ผู้ประกอบการแต่ละรายจำเป็นต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพื่อตนเองหรือไม่? ผู้ประกอบการรายบุคคลจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับตนเองและพนักงานหรือไม่?

ผู้ประกอบการแต่ละรายจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพื่อตนเองหรือไม่? คำถามนี้มักเกิดขึ้นในหมู่นักธุรกิจ ผู้ประกอบการแต่ละรายสามารถใช้โหมดต่อไปนี้เพื่อจ่ายรายได้จากผลกำไร:

• ระบบภาษีแบบง่าย - ภาษีแบบง่าย
• OSNO - การจัดเก็บภาษีตามระบอบการปกครองทั่วไป
• UTII - ภาษีเดียวสำหรับรายได้ที่ใส่ไว้;
• การจัดเก็บภาษีของกิจกรรมภายใต้สิทธิบัตร (PTS)

ไม่ว่าผู้ประกอบการรายบุคคลจะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับตนเองหรือไม่นั้นจะต้องมีการชี้แจงตามระบบภาษีที่เขาเลือก

ภาษีเงินได้สำหรับผู้ประกอบการที่ใช้ระบบภาษีแบบง่าย

ตามกฎหมายแล้ว ตัวแทนภาษีที่ทำงานภายใต้ระบบการจัดเก็บภาษีแบบง่ายไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่จะใช้เฉพาะกับรายได้ที่ได้รับจากการดำเนินธุรกิจที่อยู่ภายใต้ระบบภาษีแบบง่ายเท่านั้น และจะไม่ยกเลิกหน้าที่ของผู้เสียภาษีในการชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับนักธุรกิจในรูปแบบ "ง่าย" ในอัตราและในกรณีที่ระบุไว้ในวรรค 2, 4, 5 ของศิลปะ 226 กฎหมายภาษี

กำไรที่ผู้ประกอบการประกาศสำหรับประเภทของกิจกรรมที่รวมอยู่ในทะเบียน Unified State ของผู้ประกอบการรายบุคคลจะไม่ถูกหักภาษีรายได้ที่ได้รับจากประเภทธุรกิจที่ไม่รวมอยู่ในทะเบียน Unified State ของผู้ประกอบการแต่ละรายได้รับการพิจารณาโดยผู้ตรวจสอบภาษีว่าเป็นผลประโยชน์ที่บุคคลทั่วไปได้รับและต้องเสียภาษี 13%

คุณสามารถลดจำนวนเงินนี้ได้โดยการอ้างสิทธิ์ในการหักลดหย่อนภาษี

กลับไปที่เนื้อหา

กรณีพิเศษของการชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของผู้ประกอบการ

ผู้ประกอบการจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (เงินหรือวัสดุ) สำหรับรายได้ในรูปแบบของของขวัญรางวัลที่ได้รับจากการเข้าร่วมโปรโมชั่นต่าง ๆ ที่นำเสนอโดยร้านค้าเชิงพาณิชย์หรือผู้ผลิตสินค้าในจำนวนเกิน 4 พันรูเบิล

กำไรเงินสดที่เกิดจากสินเชื่อจะถูกหักภาษี

รายได้นี้คำนวณเป็น 2/3 ของอัตราของธนาคารกลางในปัจจุบัน ลบด้วยจำนวนเงินเทียบเท่าที่ระบุไว้ในเอกสารเงินกู้ ในกรณีของสินเชื่อสกุลเงินต่างประเทศ กำไรในรูปตัวเงินจะต้องคำนวณจากอัตรา 9% ลบด้วยจำนวนดอกเบี้ยที่ระบุในเอกสาร (ควบคุมโดยมาตรา 212 และ 224 ของกฎหมายภาษี)

ผู้ประกอบการแต่ละรายจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้ตนเองในกรณีต่อไปนี้:

1. เมื่อได้รับกำไรในอัตราดอกเบี้ยจากเงินฝากธนาคาร (รูเบิลหรือสกุลเงินต่างประเทศ) รายได้รูเบิลคำนวณตามอัตราของธนาคารกลางบวก 5 เปอร์เซ็นต์ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ - ในอัตรา 9%
2. จากเงินปันผลที่ได้รับกรณีเข้าร่วมสมาคมอื่น
3. จากกำไรที่ได้รับจากแหล่งต่างประเทศ
4. จากกองทุนซึ่งด้วยเหตุผลบางประการไม่ได้หักภาษีเงินได้ (มาตรา 228 ของกฎหมายภาษี)

ผู้ประกอบการแต่ละรายที่มีภาระผูกพันในการจ่ายภาษีเงินได้จะต้องชำระค่าธรรมเนียมภายในวันที่ 15 กรกฎาคมของปีถัดจากปีที่รายงาน โดยก่อนหน้านี้ได้ส่งคำชี้แจงรายได้ไปยังหน่วยงานด้านภาษีภายในวันที่ 30 เมษายน

หากมีการจ้างคนงานภายนอก ผู้ประกอบการจะได้รับการยอมรับว่าเป็นตัวแทนและจะต้องจ่ายเงินสมทบภาษีจากรายได้ของพวกเขา จากพลเมืองรัสเซีย - 13% จากพลเมืองต่างประเทศ - 30% และตามกฎหมายให้จัดทำเอกสารตัวอย่างที่ประกาศไว้สำหรับผู้ตรวจภาษี
เงินที่ถูกหักไว้เพื่อชำระภาษีจะต้องโอนเข้ากองทุนงบประมาณในวันถัดไปภายหลังการจ่ายเงินเดือน (หนังสือกระทรวงการคลัง ลงวันที่ 14 มีนาคม 2556 เลขที่ 03-0405/8-216)

กลับไปที่เนื้อหา

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับนักธุรกิจใน OSNO

ผู้ประกอบการแต่ละรายที่ดำเนินธุรกิจภายใต้ระบอบ OSNO จะต้องชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากกำไรที่ได้รับจากประเภทของกิจกรรมที่ประกาศในทะเบียนวิสาหกิจแบบครบวงจร การคำนวณฐานภาษีและเงินสมทบภาษีมีอธิบายไว้ในบทที่ 23 ประมวลกฎหมายภาษี ตามที่กล่าวไว้สำหรับผู้ที่มีสถานะเป็นผู้ประกอบการรายบุคคลเสนอให้ชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้สองวิธี:

โอนล่วงหน้าหลังจากได้รับแจ้งจากกรมสรรพากรแล้ว:

• การชำระเงินสำหรับหกเดือนก่อนหน้าจะครบกำหนดภายในวันที่ 15 กรกฎาคม
• การชำระเงินสำหรับไตรมาสที่สามจะครบกำหนดภายในวันที่ 15 ตุลาคม
• คุณต้องชำระเงินสำหรับไตรมาสที่สี่ภายในวันที่ 15 มกราคม

จากข้อมูลที่ส่งไปยังสำนักงานสรรพากรหลังจากแก้ไขแล้วจะมีการชำระเงินเพิ่มเติมหรือการคืนเงินที่เป็นไปได้สำหรับการชำระเงินที่คำนวณไม่ถูกต้อง

1. การแปลโดยใช้วิธีการล่วงหน้าได้กำหนดกำหนดเวลาไว้อย่างชัดเจน ดังนั้นการไม่ชำระล่วงหน้าตรงเวลาจะต้องเสียค่าปรับ (มาตรา 75 ของรหัสภาษีของสหพันธรัฐรัสเซีย)

เงินสมทบล่วงหน้าที่จ่ายโดยบุคคลที่มีสถานะเป็นผู้ประกอบการภายใต้ระบอบ OSN จะถูกคำนวณตามรายได้จริงหรือรายได้โดยประมาณ ลบการหักเงินตามมาตรา 218, 221 ของกฎหมายภาษี และแสดงในการคืนภาษีเงินได้ของบุคคลและร้านค้าสำหรับระยะภาษีก่อนหน้า

หลังจากคำนวณเงินทดรองจ่ายแล้ว ระบบจะสร้างการแจ้งเตือนการชำระเงินและส่งไปยังนักธุรกิจ หากไม่ได้รับก็ไม่มีหนี้ปรากฏ ตามหนังสือกระทรวงการคลัง ลงวันที่ 15 เมษายน 2554 เลขที่ 03-04-05/3-266

1. การโอนหรือการชำระเงินเพิ่มเติมเกิดขึ้นเนื่องจากการแก้ไขข้อมูลหากมีการเปลี่ยนแปลง

หากมีการเปลี่ยนแปลงมากกว่าครึ่งหนึ่ง ผู้ประกอบการแต่ละรายจะต้องประกาศรายได้ในแบบฟอร์ม 4-NDFL เพื่อปรับการชำระเงินล่วงหน้า ผู้ประกอบการแต่ละรายมีหน้าที่ต้องยื่นคำประกาศตามผล 12 เดือนไปยัง Federal Tax Service ภายในวันที่ 30 เมษายน ค่าธรรมเนียมที่รวมอยู่ในการประกาศลบด้วยจำนวนเงินล่วงหน้าจะต้องรวมอยู่ในงบประมาณไม่เกินวันที่ 15 กรกฎาคม

ผู้ประกอบการแต่ละรายมีสิทธิที่จะได้รับการหักเงินที่เกี่ยวข้องกับรายได้ที่ต้องเสียภาษีที่ระบุไว้ในรหัสภาษี (ข้อ 1 ข้อ 220)

ในกรณีที่ใช้จ่ายเพื่อการกุศล การประกันบำนาญเพิ่มเติม การรักษาและการฝึกอบรมที่มีราคาแพง ผู้ประกอบการแต่ละรายจะได้รับสิทธิ์ในการหักเงินทางสังคม

อย่าลืมว่าในกรณีขาดทุนจากกิจกรรมระหว่างงวดภาษีฐานภาษีจะไม่ลดลง

พลเมืองทุกคนจะต้องชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ผู้ประกอบการรายบุคคลรวมอยู่ในหมวดหมู่นี้

ผู้ประกอบการแต่ละรายสามารถทำงานภายใต้ระบบภาษีที่แตกต่างกันได้ กิจกรรมส่วนใหญ่ดำเนินการโดยใช้ระบบภาษีแบบง่าย โหมดมาตรฐาน UTII รวมถึงภาระผูกพันด้านสิทธิบัตร

เรียนผู้อ่าน! บทความนี้พูดถึงวิธีทั่วไปในการแก้ไขปัญหาทางกฎหมาย แต่แต่ละกรณีเป็นรายบุคคล หากท่านต้องการทราบวิธีการ แก้ไขปัญหาของคุณได้อย่างตรงจุด- ติดต่อที่ปรึกษา:

แอปพลิเคชันและการโทรได้รับการยอมรับตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันและ 7 วันต่อสัปดาห์.

มันเร็วและ ฟรี!

ขึ้นอยู่กับว่านักธุรกิจใช้ระบบใดจะพิจารณาว่าผู้ประกอบการแต่ละรายจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือไม่ สิ่งสำคัญคือต้องค้นหาขั้นตอนการหักภาษี ณ ที่จ่ายและการโอนภาษีในปี 2562

วิธีการและระบบ

ผู้ประกอบการแต่ละรายสามารถใช้ระบบภาษีแบบใดแบบหนึ่งเพื่อเลือกระหว่างการทำงานได้

ในหมู่พวกเขาสิ่งที่พบบ่อยที่สุดคือ:

• ระบบประยุกต์();
• โหมดทั่วไป (OSNO);
• UTII ซึ่งจัดเก็บภาษีจากรายได้ที่เรียกเก็บ
• สิทธิบัตร

หากต้องการทราบว่าผู้ประกอบการแต่ละรายจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือไม่ สิ่งสำคัญคือต้องทราบระบบภาษีและคุณลักษณะของการสมัคร เมื่อเลือกระบบทั่วไปจะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา การชำระเงินทำได้หลายวิธี

ผู้ประกอบการสามารถชำระเงินล่วงหน้าหลังจากได้รับใบเสร็จรับเงินที่ส่งจาก Federal Tax Service ภาษีสำหรับครึ่งปีแรกจะต้องชำระภายในวันที่ 15 กรกฎาคม สำหรับไตรมาสที่สามและสี่ การชำระเงินจะครบกำหนดภายในวันที่ 15 ตุลาคม และ 15 มกราคม ตามลำดับ

ในตอนท้ายของปีจะมีการส่งคำประกาศไปยังหน่วยงานด้านภาษี ตามเอกสารระบุความจำเป็นในการชำระเงินเพิ่มเติมหรือการคืนเงินจากคลัง

หากการชำระเงินล่วงหน้าล่าช้าอาจมีการเรียกเก็บค่าปรับ บรรทัดฐานดังกล่าวสะท้อนให้เห็นในมาตรา 75 ของรหัสภาษีของสหพันธรัฐรัสเซีย

เงินสมทบล่วงหน้าจะถูกกำหนดตามข้อมูลที่ให้ไว้ในประกาศครั้งก่อน หน่วยงานด้านภาษีควรมุ่งเน้นไปที่มาตรา 218 และ 221 ของรหัสภาษีของสหพันธรัฐรัสเซีย สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงการหักเงินด้วย

สิ่งที่ต้องพิจารณา

ตามมาตรา 227 ของรหัสภาษีของสหพันธรัฐรัสเซีย ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะจ่ายโดยทั้งประชาชนทั่วไปและผู้ประกอบการรายบุคคล หลังจะต้องจดทะเบียนอย่างเป็นทางการ แต่ไม่ถือเป็นนิติบุคคล และยังได้รับรายได้ระหว่างกิจกรรมด้วย

การคำนวณและการชำระภาษีดำเนินการโดยผู้ประกอบการแต่ละรายอย่างเป็นอิสระ การชำระเงินจะถูกส่งภายในวันที่ 15 กรกฎาคมของปีรายงานถัดไป

คุณไม่จำเป็นต้องทำการฝากเงินเพียงครั้งเดียว ผู้เสียภาษีจะต้องชำระเงินหลายครั้งตลอดทั้งปี จำนวนเงินจะถูกกำหนดโดยหน่วยงานด้านภาษีตามข้อมูลที่ระบุในการประกาศครั้งก่อน

จะทราบได้อย่างไรว่าผู้ประกอบการรายบุคคลจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือไม่

ตามมาตรา 227 แห่งประมวลกฎหมายภาษีของสหพันธรัฐรัสเซีย บุคคลที่มีสถานะเป็นผู้ประกอบการแต่ละรายจะต้องชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หากพลเมืองมีหน้าที่ต้องจ่ายเงิน หน่วยงานภาษีจะคำนวณจำนวนเงินและส่งการแจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการแต่ละราย เอกสารใหม่จะถูกส่งไม่เกินหนึ่งเดือนก่อนถึงกำหนดการชำระเงิน หากฝากเงินไม่ตรงเวลา จะมีการเรียกเก็บค่าปรับ

ตามกฎหมายแล้ว ผู้ประกอบการแต่ละรายมีสิทธิ์เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้งรายได้ทั่วไปและค่าใช้จ่ายซึ่งมีหลักฐานเป็นหลักฐาน ดังนั้นคุณสามารถใช้เป็นพื้นฐานได้ไม่เพียง แต่รายได้ แต่ยังรวมถึงค่าใช้จ่ายด้วย การเก็บภาษีจะใช้กับรายได้เพียงบางส่วนเท่านั้น

ในการกำหนดค่านี้ ผู้ประกอบการแต่ละรายจะต้องทำการคำนวณ อยู่ภายใต้การควบคุมโดยบทที่ 25 ของรหัสภาษีของสหพันธรัฐรัสเซีย มันสะท้อนถึงต้นทุนหลักที่คุณสามารถมุ่งเน้นได้

สามารถชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้หาก:

• การพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ
• การผลิตผลิตภัณฑ์หรือการให้บริการ
• การสนับสนุนกระบวนการผลิต
• การบำรุงรักษา การซ่อมแซมอุปกรณ์และเครื่องจักรหลัก
• การพัฒนางานวิจัย
• การประกันภัยภาคสมัครใจและภาคบังคับ

คุณลักษณะของการคำนวณคือการรวมภาษีของรัฐไว้ในค่าใช้จ่าย ดังนั้นเมื่อชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจำนวนเงินที่ชำระจึงลดลงอย่างมาก

มีบางกรณีที่ไม่มีการชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สิ่งนี้เป็นไปได้ภายใต้ระบบภาษีแบบง่าย เมื่อผู้ประกอบการแต่ละรายได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายภาษีทรัพย์สินและภาษีเงินได้

หากผู้ประกอบการใช้โหมดทั่วไป เขาจะต้องเปลี่ยนไปใช้โหมดแบบง่าย เขาจะสามารถลืมการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไปได้เลย

ในกรณีการบัญชีตาม OSNO จะต้องเสียภาษี ในขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการแต่ละรายไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อตนเองเท่านั้น ถ้าเขามีพนักงานก็จะหักภาษี 13% จากพวกเขาด้วย

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไม่ได้กำหนดไว้ภายใต้ระบบสิทธิบัตร นักธุรกิจจะต้องบริจาคเงินจำนวนหนึ่งตามที่ระบุไว้ในสิทธิบัตร

ใครควรมีส่วนร่วม?

ผู้ประกอบการจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาโดยอิสระ นอกจากนี้ หากพนักงานทำงานให้กับนักธุรกิจ จะต้องชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากรายได้ของพวกเขา

สำหรับตัวฉันเอง

ผู้ประกอบการไม่สามารถสรุปสัญญาจ้างงานได้อย่างอิสระ จึงเกิดคำถามเกี่ยวกับการชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ตามจดหมายหมายเลข 358-6-1 ซึ่งจัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552 และมาตรา 129 แห่งประมวลกฎหมายแรงงานของสหพันธรัฐรัสเซีย ค่าจ้างถือเป็นค่าตอบแทนสำหรับกิจกรรมด้านแรงงาน มันหมายถึงการจ่ายเงินจูงใจ

ประมวลกฎหมายแพ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย (มาตรา 2) สะท้อนถึงขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ มันเกี่ยวข้องกับบุคคลที่ได้รับรายได้ที่แน่นอน กฎหมายระบุว่าการดำเนินงานที่ดำเนินการโดยผู้ประกอบการไม่ถือเป็นกิจกรรมด้านแรงงาน

ในกรณีนี้กำไรที่บุคคลได้รับระหว่างการทำงานจะต้องเสียภาษี ดังนั้นหากใช้ระบบการปกครองทั่วไปคุณจะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับตนเอง ข้อยกเว้นคือสถานการณ์เมื่อดำเนินการจัดเก็บภาษีภายใต้ระบบการปกครองแบบง่ายหรือแบบยัดเยียด

สำหรับพนักงาน

หากผู้ประกอบการรายบุคคลจ้างบุคคลอื่น จะต้องชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากรายได้ของพวกเขา ภาษี 13% จะถูกหักและโอนจากจำนวนเงินที่สะสมไว้เป็นค่าจ้าง

ดังนั้นด้วยเงินเดือน 10,000 รูเบิลภาษีจะอยู่ที่ 1,000 300 รูเบิล เงินที่เหลือจะถูกโอนไปยังพนักงานในรูปของเงินเดือน

ในระหว่างการคำนวณนายจ้างต้องคำนึงถึงการหักเงินด้วย จำเป็นต้องมี เช่น หากพนักงานมีบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ

ตัวอย่างอัลกอริทึมและการคำนวณ

เมื่อใช้ระบบภาษีทั่วไป การหักเงินจะคำนวณโดยใช้สูตรต่อไปนี้:

N = (Exp. – Exp. – Deut.) * Stav

ระยะเวลาการรายงานสำหรับการคำนวณจะต้องพิจารณา 12 เดือน หากการลงทะเบียนของผู้ประกอบการรายบุคคลเกิดขึ้นเมื่อต้นปี แต่กิจกรรมได้เริ่มในภายหลัง การนับถอยหลังจะดำเนินการตั้งแต่วินาทีที่งานเริ่มทำงาน

เมื่อคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาคุณต้องเน้นไปที่อัลกอริทึมต่อไปนี้:

1. ขั้นแรก รายได้ทั้งหมดในปีที่รายงานจะถูกจัดกลุ่มเพื่อกำหนดอัตราสำหรับรายได้เหล่านั้น การจัดเก็บภาษีมาตรฐานดำเนินการในอัตรา 13% สำหรับผู้ที่ไม่มีถิ่นที่อยู่ จะใช้ 30% ของรายได้ กรณีรับรายได้เป็นดอกเบี้ยพันธบัตรจำนอง อัตรา 9% เมื่อคุณได้รับชัยชนะจากกำไรมากกว่า 4 พันรูเบิล จะมีการหักภาษี 35%
2. ถัดไปจะกำหนดค่าใช้จ่ายสำหรับปีปัจจุบัน พวกมันยังถูกจัดกลุ่มตามสายพันธุ์
3. ในระยะต่อไป จะมีการคำนวณจำนวนเงินที่ลดฐานภาษี การหักเงินนี้สามารถนำไปใช้กับรายได้ที่ต้องเสียภาษีในอัตรา 13%
4. มีความจำเป็นต้องกำหนดจำนวนค่าธรรมเนียมภาษี หากกิจกรรมหนึ่งต้องใช้อัตราที่แตกต่างกัน ระบบจะคำนวณแต่ละประเภทแยกกัน

เพื่อชี้แจงขั้นตอนการคำนวณคุณต้องพิจารณาตัวอย่างการจ่ายภาษีโดยผู้ประกอบการที่ไม่มีพนักงาน

ผู้ประกอบการรายบุคคล Stolyarov ขายผักและผลไม้

ในปี 2562 เขาได้รับรายได้:

ในเดือนพฤษภาคม Stolyarov จ่ายค่าเล่าเรียนของลูกชายเป็นจำนวน 75,000 300 รูเบิล

• เมื่อกำหนดภาษีธุรกิจจะคำนึงถึงอัตรา 13% การหักจาก 815,000 123 รูเบิลจะเป็น 50,000 รูเบิล การคำนวณคือ 815123 - 50000 และผลลัพธ์จะคูณด้วย 13% ภาษีอยู่ที่ 99,000 465 รูเบิล 99 โกเปค
• เมื่อขายอพาร์ทเมนต์ไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากผู้ประกอบการแต่ละรายมีสิทธิ์ในเรื่องนี้มานานกว่าสามปี
• เงินปันผลที่ได้รับจากผู้ประกอบการจะต้องเสียภาษีในอัตรา 13% ภาษีจะอยู่ที่ 13,000 759 รูเบิล 85 โกเปค
• จำนวนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีสุดท้ายคือ 113,000 225 รูเบิล 84 โกเปค

หน้าที่หมายถึงอะไร?

ภาระผูกพันในการจ่ายภาษีสำหรับรายได้ส่วนบุคคลนั้นเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงการประยุกต์ใช้ระบบการจัดเก็บภาษี:

โหมดพิเศษ

ไม่มีการชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหากผู้ประกอบการแต่ละรายเปลี่ยนไปใช้ระบบภาษีแบบง่ายหรือระบบสิทธิบัตรก่อนเริ่มรอบระยะเวลารายงาน นอกจากนี้ยังไม่มีการหักเงินเมื่อใช้ UTII จากรายได้จากกิจกรรมที่ระบุไว้ในทะเบียน

ในบางกรณี ผู้ประกอบการแต่ละรายแม้จะอยู่ภายใต้ระบอบการปกครองพิเศษ ก็ยังต้องจ่ายภาษี:

• หากคุณได้รับเงินกู้จากผู้ประกอบการรายอื่นหรือนิติบุคคลในอัตรา 0% ภาษีจะพิจารณาจากเงินออมที่ได้รับจากส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ย
• ในกรณีที่ได้รับเงินปันผลระหว่างการเข้าร่วมในบริษัทร่วมหุ้น ตัวแทนภาษีจะหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากกองทุนของผู้ประกอบการแต่ละราย
• เมื่อผู้ประกอบการขายทรัพย์สินขั้นตอนการชำระภาษีจะคล้ายกับบุคคลทั่วไป
• หากผู้ประกอบการชนะลอตเตอรีมากกว่า 4 พันรูเบิลจะต้องชำระภาษี
• ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะคำนวณเมื่อรับรายได้จากบริษัทต่างประเทศ
• หนี้อาจถูกตัดออกสำหรับจำนวนเงินที่ไม่ได้ประกาศภายในเวลาที่กำหนด

เงื่อนไขหลักในการยกเว้นการชำระภาษีคือการดำเนินกิจกรรมที่ระบุระหว่างการลงทะเบียน หากสังเกตความเบี่ยงเบนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะรวมอยู่ในงบประมาณ

ขั้นตอนการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสะท้อนให้เห็นในระดับกฎหมาย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องศึกษาหลักกฎหมายให้ถี่ถ้วนเพื่อดูว่าคุณต้องเสียภาษีหรือไม่

ความสนใจ!

• เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายบ่อยครั้ง บางครั้งข้อมูลจึงล้าสมัยเร็วกว่าที่เราจะอัปเดตบนเว็บไซต์ได้
• ทุกกรณีเป็นเรื่องส่วนตัวและขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ข้อมูลพื้นฐานไม่ได้รับประกันวิธีแก้ปัญหาเฉพาะของคุณ

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาถือเป็นภาษีประเภทหนึ่งที่สำคัญและจำเป็นที่สุด พลเมืองของสหพันธรัฐรัสเซียทุกคนที่ได้รับผลกำไรจะต้องชำระ และถึงแม้ว่าภาษีนี้จะบังคับสำหรับทุกคน แต่หลายคนมักสนใจคำถามนี้ ผู้ประกอบการแต่ละรายจ่ายภาษีเงินได้ภายใต้ระบบภาษีแบบง่ายหรือไม่?

การชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะต้องชำระภายในระยะเวลาที่กำหนดโดยทั้งผู้ประกอบการและพนักงาน ข้อกำหนดนี้มักสร้างความสับสนให้กับนักธุรกิจจำนวนมากที่ตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ระบบภาษีแบบง่าย

ผู้ประกอบการแต่ละรายที่ไม่ต้องการใช้เวลามากในการเตรียมเอกสารการรายงานมักคิดถึงการใช้ระบบภาษีนี้ เอกสารเดียวที่ต้องกรอกและส่งไปยังสำนักงานสรรพากรภายในเวลาที่กำหนดคือการประกาศ

เมื่อตัดสินใจใช้ ONS ผู้ประกอบการต้องเผชิญกับทางเลือก เขาต้องเลือกอัตราภาษี แต่ละคนมีข้อดีของตัวเอง ดังนั้นการลดหย่อนภาษีในอัตราหนึ่งจะดำเนินการจากจำนวนรายได้สุทธิในขณะที่อัตราประเภทอื่นจัดให้มีการลดหย่อนภาษีจากกำไรทั้งหมด หลังจากเลือกอัตราแล้ว งานทั้งหมดกับรายงานสำหรับผู้ประกอบการจะสิ้นสุดที่นี่ อัตราภาษีอัตราหนึ่งที่ใช้ภายใต้ระบบภาษีแบบง่ายทำให้ไม่จำเป็นต้องจ่ายภาษีอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาภาคบังคับ

และถึงแม้ว่าเมื่อใช้ระบบภาษีแบบง่าย ผู้ค้าไม่จำเป็นต้องจ่ายภาษีนี้ แต่ก็มีบางสถานการณ์ที่เมื่อใช้ระบบแบบง่าย เขายังคงจำเป็นต้องโอนเงินภายใต้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา รหัสภาษีของสหพันธรัฐรัสเซียกล่าวว่า: เมื่อใช้ "การเก็บภาษีแบบง่าย" ผู้ประกอบการแต่ละรายจะใช้อัตราใดอัตราหนึ่งที่แสดงในระบบภาษีนี้ ได้แก่ 15% หรือ 6% อัตราเหล่านี้ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีอื่นๆ

Simplifier ต้องจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเมื่อใด

บ่อยครั้งที่ตัวทำให้ง่ายขึ้นต้องเผชิญกับการชำระภาษีประเภทนี้เมื่อได้รับกำไรจากกิจกรรมที่ไม่รวมอยู่ในรายการระบบภาษีแบบง่ายและทะเบียน Unified State ของผู้ประกอบการแต่ละราย แต่อาจมีสาเหตุอื่น หนึ่งในนั้นคือการชนะรางวัลมากกว่า 4,000 รูเบิล ผู้ประกอบการสามารถรับได้โดยเข้าร่วมโปรโมชั่นที่จัดขึ้นโดยผู้ผลิตหรือองค์กรการค้าเพื่อเพิ่มความสนใจในผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ

คุณจะต้องจ่ายภาษีในสถานการณ์ที่มีการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน เป็นที่น่าสังเกตว่าในกรณีนี้อัตราภาษีที่จ่ายจะเป็น 2/3 ของอัตราดอกเบี้ยที่แสดงในข้อตกลงรีไฟแนนซ์ ข้อกำหนดด้านภาษีนี้ใช้กับจำนวนเงินที่ยืมในสกุลเงินของรัฐบาล แต่ถ้าจำนวนเงินเป็นสกุลเงินต่างประเทศ จำนวนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะถูกหักจากส่วนต่างที่ได้รับระหว่างอัตราที่ใช้ตามที่ระบุไว้ในเอกสารสัญญาและ 9%

ผู้ประกอบการแต่ละรายที่ทำงานภายใต้ระบบภาษีแบบง่ายจะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในกรณีดอกเบี้ยและเงินปันผลที่ได้รับจากการฝากเงินตราต่างประเทศ อัตราที่ใช้ในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะแตกต่างกันไปในแต่ละสถานการณ์การฝากเงิน ในกำไรประเภทส่วนใหญ่จะใช้ 13% แต่ในบางกรณีจะใช้อัตราดอกเบี้ยอื่น ดังนั้นเงินรางวัลที่ได้รับจากโปรโมชั่นหรือลอตเตอรีจะต้องเสียภาษีในอัตรา 35%

การชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ผู้ประกอบการแต่ละรายที่ทำงานภายใต้ระบบภาษีแบบง่าย แต่ได้รับผลกำไรจากกิจกรรมประเภทหนึ่งที่จำเป็นต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะต้องจัดการกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าใจโครงการสำหรับผู้ประกอบการแต่ละรายที่ทำงานเกี่ยวกับระบบภาษีทั่วไปพร้อมภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จัดให้มีการโอนเงินรายไตรมาสสำหรับภาษีที่ระบุ

ผู้ที่ได้รับรายได้ที่เข้าเกณฑ์ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะต้องชำระภาษีแตกต่างออกไปเล็กน้อย ในกรณีนี้จะโอนปีละครั้งจนถึงวันที่ 30 เมษายนของปีใหม่ถัดจากช่วงภาษีที่หมดอายุ นอกจากการชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแล้ว ผู้ประกอบการแต่ละรายยังต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีพร้อมข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ส่วนบุคคลภายในกำหนดเวลานี้ด้วย

เป็นที่น่าสังเกตว่ามีความแตกต่างเล็กน้อยอีกประการหนึ่งเกี่ยวกับการหักเงิน ผู้ค้าที่ดำเนินการภายใต้ระบบที่เรียบง่ายจะถูกลิดรอนสิทธิ์ในการขอหักเงิน แม้ว่าจะมีเหตุผลที่น่าสนใจสำหรับขั้นตอนนี้ก็ตาม แต่เมื่อชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา Simplifier มีสิทธิ์ดำเนินการตามขั้นตอนการขอคืนภาษีได้ ในการดำเนินการนี้ เขาจะต้องเตรียมเอกสารที่เหมาะสมเท่านั้น

ผู้ใช้แรงงาน

แม้ว่าระบบภาษีที่เรียบง่ายจะช่วยลดความจำเป็นในการจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ผู้ประกอบการแต่ละรายก็ต้องจัดการกับเรื่องนี้เมื่อจ้างพนักงาน โดยทำตามขั้นตอนการลงทะเบียนเพื่อรับสถานะนายจ้าง ผู้ประกอบการแต่ละรายจะกลายเป็นตัวแทนภาษีสำหรับคนงานที่เขาจ้าง เมื่อได้รับสถานะนี้ ท่ามกลางความรับผิดชอบของเขา นอกเหนือจากการจ่ายระบบภาษีแบบง่ายแล้ว ยังมีการโอนจำนวนภาษีเป็นงบประมาณสำหรับพนักงานที่ทำงานให้เขาด้วย

แม้ว่านักธุรกิจในสถานการณ์เช่นนี้จะต้องโอนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากรายได้ของพนักงาน แต่เขาเองก็จ่ายเฉพาะในกรณีที่รายได้ที่ได้รับจากแหล่งและกิจกรรมที่ไม่รวมอยู่ในรายการระบบภาษีแบบง่าย

ส่วนที่สองของรหัสภาษีของสหพันธรัฐรัสเซียให้คำตอบที่ชัดเจนสำหรับคำถามที่ว่าผู้ประกอบการแต่ละรายควรจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับตัวเขาเองหรือไม่ เนื่องจากความนิยมของกิจกรรมเชิงพาณิชย์รูปแบบนี้สูงมากในหมู่ประชากร คำตอบสำหรับคำถามนี้จึงมีความเกี่ยวข้อง ด้านล่างนี้เราจะมาดูอย่างใกล้ชิดว่าระบบภาษีที่ผู้ประกอบการแต่ละรายใช้ส่งผลต่อการชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอย่างไร นอกจากนี้เรายังจะตอบคำถามว่าต้องทำอย่างไรหากระบบภาษีของผู้ประกอบการแต่ละรายมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงระยะเวลาภาษี

ระบบภาษี

1. STS (ระบบภาษีแบบง่าย) หากผู้ประกอบการแต่ละรายอยู่ในการคำนวณภาษีประเภทพิเศษนี้ให้เป็นไปตามมาตรา มาตรา 346.11 (ส่วนที่ 3) ของรหัสภาษีของสหพันธรัฐรัสเซีย ได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในทุกกรณีสำหรับรายได้ที่ได้รับจากกิจกรรมทางธุรกิจ
2. OSN (ระบบภาษีอากรทั่วไป) หากผู้ประกอบการแต่ละรายดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจภายในกรอบของ OSN ให้เป็นไปตามมาตรา 1 มาตรา 227 แห่งประมวลกฎหมายภาษีของสหพันธรัฐรัสเซีย ผู้ประกอบการแต่ละรายจะต้องชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วยตนเอง โดยจะต้องชำระภาษีเงินได้บุคคลล่วงหน้าปีละสามครั้ง (15 กรกฎาคม, 15 ตุลาคม และ 15 มกราคมของแต่ละปี) นอกจากนี้จะมีการชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีไม่ช้ากว่าวันที่ 15 กรกฎาคมของปีถัดจากปีที่รายงาน จำนวนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีคำนวณโดยคำนึงถึงการชำระเงินล่วงหน้าที่ชำระไว้ก่อนหน้านี้
3. การเปลี่ยนจากระบบภาษีแบบง่ายไปสู่ ​​OSN หากระยะเวลาภาษีเริ่มต้นสำหรับผู้ประกอบการแต่ละรายภายใต้กรอบของระบบภาษีแบบง่าย แต่ ณ จุดหนึ่งนั้นเกินขีดจำกัด 60 ล้านรูเบิลที่กำหนดไว้ในวรรค 4 ของศิลปะ มาตรา 346.13 ของรหัสภาษี ผู้ประกอบการแต่ละรายดังกล่าวมีหน้าที่คำนวณฐานภาษีใหม่อย่างอิสระและเริ่มจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามกฎทั่วไป

ดังนั้นการชำระหรือไม่ชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาโดยผู้ประกอบการแต่ละรายจึงถูกกำหนดโดยระบบภาษีที่เขาใช้ ภายใต้เงื่อนไขการใช้ระบบแบบง่ายไม่จำเป็นต้องชำระเงิน แต่ในระบบทั่วไปก็มี

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเป็นการหักภาษีโดยตรง คำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ของรายได้ ในการตอบคำถามอย่างแม่นยำว่าผู้ประกอบการแต่ละรายจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับตนเองหรือไม่คุณต้องรู้ว่าเขาใช้วิธีการเก็บภาษีแบบใด (ตัวอย่างเช่นมีความแตกต่างอย่างมาก - ระบบภาษีแบบง่ายหรือ OSNO) ขั้นตอนการคำนวณและชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปี 2561 ยังคงเหมือนกับปี 2560

เมื่อทำงานในโหมดพิเศษ

แต่มีข้อยกเว้นหลายประการที่กำหนดสำหรับการชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ประกอบการแต่ละรายในปี 2561 และภายใต้ระบอบการปกครองพิเศษเหล่านี้ ซึ่งรวมถึงสถานการณ์ต่อไปนี้ (ดูตาราง)

จำเป็นต้องชำระเงินตามขั้นตอนทั่วไป

หากผู้ประกอบการแต่ละรายไม่ได้เปลี่ยนไปใช้ระบอบการปกครองพิเศษใด ๆ และทำงานให้กับ OSNO เขาจะต้องชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คำถามที่ว่าผู้ประกอบการแต่ละรายจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้ตัวเองไม่ได้เกิดขึ้นที่นี่

มาตรา 227 แห่งรหัสภาษีของสหพันธรัฐรัสเซียกำหนดให้การชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรูปแบบของการชำระเงินล่วงหน้าภายในระยะเวลาที่กำหนดดังต่อไปนี้:

• ก่อนวันที่ 15 กรกฎาคม – ในช่วงหกเดือนแรก
• จนถึงวันที่ 15 ตุลาคม – สำหรับไตรมาสที่สาม
• จนถึงวันที่ 15 มกราคม – สำหรับไตรมาสที่สี่ (ชำระเงินในปีถัดไปถัดจากรอบระยะเวลารายงาน)

การโอนจะดำเนินการตามการแจ้งเตือนที่ได้รับจาก Federal Tax Service ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเมื่อทำการคำนวณจะได้รับคำแนะนำจากข้อมูลเกี่ยวกับกำไรโดยประมาณของผู้ประกอบการแต่ละราย

หลังจากสิ้นสุดรอบระยะเวลารายงาน ผู้ประกอบการเองจะคำนวณจำนวนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่จ่ายแน่นอน ในกรณีนี้จะคำนึงถึงรายได้และค่าใช้จ่ายตลอดทั้งปีด้วย อย่าลืม: ผู้ประกอบการแต่ละรายจะต้องโอนจำนวนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่คำนวณได้หักด้วยการชำระเงินล่วงหน้าไปยังคลังภายในวันที่ 15 กรกฎาคมของปีรายงานถัดไป

ตัวอย่าง
หากในปี 2561 ผู้ค้าชำระเงินล่วงหน้าเป็นจำนวน 45,000 รูเบิล และจำนวนเงินที่เขาคำนวณในภายหลังกลายเป็น 63,000 รูเบิล จากนั้นเขาจะต้องจ่ายอีก 18,000 รูเบิลให้กับคลังไม่ช้ากว่าระยะเวลาดังกล่าว