HDR คืออะไรและจะเปิดใช้งานบนโทรศัพท์ของคุณได้อย่างไร อะไรให้โหมด HDR ในกล้องสมาร์ทโฟน

สวัสดีผู้อ่านบล็อกที่รัก! หากคุณอยากรู้ว่า HDR คืออะไรใน iPhone และทำไมคุณถึงต้องการ แสดงว่าคุณได้เปิดบทความที่ถูกต้องแล้ว! ตอนนี้เราจะบอกคุณในรายละเอียดที่น่าสนใจทั้งหมดว่ามันคืออะไรและทำไม HDR จึงถูกนำมาใช้ในกล้องของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่

เราพร้อมตอบทุกคำถามของคุณ มาเริ่มกันเลย!

HDR หมายถึงอะไร

คำถามแรกที่เข้ามาในหัวของบุคคลที่ไม่ค่อยมีความรู้ในหัวข้อที่กำลังสนทนาคือ "จะถอดรหัส HDR ได้อย่างไร" และถูกต้องแล้ว!

ชื่อเต็มของเทคโนโลยีดูเหมือน "High Dynamic Range" ซึ่งหมายถึงช่วงไดนามิกสูง

วิธีนี้ช่วยให้คุณปรับปรุงคุณภาพของภาพถ่ายได้เมื่อถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยหรือมีความแตกต่างกันมากในด้านคอนทราสต์และความสว่างของวัตถุ (โดยปกติคุณจะพบสถานการณ์ที่มีท้องฟ้าสว่างสดใสและอาคารที่มืดมิด)

เทคโนโลยีนี้ทำงานอย่างไร?

อันที่จริงทุกอย่างไม่ได้ยากนัก ประเด็นทั้งหมดคือกล้องของคุณไม่ได้ถ่ายภาพเพียงภาพเดียวอย่างที่ควรจะเป็น แต่เป็นภาพสามภาพในคราวเดียว! และในขณะเดียวกัน นี่ไม่ใช่แค่ภาพถ่ายที่เรียงกัน แต่เฟรมที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในแง่ของการเปิดรับแสงและความเร็วชัตเตอร์

ดังนั้น เฟรมแรกจะถูกเป่าออกโดยเน้นรายละเอียดที่สว่าง เฟรมที่สอง - ปกติ และเฟรมที่สามมืดลงด้วยเงาที่แสดงไว้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ในแต่ละภาพ ออโต้โฟกัสของกล้องจะโฟกัสไปที่พื้นที่ห่างไกลจากสมาร์ทโฟนในระยะทางที่ต่างกัน

ต่อจากนั้น ชุดภาพจะถูกรวมเป็นภาพเดียวโดยใช้ฟังก์ชันพิเศษที่วิเคราะห์สถานะของชิ้นส่วนแต่ละส่วนของเฟรมทั้งหมดและเลือกภาพที่คมชัดที่สุด

ดังนั้นคุณจะได้ภาพที่ภูมิทัศน์สอดคล้องกับความเป็นจริง (เรากำลังพูดถึงความเป็นจริงที่ดวงตามนุษย์มองเห็น) นี่คือสาเหตุที่ภาพถ่ายในโหมด HDR ถูกสร้างขึ้นและจัดเก็บไว้นานกว่าภาพที่ถ่ายในโหมดปกติเล็กน้อย

และคุณสามารถเปิดเสน่ห์ดังกล่าวได้ที่ไหน?

HDR ปรากฏตัวครั้งแรกใน iPhone 4 และหลังจากที่ Apple ไม่ได้แยกอัลกอริทึมออกจากการพัฒนา ดังนั้น iPhone 5, 5s, 6, 6s, SE และ 7 จึงติดตั้งคุณสมบัตินี้ด้วย

ไม่สามารถใช้ High Dynamic Range กับแฟลช ดังนั้นในกรณีนี้คุณต้องเลือก เราต้องการทราบด้วยว่าก่อนหน้านี้บน iPhone ทำได้เพียงเปิดหรือปิดใช้งานฟังก์ชันที่กล่าวถึงเท่านั้น ไม่มีทางเลือกอื่น ดังคำกล่าวที่ว่า "แพนหรือพลาด"

ในการดำเนินการนี้ คุณต้องเข้าสู่แอปพลิเคชัน "กล้อง" และทำเครื่องหมายเปิดหรือปิด HDR ที่ด้านบนของหน้าจอ

อย่างไรก็ตาม ด้วยการเปิดตัว iOS เวอร์ชัน 7.1 ฟังก์ชันการทำงานที่อธิบายไว้ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น คุณสามารถเลือกโหมดได้สามโหมด: HDR อัตโนมัติ เปิดหรือปิด แม้ว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่ชอบนวัตกรรมนี้และออกจากโหมดเปิดใช้งานอัตโนมัติช่วงไดนามิกสูง

มาวาดเส้นสุดท้ายกันเถอะ!

ทุกวันนี้ สมาร์ทโฟนเกือบทั้งหมดใช้ HDR เพื่อภาพถ่ายที่สวยงามและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น แน่นอนว่าทุกบริษัทใช้อัลกอริธึมเวอร์ชันดัดแปลงนี้ในอุปกรณ์ของตน แต่ความจริงที่ว่า High Dynamic Range ปรับปรุงลักษณะที่ปรากฏของภาพอย่างมากไม่สามารถโต้แย้งได้

อย่างไรก็ตาม เหรียญมีข้อเสียอยู่เสมอ

ในโหมดถ่ายภาพนี้ คุณไม่สามารถถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ เนื่องจากทั้งสามเฟรมเดียวกัน คุณจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด: การแยกหรือทำซ้ำของวัตถุเดียวกัน ภาพเบลอ ฯลฯ

นอกจากนี้ คุณจะไม่มีวันได้ภาพที่สว่างสดใส เนื่องจากอัลกอริธึมสำหรับการประมวลผลชุดเฟรมจะเฉลี่ยค่าความสว่าง

ดังที่เราได้เน้นย้ำไปแล้ว การถ่ายทำจะใช้เวลานานขึ้นเล็กน้อย ดังนั้นเพื่อให้ได้ภาพที่มีคุณภาพสูง iPhone จะต้องอยู่ในตำแหน่งที่นิ่งนานกว่าปกติเล็กน้อย

เราหวังว่าคุณจะสนุกกับบทความปัจจุบัน และถ้าเป็นเช่นนั้น อย่าลืมสมัครรับข้อมูลอัปเดตบล็อก นอกจากนี้อย่าลืมว่าเราอยู่บน Facebook,

ผู้ใช้บางคนที่ถ่ายภาพโดยใช้สมาร์ทโฟนอาจพบโหมดนี้ในการตั้งค่ากล้อง HDR... หลายคนไม่สนใจมัน แต่ไร้ประโยชน์เพราะโหมดนี้มีข้อดีมากมายที่เจ้าของสมาร์ทโฟนหลายคนไม่รู้ ในบทความนี้ ผมจะบอกคุณว่า HDR คืออะไรในโทรศัพท์ อธิบายว่าควรใช้เมื่อใด และหน้าที่หลักของมันคืออะไร

HDR เป็นตัวย่อของ High Dynamic Range ซึ่งเป็นการวัดสเปกตรัมแสงในระดับต่างๆ ตัวอย่างเช่น ดวงตามนุษย์มีไดนามิกเรนจ์ในระดับสูง เราเห็นรายละเอียดมากมายของอาคารที่มืดกับท้องฟ้าที่มีแสงสว่าง แต่ถ้าอาคารเดียวกันถูกถ่ายภาพโดยใช้สมาร์ทโฟน ในภาพถ่าย อาคารนี้จะกลายเป็นจุดมืดจุดเดียว ซึ่งรายละเอียดส่วนใหญ่ก็หายไปอย่างง่ายๆ ...

ดังนั้น ช่วงไดนามิกจะเป็นตัวกำหนดปริมาณคอนทราสต์ที่สามารถแสดงในภาพถ่ายได้โดยไม่สูญเสียรายละเอียด

เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียคุณภาพ ช่างภาพจำนวนมากพยายามถ่ายภาพเฉพาะส่วนที่มืดหรือสว่างของภาพ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราสามารถถ่ายภาพโดยเน้นที่แสง และจากนั้นไปที่ส่วนที่มืดของภาพ แล้วรวมภาพเหล่านั้นเข้าด้วยกันเป็นภาพที่สมดุล นี่คือสิ่งที่ HDR ทำ

หากคุณไม่ทราบว่า Teletype คืออะไรในคำอธิบายโทรศัพท์

วิธีใช้ HDR

เปิดใช้งานโหมดการจับภาพของโทรศัพท์ จากนั้นไปที่ตัวเลือกการตั้งค่า (ไอคอนรูปเฟือง) ไปที่เอฟเฟ็กต์ และเลือก HDR ในโหมดจับภาพ

จากนั้นเล็งกล้องโทรศัพท์ของคุณไปที่กึ่งกลางของหน้าจอแล้วยิง โปรดจำไว้ว่าในโหมด HDR กระบวนการถ่ายภาพจะใช้เวลานานขึ้นเล็กน้อย (อุปกรณ์ถ่ายภาพหลายภาพโดยมีค่าแสงต่างกัน) ดังนั้นจึงไม่ควรมีวัตถุเคลื่อนไหวในเลนส์ และควรถือโทรศัพท์ไว้เกือบไม่มีการเคลื่อนไหว

หากโทรศัพท์ของคุณไม่มีโหมด HDR นี้ (รุ่นเก่ากว่า) คุณสามารถติดตั้งแอปพลิเคชันบุคคลที่สามสำหรับตัวคุณเองที่อนุญาตให้คุณทำงานกับ HDR ได้ ฉันอยากจะแนะนำแอพอย่าง Camera HDR Studio, HDR Camera, Ultimate HDR Camera, Snapseed และอื่นๆ

มันคืออะไรและดูเหมือนว่าจะใช้งาน HDR อย่างไรในวิดีโอ:

เมื่อใดควรถ่ายแบบ HDR

HDR ได้รับการออกแบบมาสำหรับภาพคุณภาพสูงในบางสถานการณ์ ต่อไปนี้คือกรณีที่คุณไม่ควรรู้ว่า HDR คืออะไร แต่ยังสามารถใช้งานได้:

เมื่อไม่ควรใช้ HDR

ดังที่กล่าวไว้ ในบางสถานการณ์ การใช้ HDR อาจทำให้รูปภาพของคุณดูแย่ลง นี่คือ:

• ภาพถ่ายที่มีการเคลื่อนไหวหากวัตถุเคลื่อนที่ (หรือจะเคลื่อนที่) ในพื้นที่ของเฟรม HDR จะเพิ่มโอกาสที่ภาพจะเบลอ จำไว้ว่า HDR มักจะสร้างภาพสามภาพ และหากตัวแบบของคุณขยับไปมาระหว่างภาพแรกและภาพที่สอง คุณอาจลงเอยด้วยภาพที่น่าอึดอัดใจในภาพถ่ายสุดท้าย หวังว่าคุณจะเข้าใจว่า HDR คืออะไรและควรใช้เมื่อใดและเมื่อใดไม่
• ฉากที่มีความเปรียบต่างสูงภาพถ่ายบางภาพจะดูดีขึ้นโดยมีคอนทราสต์สูงระหว่างส่วนที่สว่างและมืดของการเปิดรับแสง การใช้ HDR จะทำให้เห็นคอนทราสต์น้อยลง และอาจส่งผลเสียต่อภาพ
• สีสดใส.การใช้ HDR เมื่อถ่ายภาพด้วยสีสันสดใสอาจทำให้ภาพที่ได้ปรากฏเป็น "จาง"

บทสรุป

HDR ในสมาร์ทโฟนคืออะไร?การใช้ HDR บนโทรศัพท์ของคุณช่วยเพิ่มความกลมกลืน รายละเอียด และความสมดุลให้กับภาพถ่ายของคุณ ใช้ HDR เมื่อถ่ายภาพทิวทัศน์และวัตถุนิ่งที่มีรายละเอียดสูง ในขณะที่หลีกเลี่ยง HDR เมื่อถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนไหว และภาพถ่ายของคุณจะทำให้คุณพึงพอใจด้วยคุณภาพและรูปลักษณ์ที่สวยงามเสมอ

การถ่ายภาพ High Dynamic Range (รู้จักกันดีในชื่อ HDR) เป็นเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่ได้รับความนิยมและมักเข้าใจผิด ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่า HDR คืออะไร เรียนรู้วิธีใช้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม และยกตัวอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจ

ช่วงไดนามิกสูงสุด

ช่วงไดนามิกคือการวัดอัตราส่วนสัญญาณต่อสัญญาณรบกวน

หมายเหตุของผู้แปล กล่าวคือ ช่วงไดนามิกจะเป็นตัวกำหนดช่วงความสว่างที่กล้องสามารถส่งผ่านได้โดยไม่สูญเสียในภาพเดียว

ภาพถ่ายทุกภาพมีหลายโทนสี บางพื้นที่สว่าง จากนั้นมีเฉดสีเทาเป็นชุด จากนั้นจึงมีพื้นที่ล้อมรอบด้วยเงา บางครั้งความแตกต่างระหว่างแสงและเงาก็อาจคมชัดได้อย่างไม่น่าเชื่อ เราเรียกสิ่งนี้ว่า "ความเปรียบต่างสูง"

กล้องของคุณได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับช่วงไดนามิกที่จำกัด รายละเอียดด้านบนและด้านล่างขีดจำกัดนี้จะถูกทำให้จางลงเป็นสีขาวสว่างหรือถูกลดทอนโดยสัญญาณรบกวนในบริเวณที่มืด จำนวนความแตกต่างระหว่างภาพขาวดำที่กล้องสามารถจับภาพได้เป็นตัวกำหนดการตัดสินใจในการถ่ายภาพหลายอย่างที่ต้องทำเพื่อให้ได้ภาพสำเร็จ

ยากที่จะเปิดเผยทุกอย่างถูกต้องทุกครั้ง: บางภาพมีเฉดสีดำ และขาวเกินความสามารถของกล้อง ในภาพที่มีความเปรียบต่างสูง การประนีประนอมมักเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง คุณเลือกการเปิดรับแสงที่ "ปกป้อง" เงาหรือไฮไลท์ แล้วแต่กรณีใดจะสำคัญกว่า

อย่างไรก็ตาม ในบางสถานการณ์ เป็นไปได้ที่จะใช้ประโยชน์จากเทคนิคหลังการประมวลผลอันชาญฉลาดเพื่อถ่ายภาพที่เกินความสามารถมาตรฐานของกล้อง: เราใช้ HDR

แย่ เข้าใจผิด ผิด HDR

หากคุณชดเชยและพยายามให้ได้ช่วงไดนามิกสูง คุณมักจะได้ภาพที่ออกมาไม่เป็นธรรมชาติและมีความอิ่มตัวมากเกินไป น่าเสียดาย นี่คือที่มาของชื่อเสียงเชิงลบของ HDR โดยทั่วไป วิธีนี้มักถูกใช้ในทางที่ผิดเมื่อถ่ายภาพสถาปัตยกรรมและบางส่วนในการท่องเที่ยวเชิงอุตสาหกรรม ในพื้นที่เหล่านี้เขากลายเป็นเรื่องตลกและเป็นเรื่องน่าหัวเราะเยาะ

การทำแผนที่เสียง

ฉันเคยได้ยินมาว่าการแมปโทนและ HDR นั้นใช้แทนกันได้ แต่ไม่เหมือนกัน การทำแผนที่โทนสีเป็นเทคนิคที่ใช้สำหรับการถ่ายภาพ HDR

การจับคู่โทนช่วยเพิ่มคอนทราสต์ แต่ในขณะเดียวกัน (ในทางทฤษฎี) จะรักษารายละเอียดและสีไว้ ซึ่งสามารถทำได้สองวิธีทั่วโลก โดยที่แต่ละพิกเซลจะถูกจับคู่ในลักษณะเดียวกัน หรือภายในเครื่อง โดยที่อัลกอริทึมจะปรับสำหรับแต่ละพิกเซลขึ้นอยู่กับโทนสีรอบข้างและตัวภาพเอง

ด้วยการใช้แสงถึงปานกลางคุณสามารถปรับปรุงภาพได้ หากใช้อย่างไม่ถูกต้อง จะทำให้ปัญหารุนแรงขึ้น เช่น เสียงรบกวนและจุดฝุ่นบนเซ็นเซอร์ สร้างวงแหวนคอนทราสต์ และแสงสะท้อนที่ไม่จำเป็น ต้องมีความสมดุลที่ละเอียดอ่อนที่นี่

อะไรที่คุณต้องการ

เอฟเฟกต์ HDR สามารถทำได้ด้วยอุปกรณ์ใด ๆ เนื่องจากสาระสำคัญของมันอยู่ที่ขั้นตอนหลังการประมวลผล ตามหลักการแล้ว คุณควรมีกล้องที่สามารถถ่ายภาพในรูปแบบ RAW เพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด

การถ่ายคร่อมค่าแสง

เออีบีเป็นคุณสมบัติที่มีประโยชน์อีกอย่างหนึ่ง ตัวย่อนี้ย่อมาจาก การถ่ายคร่อมแสงอัตโนมัติ(ถ่ายคร่อมค่าแสงอัตโนมัติ) และปรับกล้องให้ถ่ายได้หลายสต็อป ตัวอย่างเช่น คุณสามารถตั้งค่าพารามิเตอร์ EV: -2, 0, +2... ด้วยการตั้งค่าเหล่านี้ รูปภาพจะสว่างขึ้น 2 สต็อปและเข้มขึ้น 2 สต็อป

แนวคิดคือคุณจะได้รับโอกาสที่ดีที่สุดในการได้ช็อตแรกโดยมีแสงเงาที่ถูกต้อง ภาพที่สองมีมิดโทนที่ยอดเยี่ยม และอีกช็อตมีไฮไลท์ที่เหมาะสม หากคุณรวมสองสิ่งนี้เข้าด้วยกัน ในทางทฤษฎีแล้ว คุณควรได้ภาพถ่ายที่เปิดรับแสงได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยช่วงไดนามิกที่กว้าง

สามารถทำได้โดยไม่ต้องมีฟังก์ชั่น เออีบีแต่คุณจะต้องปรับการตั้งค่าด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงที่กล้องจะเคลื่อนที่หรือเปลี่ยนแปลงบางอย่างระหว่างการถ่ายภาพ

ขาตั้งกล้อง

นอกจากนี้ยังเป็นทางเลือก แต่มีประโยชน์มาก ขาตั้งกล้องจะช่วยให้คุณถือกล้องไว้นิ่ง ๆ ในขณะที่ถ่ายภาพโดยเปิดรับแสงต่างกัน แม้แต่สำหรับช่างภาพมือนิ่ง การถือกล้องหลายๆ ภาพให้พอดีกันก็ค่อนข้างยาก

ซอฟต์แวร์หลังการประมวลผล HDR

ราคาของซอฟต์แวร์ที่สามารถผสมผสานภาพ HDR ได้อย่างเหมาะสมนั้นแตกต่างกันอย่างมาก ซอฟต์แวร์ Photomatix ยอดนิยมมีจำหน่ายในสองเวอร์ชันและเริ่มต้นที่ 39 ดอลลาร์ หากคุณมี Photoshop หรือ Lightroom อยู่แล้ว คุณสามารถใช้โปรแกรมทั้งสองนี้เพื่อทำงาน หากคุณไม่มีข้อใดข้อหนึ่งข้างต้นและต้องการตัวเลือกฟรี แสดงว่ามีซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่เรียกว่า โปรแกรมนี้มีโหมดการผสมหลายแบบและเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี คุณยังสามารถใช้ความนิยมมาก (และฟรีเมื่อเร็ว ๆ นี้) Nik Collectionซึ่งรวมถึงความสามารถในการผสมการตั้งค่าการเปิดรับแสงหรือโทนแมปที่แตกต่างกันจากการถ่ายภาพแบบเปิดรับแสงครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ HDR ที่แท้จริง และสามารถรับรายละเอียดในปริมาณเท่ากันได้โดยการแก้ไขในรูปแบบ RAW

แรงบันดาลใจ

ตัวเมืองชิคาโก

ฉันไม่สามารถพูดได้อย่างแน่นอนว่าภาพ HDR นี้ดูเป็นธรรมชาติ แต่ฉันก็ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นภาพที่งดงามและอิ่มตัวเกินไป ฉันชอบจานสีที่จำกัดและความอบอุ่นที่ล้อมรอบอาคาร สำหรับฉัน ภาพนี้เกือบจะเหมือนกับการตีความเมืองโดยนักออกแบบกราฟิก และการที่คนบนท้องถนนไม่อยู่ก็ทำให้ได้เปรียบ

ภูเขาแดงตอนพระอาทิตย์ตก

คุณสามารถเดิมพันได้ว่าช็อตดั้งเดิมนั้นมีเงามืดมากรอบๆ ต้นไม้และหน้าผา รวมถึงไฮไลท์ที่เด่นชัดบนท้องฟ้า ในภาพสุดท้าย ทุกอย่างมีความสมดุลและรายละเอียดที่ปรากฏบนท้องฟ้าก็ดูปกติดี ในความคิดของฉัน สีเขียวและสีแดงอาจดูนุ่มนวลกว่า - อิ่มตัวน้อยกว่าและเข้มกว่าเล็กน้อย - แต่อย่างอื่นนี่ถือเป็นช็อตที่ยอดเยี่ยม

หน้าผาไอริช

แม้ว่าคำแนะนำ "หลีกเลี่ยงวัตถุที่เคลื่อนไหว" มักจะมีประโยชน์มากในการถ่ายภาพ HDR แต่ฉันพบว่าหญ้าที่พัดแรงลมที่นี่ใช้ได้ผลดี มันดูนุ่มนวลและให้ภาพลวงตาของการเคลื่อนไหว - ฉันแน่ใจว่าคุณเกือบจะสัมผัสได้ถึงลมสดชื่นที่พัดผ่านยอดหน้าผานี้!

ไฟเมืองยามพลบค่ำ

องค์ประกอบการถ่ายภาพที่มีไฟฉายเป็นสิ่งที่ฉันชอบที่สุดเมื่อต้องใช้งานช่วงไดนามิกให้เกิดประโยชน์สูงสุด แสงเรืองรองบนผืนน้ำดูน่ารัก และเมืองก็รุนแรงพอที่จะโดดเด่นและดึงดูดความสนใจโดยไม่ทำให้ดูผิดธรรมชาติ

พระอาทิตย์ตกที่เซนต์หลุยส์

พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกเป็นช่วงเวลาที่ดีหากคุณต้องการอวดสีสันและโทนสีต่างๆ การใช้ภาพถ่ายหลายภาพโดยใช้ค่าแสงต่างกันจะให้ช่วงที่ดี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแสงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ประนีประนอม

เช่นเดียวกับการผสมหรือการจับคู่โทนสี ค่าที่ตั้งล่วงหน้าและเอฟเฟกต์บางอย่างสามารถทำให้รูปภาพของคุณมีเอฟเฟกต์ HDR ด้านล่างในข้อความเป็นหนึ่งในภาพถ่ายของฉัน ไฟล์ RAW ดิบดูค่อนข้างแบน

ภาพ: Marie Gardiner

ฉันใช้ชุดแอ็คชั่น Photoshop ของ Dramatic Landscape Action ของ Sodasong เหนือสิ่งอื่นใด มีเอฟเฟกต์ HDR ที่นี่ เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้ไม่สามารถเป็น HDR ที่แท้จริงได้ เนื่องจากไม่เกี่ยวข้องกับการผสมหรือการทำแผนที่โทนสี แต่เอฟเฟกต์นี้อ้างว่าเป็นการซ้ำซ้อนของผลงาน

เมื่อฉันลงมือกระทำ เขาสร้างหน้ากากเพื่อซ่อนพื้นที่ที่ไม่ต้องการ แล้วเพิ่มเลเยอร์สำหรับความคมชัด ความสว่าง คอนทราสต์ และสี สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดไม่ทำลายล้าง คุณจึงสามารถกลับไปที่รูปภาพต้นฉบับได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ยังหมายความว่าคุณสามารถปรับแต่งแต่ละเลเยอร์ได้จนกว่าคุณจะได้รูปลักษณ์ที่ต้องการ

ฉันตัดสินใจออกจากการตั้งค่าเดิมเพื่อให้คุณเห็นผลทันทีหลังจากเริ่มดำเนินการ

ผลลัพธ์หลังเปิดตัว

คุณสามารถดูว่าเราได้ปรับปรุงสีอย่างไร รวมทั้งเน้นความคมชัดและคอนทราสต์ เหนือสิ่งอื่นใด ปลั๊กอินทำให้ไฮไลท์สว่างขึ้นและเงามืดลง

ด้านซ้ายคือรูปก่อน ส่วนด้านขวาคือหลัง

ผลลัพธ์ก่อน (ซ้าย) และหลัง (ขวา)

นี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีมากสำหรับการดำเนินการเพียงคลิกเดียว ความแตกต่างนั้นบอบบาง แต่ผลลัพธ์ที่อ่อนแอนั้นเหมาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึง HDR คุณสามารถสมมติได้ว่าคุณใช้ HDR สำเร็จแล้ว หากผลลัพธ์ดูปกติ กลมกลืนกัน และเป็นธรรมชาติ

หากคุณมีเวลาน้อยหรือเพียงแค่ต้องการปรับแต่งภาพ การกระทำนั้นเหมาะสมที่สุด: คุณสามารถเปิดใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ปรับแสง และอยู่ภายในกล่อง นี่คือสิ่งที่คุณต้องการ - การดำเนินการนี้ช่วยให้คุณสามารถแก้ไขได้อย่างอิสระ

เทคนิค

การตั้งค่าการรับแสง

คุณจะต้องมีอย่างน้อยสองภาพ แต่จะดีกว่าถ้ามีสามภาพ: ภาพแรกที่มีการเปิดรับแสงปกติ ภาพที่สองสำหรับเงา และภาพที่สามสำหรับการเน้น การตั้งค่าโหมดถ่ายคร่อม ( เออีบี) กล้องและการใช้งาน ความเร็วสูงโหมดถ่ายต่อเนื่องจะช่วยให้คุณได้ภาพที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย

อย่าลืมเปลี่ยนการตั้งค่าระหว่างช็อต ตามหลักการแล้ว คุณควรถ่ายภาพในโหมดแมนนวลเพื่อไม่ให้กล้องเปลี่ยนการตั้งค่า ISO หรือรูรับแสง

หลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายวัตถุที่อาจกลายเป็นภาพหลอนหลังจากเย็บภาพ แม้แต่กิ่งไม้ที่ไหวไปตามลมก็สร้างปัญหาได้ ดังนั้นให้ใส่ใจกับตัวแบบและสิ่งที่เกิดขึ้นรอบ ๆ

หากคุณกำลังจะถ่ายภาพเดียวกันทีละภาพ การแยกภาพเหล่านั้นด้วยภาพถ่ายของอย่างอื่นอาจเป็นประโยชน์ เพื่อให้คุณสามารถกำหนดได้อย่างง่ายดายว่าจะจัดกลุ่มภาพใด ฉันมักจะถ่ายภาพมือของฉัน ดังนั้นฉันจึงสังเกตเห็นการแยกส่วนได้ง่าย แม้จะอยู่ในภาพย่อส่วน

อย่าหักโหมจนเกินไป

เมื่อทำงานกับ AEB อย่าสร้างความแตกต่างอย่างมากเว้นแต่คุณจะถ่ายภาพเป็นจำนวนมาก สำหรับสถานการณ์ส่วนใหญ่ การถ่ายภาพสามช็อตก็เพียงพอแล้วที่จะได้เอฟเฟกต์ HDR ที่ยอดเยี่ยม หลีกเลี่ยงชุดค่าผสมที่รุนแรง เช่น [-5, 0, 5]; เลือกจุดต่างจุดหนึ่ง สอง หรือสามจุดแทน หากคุณถ่ายภาพมากขึ้น คุณสามารถใช้ค่าที่มากขึ้นได้

ปกติแล้วการถ่ายคร่อมหนึ่งถึงสองสต็อปก็เพียงพอแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับรูปแบบ RAW เมื่อถ่ายภาพผู้คน อาจเป็นการคุ้มค่าที่จะถ่ายภาพโดยมีค่าความต่างเท่ากับหนึ่งภาพ สำหรับภาพถ่ายที่มีความเปรียบต่างสูง เช่น ตึกระฟ้าหรือทิวทัศน์ ความแตกต่างสามารถเพิ่มได้ถึงสองหรือสามภาพ

ผสมรูปภาพ

อย่างที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้ แต่ละโปรแกรมที่สามารถจัดการรูปภาพ HDR มีฟังก์ชันและตัวเลือกที่แตกต่างกัน แต่วิธีการทั่วไปจะเหมือนกันเสมอ

ซอฟต์แวร์จะขอให้คุณป้อนค่าการเปิดรับแสงสำหรับแต่ละภาพด้วยตนเอง หากไม่สามารถรับรู้ได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์ดังกล่าวมักจะมีฟังก์ชัน การแก้ไขความคลาดเคลื่อนของสี(แก้ไขการละสีที่ถูกต้อง) ลดเสียงรบกวน(ลดเสียงรบกวน) และ การลดเอฟเฟกต์ภาพหลอน(ลดภาพหลอน). สิ่งเหล่านี้มีประโยชน์มากสำหรับการแก้ปัญหา HDR ทั่วไป ดังนั้นอย่าลังเลที่จะเล่นกับตัวเลื่อนเพื่อดูผลในเชิงบวก

เมื่อคุณปรับการตั้งค่าตามที่คุณต้องการแล้ว โปรแกรมจะผสมผสานภาพให้เป็นภาพ 32 บิต ซึ่งดูแย่มาก นี่เป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องกังวล จากนั้นก็ขึ้นอยู่กับการทำแผนที่วรรณยุกต์ ณ จุดนี้ คุณจะทำการปรับเปลี่ยนเพื่อปรับรูปภาพของคุณ - เลือกว่าจะปรับปรุงรายละเอียด ตำแหน่งที่จะลดความอิ่มตัวหรือเพิ่มความอิ่มตัว และปรับการบีบอัด

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

การจราจร

เนื่องจากคุณต้องการอย่างน้อยสามช็อตเพื่อให้ได้ภาพ HDR ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหว หากมีสิ่งใดเคลื่อนไหว แม้แต่กิ่งไม้ในสายลม ก็เห็นได้ชัดว่าตัวแบบจะเปลี่ยนไปในภาพถ่าย และจะจบลงด้วยการดูพร่ามัวหรือแปลกไป

ความอิ่มตัวสูงเกินไป

หากฉากเต็มไปด้วยสีที่มีคอนทราสต์สูง การใช้ HDR จะปรับปรุงสิ่งนี้ ซึ่งมักจะทำให้เสียค่าถ่ายภาพ คุณอาจต้องปรับสีภาพหลังการประมวลผลเพื่อลบความอิ่มตัวของสีส่วนเกิน นอกจากนี้ ในบริเวณที่มีคอนทราสต์หรือสีต่ำ ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพแบนราบและเบลอ

ความเร็วคอมพิวเตอร์

หากคุณกำลังประมวลผลไฟล์ RAW ขนาดใหญ่จำนวนมาก คอมพิวเตอร์ของคุณอาจทำงานช้าลง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการอัปเดตตามกำหนดเวลาไม่รบกวนการประมวลผลและมี RAM ว่างเพียงพอที่จะเรียกใช้ คอมพิวเตอร์สมัยใหม่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแก้ไขภาพถ่ายจำนวนมาก แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่โปรแกรมอาจหยุดทำงานหากคำขอนั้นรุนแรงเกินไป

1. ใช้ขาตั้งกล้องเพื่อให้กล้องนิ่ง
2. เปิดโหมด เออีบี.
3. อย่าสร้างความแตกต่างของการเปิดรับแสงมากเกินไป เลือกได้ไม่เกินสองหรือสามจุด
4. ถ่ายภาพได้มากขึ้นสำหรับช่วงไดนามิกที่กว้างขึ้น
5. ใช้เครื่องมือซอฟต์แวร์ HDR และทำงานอย่างชาญฉลาด หลีกเลี่ยงภาพที่งดงามซึ่งมักเกี่ยวข้องกับ HDR

แหล่งข้อมูลเพื่อการศึกษาต่อ

วิธีถ่ายภาพ HDR แบบเปิดรับแสงนาน: การถ่ายภาพ HDR แบบเปิดรับแสงนานจะเหมือนกับการถ่ายภาพ HDR ปกติ แต่จะใช้เวลาในการเปิดรับแสงนานขึ้น สิ่งนี้สร้างเอฟเฟกต์ที่เฉพาะเจาะจงมาก วัตถุเช่นน้ำหรือเมฆจะชัดเจนขึ้นเนื่องจากความเร็วชัตเตอร์ต่ำทำให้การเคลื่อนไหวเบลอ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงเพื่อเปิดรับแสงอย่างเหมาะสม เช่น ท้องฟ้ายามค่ำคืน

HDR สโลว์โมชั่นด้วย SNS-HDR Pro: วิธีถ่ายและประมวลผลวิดีโอสโลว์โมชั่น HDR

ข้อสรุป

การถ่ายภาพ HDR มักถูกประเมินต่ำเกินไป และช่างภาพอาจรู้สึกเบื่อเล็กน้อยเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ อย่าปล่อยให้ความคิดเห็นเหล่านี้ทำให้คุณผิดหวัง เทคนิคนี้สามารถให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งได้เมื่อใช้อย่างถูกต้อง ในช็อตที่ดีที่สุด ก็ยังยากที่จะเห็น HDR ทำงาน

กุญแจสำคัญในการสร้างภาพที่มีช่วงไดนามิกสูงคือการถ่ายภาพต้นฉบับที่ดีที่สุด ซึ่งหมายถึงการหลีกเลี่ยงวัตถุที่เคลื่อนไหว (ไม่เช่นนั้น คุณอาจได้รับเอฟเฟกต์ผี) และถ่ายภาพมากขึ้นโดยมีค่าแสงต่างกันไม่มาก ใช้ประโยชน์จากช่วงไดนามิกให้เกิดประโยชน์สูงสุด

เมื่อผสมอย่าหยุดที่การตั้งค่าเริ่มต้น เป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้: คุณควรลองใช้แถบเลื่อนนี้ดูจนกว่าคุณจะเริ่มรู้สึกสบายใจและเข้าใจว่ามันทำอะไร และมันช่วยให้บรรลุผลอย่างไร จำไว้ว่า น้อยกว่าดีกว่า และในขณะที่คุณพยายามใช้ช่วงโทนสีให้เกิดประโยชน์สูงสุด การรักษาความอิ่มตัว โครงสร้าง และเอฟเฟกต์ความคมชัดให้น้อยที่สุดก็ควรค่าแก่การดูสมจริง

จะทำอย่างไรถ้าการแข่งขันของเมกะพิกเซลในสมาร์ทโฟนหยุดนิ่ง ตัวเครื่องบางไม่อนุญาตให้เพิ่มเมทริกซ์ แต่คุณต้องการได้คุณภาพของภาพถ่ายที่ดีที่สุด เป็นไปได้ที่จะปรับปรุงเลนส์โดยใช้เลนส์แก้วคุณภาพสูง แต่มีราคาแพงและยาก เป็นไปได้ที่จะปรับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของกล้องให้เหมาะสมที่สุด แต่สิ่งนี้จำเป็นต้องมีวิศวกรและโปรแกรมเมอร์ที่เก่งกาจในทีมงานของนักพัฒนา หรือคุณสามารถใช้พลังของฮาร์ดแวร์สมัยใหม่ (โชคดีที่ตอนนี้มีเพียงพอแล้ว) และเพิ่มอัลกอริธึมใหม่สำหรับการประมวลผลเฟรม หนึ่งในตัวเลือกเหล่านี้ ซึ่งพบได้เกือบทุกที่ในสมาร์ทโฟนคือ HDR

โหมด HDR ในสมาร์ทโฟนคืออะไร - บทความของเราจะช่วยให้คุณเข้าใจได้ เราจะพยายามค้นหาว่าตัวเลือกนี้จะมีประโยชน์ในสถานการณ์ใดบ้างและจะทำให้เฟรมเสียเท่านั้น

โหมด HDR คืออะไร

โหมด HDR (จากภาษาอังกฤษช่วงไดนามิกสูง - ช่วงไดนามิกสูง) เป็นวิธีการถ่ายภาพแบบพิเศษ ซึ่งกล้องของสมาร์ทโฟนจะถ่ายหลายเฟรมตามลำดับด้วยความเร็วชัตเตอร์และการรับแสงที่แตกต่างกัน เพื่อรวมเป็นภาพเดียวในภายหลัง โฟกัสอัตโนมัติของโมดูลจะเน้นไปที่บริเวณที่มีตัวบ่งชี้ความสว่าง คอนทราสต์ และระยะห่างจากเลนส์ต่างกัน

ทันทีหลังจากพิมพ์ เฟรมจะถูกประมวลผลด้วยซอฟต์แวร์ พวกเขาซ้อนทับกัน และระบบจะวิเคราะห์คุณภาพ โดยเลือกชิ้นส่วนที่ชัดเจนที่สุดเป็นพื้นฐาน ส่วนที่คล้ายกันของเฟรมอื่นๆ ใช้สำหรับการเพิ่มความคม ความอิ่มตัว และการลดสัญญาณรบกวนเท่านั้น

อัลกอริธึมเฉพาะสำหรับการทำงาน HDR ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและระดับของการใช้งาน ตัวอย่างที่ง่ายที่สุด (และมีประสิทธิภาพน้อยที่สุด) ขององค์กรคือเมื่อเฟรมทับซ้อนกันและเบลอเล็กน้อย ในเวอร์ชันขั้นสูงสุด ชิ้นส่วนของแต่ละภาพจะได้รับการวิเคราะห์ตามลำดับเพื่อระบุภาพที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด

โหมด HDR ในกล้องให้อะไร?

วัตถุประสงค์หลักของ HDR ในกล้องสมาร์ทโฟนคือการเพิ่มรายละเอียดของภาพและความชัดเจน ตัวอย่างเช่น หากในระหว่างการถ่ายภาพปกติ วัตถุที่มีสีต่างกันรวมอยู่ในเฟรมจนถึงองศาที่แตกต่างกัน โดยอยู่ห่างจากช่างภาพและมีระดับแสงต่างกัน (บ้านที่มืดและท้องฟ้าเป็นสีฟ้าเป็นเรื่องธรรมดามาก) มีเพียงบางส่วนเท่านั้น จะอยู่ในโฟกัส วัตถุอื่นๆ จะไม่ชัดเจน พร่ามัว และไม่ตัดกันเลย

โหมด HDR ช่วยให้คุณโฟกัสที่แต่ละพื้นที่เหล่านี้เพื่อคุณภาพที่ดีที่สุด การรวมเฟรมเข้าด้วยกัน โดยหนึ่งในนั้นโฟกัสที่พื้นหน้า พื้นหลังในอีกเฟรมหนึ่ง และรายละเอียดเล็กๆ ของสภาพแวดล้อมในส่วนที่สาม ช่วยให้คุณรวมรายละเอียดที่ประสบความสำเร็จทั้งหมดไว้ในภาพถ่ายเดียว

ดังนั้น เมื่อถ่ายภาพวัตถุที่อยู่นิ่งด้วยขาตั้งกล้อง (หรือเพียงแค่ถือสมาร์ทโฟนอย่างมั่นคง) HDR จะช่วยให้คุณถ่ายภาพได้ชัดเจนและมีรายละเอียดมากขึ้น แต่ระบอบนี้ก็มีข้อเสียเช่นกัน

ข้อเสียของ HDR

• ไม่สามารถยิงวัตถุที่เคลื่อนที่ได้... แม้ว่ากล้องจะถ่ายภาพต่อเนื่องเป็นช่วงๆ มิลลิวินาที แต่ตัวแบบอาจเคลื่อนไหวในช่วงเวลานี้ เป็นผลให้แทนที่จะเป็นภาพเบลอของรถคุณจะได้แถบคลุมเครือและนักวิ่งจะกลายเป็นเงาเบลอ
• จะไม่ออกมารับกรอบที่สดใส... เมื่อถ่ายภาพเป็นชุดของเฟรมที่มีความเร็วชัตเตอร์และโฟกัสต่างกัน ซอฟต์แวร์กล้องในโหมด HDR จะ "เฉลี่ย" ค่าความสว่าง หากในโหมดเดียวคุณจะได้ภาพถ่ายที่ตัวแบบหลักจะกลายเป็นสีอิ่มตัว (แม้ว่าจะเป็นพื้นหลัง) จากนั้นใน HDR พื้นหลังจะดีขึ้น แต่จุดศูนย์กลางจะแย่ลง
• ถ่ายช้า... แม้แต่กล้องที่เร็วที่สุดซึ่งถ่ายเฟรมในเสี้ยววินาทีก็ยังช้าลงเมื่อถ่ายในรูปแบบ HDR การหน่วงเวลาครั้งที่สองอาจมีบทบาทสำคัญ และบางครั้งก็เป็นการดีกว่าที่จะถ่ายเป็นชุด 5-10 เฟรมอย่างรวดเร็ว (โหมดนี้ยังใช้ได้เกือบทุกที่) แทนที่จะรอให้ประมวลผลหนึ่งภาพ