รายชื่อผลงานของ Sophocles Sophocles - ชีวประวัติสั้น

โซโฟคลีส (ราว 496 - 406 ปีก่อนคริสตกาล) นักเขียนบทละครกรีกโบราณ

หนึ่งในสามปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งโศกนาฏกรรมโบราณ ครอบครองสถานที่ระหว่างเอสคิลุสและยูริพิดิสในแง่ของชีวิตและธรรมชาติของความคิดสร้างสรรค์

โลกทัศน์และทักษะของ Sophocles โดดเด่นด้วยความปรารถนาที่จะสร้างความสมดุลระหว่างสิ่งใหม่และเก่า: เพื่อยกย่องพลังของชายอิสระ เขาเตือนว่าอย่าละเมิด "กฎแห่งสวรรค์" นั่นคือประเพณีทางศาสนาและทางแพ่งของชีวิต ลักษณะทางจิตวิทยาที่ซับซ้อนโดยรักษาความยิ่งใหญ่โดยรวมของภาพและองค์ประกอบ โศกนาฏกรรมของ Sophocles "Oedipus the King", "Antigone", "Electra" และอื่น ๆ เป็นตัวอย่างคลาสสิกของประเภทนี้

โซโฟคลีสได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล ใกล้กับแวดวงเพอริเคิลส์ ตามคำให้การโบราณ เขาเขียนมากกว่า 120 ดรามส์ โศกนาฏกรรม "Ajax", "Antigone", "King Oedipus", "Philoctetus", "Trakhine women", "Electra", "Oedipus in Colon" ได้มาถึงเราอย่างเต็มรูปแบบ

โลกทัศน์ของปราชญ์สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนและความขัดแย้งของระบอบประชาธิปไตยในเอเธนส์ในช่วงที่มีจุดสูงสุด ในอีกด้านหนึ่ง อุดมการณ์ประชาธิปไตยซึ่งเติบโตขึ้นบนพื้นฐานของ "ทรัพย์สินส่วนตัวร่วมกันของพลเมืองที่กระตือรือร้นของรัฐ" มองเห็นฐานที่มั่นในอำนาจทุกอย่างของความรอบคอบของพระเจ้าในการขัดขืนไม่ได้ของสถาบันดั้งเดิม ในทางกลับกัน ในสภาวะของการพัฒนาบุคลิกภาพที่อิสระที่สุดในขณะนั้น แนวโน้มที่จะปลดปล่อยมันออกจากความสัมพันธ์แบบโพลิสนั้นปรากฏออกมาอย่างต่อเนื่องมากขึ้นเรื่อยๆ

การทดลองที่ตกอยู่กับคนจำนวนมากไม่พบคำอธิบายที่น่าพอใจในเจตจำนงของพระเจ้า และโซโฟคลิสซึ่งหมกมุ่นอยู่กับการรักษาความเป็นหนึ่งเดียวของโพลิส ไม่ได้พยายามทำให้รัฐบาลศักดิ์สิทธิ์ของโลกมีการพิจารณาทางจริยธรรมใดๆ

ในเวลาเดียวกัน เขาถูกดึงดูดโดยคนที่กระตือรือร้นที่รับผิดชอบการตัดสินใจของเขา ซึ่งสะท้อนให้เห็นในอาแจ็กซ์

ใน Oedipus the King การสืบสวนความลับในอดีตของเขาอย่างไม่หยุดยั้งของฮีโร่ทำให้เขาต้องรับผิดชอบต่อการก่ออาชญากรรมโดยไม่สมัครใจ แม้ว่าจะไม่ได้ให้เหตุผลในการตีความโศกนาฏกรรมในแง่ของความรู้สึกผิดและการลงโทษจากสวรรค์

Antigone ดูเหมือนจะเป็นบุคคลที่มั่นคงและไม่สั่นคลอนในการตัดสินใจของเธอด้วยการปกป้องกฎหมายที่ "ไม่ได้เขียน" อย่างกล้าหาญจากความเด็ดขาดของบุคคลซึ่งซ่อนอยู่หลังอำนาจของรัฐ ฮีโร่ของ Sophocles ปราศจากทุกสิ่งที่รองลงมาและเป็นส่วนตัวเกินไป พวกเขามีจุดเริ่มต้นในอุดมคติที่แข็งแกร่ง

โครงเรื่องและภาพของ Sophocles ถูกนำมาใช้ทั้งในสมัยโบราณและในวรรณคดียุโรปใหม่ตั้งแต่ยุคคลาสสิกจนถึงศตวรรษที่ 20 ความสนใจอย่างลึกซึ้งในงานของนักเขียนบทละครแสดงให้เห็นในการศึกษาทฤษฎีโศกนาฏกรรม (G.E. Lessing, I.V. Goethe, พี่น้อง Schlegel, F. Schiller, V.G. Belinsky) ตั้งแต่กลางศตวรรษที่ XIX โศกนาฏกรรมของ Sophocles จัดแสดงในโรงภาพยนตร์ทั่วโลก

(ค. 496/5 ปีก่อนคริสตกาล, ชานเมืองเอเธนส์ของโคลอน - 406 ปีก่อนคริสตกาล, เอเธนส์)

ru.wikipedia.org

ชีวประวัติ

เกิดในเดือนกุมภาพันธ์ 495 ปีก่อนคริสตกาล e. ในเขตชานเมืองของกรุงเอเธนส์ของโคลอน สถานที่เกิดของเขาได้รับการยกย่องจากศาลเจ้าและแท่นบูชาของ Poseidon, Athena, Eumenides, Demeter, Prometheus กวีร้องเพลงในโศกนาฏกรรม "Oedipus in Colon" เขามาจากครอบครัวโซฟีลาที่ร่ำรวยและได้รับการศึกษาที่ดี

หลังจากการต่อสู้ Salamis (480 ปีก่อนคริสตกาล) เขาเข้าร่วมในเทศกาลพื้นบ้านในฐานะหัวหน้าคณะนักร้องประสานเสียง เขาได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้นำกองทัพสองครั้งและเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกของวิทยาลัยที่ดูแลคลังของสหภาพ ชาวเอเธนส์เลือก Sophocles เป็นผู้นำทางทหารใน 440 ปีก่อนคริสตกาล อี ในช่วงสงคราม Samos ภายใต้อิทธิพลของโศกนาฏกรรม "Antigone" การแสดงละครซึ่งบนเวทีมีอายุย้อนไปถึง 441 ปีก่อนคริสตกาล อี

อาชีพหลักของเขาคือการรวบรวมโศกนาฏกรรมสำหรับโรงละครในเอเธนส์ tetralogy แรกส่งโดย Sophocles ใน 469 ปีก่อนคริสตกาล e. ทำให้เขาได้รับชัยชนะเหนือ Aeschylus และเปิดชุดชัยชนะที่ชนะบนเวทีในการแข่งขันกับโศกนาฏกรรมอื่น ๆ นักวิจารณ์ Aristophanes แห่ง Byzantium กล่าวถึงโศกนาฏกรรม 123 เรื่อง Sophocles

Sophocles โดดเด่นด้วยบุคลิกร่าเริงและเข้ากับคนง่าย เขาไม่ได้อายห่างจากความสุขของชีวิต ดังที่เห็นได้จากคำพูดของ Kefalus บางคนใน "State" ของ Plato (I, 3) เขาคุ้นเคยกับเฮโรโดตุสนักประวัติศาสตร์อย่างใกล้ชิด Sophocles เสียชีวิตเมื่ออายุได้ 90 ปีใน 405 ปีก่อนคริสตกาล อี ในเมืองเอเธนส์ ชาวเมืองสร้างแท่นบูชาให้เขาและให้เกียรติเขาทุกปีในฐานะวีรบุรุษ

การเปลี่ยนแปลงในคำชี้แจงการดำเนินการ

ตามความสำเร็จที่โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นกับ Sophocles เขาได้สร้างนวัตกรรมในการผลิตละครเวที ดังนั้นเขาจึงเพิ่มจำนวนนักแสดงเป็นสามคนและจำนวนนักร้องประสานเสียงจาก 12 เป็น 15 ในขณะที่ลดส่วนนักร้องของโศกนาฏกรรมปรับปรุงทิวทัศน์หน้ากากด้านปลอมทั่วไปของโรงละครทำให้การเปลี่ยนแปลงในการแสดงละคร โศกนาฏกรรมในรูปแบบของเตตระโลก แม้ว่าจะไม่ทราบแน่ชัดว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ประกอบด้วยอะไร ในที่สุด เขายังแนะนำการตกแต่งที่ทาสีด้วย การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ละครบนเวทีเคลื่อนไหวมากขึ้น เพื่อเสริมสร้างภาพลวงตาของผู้ชมและความประทับใจที่ได้รับจากโศกนาฏกรรม รักษาการเป็นตัวแทนของธรรมชาติของการเฉลิมฉลองของเทพนักบวชซึ่งเป็นโศกนาฏกรรมดั้งเดิมโดยกำเนิดจากลัทธิของ Dionysus Sophocles ทำให้เขามีมนุษยธรรมมากกว่า Aeschylus ความเป็นมนุษย์ของโลกแห่งตำนานและตำนานของพระเจ้าและวีรบุรุษตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ทันทีที่กวีมุ่งความสนใจไปที่การวิเคราะห์เชิงลึกของสภาพจิตใจของวีรบุรุษซึ่งเป็นที่รู้จักของสาธารณชนจนถึงปัจจุบันจากความผันผวนภายนอกของพวกเขาเท่านั้น ชีวิตทางโลก เป็นไปได้ที่จะพรรณนาถึงโลกฝ่ายวิญญาณของกึ่งเทพด้วยคุณสมบัติของปุถุชนเท่านั้น จุดเริ่มต้นของการรักษาเนื้อหาในตำนานนี้ถูกวางไว้โดยบิดาแห่งโศกนาฏกรรม Aeschylus: เพียงพอที่จะระลึกถึงภาพของ Prometheus หรือ Orestes ที่สร้างขึ้นโดยเขา Sophocles เดินต่อไปตามรอยเท้าของบรรพบุรุษของเขา

ลักษณะเด่นของละคร

Sophocles ชอบที่จะผลักฮีโร่ที่มีหลักการชีวิตต่างกัน (Creon และ Antigone, Odysseus และ Neoptolemus เป็นต้น) หรือต่อต้านคนที่มีความเห็นเหมือนกัน แต่มีตัวละครต่างกัน - เพื่อเน้นความแข็งแกร่งของตัวละครเมื่อชนกับ อีกตัวละครที่อ่อนแอ (Antigone และ Ismena, Electra และ Chrysotemis) เขารักและรู้วิธีพรรณนาถึงอารมณ์ที่แปรปรวนของเหล่าฮีโร่ - การเปลี่ยนจากความหลงใหลที่เข้มข้นที่สุดไปสู่สภาวะเสื่อมโทรมเมื่อบุคคลมาถึงความขมขื่นของความอ่อนแอและการทำอะไรไม่ถูก จุดเปลี่ยนนี้สามารถสังเกตได้ทั้งใน Oedipus ในตอนจบของโศกนาฏกรรม "Oedipus the King" และใน Creon ที่เรียนรู้เกี่ยวกับการตายของภรรยาและลูกชายของเขาและใน Ajax ผู้ซึ่งฟื้นคืนสติ (ในโศกนาฏกรรม "Ajax" ") โศกนาฏกรรมของ Sophocles มีลักษณะเฉพาะด้วยบทสนทนาของทักษะที่หายาก การกระทำแบบไดนามิก ความเป็นธรรมชาติในการปลดปล่อยปมอันซับซ้อนอันซับซ้อน

แผนโศกนาฏกรรม

ในโศกนาฏกรรมเกือบทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเราไม่ใช่ชุดของสถานการณ์หรือเหตุการณ์ภายนอกที่ดึงดูดความสนใจของผู้ชม แต่เป็นลำดับของสภาวะทางจิตใจที่วีรบุรุษประสบภายใต้อิทธิพลของความสัมพันธ์ทันทีอย่างชัดเจนและในที่สุดก็กำหนด ในโศกนาฏกรรม เนื้อหาของ "Oedipus" เป็นช่วงเวลาหนึ่งจากชีวิตภายในของฮีโร่: การค้นพบอาชญากรรมที่เขาก่อขึ้นก่อนเกิดโศกนาฏกรรม

ใน Antigone การกระทำของโศกนาฏกรรมเริ่มต้นตั้งแต่ตอนที่คำสั่งห้ามของซาร์ในการฝัง Polynices ได้รับการประกาศต่อ Thebans ผ่านการประกาศและ Antigone ตัดสินใจที่จะละเมิดข้อห้ามนี้โดยไม่สามารถเพิกถอนได้ ในโศกนาฏกรรมทั้งสองนี้ ผู้ชมติดตามการพัฒนาแรงจูงใจที่ร่างไว้ตอนต้นของละคร และผลลัพธ์ภายนอกของละครเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรืออีกเรื่องหนึ่งสามารถคาดเดาได้ง่ายโดยผู้ชม ผู้เขียนไม่ได้แนะนำความประหลาดใจใด ๆ ที่ซับซ้อนซับซ้อนในโศกนาฏกรรม แต่ในขณะเดียวกัน โซโฟคลีสไม่ได้ให้รูปลักษณ์ที่เป็นนามธรรมของความรักหรือความโน้มเอียงนั้นแก่เรา วีรบุรุษของเขาคือคนที่มีจุดอ่อนโดยธรรมชาติของมนุษย์ มีความรู้สึกคุ้นเคยกับทุกคน ดังนั้นความผันผวนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ความผิดพลาด อาชญากรรม ฯลฯ บุคคลอื่นที่เข้าร่วมในการกระทำนั้นมีลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล

ใน "Eanta" สภาพจิตใจของฮีโร่ถูกกำหนดโดยเหตุการณ์ก่อนการกระทำของโศกนาฏกรรมและสิ่งที่ประกอบเป็นเนื้อหาของมันคือความตั้งใจที่จะฆ่าตัวตายของ Eant เมื่อเขารู้สึกละอายใจกับการกระทำที่เขาทำในสถานะของ ความบ้าคลั่ง

ตัวอย่างที่เด่นชัดของกิริยาของกวีคือ "อเล็กตรา" Matricide ถูกกำหนดโดย Apollo และผู้ดำเนินการต้องปรากฏตัวต่อหน้า Orestes ลูกชายของ Clytemnestra อาชญากร; แต่ Electra ได้รับเลือกให้เป็นนางเอกของโศกนาฏกรรม เธอตัดสินใจตามเจตจำนงของพระเจ้า โดยไม่คำนึงถึงคำทำนาย ขุ่นเคืองอย่างสุดซึ้งในความรู้สึกแบบเด็กๆ ของเธอจากพฤติกรรมของแม่ เราเห็นสิ่งเดียวกันใน Philoctete และ Trakhinianki การเลือกโครงเรื่องดังกล่าวและความซับซ้อนของหัวข้อหลักทำให้บทบาทของปัจจัยเหนือธรรมชาติ เทพหรือชะตากรรมลดลง: มีพื้นที่เพียงเล็กน้อยสำหรับพวกเขา จากวีรบุรุษในตำนาน ตราประทับของความเหนือมนุษย์เกือบถูกถอดออก ซึ่งทำให้พวกเขาโดดเด่นในตำนานดั้งเดิมเกี่ยวกับพวกเขา เช่นเดียวกับที่โสกราตีสนำปรัชญาจากสวรรค์มาสู่โลก โศกนาฏกรรมที่อยู่ข้างหน้าเขาก็นำเหล่ากึ่งเทพลงมาจากแท่นของพวกเขา และเหล่าทวยเทพก็ถูกขจัดออกจากการแทรกแซงโดยตรงในความสัมพันธ์ของมนุษย์ โดยทิ้งบทบาทของผู้นำสูงสุดแห่งโชคชะตาของมนุษย์ไว้เบื้องหลัง ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกับฮีโร่นั้นเพียงพอแล้วโดยคุณสมบัติส่วนตัวของเขาทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพโดยรอบ แต่เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้น ผู้ชมก็เข้าใจว่าเธอเห็นด้วยกับเจตจำนงของเหล่าทวยเทพ เรียกร้องความจริงอันสูงสุด ด้วยปณิธานอันศักดิ์สิทธิ์ และติดตามการสั่งสอนของปุถุชนสำหรับความผิดของฮีโร่เอง เช่นเดียวกับใน Eanta หรือบรรพบุรุษของเขา เช่นเดียวกับใน Oedipus หรือ Antigone นอกเหนือจากความห่างไกลจากความไร้สาระของมนุษย์ จากกิเลสตัณหาและความขัดแย้งของมนุษย์แล้ว เทพก็กลายเป็นผู้มีจิตวิญญาณมากขึ้น และบุคคลจะมีอิสระมากขึ้นในการตัดสินใจและการกระทำของเขา และรับผิดชอบต่อพวกเขามากขึ้น ในทางกลับกัน การตัดสินความผิดของบุคคลนั้นขึ้นอยู่กับแรงจูงใจของเขา ขึ้นกับระดับของจิตสำนึกและความตั้งใจของเขา ในตัวเขาเองในจิตสำนึกและมโนธรรมของเขาเองฮีโร่ถือทั้งการประณามหรือการให้เหตุผลสำหรับตัวเองและความต้องการของมโนธรรมก็สอดคล้องกับการพิพากษาของเหล่าทวยเทพแม้ว่าจะกลายเป็นความขัดแย้งอย่างชัดเจนกับทั้งกฎบวกและความเชื่อดั้งเดิม . เอดิปุสเป็นลูกชายของพ่อที่เป็นอาชญากร และเขามีความผิดที่ต้องทนรับโทษสำหรับความผิดของพ่อแม่ และ parricide และการร่วมประเวณีระหว่างพี่น้องกับแม่นั้นถูกกำหนดโดยเทพและทำนายกับเขาโดยพยากรณ์ แต่โดยส่วนตัวแล้วโดยคุณสมบัติของเขาเองไม่สมควรได้รับส่วนแบ่งหนักเช่นนี้ อาชญากรรมเกิดขึ้นโดยเขาด้วยความไม่รู้ และนอกจากนี้ พวกเขาได้รับการชดใช้ด้วยการละอายและการทดสอบจิตใจหลายครั้ง และเอดิปัสคนเดียวกันนี้ก็ชนะด้วยการมีส่วนร่วมอย่างสง่างามของเหล่าทวยเทพ เขาไม่เพียงได้รับการให้อภัยอย่างสมบูรณ์เท่านั้น แต่ยังได้รับสง่าราศีของคนชอบธรรมซึ่งมีค่าควรแก่การเข้าร่วมกองทัพของพระเจ้า และ Antigone เป็นของบ้านหลังนี้ มลทินด้วยความทารุณ; เธอละเมิดพระประสงค์และด้วยเหตุนี้เธอจึงถูกตัดสินประหารชีวิต แต่เธอแหกกฎหมายด้วยแรงจูงใจที่บริสุทธิ์ โดยหวังจะบรรเทาชะตากรรมของน้องชายผู้ล่วงลับของเธอที่โชคร้ายอยู่แล้ว และเชื่อว่าการตัดสินใจของเธอจะทำให้พระเจ้าพอพระทัย ว่าสอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาซึ่งดำรงอยู่มานานหลายศตวรรษและ จำเป็นสำหรับผู้คนมากกว่ากฎหมายที่มนุษย์คิดค้นขึ้น Antigone พินาศ แต่ในฐานะเหยื่อของความเข้าใจผิดของ Creon มีความอ่อนไหวน้อยกว่าต่อความต้องการของธรรมชาติของมนุษย์ เธอซึ่งเสียชีวิตไปแล้วได้ทิ้งความทรงจำของผู้หญิงที่มีค่าควรไว้เบื้องหลัง ความเอื้ออาทรของเธอความชอบธรรมของเธอได้รับการชื่นชมหลังจากการตายของพลเมือง Theban ทุกคนเห็นด้วยตัวเองจากพระเจ้าและการกลับใจของ Creon เอง ในสายตาของชาวกรีกไม่เพียงเท่านั้น การตายของ Antigone ยังคุ้มค่ากับชีวิตที่ Ismene น้องสาวของเธอต้องถูกลงโทษ ด้วยความกลัวความตาย เธอจึงหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมในการปฏิบัติตามหน้าที่ของเธอ และคุ้มค่ายิ่งกว่ากับชีวิตที่ Creon ถูกประณามให้ลากออกไป ที่ไม่พบการสนับสนุนสำหรับตัวเองและเหตุผลทั้งในคนรอบข้างเขาหรือในความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเขาเองที่สูญเสียทุกคนที่อยู่ใกล้เขาและที่รักภายใต้ภาระของการสาปแช่งของภรรยาที่รักซึ่งเสียชีวิตเพราะ ของเขา. นี่คือวิธีที่กวีใช้ชื่อและตำแหน่งที่สร้างขึ้นก่อนหน้าเขาในอารมณ์ที่ต่างไปจากเดิม เพื่อจุดประสงค์อื่นโดยจินตนาการและกวีพื้นบ้าน ในเรื่องราวเกี่ยวกับการหาประโยชน์จากฮีโร่ที่มีชื่อเสียง การแสดงตามจินตนาการของคนหลายรุ่น เกี่ยวกับการผจญภัยที่ยอดเยี่ยมกับเหล่ากึ่งเทพ เขาได้สูดหายใจชีวิตใหม่ เข้าใจได้สำหรับคนรุ่นเดียวกันและรุ่นต่อๆ มา ด้วยพลังของการสังเกตและอัจฉริยะทางศิลปะของเขา อารมณ์ความรู้สึกที่ลึกที่สุดที่จะแสดงออกและกระตุ้นความคิดและคำถามใหม่ ๆ ในยุคของเขา

ทั้งความแปลกใหม่และความกล้าหาญของคำถามที่ผู้เขียนหยิบยกขึ้นมา และความโน้มเอียงของชาวเอเธนส์ที่มีต่อภาษาถิ่นมากขึ้น อธิบายลักษณะทั่วไปของโศกนาฏกรรม Sofokles เมื่อเปรียบเทียบกับละครเรื่องใหม่ กล่าวคือ: ธีมหลักของโศกนาฏกรรมพัฒนาใน การแข่งขันด้วยวาจาระหว่างสองฝ่ายตรงข้ามและแต่ละฝ่ายนำตำแหน่งที่ผู้พิทักษ์ไปสู่ผลที่ตามมาอย่างสุดโต่ง ปกป้องสิทธิ์ของคุณ ด้วยเหตุนี้ ในขณะที่การแข่งขันดำเนินไป ผู้อ่านได้รับความประทับใจ อย่างที่มันเป็น ของความเที่ยงธรรมที่เกี่ยวข้องหรือการเข้าใจผิดของตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง ตามกฎแล้ว คู่กรณีไม่เห็นด้วย โดยได้ชี้แจงรายละเอียดมากมายเกี่ยวกับประเด็นที่เป็นข้อพิพาท แต่ไม่มีการเสนอข้อสรุปที่พร้อมให้พยานบุคคลภายนอกทราบ หลังนี้ต้องดึงผู้อ่านหรือผู้ชมออกจากหลักสูตรทั้งหมดของละคร นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมในวรรณคดีปรัชญาใหม่จึงมีความพยายามที่จะตอบคำถามมากมายและขัดแย้งกัน: กวีเองมองเรื่องของข้อพิพาทอย่างไรซึ่งคู่แข่งขันควรตระหนักถึงความเหนือกว่าของกวีร่วมกับกวี ความจริงหรือความจริงทั้งหมด Creon ถูกต้องหรือไม่ที่ห้ามการฝังศพของ Polynices หรือสิทธิของ Antigonus ซึ่งขัดกับข้อห้ามของราชวงศ์ที่ทำพิธีฝังศพเหนือร่างของพี่ชายของเขา? Oedipus มีความผิดหรือไม่มีความผิดในอาชญากรรมที่เขาก่อขึ้นและดังนั้นจึงเป็นความหายนะที่เกิดขึ้นกับเขาสมควรหรือไม่? เป็นต้น อย่างไรก็ตาม วีรบุรุษแห่ง Sophocles ไม่เพียงแต่แข่งขันกันเท่านั้น แต่ยังประสบความปวดร้าวทางจิตใจบนเวทีจากภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้น และจะพบได้เพียงการบรรเทาทุกข์ในจิตสำนึกในความชอบธรรมของตน หรือว่าความผิดนั้นเกิดจากความไม่รู้หรือกำหนดไว้ล่วงหน้า โดยเหล่าทวยเทพ ฉากที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสมเพช ดึงดูดนักอ่านหน้าใหม่ ถูกพบในโศกนาฏกรรมที่รอดตายทั้งหมดของโซโฟคลีส และฉากเหล่านี้ไม่มีฉากระเบิดหรือวาทศิลป์ นี่คือเสียงคร่ำครวญอันงดงามของ Deianira, Antigone, Eant ก่อนตาย, Philoctetes ซึ่งถูกหลอกไปอยู่ในมือของศัตรูที่เลวร้ายที่สุดของเขา Oedipus ผู้ซึ่งเชื่อว่าตัวเขาเองเป็นคนชั่วร้ายที่เรียกร้องให้ Theban โกรธแค้นของพระเจ้า ด้วยการผสมผสานนี้ในบุคคลเดียวกันของความกล้าหาญสูงเมื่อจำเป็นต้องปกป้องความจริงที่ถูกเหยียบย่ำหรือทำผลงานอันรุ่งโรจน์และอ่อนไหวต่อภัยพิบัติที่ตกลงมาเมื่อได้ปฏิบัติหน้าที่แล้วหรือความผิดพลาดร้ายแรงที่แก้ไขไม่ได้ ด้วยการรวมกันนี้ Sophocles บรรลุผลสูงสุด โดยเผยให้เห็นคุณลักษณะในภาพอันโอ่อ่าของเขา ซึ่งทำให้สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับคนทั่วไปและทำให้พวกเขาเห็นอกเห็นใจมากขึ้น

โศกนาฏกรรม

โศกนาฏกรรมของ Sophocles เจ็ดเรื่องได้มาถึงเราแล้ว โดยในสามเรื่องนั้นเป็นของวัฏจักรตำนานของ Theban: "Oedipus", "Oedipus in Colon" และ "Antigone"; หนึ่งในวัฏจักรของเฮอร์คิวลิส - "Deianira" และสามอันสู่วัฏจักรโทรจัน: "Eant" โศกนาฏกรรมที่เก่าแก่ที่สุดของ Sophocles "Electra" และ "Philoctetus" นอกจากนี้ ยังมีชิ้นส่วนอีกประมาณ 1,000 ชิ้นที่รอดชีวิตจากนักเขียนหลายคน นอกจากโศกนาฏกรรมแล้ว สมัยโบราณยังเกิดจากความสง่างามของโซโฟคลีส ถั่ว และวาทกรรมที่น่าเบื่อหน่ายในคณะนักร้องประสานเสียง

The Legend of Deianir สร้างพื้นฐานของ "Trakhineyanka" ความโศกเศร้าของผู้หญิงที่รักในความคาดหมายของสามีของเธอการทรมานจากความหึงหวงและความเศร้าโศกของ Deianira อันเนื่องมาจากข่าวความทุกข์ทรมานของ Hercules ที่วางยาพิษถือเป็นเนื้อหาหลักของ "ผู้หญิง Trachino"

ใน "Philoctete" แสดงบนเวทีเมื่อ 409 ปีก่อนคริสตกาล e. กวีผู้มีศิลปะอันน่าทึ่งได้พัฒนาสถานการณ์ที่น่าสลดใจซึ่งเกิดจากการปะทะกันของตัวละครสามตัวที่แตกต่างกัน: Philoctetus, Odysseus และ Neoptolemus โศกนาฏกรรมนี้มีขึ้นในปีที่สิบของสงครามเมืองทรอย และฉากของการกระทำคือเกาะเล็มนอส ซึ่งชาวกรีกระหว่างทางไปเมืองทรอย ออกจากผู้นำเมืองเทสซาเลียน ฟิลอคเตส หลังจากที่เขาถูกงูพิษกัดใส่คริส และบาดแผลที่ได้รับจากการถูกกัดทำให้มีกลิ่นเหม็นทำให้เขาไม่สามารถเข้าร่วมในกิจการทหารได้ เขาถูกทอดทิ้งตามคำแนะนำของโอดิสสิอุส ทุกคนโดดเดี่ยวและถูกลืมโดยทนทุกข์ทรมานจากบาดแผลอย่างเหลือทน Philoctetes หาอาหารที่น่าสังเวชด้วยการล่าสัตว์: เขาเป็นเจ้าของธนูและลูกธนูของ Hercules ที่เขาได้รับมาอย่างชำนาญ อย่างไรก็ตาม ตามคำทำนาย ชาวกรีกสามารถจับทรอยได้โดยใช้ธนูวิเศษนี้เท่านั้น จากนั้นมีเพียงชาวกรีกเท่านั้นที่จำผู้ประสบภัยที่โชคร้ายและ Odysseus ประสบปัญหาในการส่งมอบ Philoctetes ใกล้กับ Troy หรืออย่างน้อยก็เพื่อครอบครองอาวุธของเขา แต่เขารู้ว่า Philoctetes เกลียดเขาเป็นศัตรูตัวฉกาจที่สุดของเขา ว่าเขาเองจะไม่มีวันเกลี้ยกล่อม Philoctetes ให้คืนดีกับพวกกรีกหรือบังคับเขาด้วยกำลัง เขาจะต้องแสดงเล่ห์กลอุบายและเขาเลือกหนุ่ม ชาย Neoptolemus ผู้ซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในความผิดนอกจากลูกชายของ Achilles ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของ Philoctetes เรือกรีกลำหนึ่งเทียบท่าที่เล็มนอสแล้ว และชาวกรีกลงจากเรือแล้ว ถ้ำเปิดออกต่อหน้าผู้ดู ที่อยู่อาศัยอันน่าสลดใจของวีรบุรุษผู้รุ่งโรจน์ แล้วตัวฮีโร่เอง อ่อนเปลี้ยจากความเจ็บป่วย ความเหงา และการถูกลิดรอน เตียงของเขาเป็นใบไม้บนพื้นดินเปล่า ตรงนั้นมีเหยือกไม้สำหรับดื่ม หินเหล็กไฟ และเศษผ้าสกปรก ด้วยเลือดและหนอง เยาวชนผู้สูงศักดิ์และคณะนักร้องประสานเสียงของเพื่อนร่วมงานของ Achilles รู้สึกซาบซึ้งใจอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นผู้โชคร้าย แต่ Neoptolemus ผูกมัดตัวเองด้วยคำที่มอบให้กับ Odysseus เพื่อควบคุม Philoctetes ด้วยความช่วยเหลือจากการโกหกและการหลอกลวงและเขาจะปฏิบัติตามสัญญาของเขา แต่ถ้าสายตาที่น่าสงสารของผู้ประสบภัยทำให้เกิดการมีส่วนร่วมในชายหนุ่มดังนั้นความไว้วางใจความรักและความเสน่หาอย่างสมบูรณ์ซึ่ง Philoctetes แก่เขาปฏิบัติต่อเขาตั้งแต่วินาทีแรกและมอบตัวเขาเองจากเขาเพียงคนเดียวที่คาดหวังว่าเขาจะจบ ทรมาน Neoptolemus เข้าสู่การต่อสู้ที่ยากลำบากกับตัวเอง แต่ในเวลาเดียวกัน Philoctetes ก็ยืนกราน: เขาไม่สามารถยกโทษให้ชาวกรีกสำหรับความผิดที่เกิดขึ้นกับเขา; เขาจะไม่มีวันไปหาทรอย เขาจะไม่ช่วยชาวกรีกให้ยุติสงครามอย่างมีชัยชนะ เขาจะกลับบ้านและ Neoptolemus จะพาเขาไปยังดินแดนอันเป็นที่รักของเขา มีเพียงความคิดเรื่องบ้านเกิดเมืองนอนของเขาเท่านั้นที่ทำให้เขามีพลังที่จะแบกรับภาระชีวิต ธรรมชาติของ Neoptolemus ขุ่นเคืองต่อการกระทำที่หลอกลวงและมีเพียงการแทรกแซงของ Odysseus ทำให้เขาเป็นเจ้าของอาวุธของ Philoctetes: ชายหนุ่มใช้ความไว้วางใจของผู้เฒ่าเพื่อทำลายเขา ในที่สุด การพิจารณาทั้งหมดเกี่ยวกับความจำเป็นในการสง่าราศีของชาวกรีกจะได้รับอาวุธของ Hercules เกี่ยวกับความจริงที่ว่าเขาผูกมัดตัวเองด้วยคำสัญญาต่อหน้า Odysseus ซึ่งไม่ใช่ Philoctetes แต่เขา Neoptolemus จะเป็นศัตรูของเวลานั้น ชาวกรีกเป็นเยาวชนที่ด้อยกว่าเสียงของมโนธรรมของเขา ไม่พอใจการหลอกลวงและความรุนแรง เขาคืนคันธนู เพิ่มความมั่นใจอีกครั้ง และพร้อมที่จะติดตาม Philoctetes ไปยังบ้านเกิดของเขา มีเพียงการปรากฏตัวของ Hercules บนเวที (deus ex machina) และการเตือนความจำของเขาว่า Zeus และ Fate สั่งให้ Philoctetus ไปที่ Troy และช่วยชาวกรีกให้เสร็จสิ้นการต่อสู้ที่เริ่มขึ้น ให้ฮีโร่และ Neoptolemus กับเขาเพื่อติดตามชาวกรีก ตัวละครหลักของโศกนาฏกรรมคือ Neoptolemus หาก Antigone ตามมโนธรรมของเธอเห็นว่าจำเป็นต้องละเมิดเจตจำนงของกษัตริย์ด้วยแรงกระตุ้นเดียวกัน Neoptolemus ก็ดำเนินต่อไป: เขาผิดสัญญานี้และปฏิเสธที่จะทำเพื่อผลประโยชน์ของกองทัพกรีกทั้งหมดผ่านการหลอกลวง ต่อสู้กับฟิลอคเตสซึ่งวางใจในพระองค์ ในโศกนาฏกรรมของเขาไม่มีกวีสนับสนุนด้วยกำลังดังกล่าว สิทธิมนุษยชนในการประนีประนอมพฤติกรรมของเขากับแนวคิดของความจริงสูงสุด แม้ว่ามันจะขัดแย้งกับการคาดเดาที่ฉลาดแกมโกงที่สุด (กรีก ???? ??? ???????? ? ??? ???? ???? ???????? ????) เป็นสิ่งสำคัญที่ความเห็นอกเห็นใจของกวีและผู้ชมสำหรับชายหนุ่มผู้ใจดีและซื่อสัตย์นั้นไม่อาจปฏิเสธได้ในขณะที่โอดิสสิอุสที่ร้ายกาจและอ่านไม่ออกโดยใช้เงินในรูปแบบที่ไม่สวยที่สุด กฎที่ว่าจุดจบแสดงให้เห็นถึงวิธีการนั้นถูกกล่าวถึงในโศกนาฏกรรมครั้งนี้ด้วยการประณามอย่างรุนแรง

ใน "Eanta" โครงเรื่องของละครเรื่องนี้คือข้อพิพาทระหว่าง Eant (Ajax) และ Odysseus เกี่ยวกับอาวุธของ Achilles ได้รับการแก้ไขโดย Achaeans เพื่อสนับสนุนหลัง เขาสาบานว่าจะแก้แค้น Odysseus และ Atrides ก่อน แต่ Athena ผู้วิงวอนแทน Achaeans กีดกันเขาจากความคิดของเขา และด้วยความบ้าคลั่งเขานำสัตว์เลี้ยงมาเป็นศัตรูของเขาและทุบตีพวกมัน เหตุผลกลับมาหา Eant และฮีโร่รู้สึกอับอายอย่างมาก จากช่วงเวลานี้โศกนาฏกรรมเริ่มต้นขึ้น จบลงด้วยการฆ่าตัวตายของฮีโร่ซึ่งนำหน้าด้วยบทพูดคนเดียวที่มีชื่อเสียงของ Eant การอำลาชีวิตและความสุขของเขา ความขัดแย้งปะทุขึ้นระหว่าง Atrids และ Tevkr น้องชายต่างมารดาของ Eant การฝังศพของผู้ตายหรือปล่อยให้สุนัขไปสังเวยเป็นข้อโต้แย้งที่ได้รับการแก้ไขเพื่อสนับสนุนการฝังศพ

จริยธรรม

สำหรับมุมมองทางศาสนาและจริยธรรมที่เกิดขึ้นในโศกนาฏกรรมของ Sophocles นั้นแตกต่างจาก Aeschylus เพียงเล็กน้อย ลักษณะเด่นของพวกเขาคือลัทธิเชื่อผีเมื่อเปรียบเทียบกับความคิดเกี่ยวกับเทพเจ้าที่สืบทอดมาจากผู้สร้างเทววิทยากรีกและเทววิทยาจากกวีที่เก่าแก่ที่สุด ซุสเป็นเทพผู้มีอำนาจทุกอย่าง ผู้ปกครองสูงสุดของโลก ผู้จัดงานและผู้จัดการ โชคชะตาไม่ได้อยู่เหนือ Zeus ค่อนข้างจะเหมือนกับคำจำกัดความของเขา อนาคตอยู่ในมือของซุสเพียงผู้เดียว แต่มนุษย์ไม่สามารถเข้าใจการตัดสินใจของพระเจ้าได้ ข้อเท็จจริงที่สำเร็จเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงการอนุญาตจากสวรรค์ มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอ ต้องอดทนต่อภัยพิบัติที่พระเจ้าส่งมาตามหน้าที่ ความอ่อนแอของบุคคลอันเนื่องมาจากความไม่อาจล่วงรู้ได้ของพรหมลิขิตแห่งสวรรค์นั้นมีความสมบูรณ์มากขึ้น เพราะคำพูดของนักพยากรณ์และหมอดูมักจะคลุมเครือ มืดมน บางครั้งก็ผิดพลาดและหลอกลวง นอกจากนั้น บุคคลมีแนวโน้มที่จะหลงผิด เทพแห่ง Sophocles นั้นพยาบาทและลงโทษมากกว่าการรักษาหรือช่วยชีวิต พระเจ้ามอบเหตุผลให้กับบุคคลตั้งแต่แรกเกิด แต่พวกเขายังอนุญาตให้ทำบาปหรืออาชญากรรมบางครั้งพวกเขาก็ส่งความสับสนของเหตุผลกับคนที่พวกเขาตัดสินใจลงโทษ แต่สิ่งนี้ไม่ได้บรรเทาการลงโทษของผู้กระทำผิดและลูกหลานของเขา แม้ว่านี่คือความสัมพันธ์ที่แพร่หลายระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ แต่ก็มีบางกรณีที่เหล่าทวยเทพแสดงความเมตตาต่อผู้ประสบภัยโดยไม่สมัครใจ: ในการแสดงครั้งสุดท้ายนี้โศกนาฏกรรมทั้งมวล "Oedipus at Colon" ถูกสร้างขึ้น; ในทำนองเดียวกัน Orestes ผู้เป็นแม่-นักฆ่า ได้รับการคุ้มครองจากการแก้แค้นของ Erinius ใน Athena และ Zeus คณะนักร้องประสานเสียงเรียกความตั้งใจของ Deianira เมื่อเธอส่งเครื่องแต่งกายสำหรับเทศกาลไปให้สามีที่รักอย่างซื่อสัตย์และน่ายกย่อง และกิลล์ก็ให้เหตุผลกับแม่ของเขาต่อหน้าเฮอร์คิวลีส กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความแตกต่างระหว่างความบาปโดยสมัครใจและบาปโดยไม่สมัครใจได้ถูกกำหนดขึ้น โดยคำนึงถึงแรงจูงใจของผู้กระทำผิดด้วย ด้วยวิธีนี้บ่อยครั้งในการแสดงออกบางอย่างความไม่ลงรอยกันของการแก้แค้นของพระเจ้าจึงขยายไปถึงกลุ่มผู้กระทำผิดทั้งหมดหากผู้ประสบภัยโดยคุณสมบัติส่วนตัวของเขาไม่มีแนวโน้มที่จะก่ออาชญากรรม นั่นคือเหตุผลที่บางครั้งเรียกว่า Zeus ผู้เห็นอกเห็นใจผู้แก้ไขความเศร้าโศกผู้หลีกเลี่ยงความโชคร้ายความรอดเช่นเดียวกับเทพอื่น ๆ เทพฝ่ายวิญญาณอยู่ห่างไกลจากมนุษย์มากกว่าเอสคิลัส ความโน้มเอียง ความตั้งใจ และเป้าหมายของเขาเองได้รับขอบเขตมากขึ้น ตามกฎแล้ว ฮีโร่ของ Sophocles นั้นมีคุณสมบัติส่วนตัวเช่นนั้นและถูกจัดให้อยู่ในเงื่อนไขที่ทุกย่างก้าว ทุกช่วงเวลาของละครได้รับแรงจูงใจเพียงพอจากเหตุผลทางธรรมชาติล้วนๆ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับฮีโร่นั้นแสดงโดย Sophocles ว่าเป็นปรากฏการณ์ที่คล้ายกฎซึ่งเชื่อมโยงกันตามสาเหตุหรืออย่างน้อยก็ในลำดับที่เป็นไปได้ค่อนข้างเป็นไปได้ โศกนาฏกรรมของ Sophocles เป็นเรื่องฆราวาสมากกว่าของ Aeschylus เนื่องจากสามารถตัดสินได้จากการรักษาพล็อตเรื่องเดียวกันโดยกวีสองคน: Sophocles 'Electra สอดคล้องกับ Aeschylus 'Girls Carrying libations (Choephors) และโศกนาฏกรรมของ Philoctetus มีชื่อเดียวกันใน Aeschylus; เหตุการณ์หลังนี้ยังไม่มาถึงเรา แต่เรามีการประเมินเปรียบเทียบโศกนาฏกรรมทั้งสองโดย Dion Chrysostom ผู้ซึ่งชอบ Sophocles มากกว่า Aeschylus ไม่ใช่ลูกชายอย่าง Aeschylus แต่ลูกสาวเป็นตัวละครหลักใน "Electra" ของ Sofokles เธอเป็นพยานอย่างต่อเนื่องถึงการทำลายบ้านของอากาเม็มนอนผู้รุ่งโรจน์โดยมารดาผู้ชั่วร้าย ตัวเธอเองต้องเผชิญกับการดูถูกเหยียดหยามจากแม่ของเธอและคู่หูนอกกฎหมายและผู้สมรู้ร่วมในอาชญากรรมอย่างไม่หยุดยั้งเธอกำลังรอความตายอย่างรุนแรงจากมือที่เปื้อนเลือดของพ่อแม่ผู้ยิ่งใหญ่ แรงจูงใจทั้งหมดเหล่านี้ ประกอบกับความรักและความเคารพต่อบิดาที่ถูกสังหาร ก็เพียงพอแล้วสำหรับอีเลคตร้าที่จะตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะแก้แค้นผู้กระทำผิด โดยการแทรกแซงของเทพไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเข้าไปในการพัฒนาภายในของละคร Clytemnestra สำหรับ Aeschylus กำลังลงโทษ Agamemnon สำหรับ Iphigenia เพราะ Sophocles เป็นผู้หญิงที่ยั่วยวนและหยิ่งทะนง โหดร้ายกับลูก ๆ ของเธอพร้อมที่จะปลดปล่อยตัวเองจากความรุนแรง เธอดูถูกความทรงจำอันเป็นที่รักของพ่อของ Elektra อย่างต่อเนื่องลดตำแหน่งของเธอให้เป็นทาสในบ้านพ่อแม่ของเธอตำหนิเธอที่ช่วย Orestes; เธอสวดอ้อนวอนต่ออพอลโลเพื่อการตายของลูกชายของเธอ โดยได้รับชัยชนะอย่างเปิดเผยเมื่อทราบข่าวการเสียชีวิตของเขา และเพียงแต่รอให้อีจิสทัสกำจัดลูกสาวที่เกลียดชังของเธอ ซึ่งทำให้มโนธรรมของเธออับอาย องค์ประกอบทางศาสนาของละครอ่อนแอลงอย่างมาก โครงเรื่องในตำนานหรือในตำนานได้รับความหมายของเฉพาะจุดเริ่มต้นหรือขอบเขตที่เหตุการณ์ภายนอกเกิดขึ้น ข้อมูลประสบการณ์ส่วนตัวซึ่งเป็นที่เก็บการสังเกตธรรมชาติของมนุษย์ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ได้เสริมโศกนาฏกรรมด้วยแรงจูงใจทางจิตและนำมันเข้ามาใกล้ชีวิตจริง ตามทั้งหมดนี้ บทบาทของคณะนักร้องประสานเสียง โฆษกการตัดสินทั่วไปเกี่ยวกับเหตุการณ์อันน่าทึ่งในแง่ของศาสนาและศีลธรรมที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป ได้ลดลง อย่างเป็นธรรมชาติมากกว่าใน Aeschylus เขารวมอยู่ในแวดวงนักแสดงของโศกนาฏกรรมราวกับว่ากลายเป็นนักแสดงที่สี่

วรรณกรรม

แหล่งที่มาหลักสำหรับชีวประวัติของ Sophocles คือชีวประวัติที่ไม่มีชื่อซึ่งมักจะอยู่ในฉบับของโศกนาฏกรรมของเขา รายการโศกนาฏกรรมที่สำคัญที่สุดของโซโฟเคิลส์ถูกเก็บไว้ในห้องสมุดลอเรนเชียนในฟลอเรนซ์: C. Laurentianus, XXXII, 9 หมายถึงศตวรรษที่ 10 หรือ 11; รายการอื่น ๆ ทั้งหมดที่มีอยู่ในห้องสมุดต่าง ๆ เป็นตัวแทนของสำเนาจากรายการนี้ ยกเว้นรายการอื่นของฟลอเรนซ์ในศตวรรษที่ 14 เลขที่ 2725 ในห้องสมุดเดียวกัน ตั้งแต่สมัยของ W. Dindorf รายการแรกถูกกำหนดโดยตัวอักษร L รายการที่สองโดย G. scholias ที่ดีที่สุดก็นำมาจากรายการ L. scholi รุ่นที่ดีที่สุดเป็นของ Dindorf (Oxford, 1852) และ Papageorgios (1888). เป็นครั้งแรกที่โศกนาฏกรรมถูกตีพิมพ์โดย Alda ในเมืองเวนิส ค.ศ. 1502 ตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 16 และจนถึงปลายศตวรรษที่ 18 กองบรรณาธิการที่โดดเด่นคือ Tourneb ฉบับปารีส บรันค์ (พ.ศ. 2329-2532) ได้เปรียบจากฉบับอัลดอฟกลับคืนมา บริการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการวิพากษ์วิจารณ์ข้อความและอธิบายโศกนาฏกรรมนั้นจัดทำโดย W. Dindorf (Oxford, 1832-1849, 1860), Wunder (L., 1831-78), Schneidevin, Tournier, Science เช่นเดียวกับ Campbell, Linwood, Jeb .

หลุมอุกกาบาตบนดาวพุธตั้งชื่อตามโซโฟคลีส (ละติจูด: -6.5; ลองจิจูด: 146.5; เส้นผ่านศูนย์กลาง (กม.): 145)

วรรณกรรม

ข้อความและการแปล

ผลงานตีพิมพ์ใน "ห้องสมุดคลาสสิกเลบ": ชิ้นส่วนที่รอดตายในเล่ม 1-2 (หมายเลข 20, 21) ชิ้นส่วนภายใต้หมายเลข 483
ฉบับที่ ฉัน Oedipus กษัตริย์ Oedipus ที่โคลอน แอนติโกเน่
ฉบับที่ ครั้งที่สอง อาแจ็กซ์ อีเลคตร้า ผู้หญิงทราชิโน ฟิลอคเต็ท.
โศกนาฏกรรม 7 เรื่องใน 3 เล่มได้รับการตีพิมพ์ในชุด "Collection Bude" (ดู)

การแปลภาษารัสเซีย (มีเพียงคอลเลกชันที่นี่สำหรับโศกนาฏกรรมแต่ละรายการดูบทความเกี่ยวกับพวกเขา)
โศกนาฏกรรมของโซโฟคลิส / ต่อ I. มาร์ตีโนวา สภ., 1823-1825.
ตอนที่ 1 เอดิปัสราชา Oedipus ที่โคลอน 1823.244 น.
ส่วนที่ 2 แอนติโกน ผู้หญิงทราชิโน 1823.194 น.
ส่วนที่ 3 อาแจ็กซ์คลั่งไคล้ ฟิลอคเต็ท. 1825.201 น.
ตอนที่ 4. อิเล็กตร้า 1825.200 น.
โซโฟคลีส ละคร. / ต่อ และเข้ามา บทความคุณลักษณะ เอฟ.เอฟ.เซลินสกี้ ต. 1-3. M.: Sabashnikovs, 2457-2458.
ต. 1. อายต์-สเคิร์จ. ฟิลอคเต็ท. อีเลคตร้า 1914.423 น.
ต. 2. คิงโอดิปัส. Oedipus ที่โคลอน แอนติโกเน่ 1915.435 น.
ต. 3. Trakhinyanka. ผู้เบิกทาง ข้อความที่ตัดตอนมา 1914.439 น.
โซโฟคลีส โศกนาฏกรรม / ต่อ V.O. Nilender และ S.V. Shervinsky M.-L.: สถาบันการศึกษา (เผยแพร่เฉพาะส่วนที่ 1)
ตอนที่ 1 เอดิปัสราชา Oedipus ที่โคลอน แอนติโกเน่ 1936.231 หน้า 5300 เล่ม
โซโฟคลีส โศกนาฏกรรม / ต่อ เอส. วี. เชอร์วินสกี้, เอ็ด. และทราบ เอฟเอ เปตรอฟสกี มอสโก: Goslitizdat, 1954.472 หน้า, 10,000 เล่ม
ตีพิมพ์ซ้ำ: (ซีรีส์ "ละครโบราณ") มอสโก: ศิลปะ 1979.456 หน้า 60,000 เล่ม
ตีพิมพ์ซ้ำ: (ซีรี่ส์ "Library of Classical Literature") ม.: ศิลปะ lit., 1988.493 หน้า 100,000 เล่ม
โซโฟคลีส แอนติโกเน่ / ต่อ ก. ปารีณา ภายหลัง วี. ยาร์โค. มอสโก: ศิลปะ 1986.119 หน้า 25,000 เล่ม
โซโฟคลีส ละคร. / ต่อ เอฟ.เอฟ.เซลินสกี้ เอ็ด M.G. Gasparov และ V.N. Yarkho (แนบ: Fragments [p. 381-435]) / แปลโดย FF Zelinsky, OV Smyka และ VN Yarkho หลักฐานโบราณของชีวิตและผลงานของ Sophocles [p. 440-464] / Trans. V. N. Cheemberdzhi) / ศิลปะ. และประมาณ M. L. Gasparova และ V. N. Yarkho ตอบกลับ เอ็ด ม.ล. กัสปารอฟ (ซีรีส์ "อนุสรณ์สถานวรรณกรรม") มอสโก: Nauka, 1990. 608 pp.

งานวิจัย

Mishchenko FG ทัศนคติของโศกนาฏกรรมของ Sophocles ต่อกวีร่วมสมัยแห่งชีวิตจริงในกรุงเอเธนส์ ส่วนที่ 1. เคียฟ, 1874.186 น.
Schulz GF สำหรับคำถามเกี่ยวกับแนวคิดหลักของโศกนาฏกรรมของ Sophocles "Oedipus the King" คาร์คอฟ 1887.100 น.
Schulz GF Critical Notes เกี่ยวกับข้อความโศกนาฏกรรมของ Sophocles "Oedipus the King" คาร์คอฟ, 1891.118 น.
Yarkho V. N. โศกนาฏกรรมของ Sophocles "Antigone": Uch. เบี้ยเลี้ยง. ม.: สูงกว่า shk., 1986.109 หน้า 12000 เล่ม
Surikov I. Ye. วิวัฒนาการของจิตสำนึกทางศาสนาของชาวเอเธนส์ในวันอังคาร พื้น. ศตวรรษที่ 5 BC: Sophocles, Euripides และ Aristophanes ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาดั้งเดิม มอสโก: สำนักพิมพ์ของสถาบันการศึกษาตะวันออกของ Russian Academy of Sciences, 2002. 304 หน้า ISBN 5-94067-072-5
Markantonatos, Andreas Tragic narrative: A narratological study of Sophocles "Oedipus at Colonus. Berlin; New York: De Gruyter, 2002 - XIV, 296 pp.; 24 cm. - (Untersuchungen zur antiken Literatur und Geschichte Bd. 63) - พระราชกฤษฎีกา .. - บรรณานุกรม: หน้า 227-289. - ISBN 3-11-017401-4

สโคเลียถึงโซโฟคลีส

Scholias to Sophocles โดยฉบับของ Brunck (1801)
โศกนาฏกรรมของ Sophocles กับ Scholi: Volume I (1825) Volume II (1852)

ชีวประวัติ

Sophocles เกิดในหมู่บ้าน Kolone ใกล้กรุงเอเธนส์ในครอบครัวของนักธุรกิจผู้มั่งคั่ง เขาเป็นผู้ดูแลคลังสมบัติของสหภาพการเดินเรือเอเธนส์นักยุทธศาสตร์ (มีตำแหน่งดังกล่าวภายใต้ Pericles) หลังจากการตายของ Sophocles เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นสามีฝ่ายขวา

สำหรับโลกแล้ว โซโฟคลิสมีค่ามาก อย่างแรกเลย ในฐานะหนึ่งในสามโศกนาฏกรรมโบราณที่ยิ่งใหญ่ - เอสคิลุส โซโฟคลีส ยูริพิเดส

Sophocles เขียนละคร 123 เรื่องมีเพียงเจ็ดเรื่องเท่านั้นที่มาหาเราแบบเต็ม สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษสำหรับเราคือ "Antigone", "Oedipus the Tsar", "Electra"

เนื้อเรื่องของ "Antigone" นั้นไม่ซับซ้อน Antigone ฝังร่างของ Polynices น้องชายที่ถูกฆาตกรรมของเธอซึ่ง Creon ผู้ปกครองของ Thebes ได้ห้ามไม่ให้ฝังศพด้วยความเจ็บปวดจากความตาย - ในฐานะผู้ทรยศต่อบ้านเกิดของเขา สำหรับการไม่เชื่อฟัง Antigone ถูกประหารชีวิตหลังจากนั้นคู่หมั้นลูกชายของ Creon และแม่ของเจ้าบ่าวซึ่งเป็นภรรยาของ Creon ได้ฆ่าตัวตาย

บางคนตีความโศกนาฏกรรม Sophocles ว่าเป็นความขัดแย้งระหว่างกฎแห่งมโนธรรมและกฎหมายของรัฐ ส่วนคนอื่น ๆ มองว่าเป็นความขัดแย้งระหว่างเผ่าและรัฐ เกอเธ่เชื่อว่า Creon ด้วยความเกลียดชังส่วนตัวห้ามงานศพ

Antigone กล่าวหา Creon ว่าละเมิดกฎหมายของเหล่าทวยเทพ และ Creon ตอบว่าอำนาจอธิปไตยจะต้องไม่สั่นคลอน มิฉะนั้น อนาธิปไตยจะทำลายทุกสิ่ง

ผู้ปกครองต้องเชื่อฟัง
ในทุกสิ่ง - ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย

เหตุการณ์แสดงให้เห็นว่า Creon ผิด Tyresias ผู้ทำนายฝันเตือนเขาว่า "ความตาย ให้เกียรติ อย่าแตะต้องตัวผู้ถูกฆ่า หรือปราบคนตายอย่างกล้าหาญ” พระราชาทรงยืนกราน จากนั้น Tyresias ก็ทำนายการแก้แค้นของเหล่าทวยเทพให้เขา อันที่จริงความโชคร้ายเกิดขึ้นกับผู้ปกครองของธีบส์ Creon เขาทนทุกข์ทรมานทั้งความพ่ายแพ้ทางการเมืองและศีลธรรม

Creon
อนิจจา
ไอด้าเหว ทำไมฉัน
คุณกำลังทำลาย เข้ากันไม่ได้
โอ้ผู้เล่าถึงความลำบากอันน่าสะพรึงกลัวในอดีต
แจ้งข่าวอะไรกับเรา
คุณจะฆ่าผู้ตายเป็นครั้งที่สอง!
อะไรนะ ลูกเอ๋ย บอกฉันใหม่สิ
ตายแล้วตาย อนิจจา!
ตามลูกชายของเธอภรรยาของเขาเสียชีวิต!
คอรัส
คุณสามารถเห็นพาเธอออกไป Creon
อนิจจา
ภัยพิบัติที่สองคือตอนนี้ โชคไม่ดี ฉันเห็น!
โชคร้ายที่ยังรอฉันอยู่
ตอนนี้ฉันกำลังอุ้มลูกชายของฉันไว้ในอ้อมแขนของฉัน -
และฉันเห็นศพอีกศพอยู่ข้างหน้าฉัน!
อนิจจาแม่ที่โชคร้ายโอ้ลูก!
กระดานข่าว
ผู้ถูกฆ่าอยู่ที่แท่นบูชา
ดวงตาของเธอมืดและปิด;
ไว้อาลัยการจากไปของเมกาเรย์
หลังจากเขาลูกชายอีกคนหนึ่ง - กับคุณ
เธอเรียกปัญหาว่าฆาตกรเด็ก
Creon
อนิจจา อนิจจา
ฉันตัวสั่นด้วยความกลัว หน้าอกของฉันคืออะไร
ไม่มีใครแทงด้วยดาบสองคม
ฉันไม่มีความสุขอนิจจา!
และฉันก็เศร้าโศกอย่างโหดร้าย!
กระดานข่าว
คุณถูกเปิดเผยโดยผู้ตาย
คุณต้องโทษทั้งสิ่งนี้และความตายนี้

โศกนาฏกรรมกรีกเรียกว่า "โศกนาฏกรรมแห่งโชคชะตา" ชีวิตของทุกคนถูกกำหนดโดยโชคชะตา หนีจากเธอคนไปพบเธอเท่านั้น นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Oedipus ("Oedipus the King")

ตามตำนาน Oedipus ฆ่าพ่อของเขาโดยไม่รู้ว่าเป็นพ่อของเขาขึ้นครองบัลลังก์แต่งงานกับหญิงม่ายนั่นคือแม่ของเขา Sophocles ปฏิบัติตามตำนาน แต่ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับด้านจิตวิทยาของความสัมพันธ์ของเหล่าฮีโร่ เขาแสดงให้เห็นถึงอำนาจทุกอย่างของโชคชะตา - เอดิปัสเองไม่ต้องตำหนิสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น สำหรับโซโฟคลิส ไม่ใช่มนุษย์ที่ต้องถูกตำหนิ แต่เป็นพระเจ้า ในกรณีของ Oedipus Hera มีความผิด ภรรยาของ Zeus ผู้ส่งคำสาปไปยังกลุ่มที่ Oedipus มา

แต่ Oedipus ไม่ได้ยกโทษให้ตัวเองจากความผิด - เขาทำให้ตัวเองตาบอดและต้องการชดใช้ความผิดของเขาด้วยความทุกข์ทรมาน

นี่คือบทพูดคนเดียวครั้งสุดท้ายของกษัตริย์

Oedipus
โอ้ได้รับพร! ใช่ปกป้อง
คุณเป็นปีศาจบนถนนทุกสายที่ดีที่สุด
กว่าฉัน! โอ้เด็ก ๆ ที่คุณมา ...
ดังนั้น ... จับมือ ... ของพี่ชายของคุณ - เขาต้องโทษ
คุณเห็นอะไรเมื่อส่องแสง
พลาซ่าของเขา ... ดังนั้น ... ใบหน้าของพ่อของเขา
ซึ่งโดยไม่เห็นและไม่รู้
เขาให้กำเนิดคุณ ... จากแม่ของเขา
ฉันไม่เห็นคุณ ... แต่ฉันร้องไห้เพื่อคุณ
แนะนำส่วนที่เหลือของวันที่ขมขื่น
ที่คุณต้องอยู่ร่วมกับผู้คน
คุณนั่งประชุมร่วมกับใครในที่ประชุม
เทศกาลที่คุณกลับบ้านอยู่ที่ไหน
จะกลับมาอย่างสนุกไม่ร้องไห้
เมื่อไหร่จะเข้าสู่วัยสมรส
โอ้ใครจะตกลงในเวลานั้นลูกสาว
ยอมรับความอัปยศที่ฉันทำเครื่องหมายไว้
ทั้งคุณและลูกหลานของคุณ
คุณยังขาดปัญหาอะไรอีกบ้าง
พ่อฆ่าพ่อ; เขารักแม่ของเขา
ผู้ให้กำเนิดเขาและจากเธอ
มันให้กำเนิดคุณมันเกิดขึ้นเอง ...
ดังนั้นพวกเขาจะดูหมิ่นคุณ ... คุณเป็นใคร
รับช่วงต่อ ไม่มีสิ่งนั้น
ลูกกำพร้าที่ยังไม่แต่งงานก็จะจางหายไป
บุตรแห่งเมเนเค! ตอนนี้คุณอยู่คนเดียว
สำหรับพวกเขา พ่อ ฉันและแม่ เราทั้งคู่
เสียชีวิต อย่าปล่อยให้พวกเขาเดิน -
โสด ยากจน และไร้บ้าน
อย่าปล่อยให้ทุกข์เหมือนฉัน
สงสารพวกเขา - พวกเขายังเด็กมาก! -
คุณคนเดียวสนับสนุนพวกเขา ให้คำปฏิญาณ
โอ้ผู้สูงศักดิ์และสัมผัสมือของคุณ! ..
และคุณเกี่ยวกับเด็ก ๆ - จงเป็นผู้ใหญ่ในใจ
ฉันจะให้คำแนะนำมากมาย ... ฉันหวังว่าคุณจะ
ที่จะมีชีวิตอยู่ตามที่โชคชะตาอนุญาต ... แต่เพื่อให้โชคชะตา
คุณมีความสุขมากกว่าพ่อของคุณ
คอรัส
โอ้ พลเมืองของเธบัน! นี่คือตัวอย่างสำหรับคุณ Oedipus
และผู้ไขปริศนาและราชาผู้ทรงอำนาจ
ที่ซึ่งทุกคนเคยมองด้วยความอิจฉาริษยา
เขาถูกโยนลงไปในทะเลแห่งหายนะเขาตกลงไปในขุมนรก!
ดังนั้น มนุษย์ต้องจำวันสุดท้ายของเรา
และเรียกความสุขได้เพียงผู้เดียวเท่านั้น
ที่ถึงขีดสุดแห่งชีวิตโดยไม่รู้ทุกข์อยู่ในนั้น

เอเอฟ Losev ตั้งข้อสังเกตถึงความแข็งแกร่งที่ไม่ย่อท้อของวีรบุรุษแห่ง Sophocles พวกเขารักษา "ฉัน" ซึ่งเป็นลักษณะที่แท้จริงของพวกเขาไว้แม้จะมีทุกสิ่ง ความโชคร้ายที่แท้จริงสำหรับพวกเขาไม่ใช่สิ่งที่นำพาพวกเขาไปสู่โชคชะตา แต่เป็นการละทิ้งวิถีทางศีลธรรมของพวกเขา

ใช่ ทุกอย่างมันน่าปวดหัว ถ้าคุณเปลี่ยนตัวเอง
และคุณทำมันขัดกับจิตวิญญาณของคุณ
ไม่ใช่และในชีวิตที่น่าสังเวช
ใจบริสุทธิ์ไม่อยากเปื้อน
ชื่อดี.

บุคคลละทิ้งระเบียบประวัติศาสตร์ของสิ่งต่าง ๆ และมีชีวิตอยู่ตลอดไปผ่านพลังจิตตานุภาพ

ดีใจที่ฉันตายตามหน้าที่ ...
ยังไงฉันก็ต้อง
รับใช้คนตายนานกว่าคนเป็น
ฉันจะอยู่ที่นั่นตลอดไป

นี่คือความแตกต่างระหว่าง Sophocles และ Aeschylus ใน Aeschylus การกระทำที่น่าเศร้าเกิดขึ้นจากข้อเท็จจริงที่ว่าผู้คนตระหนักว่าพวกเขาสุ่มสี่สุ่มห้าเชื่อฟังแผนการอันศักดิ์สิทธิ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ซึ่งนำไปสู่ชัยชนะของความยุติธรรม สำหรับโซโฟคลิส ต้นเหตุของโศกนาฏกรรมก็คือพวกเขาปฏิเสธที่จะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงอย่างมีสติและกล้าหาญ

SOFOKLES เป็นนักเขียนบทละครชาวเอเธนส์ผู้ซึ่งร่วมกับ Aeschylus และ Euripides ถือเป็นหนึ่งในสามกวีโศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคคลาสสิก โซโฟคลีสเกิดในหมู่บ้านโคลอน (ฉากในละครเรื่องสุดท้ายของเขา) ประมาณ 2.5 กม. ทางเหนือของอะโครโพลิส โซฟิลล์ พ่อของเขาเป็นเศรษฐี Sophocles ศึกษาดนตรีกับ Lampre ตัวแทนจากโรงเรียนมัธยมปลายที่มีชื่อเสียง และยังได้รับรางวัลในการแข่งขันกีฬาอีกด้วย ในวัยหนุ่มของเขา Sophocles โดดเด่นด้วยความงามที่ไม่ธรรมดา ซึ่งอาจเป็นเพราะเหตุนี้เขาจึงได้รับมอบหมายให้เป็นผู้นำคณะนักร้องประสานเสียงของชายหนุ่มที่ร้องเพลงสวดขอบคุณพระเจ้าหลังจากชัยชนะเหนือเปอร์เซียที่ Salamis (480 ปีก่อนคริสตกาล) สิบสองปีต่อมา (468 ปีก่อนคริสตกาล) โซโฟคลีสได้เข้าร่วมในการแสดงละครเป็นครั้งแรกและได้รับรางวัลที่หนึ่ง แซงหน้า Aeschylus ผู้ยิ่งใหญ่รุ่นก่อนของเขา การแข่งขันระหว่างสองกวีกระตุ้นความสนใจในที่สาธารณะ ตั้งแต่วินาทีนั้นจนตาย Sophocles ยังคงเป็นนักเขียนบทละครชาวเอเธนส์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด: มากกว่า 20 ครั้งที่เขาปรากฏตัวในการแข่งขันครั้งแรก หลายครั้งที่สอง และไม่เคยเกิดขึ้นที่สาม (มีผู้เข้าร่วมสามคนเสมอ) ปริมาณงานเขียนของเขาไม่เท่ากัน มีรายงานว่า Sophocles มีละคร 123 เรื่อง Sophocles ประสบความสำเร็จไม่เพียงแต่ในฐานะนักเขียนบทละครเท่านั้น แต่โดยทั่วไปแล้วเขายังเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในกรุงเอเธนส์อีกด้วย Sophocles เช่นเดียวกับชาวเอเธนส์ในศตวรรษที่ 5 มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในชีวิตสาธารณะ เขาอาจจะเป็นสมาชิกของวิทยาลัยเหรัญญิกที่สำคัญของสหภาพเอเธนส์ใน 443–442 ปีก่อนคริสตกาล และเป็นที่แน่ชัดว่าโซโฟคลิสได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสิบนักยุทธศาสตร์ที่ออกคำสั่งให้สำรวจซามอสใน 440 ปีก่อนคริสตกาล บางทีโซโฟคลีสอาจได้รับเลือกเป็นนักยุทธศาสตร์อีกสองเท่า เมื่ออายุมากแล้ว เมื่อกรุงเอเธนส์กำลังผ่านยุคแห่งความพ่ายแพ้และความสิ้นหวัง โซโฟคลิสได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสิบ "ปัญหา" (กรีก "ที่ปรึกษา") ผู้ซึ่งได้รับมอบหมายให้ชะตากรรมของเอเธนส์หลังจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น การเดินทางไปซิซิลี (413 ปีก่อนคริสตกาล) ). ดังนั้น ความสำเร็จของ Sophocles ในรัฐจึงไม่ด้อยไปกว่าความสำเร็จทางกวีของเขา ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับทั้งเอเธนส์ในศตวรรษที่ 5 และสำหรับตัวโซโฟคลิสด้วย

โซโฟคลีสมีชื่อเสียงไม่เพียงแต่จากการอุทิศตนให้กับเอเธนส์เท่านั้น แต่ยังมีชื่อเสียงในเรื่องความกตัญญูอีกด้วย มีรายงานว่าเขาก่อตั้งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของ Hercules และเป็นนักบวชของหนึ่งในเทพรักษาผู้เยาว์คือ Halon หรือ Alcon ที่เกี่ยวข้องกับลัทธิ Asclepius และเขาได้รับพระเจ้า Asclepius ในบ้านของเขาเองจนกระทั่งวัดของเขาในกรุงเอเธนส์ สมบูรณ์. (ลัทธิ Asclepius ก่อตั้งขึ้นในกรุงเอเธนส์ใน 420 ปีก่อนคริสตกาล เทพที่ Sophocles ได้รับนั้นเกือบจะเป็นงูศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน) หลังจากการตายของเขา Sophocles ถูกทำให้เป็นเทพภายใต้ชื่อ "ฮีโร่ Dexion" (ชื่อนี้มาจากราก " dex- ", ในภาษากรีก" หากต้องการยอมรับ " อาจนึกถึงวิธีที่เขาได้รับ "Asclepius)

มีเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการที่ Iophon ลูกชายของเขาเรียก Sophocles ขึ้นศาลซึ่งต้องการพิสูจน์ว่าพ่อที่แก่ชราไม่สามารถจัดการทรัพย์สินของครอบครัวได้อีกต่อไป จากนั้นโซโฟคลิสก็โน้มน้าวผู้พิพากษาถึงประโยชน์ทางจิตของเขาด้วยการท่องบทกวีเพื่อเป็นเกียรติแก่เอเธนส์จากโอดิปุสในโคลอน เรื่องนี้เป็นเรื่องสมมุติขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากรายงานของผู้ร่วมสมัยยืนยันว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมาของโซโฟคลีสนั้นสงบสุขพอๆ กับการเริ่มต้นชีวิตของเขา และเขายังคงรักษาความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดกับอิโอฟอนไว้ได้จนถึงที่สุด สิ่งสุดท้ายที่เรารู้เกี่ยวกับโซโฟคลิสคือการกระทำของเขาเมื่อได้รับข่าวการเสียชีวิตของยูริพิเดส (ในฤดูใบไม้ผลิ 406 ปีก่อนคริสตกาล) จากนั้นโซโฟคลิสก็แต่งตัวให้สมาชิกคณะนักร้องประสานเสียงไว้ทุกข์และพาพวกเขาไปที่ "ตัวเอก" (เป็นการซ้อมแต่งกายก่อนการแข่งขันเรื่องโศกนาฏกรรม) โดยไม่มีพวงหรีด ในเดือนมกราคม 405 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อแสดงตลกเรื่อง Aristophanes the Frog โซโฟคลีสไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไป

ผู้ร่วมสมัยเห็นความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในชีวิตของเขา “Blessed Sophocles” นักแสดงตลก Phrynich in the Muses อุทาน (จัดแสดงในเดือนมกราคม 405 ปีก่อนคริสตกาล) "เขาตาย มีชีวิตที่ยืนยาว มีความสุข ฉลาด ประกอบโศกนาฏกรรมที่น่าอัศจรรย์มากมาย และตายอย่างปลอดภัย ปราศจากความทุกข์ยากใดๆ"

โศกนาฏกรรมทั้งเจ็ดที่เกิดขึ้นตามความเห็นทั่วไปนั้นเป็นของยุคปลายของงานของ Sophocles (นอกจากนี้ ต้นกกได้รับการตีพิมพ์ในปี 1912 ซึ่งเก็บรักษาไว้มากกว่า 300 บรรทัดทั้งหมดจากละครเสียดสีที่น่าขบขัน Pathfinders) AD) และ Antigone (หนึ่งหรือสองปีก่อน 440 ปีก่อนคริสตกาล) โศกนาฏกรรมของกษัตริย์ Oedipus มักมีสาเหตุมาจาก 429 ปีก่อนคริสตกาล เนื่องจากการกล่าวถึงทะเลอาจเกี่ยวข้องกับภัยพิบัติที่คล้ายกันในกรุงเอเธนส์ ตามรูปแบบแล้ว โศกนาฏกรรมของอาแจ็กซ์น่าจะมาจากช่วงเวลาก่อนหน้ามากกว่า Antigone นักภาษาศาสตร์ไม่ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับละครที่เหลืออีก 2 เรื่อง แม้ว่าส่วนใหญ่จะแนะนำว่าควรกำหนดวันเริ่มต้นที่เพียงพอสำหรับโศกนาฏกรรม Trachino (ก่อน 431 ปีก่อนคริสตกาล) และอีกเรื่องหนึ่งสำหรับ อีเลคตร้า (ค. 431 ปีก่อนคริสตกาล) ดังนั้นเจ็ดชิ้นส่วนที่รอดตายสามารถจัดเรียงคร่าวๆ ได้ตามลำดับต่อไปนี้: Ajax, Antigone, Trachino women, Oedipus the king, Electra, Philoctetus, Oedipus ใน Colon เป็นที่ทราบกันว่า Sophocles ได้รับรางวัลที่หนึ่งสำหรับ Philoctetes และรางวัลที่สองสำหรับ Oedipus the King อาจเป็นที่แรกที่ได้รับรางวัล Antigone เนื่องจากเป็นที่รู้กันว่าต้องขอบคุณโศกนาฏกรรมครั้งนี้ที่ Sophocles ได้รับเลือกเป็นนักยุทธศาสตร์ใน 440 ปีก่อนคริสตกาล ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมอื่น ๆ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าพวกเขาทั้งหมดได้รับรางวัลที่หนึ่งหรือสอง

เทคนิค

นวัตกรรมที่โดดเด่นที่สุดของ Sophocles ในรูปแบบของโศกนาฏกรรม Attic คือการลดขนาดของละครโดยละทิ้งรูปแบบของไตรภาค เท่าที่เราทราบ โศกนาฏกรรมทั้งสามที่โซโฟเคิลส์นำเสนอในการแข่งขันประจำปีนั้นเป็นผลงานอิสระสามชิ้นเสมอมา โดยไม่มีการเชื่อมโยงโครงเรื่องใดๆ ระหว่างกัน (ดังนั้น ให้พูดถึงโศกนาฏกรรมของแอนติโกนัส กษัตริย์เอดิปุส และโอเอดิปุสในโคลอนว่าเป็น "ธีบัน" ไตรภาค" คือ การทำผิดอย่างมหันต์) ... โศกนาฏกรรมของ Aeschylus (ยกเว้นไตรภาคซึ่งรวมถึงชาวเปอร์เซีย) ถูกนำมารวมกันเป็นไตรภาคตามความหมายที่แท้จริงของคำ - เป็นผลงานที่น่าทึ่งในสามส่วนซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยโครงเรื่องทั่วไป ตัวละครทั่วไป และแรงจูงใจ ละครของ Sophocles นำเราจากมุมมองของการกระทำในจักรวาล (เจตจำนงของเทพดำเนินการในการกระทำและความทุกข์ทรมานของผู้คนจากรุ่นสู่รุ่น) ไปจนถึงการแสดงให้เห็นอย่างย่อของช่วงเวลาวิกฤตและการเปิดเผยที่กำหนด พอเพียงเพื่อเปรียบเทียบ Oresteia Aeschylus ที่เหตุการณ์สำคัญคือ matricide นำหน้าด้วยการพรรณนาถึงสาเหตุของมัน (Agamemnon) แล้วจึงแสดงผลที่ตามมา (Eumenides) ด้วย Electra of Sophocles ลึกลับซึ่งเป็นโศกนาฏกรรมที่ถ่ายทอดอย่างน่าทึ่ง ของงานหลักกลายเป็นแบบพอเพียง เทคนิคใหม่นี้ทำให้เจตจำนงศักดิ์สิทธิ์ไม่สำคัญนัก ซึ่งในเอสคิลุสขัดขวางการกระทำ เอาชนะแรงจูงใจของมนุษย์ของเหล่าฮีโร่ และเน้นย้ำถึงความสำคัญของเจตจำนงของมนุษย์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความหมายของการเปลี่ยนแปลงนี้เน้นเป็นสองเท่า ในอีกด้านหนึ่ง Sophocles สามารถมุ่งความสนใจไปที่ตัวละครของเขาได้อย่างเต็มที่ นำตัวละครดั้งเดิมที่น่าประหลาดใจจำนวนหนึ่งมาแสดงบนเวที (ตัวอย่างเช่น ใน Electra เรากำลังเผชิญกับการเคลื่อนไหวที่น่าตื่นเต้น เมื่อตัวละครของตัวละครอยู่ภายใต้ การวิเคราะห์เต็มรูปแบบและละเอียดอ่อนซึ่งแทบไม่มีส่วนในการดำเนินการ) ... ในทางกลับกัน สำหรับการประหยัดต้นทุนอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนสำหรับการพัฒนาพล็อต โซโฟคลีสในตัวอย่างที่ดีที่สุดของเขา (เช่น คิงโอดิปุส) นั้นไม่มีใครเทียบได้ในประวัติศาสตร์วรรณกรรมตะวันตกทั้งหมด

เป็นที่คาดหวังกันว่าการปฏิเสธไตรภาคจะทำให้บทบาทของคอรัสลดลง ซึ่งในละครของเอสคิลุสนั้นสัมพันธ์กับการกระทำและความทุกข์ทรมานของบุคคลอย่างเสมอต้นเสมอปลายด้วยภาพรวมของการจัดเตรียมอันศักดิ์สิทธิ์ เชื่อมโยงปัจจุบันกับ อดีตและอนาคต อันที่จริง ท่อนขับร้องของโซโฟคลิสนั้นน้อยกว่าท่อนร้องของเอสคิลุสมาก ใน Philoctete (ในกรณีสุดโต่ง) คณะนักร้องประสานเสียงมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการดำเนินการในฐานะตัวละครที่เต็มเปี่ยม และแทบทุกอย่างที่พูดกับพวกเขานั้นหมุนรอบสถานการณ์เฉพาะของละคร ทว่าในโศกนาฏกรรมส่วนใหญ่ของเขา โซโฟคเลสยังคงใช้คอรัสอย่างชำนาญและระมัดระวังเพื่อให้ขอบเขตที่มากขึ้นแก่ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทางศีลธรรมและเทววิทยาที่เกิดขึ้นจากการกระทำ

แต่เหนือสิ่งอื่นใด Sophocles ได้รับการยกย่องจากนวัตกรรมทางเทคนิคอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือ การปรากฏตัวของนักแสดงคนที่สาม สิ่งนี้เกิดขึ้นก่อน 458 ปีก่อนคริสตกาล นับตั้งแต่ปีนี้ เอสคิลุสยังใช้นักแสดงคนที่สามในโอเรสเตเอีย แม้ว่าจะเป็นไปตามวิถีเอสคิลุสของเขาเองก็ตาม เป้าหมายที่ Sophocles ดำเนินการเมื่อแนะนำนักแสดงคนที่สามจะปรากฏชัดเมื่ออ่านฉากที่ยอดเยี่ยมกับผู้เข้าร่วมสามคน ซึ่งเกือบจะเป็นจุดสุดยอดของละครของ Sofokles ตัวอย่างเช่น การสนทนาระหว่าง Oedipus ผู้ส่งสารจากเมือง Corinth และผู้เลี้ยงแกะ (King Oedipus) รวมถึงฉากก่อนหน้าในโศกนาฏกรรมเดียวกัน - ในขณะที่ Oedipus ถาม Messenger ว่า Jocasta ได้เห็นความจริงที่น่ากลัวแล้ว เช่นเดียวกับการสอบเทียบ Likh ใน Trakhinianki ซึ่งจัดโดย Messenger และ Deianir ข้อบ่งชี้ของอริสโตเติลที่โซโฟคลิสยังแนะนำ "ภาพทิวทัศน์" เช่น แปลตามตัวอักษรจากภาษากรีกว่า "การวาดภาพฉาก" ยังคงมีความขัดแย้งระหว่างผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งแทบจะไม่สามารถแก้ไขได้เนื่องจากขาดข้อมูลด้านเทคนิคของการแสดงละครในศตวรรษที่ 5 อย่างมาก

โลกทัศน์

ความจริงที่ว่าความสนใจของนักเขียนบทละครมุ่งเน้นไปที่การกระทำของผู้คนและเจตจำนงอันศักดิ์สิทธิ์ถูกผลักไสไปที่พื้นหลังรวมถึง มันมักจะปรากฏในละครเป็นคำทำนายมากกว่าสาเหตุที่แท้จริงหรือการแทรกแซงโดยตรงในการกระทำ แสดงให้เห็นว่าผู้เขียนยึดมั่นในมุมมองของ "มนุษยนิยม" (อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็ว ๆ นี้มีความพยายามที่หรูหราในการอธิบายลักษณะของโลกทัศน์ของโซโฟคลีสว่า "วีรกรรมวีรกรรม") อย่างไรก็ตาม Sophocles สร้างความประทับใจให้กับผู้อ่านส่วนใหญ่แตกต่างกัน รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตของเขาที่เรารู้จักบ่งบอกถึงศาสนาที่ลึกซึ้ง และโศกนาฏกรรมก็ยืนยันเรื่องนี้ ในหลาย ๆ คนเราเห็นบุคคลที่ต้องเผชิญกับปริศนาแห่งจักรวาลและปริศนานี้ในช่วงวิกฤตที่เขาประสบอยู่และนำความพ่ายแพ้ความทุกข์ทรมานและความตายมาสู่เขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ฮีโร่ทั่วไปของ Sophocles อาศัยความรู้ของเขาอย่างสมบูรณ์ในตอนต้นของโศกนาฏกรรมและจบลงด้วยการรับรู้ถึงความเขลาหรือความสงสัยอย่างสมบูรณ์

ความไม่รู้ของมนุษย์เป็นประเด็นหลักของโซโฟคลีส พบการแสดงออกที่คลาสสิกและน่ากลัวที่สุดใน King of Oedipus แต่ก็ยังมีอยู่ในละครอื่น ๆ แม้แต่ความกระตือรือร้นอย่างกล้าหาญของ Antigone ก็ถูกวางยาพิษด้วยความสงสัยในบทพูดคนเดียวครั้งสุดท้ายของเธอ ความไม่รู้และความทุกข์ยากของมนุษย์ถูกต่อต้านโดยความลึกลับของเทพที่มีความรู้ครบถ้วน (คำทำนายของเขาเป็นจริงเสมอ) เทพองค์นี้เป็นสิ่งที่เข้าใจยากสำหรับภาพจิตใจของมนุษย์ที่มีระเบียบสมบูรณ์และบางทีแม้กระทั่งความยุติธรรม แรงจูงใจแฝงของโศกนาฏกรรมของ Sophocles คือความอ่อนน้อมถ่อมตนต่อหน้ากองกำลังที่เข้าใจยากซึ่งชี้นำชะตากรรมของบุคคลในการปกปิด ความยิ่งใหญ่ และความลึกลับทั้งหมด

ด้วยระเบียบโลกเช่นนี้ เจตจำนงที่จะลงมือปฏิบัติควรลดลง ถ้าไม่หายไปโดยสมบูรณ์ แต่วีรบุรุษแห่งโซโฟคลิสมีความโดดเด่นอย่างชัดเจนจากการมุ่งความสนใจไปที่การกระทำหรือความรู้ที่ดื้อรั้น คิงเอดิปุสพยายามค้นหาความจริงเกี่ยวกับตัวเขาอย่างไม่ลดละ ถึงแม้ว่าจะต้องชดใช้ความจริงด้วยชื่อเสียง อำนาจ และสุดท้ายคือวิสัยทัศน์ ในที่สุดอาแจ็กซ์ก็ตระหนักถึงความไม่มั่นคงของการดำรงอยู่ของมนุษย์ ละทิ้งมันและพุ่งเข้าหาดาบอย่างไม่เกรงกลัว Philoctetes ดูถูกการเกลี้ยกล่อมของเพื่อนคำสั่งโดยปริยายของ oracle และสัญญาในการรักษาจากความเจ็บป่วยที่เจ็บปวดอย่างดื้อรั้นปฏิเสธจุดประสงค์ที่กล้าหาญของเขาอย่างดื้อรั้น เพื่อโน้มน้าวเขาจำเป็นต้องมีการปรากฏตัวของเฮอร์คิวลีสที่ศักดิ์สิทธิ์ ในทำนองเดียวกัน Antigone ดูถูกความคิดเห็นของประชาชนและการคุกคามของโทษประหารชีวิตโดยรัฐ ไม่มีนักเขียนบทละครคนใดสามารถพิสูจน์พลังแห่งจิตวิญญาณมนุษย์ได้ด้วยวิธีนี้ ความสมดุลที่ล่อแหลมระหว่างการวางแผนรอบรู้ของเหล่าทวยเทพและการโจมตีอย่างกล้าหาญของมนุษย์จะกลายเป็นแหล่งของความตึงเครียดอย่างมาก ต้องขอบคุณบทละครของ Sophocles ที่ยังคงเต็มไปด้วยชีวิต และไม่เพียงแต่เมื่ออ่านเท่านั้น แต่ยังอยู่บนเวทีด้วย

โศกนาฏกรรม

อาแจ็กซ์.

โศกนาฏกรรมเริ่มต้นจากช่วงเวลาที่ Ajax ได้รับรางวัล (เกราะของผู้ตาย Achilles ที่มีไว้สำหรับฮีโร่ผู้กล้าหาญได้รับรางวัลให้กับ Odysseus) ตัดสินใจที่จะยุติทั้งกษัตริย์ Atridian และ Odysseus แต่ในความบ้าคลั่งส่ง โดยเทพธิดา Athena เขาได้กำจัดวัวที่ถูกจับจากโทรจัน ในบทนำ Athena แสดงให้เห็นถึงความบ้าคลั่งของ Ajax ต่อ Odysseus ศัตรูของเขา Odysseus เสียใจกับ Ajax แต่เทพธิดาไม่รู้ความเห็นอกเห็นใจ ในฉากต่อไป จิตใจจะกลับไปหาอาแจ็กซ์ และด้วยความช่วยเหลือของเทกเมสซ่านางสนมผู้ถูกจองจำ ฮีโร่ได้ตระหนักถึงสิ่งที่เขาทำ เมื่อตระหนักถึงความจริง อาแจ็กซ์จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย ถึงแม้ว่า Tekmessa จะโน้มน้าวใจให้แตะต้องก็ตาม ฉากที่มีชื่อเสียงดังต่อไปนี้ซึ่ง Ajax ถูกนำเสนอโดยคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาคิดกับตัวเองคำพูดของเขาเต็มไปด้วยความคลุมเครือและในตอนท้ายนักร้องเชื่อว่า Ajax ละทิ้งความคิดฆ่าตัวตายและร้องเพลงอย่างสนุกสนาน เพลง. อย่างไรก็ตาม ในฉากต่อไป (ซึ่งไม่มีความคล้ายคลึงกันในโศกนาฏกรรมใต้หลังคา) อาแจ็กซ์ถูกแทงต่อหน้าผู้ชม ทึกเกอร์ น้องชายของเขาสายเกินไปที่จะช่วยชีวิตอาแจ็กซ์ แต่เขาจัดการปกป้องร่างของผู้ตายที่ Atrids ซึ่งต้องการทิ้งศัตรูโดยไม่ถูกฝัง ฉากความขัดแย้งที่รุนแรงสองฉากนำฝ่ายตรงข้ามไปสู่จุดจบ แต่ด้วยการปรากฏตัวของ Odysseus สถานการณ์ก็คลี่คลาย: เขาพยายามโน้มน้าวให้ Agamemnon อนุญาตให้ฝังศพอย่างมีเกียรติ

แอนติโกเน่

Antigone ตัดสินใจฝัง Polynices น้องชายของเธอ ซึ่งเสียชีวิตขณะพยายามพิชิตบ้านเกิดของเขา เธอขัดกับคำสั่งของ Creon ผู้ปกครองคนใหม่ของ Thebes ตามที่ร่างของ Polynices ควรโยนให้กับนกและสุนัข ยามจับหญิงสาวและพาเธอไปที่ Creon; Antigone ดูถูกการคุกคามของผู้ปกครองและเขาตัดสินประหารชีวิตเธอ Gemon ลูกชายของ Creon (คู่หมั้นของ Antigone) พยายามอย่างไร้ผลเพื่อทำให้พ่อของเขาอ่อนลง Antigone ถูกนำตัวออกไปและถูกคุมขังในคุกใต้ดินใต้ดิน (Creon ทำให้ประโยคเดิมของเขาอ่อนลง - ขว้างปา) และในบทพูดคนเดียวที่ยอดเยี่ยมของเขาซึ่งอย่างไรก็ตามผู้จัดพิมพ์บางคนไม่รู้จักว่าเป็น Sophocles อย่างแท้จริง Antigone พยายามวิเคราะห์แรงจูงใจของการกระทำของเธอ ในที่สุดพวกเขาก็มีความรักส่วนตัวต่อพี่ชายของเธออย่างหมดจดและลืมเกี่ยวกับหน้าที่ทางศาสนาและครอบครัวที่เธออ้างถึงในตอนแรก ผู้เผยพระวจนะ Tyresias สั่งให้ Creon ฝัง Polyneices Creon พยายามคัดค้าน แต่ในที่สุดเขาก็ยอมจำนนและไปฝังศพผู้ตายและเพื่อปลดปล่อย Antigone แต่ผู้ส่งสารส่งรายงานว่าเมื่อเขาปรากฏตัวในคุก Antigone ได้แขวนคอตัวเองแล้ว . เจมอนชักดาบออกมาขู่พ่อของเขา แต่แล้วกลับหันอาวุธเข้าหาตัว เมื่อรู้เรื่องนี้ ยูริไดซ์ ภรรยาของครีออนก็ออกจากบ้านด้วยความเศร้าโศกและฆ่าตัวตายด้วย โศกนาฏกรรมจบลงด้วยการคร่ำครวญของ Creon ที่ไม่ต่อเนื่องซึ่งนำร่างของลูกชายขึ้นไปบนเวที

คิงโอดิปุส

ชาวธีบส์มาที่ Oedipus ด้วยคำวิงวอนให้กอบกู้เมืองจากโรคระบาด Creon ประกาศว่าจำเป็นต้องลงโทษฆาตกร Laius ซึ่งเป็นกษัตริย์ก่อน Oedipus ก่อนเป็นอันดับแรก เอดิปัสเริ่มค้นหาผู้กระทำความผิด Tyresias ซึ่งถูกเรียกตัวตามคำแนะนำของ Creon กล่าวหาว่า Oedipus ในคดีฆาตกรรม Oedipus เห็นว่าทั้งหมดนี้เป็นการสมรู้ร่วมคิดที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Creon และประณามเขาให้ตาย แต่กลับตัดสินใจของเขาโดยยอมจำนนต่อการโน้มน้าวใจของ Jocasta แปลงที่ซับซ้อนที่ตามมานั้นยากต่อการบอกเล่า Oedipus นำการค้นหาฆาตกรและความจริงที่ซ่อนเร้นจากเขามาสู่ข้อสรุปที่น่าเศร้าว่าฆาตกรของ Lai คือตัวเขาเองที่ Lai เป็นพ่อของเขาและ Jocasta ภรรยาของเขาคือแม่ของเขา ในฉากที่น่าสะพรึงกลัว Jocasta ผู้ซึ่งไขความจริงก่อน Oedipus พยายามหยุดการค้นหาอย่างไม่หยุดยั้งของเขา และเมื่อเธอล้มเหลว เธอก็ออกไปที่พระราชวังเพื่อแขวนคอตัวเองที่นั่น ในฉากต่อไป Oedipus ตระหนักถึงความจริง เขาก็วิ่งเข้าไปในวัง หลังจากนั้นผู้ส่งสารออกมาจากที่นั่นเพื่อรายงาน: กษัตริย์ทำให้ตัวเองมองไม่เห็น ในไม่ช้า Oedipus ก็ปรากฏตัวต่อหน้าผู้ชมด้วยใบหน้าที่เปื้อนเลือด ฉากที่สะเทือนใจที่สุดในโศกนาฏกรรมทั้งหมดตามมา ในการเจรจาครั้งสุดท้ายกับ Creon ผู้ปกครองคนใหม่ของ Thebes Oedipus จัดการกับตัวเองและฟื้นความมั่นใจในตนเองบางส่วนในอดีตของเขา

อีเลคตร้า

Orestes กลับไปยัง Argos บ้านเกิดของเขาพร้อมกับ Mentor ซึ่งมากับเขาในการลี้ภัย ชายหนุ่มตั้งใจที่จะเข้าไปในวังภายใต้หน้ากากของคนแปลกหน้าซึ่งนำโกศด้วยขี้เถ้าของ Orestes ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเสียชีวิตในการแข่งขันรถม้า นับจากนั้นเป็นต้นมา Elektra ก็กลายเป็นบุคคลที่โดดเด่นบนเวทีซึ่งตั้งแต่ฆาตกรจัดการกับพ่อของเธอได้อาศัยอยู่ในความยากจนและความอัปยศอดสูแบกความเกลียดชังในจิตวิญญาณของเธอ ในการพูดคุยกับ Chrysothemis น้องสาวของเขาและแม่ Clytemnestra Electra เผยให้เห็นถึงความเกลียดชังและความมุ่งมั่นที่จะแก้แค้นของเธออย่างเต็มที่ Mentor ปรากฏขึ้นพร้อมกับข้อความเกี่ยวกับการตายของ Orestes Electra สูญเสียความหวังสุดท้ายของเธอ แต่ถึงกระนั้นก็พยายามเกลี้ยกล่อมให้ Chrysofemis ร่วมกับเธอและโจมตี Clytemnestra และ Aegisthus ด้วยกัน เมื่อน้องสาวของเธอปฏิเสธ Electra สาบานว่าเธอจะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ที่นี่ Orestes เข้าสู่เวทีพร้อมกับโกศฝังศพ Elektra กล่าวอำลาเธออย่างซาบซึ้ง และ Orestes ผู้ซึ่งรู้จักผู้หญิงที่ขี้ขลาด แก่เฒ่า และขาดมอมแมมผู้นี้เป็นพี่สาว อารมณ์เสีย ลืมแผนการเดิมของเขา และเปิดเผยความจริงกับเธอ การกอดอย่างสนุกสนานของพี่ชายและน้องสาวถูกขัดจังหวะด้วยการมาถึงของ Mentor ซึ่งนำ Orestes กลับมาสู่ความเป็นจริง: ถึงเวลาที่เขาจะต้องไปและฆ่าแม่ของเขา Orestes เชื่อฟัง ออกจากวัง เขาตอบทุกคำถามของ Elektra ด้วยสุนทรพจน์ที่มืดมนและคลุมเครือ โศกนาฏกรรมจบลงด้วยฉากที่น่าทึ่งมากเมื่อ Aegisthus ก้มตัวเหนือร่างของ Clytemnestra และเชื่อว่านี่คือศพของ Orestes เผยให้เห็นใบหน้าของผู้หญิงที่ถูกฆาตกรรมและจำเธอได้ ขับเคลื่อนโดย Orestes เขาเข้าไปในบ้านเพื่อพบกับความตายของเขา

ฟิลอคเต็ท.

ระหว่างทางไปเมืองทรอย ชาวกรีกได้ทิ้งฟิลอคเตสไว้ ทุกข์ทรมานจากผลกระทบจากการถูกงูกัดบนเกาะเล็มนอส ในปีสุดท้ายของการปิดล้อม ชาวกรีกได้เรียนรู้ว่าทรอยจะยอมจำนนต่อ Philoctetus เท่านั้นซึ่งถือธนูของ Hercules Odysseus และ Neoptolemus ลูกชายคนเล็กของ Achilles ไปที่ Lemnos เพื่อนำ Philoctetes ไปหา Troy จากสามวิธีในการควบคุมฮีโร่ - ความแข็งแกร่ง, การโน้มน้าวใจ, การหลอกลวง - พวกเขาเลือกอย่างหลัง การวางอุบายกลายเป็นเรื่องที่พัวพันกันมากที่สุดในโศกนาฏกรรมกรีก ดังนั้นจึงไม่ง่ายที่จะสรุป อย่างไรก็ตาม เราเห็นว่าผ่านความซับซ้อนทั้งหมดของโครงเรื่อง Neoptolemus ค่อยๆ ละทิ้งคำโกหกที่เขาพัวพันกัน เพื่อให้ลักษณะของพ่อของเขาพูดในตัวเขาด้วยพลังที่เพิ่มขึ้น ในท้ายที่สุด Neoptolemus เปิดเผยความจริงแก่ Philoctetes แต่แล้ว Odysseus ก็เข้ามาแทรกแซง และ Philoctetes ถูกโยนทิ้งไปหนึ่งคันโดยเอาคันธนูออกไป อย่างไรก็ตาม Neoptolemus กลับมาและกลับคำนับให้ Philoctetus ดูถูกการคุกคามของ Odysseus จากนั้น Neoptolemus ก็พยายามเกลี้ยกล่อมให้ Philoctetes ไป Troy กับเขา แต่ฟิลอคเตสสามารถเชื่อได้ก็ต่อเมื่อเฮอร์คิวลีสที่ศักดิ์สิทธิ์ปรากฏต่อเขาและบอกว่าเขามอบธนูให้กับเขาเพื่อทำภารกิจที่กล้าหาญให้สำเร็จ

Oedipus ที่โคลอน

Oedipus ถูกไล่ออกจาก Thebes โดยลูกชายของเขาและ Creon ซึ่งอาศัยมือของ Antigone มาที่ Colon เมื่อมีคนบอกชื่อสถานที่นี้ เขาก็รู้สึกมั่นใจแปลกๆ ว่านี่คือที่ที่เขาจะต้องตาย Ismene มาหาพ่อของเขาเพื่อเตือนเขา: เหล่าทวยเทพประกาศว่าหลุมฝังศพของเขาจะทำให้ดินแดนที่เขาจะอยู่ยงคงกระพัน เอดิปุสตัดสินใจมอบผลประโยชน์นี้แก่เอเธนส์ โดยสาปแช่ง Creon และลูกชายของเขาเอง Creon พยายามโน้มน้าวใจ Oedipus อย่างไร้ผล ใช้กำลัง Antigone แต่ King เธเซอุสมาช่วย Oedipus และคืนลูกสาวของเขาให้เขา Polynices ขอความช่วยเหลือจากพ่อของเขาเพื่อจัดการกับพี่ชายของเขาที่ยึดอำนาจใน Thebes แต่ Oedipus ปฏิเสธเขาและสาปแช่งลูกชายทั้งสอง ได้ยินเสียงฟ้าร้อง และเอดิปัสจากไปเพื่อพบกับความตาย เขาหายตัวไปอย่างลึกลับและมีเพียงเธเซอุสเท่านั้นที่รู้ว่าอีดิปัสถูกฝังอยู่ที่ไหน

บทละครที่ไม่ธรรมดานี้ ซึ่งเขียนขึ้นเมื่อสิ้นสุดสงครามที่เอเธนส์แพ้ เต็มไปด้วยความรู้สึกรักชาติในกวีนิพนธ์ที่มีต่อเอเธนส์ และเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเชื่อมั่นของโซโฟคเลสที่มีต่อความเป็นอมตะของบ้านเกิดของเขา ความตายของเอดิปุสเป็นปริศนาทางศาสนาที่คนสมัยใหม่เข้าใจยาก ยิ่งอีดิปุสเข้าใกล้ความเป็นพระเจ้ามากเท่าไร เขาก็ยิ่งเข้มงวด ขมขื่น และโกรธเคืองมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นไม่เหมือนกับกษัตริย์เลียร์ที่โศกนาฏกรรมครั้งนี้มักถูกเปรียบเทียบ Oedipus ในโคลอนแสดงให้เห็นเส้นทางจากการยอมรับชะตากรรมอย่างถ่อมตนในบทนำสู่ความชอบธรรม แต่ความโกรธแค้นที่เกือบจะเหนือมนุษย์และความมั่นใจในตนเองอันยิ่งใหญ่ที่ฮีโร่ได้รับในนาทีสุดท้ายของ ชีวิตทางโลก

ปีแห่งชีวิต: 496 - 406 ปีก่อนคริสตกาล

สถานะ:กรีกโบราณ

สาขาวิชา:ดราม่า

ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุด:การสร้างโศกนาฏกรรมบนเวทีโรงละครเอเธนส์

Sophocles เป็นกวีและนักเขียนบทละครชาวกรีกโบราณ หนึ่งในสามโศกนาฏกรรมกรีกโบราณที่มีบทละครรอดชีวิตมาได้ ผลงานของเขาเป็นของยุคหลัง Aeschylus และ Euripides รุ่นก่อน Sophocles เขียนบทละคร 123 เรื่องในชีวิตของเขา ซึ่งมีเพียงเจ็ดเรื่องเท่านั้นที่รอดชีวิตอย่างเต็มรูปแบบ บทละครเหล่านี้ ได้แก่ Ajax, Antigone, Women of Trachine, Oedipus the King, Electra, Philoctetes และ Oedipus ที่ Colon

เชื่อกันว่าเขายังคงเป็นนักเขียนบทละครที่โด่งดังที่สุดในการแข่งขันละครของรัฐเอเธนส์ซึ่งจัดขึ้นในช่วงวันหยุดทางศาสนาของ Lenea และ Dionysia โซโฟคลีสเข้าร่วมการแข่งขัน 30 รายการ ซึ่งเขาชนะ 24 รายการและไม่เคยตกต่ำกว่าอันดับสองในรายการที่เหลือ ในบรรดาบทละครของเขา โศกนาฏกรรมที่โด่งดังที่สุดสองเรื่องคือ Oedipus และ Antigone Sophocles มีอิทธิพลอย่างมากต่อละครเรื่องนี้ ผลงานหลักของเขาคือการเพิ่มนักแสดงคนที่สาม ซึ่งลดบทบาทของคอรัสในการนำเสนอโครงเรื่อง

ชีวประวัติ

Sophocles เกิดที่ Attica ประมาณ 496 ปีก่อนคริสตกาลในเมือง Colon (ปัจจุบันคือภูมิภาคเอเธนส์) เขาได้รับความสำเร็จทางศิลปะครั้งแรกใน 468 ปีก่อนคริสตกาล BC เมื่อเขาได้รับรางวัลที่หนึ่งในการแข่งขันละคร "Dionysius" และเอาชนะต้นแบบของละคร Aeschylus ของเอเธนส์ นักประวัติศาสตร์ชาวกรีกกล่าวว่าชัยชนะครั้งนี้ค่อนข้างผิดปกติ ตรงกันข้ามกับธรรมเนียมการเลือกผู้ตัดสินโดยการจับฉลาก อาร์คอนผู้ปกครองของเอเธนส์ขอให้นักยุทธศาสตร์ที่มาร่วมงานตัดสินผู้ชนะการแข่งขัน ตามที่เขาพูดหลังจากพ่ายแพ้ Aeschylus ออกจากซิซิลี

Triptolemus เป็นหนึ่งในบทละครที่ Sophocles นำเสนอในเทศกาลนี้ เมื่อ Sophocles อายุสิบหกปี เขาได้รับเลือกให้เป็นผู้นำการสวดมนต์เพื่ออุทิศแด่เหล่าทวยเทพ เฉลิมฉลองชัยชนะของชาวกรีกเหนือชาวเปอร์เซีย ค. เขาเป็นหนึ่งในสิบนักยุทธศาสตร์ นายทหารอาวุโสในกองบัญชาการทหาร และเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องของเปริเคิล

ในช่วงเริ่มต้นอาชีพของเขา โซโฟคลีสได้รับการอุปถัมภ์จากนักการเมืองซีมง แม้แต่ใน 461 ปีก่อนคริสตกาล อี Cimon ถูกเนรเทศโดย Pericles Sophocles ยังคงทำงานบทละครของเขาต่อไป ในปีพ.ศ. 443 เขาได้กลายเป็นหนึ่งใน Ellenotams หรือเหรัญญิกแห่งเอเธนส์ และเล่นบทบาทของผู้ช่วยในการจัดการการเงินของเมืองในช่วงรัชสมัยทางการเมืองของ Pericles ในปี 413 Sophocles ได้รับเลือกให้เป็นกรรมาธิการคนหนึ่งที่ตอบสนองอย่างรวดเร็วที่สุดต่อการทำลายล้างอันหายนะของกองกำลังสำรวจเอเธนส์ในซิซิลีระหว่างสงคราม Peloponnesian

นอกจากนี้ โซโฟคลีสไม่ได้เพิกเฉยต่อเพศหญิง เขาแต่งงานสองครั้ง จากการแต่งงานเขามีลูกชาย (บางแหล่งอ้างว่ามีห้าคน) แต่ชีวิตส่วนตัวของกวีไม่สมควรได้รับความสนใจมากกว่านี้ แต่เป็นการสร้างสรรค์ของเขา

ผลงานของโซโฟคลิส

งานของ Sophocles มีอิทธิพลและมีความสำคัญในวัฒนธรรมกรีก บทละครสองในเจ็ดของเขามีวันที่เขียนที่แม่นยำ - Philoctetes (409 ปีก่อนคริสตกาล) และ Oedipus at Colon (401 ปีก่อนคริสตกาล) จัดแสดงหลังจากการตายของเขาโดยหลานชายของนักเขียนบทละคร ในบรรดาบทละครที่เหลือของเขา Electra มีความคล้ายคลึงกับบทละครสองเรื่องนี้อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนำข้อเท็จจริงที่ว่าบทนี้ถูกเขียนขึ้นในเวลาต่อมาในอาชีพการงานของเขา

อีกครั้งตามลักษณะโวหารของ Oedipus King ที่เข้ามาในช่วงกลางของเขา Ajax, Antigone และ Trachinia เป็นช่วงแรกของเขา Sophocles เขียนบทละครเหล่านี้ในการแข่งขันในเทศกาลที่แยกจากกันโดยมีความแตกต่างกันหลายปี พวกเขาไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นไตรภาคเนื่องจากความไม่สอดคล้องกันระหว่างพวกเขา นอกจากนี้ เชื่อกันว่า Sophocles ได้เขียนบทละครของ Theban อีกหลายเรื่อง เช่น “รุ่นหลัง” ซึ่งรอดชีวิตมาได้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย บทละครส่วนใหญ่ของเขาพรรณนาถึงแนวทางที่แฝงอยู่ของลัทธิฟาตาลิซึมในยุคแรกและการเคลื่อนตัวของตรรกะแบบโสกราตีส ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของประเพณีอันยาวนานของโศกนาฏกรรมกรีก

แอนติโกเน่

บทละครที่โด่งดังที่สุดของ Sophocles คือ Antigone

จัดแสดงครั้งแรกใน 442 ปีก่อนคริสตกาล งานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักร Theban ร่วมกับ "King Oedipus" เนื้อเรื่องค่อนข้างบิดเบี้ยวและน่าเศร้า - ในสไตล์ของ Sophocles Antigone ลูกสาวของ Oedipus ถูกกีดกันจากพี่ชายทั้งสอง พวกเขาไปทำสงครามกันเอง

มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ปกป้องธีบส์ อีกคนทรยศ ราชาแห่งธีบส์ Creon ห้ามพิธีฝังศพของผู้ทรยศ แต่ Antigone ข้ามคำสั่งฝังพี่ชายของเธออย่างมนุษย์ปุถุชน

Creon สั่งให้หญิงสาวถูกจับและแช่อยู่ในถ้ำ

Antigone ฆ่าตัวตาย แต่เรื่องนี้ไม่ได้จบเพียงแค่นั้น - คู่หมั้นของเธอ ลูกชายของ Creon ไม่รอดจากความตายของผู้เป็นที่รักของเขา และยังคร่าชีวิตของเขาเอง ตามด้วยแม่ของเขา

Creon ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังและยอมรับว่าเขาคิดผิด

คิงโอดิปุส

ละครที่มีชื่อเสียงอีกเรื่องหนึ่งคือ Oedipus the King เนื้อเรื่องนั้นบิดเบี้ยวมากกว่าใน "Antigone" พ่อของ Oedipus เมื่อทราบคำทำนายว่าลูกชายของเขาจะเป็นฆาตกรจึงสั่งให้ฆ่าทารก แต่ทหารที่ได้รับมอบหมายให้ทำธุรกิจนี้ให้เด็กได้รับการเลี้ยงดูจากชาวนา เมื่อโตขึ้น Oedipus เรียนรู้เกี่ยวกับคำทำนายและออกจากบ้าน ที่เมืองธีบส์ มีรถรบวิ่งเข้ามา ความขัดแย้งปะทุขึ้นอันเป็นผลมาจากการที่ Oedipus ฆ่าชายชราและสหายของเขา

ชายชรากลายเป็นพ่อที่แท้จริงของเขา Oedipus กลายเป็นราชาของเมืองและแต่งงานกับแม่ของเขา อย่างไรก็ตาม 15 ปีต่อมา อันเป็นผลมาจากคำทำนายใหม่ของ Delphic oracle ความจริงก็ถูกเปิดเผยต่อ Oedipus ภรรยาของเขาคือแม่ของเขา และชายชราที่เขาฆ่าเมื่อหลายปีก่อนคือพ่อของเขา ไม่สามารถแบกรับภาระอันหนักอึ้งได้ พระองค์จึงควักพระเนตรออกเพื่อไม่ให้เห็นความจริงอันขมขื่น

Sophocles ได้รับการยอมรับว่าเป็นปรมาจารย์แห่งโศกนาฏกรรมอย่างแท้จริง - บทละครของเขาประสบความสำเร็จอย่างมากในโรงภาพยนตร์ในเอเธนส์ เขาเสียชีวิตในปี 406 ขณะทำงานของตัวเอง โซโฟคลีสเสียชีวิตเมื่ออายุได้เก้าสิบหรือเก้าสิบเอ็ดปี เรื่องราวหนึ่งบอกว่าเขาเสียชีวิตด้วยความพยายามในขณะที่พยายามจะเปล่งเสียงยาวจากบทละครของเขา Antigone โดยไม่หยุดเพื่อหายใจ ในขณะที่อีกเรื่องหนึ่งบอกว่าเขาสำลักตายขณะกินองุ่นในงานเทศกาลที่กรุงเอเธนส์ ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร Sophocles ยังคงเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญเรื่องโศกนาฏกรรมที่โด่งดังที่สุดแม้กระทั่งทุกวันนี้ ซึ่งเราสามารถพิจารณาบทละครได้ในโรงภาพยนตร์

Sophocles (496-406 BC) - โศกนาฏกรรมนักเขียนบทละครโบราณ

งานสำคัญ: "อาแจ็กซ์" (442 ปีก่อนคริสตกาล), "Antigone" (441 ปีก่อนคริสตกาล), "ผู้หญิง Trachino" (ไม่ทราบวันที่เขียน), "Philoctetus" ในชีวประวัติสั้น ๆ ของ Sophocles ซึ่งนำเสนอในหน้านี้ เราได้รวบรวมข้อเท็จจริงพื้นฐานเกี่ยวกับชีวิตและผลงานของนักเขียนบทละคร Sophocles

เกิดที่ชานเมืองเอเธนส์ - โคลอนในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้รับการศึกษาด้านดนตรีที่ดีซึ่งเกี่ยวข้องกับนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ของเขา (การใช้คณะนักร้องประสานเสียงเพลงเดี่ยวและอื่น ๆ บทความเกี่ยวกับคณะนักร้องประสานเสียง) สิ่งนี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อการพัฒนาชีวประวัติของ Sophocles เขาอยู่ในชื่อเสียงของนักปฏิรูปโรงละครกรีกโบราณ Sophocles ไม่เพียง แต่ชอบโรงละครเท่านั้น แต่ยังเป็นบุคคลทางการเมืองที่กระตือรือร้นซึ่งเป็นผู้รักชาติในบ้านเกิดของเขา เขาดำรงตำแหน่งรัฐบาลและทหาร อยู่ใกล้กับวงกลมของ Pericles ในฐานะนักเขียนบทละครเขาแสดงใน 468 ปีก่อนคริสตกาล อี ในช่วงชีวิตของเขา Sophocles ได้สร้างโศกนาฏกรรมมากกว่า 100 เรื่อง ในตอนต้นของศตวรรษที่ 20 พบข้อความที่ตัดตอนมาจากละครเทพารักษ์ "ผู้เบิกทาง" Sophocles นำแผนสำหรับโศกนาฏกรรมของเขามาจากตำนาน

ในโศกนาฏกรรมของเขา Sophocles ได้หยิบยกประเด็นทางสังคมและศีลธรรมขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งประเด็นหลักก็คือปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างอำนาจบุคคลและอำนาจรัฐ นักเขียนบทละครได้แสดงให้เห็นตามความเป็นจริงถึงโลกภายในของตัวละครของเขา ซึ่งตัวละครทั้งตัวที่ค่อนข้างเป็นอุดมคตินั้นเป็นตัวเป็นตน โศกนาฏกรรมของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดศรัทธาในพลังของเธอ Sophocles พัฒนาประเภทของโศกนาฏกรรมอย่างต่อเนื่องตามประเพณีของ Aeschylus เขาเพิ่มจำนวนตัวละครเป็นสามตัว ละทิ้ง tetralogy ที่เกี่ยวข้องกับโครงเรื่อง แนะนำเพลงเดี่ยว - เพลงเดี่ยว ปรับปรุงทิวทัศน์ หน้ากาก ฯลฯ

เมื่อพูดถึงชีวประวัติของ Sophocles สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่างานของเขามีผลกระทบอย่างมากต่อการพัฒนาละครเรื่องใหม่ในยุโรปโดยเริ่มจากยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ในกรีซ ชื่อ Sophocles เป็นที่นิยมและน่าเชื่อถืออย่างมาก ดังนั้น หลังจากการตายของเขา เขาจึงได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษ

หากคุณได้อ่านชีวประวัติสั้น ๆ ของ Sophocles แล้ว คุณสามารถให้คะแนนนักเขียนคนนี้ได้ที่ด้านบนสุดของหน้า นอกจากนี้ เราขอเชิญคุณไปที่ส่วนชีวประวัติเพื่ออ่านเกี่ยวกับนักเขียนยอดนิยมและมีชื่อเสียงคนอื่นๆ

Sophocles กวีผู้โศกนาฏกรรมผู้ยิ่งใหญ่นั้นเทียบได้กับ Aescholus และ Euripides เขาเป็นที่รู้จักจากผลงานเช่น "King Oedipus", "Antigone", "Electra" เขาดำรงตำแหน่งราชการ แต่อาชีพหลักของเขายังคงแต่งโศกนาฏกรรมสำหรับฉากในเอเธนส์ นอกจากนี้ Sophocles ยังได้นำเสนอนวัตกรรมหลายอย่างในการแสดงละคร

ประวัติย่อ

แหล่งที่มาหลักของข้อมูลชีวประวัติเกี่ยวกับกวีโศกนาฏกรรมคนที่สองของกรีกโบราณหลังจาก Aeschylus เป็นชีวประวัติที่ไม่มีชื่อซึ่งมักจะถูกวางไว้ในฉบับของโศกนาฏกรรมของเขา เป็นที่ทราบกันว่าโศกนาฏกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลกเกิดเมื่อประมาณ 496 ปีก่อนคริสตกาลในโคลอน ตอนนี้สถานที่แห่งนี้ได้รับการยกย่องจาก Sophocles ในโศกนาฏกรรม "Oedipus in Colon" เป็นเขตของเอเธนส์

ใน 480 ปีก่อนคริสตกาล เมื่ออายุได้ 16 ปี โซโฟคลีสได้เข้าร่วมในคณะนักร้องประสานเสียงที่แสดงเพื่อเป็นเกียรติแก่ชัยชนะในยุทธการซาลามิส ข้อเท็จจริงนี้ให้สิทธิ์ในการเปรียบเทียบชีวประวัติของผู้ประพันธ์โศกนาฏกรรมชาวกรีกผู้ยิ่งใหญ่สามคน: Aeschylus เข้าร่วม Sophocles เพื่อยกย่องเขา และ Euripides ก็เกิดในเวลานี้

พ่อของ Sophocles น่าจะเป็นชายวัยกลางคนแม้ว่าความคิดเห็นจะแตกต่างกัน เขาสามารถให้การศึกษาที่ดีแก่ลูกชายของเขา นอกจากนี้ Sophocles ยังโดดเด่นด้วยความสามารถทางดนตรีที่โดดเด่น: ในวัยผู้ใหญ่เขาแต่งเพลงสำหรับผลงานของเขาอย่างอิสระ

กิจกรรมสร้างสรรค์ของโศกนาฏกรรมที่บานสะพรั่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับช่วงเวลาที่ในประวัติศาสตร์มักเรียกว่า "ยุคแห่ง Pericles" Pericles เป็นหัวหน้าของรัฐเอเธนส์เป็นเวลาสามสิบปี จากนั้นเอเธนส์ก็กลายเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญ ประติมากร กวี และนักวิทยาศาสตร์จากทั่วกรีซเข้ามาในเมือง

Sophocles ไม่เพียง แต่เป็นกวีโศกนาฏกรรมที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ยังเป็นรัฐบุรุษด้วย เขาทำหน้าที่เป็นเหรัญญิกของกระทรวงการคลังของรัฐ นักยุทธศาสตร์ มีส่วนร่วมในการรณรงค์ต่อต้านซามอส ซึ่งพยายามแยกตัวออกจากเอเธนส์ และในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของเอเธนส์หลังการรัฐประหาร กวี Jonah of Chios รักษาคำให้การเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของ Sophocles ในชีวิตของรัฐ

"ยุคแห่ง Pericles" ไม่เพียงโดดเด่นด้วยความเจริญรุ่งเรืองของกรุงเอเธนส์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงจุดเริ่มต้นของการสลายตัวของรัฐด้วย การแสวงประโยชน์จากแรงงานทาสได้เบียดเบียนแรงงานฟรีของประชากร เจ้าของทาสขนาดเล็กและขนาดกลางล้มละลาย และมีการระบุการแบ่งชั้นทรัพย์สินอย่างจริงจัง ปัจเจกและส่วนรวมซึ่งอยู่ในความสามัคคีสัมพัทธ์ บัดนี้ถูกต่อต้านซึ่งกันและกัน

มรดกทางวรรณกรรมของโศกนาฏกรรม

Sophocles สร้างผลงานกี่ชิ้น? มรดกทางวรรณกรรมของนักเขียนบทละครกรีกโบราณคืออะไร? โดยรวมแล้ว Sophocles เขียนโศกนาฏกรรมมากกว่า 120 เรื่อง ผลงานของผู้แต่งเพียงเจ็ดชิ้นเท่านั้นที่รอดชีวิตมาได้จนถึงทุกวันนี้ รายการผลงานของ Sophocles รวมถึงโศกนาฏกรรมต่อไปนี้: "The Trachinetes", "Oedipus the Tsar", "Electra", "Antigone", "Ajax", "Philoctetus", "Oedipus in Colon" นอกจากนี้ ชิ้นส่วนสำคัญของละคร Pathfinders ที่อิงจากเพลงสวดของ Homeric ที่เขียนถึง Hermes ยังคงมีชีวิตรอด

วันที่ของการแสดงละครโศกนาฏกรรมบนเวทีไม่สามารถกำหนดได้อย่างแน่นอน สำหรับ "Antigone" นั้นจัดแสดงประมาณ 442 ปีก่อนคริสตกาล "Oedipus the king" - ในปี 429-425 "Oedipus in Colon" - หลังจากการตายของผู้เขียนประมาณ 401 ปีก่อนคริสตกาล

นักเขียนบทละครเข้าร่วมการแข่งขันที่น่าเศร้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าและเอาชนะ Aeschylus ในปีพ. ศ. 468 Sophocles เขียนงานอะไรเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้? เป็นไตรภาคที่สร้างจากโศกนาฏกรรม Triptolemus ต่อจากนั้น โซโฟคลิสขึ้นที่หนึ่งอีกยี่สิบครั้งและไม่เคยเป็นอันดับสามเลย

รากฐานทางอุดมการณ์ของงาน

ในความขัดแย้งระหว่างวิถีชีวิตแบบเก่าและแบบใหม่ Sophocles รู้สึกได้ถึงความหายนะ การทำลายรากฐานเก่าของประชาธิปไตยในเอเธนส์ทำให้เขาต้องแสวงหาความคุ้มครองในศาสนา Sophocles (แม้ว่าเขาจะรับรู้ถึงอิสรภาพของมนุษย์จากเจตจำนงของเทพเจ้า) เชื่อว่าความสามารถของมนุษย์นั้นมีอยู่อย่างจำกัด เหนือใครๆ ก็คือพลังที่นำไปสู่ชะตากรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง สามารถติดตามได้ในผลงานของ Sophocles "Oedipus the King", "Antigone"

โศกนาฏกรรมเชื่อว่าคน ๆ หนึ่งไม่สามารถรู้ได้ว่ากำลังเตรียมอะไรสำหรับเขาในแต่ละวันและเจตจำนงของเหล่าทวยเทพก็ปรากฏอยู่ในการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของชีวิตมนุษย์ Sophocles ไม่รู้จักอำนาจของเงินซึ่งสลายพื้นฐานของโพลิสกรีกและต้องการเสริมสร้างรากฐานประชาธิปไตยของรัฐโดยประท้วงต่อต้านการแบ่งชั้นของพลเมืองในด้านความมั่งคั่งและทรัพย์สิน

นวัตกรรมของโซโฟคลีสในโรงละครกรีกโบราณ

Sophocles ซึ่งเป็นผู้สืบทอดของ Aeschylus ได้แนะนำนวัตกรรมหลายอย่างในการแสดงละคร ผู้เขียนเริ่มเขียนละครแยกจากกันเล็กน้อยจากหลักการของไตรภาคซึ่งแต่ละเรื่องมีความสมบูรณ์ ส่วนเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกัน แต่มีโศกนาฏกรรมสามเรื่องและละครเสียดสีบนเวที

โศกนาฏกรรมขยายจำนวนนักแสดงเป็นสามคน ซึ่งทำให้บทสนทนามีชีวิตชีวาและลึกซึ้งยิ่งขึ้นเพื่อเปิดเผยตัวละคร คณะนักร้องประสานเสียงได้หยุดแสดงบทบาทที่เอสคิลุสมอบหมายไปแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าโซโฟคลีสใช้มันอย่างชำนาญ ชิ้นส่วนต่างๆ ของคณะนักร้องประสานเสียงสะท้อนถึงการแสดง กระตุ้นความรู้สึกทั้งหมดของผู้ฟัง ซึ่งทำให้บรรลุการชำระล้าง (ท้อง) ที่อริสโตเติลพูดถึงได้

"Antigone": เนื้อหา รูปภาพ องค์ประกอบ

งานของ Sophocles "Antigone" ไม่รวมอยู่ในไตรภาคซึ่งแสดงถึงโศกนาฏกรรมที่เสร็จสมบูรณ์ ใน "Antigone" โศกนาฏกรรมวางกฎแห่งสวรรค์ไว้เหนือสิ่งอื่นใด แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างการกระทำของมนุษย์กับเจตจำนงของเหล่าทวยเทพ

ละครเรื่องนี้ตั้งชื่อตามตัวละครหลัก Polynices ลูกชายของ King Oedipus และน้องชายของ Antigone ทรยศ Thebes และเสียชีวิตในการสู้รบกับ Eteocles น้องชายของเขา King Creon ห้ามงานศพโดยปล่อยให้ร่างกายถูกนกและสุนัขฉีกเป็นชิ้น ๆ แต่ Antigone ทำพิธีซึ่ง Creon ตัดสินใจก่อกวนเธอในถ้ำ แต่หญิงสาวจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย Antigone ปฏิบัติตามกฎหมายศักดิ์สิทธิ์ไม่ยอมแพ้ต่อกษัตริย์ปฏิบัติตามหน้าที่ของเธอ หลังจากที่คู่หมั้นของเธอ ลูกชายของ Creon แทงตัวเองด้วยกริช และด้วยความสิ้นหวังจากการตายของลูกชายของเธอและภรรยาของกษัตริย์ เธอจึงปลิดชีพตัวเอง เมื่อเห็นความโชคร้ายเหล่านี้ Creon ยอมรับความไม่สำคัญของเขาต่อหน้าเหล่าทวยเทพ

นางเอกของ Sophocles เป็นเด็กผู้หญิงที่เด็ดเดี่ยวและกล้าหาญที่จงใจยอมรับความตายเพื่อมีสิทธิที่จะฝังศพพี่ชายของเธอตามพิธีกรรมที่กำหนดไว้ เธอเคารพกฎหมายโบราณและไม่สงสัยในความถูกต้องของการตัดสินใจของเธอ ตัวละครของ Antigone ถูกเปิดเผยก่อนเริ่มฉากปฏิบัติการหลัก - ในบทสนทนากับ Ismena

Creon (ในฐานะผู้ปกครองที่เข้มงวดและแน่วแน่) วางความปรารถนาของเขาไว้เหนือสิ่งอื่นใด เขาปรับการกระทำเพื่อผลประโยชน์ของรัฐ พร้อมที่จะยอมรับกฎหมายที่โหดร้าย และถือว่าการต่อต้านใด ๆ เป็นการทรยศ ส่วนประกอบที่สำคัญมากของโศกนาฏกรรมคือการสอบสวนของ Antigone โดย Creon คำพูดของหญิงสาวแต่ละคนทำให้ Creon หงุดหงิดและตึงเครียดจากการกระทำ

จุดสุดยอดคือบทพูดคนเดียวของ Antigone ก่อนที่เธอจะถูกประหารชีวิต ละครเรื่องนี้เสริมด้วยการเปรียบเทียบหญิงสาวกับล็อตของ Niobe ลูกสาวของ Tantalus ที่กลายเป็นหน้าผา ภัยพิบัติกำลังใกล้เข้ามา Creon โทษตัวเองสำหรับการตายของภรรยาและลูกชายของเขาซึ่งหลังจากการฆ่าตัวตายของ Antigone เขาอุทานด้วยความสิ้นหวัง: "ฉันไม่เป็นอะไร!"

โศกนาฏกรรมของ Antigone โดย Sophocles ซึ่งสรุปไว้ข้างต้นเผยให้เห็นหนึ่งในความขัดแย้งที่ลึกที่สุดของสังคมสมัยใหม่สำหรับผู้แต่ง - ความขัดแย้งระหว่างกฎหมายของครอบครัวและรัฐ ศาสนาที่หยั่งรากลึกในสมัยโบราณได้รับคำสั่งให้ให้เกียรติสายเลือดและทำพิธีทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับญาติสนิท แต่พลเมืองของนโยบายทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมายของรัฐซึ่งมักจะขัดแย้งกับบรรทัดฐานดั้งเดิม

"King Oedipus" Sophocles: การวิเคราะห์โศกนาฏกรรม

โศกนาฏกรรมที่พิจารณาต่อไปทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับเจตจำนงของพระเจ้าและเจตจำนงเสรีของมนุษย์ Sophocles ตีความตำนานของ Oedipus ซึ่งเป็นของวงจร Theban เป็นเพลงสวดสำหรับจิตใจของมนุษย์ ผู้เขียนแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งเป็นพิเศษของตัวละครและความปรารถนาที่จะสร้างชีวิตตามดุลยพินิจของเขาเอง

ผลงานของ Sophocles "King Oedipus" บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของ Oedipus ลูกชายของ Theban King Lai ผู้ซึ่งคาดว่าจะตายด้วยน้ำมือของลูกของเขาเอง เมื่อ Oedipus เกิด พ่อของเขาได้รับคำสั่งให้เจาะขาของเขาและโยนเขาขึ้นไปบนภูเขา แต่ทาสที่ได้รับคำสั่งให้ฆ่าทายาทได้ช่วยชีวิตเด็กไว้ Oedipus (ชื่อของเขาจากภาษากรีกโบราณแปลว่า "ขาบวม") ได้รับการเลี้ยงดูโดยกษัตริย์ Corinthian Polybus

ในวัยผู้ใหญ่ Oedipus เรียนรู้จากคำทำนายว่าเขาถูกกำหนดให้ฆ่าพ่อของตัวเองและแต่งงานกับแม่ของเขา เจ้าชายต้องการที่จะหลีกเลี่ยงชะตากรรมดังกล่าวและทิ้งคอรินธ์โดยพิจารณาว่าโพลีบัสและภรรยาของเขาเป็นพ่อแม่ที่แท้จริงของเขา ระหว่างทางไปธีบส์ เขาฆ่าชายชรานิรนามที่กลายเป็นแหลม คำทำนายเริ่มเป็นจริง

เมื่อมาถึงธีบส์ Oedipus สามารถเดาปริศนาของสฟิงซ์และช่วยเมืองได้ซึ่งเขาได้รับเลือกให้เป็นกษัตริย์และแต่งงานกับภรรยาม่าย Lai Jocasta นั่นคือแม่ของเขาเอง เป็นเวลาหลายปีที่ Oedipus ปกครองใน Thebes และมีความสุขกับความรักที่สมควรได้รับจากผู้คนของเขา

เมื่อเกิดโรคระบาดร้ายแรงในประเทศ พยากรณ์ได้ประกาศสาเหตุของความโชคร้ายทั้งหมด มีฆาตกรอยู่ในเมืองที่ต้องถูกขับไล่ออกไป เอดิปัสพยายามหาตัวผู้กระทำผิด โดยไม่สันนิษฐานว่าเป็นตัวเขาเอง เมื่อพระราชาทรงทราบความจริง พระองค์ก็ทรงละสายตา เชื่อว่าเป็นการลงทัณฑ์ที่เพียงพอสำหรับความผิดที่ก่อขึ้น

ตัวละครหลักคือ King Oedipus ซึ่งผู้คนเห็นผู้ปกครองที่ฉลาดและยุติธรรม เขารับผิดชอบต่อชะตากรรมของผู้คนเขาพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อหยุดโรคระบาดและกอบกู้เมืองจากสฟิงซ์ นักบวชเรียก Oedipus ว่า "ผู้ชายที่ดีที่สุด" แต่อีดิปัสก็มีจุดอ่อนเช่นกัน ทันทีที่เขาเริ่มสงสัยว่านักบวชกำลังปกปิดฆาตกร เขาคิดว่าตัวเขาเองมีส่วนในอาชญากรรม Oedipus จับความโกรธอย่างรวดเร็วในการสนทนากับ Creon พระราชาทรงวางอุบายทรงดูถูกเหยียดหยาม ลักษณะเดียวกันนี้ - การขาดความยับยั้งชั่งใจ - เป็นสาเหตุของการฆาตกรรมชายชราลายระหว่างทางไปธีบส์

ไม่ใช่แค่ Oedipus ในผลงานของ Sophocles เท่านั้นที่พยายามหลีกเลี่ยงโชคชะตา Jocasta มารดาของ Oedipus เป็นคนบาปในแง่ของศีลธรรม เนื่องจากเธอยอมให้เด็กถูกประหารชีวิต จากมุมมองทางศาสนา นี่ไม่คำนึงถึงคำพูดของนักพยากรณ์ หลังจากนั้นเธอก็บอกผู้ใหญ่โอดิปัสว่าเธอไม่เชื่อในคำทำนาย Jocasta ชดใช้ความผิดด้วยความตาย

Creon ใน "Antigone" และ "King Oedipus" มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ในโศกนาฏกรรมของ Sophocles "Oedipus the King" เขาไม่ได้ต่อสู้เพื่ออำนาจเลยเหนือสิ่งอื่นใดเขาให้ความสำคัญกับเกียรติยศและมิตรภาพสัญญาว่าจะปกป้องลูกสาวของกษัตริย์ Theban

"Oedipus at Colon": ภาพลักษณะของโศกนาฏกรรม

โศกนาฏกรรมของ Sophocles เกิดขึ้นหลังจากการตายของเขา Oedipus พร้อมด้วย Antigone ไปถึงเขตชานเมืองของกรุงเอเธนส์ Ismene ธิดาคนที่สองของอดีตราชา Theban นำข้อความของ oracle ที่บอกว่าพ่อของเธอถูกกำหนดให้เป็นนักบุญผู้อุปถัมภ์ของประเทศที่เขาเสียชีวิต ลูกชายของ Oedipus ต้องการพาเขาไปที่ Thebes แต่เขาปฏิเสธและกษัตริย์เธเซอุสต้อนรับอย่างอบอุ่นตัดสินใจที่จะอยู่ในโคลอน

ในปากของคณะนักร้องประสานเสียงและตัวละคร - เพลงสรรเสริญพระบารมี เป้าหมายหลักของงานของ Sophocles คือการยกย่องบ้านเกิดเมืองนอนและการชดใช้บาปที่กระทำโดยความทุกข์ Oedipus ที่นี่ไม่ใช่ผู้ปกครองที่ผู้ชมเห็นเขาในตอนต้นของโศกนาฏกรรม "Oedipus the King" อีกต่อไป แต่ยังไม่ใช่คนที่ถูกทำลายโดยโชคร้ายซึ่งเขากลายเป็นในตอนท้ายของงานดังกล่าว เขาตระหนักดีถึงความไร้เดียงสาของเขาโดยกล่าวว่าในอาชญากรรมที่เขาทำนั้นไม่มีบาปหรือความอาฆาตพยาบาท

ลักษณะสำคัญของโศกนาฏกรรมคือส่วนประสานเสียงที่เชิดชูหมู่บ้านพื้นเมืองของผู้เขียน Sophocles แสดงให้เห็นว่าบุคคลนั้นขาดความมั่นใจในอนาคต และความยากลำบากในชีวิตประจำวันทำให้เกิดความคิดในแง่ร้ายในตัวเขา เป็นไปได้ว่าทัศนคติที่มืดมนต่อความเป็นจริงโดยรอบนั้นเกิดจากช่วงไม่กี่ปีสุดท้ายของชีวิต

โศกนาฏกรรม "Philoctetes": การวิเคราะห์โดยย่อของงาน

Sophocles ได้รับการศึกษาสั้น ๆ ในคณะอักษรศาสตร์ แต่การขาดชั่วโมงการสอนมักจะบังคับให้งานบางชิ้นถูกแยกออกจากหลักสูตร ดังนั้น Philoctetes มักถูกมองข้าม ในขณะเดียวกัน ภาพลักษณ์ของตัวเอกก็มีการพัฒนาขึ้นมา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นพิเศษ ในช่วงเริ่มต้นของการกระทำนี้เป็นคนเหงา แต่ยังไม่หมดศรัทธาในผู้คนอย่างสมบูรณ์ หลังจากการปรากฏตัวของ Hercules และความหวังในการรักษาเขาก็เปลี่ยนไป ในโครงร่างของตัวละคร คุณสามารถดูเทคนิคที่มีอยู่ใน Euripides แนวคิดหลักของโศกนาฏกรรมคือคนที่พบความสุขไม่ใช่เพื่อสนองความสนใจของตัวเอง แต่ในการรับใช้มาตุภูมิ

"อาแจ็กซ์", "ตราคินยังก้า", "อิเล็กตรา"

ธีมโศกนาฏกรรมของ Sophocles "Ajax" คือการมอบเกราะของ Achilles ไม่ใช่ให้กับ Ajax แต่สำหรับ Odysseus Athena ส่งความบ้าคลั่งไปยัง Ajax และเขาฆ่าฝูงวัว Ajax คิดว่าเป็นกองทัพ Achaean นำโดย Odysseus เมื่อตัวละครหลักรู้ตัว เขาก็ฆ่าตัวตายด้วยความกลัวการเยาะเย้ย ดังนั้น การกระทำทั้งหมดจึงสร้างขึ้นจากความขัดแย้งระหว่างอำนาจของพระเจ้ากับการพึ่งพาพระประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละคน

ในงานของ "The Trakhinanka" ภรรยาของ Hercules กลายเป็นอาชญากรโดยไม่รู้ เธอจุ่มเสื้อคลุมของสามีด้วยเลือดของเซนทอร์ที่เขาฆ่า เพื่อต้องการคืนความรัก แต่ของขวัญจากเซนทอร์กลับกลายเป็นว่าร้ายกาจ Hercules เสียชีวิตด้วยความเจ็บปวดและภรรยาของเขาฆ่าตัวตาย ผู้หญิงคนนี้มีนิสัยอ่อนโยน ซื่อสัตย์ และรักใคร่ ให้อภัยจุดอ่อนของสามี ความรับผิดชอบต่ออาชญากรรมที่เธอก่อขึ้นด้วยความไม่รู้ทำให้เธอต้องโทษตัวเองอย่างโหดร้าย

ธีมของโศกนาฏกรรมของ Euripides และ Sophocles "Electra" เป็นตำนานที่มีชื่อเดียวกันเกี่ยวกับลูกสาวของ Agamemnon และ Clytemnestra Electra เป็นธรรมชาติที่เร่าร้อน สำหรับ Sophocles ภาพนี้โดดเด่นด้วยความลึกทางจิตวิทยา เด็กผู้หญิงพร้อมกับพี่ชายของเธอฆ่าแม่ของเธอเพื่อตอบสนองความประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้าอพอลโลซึ่งเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของกฎหมายบิดา แนวคิดเบื้องหลังโศกนาฏกรรมนี้คือการลงโทษอาชญากรรมและปกป้องศาสนาของอพอลโล สิ่งนี้ได้รับการยืนยันไม่เพียง แต่ในตอนจบ แต่ยังรวมถึงส่วนต่าง ๆ ของคณะนักร้องประสานเสียงด้วย

ลักษณะทั่วไปของความคิดสร้างสรรค์

ผลงานของ Sophocles สะท้อนถึงประเด็นทั่วไปในสมัยของเขา เช่น ทัศนคติต่อศาสนา กฎหมายและการปกครองที่ไม่ได้เขียนไว้เป็นลายลักษณ์อักษร เจตจำนงเสรีของบุคคลและเทพเจ้า ปัญหาเรื่องความสูงส่งและเกียรติยศ ผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม พบความขัดแย้งหลายประการในโศกนาฏกรรม ตัวอย่างเช่น ใน "Electra" โศกนาฏกรรมปกป้องศาสนาของ Apollo แต่เขาก็ตระหนักถึงเจตจำนงเสรีของมนุษย์ ("Oedipus the king")

ในโศกนาฏกรรมจะได้ยินคำบ่นเกี่ยวกับความไม่มั่นคงของชีวิตและความแปรปรวนของความสุขอย่างต่อเนื่อง งานแต่ละงานพิจารณาชะตากรรมของบุคคล ไม่ใช่ครอบครัว ความสนใจในบุคลิกภาพเสริมด้วยนวัตกรรมที่ Sophocles นำเสนอต่อการแสดงละคร นั่นคือการเพิ่มนักแสดงคนที่สาม

ผลงานของฮีโร่ของ Sophocles มีบุคลิกที่แข็งแกร่ง ในคำอธิบายของตัวละคร ผู้เขียนใช้เทคนิคที่ตัดกันซึ่งช่วยให้คุณเน้นย้ำถึงคุณลักษณะหลัก นี่คือคำอธิบายของ Antigone ที่กล้าหาญและ Ismene ที่อ่อนแอ Electra ที่แข็งแกร่งและน้องสาวที่ไม่แน่ใจของเธอ Sophocles ดึงดูดตัวละครอันสูงส่งซึ่งสะท้อนถึงรากฐานทางอุดมการณ์ของประชาธิปไตยในเอเธนส์

Sophocles พร้อมกับ Aeschylus และ Euripides

Aeschylus, Sophocles และ Euripides เป็นนักเขียนโศกนาฏกรรมชาวกรีกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ความสำคัญของมรดกที่สร้างสรรค์ซึ่งได้รับการยอมรับจากคนรุ่นเดียวกัน ระหว่างผู้เขียนเหล่านี้ ซึ่งเป็นคนรุ่นต่างๆ มีความแตกต่างกันอย่างมากในด้านกวีนิพนธ์นาฏกรรม เอสคิลุสตื้นตันด้วยศีลแห่งสมัยโบราณทุกประการ: ทางศาสนา คุณธรรม และการเมือง ตัวละครของเขามักจะถูกกำหนดเป็นแผนผัง และวีรบุรุษของโซโฟคลิสไม่ใช่เทพเจ้าอีกต่อไป แต่มีบุคลิกธรรมดา แต่โดดเด่นด้วยตัวละครที่วิจิตรบรรจง Euripides อาศัยอยู่ในยุคของการเคลื่อนไหวเชิงปรัชญาใหม่แล้วเริ่มใช้เวทีเพื่อส่งเสริมความคิดบางอย่าง Aeschylus และ Sophocles แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญในเรื่องนี้ ตัวละครใน Euripides เป็นคนธรรมดาที่มีจุดอ่อนทั้งหมด ในงานเขียนของเขา เขาตั้งคำถามยากๆ เกี่ยวกับศาสนา การเมือง หรือศีลธรรม แต่ไม่เคยมีคำตอบที่แน่ชัด

กล่าวถึงโศกนาฏกรรมในภาพยนตร์ตลกของอริสโตเฟนเรื่อง "กบ"

เมื่ออธิบายลักษณะของนักเขียนชาวกรีกโบราณเราไม่สามารถพูดถึงนักเขียนที่โดดเด่นคนอื่นได้ แต่ในด้านของตลก (โศกนาฏกรรมคือ Aeschylus, Euripides, Sophocles) Aristophanes ทำให้นักเขียนสามคนโด่งดังในภาพยนตร์ตลกเรื่อง "Frogs" Aeschylus (ถ้าเราพูดถึงสมัยของ Aristophanes) เสียชีวิตไปนานแล้ว และ Sophocles และ Euripides เสียชีวิตเกือบพร้อม ๆ กัน ครึ่งศตวรรษหลังจาก Aeschylus มีการโต้เถียงกันในทันทีว่าอันไหนดีกว่ากันในสามคน ในการตอบสนองต่อเรื่องนี้ อริสโตเฟนส์ได้กำกับภาพยนตร์ตลกเรื่อง "Frogs"

งานนี้ตั้งชื่ออย่างนั้นเพราะคณะนักร้องประสานเสียงมีกบที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำ Acheron (ซึ่ง Charon ขนส่งคนตายไปยังอาณาจักรแห่งฮาเดส) นักบุญอุปถัมภ์ของโรงละครในเอเธนส์คือไดโอนีซัส เขาเป็นคนดูแลชะตากรรมของโรงละครวางแผนที่จะลงไปในชีวิตหลังความตายและนำ Euripides กลับมาเพื่อที่เขาจะได้แสดงโศกนาฏกรรมต่อไป

ในระหว่างการดำเนินการ ปรากฎว่าในชีวิตหลังความตายยังมีการแข่งขันสำหรับกวี Aeschylus และ Euripides อ่านบทกวีของพวกเขา ด้วยเหตุนี้ ไดโอนีซัสจึงตัดสินใจชุบชีวิตเอสคิลัสให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ความขบขันจบลงด้วยส่วนของนักร้องประสานเสียงซึ่ง Aeschylus และ Athens ได้รับเกียรติ