่เข้มข้นในฐานะนักดนตรีและในฐานะผู้หญิง ใครเล่าจะอวดความรักกับ Brett Anderson และ Damon Albarn ได้? ในแง่ของดนตรี อัลบั้มเกือบทั้งหมดประกอบด้วยเพลงสั้น ประหม่า เฉียบขาด ที่ซึ่งอารมณ์พังก์และท่วงทำนองที่พิเศษผสมผสานกันอย่างเท่าเทียมกัน เนื้อหาเป็นการเล่าเรื่องและตรงไปตรงมาเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของผู้หญิงที่เข้มแข็งเกินไป ฉันขอขอบคุณอัลบั้มนี้สำหรับความรู้สึกที่ลืมไม่ลงของความร่าเริงและพลังที่เดือดพล่านจากการฟังแต่ละครั้ง กลุ่มนี้ให้กำเนิดเพลงเต็มความยาวครั้งที่สองเป็นเวลาห้าปี - ในปี 2000 The Menace ได้รับการปล่อยตัวและในความคิดของฉันนี่เป็นตัวอย่างทั่วไปของ "กลุ่มอาการอัลบั้มที่สอง" ซึ่งเป็นแรงผลักดันของอัลบั้มเปิดตัว ไม่ถือออก

ความมีชีวิตชีวา

Sergey Mezenov
นักข่าว

ฉันยังจำการพบกันครั้งแรกได้ - คลิปวิดีโอที่โด่งดังในทีวีซึ่งผู้ชายที่ผอมเพรียวและน่ากลัวที่มีใบหน้าขมวดคิ้วผลักทุกคนบนถนนอย่างแยกไม่ออก ผู้ซึ่งไม่เคยเข้าไปในซีรีส์เรื่อง "Gondry - Johns - Romanek - Glazer" อันศักดิ์สิทธิ์แม้ว่าเขาจะมีเหตุผลมากมายสำหรับเรื่องนี้) “ไร้สาระอะไร? - ฉันจำได้ ฉันคิดว่า - และมีใครชอบสิ่งนี้ไหม เฟ!" อย่างไรก็ตาม มีอัลบั้ม "A Northern Soul" ที่นำโดยเพื่อนจากยุโรปและการตรัสรู้ทีละน้อย The Verve ไม่ใช่ภูมิปัญญาที่มีความหมายของ Richard Ashcroft ราวกับว่าแอบมองใน "Farmer's Almanac" ที่โด่งดังและเป็นตัวเป็นตนในเพลงบัลลาดที่เงียบสงบ นี่คือกีตาร์ประสาทหลอนหลายชั้นของ Nick McCabe ผู้ซึ่งใช้อุปกรณ์เพียงชุดเดียวสามารถเปลี่ยนเพลงบัลลาดที่มีความหมายให้กลายเป็นทะเลสาบแห่งจักรวาลที่ไร้ก้นบึ้ง

ในท้ายที่สุด The Verve ถูกจัดเรียงในลักษณะเดียวกับ Blur: ส่วนจังหวะที่ยืดหยุ่นอย่างไม่สิ้นสุดที่ยอมรับฟีดใด ๆ ได้อย่างง่ายดายและการดึงที่ขัดแย้งกันตลอดเวลาจากมือกีต้าร์ที่มีพรสวรรค์และนักร้องที่มีความทะเยอทะยานอย่างมากพร้อมมารยาทของอัจฉริยะ และพระเมสสิยาห์ ปรับตามข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาเล่นแร่แปรธาตุเฉพาะในการปะทะกันเท่านั้น - ทั้ง Ashcroft หรือ McCabe หรือมือกลองและมือเบสไม่สามารถแปลงความสำเร็จของพวกเขาด้วย The Verve ให้เป็นเรื่องราวเดี่ยวที่โดดเด่น อย่างน้อยก็มีบันทึก - สองรายการที่ยอดเยี่ยม (ครั้งแรก) และสองรายการ (ส่วนที่เหลือ)

กุหลาบหิน

Ksenia Kirsta
นักกีตาร์ El Monstrino

เมื่อฉันอายุสิบหก ทุกเดือนฉันไปที่ "Gorbushka" และด้วยเงินเดือนผู้จัดส่ง $ 250 ของฉัน ซื้อทุกอย่างที่ NME ซึ่งเผยแพร่ในรัสเซียเขียนถึง ดิสก์เช่นหนังสือสามารถนอนรออยู่ในปีกได้เป็นเวลานาน เมื่อเราคุยโทรศัพท์กับเพื่อนคนหนึ่ง และเธอเสนอให้เริ่ม LiveJournal ให้ฉัน เพื่อที่ฉันจะได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบันทึกย่อของเธอและคนอื่นๆ เมื่อฉันไปที่อินเทอร์เน็ตคาเฟ่ - ฉันไม่มีคอมพิวเตอร์หรืออินเทอร์เน็ต เธอถามฉันว่าฉันต้องการชื่อเล่นอะไร รายชื่อทั้งหมดที่ฉันระบุไว้ถูกใช้ไปแล้ว ฉันจึงเริ่มมองไปรอบๆ ห้องด้วยตาเพื่อหาสิ่งที่เขียนและฟังดูดี การค้นหาหยุดลงที่ "Made of Stone" ซึ่งเป็นชื่อเพลงหนึ่งในอัลบั้ม The Stone Roses นอนคว่ำหน้าลงบนตู้เสื้อผ้า ชื่อไม่ว่าง

แผ่นดิสก์อยู่ในตำแหน่งเดิมประมาณสามเดือน จนในที่สุด ฉันก็แกะมันออกและใส่เข้าไปในสเตอริโอด้วยความเบื่อหน่ายในที่สุด ตั้งแต่นั้นมา The Stone Roses ได้กลายเป็นหนึ่งในวงดนตรีที่ฉันโปรดปราน และ Ian Brown ก็เป็นหนึ่งในตัวละครที่ฉันชื่นชอบในวงการเพลงร็อค ฉันชอบภาพลักษณ์ของ gopnik-messiah ของเขาเสมอ เคลื่อนไหวในการเต้นรำแบบลิง ราวกับอยู่ในความเร็วที่รวดเร็ว เป็นเวลานานที่ฉันห่างเหินจากเพลงนี้ และหากมีความปรารถนาที่จะได้ยินเสียงของบราวน์ ฉันก็จะทำอัลบั้มเดี่ยวของเขา แต่ทุกครั้งที่ฉันได้ยินเสียงเพลงของ The Stone Roses หรือดูวิดีโอจากคอนเสิร์ตเก่าๆ มันเหมือนกับการกลับบ้าน ไปที่เตียงเด็ก ซึ่งฉันดูเหมือนโตขึ้นแล้ว แต่ในที่ที่มันสงบและสบาย

พรมแรงบันดาลใจ

Maxim Semelyak
หัวหน้าบรรณาธิการ
นิตยสาร Prime Russian

ในปี 1990 คอลเล็กชั่น Rave On ได้เปิดตัวอีกครั้ง โดยเปลี่ยนพรมแดนระหว่างดนตรีเต้นรำและกีตาร์ให้เป็นเมมเบรนแบบกึ่งซึมผ่านได้ (มี Happy Mondays, The Shamen, Flowered Up และจนถึง My Bloody Valentine) ฉันเขียนแผ่นดิสก์นี้ใหม่ในเดือนม.ค. 92 และเมื่อฉันฟังเพลง "เธอมาในฤดูใบไม้ร่วง" ของ Inspiral Carpets นี่คือจุดเริ่มต้นของยุคที่ฉันกำลังมองหา อัลบั้มที่ดีที่สุดของพวกเขาเปิดตัวในปี '92 - "The Revenge of the Goldfish" - ฉันไม่ได้คัดลอกมาจากไวนิล แต่มาจากเทปภาษาฝรั่งเศส "ดั้งเดิม" ของฉัน และถ้าในกรณีที่ฉันเซ็นชื่อเทปด้วยดินสอ "Rave On" ฟังความรู้สึกแล้วชื่อของเพลงใหม่ - "การสูบบุหรี่ของเธอ", "A Little Dissapeared" - ฉันเขียนด้วย ปากกามานานหลายศตวรรษโดยไม่มีสิทธิ์เขียนใหม่

ในเพลงของ IC มีการแยกแยะความแตกต่างระหว่างเสียงเก่าและใหม่ได้อย่างลงตัว ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับเด็กอายุสิบแปดปีในขณะนั้น ซึ่งโดยหลักการแล้ว เวลานั้นลดลงเหลือสองตัวเลข ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวบันทึกเฉพาะ พวกเขาฟังดูเชิงรุกและโรแมนติกมากกว่า Happy Mondays โดยเน้นย้ำถึงความคลั่งไคล้ในคอนโดของพวกเขา อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ถึงความผอมเพรียวของ The Charlatans บางคน เป็นไปไม่ได้ แน่นอน ที่จะบอกว่าพวกเขายังคงอยู่ในความคลุมเครือพิเศษหรือการประเมินค่าต่ำไป แต่ทุกอย่างก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า Inspiral Carpets ไม่ได้เป็นของเวลาของพวกเขา แต่เป็นช่องว่างระหว่างยุคสมัย รูปแบบ เงื่อนไข - และ นี่อาจเป็นไปได้และมีการแก้แค้นของปลาทองสำหรับความสามารถที่เหลือเชื่อที่มอบให้กับพวกเขา

เถ้า

อีวาน โซโรคิน
นักวิทยาศาสตร์และอาจารย์

ฉันจำได้ดีว่าความหลงใหลในดนตรีของฉันเริ่มต้นขึ้นอย่างไร: จากนิตยสาร "Rovesnik" ในเดือนพฤศจิกายน 1997 ฉันคิดว่าซื้อในร้านขายของชำ (พี่น้อง Hanson มองมาที่ฉันด้วยความรักจากหน้าปก) หลังจากอ่านความคิดเห็นในชาร์ตของอังกฤษแล้ว ฉันตัดสินใจซื้ออัลบั้ม "Be Here Now" และ "OK Computer" ที่ Gorbushka - คุณเดาเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป สำหรับคนที่เติบโตมาในสไตล์บริตป็อปอย่างแท้จริง ฉันพบแอชค่อนข้างช้า: ในปี 2544 สื่อเพลงของอังกฤษทั้งหมดอุ้มวงดนตรีไว้ในอ้อมแขน และอัลบั้ม "Free All Angels" ซึ่งออกวางจำหน่ายในขณะนั้น ยังถือว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดของไอริช (และถูกต้องแล้ว) ... และถึงแม้ว่าจะสมเหตุสมผลที่สุดที่จะทำความรู้จักกับ Ash จากแผ่นดิสก์นี้ (หรือจากคอลเลคชันซิงเกิลที่ยอดเยี่ยม "Intergalactic Sonic 7's" ซึ่งพรสวรรค์อันไพเราะอันน่าทึ่งของ Tim Wheeler จะปรากฏชัดเป็นพิเศษ) ตำนานของกลุ่มก็คงไม่เกิดขึ้นหากไม่มีบริต- ช่วงป๊อป

ในปี 1994-1996 เมื่อยุคทองแรกของ Ash ร่วงลง ทั้งสามคนก็โดดเด่นจากฮีโร่กีตาร์ตัวอื่นๆ ของหนุ่มอังกฤษโดยสิ้นเชิง พวกเขาไม่ได้อาศัยอยู่ในลอนดอน (เหมือนกับผู้เล่นหลักของ Britpop) แต่อยู่ในย่านชานเมืองที่น่าเบื่อของไอร์แลนด์เหนือ เบลฟาสต์ แกลมร็อคและไอดอลหลอนประสาทของพี่น้อง Gallagher, Brett Anderson และ Ash ที่เหลือไม่ได้ติดตาม - แต่การ์ตูนป๊อปพังค์ฮิตของพวกเขาคล้ายกับช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ Buzzcocks และ The Jam ที่เข้มข้นในสามนาที วีลเลอร์เหมาะกับวัยรุ่นโดยธรรมชาติ (ชื่อแผ่นแรกของแอช "1977" คือปีเกิดของสองในสามสมาชิกของกลุ่ม) ไม่ได้ร้องเพลงเกี่ยวกับชะตากรรมของรุ่นเพศที่น่าอึดอัดใจและความซับซ้อนของชีวิตที่ ปลายศตวรรษที่ 20 แต่เกี่ยวกับเฉินหลงและชาวอังคาร และมันก็สดใหม่อย่างน่าทึ่ง: ใช้เวลาเพียงสองปีกว่าที่วงดนตรีป๊อปพังก์หลายสิบวงอย่าง Bis และ Kenickie จะปรากฏตัวในสหราชอาณาจักร โดยเขียนเนื้อเพลงและท่วงทำนองอันชาญฉลาดที่หลอกหลอนซึ่งอาจทำให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กระโดดขึ้นไปบนเพดานได้ ทั้งหมดนี้เราต้องขอบคุณ Ash

ขี่

Alisa Taezhnaya
นักข่าว
และสื่อศิลปิน

เนื่องจากความรังเกียจของวัยรุ่นที่ไม่สมเหตุผล วิธีแปลก ๆ ในการสร้างความสัมพันธ์ทางดนตรีและความไม่รู้ในยี่สิบปีหรือมากกว่านั้น ฉันจึงยังคงเปิดกลุ่มและสงสัยในพวกเขาเหมือนเด็กๆ มีอยู่ครั้งหนึ่ง Iggy Pop และ Lou Reed เดินผ่านฉันไปด้วยเหตุผลต่างๆ นานา แต่ความอิ่มเอมใจที่ฉันรู้สึกเมื่อเล่นคอร์ดครั้งแรกของ Ride บอกตามตรง ฉันไม่ได้สัมผัสอะไรมากในภายหลัง ฉันจำได้ว่าตอนฝนตกฉันบังเอิญเปิดเพลง "Leave Them All Behind" ไว้ในเครื่องเล่น - และฉันทิ้งวงดนตรีโปรดไว้เป็นโหลๆ เป็นเวลาอีกหนึ่งเดือนและฟังฮัม กลอง และกีตาร์เบสนี้อย่างไม่รู้จบ วิกิพีเดียบอกว่า Ride นั้นค่อนข้างจะขี้เกียจ แต่ในการบันทึกเสียงสดกับ Glastonbury นักร้องนำสวมแว่นตาสีชมพูและไม่ได้จ้องที่พื้นอย่างเศร้าใจเลย เพลงของ Ride ทำให้ฉันเบิกบานใจอย่างเหลือล้น ซึ่งเป็นเวอร์ชันเล็กของ "She's A Waterfall" ที่มีน้ำหนักอันสูงส่งซึ่งทำให้เพลงร็อคทุกเพลงในยุค 90 ดีขึ้น โดยทั่วไป สิ่งที่คุณต้องทำทันทีที่ใบไม้ผลิบานคือการนั่งบนจักรยาน เล่นเพลง "Seagull" สูดอากาศยามเย็นและจินตนาการว่าตัวเองอยู่ในทะเล กลุ่มนี้ถูกเรียกว่า Ride ด้วยเหตุผล - ไม่มีเสียงที่ดีกว่าสำหรับถนนยาวหรือการเดินทางที่เกิดขึ้นเอง

องุ่นดำ

อิลยา มิลเลอร์
นักวิจารณ์ดนตรี,
หัวหน้าบรรณาธิการของเว็บไซต์ฉบับภาษารัสเซีย
นักข่าวฮอลลีวูด

องุ่นจากชื่อนี้มีสีดำด้วยเหตุผล ไม่ว่าพวกเสรีนิยมที่คลั่งไคล้จะกล่าวหาบริตป๊อปว่ากีดกันกีดกันทางเพศและชาตินิยมอย่างไร เขาสามารถยืนหยัดเพื่อตัวเองได้เสมอ ถ้าเขาต้องการ แน่นอน ในประเด็นแรก Sean Ryder และ Bezout แทบไม่มีอะไรจะพูด: Melody Maker เคยใส่ Happy Mondays ไว้บนหน้าปก และในฟีเจอร์นี้ นักข่าวสองคนได้แพร่ภาพในการให้สัมภาษณ์กล่าวหาคู่รักที่เป็นผู้หญิงอย่างไตร่ตรองอย่างรอบคอบ อุบาย ไรเดอร์กับเบซแค่วลีที่ว่า "เรา *** รักผู้หญิงจริงๆ โดยเฉพาะรูปร่างของพวกเขา"

แต่มันใช้ไม่ได้ผลเลยในการเปลี่ยน gopniks จาก Salford ให้กลายเป็นสกินเฮด - ในการกลับชาติมาเกิดครั้งต่อไป แร็ปเปอร์จาก Ruthless Rap Assassins ชื่อ Kermit มีบทบาทสำคัญ อย่างน้อยแท็บลอยด์เพลงทั้งหมดก็เขียนอย่างกระตือรือร้นว่าที่ไหนและภายใต้สถานการณ์ใดที่ Kermit หักขาของเขาซึ่งเป็นสาเหตุที่คอนเสิร์ตครั้งต่อไปของการแสดงประหลาดนี้ถูกยกเลิก แต่สิ่งนี้ไม่ได้หยุด Ryder กับ Bez จากการทำให้ความปีติยินดีและชัยชนะมากที่สุด - นั่นคือเพลงที่มืดมนที่สุดในขณะนั้นบนเกาะ

นอกจากชื่อและองค์ประกอบแล้ว Black Grape ยังแตกต่างจาก Happy Mondays ในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อันที่จริงมันเป็นการกลั่นแบบเดียวกันของจิตวิญญาณของ Urlov Manchester ซึ่งยังคงขาดไม่ได้ในทุกขั้นตอน ให้ไรเดอร์ที่กัดดวงจันทร์ แทนที่จะอ่านเนื้อเพลง ให้อ่านเช็คของเขาจากร้านขายยา พิมพ์ลงบนกระดาษ A4 โหล แต่สิ่งต่าง ๆ เช่น “ เขย่าเงินของคุณ"," In the Name of the Father "และ" Kelly's Heroes "ในชาร์ตในแง่ของความเยือกเย็นและโรคจิตเภทที่ดึงดูดไปยัง 2Pac มากขึ้น, ดร. Dre, Shaggy และ Coolio มากกว่าเสียงกระทบกันของผ้าปูที่นอนและกีตาร์ที่น่ารังเกียจของ Jarvis, Brett และเพื่อน ที่นั่นพังก์ไม่เพียง แต่พบกับความกลัวเท่านั้น แต่ยังสามารถเกษียณได้และทุกอย่างก็เกิดขึ้นสำหรับพวกเขา

บรรจุร่องโพสต์ coital ทั้งหมดไว้ในกระดาษป็อปอาร์ตที่น่าสนใจและถูกโค่นล้มจากภาพเหมือนของดาราผู้ก่อการร้าย Ilyich Ramirez Sanchez หรือที่รู้จักในชื่อ Jackal อัลบั้มนี้มีชื่อว่า "เจ๋งเมื่อคุณแกร่ง ... ใช่" ชื่ออัลบั้มที่สอง (มีอัลบั้มที่สองด้วย) "Stupid Stupid Stupid" ก็ดูเหมือนจะมีซับเท็กซ์ซ่อนอยู่ลึก ๆ แต่หลังจากหลายปีที่ไม่มีความมั่นใจมากฉันก็ไม่สามารถอธิบายให้คุณฟังได้อย่างชัดเจนอีกต่อไปไม่ ไม่ว่าฉันจะพยายามแค่ไหน เชื่อฉันเถอะว่าถ้าในช่วงกลางทศวรรษที่ 90 คุณมางานปาร์ตี้และครึ่งชั่วโมงที่นั่นไม่มีเสียงจากลำโพงในการเดินและการร่อนเร่ร่อนเร่และเพ้อเจ้อของ Black Grape - คุณเพิ่งทำประตูผิดในชีวิตอย่างโง่เขลา หรือพวกเขาไม่อยู่ในรายการเลย

ยีน

Armen Aloyan
นักดนตรี

เช่นเดียวกับแฟนๆ ของ Morrissey ที่เคารพตัวเอง ฉันรู้เกี่ยวกับกลุ่มของ Gene หลังจากที่ฉันคุ้นเคยกับงานของอดีตแล้วเท่านั้น อันที่จริงกลุ่มนี้อยู่ในกลุ่มคนรักดนตรีราวกับเป็นโคลนของ The Smiths อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด นอกจากความเศร้าโศกของอังกฤษในสมัยโบราณแล้ว ก็ไม่มีการเชื่อมโยงกับตำนานของยุค 80 อีกต่อไป พวกเขาค่อนข้างตรงไปตรงมาและเพลงไพเราะ แม้ว่าอาจมีการอ้างอิงบางอย่างในเนื้อเพลง - ใน "Is It Over" เป็นต้น เรามักจะจัดปาร์ตี้ตามธีม เช่น อุทิศให้กับวันเกิดของ The Cure และ The Smiths ฉันยังจำบางอย่างเช่นการแสดงร้องประสานเสียงของ "Speak To Me Someone" ได้ มันค่อนข้างตลกที่จะร้องเพลงเต็มคอ ฉันยังรวมเพลงของพวกเขาไว้ในการรวบรวม CDR เถื่อนที่เรียกว่า Morrissey and Friends - Trash

ฉันยังคงสนุกกับการฟังเพลงสองสามเพลง เช่น "Speak To Me Someone" และ "Fill Her Up" แม้ว่าในตอนนั้นและตอนนี้ทั้งหมดจะดูเหมือนเป็นการล้อเลียนหรืออะไรบางอย่าง ที่ไหนสักแห่งในยุค 2000 ที่ฉันเห็นคอนเสิร์ตด้วยการมีส่วนร่วมของพวกเขาและดูเหมือนว่าพวกเขาไม่เห็นอกเห็นใจฉันภายนอกดูเหมือนว่าศิลปินเดี่ยวไม่มีพรสวรรค์เลยบางคนไร้หน้าดังนั้นพวกเขาจะไม่เห็น "ความรุ่งโรจน์ของ Ivan Kozlovsky" IMHO แต่มีแผ่นดิสก์อยู่สองสามแผ่นบนหิ้ง

สเตอริโอหนัก

Sergey Blokhin
นักข่าว ดีเจ

สำหรับวัยรุ่นที่ระบุว่าเป็น "ทางเลือก" มีการรวมตัวของผู้รักเสียงเพลงสองครั้งในมอสโกในช่วงกลางทศวรรษ 90: Gorbushka ในวันหยุดสุดสัปดาห์และ Learn to Swim ที่ทางเข้า Radio Maximum ในวันพฤหัสบดี มันอยู่ในสถานที่เหล่านี้ที่แนวโน้มถูกกำหนดโดยคำพูดจากปากต่อปากและการโฆษณาที่เกิดขึ้น อัลบั้ม "(What's the Story) Morning Glory?" ทำให้โอเอซิสเป็นที่นิยมมากเกินไปสำหรับผู้เย่อหยิ่งทางดนตรีและจำเป็นต้องมีการแทนที่ The Heavy Stereo quartet ซึ่งออกอัลบั้มเปิดตัว “ เดจา วูดู”พอดีตัว. อย่างแรกเลย นอก Hangout นี้ในรัสเซีย มีคนไม่กี่คนที่รู้จักพวกเขา ประการที่สอง เสื้อยืดที่มีตัวอักษร 'Heavy Stereo' ที่มีเสน่ห์ดูเท่ห์ในตัวมันเอง และที่สำคัญที่สุด มันคือโอเอซิสที่ไม่มีน้ำมูก - หยาบกว่า ดิบกว่า และมีร่องคล้ายทีเร็กซ์มากกว่าเดอะบีทเทิลส์ อย่างไรก็ตาม จุดสุดยอดในอาชีพการงานของพวกเขาคือการเปิดการแสดงของแก๊งกัลลาเกอร์ และสามปีต่อมา Heavy Stereo ก็เลิกรากันไป เมื่อ Jam Archer ฟรอนต์แมนเปลี่ยนมาใช้ Oasis แห่งนี้

เจมส์

Sergey Kiselev
นักดนตรี

เซลติกส์เป็นผู้นำในรายชื่อนักร้องเพลงป๊อบอังกฤษที่ดีที่สุดและยาวนาน: Byronic Ian McCulloch จาก Echo & The Bunnymen, Fergal Sharkey จาก The Undertones, Billy Mackenzie จาก The Associates ที่ไม่มีใครเทียบได้ Keris Matthews จาก Catatonia ที่มีเสน่ห์ แต่ในหมู่พวกเขามีชาวอังกฤษผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งซึ่งเป็นคนงี่เง่าในหมู่บ้านที่มีเสียงของนางฟ้า - ทิมบูธ กลุ่มของเขาเจมส์ - มากกว่าเต็นท์มากกว่ากลุ่มนักดนตรี - ครึ่งหนึ่งของแฟน ๆ ของ "Man City" ที่น่าอับอายบันทึกอัลบั้มที่ดีที่สุดกับ Brian Eno และกระตุ้นความชื่นชมในหมู่ชาวสวรรค์ ผู้นำของทรินิตี้ที่ให้ชีวิตชาวแมนคูเนียน: New Order, The Fall และ The Smiths เป็นนักร้องประสานเสียงแห่งความรักที่มีต่อเจมส์ ในช่วงกลางทศวรรษที่ 90 มาเอสโตร บาดาลาเมนติ ผู้สร้างเสียงลึกลับของ Twin Peaks ได้ช่วยให้เสียงร้องของทิม บูธเผยความรุ่งโรจน์ในอัลบั้มร่วมของพวกเขา "Booth and the Bad Angel" - การบันทึกนี้ควรอยู่ในทุกบ้าน

ความรักในวัยเยาว์ของเจมส์เป็นสิ่งที่ยากจะลืมเลือน นักกีตาร์และนักแต่งเพลง Oleg Boyko หัวหน้าวง Mother's Little Helpers วงดนตรีอินดี้ที่เก่าแก่ที่สุดของมอสโก มักจะเล่นเพลงของ James สองสามเพลงในทุกคอนเสิร์ต เพราะเพลงเหล่านี้มีสดและคุณไม่สามารถวางมันบนชั้นวางได้ พวกเขาจึงต้องการร้อง โครงสร้างของพวกเขาเรียบง่ายและเข้าใจได้ไม่มีความเท็จในตัวพวกเขา ความเป็นธรรมชาติคือไพ่ใบสำคัญของเจมส์ ทางกลุ่มได้เปลี่ยนการซ้อมมาราธอนให้กลายเป็นการเข้าท่า และประสบความสำเร็จในการเรียกวิญญาณที่อาศัยอยู่ในบันทึกของพวกเขา ในสหราชอาณาจักรมีนักดนตรีที่มีเทคนิคและอาจมีพรสวรรค์มากกว่า แต่ไม่มีใครมีความเกี่ยวข้องกับพื้นที่อย่างมั่นใจ

ตลกขั้นเทพ

Olga Strakhovskaya
หัวหน้าบรรณาธิการของ Wonderzine

ในช่วงกลางทศวรรษ 90 ไอดอลที่ไม่มีข้อโต้แย้งของฉันคือ Pulp นักร้องในละครแห่งการเติบโตขึ้น ความหวังสูงและความกลัวที่ยิ่งใหญ่ และการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกที่น่าอึดอัดใจในเมืองเล็ก ๆ ซึ่งใกล้เคียงกับอายุสิบหกของฉันอย่างสมบูรณ์แบบและดูเหมือนจะกำหนดฉันตลอดไป ติดตามพวกเขา (และขอบคุณพวกเขาบางส่วน) The Smiths และ Suede ดึงตัวเองเข้าสู่ผู้เล่นของฉันและหลังจากนั้นฉันก็ตกหลุมรัก Manic Street Preachers รุ่นแรกซึ่งมีอัลบั้ม "The Holy Bible" ฉันยังถือว่ายอดเยี่ยมและบางครั้งก็ตะโกนใส่ คืนขณะนั่งอยู่ในรถ (และเพื่อนของฉันถึงกับเอ่ยชื่อเพลงฮิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาในใจเขา) เต็มไปด้วยความไร้เดียงสา ความสิ้นหวัง และความโกรธของฝ่ายซ้าย นี่คือการแสดงดนตรีที่บริสุทธิ์ของสิ่งที่นักจิตวิทยาเรียกว่าเสียงร้องก่อนฆ่าตัวตายเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยทั่วไปแล้ว ดนตรีอังกฤษในยุค 90 สำหรับฉันนั้นมีความเท่าเทียมกันกับการวางท่าทางและประโลมโลกที่ขาดไม่ได้

ตามมาตรฐานเหล่านี้ The Divine Comedy โดดเด่นอยู่เสมอ พวกเขาไม่มีน้ำตาที่สิ้นหวัง และไม่มีความกล้าเหมือนคนรุ่นเดียวกัน พวกเขาแทบไม่มีความทะเยอทะยานที่จะจับและจับจิตวิญญาณแห่งกาลเวลาในนามของเด็กชายและเด็กหญิงที่หลงทาง - และ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม เหมือนฉัน พวกเขาไม่ได้ตกเป็นเชลยของเขา คนรุ่นนี้เกือบไม่มีข้อยกเว้นถูกแบ่งออกเป็นสองค่าย: คนไร้ยางอายจากชานเมืองชนชั้นแรงงาน (พวกเขาไม่สนใจฉันเลย) และสุนทรียศาสตร์ - ปัญญา - หัวหน้าของ The Divine Comedy Neil Hannon อยู่ในประเภทที่สอง เขาสวมชุดสูทที่เป็นทางการรวมกับแว่นตาเรเวอร์แต่งเพลงโดยพยักหน้าไปทาง Krzysztof Kieslowski และภาพยนตร์เรื่อง “ Alfie” และเห็นได้ชัดว่าไม่ได้ถือว่าวีรบุรุษในยุคของเขาเป็นคนที่มีความคิดเหมือนกัน แต่สก็อตต์วอล์คเกอร์ป๊อปบาโรกและครูเสดจากยุค 60 พูดง่ายๆ ก็คือ The Divine Comedy ซึ่งแตกต่างจากวงดนตรีหลายๆ วงในฉากอังกฤษในสมัยนั้น ค่อนข้างจะฟังได้ในตอนนี้ - พวกเขาอยู่ห่างไกลจากยุค 90 เท่านั้น (ถึงแม้พระเจ้า ก็แค่มองดู คลิปนี้) และไม่ติดอยู่ในนั้นตลอดไป

บูแรดลีย์

Boo Radleys แทบจะเรียกได้ว่าเป็นวงดนตรีที่ยอดเยี่ยม แต่ในแง่หนึ่งมันก็ดูดซับคุณลักษณะทั้งหมดของเวลาไว้ อัลบั้มแรกและดีที่สุดสำหรับรสนิยมของฉัน - "Ichabod and I" - เป็นสะพานเชื่อมระหว่างยุค 80 ที่ยิ่งใหญ่และสิ่งที่จะเรียกว่า Brit-pop ในภายหลัง มีเสียงรบกวนมากมายจาก My Bloody Valentine เห็นได้ชัดว่า "อินดี้" ในความหมายคลาสสิกของคำ (บันทึกถูกบันทึกไว้บนฉลากที่กลุ่ม The Fall ทำงาน - วีรบุรุษแห่งยุค 80 อีกคน) แต่ใน "Ichabod and I" มีเสียงร้องที่อยู่ห่างไกลในสไตล์ของ The Stone Roses ที่กำลังจะดังขึ้นใน "Spike Island" - ซึ่งร็อคของอังกฤษกลายเป็นเพลงป๊อปของอังกฤษ อย่างไรก็ตาม พูดอย่างเคร่งครัด The Boo Radleys ไม่เคยกลายเป็น Brit-pop ด้วยเหตุผลง่ายๆข้อเดียว: พวกเขาไม่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องแม้ว่าพวกเขาจะยังมีชื่อเสียงเพียงเล็กน้อยก็ตาม ในปี 1995 พวกเขาเปิดตัว "Wake Up!" - อัลบั้มที่ซ้ำซากและป๊อปที่สุด เช่น "Oasis พบกับ The Beatles ที่ด้านบนสุดของชาร์ต" แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้ล้มลงถึงระดับอาเจียนดั้งเดิมของคนขี้เมาในแมนเชสเตอร์ แต่อาจเป็นไปได้ว่ามีเพียงอัลบั้มที่สอดคล้องนี้เท่านั้นที่ทำให้พวกเขาสามารถนำมาประกอบกับ Brit-pop ได้ทั้งในด้านดนตรีและในความหมาย แต่แน่นอนว่าอัลบั้มแรกเป็นที่รักของฉัน เมื่อฉันเบื่อ My Bloody Valentine and Ride The Boo Radleys ก็เป็นสิ่งที่ฉันต้องการ

เพิงเจ็ด

จอร์จ เบอร์เกอร์
รองหัวหน้าบรรณาธิการ
นิตยสาร "อฟิชา"

ทุกประเภทได้รับการออกแบบในลักษณะที่มีผู้ก่อตั้งสองสามคนและโคลนหลายสิบตัวที่เปลี่ยนแปลงข้อมูลเริ่มต้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น Shed Seven เป็นเพียงหนึ่งในหลังซึ่งเป็นสำเนาของ Oasis ที่ตรงไปตรงมาซึ่งบางครั้งก็มีบางอย่างที่ลวงใน Blur แต่ epigone แต่ละอันมีคุณสมบัติของตัวเอง และ Shed Seven ก็เช่นกัน - พวกมันสามารถจับภาพความสุขแห่งยุคนั้นได้ดีกว่า ความเอร็ดอร่อยของชนชั้นกรรมาชีพที่โอ่อ่าสำหรับแนวเพลงนั้น เช่นเดียวกับเด็กชายบริตป็อปคนอื่นๆ พวกเขาสวมกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน รองเท้าผ้าใบ และเสื้อสเวตเตอร์ แต่ไม่ใช่เพราะเป็นเรื่องปกติในพื้นที่ของพวกเขา แต่เพราะมันกลายเป็นแฟชั่นไปแล้ว พวกเขายกย่องชีวิต แต่ไม่ใช่แม้จะมีความหายนะหลังอุตสาหกรรม แต่เนื่องจากชีวิตดีจริงๆ - โดยทั่วไปแล้วพวกเขามีคุณสมบัติทั้งหมดของกลุ่ม Brit-pop แต่เงื่อนไขของพวกเขาไม่เป็นเช่นนั้น และนี่คือความขัดแย้ง - ในเพลงที่ได้นั้นไม่มีความเท็จแม้แต่น้อย แทนที่จะแสร้งทำเป็นว่าพวกเขาได้บริตป็อปทรงกลมในสุญญากาศ

เพลงของพวกเขาเต็มไปด้วยความเมตตา ความเศร้าเล็กน้อย เสียงสะท้อน โซโลมหากาพย์ และเนื้อเพลงที่ยืนยันชีวิต เพลงบัลลาดและเพลงสวดเกี่ยวกับเวลาและสถานที่นี้ดีเพียงใด (สิ่งเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นคือถ้าเธอจากไปในวันศุกร์และซากปรักหักพัง ตลอดทั้งสัปดาห์) ในเพลงเหล่านี้ เราสามารถพิจารณาถึงความกลัวที่ซ่อนเร้นได้ไม่ดีว่าช่วงเวลานี้เปราะบางอย่างไม่น่าเชื่อและไม่นิรันดร์และอาจจบลงได้ทุกวินาที แต่นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงมีค่ามากกว่าเท่านั้น ในหลาย ๆ ด้าน ทุกวันนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะฟังสิ่งนี้ การระเบิดครั้งนี้เป็นเรื่องน่าขบขัน และจากความรู้สึกทั้งหมดที่มีต่อพวกเขา ตอนนี้การยอมจำนนกลายเป็นสิ่งสำคัญ - เหมือนแมลงปอกระโดดที่ร้องเพลงฤดูร้อนสีแดง แต่ฉันในฐานะคนที่ถึงแม้จะอายุไม่มาก แต่ก็จับฤดูร้อนนั้นได้และจำได้ว่ามันช่างครอบคลุมและซ้ำซากเพียงใด น้ำตามันช่างสวยงามเหลือเกิน ฉันยังคงอยากกลับไปเป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เพลง Shed สองสามเพลง Seven เก็บความรู้สึกเหล่านั้นไว้ในความทรงจำตลอดไป และที่เหลือก็แค่อิจฉา

แต่ทุกอย่างเป็นระเบียบ ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 Haynes ได้ก่อตั้ง The Auteurs ซึ่งอัลบั้มแรกของเขาได้รับความนิยมและได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Mercury Prize แม้จะมีข้อความเกี่ยวกับ เลนนี่ บรูซและ Chaim Soutine เพลงในนั้นเร็ว รุนแรง และเหนียวแน่นอย่างไม่น่าเชื่อ เฮย์เนสเกือบเป็นคนเดียวที่เข้าใจในตอนนั้นว่าคำที่ "ฉลาด" ไม่จำเป็นต้องใส่ในเพลงที่ "ฉลาด" (ซึ่งในบริบทของร็อคมักจะหมายถึงเพลงปาสตีเช่) ที่คุณสามารถเล่นได้เหมือน The Smiths โดยไม่ต้องร้องไห้คร่ำครวญ

ผู้เขียนเริ่มกำหนด Britpop ทันทีและเปรียบเทียบกับวงดนตรีอย่าง Suede ซึ่งแน่นอนว่ามีแต่เฮย์เนสเท่านั้นที่โกรธเคือง บางครั้งเขาเดินไปตามเส้นทางของโคเบน และเกือบจะเป็นตัวอักษร: บันทึกอัลบั้ม "ยาก" กับสตีฟ อัลบินี; เขาจงใจหักขาทั้งสองข้างของเขาเมื่อเขากระโดดจากกำแพงสูงเพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางไปสหรัฐอเมริกา ("การดำเนินการที่ล้าสมัย" ในขณะที่เขาเขียนในหนังสือยอดเยี่ยมของเขา "Bad Vibes: Britpop and My Part in Its Downfall") พวกเขาฟังตอนนี้ ดังนั้น(โปรดทราบว่าเพลงนี้คาดการณ์การเคลื่อนไหวทางดนตรีเกือบทั้งหมดของ Radioheads ยุคแรก ๆ ได้มากเพียงใด)

ควบคู่ไปกับสิ่งนี้ Haynes ได้ดำเนินการตามแนวคิดอย่างเต็มที่เป็นครั้งแรก กลายเป็นกลุ่ม Baader-Meinhof เขาบันทึกอัลบั้ม "Baader-Meinhof" กับเพลง " บาเดอร์-ไมน์โฮฟ". เกี่ยวกับ บาเดอร์-ไมน์โฮฟ ฟังก์อายุเจ็ดสิบ + พังก์ + ส่วนสตริงโมร็อกโกและ tabla + ภาพตัดปะบทกวีเกี่ยวกับการอุทธรณ์ทางปัญญาของการก่อการร้าย = อัลบั้มโปรดของฉันในปี 1990 พบเส้นทางสู่อิสรภาพจากบริตป็อปแล้ว ในอีก 5-6 ปีข้างหน้า Damon Albarn จะพบเส้นทางที่คล้ายคลึงกันมาก

ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 Haynes ได้ตีอิเล็กโทรป็อปล้วนๆ เขาสร้างทรีโอ Black Box Recorder ร่วมกับนักร้อง Sarah Nixie และบันทึกอัลบั้มที่น่ารักที่สุดสามอัลบั้ม เพลงหนึ่งจากเพลงที่สองก็กลายเป็นเพลงที่อังกฤษ ฮิตมาก... เป็นเรื่องตลกตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณได้ยินการจัดเรียงของ "Baader-Meinhof" ใหม่ในคีย์ป๊อป (ดูด้านบน) เช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว Haynes ตอบสนองต่อความสำเร็จด้วยภาวะซึมเศร้าที่เอ้อระเหยและแนวคิดที่ฉุนเฉียว อัลบั้ม... ครั้งนี้เป็นอัลบั้มเดี่ยว "The Oliver Twist Manifesto" ที่มีซินธ์คีย์สุดหรู เพอร์คัชชันของทิมบาแลนด์และเนื้อร้องเกี่ยวกับ ... ความเกลียดชังของผู้แต่งที่มีต่อศิลปินร่วมสมัย (เช่น เทรซีย์ เอมิน และ ซาร่าห์ ลูคัส) และความรักที่เขามีต่อผู้ประเมินสถานการณ์ เช่น กาย เดเบิร์ด.

หลังจากนั้นทำตามคำแนะนำของเขาเอง "ไม่เคยทำงาน" (อย่างแม่นยำมากขึ้น "Ne Travaillez Jamais" สโลแกนของสถานการณ์ที่พวกเขาเขียนไว้บนผนังและสะพานของปารีส) Haynes กล่าวคำอำลาวงการเพลงตลอดไปและกลายเป็นอะไรบางอย่าง ของนักสถานการณ์เอง การเคลื่อนไหวทั้งหมดของเขาในปี 2010 มีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ ตัวอย่างเช่น เขาบันทึกหนึ่งในอัลบั้มของเขา 75 ครั้งและออก 75 ชุด - นั่นคือแต่ละชุดมีประสิทธิภาพที่ไม่เหมือนใคร (เขากระจายข่าวลือว่าในหนึ่งใน 75 เล่มนั้น มีคนได้ยินพิซซ่าถูกนำกลับบ้านให้เขาในระหว่างการบันทึก) อีกอัลบั้มหนึ่งคือชุดของภาพเหมือนของนักร็อคชาวอังกฤษในหน้ากากของสัตว์ โครงการล่าสุดของ Haynes - หลังจากสองเล่ม (!) เล่มบันทึกความทรงจำ (!!) - เป็นตำราอาหาร (!!!) ซึ่งเขาเปิดคราวด์ฟันดิ้ง

ป.ล. อิทธิพลของป.ล. Haynes ที่มีต่อฉันในฐานะนักดนตรีแทบจะประเมินค่าสูงไปไม่ได้ เรียกจอบว่าจอบ ฉันแค่ฉีกทุกอย่างกับเขา เช่น เพลง “ (I Heart) มิแรนด้า กรกฏาคม "คู่กับเทพธิดาแห่งศิลปะอินดี้อเมริกันในบาร์นี้ เกือบทั้งหมดได้รับแรงบันดาลใจจากความสัมพันธ์อันซับซ้อนของเฮย์เนสกับศิลปินชาวอังกฤษ โอเค. คุณสามารถถือว่าชีวิตของฉันเป็นการแสดงที่มีสติ - การเลียนแบบของเฮย์เนส