เบนนี่นักดนตรีแจ๊ส ...

อักษรตัวแรก "g"

อักษรตัวที่สอง "y"

อักษรตัวที่สาม "d"

อักษรบีชตัวสุดท้าย "n"

คำตอบสำหรับคำถาม "Benny นักดนตรีแจ๊ส ... " ตัวอักษร 6 ตัว:
คนดี

คำถามคำไขว้ทางเลือกสำหรับคนดี

นักดนตรีแจ๊สชาวอเมริกันนักคลาริเน็ตผู้นำวงดนตรีนักแต่งเพลง (2452-2529)

นักแสดงชาวอเมริกันที่รับบทเป็นเฟรดในภาพยนตร์เรื่อง "The Flintstones"

นักแสดงชาวอเมริกันที่รับบทเป็นจอห์นแชมเบอร์สในภาพยนตร์เรื่อง Operation Argo

อเมริกัน. นักดนตรีแจ๊สเบนนี่ ...

นักแสดงชาวอเมริกันที่รับบทเป็นฮาวเวิร์ดในภาพยนตร์เรื่อง "Cloverfield 10"

นักดนตรีแจ๊สชาวอเมริกันฉายาราชาแห่งวงสวิง

นักแสดงชาวอเมริกันผู้เล่น Walter Sobchak ใน The Big Lebowski

ความหมายของ goodman ในพจนานุกรม

Wikipedia คำจำกัดความของคำในพจนานุกรม Wikipedia
Goodman เป็นนามสกุลภาษาอังกฤษ (แปลโดยผู้ชายที่ดี) ผู้พูดที่มีชื่อเสียง: Goodman, Al (1890, Nikopol, Russia - 1972) - วาทยกรและนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน กู๊ดแมนอลิซ (พ.ศ. 2501) - กวีชาวอเมริกัน Goodman, Alison - นักเขียนชาวออสเตรเลีย กู๊ดแมนเอมี่ (ข ....

พจนานุกรมสารานุกรม พ.ศ. 2541 ความหมายของคำในพจนานุกรมสารานุกรมพจนานุกรม 1998
GOODMAN เบนจามินเดวิด (เบนนี่) (1909-86) นักดนตรีแจ๊สชาวอเมริกันนักคลาริเน็ต เขาเริ่มแสดงในปี ค.ศ. 1920 การแสดงของกู๊ดแมนโดดเด่นด้วยเทคนิคที่ไร้ที่ติเสียงที่ไพเราะพร้อมด้วยเสียงที่ไพเราะ สร้างวงออเคสตราแสดงโดย ...

ตัวอย่างการใช้คำว่า goodman ในวรรณคดี.

ทอมป์สัน คนดี, Boas, Price, Ricketson, Walter Lehmann, Baudich และ Morley

แต่แน่นอนว่าเรื่องที่มีคุณธรรมสูงเช่น Quentin Aberdeen ไม่สามารถละเมิดศีลธรรมสาธารณะและหลอกลวงความไว้วางใจจาก Tom เพื่อนที่ดีของเขาได้ คนดี.

เสียงแหบด้วยความสยดสยองและรุนแรงด้วยความตึงเครียดเสียงของเขากลบเสียงดนตรีของ Benny คนดีบ๊อบบี้กล่าวว่า: - ปัญหาระวังปัญหามีแสงสว่างเขารักคุณ

เราเชิญ Eliza Dunston กับสามีของเธอ Joan กับ beau, Jimmy และ Tiger, Allan กับเด็กผู้หญิง, Lou และ Claudia, Chenov, Wendells, Lee Bertillion กับผู้หญิงถ้าคุณไม่รังเกียจ Mike and Pedro, Bob and Tay คนดีKappov - เธอชี้ไปที่ Kappa อาศัยอยู่ - และ Doris และ Axley Allert ถ้าพวกเขามา

Russell Hoyton, John Raymond Jewel, Izzy Feld, Louis Armstrong, Mach McNeill, Freddie Jenks, Jack Teegarden, Bernie และ Morty Gold, Willie Fuchs, คนดี, Beyderbekk, Johnson, Earl Slagle - พูดได้ทุกอย่าง

"King of Swing" และ "Patriarch of the Clarinet" - ชื่อดังกล่าวไม่ได้รับรางวัลอย่างง่ายดายและ Benny Goodman นักแสดงนักแต่งเพลงนักแสดงและแม้แต่นักเขียนที่ยอดเยี่ยมก็สวมมันโดยถูกต้อง ประวัติความเป็นมาของดนตรีแจ๊สรู้จักนักดนตรีที่ยอดเยี่ยมหลายคนที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาทิศทางของดนตรีนี้ แต่ Goodman มีบุคลิกที่โดดเด่นเป็นพิเศษซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่มีบทบาทยากมากที่จะประเมินค่าสูงเกินไปในการเฟื่องฟูของศิลปะดนตรีประเภทนี้ บุคคลพิเศษที่มีความสามารถมากมายนักดนตรีแจ๊สผู้ยิ่งใหญ่ผู้ซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วประเทศตั้งแต่อายุยังน้อยและกลายเป็นไอดอลไม่เพียง แต่ในยุคของเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนรุ่นหลังด้วยเขารักดนตรีมากและมุ่งมั่นเพื่อความสมบูรณ์แบบเสมอดังนั้นเขา เป็นนักคลาริเน็ตที่มีความสามารถพิเศษซึ่งไม่เพียง แต่แสดงดนตรีแจ๊สได้อย่างยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลงานเพลงคลาสสิกอีกด้วย Benny Goodman เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ดนตรีโลก

ชีวประวัติสั้น ๆ

เบนจามินเดวิดกู๊ดแมน (นี่คือชื่อจริงของนักดนตรีแจ๊สที่โดดเด่น) เกิดในเมืองชิคาโกของอเมริกาในครอบครัวของเดวิดกู๊ดแมนชาวยิวที่ยากจนเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2452 พ่อแม่ของนักดนตรีในอนาคตซึ่งยังไม่รู้จักกันอพยพไปยังสหรัฐอเมริกาจากเมืองต่าง ๆ ของจักรวรรดิรัสเซียพบกันที่บอสตันและหลังจากแต่งงานแล้วย้ายไปชิคาโกซึ่งเป็นเมืองที่มีอุตสาหกรรมกำลังพัฒนาอยู่ที่นั่น เป็นโอกาสในการหางานทำ ครอบครัวใหญ่ตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่ที่ยากจนที่สุดแห่งหนึ่ง เดวิดได้งานเป็นช่างตัดเสื้อในโรงงานเสื้อผ้าเล็ก ๆ และดอร่าแม่ของครอบครัวทำงานบ้านและเลี้ยงลูกสิบสองคน คนดีอาศัยอยู่อย่างเฉื่อยชาเด็ก ๆ เติบโตมาจากปากต่อปากบางครั้งก็ไม่มีอาหารเลย ห้องใต้ดินที่ครอบครัวอาศัยอยู่ไม่ร้อนเพราะไม่มีเงินเพียงพอสำหรับเรื่องนี้ พวกเขาไปโรงเรียน แต่อย่างดีที่สุดพวกเขาพยายามช่วยพ่อแม่หารายได้พิเศษเล็กน้อยจากการทำความสะอาดรองเท้าซักผ้าหน้าต่างและขายหนังสือพิมพ์ ตามเนื้อผ้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ทั้งครอบครัวไปเยี่ยมสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในชิคาโกซึ่งมีการจัดคอนเสิร์ตดนตรีในช่วงฤดูร้อน

วันหนึ่งจากเพื่อนบ้านของเขาเดวิดได้เรียนรู้โดยบังเอิญว่าในธรรมศาลาใกล้เคียงมีการสอนเด็ก ๆ ให้เล่นเครื่องดนตรีต่างๆฟรี ด้วยแรงบันดาลใจจากความหวังว่าจะมีอนาคตที่ดีกว่าของลูกชายพ่อจึงไปเจรจาเรื่องการศึกษาของลูกในวันอาทิตย์ หนึ่งสัปดาห์ต่อมาแฮร์รี่และเฟรดดี้คนโตอายุสิบสองและสิบเอ็ดปีได้รับทูบาและทรัมเป็ตส่วนเบ็นนี่คนสุดท้องอายุสิบขวบได้รับ ปี่ชวา... พ่อไม่เข้าใจผิดในลูกชายของเขาพวกเขากลายเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ทางดนตรีและมีความสามารถและอีกหนึ่งปีต่อมาเด็กชายก็แสดงความสามารถในการเล่นเครื่องดนตรีต่อหน้าแขกของครอบครัว ค่อยๆข่าวลือเกี่ยวกับนักดนตรีตัวน้อยที่มีความสามารถเริ่มแพร่กระจายไปทั่วเขตอย่างรวดเร็วพวกเขาเริ่มได้รับคำเชิญให้เล่นในงานเฉลิมฉลองของครอบครัวงานเลี้ยงและงานเต้นรำโดยหารายได้เล็กน้อยจากสิ่งนี้ซึ่งช่วยในงบประมาณของครอบครัว

ความสำเร็จของ Benny แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดจากเด็กผู้ชายคนอื่น ๆ ที่เรียนดนตรีในธรรมศาลาหนึ่งปีต่อมาเขาได้แสดงดนตรีของนักคลาริเน็ตยอดนิยมอย่าง Ted Lewis พ่อแม่มีความสุขกับลูกชายของพวกเขาพวกเขาต้องการให้เขาเป็นนักดนตรีมืออาชีพและ Benny เองก็ปรารถนาสิ่งนี้ เพื่อทำความฝันของเขาให้เป็นจริงเขาจึงเริ่มเรียนคลาสสิกคลาริเน็ตจากครูที่ยอดเยี่ยมและศิลปินเดี่ยวของวง Chicago Symphony Orchestra Franz Schepp ภายใต้การแนะนำของนักดนตรีที่ยอดเยี่ยมและผลจากการทำงานหนักหลายชั่วโมงในแต่ละวันเด็กเร่ร่อนได้เปลี่ยนเป็นนักดนตรีตัวจริง ครูรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับความสำเร็จของนักเรียนที่เขาไม่ยอมจ่ายเงินค่าเรียนและยังจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกให้กับเบ็นนี่ การแสดงของนักดนตรีหนุ่มได้รับความสนใจไม่เพียง แต่คนรักดนตรีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักดนตรีมืออาชีพด้วย เขาเริ่มทำงานพาร์ทไทม์ในวงออเคสตราท้องถิ่นและเมื่ออายุ 14 ปีเขาได้ตัดสินใจครั้งสำคัญครั้งสุดท้ายสำหรับตัวเองนั่นคือการเชื่อมโยงชีวิตทั้งชีวิตเข้ากับดนตรี

Carier start

ในปีพ. ศ. 2468 การแสดงของ Benny ได้รับการฟังโดยนักเป่าแซ็กโซโฟนแจ๊ส Gil Rodin ซึ่งในขณะนั้นกำลังเล่นอยู่ในวงดนตรี B. นักดนตรีหนุ่มทำงานร่วมกับพอลแล็คเป็นเวลาสี่ปีในช่วงเวลานั้นเขาได้รับประสบการณ์การแสดงที่ยอดเยี่ยมและทำการบันทึกเสียงครั้งแรกครั้งแรกในฐานะวงออเคสตราจากนั้นจึงแสดงเดี่ยว ในฤดูใบไม้ร่วงปี พ.ศ. 2472 กู๊ดแมนได้ตัดสินใจอย่างมีชะตากรรมและย้ายไปนิวยอร์กซึ่งเขาจะมีอาชีพเป็นนักดนตรีอิสระ ที่นี่เขาเล่นในกลุ่มดนตรีที่ฟังดูมิวสิคัลของโรงละครบรอดเวย์มีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้นในการจัดเรียงและแต่งเพลงของตัวเอง ปี 1931 เป็นปีพิเศษสำหรับ Goodman ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักดนตรีรุ่นเยาว์และมีการบันทึกเสียงของผู้ประพันธ์คนแรกซึ่งได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่ประชาชนทั่วไป จากนั้นในปีพ. ศ. 2476 เบ็นนี่ได้พบกับจอห์นแฮมมอนด์ผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงในโลกแห่งดนตรีแจ๊สซึ่งต่อมามีบทบาทสำคัญมากในอาชีพนักดนตรีของ King of Swing ในอนาคต แฮมมอนด์ไม่เพียง แต่กลายเป็นเพื่อนของกู๊ดแมน แต่ยังเป็นโปรดิวเซอร์ที่ปรึกษาและผู้พิทักษ์ของเขาด้วย จอห์นช่วยเบ็นนี่เซ็นสัญญากับ บริษัท แผ่นเสียงยักษ์ใหญ่ Columbia Records และร่วมกับศิลปินชื่อดังบันทึกผลงานเพลงหลายเพลงที่เข้าสู่สิบอันดับแรก

ในฤดูใบไม้ผลิปี 1934 ตามคำแนะนำของแฮมมอนด์เบ็นนี่ได้สร้างวงดนตรีของตัวเองขึ้นซึ่งการแสดงเปิดตัวในเดือนมิถุนายน ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกันกู๊ดแมนเซ็นสัญญากับเอ็นบีซีสำหรับซีรีส์วิทยุเรื่อง Let's Dance และในฤดูใบไม้ผลิปี 1935 เบ็นนี่และวงดนตรีวงใหญ่ได้ออกทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกในประเทศ มันเริ่มต้นได้ไม่ดีนัก แต่ในที่สุดก็ครองตำแหน่งด้วยความสำเร็จ จากนั้นก็มีการเซ็นสัญญากับ "CBS" การปรากฏตัวครั้งแรกทางโทรทัศน์การมีส่วนร่วมในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "Hotel Hollywood" รวมถึงคอนเสิร์ตแห่งชัยชนะที่โรงละคร Paramount ในช่วงที่ Goodman ได้รับการประกาศอย่างไม่เป็นทางการว่า "King of แกว่ง". อย่างไรก็ตามจุดสูงสุดของอาชีพนักดนตรีของเขาคือการแสดงเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2481 ที่ Philharmonic Hall "Carnegie Hall" ที่มีชื่อเสียงซึ่งดนตรีแจ๊สไม่เคยฟังมาก่อน

ในปีพ. ศ. 2482 เบ็นนี่เริ่มมีปัญหาสุขภาพอาการปวดขาจนทนไม่ได้ทำให้ต้องไปโรงพยาบาลและจากนั้นก็เข้ารับการผ่าตัด ด้วยเหตุนี้ความยากลำบากจึงไม่ได้ทำลายกู๊ดแมนเมื่อเติบโตขึ้นอีกเล็กน้อยเขาเริ่มทำงานอย่างกระตือรือร้นอีกครั้ง: เขาเขียนบทประพันธ์ใหม่ที่ติดอันดับหนึ่งในสิบหลายครั้งมีส่วนร่วมในการผลิตละครเพลงเรื่อง Dream Swing ในปีพ. ศ. 2485-2486 เขาแสดงภาพยนตร์อย่างแข็งขัน ในปีพ. ศ. 2487 เบ็นนี่มีส่วนร่วมในละครเพลงบรอดเวย์เรื่อง The Seven Arts ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ผู้ชมเพื่ออุทิศตัวให้กับการแสดงทั้งหมดกู๊ดแมนได้ยุบวงดนตรีแจ๊สของเขาในตอนท้ายของปีพ. ศ. ประเทศในยุโรปตะวันออกไกลอเมริกาใต้สหภาพโซเวียตเช่นภูมิศาสตร์อันกว้างใหญ่ของทัวร์รอบโลกของกู๊ดแมนผู้มีชื่อเสียงไม่เพียง แต่เป็นแจ๊สแมนที่ไม่มีใครเทียบได้เท่านั้น แต่ยังเป็นนักแสดงดนตรีคลาสสิกที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย "ราชาแห่งวงสวิง" รักเครื่องดนตรีของเขามากจนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการแสดงจนเกือบเสียชีวิต Benny Goodman เสียชีวิตในนิวยอร์กเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2529

ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ

• Benny Goodman ต่อต้านอคติทางเชื้อชาติซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขามีฉายาว่า "ตาบอดสี"

• เบ็นนี่อายุสิบสี่ปีตามคำแนะนำของครูให้เข้าร่วมสหภาพนักดนตรีมืออาชีพ "เสริม" สองสามปีกับตัวเขาเองในทันทีที่อายุสิบหก
• ในชิคาโกในช่วงทศวรรษที่ 20 ของศตวรรษที่แล้วมีกลุ่มโจรที่น่ากลัวซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวเมือง การปล้นและการฆาตกรรมไม่เพียง แต่ในตอนกลางคืน แต่ยังเป็นเรื่องธรรมดาในตอนกลางวันด้วย กู๊ดแมนนึกถึงวัยเด็กของเขาด้วยวิธีนี้: "ตามกฎของถนนถ้าพี่ชายของฉันและฉันไม่ทำเพลงเราจะกลายเป็นโจรแน่นอน"
• ผู้ชื่นชอบดนตรีในชิคาโกชื่นชมการแสดงของเด็กอัจฉริยะที่เรียกเบนนี่ว่า "นักดนตรีในกางเกงขาสั้น" แบบติดตลก
• พ่อของกู๊ดแมนเสียชีวิตอย่างอนาถเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2469 เขาถูกรถชนและเสียชีวิตในโรงพยาบาลโดยไม่ได้สติกลับคืนมา ด้วยการสูญเสียพ่อของเขาช่วงเวลาที่ยากลำบากมาถึงครอบครัวและเบ็นนี่ช่วยครอบครัวของเขาด้วยการมอบเงินที่เขาหามาได้
• วัยเด็กที่ยากลำบากและหิวโหยที่ใช้เวลาอยู่ในสลัมของชิคาโกทิ้งร่องรอยที่ลบไม่ออกให้กับวิญญาณของเบ็นนี่ไปตลอดชีวิต แม้จะเป็นคนรวย แต่เขาก็ยังละเมิดต่อนักดนตรีอยู่ตลอดเวลาต่อรองเรื่องค่าจ้างพยายามหาทางเลือกที่ทำกำไรให้ตัวเองมากขึ้น
• การทัวร์ครั้งแรกของพวกเขาซึ่งจัดขึ้นในฤดูร้อนปี 2478 กู๊ดแมนและนักดนตรีจากวงออเคสตราของเขาเนื่องจากไม่มีเงินทุนในการเช่ารถบัสทำให้รถของพวกเขาเอง

• Benny Goodman เป็นนักแสดงแจ๊สคนแรกที่ได้รับเกียรติให้แสดงที่ Carnegie Hall ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตฮอลล์ที่มีชื่อเสียงของนิวยอร์ก
• Goodman เป็นมืออาชีพที่ได้รับการยอมรับและได้รับการยอมรับในวงการดนตรีแจ๊สอยู่ตลอดเวลาและพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อความเป็นเลิศที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมและในช่วงต้นทศวรรษที่ห้าสิบได้เรียนรู้ทักษะการแสดงจาก Reginald Kell นักคลาริเน็ตชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียง
• Benny ได้รับเงินล้านเหรียญแรกในปีพ. ศ. 2481 จากการเผยแพร่ประวัติซึ่งเขาบันทึกไว้หลังจากคอนเสิร์ตที่ Carneggie Hall ซึ่งทำให้เขามีชื่อเสียงอย่างแท้จริง
• ความนิยมของ Goodman นั้นสูงมากทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรปซึ่งนักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียงเช่น เบล่าบาร์ทอก , Leonard Bernstein และ Aaron Copeland อุทิศงานเขียนให้กับเขา
• พวกเขาพูดติดตลกเกี่ยวกับทัวร์คอนเสิร์ตของนักดนตรีบลูส์แมนที่มีชื่อเสียงในสหภาพโซเวียตว่า "King of Swing" มีอิทธิพลต่อวิกฤตแคริบเบียนและวงสวิงของเขาเกือบจะทำให้ "ม่านเหล็ก" หลุดออกไป
• ในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวสหภาพโซเวียตเมื่อไปที่จัตุรัสแดงกู๊ดแมนรู้สึกทึ่งกับจังหวะที่นักเรียนนายร้อยของกรมเครมลินพูดเมื่อไล่ตามขั้นตอนเมื่อเปลี่ยนยามที่สุสานของเลนินที่เขาหยิบปี่ออกมาและเล่นเพลงพื้นบ้าน . วันรุ่งขึ้นพาดหัวข่าวว่า: "ราชาแห่งวงสวิงกับรองเท้าบู๊ตของทหารเล่นดนตรีแจ๊สในใจกลางลัทธิคอมมิวนิสต์!"
• Benny Goodman เป็นนักดนตรีแจ๊สคนแรกที่ออกทัวร์สหภาพโซเวียต หลังจากเขา "ดารา" คนอื่น ๆ ในระดับโลกแสดงในมอสโกเช่น ดยุคเอลลิงตัน .
• หนังสือพิมพ์มักจะเขียนเกี่ยวกับทัศนคติเชิงลบของนักดนตรีที่มีต่อกู๊ดแมนอย่างไรก็ตามจากการสำรวจของนิตยสารเครื่องเมตรอนอมเมื่อเทียบกับเกลนมิลเลอร์เขาครองตำแหน่งที่ได้เปรียบกว่า
• Benny Goodman เป็นคนแรกที่ใช้ไวบราโฟนและกีตาร์ไฟฟ้าเป็นเครื่องดนตรีเดี่ยวในวงดนตรีของเขา
• กู๊ดแมนเคยแต่งงานเพียงครั้งเดียว คนที่เขาเลือกคืออลิซฟรานซิสแฮมมอนด์น้องสาวของจอห์นแฮมมอนด์ซึ่งต่อมาได้มอบลูกสาวสองคนให้กับนักดนตรีคือราเชลและเบนจิ

• "ราชาแห่งวงสวิง" เป็นคนที่ไม่ค่อยมีความคิดและมีเรื่องตลกมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ในหมู่นักดนตรี แต่จุดสุดยอดของความวุ่นวายคือเขาจำชื่อของลูกสาวสองคนและลูกเลี้ยงสามคนไม่ได้เรียกพวกเขาว่าเด็ก ๆ
• บ้านที่ Benny Goodman เกิดยังคงมีอยู่ในชิคาโกบนถนน Francisco
• กู๊ดแมนชอบตกปลามาก นี่เป็นงานอดิเรกหลักและน่าตื่นเต้นมากของเขา

องค์ประกอบที่ดีที่สุด

Benny Goodman เป็นนักแสดงที่เก่งกาจมากจนสามารถแปลความคิดใด ๆ ที่เข้ามาในหัวของเขาให้เป็นภาษาของเครื่องดนตรีที่เขาชื่นชอบได้อย่างง่ายดาย ความชำนาญในการใช้เสียงน้ำเสียงที่ยอดเยี่ยมโดดเด่นด้วยความนุ่มนวลและเฉดสีเสียงต่ำการสร้างวลีสั้น ๆ อย่างมีทักษะทั้งหมดนี้ทำให้เกิดความรู้สึกของคำพูดของมนุษย์ ในช่วงชีวิตครีเอทีฟของเขาเบ็นนี่กู๊ดแมนได้สร้างผลงานแต่งเพลงจำนวนมากพอสมควรและหลาย ๆ เพลงได้รับความนิยมและเข้าสู่ "อันดับ 10" ในหมู่พวกเขาควรได้รับความสนใจเป็นพิเศษ: "Let" s Dance "," After You "ve Gone", "Avalon", "Stompin At the Savoy", "Flying Home", "Symphony", "Somebody Stole My Ga", "How ฉันต้องรู้ไหม "," ลาก่อน "," Jersey Bounce "," Why Don "t You Do Right?", "Clarinet a la King", บวก:

• "ร้องเดี่ยว" - เพลงนี้แต่งโดยหลุยส์พรีมานักร้องและนักแต่งเพลงชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาลี แต่เป็นเพลงบรรเลงที่บรรเลงโดยวงออเคสตราของกู๊ดแมนซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดและถือเป็นเพลงสรรเสริญพระบารมีของวงสวิงไทม์ ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจก็คือทำนองเพลงนี้ของ Goodman นั้นยาวกว่ามาก: แทนที่จะเป็น 3 นาทีมาตรฐานจะฟังเป็น 8 นาทีและบางครั้งก็มากกว่า 12 นาที

"ร้องเพลงร้องเพลง" (ฟัง)

• "อย่าเป็นอย่างนั้น" - องค์ประกอบที่กลายเป็นมาตรฐานดนตรีแจ๊สและวงสวิงคลาสสิกเป็นผลมาจากผลงานร่วมกันของ Benny Goodman และ Edgar Sampson ได้รับความนิยมสูงสุดหลังจากแสดงในคอนเสิร์ตระดับตำนานของนักดนตรีบลูส์แมนในเดือนมกราคม พ.ศ. 2481

"อย่าเป็นอย่างนั้น (ฟัง)

Benny Goodman Orchestra

Benny Goodman ก่อตั้งกลุ่มแรกของเขาซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็นวงสวิงวงใหญ่ยอดนิยมในฤดูใบไม้ผลิปี พ.ศ. 2477 ในขั้นต้นกลุ่มดนตรีแจ๊สประกอบด้วยนักดนตรี 12 คนซึ่งมีข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพสูงมาก ได้แก่ R.Ballard, D. Lacey, T. Mondello, H. Shetzer, D. Epsa, F. Froeba, G. , เอสคิง, บีเบอร์ริแกน, เอชวอร์ด วงออเคสตราเปิดตัวในวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2477 และได้รับเชิญให้เข้าร่วม NBC ในเดือนพฤศจิกายนสำหรับซีรีส์วิทยุ Let's Dance ซึ่งออกอากาศทุกวันเสาร์เป็นเวลาหกเดือน หลังจากสิ้นสุดสัญญาในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2478 กู๊ดแมนตัดสินใจที่จะทัวร์ประเทศกับวงดนตรี ในตอนแรกทุกอย่างเป็นไปด้วยดีผู้ชมรับฟังวงออร์เคสตราด้วยความกระตือรือร้น แต่ยิ่งวงออร์เคสตราเคลื่อนเข้ามาไกลเท่าใดสถานการณ์ในหอประชุมก็ยิ่งตึงเครียดมากขึ้นเท่านั้น ผู้ฟังจากต่างแดนไม่ได้รับรู้ว่าดนตรีแจ๊สที่บรรเลงโดยวงออเคสตราถือเป็นเรื่องผิดปกติสำหรับพวกเขาและยังมีเรื่องอื้อฉาวในเดนเวอร์ด้วยซ้ำ: ผู้คนเรียกร้องเงินคืน นักดนตรีที่ผิดหวังคิดว่าการทัวร์ของพวกเขาสิ้นสุดลงแล้ว แต่ในโอกแลนด์พวกเขาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นโดยไม่คาดคิดและในลอสแองเจลิสก็มีความตื่นเต้นในคอนเสิร์ต วงออเคสตราเริ่มการแสดงอย่างระมัดระวังด้วยการบรรเลงท่วงทำนองที่เป็นที่รู้จัก แต่เพลงนี้ทำให้ผู้ชมไม่แยแสจากนั้น Goodman ก็ตัดสินใจอย่างหมดหวังและดนตรีแจ๊สตัวจริงวงสวิงที่น่าทึ่งก็ดังขึ้นจากเวที ผู้ชมคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวด้วยความยินดี คอนเสิร์ตนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2478 เป็นความรู้สึกที่แท้จริงและเป็นชัยชนะที่แท้จริงสำหรับวง Goodman Orchestra และนับจากวันนั้น "ยุควงสวิง" ก็เริ่มขึ้น

ในปีพ. ศ. 2479 วงออเคสตราของ Benny กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ชื่อเสียงของเขาก็แพร่กระจายไปทั่วประเทศ เครือข่ายวิทยุซีบีเอสของอเมริกาเชิญให้เขาเข้าร่วมในซีรีส์วิทยุเรื่อง "Camel Caravan" ซึ่งออกอากาศมานานกว่าสองปีแล้ว ทีมงานปรากฏตัวครั้งแรกทางโทรทัศน์จากนั้นในปีพ. ศ. 2480 ได้มีส่วนร่วมในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "Hotel Hollywood" นักดนตรีในวงออเคสตรามีการเปลี่ยนแปลงบ่อยมากเหตุผลนี้คือความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของผู้นำเพื่อการแสดงที่สมบูรณ์แบบและการไม่อดทนต่อความผิดพลาด หากนักดนตรีคนหนึ่งไม่เหมาะกับกู๊ดแมนเขาก็มอบให้บุคคลนั้นด้วย "การจ้องมองที่คาว" นั่นคือการมองผ่านบุคคลนั้น มีไม่กี่คนที่ทนต่อการถูกทอดทิ้งและออกจากวงออเคสตราได้ ในปีพ. ศ. 2481 คอนเสิร์ตของวงดนตรีขนาดใหญ่ที่ก่อตั้งขึ้นอย่างสมบูรณ์ถูกจัดขึ้นในระดับมืออาชีพที่สูงมาก เขากลายเป็นวงดนตรีแจ๊สวงแรกที่ได้รับเกียรติให้แสดงที่ Carnegie Hall ที่มีชื่อเสียง คอนเสิร์ตประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม หลังจากนั้นไม่นานวงออเคสตราก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้ง: นักดนตรีที่มีความสามารถเช่น D. Krupa และ G. James จากไป แต่มือกีต้าร์ C. Christian ผู้เล่นทรัมเป็ต K. Williams และนักเปียโน M. Powell ปรากฏตัวขึ้นจากนั้นมือกลอง D. Tuf ก็กลับมา . ทีมเสร็จสมบูรณ์อีกครั้งและการสร้างสรรค์ใหม่ก็เริ่มขึ้น

สงครามโลกครั้งที่สองได้ทำการปรับเปลี่ยนการทำงานของวงออเคสตรา: ศิลปินเดี่ยวหลายคนไปที่กองทัพและเยาวชนที่เข้ารับตำแหน่งของพวกเขาไม่เป็นไปตามข้อกำหนดด้านความคิดสร้างสรรค์ทั้งหมดของผู้นำ ในปีพ. ศ. 2486 กู๊ดแมนได้แลกเปลี่ยนเยาวชนให้กับทหารผ่านศึกที่เขาเคยเชิญมาก่อนหน้านี้โดยไม่ลังเล: เอชเชตเซอร์, เอ็ม. โมล, ดีทีการ์เด้นและดี. เจนนี่ D. Krupa, A. Royce, R. Musillo และ L. Castle กลับมาร่วมวงด้วย วงออเคสตราเล่นได้ดีในการประพันธ์เพลงนี้ แต่มีการแต่งเพลงเบา ๆ ในอดีต ในปีพ. ศ. 2487 กู๊ดแมนเริ่มคิดถึงการยุบวงดนตรี แต่เขาได้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายที่จะยุบวงในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2492

Benny Goodman และโรงภาพยนตร์

เบ็นนี่กู๊ดแมนเป็นคนที่มีความสามารถสูงตระหนักถึงความสามารถของเขาไม่เพียง แต่ในด้านดนตรีเท่านั้น แต่ในอีกด้านหนึ่งในเวลานั้นยังค่อนข้างเด็กและมีแนวโน้มที่ดีมากในสาขาศิลปะนั่นคือการถ่ายภาพยนตร์ ภาพยนตร์ทั้งหมดที่เขาแสดงเป็นประเภทมิวสิคัลคอมเมดี้ ในภาพยนตร์บางเรื่องเช่น "Sweet and Low", "Service Entrance to the Dining Room", "Soldier's Club", "The Whole Gang Gluded", "The Blues Is Born", "Sincerely and Without Improvisation" และในภาพยนตร์เช่น "A Song Is Born", "Big Broadcasting in 1937" และ "Hotel Hollywood" เขาได้รับความไว้วางใจให้รับบทเป็นตัวละครอื่น ๆ นอกจากนี้ควรสังเกตด้วยว่าในฐานะบุคคลที่มีชื่อเสียงมากเบ็นนี่กู๊ดแมนมีความสุขกับการแสดงในซีรีส์ทีวีและรายการโทรทัศน์ยอดนิยมต่างๆจนเกือบจะสิ้นอายุขัย ตัวอย่างเช่น "City Toast", "Face to Face", "Good Morning America", "American Masters", "Great Shows" นอกจากนี้ผลงานเพลงของ Goodman มักถูกนำไปใช้ในเพลงประกอบภาพยนตร์สมัยใหม่เช่น Allies (2016) โดย Robert Zemeckis หรือ Social Life (2016) โดย Woody Allen

ทัวร์ไปยังสหภาพโซเวียต

ในช่วงต้นทศวรรษที่หกสิบความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตตึงเครียดมากและเพื่อที่จะกลบเกลื่อนสถานการณ์ข้อตกลงเกี่ยวกับการติดต่อทางวัฒนธรรมระหว่างทั้งสองประเทศ สหรัฐอเมริกาแนะนำดนตรีแจ๊สอเมริกันจาก Benny Goodman สำหรับการเดินทางไปยังสหภาพโซเวียต ในตอนแรกตัวแทนของคณะผู้แทนของประเทศซึ่งแม้กระทั่งคำว่า "แจ๊ส" ก็ถูกห้ามก็ตอบสนองต่อข้อเสนอดังกล่าวอย่างระมัดระวัง แต่ความจริงที่ว่ากู๊ดแมนเป็นลูกชายของคนงานที่เรียบง่ายนอกจากนี้ละครของเขายังไม่เพียง ของการประพันธ์ดนตรีแจ๊ส แต่ยังรวมถึงดนตรีคลาสสิกที่มีบทบาท กู๊ดแมนตอบรับคำเชิญด้วยความยินดีเนื่องจากความฝันที่เขาใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กกำลังจะเป็นจริงนั่นคือการไปเยี่ยมบ้านเกิดของพ่อแม่ การเดินทางของวงออเคสตรารวมซึ่งประกอบด้วย "แจ๊สสตาร์" มีการวางแผนเป็นเวลาหนึ่งเดือนครึ่งโดยจะไปเยือนเมืองใหญ่ ๆ หกเมือง มีการแสดงทั้งหมด 32 ครั้งมีผู้เข้าร่วมประมาณ 200,000 คน

ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม การพิสูจน์เรื่องนี้คือ "การรุกล้ำ" ซ้ำแล้วซ้ำเล่าและเสียงปรบมือซึ่งยืนยันถึงความพึงพอใจของผู้ชม หนึ่งในคอนเสิร์ตเข้าร่วมโดย N.S. ครุสชอฟอย่างไรก็ตามหลังจากการแยกตัวครั้งแรกประมุขแห่งรัฐออกจากห้องโถงโดยระบุว่าศีรษะของเขาเริ่มได้รับบาดเจ็บจาก "แจ๊ส" อย่างไรก็ตามในวันรุ่งขึ้นเขาไปเยี่ยมสถานทูตสหรัฐฯอย่างไม่เป็นทางการพูดคุยกับกู๊ดแมนและนักดนตรีอย่างเป็นกันเองและในตอนท้ายพวกเขาทั้งหมดก็ร้องเพลง Katyusha ด้วยกัน ทัวร์สหภาพโซเวียตของกู๊ดแมนซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับชัยชนะที่ไม่เคยมีมาก่อนและได้รับการกล่าวถึงในสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีความกระตือรือร้นช่วยดึงแจ๊สออกจากเงามืดและทำให้ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศของเราและในเวลาเดียวกันก็ช่วยให้นักดนตรีหลายคนเปิดเผยความสามารถของพวกเขา ด้วยความประทับใจในการเดินทาง Goodman ได้ออกอัลบั้ม Benny Goodman ในมอสโกว์ในปีเดียวกันและในปีถัดมาในสหภาพโซเวียตได้มีการเผยแพร่สารคดีที่น่าสนใจเกี่ยวกับทัวร์ประวัติศาสตร์เหล่านี้ซึ่งมีส่วนอย่างมากในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจทั้งสอง

Benny Goodman เป็นนักดนตรีที่โดดเด่น - เป็นผู้ริเริ่มที่เป็น“ คนแรก” ในหลาย ๆ ด้าน เขาเป็นคนแรกของหัวหน้าวงออเคสตราที่รวบรวมนักดนตรีที่มีสีผิวต่างกันในทีมของเขา นักดนตรีแจ๊สคนแรกที่ได้รับเกียรติให้แสดงที่ Carnegie Hall ที่มีชื่อเสียง นักดนตรีคนแรกที่ผสมผสานการประพันธ์ดนตรีแจ๊สและความคลาสสิกเข้าด้วยกันในเพลงของเขา นักแสดงแจ๊สชาวอเมริกันคนแรกเดินทางไปเยี่ยมชมคอนเสิร์ตในสหภาพโซเวียตด้วยเหตุนี้จึงกระตุ้นให้ทางการยอมรับดนตรีแจ๊สในประเทศของเราว่าเป็นศิลปะดนตรีรูปแบบหนึ่งซึ่งถูกห้ามมาเป็นเวลานาน

วิดีโอ: ฟัง Benny Goodman

กู๊ดแมนเกิดในชิคาโก (ชิคาโก); เขาเป็นลูกคนที่ 9 ใน 12 คนของผู้อพยพชาวยิวที่ยากจนจากจักรวรรดิรัสเซีย เมื่อเบ็นนี่อายุเพียง 10 ขวบพ่อของเขาลงทะเบียนเขาและพี่ชายอีกสองคนในชมรมดนตรีแห่งหนึ่งในธรรมศาลาในท้องถิ่น อีกหนึ่งปีต่อมาเบ็นนี่กู๊ดแมนเข้าร่วมวงดนตรีท้องถิ่น เขาเรียนรู้ที่จะเล่นคลาริเน็ตกับนักดนตรีชื่อดัง Franz Schoepp กู๊ดแมนเริ่มอาชีพในปีพ. ศ. 2464 ในปีพ. ศ. 2465 เขาเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในชิคาโกในปีพ. ศ. 2466 เขาได้เข้าเป็นสมาชิกของสหภาพแรงงานดนตรี ตอนอายุ 14 Benny เล่นในทีมตำนาน Bix Beiderbecke ตอนอายุ 16 กู๊ดแมนเป็นหนึ่งในวงดนตรีที่มีชื่อเสียงที่สุดของชิคาโกเบ็นพอลแล็คออเคสตรา; ในปีพ. ศ. 2469 เบ็นนี่สามารถบันทึกเสียงได้เป็นครั้งแรกในฐานะสมาชิกของกลุ่มและในปีพ. ศ. 2471 เขาได้เปิดตัวการบันทึกเสียงอิสระครั้งแรก

ในช่วงปลายยุค 20 และต้นยุค 30 กู๊ดแมนทำงานอยู่ในนิวยอร์ก (นิวยอร์กซิตี้); ส่วนใหญ่เขาทำงานร่วมกับเบนพอลแล็คในช่วงเวลานี้

ในปีพ. ศ. 2477 Benny ได้คัดเลือกรายการ Let 's Dance ของ NBC ซึ่งเป็นรายการที่ได้รับความนิยมเป็นเวลา 3 ชั่วโมงซึ่งมีเพลงเต้นรำที่หลากหลายเขียนเพลงให้ Goodman ด้วยความช่วยเหลือของ Fletcher Henderson เมื่อถึงเวลานั้นเขาก็เป็นผู้ประกอบการที่มีความสามารถอยู่แล้วและสามารถช่วย เพื่อนร่วมงานมือใหม่หลายคนอย่างเป็นทางการสหภาพของพวกเขาเริ่มทำงานในปี 2475 อนิจจาเขาไม่ประสบความสำเร็จในการได้รับความนิยมมากนัก

ปลายปี 2480 วินน์นาธานสันนักประชาสัมพันธ์ของกู๊ดแมนตัดสินใจดึงความสนใจใหม่มาที่วอร์ดของเขา ตามความคิดของเขา Goodman และทีมของเขาน่าจะเล่นที่ Carnegie Hall ของนิวยอร์ก เบ็นนี่อาจเป็นหัวหน้าวงดนตรีแจ๊สคนแรกที่แสดงบนเวทีนี้ ในตอนแรกเขาลังเลอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความคิดนี้ แต่ความโกรธเกรี้ยวที่เกิดจากการประกาศทำให้เขาเชื่อมั่น

คอนเสิร์ตเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2481; ตั๋ว (สำหรับ 2,760 ที่นั่ง) ถูกขายหมดก่อนงานไม่กี่สัปดาห์และในราคาที่ค่อนข้างสูง จนถึงทุกวันนี้งานนี้ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ดนตรีแจ๊สโดยทั่วไป หลังจากผ่านไปหลายปีสไตล์นี้ก็ได้รับการยอมรับอย่างเต็มที่จากคนทั่วไป

การเข้าซื้อกิจการที่มีประโยชน์อย่างไม่คาดคิดสำหรับทีมของ Goodman คือ Charlie Christian ในตอนแรกกู๊ดแมนสงสัยเกี่ยวกับความคิดที่จะใช้กีตาร์ไฟฟ้าในทีมของเขา นอกจากนั้นคริสเตียนยังไม่ชอบสไตล์ของเขาด้วย จอห์นแฮมมอนด์มีกู๊ดแมนจริง ๆ เพื่อให้คริสเตียนยิง; การนำเสนอ 45 นาทีหลังจากนั้นได้วางรากฐานสำหรับการทำงานร่วมกันสองปีที่แข็งแกร่ง

ในขณะที่ Goodman ทำได้ดี แต่ในช่วงกลางทศวรรษที่ 40 ความนิยมของคนกลุ่มใหญ่เริ่มลดลงและวงสวิงก็ไม่ได้รับความนิยมอีกต่อไป อย่างไรก็ตามกู๊ดแมนไม่สิ้นหวัง เขายังคงเล่นวงสวิงบีบ็อปและแจ๊สสุดเท่ อย่างไรก็ตามใน bebop เบ็นนี่ก็ไม่แยแสในที่สุด แหล่งที่มาใหม่ของแรงบันดาลใจสำหรับเขาคือคลาสสิก

เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2481 เบ็นนี่ได้บันทึกบทเพลงหนึ่งของโมสาร์ทร่วมกับ Budapest Quartet; การเปิดตัวพิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จและกู๊ดแมนเริ่มสร้างความสำเร็จ อนิจจากิจการของเขาดื้อรั้นไม่ยอมปรับปรุง แม้แต่ความคิดที่จะร่วมมือกับหลุยส์อาร์มสตรองเองก็จบลงด้วยความล้มเหลว - นักดนตรีทะเลาะกันในช่วงเริ่มต้นของการทำงาน

ดีที่สุดของวัน

เบ็นนี่กู๊ดแมน (30 พ.ค. 1909 - 13/06/1986)

Benny Goodman เป็นที่รู้จักกันดีในนาม "ราชาแห่งวงสวิง" Benny Goodman เป็นมากกว่านักคลาริเน็ตและหัวหน้าวงดนตรีแจ๊ส กู๊ดแมนได้สร้างวงดนตรีที่รู้จักกันในเรื่องการทำงานร่วมกันและการผสมผสานที่น่าทึ่ง (ทั้งทางดนตรีและเชื้อชาติ) เขามีอิทธิพลทางสังคมอย่างมากในขณะที่เขายอมรับนักดนตรีผิวดำเข้าสู่วงดนตรีแจ๊สของเขาในช่วงเวลาแห่งความคลั่งไคล้และการแบ่งแยกอย่างรุนแรง Goodman มอบค่าคอมมิชชั่นครั้งใหญ่ให้กับนักแต่งเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของเขาเช่น Bele Bartok, Paul Hindemith และ Aaron Copland และแสดงและบันทึกผลงานโดย Leonard Bernstein, Igor Stravinsky, Johannes Brahms, Karl Maria von Weber และคนอื่น ๆ อีกมากมาย โซโลที่เก่งกาจของเขากลายเป็นแบบอย่างของนักคลาริเน็ต Benny Goodman ใน Touring ได้แนะนำวงสวิงคลาสสิกที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาให้กับผู้ชมในเอเชียและรัสเซียโดยนำสไตล์แจ๊สที่โดดเด่นของเขาไปสู่ระดับสากล

Benny Goodman (ชื่อเต็ม Benjamin David Goodman) เกิดในครอบครัวของผู้อพยพชาวยิวจากรัสเซีย David Gutman (ผู้อพยพจากวอร์ซอ) และ Dora Rezinskaya-Gutman (อ้างอิงจากแหล่งอื่น ๆ Grizinskaya หรือ Grinskaya จาก Kovno) เป็นคนที่แปดในสิบสองคน เด็ก ๆ เขาเรียนรู้ที่จะเล่นคลาริเน็ตตั้งแต่อายุ 10 ขวบ เขาเรียนดนตรีส่วนตัว ในปีพ. ศ. 2468 เมื่อเข้าสู่วงออเคสตราของบีพอลแล็คเขาได้แสดงร่วมกับเขาในแคลิฟอร์เนียชิคาโกและนิวยอร์ก (ร่วมกับเกล็นมิลเลอร์เจ. แมคพาร์ทแลนด์แจ็คทีการ์เด้น) ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2469 เขาได้บันทึกไว้เป็นครั้งแรก ในปีพ. ศ. 2472 เขามีส่วนร่วมในการผลิตละครเพลงของ George Gershwin ในโรงภาพยนตร์ในนิวยอร์ก ในเวลาเดียวกันเขาเริ่มมีส่วนร่วมในการจัดเรียงและการแต่งเพลงต่อมาเขาได้พัฒนาอาชีพการงานในฐานะศิลปินอิสระในโรงละครและออเคสตร้าเต้นรำวิทยุและสตูดิโอบันทึกเสียงโดยร่วมมือกับกลุ่มดนตรีแจ๊สและนักดนตรีแต่ละคนในปีพ. ศ. 2474 เขาได้จัด วงออเคสตราการละครที่เข้าร่วมใน Free revue For All (มีทั้งหมด 15 รอบการแสดง) จากนั้นเขาก็ทำงานในห้องแสดงดนตรีบนบรอดเวย์ ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2476 - ต้นปี พ.ศ. 2477 ตามคำแนะนำของผู้อำนวยการสร้างและผู้จัดการจอห์นแฮมมอนด์เขาได้บันทึกแผ่นเสียงจำนวนมากและด้วยเหตุนี้จึงดึงดูดนักดนตรีผิวดำที่มีความสามารถหลายคนได้บันทึกเสียงหลายครั้งกับ Billie Holiday ในปีพ. ศ. 2477 กู๊ดแมนและแฮร์รี่พี่ชายของเขา (ยังเป็นนักดนตรี) ได้ก่อตั้งวงสวิงวงใหญ่ซึ่งได้รับชื่อเสียงไปทั่วโลกในอีกสองปีต่อมา สำหรับเขาที่จุดสูงสุดของยุครุ่งเรืองของวงดนตรีวงสวิงและชื่อของกู๊ดแมน - "ราชาแห่งวงสวิง" ซึ่งเขาได้รับรางวัลจากสื่อมวลชนและแฟน ๆ นั้นเกี่ยวข้องด้วย ในปีเดียวกันวงดนตรีขนาดใหญ่ของ Goodman ได้เข้าร่วมในรายการเพลงวิทยุ "Let 's Dance" ซึ่งได้รับทุนจาก บริษัท บิสกิตขนาดใหญ่ซึ่งตั้งชื่อตามชิ้นดนตรีที่มีชื่อเดียวกันซึ่งทำหน้าที่เป็นโปรแกรมรักษาหน้าจอดนตรี สำหรับวงออร์เคสตราของ Goodman ผู้ฟังเธอกลายเป็นสัญลักษณ์ของวงสวิงคำว่า "วงสวิง" ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางในคอนเสิร์ตเหล่านี้เป็นครั้งแรกโดยผู้นำเสนอใช้แทนคำว่า "แจ๊ส" มีการแสดงคอนเสิร์ตทุกวันเสาร์และกินเวลาตั้งแต่ 11.00 น. ถึงตี 2; สถานีวิทยุ 53 แห่งทุนเริ่มต้นของ Goodman Orchestra คือการเตรียมการสำเร็จรูป 36 รายการโดย F. Henderson ผลกระทบของดนตรีนี้ต่อผู้ชมผิวขาวในการตีความ Goodman ที่หรูหราและสง่างามนั้นท่วมท้นไปถึงวงดนตรีนิโกรซึ่ง มีมาตั้งแต่กลางทศวรรษที่ 1920 ไม่สามารถแข่งขันได้ (โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ) กับวงสวิงสีขาวเชิงพาณิชย์จำนวนมากและ มวลชนจำนวนมากไม่รู้จักพวกเขา การบันทึกคอมโบของเขา (ซึ่งเขามอบบทบาทนำให้กับศิลปินเดี่ยวผิวดำ) มักได้รับการยอมรับว่าประสบความสำเร็จและน่าสนใจกว่ากลุ่มตัวอย่างวงใหญ่ในแง่ของความเฉพาะเจาะจงของดนตรีแจ๊สและคุณภาพวงสวิง สิ่งที่น่าสนใจคือประสบการณ์ของเขาในการใช้คอมโบไม่เพียง แต่เป็นวงดนตรีอิมโพรไวส์อิสระเท่านั้น แต่ยังรวมกับสภาพแวดล้อมวงดนตรีขนาดใหญ่ กู๊ดแมนเป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรก ๆ ที่นำไวบราโฟนในวงดนตรีขนาดเล็กมาใช้ในฐานะเครื่องดนตรีเดี่ยวชั้นนำ (พ.ศ. 2479) และต่อมาอีกเล็กน้อย - กีตาร์ไฟฟ้า (พ.ศ. 2482) กู๊ดแมนกลายเป็นแจ๊สคนแรกที่ประสบความสำเร็จในแนวดนตรีคลาสสิก ชื่อของกู๊ดแมนยังเกี่ยวข้องกับคอนเสิร์ตแจ๊สฟิลฮาร์โมนิกครั้งแรกซึ่งเริ่มต้นด้วยคอนเสิร์ตที่สำคัญใน Carnegie Hall ของนิวยอร์กในปีพ. ศ. 2481 การทดลองในช่วงแรก ๆ ในด้านการแสดงสไตล์การแกว่งของดนตรีบาร็อค (วันเกิดของดนตรีแจ๊สแบบบาโรกถือเป็นปี พ.ศ. นักดนตรีแสดง Double Concerto d -moll Bach)
ในฐานะนักคลาริเน็ต Goodman มีอิทธิพลต่อนักดนตรีหลายคนของ Dixieland วงสวิงและดนตรีแจ๊สสมัยใหม่ เขาฝึกฝนกาแล็กซี่แห่ง "ดวงดาว" ผู้นำวงออเคสตราที่โดดเด่นนักแสดงและนักประพันธ์เพลง เขายังเป็นที่รู้จักในฐานะครูสอนดนตรีมืออาชีพ (ตั้งแต่ปี 1940 - หัวหน้าชั้นเรียนคลาริเน็ตที่สถาบัน Juilliard) ในปีพ. ศ. 2484 เขาได้เผยแพร่โรงเรียนสอนเล่นคลาริเน็ต นอกจากนี้เขายังเขียนหนังสือเรื่อง The Kingdom of Swing (ร่วมกับเออร์วิงโคโลดิน, 1939) ผู้แต่งผลงานเพลงมากมายเช่น Lullaby In Rhythm, Don "t Be That Way (ร่วมกับ Edgar Sampson), Flyin" Home (ร่วมกับ L. Hampton), Soft Winds, Air Mail Special และอื่น ๆ Life Goodman ได้รับรางวัลมากมายนับไม่ถ้วน รวมทั้งดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยเยลและเหรียญรางวัลจาก Peabody Conservatory
บทบาทของกู๊ดแมนในประวัติศาสตร์ของดนตรีแจ๊สแทบจะไม่สามารถประเมินได้สูงเกินไป: เขาช่วยให้นักดนตรีผิวดำหลายคนได้รับการยอมรับจากสาธารณชนขยายขอบเขตของการแสดงเดี่ยวในวงดนตรีขนาดใหญ่มีส่วนอย่างมากในการอนุรักษ์และพัฒนาประเพณีของดนตรีแจ๊สที่ร้อนแรงภายในวงสวิง สไตล์ที่เพิ่มคุณค่าของทรัพยากรที่แสดงออกของวงดนตรีขนาดใหญ่และดนตรีแชมเบอร์วงดนตรีแจ๊ส Goodman ได้รับฉายาว่า "King of Swing" เพื่อความดีความชอบ
เขาเสียชีวิตในการนอนหลับเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2529 หลังจากการซ้อมที่ Lincoln Center

เบนนี่กู๊ดแมน - เกิดนักคลาริเน็ตแจ๊สและวาทยกรชาวอเมริกัน 30 พฤษภาคม 2452 ในชิคาโก พ่อแม่ของนักดนตรีเป็นชาวยิวที่อพยพมาจากจักรวรรดิรัสเซีย ได้แก่ David Gutman และ Dora Rezinskaya-Gutman

วัยเด็กในชิคาโก

ชิคาโกเป็นเมืองที่เหมาะสำหรับเด็กที่รักดนตรีแจ๊ส ตอนอายุ 10 ขวบ Benny หยิบปี่ขึ้นมาครั้งแรก หนึ่งปีต่อมาเด็กชายได้แสดงดนตรีของนักคลาริเน็ตชื่อดัง Ted Lewis เพื่อหารายได้เข้ากระเป๋า ในช่วงเวลานี้ Goodman ได้ตระหนักถึงอิทธิพลของดนตรีที่มีต่อเขามากขึ้นและลาออกจากโรงเรียนเมื่ออายุ 14 ปีเพื่ออุทิศชีวิตให้กับดนตรีแจ๊ส เข้าร่วมเกือบจะทันที ทรัมเป็ตออเคสตรา Bix Bayderbeck (Bix Beiderbecke) เป็นศิลปินเดี่ยวแจ๊สผิวขาวคนแรกที่ได้รับการยอมรับและนับถืออย่างกว้างขวางในหมู่นักดนตรีแจ๊สผิวดำ

เมื่อถึงเวลานั้น Benny Goodman ได้รับความนิยมในหมู่นักดนตรีระดับสูง ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2468 นักดนตรีได้รับคำเชิญให้ไป วงออเคสตราของ Ben Pollack มือกลองแจ๊ส(Ben Pollack) ซึ่งมาจากชิคาโกด้วย เขายังได้พบกับเกล็นมิลเลอร์ซึ่งมิตรภาพของเขาคงอยู่ตลอดชีวิต

พ่อของนักดนตรีเชื่อมั่นในความจริงใจในความปรารถนาของลูกชายสัญญาว่าจะซื้อทักซิโด้ให้เขา (และควรสังเกตว่าครอบครัวกู๊ดแมนไม่ใช่คนรวย)

กับเขากู๊ดแมนได้บันทึกเสียงจำนวนมากในปี พ.ศ. 2469-2477 การทำงานร่วมกันของนักดนตรีใช้เวลา 4 ปีหลังจากนั้นความปรารถนาที่จะพัฒนาต่อไปทำให้เขาไปนิวยอร์กซึ่ง Goodman เริ่มอาชีพของเขาในฐานะนักดนตรีอิสระ เขามักจะบันทึกเสียงทางวิทยุเล่นในวงออเคสตราของละครเพลงบรอดเวย์ ควบคู่ไปกับการแต่งเพลงของตัวเองและแสดงด้วยวงดนตรีขนาดเล็กที่มีการจัดระเบียบอย่างอิสระ

สัญญาฉบับแรก

ปี 1931 เป็นปีที่สำคัญสำหรับนักดนตรี เขาบันทึกผลงานประพันธ์คนแรกเขาไม่คุ้มกับน้ำตาของคุณซึ่งกลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ปลายปี 2476 กู๊ดแมนเซ็นสัญญากับ บริษัท แผ่นเสียง โคลัมเบียเรคคอร์ด และในตอนต้นของปี 1934 เขาได้เปิดตัวเพลงฮิตสามเพลงที่รวมอยู่ในเพลงแจ๊สยอดนิยมสิบเพลง

ด้วยเหตุนี้ Benny Goodman จึงได้เตรียมความพร้อมที่จะสร้างสรรค์ดนตรีแจ๊สออเคสตราของตัวเอง ระหว่างทางนักดนตรีได้รับข้อเสนอให้ไปแสดงที่ Billy Rose Music Hall ซึ่งพวกเขาทำได้สำเร็จ

คอนเสิร์ตนี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักคลาริเน็ตเป็นอย่างมากจนงานในวงออเคสตราเสร็จสิ้นในฤดูร้อน เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2477 วงออเคสตราของเขาได้ฉายรอบปฐมทัศน์และอีกหนึ่งเดือนต่อมาเพลงประกอบเพลง Moon Glow ของกู๊ดแมนก็ขึ้นสู่อันดับต้น ๆ

หลังจากสิ้นสุดสัญญากับห้องแสดงดนตรี Goodman ได้รับเชิญให้จัดรายการ Let’s Dance ในคืนวันเสาร์ของ NBC แต่การประท้วงโดยคนงานของ บริษัท National Biscuit ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนการออกอากาศทางวิทยุบังคับให้สถานีวิทยุปิดการออกอากาศ Benny Goodman และนักดนตรีของเขาไม่อยู่ในงาน

สำหรับสหรัฐอเมริกาช่วงเวลาที่รุนแรงของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ก็มาถึง เพื่อสร้างรายได้ให้กับวงออเคสตรา Goodman ได้จัดทัวร์ประเทศในช่วงฤดูร้อนปี 1935 อย่างไรก็ตามวงสวิงในเวลานั้นได้รับความนิยมเพียงอย่างเดียวและความนิยมยังน้อยมากโดยเฉพาะในเมืองต่างจังหวัด ลูกค้ายกเลิกคอนเสิร์ตหลายครั้งเพราะต้องการฟังเพลงเต้นรำโดยเฉพาะซึ่งเป็นที่คุ้นเคยของผู้คนอยู่แล้ว

สวิงคิงเบนนี่กู๊ดแมน

นักดนตรีเดินทางไปลอสแองเจลิส สถานการณ์ทางการเงินของวงออร์เคสตรามีความสำคัญมากจนกลัวการยกเลิกคอนเสิร์ตนักดนตรีเริ่มการแสดงไม่ใช่ด้วยดนตรีของตัวเอง แต่เป็นดนตรีเต้นรำธรรมดา ผู้ชมรับฟังโดยไม่กระตือรือร้นเพราะทุกคนคุ้นเคยกับเพลงของ Goodman ทางวิทยุและพวกเขาก็มาฟังวงสวิง เมื่อมองไปที่สายตาที่น่าหดหู่เช่นนั้นมือกลองของวงออเคสตราก็ร้องอุทานออกมา:

พวกเรากำลังทำบ้าอะไรอยู่? ถ้านี่เป็นคอนเสิร์ตสุดท้ายของพวกเรามาเล่นในแบบที่เรารู้สึกละอายใจกันเถอะ!

และพวกเขาเล่นเพลงสวิงของพวกเขา คนปลื้มนักดนตรีสาด! คอนเสิร์ตครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะที่แท้จริงของกู๊ดแมนหลังจากนั้นเขาก็กลายเป็นดาราในชั่วข้ามคืน 21 สิงหาคม 1935 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ "ยุคสวิง".

หลังจากนั้นไม่นานกู๊ดแมนก็ย้ายไปอยู่ที่ชิคาโกซึ่งด้วยความร่วมมือกับนักดนตรีและนักร้องแจ๊สคนอื่น ๆ เขาก็สร้างวงสวิงฮิตมากมาย ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2480 วงออเคสตราของเขาได้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง Hotel Hollywood

เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2481 เบ็นนี่กู๊ดแมนถึงจุดสูงสุดในอาชีพการงานของเขา เขาให้ คอนเสิร์ตที่ Carnegie Philharmonic Hall ในนิวยอร์กซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ดนตรีแจ๊สได้ฟังและแสดงผลงานของเขา ต่อจากนั้นมีการรวมคอนเสิร์ตแจ๊สที่ Carnegie Hall หอเกียรติยศแกรมมี่.

Benny Goodman ได้รับความนิยมอย่างมากไม่เพียง แต่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังได้รับความนิยมในยุโรปด้วย ในปีพ. ศ. 2482 ทีมจากไป ยีนครูปา และ (แฮร์รี่เจมส์) - พวกเขาตัดสินใจที่จะสร้างออเคสตร้าของตัวเอง ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกันกู๊ดแมนและนักแสดงมีส่วนร่วมในการผลิตละครเพลงบรอดเวย์ Swingin the Dream นักดนตรีได้ร่วมมือกับนักร้องที่ประสบความสำเร็จมากมายเช่น: มิลเดรดเบลีย์, มาร์ธาทิลตัน, หลุยส์โทบิน, (เพ็กกี้ลี)... ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2485 กู๊ดแมนแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Sinkopa

วงออเคสตราในช่วงสงคราม

การระบาดของสงครามโลกครั้งที่สองบังคับให้ Goodman หยุดทำงานกับ บริษัท แผ่นเสียงชั่วคราว วิกเตอร์อาร์ซีเอ... ครั้งนี้มีความสำคัญต่ออาชีพการแสดงของเขาเขาแสดงในภาพยนตร์หลายเรื่อง: "บริการเข้าห้องอาหาร" "ทุกอย่างอยู่ที่นี่" "ขอแสดงความนับถือและไม่มีการด้นสด" ในปีพ. ศ. 2487 Benny Goodman และกลุ่มของเขาปรากฏตัวในรายการบรอดเวย์เรื่อง The Seven Arts การแสดงประสบความสำเร็จอย่างมาก

ตั้งแต่ปีพ. ศ. 2488 Goodman กลับมาทำงานในการบันทึกเสียงเพลงของเขาและกลับไปที่สตูดิโอ ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2492 นักปี่ชวาได้ยกเลิกวงออเคสตราของเขา... ต่อมาเขาเก็บรวบรวมวงดนตรีเล็ก ๆ ชั่วคราวเฉพาะช่วงคอนเสิร์ตทัวร์และการบันทึกเสียง

ในช่วงปีพ. ศ. 2499 ถึง พ.ศ. 2505 นักดนตรีได้ออกทัวร์ไปทั่วโลกหลายครั้งรวมถึงในสหภาพโซเวียต ในปีพ. ศ. 2506 วงดนตรีในตำนานของเบ็นนี่กู๊ดแมนในช่วงทศวรรษที่ 1930 ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งและอัลบั้มของพวกเขา Together Again! กลายเป็นหนึ่งในบันทึกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

ในปีต่อ ๆ มาเขาแทบไม่ได้บันทึก "King of Swing" Benny Goodman หัวใจวายเสียชีวิต 13 มิถุนายน 2529 ในนิวยอร์ก.