Bumblebee กำลังถูกแปลงร่างเป็นรถยี่ห้ออะไร รถยนต์จากภาพยนตร์เรื่อง Transformers: "The Last Knight

ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม " หม้อแปลงไฟฟ้า” เข้าฉายเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2550 และกลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในโลกภาพยนตร์ทันที "Transformers" เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามหุ่นยนต์ ออโตบอท และเดเซปติคอนส์ ที่สามารถแปลงร่างเป็นอุปกรณ์ได้หลากหลาย คุณและฉันสนใจมากกว่า แน่นอน ออโต้บอท - พวกเขาคือ แปลงร่างเป็นรถยนต์! ลองมาดูกันว่าพวกเขาเป็นหม้อแปลงชนิดใดและเปลี่ยนเป็นรถยนต์ประเภทใด

ออพติมัส ไพรม์ (ออพติมัส ไพรม์)- ผู้นำที่ทรงพลังของ Autobots ที่มีความเมตตาต่อ เผ่าพันธุ์มนุษย์. บทบาทของตัวละครตัวนี้ในภาพยนตร์เรื่อง "Transformers" คือรถแทรกเตอร์อเมริกัน Peterbilt 379 ... Peterbilt ก่อตั้งขึ้นในปี 1939 และตั้งแต่นั้นมาก็มีชื่อเสียงในอุดมคติในฐานะผู้ผลิตเครื่องจักรกลหนักระดับแนวหน้า เป็นที่รู้จักของทุกคนโดย ภาพยนตร์เรื่อง "Transformers" รถ Peterbilt 379เป็นเวลาหลายปีแล้วที่มันเป็น "บัตรโทรศัพท์" ของบริษัท การมี Peterbilt เป็นของตัวเองคือความฝันของนักขับรถบรรทุกชาวอเมริกัน

ภมร (ภมร)- นักรบที่เป็นมิตร หลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาพูดยาก เขาจึงใช้เพลงจากสถานีวิทยุในการสื่อสาร ในภาพยนตร์ บทบาทของหม้อแปลงไฟฟ้านี้เล่นโดยรถยนต์ เชฟโรเลต คามาโร รุ่นที่สอง / ห้า ในตอนต้นของภาพยนตร์ เราเห็น Bumblebee สวมหน้ากากเชฟโรเลต Camaro ปี 1976 ซึ่งเป็นรถเก่าขึ้นสนิมและพังยับเยิน อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้ามันก็จะกลายเป็นรถยนต์แบรนด์ใหม่ นั่นคือ เชฟโรเลต คามาโร รุ่นล่าสุด อย่างไรก็ตามในปี 2010 เชฟโรเลตสัญญาว่าจะปล่อยรถยนต์หลายคันในซีรีย์ จำกัด " เชฟโรเลต Camaro Transformers Edition“สำหรับแฟนๆที่กระตือรือร้นที่สุด

แจ๊ส (แจ๊ส)- ออโตบอทตัวเล็กแต่กระฉับกระเฉงและยืดหยุ่น ผู้ชื่นชอบวัฒนธรรมโลก อย่างไรก็ตาม นี่เป็นออโตบอทที่ตายแล้วเพียงตัวเดียว บทบาทของเขาในภาพยนตร์เรื่องนี้ไปที่รถที่สง่างาม " รถปอนเตี๊ยกอายัน» เดิมทีได้รับการออกแบบให้เป็น "แนวคิดเซ็กซี่" สำหรับงานแสดงรถยนต์ดีทรอยต์ เครื่องยนต์ขนาด 2.2 ลิตรพร้อมซูเปอร์ชาร์จเจอร์แบบกลไกสามารถพัฒนากำลังสูงสุด 240 แรงม้า กระปุกเกียร์ธรรมดา 6 สปีดที่ยืมมาจาก Corvette การบังคับเลี้ยวจาก Subaru WRX และส่วนประกอบมาตรฐานอื่น ๆ อีกมากมายได้รับการออกแบบมาเพื่อให้รถมีราคาไม่แพงเมื่อต้องการผลิต ($ 20,000-25,000) แต่จนกระทั่งสิ่งนั้นเกิดขึ้น " รถปอนเตี๊ยกอายัน“ยังคงเป็นแค่ความฝันของแฟนๆ มากมายเกี่ยวกับตัวของพวกเขาเอง รถจากภาพยนตร์เรื่อง "Transformers".

ไอรอนไฮด์ (ไอรอนไฮด์)- ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธสงคราม เพื่อนเก่าของ Optimus Prime และผู้เกลียดชังสุนัขตัวใหญ่ รถในหนัง จีเอ็มซี ท็อปคิก C4500 มารยาทของเจนเนอรัลมอเตอร์ส รถบรรทุก ปิกอัพ รถตู้ และ SUV จำหน่ายภายใต้แบรนด์ GMC Truck ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มั่นใจเป็นอันดับสองในกลุ่มแบรนด์เจนเนอรัล มอเตอร์ส รองจากเชฟโรเลตเท่านั้น

วงล้อ (วงล้อ)- แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ที่มากด้วยประสบการณ์ รอบคอบ เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ด้วยวาจา ในภาพยนตร์ เขาได้รถกู้ภัย Hummer H2อีกครั้งโดย General Motors SUV คันนี้ผลิตขึ้นตั้งแต่ปี 2546 มีเครื่องยนต์ V8 ขนาด 6.2 ลิตร บล็อกกระบอกสูบอลูมิเนียมและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด กำลังเครื่องยนต์สูงสุด - 398 ชม. ความเร็วสูงสุด- 160 km / h อัตราเร่ง "ถึงร้อย" - 7.8 s.

อ่านยัง

ฉันจำได้ว่าตอนเป็นเด็กฉันดูการ์ตูนเรื่อง "Transformers" ด้วยความยินดี และในปี 2550 ฉันได้เรียนรู้ว่าหนังชื่อเดียวกันกำลังจะออกฉาย ความสุขของฉันไม่มีขอบเขต และฉันแน่ใจว่า: ไม่ใช่ฉันคนเดียว รถสวยที่แปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ – อะไรจะน่าสนใจไปกว่านี้สำหรับเด็กชายอายุ 8 ขวบที่นั่งอยู่ข้างในทุกคน? ราดซอสจากการยิงและการระเบิดบนธุรกิจนี้ เพิ่ม Megan Fox และเรื่องราวเกี่ยวกับการกอบกู้โลก - เท่านั้น ความสำเร็จรับประกัน! และถ้าทุกอย่างชัดเจนกับนักแสดงแล้วเกี่ยวกับรถยนต์ที่อยู่ห่างไกลจาก ตลาดรัสเซีย, คุณบอกได้.

"หม้อแปลงไฟฟ้า"

รอบปฐมทัศน์ของเทปเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2550 ภาพยนตร์เรื่องนี้เช่นเดียวกับซีรีส์แอนิเมชั่น เกิดจากการเกิดขึ้นของชุดของเล่นจาก Microman และ Diaclone ซึ่งผลิตหุ่นยนต์ขนาดเล็กที่สามารถประกอบเป็นเทปเสียง อาวุธ หรือรถยนต์ได้ ในปี 1980 หัวหน้าของ Hasbro เห็นของเล่นเหล่านี้ซึ่งหยิบความคิดในการสร้างตุ๊กตาดังกล่าวขึ้นมาและหลังจาก 4 ปีร่วมกับ มาร์เวลคอมิกส์, การ์ตูนและการ์ตูนถูกสร้างขึ้น

ไปที่รถยนต์กันเถอะ ฉันคิดว่าทุกคนคงรู้ดีว่ารถที่ผู้ชม BumbleBe ชื่นชอบคือ Chevrolet Camaro ซึ่งในตอนต้นของภาพยนตร์เรื่องนี้ปรากฏอยู่ด้านหลังรุ่นปี 1977 แล้วแปลงร่างเป็นรถต้นแบบของ Chevrolet Camaro Mk5 ซึ่งน่าจะปรากฏเพียงเท่านั้น ในปี 2552 ดังนั้นในภาพยนตร์เรื่องนี้ อาจมีคนกล่าวกันว่าเป็นการแสดงรอบปฐมทัศน์ของโมเดลใหม่

ในภาพ: Chevrolet Camaro Mk5 และ Chevrolet Camaro 1977

อย่างไรก็ตามตามซีรีย์อนิเมชั่น "แตน" (ตามที่แปลโดย BumbleBee) ควรจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แต่ตามคำร้องขอของ Michael Bay รถก็เปลี่ยนไป ความจริงก็คือผู้กำกับไม่ต้องการให้ตัวละครหลักตัวใดตัวหนึ่งเปรียบเทียบกับฮีโร่ในภาพยนตร์ชื่อดัง - Herbie แต่ผู้กำกับยังอ้างอิงถึงรถคันนี้: เมื่อฮีโร่ Shia LaBeouf เลือกรถคันแรกของเขาในลานจอดรถที่ใช้แล้ว Beetle จะเข้าไปในเฟรมก่อน

สำหรับหัวหน้าแก๊งออโตบอท Optimus Prime ในภาพยนตร์เรื่องแรกนั้น Peterbilt 379 ได้รับเลือกให้เป็นรถแทรกเตอร์ซึ่งเริ่มผลิตในปี 2530 รถคันนี้ถูกเลือกด้วยเหตุผล สตีเว่น สปีลเบิร์ก ซึ่งทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ชอบรถบรรทุกคันนี้มากหลังจากทำงานในภาพยนตร์สยองขวัญปี 1971 ที่ซึ่งปีเตอร์บิลต์ 281 รถแทรกเตอร์เล่นบทบาทของตัวละครหลัก การ์ตูนเรื่องแรก

ในภาพ: Peterbilt 379 และ VW Beetle

สำหรับส่วนที่เหลือของ Autobots เราจะเห็นเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ของอเมริกาเท่านั้น Gunsmith Ironhide กลายเป็นรถกระบะ GMC Topkick ลูกเสือแจ๊สกลายเป็นรถปอนเตี๊ยก Solistice และเป็นผู้ที่กลายเป็นเหยื่อรายเดียวในกลุ่ม Autobots ในส่วนแรกของภาพยนตร์ Medic Ratchet กลายเป็นรถกู้ภัยโดยอิงจาก Hummer H2

บทบาทของเดเซปติคอนกลายเป็นเทคนิคที่โหดเหี้ยมยิ่งกว่าเดิม Ford Mustang Saleen S281 Extreme Cop ปี 2548 เป็นเครื่องกีดขวาง โดยวิธีการที่อยู่บนปีกของมัสแตงนี้แทนที่จะเป็นมาตรฐานสำหรับรถตำรวจอเมริกันคำจารึก "เพื่อปกป้องและรับใช้" (เพื่อปกป้องและรับใช้) มันบอกว่า "การลงโทษและเป็นทาส" (การลงโทษและเป็นทาส) Decepticon Blackout ล้อมรอบไปด้วยเฮลิคอปเตอร์ MH-53, Starscream พร้อมเครื่องบินรบ F-22 Raptor, Bouncrusher กับผู้ให้บริการรถหุ้มเกราะที่มีหุ่นบัฟฟาโล H, Brawl พร้อมรถถัง M1 Abrams ที่ดัดแปลง และมีเพียง Frenzi ตัวน้อยเท่านั้นที่กลายเป็นโมเดลที่ควบคุมด้วยวิทยุของโมเดลที่ยากต่อการระบุตัวตน

ในภาพ: GMC Topkick และ Pontiac Solistice

"Transformers 2: การแก้แค้นของ Fallen"

ในตอนท้ายของหนังเรื่องแรก ออพติมัส ไพรม์ ส่งข้อความไปยังอวกาศซึ่งเขาเรียกออโต้บอทส์ที่รอดชีวิตทั้งหมดให้บินมายังโลก และพวกเขาก็บินเข้ามา การถ่ายทำเริ่มขึ้นในวันหลังจากภาคแรกได้รับรางวัล MTV ในการเสนอชื่อ “ หนังที่ดีที่สุด". คราวนี้รถยนต์ยุโรปก็มีส่วนร่วมในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย ดังนั้นในฉากแรก Decepticon Sideways ถูกทำลายซึ่งปรากฏต่อหน้าผู้ชมในรูปแบบของ Audi R8 แต่เราจะไปที่ Decepticons ในภายหลังเล็กน้อย

มีการเพิ่มหุ่นยนต์ใหม่หลายตัวในยศของ Autobots ตัวอย่างเช่น Sideswipe ปรากฏขึ้นซึ่งอันที่จริงแล้วตัด Sidesway ลงครึ่งหนึ่ง เชฟโรเลต คอร์เวทท์ สติงเรย์สีเงินได้รับเลือกให้เป็นรูปลักษณ์ทางเลือกสำหรับหม้อแปลงนี้ ตามคำร้องขอของออปติมัส ไพรม์ ออโตบอทนี้ได้ครอบครองฝาแฝดสองคน คือ สกิดส์ และแผ่นปิดบังโคลน ทอมบอยเหล่านี้ที่สร้างความขบขันให้กับผู้ชมที่หน้าจอด้วยท่าทางหรือการกระทำเกือบทุกอย่าง สามารถกลายเป็นแนวคิดที่เชฟโรเลตสร้างขึ้นเมื่อพัฒนาการออกแบบของ Spark รุ่นต่อไป Skids ได้จังหวะสีเขียว (ซึ่งในที่สุดก็กลายเป็น Spark ใหม่) และ Mudflap กลายเป็นรถแนวคิด Trax (ออกจากงาน)

นอกจากนี้ ตามคำเรียกร้องของผู้นำ หุ่นยนต์สาวที่แปลงร่างเป็นมอเตอร์ไซค์ก็มาถึงโลก Arsi คือ Ducati 848, Chromia คือ Suzuki B-King และ Elita-1 คือ MV Agusta F4 R 312 Optimus ได้รับความช่วยเหลือจากหุ่นยนต์ Jolt ซึ่งเป็นอีกประเภทหนึ่งซึ่งเป็นต้นแบบของรถยนต์ไฟฟ้า Chevrolet Volt ซึ่งออกจำหน่ายเฉพาะในปี 2554 เท่านั้น

1 / 7

2 / 7

3 / 7

4 / 7

5 / 7

6 / 7

7 / 7

ในภาพ: Audi R8, Chevrolet Volt, Ducati 848, MV Agusta F4 R 312, Suzuki B-King, Chevrolet Corvette Stingray และ Chevrolet Spark

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ Autobot Hound ฉายแววและกลายเป็นการดัดแปลงทางทหารของ Jeep Wrangler มันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้วางแผนมาก่อนเมื่อ Michael Bay ได้รับการติดต่อจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐ พวกเขาตั้งข้อสังเกตว่าในภาพยนตร์เรื่องแรกใน อุปกรณ์ทางทหารมีเพียงพวกพติคอนเท่านั้นที่กลับชาติมาเกิดและอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของกองทัพอเมริกัน นี่คือวิธีที่ตัวแทนของกลุ่มคู่แข่งไครสเลอร์เข้าสู่ "อาณาจักรแห่งเจเนอรัลมอเตอร์ส" ...

การเติมเต็มก็เกิดขึ้นในด้านชั่วร้ายเช่นกัน คลื่นเสียงไปถึงพื้นซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นดาวเทียมได้ โดยทั่วไปแล้ว การปรากฏตัวของ Decepticons ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักและส่วนใหญ่กลายเป็นอุปกรณ์ก่อสร้างหรืออุปกรณ์ทางทหาร ตัวอย่างเช่น Demolisher หนึ่งในหุ่นยนต์ที่ใหญ่ที่สุดที่ยืนอยู่ข้างปีศาจ กลายเป็น Grindor รถขุด Terex RH400 สีขาว ให้กลายเป็นเฮลิคอปเตอร์ CH-53E Super Stallion

คอมโพสิต Devastator ถูกประกอบขึ้นจาก Mixmaster - เครื่องผสมคอนกรีต Mack Granite; อาละวาด - รถปราบดิน Caterpillar D9L; หลุมยาว - รถดั๊มพ์ Caterpillar 773B; เครื่องขูด - รถตัก Caterpillar 992G; Skevenger - รถขุด Terex RH400 เหมือนกับ Demolisher แต่เป็นสีแดง โอเวอร์โหลด - รถดั๊มพ์ Komatsu HD465-7 นั่นคืองานก่อสร้าง ถ้าคุณได้โปรด ได้โปรดดู

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมี Decepticon Vili ตัวน้อยซึ่งเดินไปที่ด้านข้างของ Autobots และเขาก็กลายเป็นรถที่ควบคุมด้วยวิทยุ และนอกจากเขาแล้ว Jetfire เครื่องบินลาดตระเวนเหนือเสียงเชิงกลยุทธ์ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ Lockheed SR-71 Black Bird ก็ก้าวข้ามจากอันดับของคนร้ายไปสู่ด้านดีด้วย กระทรวงกลาโหมสหรัฐพอใจอย่างแน่นอน

ในภาพ: Mack Granite และ Terex RH400

"Transformers 3: ด้านมืดของดวงจันทร์"

การปรากฏตัวของภาคต่อถัดไปไม่นานมานี้: เปิดตัวในปี 2011 บางทีสิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือการขาด Megan Fox ในภาพยนตร์ ความจริงก็คือเธอตกหลุมรักไมเคิล เบย์และโรซี่ ฮันติงตัน-ไวท์ลีย์สาวผมบลอนด์ผู้มีเสน่ห์ที่นำแสดงในแฟรนไชส์นี้ แต่เราดูเหมือนจะฟุ้งซ่านจากรถ ...

สำหรับการเปลี่ยนแปลงของยานยนต์นั้น สามารถสังเกตได้ว่า Sideswipe มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เนื่องจากในระหว่างการถ่ายทำ เชฟโรเลต คอร์เวทท์ สติงเรย์ คอนเซ็ปต์ ใหม่ได้เปิดตัว และผู้ผลิตชาวอเมริกันได้ขอให้ทีมผู้สร้างใช้ต้นแบบนี้โดยเฉพาะ หนึ่ง Decepticon ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน: Soundwave ซึ่งปรากฏในภาพที่สองเป็นดาวเทียมได้กลายเป็นรถสปอร์ตเยอรมัน Mercedes SLS AMG อันงดงาม

ยศของ Autobots ได้เติมเต็มอีกครั้ง ภายใต้การนำของรถแทรกเตอร์ Peterbilt ขณะนี้มี Chevrolet Impala SS สามคันที่เตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขัน NASCAR พี่น้องสามคนกลายเป็นรถเหล่านี้: Roadbuster, Topsin และ Leadfoot นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่รถยนต์ยุโรปเข้าสู่ "กองทัพแห่งความดี": Mercedes-Benz E350 เล่นบทบาทของหุ่นยนต์นักวิทยาศาสตร์ Kew และหน่วยสอดแนม Mirage ถูกเปลี่ยนเป็นม้าสีแดงอิตาลี Ferrari 458 Italia ในภาพยนตร์เรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีอีกคนก็ปรากฏตัวขึ้นซึ่งเลือกรูปรถดับเพลิง Rosenbauer

1 / 5

2 / 5

3 / 5

4 / 5

5 / 5

ในภาพ: Chevrolet Corvette Stingray Concept, Ferrari 458 Italia, Chevrolet Impala SS NASCAR, Mercedes SLS AMG และโรเซนบาวเออร์

ทีม Decepticon เปลี่ยนไปเล็กน้อย: Lazerik ถูกแทนที่โดย Lazerik ซึ่งกลายเป็น อุปกรณ์ต่างๆเช่นเครื่องพิมพ์หรือทีวี ตำรวจ Mustang Saleen S281 Extreme Barricade ที่หายตัวไปจากภาพยนตร์เรื่องที่สองกลับมาแล้ว หุ่นยนต์ตัวใหม่ Crancase ปรากฏตัวแล้ว แปลงร่างเป็น Chevrolet Suburban สีดำ นอกจากนี้อันดับของ "คนร้าย" คือผู้ก่อวินาศกรรม Hetchet และ Crowbar ซึ่งกลายเป็น Saburbans อีกครั้ง แต่ได้รับการปรับแต่งอย่างรุนแรง

รถตลกอีกคันถูกยิงในภาพยนตร์ - นี่คือ Datsun 510 รถสีเหลืองที่มีแถบสีดำมีสไตล์เป็น Bumblebee ซึ่งเขาขับ ตัวละครหลักขณะที่เชฟโรเลต คามาโร เพื่อนและรถยนต์พาร์ทไทม์ของเขา ยืนอยู่ที่จุดต่อสู้ ปกป้องโลกจากการรุกรานของดิเซปติคอนส์

โดยทั่วไปแล้ว ควรยอมรับว่ามีตัวละครรถใหม่ไม่กี่ตัวที่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่องนี้ และตัวละครเก่าไม่เหลืออยู่ทั้งหมด ตอนนี้ได้ย้ายออกจากธีมของรถยนต์อย่างชัดเจนโดยเน้นไปที่ฉากคอมพิวเตอร์ของการต่อสู้ระหว่างหุ่นยนต์ยักษ์

ในภาพ: เชฟโรเลต Camaro และ Datsun 510

"Transformers 4: ยุคแห่งการสูญพันธุ์"

ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายในแฟรนไชส์นี้เข้าฉายเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2014 ไชอา เลอบัฟหายตัวไปหลังจากเมแกน ฟอกซ์ สตีเวน สปีลเบิร์กก้าวลงจากตำแหน่งผู้อำนวยการสร้าง และปีเตอร์บิลต์ก็หายตัวไปพร้อมกับเขา สำหรับบทบาทของ Optimus Prime พวกเขาใช้รถบรรทุกอีกคัน - Western Star 4900X และก่อนหน้านั้นผู้นำของ Autobots จะปรากฏขึ้นในรูปแบบของ Marmon Cadover 97 ที่เป็นสนิมซึ่งอาจอ้างอิงถึงซีรีย์อนิเมชั่น Bumblebee ขวัญใจมหาชนก็เปลี่ยนไปเช่นกัน โดยคงไว้ซึ่งแบรนด์และรุ่น แต่ตอนนี้มันถูกนำเสนอเป็น Camaro SS สีดำและสีเหลืองปี 1967 แล้วจึงเปลี่ยนเป็นแนวคิด

การเปลี่ยนแปลงส่งผลกระทบต่อทุกคน ผู้น่าสงสาร Ratchet แพทย์ทหารของ Autobot ถูกทำลายอย่างไร้ความปราณีในช่วงเริ่มต้นของภาพยนตร์ - เห็นได้ชัดว่านี่เป็นวิธีที่ทีมผู้สร้างบอกเป็นนัยว่าไม่มีที่ว่างสำหรับ Hummer ในภาพยนตร์อีกต่อไป ออโต้บอทใหม่ปรากฏขึ้น และบางครั้งก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำตามตรรกะในการเลือกรถยนต์

ตัวอย่างเช่น หุ่นยนต์ซามูไรที่มีชื่อพูดว่า Drift ด้วยเหตุผลบางอย่างไม่ได้กลายเป็น Nissan Silvia S15 เหมือนในซีรีส์ แต่เป็น Bugatti Veyron Grand Sport Vitesse (ไม่ชัดเจน)

ความกังวลของชาวอเมริกันที่ General Motors ได้รับการออกแบบรถยนต์สำหรับภาพยนตร์เรื่องแรกและเรื่องที่สอง นักออกแบบของบริษัทนี้พัฒนารถยนต์รุ่นส่วนใหญ่ของออโตบอท ยกเว้นออปติมัส ไพรม์ ผู้นำของพวกเขา ดิเซปติคอนส์ส่วนใหญ่ใช้ยุทโธปกรณ์ทางทหาร รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์ MH-53 และเครื่องบินขับไล่ F-22 Raptor

ความแปลกใหม่ที่ไม่แพงที่สุดคือรถที่หม้อแปลง Bubbleby เปลี่ยนเป็น Chevrolet Camaro มีการนำเสนอโมเดลนี้ให้กับผู้ซื้อแล้ว Michael Bay ยอมรับว่าทันทีที่เขาเห็น Camaro รุ่นใหม่ในรูปแบบการออกแบบ เขาก็ตัดสินใจ "รับบทบาทนี้" ของหม้อแปลง Bubblebee ทันที Michael Bay กล่าวว่า "รูปลักษณ์ของมันเข้าได้กับทุกยุคทุกสมัย ไม่มีรถคันอื่นที่คล้ายคลึงกัน"

สัญลักษณ์ของ Autobots คือรถแทรกเตอร์ Peterbilt 379 ซึ่งเป็นโมเดลจมูกยาวพิเศษเฉพาะที่ผลิตโดย Peterbilt Motors Company โดยเฉพาะสำหรับการถ่ายทำ Transformers ในขั้นต้น รถแทรกเตอร์ขับรถตู้บ้าน แต่สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ภาระนี้ถูกลบออกจากมันและเพิ่มความมันวาว - การชุบโครเมียมและ "การต่อสู้" สีฟ้า - แดงคะนอง

บทบาทของออโต้บอท Weeljack ตกเป็นของ Saab Areo-X เมื่อพิจารณาจากรูปทรงของรถคันนี้แล้ว ดูเหมือนว่าผู้พัฒนาต้องการสร้างเครื่องบินก่อน แล้วจึงตัดสินใจสร้างรถยนต์ ซึ่งคำนวณจากมุมมองของแอโรไดนามิก กระจกหน้ารถแบบพาโนรามา ล้อซี่ลวด และสไตล์การตกแต่งแผงหน้าปัดทำให้ภาพสมบูรณ์ และเพื่อให้เข้ากับการออกแบบของ Aero X กับความสามารถทางเทคนิค รถแนวคิดนี้จึงติดตั้งเครื่องยนต์ V6 BioPower เทอร์โบชาร์จ 400 แรงม้าที่ทำงานด้วยไบโอเอธานอล

หุ่นยนต์ Sideswipe เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ลึกลับที่สุดของฤดูกาล นี่คือรถแนวคิด Chevrolet Corvette Centennial (Corvette Stingray) แห่งอนาคต มีข่าวลือว่าผู้กำกับ Michael Bay มาที่ศูนย์การออกแบบของ GM เพื่อค้นหา "ตัวละคร" ใหม่สำหรับ "Transformers" คนที่สอง ปลากระเบนสร้างความประทับใจให้ผู้กำกับมากจนเบย์สร้างตัวละครใหม่และทำการเปลี่ยนแปลงโครงเรื่องเพื่อประโยชน์ในการมีส่วนร่วมในการถ่ายทำ โมเดลนี้คาดว่าจะเปิดตัวเต็มรูปแบบในปีหน้า ซึ่งเป็นการครบรอบ 100 ปีของเจนเนอรัล มอเตอร์ส

Chevrolet Beat และ Trax จะเล่น Autobots Skids และ Mudflap ตามลำดับ Beat and Trax ถือกำเนิดขึ้นในฐานะรถคอมแพ็กไดนามิก โดยมุ่งความสนใจไปที่กลุ่มผู้ซื้อรุ่นใหม่ และตั้งใจที่จะหลอมรวมพลังงานและความเข้มข้นของไลฟ์สไตล์คนเมืองด้วยโลหะ สไตล์โมเดิร์นและเศรษฐกิจ ทั้งสองรุ่นเป็นรถต้นแบบของเชฟโรเลต สปาร์ค เจนเนอเรชั่นใหม่

เป็นเรื่องยากที่จะหาแฟรนไชส์แฟนตาซีที่รู้จักกันดีกว่า Transformers ทุกคนรู้จักหุ่นยนต์เหล่านี้อย่างแน่นอน เพราะพวกเขามีอยู่มานานกว่าสิบปีและตลอดเวลาที่พวกเขายังคงอยู่ในสายตาของทุกคน เดิมทีเป็นการ์ตูนซึ่งเติบโตเป็นซีรีย์อนิเมชั่นขนาดใหญ่ จากนั้นในฮอลลีวูดก็สังเกตเห็น โอกาสที่ดีและเริ่มออกภาพยนตร์ที่มีสเปเชียลเอฟเฟกต์จำนวนมาก นักเขียนจึงเริ่มเขียนหนังสือเกี่ยวกับการเผชิญหน้าระหว่างพวกเดเซปติคอนและออโตบอท และคอนโซลต่างๆ และ เกมส์คอมพิวเตอร์ที่ดึงดูดใจนักเล่นเกมจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม บทความนี้จะพูดถึงหนึ่งในออโต้บอทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด - Bumblebee Transformers เป็นการเผชิญหน้ากันอย่างต่อเนื่องระหว่าง Autobots ที่ดีและ Decepticons ที่ไม่ดี และ Bumblebee เป็นหนึ่งใน Autobots ที่สาธารณชนชื่นชอบมากที่สุด

คำอธิบายของ Bumblebee

โดยธรรมชาติแล้ว มันคุ้มค่าที่จะเริ่มต้นด้วยรูปลักษณ์ของ Bumblebee ในเกือบทุกกรณี หม้อแปลงมีสองรูปแบบ - หุ่นยนต์และยานพาหนะ Bumblebee แปลงร่างเป็นรถรุ่นต่างๆ ขึ้นอยู่กับว่าอะไรกันแน่ ในคำถาม- เกี่ยวกับการ์ตูน ภาพยนตร์ หรือเกม อย่างไรก็ตาม ตัวเลือกที่พบบ่อยที่สุดคือ Volkswagen Beetle ซึ่งเหมาะสำหรับตัวละครตัวนี้ ภมรมีสีเหลืองมีแถบสีดำซึ่งเขาได้รับชื่อเล่นที่คล้ายกัน หากคุณไม่รู้จัก bumblebee แปลจากภาษาอังกฤษว่า "bumblebee" แต่นักแปลไม่เคยใช้มาก่อน ชื่อเดิมออโตบอทและแปลเป็นแตน นอกจากนี้ ยังควรสังเกตด้วยว่าเซ็นเซอร์ตาของ Bumblebee เป็นสีน้ำเงิน ซึ่งบ่งบอกว่าเขาชอบด้านแสงมากขึ้น คุณบอกอะไรเกี่ยวกับ Bumblebee ได้บ้าง? "Transformers" เป็นซีรีส์ที่ตัวละครแต่ละตัวมีมากกว่ารูปลักษณ์

งานหม้อแปลง

หากเราเปรียบเทียบลักษณะทางกายภาพของ Bumblebee หม้อแปลงทุกชนิดจะใหญ่กว่าเขา ความจริงก็คือเขามีความสูงเพียงเล็กน้อยสำหรับหุ่นยนต์ - น้อยกว่าสองเมตรครึ่ง อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาอ่อนแอกว่าคนอื่น ในทางกลับกัน Bumblebee รู้วิธีเปลี่ยนความเสียเปรียบทางกายภาพของเขาให้กลายเป็นข้อดี ในกรณีส่วนใหญ่ เขาทำงานเป็นสายลับ เพราะเขารู้วิธีเคลื่อนที่โดยไม่มีใครสังเกต มีขนาดเล็ก และยังมีเซ็นเซอร์พิเศษที่กำหนดตำแหน่งของวัตถุด้วย โดยรวมแล้ว หม้อแปลงนี้มีประโยชน์อย่างเหลือเชื่อในการต่อสู้ระหว่างออโตบอทและดีเซปติคอนส์ ควรพูดถึงลักษณะของหม้อแปลง Bumblebee

อักขระ

ด้วยความจริงที่ว่านี่เป็นแฟนตาซี จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่หุ่นยนต์ที่นี่จะมีลักษณะนิสัยของตัวเอง เป็นที่น่าสังเกตว่า Bumblebee เป็นหนึ่งในตัวละครที่ใจดีที่สุดเนื่องจากหม้อแปลงหลายตัวด้วยเหตุผลบางอย่างสามารถถูกทรมานระหว่างความดีกับความชั่วได้ แต่ตัวละครของ Hornet ไม่ได้ให้โอกาสเขาคิดที่จะทำสิ่งเลวร้ายเพราะเขาอย่างสมบูรณ์ ยอมจำนนต่อความฝันของเขา - เพื่อรวมหม้อแปลงทั้งหมดเข้าด้วยกันเพื่อยุติสงครามของ Autobots และ Decepticons สร้างสังคมแห่งหุ่นยนต์ที่สงบสุข น่าเสียดายที่บางครั้ง Bumblebee ต้องชดใช้ให้กับความใจดีของเขา เพราะบางครั้งมันก็กลายเป็นความไร้เดียงสา ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ในสงคราม

บทบาทของผู้นำ

อย่างไรก็ตาม ควรกล่าวทันทีว่า Bumblebee เป็นผู้นำโดยกำเนิดที่สามารถนำหม้อแปลงทั้งหมดได้ เขาแทบไม่มีศัตรูส่วนตัวเลยแม้แต่ในหมู่เดเซปติคอนส์ และเขาไม่ได้พยายามสร้างพวกมัน ซึ่งเป็นสิ่งที่หม้อแปลงที่เหลือ (ยกเว้นบัมเบิลบี) ทำอยู่ตลอดเวลา เมื่อถึงจุดหนึ่งนายกรัฐมนตรีก็ออกจากตำแหน่ง Autobots และพวกเขาเลือก Hornet เป็นผู้นำคนใหม่ซึ่งเข้าใกล้ความฝันของเขาในการรวมหม้อแปลงทั้งหมดเข้าด้วยกัน

ฤดูร้อนนี้ รอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่อง "Transformers 4: Age of Extinction" จะเกิดขึ้น เป็นที่คาดว่าหุ่นยนต์ตัวเอกที่นั่นเป็นครั้งแรกจะไม่ใช่เชฟโรเลต Camaro รุ่นที่ห้า แต่อย่างแน่นอน รุ่นใหม่. นามบัตรสามส่วนก่อนหน้าของภาพวาดของ Michael Bay คือ Bumblebee สีเหลือง ตามรายงานที่ไม่ได้รับการยืนยัน รุ่นใหม่ของ Camaro มีส่วนร่วมในการถ่ายทำส่วนที่สี่ ซึ่งเป็นต้นแบบที่เราได้เห็นแล้ว รถบรรทุก Lamborghini Aventador, Pagani Huayra, Bugatti Veyron และ Western Star ก็คาดว่าจะปรากฏตัวท่ามกลางหม้อแปลงไฟฟ้า ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกต่างสงสัยว่าสิ่งใหม่ๆ อื่นๆ รอเราอยู่ในภาพยนตร์เกี่ยวกับรถยนต์เรื่องใดเรื่องหนึ่งมากที่สุด ให้นึกถึงโมเดลที่เล่นบทบาทของหุ่นยนต์ในภาพยนตร์ภาคก่อนๆ กัน

หม้อแปลงทั้งหมดในภาพยนตร์แบ่งออกเป็น Autobots และ Decepticons อันแรกก็ดี อันที่สองไม่ค่อยดี เครื่องจักรที่พวกเขาแปลงเป็นค่อนข้างสอดคล้องกับตัวละครของฮีโร่ของพวกเขา ดังนั้นบอทส์จึงถูกเปลี่ยนเป็นรถยนต์ที่ "สงบ" (ส่วนใหญ่มักจะเป็นรถยนต์) และเดเซปติคอนส์สามารถแปลงร่างเป็นยุทโธปกรณ์ทางทหารต่างๆ

ออพติมัส ไพรม์

คนที่ยังไม่ได้ดู Transformers อาจจะคิดว่าหุ่นยนต์หลักของ Autobots คือ Camaro สีเหลือง (Bumblebee) ในความเป็นจริง เจ้านายของ "คนดี" คือ Optimus Prime ซึ่งกลายเป็นรถบรรทุก Peterbilt 379 (แม้ว่าบางคนอ้างว่าเป็น Kenworth W900) โดยได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการ บริษัท Peterbilt Motors ได้ออกแบบรถบรรทุกมาตรฐานใหม่และขยายจมูก การทาสีฟ้าและสีแดงและชิ้นส่วนโครเมียมจำนวนมากยังไปที่รถก่อนถ่ายทำ ก่อนที่จะมีการแปลง สำเนาของ Peterbilt 379 นี้ใช้เพื่อขนส่งรถตู้ ที่น่าสนใจในการ์ตูนคลาสสิกเกี่ยวกับหม้อแปลง Optimus กลายเป็นรถบรรทุกและรถยนต์คันอื่น ๆ รวมถึงรถกระบะ Dodge, Lamborghini Diablo และแม้แต่ Nissan แบบสปอร์ต

ภมร

อย่างไรก็ตาม Bumblebee แม้จะไม่ใช่ Autobot ตัวหลัก แต่ก็เป็นหม้อแปลงที่มีชื่อเสียงที่สุดในปัจจุบัน โมเดลสเกลของ Chevrolet Camaro สีเหลืองมีจำหน่ายในร้านค้าเร็วกว่าหุ่นยนต์ตัวอื่นๆ ในส่วนแรก บทบาทของ Bumblebee เดิมเล่นโดย Camaro คนแก่ (1977) และเมื่อใกล้ถึงชั่วโมงที่สองเท่านั้น เขาเปลี่ยน "ร่างกาย" เป็น Chevrolet Camaro 2009 ใหม่เอี่ยม การถ่ายทำเกี่ยวข้องกับแนวคิดก่อนการผลิตจริงของโมเดล ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตลาดคูเป้ ความจริงที่น่าสนใจ: ในการ์ตูน Bumblebee ถูกแปลงร่างเป็น Volkswagen Beetle สีเหลือง... รถคันดังกล่าวจอดอยู่ข้าง Camaro เก่าในลานจอดรถของร้าน (ผู้ขายพยายามเสนอ "แมลง" ในราคา $ 4,000) ในส่วนที่สี่ของ "Transformers" บทบาทของ Bumblebee จะเล่นโดย Chevrolet Camaro สองคนอีกครั้ง: เก่าและใหม่

ไอรอนไฮด์

ฮีโร่อีกคนของเรื่อง "Universe of Transformers" คือหุ่นยนต์ Ironhide ผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปจะจำได้ว่าเป็นหม้อแปลงไฟฟ้าที่เปลี่ยนเป็น Nissan Vanette แต่ผู้ที่ชื่นชอบ Autobot รุ่นใหม่รู้จักในชื่อ GMC Topkick Pickup ในภาพยนตร์เรื่องนี้รับบทโดยนางแบบปี 2549 อย่างไรก็ตาม Ironhide เป็นออโต้บอทเพียงคนเดียวที่ไม่ชอบมนุษย์ ระวังเขา!

แจ๊ส

จากส่วนแรกของ "Transformers" หลายคนควรจำรถ Pontiac Solstice GXP coupe ที่สง่างามซึ่งเมื่อกลายเป็นหุ่นยนต์แล้วจึงใช้คำศัพท์สแลงอย่างแข็งขัน นี่คือหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด - แจ๊ส หุ่นยนต์ถูกฆ่าตายในตอนแรกของภาพยนตร์และไม่ปรากฏบนหน้าจออีกต่อไป ในการ์ตูน "ชื่อ" ของเขาถูกเปลี่ยนเป็นรถแข่ง Porsche 935 อย่างที่คุณเห็น หุ่นยนต์สำหรับภาพวาดได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดเมื่อเทียบกับ ฮีโร่คลาสสิก... เหตุผลนี้คือการจัดหาเงินทุนสำหรับซีรีส์นี้โดยความกังวลของเจนเนอรัล มอเตอร์ส

อีกครั้งรายงาน

Hummer H2 ที่ดัดแปลงให้ดูเหมือนรถกู้ภัยเข้ามามีส่วนร่วมในการถ่ายทำทั้งสามส่วน เครื่องนี้กลายเป็นหุ่นยนต์ของ Ratchet ไม่น่าเป็นไปได้ที่ชื่อของเขาจะได้ยินแม้แต่ในหมู่แฟน ๆ ของ "Transformers" แต่ผู้กำกับไม่ได้เลือกรถคันนี้เพื่ออะไร ในการ์ตูนคลาสสิก Ratchet ถูกเปลี่ยนเป็นรถตู้ทางการแพทย์ที่สมมติขึ้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังนำแสดงโดย SUV ในปี 2547 ตอนนี้รถคันนี้อยู่ในพิพิธภัณฑ์เจเนอรัลมอเตอร์สในดีทรอยต์และบางครั้งก็เข้าร่วมในนิทรรศการรถยนต์

ส่วนที่เหลือของ Autobots

ออโตบอทเหล่านี้ทั้งหมดเป็นฮีโร่ของภาคแรกของ "Transformers" และเป็นหุ่นยนต์หลัก เกือบทุกคนมีส่วนร่วมในการถ่ายทำส่วนต่อไปของภาพยนตร์ แต่ใน "Transformers" ที่สองและสามปรากฏตัว จำนวนมากของเจนเนอรัล มอเตอร์ส โมเดลใหม่แปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ยักษ์ ดังนั้น Jazz (Pontiac Solstice) จึงถูกแทนที่ด้วย Chevrolet Corvette Stingray แนวคิดที่สวยที่สุด ที่ไปงานมอสโคว์ มอเตอร์โชว์ เมื่อปีก่อน เขาได้ดูรถคันนี้สดๆ ซุปเปอร์คาร์แปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ชื่อ Sideswipe ที่น่าสนใจคือ ต้นแบบได้รับการออกแบบให้เป็นเพียงรถโชว์ของงาน Detroit Auto Show 2009 แต่ผู้กำกับ Transformers รู้สึกประทับใจมากจนตัดสินใจเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องของภาพ ในส่วนที่สอง แนวคิดของปี 2552 จะถูกลบออก ที่ด้านหลังของรถเก๋งและคันที่สาม - รถเปิดประทุนที่คล้ายกันน้อยกว่าหนึ่งปี

ในส่วนที่สอง ต้นแบบของ Chevrolet Trax และ Chevrolet Beat ก็ปรากฏตัวขึ้นเช่นกัน พวกเขาเป็นทั้ง Autobots ชื่อ Mudflap และ Skids ตามลำดับ คนหลังมี "พี่ชาย" หลังจากรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์ โมเดลเหล่านี้ถูกนำเสนอในตัวแทนจำหน่ายรถยนต์หลายสิบแห่งทั่วโลก ตอนนี้รถทั้งสองคันกำลังเก็บฝุ่นที่สนามหลังบ้านของสำนักงานใหญ่ของเจนเนอรัล มอเตอร์ส

อื่น ฮีโร่ตัวน้อยกลายเป็นหม้อแปลงไฟฟ้า Jolt ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็น Chevrolet Volt ไฮบริดไฟฟ้าได้ หุ่นยนต์ตัวนี้ปรากฏในเฟรมเพียงไม่กี่วินาที ถ้าคุณจำได้ เขาช่วย Ratchet (Hummer H2) แยกชิ้นส่วน SR-71 Blackbird เพื่อสร้าง Prime ขึ้นใหม่

จากภาคสาม หลายคนคงจำ Ferrari 458 Italia ได้ หนึ่งในไม่กี่คันที่ "ไม่ใช่จีเอ็ม" กลายเป็นหุ่นยนต์ชื่อมิราจ โมเดลปี 2011 ใหม่ล่าสุดเข้ามามีส่วนร่วมในการถ่ายทำ เฟอร์รารีคันนี้ซื้อมาจากตัวแทนจำหน่ายสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเฉพาะ และหม้อแปลง Soundwave ก็กลายเป็น Mercedes SLS AMG ในส่วนที่สาม มีการถ่ายทำ Mercedes มากถึงสิบครั้ง โดยในจำนวนนี้มีทั้งรุ่นคลาสสิกและ E-Class ใหม่ (ในขณะนั้น)