Lara fabian ในคุณภาพดี ชีวประวัติของ Lara Fabian

Lara Fabian เกิดในตระกูลเฟลมิชและซิซิลี ตั้งแต่วัยเด็ก เธอใฝ่ฝันที่จะเป็นนักร้อง เรียนที่โรงเรียนดนตรีและนาฏศิลป์ และต่อมาที่ Royal Academy of Brussels (Conservatoire Royal de Bruxelles); เชี่ยวชาญสี่ภาษา (ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน และอังกฤษ)

เมื่ออายุได้ 14 ปี Lara Fabian ได้แสดงในคลับในกรุงบรัสเซลส์แสดงเพลงประกอบกับพ่อของเธอซึ่งเป็นนักกีตาร์เข้าร่วมและชนะการแข่งขันดนตรีในยุโรปหลายครั้งและทันทีหลังจากสำเร็จการศึกษาจากแคนาดาและตั้งรกรากในมอนทรีออลซึ่งเธอก่อตั้ง บริษัทบันทึกเสียง ในปี 1988 เธอเข้าร่วมการประกวดเพลงยูโรวิชันจากลักเซมเบิร์กด้วยเพลง Croire ซึ่งเธอได้อันดับที่ 4

Lara Fabian ในแคนาดา

ในระหว่างการโปรโมตซิงเกิ้ล "Je sais" ในแคนาดา Lara ตกหลุมรักประเทศนี้ ในปี 1991 เธอตั้งรกรากในมอนทรีออล ในปีเดียวกันอัลบั้มแรกของเธอ "Lara Fabian" ได้รับการปล่อยตัว ซิงเกิ้ล "Le jour ou tu partiras" และ "Qui pense a l'amour" บินออกไปทันที เสียงอันทรงพลังและละครโรแมนติกของเธอดึงดูดผู้ชมจำนวนมาก ทำให้นักร้องได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นในทุกคอนเสิร์ต เป็นผลให้ในปี 1991 ลาร่าได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงเฟลิกซ์ ในปี 2536-2537 นักร้องมีส่วนร่วมในเทศกาลต่าง ๆ การแสดงจะถูกแทนที่ทีละครั้ง สิ้นปี 1993 ได้รับแผ่นทองคำ (50,000 แผ่น) และได้รับการเสนอชื่อใหม่สำหรับเฟลิกซ์ Lara ได้รับการโหวตให้เป็นศิลปินหญิงที่มีแนวโน้มดีที่สุดแห่งปีจากการสำรวจความคิดเห็น ยกเว้นกฎสำหรับนักแสดงที่ไม่ใช่ชาวแคนาดา ในปีพ.ศ. 2537 เธอออกอัลบั้มที่สองคือ Carpe Diem ซึ่งได้รับรางวัลเหรียญทองภายในสองสัปดาห์ ที่งาน Gala de l'ADISQ 95 ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการแจกเฟลิกซ์ ลาร่าได้รับรางวัลศิลปินหญิงยอดเยี่ยมแห่งปีและรางวัลคอนเสิร์ตยอดเยี่ยม ในเวลาเดียวกัน เธอยังได้รับรางวัลในโตรอนโต ในพิธีจูโน ซึ่งเป็นคู่ภาษาอังกฤษ ด้วยการปรากฏตัวในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2539 (ในแคนาดา) ของอัลบั้มที่สาม "Pure" Lara กลายเป็นดาวเด่นอันดับหนึ่ง ผลิตโดย Rick Allison ซึ่งผลิตซีดีทั้งสองชุดก่อนหน้านี้ Pure อนุญาตให้ Lara เขียนเพลงส่วนใหญ่ด้วยตัวเองซึ่งแตกต่างจากงานก่อนหน้าของเธอ ด้วยกระแสความนิยม ในที่สุด Lara ก็ตัดสินใจผสานเข้ากับชีวิตและวัฒนธรรมของแคนาดา และในวันที่ 1 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันชาติแคนาดา เด็กสาวชาวเบลเยียมจะกลายเป็นชาวแคนาดา 1997 กลายเป็นปีแห่งยุโรปสำหรับ Lara เพราะอัลบั้มของเธอประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในทวีปเก่า Pure จะออกวางจำหน่ายในยุโรปในวันที่ 19 มิถุนายน และซิงเกิ้ลแรกของอัลบั้มนี้มียอดขายมากกว่า 1,500,000 ก๊อปปี้ เมื่อวันที่ 18 กันยายน Lara ได้รับแผ่นดิสก์ทองคำยุโรปชุดแรก (Polygram Belgique) เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2540 ลาร่าได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเฟลิกซ์ในการเสนอชื่อห้าครั้งและได้รับรางวัล "อัลบั้มยอดนิยมแห่งปี" มกราคม 1998 Lara ไปทัวร์ฝรั่งเศสซึ่งจบลงด้วยคอนเสิร์ตที่ Paris Olympia ไม่กี่วันต่อมา Lara ได้รับรางวัล "Discovery of 1997" ซึ่งแปลกพอสำหรับนักร้องที่มีชื่อเสียงในประเทศของเธอ ในวันที่ 25 และ 26 เมษายน Lara กลับมาที่เวที Palais des Sports ซึ่งแน่นมากใน 2 ค่ำคืนนี้

Lara Fabian ในอเมริกา

นอกจากนี้ ในปี 1996 วอลท์ ดิสนีย์ ยังเสนอให้ลาร่าพากย์เสียงเป็นเอสเมรัลดาในภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Le Bossu de Notre Dame หลังจาก Michel Sardou ผู้ซึ่งเชิญ Lara ให้ร้องเพลงคู่กับเขาที่ Molson de Montreal ดาราดังอีกคนหนึ่งในฝรั่งเศส Johnny Halliday เชิญเธอให้ร้องเพลงคู่ ในช่วงฤดูร้อน ลาร่ายังคงทำงานในอัลบั้มภาษาอังกฤษชุดแรกของเธอ ซึ่งจะออกในยุโรปและแคนาดาในเดือนพฤศจิกายน 2542 ทัวร์ยุโรป 24 คอนเสิร์ตยืนยันสถานะดาราของลาร่าอีกครั้ง อัลบั้ม "Adagio" (รู้จักกันดีในชื่อ "Lara Fabian") ได้รับการบันทึกในสหรัฐอเมริกา ลอนดอน และมอนทรีออล เป็นผลจากความร่วมมือของโปรดิวเซอร์ที่ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกาและใช้เวลาสองปีในการสร้าง เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2000 อัลบั้มจะวางจำหน่ายในอเมริกา ในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม 2543 ลาร่าเริ่มทัวร์คอนเสิร์ต 24 ครั้งในฝรั่งเศส เบลเยียม และสวิตเซอร์แลนด์อย่างมีชัย เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน เธอได้รับรางวัลเฟลิกซ์ในฐานะศิลปินหญิงที่ไม่ใช่ชาวฝรั่งเศสยอดเยี่ยมของแคนาดา น่าเสียดายที่ปีเดียวกันนั้นถูกทำเครื่องหมายโดยแยกทางกับ Patrick Fiori ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2544 J'y crois encore ซิงเกิลใหม่ของ Lara ได้ปรากฏตัวขึ้น ซึ่งคาดว่าจะออกอัลบั้มใหม่ของเธอในชื่อง่ายๆ ว่า นู ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า Lara เขียนเนื้อเพลงทั้งหมดของเธอเป็นภาษาฝรั่งเศส เธอต้องการเอาชนะผู้ชมที่พูดภาษาฝรั่งเศสอีกครั้ง ในปี 2547 ลาร่าได้จัดคอนเสิร์ตนอกยุโรป - ในกรุงมอสโก, เบรุต, ตาฮิติ แรงบันดาลใจจากความสำเร็จครั้งใหม่ Lara พยายามสร้างตัวเองอีกครั้งในตลาดโลก ในเดือนพฤษภาคม 2547 (ฉันจะแก้ไขให้ถูกต้องในเดือนมิถุนายน) เธอออกอัลบั้มภาษาอังกฤษชุดที่สองของเธอ "A wonderful life" ซิงเกิ้ลแรกที่กลายเป็น "ไม่ใช่เรื่องใหญ่" (เฉพาะฝรั่งเศสในประเทศอื่น ๆ ซิงเกิ้ลแรก คือ "ลาครั้งสุดท้าย" - บันทึกของผู้แปล) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2548 อัลบั้มใหม่ของเธอ "9" ได้รับการปล่อยตัว บนหน้าปก ลาร่าปรากฏตัวต่อหน้าเราในตำแหน่งตัวอ่อน เธอเชิญ Jean-Felix Lalanne ให้มีส่วนร่วมในการสร้างอัลบั้ม

Lara Fabian ในรัสเซีย

Lara Fabian มารัสเซียเป็นครั้งแรกและแสดงคอนเสิร์ตในมอสโกเมื่อวันที่ 27 เมษายน 28 ที่ห้องโถงของ Moscow International House of Music ในปี 2547 ด้วยรายการอะคูสติกของเธอ "En Toute Intimite" ตั้งแต่นั้นมานักร้องได้ไปเยือนเมืองหลวงของรัสเซียทุกปี 8 มิถุนายน 2548 Lara Fabian แสดงที่ State Concert Hall Russia ในปี 2549 มีการแสดงคอนเสิร์ตสองครั้งติดต่อกันที่ห้องโถงของ State Central Concert Hall Russia - เมื่อวันที่ 8 และ 9 เมษายน เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2550 28 พฤษภาคม 29 และ 30 พฤษภาคม 2551 มีการแสดงคอนเสิร์ตที่โรงละคร Operetta

วิทยาลัย YouTube

• 1 / 5

  Lara Fabian เกิดเมื่อวันที่ 9 มกราคม 1970 ที่ Etterbeck ชานเมืองบรัสเซลส์ แม่ของเธอ Louise (née Fabian) มาจากซิซิลี พ่อของเธอคือ Pierre Crocard เป็นชาวเบลเยียม ห้าปีแรก Lara อาศัยอยู่ในซิซิลี และเฉพาะในปี 1975 พ่อแม่ของเธอตั้งรกรากอยู่ในเบลเยียม Lara อายุได้ 5 ขวบเมื่อพ่อของเธอสังเกตเห็นความสามารถในการร้องเพลงของเธอ เมื่ออายุได้ 8 ขวบ พ่อแม่ของเธอซื้อเปียโนตัวแรกให้เธอ ซึ่งเธอแต่งทำนองเพลงแรกของเธอ ในเวลาเดียวกัน เฟเบียนเริ่มศึกษาที่ Brussels Conservatory

  ลาร่าเริ่มต้นอาชีพการงานเมื่ออายุ 14 ปี พ่อของเธอเป็นนักกีตาร์และแสดงร่วมกับเธอในชมรมดนตรี ในขณะเดียวกัน Lara ยังคงศึกษาดนตรีต่อที่เรือนกระจก เธอเข้าร่วมการแข่งขัน ตัวอย่างเช่น การแข่งขัน Tremplin de la chanson ในปี 1986 ซึ่งเธอได้รับรางวัล รางวัลหลักคือแผ่นเสียง ในปี 1987 Lara ได้บันทึก "L'Aziza est en pleurs" 45 รายการแรกของเธอ ซึ่งเป็นเครื่องบรรณาการแด่ Daniel Balavuan ซึ่งเธอกล่าวว่า: “Balavuan เป็นตัวอย่างที่น่าติดตาม ผู้ชายที่แท้จริงที่ใช้ชีวิตโดยไม่ประนีประนอม มักจะเลือกตามความคิดที่มีเกียรติและไม่มองย้อนกลับไปที่ความคิดเห็นของคนอื่น ผู้ชายที่ได้รับความชื่นชมจากคนทั้งรุ่น " "L'Aziza est en pleurs" กลายเป็นสิ่งที่หายากอย่างแท้จริง ในปี 2546 ขายสำเนา 3,000 ยูโร

  อาชีพระหว่างประเทศของ Lara เริ่มต้นในปี 1988 เมื่อเธอเป็นตัวแทนของลักเซมเบิร์กที่ Eurovision 88 ด้วยเพลง Croire ("Believe") และเธอได้อันดับที่สี่ 45 Croire ขายในยุโรปจำนวน 600,000 เล่มและแปลเป็นภาษาเยอรมัน (Glaub) และภาษาอังกฤษ (Trust)

  หลังจากประสบความสำเร็จครั้งแรกในยุโรป Lara ได้บันทึกอัลบั้มที่สองของเธอ "Je sais"

  แคนาดา

  จุดเปลี่ยนในอาชีพการงานของเธอคือโดยไม่ต้องสงสัย 28 พฤษภาคม 1990 เมื่ออยู่ในบรัสเซลส์ Lara พบกับ Rick Allison ไม่กี่เดือนต่อมา พวกเขาตัดสินใจเสี่ยงโชคในควิเบกและออกเดินทางไปยังทวีปอื่น

  ในขณะเดียวกัน Pierre Crockaert พ่อของ Lara กำลังระดมทุนสำหรับอัลบั้มแรกของเธอ ซึ่งเปิดตัวในเดือนสิงหาคม 1991 ซิงเกิล "Le jour ou tu partiras" และ "Qui pense a l'amour" ขายหมดในทันที เธอได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นในทุกคอนเสิร์ต และในปี 1991 เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเฟลิกซ์ (เทียบเท่ากับ Victoires de la Musique)

  1994 ถูกทำเครื่องหมายด้วยการเปิดตัวอัลบั้มที่สอง "Carpe Diem" ในแคนาดาซึ่งได้รับทองคำสองสัปดาห์หลังจากการเปิดตัว ในเวลาเดียวกัน Lara ได้นำเสนอบทละคร "Sentiments acoustiques" ของเธอใน 25 เมืองในแคนาดา และต่อมาเพลง "Si tu m'aimes จากอัลบั้มเดียวกันก็แสดงโดย Lara เอง คราวนี้เป็นภาษาโปรตุเกสเท่านั้นและกลายเป็นเพลงประกอบซีรีส์เรื่อง "Clone"

  ในปี 1995 Lara Fabian ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมแห่งปีและผลงานยอดเยี่ยมจากรางวัล ADISQ (จากสมาคมบันทึกแห่งแคนาดา) ในเวลานี้ Lara Fabian เริ่มมีส่วนร่วมในกิจกรรมการกุศล ตัวอย่างเช่น เป็นเวลาหลายปีที่ลาร่าได้ช่วยเหลือเด็กๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ เธอยังมีส่วนร่วมในสมาคม Arc-en-Ciel (Rainbow) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเติมเต็มความฝันของเด็กป่วย

  "บริสุทธิ์" และการพิชิตยุโรป

  "นุ้ย"

  ในฤดูร้อนปี 2544 ลาร่าได้มีส่วนร่วมในการบันทึกเพลงสองเพลงสำหรับภาพยนตร์อเมริกัน หนึ่งในนั้นคือเพลงคู่กับ Josh Groban "For always" ซึ่งเป็นธีมชื่อเรื่องของภาพยนตร์เรื่อง "Artificial Intelligence" ของสตีเวน สปีลเบิร์ก เรื่องที่สองคือภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง "Final Fantasy: The Spirits Within"

  เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2544 การเปิดตัวอัลบั้ม "Nue" อย่างเป็นทางการเกิดขึ้นที่มอนทรีออล ในการเชื่อมต่อกับการเปิดตัวอัลบั้มในยุโรปเมื่อวันที่ 5 กันยายน Lara ได้จัดการประชุมกับแฟน ๆ ที่ Virgin Megastore ในสามเมืองในฝรั่งเศส - Marseille (ตั้งแต่ 12:00 ถึง 13:00 น.), ลียง (ตั้งแต่ 16:00 น. ถึง 17:00 น. :00) และปารีส (ตั้งแต่ 21:00 ถึง 22:00 น.) เมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2544 ที่เวทีโมลสันในมอนทรีออลลาร่าได้เข้าร่วมคอนเสิร์ตการกุศลกับศิลปินอื่น ๆ อีกมากมายซึ่งรายได้ไปตอบสนองความต้องการของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการโจมตีของผู้ก่อการร้าย 9/11 ในสหรัฐอเมริกา

  ในช่วงปลายปี 2002 แฟนๆ จะได้เห็น Lara Fabian อีกครั้งบนเวทีในการแสดงอะคูสติก "En toute intimité" ซึ่งออกในรูปแบบซีดีและดีวีดีในวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2546 ด้วยการแสดงนี้ Lara ได้ไปเที่ยวเมืองต่างๆ ของฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ และเบลเยียม เมื่อวันที่ 27 และ 28 เมษายน 2547 ลาร่ายังแสดงที่มอสโกบนเวทีของ Moscow International House of Music เมื่อวันที่ 27 และ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2547 ลาร่าแสดงที่ Wilfrid-Pelletier ร่วมกับ Montreal Symphony Orchestra ในปี พ.ศ. 2547 ลาร่า เฟเบียนได้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง De-lovely ซึ่งเป็นละครเพลงเกี่ยวกับชีวิตของโคล พอร์เตอร์ นักแต่งเพลง

  วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2547 อัลบั้มภาษาอังกฤษชุดใหม่ "A Wonderful Life" ออกจำหน่าย วันที่ 18-20 พฤศจิกายน ลาร่าร่วมแสดง Autour de la guitare และในเย็นวันสุดท้าย เธอร้องเพลง "J'ai mal a ca" เขียนโดย J.-F. ลาลานน์ (ฌอง-เฟลิกซ์ ลาลานน์)

  "9"

  เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 อัลบั้ม "9" ใหม่ของ Lara Fabian ได้เปิดตัวพร้อมกับซิงเกิลแรก "La Lettre" ที่เขียนโดย JF Lalanne

  ตั้งแต่กันยายน 2548 ถึงมิถุนายน 2549 ลาร่าไปเที่ยวฝรั่งเศส การแสดงของเธอ "Un Regard 9" ประสบความสำเร็จอย่างมาก ซีดีพร้อมการบันทึกรายการและดีวีดีพร้อมวิดีโอคอนเสิร์ตก็ออกวางจำหน่ายในไม่ช้า

  ในเดือนมิถุนายน 2550 ในข้อความถึงแฟน ๆ บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเธอ Lara ประกาศว่าเธอท้อง “นี่เป็นข่าวที่วิเศษที่สุดที่ฉันสามารถบอกคุณได้” เธอเขียน อันที่จริงนักร้องได้กล่าวซ้ำแล้วซ้ำอีกในการสัมภาษณ์ว่าเธอจะรู้สึกไม่มีความสุขอย่างสมบูรณ์หากเธอไม่ได้กลายเป็นแม่ แต่ถึงแม้จะตั้งครรภ์ Lara ก็มีส่วนร่วมในคอนเสิร์ตและรายการทีวีต่าง ๆ จนกระทั่งลูกสาวของเธอเกิด

  เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2550 ลูกน้อยของ Lou เกิดโดยตั้งชื่อตามแม่ของเธอ Lara Louise พ่อของเด็กผู้หญิงคนนี้คือ Gerard Pullicino ผู้กำกับชาวฝรั่งเศสผู้โด่งดัง

  ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า Lara ก็มีความสัมพันธ์กับความกังวลของครอบครัว แต่ในฤดูใบไม้ผลิปี 2008 เธอพร้อมที่จะแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ทั่วโลก มินิทัวร์ของ Lara Fabian เริ่มขึ้นในกรีซ ซึ่งเธอได้แสดงร่วมกับ Marios Frangulis (นักร้องชาวกรีกชื่อดัง) ดำเนินต่อไปในรัสเซีย โดยที่ Lara มักจะมาทุกฤดูใบไม้ผลิ และสิ้นสุดในยูเครน ซึ่งนักร้องมาเยี่ยมเป็นครั้งแรก คอนเสิร์ตจัดขึ้นที่พระราชวังเคียฟ "ยูเครน" รวบรวมห้องโถงเต็มและได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากผู้ชมในเคียฟ

  “ผู้หญิงทุกคนอยู่ในตัวฉัน”

  ในช่วงฤดูร้อนปี 2551 ลาร่าเริ่มเตรียมอัลบั้มใหม่ เธอตัดสินใจที่จะอุทิศให้กับผู้หญิงที่มีอิทธิพลต่อชีวิตและการทำงานของเธอ วันวางจำหน่ายถูกกำหนดไว้สำหรับเดือนตุลาคม แต่ถูกเลื่อนออกไปหลายครั้ง ด้วยเหตุนี้ “TLFM” ที่รอคอยมานาน (“Toutes les femmes en moi” หรือ “All the women in me”) ได้เห็นโลกในเดือนพฤษภาคม 2009 เท่านั้น ซันนี่และสดใสได้กลายเป็นของขวัญที่ดีสำหรับคนรักดนตรีในช่วงฤดูร้อน

  วันนี้ไม่มีคนรักดนตรีที่ไม่คุ้นเคยกับเพลงฮิตของนักร้องชาวเบลเยียมชื่อ Lara Fabian ไม่กี่คนที่รู้ว่าชื่อจริงของเธอคือคร็อกเกอร์ ลาร่าเป็นลูกครึ่งเบลเยียมและอิตาลีโดยกำเนิด แม้ว่าเธอจะถือเป็นพลเมืองแคนาดาก็ตาม ละครของเธอประกอบด้วยเพลงในภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน รัสเซีย และภาษาอื่นๆ

  ชีวประวัติของ Lara Fabian

  ดาราแห่งอนาคตของเวทีใหญ่เกิดในปี 1970 ในย่านชานเมืองบรัสเซลส์ในตระกูลนักดนตรีชาวเบลเยียม ในช่วงสองสามปีแรกหญิงสาวอาศัยอยู่ในบ้านเกิดของแม่ในซิซิลี และเฉพาะในปี 1975 เธอย้ายไปหาพ่อของเธอในเบลเยียม ชีวิตของ Lara Fabian ในเวลานั้นดำเนินไปอย่างสงบเหมือนเด็กทุกคนในครอบครัวที่ยากจน อย่างไรก็ตาม ถึงอย่างนั้นเธอก็แสดงสัญญาที่ดีในการร้องเพลง เมื่ออายุได้ 8 ขวบ พ่อแม่ของเธอก็มอบเปียโนให้เธอ ในขณะนี้ชีวประวัติของ Lara Fabian ได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก

  หญิงสาวเริ่มใช้เวลาว่างทั้งหมดของเธอที่เปียโน เล่นท่วงทำนองของเธอเองและเขียนคำถึงพวกเขา บางครั้งพ่อแม่ก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เมื่อมองดูลูกสาวที่มีความสามารถ ตั้งแต่อายุ 14 คุณพ่อเริ่มพาลาร่าไปแสดงในคลับต่างๆ เสียงร้องที่นุ่มนวลและทรงพลังของนักร้องหนุ่มในขณะเดียวกันก็ทำให้หัวใจของผู้ชมประหลาดใจมากจนพวกเขาปรบมือเป็นชั่วโมง

  เฟเบียนไม่ลืมเกี่ยวกับการเรียนที่เรือนกระจก เมื่ออายุได้ 16 ปี เธอได้รับรางวัลแรกในการแข่งขันแทรมโพลีน รางวัลคือโอกาสในการบันทึกแผ่นดิสก์แบบเต็มความยาวในสตูดิโอฟรี ในปี 1987 Lara ได้รับความช่วยเหลือจากผู้จัดการแข่งขัน ออกอัลบั้ม 45 นาทีที่อุทิศให้กับนักดนตรีชาวฝรั่งเศส Daniel Balavoin ผู้ฟังชอบแผ่นดิสก์ ในปี 1988 เฟเบียนเริ่มต้นอาชีพการงาน และด้วยการเปิดตัวทัวร์ครั้งแรกของเขา ในไม่ช้าเธอก็ออกอัลบั้มที่สองของเธอ Je sais

  ย้ายไปแคนาดา

  ในเดือนพฤษภาคม 1990 ลาร่าได้พบกับริก เอลลิสัน โปรดิวเซอร์ที่เคารพนับถือ คนหนุ่มสาวพัฒนาความสัมพันธ์อย่างรวดเร็วจนเมื่อสิ้นสุดฤดูร้อน Fabian ตัดสินใจย้ายตามที่รักของเขาไปยังอีกทวีปหนึ่ง ในเวลานั้น ริกาต้องการเห็นสตูดิโอที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในแคนาดา ทั้งคู่จึงกล้าที่จะทิ้งทุกอย่างไว้ในบรัสเซลส์และลองเสี่ยงโชคในเมืองควิเบก

  น่าเสียดายที่หลังจากการย้าย บุคคลอันเป็นที่รักของ Lara Fabian เริ่มย้ายออกห่างจากเธอ ในเวลานั้น นักร้องหนุ่มในต่างประเทศต้องการการสนับสนุนเป็นพิเศษ แต่ไม่มีใครคาดหวังให้เธอได้ อย่างไรก็ตาม ลาร่ามีคนหนึ่งที่พร้อมจะช่วยเหลือเธอ นั่นคือพ่อของเธอ เขาเป็นคนที่เริ่มให้เงินสนับสนุนอัลบั้มแคนาดาของเธอในปี 2534 เป็นที่น่าสังเกตว่าหลายซิงเกิ้ลกลายเป็นเพลงฮิตระดับนานาชาติในคราวเดียวและนักร้องเองก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเฟลิกซ์

  

  อัลบั้มที่สองชื่อ "Carpe Diem" ซึ่งออกจำหน่ายในแคนาดาด้วย ได้รับรางวัลเหรียญทองสำหรับลาร่า ชื่อเสียงมาสู่ดาราที่ต้องการหลังจากแสดงซาวด์แทร็กสำหรับซีรีส์ลัทธิ "Clone" ในปี 1995 เฟเบียนได้รับเลือกให้เป็นนักร้องที่ดีที่สุดในแคนาดา มาถึงตอนนี้เธอได้เริ่มมีส่วนร่วมในงานการกุศลและได้รับสัญชาติของประเทศต้นเมเปิลแล้ว

  เวทีใหม่: ดนตรียุโรป

  Lara Fabian ถือว่าตัวเองเป็นคนเบลเยียมเสมอมา แต่เธอเองก็ยอมรับว่าแคนาดาเป็นบ้านเกิดที่สองของเธอ ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2539 นักร้องได้ออกอัลบั้ม "Pure" ซึ่งกลายเป็นแพลตตินัมทันที ด้วยอัลบั้มนี้ ลาร่าจึงตัดสินใจพิชิตยุโรป เธอจึงทิ้งเพื่อนที่แคนาดาและย้ายไปฝรั่งเศส

  ในฤดูร้อนปี 1997 เพียวได้ขึ้นดับเบิ้ลแพลตตินั่ม นักวิจารณ์ชาวยุโรปหลักก็ไม่ได้ต่อต้านทำให้อัลบั้มมีคะแนนสูงสุด นับจากนั้นเป็นต้นมา Lara Fabian สามารถพบเห็นได้ในรายการทีวีเรตติ้งทั้งหมด บนหน้าปกนิตยสารและในงานสังคมส่วนตัว ในตอนท้ายของปี 1997 สตูดิโอ Sony Music ได้แซงหน้าการแข่งขันและลงนามในสัญญาที่ร่ำรวยกับนักร้องชาวเบลเยียมเพื่อบันทึกอัลบั้มเป็นภาษาอังกฤษ

  

  หลังจากประสบความสำเร็จ ผู้สนับสนุนของ Lara ได้จัดทัวร์ยุโรปกลางครั้งใหญ่สำหรับวอร์ดของพวกเขา คอนเสิร์ตแต่ละครั้งจบลงด้วยชัยชนะ LP ถัดไป - "Live" - ​​ขึ้นทองเพียง 24 ชั่วโมงหลังจากที่วางขาย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจสำหรับทุกคนที่ Fabian กลายเป็นนักร้อง WMA แห่งปี

  การยอมรับระดับโลก

  นักวิจารณ์หลายคนเชื่อว่าชีวประวัติทางดนตรีของ Lara Fabian เริ่มต้นขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2542 ด้วยการเปิดตัวภาษาอังกฤษครั้งแรกของเธอ โปรดิวเซอร์และนักดนตรีที่ดีที่สุดของโลกได้รับเชิญให้บันทึกการประพันธ์เพลง โดยร่วมมือกับบุคคลที่มีชื่อเสียงเช่น Madonna, Barbra Streisand และ Cher เมื่อถึงเวลานั้นลาร่าสามารถพูดได้ 4 ภาษาพร้อมกันอย่างคล่องแคล่วรวมถึงภาษาอังกฤษด้วย ดังนั้นการบันทึกอัลบั้ม Lara Fabian จึงเป็นไปอย่างราบรื่น แผ่นดิสก์ได้รับคะแนนสูงแม้จากผู้ฟังชาวอเมริกันที่มีความซับซ้อน

  

  สองปีต่อมา นักร้องคนแรกของฝรั่งเศสถือกำเนิดขึ้น อัลบั้ม "นุ้ย" รวมเพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อดังหลายเพลง แต่เน้นไปที่ธีมความรักเป็นหลัก อัลบั้มที่ประสบความสำเร็จต่อไปคือ "9" ซิงเกิลนำของเขา "La Lettre" ซึ่งเขียนโดย Lalanne เอง ทำให้นักร้องสามารถจัดคอนเสิร์ตรอบโลกที่ดังที่สุดในชีวิตของเธอได้

  บันทึกปี 2008 "ผู้หญิงทุกคนในตัวฉัน" ได้กลายเป็นของขวัญที่แท้จริงสำหรับคนรักดนตรีทุกคน การเปิดตัวนี้อุทิศให้กับผู้หญิงที่มีบทบาทสำคัญในชีวิตของฟาเบียน

  เพลง "รัสเซีย" ฝรั่งเศส

  Lara Fabian ชอบอ่านเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานของ Pasternak นั้นใกล้ชิดกับจิตวิญญาณของเธอ เป็นหนึ่งในฮีโร่ของเขาที่นักร้องได้อุทิศการเปิดตัวในปี 2010 ในชื่อ "Mademoiselle Zhivago" นักอุดมการณ์ของแผ่นดิสก์คือ Igor Krutoy ด้วยความช่วยเหลือโดยตรง Lara ได้บันทึกอัลบั้มที่ไม่ซ้ำใครซึ่งแฟน ๆ ของเธอไม่สามารถแม้แต่จะฝันถึง การเผยแพร่นี้รวมการแต่งเพลงในหลายภาษา รวมทั้งภาษารัสเซีย ทันทีหลังจากออกอัลบั้มนักร้องตามคำแนะนำของ Igor Krutoy ไปทัวร์รัสเซียยูเครนและเบลารุส

  

  ในปี 2013 แผ่นดิสก์ล่าสุดของเบลเยียม "Le Secret" ได้รับการปล่อยตัว ตามข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการ Lara ต้องการให้เพลงในภาษารัสเซียรวมอยู่ด้วยในการเปิดตัว แต่ท้ายที่สุด แนวคิดนี้ก็ต้องละทิ้งไป

  ชีวิตส่วนตัว

  ชีวประวัติของ Lara Fabian ในแง่ของความสัมพันธ์ความรักนั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง แฟนคนแรกของนักร้องคือ Patrick Fiori นักดนตรีที่มีชื่อเสียง แต่ความรักของพวกเขากินเวลาเพียงปีกว่า ชะตากรรมที่คล้ายกันเกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ที่รุนแรงกับริค เอลลิสัน ผู้ซึ่งไม่ยอมให้ลาร่าผ่านเพราะความหึงหวง เมื่ออายุ 20 ปีหญิงสาวคนนี้ก็สามารถทำให้ความรักผิดหวังได้ในที่สุด

  แต่หลังจากที่ได้พบกับผู้กำกับชื่อดังเจอราร์ด พูลลิซิโน ใจของลาร่ากลับใจละลายอีกครั้ง แม้ว่าคนรักของนักร้องจะแก่กว่า 11 ปี แต่พวกเขามีความสัมพันธ์ที่จริงจังมาก ในปี 2550 ทั้งคู่มีลูกสาวคนหนึ่งชื่อหลุยส์ แต่เมื่อถึงเวลานั้น ฟาเบียน สามีของลาร่าก็วางแผนที่จะเลิกรากัน สาเหตุของการพลัดพรากคือข่าวลือเรื่องการทรยศต่อเพื่อนของเขา

  ในขณะนี้ นักร้องที่ได้รับเลือกคือ Sicilian Gabliel Di-Giorgio ฟาเบียนสามีตามกฎหมายของลาร่าถือเป็นนักเล่นกลลวงตาที่ประสบความสำเร็จพอสมควร

  
  ชื่อ: Lara Fabian

  อายุ: อายุ 48 ปี

  สถานที่เกิด: Etterbeck, เบลเยียม

  การเจริญเติบโต: 163 ซม.

  น้ำหนัก: 58 กก.

  สถานะครอบครัว: แต่งงานแล้ว

  Lara Fabian - ชีวประวัติ

  นักร้องที่มีนักร้องเสียงโซปราโนที่มีเสียงนางฟ้าได้รับความนิยมในหมู่ผู้ฟังของเธอมาเป็นเวลานานไม่เพียง แต่ในยุโรปเท่านั้น แต่ยังอยู่ในรัสเซีย Lara Fabian แสดงเพลงในหลายภาษา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเธอที่จะสื่อสารจากเวทีกับผู้ชมในฝรั่งเศส อิตาลี สเปน อังกฤษ รัสเซีย

  วัยเด็ก ครอบครัวของนักร้อง Fabian

  สถานที่เกิดของหญิงสาวคือเบลเยียม ผู้ปกครองอ่านนวนิยาย Doctor Zhivago ของ Boris Pasternak และพวกเขาชอบนางเอกและชื่อของเธอมาก ดังนั้นพวกเขาจึงตั้งชื่อลูกสาวของพวกเขาว่า - ลาร่า เธออาศัยอยู่ในบ้านเกิดของแม่ในซิซิลีจนกระทั่งอายุได้ห้าขวบ ด้วยความเอาใจใส่ของพ่อของเธอ ลาร่าจึงเริ่มร้องเพลงตั้งแต่เนิ่นๆ ปิแอร์ ค็อกเกอร์ พ่อของเด็กผู้หญิง จำความสามารถด้านเสียงที่ยอดเยี่ยมของลูกสาวได้อย่างรวดเร็ว เพราะเขาเล่นกีตาร์เอง ซึ่งช่วยกำหนดชีวประวัติของนักร้องในอนาคต

  

  
  ตั้งแต่อายุแปดขวบ Lara เรียนที่สตูดิโอดนตรีและเต้นรำที่เรือนกระจก หลังเลิกเรียนหญิงสาวเข้าสู่ Royal Academy of Music ในกรุงบรัสเซลส์ ตั้งแต่อายุสิบสี่ Lara ร้องเพลงในร้านอาหารและไนท์คลับที่พ่อของเธอแสดง การประกวดดนตรีช่วยให้เด็กหญิงได้รับประสบการณ์และความมั่นใจในความสามารถของเธอ

  

  
  ในการแข่งขัน Tramplin Lara ชนะการบันทึกเสียงที่สตูดิโอเสียง สองปีผ่านไป วัยเด็กถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และข้างหน้าคือเวทีของ Eurovision จากนั้นนักร้องก็ได้อันดับที่สี่สำหรับลักเซมเบิร์ก

  อาชีพที่ประสบความสำเร็จ

  ความคุ้นเคยกับ Rick Ellison กลายเป็นจุดเด่นของ Lara ได้ยินนักร้องร้อง โปรดิวเซอร์เชิญเธอให้บันทึกแผ่นดิสก์ หลังจากก่อตั้งบริษัทบันทึกเสียงร่วมกันในแคนาดา พวกเขาบันทึกอัลบั้ม เพลงเดี่ยวหลายเพลงพบแฟน ๆ ของพวกเขา แต่ความสำเร็จที่แท้จริงเกิดขึ้นหลังจากอัลบั้มเพลงแรกชื่อ "Lara Fabian" อัลบั้มที่สองก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน

  
  นักร้องตัดสินใจเซอร์ไพรส์ผู้ฟังและผู้ชมของเธอและสร้างการแสดงที่ดนตรีเป็นหลัก ลาร่าได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดเมื่อสิ้นปี รางวัลสำคัญครั้งแรกปรากฏขึ้น

  

  
  อัลบั้มใหม่ออกมาและประสบความสำเร็จอีกครั้ง ตอนนี้นักแสดงที่มีความสามารถเป็นที่ต้องการ พวกเขาเริ่มเสนอสัญญาที่ร่ำรวยให้เธอ การท่องโลก, การบันทึกอัลบั้ม, คอนเสิร์ต - นั่นคือชีวิตของนักร้องในช่วงเวลาแห่งความนิยมนี้

  ความนิยมไม่ลดลง

  นักร้องยังคงสร้างความสุขให้กับผู้ที่ชื่นชอบงานของเธอด้วยอัลบั้มภาษาอังกฤษ มีเพลงมากมายที่แผ่นบางแผ่นมาพร้อมกับโบนัสเพิ่มเติม เมื่อนักแสดงปรากฏตัวในรัสเซียคู่หูสร้างสรรค์ Igor Krutoy และ Lara Fabian ก็เกิดขึ้น ห้องแสดงคอนเสิร์ตที่สำคัญที่สุดในพระราชวังเครมลินและศูนย์กีฬาโอลิมปิกพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพดาราต่างประเทศ

  

  
  นักร้องไม่ลดปริมาณงานของเธอมีเพลงใหม่ปรากฏขึ้นภูมิศาสตร์ของทัวร์ทั่วรัสเซียกำลังขยายตัว ชาวไซบีเรียและเทือกเขาอูราลได้ยินเสียงนางฟ้า ลาร่าแสดงเพลงเป็นภาษารัสเซียโดยได้เรียนรู้เพลงโปรดของชาวรัสเซีย
  เพลง "Love, Like a Dream" ซึ่งแสดงโดย Alla Pugacheva หลายครั้งได้รับเสียงใหม่ ไม่ใช่อัลบั้มเดียวของ Fabian ที่รวบรวมฝุ่นบนชั้นวางของร้านค้าและสตูดิโอ การสร้างสรรค์ของเธอขายได้หลายล้านชุด

  Lara Fabian - ชีวประวัติของชีวิตส่วนตัว

  ความโรแมนติกในความสัมพันธ์เกิดขึ้นกับใครบางคนที่ใกล้ชิดกับนักแสดงมากขึ้นจากความสำเร็จครั้งแรกของเธอ ความสุขและความสุขกับ Rick Ellison เติมเต็มชีวิตของ Lara เป็นเวลาหกปี ความใกล้ชิดหายไปพร้อมกับความรัก แต่ความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์ยังคงอยู่ นวนิยายที่เหลือไม่นานเท่าเรื่องแรก นักร้องที่ช่วยในการทำงานของเธอในอัลบั้มกลายเป็นผู้ชายของเธอในช่วงเวลาสั้น ๆ การแต่งงานทางแพ่งของนักร้องกินเวลาเจ็ดปี เป็นเวลานานที่เธอเลือกผู้กำกับรายการโทรทัศน์จากฝรั่งเศสเจอราร์ดพูลลิซิโนเขาอายุมากกว่าลาร่าสิบเอ็ดปี

  หลังจากใช้ชีวิตร่วมกันได้สองปี ลูกสาวของพวกเขาคือหลุยส์ แม้ว่าคู่สมรสจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่พวกเขาก็รักษาความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อประโยชน์ของลูกสาว คนต่อไปที่สามารถครอบครองหัวใจของความงามได้คือ Gabriel Di Giorgio นักมายากลชาวอิตาลี อีกหนึ่งปีต่อมาชาวอิตาลีผู้ร้อนแรงได้สร้างเรื่องอื้อฉาวให้กับภรรยาดาราของเขา หลังจากนั้นไม่นาน กิเลสก็สงบลง ทั้งคู่ก็แต่งกันและมีความสุข

  

  
  ในขณะนี้ Lara มีสามี ลูกสาวสุดที่รัก และบ้านในวอเตอร์ลู แต่การจะบอกว่าชีวประวัติความรักของผู้หญิงและนักร้อง Lara Fabian ได้พัฒนาไปอย่างประสบความสำเร็จหมายถึงการบิดจิตวิญญาณของฉัน ในชีวิตครอบครัว นักแสดงที่มีเสน่ห์คนนี้มีทั้งความหลงใหลและความผิดหวังอันขมขื่น สิ่งที่สำคัญคือผลของความสัมพันธ์ทั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนี้

  ความชอบของเฟเบียน

  นักร้องตกหลุมรักรัสเซีย ออกทัวร์ในฤดูใบไม้ร่วง และกำลังจะไปเยือนเมืองหลวงของประเทศอีกครั้งในช่วงเวลาที่สวยงามของปี 2560 ตอนนี้เป็นการยากที่จะเรียก Lara Fabian ว่าเป็นนักร้องชาวเบลเยียมเท่านั้น เธอตกหลุมรักคนทั้งโลกเพราะความสะดวกในการสื่อสารและความรู้ในหลายภาษาอย่างเหลือเชื่อของเธอ ความสามารถพิเศษและทักษะการร้องที่เหลือเชื่อพิชิตได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกับเธอ

  Lyric soprano Lara Fabian พิชิตโลกทั้งใบ ยุโรป อเมริกา แคนาดา รัสเซีย จีน ... เป็นการยากที่จะตั้งชื่อสถานที่ที่คุณจะไม่ได้ยินเสียงที่หนักแน่น ไพเราะ และจริงใจของนักแสดงที่พูดภาษาฝรั่งเศส

  แต่ความสามารถในการร้องเพลงของเธอไม่ใช่สิ่งเดียวที่เธอชื่นชม ลาร่ามีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดซึ่งสอดคล้องกับสไตล์การแสดงของเธอ ใบหน้าที่วิจิตรบรรจง ดวงตาเบิกกว้าง รอยยิ้มอันศักดิ์สิทธิ์ และผมสีบลอนด์ที่ประสานกับเสียงร้องทำให้เธอสนุกกับทุกการแสดง ถึงเวลาทำความรู้จักกับนักร้องที่มีเสน่ห์คนนี้ให้มากขึ้น

  อ่านชีวประวัติสั้น ๆ ของ Lara Fabian และข้อเท็จจริงที่น่าสนใจมากมายเกี่ยวกับนักร้องในเพจของเรา

  ชีวประวัติสั้น

  ลาร่าเป็นหนี้บุญคุณพ่อแม่ของเธอ Lara Sophie Cathy Crocard เกิดในครอบครัวนานาชาติ คุณแม่ หลุยส์ มาจากซิซิลีที่มีแดดจ้า ส่วนปิแอร์ พ่อมาจากเบลเยียม การพบกันของพวกเขาเป็นเรื่องบังเอิญล้วนๆ เพื่อนคนหนึ่งขอให้ปิแอร์ไปพบน้องสาวของเขาที่สถานี เขาปลดล็อคเป็นเวลานาน - ชายหนุ่มกำลังเตรียมงานแต่งงานและไม่ต้องการเสียเวลาเดินทาง แต่ ยอมที่จะโน้มน้าวใจ เขาไปที่สถานีกับคู่หมั้นของเขาและ ... ตกหลุมรักหลุยส์เจ้าอารมณ์และมีชีวิตชีวา

  เมือง Etterbeek ชานเมืองบรัสเซลส์ 9 มกราคม 2513 ปรากฏในปฏิทิน ที่โรงพยาบาลคลอดบุตรในท้องถิ่นได้ยินเสียงร้องแรกของนักร้องต่างประเทศในอนาคต หลังคลอดครอบครัวเดินทางไปซิซิลีซึ่งหญิงสาวใช้เวลา 5 ปีแรกภายใต้แสงแดดอันร้อนแรงของอิตาลี

  
  

  ลาร่าเริ่มร้องเพลงเมื่ออายุประมาณ 4 ขวบ สิ่งนี้เธอเป็นหนี้พ่อแม่ของเธออีกครั้ง หลุยส์มีเสียงที่ยอดเยี่ยม หญิงสาวสนุกกับการร้องเพลงของแม่และได้รับแรงบันดาลใจ พ่อของฉันชอบกีตาร์และเชี่ยวชาญด้านดนตรีเป็นอย่างดี

  ตอนอายุ 5 ขวบ ลาร่าบอกพ่อของเธอว่า "ฉันเป็นนักร้อง" เขาถามความหมายของลูกสาวในการแสดงออกนี้ เด็กหญิงตัวน้อยตอบว่า "นี่คือสิ่งที่ทำให้ฉันมีความสุข" ปิแอร์หันไปหานักเปียโนที่เขารู้จักเพื่อประเมินความสามารถด้านเสียงของลูกสาวโดยไม่ลังเล นักดนตรีแนะนำให้ฉันพัฒนาความสามารถในการร้องเพลงของฉัน ชุดของการฝึกอบรมและชั้นเรียนเริ่มต้นขึ้น ในเวลานี้ ครอบครัวย้ายกลับไปเบลเยียม

  
  

  ปิแอร์ซื้อเปียโนให้ลูกสาว ซึ่งเธอแต่งทำนองเพลงแรก ในเวลาเดียวกัน เด็กหญิงคนนั้นเข้าเรียนในโรงเรียนดนตรีซึ่งต่อมาถูกแทนที่โดยราชบัณฑิตยสถานแห่งบรัสเซลส์ ลาร่าร่วมกับพ่อของเธอเริ่มแสดงในบาร์และการแข่งขันต่างๆ หนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่เธอเข้าร่วมคือการแข่งขันบรัสเซลส์ สปริงบอร์ด คนหนุ่มสาวและมีความสามารถได้รับรางวัลสามรางวัลซึ่งเป็นบันทึกของแผ่นดิสก์ ดังนั้นในปี 1987 แผ่นดิสก์แผ่นแรกของ Lara Fabian คือ L'Aziza est en pleurs จึงถูกบันทึก

  ขั้นตอนต่อไปในชีวิตของนักร้องคือการมีส่วนร่วมใน Eurovision ในปี 1988 เธอพูดกับผู้ชมหลายล้านคนและเป็นตัวแทนของลักเซมเบิร์ก และแม้ว่าเธอจะได้อันดับที่ 4 เท่านั้น แต่เพลง "Croire" ("Believe") ของเธอชอบประชาชนชาวยุโรปมากจนอาชีพระหว่างประเทศกลายเป็นความต่อเนื่องของชีวิตสร้างสรรค์ของเธออย่างสมบูรณ์

  

  ลาร่าเริ่มออกทัวร์และทำความรู้จักกับโลกอย่างแข็งขัน ในปี 1989 เด็กผู้หญิงคนนั้นจบลงที่แคนาดา ประเทศนี้หลงใหลเธอมากจนตัดสินใจอยู่ที่นี่และย้ายไปควิเบก

  ต่อมาในกรุงบรัสเซลส์ เธอได้พบกับริค อัลลิสัน ซึ่งเดินตามเส้นทางที่สร้างสรรค์ของเธอมาเป็นเวลา 14 ปี เขาไม่เพียงช่วยเธอในการบันทึกอัลบั้มเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นคนที่รักอีกด้วย ความรักของพวกเขากินเวลา 6 ปีและจบลงด้วยความสัมพันธ์ฉันมิตร

  ในมอนทรีออล ลาร่าก่อตั้งค่ายเพลงของเธอเอง ในปีพ.ศ. 2534 เธอได้ปล่อยแผ่นเสียงที่สอง "Lara Fabian" ด้วยการสนับสนุนทางการเงินจากบิดาของเธอ ชาวแคนาดาขายอัลบั้มออกทันทีและยอมรับว่า Lara เป็นนักร้องที่มีแนวโน้มมากที่สุด และผู้หญิงคนนี้ก็ตกหลุมรักประเทศนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ และในปี 2538 ก็ได้รับสัญชาติแคนาดา

  ในปี 1996 อัลบั้ม "Pure" ได้รับการปล่อยตัวซึ่งเพลงส่วนใหญ่เขียนโดย Lara เอง ด้วยอัลบั้มนี้ เธอกลับไปยุโรปและรับแผ่นทองคำสำหรับอัลบั้มนี้ และในแคนาดา - แพลตตินัม ระหว่างท่องเที่ยวฝรั่งเศส เธอได้พบกับแพทริก ฟิออรี ศิลปินละครเพลงนอเทรอดามแห่งปารีส สหภาพของพวกเขาหายวับไปและเจ็บปวดสำหรับนักแสดง

  ชาวยุโรปถูกปราบ มันยังคงได้รับการยอมรับที่ American Olympus ในปี 2542 ลาร่าออกอัลบั้มภาษาอังกฤษ ประชาชนไม่ยอมรับเขา เวลานี้ในอเมริกาพวกเขาฟังด้วยความปีติ Celine Dion ซึ่ง Lara ถูกเปรียบเทียบอย่างต่อเนื่อง ความพยายามครั้งที่สองในการพิชิตสหรัฐอเมริกาเกิดขึ้นในปี 2547

  อย่างไรก็ตาม เธอยังคงทำงาน บันทึกอัลบั้ม ทำให้แฟน ๆ พอใจด้วยเสียงร้องและศิลปะที่ยอดเยี่ยม แต่งเพลงให้กับศิลปินคนอื่น ๆ และลองแสดงในภาพยนตร์ ความสำเร็จทางดนตรีไม่รบกวนความสุขส่วนตัว ในปี 2548 เธอตกหลุมรักเจอราร์ด พูลลิซิโน ผู้กำกับชาวฝรั่งเศส เขาเป็นคนถ่ายทำวิดีโอแรกของเธอสำหรับเพลง "Croire" สองปีต่อมา ลู ลูกสาวของพวกเขาก็เกิด

  
  

  เมื่ออายุได้ 40 ปี นักแสดงได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับอาการป่วยของเธอ ซึ่งเป็นเนื้องอกในตับ แต่นั่นเป็นอดีตไปแล้ว ก่อนที่ลูกสาวของเขาจะเกิด เธอเอาชนะโรคนี้ ประสบกับอารมณ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับโรคนี้ และพบทางออกในตัวเอง

  แต่ละอัลบั้มของ Lara Fabian เป็นการเปิดเผยส่วนตัว "9" กลายเป็นรอบใหม่ในอาชีพการงานสร้างสรรค์ของเธอตามตัวนักร้องเอง Toutes les femmes en moi / ผู้หญิงทุกคนในตัวฉันค่อนข้างเป็นอัตชีวประวัติ ในนั้นเธอสะท้อนอิทธิพลของผู้หญิงหลายคนที่มีต่อการก่อตัวเป็นนักร้อง Lara ออกอัลบั้มล่าสุดของเธอ Ma vie dans la tienne ในปี 2015

  
  

  ในปี 2013 ดาราระดับนานาชาติได้ผูกปมกับ Gabriel Di Giorgio นักเล่นกลลวงตาชาวอิตาลี ในปีเดียวกันลาร่าเริ่มปฏิเสธคอนเสิร์ต - ปัญหาการได้ยินปรากฏขึ้น

  ตอนนี้นักร้องชื่อดังอาศัยอยู่ในเบลเยียมเลี้ยงดูลูกสาวและเริ่มกลับมาที่เวทีอย่างช้าๆหลังจากพักผ่อน

  
  

  
  

  ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ

  • คุณยายชาวซิซิลีของลาร่าเล่านิทานให้เธอฟังว่า หากคุณขอพรในวันที่ 12 สิงหาคมขณะที่ดวงดาวกำลังร่วงหล่น สิ่งนั้นจะเป็นจริงอย่างแน่นอน เด็กหญิงอายุ 5 ขวบต้องการเรียนดนตรี 12-15 ครั้ง
  • Lara Fabian เป็นผู้เขียนเนื้อเพลงส่วนใหญ่ของเธอ เธอยังเขียนเพลง แต่ในระดับที่น้อยกว่า
  • Lara เปลี่ยนชื่อนามสกุล Crocard เป็น Fabian เพื่อเป็นเกียรติแก่ลุงของเธอ เธอรักเขามากและสัญญาว่าจะใช้ชื่อของเขา นอกจากนี้เฟเบียนยังเป็นผู้ที่ฟังดูไพเราะในทุกภาษาของยุโรปอีกด้วย
  • จนกระทั่ง 7 เดือนดาราที่พูดภาษาฝรั่งเศสในอนาคตถูกเรียกว่าลอร่า ประทับใจภาพยนตร์อเมริกันจากผลงานของบี.แอล. Pasternak "หมอแห่งชีวิต" แม่ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อของหญิงสาวเป็น Lara เพื่อเป็นเกียรติแก่ตัวละครหลัก Antipova Larisa Fedorovna
  • Lara Fabian เป็นหนึ่งในนักแสดงกลุ่มแรกที่อุทิศเพลงให้กับความรักเพศเดียวกัน เธอได้รับแจ้งให้สร้างองค์ประกอบโดยเพื่อนของเธอซึ่งเชื่อมโยงชีวิตของเธอกับผู้หญิงคนหนึ่ง สำหรับงานนี้ ลาร่าได้รับคำชมและวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง
  • นักร้องชื่อดังชาวฝรั่งเศสเล่นเพลงในภาษาอิตาลี สเปน อังกฤษ และฝรั่งเศส เพลงในภาษารัสเซียยังปรากฏในละครของเธอคือ "Love Like a Dream" จากผลงานของ A.B. ปูกาเชว่า.
  • นักร้องได้อุทิศแผ่นดิสก์แผ่นแรกของเธอให้กับ Daniel Balavoin นักแสดงชาวฝรั่งเศสที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตก งานของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้ดาราหนุ่มและเป็นแบบอย่างที่น่าติดตาม
  • Lara รู้สึกยินดีเสมอกับการสนับสนุนและการตอบสนองทางอารมณ์จากแฟนๆ ของเธอ การแสดงตัวอย่างความรักอันไร้ขอบเขตสำหรับนักแสดงเกิดขึ้นในคอนเสิร์ตแห่งหนึ่ง ท่วงทำนองของเพลง "Je t" aime "ฟังแล้วซึ่ง Lara ไม่สามารถเริ่มร้องได้เพราะอารมณ์รุนแรงที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียคนที่รักเมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้ชมเริ่มร้องเพลงแทนเธอโดยเปลี่ยนแนวหลักของเพลง เพลง "ฉันรักเธอ" ถึง "เรารักเธอ"
  • ในบรรดาภาพยนตร์เรื่องโปรดของเธอ Lara เรียกว่า "Schindler's List" และ "The Fifth Element" Reading เป็นผู้หญิงที่ผูกพันกับ Julie โดย Marie LaBerge และ Simple Charm โดย Christian Boben
  • นักร้องสากลได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานของ Barbra Streisand และ Maria Callas เธอยังคุ้นเคยกับนักแสดงชาวรัสเซียบางคนอีกด้วย ดังนั้นเธอจึงชอบ Valeria, Philip Kirkorov เธอยังเรียกงานของเซมฟิราว่าน่าสนใจ
  • นอกจากดนตรีแล้ว Lara Fabian ยังหลงใหลในการทำอาหารอีกด้วย เธอสืบทอดความหลงใหลในอาชีพนี้จากคุณยายและแม่ของเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงคนนี้ที่ประสบความสำเร็จในอาหารอิตาเลียนด้วยรสชาติของทีรามิสุและริซอตโต้ที่เลียนแบบไม่ได้ ลาร่ายังชื่นชอบไวน์แดงเป็นอย่างมาก ซึ่งเธอยอมให้ตัวเองดื่มในปริมาณเล็กน้อยเนื่องจากอาชีพนักดนตรีของเธอ

  

  • เมื่อเป็นเด็ก Lara จินตนาการว่าตัวเองเป็นราชินีแห่ง French Chanson ดาราเพลงร็อกแอนด์โรลและละครเพลงบรอดเวย์
  • ภาษาอิตาลีตามที่นักร้องพูดนั้นไพเราะและไพเราะที่สุด
  • ลาร่ามีส่วนร่วมในงานการกุศล เธอส่งเงินที่รวบรวมได้จากคอนเสิร์ตเพื่อการรักษาเด็กที่เป็นโรคหัวใจ เมื่อเงินที่หามาได้ก็เพียงพอที่จะสร้างโรงพยาบาลได้
  • สำหรับคำถาม: คุณเริ่มทำอะไร ถ้าไม่ใช่เพื่อดนตรี เธอตอบง่ายๆ ว่า - เธอจะอุทิศตนเพื่อลูกๆ
  • เช้าของชาวซิซิลีที่เร่าร้อนเริ่มต้นด้วยกาแฟชั้นดี
  • มีอยู่ครั้งหนึ่ง Lara ถึงกับเข้าเรียนคณะนิติศาสตร์ซึ่งเธอศึกษากฎหมายแพ่งและอาชญวิทยาเด็ก แต่ก็ไม่เพียงพอสำหรับเธอเป็นเวลานาน - ดนตรีเข้ามา
  • นักวิจารณ์หลักของเธอคือและยังคงเป็นพ่อของเธอ เธอรู้สึกขอบคุณเขาสำหรับคำติชมเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับคอนเสิร์ตและการแสดงของเธอ สิ่งนี้ทำให้เธอมีโอกาสที่จะเป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่ดาราที่หยิ่งผยอง
  • เป็นเวลา 15 ปีที่นักร้องเก็บไดอารี่ส่วนตัว

  

  • ในปี 1996 Lara ได้รับตำแหน่ง "Discovery of the Year" ในฝรั่งเศส แม้ว่าตอนนี้เธอจะได้รับความนิยมอย่างมากในแคนาดาแล้วก็ตาม
  • ในปี 2542 และ 2544 ศิลปินได้รับรางวัล World Music Award ในประเภท "ศิลปินที่ขายดีที่สุดของประเทศเบเนลักซ์"
  • เสียงนางฟ้า - นี่คือวิธีที่นักวิจารณ์เพลงพูดถึงเฟเบียน แต่มันก็ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป เมื่อนักร้องเอาชนะการสนทนาของแคนาดาเธอต้องอดทนกับสื่อมากมายซึ่งเกลียดเธออย่างแท้จริง หลังจากการโจมตี เธอตัดสินใจดูสถานการณ์จากภายนอกและเข้าใจว่าทำไมเธอจึงไม่พอใจนักข่าว ตามที่นักร้องบอก เธอมีมากเกินไป เธอมีพลังและแน่วแน่บนเวทีมากเกินไป หลังจากการไตร่ตรองดังกล่าว ลาร่าก็เริ่มพูดอย่างสงบและนิ่งมากขึ้น
  • ตอนที่โดดเด่นที่สุดในวัยเด็กเกี่ยวข้องกับการซื้อเสื้อสเวตเตอร์สีเทอร์ควอยซ์สีเบจ ลาร่าตัวน้อยเห็นเขาในร้านและขอให้พ่อของเธอซื้อของที่ต้องการ แต่ไม่มีเงิน ปิแอร์หยิบกีตาร์และไปกับลูกสาวของเขาที่ Royal Galleries ซึ่งพวกเขาเล่นให้กับสาธารณชน เงินจากการแสดงเล็กๆ น้อยๆ ก็เพียงพอแล้วสำหรับเสื้อสเวตเตอร์ที่ผู้หญิงคนนั้นเก็บไว้ 20 ปี

  เพลงที่ดีที่สุด

  
  

  หากคุณถามแฟน ๆ ของ Lara Fabian ว่าพวกเขาชอบเพลงใดมากที่สุด การแต่งเพลงต่อไปนี้จะรวมอยู่ในรายการอย่างแน่นอน

  • « ฉันรักเธอ". แปลจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า "ฉันรักเธอ" ซิงเกิ้ลนี้ทำให้ดีอกดีใจ ซึ้งใจ และฟังแล้วขนลุก องค์ประกอบนี้อุทิศให้กับ Rick Allison

  "เฌอแตม" (ฟัง)

  • « เจ ซุย มาเลด". เพลงแรกที่แต่งขึ้นเพื่อนักร้อง เดไลลาห์ ... ลาร่าทำท่านกกระทาในปี 2538 อย่างเย้ายวนจนเธอสร้างความประทับใจให้กับผู้แต่งเพลง Serge Lama
  • « อดาจิโอ". การประพันธ์โคลงสั้น ๆ นี้รวมอยู่ในอัลบั้มแรกที่เปิดตัวในแคนาดาและตกหลุมรักผู้ฟังหลายล้านคน เธอเป็นที่รู้จักหลายคนในชื่อ Adagio Albinoni
  • « Immortelle"หรือ" อมตะ " นี่คือเรื่องราวของลาร่าเกี่ยวกับวิญญาณที่คงอยู่ตลอดไป องค์ประกอบเป็นเรื่องส่วนตัว นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้แฟนๆ ประทับใจกับเพลงนี้

  "อิมมอเตล" (ฟัง)

  • « ฉันจะรักอีกครั้ง».. แฟน ๆ ชอบเพลงแดนซ์ที่สดใสมากจนครองตำแหน่งผู้นำในชาร์ตเป็นเวลา 58 สัปดาห์

  "ฉันจะรักอีกครั้ง" (ฟัง)

  

  คู่เด่น

  ในปี 2550 เธอแสดงเพลง "Un cuore malato" กับนักร้องชื่อดังชาวอิตาลี Gigi D'Alessio ชะตากรรมขององค์ประกอบนี้ไม่น่าแปลกใจเลยเมื่อพิจารณาจากความสามารถด้านเสียงร้องของนักแสดงทั้งสอง ซึ่งติดอันดับต้นๆ ของอิตาลี พ่อของเธอแนะนำผู้หญิงให้รู้จักกับงานของ Gigi ซึ่งยืนกรานที่จะฟังเพลงของเขา

  Lara เริ่มทัวร์ในปี 2008 ที่ประเทศกรีซ โดยเธอได้แสดงเพลง “All Alone Am I” ในปี 1963 ร่วมกับ Marios Frangulis

  
  

  ในปี 2010 นักร้องได้ออกผลงาน "Ensemble" เพลงนี้เป็นเพลงคู่เสมือนกับบิดาแห่งจิตวิญญาณ เรย์ ชาร์ลส์ .

  ในการแสดงที่มอสโกในปี 2010 ลาร่าทำให้แฟน ๆ ของเธอพอใจกับเพลงจากอัลบั้มใหม่ "ผู้หญิงทุกคนในตัวฉัน" และคู่ใหม่กับ Igor Krutoy พวกเขาแสดงสององค์ประกอบ แต่นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการทำงานร่วมกันของพวกเขา พวกเขาร่วมกันออกอัลบั้ม Mademoiselle Zhivago รวมเพลงใน 4 ภาษาและกลายเป็นพื้นฐานสำหรับทัวร์ใหม่และภาพยนตร์เพลงชื่อเดียวกันซึ่งรวมถึงชุดเรื่องสั้น 12 เรื่อง ช่างทำคลิปชาวยูเครน Alan Badoev ทำงานเกี่ยวกับการสร้างลำดับวิดีโอ ลาร่าเองก็ชอบงานประเภทนี้ แต่ผลงานชิ้นสุดท้ายทำให้เกิดความผิดหวัง - ภาพบนหน้าจอไม่ตรงกับตัวตนของเธอ

  นักร้องชาวตุรกี Mustafa Checheli เสนอเพลงคู่ให้ Lara ส่งผลให้โลกได้เห็นการแต่งเพลง "Make Me Yours Tonight" วิดีโอถูกถ่ายทำภายใต้การดูแลของผู้กำกับชาวอังกฤษ Matt M. Ersin

  Lara Fabian เกี่ยวกับตัวเอง ชีวิตและการทำงาน

  

  สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับผลงานของ Lara Fabian ดูเหมือนว่าเธอจะประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงได้ง่ายและเป็นธรรมชาติ แต่นี่ไม่ใช่กรณี ความนิยมและการยอมรับในระดับสากลเป็นผลมาจากการทำงานหนักและยาวนาน ผู้หญิงคนนี้เปรียบเทียบอาชีพการร้องเพลงของเธอกับอาชีพการกีฬาของเธอ เธอยังต้องฝึกฝนทุกวัน ไม่ว่างานคอนเสิร์ตจะหนักแค่ไหน - เพื่อร้องเพลง ร้องและแต่งเพลง เพื่อที่จะมีรูปร่างที่สมส่วนอยู่เสมอ

  เธอถูกเลี้ยงดูมาในฐานะเด็กธรรมดาเสมอมาโดยไม่มีใครอ้างว่ามีพรสวรรค์ทางดนตรี แม่ทำให้แน่ใจว่าลูกสาวของเธอกินดี นอนหลับเพียงพอ และพ่อของเธอต้องรับผิดชอบในการพัฒนาของเธอในฐานะบุคคล

  ลาร่าเป็นส่วนผสมของอารมณ์และลัทธิปฏิบัตินิยม ลูกสาวของชาวซิซิลีและชาวเบลเยียม เธอได้รับมรดกลักษณะเด่นที่สุดของทั้งสองประเทศ เธอเรียกตัวเองว่าเสียงหัวเราะที่แก้ไขไม่ได้ เป็นคนประหลาด เอาแต่ใจ และในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่วิตกกังวลมาก ไม่มีคอนเสิร์ตใดที่เธอพอใจอย่างสมบูรณ์ ภาพที่สดใสและกระฉับกระเฉงซ่อนความอ่อนแอของผู้หญิงที่สวย การร้องเพลงให้เธอเป็นโอกาสที่จะยืนยันตัวเองในสายตาของเธอและซ่อนความวิตกกังวล

  นักแสดงที่พูดภาษาฝรั่งเศสกล่าวว่าเมื่ออายุ 35-37 เธอพบว่าเสียงของเธอมีลักษณะเฉพาะ ก่อนหน้านั้น เธอทดลอง เลียนแบบนักร้องดัง และค้นหาตัวเอง ลาร่าไม่ได้จำกัดละครของเธอไว้เฉพาะบางประเภทเท่านั้น เธอร้องเพลงภาษาฝรั่งเศสพร้อมบทบรรยาย ร็อคแอนด์โรล , เพลงป๊อบ. ในความเห็นของเธอ ศิลปินตัวจริงควรจะทำทุกอย่างได้

  Lara Fabian ชอบอยู่กับปัจจุบันและกังวลน้อยลงเกี่ยวกับอนาคต การประเมินค่าใหม่ส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากเนื้องอกและการเกิดของลูกสาว

  ภาพยนตร์ที่มี Lara Fabian

  

  แม้ว่าเธอจะหลงใหลในดนตรี แต่นักร้องต่างประเทศก็ไม่พลาดโอกาสในการมีส่วนร่วมในการถ่ายทำภาพยนตร์ เธอเล่นในภาพยนตร์ต่อไปนี้:

  • "รายการโปรด" (2004) ภาพยนตร์เรื่องนี้อุทิศให้กับโคล พอร์เตอร์ ราชาแห่งละครเพลงชาวอเมริกัน เพลงประกอบที่บรรเลงโดย Lara;
  • Mademoiselle Zhivago (2011) จากอัลบั้มที่มีชื่อเดียวกัน

  ในปี 2000 ผู้กำกับ Laurence Jordan ได้ทำสารคดีเกี่ยวกับนักร้องยอดนิยม เทปนี้มีชื่อว่า From Lara with Love

  นักร้องยังแสดงในรายการทีวีที่เธอเล่นด้วยตัวเอง:

  • "ทุกคนพูด";
  • "รีบวันอาทิตย์";
  • "คาบาเร่ต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก"

  การแต่งเพลงที่ละเอียดอ่อนและน่าประทับใจของนักแสดงชาวเบลเยียมกลายเป็นเครื่องประดับของภาพยนตร์เรื่องต่อไปนี้:

  
  

  ฟิล์ม	เพลง
  หิมะและเปลวไฟ / La neige et le feu (1991)	"Laisse-moi rèver"
  เซี่ยงไฮ้ ลิเอซัน (2000)	"แสงสว่างในชีวิตของฉัน"
  ปัญญาประดิษฐ์ (2001)	"ตลอดไป"
  ไฟนอลแฟนตาซี (2001)	“ความฝันภายใน”

  นักแสดงที่พูดภาษาฝรั่งเศสได้รับชื่อเสียงในบราซิลด้วยเพลงในซีรีส์ยอดนิยม:

  • ความสัมพันธ์ในครอบครัว (2000);
  • โคลน (2001);
  • "นายหญิงแห่งโชคชะตา" (2004)

  หลังจากการออกอากาศของภาพต่อเนื่อง ลาร่าไปทัวร์ในประเทศนี้

  ทั้งชีวิตของ Lara Fabian สะท้อนอยู่ในเพลงของเธอ ความคิด ความรู้สึก ประสบการณ์ ... เธอไม่กลัวที่จะจดบันทึกและแบ่งปันกับแฟน ๆ ของเธอสร้างแรงบันดาลใจและให้ความหวัง นักร้องเสียงโซปราโนที่ทุ้มและหนักแน่นประกอบกับการแสดงที่จริงใจ ทำให้งานของนักร้องเป็นที่รักของผู้คนนับล้านที่เรียกเธอว่านางฟ้า

  วิดีโอ: ฟัง Lara Fabian