ไตรพันธมิตร พ.ศ. 2434 ตกลงใจและไตรภาคี

กลุ่มการทหาร-การเมืองของเยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการี และอิตาลี ซึ่งก่อตั้งในปี พ.ศ. 2422-2425 และเป็นจุดเริ่มต้นของการแบ่งยุโรปออกเป็นกลุ่มที่ทำสงครามกันและการเตรียมการสำหรับสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

หลังจากสรุปความเป็นพันธมิตรกับออสเตรีย-ฮังการีในปี พ.ศ. 2422 เยอรมนีจึงพยายามหาพันธมิตรใหม่ในอิตาลีเพื่อแยกฝรั่งเศสออกจากกัน ออสเตรีย-ฮังการีซึ่งต้องการเป็นกองหลังในกรณีทำสงครามกับรัสเซีย ก็สนใจที่จะกระชับความร่วมมือกับอิตาลีเช่นกัน ผลจากการเจรจาเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2425 สนธิสัญญาพันธมิตรระหว่างเยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการี และอิตาลีจึงได้ข้อสรุปในกรุงเวียนนา

พวกเขาให้คำมั่นสัญญา (เป็นระยะเวลาห้าปี) ที่จะไม่มีส่วนร่วมในพันธมิตรหรือข้อตกลงใด ๆ ที่มุ่งต่อต้านประเทศเหล่านี้ ให้คำปรึกษาในประเด็นทางการเมืองและเศรษฐกิจ และให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างเต็มที่ เยอรมนีและออสเตรีย-ฮังการีให้คำมั่นว่าจะให้ความช่วยเหลืออิตาลีหากถูกฝรั่งเศสโจมตี อิตาลีจะต้องทำเช่นเดียวกันในกรณีที่ฝรั่งเศสโจมตีเยอรมนีโดยไม่ได้รับการยั่วยุ ออสเตรีย-ฮังการีได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่สำรองในกรณีที่รัสเซียเข้าสู่สงคราม

สนธิสัญญากำหนดว่าในกรณีที่มีการโจมตีฝ่ายหนึ่งหรือสองฝ่ายในสนธิสัญญาโดยมหาอำนาจตั้งแต่สองฝ่ายขึ้นไปซึ่งไม่ได้เข้าร่วมในสนธิสัญญาโดยไม่ได้รับการยั่วยุ ทั้งสองฝ่ายในสนธิสัญญาทั้งสามฝ่ายจะเข้าสู่สงคราม ในกรณีที่มีการโจมตีโดยไม่ได้รับการยั่วยุต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในสนธิสัญญาโดยมหาอำนาจผู้ยิ่งใหญ่รายหนึ่งที่ไม่เข้าร่วมในสนธิสัญญานี้ (ยกเว้นฝรั่งเศส) อีกสองฝ่ายจำเป็นต้องรักษาความเป็นกลางที่มีเมตตากรุณาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรที่ถูกโจมตี ข้อตกลงดังกล่าวจัดทำข้อตกลงเบื้องต้นระหว่างคู่สัญญาในการดำเนินการร่วมกันในกรณีที่เกิดภัยคุกคามต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นว่า “ในทุกกรณีของการมีส่วนร่วมในสงครามจะไม่สรุปการสู้รบ สันติภาพ หรือสนธิสัญญา เว้นแต่จะได้รับความยินยอมร่วมกัน”

หลังจากการลงนามในสนธิสัญญา ออสเตรีย-ฮังการีและเยอรมนีได้รับทราบแถลงการณ์พิเศษโดยยืนกรานโดยอิตาลี สาระสำคัญก็คือว่าหากอังกฤษเป็นหนึ่งในมหาอำนาจที่โจมตีพันธมิตร อิตาลีก็จะไม่จัดหาทหาร ความช่วยเหลือแก่พันธมิตรตามที่กำหนดไว้ในสนธิสัญญา (อิตาลีกลัวที่จะขัดแย้งกับอังกฤษเพราะไม่สามารถต้านทานกองทัพเรือที่แข็งแกร่งได้)

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2430 สนธิสัญญาฉบับที่สองของการเป็นพันธมิตรระหว่างอำนาจของ Triple Alliance ได้ลงนามในกรุงเบอร์ลิน เขายืนยันบทบัญญัติทั้งหมดของสนธิสัญญา พ.ศ. 2425 และกำหนดมีผลใช้ได้จนถึงวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2435 ในเวลาเดียวกัน มีการลงนามสนธิสัญญาอิตาโล-ออสเตรียและอิตาโล-เยอรมันแยกกันในกรุงเบอร์ลิน เป็นการเสริมพันธกรณีของสนธิสัญญาปี 1882

สนธิสัญญาอิตาโล-ออสเตรียกำหนดให้ผู้เข้าร่วมพยายามรักษาสถานะดินแดนที่เป็นอยู่ทางตะวันออก

สนธิสัญญาอิตาโล-เยอรมันมีคำมั่นสัญญาเดียวกันที่จะรักษาสถานะดินแดนที่เป็นอยู่ทางตะวันออก แต่ให้เสรีภาพในการปฏิบัติการสำหรับทั้งสองฝ่ายในคำถามเกี่ยวกับอียิปต์ นอกจากนี้ระบุเพิ่มเติมว่าหากฝรั่งเศสพยายามยึดดินแดนแอฟริกาเหนือใหม่และอิตาลีพบว่าจำเป็นต้องต่อต้านสิ่งนี้ ในกรณีของสงคราม เยอรมนีจะให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่อิตาลีเช่นเดียวกับที่กำหนดไว้ในสนธิสัญญาพันธมิตร ค.ศ. 1882 ใน เหตุการณ์ฝรั่งเศสโจมตีอิตาลี ในระหว่างสงครามใดๆ ก็ตามที่ทำร่วมกันกับฝรั่งเศส เยอรมนีให้คำมั่นว่าจะช่วยเหลืออิตาลีในความพยายามที่จะขอ “หลักประกันอาณาเขตเพื่อรักษาความปลอดภัยชายแดนของราชอาณาจักรและตำแหน่งในทะเลจากฝรั่งเศส” สนธิสัญญาเพิ่มเติมถูกเก็บเป็นความลับและมีผลใช้บังคับจนถึงวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2435

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2434 มีการลงนามสนธิสัญญา Triple Alliance เป็นครั้งที่สามในกรุงเบอร์ลิน ข้อความในเนื้อหาประกอบด้วยบทบัญญัติทั้งหมดของสนธิสัญญา ค.ศ. 1882 และสนธิสัญญาอิตาโล-ออสเตรียและอิตาโล-เยอรมัน ค.ศ. 1887 นอกจากนี้ เยอรมนีและอิตาลีให้คำมั่นที่จะพยายามรักษาสถานะดินแดนที่เป็นอยู่ในซิเรไนกา ตริโปลิตาเนีย และตูนิเซียในแอฟริกาเหนือ และหากเป็นไปไม่ได้ เยอรมนีก็ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนอิตาลีในการดำเนินการใด ๆ ที่ทำขึ้น “เพื่อประโยชน์แห่งความสมดุลและการได้รับทางกฎหมาย ค่าตอบแทน ". กล่าวเสริมอีกว่า “เป็นไปโดยไม่ได้บอกว่าหากกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น ทั้งสองมหาอำนาจจะพยายามทำข้อตกลงกับอังกฤษด้วย” สนธิสัญญาดังกล่าวได้รับการสรุปเป็นเวลาหกปี โดยมีการขยายเวลาโดยอัตโนมัติต่อไปอีกหกปี โดยมีเงื่อนไขว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรืออีกฝ่ายไม่ประณามสนธิสัญญาดังกล่าวหนึ่งปีก่อนที่จะหมดอายุ

นับตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 อิตาลีซึ่งหวาดกลัวต่อความเป็นปรปักษ์ระหว่างแองโกล-เยอรมันที่เพิ่มมากขึ้น และได้รับความเสียหายจากสงครามศุลกากรที่ยืดเยื้อโดยฝรั่งเศส ได้เริ่มเปลี่ยนแนวทางนโยบายของตน ในปี พ.ศ. 2439 เธอยอมรับอารักขาของฝรั่งเศสเหนือตูนิเซีย และในปี พ.ศ. 2441 เธอได้ทำข้อตกลงทางการค้ากับฝรั่งเศส ในปีพ.ศ. 2443 เธอตกลงที่จะยึดโมร็อกโกโดยฝรั่งเศสเพื่อแลกกับการยอมรับ "สิทธิ" ของอิตาลีในตริโปลี ในปีพ.ศ. 2445 พระองค์ทรงทำข้อตกลงกับฝรั่งเศส โดยให้คำมั่นว่าจะยังคงเป็นกลางในกรณีที่เกิดสงครามฝรั่งเศส-เยอรมันที่เกิดจากเยอรมนี แต่อย่างเป็นทางการอิตาลียังคงเป็นสมาชิกของ Triple Alliance และเข้าร่วมในการต่ออายุใหม่ในปี 1902 โดยแจ้งให้ฝรั่งเศสทราบเรื่องนี้อย่างลับๆ

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2445 สนธิสัญญาพันธมิตรฉบับที่สี่ระหว่างออสเตรีย-ฮังการี เยอรมนี และอิตาลีได้ลงนามในกรุงเบอร์ลินและสรุปเป็นระยะเวลาหกปี โดยมีเงื่อนไขของการขยายเวลาที่กำหนดไว้ในสนธิสัญญาฉบับก่อน ในคำประกาศลับที่สื่อสารไปยังรัฐบาลอิตาลีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน รัฐบาลออสเตรีย-ฮังการีประกาศว่ามีความมุ่งมั่นที่จะรักษาสถานะดินแดนที่เป็นอยู่ในภาคตะวันออก แต่จะไม่ทำอะไรที่อาจแทรกแซงการกระทำของอิตาลีที่กำหนดโดยผลประโยชน์ของตนในตริโปลิตาเนียและ ไซเรไนกา.

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2455 สนธิสัญญาฉบับที่ 5 ของ Triple Alliance ได้ลงนามในกรุงเวียนนา เนื้อหาเหมือนกันกับสนธิสัญญาปี 1891 และ 1902

ในปีพ.ศ. 2458 เมื่ออิตาลีเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (พ.ศ. 2457-2461) โดยอยู่ฝ่ายฝ่ายตกลง พันธมิตรไตรภาคีก็ล่มสลาย

การก่อตัวของข้อตกลง

ตกลง.

กลุ่มทหาร-การเมืองในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1

ตกลง- กลุ่มทหารและการเมืองของรัสเซีย อังกฤษ และฝรั่งเศส สร้างขึ้นเพื่อถ่วงน้ำหนักให้กับ "Triple Alliance" ( A-Entente); ก่อตั้งขึ้นส่วนใหญ่ในปี 1904-1907 และเสร็จสิ้นการกำหนดเขตมหาอำนาจก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง คำนี้เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2447 โดยเริ่มแรกเพื่อหมายถึงพันธมิตรแองโกล-ฝรั่งเศส และใช้สำนวนนี้ ขอตกลงใจกัน(“ข้อตกลงอันจริงใจ”) เพื่อรำลึกถึงพันธมิตรแองโกล-ฝรั่งเศสที่มีอายุสั้นในทศวรรษที่ 1840 ซึ่งมีชื่อเดียวกัน

การก่อตั้งข้อตกลงตกลงเป็นการตอบสนองต่อการสร้าง Triple Alliance และการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเยอรมนี ซึ่งเป็นความพยายามที่จะป้องกันไม่ให้มีอำนาจเหนือกว่าในทวีปนี้ โดยเริ่มแรกมาจากรัสเซีย (ในตอนแรกฝรั่งเศสมีจุดยืนต่อต้านเยอรมัน) และจากนั้นก็มาจากบริเตนใหญ่ . ฝ่ายหลังเมื่อเผชิญกับภัยคุกคามจากอำนาจนำของเยอรมัน ถูกบังคับให้ละทิ้งนโยบายดั้งเดิมที่ว่า "การแยกตัวอย่างยอดเยี่ยม" และย้ายไปที่นโยบายแบบดั้งเดิมในการสกัดกั้นอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีป แรงจูงใจที่สำคัญอย่างยิ่งในการเลือกบริเตนใหญ่นี้คือโครงการกองทัพเรือเยอรมันและการอ้างสิทธิ์ในอาณานิคมของเยอรมนี ในเยอรมนี ในทางกลับกัน เหตุการณ์ที่พลิกผันนี้ถูกประกาศว่าเป็น "การปิดล้อม" และเป็นเหตุผลในการเตรียมการทางทหารครั้งใหม่ โดยวางตำแหน่งให้เป็นการป้องกันล้วนๆ

การเผชิญหน้าระหว่างฝ่ายตกลงและพันธมิตรสามฝ่ายนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โดยที่ศัตรูของฝ่ายตกลงและพันธมิตรคือกลุ่มมหาอำนาจกลาง ซึ่งเยอรมนีมีบทบาทเป็นผู้นำ

Triple Alliance เป็นกลุ่มกลุ่มการเมืองและทหารของเยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการี และอิตาลี ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2422-2425 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการแบ่งยุโรปออกเป็นค่ายที่ไม่เป็นมิตร และมีบทบาทสำคัญในการเตรียมการและการระบาดของโลกที่หนึ่ง สงคราม (พ.ศ. 2457-2461)

ผู้จัดงานหลักของ Triple Alliance คือเยอรมนี ซึ่งสรุปความเป็นพันธมิตรทางทหารกับออสเตรีย-ฮังการีในปี พ.ศ. 2422 หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2425 อิตาลีก็เข้าร่วมกับพวกเขา แกนกลางของกลุ่มทหารที่ก้าวร้าวถูกสร้างขึ้นในยุโรป มุ่งเป้าไปที่รัสเซียและฝรั่งเศส

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2425 เยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการี และอิตาลีได้ลงนามในสนธิสัญญาลับของ Triple Alliance ( สนธิสัญญาออสโตร-เยอรมัน ค.ศ. 1879หรือที่เรียกว่า พันธมิตรคู่- สนธิสัญญาพันธมิตรระหว่างออสเตรีย-ฮังการีและเยอรมนี ลงนามในกรุงเวียนนาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2422

จำคุกเป็นเวลา 5 ปี ต่อมาต่ออายุอีกหลายครั้ง ข้อ 1 กำหนดว่าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกโจมตีโดยรัสเซีย ทั้งสองฝ่ายก็จำเป็นต้องเข้ามาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ข้อ 2 โดยมีเงื่อนไขว่าในกรณีที่มีการโจมตีคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยอำนาจอื่นใด อีกฝ่ายจะต้องรักษาความเป็นกลางด้วยความเมตตาเป็นอย่างน้อย หากฝ่ายโจมตีได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย มาตรา 1 จะมีผลใช้บังคับ

สนธิสัญญาที่มุ่งต่อต้านรัสเซียและฝรั่งเศสเป็นหลัก เป็นหนึ่งในข้อตกลงที่นำไปสู่การจัดตั้งกลุ่มทหารที่นำโดยเยอรมนี (Triple Alliance) และแบ่งประเทศในยุโรปออกเป็นสองค่ายที่ไม่เป็นมิตร ซึ่งต่อมาได้ต่อต้านกันใน สงครามโลกครั้งที่ 1)

พวกเขาให้คำมั่นสัญญา (เป็นระยะเวลา 5 ปี) ที่จะไม่มีส่วนร่วมในพันธมิตรหรือข้อตกลงใด ๆ ที่มุ่งต่อต้านประเทศใดประเทศหนึ่งเหล่านี้ ให้คำปรึกษาในประเด็นทางการเมืองและเศรษฐกิจ และให้การสนับสนุนซึ่งกันและกัน เยอรมนีและออสเตรีย-ฮังการีให้คำมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือแก่อิตาลีในกรณีที่ “จะถูกฝรั่งเศสโจมตีโดยปราศจากการท้าทายโดยตรงในส่วนของตน” อิตาลีจะต้องทำเช่นเดียวกันในกรณีที่ฝรั่งเศสโจมตีเยอรมนีโดยไม่ได้รับการยั่วยุ ออสเตรีย-ฮังการีได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่สำรองในกรณีที่รัสเซียเข้าสู่สงคราม พันธมิตรรับทราบคำแถลงของอิตาลีว่าหากมหาอำนาจประการหนึ่งที่โจมตีพันธมิตรของตนคือบริเตนใหญ่ อิตาลีก็จะไม่ให้ความช่วยเหลือทางการทหารแก่พวกเขา (อิตาลีกลัวที่จะขัดแย้งกับบริเตนใหญ่เนื่องจากไม่สามารถต้านทานกองทัพเรือที่เข้มแข็งของตนได้ ). ในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายมีส่วนร่วมในสงครามร่วมกัน ให้คำมั่นว่าจะไม่สรุปสันติภาพแยกจากกัน และจะเก็บสนธิสัญญาไตรพันธมิตรไว้เป็นความลับ

สนธิสัญญาดังกล่าวได้รับการต่ออายุในปี พ.ศ. 2430 และ พ.ศ. 2434 (โดยมีการเพิ่มเติมและการชี้แจง) และขยายเวลาออกไปโดยอัตโนมัติในปี พ.ศ. 2445 และ พ.ศ. 2455

นโยบายของประเทศที่เข้าร่วมใน Triple Alliance มีลักษณะที่ก้าวร้าวมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อการก่อตั้ง Triple Alliance พันธมิตรฝรั่งเศส-รัสเซียจึงก่อตัวขึ้นในปี พ.ศ. 2434-2437 มีการสรุปข้อตกลงแองโกล-ฝรั่งเศสในปี พ.ศ. 2447 การสรุปข้อตกลงแองโกล-รัสเซียในปี พ.ศ. 2450 และมีการจัดตั้งข้อตกลงร่วมกัน

นับตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 อิตาลีซึ่งกำลังประสบกับความสูญเสียจากสงครามศุลกากรที่ยืดเยื้อโดยฝรั่งเศส ได้เริ่มเปลี่ยนวิถีทางการเมือง ในปีพ.ศ. 2445 พระองค์ทรงทำข้อตกลงกับฝรั่งเศส โดยให้คำมั่นว่าจะยังคงเป็นกลางในกรณีที่เยอรมันโจมตีฝรั่งเศส

หลังจากการสรุปสนธิสัญญาลอนดอน อิตาลีได้เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 โดยอยู่ฝ่ายฝ่ายตกลง และ Triple Alliance ก็ล่มสลาย (พ.ศ. 2458) หลังจากที่อิตาลีออกจากการเป็นพันธมิตร บัลแกเรียและจักรวรรดิออตโตมันก็เข้าร่วมเยอรมนีและออสเตรีย-ฮังการีเพื่อจัดตั้งพันธมิตรสี่เท่า

สำหรับ Triple Alliance ปี 1668 ดู: Triple Alliance

ไตรพันธมิตร- กลุ่มการเมืองและทหารของเยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการี และอิตาลี ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2422-2425 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการแบ่งยุโรปออกเป็นค่ายที่ไม่เป็นมิตรและมีบทบาทสำคัญในการเตรียมการและการระบาดของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (พ.ศ. 2457) -1918)

ผู้จัดตั้งหลักของ Triple Alliance คือเยอรมนี ซึ่งสรุปความเป็นพันธมิตรทางทหารกับออสเตรีย-ฮังการีในปี พ.ศ. 2422 (ดู: สนธิสัญญาออสโตร-เยอรมัน) หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2425 อิตาลีก็เข้าร่วมกับพวกเขา แกนกลางของกลุ่มทหารที่ก้าวร้าวถูกสร้างขึ้นในยุโรป มุ่งเป้าไปที่รัสเซียและฝรั่งเศส

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2425 เยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการี และอิตาลีได้ลงนามในสนธิสัญญาลับของ Triple Alliance พวกเขาให้คำมั่นสัญญา (เป็นระยะเวลา 5 ปี) ที่จะไม่มีส่วนร่วมในพันธมิตรหรือข้อตกลงใด ๆ ที่มุ่งต่อต้านประเทศใดประเทศหนึ่งเหล่านี้ ให้คำปรึกษาในประเด็นทางการเมืองและเศรษฐกิจ และให้การสนับสนุนซึ่งกันและกัน เยอรมนีและออสเตรีย-ฮังการีให้คำมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือแก่อิตาลีในกรณีที่ “จะถูกฝรั่งเศสโจมตีโดยปราศจากการท้าทายโดยตรงในส่วนของตน” อิตาลีจะต้องทำเช่นเดียวกันในกรณีที่ฝรั่งเศสโจมตีเยอรมนีโดยไม่ได้รับการยั่วยุ ออสเตรีย-ฮังการีได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่สำรองในกรณีที่รัสเซียเข้าสู่สงคราม ฝ่ายสัมพันธมิตรรับทราบคำแถลงของอิตาลีที่ว่าหากมหาอำนาจประการหนึ่งที่โจมตีพันธมิตรของตนคือบริเตนใหญ่ อิตาลีก็จะไม่ให้ความช่วยเหลือทางการทหารแก่พวกเขา (อิตาลีกลัวที่จะขัดแย้งกับบริเตนใหญ่เนื่องจากไม่สามารถต้านทานกองทัพเรือที่เข้มแข็งของตนได้ ). ในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายมีส่วนร่วมในสงครามร่วมกัน ให้คำมั่นว่าจะไม่สรุปสันติภาพแยกจากกัน และจะเก็บสนธิสัญญาไตรพันธมิตรไว้เป็นความลับ

สนธิสัญญาดังกล่าวได้รับการต่ออายุในปี พ.ศ. 2430 และ พ.ศ. 2434 (โดยมีการเพิ่มเติมและการชี้แจง) และขยายเวลาออกไปโดยอัตโนมัติในปี พ.ศ. 2445 และ พ.ศ. 2455

นโยบายของประเทศที่เข้าร่วมใน Triple Alliance มีลักษณะที่ก้าวร้าวมากขึ้น (ดู: วิกฤตการณ์โมร็อกโก สงครามอิตาโล - ตุรกี) เพื่อตอบสนองต่อการก่อตั้ง Triple Alliance พันธมิตรฝรั่งเศส-รัสเซียจึงก่อตัวขึ้นในปี พ.ศ. 2434-2436 มีการสรุปข้อตกลงแองโกล-ฝรั่งเศสในปี พ.ศ. 2447 การสรุปข้อตกลงแองโกล-รัสเซียในปี พ.ศ. 2450 และมีการจัดตั้งข้อตกลงร่วมกัน

นับตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 อิตาลีซึ่งกำลังประสบกับความสูญเสียจากสงครามศุลกากรที่ยืดเยื้อโดยฝรั่งเศส ได้เริ่มเปลี่ยนวิถีทางการเมือง ในปีพ.ศ. 2445 พระองค์ทรงทำข้อตกลงกับฝรั่งเศส โดยให้คำมั่นว่าจะยังคงเป็นกลางในกรณีที่เยอรมันโจมตีฝรั่งเศส หลังจากการสรุปสนธิสัญญาลอนดอน อิตาลีได้เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 โดยอยู่ฝ่ายฝ่ายตกลง และ Triple Alliance ก็ล่มสลาย (พ.ศ. 2458) หลังจากที่อิตาลีออกจากการเป็นพันธมิตร บัลแกเรียและจักรวรรดิออตโตมันก็เข้าร่วมเยอรมนีและออสเตรีย-ฮังการีเพื่อจัดตั้งพันธมิตรสี่เท่า

กลุ่มการทหาร-การเมืองของเยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการี และอิตาลี ซึ่งก่อตั้งในปี พ.ศ. 2422-2425 และเป็นจุดเริ่มต้นของการแบ่งยุโรปออกเป็นกลุ่มที่ทำสงครามกันและการเตรียมการสำหรับสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง หลังจากยุติการเป็นพันธมิตรกับออสเตรีย-ฮังการีในปี พ.ศ. 2422... ... สารานุกรมของผู้ทำข่าว

ไตรพันธมิตร- (Triple Alliance) (1882) พันธมิตรลับระหว่างเยอรมนี ออสเตรีย และอิตาลี สรุปในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2425 ตามความคิดริเริ่มของบิสมาร์ก มหาอำนาจทั้งสามตกลงที่จะสนับสนุนซึ่งกันและกันในกรณีที่ถูกโจมตีโดยฝรั่งเศสหรือรัสเซีย เหล่านั้น. ต่ออายุทุกๆห้า...... ประวัติศาสตร์โลก

พันธมิตรสามเท่า- พ.ศ. 2425 กลุ่มการเมือง-การทหารของเยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการี และอิตาลี ในปีพ. ศ. 2447 07 เพื่อถ่วงน้ำหนักให้กับ Triple Alliance กลุ่มของบริเตนใหญ่ฝรั่งเศสและรัสเซียได้ถูกสร้างขึ้น (ดูข้อตกลง) ... พจนานุกรมสารานุกรมขนาดใหญ่

พันธมิตรสามเท่า- พ.ศ. 2425 กลุ่มทหาร-การเมืองของเยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการี และอิตาลี ในปีพ. ศ. 2447 07 เพื่อถ่วงน้ำหนักให้กับ Triple Alliance กลุ่มของบริเตนใหญ่ฝรั่งเศสและรัสเซียได้ถูกสร้างขึ้น (ดูข้อตกลง (ดู ENTANTE)) ... พจนานุกรมสารานุกรม

พันธมิตรสามเท่า- แนวร่วมเยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการี และอิตาลี เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2425 และมีบทบาทสำคัญในการปะทุของสงครามโลกครั้งที่ 2 พ.ศ. 2457 18. หลังจากสรุปความเป็นพันธมิตรกับออสเตรีย-ฮังการีในปี พ.ศ. 2422 เยอรมนี เพื่อแยกฝรั่งเศสออกจากกัน กระตือรือร้นที่จะแสวงหาพันธมิตรใหม่ในตัวของ... ... พจนานุกรมการทูต

ไตรพันธมิตร- (Tripelallianz) สรุปการรักษาสันติภาพในยุโรประหว่างเยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการี และอิตาลี หลังจากการล่มสลายของพันธมิตรของจักรพรรดิทั้ง 3 พระองค์ สรุปในเดือนกันยายน พ.ศ. 2415 ระหว่างจักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 1 แห่งเยอรมนี ฟรานซ์โจเซฟแห่งออสเตรีย และ ... . .. พจนานุกรมสารานุกรม F.A. บร็อคเฮาส์ และ ไอ.เอ. เอโฟรน

ไตรพันธมิตร- (มหาอำนาจกลาง) มหาอำนาจกลาง ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการทหาร-การเมืองระหว่างเยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการี และอิตาลี สิ้นสุดในปี พ.ศ. 2425... ประเทศต่างๆ ทั่วโลก พจนานุกรม

ไตรพันธมิตร- ... วิกิพีเดีย

ไตรพันธมิตร- Triple Alliance (ที่มา) ... พจนานุกรมการสะกดคำภาษารัสเซีย

ไตรพันธมิตร 2425- Triple Alliance ของกลุ่มการทหาร-การเมืองของเยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการี และอิตาลี ซึ่งก่อตั้งในปี พ.ศ. 2422-2425 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการแบ่งยุโรปออกเป็นค่ายที่ไม่เป็นมิตร มีบทบาทสำคัญในการเตรียมการและการระบาดของ สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2457 2461 ... Wikipedia

หนังสือ

• Georgy Ivanov, Irina Odoevtseva, โรมันกุล ไตรพันธมิตร. จดหมายโต้ตอบ พ.ศ. 2496-2501, . เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ซึ่งเปิดตัวในการเผยแพร่ทางวิทยาศาสตร์เป็นครั้งแรกมีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับนักวิจัยวัฒนธรรมรัสเซียแห่งศตวรรษที่ 20 จดหมายโต้ตอบของกวี Georgy Ivanov และ Irina Odoevtseva กับ... ซื้อในราคา 619 รูเบิล
• Triple Alliance Georgy Ivanov - Irina Odoevtseva - Roman Gul, Aryev A. (เปรียบเทียบ) เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ซึ่งเปิดตัวในการเผยแพร่ทางวิทยาศาสตร์เป็นครั้งแรกมีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับนักวิจัยวัฒนธรรมรัสเซียแห่งศตวรรษที่ 20 จดหมายโต้ตอบของกวี Georgy Ivanov และ Irina Odoevtseva กับ... ซื้อในราคา 393 รูเบิล
• แชมร็อก บทกวีของกวีชาวต่างประเทศ แปลโดย Nikolai Zabolotsky, Mikhail Isakovsky, Konstantin Simonov, ชื่อของหนังสือเล่มนี้ได้รับจากสหภาพสามคนของชื่อนักแปล สหภาพแรงงานถูกบังคับแต่ในระดับหนึ่งก็เป็นไปตามธรรมชาติ ชื่อของ N. Zabolotsky, M. Isakovsky, K. Simonov - กวีโซเวียตผู้โด่งดัง - อยู่ใน...

ตัวอย่างที่รู้จักกันดีของการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มการเมืองในเวทีระหว่างประเทศคือการปะทะกันของประเทศใหญ่ๆ ในช่วงทศวรรษปี 1900

ในช่วงที่เกิดความตึงเครียดก่อนเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ผู้มีอิทธิพลในเวทีโลกรวมตัวกันเพื่อกำหนดนโยบายของตนและมีข้อได้เปรียบในการตัดสินใจประเด็นนโยบายต่างประเทศ เพื่อเป็นการตอบสนองจึงมีการสร้างพันธมิตรขึ้นมาซึ่งควรจะเป็นตัวถ่วงในเหตุการณ์เหล่านี้

ประวัติศาสตร์ของการเผชิญหน้าจึงเริ่มต้นขึ้น โดยมีพื้นฐานคือ Entente และ Triple Alliance อีกชื่อหนึ่งคือ Antanta หรือ Entente (แปลว่า "ข้อตกลงจากใจจริง")

ประเทศที่เข้าร่วม Triple Alliance

กลุ่มทหารระหว่างประเทศ ซึ่งก่อตั้งขึ้นครั้งแรกเพื่อเสริมสร้างอำนาจอำนาจ มีรายชื่อประเทศดังต่อไปนี้ (ดูตาราง):

1. เยอรมนี- มีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งพันธมิตรโดยสรุปข้อตกลงทางทหารฉบับแรก
2. ออสเตรีย-ฮังการี- ผู้เข้าร่วมคนที่สองที่เข้าร่วมจักรวรรดิเยอรมัน
3. อิตาลี– เข้าร่วมสหภาพคนสุดท้าย

หลังจากนั้นไม่นานหลังจากเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 อิตาลีก็ถูกถอนออกจากกลุ่ม แต่ถึงกระนั้นแนวร่วมก็ไม่ได้สลายตัว แต่ในทางกลับกันกลับรวมจักรวรรดิออตโตมันและบัลแกเรียด้วย

การก่อตั้ง Triple Alliance

ประวัติศาสตร์ของ Triple Alliance เริ่มต้นด้วยข้อตกลงพันธมิตรระหว่างจักรวรรดิเยอรมันและออสเตรีย-ฮังการี - เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นในเมืองเวียนนาของออสเตรียในปี พ.ศ. 2422

ประเด็นหลักของข้อตกลงคือพันธกรณีที่จะต้องเข้าสู่สงครามโดยฝ่ายพันธมิตรหากจักรวรรดิรัสเซียกระทำการรุกราน

นอกจากนี้ สนธิสัญญาดังกล่าวยังกำหนดข้อกำหนดว่าจะต้องปฏิบัติตามฝ่ายที่เป็นกลางหากพันธมิตรถูกโจมตีโดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่รัสเซีย

ในเวลาเดียวกัน เยอรมนีกังวลเกี่ยวกับตำแหน่งที่เพิ่มขึ้นของฝรั่งเศสในเวทีระหว่างประเทศ ดังนั้น ออตโต ฟอน บิสมาร์กจึงมองหาวิธีที่จะผลักดันฝรั่งเศสให้โดดเดี่ยว

สภาพที่เอื้ออำนวยเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2425 เมื่อชาวออสเตรียฮับส์บูร์กมีส่วนร่วมในการเจรจาซึ่งมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจของอิตาลี

พันธมิตรลับระหว่างอิตาลีและกลุ่มเยอรมนี-ออสเตรีย-ฮังการีประกอบด้วยการให้การสนับสนุนทางทหารในกรณีที่ฝรั่งเศสรุกรานทางทหาร ตลอดจนการรักษาความเป็นกลางในกรณีที่มีการโจมตีประเทศใดประเทศหนึ่งที่เข้าร่วมในแนวร่วม

เป้าหมายของ Triple Alliance ในสงครามโลกครั้งที่ 1

เป้าหมายหลักของ Triple Alliance ก่อนเกิดสงครามคือการสร้างแนวร่วมทางการทหารและการเมืองที่จะต่อต้านการเป็นพันธมิตรของจักรวรรดิรัสเซีย บริเตนใหญ่ และฝรั่งเศส (ฝ่ายตรงข้าม) ในอำนาจของตน

อย่างไรก็ตาม ประเทศที่เข้าร่วมยังได้บรรลุเป้าหมายของตนเองเช่นกัน:

1. เนื่องจากเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วของจักรวรรดิเยอรมัน จึงจำเป็นต้องมีทรัพยากรมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และส่งผลให้มีอาณานิคมเพิ่มมากขึ้น ชาวเยอรมันยังอ้างว่าจะแจกจ่ายขอบเขตอิทธิพลในโลกอีกครั้งโดยมุ่งเป้าไปที่การสร้างอำนาจนำของเยอรมัน
2. เป้าหมายของออสเตรีย-ฮังการีคือการสร้างการควบคุมคาบสมุทรบอลข่าน โดยส่วนใหญ่แล้วเรื่องนี้ดำเนินการเพื่อประโยชน์ในการยึดครองเซอร์เบียและประเทศสลาฟอื่น ๆ
3. ฝ่ายอิตาลีอ้างสิทธิ์ในดินแดนตูนิเซีย และยังพยายามรักษาทางเข้าถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยนำมาอยู่ภายใต้การควบคุมโดยสมบูรณ์

Entente - ใครเป็นส่วนหนึ่งของมันและเกิดขึ้นได้อย่างไร

ภายหลังการก่อตั้ง Triple Alliance การกระจายกำลังในเวทีระหว่างประเทศเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก และนำไปสู่การปะทะกันทางผลประโยชน์ในอาณานิคมระหว่างอังกฤษและจักรวรรดิเยอรมัน

การขยายตัวในตะวันออกกลางและแอฟริกากระตุ้นให้อังกฤษมีความกระตือรือร้นมากขึ้น และพวกเขาเริ่มเจรจาข้อตกลงทางทหารกับจักรวรรดิรัสเซียและฝรั่งเศส

คำจำกัดความของความตกลงนี้เริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2447เมื่อฝรั่งเศสและบริเตนใหญ่ทำสนธิสัญญา ตามข้อเรียกร้องอาณานิคมทั้งหมดในประเด็นแอฟริกาถูกโอนไปอยู่ภายใต้อารักขาของตน

ในเวลาเดียวกัน เฉพาะฝรั่งเศสและจักรวรรดิรัสเซียเท่านั้นที่ยืนยันภาระหน้าที่ในการสนับสนุนทางทหาร ในขณะที่อังกฤษหลีกเลี่ยงการยืนยันดังกล่าวในทุกวิถีทางที่เป็นไปได้

การเกิดขึ้นของกลุ่มการเมืองและทหารทำให้สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างมหาอำนาจหลักได้ และทำให้พวกเขาสามารถต่อต้านการรุกรานของ Triple Alliance ได้มากขึ้น

การภาคยานุวัติของรัสเซียในความตกลง

เหตุการณ์ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการมีส่วนร่วมของจักรวรรดิรัสเซียในกลุ่ม Entente เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2435

ตอนนั้นเองที่ข้อตกลงทางทหารอันทรงพลังได้สรุปกับฝรั่งเศส ซึ่งในกรณีที่มีการรุกราน ประเทศพันธมิตรจะถอนกองกำลังติดอาวุธที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

ในเวลาเดียวกัน ภายในปี 1906 ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและญี่ปุ่นเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเกิดจากการเจรจาสนธิสัญญาพอร์ทสมัธ สิ่งนี้อาจกระตุ้นให้รัสเซียสูญเสียดินแดนตะวันออกไกลบางแห่ง

เมื่อเข้าใจข้อเท็จจริงเหล่านี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอิซโวลสกีจึงได้กำหนดแนวทางในการสร้างสายสัมพันธ์กับบริเตนใหญ่ นี่เป็นการเคลื่อนไหวที่ดีในประวัติศาสตร์ เนื่องจากอังกฤษและญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรกัน และข้อตกลงนี้สามารถแก้ไขข้อเรียกร้องร่วมกันได้

ความสำเร็จของการทูตรัสเซียคือการลงนามในข้อตกลงรัสเซีย-ญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2450 ซึ่งประเด็นด้านอาณาเขตทั้งหมดได้รับการแก้ไขแล้ว สิ่งนี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อการเจรจากับอังกฤษ - วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2450 ถือเป็นการสรุปข้อตกลงรัสเซีย - อังกฤษ

ข้อเท็จจริงข้อนี้เป็นข้อสุดท้าย หลังจากนั้นรัสเซียก็เข้าร่วมข้อตกลงนี้ในที่สุด

การก่อตัวครั้งสุดท้ายของ Entente

เหตุการณ์สุดท้ายที่ทำให้การจัดตั้งกลุ่มตกลงใจเสร็จสมบูรณ์คือการลงนามข้อตกลงร่วมกันระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศสเพื่อแก้ไขปัญหาอาณานิคมในแอฟริกา

รวมถึงเอกสารดังต่อไปนี้:

1. ดินแดนของอียิปต์และโมร็อกโกถูกแบ่งแยก
2. เขตแดนของอังกฤษและฝรั่งเศสในแอฟริกาถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน นิวฟันด์แลนด์ไปอังกฤษโดยสมบูรณ์ ฝรั่งเศสได้รับส่วนหนึ่งของดินแดนใหม่ในแอฟริกา
3. การแก้ไขปัญหามาดากัสการ์

เอกสารเหล่านี้ก่อให้เกิดกลุ่มพันธมิตรระหว่างจักรวรรดิรัสเซีย บริเตนใหญ่ และฝรั่งเศส

แผนการยินยอมในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

เป้าหมายหลักของความตกลงก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (พ.ศ. 2458) คือการปราบปรามความเหนือกว่าทางทหารของเยอรมนีซึ่งมีแผนจะดำเนินการจากหลายฝ่าย ก่อนอื่น นี่คือสงครามในสองแนวหน้ากับรัสเซียและฝรั่งเศส เช่นเดียวกับการปิดล้อมทางเรือโดยสมบูรณ์โดยอังกฤษ

ในเวลาเดียวกัน สมาชิกของข้อตกลงมีผลประโยชน์ส่วนตัว:

1. อังกฤษอ้างสิทธิต่อเศรษฐกิจเยอรมันที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมั่นใจ อัตราการผลิตซึ่งส่งผลกระทบอย่างกดดันต่อเศรษฐกิจอังกฤษ นอกจากนี้ อังกฤษยังมองว่าจักรวรรดิเยอรมันเป็นภัยคุกคามทางทหารต่ออธิปไตยของตน
2. ฝรั่งเศสพยายามกอบกู้ดินแดนอาลซัสและลอร์เรนที่สูญเสียไประหว่างความขัดแย้งระหว่างฝรั่งเศส-ปรัสเซียนกลับคืนมา ดินแดนเหล่านี้มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจเนื่องจากมีทรัพยากรมากมาย
3. ซาร์รัสเซียดำเนินตามเป้าหมายในการขยายอิทธิพลเหนือเขตเศรษฐกิจที่สำคัญของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และยุติการอ้างสิทธิ์ในดินแดนบนดินแดนและดินแดนของโปแลนด์จำนวนหนึ่งในคาบสมุทรบอลข่าน

ผลการเผชิญหน้าระหว่าง Entente และ Triple Alliance

ผลลัพธ์ของการเผชิญหน้าหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งคือความพ่ายแพ้โดยสิ้นเชิงของ Triple Alliance- อิตาลีพ่ายแพ้ และจักรวรรดิออตโตมันและออสโตร-ฮังการีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพก็ล่มสลาย ระบบนี้ถูกทำลายในเยอรมนีซึ่งมีสาธารณรัฐปกครองอยู่

สำหรับจักรวรรดิรัสเซีย การเข้าร่วมในข้อตกลงและสงครามโลกครั้งที่หนึ่งสิ้นสุดลงด้วยการปะทะกันและการปฏิวัติ ซึ่งนำไปสู่การล่มสลายของจักรวรรดิ