8.1.1. ที่มาของคำพูด

ควรเป็นฉบับที่อ้างถึง (ผลงาน) ไม่ใช่ฉบับ (ผลงาน) ของผู้เขียนรายอื่นโดยที่ข้อความที่อ้างถึงจะได้รับเป็นส่วนแยก (สำหรับการยกเว้นโปรดดู 8.1.2)

ด้วยงานที่อ้างถึงหลายฉบับ (หลายฉบับ) ขอแนะนำให้เลือกฉบับที่เชื่อถือได้ทางข้อความเป็นแหล่งที่มา (ตัวอย่างเช่นนักวิชาการ sobr. Cit.) หากงานของข้อความไม่ได้กำหนดการอ้างอิงของฉบับอื่น (วิเคราะห์ , วิพากษ์วิจารณ์ ฯลฯ ).

Papr. เมื่ออ้างถึง "Kholstomer" โดย L. P. Tolstoy ควรเลือกแบบเต็มที่ไม่ใช่วันครบรอบ คอลเลกชัน op. นักเขียนและต่อมาได้ตีพิมพ์เรื่องราวฉบับย่อ (มอสโก: Kniga, 1979) ซึ่ง E.G. Babaev ซึ่งเป็นผู้จัดทำได้ทำการชี้แจงที่พิสูจน์แล้ว 21 ข้อเมื่อเทียบกับข้อความในเล่ม Complete คอลเลกชัน cit. แก้ไขข้อผิดพลาดที่พุ่งเข้ามาในข้อความของเขาบางครั้งก็หยาบคาย ("ชายหนุ่ม" แทนที่จะเป็น "เด็กผู้ชาย", "ม้าไม่ดี" แทนที่จะเป็น "ม้าเงียบ", "ยาว" แทนที่จะเป็น "บ้าน", "หุบปาก" แทน ของ "หัวเราะ")

8.1.2. อ้างโดยอ้าง

โดยทั่วไปห้าม อนุญาตเป็นข้อยกเว้นในกรณีที่:

1) แหล่งต้นฉบับไม่พร้อมใช้งานหรือหายาก

2) มีการอ้างถึงเอกสารจดหมายเหตุที่เผยแพร่และการทำสำเนาข้อความจากแหล่งที่มาหลักของจดหมายเหตุอาจทำให้การอ้างถึงลักษณะของการวิจัยจดหมายเหตุโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

3) ข้อความที่ยกมาเป็นที่รู้จักโดยบันทึกคำพูดของผู้เขียนในบันทึกความทรงจำของบุคคลอื่น

8.1.3. เงื่อนไขพื้นฐานสำหรับความถูกต้องทางความหมายของการอ้างอิง

1. การอ้างข้อความที่มีเหตุผลที่สมบูรณ์นั่นคือด้วยความสมบูรณ์ที่จะรับประกันความไม่เปลี่ยนรูปของการถ่ายโอนความหมายในแหล่งที่มาและใบเสนอราคา (โดยไม่มีการหยุดชะงักของข้อความที่ยกมาโดยพลการโดยไม่ต้องดึงคำและวลีออกจากบริบทของแหล่งที่มา เมื่อทั้งสองนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงความหมายหรือเฉดสีของแหล่งที่มาของความหมาย)

2. การทิ้งเพื่อประหยัดพื้นที่คำพูดของใบเสนอราคาที่ไม่จำเป็นสำหรับจุดประสงค์ในการอ้างอิงก็ต่อเมื่อสิ่งนี้ไม่ส่งผลต่อความหมาย

8.1.4. เทคนิคการตรวจสอบความถูกต้องทางความหมายของการอ้างอิง

เพื่อป้องกันการบิดเบือนความคิดของผู้เขียนที่ยกมาเป็นที่พึงปรารถนา:

1. เมื่อเปรียบเทียบใบเสนอราคากับแหล่งที่มาให้อ่านข้อความที่อยู่ข้างหน้าและ (หรือ) ตามด้วยและเปรียบเทียบความหมายของส่วนกว้างของข้อความซึ่งมีใบเสนอราคากับใบเสนอราคาเอง ตัวอย่างเช่น:

ข้อความพร้อมใบเสนอราคา:

ผู้อำนวยการโซเวียตที่โดดเด่น G. A. Tovstonogov กล่าวอย่างชัดเจน: "ทันทีที่โรงละครเริ่มฟังคำพูดโรงละครสมัยใหม่ก็จบลง"

ตัวอย่างแหล่งที่มาที่ดึงใบเสนอราคา:

คำพูดในโรงละครสมัยใหม่ไม่ควรเชื่อฟัง แต่เข้าสู่จิตสำนึกของเราผ่านการกระทำ ทันทีที่พวกเขาเริ่มฟังคำศัพท์ในโรงละครโรงละครสมัยใหม่ก็จบลง เราไม่มีสิทธิ์ฟังคำพูดในโรงละครแยกกันและดูการกระทำแยกกัน เราต้องได้ยินและเห็นในเวลาเดียวกัน

เป็นที่ชัดเจนว่าความคิดของ Tovstonogov ถูกนำเสนออย่างผิดเพี้ยนการเสนอราคาเป็นเพียงส่วนที่ไม่สมบูรณ์ของความคิดที่กำหนดโดยผู้อำนวยการและสาระสำคัญของมันจะชัดเจนในบริบทเท่านั้น การฉีกวลีจากเขาการอ้างถึงเป็นผลมาจาก Tovstonogov บางอย่างที่ไม่ได้อยู่ในข้อความของเขาแม้ว่าจะสังเกตเห็นความถูกต้องตามตัวอักษรของใบเสนอราคา

ตัวอย่างเช่นผู้เขียนคู่มือการแก้ไขเพื่อแสดงให้เห็นถึงคำพูดของ VA Karpinsky ที่เลนินบรรณาธิการ "จำกัด ตัวเองให้อยู่ในขั้นต่ำของการแก้ไขที่จำเป็น" ซึ่งอ้างถึงเป็นตัวอย่างส่วนหนึ่งของข้อความจากบทความของ VA Karpinsky "Peasant Congress "ก่อนและหลังการแก้ไขของเลนินซึ่งมีเพียงอนุภาค" ไม่ "เท่านั้นที่ถูกแทรกสองครั้ง

ในขณะเดียวกันข้อความที่ยกมาตามด้วยข้อความของ Karpinsky ซึ่งเลนินลบทิ้งแทนที่ด้วยของเขาเองและในแง่ของปริมาณนั้นใหญ่กว่าข้อความที่ยกมาสามเท่าโดยมีการแก้ไขเล็กน้อยสองครั้ง แต่ในความเป็นจริงแล้วการเปลี่ยนความหมายเป็น ตรงกันข้าม ดังนั้นการแก้ไขของเลนินในบทความของ Karpinsky จึงไม่ได้แสดงให้เห็นถึงการแก้ไขขั้นต่ำ แต่ค่อนข้างตรงกันข้ามคือมีปริมาณมาก ตัวอย่างถูกเลือกโดยการอ้างถึงไม่ประสบความสำเร็จและเพื่อให้มองไม่เห็นเขาจึงเลิกอ้าง ตัวแก้ไขสามารถสังเกตเห็นสิ่งนี้ได้โดยการเปรียบเทียบใบเสนอราคากับส่วนกว้าง ๆ ของแหล่งที่มาโดยไม่ได้อ่านเฉพาะข้อความที่ยกมา แต่ยังรวมถึงข้อความที่ตามมาด้วย

2. เปรียบเทียบเรื่องของความคิดในแหล่งที่มากับเรื่องของความคิดที่ผู้เขียนอ้างถึงในใบเสนอราคาเพื่อป้องกันความคลาดเคลื่อนระหว่างกันอย่างน้อยก็เป็นการลดคุณค่าของใบเสนอราคา ตัวอย่างเช่น:

ข้อความพร้อมใบเสนอราคา:

นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปรับทิศทางการเคลื่อนไหวของดวงตาให้ถูกต้องในระหว่างการอ่านหนังสือที่ยืดเยื้อและเข้มข้นเช่นการพิสูจน์อักษร โชคดีที่ทักษะการอ่านสามารถปรับปรุงได้อย่างมากแม้ในผู้ใหญ่ที่อ่านออกเขียนได้อย่างไร้ที่ติ เกอเธ่อยู่ไม่ไกลจากความจริงเมื่อเขาบ่นติดตลกในการสนทนากับเอคเคอร์มานน์:“ คนใจดีเหล่านี้ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาและแรงงานมากแค่ไหนในการเรียนรู้ที่จะอ่าน ฉันใช้เวลาแปดสิบปีกับเรื่องนี้ แต่ฉันก็ยังไม่สามารถพูดได้ว่าฉันบรรลุเป้าหมายแล้ว "

ผู้เขียนข้อความข้างต้นได้ใช้คำแถลงของเกอเธ่เกี่ยวกับความสามารถในการอ่านเป็นความสามารถในการเข้าใจเจตนาของผู้เขียนเพื่อเป็นหลักฐานในการปรับปรุงด้านเทคนิค ทักษะการอ่านไม่เคยสายเกินไป เรื่องของความคิดในแหล่งที่มาและในผู้ที่อ้างถึงแตกต่างกันดังนั้นคำพูดจึงไม่เหมาะสม

3. เพื่อตรวจสอบเวลาที่มีการกล่าวถึงในใบเสนอราคาและการอ้างถึงสิ่งที่กล่าวในเวลานั้นถูกต้องหรือไม่ตามที่ผู้กล่าวอ้างถึง

4. เปรียบเทียบความหมายของคำพูดกับข้อสรุปที่ผู้เขียนอ้างถึงเพื่อตรวจสอบว่าข้อสรุปเหล่านี้เป็นไปตามคำพูดหรือไม่ จดหมาย:

ข้อความพร้อมใบเสนอราคา:

การระเบิดของข้อมูลซึ่งเรากำลังเห็นอยู่นั้นได้รับการมองการณ์ไกลในปีพ. ศ. 2387 โดยหนุ่ม Engels "วิทยาศาสตร์" เขาเขียน "กำลังก้าวไปข้างหน้าตามสัดส่วนของความรู้ที่สืบทอดมาจากคนรุ่นก่อน" ตามสูตรนี้ปริมาณของข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และทางเทคนิคที่พิมพ์ออกมาจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทุก ๆ 10-15 ปี

จากวลีที่ยกมาของ Engels ข้อสรุปที่ผู้เขียนอ้างถึงไม่เป็นไปตามที่วาดไว้ ประการแรกจากข้อเท็จจริงที่ว่าปริมาณข้อมูลเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจึงไม่เป็นไปตามที่ปริมาณความรู้เพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่เท่ากัน ประการที่สองเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ปริมาณของวิทยาศาสตร์และเทคนิค ข้อมูลเพิ่มเป็นสองเท่า Engels ไม่มีเสียงพูดเลย จากวลีของ Engels มีเพียงว่าวิทยาศาสตร์กำลังก้าวไปข้างหน้าตามสัดส่วนของความรู้ที่สืบทอดมาและไม่มีอะไรเพิ่มเติม ความรู้มีมากขึ้น - วิทยาศาสตร์กำลังก้าวหน้าในสัดส่วนนี้ ข้อสรุปของผู้เขียนไม่ได้เป็นไปตามจากใบเสนอราคาดังนั้นการเสนอราคาจึงไม่เหมาะสมหรือจำเป็นต้องมีการชี้แจงข้อสรุป

8.1.5. เงื่อนไขสำหรับความแม่นยำในการอ้างอิงตามตัวอักษร

ใบเสนอราคาต้องเป็นคำต่อคำตัวอักษรสำหรับตัวอักษรเครื่องหมายวรรคตอนสำหรับเครื่องหมายวรรคตอนตามแหล่งที่มาโดยมีข้อยกเว้นบางประการ - ดูด้านล่าง 8.1.6-8.1.9

8.1.6. การสะกดและเครื่องหมายวรรคตอนในเครื่องหมายคำพูด

โดยทั่วไปข้อความของใบเสนอราคาจะถูกทำซ้ำตามกฎและข้อบังคับการสะกดและเครื่องหมายวรรคตอนที่บังคับใช้ในขณะตีพิมพ์ ตัวอย่างเช่น:

นอกจากนี้ยังอนุญาตให้แก้ไขการพิมพ์ผิดที่ชัดเจนได้โดยมีการระบุการแก้ไขไว้ในบันทึกย่อ แต่ขอแนะนำให้ทำในกรณีที่ผู้อ้างสิทธิ์ต้องแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อผิดพลาดในใบเสนอราคาเท่านั้น

8.1.7. คำย่อในการอ้างอิง

อนุญาตให้ใช้คำย่อตามอำเภอใจในแหล่งที่มาเช่นเดียวกับคำที่ย่อในเครื่องหมายคำพูด แต่ไม่ได้ใช้คำย่อในหลัก ข้อความเขียนในรูปแบบขยายปิดส่วนเสริมของคำในวงเล็บหรือวงเล็บมุมและไม่ใส่จุดเป็นเครื่องหมายลด ตัวอย่างเช่น:

เพราะ]; เพราะ]; N. G. Chernyshevsky เขียนว่าเขา "... ความเห็นที่ยืมมาจากบันทึก [นิรันดร์] ของพระบิดา" ... ได้รับการสถาปนา "

เมื่ออ้างถึงเอกสารวงเล็บมุมมักแสดงถึงข้อความขีดทับและวงเล็บตรงหมายถึงคำย่อที่ขยายโดยบุคคลที่อ้างถึง

เมื่อผู้อ่านเข้าใจคำย่อได้ง่ายอย่าทำให้เกิดความเข้าใจผิดในการอ่านและอย่าละเมิดความสม่ำเสมอของคำย่อในสิ่งพิมพ์จึงไม่เหมาะสมที่จะขยายคำย่อ ไม่พึงปรารถนาที่จะขยายคำย่อหากการสะกดแบบย่อสื่อถึงความไม่ชอบมาพากลของการออกเสียงสำหรับผู้ที่เขียนชื่อชื่อนามสกุลและนามสกุลเป็นต้น

8.1.8. ใบเสนอราคา

คุณสามารถละคำอย่างน้อยหนึ่งคำหรือแม้แต่ประโยคได้หากความคิดของผู้เขียนคำพูดไม่ผิดเพี้ยนและหากผู้อ่านได้รับแจ้งเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินด้วยจุดไข่ปลาแทนคำและจุดไข่ปลาที่ละไว้ในวงเล็บเหลี่ยมแทนประโยคที่ละไว้ . ดู 8.5

8.1.9. การอ้างอิงคำและวลีแต่ละคำ

ด้วยใบเสนอราคาดังกล่าวจึงไม่อนุญาตให้ใส่จุดไข่ปลาเนื่องจากเป็นที่ชัดเจนแล้วสำหรับผู้อ่านว่าคำใดถูกละไว้ก่อนและหลังคำที่ยกมา ตัวอย่างเช่น:

Pechorin กล่าวว่าเขา "ต่อสู้อย่างไร้สาระ" ได้ "หมดทั้งความร้อนแรงในจิตใจและความมั่นคงของเจตจำนง" ... (Eikhenbaum BM On prose. Moscow, 1969, p. 285)

อย่างไรก็ตามการละเว้นคำภายในวลีที่ยกมาจะแสดงด้วยจุดไข่ปลา

8.1.10. การเปลี่ยนกรณีของคำในใบเสนอราคาเทียบกับแหล่งที่มาดั้งเดิม

การเบี่ยงเบนจากแหล่งที่มาเดิมนั้นเป็นไปได้ในกรณีที่มีการอ้างถึงคำและวลีแต่ละคำ ตัวอย่างเช่น:

8.1.11. เสริมด้วยป้าย

ในคำพูดที่เป็นบทกวีพิมพ์เหมือนร้อยแก้วภายในหลัก ข้อความในส่วนที่เลือกด้วยพวกเขาแนะนำเครื่องหมายทับเดี่ยวหรือคู่หรือไม้บรรทัดแนวตั้งเดี่ยวหรือคู่ในตำแหน่งที่เส้นบทกวีสิ้นสุดลงและอีกเส้นหนึ่งเริ่มแสดงถึงเส้นบทกวี

เครื่องหมายวรรคตอนก่อนเครื่องหมายดังกล่าวและอักษรตัวใหญ่ที่จุดเริ่มต้นของบรรทัดหลังเครื่องหมายถูกเก็บไว้ ตัวอย่างเช่น:

... ขอบคุณที่ฉันมีส่วนร่วมในงานศิลปะการแสดงความคิดสร้างสรรค์ของบทกวี ... ("ด้วยชัยชนะที่เงียบงันบนใบหน้าของฉัน // ฉันเปิดโองการ ... ")

8.1.12. ไฮไลต์ในใบเสนอราคา

โดยเน้นในคำพูด:

1. เป็นที่พึงปรารถนาที่จะรักษารูปร่างของการเลือกแหล่งที่มา ถ้าเทคโนโลยี. ด้วยเหตุผลนี้จึงเป็นไปไม่ได้ดังนั้นจึงได้รับอนุญาตให้แทนที่แบบฟอร์มดังกล่าวด้วยรูปแบบอื่นที่มีผลบังคับใช้คล้ายกันโดยมีการจองครั้งเดียวในบันทึกย่อ ตัวอย่างเช่น:

"... มี Belinsky ที่แท้จริงในศิลปะการวิจารณ์ศิลปะ Kramskoy" เขียน V. V. Stasov (ในแหล่งที่มา - ตัวหนา)

2. การเน้นคำโดยการอ้างอิงจะต้องทำเครื่องหมายหรือระบุไว้ในเชิงอรรถ ตัวอย่างเช่นหมายเหตุเกี่ยวกับคำพูดแรกจากแหล่งข้อมูลหนึ่ง:

* ทุกที่ในกรณีที่ไม่ระบุตัวเอียงในคำพูดของเรา - อ.

3. ไม่จำเป็นต้องระบุการเน้นคำที่เป็นของผู้เขียนใบเสนอราคายกเว้นในกรณีที่ใบเสนอราคาจากแหล่งเดียวมีผู้เขียนเพียงไม่กี่คน การจัดสรรและการจัดสรรจำนวนมากของการอ้างถึง แล้วจะดีกว่าประหยัดกว่าในการทำเครื่องหมายผู้เขียน การเน้นและเน้นบุคคลที่อ้างถึงเพื่อกำหนดในบันทึกหรือใช้การเน้นรูปแบบต่างๆโดยกำหนดเฉพาะรูปแบบของการเน้นคำโดยผู้อ้างถึง ถ้าเป็นไปได้ควรมีรูปแบบการเน้นที่แตกต่างกันโดยผู้เขียนและผู้อ้างถึงโดยระบุสิ่งนี้ไว้ในบันทึก ตัวอย่างเช่น: ใบเสนอราคา (ตัวเอียง - ผู้เขียนอ้างตัวหนา - ของเรา)

หากสามารถอ่านสิ่งพิมพ์ได้และไม่เรียงตามลำดับการจองทั้งหมดเกี่ยวกับการจัดสรรที่ไม่ได้อยู่ในบันทึกย่อ แต่เป็นส่วนท้ายของคำนำหรือที่ด้านหลังของชื่อเรื่องจะเป็นการดีกว่า ล. หลังรายการคำย่อนั่นคือในสถานที่ที่ผู้อ่านจะไม่พลาดอย่างแน่นอน

8.1.13. เน้นคำพูด

ขอแนะนำให้เน้นการเสนอราคาแบบหลายบรรทัดและโดยเฉพาะหลายย่อหน้าเนื่องจากผู้อ่านมักสูญเสียการวางแนวและใช้เวลาในการชี้แจงคำถาม: ใบเสนอราคาสิ้นสุดลงหรือไม่

แบบฟอร์มการเน้นใบเสนอราคา: a) แทรกหากใบเสนอราคาไม่เกินหน้า b) retractor ที่มีไม้บรรทัดแนวตั้งอยู่ในนั้นหากใบเสนอราคาอยู่ในหน้าทั้งหมด c) พิมพ์ในขนาดที่เล็กกว่า (ตัวอย่างเช่นเล็กหรือ borges กับร่างกาย) ในกรณีเหล่านี้เช่นในวรรค "b"; d) พิมพ์แบบอักษรอื่นในกรณีเดียวกับในวรรค "b"

8.2. การใช้คำพูด

8.2.1. คำพูดที่มีเครื่องหมายคำพูด

โทรออกในลักษณะเดียวกับ DOS ข้อความคำพูดที่อยู่ข้างในนั้นจะอยู่ในเครื่องหมายคำพูดเพื่อแสดงขอบเขตของแต่ละส่วน - จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด

8.2.2. คำพูดที่ไม่ได้ใส่เครื่องหมาย

นี่คือใบเสนอราคาซึ่งคั่นด้วยกราฟิกจากหลัก ข้อความ:

1. ไฮไลต์ด้วยฟอนต์หรือวิธีที่ไม่ใช่ฟอนต์ (ในฟอนต์ที่มีขนาดแตกต่างกันรูปวาดสไตล์อินเซ็ตพิมพ์ด้วยสีอื่นที่ไม่ใช่ข้อความหลัก) หรือหากบริบททำให้ผู้อ่านชัดเจนว่ามีอัญประกาศอยู่ข้างหน้า ของเขา. ตัวอย่างเช่นพุชกินเขียนถึงภรรยาของเขา: สิ่งที่ลูก ๆ ของฉันและ
หนังสือของฉัน?

2. นำมาจากงานกวีที่มีการเก็บรักษาการแบ่งออกเป็นเส้นกวีและพิมพ์ให้แคบกว่าหลัก ข้อความรูปแบบหรือแบบอักษรที่ต่ำกว่าแบบอักษรพื้นฐาน ข้อความขนาด ตัวอย่างเช่น:

จำบรรทัดของพุชกิน:

เรื่องนี้เป็นเรื่องโกหก แต่มีคำใบ้อยู่!
บทเรียนสำหรับเพื่อนที่ดี

3. เครื่องหมายคำพูดเป็นกราฟหากไม่มีข้อความที่ไม่ใช่คำพูดใด ๆ มาพร้อมกับคำพูด

8.2.3. วางคำพูด

เครื่องหมายคำพูดการขีดฆ่าจะวางไว้ที่จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดเท่านั้นโดยไม่คำนึงถึงขนาดของใบเสนอราคาและจำนวนย่อหน้าในนั้น

8.2.4. การวาดคำพูด

1. เครื่องหมายคำพูดจะอยู่ในเครื่องหมายคำพูดที่มีรูปแบบเดียวกับที่ใช้ในหลัก ข้อความเป็นหลัก

2. หากภายในอัญประกาศมีคำ (วลีวลี) อยู่ในเครื่องหมายคำพูดคำพูดหลังควรมีรูปแบบที่แตกต่างจากเครื่องหมายคำพูดที่ปิดและเปิดเครื่องหมายคำพูด (เครื่องหมายคำพูดภายนอกมักจะเป็นรูปต้นคริสต์มาส "" เป็นอุ้งเท้า "")

ถ้ามีเทคโนโลยี ด้วยเหตุผลที่เป็นไปไม่ได้ที่จะตั้งเครื่องหมายคำพูดของรูปอื่นเครื่องหมายคำพูดของรูปหนึ่งจะไม่ซ้ำติดกัน ตัวอย่างเช่นมันผิด:“ พวกยิปซีของฉันไม่มีขายเลย” พุชกินบ่น อย่างไรก็ตามจะเป็นการดีกว่าหากต้องการเน้นเครื่องหมายคำพูดในทางใดทางหนึ่งโดยการลบเครื่องหมายคำพูดด้านนอกออกเช่นพิมพ์เครื่องหมายคำพูดที่มีการเยื้องและการเยื้อง

3. หากพบเครื่องหมายคำพูดของ "ระดับที่สาม" ในใบเสนอราคากล่าวคือภายในเครื่องหมายคำพูดที่อยู่ในเครื่องหมายคำพูดจะมีคำที่อยู่ในเครื่องหมายคำพูดในทางกลับกันคำที่อยู่ในเครื่องหมายคำพูดจะแนะนำให้ใช้เครื่องหมายคำพูดของรูปที่สองเช่นอุ้งเท้าเป็น หลัง.

M. M. Bakhtin เขียนว่า:“ Trishatov บอกวัยรุ่นเกี่ยวกับความรักในดนตรีของเขาและพัฒนาความคิดของโอเปร่าต่อหน้าเขา:“ ฟังสิคุณรักดนตรีไหม? ฉันรักมันมาก ... ถ้าฉันจะแต่งโอเปร่าคุณก็รู้ฉันจะเอาพล็อตจากเฟาสต์ ฉันชอบหัวข้อนี้มาก ""

8.3. ย่อหน้าเมื่อยกมา

8.3.1. ย่อหน้าภายในใบเสนอราคา

โดยจะยังคงอยู่ในแหล่งที่มายกเว้นเมื่อใบเสนอราคารวมข้อความเพียงส่วนเล็ก ๆ ของทั้งสองย่อหน้า (ตัวอย่างเช่นวลีสุดท้ายของหนึ่งและวลีเปิดของอีกวรรคหนึ่ง)

8.3.2. เครื่องหมายคำพูดเริ่มต้นด้วยการเยื้องย่อหน้า

1. คำพูดตั้งแต่สองย่อหน้าขึ้นไป

2. คำพูดที่คุณต้องการเน้น

3. คำพูดที่ขึ้นต้นด้วยย่อหน้า DOS ข้อความ

8.4. อักษรตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็กที่จุดเริ่มต้นของใบเสนอราคา

8.4.1. คำพูดที่ขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใหญ่

นี่คือคำพูด:

1. ยืนอยู่หลังเครื่องหมายจุดคู่ตรงกลางวลีถ้าในแหล่งที่มาพวกเขาขึ้นต้นด้วยตัวอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ (ข้อความจะยกมาจากจุดเริ่มต้นของประโยค) ตัวอย่างเช่น:

2. เริ่มต้นวลีและไปหลังจากจุดที่สิ้นสุดประโยคก่อนหน้าของ DOS ข้อความแม้ว่าคำแรกของประโยคที่ยกมาจะถูกละไว้ ตัวอย่างเช่น:

3. เริ่มต้นด้วยชื่อที่ถูกต้องแม้ว่าคำเริ่มต้นของประโยคที่ยกมาจะถูกละไว้ในใบเสนอราคาและอยู่หลังเครื่องหมายจุดคู่ ตัวอย่างเช่น:

8.4.2. เครื่องหมายคำพูดที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรพิมพ์เล็ก

นี่คือคำพูด:

1. โดยเว้นคำแรกของประโยคเริ่มต้นไว้ตรงกลางวลี DOS ข้อความ (ทั้งหลังลำไส้ใหญ่และไม่มี) ขึ้นต้นด้วยคำนามทั่วไป ตัวอย่างเช่น:

2. ไม่มีคำแรกที่ละไว้ของประโยคเริ่มต้น แต่รวมอยู่ในโครงสร้างทางวากยสัมพันธ์ของวลี DOS ข้อความที่อยู่ตรงกลางหรือท้ายไม่ใช่หลังเครื่องหมายทวิภาคโดยที่คำแรกไม่ใช่ชื่อที่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น:

8.5. จุดไข่ปลาเป็นสัญลักษณ์ของการข้ามข้อความในใบเสนอราคา

8.5.1. แทนที่เครื่องหมายวรรคตอนอื่นด้วยจุดไข่ปลา

จุดไข่ปลาจะแทนที่เครื่องหมายวรรคตอนก่อนที่จะละข้อความในใบเสนอราคาเช่นลูกน้ำ, โคลอน, อัฒภาค, เส้นประ เป็นที่ยอมรับไม่ได้ที่จะแทนที่จุดไข่ปลาด้วยอักขระใด ๆ เหล่านี้หรือรวมจุดไข่ปลากับตัวใดก็ได้ ตัวอย่างเช่น:

8.5.2. การรวมจุดไข่ปลากับเครื่องหมายวรรคตอนอื่น ๆ

จุดไข่ปลาสามารถใช้ร่วมกับเครื่องหมายวรรคตอนเช่นจุดอัฒภาคเครื่องหมายอัศเจรีย์เครื่องหมายคำถามจุดไข่ปลาในกรณีต่อไปนี้:

1. อัฒภาคจะวางไว้หลังจุดไข่ปลาเมื่อข้อความมีรายการคำพูดที่ไม่อยู่ในเครื่องหมายคำพูด แต่เป็นแบบอักษรหรือแบบที่ไม่ใช่แบบอักษรโดยมีคำที่ละไว้ท้ายแต่ละคำหรือมีคำเริ่มต้นที่ละไว้ (เครื่องหมายจุดไข่ปลาและ อัฒภาคของข้อความของผู้แต่งจะถูกรวมเข้าด้วยกันซึ่งรวมอยู่ในเครื่องหมายคำพูด) ตัวอย่างเช่น:

คำจำกัดความที่มีสรรพนามส่วนบุคคลจะไม่แยกออกจากกันหากคำจำกัดความในความหมายไม่เพียง แต่เกี่ยวข้องกับหัวเรื่องเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเพรดิเคตด้วยตัวอย่างเช่นเขาออกมาจากห้องด้านหลังแล้วอารมณ์เสียอย่างสิ้นเชิง ... ; ฉันมาตอนเย็นเหนื่อยและหิว
Count Ilya Andreevich ... เมื่อปลายเดือนมกราคมกับ Natasha และ Sonya มาที่มอสโก ... Razmetnov มาพร้อมกับ Demka Ushakov

2. เครื่องหมายอัศเจรีย์หรือเครื่องหมายคำถามจุดไข่ปลาจะวางไว้หน้าจุดไข่ปลาโดยมีการข้ามจากช่วงเวลานั้นเมื่อประโยคหนึ่งของคำพูดนั้นได้รับเต็มรูปแบบ (ลงท้ายด้วยเครื่องหมายใดสัญลักษณ์หนึ่งที่แสดงอยู่ที่จุดเริ่มต้นของย่อหน้า) และ คำเริ่มต้นของประโยคถัดไปของคำพูดจะถูกละไว้ สิ่งนี้ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจถึงโครงสร้างของข้อความที่ยกมาได้อย่างถูกต้อง ตัวอย่างเช่น:

8.5.3. จุดไข่ปลาที่จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของย่อหน้าในเครื่องหมายคำพูดหลายย่อหน้า

หากคำใดถูกละไว้ในตอนท้ายของย่อหน้าของอัญประกาศแบบหลายวรรคย่อหน้าดังกล่าวจะลงท้ายด้วยจุดไข่ปลาและถ้าคำใดถูกละไว้ที่จุดเริ่มต้นของย่อหน้าถัดไป (คำแรก) คำนั้นจะขึ้นต้นด้วยจุดไข่ปลา โครงสร้างของข้อความในใบเสนอราคาไม่เปลี่ยนแปลง: แบ่งออกเป็นย่อหน้าในลักษณะเดียวกับที่มา ตัวอย่างเช่น:

อัญประกาศย่อหน้าที่มีคำเว้นไว้ตอนท้าย ...

... วรรคสองของอัญประกาศที่มีคำนำหน้าหรือคำนำหน้าเว้นไว้

8.5.4. จุดไข่ปลาในวงเล็บมุม

จุดไข่ปลาดังกล่าวแทนที่ข้อความตั้งแต่หนึ่งประโยคขึ้นไปโดยละเว้นเมื่ออ้างถึง:

1. จะรวมกับช่วงเวลาถ้าประโยคก่อนหน้าของใบเสนอราคาถูกกำหนดให้เต็มและมีจุดไข่ปลาถ้าคำถูกละไว้ในตอนท้ายของประโยคก่อนหน้าของเครื่องหมายคำพูดหรือที่จุดเริ่มต้นของประโยคต่อไปนี้ ตัวอย่างเช่น:

กรอกใบเสนอราคา<…> กรอกใบเสนอราคา

ประโยคคำพูดที่มีคำที่ละไว้ในตอนท้าย (คำสุดท้าย) ...<…> …ประโยคคำพูดที่มีการเว้นคำนำหน้า (คำแรก)

2. จะถูกเน้นในย่อหน้าอิสระหากแทนที่ย่อหน้าระหว่างย่อหน้าของข้อความที่ยกมา ตัวอย่างเช่น:

<…>

3. วางไว้ที่จุดเริ่มต้นและ (หรือ) ตอนท้ายของย่อหน้าของข้อความที่ยกมาถ้าประโยคที่ขึ้นต้นและ (หรือ) ส่วนท้ายของย่อหน้านี้ถูกละไว้ ตัวอย่างเช่น:

ย่อหน้าแรกของข้อความที่ยกมา

<...> ย่อหน้าที่สองของข้อความที่ยกมาโดยเว้นประโยคเริ่มต้นและประโยคสุดท้าย<...>

ย่อหน้าที่สามของข้อความที่ยกมา

8.5.5. ผสานและแยกการสะกดของจุดไข่ปลาด้วยข้อความ

ปฏิบัติตามกฎต่อไปนี้:

1. จุดไข่ปลาที่จุดเริ่มต้นของวลีจะเขียนเป็นชิ้นเดียวพร้อมกับคำถัดไป ตัวอย่างเช่น:

เราออกจาก sakli ... อากาศแจ่มใสขึ้น ...

2. จุดไข่ปลาที่อยู่ตรงกลางและตอนท้ายของวลีเขียนเป็นชิ้นเดียวโดยมีคำนำหน้า ตัวอย่างเช่น:

เราออกไปข้างนอก ... ตรงกันข้ามกับคำทำนายของเพื่อนฉันอากาศแจ่มใส ...

ในทั้งสองกรณี (รายการที่ 1 และ 2) หากในตัวพิมพ์ดีดต้นฉบับมีการพิมพ์จุดไข่ปลาโดยเว้นวรรคก่อนข้อความหรือหลังข้อความคุณควรทำเครื่องหมายด้วยเครื่องหมายแก้ไข "กำจัดช่องว่าง"

ใบเสนอราคา<…> อ้าง ...<…> ใบเสนอราคา

8.6. อ้างหมายเหตุ

8.6.1. คำอธิบายเชิงความหมายและข้อสังเกตของการอ้างถึง

สำหรับการออกแบบโปรดดู 29.3.6

8.6.2. แนวทางการเป็นเจ้าของสิ่งที่เลือกในใบเสนอราคา

พิมพ์คำใบ้ เหมืองตัวเอียง; การปลดปล่อยของฉัน; ไฮไลต์โดยฉัน; เน้นโดยฉัน ดำเนินการในลักษณะเดียวกับคำอธิบายเชิงความหมายและคำพูดของผู้กล่าวอ้าง (ดู 29.3.6) ตัวอย่างเช่น:

"... ฉันได้รับคำแนะนำจากความจำเป็นในการรวบรวมความคิดเชื่อมโยงเข้าด้วยกันเพื่อแสดงความเป็นตัวเอง ... " (ตัวเอียงของเรา - ม. ช.)

8.6.3. การถอดรหัสคำสรรพนามคำย่อ

บันทึกดังกล่าวมักจะอยู่ในวงเล็บและวางไว้ด้านหลังคำ (วลี) ที่พวกเขาอ้างถึงโดยไม่ระบุชื่อย่อของชื่อและนามสกุลของบุคคลที่อ้างถึงเนื่องจากความเป็นของโน้ตนั้นชัดเจนสำหรับผู้อ่านตามความหมายและในวงเล็บ . ตัวอย่างเช่น:

"... ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขา [พุชกิน] สร้างบทกวีภาษาวรรณกรรมของเรา ... "

8.6.4. คำถามหรือเครื่องหมายอัศเจรีย์เป็นหมายเหตุ

วางไว้หลังคำหรือวลีของอัญประกาศที่อ้างถึงในวงเล็บโดยไม่มีเครื่องหมายด้วยวาจาในกรณีที่ผู้อ้างจำเป็นต้องแสดงความสงสัยชี้ให้เห็นข้อผิดพลาดในเชิงแดกดันแสดงความยินดี ณ ที่ใด ๆ ในใบเสนอราคา เครื่องหมายคำถามมักจะเป็นลบเครื่องหมายอัศเจรีย์เป็นบวก ตัวอย่างเช่น:

“ การศึกษาที่มุมห้องโถงเป็นของ Repin (?)” เราอ่านที่นั่น

8.7. เครื่องหมายวรรคตอนในวลีที่ลงท้ายด้วยเครื่องหมายคำพูด

8.7.1. โคลอนหลังคำพูดของการอ้างก่อนอ้าง

จะวางไว้หากคำพูดของบุคคลที่อ้างถึงแนะนำใบเสนอราคาในข้อความเตือนผู้อ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตัวอย่างเช่น:

ไม่ใส่:

1. หากอยู่ในคำพูดหรือหลังจากนั้นเป็นคำพูดของบุคคลที่อ้างถึงให้แนะนำคำพูดลงในข้อความ ในกรณีนี้ข้อความก่อนใบเสนอราคาจะถูกคั่นด้วยจุด ตัวอย่างเช่น:

2. หากอัญประกาศทำหน้าที่เป็นส่วนเสริมของข้อความก่อนหน้านั้นหรือเป็นส่วนหนึ่งของอนุประโยครองที่เริ่มต้นก่อนหน้านั้น ตัวอย่างเช่น:

SI Vavilov เรียกร้อง "... โดยทุกวิถีทางเพื่อช่วยมนุษยชาติจากการอ่านหนังสือที่ไม่ดีและไม่จำเป็น"

เอสไอวาวิลอฟเชื่อว่าจำเป็น "... โดยทุกวิถีทางเพื่อช่วยมนุษยชาติจากการอ่านหนังสือที่ไม่ดีและไม่จำเป็น"

8.7.2. ระยะเวลาหลังเครื่องหมายคำพูดปิดใบเสนอราคา

ใส่:

1. หากเครื่องหมายคำพูดปิดไม่ได้นำหน้าด้วยจุดไข่ปลาเครื่องหมายตกใจหรือเครื่องหมายคำถาม ในกรณีนี้คุณสามารถย้ายจุดไปไกลกว่าลิงก์ได้หากหลังตามหลังคำพูด ตัวอย่างเช่น:

A. N. Sokolov เขียนว่า: "ความเข้าใจผิดคือการไม่มีการรวมกัน"

“ ... ความสัมพันธ์” (น. 140)

2. หากมีจุดไข่ปลาเครื่องหมายอัศเจรีย์หรือเครื่องหมายคำถามอยู่ก่อนเครื่องหมายคำพูดปิด แต่อัญประกาศไม่ใช่ประโยคอิสระ (ทำหน้าที่เป็นสมาชิกของประโยคที่รวมอยู่ด้วยโดยปกติคำพูดดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งของอนุประโยครอง ). ตัวอย่างเช่น:

โกกอลเขียนเกี่ยวกับ Manilov ว่า "ในสายตาของเขาเขาเป็นคนที่โดดเด่น ... "

8.7.3. ไม่มีเครื่องหมายวรรคตอนหลังเครื่องหมายคำพูด

ไม่มีเครื่องหมายวรรคตอน:

1. หากมีจุดไข่ปลาเครื่องหมายอัศเจรีย์หรือเครื่องหมายคำถามก่อนเครื่องหมายอัญประกาศปิดและคำพูดระหว่างเครื่องหมายคำพูดเป็นประโยคอิสระ (ตามกฎแล้วคำพูดทั้งหมดหลังจากโคลอนแยกออกจากคำที่อ้างถึงจะเป็นเช่นนั้น) ตัวอย่างเช่น:

Pechorin เขียนว่า: "ฉันจำไม่ได้ว่าเป็นเช้าที่สดใสและสดชื่นกว่านี้!"

Pechorin ยอมรับว่า: "บางครั้งฉันก็ดูถูกตัวเอง ... "

Pechorin ถามว่า: "แล้วทำไมโชคชะตาถึงพาฉันไปอยู่ในวงล้อมของพวกลักลอบค้าของเถื่อนที่เงียบสงบ"

เช่นเดียวกันหากใบเสนอราคาลงท้ายด้วยประโยคอิสระประโยคแรกจะขึ้นต้นด้วยอักษรตัวพิมพ์เล็ก ตัวอย่างเช่น:

Pechorin สะท้อนให้เห็นว่า:“ ... ทำไมโชคชะตาถึงโยนฉันเข้าสู่วงล้อมของผู้ค้าของเถื่อนที่ซื่อสัตย์? เหมือนก้อนหินที่โยนลงไปในฤดูใบไม้ผลิที่ราบรื่นฉันรบกวนความสงบของพวกเขา ... "

2. หากมีคำถามหรือเครื่องหมายอัศเจรีย์อยู่หน้าเครื่องหมายคำพูดที่ปิดเครื่องหมายคำพูดและเครื่องหมายคำพูดนั้นไม่ใช่ประโยคอิสระและหลังจากวลีทั้งหมดที่มีเครื่องหมายคำพูดควรมีคำถามหรือเครื่องหมายอัศเจรีย์ ตัวอย่างเช่น:

เลอร์มอนตอฟอุทานในคำนำว่านี่คือ "เรื่องตลกที่เก่าแก่และน่าสมเพช!"

8.8. เครื่องหมายวรรคตอนในวลีที่มีเครื่องหมายอัญประกาศอยู่ตรงกลาง

8.8.1. โคลอนก่อนใบเสนอราคา

ใส่หรือไม่ใส่ตามกฎเดียวกันกับวลีที่ลงท้ายด้วยอัญประกาศ (ดู 8.7.1)

8.8.2. ลูกน้ำหลังเครื่องหมายคำพูดปิด

หากเป็นไปตามเงื่อนไขของบริบทข้อความต่อไปนี้ควรคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาคโดยเฉพาะ:

1) คำพูดเป็นส่วนหนึ่งของการหมุนเวียนของคำวิเศษณ์ซึ่งลงท้ายด้วยมันหรืออนุประโยครองลงท้ายด้วยอัญประกาศ เช่น .:

ดังนั้นนักเรียนระดับประถมเก้าเมื่อได้อ่านวลี: "ชาวอังกฤษปกป้องเส้นทางเดินเรือไปยังอินเดียอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ" ถามตัวเองว่า ... (คำพูดลงท้ายด้วยคำวิเศษณ์);

2) คำพูดจะตามด้วยส่วนที่สองของประโยคที่ซับซ้อนและคำพูดที่มีข้อความนำหน้าเป็นส่วนแรก เช่น .:

บรรณาธิการหลายคนอ่านข้อความต่อไปนี้:“ ผู้อ่านรุ่นเยาว์กังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับหนังสือที่เขากำลังมองหาคำตอบสำหรับคำถามที่สำคัญ” และไม่มีใครสังเกตเห็นความเข้าใจผิดเชิงตรรกะขั้นต้น (ข้อความโดยอ้าง - ประโยคที่สองในประโยคที่ซับซ้อน) ;

3) คำพูดเป็นส่วนหนึ่งของประโยคหลักตามด้วยอนุประโยครอง ฯลฯ เช่น .:

8.8.3. ขีดหลังเครื่องหมายคำพูดปิด

ใส่:

1. หากตามเงื่อนไขของบริบทไม่จำเป็นต้องแยกข้อความที่ตามมาด้วยเครื่องหมายจุลภาค (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในข้อความมีหัวเรื่องก่อนใบเสนอราคาและในข้อความหลังคำกริยาหรือก่อนใบเสนอราคาที่นั่น เป็นคำที่เป็นเนื้อเดียวกันคำหนึ่งและหลังจากนั้นอีกคำหนึ่งเข้าร่วมโดยสหภาพ) ตัวอย่างเช่น:

2. หากมีจุดไข่ปลาเครื่องหมายอัศเจรีย์หรือเครื่องหมายคำถามอยู่ท้ายใบเสนอราคา ตัวอย่างเช่น:

เมื่อคนทำงานวรรณกรรมเซ็นคำตอบสำหรับคำถามของผู้อ่าน: "วิตามินถูกเก็บรักษาไว้ในน้ำผลไม้หรือไม่" - เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้กังวล ...

3. หากจำเป็นต้องใช้เครื่องหมายขีดตามเงื่อนไขของบริบท (โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อความก่อนเครื่องหมายคำพูดคือหัวเรื่องซึ่งแสดงด้วยรูปแบบที่ไม่แน่นอนของคำกริยาและข้อความหลังเครื่องหมายคำพูดคือเพรดิเคตคำที่แนบหมายถึงหรือด้วย แสดงโดยรูปแบบไม่ จำกัด ของคำกริยา

ที่จะพูดว่า:“ การแสดงทางประสาทสัมผัสคือความจริงที่มีอยู่ภายนอกตัวเรา” หมายถึงการกลับไปสู่ความถ่อมตัว ...

8.8.4. ตำแหน่งของเครื่องหมายวรรคตอนหลังคำพูด

หากทำซ้ำคำพูดโดยสอดคล้องกับบรรทัดกลอนของแหล่งที่มาเครื่องหมายวรรคตอนที่อ้างถึงข้อความทั้งหมดพร้อมด้วยอัญประกาศจะอยู่ที่ส่วนท้ายของบทกวีสุดท้ายไม่ใช่ก่อนคำพูดของผู้อ้างถึง ตัวอย่างเช่น:

มีสองเขตข้อมูลแรงจูงใจ; ประการแรกคือแรงจูงใจของการแยก:

เราแยกจากกัน; ชั่วขณะด้วยเสน่ห์
ช่วงเวลาสั้น ๆ ชีวิตของฉันเป็นของฉัน ... -

แสดงออกถึงความโรแมนติกสูงสุด

8.9. เครื่องหมายวรรคตอนในวลีที่มีคำที่อ้างถึงภายในเครื่องหมายคำพูด

8.9.1. ที่ตำแหน่งของตัวแบ่งคำพูด - ลูกน้ำ, อัฒภาค, โคลอน, เส้นประ

ในกรณีนี้เช่นเดียวกับในกรณีที่ไม่มีเครื่องหมายวรรคตอนที่จุดพักคำที่อ้างอิงจะถูกแยกออกจากข้อความของใบเสนอราคาทั้งสองด้านด้วยลูกน้ำและเครื่องหมายขีด (, -) ตัวอย่างเช่น:

8.9.2. ณ จุดพักในเครื่องหมายคำพูด - จุด

ในกรณีนี้จะมีการใส่ลูกน้ำและเครื่องหมายขีดกลาง (, -) ไว้หน้าคำพูดของบุคคลที่อ้างถึงและหลังคำเหล่านี้จะมีเครื่องหมายจุดและขีด (. -) เริ่มต้นส่วนที่สองด้วยอักษรตัวใหญ่

8.9.3. ที่จุดพักคำพูด - คำถามหรือเครื่องหมายอัศเจรีย์

ในกรณีนี้เครื่องหมายคำถามหรือเครื่องหมายอัศเจรีย์และเครื่องหมายขีดกลาง (? - ;! -) จะถูกทิ้งไว้หน้าคำพูดของบุคคลที่อ้างถึงและหลังจากคำพูดของบุคคลที่อ้างถึงพวกเขาจะหยุดเต็มและขีด (. -) เริ่มต้นส่วนที่สองของเครื่องหมายคำพูดด้วยอักษรตัวใหญ่หรือเครื่องหมายจุลภาคและเครื่องหมายขีดกลาง (, -) เริ่มต้นส่วนที่สองของเครื่องหมายคำพูดด้วยอักษรตัวพิมพ์เล็กหากในแหล่งที่มาข้อความหลังคำถาม (อัศเจรีย์) เริ่มต้นด้วยตัวอักษรพิมพ์เล็ก ตัวอย่างเช่น:

8.9.4. ที่จุดพักในใบเสนอราคา - จุดไข่ปลา

ในกรณีนี้จุดไข่ปลาและเส้นประ (... -) จะอยู่หน้าคำพูดของบุคคลที่อ้างถึงและมีเครื่องหมายจุลภาคและเครื่องหมายขีด (, -) หลังคำของบุคคลที่อ้างถึงหากอยู่ในแหล่งที่มาข้อความหลัง จุดไข่ปลาเริ่มต้นด้วยอักษรตัวพิมพ์เล็กและจุดและขีด (. -) หากในแหล่งที่มาข้อความหลังจุดไข่ปลาขึ้นต้นด้วยตัวอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ ตัวอย่างเช่น:

8.9.5. ในคำพูดของคำกริยาสองคำที่อ้างถึงคำกริยาหนึ่งหมายถึงส่วนแรกของเครื่องหมายคำพูดอีกคำที่สอง

ในกรณีนี้หลังจากส่วนแรกของใบเสนอราคาพวกเขาใส่เครื่องหมายจุลภาคและเส้นประ (, -), จุดและขีด (. -), จุดไข่ปลาและเส้นประ (...-), เครื่องหมายอัศเจรีย์ (คำถาม ) และเครื่องหมายขีดกลาง (? - ;! -) ขึ้นอยู่กับบริบทและหลังคำพูดของบุคคลที่อ้างถึง - โคลอนและขีด (: -) ตัวอย่างเช่น:

“ บางครั้งฉันก็ดูถูกตัวเอง ... นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ฉันดูถูกคนอื่นเช่นกันหรือ .. - ถาม Pechorin และสารภาพว่า:“ ฉันไม่สามารถรับแรงกระตุ้นอันสูงส่งได้” (ดูข้อความในแหล่งที่มาด้านบน)

8.10. เครื่องหมายวรรคตอนในวลีที่ขึ้นต้นด้วยอัญประกาศ

8.10.1. จุลภาคและขีดหลังใบเสนอราคา

กำหนดว่าในแหล่งที่มาข้อความของใบเสนอราคาจะลงท้ายด้วยจุดหรือไม่ ตัวอย่างเช่น:

8.10.2. ขีดหลังใบเสนอราคา

ตั้งค่าว่าในแหล่งที่มาข้อความของใบเสนอราคาลงท้ายด้วยจุดไข่ปลาเครื่องหมายอัศเจรีย์หรือเครื่องหมายคำถาม เช่น ..

ในภาษารัสเซียมีกฎบางประการสำหรับใบเสนอราคาและการออกแบบการใช้ซึ่งจะช่วยให้คุณใส่ใบเสนอราคาลงในข้อความใด ๆ ได้อย่างถูกต้อง การอ้างอิงเป็นส่วนสำคัญของการเขียนบทคัดย่อเอกสารภาคนิพนธ์และวิทยานิพนธ์บทความและข้อความ คำพูดช่วยให้บทความมีความสมบูรณ์กระชับและมีสถานะที่แน่นอนเนื่องจากความน่าเชื่อถือของผู้เขียนเพิ่มขึ้นโดยการอ้างถึงบุคคลที่มีชื่อเสียง อย่างไรก็ตามหลายคนสงสัยว่าจะจัดรูปแบบเครื่องหมายคำพูดอย่างไรให้ถูกต้องรวมถึงตำแหน่งของข้อความและวิธีแทรกใบเสนอราคา

ลองดูกฎพื้นฐานสำหรับการจัดรูปแบบคำพูดในภาษารัสเซีย

กฎการเสนอราคาในรัสเซีย

1. กฎที่สำคัญที่สุดในการออกแบบใบเสนอราคามีดังต่อไปนี้: ใบเสนอราคาจะต้องสร้างข้อความที่ยกมาให้ถูกต้อง 100%! ไม่อนุญาตให้เบี่ยงเบนจากข้อความการแทรกหรือการยกเว้นส่วนใด ๆ ของข้อความ
2. เช่นเดียวกับเครื่องหมายวรรคตอน - ต้องสอดคล้องกับที่อยู่ในข้อความ เมื่อข้อความที่ยกมาไม่ได้อยู่ในมือ (เช่นเมื่อผ่านการสอบ) จำเป็นต้องวางเครื่องหมายวรรคตอนที่เหมาะสมตามกฎวรรคตอนของภาษารัสเซีย
3. คำพูดควรมีความเหมาะสมเป็นธรรมตามเป้าหมายเฉพาะของผู้เขียน
4. เมื่อคุณข้ามบางคำจากข้อความให้ใช้จุดไข่ปลาแทนการข้ามนั้น ในขณะเดียวกันอย่าลืมว่าจุดไข่ปลาไม่ควรบิดเบือนความหมายของวลีเนื่องจากการละเมิดดังกล่าวถือเป็นข้อผิดพลาดขั้นต้นในการอ้างอิงเช่นนี้ หากไม่มีคำแรกในเครื่องหมายคำพูดจำเป็นต้องใส่จุดไข่ปลาหลังเครื่องหมายคำพูดและเริ่มต้นอัญประกาศด้วยตัวอักษรตัวเล็ก
5. ความหมายดั้งเดิมเป็นเกณฑ์หลักของการอ้างถึง เมื่ออัญประกาศอ้างถึงหัวเรื่องหนึ่งและใช้เพื่ออธิบายอีกเรื่องหนึ่งความหมายที่ผู้เขียนแนบมากับคำพูดจะผิดเพี้ยนไป
6. หากมีการเพิ่มคำพูดลงในข้อความของเรียงความคุณสามารถใช้คำพูดทางอ้อมซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถถ่ายทอดวลีที่ถูกต้องของบุคคลที่ยกมาได้ (เช่นพระเอกของหนังสือ) ตัวอย่างเช่น: "ฉันรู้ถึงความโชคร้ายที่แท้จริงเพียงสองอย่างในชีวิต: ความสำนึกผิดและความเจ็บป่วย" เจ้าชายอังเดรกล่าวกับ Pieru เจ้าชายแอนดรูว์บอกปิแอร์ว่าเขารู้ในชีวิต "มีเพียงสองความโชคร้ายที่แท้จริงคือความสำนึกผิดและความเจ็บป่วย"
7. เป็นที่ยอมรับไม่ได้ที่จะเล่าข้อความกวีด้วยคำพูดของคุณเอง

วิธีการเน้นคำพูดแบบกราฟิก?

1. วิธีพื้นฐานที่สุดคือการใช้เครื่องหมายคำพูด
2. ขนาดตัวอักษรอัญประกาศตัวเอียงหรือเล็กกว่าข้อความเนื้อหา
3. สถานที่แยกต่างหากสำหรับใบเสนอราคาในหน้า (ตรงกลางด้านข้าง)

สร้างจุดเด่นภายในใบเสนอราคา

ไม่ว่าการจัดสรรจะเป็นของผู้เขียนข้อความที่อ้างถึงหรือเป็นความคิดริเริ่มของผู้อ้างถึงข้อกำหนดที่เข้มงวดก็กำหนดไว้เช่นกัน

หากการจัดสรรเป็นของบุคคลที่อ้างถึงก็จะมีการเจรจา ความคิดเห็นอยู่ในวงเล็บ

Epigraph

แยกต่างหากเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การพิจารณาตัวอย่าง - คำพูดที่วางไว้ที่จุดเริ่มต้นของบทความหรือส่วนที่แยกต่างหากเพื่อให้ภาพความหมายจิตวิญญาณของงานหรือการแสดงออกทางความคิดของผู้เขียน คำพูดที่มีไหวพริบที่ใช้เป็นคำอธิบายเรียกว่า "คติพจน์"

ข้อกำหนดสำหรับการออกแบบ epigraph นั้นแตกต่างจากกฎสำหรับการออกแบบเครื่องหมายคำพูดธรรมดาเล็กน้อย:

• อยู่ทางด้านขวาของแผ่นงาน
• วาดขึ้นโดยไม่มีเครื่องหมายคำพูด
• นามสกุลและชื่อย่อของผู้แต่งไม่อยู่ในวงเล็บ
• ไม่มีการหยุดเต็มหลังนามสกุล

ตัวอย่างเช่น:

ใครติดกระดุมผิด

ปุ่มแรก

จะยึดไม่ถูกต้องอีกต่อไป

(โยฮันน์โวล์ฟกังฟอนเกอเธ่)

เกี่ยวกับลิขสิทธิ์

กฎหมายของสหพันธรัฐรัสเซียไม่ได้ห้ามการอ้างถึงทั้งในต้นฉบับและในการแปลโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้เขียนหรือการจ่ายค่าตอบแทน แต่กำหนดให้ระบุชื่อของผู้เขียนงานที่ใช้ในการเสนอราคารวมทั้ง แหล่งที่มาของการกู้ยืม

ดังนั้นเราจึงได้พิจารณากฎที่สำคัญที่สุดสำหรับการอ้างอิง หากต้องการจดจำพวกเขาอย่างรวดเร็วให้อ่านวรรณกรรมเพิ่มเติมที่มีการให้คำพูดจากนั้นคุณจะรู้วิธีการเขียนคำพูดอย่างชัดเจนเพื่อให้ข้อความเหล่านี้ช่วยเสริมข้อความของคุณเองได้อย่างดี โชคดี!

ฉันจำเป็นต้องเขียนเลยหรือฉันสามารถตัดบัญชีได้หรือไม่?

คุณไม่สามารถตัดกระดาษภาคนิพนธ์ได้ คุณสามารถตัดบัญชีได้หากคุณโชคดีและไม่ถูกจับได้ หากหัวหน้างานไม่สนใจว่าคุณจะโกงหรือไม่ผู้ตรวจสอบวิทยานิพนธ์ของคุณสามารถมองเห็นทัศนคติของคุณและให้คะแนนที่ไม่ดีแก่คุณได้

การขโมยความคิดคืออะไร?

จำเป็นต้องเข้าใจว่าการอ้างอิงมีสองประเภท:

1) โดยตรง (การทำสำเนาคำ)

2) ทางอ้อม (การผลิตซ้ำความคิด)

จำเป็นต้องมีลิงก์ไปยังแหล่งที่มาของข้อมูลเสมอ แต่ถ้าอยู่ที่ โดยตรง การอ้างอิงต้องการคำพูดและลิงก์ไปยังแหล่งที่มาพร้อมหมายเลขหน้าจากนั้นเมื่อใด ทางอ้อม การอ้างอิงต้องการเพียงลิงก์ไปยังแหล่งที่มาเท่านั้น (หมายเลขหน้าจะถูกระบุหากไอเดียถูกแปลเป็นภาษาท้องถิ่นในหนึ่งหน้าขึ้นไป)

การลอกเลียนแบบ ถือเป็นการทำซ้ำทั้งคำพูดของคนอื่นและความคิดของคนอื่นโดยไม่มีการเชื่อมโยงที่เหมาะสม อีกประการหนึ่งคือการตรวจจับการขโมยคำพูดของคนอื่นทำได้ง่ายกว่ามาก ตามกฎแล้วคุณสามารถทำได้โดยไม่มีระบบเช่น AntiPlagiat.ru

ความสามารถในการอ้างถึงแหล่งข้อมูลบ่งชี้ว่านักเรียนสามารถแยกแยะได้ ของคุณเองและของคนอื่นและนี่เป็นสิ่งที่สำคัญมากและไม่เพียง แต่จากมุมมองทางจริยธรรมเท่านั้น

จำไว้ว่า: คำพูดและความคิดของคนอื่นทั้งหมดมาพร้อมกับลิงก์บังคับไปยังแหล่งที่มา! หากมีใบเสนอราคาที่ไม่ได้ระบุไว้ในหลักสูตรหรืออนุปริญญางานนั้นจะไม่ได้รับการปกป้อง

ควรเข้าใจว่าการอ้างอิงจำนวนมากในงานของนักเรียนไม่ใช่ข้อเสีย แต่เป็นข้อดี ถ้าคุณพูดถึงนักวิจัยคนอื่น ๆ บ่อยๆครูจะไม่คิดว่าคุณไม่ฉลาดพอที่จะคิดอะไรเป็นของตัวเอง จริงอยู่คุณต้องเข้าใจว่าลิงก์ไปยังแหล่งข้อมูลควรเป็นส่วนหนึ่งของการทบทวนเชิงวิเคราะห์ของแนวคิดที่มีอยู่เกี่ยวกับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของคุณไม่ใช่การเลือกความคิดและคำพังเพยที่ชาญฉลาด

ลิงก์บางส่วนเกี่ยวกับการคัดลอกผลงาน:

1. หมายเหตุเกี่ยวกับทัศนคติต่อการคัดลอกผลงานในมหาวิทยาลัยตะวันตกและในประเทศของเรา
2. เรื่องเตือนเกี่ยวกับการลาออกของประธานาธิบดีฮังการีเนื่องจากการค้นพบการคัดลอกผลงานในวิทยานิพนธ์ของเขา

จะจัดรูปแบบใบเสนอราคาอย่างไรให้ถูกต้อง?

1. โดยทั่วไปคุณต้องป้อนใบเสนอราคา สำหรับสิ่งนี้โครงสร้างเบื้องต้นของประเภท "L.V. Shcherba ตั้งข้อสังเกต "," ตามที่ U. Weinreich แสดง "" ในความเห็นของ J. Lakoff "เป็นต้น ระบุเพศของผู้แต่ง และให้ความสนใจกับลำดับคำ: ชื่อย่อก่อนจากนั้นนามสกุล การอ้างอิงโดยไม่มีชื่อย่อถือเป็นสิ่งที่คุ้นเคยมากเกินไปในประเพณีทางวิชาการของรัสเซีย

เปิดบทความหรือเอกสารทางวิทยาศาสตร์และดูว่าผู้เขียนแนะนำการอ้างอิงอย่างไร หากคุณไม่เห็นด้วยกับคำพูดนี้อย่าลืมเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้มิฉะนั้นผู้อ่านจะไม่รู้เรื่องนี้ ใช่คุณสามารถไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของนักวิทยาศาสตร์ (แม้แต่คนที่มีชื่อเสียงที่สุด) แต่ในกรณีนี้คุณต้องคิดถึงการโต้แย้งของคุณ เขียน“ F. de Saussure พูดถูก” และแม้แต่“ ตามที่ F. de Saussure ระบุไว้อย่างถูกต้อง” ก็ไม่คุ้มค่า

2. หลังจากใบเสนอราคาในวงเล็บเหลี่ยมแหล่งที่มาจะถูกระบุด้วยหน้าตัวอย่างเช่น 1 คือหมายเลขของบทความหนังสือ ฯลฯ ในรายการข้อมูลอ้างอิง

จะจัดรูปแบบการอ้างอิงบรรณานุกรมดิจิทัลโดยอัตโนมัติได้อย่างไร?

หากคุณตัดสินใจที่จะใช้ลิงก์ดิจิทัลคุณไม่จำเป็นต้องวางลิงก์เหล่านี้ด้วยตนเองในช่วงแรกของการทำงานกับข้อความ: เมื่อเพิ่มรายการใหม่ลงในบรรณานุกรมคุณจะต้องทำลิงก์ทั้งหมดในงานซ้ำ การจัดการเชิงกลที่น่าเบื่อเหล่านี้จะต้องทำมากกว่าหนึ่งครั้งในระหว่างการทำงานในภาคนิพนธ์และอนุปริญญา ใน MS Word เป็นไปได้ที่จะทำสิ่งนี้โดยอัตโนมัติโดยใช้การเชื่อมโยงหลายมิติจำนวนที่จะเปลี่ยนไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงหมายเลขลำดับของแหล่งที่อ้างอิงในรายการข้อมูลอ้างอิง ในเวอร์ชัน 2007 เครื่องมือนี้เรียกว่า "Cross-Reference" มาดูวิธีการใช้งานกัน:

1. ทำการกำหนดตำแหน่งโดยอัตโนมัติในบรรณานุกรม (ขอย้ำ: อันดับแรกมาจากอักษรซีริลลิกจากนั้นจึงใช้อักษรละติน) อย่าขี้เกียจในเวลาเดียวกันที่จะใช้การเรียงลำดับอัตโนมัติจาก A ถึง Z

2. ในตำแหน่งที่ต้องการเปิดวงเล็บเหลี่ยมและค้นหารายการ "Cross-Reference" ในเมนู "Links" เลือกพารามิเตอร์ต่อไปนี้ประเภทลิงก์ - ย่อหน้าแทรกลิงก์ไปยัง - หมายเลขย่อหน้าแทรกเป็นไฮเปอร์ลิงก์ - เครื่องหมายถูกสำหรับย่อหน้าใด - หมายเลขแหล่งที่ต้องการในบรรณานุกรม (คลิกที่ตำแหน่งที่ต้องการ) แล้วคลิก "แทรก" .

3. ตอนนี้คุณมีรูปที่จะเปลี่ยนไปตามการเปลี่ยนแปลงในบรรณานุกรมของคุณ หากต้องการอัปเดตหมายเลขอ้างอิงในการบ้านทั้งหมดให้เลือกเอกสารทั้งหมดคลิกขวาและเลือก "ช่องอัปเดต"

คุณยังสามารถอ้างถึงตัวเลขของตารางบทส่วนภาคผนวก ฯลฯ

หากคุณมี Word เวอร์ชันอื่นโปรดดูวิธีใช้เพื่อค้นหาการอ้างอิงโยง

ขนาดใบเสนอราคาสูงสุดคืออะไร?

ไม่มีข้อกำหนดที่ชัดเจนเหมือนกันสำหรับคะแนนนี้ ในความคิดของฉันจำนวนใบเสนอราคาที่เหมาะสมที่สุดในข้อความเช่นภาคนิพนธ์คือ 7-8 บรรทัด ใบเสนอราคาที่มีปริมาณมากขึ้นในภาคนิพนธ์มักไม่ค่อยเกิดจากความต้องการที่แท้จริงโดยปกติแล้วจะเป็นผลมาจากความไม่เต็มใจที่จะกำหนดความคิดด้วยตนเอง คุณสามารถละส่วนของใบเสนอราคาได้หากไม่ทำให้เนื้อหาบิดเบือนซึ่งในกรณีนี้จะถูกใส่แทนใบเสนอราคา

หน้านี้ไม่ควรมีคำพูดถึง 90% คุณต้องเสริมคำพูดของคนอื่นด้วยกลุ่มคำพูดทั่วไปความคิด ฯลฯ ครึ่งหนึ่งของหน้าสามารถนำมาใช้ด้วยเครื่องหมายคำพูดและอีกครึ่งหนึ่งเป็นคำพูดของคุณ (รวมถึงคำพูดทั่วไป)

เป็นไปได้หรือไม่ที่จะอ้างว่าไม่อยู่ในแหล่งข้อมูลต้นฉบับ

อ้างจากมือคนอื่นโดยใช้ลิงก์เช่น "cit. ไม่แนะนำโดย ... "เว้นแต่คุณจะต้องอ้างคำที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับข้อความของคุณจากฉบับที่หายากมาก ในกรณีนี้หลังใบเสนอราคาในวงเล็บเหลี่ยมคำว่า "cit. โดย» + รายการที่เกี่ยวข้องในบรรณานุกรมของคุณ

กฎการเสนอราคา

ข้อกำหนดทั่วไปสำหรับวัสดุที่อ้างถึง

ข้อความที่ยกมาควรจะอ้างอิงในเครื่องหมายคำพูดตรงตามข้อความที่ยกมาในรูปแบบไวยากรณ์ที่ระบุไว้ในแหล่งที่มา

การละเว้นคำประโยควรรคเมื่ออนุญาตให้อ้างอิงได้โดยไม่มีการบิดเบือนและระบุด้วยจุดไข่ปลา

การอ้างอิงควรสมบูรณ์โดยไม่บิดเบือนความคิดของผู้เขียน

ใบเสนอราคาควรเชื่อมโยงกับข้อความอย่างแยกไม่ออกและใช้เป็นหลักฐานและยืนยันบทบัญญัติที่ผู้เขียนเสนอมา

เมื่ออ้างถึงไม่อนุญาตให้รวมข้อความที่นำมาจากที่ต่างๆไว้ในใบเสนอราคาเดียว แต่ละข้อความควรอยู่ในกรอบคำพูดที่แยกจากกัน

เมื่ออ้างอิงการอ้างอิงแต่ละรายการจะต้องมาพร้อมกับการระบุแหล่งที่มา (การอ้างอิงทางบรรณานุกรม)

กฎพื้นฐานสำหรับการออกแบบคำพูด

อ้างเป็นประโยคเดี่ยว (หลังจากช่วงเวลาสิ้นสุดประโยคก่อนหน้า) ต้องขึ้นต้นด้วยอักษรตัวพิมพ์ใหญ่แม้ว่าคำแรกในแหล่งที่มาจะขึ้นต้นด้วยตัวอักษรพิมพ์เล็กก็ตาม

ตัวอย่างเช่น:

ความปรารถนาที่จะเข้าใจกฎแห่งการดำรงอยู่ไม่ได้นำไปสู่การพิจารณาโอกาสในฐานะความเป็นจริงตามวัตถุประสงค์ แต่เป็นการตีความว่าเป็นขั้นตอนเริ่มต้นของการรู้จักวัตถุเนื่องจากความไม่สมบูรณ์ของความรู้ของเรา “ ไม่มีอะไรขัดกับเหตุผลและธรรมชาติไปกว่าโอกาส” (Cicero) (ที่มา: "... ไม่มีอะไร ... ".)

คำพูดที่รวมอยู่ในข้อความหลังคำรอง ( เพื่ออะไรหรือเพราะอะไร ฯลฯ ) อยู่ในเครื่องหมายคำพูดและ เขียนด้วยอักษรตัวพิมพ์เล็กแม้ว่าในแหล่งที่มาจะขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใหญ่: M. Gorky เขียนว่า "ในความเรียบง่ายของคำว่า ... "

ตัวอย่างเช่น:

M. Gorky เขียนว่า "ในความเรียบง่ายของคำคือภูมิปัญญาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด: สุภาษิตและเพลงมักจะสั้นเสมอและจิตใจและความรู้สึกจะถูกใส่ไว้ในหนังสือทั้งเล่ม" (ที่มา: "ในความเรียบง่ายของคำว่า ... ")

เครื่องหมายคำพูดที่อยู่หลังเครื่องหมายจุดคู่เริ่มต้นด้วยอักษรตัวพิมพ์เล็กหากในแหล่งที่มาคำแรกของเครื่องหมายคำพูดขึ้นต้นด้วยอักษรตัวพิมพ์เล็ก (ในกรณีนี้จะต้องวางจุดไข่ปลาไว้ด้านหน้าข้อความที่ยกมา) และด้วยตัวอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ ถ้าในแหล่งที่มาคำแรกของเครื่องหมายคำพูดขึ้นต้นด้วยตัวอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ (ในกรณีนี้คือจุดไข่ปลาก่อนข้อความที่ยกมา)

ตัวอย่างเช่น:

จากมุมมองของความโน้มถ่วงทางประวัติศาสตร์ความชอบทางวัฒนธรรมระบบการวางแนวคุณค่าจากมุมมองของอารยธรรมประเทศรัสเซียเป็นชาติในยุโรป:“ ... เช่นเดียวกับวรรณกรรมรัสเซียที่มีต้นกำเนิดทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียว ของวรรณคดีในยุโรปดังนั้นรัสเซียเองซึ่งมีลักษณะเฉพาะทั้งหมดจึงเป็นหนึ่งในประเทศในยุโรป” (Vladimir Soloviev) (แหล่งที่มา: "... และรัสเซีย ... ".)

เครื่องหมายคำพูดยังคงใช้เครื่องหมายวรรคตอนเช่นเดียวกับแหล่งที่มาที่อ้างถึง

หากไม่ได้อ้างถึงประโยคทั้งหมดให้ใส่ข้อความที่ถูกละไว้ก่อนขึ้นต้นประโยคที่ยกมาหรืออยู่ข้างในหรือใส่จุดไข่ปลาในตอนท้าย เครื่องหมายวรรคตอนก่อนข้อความที่ละไว้จะไม่ถูกเก็บรักษาไว้

ตัวอย่างเช่น:

ความแข็งแกร่งและความสวยงามกลายเป็นจุดจบในตัวมันเองเป็นสิ่งที่ทำลายล้าง พวกเขากลายเป็นศัตรูกับศีลธรรม Vl. Soloviev ให้ความสนใจกับปัญหาด้านนี้:“ พลังและความงามเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่ใช่ในตัวมันเอง ... แต่ถ้าแยกไม่ออกจากความดี ... ” (Vl. Soloviev)

เมื่อประโยคจบลงด้วยเครื่องหมายคำพูดและในตอนท้ายของอัญประกาศจะมีจุดไข่ปลาเครื่องหมายคำถามหรือเครื่องหมายอัศเจรีย์จะไม่มีการใส่เครื่องหมายหลังเครื่องหมายคำพูดหากเครื่องหมายคำพูดเป็นประโยคอิสระ หรือใส่เครื่องหมายหยุดเต็ม (หรือเครื่องหมายที่จำเป็นอื่น ๆ ) หากคำพูดไม่ใช่ประโยคอิสระ (รวมอยู่ในข้อความของข้อเสนอของผู้เขียน)

ตัวอย่างเช่น:

เราสามารถพูดเกี่ยวกับเสรีภาพส่วนบุคคลได้โดยการตระหนักถึงสิทธิในการริเริ่มของแต่ละคนเท่านั้น ด้วยเหตุนี้คำอุทานของ N. Gumilyov จึงมีความสำคัญ: "ฉันไม่ต้องการสับสนกับคนอื่น - และสิ่งนี้ต้องการให้ตัวฉันเองไม่สับสนกับคนอื่น!"

โซเชียลมีเดียแสดงให้เราเห็นอย่างน่าเชื่อว่าผู้คนชื่นชอบคำพูด เรามักจะเห็นพวกเขาในภาพและเราชอบบางอย่างมากจนเราจำได้ บทความบนอินเทอร์เน็ตเป็นอีกเรื่องหนึ่ง คำพูดในตัวพวกเขา - โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำพูดที่สำคัญซึ่งช่วยเปิดเผยสาระสำคัญของบทความนั้นหายาก เหตุใดจึงเกิดขึ้น

จากประสบการณ์ของฉันมีสาเหตุสามประการสำหรับปรากฏการณ์นี้:

• ผู้เขียนเขียนมากและไม่ต้องการรบกวนการเลือกใบเสนอราคา
• บทความมักเขียนตามลำดับและผู้เขียนก็ไม่ทราบหัวข้อเพียงพอที่จะรับคำพูด
• หลีกเลี่ยงเครื่องหมายคำพูดเนื่องจากสามารถลดระดับความเป็นเอกลักษณ์ของข้อความได้

และนี่เป็นปรากฏการณ์ที่น่าเศร้ามากเนื่องจากคำพูดช่วยให้ผู้เขียนสามารถสนับสนุนข้อโต้แย้งและความคิดของเขาด้วยความคิดเห็นของบุคคลที่มีความสำคัญและมีอำนาจมากกว่า คำพูดทำให้ข้อความมีความน่าเชื่อและสดใสมากขึ้นและมักจะกลายเป็นประเด็นสำคัญในบทความ

ฉันพบเคล็ดลับการอ้างอิงที่ดีในหนังสือเล่มนี้

"เขียนอย่างไรให้น่าเชื่อ"

Gerald Graff และ Katie Birkenstein หนังสือเล่มนี้ดีเพราะไม่เพียง แต่ประกอบด้วยทฤษฎีเท่านั้น แต่ยังมีเทมเพลตสำเร็จรูปด้วย (ฉันแบ่งปันทั้งบทให้คุณ:

บทที่ 3 "ตามเขา"

ศิลปะการอ้างอิง

การอ้างอิงทำให้บทวิจารณ์ของคุณมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นและช่วยโน้มน้าวให้ผู้อ่านเห็นว่าการสรุปของคุณมีความซื่อสัตย์และถูกต้อง ดังนั้นในแง่หนึ่งคำพูดจึงเป็นเครื่องสนับสนุนการใช้เหตุผลของคุณโดยบอกผู้อ่านว่า“ ดูสิฉันไม่ได้แต่งขึ้น เธอเองก็พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ - นี่คือคำพูดของเธอ "

อย่างไรก็ตามผู้เขียนหลายคนทำผิดพลาดมากมายเกี่ยวกับการอ้างอิงไม่ใช่อย่างน้อยที่สุดคือจำนวนที่ไม่เพียงพอหรือไม่มีการอ้างอิงโดยสิ้นเชิง บางคนอ้างถึงน้อยเกินไป - อาจเป็นเพราะพวกเขาไม่ต้องการรบกวนตัวเองและหันกลับไปใช้ข้อความต้นฉบับอีกครั้งเพื่อให้ตรงกับคำพูดของผู้เขียนหรือเชื่อว่าพวกเขาสามารถสร้างแนวคิดของเขาขึ้นมาใหม่จากความทรงจำ

ในทางกลับกันข้อความมีการเสนอราคามากเกินไปจนแทบไม่มีที่ว่างสำหรับความคิดเห็นของผู้เขียนเอง เหตุผลอาจเป็นความไม่แน่ใจของผู้เขียนว่าเขาจะสามารถแสดงความคิดเห็นในใบเสนอราคาได้อย่างถูกต้องหรือขาดความเข้าใจในความหมายซึ่งทำให้ไม่สามารถอธิบายคำพูดของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างเพียงพอ

อย่างไรก็ตามปัญหาหลักเกี่ยวกับการอ้างอิงเกิดขึ้นเมื่อผู้เขียนข้อความตัดสินใจว่าคำพูดนั้นสามารถพูดได้ด้วยตัวเอง

จากข้อเท็จจริงที่ว่าความหมายของข้อความที่ยกมานั้นดูชัดเจนสำหรับตัวเขาเองเขาจึงสรุปว่าผู้อ่านจะเข้าใจคำพูดนั้นได้อย่างง่ายดายแม้ว่าในทางปฏิบัติมักจะไม่เป็นเช่นนั้นก็ตาม

ผู้เขียนที่ทำผิดพลาดนี้จะพิจารณาว่างานของพวกเขาเสร็จสิ้นเมื่อพวกเขาเลือกคำพูดที่เหมาะสมและแทรกลงในข้อความ พวกเขาเขียนความคิดของพวกเขาเกี่ยวกับปัญหาฉีดคำพูดเล็กน้อยที่นี่และที่นั่นและ - voila! - บทความพร้อมแล้ว พวกเขาไม่เข้าใจว่าการอ้างอิงเป็นมากกว่าการอ้างถึงสิ่งที่ "พวกเขาพูด"

คำพูดค่อนข้างเหมือนเด็กกำพร้า: เป็นคำที่นำมาจากบริบทเดิมและจำเป็นต้องฝังอยู่ในสภาพแวดล้อมข้อความใหม่

ในบทนี้เราขอแนะนำสองวิธีหลักในการดำเนินการนี้:

1) พิจารณาตัวเลือกของคำพูดอย่างรอบคอบโดยให้ความสนใจอยู่เสมอว่าพวกเขาเน้นย้ำความคิดบางอย่างในข้อความของคุณได้ดีเพียงใด

และ 2) ใส่เครื่องหมายคำพูดที่สำคัญแต่ละคำไว้ในกรอบที่ถูกต้องโดยระบุว่าคำนั้นเป็นของใครความหมายคืออะไรและเกี่ยวข้องกับข้อความของคุณอย่างไร

เราต้องการเน้นย้ำว่าการอ้างอิงสิ่งที่ "พวกเขาพูด" ควรเกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณพูดเสมอ

อ้างข้อความที่เกี่ยวข้อง

ก่อนที่จะเลือกคำพูดที่เหมาะสมทำความเข้าใจกับสิ่งที่คุณวางแผนที่จะบรรลุ นั่นคือวิธีที่พวกเขาสามารถช่วยให้ข้อความของคุณอยู่ในที่นี้หรือที่ที่คุณจะวางไว้

คุณไม่จำเป็นต้องใส่เครื่องหมายคำพูดลงในข้อความเพียงเพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณรู้จักกับผลงานของคนอื่น พวกเขาควรเสริมสร้างความคิดของคุณ

อย่างไรก็ตามการค้นหาคำพูดที่เหมาะสมไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป มันเกิดขึ้นที่คำพูดที่ในตอนแรกดูเหมือนจะเหมาะสำหรับคุณค่อยๆหยุดเป็นเช่นนั้นเมื่อคุณเขียนเสร็จและแก้ไขข้อความ

เนื่องจากกระบวนการเขียนไม่ได้เป็นไปตามสถานการณ์ที่วางแผนไว้ล่วงหน้าเสมอไปบางครั้งคุณพบว่าคำพูดที่ใช้เป็นส่วนสนับสนุนที่สมบูรณ์แบบสำหรับข้อโต้แย้งของคุณในตอนแรกไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป

ดังนั้นการกำหนดวิทยานิพนธ์และการเลือกใบเสนอราคาจึงไม่ได้แยกขั้นตอนการทำงานตามลำดับเสมอไป

ในขณะที่คุณดำดิ่งลงไปในการเขียนทบทวนและทบทวนซ้ำแล้วซ้ำเล่าความสัมพันธ์ระหว่างข้อโต้แย้งของคุณกับคำพูดที่คุณเลือกสามารถเปลี่ยนแปลงได้มากกว่าหนึ่งครั้ง

แก้ไขการอ้างอิงกรอบ

การค้นหาคำพูดที่เหมาะสมเป็นเพียงส่วนหนึ่งของงานของคุณ นอกจากนี้คุณต้องนำเสนอในลักษณะที่ความหมายและความสัมพันธ์กับคำพูดของคุณชัดเจนต่อผู้อ่าน

เนื่องจากคำพูดไม่สามารถอธิบายตัวเองได้คุณต้องสร้างกรอบที่เหมาะสมรอบ ๆ คำพูดเหล่านั้นเพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งที่คุณต้องการ

ใบเสนอราคาที่แทรกลงในข้อความโดยไม่มีกรอบบางครั้งเรียกว่า "ระงับ" ดูเหมือนว่าจะค้างอยู่ในอากาศโดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ

สตีฟเบนตันหนึ่งในนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาที่ช่วยเราทำหนังสือเล่มนี้เรียกใบเสนอราคานี้ว่า "หนีออกจากที่เกิดเหตุ" โดยเปรียบเทียบกับคนขับรถที่ออกจากที่เกิดเหตุโดยไม่ต้องการรับผิดชอบต่อกันชนที่บุบหรือไฟหน้าแตก

นี่คือตัวอย่างของการอ้างอิงดังกล่าว

มันมาจากการทบทวนบทความของซูซานบอร์กโดซ์นักปรัชญาสตรีนิยมที่กังวลเกี่ยวกับแรงกดดันของสื่อที่มีต่อหญิงสาวในการควบคุมอาหารแม้ในภูมิภาคที่โดดเดี่ยวของโลกก่อนหน้านี้เช่นฟิจิ

Susan Bordeaux เขียนเกี่ยวกับผู้หญิงและการอดอาหาร “ ฟิจิเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่ง จนกระทั่งโทรทัศน์มาที่นี่ในปี 2538 ไม่มีกรณีความผิดปกติของการกินบนเกาะนี้เลยแม้แต่กรณีเดียว ในปี 1998 สามปีหลังจากรายการจากสหรัฐอเมริกาและบริเตนใหญ่เริ่มออกอากาศที่นี่ 62% ของผู้หญิงที่ถูกสำรวจบอกว่าพวกเขากำลังลดน้ำหนัก "

ผมคิดว่าบอร์กโดซ์ทำถูกแล้ว นอกจากนี้ยังพูดถึง ... เนื่องจากผู้เขียนข้อความนี้ไม่สามารถแนะนำคำพูดหรืออธิบายได้อย่างเพียงพอว่าทำไมคำเหล่านี้จึงควรค่าแก่การเสนอราคาจึงเป็นเรื่องยากสำหรับผู้อ่านที่จะสร้างมุมมองใหม่ที่บอร์โดซ์สนับสนุน

ผู้เขียนบทวิจารณ์ไม่เพียง แต่ไม่บอกเราว่าบอร์กโดซ์คือใครและเธอเป็นผู้เขียนคำพูดหรือไม่ แต่ไม่ได้อธิบายด้วยว่าคำพูดของเธอเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เขาพูดอย่างไรและในความคิดของเขาเธอเป็นอย่างไร " ถูกต้อง "... เขาเพียงแค่ "วางสาย" คำพูดนั้นรีบไปคิดอย่างอื่น

คำพูดที่มีกรอบถูกต้องมีอยู่ในสิ่งที่เราเรียกว่า "แซนวิชคำพูด": ข้อความที่นำไปสู่ใบเสนอราคาทำหน้าที่เป็นขนมปังชิ้นบนสุดคำอธิบายตามเครื่องหมายคำพูดเป็นด้านล่างและคำพูดนั้นเป็นส่วนเติมเต็ม

ในส่วนของข้อความที่นำหน้าใบเสนอราคาคุณต้องอธิบายว่าผู้เขียนคือใครและเตรียมฐานความหมายไว้ ในส่วนที่อธิบายตามคำพูดคุณต้องแสดงให้ผู้อ่านเห็นว่าเหตุใดมันจึงสำคัญสำหรับคุณและในความคิดของคุณคือความหมายของมัน

เทมเพลตสำหรับใส่เครื่องหมายคำพูดลงในข้อความ

 X ระบุว่า "นักกีฬาไม่ควรห้ามสเตียรอยด์ทั้งหมด"
ตามที่นักปรัชญาชื่อดัง X กล่าวว่า: "____"
ตาม X: "____"
Xเองเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้: "____"
ในหนังสือของเขา ____ X ระบุว่า "____"
ในนิตยสาร Commentary X ขอแสดงความเสียใจกับ "____"
จากมุมมองของ X "____"
Xเห็นด้วยโดยระบุว่า: "____"
Xไม่เห็นด้วยกับสิ่งนี้โดยพูดว่า "____"
Xทำให้คำถามซับซ้อนยิ่งขึ้นเมื่อเขียนว่า "____"

เทมเพลตการชี้แจง

คำแนะนำในการอ้างอิงที่มีประโยชน์ที่สุดจากมุมมองของนักเรียนของเราคือการทำให้เป็นนิสัยในการใช้คำพูดแต่ละคำพร้อมคำอธิบายความหมายโดยใช้เทมเพลตดังตัวอย่างด้านล่าง

ในความเป็นจริง X กำลังเตือนเราว่าวิธีแก้ปัญหาที่เสนอจะทำให้ปัญหาแย่ลงเท่านั้น
กล่าวอีกนัยหนึ่ง X เชื่อว่า ____
โดยการแสดงความคิดเห็น X สนับสนุนให้เรา ____
ใน X นี้เห็นด้วยกับคำพูดเดิมซึ่งอ่านว่า: ____
ความหมายของ X คือ ____
อาร์กิวเมนต์ของ X ลดลงเหลือ ____

เมื่อเสนอคำอธิบายดังกล่าวแก่ผู้อ่านสิ่งสำคัญคือต้องใช้ภาษาที่สะท้อนเจตนารมณ์ของวลีที่ยกมาได้อย่างถูกต้อง

มันเป็นเรื่องที่เหมาะสมมากหากจะเขียนคำพูดเกี่ยวกับฟิจิให้เขียนว่า: "Bordeaux ยืนยัน" หรือ "Bordeaux กล่าว" อย่างไรก็ตามจากข้อเท็จจริงที่ว่าบอร์กโดซ์มีความกังวลอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการแพร่กระจายของอิทธิพลของสื่อในหมู่เกาะห่างไกลเหล่านี้การใช้ภาษาที่สะท้อนความวิตกกังวลของเธอจะแม่นยำกว่ามาก: "บอร์กโดซ์กังวลว่า" หรือ "เธอห่วงใย" หรือ "เธอเตือน . "...

ตัวอย่างเช่นลองพิจารณาวิธีที่ข้อความที่ตัดตอนมาก่อนหน้านี้จากบทวิจารณ์ของบอร์โดซ์สามารถแก้ไขได้โดยใช้เทคนิคเหล่านี้ซูซานบอร์โดซ์นักปรัชญาสตรีนิยมประณามสื่อตะวันตกที่หมกมุ่นอยู่กับการลดน้ำหนักและการรับประทานอาหารของผู้หญิง

ประการแรกเธอกังวลว่าผู้หญิงจำนวนมากขึ้นทั่วโลกเริ่มอยู่ภายใต้อิทธิพลของพวกเขาที่คิดว่าตัวเองอ้วนและต้องการอาหาร

จากตัวอย่างของหมู่เกาะฟิจิเป็นตัวอย่างบอร์กโดซ์ตั้งข้อสังเกตว่า“ จนกระทั่งโทรทัศน์มาที่นี่ในปี 1995 ไม่มีกรณีของความผิดปกติของการกินบนเกาะนี้

ในปี 1998 สามปีหลังจากรายการจากสหรัฐอเมริกาและบริเตนใหญ่เริ่มออกอากาศที่นี่ 62% ของผู้หญิงที่ถูกสำรวจบอกว่าพวกเธอกำลังลดน้ำหนัก” (149–150)

บอร์โดซ์ตั้งข้อสังเกตว่าลัทธิอาหารตะวันตกได้แพร่กระจายไปทั่วโลกไปยังมุมที่ห่างไกลที่สุด เธอกังวลว่าวัฒนธรรมการรับประทานอาหารจะทำให้เราพบได้ทุกที่ สิ่งที่บอร์กโดซ์กำลังพูดถึงก็ทำให้ฉันกังวลเช่นกัน ฉันเห็นด้วยกับเธอเพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ฉันรู้จักไม่ว่าพวกเขาจะมาจากไหนก็กังวลเรื่องน้ำหนักของตัวเองมาก

ในกรอบดังกล่าวคำพูดของบอร์กโดซ์ไม่เพียง แต่จะเข้ากับข้อความของผู้เขียนได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้เขียนตีความสิ่งที่บอร์โดซ์กำลังพูดถึงได้อีกด้วย วลี "นักปรัชญา - สตรีนิยม" และ "บันทึกบอร์กโดซ์" ให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่ผู้อ่านและประโยคต่อท้ายคำพูดจะเชื่อมโยงระหว่างคำพูดของบอร์โดซ์กับข้อความของผู้เขียน

การกล่าวถึง 62% ของเด็กหญิงชาวฟิจิที่กำลังลดน้ำหนักนั้นไม่ได้เป็นเพียงสถิติที่แห้งแล้ง (เช่นเดียวกับกรณีที่กล่าวถึงข้อความที่ไม่ถูกต้องก่อนหน้านี้) และกลายเป็นตัวอย่างเชิงปริมาณว่า "ลัทธิอาหารตะวันตกแพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างไร"

นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ประโยคเหล่านี้จะชี้แจงแนวคิดของบอร์โดซ์ในคำพูดของผู้เขียนทำให้ชัดเจนว่าผู้เขียนใช้คำพูดนี้โดยมีจุดประสงค์เพื่อกำหนดขั้นตอนสำหรับการโต้แย้งของเขาเองและไม่เพิ่มความยาวของ บทความหรือบรรณานุกรม

รวมคนแปลกหน้าและคำพูดของคุณ

ตัวเลือกการกำหนดกรอบการอ้างอิงข้างต้นยังใช้งานได้ดีเนื่องจากสื่อถึงคำพูดของบอร์โดซ์ได้อย่างถูกต้องและในขณะเดียวกันก็ให้คำเหล่านี้ฟังดูที่ผู้เขียนข้อความต้องการ สังเกตว่าในข้อความนี้ผู้เขียนย้อนกลับไปสู่แนวคิดพื้นฐานของการอดอาหารหลายครั้งในขณะที่เขายังคงใช้ธีม "โทรทัศน์" ของบอร์โดซ์และ "การส่งสัญญาณ" ของอเมริกาและอังกฤษโดยใช้คำว่า "ลัทธิ" และกำหนดลัทธินี้ต่อไปว่า " ตะวันตก."

แทนที่จะพูดซ้ำสิ่งที่บอร์โดซ์พูดคำต่อคำประโยคต่อจากคำพูดนั้นสื่อถึงคำพูดของเธออย่างเพียงพอ แต่ในขณะเดียวกันก็เปลี่ยนการสนทนาไปในทิศทางที่ผู้เขียนต้องการ ด้วยเหตุนี้การจัดกรอบคำพูดจึงทำให้เกิดการผสมผสานระหว่างคำพูดของบอร์โดซ์กับคำพูดของผู้แต่งได้อย่างประสบความสำเร็จ

การวิเคราะห์ใบเสนอราคามากเกินไปหรือไม่?

คุณสามารถหักโหมเมื่อชี้แจงคำพูดได้หรือไม่? แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ามีคำอธิบายเพียงพอ? ท้ายที่สุดแล้วเครื่องหมายคำพูดทั้งหมดไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายในจำนวนที่เท่ากันและไม่มีกฎใด ๆ ที่กำหนดขึ้นครั้งเดียวและทุกข้อเพื่อกำหนดสิ่งนี้

โดยทั่วไปเราสามารถพูดได้ว่าคำอธิบายส่วนใหญ่ต้องการคำพูดที่อาจเข้าใจยาก - ยาวและซับซ้อนมีรายละเอียดหรือศัพท์เฉพาะมากมายที่มีปัญหาที่มองไม่เห็นในแวบแรก

แม้ว่าสถานที่และขอบเขตของคำอธิบายมักจะกำหนดโดยสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจง แต่เราสามารถให้คำแนะนำทั่วไปได้หนึ่งข้อ: หากคุณสงสัยว่าควรอธิบายหรือไม่ให้อธิบาย

ดีกว่าที่จะรับความเสี่ยงและอธิบายความหมายของคำพูดอย่างละเอียดถี่ถ้วนมากกว่าที่จะ "แขวน" ไว้ทำให้ผู้อ่านไม่เชื่อ

แม้ว่าคุณจะรู้ว่าผู้ชมของคุณคุ้นเคยกับงานเขียนของบุคคลที่คุณอ้างถึงและสามารถตีความคำพูดของพวกเขาได้ แต่ก็ยังดีกว่าที่จะระบุรูปแบบคำอธิบายที่สมบูรณ์สำหรับคำพูดนั้น

แม้ในกรณีเช่นนี้ผู้อ่านจำเป็นต้องรู้ว่าคุณเข้าใจคำพูดอย่างไรเพราะคำพูด - โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นของตัวเลขที่คลุมเครือ - สามารถตีความได้หลายวิธีและใช้เพื่อสนับสนุนความคิดเห็นที่แตกต่างกันบางครั้งก็ตรงกันข้าม

ผู้อ่านของคุณต้องดูว่าคุณกำลังทำอะไรกับเนื้อหาที่คุณอ้างถึง - เพียงเพื่อให้แน่ใจว่าคุณและพวกเขาอ่านสิ่งเดียวกัน

วิธีไม่ใส่เครื่องหมายคำพูด

เราต้องการจบบทนี้ด้วยภาพรวมของตัวเลือกที่ไม่ถูกต้องในการป้อนใบเสนอราคาลงในข้อความ อย่านำคำพูดที่มีวลีเช่น "Orwell เสนอแนวคิดเกี่ยวกับ ... " หรือ "คำพูดที่ยืมมาจากเช็คสเปียร์กล่าวว่า ... " แม้ว่าผู้เขียนบางคนจะทำเช่นนี้ก็ตาม

วลีเกริ่นนำดังกล่าวซ้ำซ้อนและสับสน ในตัวอย่างแรกคุณสามารถเขียนว่า: "Orwell แนะนำ ... " หรือ "แนวคิดของ Orwell คือ ... " แทนที่จะรวมทั้งสองตัวเลือกเข้าด้วยกันซึ่งจะเป็นการโอเวอร์คิลที่ชัดเจน

ตัวอย่างที่สองทำให้ผู้อ่านสับสนเนื่องจากการอ้างอิงนั้นทำโดยผู้แต่งไม่ใช่เชกสเปียร์ (วลี "คำพูดที่ยืมมาจากเช็คสเปียร์" เปิดให้มีความคลาดเคลื่อนได้) เทมเพลตในหนังสือเล่มนี้สามารถช่วยคุณหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านี้ได้

เมื่อคุณเชี่ยวชาญในการใช้เทมเพลตเช่น "X-say" หรือ "X-speak" แล้วคุณอาจจะไม่ได้คิดเรื่องนี้ด้วยซ้ำโดยมุ่งเน้นไปที่แนวคิดที่น่าสนใจซึ่งสามารถสร้างรูปร่างได้โดยใช้เทมเพลต

การออกกำลังกาย

1. ค้นหางานตีพิมพ์ที่อ้างอิงสิ่งที่ "พวกเขาพูด" ผู้เขียนฝังคำพูดในข้อความอย่างไร? เขาแนะนำคำพูดเหล่านี้อย่างไรและเขาพูดว่าอย่างไร (ถ้าเขาพูดเลย) เพื่ออธิบายและเชื่อมโยงกับข้อความของเขาเอง จากสิ่งที่คุณอ่านในบทนี้คุณสามารถแนะนำการปรับปรุงใด ๆ ได้หรือไม่?
2. วิเคราะห์งานเขียนของคุณในหัวข้อหนึ่ง ๆ คุณได้อ้างแหล่งที่มาหรือไม่? ถ้าเป็นเช่นนั้นคุณฝังเครื่องหมายคำพูดลงในข้อความได้อย่างไร? ผู้อ่านถูกพามาหาพวกเขาอย่างไร? ความหมายของพวกเขาอธิบายอย่างไร? คุณบ่งบอกความสัมพันธ์กับข้อความของคุณอย่างไร? หากคุณยังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ให้แก้ไขข้อความของคุณโดยใช้เทมเพลตสำหรับป้อนคำพูดในข้อความและชี้แจงเครื่องหมายคำพูด หากคุณไม่เคยใช้คำพูดในการเขียนลองแก้ไขผลงานของคุณโดยเพิ่มคำพูด

ในภาษารัสเซียหนังสือ "เขียนอย่างไรให้น่าเชื่อถือ" จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ "Alpina"

เพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อนี้