ภาพประกอบพจนานุกรมสารานุกรมชีวประวัติ Franz Peter Schubert - อัจฉริยะทางดนตรีแห่งศตวรรษที่ 19 The Life of Schubert

หลัก / หย่า

ชูเบิร์ตมีชีวิตอยู่เพียงสามสิบเอ็ดปี เขาเสียชีวิตอย่างเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจหมดแรงจากความล้มเหลวในชีวิต ไม่มีการแสดงซิมโฟนีเก้าเพลงของนักแต่งเพลงในช่วงชีวิตของเขา จากหกร้อยเพลงมีการพิมพ์ประมาณสองร้อยเพลงและจากโซนาต้าเปียโนยี่สิบเพลงมีเพียงสามเพลง

***

ชูเบิร์ตไม่ได้อยู่คนเดียวในความไม่พอใจกับชีวิตรอบตัวเขา ความไม่พอใจและการประท้วงของคนที่ดีที่สุดในสังคมสะท้อนให้เห็นในทิศทางใหม่ในศิลปะ - ในแนวจินตนิยม ชูเบิร์ตเป็นนักแต่งเพลงแนวโรแมนติกคนแรก ๆ
Franz Schubert เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2340 ที่ชานเมืองเวียนนา - ลิชเทนทาล พ่อของเขาเป็นครูในโรงเรียนมาจากครอบครัวชาวนา แม่เป็นลูกสาวของช่างทำกุญแจ ครอบครัวชอบดนตรีมากและจัดให้มีการแสดงดนตรีในช่วงเย็นอย่างต่อเนื่อง พ่อของฉันเล่นเชลโลและพี่ ๆ ก็เล่นเครื่องดนตรีต่างๆ

หลังจากค้นพบพรสวรรค์ทางดนตรีของฟรานซ์ตัวน้อยพ่อและพี่ชายของเขาอิกนาซจึงเริ่มสอนเขาเล่นไวโอลินและเปียโน ในไม่ช้าเด็กชายก็สามารถมีส่วนร่วมในการแสดงวงเครื่องสายในบ้านโดยเล่นเป็นส่วนของวิโอลา ฟรานซ์มีเสียงที่ยอดเยี่ยม เขาร้องเพลงประสานเสียงในโบสถ์แสดงท่อนเดี่ยวที่ยาก พ่อพอใจกับความสำเร็จของลูกชาย

เมื่อฟรานซ์อายุสิบเอ็ดปีเขาได้รับมอบหมายให้เป็นนักโทษซึ่งเป็นโรงเรียนเตรียมนักร้องของโบสถ์ บรรยากาศของสถาบันการศึกษาเป็นที่ชื่นชอบในการพัฒนาความสามารถทางดนตรีของเด็กชาย ในวงดุริยางค์นักเรียนของโรงเรียนเขาเล่นเป็นกลุ่มไวโอลินตัวแรกและบางครั้งก็ทำหน้าที่ของผู้ควบคุมวงด้วย การแสดงดนตรีของวงออเคสตรามีหลากหลาย ชูเบิร์ตทำความคุ้นเคยกับผลงานไพเราะในประเภทต่างๆ (ซิมโฟนี, โอวเรส), ควอร์ต, การประพันธ์เสียง เขาสารภาพกับเพื่อน ๆ ว่าซิมโฟนีใน G minor ของ Mozart ทำให้เขาตกใจ ดนตรีของเบโธเฟนกลายเป็นมาตรฐานที่สูงสำหรับเขา

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาชูเบิร์ตเริ่มแต่งเพลง ผลงานชิ้นแรกของเขาคือแนวแฟนตาซีสำหรับเปียโนเพลงหลายเพลง นักแต่งเพลงหนุ่มเขียนบทความจำนวนมากด้วยความกระตือรือร้นและมักจะสร้างความเสียหายให้กับกิจกรรมอื่น ๆ ของโรงเรียน ความสามารถที่โดดเด่นของเด็กชายคนนี้ดึงดูดความสนใจของ Salieri นักประพันธ์เพลงชื่อดังของศาลซึ่งชูเบิร์ตศึกษาอยู่เป็นเวลาหนึ่งปี
เมื่อเวลาผ่านไปการพัฒนาอย่างรวดเร็วของความสามารถทางดนตรีของ Franz เริ่มก่อให้เกิดความวิตกกังวลในตัวพ่อของเขา เมื่อรู้ดีว่าเส้นทางของนักดนตรีแม้แต่คนที่มีชื่อเสียงระดับโลกนั้นยากเพียงใดพ่อต้องการช่วยลูกชายของเขาให้พ้นจากชะตากรรมเช่นนี้ เพื่อเป็นการลงโทษที่เขาหลงใหลในดนตรีมากเกินไปเขาถึงกับห้ามไม่ให้เขาอยู่บ้านในช่วงวันหยุด แต่ไม่มีข้อห้ามใดที่สามารถขัดขวางการพัฒนาความสามารถของเด็กชายได้

ชูเบิร์ตตัดสินใจที่จะทำลายกับนักโทษ ทิ้งหนังสือเรียนที่น่าเบื่อและไม่จำเป็นลืมเรื่องการยัดเยียดที่ไร้ประโยชน์ซึ่งทำให้หัวใจและความคิดหมดไปและเป็นอิสระ ยอมจำนนกับดนตรีโดยสิ้นเชิงมีชีวิตอยู่เพื่อมันและเพื่อประโยชน์ของมันเท่านั้น เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2356 เขาจบซิมโฟนีครั้งแรกใน D major ในแผ่นคะแนนสุดท้าย Schubert เขียนว่า: "End and End" การสิ้นสุดของซิมโฟนีและการสิ้นสุดของนักโทษ


เป็นเวลาสามปีที่เขาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยครูสอนเด็ก ๆ ให้อ่านและเขียนและวิชาประถมศึกษาอื่น ๆ แต่ความสนใจในดนตรีของเขาความปรารถนาที่จะแต่งเพลงของเขานั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ มีเพียงคนเดียวที่ต้องประหลาดใจกับความมีชีวิตชีวาของธรรมชาติที่สร้างสรรค์ของเขา ในช่วงหลายปีของการทำงานหนักในโรงเรียนตั้งแต่ปี 1814 ถึงปี 1817 เมื่อทุกอย่างดูเหมือนจะต่อต้านเขาเขาได้สร้างผลงานที่น่าประหลาดใจมากมาย


ในปีพ. ศ. 2358 ชูเบิร์ตเขียนเพลง 144 เพลงโอเปรา 4 เพลงซิมโฟนี 2 เพลงมวลชน 2 เพลงโซนาตาเปียโน 2 เพลงและวงเครื่องสาย ในบรรดาการสร้างสรรค์ในช่วงเวลานี้มีหลายสิ่งที่สว่างไสวด้วยเปลวไฟแห่งอัจฉริยะที่ไม่เสื่อมคลาย เหล่านี้เป็นซิมโฟนีที่สำคัญของ B-flat ที่น่าเศร้าและที่ห้าเช่นเดียวกับเพลง "Rose" "Margarita ที่วงล้อหมุน" "Forest Tsar" "Margarita ที่วงล้อหมุน" - โมโนดราม่าคำสารภาพของ วิญญาณ.

"The Forest King" เป็นละครที่มีตัวละครหลายตัว พวกเขามีตัวละครของตัวเองแตกต่างกันอย่างชัดเจนการกระทำของพวกเขาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงแรงบันดาลใจการต่อต้านและศัตรูความรู้สึกเข้ากันไม่ได้และมีขั้ว

ประวัติความเป็นมาของการสร้างผลงานชิ้นเอกนี้โดดเด่น มันเกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจ " ครั้งหนึ่ง - นึกถึง Spaun เพื่อนของนักแต่งเพลง - เราไปที่ Schubert ซึ่งตอนนั้นอาศัยอยู่กับพ่อของเขา เราพบเพื่อนของเราด้วยความตื่นเต้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุด จองในมือเขาเดินขึ้นและลงในห้องอ่านออกเสียงราชาแห่งป่า ทันใดนั้นเขาก็นั่งลงที่โต๊ะและเริ่มเขียน เมื่อเขายืนขึ้นเพลงบัลลาดอันงดงามก็พร้อมแล้ว "

ความปรารถนาของพ่อที่จะเปลี่ยนลูกชายของเขาให้เป็นครูที่มีรายได้เพียงเล็กน้อย แต่เชื่อถือได้ล้มเหลว นักแต่งเพลงหนุ่มตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะอุทิศตนให้กับดนตรีและออกจากการสอนที่โรงเรียน เขาไม่กลัวการทะเลาะกับพ่อของเขา Schubert อายุสั้นทั้งหมดเป็นผลงานที่สร้างสรรค์ เขาต้องประสบกับความต้องการทางวัตถุและการถูกกีดกันอย่างมากเขาจึงทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยสร้างงานทีละชิ้น


โชคไม่ดีที่ความยากลำบากทางวัตถุทำให้เขาแต่งงานกับแฟนสาวไม่ได้ เทเรซาโลงศพร้องเพลงประสานเสียงในโบสถ์ จากการซ้อมครั้งแรกชูเบิร์ตสังเกตเห็นเธอแม้ว่าเธอจะไม่เด่นก็ตาม ผมสีขาวมีคิ้วขาวราวกับว่าจางหายไปในแสงแดดและใบหน้าที่เป็นเม็ดเล็ก ๆ เช่นเดียวกับสาวผมบลอนด์ที่น่าเบื่อที่สุดเธอไม่ได้เปล่งประกายด้วยความงามเลยแต่ตรงกันข้าม - เมื่อมองแวบแรกมันดูน่าเกลียด ร่องรอยของฝีดาษปรากฏชัดเจนบนใบหน้ากลมของเธอ แต่ทันทีที่เสียงดนตรีดังขึ้นใบหน้าที่ไร้สีก็เปลี่ยนไป มันเพิ่งสูญพันธุ์ไปจึงไม่มีชีวิต ตอนนี้สว่างไสวด้วยแสงภายในมันอาศัยและส่องแสง

ไม่ว่าชูเบิร์ตจะเคยชินกับความใจแข็งของโชคชะตาแค่ไหนเขาก็ไม่คาดคิดว่าโชคชะตาจะปฏิบัติต่อเขาอย่างโหดร้าย “ ความสุขคือผู้ที่พบเพื่อนแท้ ความสุขยิ่งกว่าคือคนที่พบมันในภรรยาของเขา " , - เขาเขียนในไดอารี่ของเขา

อย่างไรก็ตามความฝันได้กลายเป็นฝุ่น แม่ของเทเรซาเข้ามาแทรกแซงเลี้ยงดูเธอโดยไม่มีพ่อ พ่อของเธอเป็นเจ้าของโรงไหมเล็ก ๆ หลังจากเสียชีวิตไปแล้วเขาได้ทิ้งโชคเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับครอบครัวและหญิงม่ายก็เปลี่ยนความกังวลทั้งหมดของเธอเพื่อให้แน่ใจว่าเงินทุนที่มีอยู่น้อยจะไม่ลด
โดยธรรมชาติแล้วเธอตั้งความหวังไว้ว่าจะมีอนาคตที่ดีขึ้นด้วยการแต่งงานของลูกสาว และเป็นเรื่องธรรมดายิ่งกว่าที่ชูเบิร์ตไม่เหมาะกับเธอ นอกจากเงินเดือนของผู้ช่วยครูแล้วเขายังมีดนตรีซึ่งอย่างที่คุณทราบไม่ใช่เงินทุน คุณสามารถอยู่กับดนตรี แต่คุณไม่สามารถอยู่กับมันได้
เด็กสาวที่ยอมจำนนจากชานเมืองซึ่งเลี้ยงดูโดยผู้อาวุโสของเธอไม่ยอมให้มีการไม่เชื่อฟังแม้ในความคิดของเธอ สิ่งเดียวที่เธอยอมให้ตัวเองคือน้ำตา หลังจากร้องไห้เงียบ ๆ จนถึงงานแต่งงานเทเรซาตาบวมก็เดินไปตามทางเดิน
เธอกลายเป็นภรรยาของพ่อครัวทำขนมและใช้ชีวิตแบบสีเทาที่รุ่งเรืองและจำเจมายาวนานเสียชีวิตในปีที่เจ็ดสิบแปด เมื่อเธอถูกนำตัวไปที่สุสานขี้เถ้าของชูเบิร์ตได้สลายตัวไปนานแล้วในหลุมศพ



เป็นเวลาหลายปี (ตั้งแต่ปีพ. ศ. 2360 ถึง พ.ศ. 2365) ชูเบิร์ตอาศัยอยู่สลับกับสหายคนหนึ่งหรือคนอื่น ๆ บางคน (Spaun และ Stadler) เป็นเพื่อนของนักแต่งเพลงแม้จะอยู่ในความผิดก็ตาม ต่อมาพวกเขาได้เข้าร่วมโดย Schober ผู้มีความสามารถด้านศิลปะหลากหลายศิลปิน Schwind กวี Mayrhofer นักร้อง Vogl และคนอื่น ๆ จิตวิญญาณของวงกลมนี้คือชูเบิร์ต
ชูเบิร์ตมีขนาดเล็กรูปร่างท้วมสายตาสั้นมากชูเบิร์ตมีเสน่ห์อย่างมาก ดวงตาที่เปล่งประกายของเขานั้นดูดีเป็นพิเศษซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเมตตาความอายและความอ่อนโยนของตัวละครในกระจก และผิวที่บอบบางเปลี่ยนแปลงได้และผมสีน้ำตาลหยิกทำให้รูปลักษณ์ของเขาดูน่าดึงดูดเป็นพิเศษ


ในระหว่างการประชุมเพื่อน ๆ ได้คุ้นเคยกับนวนิยายกวีนิพนธ์ในอดีตและปัจจุบัน พวกเขาโต้เถียงกันอย่างดุเดือดถกประเด็นที่เกิดขึ้นวิพากษ์วิจารณ์ระเบียบสังคมที่มีอยู่ แต่บางครั้งการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อดนตรีของชูเบิร์ตโดยเฉพาะพวกเขายังได้ชื่อว่า "Schubertiad"
ในตอนเย็นเช่นนี้นักแต่งเพลงไม่ได้ออกจากเปียโน แต่จะแต่งเพลงแนวเพลงวอลทซ์แลนด์เลอร์และการเต้นรำอื่น ๆ ในทันที หลายคนยังไม่ได้บันทึก เพลงของชูเบิร์ตซึ่งเขามักจะแสดงเองก็น่าชื่นชมไม่น้อย บ่อยครั้งที่การสังสรรค์ที่เป็นมิตรเหล่านี้กลายเป็นการเดินเล่นนอกเมือง

เต็มไปด้วยความคิดที่กล้าหาญมีชีวิตชีวาบทกวีดนตรีที่ไพเราะการประชุมเหล่านี้เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความบันเทิงที่ว่างเปล่าและไร้ความหมายของเยาวชนที่เป็นฆราวาส
ความวุ่นวายในชีวิตประจำวันความบันเทิงที่ร่าเริงไม่สามารถเบี่ยงเบนความสนใจของชูเบิร์ตจากความคิดสร้างสรรค์พายุต่อเนื่องแรงบันดาลใจ เขาทำงานอย่างเป็นระบบทั้งวันทั้งวัน “ ฉันเขียนทุกเช้าเมื่อฉันทำชิ้นหนึ่งเสร็จฉันก็เริ่มอีกชิ้นหนึ่ง” , - นักแต่งเพลงยอมรับ ชูเบิร์ตแต่งเพลงเร็วผิดปกติ

ในบางวันเขาสร้างเพลงมากถึงโหล! ความคิดเกี่ยวกับดนตรีถือกำเนิดขึ้นอย่างต่อเนื่องผู้แต่งแทบจะไม่มีเวลาใส่กระดาษ และถ้าเธอไม่อยู่ในมือเขาเขียนที่ด้านหลังของเมนูเรื่องที่สนใจและเรื่องที่สนใจ ต้องการเงินโดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาได้รับความเดือดร้อนจากการขาดกระดาษเพลง เพื่อนที่ห่วงใยจัดหานักแต่งเพลงมาให้ ดนตรีมาเยี่ยมเขาในยามหลับ
เมื่อเขาตื่นขึ้นเขาพยายามจดบันทึกให้เร็วที่สุดดังนั้นเขาจึงไม่แยกแว่นสายตาของเขาแม้ในเวลากลางคืน และถ้างานนั้นไม่ได้กลายเป็นรูปแบบที่สมบูรณ์แบบและเสร็จสมบูรณ์ในทันทีนักแต่งเพลงก็ยังคงทำงานต่อไปจนกว่าเขาจะพอใจอย่างสมบูรณ์


ดังนั้นสำหรับบทกวีบางบทชูเบิร์ตเขียนเพลงมากถึงเจ็ดเวอร์ชั่น! ในช่วงเวลานี้ชูเบิร์ตเขียนผลงานที่ยอดเยี่ยมของเขาสองชิ้น - "ซิมโฟนีที่ยังไม่เสร็จ" และเพลง "The Beautiful Miller Woman" "ซิมโฟนีที่ยังไม่เสร็จ" ประกอบด้วยสี่ส่วนตามธรรมเนียม แต่เป็นสองส่วน และประเด็นไม่ได้อยู่ที่ Schubert ไม่มีเวลาเขียนอีกสองส่วนให้เสร็จ เขาเริ่มทำงานที่สาม - มินิเอทตามความต้องการของซิมโฟนีคลาสสิก แต่ละทิ้งความคิดของเขา ซิมโฟนีที่เป่าเสร็จสมบูรณ์ ทุกสิ่งทุกอย่างจะไม่จำเป็นและไม่จำเป็น
และหากรูปแบบคลาสสิกต้องการอีกสองส่วนคุณต้องยอมแพ้แบบฟอร์ม ที่เขาทำ. เพลงเป็นองค์ประกอบของชูเบิร์ต ในนั้นเขาสูงเป็นประวัติการณ์ เขายกระดับแนวเพลงซึ่งก่อนหน้านี้ถือว่าไม่มีนัยสำคัญไปสู่ระดับความสมบูรณ์แบบทางศิลปะ และเมื่อทำเช่นนี้แล้วเขาก็ก้าวไปไกลกว่านั้น - เขาทำให้ดนตรีแชมเบอร์เต็มไปด้วยการแต่งเพลง - ควอเต็ต, ควินเต็ต - แล้วก็ดนตรีไพเราะ

การรวมกันของสิ่งที่ดูเหมือนจะเข้ากันไม่ได้ - เพลงขนาดเล็กกับขนาดใหญ่ขนาดเล็กกับขนาดใหญ่เพลงที่มีความไพเราะทำให้เกิดความใหม่ในเชิงคุณภาพที่แตกต่างจากทุกสิ่งที่เคยเป็นมา - ซิมโฟนีโรแมนติก โลกของเธอเป็นโลกแห่งความรู้สึกของมนุษย์ที่เรียบง่ายและใกล้ชิดประสบการณ์ทางจิตวิทยาที่ลึกซึ้งและลึกซึ้งที่สุด นี่คือคำสารภาพของจิตวิญญาณซึ่งไม่ได้แสดงออกด้วยปากกาหรือคำพูด แต่เป็นเสียง

วัฏจักรของเพลง "The Beautiful Miller's Woman" เป็นการยืนยันอย่างชัดเจนถึงเรื่องนี้ ชูเบิร์ตเขียนไว้ในบทกวีของวิลเฮล์มมึลเลอร์กวีชาวเยอรมัน “ ผู้หญิงที่สวยงามของมิลเลอร์” เป็นงานสร้างที่ได้รับแรงบันดาลใจซึ่งเปล่งประกายด้วยบทกวีที่อ่อนโยนความสุขความโรแมนติกของความรู้สึกบริสุทธิ์และสูง
รอบประกอบด้วยเพลงที่แยกจากกันยี่สิบเพลง พวกเขารวมกันเป็นละครเรื่องเดียวที่มีพล็อตเรื่องพลิกผันและการปฏิเสธโดยมีพระเอกโคลงสั้น ๆ คนหนึ่ง - เด็กฝึกงานในโรงสีพเนจร
อย่างไรก็ตามพระเอกใน "The Beautiful Miller" ไม่ได้อยู่คนเดียว ถัดจากเขาเป็นอีกหนึ่งฮีโร่ที่สำคัญไม่น้อย - กระแส เขาใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยมรสุมและเปลี่ยนแปลงได้อย่างเข้มข้น


ผลงานในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาของชีวิตของชูเบิร์ตมีความหลากหลายมาก เขาเขียนซิมโฟนีโซนาต้าเปียโนควอเตตควินเต็ตทรีออสมวลชนโอเปราเพลงมากมายและดนตรีอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ในช่วงชีวิตของนักแต่งเพลงผลงานของเขาแทบไม่ได้รับการแสดงและส่วนใหญ่ยังคงเป็นต้นฉบับ
ชูเบิร์ตแทบไม่มีโอกาสเผยแพร่ผลงานของเขา เพลงซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในผลงานของชูเบิร์ตได้รับการพิจารณาว่าเหมาะสำหรับการทำเพลงในบ้านมากกว่าสำหรับคอนเสิร์ตเปิด เมื่อเทียบกับซิมโฟนีและโอเปร่าเพลงไม่ถือว่าเป็นแนวดนตรีที่สำคัญ

ไม่ใช่หนึ่งในโอเปร่าของชูเบิร์ตที่ได้รับการยอมรับในการผลิตไม่ใช่หนึ่งในซิมโฟนีของเขาที่แสดงโดยวงออเคสตรา ยิ่งไปกว่านั้นคะแนนของซิมโฟนีหมายเลขแปดและเก้าที่ดีที่สุดของเขาพบได้เพียงไม่กี่ปีหลังจากการเสียชีวิตของนักแต่งเพลง และเพลงประกอบคำพูดของเกอเธ่ที่ชูเบิร์ตส่งถึงเขาก็ไม่ได้รับความสนใจจากกวี
ความอายไม่สามารถจัดระเบียบกิจการของพวกเขาไม่เต็มใจที่จะถามความอัปยศอดสูต่อหน้าบุคคลที่มีอิทธิพลก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ชูเบิร์ตประสบปัญหาทางการเงินอย่างต่อเนื่อง แต่ถึงแม้จะขาดเงินอย่างต่อเนื่องและมักจะหิวโหยนักแต่งเพลงก็ไม่ต้องการที่จะรับใช้เจ้าชายเอสเทอร์ฮาซีหรือออร์แกนในศาลซึ่งเขาได้รับเชิญ บางครั้งชูเบิร์ตไม่มีเปียโนและแต่งโดยไม่มีเครื่องดนตรี ความยากลำบากทางวัตถุไม่ได้ขัดขวางเขาจากการแต่งเพลง

แต่ถึงกระนั้นชาวเวียนนาก็รู้จักและตกหลุมรักดนตรีของชูเบิร์ตซึ่งทำให้พวกเขาได้ใจ เช่นเดียวกับเพลงลูกทุ่งเก่า ๆ ที่ผ่านจากนักร้องสู่นักร้องผลงานของเขาค่อยๆได้รับความชื่นชม พวกเขาไม่ใช่คนประจำของศาลที่ยอดเยี่ยมซึ่งเป็นตัวแทนของชนชั้นสูง เช่นเดียวกับสายน้ำในป่าดนตรีของชูเบิร์ตก็เข้ามาในหัวใจของคนทั่วไปในเวียนนาและชานเมือง
นักร้องที่โดดเด่นในยุคนั้นมีบทบาทสำคัญคือโยฮันน์ไมเคิลโวเกิลผู้ซึ่งแสดงเพลงของชูเบิร์ตให้กับผู้แต่งเอง ความไม่มั่นคงความล้มเหลวอย่างต่อเนื่องในชีวิตส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสุขภาพของชูเบิร์ต ร่างกายของเขาอ่อนล้า การคืนดีกับพ่อในช่วงหลายปีสุดท้ายของชีวิตชีวิตในบ้านที่สงบและสมดุลมากขึ้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกต่อไป ชูเบิร์ตไม่สามารถหยุดแต่งเพลงได้นี่คือความหมายของชีวิตของเขา

แต่ความคิดสร้างสรรค์เรียกร้องค่าใช้จ่ายจำนวนมากของความพยายามพลังงานซึ่งเหลือน้อยลงทุกวัน เมื่ออายุยี่สิบเจ็ดผู้แต่งเขียนถึงเพื่อนของเขาชอเบอร์: "ฉันรู้สึกเป็นทุกข์เป็นคนที่ไม่มีนัยสำคัญที่สุดในโลก"
อารมณ์นี้สะท้อนให้เห็นในเพลงในช่วงสุดท้าย ถ้าก่อนหน้านี้ชูเบิร์ตสร้างผลงานที่เบาและสนุกสนานเป็นส่วนใหญ่จากนั้นหนึ่งปีก่อนที่เขาจะเสียชีวิตเขาเขียนเพลงโดยรวมเข้าด้วยกันภายใต้ชื่อสามัญ
สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขา เขาเขียนถึงความทุกข์และความทุกข์ เขาเขียนเกี่ยวกับความเศร้าโศกและความปรารถนาอย่างยิ่ง เขาเขียนเกี่ยวกับความเจ็บปวดอย่างมากของจิตวิญญาณและประสบกับความปวดร้าวทางจิตใจ "เส้นทางฤดูหนาว" คือการเดินทางผ่านความเจ็บปวดของทั้งพระเอกและผู้แต่งโคลงสั้น ๆ

วงจรที่เขียนด้วยเลือดของหัวใจกระตุ้นเลือดและกระตุ้นหัวใจ ด้ายเส้นเล็กที่ถักทอโดยศิลปินเชื่อมโยงจิตวิญญาณของคน ๆ หนึ่งกับจิตวิญญาณของผู้คนนับล้านด้วยสายใยที่มองไม่เห็น แต่ละลายไม่ได้ เปิดใจถึงกระแสแห่งความรู้สึกที่พุ่งออกมาจากหัวใจของเขา

ในปีพ. ศ. 2371 ด้วยความพยายามของเพื่อน ๆ คอนเสิร์ตเดียวของผลงานของเขาในช่วงชีวิตของชูเบิร์ตถูกจัดขึ้น คอนเสิร์ตนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากและสร้างความสุขให้กับผู้แต่งเพลงเป็นอย่างมาก แผนการของเขาในอนาคตสดใสขึ้น แม้จะมีสุขภาพที่ล้มเหลว แต่เขาก็ยังคงแต่งเพลงต่อไป จุดจบมาอย่างไม่คาดคิด ชูเบิร์ตล้มป่วยด้วยโรคไข้รากสาดใหญ่
ร่างกายที่อ่อนแอไม่สามารถยืนได้ด้วยโรคร้ายแรงและในวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2371 ชูเบิร์ตเสียชีวิต ทรัพย์สินที่เหลือมีมูลค่าเป็นเงินเพนนี บทประพันธ์มากมายหายไป

กวีที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น Grillparzer ผู้ซึ่งแต่งพิธีศพให้กับเบโธเฟนเมื่อหนึ่งปีก่อนได้เขียนไว้ในอนุสาวรีย์ชูเบิร์ตในสุสานเวียนนา:

ท่วงทำนองลึกลับที่น่าทึ่งลึกและดูเหมือนสำหรับฉัน ความเศร้าความศรัทธาการละทิ้ง
F.Schubert แต่งเพลง Ave Maria ในปี 1825 ในขั้นต้นงานของ F.Schubert มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Ave Maria เพียงเล็กน้อย ชื่อเพลงคือ "เพลงที่สามของเอลเลน" และเนื้อเพลงที่แต่งเพลงนี้นำมาจากบทกวี "The Lady of the Lake" ของวอลเตอร์สก็อตซึ่งแปลเป็นภาษาเยอรมันโดยอดัมสตอร์ก

ชีวประวัติ

วัยเด็ก

ในการศึกษาของเขาชูเบิร์ตทำงานหนักในวิชาคณิตศาสตร์และภาษาละตินและในปี พ.ศ. 2356 เขาตัดสินใจออกจากโบสถ์ ชูเบิร์ตกลับบ้านเข้าเซมินารีของครูจากนั้นได้งานเป็นครูในโรงเรียนที่พ่อของเขาทำงาน ในเวลาว่างเขาแต่งเพลง เขาศึกษากลัคโมซาร์ทและเบโธเฟนเป็นหลัก ผลงานอิสระเรื่องแรก - โอเปร่า "ปราสาทแห่งความสุขของซาตาน" และงาน Mass in F major - เขาเขียนในปี 1814

วุฒิภาวะ

งานของชูเบิร์ตไม่ตรงกับอาชีพของเขาและเขาพยายามสร้างตัวเองในฐานะนักแต่งเพลง แต่สำนักพิมพ์ต่างๆปฏิเสธที่จะเผยแพร่ผลงานของเขา ในฤดูใบไม้ผลิของปี 1816 เขาถูกปฏิเสธไม่ให้ดำรงตำแหน่งของ Kapellmeister ใน Laibach (ปัจจุบันคือลูบลิยานา) ในไม่ช้า Joseph von Spaun ได้แนะนำ Schubert ให้กับกวี Franz von Schober ชอเบอร์จัดให้ชูเบิร์ตพบกับโยฮันน์ไมเคิลโวเกิลบาริโทนชื่อดัง เพลงของ Schubert ที่แสดงโดย Vogl ได้รับความนิยมอย่างมากในร้านเสริมสวยของเวียนนา ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2361 การประพันธ์เพลงครั้งแรกของชูเบิร์ตได้รับการเผยแพร่ - เพลง เออร์ลาฟซี (เป็นส่วนเสริมของกวีนิพนธ์ที่แก้ไขโดย F. Sartori)

ในช่วงทศวรรษที่ 1820 ชูเบิร์ตได้พัฒนาปัญหาสุขภาพ ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2365 เขาล้มป่วย แต่หลังจากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในฤดูใบไม้ร่วงปี พ.ศ. 2366 สุขภาพของเขาก็ดีขึ้น

ปีที่แล้ว

หลุมฝังศพแรกของ Schubert

การสร้าง

มรดกของชูเบิร์ตครอบคลุมหลากหลายประเภท เขาสร้างซิมโฟนี 9 ชิ้นเครื่องดนตรีมากกว่า 25 ชิ้นโซนาต้าเปียโน 15 \u200b\u200bชิ้นหลายชิ้นสำหรับเปียโนในมือสองและสี่มือ 10 โอเปรา 6 มวลชนงานประสานเสียงสำหรับวงดนตรีและในที่สุดก็ประมาณ 600 เพลง ในช่วงชีวิตของเขาและเป็นเวลานานพอสมควรหลังจากการเสียชีวิตของนักแต่งเพลงเขาได้รับการชื่นชมในฐานะนักแต่งเพลงเป็นหลัก ตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 เท่านั้นนักวิจัยเริ่มค่อยๆเข้าใจความสำเร็จของเขาในด้านอื่น ๆ ของความคิดสร้างสรรค์ ขอบคุณ Schubert เพลงนี้มีความสำคัญเท่าเทียมกับเพลงประเภทอื่นเป็นครั้งแรก ภาพบทกวีของเธอสะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์เกือบทั้งหมดของกวีนิพนธ์ของออสเตรียและเยอรมันรวมถึงนักเขียนชาวต่างชาติบางคน

ในปีพ. ศ. 2440 สำนักพิมพ์ Breitkopf และ Hertel ได้ตีพิมพ์ผลงานของนักแต่งเพลงฉบับสำคัญซึ่ง Johannes Brahms เป็นหัวหน้าบรรณาธิการ นักแต่งเพลงในศตวรรษที่ 20 เช่น Benjamin Britten, Richard Strauss และ George Crum ต่างก็เป็นผู้นิยมดนตรีของ Schubert หรือพูดพาดพิงถึงมันในเพลงของพวกเขาเอง บริทเทนซึ่งเป็นนักเปียโนที่ประสบความสำเร็จมาพร้อมกับเพลงของชูเบิร์ตหลายเพลงและมักเล่นโซโล่และดนตรีคู่ของเขา

ซิมโฟนีที่ยังไม่เสร็จ

ไม่ทราบวันที่ที่แน่นอนของการสร้างซิมโฟนีใน B minor (ยังไม่เสร็จ) มันอุทิศให้กับสังคมดนตรีสมัครเล่นในกราซและชูเบิร์ตนำเสนอสองส่วนในปีพ. ศ. 2367

ต้นฉบับถูกเก็บไว้เป็นเวลานานกว่า 40 ปีโดย Anselm Hüttenbrennerเพื่อนของ Schubert จนกระทั่งผู้ดำเนินรายการชาวเวียนนา Johann Herbek ได้ค้นพบและแสดงในคอนเสิร์ตในปี พ.ศ. 2408 ซิมโฟนีได้รับการตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2409

มันยังคงเป็นความลับของชูเบิร์ตเองว่าทำไมเขาถึงไม่จบซิมโฟนี "ยังไม่เสร็จ" ดูเหมือนว่าเขาตั้งใจจะนำมันไปสู่ข้อสรุปเชิงตรรกะ Scherzos ตัวแรกเสร็จสมบูรณ์แล้วและส่วนที่เหลือถูกพบในภาพร่าง

จากมุมมองอื่นซิมโฟนี "ยังไม่เสร็จ" เป็นงานที่เสร็จสมบูรณ์เนื่องจากช่วงของภาพและการพัฒนาของพวกเขาหมดลงภายในสองส่วน ครั้งหนึ่งเบโธเฟนได้สร้างโซนาตาสเป็นสองส่วนและต่อมาในหมู่นักแต่งเพลงแนวโรแมนติกงานดังกล่าวก็กลายเป็นเรื่องธรรมดา

ปัจจุบันมีตัวเลือกมากมายสำหรับการจบซิมโฟนี "ยังไม่เสร็จ" (โดยเฉพาะตัวเลือกสำหรับนักดนตรีชาวอังกฤษ Brian Newbould (eng. Brian newbould) และนักแต่งเพลงชาวรัสเซีย Anton Safronov)

บทความ

Octet. ลายเซ็นของ Schubert

  • เปียโนโซนาต้า - Moderato
    เปียโนโซนาต้า - Andante
    เปียโนโซนาต้า - Menuetto
    เปียโนโซนาต้า - Allegretto
    เปียโนโซนาต้า - Moderato
    เปียโนโซนาต้า - Andante
    เปียโนโซนาต้า - Scherzo
    เปียโนโซนาต้า - Allegro
    มวลใน G การเคลื่อนไหว 1
    มวลใน G การเคลื่อนไหว 2
    มวลใน G การเคลื่อนไหว 3
    มวลใน G การเคลื่อนไหว 4
    มวลใน G การเคลื่อนไหว 5
    มวลใน G การเคลื่อนไหว 6
    ทันควันใน B-flat การเคลื่อนไหว 1
    ทันควันใน B-flat การเคลื่อนไหว 2
    ทันควันใน B-flat การเคลื่อนไหว 3
    ทันควันใน B-flat การเคลื่อนไหว 4
    ทันควันใน B-flat การเคลื่อนไหว 5
    ทันควันใน B-flat การเคลื่อนไหว 6
    ทันควันใน B-flat การเคลื่อนไหว 7
    ทันควันใน A-flat, D. 935/2 (Op.142 No. 2)
    Der Hirt auf dem Felsen
  • ความช่วยเหลือในการเล่น
  • โอเปร่า - Alfonso และ Estrella (1822; จัดแสดงในปี 1854, Weimar), Fierrabras (1823; จัดแสดงในปี 1897, Karlsruhe) 3 เรื่องที่ยังไม่เสร็จรวมถึง Graf von Gleichen และอื่น ๆ ;
  • Singspili (7) ได้แก่ Claudine von Villa Bella (ตามข้อความของ Goethe, 1815, การแสดง 3 ครั้งแรกได้รับการเก็บรักษาไว้, จัดแสดงในปี 1978, เวียนนา), The Twin Brothers (1820, Vienna), The Conspirators หรือ Home War (1823; จัดแสดง 1861 แฟรงค์เฟิร์ตอัมไมน์);
  • ดนตรีประกอบละคร - The Magic Harp (1820, Vienna), Rosamund, Princess of Cyprus (1823, ibid.);
  • สำหรับนักร้องเดี่ยวนักร้องและวงออเคสตรา - 7 ฝูง (2357-2428) บังสุกุลเยอรมัน (พ.ศ. 2361) Magnificat (พ.ศ. 2358) ข้อเสนอและงานจิตวิญญาณอื่น ๆ ออราทิโอแคนตาตัสรวมถึงเพลงแห่งชัยชนะถึงมิเรียม (พ.ศ. 2371);
  • สำหรับวงออเคสตรา - ซิมโฟนี (1813; 1815; 1815; โศกนาฏกรรม, 1816; 1816; Small in C major, 1818; 1821, unfinished; Unfinished, 1822; Large in C major, 1828), 8 ครั้ง;
  • วงดนตรีบรรเลงในห้อง - 4 sonatas (1816-1817), แฟนตาซี (1827) สำหรับไวโอลินและเปียโน; โซนาต้าสำหรับ arpeggione และเปียโน (1824), เปียโน 2 ชุด (1827, 1828?), 2 string trios (1816, 1817), 14 หรือ 16 string quartets (1811-1826), trout piano quintet (1819?), string quintet ( 1828) อ็อกเต็ตสำหรับสตริงและแตร (1824) เป็นต้น
  • สำหรับเปียโนสองมือ - โซนาต้า 23 ชิ้น (รวม 6 ชิ้นที่ยังไม่เสร็จ 1815-1828) แฟนตาซี (The Wanderer, 1822 ฯลฯ ) 11 ทันควัน (1827-28) ดนตรี 6 ช่วงเวลา (1823-1828) rondo รูปแบบและอื่น ๆ บทละครการเต้นรำมากกว่า 400 ครั้ง (เพลงวอลทซ์, คนเดินดิน, การเต้นรำของเยอรมัน, minuets, ecossaises, การวิ่ง, ฯลฯ ; 1812-1827);
  • สำหรับเปียโนสี่มือ - โซนาตัส, โอโตเรส, เพ้อฝัน, ความแตกต่างของฮังการี (1824), รอนโด, รูปแบบ, โพโลนาเซส, การเดินขบวน ฯลฯ
  • วงดนตรีสำหรับเสียงชายหญิงและวงดนตรีผสมที่มีและไม่มีดนตรีประกอบ
  • เพลงสำหรับเสียงและเปียโน (มากกว่า 600 เพลง) รวมถึงรอบ "The Beautiful Miller Woman" (1823) และ "Winter Path" (1827) คอลเลกชัน "Swan Song" (1828) "Ellens dritter Gesang" ด้วย เรียกว่า "Ave Maria Schubert")

ในวิชาดาราศาสตร์

ดาวเคราะห์น้อย (540) Rosamund ได้รับการตั้งชื่อตามบทละครเพลงเรื่อง Rosamund ของ Franz Schubert (ภาษาอังกฤษ)รัสเซีย เปิดให้บริการในปีพ. ศ. 2447

ดูสิ่งนี้ด้วย

หมายเหตุ

  1. ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ Alsergrund เขตที่ 9 ของเวียนนา
  2. ชูเบิร์ตฟรานซ์ สารานุกรมของถ่านหิน. - เปิดสังคม 2543 .. สืบค้นจากต้นฉบับเมื่อ 31 พฤษภาคม 2555. สืบค้น 24 มีนาคม 2555.
  3. Walther Dürr, Andreas Krause (Hrsg.): ชูเบิร์ตแฮนด์บูช, Bärenreiter / Metzler, Kassel u.a. bzw. Stuttgart u.a. , 2. Aufl. 2550 ส. 68 ISBN 978-3-7618-2041-4
  4. Dietmar Grieser: Der Onkel aus Preßburg. Auf österreichischen Spuren durch die Slowakei, Amalthea-Verlag, Wien 2009, ISBN 978-3-85002-684-0, S. 184
  5. Andreas Otte จาก Konrad Wink Kerners Krankheiten großer Musiker - ชาตทาเออร์, สตุ๊ตการ์ท / นิวยอร์ก, 6. Aufl. 2551, S. 169, ISBN 978-3-7945-2601-7
  6. Kreissle von Hellborn, Heinrich (1865) ฟรานซ์ชูเบิร์ต, หน้า 297-332
  7. กิ๊บส์, คริสโตเฟอร์เอช. (2000). ชีวิตของชูเบิร์ต... สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์, หน้า. 61-62, ISBN 0-521-59512-6
  8. ตัวอย่างเช่น Chrysle ในหน้า 324 อธิบายถึงความสนใจในงานของ Schubert ในช่วงทศวรรษ 1860 และ Gibbs ในหน้า 250-251 อธิบายขนาดของการเฉลิมฉลองครบรอบหนึ่งร้อยปีของนักแต่งเพลงในปี พ.ศ. 2440
  9. ลิซท์, ฟรานซ์; Suttoni, Charles (ผู้แปล, ผู้ให้ข้อมูล) (1989) การเดินทางของศิลปิน: Lettres D'un Bachelier ès Musique, 1835-1841 สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยชิคาโกพี. 144. ISBN 0-226-48510-2
  10. Newbould, Brian (1999). ชูเบิร์ต: เพลงและผู้ชาย... สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียหน้า 403-404 ISBN 0-520-21957-0
  11. ว. กาลัตสกายา. Franz Schubert // วรรณกรรมดนตรีของต่างประเทศ. ปัญหา สาม. - ม.: ดนตรี. 2526 .-- ส. 155
  12. ว. กาลัตสกายา. Franz Schubert // วรรณกรรมดนตรีของต่างประเทศ. ปัญหา สาม. - ม.: ดนตรี. 2526 - เอส 212

วรรณคดี

  • กลาซูนอฟ เอ.เค. ฟรานซ์ชูเบิร์ต ภาคผนวก: Ossovsky A.V. โครโนกราฟรายชื่อผลงานและบรรณานุกรม. เอฟชูเบิร์ต - M .: Academia, 1928 .-- 48 หน้า
  • ความทรงจำของ Franz Schubert เรียบเรียงแปลคำนำ. และหมายเหตุ ยน. โคกโลวา. - ม., 2507
  • ชีวิตในเอกสารของ Franz Schubert รวบรวมโดย ยน. โคกลอฟ. - ม., 2506
  • Konen V. ชูเบิร์ต. เอ็ด. อันดับ 2 เพิ่ม - M .: Muzgiz, 1959 - 304 p.
  • Wulfius P. Franz Schubert: บทความเกี่ยวกับชีวิตและการทำงาน - M .: Muzyka, 1983 .-- 447 p.
  • โคกลอฟยู. เอ็น ทางฤดูหนาวโดย Franz Schubert - ม., 2510
  • โคกลอฟยู. เอ็น เกี่ยวกับช่วงสุดท้ายของการทำงานของ Schubert - ม., 2511
  • โคกลอฟยู. เอ็น ชูเบิร์ต. ปัญหาบางประการของชีวประวัติที่สร้างสรรค์ - ม., 2515
  • โคกลอฟยู. เอ็น เพลงของชูเบิร์ต: ลักษณะของสไตล์ - ม.: ดนตรี 2530 .-- 302 น.
  • โคกลอฟยู. เอ็น เพลง Strophic และพัฒนาการจาก Gluck ถึง Schubert - ม.: กองบรรณาธิการ URSS, 2540
  • โคกลอฟยู. เอ็น Piano Sonatas โดย Franz Schubert - ม.: กองบรรณาธิการ URSS, 2541 - ISBN 5-901006-55-0
  • โคกลอฟยู. เอ็น Franz Schubert's The Beautiful Miller's Woman - ม.: กองบรรณาธิการ URSS, 2545 - ISBN 5-354-00104-8
  • Franz Schubert: ในวันครบรอบ 200 ปีของการเกิดของเขา: การดำเนินการของการประชุมทางวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศ - M .: Perst, 1997 .-- 126 p. - ISBN 5-86203-073-5
  • Franz Schubert: จดหมายโต้ตอบบันทึกไดอารี่บทกวี รวบรวมโดย ยน. โคกลอฟ. - ม.: กองบรรณาธิการ URSS, 2548
  • Franz Schubert และวัฒนธรรมดนตรีรัสเซีย ตอบกลับ เอ็ด ยน. โคกลอฟ. - ม., 2552 .-- ISBN 978-5-89598-219-8.
  • Schubert and Schubertism: การรวบรวมวัสดุของการประชุมวิชาการดนตรีทางวิทยาศาสตร์ รวบรวมโดย G.I. Ganzburg. - Kharkov, 1994 .-- 120 น.
  • Alfred Einstein: ชูเบิร์ต Ein musikalisches Porträt. - Pan-Verlag, Zürich, 2495
  • Peter Gülke: Franz Schubert und seine Zeit - ลาบ - เวอร์ - เวอร์, ลาบ, 2545. - ISBN 3-89007-537-1.
  • Peter Härtling: ชูเบิร์ต 12 ช่วงเวลา musicaux und ein Roman - Dtv, München, 2003 - ISBN 3-423-13137-3
  • Ernst Hilmar: ฟรานซ์ชูเบิร์ต - Rowohlt, Reinbek, 2004 - ISBN 3-499-50608-4
  • Kreissle ฟรานซ์ชูเบิร์ต - เวียนนา 1861
  • ฟอนเฮลบอร์น ฟรานซ์ชูเบิร์ต
  • Rissé. Franz Schubert และ Seine Lieder - ฮันโนเวอร์ 2414
  • ส.ค. Reissmann Franz Schubert, Sein Leben und seine Werke - เบอร์ลิน 2416
  • H. Barbedette F.Schubert, sa vie, ses oeuvres, son temps - ปารีส, 2409
  • อ. Audley Franz Schubert, sa vie et ses oeuvres. - พ., 2414

ลิงค์

  • แคตตาล็อกผลงานของชูเบิร์ตซิมโฟนีที่แปดที่ยังไม่เสร็จ (อังกฤษ)

ชูเบิร์ตเป็นของโรแมนติกเรื่องแรก (รุ่งอรุณแห่งแนวโรแมนติก) ในเพลงของเขายังคงไม่มีจิตวิทยาที่ควบแน่นเช่นเดียวกับในแนวโรแมนติกในภายหลัง นี่คือนักแต่งเพลง - นักแต่งเพลง พื้นฐานของดนตรีของเขาคือประสบการณ์ภายใน สื่อถึงความรักและความรู้สึกอื่น ๆ อีกมากมายในดนตรี ในงานชิ้นที่แล้วธีมหลักคือความเหงา ครอบคลุมทุกประเภทตลอดเวลา ฉันแนะนำสิ่งใหม่ ๆ มากมาย ลักษณะโคลงสั้น ๆ ของดนตรีของเขากำหนดแนวความคิดสร้างสรรค์หลักของเขาไว้ล่วงหน้า - เพลง เขามีเพลงมากกว่า 600 เพลง การแต่งเพลงมีอิทธิพลต่อประเภทการบรรเลงในสองวิธี:

    การใช้ธีมเพลงในดนตรีบรรเลง (เพลง "The Wanderer" กลายเป็นพื้นฐานของแฟนตาซีเปียโนเพลง "The Girl and Death" กลายเป็นพื้นฐานของวงสี่)

    การรุกของการแต่งเพลงไปสู่แนวเพลงอื่น ๆ

ชูเบิร์ตเป็นผู้สร้างซิมโฟนีบทละคร (ยังไม่เสร็จ) หัวข้อเรื่องเพลงการนำเสนอเพลง (ซิมโฟนีที่ยังไม่เสร็จ: I-I part - gp, pp. II-I part - pp) หลักการของการพัฒนาเป็นรูปแบบเช่นเดียวกับกลอนเสร็จสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในซิมโฟนีและโซนาตาส นอกจากซิมโฟนีบทเพลงแล้วเขายังสร้างซิมโฟนีมหากาพย์ (C-dur) เขาเป็นผู้สร้างแนวเพลงใหม่ - เพลงบัลลาด ผู้สร้างเพชรประดับสุดโรแมนติก (ช่วงเวลาที่ทันควันและดนตรี) เขาสร้างวงจรเสียง (เบโธเฟนมีแนวทางในการทำเช่นนี้)

ความคิดสร้างสรรค์เป็นอย่างมาก: โอเปร่า 16 เรื่อง, โซนาต้าเปียโน 22 วง, 22 ควอเทต, วงดนตรีอื่น ๆ , ซิมโฟนี 9 ครั้ง, 9 ครั้ง, 8 ทันควัน, 6 ช่วงเวลาดนตรี เพลงที่เกี่ยวข้องกับการทำเพลงในชีวิตประจำวัน - waltzes, langlers, marches, มากกว่า 600 เพลง

เส้นทางชีวิต.

เกิดในปี 1797 ที่ชานเมืองเวียนนา - ในเมือง Lichtenthal พ่อเป็นครูในโรงเรียน ครอบครัวใหญ่ทั้งหมดเป็นนักดนตรีเล่นดนตรี พ่อสอนฟรานซ์เล่นไวโอลินส่วนพี่ชายก็สอนเปียโน ผู้อำนวยการประสานเสียงคุ้นเคยกับการร้องเพลงและทฤษฎี

พ.ศ. 2351-2446

ปีการศึกษาที่ Konvikte นี่คือโรงเรียนประจำที่ฝึกนักร้องในศาล ที่นั่นชูเบิร์ตเล่นไวโอลินเล่นในวงออเคสตราร้องเพลงประสานเสียงและเข้าร่วมในวงดนตรีในห้อง ที่นั่นเขาได้เรียนรู้ดนตรีมากมาย - ซิมโฟนีของ Haydn, Mozart, ซิมโฟนีที่ 1 และ 2 ของ Beethoven ผลงานที่ชอบ - ซิมโฟนีครั้งที่ 40 โดย Mozart ใน Konvikt เขาเริ่มสนใจในความคิดสร้างสรรค์ดังนั้นเขาจึงละทิ้งวิชาอื่น ๆ ใน Convicte เขาได้บทเรียนจาก Salieri ตั้งแต่ปี 1812 แต่มุมมองของพวกเขาแตกต่างกัน ในปีพ. ศ. 2359 พวกเขาแยกทางกัน ในปีพ. ศ. 2356 เขาออกจาก Konvikt เนื่องจากการศึกษาของเขารบกวนความคิดสร้างสรรค์ ในช่วงนี้เขาเขียนเพลง, แฟนตาซี 4 มือ, ซิมโฟนีที่ 1, งานลม, ควอเต็ต, โอเปร่า, งานเปียโน

พ.ศ. 2356-2460

เขาเขียนผลงานเพลงชิ้นเอกชิ้นแรก ("Margarita at the Spinning Wheel", "Forest Tsar", "Trout", "Wanderer"), ซิมโฟนี 4 ชิ้น, โอเปร่า 5 เพลง, ดนตรีบรรเลงและดนตรีมากมาย หลังจาก Konvikt ชูเบิร์ตตามการยืนกรานของพ่อจบหลักสูตรการสอนและสอนเลขคณิตและตัวอักษรที่โรงเรียนของพ่อ

ในปีพ. ศ. 2359 เขาออกจากโรงเรียนและพยายามที่จะได้รับตำแหน่งครูสอนดนตรี แต่ล้มเหลว ความสัมพันธ์กับพ่อของเขาถูกตัดขาด ช่วงเวลาแห่งภัยพิบัติเริ่มขึ้น: เขาอาศัยอยู่ในห้องที่ชื้น ฯลฯ

ในปีพ. ศ. 2358 เขาเขียนเพลง 144 เพลงซิมโฟนี 2 เพลงมวลชน 2 เพลงโอเปร่า 4 เพลงโซนาตาเปียโน 2 ชุดเครื่องสายและงานอื่น ๆ

ตกหลุมรัก Teresa Coffin เธอร้องเพลงประสานเสียงในโบสถ์ Lichtenthal พ่อของเธอส่งเธอไปทำขนมปัง ชูเบิร์ตมีเพื่อนมากมายไม่ว่าจะเป็นกวีนักเขียนศิลปิน ฯลฯ เพื่อนของเขาที่ Spout เขียนเกี่ยวกับเกอเธ่ชูเบิร์ต เกอเธ่ไม่ตอบ เขามีนิสัยแย่มากเขาไม่ชอบเบโธเฟน ในปีพ. ศ. 2360 ชูเบิร์ตได้พบกับโยฮันน์โวเกิลนักร้องชื่อดังซึ่งกลายเป็นที่ชื่นชมของชูเบิร์ต ในปีพ. ศ. 2362 เขาได้ทัวร์คอนเสิร์ตที่ออสเตรียตอนบน ในปีพ. ศ. 2361 ชูเบิร์ตอาศัยอยู่กับเพื่อนของเขา เขาทำหน้าที่เป็นครูประจำบ้านให้กับเจ้าชายเอสเทอร์ฮาซีเป็นเวลาหลายเดือน ที่นั่นเขาเขียนการผันภาษาฮังการีสำหรับเปียโนสี่มือ ในบรรดาเพื่อนของเขา ได้แก่ Spaun (เขียนบันทึกเกี่ยวกับ Schubert) กวี Mayrhofer กวี Schober (Schubert เขียนโอเปร่าเรื่อง Alphonse and Estrella บนข้อความของเขา)

มักจะมีการพบปะกับเพื่อนของ Schubert - Schubertiada Vogl มักปรากฏตัวที่ Schubertiads เหล่านี้ ขอบคุณ Schubertiads เพลงของเขาเริ่มแพร่กระจาย บางครั้งมีการแสดงเพลงเดี่ยวของเขาในคอนเสิร์ต แต่ไม่เคยมีการแสดงโอเปร่าเลยไม่เคยเล่นซิมโฟนี พวกเขาเผยแพร่ Schubert น้อยมาก เพลงฉบับพิมพ์ครั้งแรกในปีพ. ศ. 2364 โดยเป็นค่าใช้จ่ายของผู้ชื่นชมและเพื่อน ๆ

จุดเริ่มต้นของยุค 20

รุ่งอรุณแห่งความคิดสร้างสรรค์ - 22-23 ก. ในเวลานี้เขาเขียนวัฏจักร "The Beautiful Miller" วงจรของเพชรประดับเปียโนช่วงเวลาดนตรีแฟนตาซี "Wanderer" ชีวิตประจำวันของชูเบิร์ตยังคงหนักหน่วง แต่เขาก็ไม่สูญเสียความหวัง ในช่วงกลางทศวรรษที่ 1920 แวดวงของเขาก็แตกสลาย

พ.ศ. 2369-2471

ปีที่แล้ว ชีวิตที่ยากลำบากสะท้อนให้เห็นในเพลงของเขา ดนตรีนี้มีความดาร์กหนักแน่นสไตล์ก็เปลี่ยนไป ใน

เพลงมีการประกาศเพิ่มเติม ความกลมน้อยลง พื้นฐานฮาร์มอนิก (dissonances) มีความซับซ้อนมากขึ้น เพลงกลอนโดย Heine Quartet ใน D minor ในเวลานี้ซิมโฟนีในภาษาซีเมเจอร์ถูกเขียนขึ้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาชูเบิร์ตสมัครอีกครั้งในตำแหน่งผู้ควบคุมศาล ในปีพ. ศ. 2371 ในที่สุดการรับรู้ถึงพรสวรรค์ของชูเบิร์ตก็เริ่มขึ้น คอนเสิร์ตของผู้เขียนของเขาเกิดขึ้น เขาเสียชีวิตในเดือนพฤศจิกายน เขาถูกฝังในสุสานเดียวกันกับเบโธเฟน

ความคิดสร้างสรรค์ของเพลง Schubert

600 เพลงคอลเลกชันเพลงดึกคอลเลกชันเพลงใหม่ล่าสุด การเลือกกวีมีความสำคัญ เขาเริ่มจากงานของเกอเธ่ ฉันจบลงด้วยเพลงโศกนาฏกรรมใน Heine เขาเขียนว่า "Relshtab" บน Schiller

ประเภท - เพลงบัลลาด: "The Forest King", "Grave Fantasy", "To the Assassin's Father", "Agaria's Complaint" ประเภทของการพูดคนเดียวคือ“ Margarita at the wheeling” ประเภทของเพลงพื้นบ้าน "Rosette" โดยเกอเธ่ เพลง - อาเรีย - "Ave Maria" ประเภท Serenade -“ Serenade” (Relstab serenade)

ในท่วงทำนองของเขาเขาอาศัยน้ำเสียงของเพลงพื้นบ้านของออสเตรีย ดนตรีมีความชัดเจนและจริงใจ

การเชื่อมต่อของเพลงกับข้อความ ชูเบิร์ตถ่ายทอดเนื้อหาทั่วไปของข้อ ท่วงทำนองกว้างโดยทั่วไปเป็นพลาสติก ส่วนหนึ่งของดนตรีเป็นเครื่องหมายรายละเอียดของข้อความจากนั้นความไพเราะมากขึ้นจะปรากฏในการแสดงซึ่งจะกลายเป็นพื้นฐานของสไตล์ความไพเราะของชูเบิร์ต

เป็นครั้งแรกในดนตรีส่วนของเปียโนได้รับความหมายเช่นนี้: ไม่ใช่เสียงประกอบ แต่เป็นภาพของดนตรี แสดงออกถึงสภาวะทางอารมณ์ ช่วงเวลาแห่งดนตรีเกิดขึ้น “ Margarita at the Spinning Wheel”,“ Forest Tsar”,“ The Beautiful Miller's Woman”

เพลงบัลลาด“ The Forest King” ของเกอเธ่สร้างขึ้นเพื่อเป็นการละเว้นอย่างมาก มีเป้าหมายหลายประการ: การแสดงละครการแสดงความรู้สึกการบรรยายเสียงของผู้แต่ง (บรรยาย)

Vocal cycle "The Beautiful Miller"

พ.ศ. 2366 20 เพลงเป็นบทกวีของ V. Müller วงจรด้วยการพัฒนาโซนาต้า ธีมหลักคือความรัก ในวงจรมีฮีโร่ (มิลเลอร์), ฮีโร่ตอน (นักล่า), บทบาทหลัก (สตรีม) ขึ้นอยู่กับสถานะของฮีโร่สตรีมดังกล่าวไหลออกมาอย่างสนุกสนานสดใสหรือรุนแรงแสดงถึงความเจ็บปวดของมิลเลอร์ ในนามของสตรีมเพลงที่ 1 และ 20 จะเล่น สิ่งนี้นำวงจรมารวมกัน เพลงสุดท้ายสะท้อนถึงความสงบการรู้แจ้งในความตาย วัฏจักรของอารมณ์ทั่วไปยังคงเบาบาง ระบบน้ำเสียงใกล้เคียงกับเพลงออสเตรียในชีวิตประจำวัน กว้างในน้ำเสียงของบทสวดและเสียงของคอร์ด ในวัฏจักรเสียงมีมากบทสวดมนต์และบทสวดมนต์น้อย ท่วงทำนองมีความกว้างและกว้าง โดยทั่วไปรูปแบบของเพลงคือกลอนหรือส่วนที่ 2 และ 3 อย่างง่าย

เพลงที่ 1 - "ไปตีถนนกันเถอะ" B ที่สำคัญแข็งแรง เพลงนี้ในนามของบรู๊ค เขามักจะแสดงในส่วนของเปียโน รูปแบบโคลงที่แน่นอน ดนตรีมีความใกล้เคียงกับเพลงพื้นบ้านของออสเตรีย

เพลงที่ 2 - "ที่ไหน". มิลเลอร์ร้องเพลง G-dur เปียโนมีเสียงพึมพำเบา ๆ ของสายน้ำ น้ำเสียงที่กว้างไพเราะใกล้เคียงกับท่วงทำนองของออสเตรีย

เพลงที่ 6 -“ ความอยากรู้” เพลงนี้มีเนื้อเพลงที่เงียบกว่าและละเอียดอ่อน รายละเอียดเพิ่มเติม. H-dur. แบบฟอร์มมีความซับซ้อนมากขึ้น - แบบฟอร์ม 2 ส่วนที่ไม่ใช่ละคร

ส่วนที่ 1 -“ ไม่มีดวงดาวไม่มีดอกไม้”

ส่วนที่ 2 มีขนาดใหญ่กว่าส่วนที่ 1 แบบฟอร์ม 3 ส่วนอย่างง่าย เปลี่ยนเป็นสตรีม - ส่วนที่ 1 ของส่วนที่ 2 เสียงบ่นของลำธารปรากฏขึ้นอีกครั้ง นี่คือจุดที่รายใหญ่ - รายย่อยเข้ามา นี่คือลักษณะเฉพาะของชูเบิร์ต ในช่วงกลางของการเคลื่อนไหวครั้งที่ 2 ท่วงทำนองจะฟังซ้ำ การพลิกผันที่ไม่คาดคิดใน G-dur ในการบรรเลงของภาคที่ 2 พันตรี - รองปรากฏขึ้นอีกครั้ง

แผนภาพรูปร่างเพลง

ก - ค

CBC

11 เพลง - "ของฉัน". มีความรู้สึกสนุกสนานในโคลงสั้น ๆ เพิ่มขึ้นทีละน้อย มีความใกล้เคียงกับเพลงพื้นบ้านของออสเตรีย

12-14 เพลง แสดงความสุขอย่างเต็มที่ จุดเปลี่ยนในการพัฒนาเกิดขึ้นในเพลงหมายเลข 14 (Hunter) - c-moll การพับคล้ายกับเพลงล่าสัตว์ (6/8, คอร์ดที่หกขนานกัน) นอกจากนี้ (ในเพลงต่อไปนี้) มีความเศร้าเพิ่มขึ้น สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นในส่วนของเปียโน

15 เพลง -“ ความหึงหวงและความภาคภูมิใจ” สะท้อนถึงความสิ้นหวังความสับสน (g-moll) แบบฟอร์ม 3 ส่วน ส่วนที่เปล่งเสียงกลายเป็นเสียงประกาศมากขึ้น

16 เพลง - "สีที่ชอบ". h-moll. นี่คือจุดสุดยอดที่น่าเศร้าของวงจรทั้งหมด ในดนตรีมีความฝืด (จังหวะแอสทินาตัล) การทำซ้ำอย่างต่อเนื่องของฟะ # การกักขังที่คมชัด การเปรียบเทียบ h-minor และ H-dur เป็นลักษณะ คำพูด:“ Into the green cool ….”. ในข้อความเป็นครั้งแรกในวัฏจักรความทรงจำแห่งความตาย นอกจากนี้มันจะซึมผ่านวงจรทั้งหมด รูปแบบ Couplet

ในตอนท้ายของวัฏจักรการตรัสรู้ที่น่าเศร้าก็เกิดขึ้นทีละน้อย

19 เพลง -“ มิลเลอร์และสตรีม” g-moll แบบฟอร์ม 3 ส่วน มันเหมือนกับบทสนทนาระหว่างมิลเลอร์กับบรู๊ค ตรงกลางใน G-dur อีกครั้งมีเสียงบ่นของลำธารที่เปียโน บรรเลง - มิลเลอร์ร้องเพลงอีกครั้ง g-moll อีกครั้ง แต่เสียงบ่นของลำธารยังคงอยู่ ในตอนท้ายการตรัสรู้คือ G-dur

20 เพลง -“ เพลงกล่อมเด็กของลำธาร” สตรีมสงบมิลเลอร์ที่ด้านล่างของสตรีม E-dur. นี่เป็นหนึ่งในวรรณยุกต์โปรดของชูเบิร์ต (“ เพลงของลิปา” ใน“ Winter Road” ตอนที่ 2 ของซิมโฟนีที่ยังไม่เสร็จ) รูปแบบ Couplet คำพูด: "นอนหลับ" จากหน้าสตรีม

Vocal cycle "Winter Way"

เขียนในปี 1827 24 เพลง เช่นเดียวกับ“ The Beautiful Miller's Woman” กับคำพูดของ V. Müller แม้จะต่างกัน 4 ปี แต่ก็มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด รอบที่ 1 เป็นดนตรีที่เบาและโศกนาฏกรรมนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสิ้นหวังที่จับชูเบิร์ต

ชุดรูปแบบจะคล้ายกับรอบที่ 1 (เช่นเดียวกับธีมแห่งความรัก) การดำเนินเรื่องในเพลงที่ 1 น้อยกว่ามาก พระเอกออกจากเมืองที่แฟนสาวอาศัยอยู่ พ่อแม่ของเขาทิ้งเขาและเขา (ในฤดูหนาว) ก็ออกจากเมือง เพลงที่เหลือเป็นคำสารภาพที่เป็นโคลงสั้น ๆ ความเด่นของคีย์รองเพลงโศกนาฏกรรม สไตล์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หากเราเปรียบเทียบส่วนของเสียงร้องแล้วท่วงทำนองของรอบที่ 1 จะมีความครอบคลุมมากขึ้นเปิดเผยเนื้อหาทั่วไปของบทกวีกว้าง ๆ ใกล้เคียงกับเพลงพื้นบ้านของออสเตรียและใน "Winter Way" ท่อนที่เปล่งออกมานั้นมีความชัดเจนมากขึ้นไม่มี เพลงใกล้เคียงกับเพลงพื้นบ้านน้อยกว่ามากมันมีความเป็นปัจเจกมากขึ้น

ส่วนของเปียโนมีความซับซ้อนด้วยความคมชัดการเปลี่ยนไปยังคีย์ที่อยู่ห่างไกลการปรับแอนฮาร์โมนิก

แบบฟอร์มมีความซับซ้อนมากขึ้นด้วย แบบฟอร์มเต็มไปด้วยการพัฒนาแบบตัดขวาง ตัวอย่างเช่นถ้ารูปแบบของกลอนข้อนั้นแตกต่างกันไปถ้า 3 ส่วนการตอบกลับจะเปลี่ยนไปอย่างมากและมีชีวิตชีวา (“ By the brook”)

มีเพลงหลักไม่กี่เพลงและแม้แต่เพลงเล็ก ๆ ก็แทรกซึมเข้าไปในพวกเขาได้ หมู่เกาะที่สดใสเหล่านี้: "Linden", "Spring Dream" (จุดสุดยอดของวัฏจักรลำดับที่ 11) - เนื้อหาโรแมนติกและความจริงอันโหดร้ายรวมอยู่ที่นี่ ส่วนที่ 3 - หัวเราะเยาะตัวเองและความรู้สึกของคุณ

1 เพลง -“ นอนหลับสบาย” ใน d-moll จังหวะที่วัดได้ของเดือนกรกฎาคม “ ฉันมาโดยคนแปลกหน้าฉันจะทิ้งคนแปลกหน้า” เพลงเริ่มต้นด้วยจุดสุดยอดสูง การเปลี่ยนแปลง Couplet โองการเหล่านี้มีหลากหลาย ท่อนที่ 2 - d-moll -“ ฉันไม่ลังเลเลยที่จะเอาชนะ” ข้อ 3-1 - "อย่ารอที่นี่อีกต่อไป" ข้อ 4 - D-dur - "ทำไมต้องยุ่งเกี่ยวกับความสงบ" ตั้งแต่ความทรงจำของผู้เป็นที่รัก ภายในข้อแล้วผู้เยาว์กลับมา จุดจบอยู่ในคีย์รอง

เพลงที่ 3 -“ น้ำตาแช่แข็ง” (f-moll) บีบคั้นอารมณ์อย่างหนัก - "น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของฉันและหยุดที่แก้มของฉัน" ในท่วงทำนองการเพิ่มขึ้นของความไพเราะเป็นที่สังเกตได้อย่างชัดเจน - "โอ้น้ำตาเหล่านี้" ความเบี่ยงเบนของวรรณยุกต์คลังสินค้าฮาร์มอนิกที่ซับซ้อน รูปแบบ 2 ส่วนของการพัฒนา end-to-end ไม่มีการสรุปเป็นเช่นนี้

เพลงที่ 4 - "อาการชา" ค. เล็กน้อย. เพลงที่พัฒนาอย่างกว้างขวาง ตัวละครที่น่าทึ่งและสิ้นหวัง "ฉันกำลังมองหาเพลงของเธอ" แบบฟอร์ม 3 ส่วนที่ซับซ้อน ส่วนนอกประกอบด้วย 2 หัวข้อ ธีมที่ 2 ใน g-moll “ ฉันอยากจะจมลงไปที่พื้น” จังหวะที่ถูกขัดจังหวะช่วยยืดการพัฒนา ส่วนตรงกลาง พุทธะในฐานะ - dur. "โอ้ดอกไม้เก่าไปไหน" Reprise - ธีมที่ 1 และ 2

เพลงที่ 5 - "ลินเดน". E-dur. e-moll แทรกซึมเพลง รูปแบบการเปลี่ยนแปลง Couplet ส่วนเปียโนแสดงให้เห็นถึงความกรอบแกรบของใบไม้ ข้อ 1 - "ที่ทางเข้าเมืองมีต้นลินเดน" ท่วงทำนองที่สงบและเงียบสงบ มีช่วงเวลาเปียโนที่สำคัญมากในเพลงนี้ พวกเขาเป็นภาพและแสดงออก ข้อ 2 อยู่ใน e-moll แล้ว "และรีบห่าง ๆ " ชุดรูปแบบใหม่ปรากฏในส่วนของเปียโนธีมของการเดินเล่นกับแฝดสาม ในช่วงครึ่งหลังของข้อที่ 2 หลักจะปรากฏขึ้น “ กิ่งไม้ส่งเสียงกรอบแกรบอยู่นี่” ชิ้นเปียโนดึงลมกระโชก เมื่อเทียบกับพื้นหลังนี้เสียงบรรยายที่น่าทึ่งระหว่าง 2 ถึง 3 ข้อ “ กำแพงลมหนาว” ข้อ 3. “ ตอนนี้ฉันกำลังเร่ร่อนไปไกลถึงต่างประเทศแล้ว” คุณสมบัติของข้อที่ 1 และ 2 เชื่อมต่อกัน ในส่วนของเปียโนธีมของการเดินจากข้อ 2

เพลงที่ 7 -“ ตามกระแส” ตัวอย่างของการพัฒนาแบบฟอร์มอย่างมาก มันขึ้นอยู่กับรูปแบบ 3 ส่วนที่มีการไดนามิกที่แข็งแกร่ง E-moll. ดนตรีเป็นน้ำแข็งเศร้า “ โอ้สายน้ำเชี่ยวกราก” ผู้แต่งปฏิบัติตามข้อความอย่างเคร่งครัดการปรับเปลี่ยนจะเกิดขึ้นใน cis-moll บนคำว่า "ตอนนี้" ส่วนตรงกลาง "บนน้ำแข็งฉันเป็นหินที่แหลมคม" E-dur (สุนทรพจน์เกี่ยวกับผู้เป็นที่รัก) มีจังหวะพลิกฟื้น การเร่งความเร็วระลอก แฝดปรากฏในสิบหก “ ฉันจะทิ้งความสุขของการพบกันครั้งแรกที่นี่บนน้ำแข็ง” การบรรเลงมีการปรับเปลี่ยนอย่างมาก ขยายอย่างมาก - ใน 2 มือ ธีมไปที่ส่วนของเปียโน และในท่อนที่เปล่งออกมาบทบรรยาย“ ฉันจำได้ว่าตัวเองอยู่ในกระแสที่เยือกแข็ง” การเปลี่ยนแปลงจังหวะปรากฏขึ้นอีก 32 ระยะเวลาปรากฏขึ้น จุดสุดยอดที่น่าทึ่งในตอนท้ายของการเล่น ความเบี่ยงเบนมากมาย - e-moll, G-major, dis-moll, gis-moll - fis-moll g-moll

11 เพลง - "ความฝันในฤดูใบไม้ผลิ" สุดยอดความหมาย A-dur. เบา. มี 3 ทรงกลม:

    ความทรงจำการนอนหลับ

    ตื่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน

    การเยาะเย้ยความฝันของคุณ

ส่วนที่ 1 วอลซ์ คำพูด: "ฉันฝันถึงทุ่งหญ้าที่ร่าเริง"

ส่วนที่ 2 คอนทราสต์ที่คมชัด (e-moll) คำ: "ไก่ขันในทันใด" ไก่และกาเป็นสัญลักษณ์ของความตาย ในเพลงนี้มีไก่ตัวหนึ่งและในเพลงที่ 15 มีกา การเปรียบเทียบวรรณยุกต์เป็นเรื่องปกติ - e-moll - d-moll - g-moll - a-moll ความกลมกลืนของระดับ II ต่ำที่จุดอวัยวะโทนิคฟังดูเฉียบคม น้ำเสียงที่คมชัด (ไม่มีเสียง)

ส่วนที่ 3 คำพูด: "แต่ใครกันที่มีดอกไม้ประดับหน้าต่างทั้งหมดให้ฉัน" ความโดดเด่นเล็กน้อยปรากฏขึ้น

รูปแบบ Couplet 2 ข้อซึ่งแต่ละบทประกอบด้วย 3 ส่วนที่ตัดกันเหล่านี้

14 เพลง - "ผมสีเทา". ตัวละครที่น่าเศร้า C-moll ละครที่ซ่อนอยู่ ความสามัคคีที่ไม่ลงรอยกัน มีความคล้ายคลึงกับเพลงที่ 1 (“ Sleep Calmly”) แต่เป็นเวอร์ชั่นที่ผิดเพี้ยนและแหลมขึ้น คำ: "ฉันตกแต่งหน้าผากด้วยน้ำค้างแข็ง ... "

15 เพลง -“ กา” C-moll. การตรัสรู้ที่น่าเศร้าเนื่องจาก

หลังการกำหนดค่าด้วยแฝดสาม คำพูด: "อีกาดำติดตามฉันในการเดินทางอันยาวนาน" แบบฟอร์ม 3 ส่วน ส่วนตรงกลาง คำพูด: "กาเพื่อนตัวดำแปลก ๆ " ทำนองเพลงเป็นคำประกาศ บรรเลง. ตามด้วยข้อสรุปเปียโนในรีจิสเตอร์ต่ำ

20 เพลง - "ติดตามโพสต์" จังหวะของการก้าวปรากฏขึ้น คำพูด: "ทำไมการเดินไปตามถนนสายใหญ่ถึงกลายเป็นเรื่องยาก" การปรับระยะไกล - g-moll - b-moll - f-moll รูปแบบการเปลี่ยนแปลง Couplet การเปรียบเทียบรายใหญ่และรายย่อย ข้อที่ 2 - G-dur ข้อที่ 3 - g-moll รหัสสำคัญ เพลงนี้สื่อถึงความตึงความมึนงงจิตวิญญาณแห่งความตาย สิ่งนี้ปรากฏในส่วนของเสียง (การทำซ้ำคงที่ของเสียงเดียว) คำ: "ฉันเห็นเสา - หนึ่งในหลาย ๆ ... " การปรับระยะไกล - g-moll - b-moll - cis-moll - g-moll

24 เพลง -“ เครื่องบดอวัยวะ” เรียบง่ายและน่าเศร้าอย่างยิ่ง A-moll. พระเอกได้พบกับเครื่องบดอวัยวะผู้โชคร้ายและเชิญชวนให้เขาอดทนต่อความเศร้าโศกด้วยกัน ทั้งเพลงอยู่ที่จุดอวัยวะ quint-tonic Quints แสดงให้เห็นถึงความรุนแรง คำพูด: "นี่คือเครื่องบดอวัยวะที่ยืนเศร้าอยู่นอกหมู่บ้าน" การใช้วลีซ้ำ ๆ อย่างต่อเนื่อง รูปแบบ Couplet 2 ข้อ ในตอนท้ายมีจุดสุดยอดที่น่าทึ่ง บทละคร มันลงท้ายด้วยคำถาม: "คุณอยากให้เราทนกับความเศร้าโศกด้วยกันไหม มีคอร์ดที่เจ็ดลดลงที่จุดอวัยวะโทนิค

ความคิดสร้างสรรค์ที่ไพเราะ

ชูเบิร์ตเขียนซิมโฟนี 9 เรื่อง ในช่วงชีวิตของเขาไม่มีใครสมหวังเลย เขาเป็นผู้ก่อตั้งซิมโฟนี - โรแมนติก (ซิมโฟนีที่ยังไม่เสร็จ) และซิมโฟนี - มหากาพย์ (หมายเลข 9 - C-dur)

ซิมโฟนีที่ยังไม่เสร็จ

เขียนในปี 1822 ใน h-moll เขียนเมื่อยามอรุณสร้างสรรค์. บทกวีและละคร เป็นครั้งแรกที่ธีมเนื้อเพลงส่วนตัวกลายเป็นพื้นฐานสำหรับซิมโฟนี เพลงแทรกซึมเข้าไป มันแทรกซึมไปทั่วทั้งซิมโฟนี มันแสดงออกมาในตัวละครและการนำเสนอหัวข้อ - ทำนองและดนตรีประกอบ (เช่นเดียวกับเพลง) ในรูปแบบ - รูปแบบที่สมบูรณ์ (เช่นกลอน) ในการพัฒนา - มันเป็นตัวแปรความใกล้ชิดของเสียงของทำนองกับ เสียง. ซิมโฟนีมี 2 การเคลื่อนไหว - h-minor และ E-dur ชูเบิร์ตเริ่มเขียนส่วนที่สาม แต่ล้มเลิก เป็นลักษณะที่ว่าก่อนหน้านั้นเขาได้เขียนโซนาต้า 2 เปียโน 2 ส่วน - ฟิส - ดูร์และอี - มอลไปแล้ว ในยุคของลัทธิโรแมนติกอันเป็นผลมาจากการแสดงโคลงสั้น ๆ อย่างอิสระโครงสร้างของซิมโฟนีเปลี่ยนไป (มีหลายส่วนที่แตกต่างกัน) ลิซท์มีแนวโน้มที่จะบีบอัดวงจรซิมโฟนี (เฟาสต์ซิมโฟนีใน 3 ส่วนซิมโฟนีของ Dont แบ่งเป็น 2 ส่วน) ลิซท์สร้างบทกวีไพเราะตอนเดียว Berlioz มีการขยายวงจรซิมโฟนีของเขา (Fantastic Symphony - 5 ส่วน, Symphony“ Romeo and Juliet” - 7 ส่วน) เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นภายใต้อิทธิพลของความเป็นโปรแกรม

คุณสมบัติโรแมนติกไม่เพียง แต่ปรากฏในการแต่งเพลงและสองรายการเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสัมพันธ์ของวรรณยุกต์ด้วย นี่ไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบคลาสสิก ชูเบิร์ตดูแลสมดุลวรรณยุกต์ที่มีสีสัน (G.P. - h-minor, P.P. - G-dur และในการบรรเลงของ P.P. - ใน D-dur) อัตราส่วนที่สามของวรรณยุกต์เป็นเรื่องปกติสำหรับโรแมนติก ในส่วนที่สอง G.P. - จ - พ. - cis-moll และในการบรรเลงโดย P.P. - a-moll นี่คืออัตราส่วนที่สามของวรรณยุกต์ คุณลักษณะโรแมนติกยังเป็นรูปแบบของธีมไม่ใช่การแบ่งธีมออกเป็นแรงจูงใจ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงของธีมทั้งหมด ซิมโฟนีจบลงด้วย E major และเป็นเพลงที่มีผู้เยาว์ (นี่เป็นเรื่องปกติสำหรับโรแมนติก)

ส่วนที่ 1 - h-moll ธีมอินโทรเป็นเหมือนคำถามโรแมนติก เป็นตัวพิมพ์เล็ก

จี. พี. - h-moll เพลงทั่วไปที่มีทำนองและดนตรีประกอบ คลาริเน็ตและโอโบเป็นผู้บรรเลงเดี่ยวและมีเครื่องสายมาด้วย รูปแบบเหมือนกลอนมีความสมบูรณ์

ป. - ไม่ตัดกัน มันเป็นเพลงหนึ่ง แต่ก็เป็นเพลงเต้นรำด้วย ธีมคือเชลโล จุดจังหวะการซิงโครไนซ์ จังหวะคือการเชื่อมโยงระหว่างส่วนต่างๆ (เพราะอยู่ใน P.P. ในส่วนที่สองด้วย) การแตกหักอย่างมากเกิดขึ้นตรงกลางมันเป็นการลดลงอย่างรวดเร็ว (เปลี่ยนเป็น c-minor) ในจุดเปลี่ยนนี้ธีมของ G.P. บุกรุกนี่เป็นคุณสมบัติคลาสสิก

Z.P. - สร้างขึ้นจากธีมของ PP .. G-dur. หลักการดำเนินการตามรูปแบบในเครื่องมือที่แตกต่างกัน

การจัดนิทรรศการซ้ำแล้วซ้ำอีกเช่นเดียวกับในคลาสสิก

การพัฒนา. ใกล้จะมีการเปิดเผยและการพัฒนารูปแบบของการแนะนำเกิดขึ้น นี่เธออยู่ใน e-moll รูปแบบของบทนำ (แต่ทำเป็นละคร) และจังหวะที่ซินโคปจากการประกอบของ P.P. มีส่วนร่วมในการพัฒนานี้บทบาทของเทคนิคโพลีโฟนิกมีอย่างมาก มี 2 \u200b\u200bส่วนในการพัฒนา:

ส่วนที่ 1 หัวข้อแนะนำ e-moll เปลี่ยนตอนจบแล้ว ธีมมาถึงจุดสุดยอด การปรับเอนฮาร์โมนิกจาก h-moll ถึง cis-moll ถัดมาเป็นจังหวะซิงโครไนซ์จาก PP .. Tonal plan: cis-moll - d-moll - e-moll

ส่วนที่ 2 นี่คือธีมบทนำที่แปลงแล้ว ฟังดูน่ากลัวมีความจำเป็น E-moll แล้ว h-moll ชุดรูปแบบเป็นครั้งแรกในทองเหลืองและจากนั้นก็เป็นเสียงแคนในทุกเสียง จุดสุดยอดที่น่าทึ่งสร้างขึ้นจากรูปแบบของการแนะนำโดยศีลและตามจังหวะการซิงโครไนซ์ของ PP ถัดจากนั้นคือจุดสุดยอดที่สำคัญ - D-dur ก่อนการบรรเลงจะมีการเรียกขานของเครื่องเป่าลม

บรรเลง. จี. พี. - h-moll ป. - D-dur. ใน พี.พี. อีกครั้งมีจุดเปลี่ยนในการพัฒนา Z.P. - H-dur. ม้วนสายระหว่างเครื่องมือต่างๆ หลักปฏิบัติที่เป็นที่ยอมรับของ PP .. ใกล้จะมีการสรุปซ้ำและ coda ธีมของบทนำจะฟังดูเป็นคีย์เดียวกันกับตอนเริ่มต้น - ใน h-minor โค้ดทั้งหมดถูกสร้างขึ้น ธีมฟังดูเป็นที่ยอมรับและโศกเศร้ามาก

ส่วนที่ II. E-dur. แบบฟอร์ม Sonata โดยไม่ต้องทำอย่างละเอียด มีเนื้อเพลงภูมิทัศน์ที่นี่ โดยทั่วไปจะสว่าง แต่มีความดราม่าแวบเข้ามา

จี. พี.. เพลง. ธีมนี้มีไว้สำหรับไวโอลินและสำหรับเบส - pizzicato (สำหรับดับเบิ้ลเบส) การผสมฮาร์มอนิกที่มีสีสัน - E-major - e-minor - C-major - G-major ชุดรูปแบบมีน้ำเสียงกล่อมเด็ก แบบฟอร์ม 3 ส่วน มัน (แบบฟอร์ม) เสร็จสิ้น ตรงกลางเป็นละคร บรรเลงโดย G.P. ย่อ

ป.. เนื้อเพลงมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นที่นี่ ธีมยังเป็นเพลง ในนั้นเช่นเดียวกับใน P.P. ส่วนที่ II ประกอบที่ซิงโครไนซ์ เขาเชื่อมโยงหัวข้อเหล่านี้ โซโลยังเป็นลักษณะโรแมนติก ที่นี่โซโล่เป็นครั้งแรกที่คลาริเน็ตจากนั้นก็ที่โอโบ ปุ่มถูกเลือกอย่างมีสีสัน - cis-moll - fis-moll - D-major - F-major - d-minor - Cis-major แบบฟอร์ม 3 ส่วน ตรงกลางคือการเปลี่ยนแปลง มีการบรรเลง

บรรเลง. E-dur. จี. พี. - ห้อง 3 ส่วน ป. - a-moll

รหัส. ที่นี่ธีมทั้งหมดดูเหมือนจะสลายไปในทางกลับกันองค์ประกอบของ G.P.

ชูเบิร์ตฟรานซ์ปีเตอร์ - นักแต่งเพลงชาวออสเตรียที่โดดเด่น ผู้ก่อตั้งแนวจินตนิยมยุคแรก ผู้สร้างซิมโฟนีที่มีชื่อเสียงเก้าเพลง เกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2340 ในเวียนนาในครอบครัวของครูธรรมดา ตอนแรกครอบครัวมีลูกสิบสี่คน แต่เก้าคนเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย ในช่วงชีวิตอันสั้นชูเบิร์ตเขียนเพลงประมาณ 600 เพลงซึ่งหลายเพลงมีความเกี่ยวข้องกับทุกวันนี้ ในการสร้างสไตล์ของตัวเองเขาอาศัยผลงานของ Mozart, Gluck, Haydn และ Beethoven เป็นหลัก

ตั้งแต่วัยเด็กเด็กชายได้รับการศึกษาด้านดนตรีที่บ้าน ในคริสตจักรเขาศึกษาอวัยวะและเสียงร้อง เฟรดเดอริคเป็นนักร้องที่ดีที่สุดคนหนึ่งในคณะนักร้องประสานเสียงของโบสถ์ในศาล Salieri พาเขาไปฝึกงานชื่นชมเสียงอันไพเราะและของขวัญทางดนตรีของเขา ตอนอายุประมาณ 13 ปีเขาเริ่มเขียนซิมโฟนีครั้งแรก ผลงานอิสระชิ้นแรกเขียนโดยเขาในปีพ. ศ. 2357

เมื่อถึงเวลานั้นเขาก็ถูกขับออกจากคณะนักร้องประสานเสียงขณะที่เสียงของเด็กชายดังขึ้น ดังนั้นเฟรดเดอริคในวัยเยาว์จึงเข้าเรียนในเซมินารีของครูตามรอยเท้าพ่อของเขา เขาทุ่มเทเวลาว่างทั้งหมดให้กับการแต่งเพลง เพลงของนักแต่งเพลงเป็นลักษณะที่ต่อเนื่องของสไตล์ของเบโธเฟน พ.ศ. 2358 ถือเป็นช่วงที่มีผลงานมากที่สุดในอาชีพของเขา ในช่วงเวลานี้เขาเขียนเพลงมากกว่าร้อยเพลงโอเปร่าหกเรื่องซิมโฟนีและดนตรีสำหรับคริสตจักร

เพลงที่ดีที่สุดเพลงหนึ่งของเขาโดยเกอเธ่เขียนขึ้นเมื่อปลายปีเดียวกัน - "King Earl" สำหรับ Cantata "Prometheus" (2359) นักแต่งเพลงได้รับค่าธรรมเนียมครั้งแรกตามที่เขียนขึ้นเพื่อสั่งซื้อ ชีวิตส่วนตัวของชูเบิร์ตไม่ประสบความสำเร็จ เมื่อได้พบกับลูกสาวของผู้ผลิต Teresa Grom ซึ่งไม่ได้โดดเด่นในเรื่องอะไร แต่ชอบดนตรีมาก Frederick หนุ่มจึงตัดสินใจแต่งงานกับเธอ อย่างไรก็ตามรายได้ของเขาไม่อนุญาตให้เขาสร้างครอบครัวและแม่ของเทเรซาไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้

ในปีพ. ศ. 2359 นักแต่งเพลงได้นำเสนอผลงานที่ทำให้เขาได้รับความนิยมมายาวนาน - "The Forest Tsar" ต่อมามีการแสดงซิมโฟนีที่มีชื่อเสียงของเขา นักแต่งเพลงค่อยๆมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ในช่วงทศวรรษที่ 1820 เขาเริ่มมีปัญหาสุขภาพ บางครั้งเขาทำงานในที่ดินของ Count I.Esterhazy สอนดนตรีให้กับลูกสาวของเขา นักแต่งเพลงใช้เวลาหลายปีสุดท้ายของชีวิตในเวียนนา

เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2371 หลังจากต่อสู้กับไข้ไทฟอยด์มานาน นักแต่งเพลงมีหลุมฝังศพสองหลุม ในขั้นต้นตามเจตจำนงสุดท้ายของเขาเขาถูกฝังไว้ข้างๆ Beethoven ที่รักของเขาที่สุสาน Wering (ปัจจุบันคือ Schubert Park) และในปีพ. ศ. 2431 เถ้าถ่านของนักแต่งเพลงทั้งสองได้ถูกฝังใหม่ที่สุสานกลางเวียนนา

"อาการที่ดี" FRANZ SCHUBERT

ตลอดชีวิตของเขาและนานพอสมควรหลังจากการตายของเขาเขาเป็นตัวตนของอัจฉริยะที่ไม่เข้าใจและไม่ได้รับการยอมรับ ดนตรีของเขาได้รับการชื่นชมจากเพื่อนและญาติเท่านั้นและผลงานส่วนใหญ่ถูกค้นพบและเผยแพร่หลายปีหลังจากการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

ผิดหวังและขัดสนชั่วนิรันดร์ ชูเบิร์ต สร้างเพลงศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีความสุขมากนักอยู่คนเดียวและรู้สึกโดดเดี่ยวจากโลกทั้งใบเขาเขียนเพลงที่ยอดเยี่ยมที่เต็มไปด้วยความสดชื่น แล้วใครคือคนพเนจรตัวเตี้ยสายตาสั้นคนนี้ชื่อตั้งแต่แรกเกิด ฟรานซ์ปีเตอร์ชูเบิร์ต?

ลูกชายคนเล็กของ

ครอบครัวชูเบิร์ตมาจากออสเตรียซิลีเซีย พ่อของนักแต่งเพลงย้ายไปเวียนนาและหลังจากนั้นไม่นานก็กลายเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนในย่านชานเมือง Lichtenthal เขาแต่งงานกับหญิงสาวจากหมู่บ้านของเขาซึ่งทำงานเป็นแม่ครัว ครอบครัวไม่มีเงินเพียงพอแม้ว่าจะไม่สามารถพูดได้ว่าพวกเขาอาศัยอยู่ในความยากจน เด็ก 14 คนเกิดจากการแต่งงานซึ่งมีเพียงห้าคนที่รอดชีวิต ลูกชายคนเล็กของลูกชายคือ Franz Peter Schubert.

ต้องขอบคุณความสามารถของเขาในการเล่นเครื่องดนตรีต่างๆรวมถึงความทุ่มเทให้กับดนตรี ชูเบิร์ต เร็ว ๆ นี้ได้รับการส่งเสริม - โพสต์ของไวโอลินตัวแรก นอกจากนี้เขายังต้องทำวงออร์เคสตราหากหัวหน้าผู้ควบคุมวงไม่อยู่

ความปรารถนาที่ไม่อาจต้านทานได้

เพลงของเขากระตือรือร้นที่จะออกมา แต่เขาเก็บแรงกระตุ้นของเขาไว้เป็นความลับ แต่มันยากมากที่จะต้านทานแรงกระตุ้นในการแต่งเพลง ความคิดไหลไปในลำธาร ฟรานซ์และเขาไม่เคยมีแผ่นเพลงมากพอที่จะเขียนทุกสิ่งที่ระเบิดออกมา

เกือบทั้งชีวิต ชูเบิร์ต มีชีวิตอยู่หากไม่ต้องการก็ด้วยเงินทุนที่ จำกัด แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาประสบปัญหาขาดแคลนกระดาษเพลงเสมอ ตอนอายุ 13 เขาเขียนจำนวนมากอย่างไม่น่าเชื่อ: โซนาตัสมวลชนเพลงโอเปร่าซิมโฟนี ... น่าเสียดายที่มีการตีพิมพ์ผลงานในช่วงแรก ๆ เท่านั้น

มี ชูเบิร์ต มีนิสัยที่น่าทึ่ง: ทำเครื่องหมายบนแผ่นเพลงในวันที่ที่แน่นอนเมื่อเขาเริ่มแต่งเพลงและเมื่อเขาทำเสร็จ เป็นเรื่องแปลกมากที่ในปี 1812 เขาเขียนเพลงเพียงเพลงเดียว - "Sad" ซึ่งเป็นผลงานชิ้นเล็ก ๆ และไม่ใช่งานที่โดดเด่นที่สุดของเขา เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าไม่มีเพลงเดียวที่ออกมาจากปลายปากกาของนักแต่งเพลงในปีที่มีผลงานมากที่สุดปีหนึ่งของเขา อาจจะ, ชูเบิร์ต หมกมุ่นอยู่กับดนตรีบรรเลงมากจนเบี่ยงเบนความสนใจของเขาไปจากแนวเพลงที่เขาชื่นชอบ แต่รายชื่อเพลงบรรเลงและดนตรีทางศาสนาที่เขียนขึ้นในปีเดียวกันนั้นมีขนาดใหญ่มาก

ชีวิตแต่งงานที่ล้มเหลวของชูเบิร์ต

1813 ถือเป็นช่วงสุดท้ายของความคิดสร้างสรรค์ในยุคแรก ๆ เนื่องจากยุคเปลี่ยนผ่านเสียงจึงเริ่มแตกและ ฟรานซ์ ไม่มีอีกแล้ว สามารถร้องเพลงในโบสถ์ของศาล จักรพรรดิอนุญาตให้เขาอยู่ที่โรงเรียน แต่อัจฉริยะหนุ่มไม่ต้องการเรียนอีกต่อไป เขากลับบ้านและด้วยการยืนกรานของพ่อเขากลายเป็นครูผู้ช่วยที่โรงเรียนของเขา ทำให้เขาต้องทำงานในชั้นเรียนที่เล็กที่สุดโดยมีเด็ก ๆ ที่ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรและลืมทุกอย่างได้อย่างรวดเร็ว มันเป็นเรื่องที่ทนไม่ได้สำหรับอัจฉริยะหนุ่ม เขามักจะอารมณ์เสียแก้ไขนักเรียนด้วยการเตะและตบ แม้เขาจะพยายามอย่างหนัก แต่พวกเขาก็ไม่พอใจเขาเสมอ

ในช่วงนี้ ชูเบิร์ต ได้พบกับ Teresa Thunder ลูกสาวของผู้ผลิตพูดอย่างอ่อนโยนไม่ใช่ความงาม - ขาวมีคิ้วจาง ๆ เหมือนสาวผมบลอนด์หลาย ๆ คนที่มีรอยฝีดาษบนใบหน้าของเธอ เธอร้องเพลงประสานเสียงในโบสถ์และทันทีที่ดนตรีเริ่มดังขึ้นเทเรซาก็เปลี่ยนจากหญิงสาวหน้าตาน่าเกลียดเป็นหญิงสาวที่เห็นได้ชัดและสว่างไสวด้วยแสงไฟภายใน ชูเบิร์ต ไม่สามารถอยู่เฉยได้และในปีพ. ศ. 2357 ตัดสินใจแต่งงาน อย่างไรก็ตามปัญหาทางการเงินทำให้เขาไม่สามารถเริ่มมีครอบครัวได้ ชูเบิร์ต ด้วยเงินเดือนของครูในโรงเรียนไม่เหมาะกับแม่เทเรซาและในทางกลับกันเธอก็ไม่สามารถขัดต่อเจตจำนงของผู้ปกครองได้ หลังจากร้องไห้เธอก็แต่งงานกับพ่อครัวขนม

สิ้นสุดกิจวัตร

อุทิศตัวเองให้กับงานที่น่าเบื่อ ชูเบิร์ต ไม่เคยหยุดทำงานกับสิ่งที่มอบให้เขาตั้งแต่แรกเกิด การแสดงของเขาในฐานะนักแต่งเพลงนั้นน่าทึ่งมาก 1815 ถือเป็นปีที่มีผลผลิตมากที่สุดในชีวิต ชูเบิร์ต. เขาเขียนเพลงมากกว่า 100 เพลงโอเปราและโอเปเรตส์ครึ่งโหลซิมโฟนีเพลงคริสตจักรและอื่น ๆ ช่วงนี้เขาทำงานเยอะด้วย Salieri... ตอนนี้มันเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่าเขาหาเวลาแต่งได้อย่างไรและที่ไหน หลายเพลงที่เขียนในช่วงเวลานี้กลายเป็นงานที่ดีที่สุดในงานของเขาสิ่งที่น่าแปลกใจกว่านั้นคือบางครั้งเขาเขียน 5-8 เพลงต่อวัน

ปลายปี 1815 - ต้นปี 1816 ชูเบิร์ต เขียนเพลงที่ดีที่สุดเพลงหนึ่งของเขา "King Earl" ให้กับบทกวีของเกอเธ่ เขาอ่านมันสองครั้งและเสียงเพลงก็หลั่งไหลออกมาจากเขา ผู้แต่งแทบไม่มีเวลาจดบันทึก เพื่อนคนหนึ่งของเขาจับเขาเข้ากระบวนการและในเย็นวันเดียวกันก็มีการแสดงเพลง แต่หลังจากนั้นงานก็วางอยู่บนโต๊ะเป็นเวลา 6 ปีจนกระทั่ง ไม่ได้แสดงในคอนเสิร์ตที่โรงละครโอเปร่า ในตอนนั้นเพลงนั้นได้รับการยอมรับในทันที

ในปีพ. ศ. 2359 มีการเขียนงานจำนวนมากแม้ว่าแนวเพลงโอเปราติกจะถูกผลักออกไปจากเพลงและแคนตาทา Cantata "Prometheus" ถูกเขียนขึ้นเพื่อสั่งซื้อและสำหรับเธอ ชูเบิร์ต ได้รับค่าธรรมเนียมแรกของเขา 40 ฟลอรินออสเตรีย (จำนวนน้อยมาก) งานนี้ของคนแต่งหายไป แต่คนที่ฟังตั้งข้อสังเกตว่าแคนทาทาดีมาก ตัวเขาเอง ชูเบิร์ต ฉันรู้สึกยินดีมากกับงานนี้

สามปีผ่านไปกับการลงโทษตัวเองอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและการอุทิศตนอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนและในที่สุด ชูเบิร์ต ตัดสินใจที่จะปลดปล่อยตัวเองจากโพสต์ที่ผูกมัดเขา และถึงแม้ว่าจะต้องออกจากเวียนนาไปด้วยเหตุนี้เพื่อทะเลาะกับพ่อของเขาเขาก็พร้อมที่จะทำทุกอย่าง

คนรู้จักใหม่ของ Franz

Franz von Schober

ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2358 ได้ตัดสินใจเข้าร่วมโรงเรียนดนตรีในเมืองไลบาค เราเปิดตำแหน่งครูเงินเดือนน้อยแค่ 500 เวียนนาฟลอริน ชูเบิร์ต กำลังสมัครและแม้ว่าจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากคำแนะนำที่ดีมากจาก Salieriอีกคนหนึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งและแผนการหนีออกจากบ้านพังทลายลง อย่างไรก็ตามความช่วยเหลือมาจากที่ที่ไม่มีใครคาดคิด

นักศึกษา ชอเบอร์เกิดในสวีเดนและมาเยอรมันรู้สึกทึ่งกับเพลงนี้มาก ชูเบิร์ตเขาตัดสินใจที่จะทำความรู้จักกับผู้เขียนโดยสิ้นเชิง เมื่อได้เห็นการทำงานของผู้ช่วยครูผู้ประพันธ์จึงแก้ไขข้อผิดพลาดของนักเรียนสาว ชอเบอร์ ตัดสินใจที่จะช่วยอัจฉริยะหนุ่มจากแวดวงปิดที่เกลียดชังของหน้าที่ประจำวันและเสนอที่จะครอบครองห้องใดห้องหนึ่งของอพาร์ตเมนต์ที่เขาเช่า พวกเขาก็ทำและหลังจากนั้นไม่นาน ชูเบิร์ต ย้ายไปอยู่กับกวี Mayrhofer ซึ่งหลายคนเขียนบทกวีเป็นเพลงในเวลาต่อมา ด้วยเหตุนี้มิตรภาพและการสื่อสารทางปัญญาระหว่างสองพรสวรรค์จึงเริ่มขึ้น ในมิตรภาพนี้มีหนึ่งในสามที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน - นักแสดงโอเปราเวียนนาที่มีชื่อเสียง

ชูเบิร์ตมีชื่อเสียง

โยฮันน์ไมเคิลโวเกิล

เพลง ฟรานซ์ ดึงดูดนักร้องมากขึ้นเรื่อย ๆ และวันหนึ่งเขาก็มาหาเขาโดยไม่ได้รับเชิญและดูผลงานของเขา มิตรภาพ ชูเบิร์ต จาก Voglem ส่งผลกระทบอย่างมากต่อนักแต่งเพลงรุ่นเยาว์ โวเกิล ช่วยเขาในการเลือกบทกวีสำหรับเพลงท่องโองการด้วยการแสดงออกเพื่อให้ดนตรีที่เขียนขึ้น ชูเบิร์ตเน้นความคิดที่แสดงออกในบทกวีมากที่สุด ชูเบิร์ต มาถึง โวกลู ในตอนเช้าพวกเขาเขียนด้วยกันหรือแก้ไขสิ่งที่เขียนไปแล้ว ชูเบิร์ตอาศัยความคิดเห็นของเพื่อนเป็นอย่างมากและยอมรับความคิดเห็นส่วนใหญ่ของเขา

ความจริงที่ว่าความคิดเห็นทั้งหมดไม่ได้ช่วยปรับปรุงผลงานของนักแต่งเพลงสามารถเห็นได้จากต้นฉบับของเพลงบางเพลงที่เขียนขึ้น ชูเบิร์ต... อัจฉริยะที่อายุน้อยและกระตือรือร้นไม่เข้าใจรสนิยมและความต้องการของผู้ชมเสมอไป แต่นักแสดงฝึกหัดมักจะเข้าใจความต้องการของมันได้ดีกว่า โยฮันน์โวเกิล ไม่ใช่นักพิสูจน์อักษรที่เป็นอัจฉริยะที่ต้องการ แต่ในทางกลับกันเขากลายเป็นคนที่สร้าง ชูเบิร์ต มีชื่อเสียง.

เวียนนา - อาณาจักรแห่งเปียโน

เริ่มต้นในปี พ.ศ. 2364 เป็นเวลาสามปี ชูเบิร์ต เขียนเพลงเต้นรำเป็นหลัก ในเวลาเดียวกันผู้แต่งได้รับคำสั่งให้เขียนส่วนเพิ่มเติมอีกสองส่วนสำหรับโอเปร่าเบลล์ของเฮโรลด์หรือ Devil-Page ซึ่งเขายินดีเป็นอย่างยิ่งเพราะเขาต้องการเขียนอะไรที่น่าทึ่งจริงๆ

การแพร่กระจายของความนิยมของดนตรีอย่างเป็นธรรมชาติ ชูเบิร์ต ผ่านวงการดนตรีที่เปิดให้เขา เวียนนาได้รับชื่อเสียงในฐานะศูนย์กลางของโลกดนตรี ในทุกบ้านเปียโนเป็นส่วนที่ขาดไม่ได้ในการประชุมตอนเย็นโดยมีดนตรีเต้นรำอ่านหนังสือและสนทนามากมาย ชูเบิร์ต เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดและยินดีต้อนรับแขกในการประชุมของ Biedermeier Vienna

"Schubertiada" โดยทั่วไปประกอบด้วยดนตรีและความบันเทิงบทสนทนาที่ไม่สร้างความรำคาญและล้อเล่นกับแขก ตามกฎแล้วทุกอย่างเริ่มต้นด้วยการแสดงเพลง ชูเบิร์ตซึ่งมักจะเขียนและแต่งร่วมกับนักแต่งเพลงเท่านั้นหลังจากนั้น ฟรานซ์ และเพื่อน ๆ ของเขาเล่นเปียโนคลอหรือคลอด้วยเสียงร่าเริง Schubertiads มักได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ระดับสูง เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของนักแต่งเพลง

ปี พ.ศ. 2366 เป็นปีที่มีความสำคัญทางดนตรีและมีประสิทธิผลมากที่สุดปีหนึ่งในชีวิตของฉัน ชูเบิร์ต... เขาใช้เวลาในเวียนนาทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เป็นผลให้ละครเรื่อง "Rosamund" ละครน้ำเน่า "Fierabrass" และ "Singspiel" ถูกเขียนขึ้น ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการเขียนเพลง "The Beautiful Miller Woman" ที่น่ายินดี เพลงเหล่านี้หลายเพลงถูกสร้างขึ้นในโรงพยาบาลซึ่งเขาจบลงด้วยอาการป่วยหนักที่เกิดขึ้นหลังจากติดเชื้อซิฟิลิส

กลัวพรุ่งนี้

หนึ่งปีต่อมาทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของนักแต่งเพลงสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนในการบันทึกของเขาและเห็นได้ชัดว่ามีสัญญาณของความหดหู่ซึมเศร้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ชูเบิร์ต. ความหวังที่แตกสลาย (โดยเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องกับโอเปร่าของเขา) ความยากจนที่สิ้นหวังสุขภาพที่ไม่ดีความเหงาความเจ็บปวดและความผิดหวังในความรักทั้งหมดนี้นำไปสู่ความสิ้นหวัง

แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดคืออาการซึมเศร้านี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการแสดงของเขาเลย เขาไม่เคยหยุดเขียนเพลงสร้างผลงานชิ้นเอกหลังจากผลงานชิ้นเอก

ในปีพ. ศ. 2369 ชูเบิร์ต ได้รับจดหมายแสดงความขอบคุณพร้อมแนบดอกไม้หนึ่งร้อยดอกจากคณะกรรมการของ Society of Music Lovers สำหรับความชื่นชมผลงานของนักแต่งเพลงโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อตอบสนองต่อสิ่งนี้ในอีกหนึ่งปีต่อมา ชูเบิร์ต โพสต์ซิมโฟนีที่เก้าของเขาซึ่งถือเป็นหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดของเขา อย่างไรก็ตามผู้ดำเนินการของสมาคมมองว่างานนี้ยากเกินไปสำหรับพวกเขาและมองว่างานนี้ "ไม่เหมาะสำหรับการประหารชีวิต" เป็นที่น่าสังเกตว่าผลงานในภายหลังมักได้รับคำนิยามเดียวกัน เบโธเฟน... และในทั้งสองกรณีมีเพียงคนรุ่นหลังเท่านั้นที่สามารถชื่นชม "ความซับซ้อน" ของงานเหล่านี้ได้

จุดสิ้นสุดของเส้นทางของ Franz Schubert

บางครั้งเขารู้สึกปวดหัว แต่ก็ไม่ได้มีอะไรร้ายแรงเลย ภายในเดือนกันยายน พ.ศ. 2371 ชูเบิร์ต รู้สึกเวียนศีรษะอย่างต่อเนื่อง แพทย์แนะนำให้ใช้ชีวิตแบบผ่อนคลายและใช้เวลานอกบ้านมากขึ้น

ในวันที่ 3 พฤศจิกายนเขาเดินเป็นระยะทางไกลเพื่อฟังบังสุกุลภาษาละตินที่พี่ชายของเขาเขียนเป็นท่อนสุดท้ายที่เขาได้ยิน ชูเบิร์ต... กลับถึงบ้านหลังจากเดิน 3 ชั่วโมงก็บ่นว่าอ่อนเพลีย ซิฟิลิสที่ติดเชื้อมานาน 6 ปีผ่านเข้าสู่ระยะสุดท้าย สถานการณ์ของการติดเชื้อไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด เขาได้รับการรักษาด้วยสารปรอทซึ่งมักทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะและปวดหัว

ห้องที่ชูเบิร์ตเสียชีวิต

อาการของนักแต่งเพลงย่ำแย่ลงอย่างมาก สติของเขาเริ่มขาดการสัมผัสกับความเป็นจริง เมื่อเขาเริ่มเรียกร้องให้เขาได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องที่เขาอยู่เพราะเขาไม่เข้าใจว่าเขาอยู่ที่ไหนและทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่

เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2371 ก่อนถึงวันเกิดครบรอบ 32 ปีของเขา เขาถูกฝังอยู่ใกล้ ๆ เบโธเฟนซึ่งก่อนหน้านี้เขาชื่นชอบชีวิตอันแสนสั้นของเขา

เขาจากโลกนี้ไปก่อนเวลาอันน่าเศร้าทิ้งมรดกอันล้ำค่าไว้ให้เขา เขาสร้างดนตรีที่น่าทึ่งที่สัมผัสการแสดงออกของความรู้สึกและทำให้จิตวิญญาณอบอุ่น ไม่มีการแสดงซิมโฟนีเก้าเพลงของนักแต่งเพลงในช่วงชีวิตของเขา จากหกร้อยเพลงมีการพิมพ์ประมาณสองร้อยเพลงและโซนาต้าเปียโนสองโหลมีเพียงสามเพลง

ข้อเท็จจริง

“ เมื่อฉันต้องการสอนอะไรใหม่ ๆ ให้เขาฉันพบว่าเขารู้แล้ว ปรากฎว่าฉันไม่ได้สอนอะไรเขาเลยฉันแค่เฝ้าดูเขาด้วยความสุขที่เป็นใบ้” มิคาเอลโฮลเซอร์ครูประสานเสียงกล่าว แม้จะมีคำพูดนี้ แต่ก็เป็นที่รู้กันดีว่าภายใต้การนำของเขา ฟรานซ์ พัฒนาทักษะการเล่นเบสของฉัน เปียโนและออร์แกน

นักร้องเสียงโซปราโนที่น่ายินดีและทักษะในการเล่นไวโอลินไม่สามารถลืมได้โดยทุกคนที่ได้ยินอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ฟรานซ์ชูเบิร์ต.

ในวันหยุด ฟรานซ์ ชอบไปโรงละคร ที่สำคัญที่สุดเขาชอบโอเปร่าของ Weigl, Cherubini, Gluck เป็นผลให้เด็กชายเองเริ่มเขียนโอเปรา

ชูเบิร์ต มีความเคารพและนับถือในความสามารถ ครั้งหนึ่งเขาได้แสดงผลงานชิ้นหนึ่งของเขาเขาอุทานว่า: "ฉันสงสัยว่าฉันจะสามารถเขียนสิ่งที่มีค่าควรจริงๆได้หรือไม่" ซึ่งเพื่อนคนหนึ่งของเขาสังเกตเห็นว่าเขาได้เขียนงานที่มีค่าควรแก่การเขียนไว้แล้วมากกว่าหนึ่งเรื่อง เพื่อตอบสนองต่อสิ่งนี้ ชูเบิร์ต กล่าวว่า“ บางครั้งฉันก็สงสัยว่าใครจะหวังว่าจะได้เขียนสิ่งที่คุ้มค่าในภายหลัง เบโธเฟน?!».

อัปเดต: 13 เมษายน 2019 โดยผู้เขียน: เฮเลนา

© 2021 skudelnica.ru - ความรักการทรยศจิตวิทยาการหย่าร้างความรู้สึกการทะเลาะวิวาท