Walden หรือชีวิตในป่า

ภาพสะท้อนเหล่านี้เป็นประโยคที่จงใจและมีสติของอารยธรรมทอโรสมัยใหม่ ซึ่งเปลี่ยนผู้คนให้กลายเป็น "เครื่องมือของเครื่องมือ" ซึ่งขับไล่ "ความเป็นมนุษย์ของมนุษย์" “สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในตัวเราเหลืออยู่อย่างไร” ธอโรตอบคำถามนี้ด้วยความสันโดษสองปีของเขา ตั้งค่าการทดลองกับตัวเอง จุดประสงค์คือเพื่อพยายามค้นหาจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาอีกครั้งผ่านการวิเคราะห์ความต้องการที่แท้จริงของบุคคล เพื่อกลับไปยังจุดเริ่มต้นของ สูญเสียความสามัคคีกับโลกเพื่อทำความเข้าใจสาเหตุของการสูญเสียนี้และหาวิธีที่จะฟื้นฟู

ภาพสะท้อนเหล่านี้เป็นคำตัดสินโดยเจตนาและมีสติของอารยธรรมทอโรสมัยใหม่ ซึ่งทำให้ผู้คนกลายเป็น "เครื่องมือของเครื่องมือ" ซึ่งขับไล่ "ความเป็นมนุษย์ของมนุษย์" “สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในตัวเราเหลืออยู่อย่างไร” ธอโรตอบคำถามนี้ด้วยความสันโดษสองปีของเขา ตั้งค่าการทดลองกับตัวเอง จุดประสงค์คือการพยายามอีกครั้งเพื่อค้นหาจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาผ่านการวิเคราะห์ความต้องการที่แท้จริงของบุคคลเพื่อกลับไปยังจุดเริ่มต้นของ สูญเสียความสามัคคีกับโลกเพื่อทำความเข้าใจสาเหตุของการสูญเสียนี้และหาวิธีที่จะฟื้นฟู

“ มนุษย์พยายามเพียงเล็กน้อย ... ” Thoreau พยายาม - เขาปลูกฝังที่ดิน, หว่าน, เก็บเกี่ยว - ข้าวไรย์, มันฝรั่ง, ถั่ว, หัวบีท, ถั่ว; จากอิฐเก่าเขาสร้างเตาไฟในบ้านซึ่งเขาจะปิ้งขนมปังและปรุงอาหารของเขาเอง รวบรวมผลเบอร์รี่และจับปลา และปรากฎว่า “ความต้องการทางกายภาพ” ต้องใช้เวลาเพียงเล็กน้อยจากบุคคลที่มีชีวิตอยู่ด้วยความรู้สึก “ขอบคุณพระเจ้าโดยตรงสำหรับของประทานแห่งชีวิต”

"ชีวิตในป่า" เป็นคำตอบโดยละเอียดสำหรับคำถาม: "คนต้องการอะไร" คำตอบของคนที่จริงใจและเรียบง่ายอย่างยิ่ง - "เราหั่นขนมปังฝ่ายวิญญาณของเราให้บางกว่าบรรพบุรุษของเรามาก - ข้าวสาลี"

ผู้เขียนค้นพบความสำคัญที่มีชีวิตของหลักการทางศีลธรรมอีกครั้งโดยตัวเขาเอง (และเรา) บนฝั่งของ Walden Pond ในบท "การอ่าน", "เสียง", "ความเหงา", "เพื่อนบ้านที่ไร้คำพูด" - ประสบการณ์ทางจิตวิญญาณของชายผู้ไม่หยุดทำงานเพื่อกลับมาหามนุษย์ "... เพราะมารมักหางานทำมือเปล่า ."

การอ่านก็เหมือนงาน การสัมภาษณ์ และการสานต่อบทสนทนากับผู้ที่ “…อยู่ใกล้เราที่สุด…กับคนที่สร้างเราขึ้นมา” นี่เป็นบทเรียนที่ยอดเยี่ยมและช้า (ไม่ใช่คู่มือ) ของการเรียนรู้เชิงรุกจาก Thoreau

ผู้อ่านจะได้รับบทเรียนดนตรีจาก “คู่สนทนาแห่งสายลม” ในบท “เสียง” และจะเข้าใจว่าการฟังไม่ได้หมายถึงการได้ยิน เราเห็น "เส้นทาง" อื่นใน "ป่า" นี้ ซึ่งคุณสามารถ "... เดินข้างผู้สร้างจักรวาล"

มีเก้าอี้เพียงสามตัวในอาศรมของธอโร หนึ่งสำหรับความสันโดษ สองสำหรับการสนทนาที่เป็นมิตร และสามสำหรับแขกเมื่อพวกเขามาถึง อาศรมของ Thoreau เปิดกว้าง ใครๆ ก็มองได้ และ "เพื่อนที่ตีความพระเจ้าอย่างอดทน ประทับในรูปของมนุษย์" และ "ความบิดเบี้ยวและความคล้ายคลึงของมนุษย์" ไม่มีใครและไม่มีอะไรมาขัดขวางการวิจัยที่กำลังดำเนินอยู่ใน "การประชุมเชิงปฏิบัติการ" นี้เกี่ยวกับรากฐานที่แท้จริงของการสร้างชีวิตในฐานะ "บ้าน" ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้เก้าอี้มากกว่า 3 ตัว

สถาปนิกชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่าหากไม่มีหนังสือเล่มนี้ก็ไม่มีสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ แม่บ้านสามารถพบข้อสังเกตที่เป็นประโยชน์มากมายเกี่ยวกับการดูแลทำความสะอาด กวีเริ่มต้น - กวีนิพนธ์เล็ก ๆ ของกวีโลก ผู้ชื่นชอบ "ปัญญาสำเร็จรูป" คือการรวบรวมคำพังเพยที่ยอดเยี่ยม นักศาสนศาสตร์ที่สงสัยจะได้ยินคำเทศนาที่ร่าเริง และพ่อผู้เป็นที่รักจะขุดหานิทานสักสองสามเรื่องที่สามารถเล่าให้ลูกฟังในตอนกลางคืนได้

"ให้ทุกคนหันมาสนใจธุรกิจของตัวเอง และพยายามเป็นในสิ่งที่เขาเกิดมาเพื่อเป็น" เฮนรี่ เดวิด ธอโร.

ข้อความเต็ม...

ข้อความสั้นๆ...

แพทย์ควรแนะนำให้ผู้ป่วยเปลี่ยนสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมอย่างชาญฉลาด ขอบคุณพระเจ้า โลกไม่ได้มาบรรจบกันเหมือนลิ่ม ในนิวอิงแลนด์ ไม่มีเกาลัดม้าเติบโตและไม่ค่อยได้ยินนกกระเต็น ห่านป่ามีความเป็นสากลมากกว่าเรา เขารับประทานอาหารเช้าในแคนาดา รับประทานอาหารในโอไฮโอ และเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนที่ใดที่หนึ่งทางตอนใต้ กระทั่งกระทิง และเขาพยายามที่จะให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล เขาแทะหญ้าโคโลราโดจนหญ้าในเยลโลว์สโตนเขียวขึ้นและอร่อยขึ้นสำหรับเขา และเราคิดว่าถ้าเราเปลี่ยนรั้วเสาด้วยกำแพงหินในฟาร์มของเรา สิ่งนี้จะปกป้องชีวิตของเราและตัดสินชะตากรรมของเรา หากคุณได้รับเลือกเป็นเลขาธิการรัฐบาลของเมือง แน่นอนว่าคุณจะไม่ไป Tierra del Fuego ในฤดูร้อน แต่คุณยังสามารถพบว่าตัวเองอยู่ในไฟนิรันดร์ โลกกว้างกว่าที่เราเข้าใจ

แต่เราควรมองข้ามตะขอเกี่ยวของเรือของเราให้บ่อยขึ้น เนื่องจากเหมาะกับผู้โดยสารที่อยากรู้อยากเห็น และอย่าใช้เวลาตลอดเหมือนกะลาสีโง่ๆ คลี่เชือก ด้านตรงข้ามของโลกเป็นเพียงสถานที่ที่นักข่าวของเราอาศัยอยู่ ในการเดินทางทั้งหมดของเรา เราอธิบายแต่วงกลม และคำแนะนำของแพทย์นั้นดีสำหรับโรคผิวหนังเท่านั้น อีกคนรีบไปที่แอฟริกาใต้เพื่อล่ายีราฟ แต่นี่ไม่ใช่เกมที่เขาต้องการ และคุณสามารถล่ายีราฟได้นานแค่ไหน? นกปากซ่อมและนกหัวขวานอาจไม่เลวเหมือนกัน แต่ฉันคิดว่ามันดีกว่าที่จะตามล่าเกมผู้สูงศักดิ์ - ตัวคุณเอง

เปลี่ยนการจ้องมองของคุณไปสู่ส่วนลึกของจิตวิญญาณ

ดินที่สึกหรออย่างดีคุณจะพบวิธี

ไปอย่างกล้าหาญกับพวกเขา - อย่ากลัว

สำรวจจิตวิญญาณของคุณเอง บทดัดแปลงเล็กน้อยของทอโรจากบทกวี "ถึงเซอร์เอ็ด เพื่อนที่เคารพนับถือของฉัน ป.อัศวิน" โดยกวีชาวอังกฤษแห่งศตวรรษที่ 17 วิลเลียม เฮบบิงตัน.

แอฟริกาหมายถึงอะไร - และตะวันตกหมายถึงอะไร ไม่มีดินแดนใดที่มีจุดสีขาวบนแผนที่ลึกลงไปในจิตวิญญาณของเราแม้ว่าหากคุณตรวจสอบพวกเขาแล้วอาจกลายเป็นสีดำเหมือนชายฝั่ง? เราต้องการค้นหาอะไร - ต้นกำเนิดของแม่น้ำไนล์ หรือไนเจอร์ หรือมิสซิสซิปปี้ หรือเส้นทางตะวันตกเฉียงเหนือรอบแผ่นดินใหญ่ของเรา เหตุใดคำถามเหล่านี้จึงควรเป็นปัญหาต่อมนุษยชาติมากที่สุด? คือแฟรงคลิน เซอร์ จอห์น แฟรงคลิน (ค.ศ. 1786–1844) นักสำรวจชาวอังกฤษในแถบอาร์กติก ซึ่งเป็นผู้นำการสำรวจเพื่อค้นหาเส้นทางตะวันตกเฉียงเหนือรอบแผ่นดินใหญ่ของอเมริกา ผู้เข้าร่วมทั้งหมดเสียชีวิตและพบศพในปี พ.ศ. 2402 เท่านั้น- คนหายคนเดียวที่ภรรยากังวลเรื่องการค้นหา? คุณกรินเนลล์รู้หรือไม่ Grinnell Henry (1799-1874) - เจ้าของเรือชาวอเมริกันที่ติดตั้งอาวุธในปี ค.ศ. 1850-1853 ออกสำรวจตามหาแฟรงคลินตัวเขาเองอยู่ที่ไหน ดีกว่าเป็น Mungo Park, Lewis, Clark และ Frobisher Park Mungo (1771–1806) - นักเดินทางชาวสก็อต, นักสำรวจของแอฟริกา; Lewis Merryweather (1774-1809) - นักสำรวจทวีปอเมริกา; Clark Edward-Daniel (1769–1822) - นักแร่วิทยาชาวอังกฤษและนักเดินทางในยุโรป อียิปต์ ปาเลสไตน์; Sir Martin Frobisher (1539-1594) - นักเดินเรือชาวอังกฤษที่กำลังมองหาเส้นทางตะวันตกเฉียงเหนือจากมหาสมุทรแอตแลนติกไปยังมหาสมุทรแปซิฟิกแม่น้ำและมหาสมุทรของคุณเอง สำรวจละติจูดสูงของคุณเอง - ตุนเนื้อกระป๋องไว้เต็มเพื่อรักษาความแข็งแกร่งของคุณ หากจำเป็น และกองกระป๋องเปล่าขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการบรรลุเป้าหมายของคุณ การเก็บรักษาเนื้อมีไว้เพื่อถนอมเนื้อของเราเท่านั้นหรือ ? ไม่ กลายเป็นโคลัมบัสของทวีปและโลกใหม่ทั้งหมดในตัวคุณ ค้นพบวิธีการใหม่ ไม่ใช่เพื่อการค้า แต่เพื่อความคิด เราแต่ละคนเป็นเจ้าของประเทศ ถัดจากที่การครอบครองของโลกของซาร์รัสเซียดูเหมือนเป็นรัฐแคระ ซึ่งเป็นเนินเขาที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็ง แต่มีคนรักชาติที่ไม่เคารพตัวเองและเสียสละมากขึ้นเพื่อประโยชน์น้อย พวกเขารักโลกที่หลุมฝังศพของพวกเขาจะถูกขุด แต่ไม่ใช่วิญญาณที่ยังคงสร้างแรงบันดาลใจให้กับร่างกายมรรตัยของพวกเขา ความรักชาติของพวกเขาเป็นเพียงความตั้งใจ การสำรวจทะเลใต้คืออะไร หมายถึงการเดินทางของกองทัพเรือสหรัฐฯ นำโดย Charles Wilkes ซึ่งในปี 1838-1842 สำรวจภูมิภาคแปซิฟิกใต้และแอนตาร์กติกด้วยโฆษณาและค่าใช้จ่ายทั้งหมดไม่ใช่การรับรู้ทางอ้อมว่าในโลกคุณธรรมมีทวีปและทะเลซึ่งแต่ละคนเป็นคอคอดหรือ fiord ยังไม่ได้สำรวจด้วยตัวเอง แต่มันกลับกลายเป็นว่าง่ายกว่าที่จะแล่นเรือเป็นระยะทางหลายพันไมล์ในเรือของรัฐบาลด้วยผู้ช่วยห้าร้อยคน เผชิญกับความหนาวเย็น พายุ และอันตรายจากการเผชิญหน้ากับมนุษย์กินเนื้อ มากกว่าการสำรวจทะเลของคุณเอง มหาสมุทรแอตแลนติก และมหาสมุทรแปซิฟิกของคุณเอง

Erret และสุดขั้วเปลี่ยนนักปราชญ์ Iberos

บวกตัวอักษร hie vitae และตัวอักษร ille viae

ปล่อยให้พวกเขาเดินเตร่ ศึกษาออสเตรเลีย

พวกเขาจะมองเห็นโลก แต่ฉันจะเห็นพระเจ้า บทกวี "เกี่ยวกับชายชราจากเวโรนา" โดยกวีชาวโรมันผู้ล่วงลับ Claudius Claudian (365?-404 AD) ซึ่ง Thoreau แปลแทนที่คำว่า "Iberos" ("สเปน") ด้วยคำว่า "ออสเตรเลีย"

คุณไม่จำเป็นต้องเดินทางไปทั่วโลกเพื่อนับแมวในแซนซิบาร์ การประชดของ Thoreau หมายถึงหนังสือของนักธรรมชาติวิทยาชาวอเมริกันในศตวรรษที่ 19 Charles Pickering การกระจายทางภูมิศาสตร์ของสัตว์และพืช (1854) ซึ่งเขียนขึ้นจากการสำรวจที่ยาวนานและการกล่าวถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งแมวบ้านในแซนซิบาร์แต่ในขณะที่คุณไม่รู้อะไรเลย อย่างน้อยทำสิ่งนี้ และในที่สุดคุณอาจพบ Simms Hole American John Cleaves Simms (1780–1829) แนะนำในปี 1818 ว่าโลกว่างเปล่าข้างในและมีรูที่เสา สมมติฐานที่น่าอัศจรรย์นี้ถูกใช้โดย Edgar Allan Poe ในหลายเรื่อง รวมถึง Manuscript Found in a Bottleที่คุณสามารถเข้าไปอยู่ในตัวเองได้ อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน และโปรตุเกส โกลด์โคสต์ และชายฝั่งสเลฟ โคสต์ ทั้งหมดอยู่ติดทะเลภายในนี้ แต่ไม่มีเรือลำเดียวของประเทศเหล่านี้ที่กล้าที่จะละสายตาจากชายฝั่งถึงแม้จะเป็นเส้นทางตรงไปยังอินเดียอย่างไม่ต้องสงสัย . หากคุณต้องการเรียนรู้ทุกภาษา เรียนรู้ธรรมเนียมปฏิบัติของทุกคน เดินทางให้ไกลที่สุดจากนักเดินทางทุกคน ทำตัวให้สบายกับทุกสภาพอากาศ และทำให้สฟิงซ์ทุบหินให้แตก ในตำนานเทพเจ้ากรีก สฟิงซ์เป็นสัตว์ประหลาดที่สร้างปริศนาให้กับนักเดินทางและกินผู้ที่ไม่สามารถไขปริศนาได้ เมื่อ Oedipus คิดออก สฟิงซ์ก็เอาหัวโขกหินฟังคำแนะนำของปราชญ์โบราณและรู้จักตัวเอง คำพูดของนักปรัชญาชาวกรีกหลายคนนี่คือจุดที่ต้องใช้ความระมัดระวังและความกล้าหาญ มีเพียงผู้สิ้นฤทธิ์และผู้ทิ้งร้างเท่านั้นที่เข้าสู่สงคราม มีเพียงคนขี้ขลาดเท่านั้นที่วิ่งไปเกณฑ์ เริ่มต้นการเดินทางที่ไกลที่สุดไปทางทิศตะวันตก ซึ่งไม่ได้สิ้นสุดในมิสซิสซิปปี้หรือมหาสมุทรแปซิฟิก และไม่นำไปสู่ความเสื่อมโทรมของประเทศจีนและญี่ปุ่น แต่จะเดินทางไปทั่วโลก ตามเส้นทางนี้ในฤดูร้อนและฤดูหนาว กลางวันและกลางคืน เวลาพระอาทิตย์ตกและพระอาทิตย์ตกของดวงจันทร์ และสุดท้ายคือพระอาทิตย์ตกดิน

มีราบู Mirabeau Honoré-Gabriel, Count (ค.ศ. 1749–1791) - บุคคลในการปฏิวัติชนชั้นกลางของฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1789 ซึ่งภายหลังโกงเธอพยายามที่จะมีส่วนร่วมในการปล้นบนทางหลวง "ต้องการสัมผัสกับความมุ่งมั่นที่จำเป็นสำหรับการท้าทายอย่างเปิดเผยของกฎหมายที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของสังคม" เขาประกาศว่า "ทหารในสนามรบไม่ต้องการความกล้าหาญแม้แต่ครึ่งเดียวที่โจรต้องการ" "เกียรติยศและศาสนาไม่เคยขัดขวางความตั้งใจแน่วแน่และแน่วแน่" ตามมาตรฐานปกติของเรา มันเป็นลูกผู้ชาย และยัง - ความคิดนั้นว่างและสิ้นหวัง คนที่มีสติสัมปชัญญะมักไม่เชื่อฟังสิ่งที่ถือว่าเป็น "กฎที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของสังคม" ผู้ที่เชื่อฟังกฎหมายที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าเดิม และสามารถทดสอบความตั้งใจของเขาได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ อีก บุคคลไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งดังกล่าวในความสัมพันธ์กับสังคม เพียงพอแล้วสำหรับเขาที่จะรักษาตำแหน่งซึ่งการเชื่อฟังกฎแห่งธรรมชาติของเขาต้องการจากเขา และนี่ไม่ใช่รัฐบาลที่ยุติธรรม หากเพียงพบสิ่งนี้เท่านั้นที่สามารถพิจารณาการไม่เชื่อฟังได้

ฉันออกจากป่าด้วยเหตุผลที่สำคัญพอๆ กันเมื่อฉันตั้งรกรากอยู่ที่นั่น บางทีฉันอาจรู้สึกว่าฉันมีชีวิตอีกสองสามชีวิตและไม่สามารถใช้เวลามากกว่านี้กับชีวิตนี้ได้ เป็นเรื่องน่าทึ่งที่เราเคยชินกับวิถีชีวิตบางอย่างได้ง่ายและมองไม่เห็น และเราดำเนินชีวิตได้เร็วเพียงใด ฉันไม่ได้อยู่ที่นั่นแม้แต่สัปดาห์เดียว และเท้าของฉันได้เหยียบเส้นทางจากประตูสู่สระน้ำแล้ว และถึงแม้เวลาจะผ่านไปห้าหรือหกปีตั้งแต่นั้นมา แต่ก็ยังสังเกตเห็นได้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ที่คนอื่นจะเดินบนนั้นด้วย ดังนั้นจึงไม่รก พื้นผิวโลกมีความนุ่มนวลและสามารถสัมผัสได้ถึงเท้ามนุษย์ ก็เป็นไปตามวิถีที่จิตของมนุษย์เคลื่อนไป ทางหลวงของโลกจะต้องเป็นร่องและเต็มไปด้วยฝุ่นเพียงใด - ร่องของขนบธรรมเนียมและขนบธรรมเนียมประเพณีของพวกเขานั้นลึกเพียงใด! ฉันไม่ต้องการที่จะเดินทางในกระท่อม ฉันชอบที่จะไปเป็นกะลาสีธรรมดาและอยู่บนดาดฟ้าของโลก จากที่ที่แสงจันทร์บนภูเขามองเห็นได้ดีกว่า ยังไม่อยากลง

ไม่ว่าในกรณีใด ประสบการณ์ของฉันได้สอนฉันถึงสิ่งต่อไปนี้: ถ้าคนๆ หนึ่งก้าวไปสู่ความฝันของเขาอย่างกล้าหาญและพยายามดำเนินชีวิตตามที่เขาบอก ความสำเร็จจะรอเขาอยู่ ซึ่งไม่ได้มีอยู่ในชีวิตประจำวัน เขาจะทิ้งบางสิ่งไว้ข้างหลัง ก้าวข้ามขอบเขตที่มองไม่เห็น กฎหมายใหม่ที่เป็นสากลและเสรีจะถูกสร้างขึ้นรอบตัวเขาและในตัวเขา มิฉะนั้นกฎหมายเก่าจะถูกตีความตามความโปรดปรานของเขาในความหมายที่กว้างกว่า และเขาจะได้รับอิสรภาพเนื่องจากสิ่งมีชีวิตที่สูงกว่า ยิ่งเขาทำให้ชีวิตของเขาง่ายขึ้น กฎสากลก็จะยิ่งปรากฏแก่เขามากขึ้นเท่านั้น และความเหงาจะไม่กลายเป็นความเหงาสำหรับเขา ความยากจนจะเลิกเป็นความยากจน และความอ่อนแอจะหยุดความอ่อนแอ หากคุณได้สร้างปราสาทในอากาศ งานของคุณก็ไม่สูญเปล่า นั่นคือที่ที่พวกเขาอยู่ คุณเพียงแค่ต้องสร้างรากฐานสำหรับพวกเขา

อังกฤษและอเมริกาเรียกร้องไร้สาระ: พูดเพื่อให้พวกเขาเข้าใจคุณ ภายใต้เงื่อนไขนี้ทั้งบุคคลและเห็ดสกปรกจะไม่เติบโต ราวกับว่าสิ่งนี้สำคัญมาก และไม่มีใครเข้าใจคุณนอกจากพวกเขา แน่นอน ธรรมชาติสามารถเข้าใจได้เพียงแบบเดียว และไม่มีนกในตัวเธอ ไม่ใช่แค่สัตว์สี่ขาที่บินได้ ไม่ใช่แค่สัตว์คลานเท่านั้น ตัวอย่างที่ดีที่สุดของภาษาอังกฤษคือ "tes!" และ "shh!" เข้าใจได้สำหรับ Bright; ความรอดของเราอยู่ในความโง่เขลาเพียงอย่างเดียว ความกลัวที่ใหญ่ที่สุดของฉันคือการแสดงออกของฉันไม่เพียงพอ ฟุ่มเฟือยจะไม่ก้าวข้ามขอบเขตแคบ ๆ ของประสบการณ์ประจำวันของฉันและจะไม่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของความจริงที่ฉันเชื่อมั่น ความฟุ่มเฟือย? ทุกอย่างขึ้นอยู่กับขนาดของคอกข้างสนามม้าของคุณ ควายที่กำลังมองหาทุ่งหญ้าใหม่ในละติจูดอื่น ๆ นั้นฟุ่มเฟือยน้อยกว่าวัวที่กระแทกถังระหว่างการรีดนม กระโดดข้ามรั้วและวิ่งไปที่ลูกวัวของเธอ ฉันต้องการพูดโดยปราศจากอุปสรรค เหมือนผู้ชายที่ตื่นจากความฝันร่วมกับคนอื่นๆ เช่นนี้ เพราะฉันเชื่อมั่นว่าฉันไม่สามารถพูดเกินจริงได้มากเท่ากับการสร้างการแสดงออกใหม่จริงๆ หลังจากฟังเพลงแล้วใครกลัวที่จะพูดฟุ่มเฟือยเกินไปหลังจากนั้น? เพื่ออนาคตหรือความเป็นไปได้ จำเป็นต้องมีโครงร่างที่คลุมเครือและไม่ชัดที่สุดจากด้านหน้าอาคาร เงาของเราจึงระเหยไปในทิศทางของดวงอาทิตย์โดยไม่รู้ตัว ความจริงที่ผันผวนของคำพูดของเราต้องเปิดเผยอย่างต่อเนื่องถึงความไม่เพียงพอของสิ่งที่เหลืออยู่ในตะกอน ความจริงของพวกเขาได้รับการแปลทันที เหลือเพียงความหมายตามตัวอักษรเท่านั้น ถ้อยคำที่แสดงถึงศรัทธาและความศรัทธาของเรานั้นไม่มีกำหนด แต่สำหรับธรรมชาติที่สูงกว่านั้น คำเหล่านั้นเต็มไปด้วยความหมายและกลิ่นหอม

เหตุใดจึงจมลงไปถึงขีดจำกัดต่ำสุดของการรับรู้ของเราและยกย่องภายใต้ชื่อสามัญสำนึก สามัญสำนึกที่สุดคือความรู้สึกของคนนอนหลับซึ่งแสดงออกโดยการกรน บางครั้งเรามีแนวโน้มที่จะจำแนกคนครึ่งฉลาดเป็นครึ่งฉลาดเพราะเรารับรู้เพียงหนึ่งในสามของจิตใจของพวกเขา มีพวกที่ไม่ชอบรุ่งสางหากพวกเขาตื่นแต่เช้าเท่านั้น "บทกวีของ Kabir", Kabir (1440–1518) – กวีชาวอินเดียและนักปฏิรูปศาสนาเมื่อฉันได้ยิน "มีสี่ความหมายที่แตกต่างกัน - ภาพมายา วิญญาณ สติปัญญา และคำสอนลึกลับของพระเวท" ข้อความอ้างอิงจาก Garcin de Tassy M. Histoire de la litterature hindoue ปารีส ค.ศ. 1839และในประเทศของเรา หากองค์ประกอบของบุคคลอนุญาตให้ตีความได้มากกว่าหนึ่งข้อ ถือว่าเป็นสาเหตุการร้องเรียน ในอังกฤษ พวกเขากำลังมองหาวิธีรักษาโรคมันฝรั่ง แต่ทำไมไม่มีใครมองหาวิธีรักษาโรคทางจิต ซึ่งพบได้บ่อยและอันตรายกว่ากันมาก

ฉันไม่คิดว่าฉันประสบความสำเร็จในการบรรลุความไม่เข้าใจ แต่ฉันจะภูมิใจถ้าในแง่นี้ ไม่มีการกล่าวหาอื่นใดในเพจของฉันมากไปกว่าการต่อต้าน Walden Ice ผู้บริโภคชาวใต้คัดค้านสีน้ำเงินซึ่งพิสูจน์ความบริสุทธิ์ พวกเขาคิดว่ามันสกปรกและชอบน้ำแข็งเคมบริดจ์ซึ่งมีสีขาวแต่มีกลิ่นของโคลน ความบริสุทธิ์ที่คนชอบคือหมอกที่ปกคลุมโลก ไม่ใช่อากาศสีฟ้าของที่สูง

บางคนบอกเราว่าเราเป็นคนอเมริกันและคนสมัยใหม่โดยทั่วไป เป็นคนแคระทางจิตเมื่อเทียบกับคนในสมัยโบราณหรือแม้แต่ชาวอลิซาเบธ อะไรของที่? สุนัขที่มีชีวิตดีกว่าสิงโตที่ตายแล้ว ปัญญาจารย์ 9:4.ผู้ชายควรไปและแขวนคอตัวเองเพราะเขาอยู่ในสายพันธุ์แคระโดยไม่พยายามกลายเป็นคนแคระที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหรือไม่? ให้ทุกคนคำนึงถึงธุรกิจของตัวเองและพยายามเป็นในสิ่งที่เขาเกิดมาเพื่อเป็น

ทำไมความปรารถนาอย่างสิ้นหวังที่จะประสบความสำเร็จและยิ่งกว่านั้นในวิสาหกิจที่สิ้นหวังเช่นนี้? ถ้าคนไม่ก้าวไปกับเพื่อน ๆ ของเขาอาจเป็นเพราะเขาได้ยินเสียงของการเดินขบวนอื่น ๆ ? ให้เขาเดินไปตามเสียงเพลงที่ได้ยิน แม้จะช้าลง แม้จะอยู่ห่างไกล ไม่จำเป็นต้องเติบโตเต็มที่ในเวลาเดียวกับต้นแอปเปิ้ลหรือต้นโอ๊ก ทำไมเขาถึงเปลี่ยนฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูร้อน? หากระเบียบที่เราถูกสร้างขึ้นมายังไม่มาถึงแผ่นดินโลก เราจะแทนที่ด้วยความเป็นจริงอะไรได้? ไม่จำเป็นสำหรับเราที่จะเลิกกับความเป็นจริงที่ว่างเปล่าและไร้ความหมาย จะไปวุ่นวายกับการสร้างโดมแก้วสีฟ้าทำไม หากเรายังคงพิจารณาถึงท้องฟ้าที่แท้จริงและไม่มีที่สิ้นสุดราวกับว่าไม่มีโดมเลย?

ในเมืองคุรุ เมือง (หรือภูมิภาค) ของคุรุ - ประเทศของปราชญ์พราหมณ์ - ถูกกล่าวถึงในพระวิษณุปุรณะ เห็นได้ชัดว่าอุปมาเรื่องไม้เท้าประกอบขึ้นเองโดยธอโรกาลครั้งหนึ่งมีอาจารย์ผู้มุ่งมั่นเพื่อความสมบูรณ์แบบ วันหนึ่งเขาคิดจะทำไม้เท้า การตัดสินใจครั้งนั้นมีความหมายต่อการสร้างสรรค์ที่ไม่สมบูรณ์ แต่ไม่ควรมีอยู่ในช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ เขาพูดกับตัวเองว่า: ปล่อยให้พนักงานสมบูรณ์แบบในทุก ๆ ด้านแม้ว่าฉันจะไม่ต้องทำอย่างอื่นก็ตาม เขาไปที่ป่าเพื่อหาต้นไม้ทันทีโดยตั้งใจที่จะทำงานกับวัสดุที่เหมาะสมเท่านั้น ขณะที่เขาค้นหาและปฏิเสธต้นไม้ต้นหนึ่งแล้วต้นไม้อื่น เขาก็ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง เพราะเพื่อน ๆ ของเขาแก่ชราและตายไปหมดแล้ว แต่เขาไม่แก่เลยแม้แต่นิดเดียว ความมุ่งมั่นและความเพียรที่ไม่สั่นคลอนของเขา ศรัทธาอันสูงส่งของเขาทำให้เขามีความเยาว์วัยนิรันดร์ แม้ว่าเขาจะไม่รู้เรื่องนี้ก็ตาม เนื่องจากเขาไม่ได้ทำข้อตกลงกับเวลา เวลาจึงหลีกเลี่ยงเขาและคร่ำครวญจากระยะไกลว่าเขาไม่สามารถเอาชนะเขาได้ ก่อนที่เขาจะหาต้นไม้ที่เหมาะสมได้ เมืองคุรุก็กลายเป็นซากปรักหักพังที่มีตะไคร่น้ำ และเขาก็นั่งลงบนต้นไม้เหล่านั้นเพื่อวางแผนไม้ที่เขาเลือกในที่สุด ก่อนที่เขาจะทำให้มันมีรูปร่างที่เหมาะสม ราชวงศ์กันดาฮาร์ก็จบลง ด้วยปลายไม้ เขาจารึกชื่อขุนนางคนสุดท้ายลงในทรายและทำงานต่อไป เขายังไม่มีเวลาขัดไม้เท้าเมื่อกัลป์ ในตำนานฮินดูกาลปาเป็นช่วงเวลาหลายพันล้านปีหยุดเป็นดาวนำทาง ก่อนที่เขาจะติดปลายและลูกบิดที่ประดับด้วยอัญมณีล้ำค่า พรหมตื่นมาหลายครั้งแล้วก็ผล็อยหลับไปอีกครั้ง วันของพระพรหมมีอายุ 2.160.000.000 ปีแต่ทำไมรายการทั้งหมดนี้? ครั้นเสร็จงานแล้ว พระนางก็ปรากฏต่อสายตาของศิลปินผู้อัศจรรย์ว่างดงามที่สุดในบรรดางานประดิษฐ์ของพระพรหม ในการสร้างพนักงาน เขาสร้างทั้งระบบ โลกใหม่ทั้งใบที่มีสัดส่วนที่สวยงามและกลมกลืน และในโลกนี้ สถานที่ของเมืองเก่าและราชวงศ์ถูกยึดครองโดยเมืองใหม่ที่สวยงามกว่าและทรงพลังกว่า ครั้นมองดูกองเศษขนมปังสด ๆ ที่เท้าแล้ว เขาก็ตระหนักว่าเวลาที่ผ่านไปสำหรับเขาและการสร้างของเขาเป็นเพียงภาพลวงตา และไม่มีเวลาผ่านไปมากไปกว่าประกายไฟจากสมองของพรหมที่จะจุดไฟให้กับมนุษย์ จิตใจ. วัสดุนั้นบริสุทธิ์และงานศิลปะของเขาก็เช่นกัน ผลของมันจะไม่สมบูรณ์แบบได้อย่างไร?

รูปลักษณ์ใด ๆ ก็ตามที่เรามอบให้กับคดีในการวิเคราะห์ขั้นสุดท้ายไม่สามารถเป็นประโยชน์มากกว่าความจริงได้ เธอเป็นสิ่งเดียวที่คงอยู่ ส่วนใหญ่เราไม่ได้อยู่ที่ที่เราอยู่ แต่อยู่ในตำแหน่งที่ผิด นั่นคือความไม่สมบูรณ์แบบของธรรมชาติของเราที่เราคิดค้นตำแหน่งและวางตัวเองในนั้น และด้วยเหตุนี้เราจึงพบว่าตัวเองอยู่ในสองตำแหน่งพร้อมกัน จึงเป็นเรื่องยากที่จะคลี่คลายตัวเองจากตำแหน่งดังกล่าวเป็นสองเท่า ในช่วงเวลาแห่งการตรัสรู้ เราเห็นเพียงข้อเท็จจริง เท่านั้น สภาพที่แท้จริงของสิ่งต่าง ๆ พูดในสิ่งที่คุณพูด ไม่ใช่สิ่งที่คุณควรจะพูด ความจริงใด ๆ ดีกว่าข้ออ้าง ก่อนจะแขวนคอทอม ไฮด์ คนจรจัด นักวิจารณ์มักจะถือว่าทอม ไฮด์เป็นบุคคลในนิทานพื้นบ้านแมสซาชูเซตส์ตะวันออกเขาถูกถามว่าเขาจะพูดอะไร “บอกช่างตัดเสื้อ” เขากล่าว “อย่าลืมผูกปมในด้ายก่อนที่จะเย็บครั้งแรก” และคำอธิษฐานของสหายของเขาถูกลืมไปนานแล้ว

น่าสงสารเหมือนชีวิตของคุณ มองหน้าแล้วใช้ชีวิต อย่าเหินห่างจากเธอและอย่าสาปแช่งเธอ เธอไม่ได้แย่เหมือนคุณ เธอดูเหมือนจะยากจนที่สุดเมื่อคุณรวยที่สุด คนจู้จี้จุกจิกและในสวรรค์จะพบสิ่งที่จะบ่น รักชีวิตของคุณไม่ว่าจะยากจนแค่ไหน แม้แต่ในโรงพยาบาลสำหรับคนยากไร้ ก็สามารถสัมผัสประสบการณ์ชั่วโมงที่น่าพึงพอใจ น่าตื่นเต้น และน่าจดจำได้ไม่รู้ลืม อาทิตย์อัสดงสะท้อนที่หน้าต่างของบ้านพักคนชราอย่างสว่างไสวเหมือนกับในหน้าต่างของบ้านที่มั่งคั่ง และหิมะที่ประตูก็ละลายในฤดูใบไม้ผลิไปพร้อม ๆ กัน สำหรับฉันแล้วดูเหมือนว่าสำหรับคนที่มีจิตใจที่สงบ ความพอใจแบบเดียวกันและความคิดที่สดใสแบบเดียวกันนั้นเป็นไปได้เช่นเดียวกับในวัง สำหรับฉันแล้วดูเหมือนว่าคนจนในเมืองจะเป็นอิสระมากที่สุด บางทีจิตวิญญาณของพวกเขาก็สูงพอที่จะไม่ละอายใจที่จะรับของขวัญ คนส่วนใหญ่มองว่าการกินบิณฑบาตในเมืองต่ำกว่าศักดิ์ศรีของพวกเขา แต่บ่อยครั้งที่คนกลุ่มเดียวกันไม่คิดว่าการให้อาหารด้วยวิธีที่ไม่ซื่อสัตย์เป็นสิ่งที่น่าละอาย และสิ่งนี้ควรได้รับการพิจารณาว่าน่าละอายมากกว่า ต้องปลูกฝังความยากจนเหมือนหญ้าในสวนเหมือนปราชญ์ อย่ากังวลมากกับสิ่งใหม่ ๆ - ไม่ว่าเกี่ยวกับเพื่อนใหม่หรือเสื้อผ้าใหม่ เป็นการดีกว่าที่จะพลิกของเก่าหรือกลับไปหาพวกเขา อะไรๆก็ไม่เปลี่ยน เราเปลี่ยน ขายเสื้อผ้าของคุณ แต่เก็บความคิดของคุณไว้ พระเจ้าจะทรงเห็นว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว ถ้าในช่วงเวลาที่เหลือของฉัน ฉันถูกประณามให้อยู่ในมุมห้องใต้หลังคาเหมือนแมงมุม โลกก็จะยังคงอยู่สำหรับฉัน ตราบเท่าที่ความคิดของฉันอยู่กับฉัน ปราชญ์กล่าวว่า: "กองทัพที่มีสามแผนกสามารถถูกลิดรอนจากนายพลและด้วยเหตุนี้จึงนำไปสู่ความยุ่งเหยิงอย่างสมบูรณ์ แต่คนแม้กระทั่งคนที่อนาถและหยาบคายที่สุดก็ไม่สามารถปราศจากความคิดได้" ขงจื๊อ. "การสนทนาและการตัดสิน".ไม่จำเป็นต้องพยายามพัฒนาเพื่อให้อยู่ภายใต้อิทธิพลมากมาย ทั้งหมดนี้เป็นความไร้สาระ ในความอ่อนน้อมถ่อมตน เช่นเดียวกับในความมืด แสงสว่างจากสวรรค์จะส่องสว่างขึ้น เงาแห่งความยากจนและความโกลาหลกำลังรวมตัวกันอยู่รอบตัวเรา แต่ทันใดนั้น "โลกกำลังขยายตัวต่อหน้าที่จ้องมองด้วยความประหลาดใจ" บรรทัดหนึ่งจากโคลง "คืนและความตาย" โดยกวีชาวอังกฤษ เจ. บลังโก ไวท์ (พ.ศ. 2318-2584)เรามักถูกเตือนว่าถึงแม้เราจะร่ำรวยจากโครเอซุส เราต้องรักษาจุดจบและวิธีเดียวกัน นอกจากนี้ หากความยากจนจำกัดโอกาสของคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณไม่มีอะไรจะซื้อหนังสือและหนังสือพิมพ์ คุณก็จะเหลือแต่สิ่งที่สำคัญและสำคัญกว่า และคุณต้องจัดการกับสารที่ให้น้ำตาลและแป้งมากที่สุด คุณลิ้มรสชีวิตใกล้กระดูกที่ซึ่งรสชาติดีที่สุด นี่หมายถึงสุภาษิตอังกฤษ: "ยิ่งใกล้กระดูก เนื้อยิ่งอร่อย"คุณไม่ได้รับอนุญาตให้เสียเวลา ไม่มีใครเคยสูญเสียความเอื้ออาทรจากใจจริง เงินพิเศษสามารถซื้อได้มากขึ้นเท่านั้น และสิ่งที่วิญญาณต้องการ ไม่มีอะไรสามารถซื้อได้ด้วยเงิน

ฉันอาศัยอยู่ในผนังตะกั่วแบบปิดภาคเรียนที่มีโลหะกระดิ่งผสมอยู่ บ่อยครั้งในช่วงเวลาที่เหลือครึ่งวัน Tintinnabulum ที่คลุมเครือเข้ามาหาฉันจากภายนอก นี่คือเสียงของคนรุ่นเดียวกันของฉัน เพื่อนบ้านบอกฉันเกี่ยวกับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่สำคัญเกี่ยวกับคนดังที่พวกเขาพบในงานเลี้ยงอาหารค่ำ แต่ฉันไม่สนใจเรื่องทั้งหมดนี้มากไปกว่าเนื้อหาของ Daily Times ความสนใจและบทสนทนาทั้งหมดเกี่ยวกับเสื้อผ้าและมารยาท แต่ห่านก็คือห่าน ไม่ว่าคุณจะเสิร์ฟน้ำเกรวี่มากแค่ไหนก็ตาม พวกเขาคุยกับฉันเกี่ยวกับแคลิฟอร์เนียและเท็กซัส เกี่ยวกับอังกฤษและอินเดียทั้งคู่ เกี่ยวกับนาย X แห่งจอร์เจียหรือแมสซาชูเซตส์ และเกี่ยวกับเรื่องชั่วคราวและเรื่องอื่นๆ ที่เท่าๆ กัน และเช่นเดียวกับมาเมลุค ฉันอยากจะกระโดดออกจากสนามของพวกเขา โดยเร็วที่สุด เดิมที Mameluks เคยเป็นทหารรักษาพระองค์ของสุลต่านอียิปต์ ซึ่งจากนั้นก็ยึดอำนาจในอียิปต์ด้วยตัวมันเองเป็นเวลาหลายศตวรรษ ในปี ค.ศ. 1811 ตามคำสั่งของสุลต่านโมฮัมเหม็ดอาลีของตุรกี พวกเขาถูกขังอยู่ในป้อมปราการและถูกทำลายล้าง มีเพียงคนเดียวที่รอดจากการกระโดดข้ามกำแพงฉันชอบที่จะรู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน ไม่ใช่เดินในขบวนเคร่งขรึมในที่ที่เห็นได้ชัดเจน แต่ถ้าเป็นไปได้ให้เดินข้างผู้สร้างจักรวาล ไม่ให้อยู่กระสับกระส่าย ประหม่า จู้จี้จุกจิก และหยาบคาย ศตวรรษที่สิบเก้า แต่ให้คิดอย่างสงบในขณะที่มันผ่านไป คนเหล่านี้กำลังฉลองอะไร? พวกเขาทั้งหมดเป็นสมาชิกของคณะกรรมการจัดงานและทุก ๆ ชั่วโมงพวกเขากำลังรอให้ใครซักคนพูด พระเจ้าเป็นเพียงประธานในคดีนี้ และเว็บสเตอร์ เว็บสเตอร์เป็นที่รู้จักในเรื่องคารมคมคาย- นักพูดของเขา ฉันชอบชั่งน้ำหนัก ไตร่ตรอง คอยดูสิ่งที่ดึงดูดใจฉันอย่างแรงกล้าและทั่วถึงที่สุด และไม่ห้อยอยู่ที่ขอบตาชั่ง พยายามดึงให้น้อยลง อย่าดำเนินการจากสถานการณ์สมมติ แต่จากสิ่งที่เป็นอยู่ ไปทางเดียวที่ฉันจะไปได้ ทางที่ไม่มีอำนาจใดขวางกั้นฉันได้ ฉันไม่ต้องการเริ่มโค้งจนกว่าฉันจะวางรากฐานที่มั่นคง เราไม่ต้องการเล่นบนน้ำแข็งบางๆ ก้นแข็งมีอยู่ทุกที่ ฉันอ่านเกี่ยวกับนักเดินทางคนหนึ่งที่ถามเด็กชายว่าก้นบึงที่ต้องข้ามนั้นแข็งหรือไม่ เด็กชายตอบว่าใช่ แต่ม้าของนักเดินทางนั้นจมลงไปจนเกือบถึงเส้นรอบวง และเขาบอกกับเด็กชายว่า: "คุณบอกว่ามีก้นแข็งที่นี่" “เป็นเช่นนั้น” เขาตอบ “แต่ก่อนหน้าเขานั้นมีปริมาณเท่ากันเท่านั้น” ตอนที่มีนักเดินทางไปหาเด็กชายได้อธิบายไว้ในหนังสือพิมพ์ Concord Yeoman's Gazette เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2371หนองบึงและหนองน้ำในที่สาธารณะก็เป็นเช่นนั้น แต่เด็กชายต้องอยู่จนแก่เฒ่าถึงจะรู้เรื่องนี้ เป็นการดีที่พวกเขาคิด พูด หรือทำในกรณีพิเศษที่หายากเท่านั้น ฉันไม่ต้องการที่จะเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่ตอกตะปูลงในงูสวัดที่ฉาบไว้อย่างโง่เขลา - ซึ่งจะทำให้ฉันตื่นตัวในภายหลัง ให้ค้อนฉันแล้วให้ฉันสัมผัสถึงร่อง อย่าพึ่งผงสำหรับอุดรู คุณต้องขับรถอย่างมีสติสัมปชัญญะแม้คุณจะตื่นขึ้นมากลางดึกคุณสามารถคิดเกี่ยวกับงานของคุณได้อย่างมีความสุข - เพื่อไม่ให้คุณละอายใจที่จะโทรหา Muse ในที่ทำงาน จากนั้นและต่อจากนั้นเท่านั้น พระเจ้าจะทรงช่วยคุณ การตอกตะปูแต่ละครั้งจะต้องตอกย้ำกลไกของจักรวาล และนี่คือส่วนแบ่งของคุณ

ไม่ต้องการความรัก ไม่ต้องการเงิน ไม่ต้องการชื่อเสียง ขอเพียงความจริงใจ ฉันนั่งที่โต๊ะซึ่งมีอาหารหรูหรา ไวน์ และคนรับใช้มากมาย แต่ไม่มีความจริงใจหรือความจริง - และฉันก็ปล่อยให้บ้านที่ไม่เอื้ออำนวยนี้หิวโหย การต้อนรับที่นั่นเย็นชาราวกับไอศกรีม สำหรับฉันดูเหมือนว่ามันสามารถแช่แข็งได้โดยไม่ต้องใช้น้ำแข็ง พวกเขาบอกฉันเกี่ยวกับอายุของไวน์และแบรนด์ที่มีชื่อเสียงของพวกเขา และฉันก็คิดถึงไวน์ที่เก่ากว่าและใหม่และบริสุทธิ์กว่าในขณะเดียวกัน เกี่ยวกับแบรนด์ที่รุ่งโรจน์กว่าซึ่งพวกเขาไม่มีและไม่สามารถซื้อได้ ความฉลาดทั้งหมดนี้ - บ้าน ที่ดิน และ "การรักษา" - ไม่มีราคาในสายตาของฉัน ข้าพเจ้าไปเฝ้าพระราชา แต่พระองค์ทรงให้ข้าพเจ้ารออยู่ที่ห้องรับรองและประพฤติตัวเหมือนชายผู้ไม่มีความคิดเกี่ยวกับการต้อนรับขับสู้ และฉันก็มีคนข้างบ้านอาศัยอยู่ตามโพรงไม้ ฤาษีนี้ถูกกล่าวถึงในบันทึกของเอเมอร์สันด้วยมารยาทของเขาเป็นราชวงศ์อย่างแท้จริง และฉันจะดีกว่าถ้าฉันไปหาเขา

เราจะนั่งบนระเบียงอีกนานเท่าใด บำเพ็ญคุณธรรมที่เกียจคร้านและทรุดโทรม ซึ่งแรงงานใด ๆ จะทำให้ไม่จำเป็นอย่างยิ่ง? เราสามารถเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความอดกลั้นไว้นาน และในขณะเดียวกันก็จ้างชายคนหนึ่งมาต้มมันฝรั่ง และในตอนบ่ายไปเทศนาเรื่องความอ่อนโยนและความเมตตาของคริสเตียนด้วยความกตัญญูกตเวที ช่างพูดภาษาจีนกลางอะไรอย่างนี้และความพอใจในตนเองอย่างสุดซึ้งของมนุษยชาติ! คนรุ่นเราภูมิใจในตระกูลเก่าแก่และสูงส่ง ในบอสตันและลอนดอน ปารีสและโรม ภูมิใจในบรรพบุรุษของตน พูดด้วยความพึงพอใจในความสำเร็จในด้านศิลปะ วิทยาศาสตร์ และวรรณคดี ดูโปรโตคอลของสังคมปรัชญาและ panegyrics to Great People! อดัมผู้มีอัธยาศัยดีประทับใจในคุณธรรมของเขาเอง “โอ้ เราได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่และร้องเพลงที่ยอดเยี่ยม และความทรงจำของพวกเขาจะไม่ตาย” - นั่นคือตราบใดที่เราจำพวกเขาได้ ในอัสซีเรียมีสังคมที่เรียนรู้และผู้คนมากมาย - และตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน เรายังไม่บรรลุนิติภาวะในปรัชญาและประสบการณ์ของเรา! ผู้อ่านของฉันไม่มีใครได้ใช้ชีวิตแบบมนุษย์ที่สมบูรณ์อีกเลย และในชีวิตของมนุษยชาติ บางที ฤดูใบไม้ผลิกำลังจะมาถึง ถ้าเราเป็นโรคหิดเจ็ดปีในคองคอร์ด นี่หมายถึงสุภาษิตภาษาอังกฤษ: "ไม่ดีกว่าเจ็ดปีของอาการคัน"ยังไม่มีตั๊กแตนอายุสิบเจ็ดปีเลย เรารู้เพียงส่วนเล็ก ๆ บนโลกของเรา พวกเราส่วนใหญ่ไม่ได้เจาะลึกกว่าหกฟุตลงไปในพื้นหรือกระโดดข้ามมันถึงแม้จะมากขนาดนั้น เราเองก็ไม่รู้ว่าเราอยู่ที่ไหน นอกจากนี้ เกือบครึ่งหนึ่งของเวลาที่เรานอนหลับสนิท ถึงกระนั้นเราก็ถือว่าเราเป็นนักปราชญ์และได้กำหนดกฎเกณฑ์ของเราเองไว้บนพื้นผิวโลก เหล่านี้คือนักคิดที่ลึกซึ้งและจิตวิญญาณที่ทะเยอทะยานอย่างแท้จริง! ยืนอยู่เหนือแมลงที่คลานผ่านเข็มสนที่ปกคลุมป่าและพยายามซ่อนตัวจากฉัน ฉันถามตัวเองว่าทำไมเธอถึงถ่อมตนและซ่อนตัวเช่นนั้น ในเมื่อบางทีฉันอาจจะเป็นผู้มีพระคุณและบอกข่าวดีกับชนเผ่าของเธอ และข้าพเจ้านึกถึงพระผู้มีพระคุณผู้ยิ่งใหญ่และเหตุผลสากลที่ก้มลงกราบข้าพเจ้าซึ่งเป็นแมลงของมนุษย์

สิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในโลก และเราอดทนกับความเบื่อหน่ายที่คาดไม่ถึง พอเพียงที่จะระลึกได้ว่าเทศนาประเภทใดที่ผู้คนฟังในประเทศที่รู้แจ้งมากที่สุด คำว่า "ปีติ" และ "ความเศร้า" นั้นออกเสียงชัดเจน แต่นี่เป็นเพียงเสียงประสานของเพลงสดุดีในจมูก และเราเชื่อในสิ่งธรรมดาและเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น เราเชื่อว่าเราสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เท่านั้น ว่ากันว่าจักรวรรดิอังกฤษนั้นยิ่งใหญ่และน่านับถือ และสหรัฐอเมริกาก็เป็นมหาอำนาจ เราไม่เชื่อว่าเบื้องหลังทุกคนจะขึ้นกระแสที่จักรวรรดิอังกฤษสามารถลอยเหมือนชิปได้ ถ้าเขาหวงแหนความคิดดังกล่าว ใครจะรู้ว่าตั๊กแตนอายุสิบเจ็ดปีชนิดใดที่คลานออกมาจากพื้นดินได้? รัฐบาลของโลกที่ฉันอาศัยอยู่ไม่ได้ถูกเขียนขึ้นในการสนทนาตอนบ่ายโดย havin เช่นเดียวกับในอังกฤษ

ชีวิตภายในของเราเป็นเหมือนสายน้ำในแม่น้ำ ทุกปีน้ำจะสูงขึ้นกว่าเดิมและท่วมที่ราบสูงที่แห้งแล้ง บางทีปีนี้อาจถูกลิขิตให้เป็นแบบนั้นและกำจัดหนูมัสกี้ของเราให้หมด หนู Muscovy ทำโพรงใกล้กับผิวน้ำและน้ำท่วมในช่วงที่มีน้ำสูงที่ที่เราอาศัยอยู่นั้นไม่เคยมีดินแห้ง ไกลจากทะเลและแม่น้ำ ฉันพบชายฝั่งที่ครั้งหนึ่งเคยถูกน้ำล้าง ก่อนที่วิทยาศาสตร์จะเริ่มอธิบายน้ำท่วมทุกครั้ง

นิวอิงแลนด์ทั้งหมดได้รับการบอกเล่าเกี่ยวกับแมลงปีกแข็งขนาดใหญ่และสวยงามที่ฟักออกมาที่ด้านบนของโต๊ะต้นแอปเปิ้ลเก่าที่ยืนอยู่ในครัวฟาร์มเป็นเวลา 60 ปี - ครั้งแรกในคอนเนตทิคัตจากนั้นในแมสซาชูเซตส์ เขาฟักออกมาจากไข่ที่วางอยู่บนต้นไม้ที่มีชีวิตเมื่อหลายปีก่อน เมื่อมันปรากฏจากการนับวงแหวนประจำปีรอบตัวเขา เมื่อสองสามสัปดาห์ก่อน ได้ยินเขาลับฟืนเพื่อพยายามจะออกไป และเขาน่าจะฟักออกมาภายใต้อิทธิพลของความร้อนเมื่อวางกาต้มน้ำไว้บนโต๊ะ เฮอร์แมน เมลวิลล์ กล่าวถึงข้อเท็จจริงนี้ในหนังสือพิมพ์อเมริกันในขณะนั้น โดยอิงจากเรื่อง "The Apple Tree Table"เมื่อคุณได้ยินสิ่งนี้ ศรัทธาของคุณในการฟื้นคืนชีวิตและความเป็นอมตะจะเข้มแข็งขึ้นโดยไม่สมัครใจ ใครจะรู้ว่าชีวิตมีปีกที่สวยงามซึ่งอยู่ภายใต้ชั้นแข็งของสังคมเก่าแก่ที่ตายไปแล้วเป็นเวลาหลายศตวรรษ และครั้งหนึ่งเคยถูกฝังในกระพี้ของต้นไม้สีเขียวที่มีชีวิตซึ่งค่อยๆ กลายเป็นโลงศพที่เก๋า - ใครจะรู้ว่าเป็นโลงศพชนิดใด ตอนนี้ชีวิตกำลังขีดข่วน สร้างความประหลาดใจให้กับครอบครัวมนุษย์ที่โต๊ะรื่นเริง และสามารถเข้ามาในโลกได้โดยไม่คาดคิดท่ามกลางสถานการณ์ในชีวิตประจำวันที่สุด เพราะในที่สุด เวลาฤดูร้อนของเธอก็มาถึงแล้ว

ข้าพเจ้าไม่อ้างว่ายอห์นหรือโจนาธาน จอห์นเป็นชื่อครัวเรือนสำหรับคนอังกฤษทั่วไป โจนาธานเป็นชื่อครัวเรือน เป็นชื่อเล่นของคนอเมริกัน ต่อมาถูกแทนที่ด้วยชื่อเล่นลุงแซมเข้าใจทั้งหมดนี้ พรุ่งนี้ไม่ใช่ว่าจะมาถึงเอง เพียงแต่เมื่อเวลาผ่านไป แสงสว่างที่ทำให้เรามืดบอด ปรากฏแก่เราว่าเป็นความมืด มีเพียงรุ่งอรุณที่เราตื่นขึ้นเท่านั้น วันจริงยังมาไม่ถึง ดวงอาทิตย์ของเราเป็นเพียงดาวรุ่ง

ในบทความศิลปะ Walden หรือ Life in the Woods (1854) Henry Thoreau ได้สรุปแนวความคิดเกี่ยวกับธรรมชาติและมนุษย์เกี่ยวกับจักรวาลวิทยาดั้งเดิม ธอโรเชื่อว่ามีเพียงความใกล้ชิดกับธรรมชาติซึ่งรวบรวมอุดมคติที่เหนือธรรมชาติเท่านั้นที่สามารถแสดงให้บุคคลเห็นเส้นทางสู่ศีลธรรม ความเข้าใจในเส้นทางนี้ได้รับการอำนวยความสะดวกด้วยความเหงาซึ่งช่วยให้บุคคลรู้สึกถึงความสามัคคีตามธรรมชาติของเขา

ดังนั้นในปี พ.ศ. 2388 (ซึ่งเรียกว่า "ปรัชญาอเมริกันยุคแรก") ระดับของการพัฒนาเมืองและการพัฒนาอุตสาหกรรมของอเมริกาไม่ได้ล้าหลังกว่ายุโรป ชุมชนท้องถิ่นซึ่งมีความกระตือรือร้นไม่น้อยไปกว่าในเมืองหลวงของยุโรป ได้หารือเกี่ยวกับโครงการเพื่อการปรับโครงสร้างโลกที่ "ยุติธรรม" สร้างทฤษฎีทางสังคมและดำเนินการทดลองในระดับต่างๆ และความประมาทเลินเล่อ ผู้เข้าร่วมทั้งหมดในการอภิปรายเห็นพ้องต้องกันถึงความจำเป็นในการปลดปล่อยบุคคลให้เป็นข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับระเบียบโลกที่ยุติธรรม แต่ไม่มีความเห็นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ในทุกเพศทุกวัยสิ่งนี้ไม่จำเป็นสำหรับนักปรัชญาตัวจริง

อย่าให้เราไปถึงท่าเรือตามเวลาที่คำนวณไว้ถ้าเพียงไม่หลงทางจากทางที่ถูกต้อง

นักทฤษฎีต้องการปลดปล่อยมนุษย์ ปลดปล่อยบุคลิกภาพ และให้โอกาสในการพัฒนา มาร์กซ์เชื่อว่าจำเป็นต้องย้ายจากความฝันไปสู่การกระทำซึ่งควรอยู่บนพื้นฐานความรู้ ดังนั้นคุณต้องเข้าใจโลกแล้วสร้างใหม่เพื่อให้บุคคลในโลกนี้เป็นอิสระและกลมกลืนกัน

เสรีภาพส่วนบุคคลคืออิสรภาพจากพลังอำนาจที่ควบคุมไม่ได้ เพื่อให้เป็นอิสระ บุคคลจำเป็นต้องตระหนักถึงความจำเป็นหลายประการ แนวคิดเรื่องเสรีภาพของมาร์กซ์เชื่อมโยงกับแนวคิดเรื่องความต้องการซึ่งเติบโตไปพร้อมกับความจำเป็น จุดมุ่งหมาย

ระเบียบสาธารณะที่ดำเนินการโดยรัฐคือเพื่อให้แน่ใจว่าโอกาสที่เท่าเทียมกันสำหรับประชาชนในการตอบสนองความต้องการในขณะที่สร้างความเท่าเทียมกันของความพยายามในการผลิตวิธีการเพื่อตอบสนองความต้องการของพวกเขา ธอโรยังทำให้การควบคุมตนเองของแรงจูงใจที่แท้จริงเป็นข้อกำหนดหลักสำหรับการได้รับอิสรภาพส่วนบุคคล:

“มนุษย์เป็นทาสและเป็นนักโทษตามความคิดเห็นของตนเอง ชะตากรรมของบุคคลถูกกำหนดโดยสิ่งที่เขาคิดเกี่ยวกับตัวเอง

การสะสมทรัพย์สินและการดูแลเพิ่มทำให้คนที่แทบไม่มีเวลารับรู้ก่อนตายและยอมรับว่าชีวิตของเขาบินไปอย่างเปล่าประโยชน์

จากเมืองที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง คุณพบว่าตัวเองอยู่ในหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง และสำหรับการปลอบใจ คุณสามารถครุ่นคิดถึงความกล้าหาญของมิงค์และหนูมัสกี้เท่านั้น

หากจะยืนยันว่าอารยธรรมได้ปรับปรุงสภาพชีวิตจริงๆ ก็จะต้องแสดงให้เห็นว่าได้ปรับปรุงที่อยู่อาศัยด้วยโดยไม่เพิ่มมูลค่า และฉันวัดมูลค่าของสิ่งของด้วยปริมาณความมีชีวิตชีวาที่ต้องให้ - ทีละครั้งหรือเป็นงวด (คนงานในอเมริกาต้อง ed.) ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ไปพร้อมกับหาเงินเลี้ยงตัวเอง

ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าระบบโรงงานของเราเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแต่งตัวให้ผู้คน สภาพของคนงานทุกวันคล้าย ๆ กับที่เราเห็นในอังกฤษและไม่มีอะไรต้องแปลกใจเลย - เท่าที่ฉันได้ยินและเห็นจุดประสงค์หลักของระบบนี้คือไม่ให้คนคงทน และเสื้อผ้าที่ดี แต่เพียงเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับนักอุตสาหกรรม

ความฉลาดของชนชั้นหนึ่งย่อมได้รับการคุ้มครองโดยความยากจนของอีกชนชั้นหนึ่ง”

บุคคลตกเป็นทาสของพลังภายนอกด้วยตัวเขาเอง ดังนั้นเขาจึงต้องปลดปล่อยตัวเองจากพลังเหล่านั้น บ่อยครั้งที่คน ๆ หนึ่งถูก จำกัด ด้วยความคิดของตัวเองและสถานที่ในชีวิต บ่อยครั้งที่บุคคลถูกผูกมัดด้วยความรู้สึกผิดถึงความจำเป็น บ่อยครั้งเขาถูกผูกมัดด้วยความปรารถนาของตัวเอง เพื่อประโยชน์ของความพึงพอใจซึ่งเขาจ่ายด้วยความสมัครใจด้วยอิสรภาพของเขาเอง ธอโรเชื่อว่าแต่ละคนมีระดับของเสรีภาพที่เขาสมควรได้รับ การได้มา (เพิ่มขึ้น) ของเสรีภาพส่วนบุคคลสามารถเชื่อมโยงกับการกำจัด "ความจำเป็น" ในจินตนาการเท่านั้น การปลดปล่อยจากความต้องการที่ไม่จำเป็น นี่เป็นข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับการตระหนักถึงศักยภาพในการแสดงออก ดังนั้นการปลดปล่อยบุคคลจึงไม่ใช่กิจกรรมส่วนรวม แต่เป็นการเรียนรู้ด้วยตนเอง ยิ่งบุคคลหลุดพ้นจากความต้องการมากเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็น "ความต้องการเทียม" ที่ไม่เกี่ยวข้องกับความต้องการ "แท้จริง" (เช่นเดียวกับของ Nietzsche ธอโรร่วมสมัยกลายเป็นโครงสร้างที่ไม่จำเป็นและไม่เป็นความจริง เรียกว่าความรู้ ซึ่งเป็นตัวแทนของ "ความรู้หลอก") ยิ่งเขาสามารถอุทิศเวลาและความพยายามในการแสดงออกอย่างอิสระได้มากขึ้นเท่านั้น

ตามคำกล่าวของ Thoreau การแสดงตัวตนเป็นความต้องการสูงสุดของมนุษย์ ซึ่งเป็นเป้าหมายของการปลดปล่อยของเขา เช่นเดียวกับมาร์กซ์ ธอโรเชื่อมโยงเสรีภาพกับความต้องการ: เพื่อบรรลุเสรีภาพที่มากขึ้น ความต้องการซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัตถุทางวัตถุต้องลดลง เช่นเดียวกับ Nietzsche Thoreau พบวิธีแก้ปัญหาเฉพาะบุคคลสำหรับคำถามที่มนุษย์ได้รับอิสรภาพ ธอโรแสดงตัวอย่างของการปลดปล่อยส่วนบุคคลที่ประสบความสำเร็จมากกว่าทั้งสองอย่าง ซึ่งแตกต่างจากทั้งสองกรณี ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้อื่นน้อยกว่า ในต้นฉบับเศรษฐศาสตร์และปรัชญา (ค.ศ. 1844) มาร์กซ์ตั้งสมมติฐานว่าพื้นฐานของการจำหน่ายใด ๆ คือความแปลกแยกทางเศรษฐกิจ หรือแรงงานที่แปลกแยก และในปี พ.ศ. 2388 พ.ศ. 2390 ธอโรได้พิสูจน์ความเป็นไปได้ของการดำรงอยู่ของมนุษย์อารยะโดยปราศจากการจำหน่ายแรงงาน แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ทางเลือกอื่น เพื่อระเบียบโลก

มาร์กซ์ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์กับความรู้ด้านประวัติศาสตร์ ผลิตภัณฑ์จากกิจกรรมทางวัตถุของผู้คนเป็นความจริงตามวัตถุประสงค์ โดยอาศัยการจัดระเบียบร่างกายของเขา บุคคลถูกบังคับให้ทำงานเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้ และด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องการเครื่องมือในการทำงาน ทั้งหมดนี้เป็นสถานที่ที่ถูกต้อง และสามารถพิสูจน์ได้ในเชิงประจักษ์

ตรรกะของมาร์กซ์นั้นเรียบง่ายและค่อนข้างสอดคล้องกับแนวทางทางวิทยาศาสตร์ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริง พวกมันจึงต้องมีอยู่ การดำรงอยู่ของพวกเขาเกิดจากการกระทำของกฎหมายวัตถุประสงค์ เครื่องมือของแรงงานมีอยู่อย่างเป็นกลาง ดังนั้น ความจำเป็นในการดำรงอยู่ของเครื่องมือเหล่านี้จึงต้องมีวัตถุประสงค์ด้วยและไม่ขึ้นอยู่กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ ดังนั้นมาร์กซ์ให้เหตุผลว่าในกระบวนการของชีวิตมนุษย์ (การสืบพันธุ์ของสายพันธุ์และการผลิตวัสดุ) จำเป็นต้องพัฒนา

โดยไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์ทฤษฎีของมาร์กซ์เช่นนั้น แต่เพียงระลึกถึงแง่มุมเหล่านั้นที่เป็นประโยชน์ต่อการทำความเข้าใจจุดยืนของทอโร (ดังที่เราได้เห็นแล้ว ผู้เหนือธรรมชาติโดยรวมได้รับอิทธิพลอย่างมากจากแนวคิดสังคมนิยม) เราสังเกตว่าความต้องการด้านวัตถุโดยทั่วไปเป็นปัจจัยพื้นฐาน แง่มุมของกิจกรรมของมนุษย์ การพิจารณาซึ่งเป็นประเด็นหลักของการไตร่ตรองเชิงทฤษฎี ในขณะที่ทอโรถือว่าบุคคล "โดยรวม" เป็นเป้าหมายของความเข้าใจ

ตามคำกล่าวของมาร์กซ์ การพัฒนาทางประวัติศาสตร์คือ "การสร้างความต้องการเหล่านี้ เช่นเดียวกับความพึงพอใจของพวกเขา" อย่างแรกเลย มาร์กซ์มีความคิดถึงความต้องการตามธรรมชาติ ซึ่งความจำเป็นนั้นชัดเจนในแง่ของความจำเป็นในการรักษามนุษย์ไว้เป็นเผ่าพันธุ์

หากเป็นรูปธรรมจริงๆ - เช่น เป็นธรรมชาติ,ความต้องการจะสนองได้ด้วยสิ่งของเท่านั้น ที่เรียกว่าความต้องการวัสดุได้รับและพึงพอใจเป็นส่วนใหญ่ในจิตใจของมนุษย์ แสดงถึงนิสัยของวิธีการบางอย่างในการสนองความต้องการทางธรรมชาติ คือ ความหลง ความคิด ประเพณีที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น

ศักดิ์ศรีและมรดกของลัทธิมาร์กซ์คือ มาร์กซ์ได้วางทฤษฎีที่สมบูรณ์แบบของระเบียบโลกขึ้นมา ซึ่งจะทำได้เมื่อพิจารณาว่าเป็นพื้นฐาน สถานที่อื่นๆ ความแตกต่างในความเข้าใจความต้องการระหว่างมาร์กซ์และทอโรจะช่วยให้เข้าใจความแตกต่างในแนวทางโลกทัศน์ของนักคิด

ธอโรไม่ได้ตั้งเป้าที่จะอธิบายประวัติศาสตร์ เขาไม่สนใจกฎแห่งการพัฒนาสังคม การศึกษาบุคคลที่มีปัญหาเฉพาะในสภาพแวดล้อมเฉพาะ (สิ่งแวดล้อม) Thoreau พิจารณาบุคคลที่เฉพาะเจาะจงมากในสภาพแวดล้อมที่เฉพาะเจาะจงมากโดยใช้ตัวอย่างของเขาเอง:

ฉันจะไม่พูดมากเกี่ยวกับตัวเองถ้าฉันรู้จักคนอื่นเช่นเดียวกับฉันรู้จักตัวเอง: โชคไม่ดีที่การขาดประสบการณ์จำกัดฉันให้อยู่ในหัวข้อนี้

ธอโรก็เหมือนอัตถิภาวนิยม ถือว่าบุคคลมีความซื่อสัตย์ ตำแหน่งทางสังคม และโลกภายในในเวลาเดียวกัน และพยายามทำความเข้าใจว่าชีวิตของเขาประกอบด้วยอะไร ธอโรตระหนักดีถึงความปรารถนาในอิสรภาพว่าเป็นแรงจูงใจขั้นพื้นฐานของชีวิต และอุทิศการวิจัยของเขาเพื่อบรรลุถึงเป้าหมายนั้น

ปัญหาการขาดเสรีภาพตาม Thoreau อาจเป็นการที่คนแก้ปัญหาผิดๆ ดังนั้นงานเริ่มต้นคือการระบุงานอื่น ๆ ที่ต้องแก้ไข ก่อนที่จะปลดปล่อยบุคคลหนึ่ง Thoreau เชื่อว่าจำเป็นต้องเข้าใจว่าที่จริงแล้วชีวิตของเขาประกอบด้วยอะไรและสิ่งที่เขาต้องการจะเป็นอิสระจากอะไรต้องบรรลุเป้าหมายใด ธอโร เช่นเดียวกับมาร์กซ์ เชื่อว่าชีวิตมนุษย์ประกอบด้วยความพยายามที่มุ่งตอบสนองความต้องการ: งานที่เราแก้ไขในทุกช่วงเวลานั้นสัมพันธ์กับความพอใจในความต้องการอย่างแม่นยำ ปัญหาในการได้มาซึ่งเสรีภาพสามารถแก้ไขได้สองวิธี: โดยการสร้างสังคมที่สามารถตอบสนองความต้องการของทุกคนหรือโดยการให้ความรู้ความต้องการที่บุคคลอื่นไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ ธอโรเริ่มโต้เถียงด้วยคำจำกัดความ ความต้องการที่จำเป็น:

ความจริงก็คือมีบางสิ่งที่มีความจำเป็นเฉพาะในบางวงการเท่านั้น ในบางแวดวงก็เป็นเพียงสินค้าฟุ่มเฟือย และบางรายการก็ไม่ทราบแน่ชัด

โดยความจำเป็นของชีวิต ข้าพเจ้าหมายถึงสิ่งที่มนุษย์ได้มาซึ่งมีความสำคัญต่อชีวิตมาโดยตลอดหรือมาช้านานจนแทบไม่มีใครพยายามทำโดยปราศจากสิ่งนั้น ไม่ว่าจะด้วยความเขลา ความยากจน หรือจากหลักการทางปรัชญา สำหรับคนที่อยู่ในสภาพอากาศของเรา ความต้องการหลัก ได้แก่ อาหาร ที่พักพิง เสื้อผ้า และเชื้อเพลิง จนทำให้แน่ใจได้ว่าเราไม่สามารถแก้ปัญหาที่แท้จริงของชีวิตได้อย่างอิสระและประสบความสำเร็จ

แตกต่างจากมาร์กซ์ Thoreau กำหนดความต้องการที่จำเป็นอย่างแท้จริง รายการวัสดุเหล่านั้นที่บุคคลไม่สามารถทำได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงสถานะทางการเงิน ระดับรายได้ หรือการศึกษา ในขณะที่มาร์กซ์พูดถึงความต้องการด้านวัตถุโดยทั่วไป ทำให้มีลักษณะที่จำเป็น

เมื่อสร้างความแตกต่างของความต้องการที่เสนอโดยทอโรแล้ว ก็สรุปได้ง่าย ๆ ว่าความต้องการที่แท้จริง (ความต้องการที่จำเป็น) ของบุคคลไม่ได้ถูกกดขี่ ถูกกดขี่โดยระบบความพึงพอใจซึ่งสร้างไม่ได้ ใช้งานไม่ได้ โดยปราศจากความต้องการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลายเป็น “ความต้องการเทียม” มนุษย์ “แก้ปัญหาด้วยสูตรที่ซับซ้อนกว่าตัวปัญหาเอง”

ดังนั้น หากความต้องการลดลงเหลือเพียงความต้องการตามธรรมชาติ ก็ไม่มีความจำเป็นสำหรับความซับซ้อนของระเบียบข้อบังคับทางสังคม: แทนที่จะเช่ากระท่อมราคา $30 ต่อปี Thoreau ตัดสินใจว่า จะดีกว่าถ้าสร้างบ้านหลังเล็กที่แข็งแรงในราคา $28 แทนที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ หาซื้อเองง่ายกว่า ในช่วงสองปีของการพึ่งพาตนเอง Thoreau มีเวลามากมายในการอ่าน เข้าสังคม และไตร่ตรอง ฉันต้องบอกว่าเมื่อต้องเผชิญกับชาวรัสเซียในฤดูร้อน Toro ได้รับผู้ติดตามของเขา จริงอยู่มีเพียงไม่กี่คนที่ตระหนักว่าความคิดที่ว่าบางครั้งก็มีประโยชน์ที่จะ "ตัดการเชื่อมต่อ" จากสถานะดังกล่าวที่ไม่บรรลุผลตามภารกิจ - จัดหาพลเมืองที่มีความจำเป็นเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในฐานะสิ่งมีชีวิตทางจิตวิญญาณ - มีความลึก รากปรัชญาและประเพณีทางวิชาการ

ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่จะได้รับอิสรภาพโดยการเปลี่ยนวิถีชีวิต คนส่วนใหญ่ไม่ทราบเกี่ยวกับความเป็นไปได้นี้ หรือไม่ต้องการดำเนินการตามนั้น

ความต้องการวัสดุประเภทต่างๆ (“ในอาหารที่มีไขมันและอุดมสมบูรณ์มากขึ้น ในบ้านที่ใหญ่ขึ้นหรือหรูหรากว่า ในเสื้อผ้าที่หลากหลายและสวยงามยิ่งขึ้น ในกองไฟที่ร้อนขึ้นและไม่หยุดหย่อนในเตาไฟหรือในเตาหลาย ๆ เตา”)มีความจำเป็นโดยทั่วไป ธอโรไม่โต้แย้งความต้องการนี้ แต่พยายามค้นหาว่าอะไรเป็นเหตุให้เกิดความต้องการเหล่านี้ เพื่อกำหนดว่าพวกเขามีความสำคัญต่อบุคคลเพียงใด

ธอโรสรุปว่าความต้องการเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นจริงๆ บุคคลมีความต้องการเพียงเพราะทุกคนคิดว่าจำเป็นต้องมี: “ตอนนี้ใครๆ ก็ใส่แบบนั้น”(เกี่ยวกับเสื้อผ้า) “เพราะทุกคนคิดอย่างนั้น”(เป็นคำตอบสำหรับคำถาม "ทำไมคุณถึงคิดไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง") ทุกคนเป็นใคร?

หรือธอโรถามว่าอยู่ที่นั่น "ใครบางคนไม่ใช่ใคร",ใครกำหนดความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับ "ทุกคน" นั่นคือในส่วนที่เหลือ? ไม่ - ปราชญ์ตอบ - มีคำอธิบายที่ง่ายกว่า: เราแต่ละคนที่ประกอบเป็น "ทุกอย่าง" ไม่ต้องการคิด คนธรรมดามักเกียจคร้านที่จะมีความคิดของตนเอง โดยพิจารณาว่าเป็นธรรมชาติมากกว่าที่จะปรับตัวเข้ากับชีวิตและความจริงที่ "เหมาะสม" สำหรับตัวเขาเอง แต่ละคนมีการพัฒนาจิตใจในระดับหนึ่งหรืออีกระดับหนึ่งด้วยความช่วยเหลือซึ่งเขาเสริมอคติที่มีอยู่ อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความถึงการใช้จิตอย่างสมเหตุสมผล เพราะมันสมเหตุสมผลแล้วที่จะนำความคิดของตนเองมาประยุกต์ใช้ความคิดของตนเอง ไม่ใช่ความคิดเห็นของสาธารณชน อย่างที่เป็นอยู่บ่อยที่สุด

เห็นได้ชัดว่าคนส่วนใหญ่ไม่เคยคิดว่าบ้านคืออะไรและอดทนต่อความยากลำบากที่ไม่จำเป็นมาตลอดชีวิตเพราะพวกเขาคิดว่าจำเป็นต้องมีบ้านหลังเดียวกันกับเพื่อนบ้าน มันเหมือนกันกับเสื้อผ้า

แฟชั่นถูกสร้างขึ้นโดยคนรวยที่ไม่ได้ใช้งานและฝูงชนก็ติดตามพวกเขาอย่างขยันขันแข็ง สำหรับฉันดูเหมือนว่าบนรถไฟเราใช้ความหรูหรามากกว่าความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ...

ความเรียบง่ายและความเปลือยเปล่าของชีวิตของมนุษย์ดึกดำบรรพ์อย่างน้อยก็มีข้อได้เปรียบที่เขาเป็นเพียงแขกของธรรมชาติ ... และตอนนี้อนิจจา!คนกลายเป็นเครื่องมือปืนของพวกเขา คนที่ถอนผลไม้เพื่อสนองความหิวของเขากลายเป็นชาวนา และคนที่หลบอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ก็กลายเป็นคฤหบดี ตอนนี้เราไม่ได้หยุดค้างคืนเรานั่งบนพื้นดินและลืมท้องฟ้า เรายอมรับศาสนาคริสต์เป็นการจัดการที่ดินที่ดีขึ้นเท่านั้น ในโลกนี้ เราสร้างคฤหาสน์ของครอบครัว และสำหรับโลกหน้าคือห้องใต้ดินของครอบครัว งานศิลปะที่ดีที่สุดพยายามที่จะแสดงออกถึงการต่อสู้ของมนุษย์กับการเป็นทาสนี้ แต่ผลของศิลปะคือการประดับประดาส่วนล่างของเราและทำให้เราลืมสิ่งที่สูงกว่าของเรา

บุคคลใดก็ตามที่ทำสิ่งนี้หรือการตัดสินใจที่เฉพาะเจาะจงนั้นขึ้นอยู่กับสัจพจน์ของชีวิต บางคนถูกชี้นำโดยสัจพจน์เท่านั้น - ในกรณีนี้พวกเขาพูดถึงการขาดทางเลือกทางศีลธรรม ตัวบ่งชี้การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจตามความคิดของตนเองคือการสร้างทฤษฎี กล่าวคือ การสร้างทฤษฎีบท ยิ่งบุคคลจริงจังกับชีวิตมากเท่าใด เขาก็ยิ่งเริ่มการให้เหตุผลเชิงทฤษฎีเพื่อตัดสินใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น การพิจารณาอย่างจริงจังเกี่ยวกับปัญหาการเกิดขึ้นของความต้องการทางวัตถุตาม Thoreau นำไปสู่ข้อสรุปว่าแนวคิดของ "ความต้องการด้านวัตถุ" นั้นไม่สามารถป้องกันได้เนื่องจากเป็นผลมาจาก "ความคิดเห็นสาธารณะ" ที่ไม่มีอยู่จริง บุคคลที่จัดแรงงานหนักสำหรับตัวเองในรูปแบบของการใช้แรงงานที่สูงเกินไปสามารถก่ออาชญากรรมเปลี่ยนหลักการทางศีลธรรม ฯลฯ

เรารีบร้อนเกินไปที่จะมีชีวิตอยู่ หนึ่งเข็มต่อเวลามีค่าเก้า ผู้คนพูดกัน และตอนนี้พวกเขาเย็บพันวันนี้เพื่อที่พรุ่งนี้พวกเขาจะไม่ต้องทำเก้า ... คนส่วนใหญ่ แม้แต่ในประเทศที่ค่อนข้างเสรีของเรา โดยไม่ได้ตั้งใจหรือเพียงเพราะความไม่รู้ ถูกคิดค้นขึ้นมาก และการทำงานหนักโดยไม่จำเป็นก็ไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลที่ดีที่สุดของชีวิตได้ ด้วยเหตุนี้นิ้วของพวกเขาจึงแข็งเกินไปและสั่นมากเกินไปจากการทำงานหนักเกินไป

จะทำอย่างไร? ธอโรเชื่อว่าไม่เคยสายเกินไปที่จะเปลี่ยนความคิดของคุณ

วิธีการคิดหรือการกระทำไม่ว่าจะโบราณแค่ไหนก็ไม่สามารถยอมรับได้ด้วยศรัทธาหากไม่มีหลักฐาน สิ่งที่ทุกคนพูดซ้ำในวันนี้หรือที่เขาเห็นด้วยเงียบๆ พรุ่งนี้อาจกลายเป็นควันแห่งความคิดเห็น เป็นไปไม่ได้ มิฉะนั้น เราพูด และในขณะเดียวกัน มีหลายวิธีที่จะมีชีวิตอยู่ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ในการวาดรัศมีจากจุดศูนย์กลางเดียว

ปราศจากความต้องการวัตถุเทียม บุคคลย่อมจะปฏิเสธวิถีชีวิตทั่วไปที่สุดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งประกอบด้วยการสนองความต้องการ "วัตถุ" และเมื่อพ้นจากงานต่ำต้อย ในที่สุดเขาก็จะสามารถ "กล้าที่จะมีชีวิตอยู่" ได้

ความหมายของ "ชีวิต" แต่ละคนสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเองเท่านั้น ตามคำกล่าวของ Thoreau คนส่วนใหญ่ "นอนหลับ" เมื่อพิจารณาว่ามีคนควรปลุกพวกเขา ผู้คนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเมื่อพวกเขาตื่นขึ้น (บางทีความจำเป็นในการตรัสรู้ (กันต์ เอาก์แดรุง) ในการเอาชนะความไม่บรรลุนิติภาวะของสังคมตามที่นักปรัชญาชาวอเมริกันกำหนดไว้นั้นยังไม่ได้รับการแก้ไข)

การตื่นตัวคือการมีชีวิตอยู่ ไม่สำคัญว่านาฬิกาจะแสดงอะไรหรือสิ่งที่ผู้คนพูดและทำ เมื่อฉันตื่นขึ้นและมีแสงสว่างในตัวฉัน แสดงว่าเป็นเวลาเช้า เราต้องเรียนรู้ที่จะตื่นและตื่นอยู่เสมอ: สิ่งนี้ไม่ต้องการวิธีการประดิษฐ์ แต่ต้องใช้ความคาดหวังอย่างต่อเนื่องของรุ่งอรุณ ซึ่งไม่ควรปล่อยให้เราหลับลึกที่สุด เป็นหน้าที่ของผู้ชายทุกคนที่จะทำให้ชีวิตของเขาคู่ควรกับแรงบันดาลใจที่ปลุกในตัวเขาในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเธอ

ดังนั้น การทบทวนความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับความต้องการ "วัสดุ" ที่ทั้งเราและคนรุ่นเดียวกันของ Thoreau คุ้นเคยคือจุดเริ่มต้น ขั้นตอนแรกในการได้รับอิสรภาพส่วนบุคคล เงื่อนไขสำหรับการตระหนักรู้ในตนเอง ธอโร เช่นเดียวกับมาร์กซ์ ตระหนักดีว่าแรงผลักดันหลักของการกระทำโดยคนส่วนใหญ่คือความปรารถนาในความอยู่ดีมีสุขทางวัตถุ ต่างจากมาร์กซ์ที่เชื่อว่าความปรารถนานี้เป็นสมบัติของบุคคล Thoreau มองว่าเป็นอคติที่ต้องเอาชนะ ดังนั้น ต่างจากมาร์กซ์ ธอโรเสนอเส้นทางแห่งการปลดปล่อย (ตามหลักทฤษฎีและแสดงให้เห็น) หนทางแห่งการปลดปล่อย ทางเลือกหนึ่งในการสร้างสังคมที่ “ยุติธรรมกว่า” ที่แตกต่างจากที่มีอยู่เดิม ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไม่น่าจะต้องมีการปฏิวัติและความวุ่นวายในสังคมโดยทั่วไป .

ธอโรเข้าใจ "อุดมคติ" ของโครงการของเขาและไม่ได้เรียกร้องให้ประชาชนส่วนใหญ่ทำตามแบบอย่างของเขา ซึ่งไม่เป็นความจริงและไม่จำเป็นสำหรับการดำเนินการในทางปฏิบัติของคนส่วนใหญ่ มันไม่คุ้มค่าที่จะเริ่มลับขวานตามรอยเท้าของ Thoreau เพื่อไปที่ไทกาทันทีและมีชีวิตที่มีเกียรติในสมัยโบราณ แต่ด้วยการลด ทบทวนความต้องการของตนเอง ให้ความรู้ใหม่แก่ตนเองเพื่อให้การอาบน้ำฝักบัวไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจในชีวิตแต่อย่างใด เป็นหนทางเดียวที่แท้จริงในการปรับปรุงทั้งสังคมโดยรวมและสมาชิกแต่ละคน

Thoreau ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ ได้สร้างการทดลองที่บริสุทธิ์ที่สุด เขาได้หักล้างทฤษฎีของมาร์กซ์ที่ว่าหากไม่มีกฎหมายสำหรับการพัฒนาการผลิต ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะกลับไปสู่ความยากจนสุดขีดและการดิ้นรนเพื่อสิ่งที่จำเป็นก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง เขาพิสูจน์ว่าปัญหาการช่วยชีวิตไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด นอกจากนี้ ปรากฏว่าเวลาที่ใช้ในการยังชีพมีน้อยมาก (อย่างน้อยก็ในความเป็นจริงในอเมริกาเหนือในช่วงกลางศตวรรษที่ 19)

ถ้าเราบอกว่าอารยธรรมปรับปรุงสภาพชีวิตได้จริงก็ต้องบอกว่าทำให้ที่อยู่อาศัยดีขึ้นโดยไม่เพิ่มมูลค่าและฉันวัดมูลค่าของสิ่งของด้วยปริมาณของพลังที่ต้องให้ - ต่อครั้งหรือ ค่อยๆ.

สำหรับชาวรัสเซียส่วนใหญ่ ค่าใช้จ่ายของอพาร์ทเมนต์สองห้องนั้นถูกลบไปจากชีวิตของพวกเขาเป็นเวลานานหลายปี ปีที่เต็มไปด้วยความขมขื่น ความอัปยศอดสู การประนีประนอม การกรรโชก ความกลัว การนอนไม่หลับ ฯลฯ เพื่อเห็นแก่อพาร์ตเมนต์คนส่วนใหญ่ พร้อมเปลี่ยนงาน ทีมงาน หลักการ บางคนถึงกับฆ่าได้ การได้มาซึ่งที่อยู่อาศัยที่ "มีอารยะธรรม" หลายคนสูญเสียสุขภาพกายไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงศีลธรรมด้วย ราคาที่อยู่อาศัยในโลกที่ "อารยะธรรม" สูงเกินไปถ้ามันจะทำให้คนตกต่ำ

ความงามทางสถาปัตยกรรมทั้งหมดที่ฉันเห็นตอนนี้ค่อยๆ เติบโตขึ้นจากภายใน จากความต้องการและลักษณะของผู้อยู่อาศัยซึ่งเป็นผู้สร้างที่แท้จริงเพียงผู้เดียว อาคารที่มีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจที่สุดในประเทศของเราตามที่ศิลปินทราบคือกระท่อมไม้ที่เจียมเนื้อเจียมตัวและไม่โอ้อวดของคนจน มันคือชีวิตของผู้อยู่อาศัยซึ่งพวกเขาทำหน้าที่เป็นเปลือกหอยและไม่เพียง แต่ลักษณะภายนอกเท่านั้นที่ทำให้พวกเขางดงาม

ฉันจะไม่กำหนดกฎเกณฑ์ให้กับธรรมชาติที่แข็งแกร่งและกล้าหาญที่รู้จักธุรกิจของตัวเอง ฉันไม่ได้ตั้งใจจะสอนผู้ที่ชื่นชมและได้รับแรงบันดาลใจจากลำดับของสิ่งต่าง ๆ ในปัจจุบัน ฉันไม่ดึงดูดผู้ที่เชื่อว่าพวกเขาใช้ชีวิตอย่างถูกต้อง ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใคร เคยเป็น - พวกเขารู้ดีกว่าถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันกำลังพูดกับมวลชนที่ไม่พอใจเป็นหลัก ซึ่งบ่นอย่างเปล่าประโยชน์เกี่ยวกับชะตากรรมหรือเวลาที่โหดร้าย แทนที่จะปรับปรุงพวกเขา

ผู้ที่เดินทางคนเดียวสามารถออกเดินทางได้แม้วันนี้ แต่ผู้ที่พาเพื่อนไปด้วยต้องรอจนกว่าเขาจะพร้อม และพวกเขาจะไม่ออกเดินทางในไม่ช้า!

ธอโรตระหนักว่าผู้คนหยุดเห็นและได้ยินกันและกัน เขาไม่เคยชื่นชม "การสื่อสารที่หรูหรา" นี้เลย และเชื่อว่าผู้คนควรสื่อสารกับธรรมชาติในโลกแห่งความเงียบที่ไม่มีใครอยู่ ผู้คนเลิกเป็นผู้สร้างและนักแสดง กลายเป็นเพียงผู้ชมของมนุษย์ต่างดาว ชีวิตตัวแทน

ความสนใจที่เกิดขึ้นใหม่ใน Thoreau ในทุกวันนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ โทรทัศน์กลายเป็นสิ่งเสพติดชนิดหนึ่ง ผู้คนหยุดใช้ชีวิต คิดถึงปัญหา ดิ้นรนเพื่อกันและกัน ธอโรเชื่อว่าไม่มีอะไรยากไปกว่านี้ เป็นไปไม่ได้มากกว่าศิลปะการวัด

ความหรูหราและความสะดวกสบายส่วนใหญ่ไม่เพียงไม่จำเป็นเท่านั้น แต่ยังขัดขวางความก้าวหน้าของมนุษยชาติในทางบวกอีกด้วย นักปราชญ์มักใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและยากจนกว่าคนจนเสมอ ไม่มีใครยากจนในทรัพย์สินทางโลกและร่ำรวยทางวิญญาณอย่างนักปรัชญาโบราณ เรารู้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับพวกเขา แต่มันน่าทึ่งที่เรารู้เกี่ยวกับพวกเขาเลย เช่นเดียวกันกับนักปฏิรูปและผู้อุปถัมภ์ของมนุษยชาติซึ่งมีชีวิตอยู่ในสมัยต่อมา เราไม่สามารถเป็นผู้สังเกตการณ์ชีวิตมนุษย์ที่ฉลาดได้ เว้นแต่จากมุมมองของความยากจนโดยสมัครใจ

การใช้ชีวิตอย่างหรูหรา คุณจะไม่สร้างสิ่งใดนอกจากสินค้าฟุ่มเฟือย: ในการเกษตร การพาณิชย์ วรรณกรรมหรือศิลปะ ตอนนี้เรามีอาจารย์สอนปรัชญา แต่ไม่มีนักปรัชญา แต่ก็ยังดีที่จะสอนเพราะเมื่อได้สอนตามแบบอย่างของตนเองแล้ว การเป็นนักปรัชญาไม่ใช่แค่การคิดอย่างมีวิจารณญาณหรือแม้กระทั่งการหาโรงเรียนเท่านั้น ในการทำเช่นนี้ เราต้องรักปัญญาให้มากที่สุดเท่าที่จะดำเนินชีวิตตามคำสั่งของมัน - ในความเรียบง่าย ความเป็นอิสระ ความเอื้ออาทร และศรัทธา นี่หมายถึงการแก้ปัญหาชีวิตบางอย่าง ไม่เพียงแต่ในทางทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติ ...

ฉันสงสัยว่าผู้คนจะรักษาตำแหน่งทางสังคมได้อย่างไรหากพวกเขาถอดเสื้อผ้า ในกรณีนี้ คุณจะสามารถเลือกจากกลุ่มคนอารยะที่เป็นชนชั้นสูงได้หรือไม่?

แม้แต่ในเมืองต่างๆ ของนิวอิงแลนด์ที่เป็นประชาธิปไตยของเรา ทรัพย์สมบัติและเครื่องประดับภายนอก—เครื่องแต่งกายและรถม้า—ได้มาโดยบังเอิญ ทำให้เจ้าของของพวกเขาได้รับความเคารพนับถือแทบทุกประการ แต่บรรดาผู้ที่ให้ความเคารพต่อเศรษฐีนั้นไม่ว่าจะมากสักเพียงใด ล้วนแต่เป็นคนป่าเถื่อน และควรส่งมิชชันนารีไปให้พวกเขา

และเมื่อชาวนากลายเป็นเจ้าของบ้านแล้ว เขาก็อาจจะไม่รวยขึ้น แต่จนลง เพราะบ้านเขาครอบครอง อย่างน้อยฉันก็รู้จักครอบครัวสองสามครอบครัวที่นี่ที่ใฝ่ฝันมานานหลายปีว่าจะขายบ้านในเขตชานเมืองและย้ายไปที่หมู่บ้าน แต่ไม่เคยทำได้ มีเพียงความตายเท่านั้นที่จะปลดปล่อยพวกเขา

สมมติว่าคนส่วนใหญ่จัดการในที่สุดเพื่อซื้อหรือเช่าบ้านทันสมัยพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมด แต่อารยธรรมโดยการปรับปรุงบ้านของเราไม่ได้ปรับปรุงผู้คนที่จะอาศัยอยู่ที่นั่น เธอสร้างพระราชวัง แต่ยากกว่าที่จะสร้างอัศวินและราชาผู้สูงศักดิ์ และหากความทะเยอทะยานของคนมีอารยะไม่สูงส่งไปกว่าความปรารถนาของคนป่าเถื่อน และหากเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปตลอดชีวิตเพื่อสนองความต้องการขั้นพื้นฐานและพื้นฐาน ทำไมบ้านของเขาจึงควรดีกว่า?

แล้วชนกลุ่มน้อยที่โชคร้ายล่ะ? ปรากฎว่ายิ่งบางคนอยู่เหนือคนป่าโดยคำนึงถึงสภาพภายนอกของชีวิตมากเท่าไร คนอื่น ๆ ก็จะยิ่งถ่อมตัวมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับพวกเขา เป็นความผิดพลาดที่จะคิดว่าหากประเทศใดมีสัญญาณอารยธรรมตามปกติ ก็ไม่สามารถทำให้มวลชนจำนวนมากลดระดับลงสู่ระดับความป่าเถื่อนได้

ใช่ ไม่ใช่เรื่องเสียหายที่จะพิจารณาชีวิตของชนชั้นนั้นอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยการใช้แรงงานที่ประสบความสำเร็จทั้งหมดแห่งศตวรรษของเรา

ภายนอกสงบ ปราศจากเหตุการณ์สดใส การดำรงอยู่ของ ธอโร ในเมืองต่างจังหวัด ได้ซ่อนการสร้างเอกภพของตนเองอย่างไม่เห็นแก่ตัว ซึ่งไม่หยุดอยู่ครู่หนึ่งในจิตใจของนักปราชญ์ เต็มไปด้วยการบูชาธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ศรัทธาในอนาคต ของความสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณที่แท้จริงระหว่างผู้คน "วอลเดน" เป็นคำสารภาพทางศิลปะของทอโร

มีความหมายลึกซึ้งในความจริงที่ว่าคนสร้างที่อยู่อาศัยของตัวเองเช่นเดียวกับในความจริงที่ว่านกสร้างรังของมัน ใครจะไปรู้ บางทีถ้าผู้คนสร้างบ้านของตัวเองด้วยมือของพวกเขาเอง และรับอาหารอย่างตรงไปตรงมาและเรียบง่ายสำหรับตนเองและลูกๆ ของพวกเขา ของขวัญจากบทกวีจะกลายเป็นสากล เพราะนกทั้งหลายร้องเพลงประกอบอาชีพนี้

วันที่ 4 กรกฎาคม เป็นวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา นี่คือวันที่เริ่มต้นอาศรมของนักเขียน ห่างไกลจากความเป็นทางการนักปรัชญาจึงตัดสินใจเฉลิมฉลองวันหยุดในแบบของเขาเองโดยประกาศอิสรภาพโดยสมบูรณ์จากโลกภายนอก ซึ่งแตกต่างจาก Emerson ที่มักจะดำเนินการตามหลักการของ "ความมั่นใจในตนเอง" ด้วยการโต้แย้งทางศีลธรรม Thoreau อธิบายความหมายขององค์กรของเขาด้วยภาษาที่เรียบง่ายอย่างยิ่ง:

ฉันเข้าไปในป่าเพราะฉันต้องการมีชีวิตอยู่อย่างมีเหตุผลเพื่อจัดการกับข้อเท็จจริงที่สำคัญที่สุดของชีวิตและพยายามเรียนรู้บางสิ่งจากมันเพื่อที่ฉันจะไม่ต้องเผชิญกับความตายที่ฉันไม่ได้อยู่เลย ฉันไม่ต้องการที่จะใช้ชีวิตบนงานฝีมือแทนชีวิต มันมีค่าเกินไปสำหรับสิ่งนั้น ฉันไม่ต้องการปฏิเสธตัวเอง เว้นแต่จำเป็นจริงๆ ฉันอยากจะดำดิ่งลงไปในแก่นแท้ของชีวิตและเข้าถึงแก่นแท้ของมัน ฉันต้องการอยู่กับความเรียบง่ายแบบสปาร์ตัน ขับไล่ทุกสิ่งที่ไม่ใช่ชีวิตจริงออกไปจากชีวิต ทำให้เกิดแนวกว้างในนั้น ...

จากประสบการณ์สองปีของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าพบว่าการหาอาหารที่จำเป็นนั้นง่ายอย่างน่าประหลาดใจ แม้ในละติจูดของเรา ที่มนุษย์สามารถกินได้ง่ายๆ เหมือนกับสัตว์ และยังคงมีสุขภาพดีและแข็งแรง คนที่มีเหตุผลจะปรารถนาอะไรในยามสงบและในวันธรรมดาได้มากไปกว่าข้าวโพดต้มเกลือที่ลูกชายของหล่อนเสียชีวิตเพราะเขาเริ่มดื่มแต่น้ำ

ฉันไม่ได้ต้องการให้ใครทำตามแบบอย่างของฉัน ประการแรกในขณะที่เขาเรียนรู้สิ่งนี้ฉันอาจจะพบอย่างอื่นสำหรับตัวเองและประการที่สองฉันอยากให้มีคนที่แตกต่างกันมากที่สุดในโลกและทุกคนก็พยายามค้นหาเส้นทางของตัวเองและตามเขาไม่ใช่ตาม เส้นทางของพ่อ แม่ หรือเพื่อนบ้าน

ผู้เขียนนำเสนอประสบการณ์ของเขาให้กับผู้อ่านเป็นงานจริง นักเขียนที่ยากจนและนักวิทยาศาสตร์ธรรมชาติสามารถอยู่อย่างไรให้ความกังวลเรื่องอาหารไม่พรากเวลาและพลังงานทั้งหมดของเขาไป? การคำนวณรายรับและรายจ่ายอย่างละเอียด ธอโรพิสูจน์ให้เห็นว่าความสันโดษของเขาพังทลาย เขาคืนเงินที่ใช้ไปกับการซื้อบ้านด้วยการขายพืชผล และยิ่งไปกว่านั้น เขายังหาเลี้ยงตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้เงินกู้ แต่สิ่งสำคัญคือเป็นเวลา 2 ปี เขาเป็น "คนเดียวที่เป็นอิสระและมีความสุขในคองคอร์ด" ในขณะที่คนอื่น ๆ ก็อ่อนระอาใจในการถูกจองจำ ไม่ว่าพวกเขาจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม

ธอโรกำหนดรูปแบบใหม่สำหรับวัฒนธรรมร่วมสมัย แบบอย่างไม่ได้เป็นเพียงรูปแบบหรือวิธีคิดของเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวิถีชีวิตทัศนคติต่อชีวิตประจำวันด้วย

มนุษย์ยังไม่ได้อ่านงานของกวีผู้ยิ่งใหญ่ มีเพียงกวีผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้นที่สามารถอ่านได้ มวลชนอ่านมันเหมือนกับที่พวกเขาอ่านดวงดาว อย่างดีที่สุด เหมือนนักโหราศาสตร์ แต่ไม่ใช่นักดาราศาสตร์ คนส่วนใหญ่เรียนรู้ที่จะอ่านเพียงเพื่อความสะดวก วิธีที่พวกเขาเรียนรู้ที่จะนับเพื่อประโยชน์ในการบันทึกค่าใช้จ่ายเพื่อไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่เกี่ยวกับการอ่านในฐานะการฝึกจิตวิญญาณอันสูงส่ง พวกเขาแทบไม่มีความคิดเลย มีเพียงการอ่านในความหมายอันสูงส่งของคำนี้เท่านั้น

แต่ละคนไม่เพียงแต่มีความสามารถเท่านั้น แต่ยังต้องพิจารณาวิถีชีวิตของตนเองใหม่ โดยตระหนักถึงความผิดปกติทั้งหมดในชีวิตประจำวันเพื่อแสวงหาความเจริญรุ่งเรือง การแก้ไขนี้เริ่มต้นด้วยขั้นตอนง่ายๆ แต่จำเป็นอย่างยิ่ง ขั้นตอนการเตรียมการพัฒนาตนเองทางศีลธรรม การพัฒนาตนเองด้านศีลธรรมเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม หากปราศจาก "ความสันโดษ" และ "สมาธิในตนเอง"

การปลูกฝังคุณธรรมเป็นความพยายามที่จะสลัดการนอนหลับ เหตุใดจึงเป็นเรื่องยากที่ผู้คนจะเล่าถึงการกระทำและวันเวลาของพวกเขา หากไม่ใช่เพราะพวกเขากำลังงีบหลับ ไม่ใช่ว่าพวกเขาอ่อนแอในบัญชีอยู่แล้ว หากพวกเขาไม่ถูกครอบงำด้วยความง่วง พวกเขาจะมีเวลาทำบางสิ่งให้สำเร็จ สำหรับคนใช้แรงงานคนนับล้านยังตื่นอยู่ มีเพียงหนึ่งในล้านเท่านั้นที่ตื่นขึ้นเพื่อความพยายามทางจิตที่มีผล และมีเพียงหนึ่งในร้อยล้านสำหรับชีวิตอันศักดิ์สิทธิ์หรือกวีนิพนธ์ การตื่นตัวคือการมีชีวิตอยู่ ฉันยังไม่พบผู้ชายที่ตื่นเต็มที่ แล้วถ้าฉันทำ ฉันจะมองเข้าไปในดวงตาของเขาได้อย่างไร?

เราต้องเรียนรู้ที่จะตื่นและตื่นอยู่เสมอ สิ่งนี้ไม่ต้องการวิธีการประดิษฐ์ แต่เป็นความคาดหวังอย่างต่อเนื่องของรุ่งอรุณซึ่งไม่ควรทิ้งไว้แม้ในการนอนหลับที่ลึกที่สุด สิ่งที่ทำให้เรามีความหวังมากที่สุดคือความสามารถที่ไม่มีเงื่อนไขของมนุษย์ที่จะลุกขึ้นจากความพยายามอย่างมีสติ

อย่างไรก็ตาม เราใช้ชีวิตอย่างน่าสังเวชเหมือนมด เราทำพลาดแล้วพลาด ติดแพทช์ หรือแม้แต่แสดงคุณธรรมสูงสุดเหนือความโชคร้ายที่ไม่จำเป็นและขจัดออกไปอย่างง่ายดาย เราใช้ชีวิตของเราไปกับเรื่องไร้สาระ

ลดกิจการของคุณให้เหลือสองหรือสาม ไม่ใช่หลักแสน แทนที่จะเป็นล้าน ให้นับถึงครึ่งโหลและใส่ธนบัตรทั้งหมดไว้ในมือคุณ ... ลดความซับซ้อน ลดความซับซ้อน แทนที่จะกินอาหารสามมื้อต่อวัน หากจำเป็น ให้กินเพียงครั้งเดียว แทนที่จะรับประทานอาหารหลายร้อยมื้อ ให้อิ่มด้วยห้ามื้อและลดอย่างอื่นตามนั้น

เรารีบร้อนเกินไปที่จะมีชีวิตอยู่ ผู้คนต่างเชื่อมั่นว่าประชาชาติจะต้องค้าขาย ส่งออกน้ำแข็ง สื่อสารทางโทรเลข และเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสามสิบไมล์ต่อชั่วโมงอย่างแน่นอน โดยไม่สงสัยว่าทุกคนจะสามารถใช้ได้หรือไม่ และไม่ว่าผู้คนควรจะมีชีวิตอยู่อย่างมนุษย์จริง ๆ หรือไม่ และไม่ใช่ชีวิตลิง - เรื่องนี้ยังไม่ได้รับการตัดสิน

ทำไมต้องรีบร้อนและใช้ชีวิตอย่างไร้เหตุผล? เราตัดสินใจอดตายก่อนจะหิว... เราไม่ได้ทำงานที่สำคัญจริงๆ เราหมกมุ่นอยู่กับการเต้นรำของ St. Vitus และไม่สามารถสงบสุขได้

ทันทีที่คนงีบหลับหลังอาหารเย็น เขาก็เงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า: “มีอะไรใหม่บ้าง?” ราวกับว่ามนุษยชาติในเวลานั้นยืนอยู่บนนาฬิกา สำหรับปราชญ์ สิ่งที่เรียกว่าข่าวทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องซุบซิบเท่านั้น และบรรดาผู้ที่ตีพิมพ์และอ่านข่าวนั้นเป็นข่าวซุบซิบเก่า ๆ เกี่ยวกับชาสักถ้วย ในขณะเดียวกัน หลายคนกำลังรอการนินทาเหล่านี้ด้วยความโลภ

ใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งวันอย่างสบาย ๆ เหมือนธรรมชาติโดยไม่ถูกเปลือกหอยหรือปีกยุงทุกตัวที่กระทบราง ให้เราตื่นแต่เช้าและถือศีลอดหรือรับประทานอาหาร แต่จงมีความสุภาพและไม่สับสน ให้ผู้คนมาหาเราและจากไป ให้เสียงกริ่งดังและเด็ก ๆ ร้องไห้ เราจะใช้เวลานี้ในแบบของเรา ทำไมต้องส่งและไปกับกระแส? สิ่งสำคัญคืออย่าพลิกคว่ำบนธรณีประตูที่เป็นอันตรายและอ่างน้ำวนที่เรียกว่าอาหารเย็นซึ่งรอเราอยู่ในน้ำตื้นตอนเที่ยง

ลงมือทำงานและพยายามหาพื้นหินที่แข็งบางครั้งซึ่งเราสามารถเรียกได้ว่าเป็นความเป็นจริงและพูดว่า: นี่แหละและไม่ต้องสงสัยเลย

บนชายฝั่งของ Walden Pond, Thoreau นำชีวิตที่เรียบง่ายและเปิดกว้างให้กับเพื่อนฝูงและเพื่อนบ้านที่ไร้คำพูด - ผู้ที่อาศัยอยู่ในป่า

อย่างน้อยวิถีชีวิตของฉันทำให้ฉันได้เปรียบเหนือผู้ที่ถูกบังคับให้มองหาความบันเทิงภายนอก - ในสังคมหรือในโรงละครซึ่งสำหรับฉันแล้วชีวิตกลายเป็นความบันเทิงและไม่เคยสูญเสียความแปลกใหม่ มันเป็นการแสดงที่หลากหลายและไม่สิ้นสุด หากเราหาเลี้ยงชีพและจัดวางให้ดีที่สุดโดยที่เรารู้วิธีอยู่เสมอ เราจะไม่มีวันเบื่อหน่าย ทำตามผู้นำอัจฉริยะที่ดีและทุก ๆ ชั่วโมงเขาจะเปิดเผยสิ่งใหม่ให้คุณ

Thoreau นำเรากลับไปสู่จุดกำเนิดของความสัมพันธ์กับธรรมชาติ - ความรู้สึกดั้งเดิม ความสามารถในการฟังและดูว่าเกิดอะไรขึ้นรอบ ๆ และในการเชื่อมโยงความสนใจอย่างเข้มข้นกับ Thoreau ที่มีอยู่ไม่ได้แยกบุคคลออกจากเขา แต่มีประสบการณ์ว่า วิญญาณเปลี่ยนความสนใจจากโลกภายนอกที่ไร้ขอบเขตไปสู่ส่วนลึกของคุณ

ฉันเห็นว่าพวกเราชาวนิวอิงแลนด์มีชีวิตที่น่าสังเวชเพราะการจ้องมองของเราไม่ได้ทะลุผ่านพื้นผิวของสิ่งต่างๆ เราถือว่าสิ่งที่ปรากฏเป็นที่มีอยู่

ความจริงก็คือว่า หากได้รับความตั้งใจเพียงเล็กน้อย จินตนาการก็จะดำดิ่งลึกลงไปและทะยานเหนือขอบเขตของธรรมชาติ ความลึกของมหาสมุทรมีน้อยมากเมื่อเทียบกับพื้นที่

ไม่มีวิธีการทางวิทยาศาสตร์ใดที่สามารถทดแทนความต้องการความเอาใจใส่ต่อชีวิตได้อย่างต่อเนื่อง วิชาประวัติศาสตร์ ปรัชญา หรือกวีนิพนธ์ แม้แต่วิชาที่ได้รับเลือกมากที่สุด สังคมที่ดีที่สุด หรือชีวิตประจำวันที่มีระเบียบดีที่สุด เทียบได้กับความสามารถในการมองเห็นทุกสิ่งที่ชีวิตแสดงให้เราเห็นหรือไม่? สิ่งที่คุณต้องการ - เพียงอ่าน เป็นนักอ่าน หรือดู นั่นคือ เป็นผู้หยั่งรู้ อ่านชะตากรรมของคุณ รู้ว่าอะไรอยู่ตรงหน้าคุณ และก้าวไปสู่อนาคต

ธอโรพบความคิดที่ลึกซึ้งในการใช้ชีวิตแบบเดียวกันในธรรมชาติ แม้จะมีความคิดที่พัฒนาอย่างเป็นหมวดหมู่เกี่ยวกับความโรแมนติกแบบอเมริกัน แต่งานของเขาคล้ายกับความพยายามของเกษตรกรดึกดำบรรพ์ในความเกรงกลัวในตำนานนำคำอธิษฐานของพวกเขามาสู่โลก, ทะเลสาบ, ธรรมชาติ: "ฉันทำให้ดินสีเหลืองแสดงความคิดฤดูร้อนของฉันด้วยใบถั่วและดอกไม้ และไม่ใช่ด้วยไม้วอร์มวูด ต้นข้าวสาลีอ่อน หรือป่าสน ฉันเรียกร้องให้โลกพูดว่า "ถั่ว" แทนที่จะเป็น "หญ้า" - นั่นคืองานประจำวันของฉัน “ที่นี่คือวอลเดน ทะเลสาบป่าเดียวกันกับที่ฉันค้นพบเมื่อหลายปีก่อน แทนที่จะเป็นป่าที่โค่นล้มในฤดูหนาวที่แล้ว มีป่าใหม่งอกขึ้นบนฝั่ง เหมือนกับเต็มไปด้วยน้ำผลไม้และความแข็งแกร่ง และความคิดแบบเดียวกันนี้ก็ผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งของป่าสู่ผิวน้ำในตอนนั้น

แต่แตกต่างจากคนในชุมชนที่จะพอใจกับการแข่งขันวิ่งผลัดนี้เท่านั้นด้วยความเข้าใจในโลกภายนอกรอบตัวเขานักปรัชญาและนักธรรมชาติวิทยา Henry David Thoreau สะท้อนให้เห็นถึงความไม่รู้ในธรรมชาติของเขาและด้วยเหตุนี้จึงเป็นของอีกคนหนึ่ง สากลวัฒนธรรมทั้งหมด

ความสันโดษของ Walden ของ Thoreau คือความเหงา หรือความสามารถในการอยู่คนเดียวกับตัวเอง ซึ่งก็เหมือนกับความสัมพันธ์ทางอุตสาหกรรม ที่ก่อตัวขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาของการพัฒนาอารยธรรมยุโรป Thoreau ยกย่องความเหงาของเขาในฐานะรูปแบบการสื่อสารตามธรรมชาติของแต่ละบุคคลกับโลกภายนอก

ขณะที่ฉันเดินผ่านป่า เงาปีกแห่งความคิดบางอย่างอาจสั่นไหวเหนือภูมิทัศน์ในจิตใจของฉัน และฉันก็ตระหนักว่าเหตุการณ์ในชีวิตของเรานั้นมีน้อยเพียงใด อะไรคือความหมายของสงครามและข่าวลือเรื่องสงคราม การค้นพบสมัยใหม่ และการปรับปรุงที่เรียกว่า? แค่ระคายเคืองผิว แต่เงานี้ซึ่งหายไปอย่างรวดเร็วและเนื้อหาที่เข้าใจได้ยาก แสดงให้เห็นว่ามีเหตุการณ์สำคัญ ช่องว่างระหว่างนั้นคือยุคประวัติศาสตร์ที่แท้จริงสำหรับเรา

Yan เหงามากกว่าคนโง่หัวเราะเสียงดังในสระน้ำหรือ Walden Pond เอง ... Yan เหงามากกว่า mullein ที่กำลังเติบโตโดดเดี่ยวหรือดอกแดนดิไลอันทุ่งหญ้าหรือน้ำพุตะกอนของถั่วหรือสีน้ำตาลหรือหางม้า หรือภมร ฉันไม่เหงาไปกว่าลำธารสีครามหรือใบพัดอากาศหรือดาวเหนือหรือลมใต้หรือฝนเดือนเมษายนหรือหยดมกราคมหรือแมงมุมตัวแรกในบ้านใหม่ ... ทำไมฉันถึงรู้สึกเหงา? โลกของเราอยู่ทางช้างเผือกไม่ใช่หรือ?

ธอโรบรรยายถึงความสันโดษของเขาว่าเป็นสุขของการหลุดพ้นจากอารยธรรมที่ชั่วร้าย

มันเกิดขึ้นที่ฉันไม่สามารถเสียสละเสน่ห์ของช่วงเวลาเพื่อประโยชน์ในการทำงานใด ๆ - ทางจิตใจหรือร่างกาย บางครั้ง ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงเที่ยง ฉันนั่งบนธรณีประตูที่มีแสงแดดส่องถึง ท่ามกลางต้นสน เฮเซล และซูแมค ครุ่นคิดอย่างมีความสุข ในความเหงาและความเงียบที่ไม่ถูกรบกวน ในขณะที่นกร้องเพลงหรือบินผ่านกระท่อมของฉันอย่างเงียบ ๆ จนดวงอาทิตย์มองไปทางทิศตะวันตก หน้าต่างหรือเสียงดังก้องของล้อบนท้องถนนไม่ได้เตือนฉันว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ฉันไม่สงสัยเลยว่าสิ่งนี้จะดูเหมือนเพื่อนพลเมืองของฉันจะเกียจคร้าน แต่ถ้าดอกไม้หรือนกตัดสินฉันจากมุมมองของพวกเขาเอง ฉันจะไม่ถูกตำหนิด้วยสิ่งใดๆ

เมืองของ Toro เป็นถ้ำที่สกปรก เป็นผลผลิตที่ไร้เหตุผลของอารยธรรมสมัยใหม่ ทำให้เสียรูป "บิดเบือน" แก่นแท้ของมนุษย์ที่แท้จริง ธรรมชาติตามธรรมชาติของมนุษย์

ไม่ว่าใครก็ตามที่ไป ผู้คนจะไล่ตามเขาและพยายามยัดเยียดความชั่วใส่เขา และบังคับให้เขาเข้าร่วมชุมชนที่มืดมนและไร้เหตุผล จริงอยู่ ฉันสามารถต้านทานได้ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จไม่มากก็น้อย อาจโกรธราวกับว่าถูกครอบงำโดย "อาโมก"; แต่ฉันชอบมากกว่าที่จะไม่ใช่ฉันที่แสดงความดุร้าย แต่สังคม - หลังจากที่ทุกอย่างถูกทำให้สุดโต่ง

ทุกวันนี้อาจารย์ไม่อนุญาตให้คุณเข้าเตาไฟ เขาสั่งให้ผู้ทำเตาทำเตาพิเศษสำหรับคุณที่ไหนสักแห่งในทางเดินและการต้อนรับทำให้คุณอยู่ห่าง ๆ ห้องครัวถูกปิดบังด้วยความลึกลับราวกับว่าเขาตั้งใจจะวางยาพิษคุณ

ในยุคของเตาอบนี้ อีกไม่นานเราจะลืมไปว่าครั้งหนึ่งเราเคยอบมันฝรั่งด้วยขี้เถ้าอย่างชาวอินเดียนแดง เตาไม่เพียงแต่กินเนื้อที่และมีกลิ่นเหม็นเต็มบ้าน แต่ยังปิดไฟและฉันรู้สึกเหมือนสูญเสียเพื่อนคนหนึ่งไป ในกองไฟ คุณจะเห็นใบหน้าของใครบางคนเสมอ เมื่อมองดูเขาในตอนเย็น ชาวนาก็ขจัดความคิดสกปรก ความหยาบคายที่สะสมไว้ในอดีต

ในห้องนั่งเล่นของเรา ภาษาสูญเสียพลังและเสื่อมโทรมลงในเสียงพูดคุยที่ไร้ความหมาย ชีวิตของเราอยู่ไกลจากรากฐานของมัน และความหนาวเย็นคือคำอุปมาและเส้นทางที่มีเวลาเย็นลงในขณะที่ส่งอยู่บนลิฟต์ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ห้องนั่งเล่นอยู่ไกลจากห้องครัวและห้องทำงานอย่างไม่สิ้นสุด

การทำให้เป็นอุดมคติของอาศรมในอ้อมอกของธรรมชาติและการวิพากษ์วิจารณ์ชุมชนมนุษย์ทุกรูปแบบสะท้อนถึงปัจเจกนิยมของทอโร แต่ไม่ใช่สโลแกนเชิงโปรแกรมของเขา Toro ชอบความเหงามากกว่าสังคมมนุษย์ที่เข้าถึงได้มากเกินไป: สังคมทำให้เขาเบื่อหน่ายและหันเหความสนใจของเขาจากความคิดที่จริงจัง เขาชอบที่จะอยู่คนเดียว ไม่มีใครสบายใจที่จะสื่อสารด้วยเท่ากับความเหงา

เรามักอยู่ตามลำพังท่ามกลางผู้คนมากกว่าอยู่ในความเงียบงันในห้องของเรา เมื่อมีคนคิดหรือทำงาน เขาจะอยู่กับตัวเองเสมอไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ความเหงาไม่ได้วัดกันที่ระยะทางที่แยกคนออกจากเพื่อน นักเรียนที่ขยันขันแข็งอย่างแท้จริงนั้นโดดเดี่ยวในรังที่มีเสียงดังของวิทยาลัยเคมบริดจ์ราวกับเป็นคนโง่เขลาในทะเลทราย

ความสามารถในการอยู่ตามลำพังกับความคิดของคุณเป็นผลมาจากบุคคลที่มีระดับวัฒนธรรมและจิตวิญญาณที่แน่นอน ตัวอย่างเช่น Henry Thoreau บรรยายถึงชาวนาที่ทำงานคนเดียวในทุ่งนาหรือในป่าทั้งวัน แต่ไม่รู้สึกเหงาเพราะหาอะไรทำ “และเมื่อกลับถึงบ้านในตอนเย็นเขาไม่สามารถอยู่กับเขาคนเดียวได้ ความคิดและเขาต้องการที่จะ "ในที่สาธารณะ" ให้รางวัลตัวเองสำหรับความเหงาในเวลากลางวัน ดังนั้นเขาจึงประหลาดใจกับนักวิทยาศาสตร์ที่สามารถนั่งอยู่คนเดียวในบ้านได้ตลอดทั้งคืนและเกือบทั้งวันโดยไม่กลัวความเบื่อหน่ายและบลูส์: เขาไม่เข้าใจว่านักวิทยาศาสตร์ที่ขังตัวเองอยู่ในบ้านกำลังปลูกฝัง ทุ่งนาหรือโค่นต้นไม้ในเวลานี้

อยู่ในป่าของเขา เหมือนกับชาวนาในเขา แล้วก็แสวงหาความบันเทิงและสังคมเช่นนั้น ถึงแม้ว่าอาจจะอยู่ในรูปแบบที่เข้มข้นกว่าก็ตาม

สำหรับคนที่ไม่รู้จักอยู่คนเดียว Thoreau ไม่พบอะไรดีไปกว่าคำแนะนำในการทำงานมากขึ้น:

มีคนที่ "ขยัน" ดูเหมือนจะรักงานเพื่อตัวเอง หรือบางทีอาจเป็นเพราะมันไม่ยอมให้พวกเขาตกไปอยู่ในสิ่งล่อใจที่แย่ที่สุด ตอนนี้ฉันไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ สำหรับผู้ที่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรในยามว่างมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ ฉันแนะนำให้คุณทำงานให้มากขึ้นเป็นสองเท่า - จนกว่าพวกเขาจะไถ่ตัวเองสู่อิสรภาพ

ชีวิตของเอช.ดี. ธอโรบนฝั่งวอลเดนพอนด์เป็นตัวอย่างของชีวิตที่มีสติสัมปชัญญะ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สะท้อนความคิดเชิงปรัชญา ธอโรหลีกเลี่ยงชีวิตในโลกแห่งการเลียนแบบอย่างขยันขันแข็ง และดูเหมือนว่าจำกัดตัวเองให้อยู่เฉพาะกับบุคคล ปัจเจกบุคคล "เสียอารมณ์" ให้กลายเป็นมนุษย์ที่เป็นสากลและเป็นสากล สรุปเนื้อหาของการแข่งขันวิ่งผลัดเหล่านี้และอื่น ๆ ที่ไม่ได้อธิบายโดยเรา (เช่น การถ่ายทอดการแข่งขันของประวัติศาสตร์ธรรมชาติและการสังเกต), "คลื่นแห่งชีวิต", Thoreau พยายามตั้งสมาธิและระบุคลื่นเอง เหตุการณ์ - กฎของ ความพยายามที่สนุกสนานและมีผล

การคิดช่วยให้เรา "อารมณ์เสีย" แต่ไม่ใช่ในความหมายปกติของคำ ด้วยความพยายามทางจิตอย่างมีสติ เราสามารถถอยกลับจากการกระทำและผลที่ตามมา แล้วความดีและความชั่วทั้งหมดจะผ่านเราไปเหมือนสายน้ำ ในความหมายทั่วไปแต่แท้จริงแล้ว ความพยายามเป็นการกระทำในตัวของมันเองอยู่แล้ว

เมื่ออยู่อย่างสันโดษ เมื่อ "คลำ" ตัวเอง บุคคลสามารถอ่าน รับรู้เสียง ธรรมชาติโดยรอบ เจาะลึกลงไปในแก่นแท้ของความรู้ภายในสุดทุกวัน แต่กิจกรรมที่ดูเหมือนง่ายที่สุดอย่างหนึ่ง - การอ่าน ก็ยังห่างไกลจากความเรียบง่ายอย่างที่คิด:

นักวิทยาศาสตร์สามารถอ่าน Homer หรือ Aeschylus ในภาษากรีกได้ และไม่ต้องกลัวว่าจะถูกตำหนิเพราะความเกียจคร้านที่หรูหรา เพราะในขณะที่อ่าน ดูเหมือนว่าเขาจะเลียนแบบวีรบุรุษของพวกเขาและอุทิศเวลาเช้าให้กับหน้าเพจของพวกเขา ภาษาของหนังสือที่กล้าหาญเหล่านี้ แม้ว่าจะตีพิมพ์ในการแปลของเรา แต่ก็ยังคงเป็นภาษาที่ตายแล้วสำหรับช่วงเวลาที่เสื่อมโทรมของเรา และเราถูกบังคับให้ต้องเดาทุกคำและทุกบรรทัดอย่างพากเพียร โดยให้ความหมายที่กว้างกว่าภาษาที่ยอมรับกันทั่วไปในนั้น และ หันเข้าหาปัญญาทั้งปวงเพื่อการนี้ ความกล้าหาญ และความเอื้ออาทรที่เราครอบครอง

การอ่านที่ดี—การอ่านหนังสือที่ดีจริงๆ ด้วยจิตวิญญาณที่ถูกต้อง—เป็นงานอันสูงส่ง ซึ่งต้องใช้ความพยายามจากบุคคลมากกว่าการแสวงหาที่ยอมรับในปัจจุบัน ต้องใช้การฝึกอบรมแบบเดียวกับที่นักกีฬาที่อุทิศตนเพื่อเป้าหมายทั้งหมด ควรอ่านหนังสือด้วยสมาธิและจังหวะที่พอเหมาะพอๆ กับที่เขียน ความสามารถในการพูดภาษาที่ใช้เขียนนั้นยังไม่เพียงพอ เนื่องจากไม่มีระยะห่างระหว่างภาษาที่พูดและเขียน ภาษาที่เราได้ยิน และภาษาที่เราอ่าน อย่างแรกอายุสั้น คือ เสียง วาจา วาจา สัตว์บางอย่าง สิ่งที่เราเรียนรู้จากแม่โดยไม่รู้ตัวเหมือนสัตว์ ข้อที่สองแสดงถึงวุฒิภาวะและประสบการณ์ของคนแรก ถ้าภาษาแรกคือภาษาของแม่ ภาษาที่สองคือภาษาของบิดา ซึ่งคัดเลือกมาอย่างดีวิธีการแสดงออกที่หนักใจเกินกว่าจะได้ยินง่ายๆ จะต้องบังเกิดใหม่ ในยุคกลาง ฝูงชนที่พูดได้เพียงภาษากรีกและละตินเท่านั้น โดยบังเอิญไม่สามารถอ่านผลงานของอัจฉริยะที่เขียนในภาษาเหล่านี้ได้ เนื่องจากไม่ใช่ภาษากรีกเดียวกันและไม่ใช่ภาษาละตินที่พวกเขารู้ แต่ วรรณคดีภาษากลั่น ภาษาอันสูงส่งของกรีซและโรมนี้ไม่คุ้นเคยสำหรับพวกเขา ต้นฉบับเป็นขยะไร้ค่าสำหรับพวกเขา และพวกเขาต้องการวรรณกรรมสมัยใหม่ราคาถูกสำหรับพวกเขา แต่เมื่อชาวยุโรปพัฒนาภาษาของตนเองขึ้น แม้ว่าจะยังคงหยาบ ภาษาเขียน แต่สอดคล้องกับความต้องการของวรรณกรรมของพวกเขา การเรียนรู้ก็ฟื้นคืนเช่นกัน และนักวิทยาศาสตร์เริ่มเห็นขุมทรัพย์ของวัฒนธรรมโบราณจากส่วนลึกของศตวรรษ สิ่งที่ฝูงชนข้างถนนในกรุงโรมและกรีซไม่ได้ยิน และหลังจากผ่านไปหลายศตวรรษ นักวิทยาศาสตร์สองสามคนสามารถอ่านได้ และมีเพียงนักวิทยาศาสตร์เท่านั้นที่อ่านมันจนถึงทุกวันนี้

บรรดาผู้ที่ไม่ได้เรียนการอ่านคลาสสิกโบราณในภาษาดั้งเดิมนั้นมีความรู้ที่ไม่สมบูรณ์มากเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เนื่องจากยังไม่มีการแปลอย่างแท้จริงในภาษาสมัยใหม่ใดๆ เว้นแต่ว่าอารยธรรมของเราเองจะถือว่าเป็นเช่นนั้น การแปล

หนังสือที่ดีที่สุดจะไม่ถูกอ่านแม้กระทั่งโดยผู้ที่ถือว่าเป็นผู้อ่านที่ดี ด้วยข้อยกเว้นบางประการ เมืองของเราไม่ได้แสดงรสนิยมของงานที่ดีที่สุด แม้แต่วรรณกรรมภาษาอังกฤษที่มีให้ทุกคน

หนังสือบางเล่มไม่โง่เท่าผู้อ่าน สำหรับคนจำนวนมาก ยุคใหม่ในชีวิตเริ่มต้นจากการอ่านหนังสือบางเล่ม

ความพยายามทางจิตวิญญาณนำไปสู่การตื่นขึ้นอย่างอัศจรรย์ของบุคคล ฟื้นฟูเขา ทำให้ชีวิตของเขามีความหมาย ความพยายามนี้จำเป็นต้องตระหนักถึงการตื่นขึ้นของความเป็นไปได้ทางกายภาพและทางจิตวิญญาณทั้งหมด แต่จิตวิญญาณของมนุษย์กลายเป็นศูนย์กลาง:

ตามกฎของสองขนาด เราไม่เพียงแต่พบดวงอาทิตย์ในระบบดาวเคราะห์ของเราและหัวใจในร่างกายมนุษย์เท่านั้น จุดสูงสุดหรือความลึกของจิตวิญญาณของเขา

สำหรับธอโร ความลึกซึ่งเป็นศูนย์กลางของจิตวิญญาณมนุษย์ เป็นจุดตัดของการกระทำที่โดดเด่นที่สุดของมนุษย์ (เห็นได้ชัดว่าเป็นเส้นที่กว้างที่สุด) และคลื่นแห่งชีวิต (เส้นที่ยาวที่สุด) จับภาพไว้ด้วย "อ่าวและฟยอร์ด" ที่คลื่นเหล่านี้แตกออก ธรรมชาติอยู่ใกล้มนุษย์ เธอเป็นบรรพบุรุษ แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็ยังคงเป็น "หญิงชรา" ในละแวกบ้านเท่านั้น สิ่งที่ใกล้เคียงที่สุดสำหรับมนุษย์ตามคำบอกกล่าวของ Thoreau คือกฎอันยิ่งใหญ่ที่ธรรมชาติประทานให้แก่เขาโดยไม่ได้มาจากธรรมชาติ แต่เกิดจาก "อิทธิพลของพลังที่มองไม่เห็นของสวรรค์และโลก"

โดยทั่วไปเราให้ความสำคัญกับสถานการณ์ภายนอกและสถานการณ์ชั่วคราวเท่านั้น นี่คือสาเหตุที่ทำให้เราสับสน ใกล้กับทุกสิ่งที่มีอยู่คือพลังที่สร้างมันขึ้นมา กฎหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกำลังบรรลุผลสำเร็จอยู่เสมอ ที่อยู่ใกล้เรามากที่สุดไม่ใช่คนงานที่เราจ้างมาและคนที่เราชอบคุยด้วยมาก แต่เป็นคนที่สร้างเรา

G. Thoreau ถือว่ามนุษย์เป็นศูนย์กลาง จุดสนใจของโลก เกาะที่อยู่ท่ามกลาง "คลื่นแห่งชีวิต" การจะเป็นและยังคงเป็นศูนย์กลางของชีวิตที่แท้จริง คุณต้องปกป้องตำแหน่งของคุณอย่างต่อเนื่อง ความจำเป็นนี้ต้องการให้บุคคลหลุดพ้นจากกิจวัตรประจำวัน ให้ห่างไกล “โลกประจำวัน” ให้ห่างไกลจากโลกของเขาอย่างเหมาะสม แม้ว่าโลกนี้จะเป็นสถานที่ซึ่ง

กิจกรรมทางจิตใจและวัตถุของเขาเอง ศูนย์กลางของโลกนี้สามารถเป็นเหมือนทุ่งถั่วได้เช่นเดียวกับทอโร

"ผู้สร้างเรา" อยู่กับเราเสมอ ยิ่งกว่านั้นมันอยู่ในตัวเราซึ่งกำหนดและ "แกะสลัก" ความเย้ายวนและความคิดของเราซึ่งบุคคลรู้สึกถึงชีวิต ในรูปแบบนามธรรมของพลังและกฎหมายที่สูงกว่านี้ Henry Thoreau ซ่อน "ซ่อน" เหตุการณ์สำคัญของมนุษย์ซึ่งเป็นกระบวนการของการปฏิสัมพันธ์สากลและการพึ่งพาอาศัยกันของผู้คน

คงจะดีถ้า (คนคนหนึ่ง - เอ็ด.) สามารถวาดภาพหรือปั้นรูปปั้นได้ นั่นคือ เพื่อสร้างสิ่งที่สวยงามหลายอย่าง แต่งานจะดูสูงส่งเพียงใดในการเป็นประติมากรที่มีศีลธรรม ผู้สร้างสิ่งแวดล้อมทั้งหมด เพื่อให้วันของเราสวยงามยิ่งขึ้นคือศิลปะขั้นสูงสุด หน้าที่ของทุกคนคือการทำให้ชีวิตของเขาในทุกสิ่ง ลงรายละเอียดที่เล็กที่สุด คุ้มค่าของแรงบันดาลใจเหล่านั้นที่ปลุกในตัวเขาในเวลาที่ดีที่สุดของเธอ

ความเหงาซึ่งก่อให้เกิดสมาธิ ได้รับความสามารถในการ "มองใหม่" ที่ผู้อื่นในไม่ช้าจะนำไปสู่การฝึกฝนทักษะในการทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในสาระสำคัญของธรรมชาติของมนุษย์:

คนบ้ามาจากบ้านพักคนชราและที่อื่นๆ แต่ข้าพเจ้าพยายามเปิดใจและสำแดงความนึกคิดทั้งหมดที่เขามี ฉันเริ่มพูดถึงจิตใจและได้รับรางวัล ฉันพบว่าบางคนฉลาดกว่าที่เรียกว่าผู้ดูแลคนจนและสมาชิกสภาเมือง และถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องเปลี่ยนที่ ปรากฎว่าความแตกต่างระหว่างความบ้าและความฉลาดนั้นไม่ค่อยดีนัก

ตัวอย่างเช่น ครั้งหนึ่ง ชายยากจนผู้ไม่มีพิษมีภัยและใจง่ายมาหาฉัน ซึ่งฉันมักจะพบเห็นในทุ่งนา ซึ่งเขายืนหรือนั่งบนตะกร้า ทำหน้าที่เป็นรั้วที่มีชีวิต เพื่อให้วัวและตัวเขาเองได้ อย่าเร่ร่อนในที่ไม่ควร เขาแสดงความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่เหมือนฉัน ด้วยความเรียบง่ายและความจริงใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สูงส่งหรือค่อนข้างต่ำต้อยเมื่อเทียบกับสิ่งที่เรียกว่าความถ่อมตน เขาบอกฉันว่าเขา "ขาดสติปัญญา" ดังนั้นเขาจึงกล่าวว่า นี่คือวิธีที่พระเจ้าสร้างเขา แต่เขาเชื่อว่าพระเจ้ารักเขาไม่น้อยกว่าคนอื่น “ผมเกิดมาแบบนั้น” เขากล่าว “และเป็นเช่นนี้มาตลอด ไม่เหมือนเด็กคนอื่นๆ เขามีจิตใจที่อ่อนแอ เห็นได้ชัดว่าพระเจ้าต้องการมัน” และนี่คือการยืนยันคำพูดของเขา เขาเป็นความลึกลับทางปรัชญาสำหรับฉัน ฉันไม่เคยพบจุดที่อุดมสมบูรณ์เช่นนี้มาก่อนเลยสำหรับการสร้างสายสัมพันธ์กับบุคคล ทุกสิ่งที่เขาพูดนั้นเรียบง่าย จริงใจ และเป็นความจริง ยิ่งเขาถ่อมตัวมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งยกระดับเขามากเท่านั้น ทีแรกนึกว่าตั้งใจซะอีก บนพื้นฐานของความจริงใจและความตรงไปตรงมา ได้รับการปลูกฝังโดยขอทานที่มีจิตใจอ่อนแอ บางสิ่งที่ดีกว่าสามารถหล่อเลี้ยงความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนได้ดีกว่าปราชญ์ที่เคยทำสำเร็จมาก่อน

การเข้าใจกฎแห่งชีวิตของธรรมชาติช่วยให้เข้าใจโลก "เข้าใจในสาระสำคัญ" ของกฎระดับสูงของจักรวาลและด้วยเหตุนี้กฎของสังคมมนุษย์

พันธุ์สัตว์ป่าได้กลายเป็นที่คุ้นเคยอย่างน่าทึ่ง ข้าพเจ้ารู้สึกและยังคงรู้สึกเช่นเดียวกับคนส่วนใหญ่ ความปรารถนาที่จะสูงขึ้นหรือที่เรียกกันว่าชีวิตฝ่ายวิญญาณ และในขณะเดียวกันก็มีความอยากในสมัยโบราณ และข้าพเจ้าให้เกียรติความทะเยอทะยานทั้งสองนี้ ฉันรักการเริ่มต้นที่ดุร้ายไม่น้อยไปกว่าคุณธรรม ฉันยังคงสนุกกับการตกปลาด้วยจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยอย่างอิสระ ฉันชอบใช้ชีวิตที่ลำบากในบางครั้งและใช้ชีวิตในแต่ละวันเหมือนสัตว์ บางทีอาจเป็นเพราะการตกปลาและการล่าสัตว์ที่ฉันรู้จักใกล้ชิดกับธรรมชาติตั้งแต่ยังเยาว์วัย พวกเขาพาเราไปยังสถานที่ที่ในยุคนี้เราไม่คุ้นเคย ชาวประมง นักล่า คนตัดไม้ และคนอื่นๆ ใช้ชีวิตในทุ่งนาและป่าไม้ ที่ซึ่งพวกเขาอยู่ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ สามารถมองเห็นเธอระหว่างทำงานได้ดีกว่านักปรัชญาหรือแม้แต่กวีที่คาดหวังอะไรบางอย่างจากเธอล่วงหน้า . เธอไม่กลัวที่จะแสดงตัว...

หลักการทางศีลธรรมแทรกซึมมาทั้งชีวิตของเรา ไม่มีการพักรบสั้น ๆ ระหว่างคุณธรรมและรอง ความดีเป็นเพียงผลงานที่เชื่อถือได้เท่านั้น ในเสียงเพลงของพิณล่องหนที่ขับขานไปทั่วโลก เสียงเพลงที่ยืนยงนี้ทำให้เราพอใจ พิณโน้มน้าวให้เราทำประกันในสมาคมประกันภัยแห่งจักรวาล และผลงานทั้งหมดที่จำเป็นจากเราคือคุณธรรมเล็กๆ น้อยๆ ของเรา ให้ชายหนุ่มเฉยเมยตามอายุ กฎหมายโลกไม่เฉยเมย พวกเขามักจะอยู่ด้านข้างของผู้ที่รู้สึกละเอียดที่สุด ฟังการประณามซึ่งมองเห็นได้ชัดเจนในทุกลมปราณ วิบัติแก่ผู้ที่ไม่ได้ยิน มีเพียงสัมผัสสตริงหรือเปลี่ยนโหมด - และคุณธรรมที่กลมกลืนจะทำให้หูของเราประหลาดใจ เสียงรบกวนที่น่ารำคาญมากมายในระยะไกลกลายเป็นเสียงดนตรี ซึ่งเป็นการเสียดสีชีวิตที่น่าสังเวชของเรา

ความสุขมีแก่ผู้ที่มั่นใจว่าธรรมชาติของสัตว์กำลังอ่อนแอในตัวเขาทุกวันและในรัชกาลอันศักดิ์สิทธิ์ คงไม่มีใครอยู่ได้ถ้าปราศจากส่วนผสมของเบสและสัตว์ที่น่าอับอาย ข้าพเจ้ากลัวว่าเราเป็นเทพเจ้าและกึ่งกึ่งเทพเพียงเพราะเป็นเหมือนฟอนและเทพารักษ์ ซึ่งเทพนั้นถูกรวมเข้ากับสัตว์ร้าย ว่าเราเป็นทาสของความอยากอาหารของเรา ชีวิตของเรา ในแง่หนึ่ง ทำให้เราเป็นมลทิน

ราคะเป็นหนึ่งเดียว แม้ว่าจะมีหลายรูปแบบ และความบริสุทธิ์ก็เหมือนกัน ไม่สำคัญหรอกว่าคนนั้นกำลังทำอะไรอยู่ - กิน ดื่ม มีเพศสัมพันธ์ หรือเพลิดเพลินกับการนอนหลับ ทั้งหมดนี้เป็นความอยากอาหาร และเพียงพอที่จะเห็นบุคคลในกิจกรรมเหล่านี้เพื่อค้นหาว่าเขามีความรู้สึกอย่างไร ผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ย่อมไม่ทำสิ่งใดๆ อย่างหมดจด หากคุณจับสัตว์เลื้อยคลานจากปลายรูด้านหนึ่ง มันจะยื่นออกมาจากอีกด้านหนึ่ง ถ้าอยากเป็นคนบริสุทธิ์ ก็ต้องใจเย็นๆ พรหมจรรย์คืออะไร? บุคคลจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาบริสุทธิ์ เขาไม่ได้รับอนุญาตให้รู้เรื่องนี้ เราเคยได้ยินคุณธรรมดังกล่าวมาบ้างแล้ว แต่เราไม่รู้ว่าสาระสำคัญคืออะไร

เพื่อให้ได้มาซึ่งความบริสุทธิ์และหลุดพ้นจากบาป จงทำงานใดๆ อย่างไม่หยุดยั้ง แม้กระทั่งทำความสะอาดคอกม้า เป็นการยากที่จะเอาชนะธรรมชาติ แต่จำเป็นต้องเอาชนะมัน อะไรคือประเด็นของการเป็นคริสเตียนถ้าคุณไม่บริสุทธิ์มากกว่าคนนอกศาสนา ถ้าคุณไม่แซงหน้าเขาในเรื่องความพอประมาณและความกตัญญู? ฉันรู้จักหลายศาสนาที่ถือว่านอกรีต แต่กฎเกณฑ์ของพวกเขาจะทำให้ผู้อ่านอับอายและเป็นแบบอย่างสำหรับพวกเขา ถ้าเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติพิธีกรรมเท่านั้น

เราทุกคนล้วนเป็นประติมากรและศิลปิน ร่างกาย เลือด และกระดูกของเราเป็นวัตถุดิบสำหรับเรา ความคิดอันสูงส่งทั้งหมดทำให้คุณลักษณะของบุคคลสูงส่งในทันที ทุกสิ่งที่ต่ำต้อยและเย้ายวนทำให้พวกเขาหยาบ

เวลาเป็นเพียงสายน้ำที่ฉันวางสาย ฉันดื่มจากมัน แต่เวลานี้ฉันเห็นพื้นทรายและแน่ใจว่ามันตื้นแค่ไหน กระแสน้ำที่ตื้นนี้ไหลผ่าน แต่ความเป็นนิรันดร์ยังคงอยู่ ฉันอยากดื่มจากบ่อน้ำลึก ฉันอยากจะโยนเส้นของฉันขึ้นไปบนท้องฟ้า ที่ด้านล่างเต็มไปด้วยก้อนกรวดของดวงดาว ฉันไม่สามารถนับหนึ่งได้ ฉันไม่รู้แม้แต่ตัวอักษรตัวแรกของตัวอักษร ฉันเสียใจเสมอที่ฉันไม่ฉลาดเท่าวันที่ฉันเกิด จิตใจของมนุษย์เป็นเครื่องแยกที่แหลมคม มันหาทางไปสู่แก่นแท้ของสรรพสิ่ง ฉันไม่ต้องการที่จะทำงานด้วยมือของฉันมากเกินความจำเป็น ฉันมีแขนและขาอยู่ในหัว ฉันรู้สึกว่าความสามารถทั้งหมดของฉันจดจ่ออยู่กับมัน สัญชาตญาณบอกฉันว่าเป็นอวัยวะที่ออกแบบมาเพื่อเจาะลึก เช่น ตราบาปและอุ้งเท้าของสัตว์บางชนิด ฉันอยากจะขุดลงไปในเนินเขาเหล่านี้ด้วย และฉันจะเริ่มต้นขุดที่นี่

ความปรารถนาในความดีซึ่งเกิดขึ้นทุกวันพร้อมกับลมปราณอันสงบสุขในยามเช้าทำให้คนเรารักคุณธรรมและเกลียดชังรองและทำให้เขาใกล้ชิดกับธรรมชาติของมนุษย์มากขึ้น - นี่คือวิธีที่ยอดอ่อนเกิดขึ้นรอบลำต้นที่ถูกตัด และในทางตรงกันข้าม ความชั่วร้ายที่ก่อตัวขึ้นในตอนกลางวันขัดขวางการพัฒนาของพื้นฐานคุณธรรมที่เพิ่งเกิดขึ้นและทำลายล้าง

หากถั่วงอกเหล่านี้ถูกทำลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความงดงามในยามค่ำก็ไม่เพียงพอจะรักษาไว้ได้อีกต่อไป และเมื่อไม่มีอำนาจ ธรรมชาติของมนุษย์จะแตกต่างจากธรรมชาติของสัตว์เพียงเล็กน้อย และคนทั้งหลายเมื่อเห็นว่าชายผู้นี้กลายเป็นเหมือนสัตว์แล้ว ให้ถือว่าเขาไม่เคยมีจิตโดยกำเนิด แต่นั่นคือสิ่งที่ผู้คนควรคิดหรือไม่?

บทสรุปจาก "ชีวิตในป่า" ของกวีโรแมนติกและ GD Toro เน้นก่อนอื่นถึงความสำคัญของเส้นทาง: คุณต้องเรียนรู้ที่จะอ่านในลักษณะที่รู้สึกถึงเสียงของคนอื่นในตัวเอง . ทักษะนี้สามารถทำได้โดยการทำธุรกิจโดยเน้นที่ "คลื่นชีวิต" ตัวเอง การแข่งขันวิ่งผลัดของปรัชญา เจาะบ่อน้ำแห่งความทุกข์ โลกแห่งความหมาย-เหตุการณ์ "ความจริงอันศักดิ์สิทธิ์" บุคคลจะเปิดรับความลึกลับโดยวิธีปฏิบัติดังกล่าว

งูที่อาศัยอยู่ภายในตัวฉันเงยขึ้นตามเสียงน้ำไหล เมื่อไหร่ที่ฉันกลืนมัน? ในที่สุด ฉันก็กำจัดงูที่อาศัยอยู่ภายในตัวฉันได้ตั้งแต่เคยดื่มน้ำนิ่งๆ ฉันคว้าเธอที่คอแล้วดึงเธอออกมา หลังจากนั้นฉันก็มีวันที่ดี เป็นไปไม่ได้ที่จะกำจัดงูที่คุณกลืนในวัยหนุ่มของคุณเมื่อคุณก้มตัวลงและดื่มน้ำนิ่ง ๆ โดยไม่ตั้งใจ? ตั้งแต่นั้นมา มันก็รบกวนคุณทั้งในความฝันและในความเป็นจริง มันยึดครองชีวิตที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของคุณ รู้สึกอิสระที่จะคว้าเธอที่คอและดึง แม้ว่าคุณจะดูเหมือนว่าหางของเธอจะทำให้อวัยวะสำคัญของคุณบิดเบี้ยว

นิรันดร์มีความจริงสูง แต่เวลา สถานที่ และโอกาส ทั้งหมดนี้อยู่ในขณะนี้และที่นี่ ความเป็นพระเจ้าเองแสดงออกในขณะปัจจุบัน และในทุกอนันต์ของเวลา มันไม่มีความศักดิ์สิทธิ์มากไปกว่านี้อีกแล้ว เราสามารถเข้าใจพระเจ้าและความสูงได้ก็ต่อเมื่อเราตื้นตันใจอย่างต่อเนื่องกับความเป็นจริงรอบตัวเรา เอกภพปฏิบัติตามแผนการของเราอย่างเชื่อฟังเสมอ ไม่ว่าเราจะก้าวไปเร็วหรือช้า เส้นทางนั้นมีไว้สำหรับเรา ให้เราอุทิศตัวเองให้กับความคิด ยังไม่มีแผนที่สวยงามและสูงส่งของกวีหรือศิลปิน เพื่อที่ลูกหลานคนหนึ่งของเขาจะไม่รู้ตัว

ต้องการให้ผู้อ่านเข้าใจพระเจ้าอย่างแท้จริง Thoreau มุ่งเน้นไปที่ "ที่นี่และเดี๋ยวนี้" - เพื่อให้ได้ความรู้ เข้าใจพระเจ้า ตื้นตันกับความเป็นจริงโดยรอบ และในทางกลับกัน เป็นไปได้โดยการเจาะเข้าไปในตัวเราเท่านั้น ดังนั้น บุคคลจะหันหน้าเข้าหาข้อเท็จจริง เหตุการณ์ ไม่ใช่สิ่งของ ธอโรเรียกให้หันกลับมามองตัวเอง ให้กล้าที่จะอยู่คนเดียว

“ทำธุรกิจ” ตามคำกล่าวของทอโร หมายถึง ดำเนินชีวิตอย่างชาญฉลาด ใช้ตัวอย่างของแท้ ไม่ใช่ของปลอม ทดลองความเป็นจริงที่แท้จริง ไม่ใช่รูปลักษณ์ที่ห่อหุ้มตรงกลาง แก่นแท้ ซ่อนเร้นเหมือนหมอก ธอโรเสนอประสบการณ์ส่วนตัวที่หลากหลายสำหรับการอภิปราย ซึ่งทำให้แน่ใจได้ว่าความเป็นจริงของการแข่งขันทางสังคมแบบถ่ายทอดทางปรัชญา ซึ่งผู้อ่านเป็นผู้สร้างคนเดียวกับผู้เขียนเองนั้น สามารถปลดปล่อยความสามารถเชิงสร้างสรรค์ของ บุคคลจากเงื้อมมือของโลกแห่งวัตถุ

"ความตื่นตัวทางจิตวิญญาณ" นำบุคคลไปสู่เส้นที่จำเป็นและช่วยให้เขาข้ามไปได้ มีวิธีการทางคณิตศาสตร์ที่กำหนดโดยวัฒนธรรมของจุดเพื่อให้บรรลุซึ่งควรพยายามตลอดเส้นทาง เฉพาะในด้านการรักษาประเพณีวัฒนธรรมเท่านั้นที่สามารถสร้างสิ่งใหม่: ผ่านการทำซ้ำของเก่า บุคคลไม่ควรกลัวการเดินทางเชิงเลื่อนลอย:

ไม่ กลายเป็นโคลัมบัสของทวีปและโลกใหม่ทั้งหมดในตัวคุณ ค้นพบวิธีการใหม่ ไม่ใช่เพื่อการค้า แต่เพื่อความคิด เราแต่ละคนเป็นเจ้าของประเทศ ถัดจากที่การครอบครองของโลกของซาร์รัสเซียดูเหมือนเป็นรัฐแคระ ซึ่งเป็นเนินเขาที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็ง

ควรสังเกตว่าในช่วงชีวิตของเขา Thoreau ไม่เข้าใจโดยโคตรของเขา Walden รุ่นแรกไม่ได้ขายหมด ในปี ค.ศ. 1906 เมื่อมีการตีพิมพ์ผลงานของนักเขียนฉบับสมบูรณ์ ไม่มีใครได้ยินอะไรเกี่ยวกับทอโรเลย Henry Thoreau ไม่ได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกาจนกระทั่งมากกว่าหนึ่งศตวรรษหลังจากการตายของเขา ตอนนี้เขาอยู่กับ John Muir และ Leopold Aldo นักเขียนที่อ้างถึงมากที่สุดในงานเขียนเชิงนิเวศปรัชญาในตะวันตก

ธอโรเป็นผู้เหนือธรรมชาติและดังนั้นจึงเชื่อในการมีอยู่ของ "วิญญาณเหนือ" หรือพลังทางศีลธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ที่ควบคุมการสร้างทั้งหมด เขายังศึกษาศาสนาพุทธและเป็นผู้แปลพระสูตรพุทธสูตรเป็นภาษาอังกฤษคนแรก ทั้งหมดนี้มีผลกระทบอย่างมากต่อการพัฒนามุมมองด้านสิ่งแวดล้อมของเขา

เหตุใด "ปริญญาตรีแห่งธรรมชาติ" จึงตั้งค่าการทดลองของเขา ท้ายที่สุด เป็นที่แน่ชัดว่าถึงแม้เขาจะพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการมีชีวิตอยู่ คิด ตระหนักรู้ในตัวเอง และในขณะเดียวกันก็พูดถึงตัวเองว่า “พรสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันคือความต้องการเล็กๆ น้อยๆ ของฉัน” เราไม่ควรคาดหวังว่าคนอเมริกันจะทำตามเขาในทันที ตัวอย่างและแลกเปลี่ยนธุรกิจเกี่ยวกับแนวคิดการปรับปรุงจิตวิญญาณ

เราต้องเรียนรู้ที่จะตื่นและตื่นอยู่เสมอ เพราะสิ่งนี้เราไม่ต้องการวิธีการประดิษฐ์ แต่ต้องมีความคาดหวังอย่างต่อเนื่องถึงรุ่งเช้า ซึ่งไม่ควรปล่อยให้เราหลับลึกที่สุด สิ่งที่ทำให้ฉันมีความหวังมากที่สุดคือความสามารถที่ไม่อาจปฏิเสธได้ของมนุษย์ที่จะลุกขึ้นด้วยความพยายามอย่างมีสติ

แพทย์ควรแนะนำให้ผู้ป่วยเปลี่ยนสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมอย่างชาญฉลาด ขอบคุณพระเจ้า โลกไม่ได้บรรจบกันเหมือนลิ่ม ... โลกกว้างกว่าที่เราเข้าใจ

คุณไม่จำเป็นต้องเดินทางไปทั่วโลกเพื่อนับแมวในแซนซิบาร์ แต่ในขณะที่คุณไม่รู้วิธีที่จะทำอย่างอื่น อย่างน้อยทำสิ่งนี้ และในที่สุดคุณอาจพบว่า (วิธี) คุณสามารถเจาะเข้าไปในตัวเองได้

ฉันออกจากป่าด้วยเหตุผลที่สำคัญพอๆ กันเมื่อฉันตั้งรกรากอยู่ที่นั่น บางทีดูเหมือนว่าฉันจะต้องมีชีวิตอยู่อีกสองสามชีวิตและฉันไม่สามารถใช้เวลามากกว่านี้ ... ฉันไม่ต้องการเดินทางในห้องโดยสาร ฉันชอบที่จะเดินทางในฐานะกะลาสีธรรมดาและอยู่ต่อไป ดาดฟ้าของโลก จากที่ที่แสงจันทร์บนภูเขามองเห็นได้ดีกว่า ยังไม่อยากลง

ไม่ว่าในกรณีใด ประสบการณ์ของฉันได้สอนฉันถึงสิ่งต่อไปนี้: ถ้าคนๆ หนึ่งก้าวไปสู่ความฝันของเขาอย่างกล้าหาญและพยายามดำเนินชีวิตตามที่เขาบอก ความสำเร็จจะรอเขาอยู่ ซึ่งไม่ได้มีอยู่ในชีวิตประจำวัน เขาจะทิ้งบางสิ่งไว้ข้างหลัง ก้าวข้ามขอบเขตที่มองไม่เห็น กฎหมายใหม่ที่เป็นสากลและเสรีกว่าจะถูกสร้างขึ้นรอบตัวเขาและในตัวเขา มิฉะนั้นกฎหมายเก่าจะถูกตีความตามความโปรดปรานของเขาในความหมายที่กว้างกว่า และเขาจะได้รับอิสรภาพเนื่องจากสิ่งมีชีวิตที่สูงกว่า

อังกฤษและอเมริกาเรียกร้องไร้สาระ: พูดเพื่อให้พวกเขาเข้าใจคุณ ภายใต้เงื่อนไขนี้ทั้งบุคคลและเห็ดสกปรกจะไม่เติบโต ราวกับว่าสิ่งนี้สำคัญมาก และไม่มีใครเข้าใจคุณนอกจากพวกเขา

น่าสงสารเหมือนชีวิตของคุณ มองหน้าแล้วใช้ชีวิต อย่าเหินห่างจากเธอและอย่าสาปแช่งเธอ เธอไม่ได้แย่เหมือนคุณ เธอดูเหมือนจะยากจนที่สุดเมื่อคุณรวยที่สุด

อย่ากังวลมากกับสิ่งใหม่ ๆ - ไม่ว่าเกี่ยวกับเพื่อนใหม่หรือเสื้อผ้าใหม่ เป็นการดีกว่าที่จะพลิกของเก่าหรือกลับไปหาพวกเขา อะไรๆก็ไม่เปลี่ยน เราเปลี่ยน ขายเสื้อผ้าของคุณ แต่เก็บความคิดของคุณไว้ พระเจ้าจะทรงเห็นว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว...

Walden เป็นงานที่มีหลายแง่มุม: ไม่ใช่แค่ไดอารี่ของนักเขียนที่หมกมุ่นอยู่กับปัญหาสังคมของชีวิตชาวอเมริกันยุคใหม่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงโลกอุดมคติที่โรแมนติกด้วย ซึ่งในใจกลางของฮีโร่เหล่านี้คือฮีโร่แนวปัจเจกนิยมที่มีแนวโน้มว่าจะใช้วิธีประท้วงที่รุนแรงที่สุด

ตามกฎแล้ว ความสุดโต่งของ Thoreau ก็เป็นการโต้เถียงเช่นกัน เมื่อเขาประท้วงต่อต้านคุณลักษณะบางอย่างของอารยธรรมสมัยใหม่ การโจมตีที่เฉียบคมที่สุดในผลงานของ Thoreau ส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบของความขัดแย้งโดยตรง มันไม่ยุติธรรมเลยที่จะมองว่า Thoreau เป็นตัวอธิบายที่เข้าใจง่าย เป็นปฏิปักษ์ต่อความก้าวหน้าและวัฒนธรรม

ยูโทเปียต่อต้านเมือง Walden ของ Thoreau กำลังทำการเกษตร ต่อต้านทุนนิยม กำจัดลักษณะความเป็นเจ้าของและปิตาธิปไตย และมีเนื้อหาที่เป็นปัจเจก สิ่งนี้จำกัดขอบเขตทางสังคม อย่างไรก็ตาม ยูโทเปียนี้สะท้อนถึงกระบวนการความเสื่อมโทรมทางวิญญาณและร่างกายของมนุษย์อย่างถูกต้อง ซึ่งมาพร้อมกับ "ความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรม" อย่างไรก็ตาม ยูโทเปียของ Thoreau ได้ต่อต้านลักษณะที่ไม่ดีต่อสุขภาพของความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรม

ปรัชญาของ Thoreau ไม่สามารถลดขนาดลงได้จนถึงความขัดแย้งที่ขัดแย้งกันของ Walden มุมมองส่วนบุคคลและ "แนวทางปฏิบัติในชีวิต" ของผู้เขียนยูโทเปียไม่เพียงแต่เข้ากับโลกอุดมคติของ Walden เท่านั้น แต่มีบริบทที่กว้างกว่าและความสำคัญทางสังคมที่แสดงออกมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนเองเหินห่างจากมุมมองของนักปฏิรูปใด ๆ ไม่คิดว่าจำเป็นต้องดำเนินการปฏิรูปการเมือง แต่ยืนยันเฉพาะความจำเป็นในการปรับปรุงตนเองของบุคคล ศีลธรรม และร่างกายเท่านั้น

ภายนอก การต่อต้านโดยสิ้นเชิงของมนุษย์และสังคมในงานของทอโรนั้นไม่เป็นเช่นนั้น ธอโรไม่ใช่คนที่ถูกขับไล่ออกจากสังคมและไม่ใช่ผู้ทำลายล้างจากอารยธรรม การออกจากป่า Toro ไม่ใช่การกระทำของการกักขังฤๅษี การกระทำนี้ถูกกำหนดโดยความปรารถนาที่จะหาที่มั่นและกลับสู่สังคม แต่ได้รับการฟื้นฟูและเสริมความแข็งแกร่งทางวิญญาณ อย่างน้อยก็ในทางทฤษฎี อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติเผยให้เห็นข้อบกพร่องที่ซ่อนอยู่ ข้อบกพร่องของโครงการแยกตนเองซึ่งในที่สุดก็นำไปสู่การกลับเมือง:

ฉันออกจากป่าด้วยเหตุผลที่สำคัญพอๆ กันเมื่อฉันตั้งรกรากอยู่ที่นั่น บางทีฉันอาจรู้สึกว่าฉันมีชีวิตอีกสองสามชีวิต และฉันไม่สามารถเสียเวลากับชีวิตนี้ให้มากขึ้นได้

ประเพณีที่เป็นลายลักษณ์อักษรได้รักษาเวอร์ชันของ Emerson ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ Henry Thoreau:

(โทโระ) อยู่ ... คนเดียวเป็นเวลาสองปีเต็มไปด้วยแรงงานทางร่างกายและจิตใจ การกระทำนี้เป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์สำหรับเขาและค่อนข้างสอดคล้องกับธรรมชาติของเขา ไม่มีใคร... จะกล่าวหาว่าเขาจงใจได้ โครงสร้างของความคิด ไม่ใช่เพียงพฤติกรรมเท่านั้น ที่ทำให้เขาแตกต่างจากคนรอบข้าง และทันทีที่ทอโรใช้ประโยชน์จากความเป็นส่วนตัวอย่างเต็มที่ เขาก็ละทิ้งมัน

ธอโรไม่ได้เบี่ยงเบนไปจากประเพณีโบราณและลดวิชาปรัชญาเพื่อค้นหาความหมายของชีวิต นั่นคือ ปัญญาที่จะสอนคนให้อยู่ร่วมกับตนเอง จักรวาล และคนรอบข้าง ธอโรเชื่อว่าปรัชญากำลังสูญเสียความหมายดั้งเดิมไป และพยายามนำปรัชญากลับไปสู่การปฏิบัติทางปรัชญา

ในความเป็นจริงที่ทอโรแสดงให้เห็น วิถีชีวิตเชิงปรัชญาเป็นลำดับของการกระทำที่ขัดต่อ "บรรทัดฐานทางสังคม" ซึ่งตามปราชญ์ เป็นเพียงอคติที่เป็นปรปักษ์ต่อธรรมชาติของมนุษย์ ไม่เป็นมิตรกับ "ต่ำ" ของเขาเท่านั้น " ธรรมชาติของสัตว์" แต่ยัง "ต่อมนุษย์โดยทั่วไป" รวมถึง "ส่วนศักดิ์สิทธิ์และจิตวิญญาณ" ของเขาด้วย ในขณะที่ Emerson แบ่งปันมุมมองของ Thoreau โดยทั่วไป ไม่ได้หัวรุนแรงเท่า Thoreau และแน่นอนว่าไม่ยอมรับ "การแสดงตลก" ของ Thoreau ที่เรียกว่า "ปรัชญาเชิงปฏิบัติ" คำพูดของ Thoreau "ปราชญ์ที่แท้จริงแม้ในการใช้ชีวิตภายนอกอยู่ข้างหน้าอายุของเขา" ในความเห็นของ Emerson แม้ว่าจะเป็นความจริง แต่ปัญหาก็คือ Thoreau ติดตามพวกเขาตามตัวอักษร Emerson ไม่ต้องการก้าวไปข้างหน้าในชีวิตประจำวันของเขา - เขาพอใจกับการมีอยู่ของมาตรฐานของ "ความคิดเห็นสาธารณะ" ความปรารถนาของ Thoreau ที่จะบรรลุลำดับขั้นของชีวิตที่กำหนดโดยการตัดสินใจอย่างมุ่งมั่น ทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกวัน ชั่วโมง ทุกการกระทำดำเนินไปอย่างถูกธรรมตามหลักปรัชญา Emerson เรียกความเป็นเด็กว่า "เกม"

ในทางกลับกัน ธอโรถือว่าการรวม "ปรัชญา" และ "ปัญญา" เข้าด้วยกันมีความสำคัญยิ่ง เขาถามตัวเองถึงปัญหาของสถานที่ของ "นักปราชญ์" ในชีวิตนี้ แก่นแท้ของปัญญาที่แท้จริงประกาศตัว ไม่ใช่ในเทือกเขาหิมาลัย แต่อยู่ใน "ความเป็นจริงธรรมดา" (ในแมสซาชูเซตส์) แน่นอน ธอโรไม่รู้จักลักษณะทางภูมิศาสตร์ของปัญญาซึ่งเป็นข้ามชาติและข้ามทวีป แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เขาต้องยอมรับว่าในรัฐแมสซาชูเซตส์ "ปัญญา" หายากกว่าในอารามทางพุทธศาสนา

ธอโรสามารถจินตนาการถึงปราชญ์ที่ทำกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับปรัชญา ความมั่นใจในความเป็นไปได้ดังกล่าวถูกกำหนดโดยหลักการของ "ความมั่นใจในตนเอง" (แนะนำโดย Emerson ซึ่งพัฒนาขึ้นในภายหลังโดยสมาชิกคนอื่นๆ ในแวดวง) สิ่งสำคัญคือการรับรู้ถึงเอกราชของวิญญาณความเป็นอันดับหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับกองกำลังทางวัตถุที่กำหนดหรือ จำกัด การดำรงอยู่ทุกวัน การสร้างชีวิตที่มีพื้นฐานทางปรัชญาตาม ธอโร เป็นปัญญาที่แท้จริง กล่าวคือ ปัญญาประกอบด้วยการสร้างชีวิตของตนเองตามหลักการเหนือธรรมชาติ

Walden หรือชีวิตในป่า

สถานที่ที่ Thoreau อาศัยอยู่ ในภาพถ่ายปี 1908

"วอลเดนหรือชีวิตในป่า"(ภาษาอังกฤษ) วอลเดน; หรือชีวิตในป่าฟัง)) เป็นหนังสือหลักของกวีและนักคิดชาวอเมริกัน Henry David Thoreau

เขาเตรียมทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับชีวิตด้วยตัวเอง โดยใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำสวน ตกปลา อ่านหนังสือคลาสสิก ว่ายน้ำและพายเรือ โดยรวมแล้ว ธอโรใช้เวลาสองปี 2 เดือนและสองวันในความสันโดษ ในเวลาเดียวกันเขาไม่ได้ซ่อนตัวจากผู้คนและสื่อสารกับชาวคองคอร์ดเป็นประจำรวมถึงเจ้าของบ่อน้ำ Emerson

อนุสาวรีย์ธอโรข้างสระน้ำ

คำอธิบายของชีวิตของทอโรในป่า ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกโดยเขาในปี ค.ศ. 1854 ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์จริงในชีวประวัติของเขาอย่างเต็มที่ ดังนั้นบทต่างๆจึงถูกจัดเรียงตามลำดับเวลาตามการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลและให้ความรู้สึกว่าผู้เขียนอาศัยอยู่ที่ริมสระน้ำเป็นเวลาหนึ่งปี

ด้วยการทดลอง Thoreau พยายามทำให้คนรุ่นเดียวกันที่มีลัทธิความมั่งคั่งทางวัตถุเข้าใจว่าเป็นไปได้ที่จะอยู่นอกสังคมได้ดีและมีความสุข ตอบสนองความต้องการตามธรรมชาติทั้งหมดด้วยแรงงานของตัวเอง เขาเปรียบเทียบการปฏิวัติอุตสาหกรรมกับสังคมผู้บริโภคที่เกิดใหม่กับเสรีภาพจากความกังวลด้านวัตถุ ความโดดเดี่ยว ความพอเพียง การไตร่ตรอง และความใกล้ชิดกับธรรมชาติ

มูลนิธิวิกิมีเดีย 2010 .

• วอลเดน, ริคกี้
• สระวอลเดน

ดูว่า "วอลเดนหรือชีวิตในป่า" ในพจนานุกรมอื่นๆ คืออะไร:

Walden Pond- วอลเดน พอนด์ Walden Pond Walden Pond ในฤดูใบไม้ผลิ 2005 พิกัด: 42.4384, 71.342 ... Wikipedia

Walden McNair- ต้นฉบับ Rosman การแปลพื้นบ้าน Maria Spivak Byalko Levitova ผู้เสพความตาย ผู้เสพความตาย ผู้เสพความตาย

Walden Pond- Walden ทะเลสาบป่าในรัฐแมสซาชูเซตส์ สร้างชื่อเสียงจากผลงานของ H. D. Thoreau Walden ("Walden หรือชีวิตในป่า") ในงานหลักของเขา ซึ่งมีชื่อว่า Life in the Woods เฮนรี เดวิด ธอโร เล่าถึงความเรียบง่ายและสุขภาพดีของเขาเหมือนฤาษี ... พจนานุกรมชื่อสถานที่ในสหรัฐอเมริกา

TORO Henry David- (Thoreau, Henry David) HENRY DAVID Thoreau (1817 1862) นักเขียนและนักปรัชญาชาวอเมริกัน เกิดเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2360 ที่คองคอร์ด (แมสซาชูเซตส์) ยกเว้นสี่ปีที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (1833-1837) และหกเดือนบนเกาะสตาเตนในปี 1843 ... ... สารานุกรมถ่านหิน

อนาธิปไตยสีเขียว- (หรือลัทธิอนาธิปไตยเชิงนิเวศ) ทิศทางหนึ่งในลัทธิอนาธิปไตยที่เน้นปัญหาสิ่งแวดล้อม ในช่วงแรก แนวคิดของอนาโช เฮนรี เดวิด ธอโร นักปัจเจกชาวอเมริกันและหนังสือของเขา "วอลเดนหรือชีวิตในป่า" มีอิทธิพลอย่างมาก ... ... Wikipedia

อนุสรณ์สถานวรรณกรรม- "อนุสาวรีย์วรรณกรรม" (LP, ภาษาพูด Litpamyatniki; 2491 ปัจจุบัน) โซเวียตตั้งแต่ปี 1992 ชุดหนังสือรัสเซียของนิยายวิชาการและวรรณกรรมสารคดีกวีนิพนธ์คลาสสิก ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 2491 ภายใต้การอุปถัมภ์ของ USSR Academy of Sciences; ... Wikipedia

ธอโร เฮนรี เดวิด Thoreau Henry David (12 กรกฎาคม 2360 คองคอร์ดแมสซาชูเซตส์ - 6 พฤษภาคม 2405 Walden ใกล้คองคอร์ด) นักเขียนชาวอเมริกันและบุคคลสาธารณะ ลูกชายช่าง. สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (1837) เมื่อได้ใกล้ชิดกับ R.W. Emerson เขาจึงเข้าร่วม ... ...

โทโร่- (Thoreau) Henry David (12 กรกฎาคม 2360 คองคอร์ดแมสซาชูเซตส์ 6 พฤษภาคม 2405 วัลเดนใกล้คองคอร์ด) นักเขียนชาวอเมริกันและบุคคลสาธารณะ ลูกชายช่าง. สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (1837) เมื่อได้ใกล้ชิดกับ R.W. Emerson เขาจึงเข้าร่วม ... สารานุกรมแห่งสหภาพโซเวียตผู้ยิ่งใหญ่

ธอโร, เฮนรี่ เดวิด- Henry David Thoreau Henry David Thoreau ... Wikipedia

วรรณคดีอเมริกัน- (ดู AMERICAN DRAMA ด้วย) อเมริกาปกครองโดยชาวอังกฤษ ภาษาของอเมริกาจึงกลายเป็นภาษาอังกฤษ และวรรณกรรมมีรากฐานมาจากประเพณีวรรณกรรมของอังกฤษ ทุกวันนี้ วรรณคดีอเมริกันได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นวรรณกรรมระดับชาติที่เด่นชัด สารานุกรมถ่านหิน