พระเจ้าประทานความเข้มแข็งที่จะยอมรับสิ่งที่ คำอธิษฐานของผู้อาวุโสที่เคารพนับถือและบิดาของ Optina
เพื่อคำถามพระเจ้า! ให้ความเข้มแข็งกับฉันที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ให้ฉันอดทนที่จะยอมรับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้และให้ความคิดที่ผู้เขียนกำหนด คอเคซัส คำตอบที่ดีที่สุดคือ เวอร์ชันเต็ม (มีการแสดงภาษารัสเซียหลายแบบพร้อมการออกแบบวากยสัมพันธ์ที่แตกต่างกัน แต่ความหมายเหมือนกัน):
การสวดมนต์เพื่อความสบายใจ (การสวดมนต์อย่างสงบ)
พระเจ้ารับและยอมรับอิสรภาพของฉันความทรงจำความเข้าใจและความตั้งใจของฉันทุกอย่างที่ฉันเป็นและที่ฉันมีคุณมอบให้ฉัน
พระเจ้าโปรดให้ฉันอดทนที่จะยอมรับในสิ่งที่ฉันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ให้พลังแก่ฉันที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นไปได้และให้สติปัญญาแก่ฉันในการเรียนรู้ที่จะแยกแยะสิ่งแรกกับสิ่งที่สอง
การมีชีวิตอยู่ทุกวันมีความสุขทุกช่วงเวลายอมรับความยากลำบากเป็นหนทางสู่สันติสุขมองเหมือนพระเยซูในโลกแห่งบาปนี้อย่างที่เป็นอยู่ไม่ใช่อย่างที่ฉันอยากเห็น
เชื่อเถอะว่าคุณจะจัดการทุกอย่างให้ดีขึ้นถ้าฉันยอมรับน้ำพระทัยของคุณเพื่อที่ฉันจะได้มีความสุขมากพอในชีวิตนี้และมีความสุขอย่างไม่น่าเชื่อกับคุณในชีวิตที่จะมาถึง
แม้ว่านักศาสนศาสตร์ดร. Rheinhold Niebur จะเชื่อว่าเป็นผู้ประพันธ์คำอธิษฐานซึ่งอ้างว่าได้เขียนเป็นบทสรุปของคำเทศนาของเขาในราวปี 1930 แต่ก็มีคำแนะนำมากมายที่เขียนไว้ก่อนหน้านี้มาก
คำตอบจาก 22 คำตอบ[กูรู]
เฮ้! นี่คือหัวข้อที่เลือกพร้อมคำตอบสำหรับคำถามของคุณ: พระเจ้า! ขอความเข้มแข็งเพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้อดทนยอมรับในสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้และให้เหตุผลแก่ฉัน
คำตอบจาก นักรบแห่งแสง[กูรู]
ขอบคุณ แต่จากฉันนี่ไม่ใช่คำอธิษฐาน แต่เป็นความปรารถนา:
ชีวิตนั้นสั้น !! !
แหกกฎ !! !
ลาเร็ว !! !
หัวเราะงอหาย !! !
จูบช้าๆ !! !
เต้นแบบไม่มีใครดู !! !
ร้องแบบไม่มีใครได้ยิน !! !
รักราวกับไม่มีใครทำร้ายเธอ !! !
ท้ายที่สุดชีวิตมอบให้คน ๆ หนึ่งครั้งเดียว !! !
และคุณต้องใช้ชีวิตเพื่อให้มีอยู่เหนือ
พวกเขาบ้าและพูดว่า ...
OU-KA ทำซ้ำ !! !
คำตอบจาก เซิร์ก[กูรู]
ยืมมาจาก Srashila))
คำตอบจาก ลักษณะเฉพาะ[กูรู]
เพื่อใช้เส้นทางแห่งความจริง
คำตอบจาก ภูมิปัญญา[กูรู]
นี่คือสิ่งที่ต้องเปิดใจ!
คำตอบจาก อาลีบาบา[กูรู]
สาธุ
คำตอบจาก Kolorashechka[กูรู]
ฉันขอให้คุณกอดความรักการให้อภัยและความอ่อนโยน))
คำตอบจาก เฮเลนา[กูรู]
ใช่
คำตอบจาก วลาดิเมียร์บิราเชวิช[กูรู]
แนวคิดนี้น่าสนใจและไม่สูญเสียพลังจากการใช้งานหลาย ๆ ครั้ง อย่างไรก็ตามเหตุใดคุณจึงตอบคำอุทธรณ์ของคุณได้อย่างแม่นยำผ่าน "คำถามและคำตอบ" ในขณะที่พระเจ้าทรงอยู่ใน "Odnoklassniki" "Small World" "Among Friends" หรือแหล่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน
คำตอบจาก เฮเลนา[กูรู]
คำเป็นที่เลื่องลือ คุณสามารถพูดได้ว่าพ่ายแพ้ แต่มันยากมากที่จะติดตามพวกเขา
และยังมี "คำอธิษฐานของแม่" โดย E. Shustryakova
โอ้พระเจ้าเส้นทางโลกสั้นเพียงใด ...
สายลมพยายามพัดเทียนของฉัน ...
คุณสามารถรักษาโรคใด ๆ
ยกโทษให้ฉันและยอมรับการกลับใจ
มีเพียงคุณเท่านั้นที่รู้ว่าจะรักได้อย่างไร
และเข้าใจความทุกข์ทางร่างกาย.
คุณเดินจากรางหญ้าไปที่ไม้กางเขน
พระเจ้าในรูปแบบของมนุษย์ ...
ความเมตตาของคุณเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเข้าใจได้
คุณเป็นและเป็นอยู่และเป็นนิรันดร์เสมอ!
ให้ลูกของฉันอยู่ท่ามกลางความทุกข์ยาก
อย่าปล่อยให้การคุกคามของการต่อสู้มรรตัย!
และฉันเชื่อว่ามันจะช่วยพวกเขาจากความชั่วร้าย
น้ำตาของฉันชะล้างคำอธิษฐาน ...
โอ้พระเจ้าเส้นทางของโลกนั้นสั้นแค่ไหน!
ลมมีแนวโน้มที่จะพัดเทียนของฉันออก
ฉันขอให้คุณอย่าส่งความตายมาให้ฉัน
ตราบใดที่เด็ก ๆ ต้องการฉัน
คำตอบจาก Alexander Volkov[กูรู]
จะไม่ให้. ไม่มีอะไร คุณทำงานเพื่อฝูงชน
และปัญญาในการแยกแยะความแตกต่างจากอีกคนหนึ่ง (สวดมนต์เพื่อความสบายใจ)
พระเจ้าโปรดให้เหตุผลและความสบายใจแก่ฉันที่จะยอมรับสิ่งที่ฉันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันทำได้และสติปัญญาในการแยกแยะสิ่งหนึ่งจากคำอื่น - คำแรกของคำอธิษฐานเพื่อความสบายใจ
ผู้เขียนคำอธิษฐานนี้ Karl Paul Reinhold Niebuhr (1892-1971) เป็นนักเทววิทยาชาวอเมริกันเชื้อสายโปรเตสแตนต์ที่มีต้นกำเนิดจากเยอรมัน ตามรายงานบางฉบับแหล่งที่มาของสำนวนนี้คือคำพูดของนักเทววิทยาชาวเยอรมันคาร์ลฟรีดริชเอทิงเกอร์ (ค.ศ. 1702-1782)
Reinhold Niebuhr บันทึกคำอธิษฐานนี้เป็นครั้งแรกสำหรับการเทศนาปี 1934 คำอธิษฐานดังกล่าวเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางตั้งแต่ปี พ.ศ. 2484 เมื่อใช้ในการประชุมของผู้ไม่ประสงค์ออกนามและในไม่ช้าคำอธิษฐานนี้ก็รวมอยู่ในโปรแกรม "สิบสองก้าว" ซึ่งใช้ในการรักษาโรคพิษสุราเรื้อรังและการติดยา
ในปีพ. ศ. 2487 คำอธิษฐานนี้รวมอยู่ในหนังสือสวดมนต์สำหรับนักบวชในกองทัพ วลีแรกของคำอธิษฐานแขวนไว้ที่โต๊ะทำงานของประธานาธิบดีจอห์นฟิตซ์เจอรัลด์เคนเนดีแห่งสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2460-2506)
พระเจ้าให้เหตุผลและความสบายใจแก่ฉัน
ยอมรับสิ่งที่ฉันเปลี่ยนแปลงไม่ได้
ความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันทำได้
และภูมิปัญญาในการแยกแยะสิ่งหนึ่งจากอีกสิ่งหนึ่ง
ใช้ชีวิตทุกวันด้วยการอุทิศตนอย่างเต็มที่
ชื่นชมยินดีในทุกช่วงเวลา
ใช้ความยากลำบากเป็นเส้นทางนำไปสู่สันติภาพ
รับเช่นเดียวกับที่พระเยซูทรงรับ
โลกแห่งบาปนี้มันคืออะไร
ไม่ใช่วิธีที่ฉันอยากจะเจอเขา
เชื่อว่าคุณจะจัดการทุกอย่างอย่างดีที่สุด
ถ้าฉันหันไปตามความประสงค์ของคุณ:
ฉันจะได้รับความสุขในชีวิตนี้ภายในขอบเขตที่สมเหตุสมผล
และมีความสุขกับคุณตลอดไปและตลอดไป - ในชีวิตที่จะมาถึง
เนื้อหาทั้งหมดของคำอธิษฐานเป็นภาษาอังกฤษ:
พระเจ้าโปรดประทานพระคุณที่จะยอมรับด้วยความสงบ
สิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ
ที่ควรเปลี่ยนแปลง
และภูมิปัญญาในการแยกแยะ
อีกอันหนึ่ง
ใช้ชีวิตวันละครั้ง
เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาหนึ่ง
ยอมรับความยากลำบากเป็นหนทางสู่สันติภาพ
รับตามที่พระเยซูทรงทำ
โลกแห่งบาปนี้มันเป็น
ไม่ใช่อย่างที่ฉันต้องการ
เชื่อมั่นว่าคุณจะทำทุกสิ่งให้ถูกต้อง
ถ้าฉันยอมจำนนต่อความประสงค์ของคุณ
เพื่อที่ฉันจะมีความสุขตามสมควรในชีวิตนี้
และมีความสุขอย่างยิ่งกับคุณตลอดไปในชาติหน้า
Imasheva Alexandra Grigorievna
นักจิตวิทยาที่ปรึกษา
พลังแห่งการรักษาของคำอธิษฐาน
ผู้ศรัทธาตระหนักดีถึงความจริงที่ว่าการสวดมนต์ทำให้เกิดกำลังใจ ดังที่พวกเขาพูดกันในภาษาสมัยใหม่ว่า "ปรับปรุงคุณภาพชีวิต" การศึกษาทางวิทยาศาสตร์จำนวนมาก (ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญทั้งคริสเตียนและผู้ไม่เชื่อในพระเจ้า) แสดงให้เห็นว่าคนที่สวดอ้อนวอนเป็นประจำและมีสมาธิรู้สึกดีขึ้นทั้งทางร่างกายและจิตใจการอธิษฐานคือการสนทนาของเรากับพระเจ้า หากการสื่อสารกับเพื่อนและคนที่คุณรักมีความสำคัญต่อความเป็นอยู่ของเราการสื่อสารกับพระเจ้าซึ่งเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดและรักที่สุดของเรานั้นสำคัญกว่าเป็นล้นพ้น ท้ายที่สุดความรักที่พระองค์มีต่อเรานั้นไม่ จำกัด อย่างแท้จริง
การอธิษฐานช่วยให้เราจัดการกับความรู้สึกเหงา ในความเป็นจริงพระเจ้าอยู่กับเราเสมอ (พระคัมภีร์กล่าวว่า: "เราอยู่กับคุณตลอดวันจนสิ้นยุค") นั่นคือเราไม่เคยอยู่คนเดียวโดยไม่มีพระองค์ แต่เรามักจะลืมเกี่ยวกับการทรงสถิตของพระเจ้าในชีวิตของเรา การอธิษฐานช่วยให้เรา "นำพระเจ้ามาสู่บ้านของเรา" มันเชื่อมโยงเรากับพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพที่รักเราและต้องการช่วยเรา
คำอธิษฐานที่เราขอบคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งที่พระองค์ส่งมาช่วยให้เรามองเห็นสิ่งดีๆรอบตัวพัฒนาชีวิตในแง่ดีและเอาชนะความท้อแท้ เธอพัฒนาทัศนคติที่รู้สึกขอบคุณต่อชีวิตตรงข้ามกับทัศนคติที่เรียกร้องและไม่พอใจชั่วนิรันดร์ซึ่งเป็นรากฐานของความไม่มีความสุขของเรา
การอธิษฐานซึ่งเราบอกพระเจ้าเกี่ยวกับความต้องการของเราก็มีหน้าที่สำคัญเช่นกัน ในการบอกพระเจ้าเกี่ยวกับปัญหาของเราเราต้องแยกพวกเขาออกไปจัดการและก่อนอื่นยอมรับกับตัวเองว่ามีอยู่จริง ท้ายที่สุดเราทำได้เพียงสวดอ้อนวอนให้ปัญหาเหล่านั้นที่เรารับรู้ว่ามีอยู่
การปฏิเสธปัญหาของตัวเอง (หรือเปลี่ยน "จากอาการเจ็บหัวไปสู่ปัญหาสุขภาพดี") เป็นวิธี "จัดการ" กับความยากลำบากที่แพร่หลายมาก (และไม่ได้ผล) ตัวอย่างเช่นคนที่ติดเหล้ามักปฏิเสธเสมอว่าการเมาสุรากลายเป็นปัญหาสำคัญในชีวิตของเขา เขาบอกว่า:“ ไม่มีอะไรฉันหยุดดื่มได้ทุกเมื่อ ใช่และฉันดื่มไม่มากไปกว่าคนอื่น ๆ "(ตามที่คนขี้เมาพูดในบทประพันธ์ยอดนิยม" ฉันดื่มแค่นิดหน่อย ") ปัญหาร้ายแรงน้อยกว่าการเมาสุราก็ถูกปฏิเสธเช่นกัน คุณสามารถพบตัวอย่างมากมายของการปฏิเสธปัญหาในชีวิตของเพื่อนและญาติของคุณและแม้แต่ในชีวิตของคุณเอง
เมื่อเรานำปัญหาไปบอกพระเจ้าเราถูกบังคับให้ยอมรับเพื่อที่จะเล่าเรื่องนี้ และการตระหนักและกำหนดปัญหาเป็นขั้นตอนแรกในการแก้ไขปัญหา ยังเป็นการก้าวไปสู่ความจริงอีกด้วย การอธิษฐานทำให้เรามีความหวังและสบายใจ เรารับทราบปัญหาและ "มอบ" ให้พระเจ้า
ระหว่างการสวดอ้อนวอนเราแสดงให้พระเจ้าเห็น "ฉัน" ของเราเองซึ่งเป็นบุคลิกของเราตามที่เป็นอยู่ ต่อหน้าคนอื่นเราอาจพยายามแสร้งทำเป็นดูดีขึ้นหรืออย่างอื่น; ต่อหน้าพระเจ้าเราไม่จำเป็นต้องประพฤติเช่นนี้เพราะพระองค์ทรงเห็นถูกต้องผ่านเรา Pretense ไม่มีประโยชน์อย่างยิ่งที่นี่: เราเข้าสู่การสื่อสารแบบเปิดกว้างกับพระเจ้าในฐานะบุคคลที่ไม่เหมือนใครไม่เหมือนใครทิ้งกลอุบายและอนุสัญญาทั้งหมดและเปิดเผยตัวเอง ที่นี่เราสามารถปล่อยให้ตัวเอง "หรูหรา" เป็นตัวของตัวเองอย่างสมบูรณ์และด้วยเหตุนี้จึงให้โอกาสตัวเองสำหรับการเติบโตทางจิตวิญญาณและส่วนบุคคล
การสวดมนต์ทำให้เรามีความมั่นใจนำมาซึ่งความเป็นอยู่ที่ดีความรู้สึกเข้มแข็งขจัดความกลัวช่วยรับมือกับความตื่นตระหนกและเศร้าโศกและสนับสนุนเราในความเศร้าโศก
Anthony Surozhsky เชิญชวนผู้เริ่มต้นสวดมนต์ด้วยคำอธิษฐานสั้น ๆ ต่อไปนี้ (สำหรับแต่ละสัปดาห์):
พระเจ้าช่วยฉันปลดปล่อยตัวเองจากภาพลักษณ์จอมปลอมของคุณไม่ว่าจะมีค่าใช้จ่ายเท่าไร
พระเจ้าช่วยฉันทิ้งความกังวลทั้งหมดของฉันและมุ่งความคิดทั้งหมดไปที่คุณคนเดียว
พระเจ้าช่วยฉันให้เห็นบาปของฉันเองอย่ากล่าวโทษเพื่อนบ้านของฉันและขอให้สง่าราศีทั้งหมดมีแด่คุณ!
ฉันมอบวิญญาณของฉันไว้ในมือของเจ้า ไม่ใช่ของฉันจะทำ แต่เป็นของคุณ
คำอธิษฐานของผู้อาวุโสที่เคารพนับถือและบรรพบุรุษของ Optina
พระเจ้าขอให้ฉันพบกับทุกสิ่งที่จะมอบให้ในวันนี้ด้วยความสบายใจ
พระเจ้าขอให้ฉันยอมจำนนต่อความประสงค์ของคุณโดยสิ้นเชิง
พระเจ้าสำหรับทุก ๆ ชั่วโมงของวันนี้สั่งและสนับสนุนฉันในทุกสิ่ง
พระเจ้าโปรดเปิดเผยให้ฉันเห็นความประสงค์ของคุณสำหรับฉันและคนรอบข้างคุณ
ไม่ว่าฉันจะได้รับข่าวสารอะไรในระหว่างวันขอให้ฉันรับพวกเขาด้วยจิตวิญญาณที่สงบและด้วยความเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่าทุกสิ่งเป็นความประสงค์อันบริสุทธิ์ของคุณ
พระเจ้าผู้ทรงเมตตายิ่งในการกระทำและคำพูดทั้งหมดของฉันนำทางความคิดและความรู้สึกของฉันในสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงทั้งหมดอย่าให้ฉันลืมว่าทุกสิ่งถูกส่งลงมาโดยคุณ
ข้า แต่พระเจ้าขอให้ฉันปฏิบัติกับเพื่อนบ้านแต่ละคนอย่างมีเหตุมีผลไม่ทำให้ใครขุ่นเคืองหรือทำให้อับอาย
ข้า แต่พระเจ้าขอให้ข้ามีความเข้มแข็งที่จะอดทนต่อความเหนื่อยล้าในวันนี้และเหตุการณ์ทั้งหมดในช่วงนั้น นำทางเจตจำนงของฉันและสอนฉันให้สวดอ้อนวอนและรักทุกคนอย่างไม่ใส่ใจ
คำอธิษฐานทุกวันของ ST. FILARET
พระเจ้าฉันไม่รู้จะถามอะไรจากคุณ คุณคนเดียวที่รู้ว่าฉันต้องการอะไร คุณรักฉันมากกว่าที่ฉันรู้วิธีรักตัวเอง ให้ฉันเห็นความต้องการของฉันที่ซ่อนอยู่จากฉัน ฉันไม่กล้าที่จะขอข้ามหรือปลอบใจฉันปรากฏตัวต่อหน้าคุณเท่านั้น หัวใจของฉันเปิดรับคุณ ฉันวางความหวังทั้งหมดดูความต้องการที่ฉันไม่รู้เห็นและทำกับฉันตามความเมตตาของคุณ บดขยี้และยกฉัน ตีและรักษาฉัน ฉันเคารพและนิ่งเงียบต่อหน้าพระประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์ของคุณซึ่งไม่สามารถเข้าใจได้สำหรับฉันชะตากรรมของคุณ ฉันไม่มีความปรารถนาใด ๆ นอกจากความปรารถนาที่จะทำตามความประสงค์ของคุณ สอนฉันให้สวดมนต์ อธิษฐานในตัวฉันเอง สาธุ.
สวดมนต์เพื่อความสบายใจ
พระเจ้าโปรดให้เหตุผลและความสบายใจแก่ฉันที่จะยอมรับสิ่งที่ฉันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันทำได้และสติปัญญาในการแยกแยะสิ่งหนึ่งจากอีกสิ่งหนึ่ง
คำอธิษฐานฉบับสมบูรณ์นี้:
ช่วยฉันด้วยความถ่อมใจยอมรับสิ่งที่ฉันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
ขอให้ฉันกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ทำได้
และภูมิปัญญาที่จะบอกคนอื่นจากคนอื่น
ช่วยฉันอยู่กับความกังวลของวันนี้
ชื่นชมยินดีทุกนาทีโดยตระหนักถึงความไม่จีรังยั่งยืน
ในความทุกข์ยากให้มองเห็นเส้นทางที่นำไปสู่ความสงบใจและสันติ
ที่จะยอมรับเช่นเดียวกับพระเยซูโลกแห่งบาปนี้เป็น
เขาเป็นไม่ใช่แบบที่ฉันอยากเจอ
เชื่อว่าชีวิตของฉันจะเปลี่ยนไปเพื่อความดีตามความประสงค์ของคุณถ้าฉันมอบความไว้วางใจให้กับเธอ
ด้วยวิธีนี้ฉันจะพบว่าอยู่กับคุณในชั่วนิรันดร์
สวดมนต์เพื่อความสบายใจ
"ข้า แต่พระเจ้าขอให้เหตุผลและความสบายใจแก่ฉันที่จะยอมรับสิ่งที่ฉันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันทำได้และสติปัญญาในการแยกแยะสิ่งหนึ่งจากอีกสิ่งหนึ่ง"
คำอธิษฐานฉบับสมบูรณ์นี้:
ช่วยฉันด้วยความถ่อมใจยอมรับสิ่งที่ฉันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
ขอให้ฉันกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ทำได้
และภูมิปัญญาที่จะบอกคนอื่นจากคนอื่น
ช่วยฉันอยู่กับความกังวลของวันนี้
ชื่นชมยินดีทุกนาทีโดยตระหนักถึงความไม่จีรังยั่งยืน
ในความทุกข์ยากให้มองเห็นเส้นทางที่นำไปสู่ความสงบใจและสันติ
เพื่อยอมรับโลกที่ชั่วร้ายนี้อย่างที่เป็นอยู่
และไม่ใช่วิธีที่ฉันอยากจะเจอเขา
เชื่อว่าชีวิตของฉันจะเปลี่ยนไปตามความประสงค์ของพระองค์
ถ้าฉันหันไปหาเธอ
และด้วยสิ่งนี้ฉันจะพบว่าอยู่กับคุณในชั่วนิรันดร์ "
หัวข้อบทความ:
ห้ามคัดลอกเอกสารโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร
พระเจ้า! บอกเหตุผลกับฉัน.
พระเจ้าให้เหตุผลและความสบายใจแก่ฉัน
ยอมรับสิ่งที่ฉันเปลี่ยนแปลงไม่ได้
ความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันทำได้
และภูมิปัญญาในการแยกแยะสิ่งหนึ่งจากอีกคน!
ยอมรับในสิ่งที่ฉันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
ความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันทำได้
และปัญญาที่จะรู้ความแตกต่าง
ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษไม่มีคำว่า "จะเสร็จแล้วไม่ใช่ของฉัน" ดังนั้นคุณสามารถออกเสียงได้ตามดุลยพินิจของคุณ
ด้วยการออกเสียงคำนี้ฉันรับรู้ถึงการมีอยู่ของพลังที่สูงขึ้นซึ่งมีความสามารถที่เหนือกว่าฉันอย่างหาที่เปรียบมิได้
คำนี้มีการยอมรับว่าพลังที่สูงกว่าสามารถมอบและนำบางสิ่งมาให้ฉันและคนอื่น ๆ ได้
ฉันกำลังขอตัวเอง พระคัมภีร์กล่าวว่าหากคุณถามด้วยความจริงใจคุณจะได้รับ ไม่มีข้อผิดพลาดในการขอให้ปรับปรุงคุณภาพภายในของคุณ ถ้านิสัยของฉันดีขึ้นตัวฉันเองและคนรอบข้างก็จะมีความสุขมากขึ้นและความสัมพันธ์ของฉันกับโลกก็จะดีขึ้นด้วย
ฉันขอความสงบความยับยั้งชั่งใจและความสงบในชีวิตของฉันเพื่อที่ฉันจะได้ก้าวข้ามขอบเขตของตัวเองมีเหตุผลอย่างถูกต้องและจัดการการกระทำของฉันในทางที่ถูกต้อง
ฉันยอมรับเงื่อนไขที่มีอยู่ในชีวิตของฉันตอนนี้ ฉันอาศัยอยู่ในปัจจุบันฉันอาศัยอยู่ที่นี่ในสถานที่แห่งนี้และในช่วงเวลานี้โดยเฉพาะ
ฉันตระหนักดีว่าโศกนาฏกรรมความตายความทุกข์ความเจ็บป่วยและความเจ็บปวดเป็นส่วนประกอบของชีวิตฉันเป็นส่วนที่ไม่เลวร้ายหรือดีเหมือนองค์ประกอบใด ๆ ฉันยอมรับข้อ จำกัด และความเข้าใจผิดของฉัน ฉันยอมรับของฉันมากเพราะมันตกอยู่กับฉัน จนกว่าฉันจะกล้าที่จะเปลี่ยนส่วนของชีวิตที่ฉันไม่ชอบฉันต้องยอมรับมันโดยไม่มีความไม่พอใจใด ๆ
ฉันไม่สามารถป้องกันเหตุการณ์เหล่านี้หรือ
เงื่อนไขที่จะทำให้เกิดขึ้นกับฉันหรือกับคนอื่น ๆ
คุณภาพที่จะทำให้ฉันทำได้โดยปราศจากแอลกอฮอล์และยาเสพติดเมื่อต้องเผชิญกับปัญหาและความเป็นจริงของชีวิต ความตั้งใจแน่วแน่ที่จะคงอยู่“ โดยไม่ต้องจิบเพียงครั้งเดียวต้องเผชิญกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่ทำให้ฉันเมา ความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณของฉันซึ่งทำให้ฉันสามารถทนต่อการชนกับสิ่งกีดขวางได้ ความไม่กลัวในการแสวงหาศรัทธาความถ่อมตัวและความซื่อสัตย์
ในการเผชิญหน้ากับแง่ลบในชีวิตซึ่งฉันประเมินโดยตรงและเป็นกลางฉันขอให้ตัวฉันเองและเงื่อนไขในชีวิตของฉันแตกต่างกัน ฉันกำลังดำเนินการเชิงรุกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้
ฉันขอให้คุณช่วยฉันในการตัดสินใจที่ถูกต้อง ฉันอยากให้ทุกสิ่งที่ขัดขวางฉันถูกลบออกไปจากชีวิต ฉันต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริงอยู่เสมอและพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อการเติบโตทางจิตวิญญาณของฉันเอง
ฉันขอให้คุณให้พลังที่จะอยู่เหนือ "ฉัน" ของฉันและด้วยรูปลักษณ์ใหม่เพื่อประเมินตัวเองและชีวิตของฉันอย่างยุติธรรม จากนั้นด้วยความช่วยเหลือของคุณภาพใหม่นี้เพื่อติดตามชีวิตต่อไปตลอดชีวิตการค้นหาภาษากลางกับตนเองผู้อื่นและพลังที่สูงขึ้น
แตกต่างจากที่อื่น
ฉันต้องการทำความเข้าใจอย่างชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์ที่แท้จริง ฉันต้องการที่จะมองเห็นทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับฉันและเข้าใจความหมายของสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันและคนอื่น ๆ ได้ดีขึ้น ฉันต้องรู้สึกว่าการรักคนอื่นมีค่ามากแค่ไหนมากกว่าการอยู่ด้วยตัวเอง
พูดคำอธิษฐานง่ายๆนี้ทุกครั้งที่เราจัดการแสดงท่าทางทางวิญญาณบางอย่างซึ่งนำเราไปสู่ความคิดเรื่องเอกภาพความมั่นคงความหมายของการเป็นอยู่
การสวดอ้อนวอนมีผลหากมีศีลธรรมถ้าเราไม่หันไปหาพลังที่สูงกว่าเพื่อให้เรามากขึ้น แต่เพื่อช่วยให้เราดีขึ้น เราทำตามปณิธานที่จะไม่ใช้ชีวิตให้ดีขึ้น แต่ต้องดีขึ้น ก่อนหน้านี้เราเคยต้องการที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น รู้สึกว่าแอลกอฮอล์ทำให้เรารู้สึกมีชีวิตที่ดีขึ้นเราเริ่มบริโภคมันในปริมาณที่ชีวิตของเราตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นตอนนี้เรามีความปรารถนาที่แตกต่างออกไป เป็นการแสดงออกถึงความพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต อย่างไรก็ตามเป็นไปไม่ได้ที่จะทำเองโดยปราศจากความช่วยเหลือจากด้านบน เราขอความช่วยเหลือเมื่อเราหันไปหาพลังที่สูงกว่าและได้รับมัน
คุณต้องสามารถอธิษฐานได้ การฝึกฝ่ายวิญญาณเช่นนี้อาจไม่ประสบความสำเร็จสำหรับทุกคนในคราวเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่คลางแคลงใจและไม่เชื่อพระเจ้าอย่างที่เราเป็น แต่คนที่มีความรู้บอกว่าไม่มีสิ่งใดที่จะส่องแสงให้กับจิตวิญญาณได้เหมือนกับการภาวนาอย่างเข้มข้น คุณต้องเรียนรู้วิธีที่จะหันมาหาพระเจ้าและจะมั่นใจได้ว่าจะประสบความสำเร็จหลักการสำคัญควรเป็น
“ คุณจะเสร็จไม่ใช่ของฉัน”
บทความที่คุณสนใจจะถูกไฮไลต์ในรายการและแสดงเป็นอันดับแรก!
การสนทนา
14 โพสต์
ให้เหตุผลและความสบายใจ
ยอมรับสิ่งที่ฉันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
ความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันทำได้
และภูมิปัญญาในการแยกแยะสิ่งหนึ่งจากอีกสิ่งหนึ่ง
คุณจะทำไม่ใช่ของฉัน
คนแรกคือขอบคุณพระเจ้า ตลอดเวลา.
ประการที่สองคือองค์พระผู้เป็นเจ้ามีความเมตตา ขอโทษ. นอกจากนี้เนื่องจากเราเป็นคนบาปเสมอจึงมีบางสิ่งให้เรากลับใจได้เสมอโดยสมควรแก่การกระทำของเรา การกลับใจทำให้เราคืนดีกับพระผู้เป็นเจ้าทำให้เราใกล้ชิดกับพระองค์มากขึ้นซึ่งหมายความว่าทำให้เรามีกำลัง
และที่สาม - พระเจ้าช่วยด้วย เช่นกันเพราะเราต้องการความช่วยเหลือจากพระเจ้าเสมอ พระเจ้าตรัสเองว่า:“ ถ้าไม่มีเราคุณก็ทำอะไรไม่ได้” (ยอห์น 15: 5)
ช่วยฉันด้วย!)
“ พระเจ้าโปรดให้เหตุผลและความสบายใจแก่ฉันที่จะยอมรับสิ่งที่ฉันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันทำได้ และสติปัญญาในการแยกแยะสิ่งหนึ่งออกจากกัน "
ขอให้พระเจ้าประทานพระคุณแห่งความเข้าใจที่ไร้ค่าควรแก่ฉันเพื่อที่จะรับรู้ว่าอะไรที่น่าพอใจสำหรับคุณและมีประโยชน์สำหรับฉันและไม่เพียง แต่รับรู้ แต่ยังทำเพื่อไม่ให้ถูกพาไปและไม่ยึดติดกับความว่างเปล่า เพื่อที่จะเห็นอกเห็นใจกับความทุกข์ทรมานและยอมรับคนบาป
พระเจ้าช่วยคุณ
ถ้าฉันไม่เข้าใจผิด
เพื่อค้นหาผู้แต่งกลอนคำพูดคำพังเพยพิมพ์บรรทัดที่ไม่ได้มาตรฐานที่สุดใน Google หรือ Mail RU. คอมพิวเตอร์จะให้หน้าที่จำเป็นซึ่งคุณจะพบคำตอบ อย่างไรก็ตามระหว่างทางมีการทิ้งขยะจำนวนมาก ใครแสวงหาจะพบเสมอ! โชคดี!
อธิษฐานเผื่อผู้ศรัทธาและผู้ไม่เชื่อ
ให้เหตุผลและความสบายใจที่จะยอมรับสิ่งที่ฉันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ความเข้มแข็งและความกล้าหาญที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันสามารถเปลี่ยนแปลงได้และสติปัญญาในการแยกแยะสิ่งหนึ่งจากอีกสิ่งหนึ่ง
คำอธิษฐานนี้มีหลายเวอร์ชัน
"พระเจ้าขอให้เหตุผลและความสบายใจที่จะยอมรับในสิ่งที่ฉันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้จงกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันทำได้และมีปัญญาในการแยกแยะสิ่งหนึ่งจากอีกสิ่งหนึ่ง"
"พระเจ้าขอให้ฉันสบายใจที่จะยอมรับในสิ่งที่ฉันเปลี่ยนแปลงไม่ได้มอบความกล้าหาญที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันสามารถเปลี่ยนแปลงได้และให้สติปัญญาแก่ฉันในการแยกแยะสิ่งหนึ่งจากอีกสิ่งหนึ่ง"
ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับว่าเรียบเรียงโดย Reinhold Niebuhr นักเทศน์โปรเตสแตนต์ชาวอเมริกัน และมีการกล่าวถึงเธอเป็นครั้งแรกในปีพ. ศ. 2485
คำอธิษฐานของผู้อาวุโส Optina (ข้อความเต็ม)
พระเจ้าขอให้ฉันพบกับความสบายใจทุกสิ่งที่วันที่จะมาถึงฉัน ขอยอมจำนนต่อเจตจำนงของนักบุญของท่านโดยสิ้นเชิง ทุก ๆ ชั่วโมงของวันนี้แนะนำและสนับสนุนฉันในทุกๆเรื่อง ไม่ว่าฉันจะได้รับข่าวสารอะไรในระหว่างวันสอนฉันให้ยอมรับพวกเขาด้วยจิตวิญญาณที่สงบและเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่าทุกสิ่งเป็นพระประสงค์อันบริสุทธิ์ของคุณ
พระเจ้าโปรดเปิดเผยให้ฉันเห็นถึงน้ำพระทัยอันบริสุทธิ์ของพระองค์สำหรับฉันและคนรอบข้าง
ในคำพูดและความคิดทั้งหมดของฉันคุณเองนำทางความคิดและความรู้สึกของฉัน ในกรณีที่ไม่คาดฝันอย่าให้ฉันลืมว่าทุกอย่างถูกส่งลงมาโดยคุณ
ข้า แต่พระเจ้าสอนฉันถึงวิธีการปฏิบัติต่อครอบครัวและคนรอบข้างอย่างเหมาะสมเรียบง่ายมีเหตุผลและเหมาะสมเพื่อที่ฉันจะได้ไม่ทำให้ใครเสียใจ แต่ให้ความร่วมมือเพื่อประโยชน์ของทุกคน พระเจ้าขอให้พลังแก่ฉันเพื่ออดทนต่อความเหนื่อยล้าในวันที่จะมาถึงและเหตุการณ์ทั้งหมดในระหว่างนั้น พระเจ้าทรงชี้แนะความประสงค์ของฉันและสอนฉันให้กลับใจอธิษฐานเชื่ออดทนให้อภัยชื่นชมยินดีรักและขอบคุณ
ข้า แต่พระเจ้าอย่าปล่อยให้ฉันอยู่ในความเมตตาของศัตรูของฉัน แต่เพื่อประโยชน์ของชื่อนักบุญของคุณนำและปกครองฉันด้วยตัวคุณเอง
ข้า แต่พระเจ้าขอทรงตรัสรู้ความคิดและหัวใจของฉันเพื่อความเข้าใจกฎนิรันดร์และไม่เปลี่ยนแปลงของพระองค์ที่ควบคุมโลกเพื่อที่ฉันผู้รับใช้ที่ผิดบาปของคุณจะได้รับใช้คุณและเพื่อนบ้านของฉันในทางที่ถูกต้อง
“ พระเจ้าขอให้เราถ่อมตัวเพื่อยอมรับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ให้เรากล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลง และให้สติปัญญาแก่เราในการแยกแยะความแตกต่างจากคนอื่น " คำพูดนี้เป็นของนักเขียนชาวเยอรมันฟรีดริชคริสตอฟเอทิงเกอร์ (1702–1782) และนักเทววิทยาชาวอเมริกัน Reinhold Niebuhr (1892–1971)
หลายคนคุ้นเคยกับบางคนเช่นสำหรับสมาชิกของกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ออกนามผู้ติดสุราทั่วโลกเผด็จการนี้ได้รับสถานะของกฎแห่งชีวิตที่สำคัญที่สุด แต่เบื้องหลังคำพูดเหล่านี้คืออะไร -“ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้”? ความหวังที่ไม่สมหวังขาดความรักความทุกข์ความอยุติธรรมความเปราะบางของชีวิตเราไม่ช้าก็เร็วเราแต่ละคนต้องเผชิญกับสิ่งนี้และไม่มีประโยชน์ที่จะหนีจากมัน ความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นและทัศนคติที่ถูกต้องจะช่วยให้เราผ่านการทดสอบเหล่านี้และเรียนรู้บทเรียนแห่งชีวิตจากพวกเขา
ด้วยการปฏิเสธที่จะต่อต้านสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เราจะมีโอกาสค้นพบโอกาสใหม่ ๆ สำหรับตัวเราเอง ผู้เชี่ยวชาญห้าคนพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่สามารถสนับสนุนเราได้
"สิ่งต่างๆไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้เสมอไป"
Lev Khegai นักวิเคราะห์ Jungian
ทำไมเราต้องทนทุกข์ทรมาน. การสัมภาษณ์จบลงอย่างไม่ประสบความสำเร็จมีคนอื่นได้รับการแต่งตั้งใหม่และทุกอย่างไม่เป็นผลที่จะมีลูก ... ความรู้สึกว่าชีวิตของคุณหลุดออกจากมือของคุณทำให้เกิดความรู้สึกวิตกกังวลอย่างสุดซึ้ง สิ่งนี้เห็นได้ชัดเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัฒนธรรมของเราซึ่งแนวคิดเรื่องความสำเร็จในชีวิตนั้นแทบจะไม่มีองค์ประกอบทางจิตวิญญาณและมักวัดได้จากความเป็นอยู่ที่ดีเท่านั้น
จิตวิเคราะห์แบบจุงเกียนมองเห็นเหตุผลของความทุกข์ทรมานนี้ในความจริงที่ว่าเราไม่ได้ตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่างตัวเรากับโลก ดังนั้นเราจึงขมขื่นเป็นทวีคูณความสับสนที่แผนการของเราถูกละเมิดความรู้สึกว่าเราถูกทอดทิ้งเพียงลำพังก็เพิ่มเข้ามา ความรู้สึกไร้พลังนี้กลับฟื้นคืนชีพในจิตวิญญาณของเด็กที่สับสนว่าเราเคยเป็นใครและไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงถูกปฏิเสธบางอย่าง ยิ่งเราได้สัมผัสกับความรู้สึกโดดเดี่ยวในวัยเด็กบ่อยเท่าไหร่ก็ยิ่งยากที่เราจะยอมรับคนที่ "ไม่" ทั้งหมดที่บางครั้งชีวิตบอกเรา ในทางตรงกันข้ามถ้าเรายอมรับว่าการดำรงอยู่ของเรานั้นอยู่ภายใต้กฎของจักรวาลเราก็จะทำให้ความปรารถนาของเราในการมีอำนาจทุกอย่างสงบลง
เมื่อเข้าใจว่าความคาดหวังที่ไม่เป็นจริงของเราคืออะไรเราจึงคิดได้ว่าจะทำอย่างไรให้บรรลุผลด้วยวิธีอื่น ๆ
จะยอมรับได้อย่างไร. ถามตัวเองว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงเพราะเหตุผลภายนอกหรือได้รับอิทธิพลจากการเลือกที่ไม่สมเหตุสมผลและการตัดสินใจที่ผิดพลาดของเรา การวิปัสสนาดังกล่าวจะช่วยให้คุณเป็นตัวเอกในชีวิตของคุณเองอีกครั้งและมองไปในอนาคตได้อย่างมั่นใจมากขึ้น คุณยังสามารถคิดถึงสิ่งที่เราขาดหายไป แผนการของเราถูกขัดขวางและสิ่งนี้ทำให้เราขาดความสุขในการดำเนินการตามนั้น
แต่เราคาดหวังความพึงพอใจแบบไหน? การรับรู้ของสาธารณชนการสนับสนุนทางอารมณ์ความมั่งคั่งทางวัตถุ? เมื่อเราเข้าใจว่าความคาดหวังที่ไม่เป็นจริงของเราคืออะไรเราจะคิดได้ว่าจะทำอย่างไรให้บรรลุผลด้วยวิธีอื่น ๆ จากการสำรวจความเชื่อมโยงระหว่างการกระทำเหตุการณ์และโอกาสของเราทำให้เรากลายเป็นอย่างที่จุงเชื่อว่าเปิดกว้างให้กับชีวิตมากขึ้นเราเรียนรู้ที่จะรับรู้ข้อความของมันและความบังเอิญที่มีความสุขซึ่งจะช่วยให้เราตัดสินใจเลือกได้อย่างถูกต้องบ่อยขึ้น
"คนอื่นไม่รักเราและซื่อสัตย์ต่อเราเสมอไป"
Marina Khazanova นักบำบัดโดยเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางนักบำบัดอาการบาดเจ็บ
ทำไมเราต้องทนทุกข์ทรมาน. เราต้องการความรักรู้สึกรักเราจึงรู้สึกว่าเราได้รับการยอมรับว่าเรามีความสำคัญต่อใครบางคนมาก แต่ตอนนี้ความผูกพันระหว่างผู้คนมีน้อยลงเรื่อย ๆ และสิ่งนี้ก่อให้เกิดความวิตกกังวลในจิตใจ ไม่รู้สึกรักจ้องมองเราทั้งญาติคู่สมรสเพื่อนเพื่อนร่วมงานราวกับว่าเราไม่รู้สึกตัวอีกต่อไป
เราขาดการยอมรับความหมายของชีวิตเองดูเหมือนจะหลบเลี่ยงเรา เราพบกับการทรยศอย่างรุนแรงยิ่งขึ้น - การทรยศทำลายข้อตกลงที่ไม่ได้พูดระหว่างผู้คน: "ฉันให้ความรักและตอบแทนฉันได้รับของขวัญที่เทียบเท่า" การละเมิดข้อตกลงนี้อย่างโหดร้ายทำลายศรัทธาไม่เพียง แต่ในตัวของบุคคลอื่นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตัวเราด้วย: "ฉันจะคุ้มค่าอะไรถ้าถูกหักหลังง่ายๆขนาดนี้"
จะยอมรับได้อย่างไร. การนอกใจในความสัมพันธ์ - ความรักมิตรภาพครอบครัว - แตกต่างจากสถานการณ์ที่ความภักดีหรือความรู้สึกดีๆของเราต้องทนทุกข์ทรมานด้วยเหตุผลภายนอกตัวอย่างเช่นการเลิกจ้างในที่ทำงาน ความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่สร้างร่วมกันได้เสมอ ควรศึกษาอย่างรอบคอบเพื่อทำความเข้าใจว่าเราสร้างมันขึ้นมาอย่างไร อะไรในนั้นเป็นผลมาจากการกระทำของเราเราใส่อะไรลงไปมากน้อยแค่ไหนไม่เพียงพอหรือมากเกินไป? คุณคาดหวังอะไรจากอีกฝ่าย? คุณสามารถดูแลความต้องการที่สำคัญที่สุดด้วยตัวคุณเองได้หรือไม่?
หากจำเป็นผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยทำงานนี้ได้ แต่คุณจะพบรักอีกครั้งได้อย่างไร? แม้ว่าตอนนี้เราจะไม่เห็นเธออยู่ข้างๆเรา แต่เธอก็มีอยู่ในตัวเรา คุณสามารถรู้สึกได้โดยถามตัวเองว่าฉันชอบอะไรสิ่งที่ตรงกับตัวฉันปลุกความสนใจในตัวฉันมากขึ้น การหาคำตอบอาจต้องใช้เวลา แต่เมื่อพบสิ่งที่ชื่นชอบผู้คนก็ปรากฏตัวขึ้นรอบ ๆ ซึ่งเป็นที่รักของมัน และคนเหล่านี้จะเป็นคนใกล้ชิดที่รักในสิ่งที่เราทำและจะสนับสนุนเราตลอดไป
"ความทุกข์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต"
Natalia Tumashkova นักจิตบำบัดอัตถิภาวนิยม
ทำไมเราต้องทนทุกข์ทรมาน. การเลิกราอุบัติเหตุความเจ็บป่วย ... มันเป็นไปไม่ได้ที่จะจำช่วงเวลาที่เราประสบกับความเจ็บปวดเป็นครั้งแรก ตลอดชีวิตมันปรากฏมากกว่าหนึ่งครั้งบางครั้งเตือนและปกป้องเรา แต่บ่อยครั้งมาก - ทำให้เราทรมาน พวกเขารู้สึกแย่ลงด้วยความกลัว (“ มีบางอย่างผิดปกติกับฉัน”) และความรู้สึกผิด: เติบโตขึ้นในวัฒนธรรมคริสเตียนเราเชื่อมโยงความเจ็บปวดกับการลงโทษบาปโดยไม่รู้ตัวและมองหาคำตอบในอดีตของเรา
คำถาม "ทำไมต้องทำเช่นนี้" ไม่ใช่ว่าไม่มีประโยชน์ - บางครั้งการคิดทบทวนเหตุการณ์ในชีวิตของเราก็ช่วยได้ แต่การปฏิรูปมันมีประโยชน์ยิ่งกว่า - "เพื่ออะไร". และไม่คิดถึงเหตุผล แต่เกี่ยวกับเป้าหมายและโอกาสของเรา
จะยอมรับได้อย่างไร. ความผิดระงับทำให้เราอ่อนแอหยุดเรา ณ จุดที่เราอยู่ป้องกันไม่ให้เราก้าวไปข้างหน้า หากเราถามว่า“ ทำไม”“ ฉันจะเรียนรู้อะไรได้บ้าง” จากนั้นเราก็พบกับความเจ็บปวดเป็นบททดสอบ แรงกระแทกที่รุนแรงทำให้ความรู้สึกของชีวิตคมชัดขึ้น เราเข้าใจหรือมากกว่านั้นเราเริ่มรู้สึกว่ากองกำลังมีขีด จำกัด และสิ่งนี้กระตุ้นให้เราชี้แจงเป้าหมายเพื่อแยกสิ่งสำคัญออกจากระดับรอง
การปล่อยให้ตัวเองเผชิญกับความโกรธอย่างเต็มที่เราสามารถเผชิญกับความก้าวร้าวได้
มีการคิดใหม่หลายอย่างในเวลานี้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าความเจ็บปวดเป็นสัญญาณหลักและเราสามารถเข้าใจได้ว่ามันมีข้อมูลอะไรความเจ็บปวดนี้กำลังพูดถึงอะไร ผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยได้เช่นแพทย์หรือนักจิตอายุรเวช ข้อมูลทำให้เกิดความกลัวช่วยในการประเมินความเป็นจริงมากขึ้นว่าสถานการณ์ที่เราพบเจอนั้นอันตรายเพียงใด สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงประโยชน์รองที่เราอาจได้รับจากการทนต่อความเจ็บปวด พวกเขามักจะรับรู้ได้ยาก: อาจเป็นความปรารถนาที่จะลงโทษตัวเองด้วยบางสิ่งบางอย่างหรือด้วยเหตุผลเพื่อเรียกร้องความสนใจและการดูแลจากคนที่คุณรักมากขึ้น
บางครั้งคนที่อยู่ใกล้ก็ทำให้เรารำคาญ: ทำไมพวกเขาถึงรู้สึกดีเมื่อเรารู้สึกแย่? การระคายเคืองคือการระงับความโกรธ โดยปล่อยให้ตัวเราได้สัมผัสมันอย่างเต็มที่ ("นี่มันไม่ยุติธรรมฉันควรจะเจ็บปวดไหม") เราปล่อยให้มันออกมากรีดร้องหรือร้องไห้ - และเพื่อให้เราได้รับโอกาสที่จะเผชิญกับการรุกรานของเรา และตรงกันข้ามกับความรู้สึกผิดและความกลัวเธอเป็นทรัพยากรพลังงานที่ทรงพลัง นี่เป็นโอกาสที่เราจะได้สัมผัสกับพลังชีวิตของเราและใช้มันเพื่อก้าวไปข้างหน้า
"ทุกอย่างมาถึงจุดจบ"
Vladimir Baskakov นักจิตอายุรเวชที่เน้นร่างกาย
ทำไมเราต้องทนทุกข์ทรมาน. ในธรรมชาติทุกอย่างเป็นวัฏจักร: กลางวันและกลางคืนฤดูหนาวและฤดูร้อนสลับกัน ชีวิตคือการเปลี่ยนแปลงชั่วนิรันดร์ แต่พวกเรามีใครบ้างที่ไม่อยากยึดติดกับช่วงเวลาแห่งความสุข! การเปลี่ยนแปลงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นำไปสู่ความคิดเกี่ยวกับความตายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ - และเป็นเรื่องที่เราทนไม่ได้ เรารู้: เด็ก ๆ โตขึ้นเพื่อน ๆ ย้ายออกไปร่างกายก็แก่ ... และบางครั้งเราก็พยายามต่อสู้กับกฎแห่งการดำรงอยู่รักษาภาพลวงตาของความไม่เปลี่ยนรูปเช่นด้วยความช่วยเหลือของสารต่อต้านวัยหรือการพัฒนากิจกรรมที่มีพลัง เพื่อไม่ให้ตัวเองอยู่คนเดียว ...
เราทุกคนรู้สึกแตกต่างกันเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง ยิ่งพวกเขาทำให้เราเสียใจในวัยเด็กเราก็จะยิ่งกลัวพวกเขามากขึ้นเมื่อเราโตขึ้น ในทางกลับกันถ้าตั้งแต่อายุยังน้อยเรามองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่น่าตื่นเต้นมันจะง่ายกว่าสำหรับเราที่จะไม่เพียง แต่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่บางครั้งก็ต้องพยายามเพื่อพวกเขาด้วย
จะยอมรับได้อย่างไร. เราสามารถเรียนรู้ได้มากมายจากร่างกายหากเรามองว่ามันเป็นเพื่อนและที่ปรึกษาแทนที่จะเป็นคนทรยศที่ทรยศต่อความอ่อนแอ ให้ความสนใจ: การหายใจเข้าและการหายใจออกตามกัน คุณสามารถพยายามกลั้นหายใจ แต่ยิ่งเราไม่หายใจนานเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้จังหวะของมันกลับคืนมาได้ยากขึ้นเท่านั้น ช่วงเวลาของการนอนหลับและการตื่นนอนก็เป็นไปตามกัน หากเรายอมรับความต้องการตามธรรมชาติของเราเราจะสร้างความเชื่อมโยงกับร่างกายของเราและผ่านมันไป - กับธรรมชาติของเรา เราเริ่มรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของทั้งหมดโดยปฏิบัติตามจังหวะทั่วไป
ลองนึกถึงความจริงที่ว่าเรามีประสบการณ์ในการเปลี่ยนจากสถานะหนึ่งไปสู่อีกสถานะหนึ่ง เราได้รับการปฏิสนธิจากการไม่มีชีวิตจากนั้นก็ออกจากครรภ์มารดาสู่แสงสว่างกล่าวคำอำลาในวัยเด็กเพื่อการค้นพบของเยาวชนก้าวข้ามเวลาทิ้งบางสิ่งไว้เบื้องหลังและค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ข้างหน้า เรามาทำความเข้าใจกันเถอะ: หากไม่เสร็จสิ้นจะไม่มีการต่อเนื่องโดยไม่ลาก่อนจะไม่มีการประชุมใหม่
เนื่องจากชีวิตมีอยู่โดยธรรมชาติของวัฏจักรดังนั้นการเปลี่ยนแปลงจึงไม่เป็นภัยคุกคาม แต่เป็นสภาพธรรมชาติของการดำรงอยู่ของเรา ความตายเป็นสิ่งที่น่ากลัวโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ยังคงดำเนินต่อไปในปัจจุบัน และในภาคต่อนี้เราสามารถเปิดโอกาสใหม่ ๆ และทำบางสิ่งที่สำคัญให้สำเร็จได้
"ชีวิตไม่ยุติธรรมเสมอไป"
Patrice Gurier นักบวชและนักจิตวิทยา
ทำไมเราต้องทนทุกข์ทรมาน. การสำแดงความอยุติธรรมเตือนเราอย่างไร้ความปราณีว่าการประพฤติตัวดีและทำถูกต้องเสมอไปเพื่อชีวิตจะยุติธรรมกับเราไม่เพียงพอ สามเหตุผลที่อาจทำให้เกิดความรู้สึกกระตือรือร้นนี้
ประการแรกความเกลียดชังต่อความยากลำบาก: วัฒนธรรมตะวันตกจัดลำดับความสำคัญของความสุขในการอุทิศตนส่วนบุคคลและเมื่อความปรารถนาไม่ได้รับการเติมเต็มเราถือเป็นความคับข้องใจส่วนตัว
ประการที่สองเราต้องทนทุกข์กับสิ่งที่ไม่ยุติธรรมอย่างแท้จริงเรารู้สึกขมขื่นทำอะไรไม่ถูกไม่เข้าใจความหมายของการทดสอบ ทำไมคนที่ฉันรักถึงตายอย่างกะทันหัน? ทำไมฉันถึงถูกไล่ออกเพราะฉันลงทุนไปมากกับงานนี้ ในที่สุดความอยุติธรรม (โดยไม่สมัครใจ) ของเราเองที่มีต่อผู้อื่นคนที่คุณรักหรือคนแปลกหน้าสามารถทำร้ายเราได้ ในกรณีนี้อุดมคติและคุณค่าทางศีลธรรมของเราต้องทนทุกข์ทรมาน - ดังนั้นจึงเป็นเรื่องไม่ดีสำหรับเรา
สิ่งสำคัญประการแรกคือต้องระบุอารมณ์ที่ความอยุติธรรมปลุกให้ตื่นขึ้นในตัวเรา
จะยอมรับได้อย่างไร. ก่อนอื่นแทนที่คำว่า "ยอมรับ" ด้วย "ตระหนัก" แล้วถามตัวเองว่า: สิ่งที่เรารู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมจริงๆหรือ? เรากำลังพยายามกำจัดความรับผิดชอบผ่านความรู้สึกนี้หรือไม่? การสูญเสียคนที่คุณรักเป็นเรื่องที่เจ็บปวดและไม่ยุติธรรมจริงๆ ไม่มีนักจิตวิทยาคนใดสามารถลดระยะเวลาแห่งความเศร้าโศกและความโกรธได้ แต่เขาสามารถช่วยได้หากความเจ็บปวดทางจิตใจไม่สามารถทนได้
ในกรณีของความอยุติธรรมอื่น ๆ ในชีวิตหรือในความสัมพันธ์เราถามตัวเองว่า: "ฉันจะทำอะไรที่ยุติธรรมได้สิ่งที่ฉันคิดว่าดี" วิธีนี้จะช่วยให้คุณไม่ถูกโดดเดี่ยวด้วยความขมขื่นหรือปรารถนาที่จะแก้แค้น แต่สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการกำหนดอารมณ์ที่ความอยุติธรรมได้ปลุกขึ้นในตัวเรา เรามักมองข้ามความเสียหายที่เธอทำกับความภาคภูมิใจในตนเอง
ในทางตรงกันข้ามเหยื่อแทนที่จะปกป้องตัวเองและปกป้องสิทธิ์ของเขาบางครั้งรู้สึกผิดและอับอาย - เพราะเขาไม่ได้อยู่ในระดับที่เท่าเทียมกันและได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดี ดังนั้นความอยุติธรรมจึงต้องถูกเรียกด้วยคำพูดเสมอมันจะต้องได้รับการจัดการ และถ้าเราเก็บความทุกข์นี้ไว้ในตัวเองเพราะจิตวิญญาณของเราจะกลายเป็นสิ่งที่ทำลายล้างในที่สุด
ขอให้กล้าเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ ...
มีคำอธิษฐานที่ไม่เพียง แต่ผู้ที่นับถือคำสารภาพต่างๆเท่านั้น แต่แม้แต่ผู้ที่ไม่เชื่อก็ยังพิจารณาถึงคำสารภาพของพวกเขาด้วย ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Serenity Prayer - "Prayer for peace of mind" นี่คือหนึ่งในตัวเลือก:
"ข้า แต่พระเจ้าขอให้ฉันสบายใจที่จะยอมรับในสิ่งที่ฉันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้มอบความกล้าหาญที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันสามารถเปลี่ยนแปลงได้และให้สติปัญญาแก่ฉันในการแยกแยะสิ่งหนึ่งจากอีกสิ่งหนึ่ง"
เป็นใครก็ตาม - ฟรานซิสแห่งอัสซีซีและผู้อาวุโส Optina และ Hasidic Rabbi Abraham-Malach และ Kurt Vonnegut
ทำไม Vonnegut ถึงเข้าใจได้ ในปี 1970 มีการแปลนวนิยายเรื่อง Slaughterhouse Five หรือ Children's Crusade (1968) ใน Novy Mir มันกล่าวถึงคำอธิษฐานที่แขวนอยู่ในสำนักงานออพโตเมตริกของ Billy Pilgrim ตัวเอกของนวนิยายเรื่องนี้
“ ผู้ป่วยหลายคนที่เห็นคำอธิษฐานของบิลลี่บนกำแพงบอกเขาในภายหลังว่าเธอให้การสนับสนุนพวกเขาเป็นอย่างดี คำอธิษฐานดังขึ้น:
ขอพระเจ้าขอให้ฉันสบายใจเพื่อที่ฉันจะยอมรับในสิ่งที่ฉันเปลี่ยนแปลงไม่ได้กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันทำได้และสติปัญญาจะแตกต่างจากคนอื่นเสมอ
สิ่งที่บิลลี่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้คืออดีตปัจจุบันและอนาคต "
(แปลโดย Rita Wright-Kovaleva)
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา "การอธิษฐานเพื่อความสบายใจ" ก็กลายเป็นคำอธิษฐานของเราเช่นกัน
ปรากฏครั้งแรกในการพิมพ์เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2485 เมื่อหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สตีพิมพ์จดหมายจากผู้อ่านที่ถามว่าคำอธิษฐานนี้มาจากไหน มีเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นที่ดูแตกต่างไปบ้าง แทนที่จะเป็น "ให้ใจฉันสงบ" - "อดทนหน่อย" เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมผู้อ่าน New York Times อีกคนรายงานว่าคำอธิษฐานนี้แต่งโดยนักเทศน์โปรเตสแตนต์ชาวอเมริกัน Reinhold Niebuhr (1892-1971) เวอร์ชันนี้สามารถพิจารณาพิสูจน์ได้แล้ว
เห็นได้ชัดว่าคำอธิษฐานของ Niebuhr ปรากฏในช่วงปลายทศวรรษที่ 1930 แต่แพร่หลายไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง จากนั้นเธอก็ได้รับการอุปการะโดยผู้ไม่ประสงค์ออกนาม
ในเยอรมนีและในประเทศของเราคำอธิษฐานของนีบูร์เป็นของนักศาสนศาสตร์ชาวเยอรมันคาร์ลฟรีดริชเอทิงเกอร์ (K.F. Oetinger, 1702–1782) เกิดความเข้าใจผิด ความจริงก็คือการแปลเป็นภาษาเยอรมันได้รับการตีพิมพ์ในปีพ. ศ. 2494 ภายใต้นามแฝง "ฟรีดริชเอทิงเกอร์" นามแฝงนี้เป็นของบาทหลวงธีโอดอร์วิลเฮล์ม; เขาได้รับข้อความอธิษฐานจากเพื่อนชาวแคนาดาในปีพ. ศ. 2489
คำอธิษฐานของ Niebuhr ดั้งเดิมเป็นอย่างไร? ฉันสามารถโต้แย้งว่าก่อนหน้านี้ Niebuhr เธอไม่เคยพบ ข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวคือจุดเริ่มต้น แล้วฮอเรซเขียน:
"มันเป็นเรื่องยาก! แต่มันง่ายกว่าที่จะอดทน /
สิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ "
("Odes", I, 24)
เซเนกามีความเห็นเดียวกัน:
“ ดีที่สุดที่จะอดทน
สิ่งที่คุณแก้ไขไม่ได้ "
("จดหมายถึงลูซิลิอัส", 108, 9)
ในปี 1934 บทความของ Juna Purcell Guild“ Why go to the South?” ปรากฏในนิตยสารอเมริกันฉบับหนึ่ง กล่าวว่า:“ ชาวใต้หลายคนดูเหมือนจะทำน้อยมากที่จะลบความทรงจำอันเลวร้ายของสงครามกลางเมือง ทั้งในภาคเหนือและภาคใต้ไม่ใช่ทุกคนที่จะสบายใจที่จะยอมรับสิ่งที่ช่วยไม่ได้” (ความสงบที่จะยอมรับสิ่งที่ช่วยไม่ได้)
ความนิยมที่ไม่เคยมีมาก่อนของการสวดมนต์ Niebuhr นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงล้อเลียน สิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ The Office Prayer ล่าสุด:
“ พระเจ้าขอให้ฉันสบายใจที่จะยอมรับในสิ่งที่ฉันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ให้ฉันกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันไม่ชอบ และให้สติปัญญาแก่ฉันในการซ่อนร่างของผู้ที่ฉันจะฆ่าในวันนี้เพราะพวกเขาได้ฉันแล้ว และช่วยข้าด้วยพระเจ้าระวังอย่าเหยียบเท้าคนอื่นเพราะอาจมีลาอยู่เหนือพวกเขาที่ข้าจะต้องจูบในวันพรุ่งนี้ "
,
ต่อไปนี้เป็นคำอธิษฐาน "ที่ไม่ใช่ศีล" เพิ่มเติม:
"พระเจ้าขอปกป้องฉันจากความปรารถนาที่จะพูดออกไปเสมอทุกที่และทุกอย่าง"
- สิ่งที่เรียกว่า "การอธิษฐานเพื่อวัยชรา" ซึ่งส่วนใหญ่มักมาจากนักเทศน์ชาวฝรั่งเศสชื่อดังฟรานซิสเดอเซลส์ (1567-1622) และบางครั้งก็เป็นของโทมัสควีนาส (1226-1274) ในความเป็นจริงมันปรากฏขึ้นเมื่อไม่นานที่ผ่านมา
"พระเจ้าช่วยฉันจากผู้ชายที่ไม่เคยทำผิดพลาดและจากคนที่ทำผิดซ้ำสองครั้ง"
คำอธิษฐานนี้เป็นของแพทย์ชาวอเมริกัน William Mayo (1861-1939)
"พระเจ้าช่วยฉันค้นหาความจริงของคุณและช่วยฉันจากคนที่ค้นพบแล้ว!"
"พระเจ้าช่วยฉันกลายเป็นอย่างที่สุนัขของฉันคิดว่าฉันเป็น!" (ไม่ทราบผู้แต่ง).
โดยสรุป - คำพูดของรัสเซียในศตวรรษที่ 17: "ท่านเจ้าข้ามีเมตตาและไม่มีอะไรจะให้"
การอ่านศาสนา: พระเจ้าประทานพลังให้ฉันสวดอ้อนวอนเพื่อช่วยผู้อ่านของเรา
พระเจ้าโปรดประทานเหตุผลและความสบายใจที่จะยอมรับสิ่งที่ฉันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ความกล้าหาญที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันทำได้และสติปัญญาในการแยกแยะสิ่งหนึ่งจากอีกสิ่งหนึ่ง (การอธิษฐานเพื่อความสบายใจ)
พระเจ้าโปรดให้เหตุผลและความสบายใจแก่ฉันที่จะยอมรับสิ่งที่ฉันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันทำได้และสติปัญญาในการแยกแยะสิ่งหนึ่งจากคำอื่น - คำแรกของคำอธิษฐานเพื่อความสบายใจ
ผู้เขียนคำอธิษฐานนี้ Karl Paul Reinhold Niebuhr (1892-1971) เป็นนักเทววิทยาชาวอเมริกันเชื้อสายโปรเตสแตนต์ที่มีต้นกำเนิดจากเยอรมัน ตามรายงานบางฉบับแหล่งที่มาของสำนวนนี้คือคำพูดของนักเทววิทยาชาวเยอรมันคาร์ลฟรีดริชเอทิงเกอร์ (ค.ศ. 1702-1782)
Reinhold Niebuhr บันทึกคำอธิษฐานนี้เป็นครั้งแรกสำหรับการเทศนาปี 1934 คำอธิษฐานดังกล่าวเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางตั้งแต่ปี พ.ศ. 2484 เมื่อใช้ในการประชุมของผู้ไม่ประสงค์ออกนามและในไม่ช้าคำอธิษฐานนี้ก็รวมอยู่ในโปรแกรม "สิบสองก้าว" ซึ่งใช้ในการรักษาโรคพิษสุราเรื้อรังและการติดยา
ในปีพ. ศ. 2487 คำอธิษฐานนี้รวมอยู่ในหนังสือสวดมนต์สำหรับนักบวชในกองทัพ วลีแรกของคำอธิษฐานแขวนไว้ที่โต๊ะทำงานของประธานาธิบดีจอห์นฟิตซ์เจอรัลด์เคนเนดีแห่งสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2460-2506)
พระเจ้าให้เหตุผลและความสบายใจแก่ฉัน
ยอมรับสิ่งที่ฉันเปลี่ยนแปลงไม่ได้
ความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันทำได้
และภูมิปัญญาในการแยกแยะสิ่งหนึ่งจากอีกสิ่งหนึ่ง
ใช้ชีวิตทุกวันด้วยการอุทิศตนอย่างเต็มที่
ชื่นชมยินดีในทุกช่วงเวลา
ใช้ความยากลำบากเป็นเส้นทางนำไปสู่สันติภาพ
รับเช่นเดียวกับที่พระเยซูทรงรับ
โลกแห่งบาปนี้มันคืออะไร
ไม่ใช่วิธีที่ฉันอยากจะเจอเขา
เชื่อว่าคุณจะจัดการทุกอย่างอย่างดีที่สุด
ถ้าฉันหันไปตามความประสงค์ของคุณ:
ฉันจะได้รับความสุขในชีวิตนี้ภายในขอบเขตที่สมเหตุสมผล
และมีความสุขกับคุณตลอดไปและตลอดไป - ในชีวิตที่จะมาถึง
เนื้อหาทั้งหมดของคำอธิษฐานเป็นภาษาอังกฤษ:
พระเจ้าโปรดประทานพระคุณที่จะยอมรับด้วยความสงบ
สิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ
ที่ควรเปลี่ยนแปลง
และภูมิปัญญาในการแยกแยะ
อีกอันหนึ่ง
ใช้ชีวิตวันละครั้ง
เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาหนึ่ง
ยอมรับความยากลำบากเป็นหนทางสู่สันติภาพ
รับตามที่พระเยซูทรงทำ
โลกแห่งบาปนี้มันเป็น
ไม่ใช่อย่างที่ฉันต้องการ
เชื่อมั่นว่าคุณจะทำทุกสิ่งให้ถูกต้อง
ถ้าฉันยอมจำนนต่อความประสงค์ของคุณ
เพื่อที่ฉันจะมีความสุขตามสมควรในชีวิตนี้
และมีความสุขอย่างยิ่งกับคุณตลอดไปในชาติหน้า
คำอธิษฐานที่ทรงพลัง
โดยการสวดอ้อนวอนคุณจะได้รับสิ่งที่ต้องการก็ต่อเมื่อปณิธานของคุณเข้มแข็งและศรัทธาของคุณแข็งแกร่งเท่านั้น อย่าปล่อยให้ความสงสัยบั่นทอนศรัทธาของคุณ
ขออย่างจริงใจและเส้นทางจะเปิด
คำอธิษฐานบางอย่างที่ให้พลังทำงานร่วมกับเครื่องรางของขลังและเครื่องราง
ภูมิปัญญาที่จะรู้ความแตกต่างระหว่างทั้งสอง
แต่พระเจ้าขอให้ฉันมีความกล้าหาญที่จะไม่ยอมแพ้ในสิ่งที่ฉันคิดว่าถูกต้องแม้ว่ามันจะไร้ประโยชน์ก็ตาม "
อธิษฐานเพื่อการรักษาจิตวิญญาณ
ฉันเป็นภาชนะที่ว่างเปล่าที่จะเติมเต็ม
ศรัทธาของฉันมีน้อย - เสริมสร้างความรักของฉันตื้น - ทำให้มันลึกขึ้น
การป้องกันของฉันอ่อนแอ - เสริมสร้างมัน
หัวใจของฉันกระสับกระส่าย - นำสันติสุขมาสู่เขา
ความคิดของฉันตื้น - ทำให้พวกเขาสูงส่ง
ความกลัวของฉันดีมาก - จงลบมันออกไป
จิตวิญญาณของฉันป่วย - รักษามัน
เสริมสร้างความเชื่อของฉันว่าทุกสิ่งสำเร็จได้ด้วยความรัก”
“ อวยพรฉันด้วยความสงบของบ้านที่มีความสุข ปกป้องเราจากอันตรายและโชคร้ายทั้งปวง เราเชื่อในตัวคุณเรารู้ว่าคุณห่วงใยทุกสิ่งในโลก ทุกอย่างอยู่ภายใต้ความประสงค์ของคุณ ความรักของคุณปกป้องทุกสิ่ง ปกป้องฉันจากการกระทำที่ไม่เหมาะสม ให้กฎแห่งความดีปกครองชีวิตของฉันและควบคุมทุกสิ่งที่ฉันพูดและทำ ขอพรให้เต็มที่ "
“ ขจัดความขมขื่นที่อยู่ในตัวฉันออกไปแสดงวิธีแสดงความรักและความห่วงใยต่อผู้ที่อยู่ห่างไกลออกไป ขอให้รักและปกป้องคนที่อยู่ใกล้หัวใจเสมอ นำพวกเขาไปสู่ความรักของฉัน ฉันขอสัมผัสทุกคนที่ฉันพบด้วยความเมตตากรุณา”
“ ยื่นมือออกมาและปกป้องฉันจากความกังวลที่ไม่จำเป็นในชีวิตนี้ ทำให้ศัตรูของฉันไม่มีอำนาจไม่มีความสามารถในการกระทบกระทั่งทำลายและทำอันตรายต่อผู้ที่เริ่มต้นภายใต้การคุ้มครองของคุณ ฉันเรียกร้องหาคุณด้วยสุดใจของฉันและรอคำปลอบใจจากคุณ”
“ ข้า แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอพระหัตถ์ของข้าพระองค์ระบายความเข้มแข็งในการปฏิบัติงานและความรับผิดชอบในวันนี้ให้สำเร็จเอาชนะความอ่อนแอของฉันได้รับความชัดเจนในความคิดและแสดงความสามารถของฉัน ขอให้ฉันมีความเชื่อที่จะยึดติดกับสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับงานการเล่นและชีวิตของฉัน”
คำอธิษฐานเพื่อการป้องกัน
“ ฉันขอร้องให้คุณปกป้องฉันและให้ความช่วยเหลือในการเดินทางของฉัน นำสิ่งที่เป็นของฉันมาให้ฉันและอวยพรฉันด้วยผลงานของฉัน มอบที่ดินให้ฉันปรับปรุงสภาพชีวิตของฉัน ขอให้ฉันมั่นใจในการปกป้องของคุณปกป้องฉันจากผู้ที่ต้องการทำร้ายร่างกายหรือทรัพย์สินของฉัน "
“ ลบความตั้งใจที่จะทำร้ายสัญญาณการทำลายล้างทั้งหมดออกไปจากฉัน แทนที่ด้วยความจริงและความเมตตา หายใจเอาสติปัญญาเข้ามาในตัวฉันซึ่งฉันจะได้รับความเข้มแข็งของลักษณะนิสัยความมั่นใจที่สงบและมิตรภาพที่ซื่อสัตย์ ให้ฉันใช้ความรู้นี้เพื่อหาเพื่อนที่อุทิศตน
“ ฉันขอให้ดวงตาของฉันเปิดกว้างต่อสิ่งที่ฉันไม่เคยเห็นหรือเข้าใจมาก่อน แนะนำขั้นตอนของฉันไปในทิศทางที่ถูกต้องเพื่อให้ถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อราบรื่นและปลอดภัยในการเดินทาง ปกป้องร่างกายของฉันจากพลังชั่วร้ายและความคิดของฉันจากการผิดศีลธรรมขจัดบาปออกจากจิตวิญญาณของฉัน ให้คำตอบที่คุณต้องการ ทำให้ฉันเข้าใจและยอมรับวิธีแก้ปัญหาที่คุณเสนอเพื่อรับมือกับปัญหาของฉัน ใช้ริมฝีปากของฉันและพูดผ่านพวกเขาใช้หัวของฉันและคิดผ่านมันเอาหัวใจของฉันและเติมเต็มด้วยความรักและความเมตตาที่ฉันต้องการจะมอบให้กับผู้อื่น "
“ ขอความยุติธรรมความเห็นอกเห็นใจและการให้อภัยในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ตัดสินฉันด้วยความกรุณาที่ฉันปฏิบัติต่อผู้อื่น กำหนดจิตวิญญาณแห่งปัญญาและความเข้าใจในการตัดสินทั้งหมดเพื่อให้พวกเขาสามารถมองเห็นความจริงและดำเนินการอย่างเป็นกลางตามกฎหมาย”
“ ฉันภาวนาให้มีระยะห่างระหว่างฉันกับศัตรู ฉันจัดการด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนเพื่อที่เราจะแยกจากกัน กำจัดศัตรูนี้เพื่อสันติสุขจะครอบงำในบ้านและหัวใจของฉัน ฉันคิดถึงโลกที่จะมาถึงฉัน
“ อยู่กับฉันและสนับสนุนฉันด้วยการปรากฏตัวของคุณ เป็นเพื่อนของฉันและทำให้จิตวิญญาณของฉันสดชื่น ส่งความกระจ่างในใจความสบายใจและศรัทธาให้ฉันมีความอดทนและความรักที่ไม่หยุดยั้งที่ยิ่งใหญ่เข้าและออกจากหัวใจของฉัน แสดงจุดมุ่งหมายของชีวิตให้ฉันแสดงความกล้าหาญและความเพียรพยายามเพื่อบรรลุเป้าหมายที่คุณได้มอบหมายให้ฉัน”
สวดมนต์ทุกวันเพื่อความบริสุทธิ์ของความคิด
“ ช่วยฉันให้มีความกรุณาในคำพูดและใจกว้างในการกระทำ ช่วยให้ฉันลืมตัวเองและเปลี่ยนความรักและความเสน่หาให้กับคนรอบข้าง ทำให้ฉันมีจิตวิญญาณที่สวยงามชัดเจนและบริสุทธิ์ในความคิดของฉันร่างกายที่สวยงามและแข็งแรง เพิ่มพลังของร่างกายและจิตวิญญาณของฉันเพื่อนำพวกเขาไปยังผู้ที่ฉันเรียก ฉันรู้สึกขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่ฉันได้รับในวันนี้และสำหรับความรักที่มีต่อผู้อื่นที่คุณใส่ไว้ในหัวใจของฉัน”
“ จงอยู่กับฉันในวันนี้และช่วยเติมหัวของฉันด้วยความคิดที่สดใสร่างกายของฉันที่มีนิสัยที่ไม่เป็นอันตรายและจิตวิญญาณของฉันด้วยจิตวิญญาณที่ไร้เดียงสา ช่วยฉันควบคุมความอยากกินอาหารที่เป็นอันตรายต่อร่างกายความคิดจิตวิญญาณหรือชีวิตของฉันเอง ฉันมั่นใจในความช่วยเหลือของคุณ ด้วยความช่วยเหลือนี้ฉันจะเอาชนะการล่อลวงทั้งหมดในวันนี้”
ผู้ที่จะอธิษฐานเผื่อโรคภัยไข้เจ็บ
ในการรักษาให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บคุณต้องเชื่อมั่นในความสำเร็จเป็นอันดับแรก แม้แต่คำอธิษฐานที่ดีที่สุดก็จะไม่เกิดผลหากท่องโดยอัตโนมัติโดยไม่มีจิตวิญญาณ พวกเขามักจะอธิษฐานให้ใครเป็นโรคต่าง ๆ ? หากเด็กป่วยพวกเขาหันไปวิงวอนต่อพระมารดาของพระเจ้าและต่อบาร์บาราผู้พลีชีพผู้ยิ่งใหญ่ ผู้หญิงที่ฝันถึงลูกสามารถอธิษฐานถึง Sergei Sarovsky ได้ นอกจากนี้เพื่อการรักษาพวกเขาหันไปหา St.Nicholas the Wonderworker พระมารดาของพระเจ้าผู้รักษา Panteleimon พระคริสต์
พระเจ้าขอให้ฉันสบายใจที่จะยอมรับสิ่งที่ฉันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ให้ฉันกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ และขอให้ฉันมีสติปัญญาที่จะบอกคนอื่น
คำอธิษฐานของนักเทววิทยาชาวเยอรมัน Karl Friedrich Etinger (1702-1782)
ในหนังสืออ้างอิงคำพูดและคำพูดของประเทศแองโกล - แซกซอนซึ่งคำอธิษฐานนี้เป็นที่นิยมมาก (ตามที่นักเขียนบันทึกหลายคนชี้ให้เห็นว่ามันแฮงค์
ลาเหนือโต๊ะทำงานของประธานาธิบดีจอห์นเอฟ. เคนเนดีของสหรัฐฯ) เป็นผลมาจากนักเทววิทยาชาวอเมริกัน Reinhold Niebuhr (1892-1971) ตั้งแต่ปีพ. ศ. 2483 มีการใช้งานโดยผู้ไม่ประสงค์ออกนามซึ่งทำให้เกิดความนิยมเช่นกัน
พจนานุกรมสารานุกรมของคำและสำนวนที่มีปีก - ม.: "Lokid-Press". Vadim Serov พ.ศ. 2546
ดูว่ามันคืออะไร“ พระเจ้าขอให้ฉันสบายใจที่จะยอมรับในสิ่งที่ฉันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ให้ฉันกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันเปลี่ยนแปลงได้ และขอให้ฉันมีสติปัญญาในการแยกแยะความแตกต่างจากคนอื่น ๆ ” ในพจนานุกรมอื่น ๆ :
คำอธิษฐาน “ เทพเจ้านั้นไร้พลังหรือทรงพลัง ถ้าพวกเขาไม่มีพลังคุณจะอธิษฐานกับพวกเขาทำไม? หากพวกเขามีอำนาจเหนือกว่าแล้วจะดีกว่าไหมหากจะอธิษฐานว่าอย่ากลัวสิ่งใดไม่ปรารถนาสิ่งใดไม่ให้อารมณ์เสียไปกว่าการมีอยู่หรือไม่มีบางสิ่งบางอย่าง? ... ... สารานุกรมคำพังเพยรวม
เรากำลังใช้คุกกี้เพื่อการนำเสนอเว็บไซต์ของเราที่ดีที่สุด การใช้ไซต์นี้ต่อไปแสดงว่าคุณเห็นด้วยกับสิ่งนี้ ตกลง
สวดมนต์เพื่อความสบายใจ
ผู้เขียนเรื่อง“ คำอธิษฐานเพื่อความสงบของจิตใจ” (Serenity Prayer) นักวิจัยยังคงโต้แย้งโดยกล่าวถึงทั้งชาวอินคาโบราณและ Omar Khayyam ผู้เขียนที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ Karl Friedrich Etinger นักเทววิทยาชาวเยอรมันและบาทหลวงชาวอเมริกันเชื้อสายเยอรมัน Reingold Niebuhr
พระเจ้าโปรดประทานความสงบให้ฉันยอมรับสิ่งที่ฉันเปลี่ยนแปลงไม่ได้
ความกล้าหาญที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันทำได้
และปัญญาที่จะรู้ถึงความแตกต่าง
พระเจ้าขอให้ฉันสบายใจที่จะยอมรับสิ่งที่ฉันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
ขอให้ฉันกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันสามารถเปลี่ยนแปลงได้
และให้สติปัญญาแก่ฉันในการแยกแยะความแตกต่างจากอีกสิ่งหนึ่ง
ตัวเลือกการแปล:
พระเจ้าประทานคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมสามประการแก่ฉัน:
ความกล้าหาญ - ต่อสู้ในที่ที่ฉันสามารถเปลี่ยนแปลงบางสิ่งได้
ความอดทน - ยอมรับในสิ่งที่ฉันรับมือไม่ได้
และหัวบนไหล่ - เพื่อแยกความแตกต่างจากที่อื่น
ดังที่นักท่องจำหลายคนชี้ให้เห็นคำอธิษฐานนี้แขวนอยู่บนโต๊ะทำงานของประธานาธิบดีจอห์นเอฟเคนเนดีแห่งสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปีพ. ศ. 2483 มีการใช้งานโดยผู้ไม่ประสงค์ออกนามซึ่งทำให้เกิดความนิยมเช่นกัน
ชาวยิวเข้ามาหาแรบไบด้วยความรู้สึกผิดหวัง:
- Rebbe ฉันมีปัญหาเช่นนี้ปัญหาเช่นนี้ฉันแก้ไม่ได้!
“ ในคำพูดของคุณฉันเห็นความขัดแย้งที่ชัดเจน” แรบไบกล่าว“ ผู้ทรงอำนาจสร้างเราแต่ละคนและรู้ว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง หากเป็นปัญหาของคุณคุณสามารถแก้ไขได้ หากคุณไม่สามารถจ่ายได้นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาของคุณ
และคำอธิษฐานของผู้อาวุโส Optina
ข้า แต่พระเจ้าขอให้ข้าพระองค์สบายใจที่จะได้พบกับทุกสิ่งที่วันที่จะมาถึงนี้ ให้ฉันยอมจำนนต่อความประสงค์ของนักบุญของคุณโดยสิ้นเชิง ทุก ๆ ชั่วโมงของวันนี้แนะนำและสนับสนุนฉันในทุกๆเรื่อง ไม่ว่าฉันจะได้รับข่าวสารอะไรในระหว่างวันจงสอนฉันให้ยอมรับพวกเขาด้วยจิตวิญญาณที่สงบและเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่าทุกสิ่งเป็นพระประสงค์อันบริสุทธิ์ของคุณ ในคำพูดและการกระทำทั้งหมดของฉันนำทางความคิดและความรู้สึกของฉัน ในกรณีที่ไม่คาดฝันอย่าให้ฉันลืมว่าทุกอย่างถูกส่งลงมาโดยคุณ สอนให้ฉันปฏิบัติตามอย่างตรงไปตรงมาและมีเหตุผลกับสมาชิกทุกคนในครอบครัวโดยไม่ทำให้ใครอับอายหรือทำให้เสียใจ พระเจ้าขอให้ฉันมีความเข้มแข็งที่จะอดทนต่อความเหนื่อยล้าในวันที่จะมาถึงและเหตุการณ์ทั้งหมดในระหว่างวัน นำเจตจำนงของฉันและสอนฉันให้สวดอ้อนวอนเชื่อหวังอดทนให้อภัยและรัก สาธุ.
นี่คือวลีของ Marcus Aurelius ต้นฉบับ:“ ต้องใช้สติปัญญาและความสบายใจที่จะยอมรับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นไปได้และใช้สติปัญญาในการแยกแยะสิ่งหนึ่งจากอีกสิ่งหนึ่ง” มันเป็นความคิดความเข้าใจ แต่ไม่ใช่การอธิษฐาน
บางทีคุณอาจจะถูก เราอ้างอิงข้อมูล Wikipedia
และนี่คือคำอธิษฐานอีกครั้ง: "ขอพระเจ้าให้ฉันสบายใจที่จะยอมรับสิ่งที่ฉันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้มุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันทำได้และขอให้โชคดีเพื่อที่จะไม่ทำให้มันเสียหาย"
การยืนยันเป็นวลีคำสั่งที่สร้างขึ้นในเชิงบวกซึ่งทำงานเหมือนการสะกดจิตตัวเองด้วยงาน
การกระทำโดยเจตนาคือการกระทำที่ถูกต้องเมื่อทำได้ง่ายกว่าหรือคุ้นเคยมากกว่าที่จะกระทำไม่ถูกต้อง ดรู.
มีปรัชญาของการพัฒนามีปรัชญาของการป้องกันทางจิตวิทยา การประกาศยอมรับความเป็นจริงคือ
พระเจ้าเป็นอย่างไรบ้างที่เราเดินทางน่าแปลกใจและชื่นชมความสูงของภูเขาอันกว้างใหญ่
ในการปฏิบัติทางจิตวิทยาจิตอายุรเวชการให้คำปรึกษาการศึกษาและพัฒนาการของโดส
การฝึกอบรมผู้ฝึกสอนนักจิตวิทยาที่ปรึกษาและโค้ช ประกาศนียบัตรการฝึกอบรมวิชาชีพ
โปรแกรมการพัฒนาตนเองระดับสูงสำหรับคนที่ดีที่สุดและผลงานที่โดดเด่น
ขอให้กล้าเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ ..
มีคำอธิษฐานที่ไม่เพียง แต่ผู้ที่นับถือคำสารภาพต่างๆเท่านั้น แต่แม้แต่ผู้ที่ไม่เชื่อก็ยังพิจารณาถึงคำสารภาพของพวกเขา ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Serenity Prayer - "Prayer for peace of mind" นี่คือหนึ่งในตัวเลือก:
ทำไม Vonnegut ถึงเข้าใจได้ ในปี 1970 มีการแปลนวนิยายเรื่อง Slaughterhouse Five หรือ Children's Crusade (1968) ใน Novy Mir มันกล่าวถึงคำอธิษฐานที่แขวนอยู่ในสำนักงานออพโตเมตริกของ Billy Pilgrim ตัวเอกของนวนิยายเรื่องนี้
สิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ "
สิ่งที่คุณแก้ไขไม่ได้ "
("จดหมายถึงลูซิลิอัส", 108, 9)
ชอบ: ผู้ใช้ 35 คน
- 35 ฉันชอบการบันทึก
- 115 ยกมาโดย
- 1
บันทึกแล้ว
- 115 เพิ่มในหนังสือใบเสนอราคา
- 1 บันทึกลงในลิงก์
อะไรทำนองนั้นคล้ายกับที่เขียนไว้ข้างบน
ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่น่าสนใจฉันจะรู้
คำอธิษฐานถึงพระเจ้าควรมาจากจิตวิญญาณของคุณผ่านหัวใจของคุณและแสดงออกด้วยคำพูดของคุณ
การพูดซ้ำ ๆ อย่างโง่ ๆ หลังจากใครบางคนคุณจะไม่บรรลุสิ่งที่คุณต้องการเพราะไม่ใช่คุณที่พูด และถ้าสำหรับสิ่งนี้เขาได้อธิษฐานด้วยถ้อยคำเช่นนี้และได้รับความดีและเขียนมันลงสำหรับตัวเขาเองและลูกหลานของเขาฉันแน่ใจว่าเป้าหมายของเขาไม่ใช่การที่คุณพูดซ้ำคำ
และสามารถดูเป็นแนวทางในการดำเนินการได้
ขอพระเจ้าขอให้ฉันสบายใจเพื่อที่ฉันจะยอมรับในสิ่งที่ฉันเปลี่ยนแปลงไม่ได้กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันทำได้และสติปัญญาจะแตกต่างจากคนอื่นเสมอ
สิ่งที่บิลลี่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้คืออดีตปัจจุบันและอนาคต "
(แปลโดย Rita Wright-Kovaleva)
ปรากฏครั้งแรกในการพิมพ์เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2485 เมื่อหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สตีพิมพ์จดหมายจากผู้อ่านที่ถามว่าคำอธิษฐานนี้มาจากไหน จุดเริ่มต้นเท่านั้นที่ดูแตกต่างไปบ้าง แทนที่จะเป็น "ให้ใจฉันสงบ" - "อดทนหน่อย" เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมผู้อ่าน New York Times อีกคนรายงานว่าคำอธิษฐานนี้แต่งโดยนักเทศน์โปรเตสแตนต์ชาวอเมริกัน Reinhold Niebuhr (1892-1971) เวอร์ชันนี้สามารถพิจารณาพิสูจน์ได้แล้ว
สิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ "
สิ่งที่คุณแก้ไขไม่ได้ "
("จดหมายถึงลูซิลิอัส", 108, 9)
ต่อไปนี้เป็นคำอธิษฐาน "ที่ไม่ใช่ศีล" เพิ่มเติม:
- สิ่งที่เรียกว่า "การอธิษฐานเพื่อวัยชรา" ซึ่งส่วนใหญ่มักมาจากนักเทศน์ชาวฝรั่งเศสชื่อดังฟรานซิสเดอเซลส์ (1567-1622) และบางครั้งก็เป็นของโทมัสควีนาส (1226-1274) ในความเป็นจริงมันปรากฏขึ้นเมื่อไม่นานที่ผ่านมา
คำอธิษฐานนี้เป็นของแพทย์ชาวอเมริกัน William Mayo (1861-1939)
"พระเจ้าช่วยฉันกลายเป็นอย่างที่สุนัขของฉันคิดว่าฉันเป็น!" (ไม่ทราบผู้แต่ง).
พระเจ้า! ขอความเข้มแข็งเพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้อดทนยอมรับในสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้และให้เหตุผลแก่ฉัน
พระเจ้ารับและยอมรับอิสรภาพของฉันความทรงจำความเข้าใจและความตั้งใจของฉันทุกอย่างที่ฉันเป็นและที่ฉันมีคุณมอบให้ฉัน
พระเจ้าโปรดให้ฉันอดทนที่จะยอมรับในสิ่งที่ฉันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ให้พลังแก่ฉันที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นไปได้และให้สติปัญญาแก่ฉันในการเรียนรู้ที่จะแยกแยะสิ่งแรกกับสิ่งที่สอง
การมีชีวิตอยู่ทุกวันมีความสุขทุกช่วงเวลายอมรับความยากลำบากเป็นหนทางสู่สันติสุขมองเหมือนพระเยซูในโลกแห่งบาปนี้อย่างที่เป็นอยู่ไม่ใช่อย่างที่ฉันอยากเห็น
เชื่อเถอะว่าคุณจะจัดการทุกอย่างให้ดีขึ้นถ้าฉันยอมรับน้ำพระทัยของคุณเพื่อที่ฉันจะได้มีความสุขมากพอในชีวิตนี้และมีความสุขอย่างไม่น่าเชื่อกับคุณในชีวิตที่จะมาถึง
ขอพระเจ้าประทานสุขภาพและสติปัญญาทางโลก ... ขอบคุณ
และยังมี "คำอธิษฐานของแม่" โดย E. Shustryakova
ลมมีแนวโน้มที่จะพัดเทียนของฉันออก ...
ยกโทษให้ฉันและยอมรับการกลับใจ
มีเพียงคุณเท่านั้นที่รู้ว่าจะรักได้อย่างไร
และเข้าใจความทุกข์ทางร่างกาย.
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงรับร่างมนุษย์ ...
ความเมตตาของคุณเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเข้าใจได้
คุณเป็นและเป็นอยู่และเป็นนิรันดร์เสมอ!
อย่าปล่อยให้การคุกคามของการต่อสู้มรรตัย!
และฉันเชื่อว่ามันจะช่วยพวกเขาจากความชั่วร้าย
คำอธิษฐานของฉันถูกชะล้างไปด้วยน้ำตา ...
ลมมีแนวโน้มที่จะพัดเทียนของฉันออก
ฉันขอให้คุณอย่าส่งความตายมาให้ฉัน
ตราบใดที่เด็ก ๆ ต้องการฉัน
เต้นแบบไม่มีใครดู !! !
ร้องแบบไม่มีใครได้ยิน !! !
รักราวกับไม่มีใครทำร้ายเธอ !! !
Imasheva Alexandra Grigorievna
นักจิตวิทยาที่ปรึกษา
พลังแห่งการรักษาของคำอธิษฐาน
ผู้ศรัทธาตระหนักดีถึงความจริงที่ว่าการสวดมนต์ทำให้เกิดกำลังใจ ดังที่พวกเขาพูดกันในภาษาสมัยใหม่ว่า "ปรับปรุงคุณภาพชีวิต" การศึกษาทางวิทยาศาสตร์จำนวนมาก (ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญทั้งคริสเตียนและผู้ไม่เชื่อในพระเจ้า) แสดงให้เห็นว่าคนที่สวดอ้อนวอนเป็นประจำและมีสมาธิรู้สึกดีขึ้นทั้งทางร่างกายและจิตใจการอธิษฐานคือการสนทนาของเรากับพระเจ้า หากการสื่อสารกับเพื่อนและคนที่คุณรักมีความสำคัญต่อความเป็นอยู่ของเราการสื่อสารกับพระเจ้าซึ่งเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดและรักที่สุดของเรานั้นสำคัญกว่าเป็นล้นพ้น ท้ายที่สุดความรักที่พระองค์มีต่อเรานั้นไม่ จำกัด อย่างแท้จริง
การอธิษฐานช่วยให้เราจัดการกับความรู้สึกเหงา ในความเป็นจริงพระเจ้าอยู่กับเราเสมอ (พระคัมภีร์กล่าวว่า: "เราอยู่กับคุณตลอดวันจนสิ้นยุค") นั่นคือเราไม่เคยอยู่คนเดียวโดยไม่มีพระองค์ แต่เรามักจะลืมเกี่ยวกับการทรงสถิตของพระเจ้าในชีวิตของเรา การอธิษฐานช่วยให้เรา "นำพระเจ้ามาสู่บ้านของเรา" มันเชื่อมโยงเรากับพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพที่รักเราและต้องการช่วยเรา
คำอธิษฐานที่เราขอบคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งที่พระองค์ส่งมาช่วยให้เรามองเห็นสิ่งดีๆรอบตัวพัฒนาชีวิตในแง่ดีและเอาชนะความท้อแท้ เธอพัฒนาทัศนคติที่รู้สึกขอบคุณต่อชีวิตตรงข้ามกับทัศนคติที่เรียกร้องและไม่พอใจชั่วนิรันดร์ซึ่งเป็นรากฐานของความไม่มีความสุขของเรา
การอธิษฐานซึ่งเราบอกพระเจ้าเกี่ยวกับความต้องการของเราก็มีหน้าที่สำคัญเช่นกัน ในการบอกพระเจ้าเกี่ยวกับปัญหาของเราเราต้องแยกพวกเขาออกไปจัดการและก่อนอื่นยอมรับกับตัวเองว่ามีอยู่จริง ท้ายที่สุดเราทำได้เพียงสวดอ้อนวอนให้ปัญหาเหล่านั้นที่เรารับรู้ว่ามีอยู่
การปฏิเสธปัญหาของตัวเอง (หรือเปลี่ยน "จากอาการเจ็บหัวไปสู่ปัญหาสุขภาพดี") เป็นวิธี "จัดการ" กับความยากลำบากที่แพร่หลายมาก (และไม่ได้ผล) ตัวอย่างเช่นคนที่ติดเหล้ามักปฏิเสธเสมอว่าการเมาสุรากลายเป็นปัญหาสำคัญในชีวิตของเขา เขาบอกว่า:“ ไม่มีอะไรฉันหยุดดื่มได้ทุกเมื่อ ใช่และฉันดื่มไม่มากไปกว่าคนอื่น ๆ "(ตามที่คนขี้เมาพูดในบทประพันธ์ยอดนิยม" ฉันดื่มแค่นิดหน่อย ") ปัญหาร้ายแรงน้อยกว่าการเมาสุราก็ถูกปฏิเสธเช่นกัน คุณสามารถพบตัวอย่างมากมายของการปฏิเสธปัญหาในชีวิตของเพื่อนและญาติของคุณและแม้แต่ในชีวิตของคุณเอง
เมื่อเรานำปัญหาไปบอกพระเจ้าเราถูกบังคับให้ยอมรับเพื่อที่จะเล่าเรื่องนี้ และการตระหนักและกำหนดปัญหาเป็นขั้นตอนแรกในการแก้ไขปัญหา ยังเป็นการก้าวไปสู่ความจริงอีกด้วย การอธิษฐานทำให้เรามีความหวังและสบายใจ เรารับทราบปัญหาและ "มอบ" ให้พระเจ้า
ระหว่างการสวดอ้อนวอนเราแสดงให้พระเจ้าเห็น "ฉัน" ของเราเองซึ่งเป็นบุคลิกของเราตามที่เป็นอยู่ ต่อหน้าคนอื่นเราอาจพยายามแสร้งทำเป็นดูดีขึ้นหรืออย่างอื่น; ต่อหน้าพระเจ้าเราไม่จำเป็นต้องประพฤติเช่นนี้เพราะพระองค์ทรงเห็นถูกต้องผ่านเรา Pretense ไม่มีประโยชน์อย่างยิ่งที่นี่: เราเข้าสู่การสื่อสารแบบเปิดกว้างกับพระเจ้าในฐานะบุคคลที่ไม่เหมือนใครไม่เหมือนใครทิ้งกลอุบายและอนุสัญญาทั้งหมดและเปิดเผยตัวเอง ที่นี่เราสามารถปล่อยให้ตัวเอง "หรูหรา" เป็นตัวของตัวเองอย่างสมบูรณ์และด้วยเหตุนี้จึงให้โอกาสตัวเองสำหรับการเติบโตทางจิตวิญญาณและส่วนบุคคล
การสวดมนต์ทำให้เรามีความมั่นใจนำมาซึ่งความเป็นอยู่ที่ดีความรู้สึกเข้มแข็งขจัดความกลัวช่วยรับมือกับความตื่นตระหนกและเศร้าโศกและสนับสนุนเราในความเศร้าโศก
Anthony Surozhsky เชิญชวนผู้เริ่มต้นสวดมนต์ด้วยคำอธิษฐานสั้น ๆ ต่อไปนี้ (สำหรับแต่ละสัปดาห์):
พระเจ้าช่วยฉันปลดปล่อยตัวเองจากภาพลักษณ์จอมปลอมของคุณไม่ว่าจะมีค่าใช้จ่ายเท่าไร
พระเจ้าช่วยฉันทิ้งความกังวลทั้งหมดของฉันและมุ่งความคิดทั้งหมดไปที่คุณคนเดียว
พระเจ้าช่วยฉันให้เห็นบาปของฉันเองอย่ากล่าวโทษเพื่อนบ้านของฉันและขอให้สง่าราศีทั้งหมดมีแด่คุณ!
ฉันมอบวิญญาณของฉันไว้ในมือของเจ้า ไม่ใช่ของฉันจะทำ แต่เป็นของคุณ
คำอธิษฐานของผู้อาวุโสที่เคารพนับถือและบรรพบุรุษของ Optina
พระเจ้าขอให้ฉันพบกับทุกสิ่งที่จะมอบให้ในวันนี้ด้วยความสบายใจ
พระเจ้าขอให้ฉันยอมจำนนต่อความประสงค์ของคุณโดยสิ้นเชิง
พระเจ้าสำหรับทุก ๆ ชั่วโมงของวันนี้สั่งและสนับสนุนฉันในทุกสิ่ง
พระเจ้าโปรดเปิดเผยให้ฉันเห็นความประสงค์ของคุณสำหรับฉันและคนรอบข้างคุณ
ไม่ว่าฉันจะได้รับข่าวสารอะไรในระหว่างวันขอให้ฉันรับพวกเขาด้วยจิตวิญญาณที่สงบและด้วยความเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่าทุกสิ่งเป็นความประสงค์อันบริสุทธิ์ของคุณ
พระเจ้าผู้ทรงเมตตายิ่งในการกระทำและคำพูดทั้งหมดของฉันนำทางความคิดและความรู้สึกของฉันในสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงทั้งหมดอย่าให้ฉันลืมว่าทุกสิ่งถูกส่งลงมาโดยคุณ
ข้า แต่พระเจ้าขอให้ฉันปฏิบัติกับเพื่อนบ้านแต่ละคนอย่างมีเหตุมีผลไม่ทำให้ใครขุ่นเคืองหรือทำให้อับอาย
ข้า แต่พระเจ้าขอให้ข้ามีความเข้มแข็งที่จะอดทนต่อความเหนื่อยล้าในวันนี้และเหตุการณ์ทั้งหมดในช่วงนั้น นำทางเจตจำนงของฉันและสอนฉันให้สวดอ้อนวอนและรักทุกคนอย่างไม่ใส่ใจ
คำอธิษฐานทุกวันของ ST. FILARET
พระเจ้าฉันไม่รู้จะถามอะไรจากคุณ คุณคนเดียวที่รู้ว่าฉันต้องการอะไร คุณรักฉันมากกว่าที่ฉันรู้วิธีรักตัวเอง ให้ฉันเห็นความต้องการของฉันที่ซ่อนอยู่จากฉัน ฉันไม่กล้าที่จะขอข้ามหรือปลอบใจฉันปรากฏตัวต่อหน้าคุณเท่านั้น หัวใจของฉันเปิดรับคุณ ฉันวางความหวังทั้งหมดดูความต้องการที่ฉันไม่รู้เห็นและทำกับฉันตามความเมตตาของคุณ บดขยี้และยกฉัน ตีและรักษาฉัน ฉันเคารพและนิ่งเงียบต่อหน้าพระประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์ของคุณซึ่งไม่สามารถเข้าใจได้สำหรับฉันชะตากรรมของคุณ ฉันไม่มีความปรารถนาใด ๆ นอกจากความปรารถนาที่จะทำตามความประสงค์ของคุณ สอนฉันให้สวดมนต์ อธิษฐานในตัวฉันเอง สาธุ.
สวดมนต์เพื่อความสบายใจ
พระเจ้าโปรดให้เหตุผลและความสบายใจแก่ฉันที่จะยอมรับสิ่งที่ฉันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ฉันทำได้และสติปัญญาในการแยกแยะสิ่งหนึ่งจากอีกสิ่งหนึ่ง
คำอธิษฐานฉบับสมบูรณ์นี้:
ช่วยฉันด้วยความถ่อมใจยอมรับสิ่งที่ฉันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
ขอให้ฉันกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ทำได้
และภูมิปัญญาที่จะบอกคนอื่นจากคนอื่น
ช่วยฉันอยู่กับความกังวลของวันนี้
ชื่นชมยินดีทุกนาทีโดยตระหนักถึงความไม่จีรังยั่งยืน
ในความทุกข์ยากให้มองเห็นเส้นทางที่นำไปสู่ความสงบใจและสันติ
ที่จะยอมรับเช่นเดียวกับพระเยซูโลกแห่งบาปนี้เป็น
เขาเป็นไม่ใช่แบบที่ฉันอยากเจอ
เชื่อว่าชีวิตของฉันจะเปลี่ยนไปเพื่อความดีตามความประสงค์ของคุณถ้าฉันมอบความไว้วางใจให้กับเธอ
ด้วยวิธีนี้ฉันจะพบว่าอยู่กับคุณในชั่วนิรันดร์
