คณะอักษรศาสตร์และวารสารศาสตร์

ภาควิชาทฤษฎีวารสารศาสตร์

คู่มือระเบียบวินัยสำหรับวินัย:

เทคนิคการทำงานวารสาร

ลักษณะทั่วไป

ตามหลักสูตรของภาควิชาวารสารศาสตร์หลักสูตร "เทคนิคการทำงานด้านวารสารศาสตร์" รวมอยู่ในกลุ่มสาขาวิชาวิชาชีพทั่วไปและได้รับการศึกษาในภาคการศึกษาแรก มีการบรรยาย 12 ชั่วโมง, การศึกษาในห้องปฏิบัติการ 24 ชั่วโมงสำหรับการศึกษาในห้องเรียน)

จุดมุ่งหมายของหลักสูตรคือเพื่อแนะนำนักเรียนให้รู้จักสาขากิจกรรมวารสารศาสตร์ ให้แนวคิดเกี่ยวกับสถานที่และบทบาทของการรายงานเป็นกิจกรรมนักข่าวประเภทพิเศษ สอนเทคนิคการรายงาน ปลูกฝังทักษะการรายงาน

หลักสูตร "เทคนิคการทำงานด้านวารสารศาสตร์" เป็นพื้นฐานทางเทคโนโลยีสำหรับการศึกษาประเภทวารสารศาสตร์ ให้นักศึกษาได้ทราบถึงแนวทาง วิธีการ ระบบการทำงานของนักข่าวในการรวบรวม ประมวลผล และถ่ายทอดข้อมูลผ่านสื่อต่างๆ แนวคิดเช่น "ข้อมูลวารสารศาสตร์ ประเภทของข้อมูล" วิธีการรวบรวมและตรวจสอบข้อมูล "," แหล่งข้อมูลและการจัดหมวดหมู่ "ควรเป็นผู้เชี่ยวชาญในหลักสูตรภาคทฤษฎีและนำไปปฏิบัติในชั้นเรียนในห้องปฏิบัติการ

หลักสูตรจะจบลงด้วยการทดสอบเมื่อสิ้นสุดภาคการศึกษาแรก โดยจะอนุญาตให้ส่งตัวนักเรียนได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการสำเร็จงานจริงทุกประเภทและงานที่มอบหมายตามแผนหลักสูตร

งานของนักข่าวเชื่อมโยงกับงานที่สำคัญที่สุดของสื่อ - เพื่อให้ครอบคลุมกระบวนการที่สำคัญที่สุดของชีวิตสาธารณะทั้งหมดโดยทันทีซึ่งปรากฏในข้อเท็จจริงและเหตุการณ์

นักข่าวทุกคนต้องมีทักษะในการเป็นนักข่าว ดังนั้น เพื่อที่จะเชี่ยวชาญเทคนิคการทำงานของนักข่าวได้สำเร็จ นักศึกษาจะต้องได้รับความรู้เกี่ยวกับปัญหา: ข้อมูลข่าวสารและประเภทของมัน แหล่งข้อมูล รูปแบบและวิธีการรับรู้ความเป็นจริงโดยนักข่าว หลักการและขั้นตอนของความรู้ความเข้าใจของนักข่าว งาน.

แผนวิทยานิพนธ์ของการบรรยาย

แนวคิดข้อมูลข่าวสาร

เป้าหมายของกิจกรรมข้อมูลใดๆ คือการย้ายจากสถานะของเอนโทรปีเริ่มต้นสูงไปเป็นสถานะเอนโทรปีขั้นต่ำ ข้อมูลช่วยขจัดความไม่แน่นอนช่วยให้บุคคลสร้างแบบจำลองของโลกภายนอกช่วยในการตัดสินใจที่ถูกต้องและนำทางกระบวนการและกฎหมายของความเป็นจริงโดยรอบ

ข้อมูลมีคุณสมบัติบางอย่าง

ประการแรกคือความสามารถของข้อมูลที่จะมีคุณค่าและไร้ประโยชน์ ข้อมูลที่สำคัญที่สุดคือความแปลกใหม่ แต่เราต้องคำนึงว่าข้อมูลใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนจำเป็นต้องมีคุณค่าที่เป็นรูปธรรม แต่ก็ไม่ได้มีคุณค่าสำหรับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลแต่ละคนเสมอไป ดังนั้นเราต้องจำไว้เสมอเกี่ยวกับคุณค่าของข้อมูลซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้คน คุณสมบัติที่สองของข้อมูลคือความซ้ำซ้อน ข้อมูลใหม่อย่างแน่นอนจะต้องมีความเครียดอย่างต่อเนื่อง บุคคลนั้นจะเหนื่อยอย่างรวดเร็ว ดังนั้นนักข่าวมักจะอธิบายเงื่อนไข ดังนั้นข่าวเดียวกันจึงออกอากาศตามความถี่ที่กำหนด

ในทฤษฎีสารสนเทศ มีข้อมูลสองระดับ - ข้อมูลที่เป็นไปได้และข้อมูลจริง ข้อมูลข่าวสารทั้งหมดที่ทำงานในสังคม กล่าวคือ ข้อมูลทางสังคม เป็นข้อมูลที่มีศักยภาพ ข้อมูลจริงคือความสัมพันธ์ระหว่างข้อความกับผู้บริโภค: โดยการเชื่อมต่อกับผู้บริโภคเท่านั้น (ผู้ฟัง ผู้อ่าน ผู้ดู ฯลฯ) ข้อมูลจะกลายเป็นจริง

ข้อกำหนดสำหรับข้อมูลข่าวสาร

ความคิดริเริ่มไม่ใช่ข้อมูลธรรมดา

ความพร้อมใช้งานหรือการถอดรหัสของข้อความ

ความเกี่ยวข้องหรือความเกี่ยวข้องของข้อความ

ประเภทของข้อมูลข่าวสาร:

ข้อมูลเหตุการณ์เป็นข้อเท็จจริง เหตุการณ์ เผยแพร่โดยไม่มีความคิดเห็น

ข้อมูลการตีความคือการวิเคราะห์ ข้อคิดเห็น ข้อสรุปและบทสรุปที่มีอยู่ในสิ่งพิมพ์

ข้อมูลพื้นฐานเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในสารคดี ข้อมูลเชิงทฤษฎีของรัฐ คุณธรรม กฎหมาย ศาสนา และลักษณะอื่นๆ ที่มีนัยสำคัญโดยทั่วไป

นักข่าวทำงานในระบบกิจกรรมนักข่าว

ความแตกต่างที่ทันสมัยของงานวารสารศาสตร์คือความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพจำนวนหนึ่ง ได้แก่ นักข่าว นักวิเคราะห์ นักประชาสัมพันธ์ สำหรับนักข่าว ให้ความสำคัญกับคุณภาพของความคล่องตัวและประสิทธิภาพ ซึ่งรับประกันความสำเร็จภายใต้เงื่อนไขของจังหวะการรวบรวมข้อมูลที่เข้มงวด

วารสารศาสตร์ข่าวสารคือกลุ่มของประเภทที่เน้นการรายงานข้อมูลกิจกรรมการดำเนินงาน

หัวข้อของการทำข่าวคือช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงความเป็นจริง

หัวใจสำคัญของการทำข่าวคือข้อเท็จจริง

ข้อเท็จจริงคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่เหตุการณ์สมมติ เป็นเหตุการณ์ที่มีลักษณะโดดเดี่ยว นี่ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้น แต่มันเกิดขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในกรณีเฉพาะ สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ เมื่อวาน ในสถานที่เฉพาะ

เขามีละครภายใน - การเริ่มต้นการพัฒนาความสมบูรณ์นั่นคือพลวัต

เรื่องราวข่าวสามารถแบ่งคร่าวๆ ได้เป็นสามประเภท: ปฏิทิน ร้อนแรง และจัดระเบียบ

ปฏิทินเกี่ยวข้องกับวันครบรอบของเหตุการณ์บางอย่างกับสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน นี่คือข้อมูลที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า ข่าวร้อนรายงานเหตุการณ์รุนแรงในประเทศและต่างประเทศ - ภัยพิบัติครั้งใหญ่ ภัยธรรมชาติ การกระทำของมนุษย์ที่คาดเดาไม่ได้ หรือเหตุบังเอิญที่ไม่คาดคิด ข่าวที่จัดขึ้นเป็นการดึงดูดความสนใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง

ข้อเท็จจริงใด ๆ ของความเป็นจริงในชีวิตประจำวันสามารถเผยแพร่ได้หรือไม่? ข่าวคืออะไร และจะกำหนดมูลค่าของข่าวได้อย่างไร?

ข้อเท็จจริงที่เปลี่ยนแปลงสถานการณ์อย่างมากคือข่าว

ข่าวที่ควรจะเป็น:

ก่อนหน้านี้ไม่รู้จัก

ใกล้ชิดผู้ชม

ผิดปกติ

ส่วนบุคคล

สร้างความสนใจทั่วไป

หน้าที่ของนักข่าวคือรวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับงานและนำเสนอตามแบบแผน ตอบคำถามหลักว่าใคร อะไร ที่ไหน เมื่อไร และอย่างไร และคำอธิบายเพิ่มเติมพร้อมคำตอบสำหรับคำถามว่า ทำไม จึงเป็นหน้าที่ของผู้วิจารณ์อยู่แล้ว

3. แหล่งข้อมูล

ความสามารถในการรับข้อมูลสดเบื้องต้น ความพิเศษเฉพาะตัว เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดความเป็นมืออาชีพระดับสูงของนักข่าว

สังคมได้พัฒนาเครือข่ายที่ครอบคลุมในการแจ้งนักข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่วางแผนไว้ในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึง:

การบรรยายสรุป

การนำเสนอ

งานแถลงข่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์

ข้อความสำนักข่าว

แหล่งข้อมูลหลักในการรับข้อมูลโดยไม่ได้วางแผนคือส่วนหนึ่งของความเป็นจริง

แหล่งข้อมูลมีสามประเภท - เอกสาร บุคคล และสภาพแวดล้อมของเนื้อหาเรื่อง แหล่งข้อมูลที่เป็นลายลักษณ์อักษรอยู่บนพื้นฐานของการประชาสัมพันธ์และเสรีภาพของข้อมูล ซึ่งช่วยให้คุณทำความคุ้นเคยกับเอกสารที่จัดประเภทว่าเปิดเผยต่อสาธารณะ (เอกสารราชการ จดหมาย รายงาน ระเบียบการ การกระทำ คำสั่ง ฯลฯ) บุคคลสามารถอธิบายเนื้อหาของเอกสาร แสดงความคิดเห็น บอกภูมิหลังของเหตุการณ์ ให้คำแนะนำ ฯลฯ ได้เสมอ บางครั้งสภาพแวดล้อมรอบตัวบุคคล (สิ่งของและสิ่งของ) สามารถบอกเกี่ยวกับตัวเขาได้มากกว่าตัวเขาเอง

แหล่งข้อมูลปากเปล่า - ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการระบุชื่อของตนในสิ่งพิมพ์เสมอ ในเรื่องนี้พวกเขาสามารถ

เปิด

ไม่ระบุชื่อ

แหล่งที่มา "ไม่ได้สำหรับการพิมพ์"

มีวิธีการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงที่ผ่านการทดลองและทดสอบหลายวิธี:

ถามแหล่งที่มาอีกครั้งและตรวจสอบตัวเลข ข้อเท็จจริง นามสกุล รายละเอียดที่สำคัญอื่นๆ ตามข้อความอีกครั้ง โดยอ้างอิงจากข้อความ

เชื่อมโยงข้อมูลกับวิดีโอ การบันทึกเสียง เอกสารข้อความ

สอบถามพยานและพยานเพิ่มเติม

ให้บรรณาธิการอ่านข้อความ

การสังเกตเป็นวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล

การสังเกตช่วยให้นักข่าวได้รับข้อมูลโดยตรงจากความเป็นจริงในปัจจุบัน - ข้อมูลเบื้องต้น นักข่าวจะได้ข้อมูลอะไรบ้างจากการสังเกต ประการแรก ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่แสดงถึงสาระสำคัญของสิ่งที่เกิดขึ้นจากภายนอก บนพื้นฐานของข้อสรุปที่สามารถสรุปเกี่ยวกับความหมายของเหตุการณ์ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของผู้คน เกี่ยวกับระดับของวัฒนธรรมทั่วไปหรือประเพณี นิสัย - เกี่ยวกับ ทุกสิ่งที่สามารถอ่านได้ด้วยตา ประการที่สอง ข้อมูลที่ถ่ายทอดลักษณะภายนอกของวัตถุ พวกเขาทำหน้าที่ในข้อความเป็นคำอธิบายของสัญญาณของสถานการณ์จริงซึ่งสร้าง "ผลกระทบ" สำหรับผู้อ่าน - นี่คือรายละเอียดของลักษณะที่ปรากฏของตัวละคร คำพูด ท่าทางและวัตถุของสภาพแวดล้อมที่ เหตุการณ์เกิดขึ้น

ข้อดีของวิธีนี้ ได้แก่ ความเป็นรูปธรรมและภาวะเอกฐาน วิธีการสังเกตและวิธีปฏิบัติมากที่สุดในวารสารศาสตร์ ซึ่งอธิบายถึงความสำคัญของวิธีการดังกล่าว ช่วยให้คุณสะท้อนความเป็นจริงในขณะที่พัฒนา แต่นักข่าวรับรู้โลกรอบตัวเขาจากประสบการณ์ทางปัญญาและอารมณ์ที่ผ่านมาของเขา บนพื้นฐานของแนวคิดเชิงตรรกะที่จัดตั้งขึ้น ยิ่งประสบการณ์นี้สมบูรณ์มากเท่าใด ผลการสังเกตก็จะสมบูรณ์และเชื่อถือได้มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น วิธีการสังเกตจึงมีอัตวิสัยของการรับรู้ แนะนำองค์ประกอบส่วนตัวในภาพที่มีวัตถุประสงค์ของโลก

การสังเกตในวารสารศาสตร์มีการปรับเปลี่ยนหลายอย่าง ประการแรก การสังเกตสามารถเตรียมและไม่ได้เตรียมตัวไว้

การสังเกตการณ์ที่เตรียมไว้จะทำให้นักข่าวคุ้นเคยกับวรรณกรรม เอกสารสำคัญ และข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับวัตถุที่จำเป็น นักข่าวรู้ดีว่าเขาต้องคอยสังเกตว่าใครจะมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ ลำดับของพวกเขาเป็นอย่างไร ฯลฯ

การสังเกตที่ไม่ได้เตรียมตัวไว้ขึ้นอยู่กับความคาดเดาไม่ได้ ความบังเอิญ และความฉับพลันของสิ่งที่เกิดขึ้น นักข่าวทำงานกับวัตถุโดยไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ล่วงหน้า

มีการสังเกตครั้งเดียวและระยะยาว

การสังเกตเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอแล้วเมื่อเขียนบันทึกย่อ การสังเกตแบบครั้งเดียวถูกใช้ในวารสารศาสตร์ข่าว เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับความจำเป็นทางวิชาชีพที่ยากลำบาก - ประสิทธิภาพ

การสังเกตระยะยาวในวารสารศาสตร์นั้นใกล้เคียงกับวิทยาศาสตร์ ดำเนินการตามโปรแกรมที่วางแผนไว้อย่างชัดเจนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ผลลัพธ์จะถูกบันทึกและเปรียบเทียบ การสังเกตในระยะยาวมีข้อดีอย่างมาก ซึ่งสะท้อนถึงสิ่งที่อยู่ในการพัฒนา ด้วยวิธีที่น่าเชื่อถือและวิเคราะห์อย่างยิ่ง

การสังเกตทั้งทางตรงและทางอ้อม เปิดกว้างและซ่อนเร้น การสังเกตโดยตรงจะดำเนินการผ่านการสัมผัสโดยตรงกับวัตถุของนักข่าว การสังเกตทางอ้อมมีความจำเป็นเมื่อวัตถุของการสังเกตอยู่ห่างไกลจากเวลาและสถานที่ และการสังเกตโดยตรงเป็นไปไม่ได้

การสังเกตแบบเปิดจะเหมาะสมเมื่อเตรียมวัสดุที่เป็นบวกเท่านั้น การสังเกตแบบเปิดบังคับให้ฮีโร่ของเนื้อหาแก้ไขพฤติกรรม ลักษณะการทำงาน ฯลฯ นั่นคือมีอุปสรรคทางจิตวิทยาอยู่บ้าง ดังนั้นนักข่าวจึงต้องการเวลาในการ "ทำให้ชิน" กับผู้อื่นต่อหน้าที่ของเขา

การสังเกตแบบแอบแฝงเป็นรูปแบบที่นักข่าวตรวจสอบวัตถุโดยไม่ต้องแจ้งเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของการสังเกต ศึกษาพฤติกรรมของผู้คนในสภาวะปกติ แก้ไขความสัมพันธ์ที่มีอยู่ในทีม ฯลฯ

การสอดแนมแอบแฝงใช้ทั้งในสถานการณ์เหล่านั้นเมื่อนักข่าวเป็นพยานภายนอกของสถานการณ์ และในสถานการณ์ที่เขาเป็นผู้มีส่วนร่วม กรณีที่ 1 - ไม่รวมการควบคุมดูแล กรณีที่ 2 - เปิด

การสังเกตผู้เข้าร่วมจะดำเนินการโดยนักข่าวเมื่อเขามาถึงกลุ่มหรือกลุ่มสังคมใด ๆ ในฐานะผู้เข้าร่วมเต็มรูปแบบในกระบวนการนี้ ความสัมพันธ์ทางสังคมในกลุ่มนี้ การมองจากภายในช่วยให้คุณแก้ไขไม่เพียงแต่อาการภายนอกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสิ่งจูงใจ แรงจูงใจของพฤติกรรมของผู้คนด้วย

การทดลองที่โดดเด่นจากการสังเกตหลายประเภทคือการทดลอง นี่คือการสังเกตที่เตรียมไว้ซึ่งมีคุณสมบัติใหม่ สาระสำคัญของการทดลองคือการที่นักข่าวสร้างสถานการณ์ปลอมขึ้นซึ่งปรากฏการณ์นั้นชัดเจนและแม่นยำยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็รับประกันความน่าเชื่อถือสูงสุดของข้อมูล

สัมภาษณ์เป็นวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล

เตรียมความพร้อมและสัมภาษณ์

แหล่งข้อมูลประเภทที่พบมากที่สุดคือมนุษย์ ประการแรก บุคคลมักจะเป็นพยานหรือมีส่วนร่วมในเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง ประการที่สอง เขาเป็นผู้ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองและโลกส่วนตัวของเขา และประการที่สาม ผู้แปลข้อมูลที่ได้รับจากผู้อื่น

ด้วยความช่วยเหลือของการสัมภาษณ์ สามารถรับข้อมูลได้หลากหลาย ประกอบเป็นหลายส่วน กล่าวคือ:

ข้อมูลข้อเท็จจริง

คำอธิบาย

สมมติฐานและการคาดการณ์

คำพูดของคู่สนทนาซึ่งถ่ายทอดลักษณะบุคลิกภาพของเขา

ความสำเร็จหรือความล้มเหลวของงานเกี่ยวข้องกับคุณภาพของการเตรียมผู้สัมภาษณ์: ด้วยการศึกษาหัวข้อ, ความเข้าใจในเป้าหมาย, ความรอบคอบของแผนปฏิบัติการ, ความเฉลียวฉลาดในการตั้งคำถาม

คำถามแบ่งออกเป็นพื้นฐานและเพิ่มเติม ข้อมูลหลักเตรียมไว้ล่วงหน้าเนื่องจากควรนำข้อมูลหลักมาด้วย แต่บ่อยครั้งที่พวกเขาไม่ทำงานเพราะมีอุปสรรคทางจิตวิทยาและสังคมจำนวนหนึ่งที่ขัดขวางการสร้างการติดต่อที่เป็นมิตรระหว่างคู่สนทนา และที่นี่มีคำถามเพิ่มเติมเข้ามาช่วยซึ่งไม่ได้คาดการณ์ไว้ มีการตั้งค่าในขณะที่หัวข้อหลักไม่ทำงานหรือเมื่อหัวข้อเปลี่ยนไปโดยไม่คาดคิด

การจำแนกคำถามตามแบบฟอร์ม:

เปิด. คำถามปลายเปิดจะตั้งชื่อหัวข้อหรือหัวเรื่อง จากนั้นคู่สนทนาจะมีอิสระในการจัดโครงสร้างคำตอบตามดุลยพินิจของเขาเอง คนปิดมักใช้ในสังคมวิทยาสำหรับการสำรวจมวลชน ในคำถามปลายปิด คำตอบที่เป็นไปได้จะถูกฝังอยู่ในคำถาม และผู้ให้สัมภาษณ์ต้องเลือกตำแหน่งที่สอดคล้องกับความคิดเห็นของเขา

ทั้งทางตรงและทางอ้อม ขอแนะนำให้ถามคำถามทางอ้อมเมื่อหัวข้อมีลักษณะ "ละเอียดอ่อน" ซึ่งเกี่ยวข้องกับความคิดเห็นที่ขัดกับบรรทัดฐานทางศีลธรรมหรือจริยธรรมในกลุ่มสังคมใดกลุ่มหนึ่ง ดังนั้น คำถามจะต้องมีโครงสร้างในลักษณะที่เป็นอิสระจากคู่สนทนาจากข้อความที่จัดหมวดหมู่

ส่วนตัวและไม่มีตัวตน แบบฟอร์มคำถามส่วนตัวนำเสนอความคิดเห็นส่วนตัวมากขึ้น รูปแบบที่ไม่มีตัวตนไม่ได้ให้คำตอบเกี่ยวกับมุมมองของตัวเอง แต่เกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้อื่น มันไม่ได้เปิดเผยบุคลิกภาพของคู่สนทนา แต่ความคิดของเขาเกี่ยวกับความเป็นจริงตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ

มีกฎเกณฑ์บางประการที่ต้องปฏิบัติตามเมื่อถามแหล่งข้อมูลใด ๆ

นักข่าวควรมีความรอบรู้ในเรื่องของการสนทนา

เก็บงานไว้ในใจเมื่อเตรียมสัมภาษณ์ หากคุณต้องการทราบข้อเท็จจริง ข้อมูลเฉพาะ ค้นหาตัวเลขสำหรับบันทึก รายงาน บทความ ฯลฯ คำถามแต่ละข้อควรสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงสิ่งนี้

คำถามแต่ละข้อควรพิจารณาเพียงด้านเดียว การถามคำถามสองข้อในคำถามเดียว เท่ากับคุณอนุญาตให้ผู้ถูกสัมภาษณ์ "เลี่ยง" หนึ่งในคำตอบ ทำให้เขามีโอกาสตอบคำถามที่เข้าใจ ง่าย หรือสะดวกที่สุดสำหรับเขาเท่านั้น

คำถามควรถามคำถามในรูปแบบคำถาม ไม่ใช่เพื่อยืนยัน

พยายามถามคำถามปลายเปิด พวกเขาจะช่วยคุณหลีกเลี่ยงคำตอบใช่หรือไม่ใช่พยางค์เดียว

คำถามควรเป็นกลาง

ให้คำถามง่าย

ฟังคำตอบ

เอกสารวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล

ทักษะของนักข่าวสัมพันธ์กับความสามารถในการใช้แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ผู้ให้ข้อมูลดังกล่าวเป็นวิธีการศึกษาความเป็นจริงด้วยความช่วยเหลือของเอกสาร

เอกสารในวารสารศาสตร์คือวัตถุใดๆ ที่สร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการบันทึกข้อมูลที่แสดงด้วยระบบสัญญาณใดๆ เอกสารอาจเป็นจดหมาย เทปบันทึกเสียงหรือวิดีโอ ภาพถ่าย ภาพวาด ความละเอียด บทความจากนิตยสาร ...

การทำงานผ่านเอกสารเป็นวิธีที่ช่วยให้คุณได้รับข้อมูลที่มีลักษณะแตกต่างกันมาก - จากบทบัญญัติพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ไปจนถึงคำสารภาพในไดอารี่ที่ให้แนวคิดของผู้เขียน ด้วยความช่วยเหลือของเอกสาร ข้อมูลที่ได้รับระหว่างการสัมภาษณ์หรือการสังเกตจะได้รับการยืนยัน มันจะกลายเป็นข้อโต้แย้งและข้อพิสูจน์เมื่อนักข่าวต้องการพิสูจน์คดีของเขาในศาล การใช้เอกสารทำให้สิ่งพิมพ์มั่นคงและปลอดภัย นักข่าวมืออาชีพใช้ทุกโอกาสเพื่อจัดหาสำเนาเอกสารที่เขาต้องทำงานให้กับตัวเอง

คุณต้องจินตนาการว่าคุณมีเอกสารประเภทใดบ้าง ในวารสารศาสตร์มีการใช้การจำแนกประเภทของเอกสารดังต่อไปนี้:

โดยวิธีการบันทึกข้อมูล: เอกสารที่เขียนด้วยลายมือ สิ่งพิมพ์ ภาพยนตร์และฟิล์มถ่ายภาพ การบันทึกด้วยแม่เหล็กและดิจิตอล

ตามสถานะเอกสาร: เป็นทางการและไม่เป็นทางการ

ตามระดับความใกล้ชิดกับวัสดุเชิงประจักษ์: ประถมศึกษาและมัธยมศึกษา

โดยวิธีการรับเอกสาร: ตามแบบและเป้าหมายที่กำหนดไว้

ขึ้นอยู่กับลักษณะของเอกสารและวัตถุประสงค์ของนักข่าว มีวิธีการวิเคราะห์ให้เลือก สิ่งเหล่านี้อาจเป็นวิธีการทั่วไป (การเปรียบเทียบ ความเข้าใจ) หรือวิธีพิเศษ (จิตวิทยา สังคมวิทยา นิติวิทยาศาสตร์)

มีหลายวิธีในการตรวจสอบเอกสาร ตามเนื้อผ้าพวกเขาจะแบ่งออกเป็นการประเมินภายนอกและภายใน

การรับรองความถูกต้องของเอกสาร พิจารณาคุณสมบัติภายนอกของเอกสาร - รูปแบบ, ภาษา, สไตล์, การออกเดท กฎที่ใช้ในนิติเวชนำไปใช้กับวารสารศาสตร์เช่นกัน:

หากมีข้อผิดพลาดในเอกสาร

ไม่ว่าสถาบันหรือบุคคลซึ่งได้จัดทำเอกสารนั้นมีอำนาจรับรองข้อมูลที่อยู่ในนั้นหรือไม่

ไม่ว่าสถาบันดังกล่าวจะมีอยู่หรือไม่ ไม่ว่าจะมีการจัดโครงสร้างใหม่หรือที่เรียกกันก่อนหน้านี้ ในเวลาที่มีการร่างเอกสาร

เนื้อหาของเอกสารสอดคล้องกับรูปแบบหรือไม่

ระยะห่างระหว่างข้อความและคำอธิบายภาพผิดปกติหรือไม่?

ถ้าเอกสารมีหลายหน้า มีเลขหน้าทุกหน้า เป็นกระดาษเหมือนกัน ทั้งคุณภาพและสี

ไม่ว่าตราประทับหรือตราประทับจะมองเห็นได้ชัดเจน

การสร้างความจริง ความน่าเชื่อถือ ความจริงของข้อมูลที่มีอยู่ในเอกสาร สิ่งสำคัญคือต้องค้นหา: ผู้เรียบเรียงเอกสารใช้ข้อมูลใดไม่ว่าชื่อเจ้าหน้าที่จะผิดเพี้ยนหรือไม่

ขอแนะนำให้กำหนดวันที่ปรากฏของเอกสารและหมายเลข

นอกจากนี้ จำเป็นต้องแยกความแตกต่างในเอกสารจากการประเมิน เนื่องจากการประเมินเป็นเรื่องส่วนตัวและผู้เขียนอาจสนใจในการตีความของเขาหรือในความเงียบ

การสร้างความจริงของข้อมูลช่วยในการตรวจสอบเอกสารด้วยความช่วยเหลือของเอกสารที่มีอยู่ทั้งหมดเกี่ยวกับปัญหานี้ การวิเคราะห์เปรียบเทียบ

เมื่อทำการสกัดจากเอกสารนักข่าวมืออาชีพมักจะ:

แก้ไขชื่อที่ถูกต้องของเอกสาร ผู้แต่ง วันที่ และสถานที่พิมพ์

คำพูดข้อความที่ตัดตอนมาและระบุหน้า;

ทำเครื่องหมายความคิดและการประเมินของคุณเองที่เกิดขึ้นระหว่างการอ่านด้วยเครื่องหมายพิเศษ

เมื่อทำงานเสร็จแล้ว เขาจะตรวจสอบคำพูด ตำแหน่ง หมายเลข นามสกุล ชื่อ และข้อมูลอื่น ๆ ทั้งหมดเป็นพิเศษ

หัวข้อและงานของห้องปฏิบัติการ

ข้อมูลนักข่าว สัมภาษณ์นักข่าว

วิธีการบันทึกและรวบรวมข้อมูลสำหรับข้อความข้อมูลในอนาคต

เกมธุรกิจ "จากข้อเท็จจริงสู่การได้ยิน"

เทคนิคและวิธีการในการรับข้อมูลเบื้องต้น (ทำงานที่สถานประกอบการ) และแก้ไข

การรวบรวมข้อมูลการปฏิบัติงานภายนอกผู้ฟัง

มาตรฐานจริยธรรมของพฤติกรรมนักข่าวในการติดต่อกับประชาชน

วิธีการตรวจสอบและตรวจสอบข้อมูล บันทึก และข้อเท็จจริง การรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อเตรียมข้อความของข้อความแสดงข้อมูล

การเลือกประเภทการแสดงที่สัมพันธ์กับธรรมชาติของงาน

จัดงานแถลงข่าวต่อผู้ชมในหัวข้อเฉพาะ

การจัดและจัดตั้งบริการนักข่าวในหนังสือพิมพ์ประเภทต่างๆ

การแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์ของนักข่าว

คำอธิบายเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขข้อมูล

คำถามทดสอบ

แนวคิดข้อมูลข่าวสาร

ประเภทของข้อมูลข่าวสาร

ข้อกำหนดสำหรับข้อมูลข่าวสาร

ลักษณะเฉพาะของการรายงาน

ข้อเท็จจริงและข้อกำหนดสำหรับข่าว

แหล่งข้อมูลประเภทหลัก

การสังเกตเป็นวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล

ประเภทการสังเกต

สัมภาษณ์เป็นวิธีการเก็บข้อมูล

กฎการสัมภาษณ์

การจำแนกคำถาม

เอกสารวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล

การจำแนกประเภทของเอกสาร

การสร้างความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของเอกสาร

ทดลองเป็นวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล

ทดสอบการควบคุม

คำแถลงของประธานาธิบดีรัสเซียอ้างถึงข้อมูลประเภทใด:

ขับเคลื่อนด้วยเหตุการณ์

ล่าม

พื้นฐาน

ข้อมูลทั้งหมดที่หมุนเวียนในสังคมคือ:

ข้อมูลจริง

ข้อมูลที่เป็นไปได้

การประกาศการครบรอบปีที่จะมาถึงของบางสิ่งบางอย่างสามารถจัดประเภทเป็น:

ข่าวด่วน

ปฏิทิน

เป็นระเบียบ

คุณสมบัติสำคัญของนักข่าวคืออะไร:

เสน่ห์ส่วนตัว

ความรวดเร็ว

การประชุมสั้นๆ ที่นักข่าวทำความคุ้นเคยกับตำแหน่งผู้จัดการประชุมในประเด็นใดประเด็นหนึ่งโดยเฉพาะ ได้แก่

การนำเสนอ

การบรรยายสรุป

คุณจะใช้วิธีใดในการรวบรวมข้อมูลในการอธิบายการเปิดนิทรรศการศิลปะ:

สัมภาษณ์

การสังเกต

บทนำ

ทุกๆ วัน เราทุกคนล้วนมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมใหม่ๆ วารสารศาสตร์มีหน้าที่รับผิดชอบในการส่งข้อมูลนี้ให้กับผู้ชมอย่างสม่ำเสมอ และในความคิดของฉัน การทำงานนี้ทำได้ดี ตอนนี้ เมื่อได้ยินคำว่า "ข้อมูล" - เราเข้าใจ "วารสารศาสตร์" แล้ว แนวคิดทั้งสองนี้แทบจะแยกไม่ออกจากกัน ในเรื่องนี้มีคำว่า "ข้อมูลวารสารศาสตร์" ทั่วไปอยู่คำเดียว

วัตถุประสงค์ของการวิจัยของเราคือข้อมูลข่าวสาร หัวเรื่องคือหน้าที่ของข้อมูลข่าวสาร

เป้าหมายคือการระบุหน้าที่ของข้อมูลข่าวสาร

1. ให้คำจำกัดความของแนวคิดเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสาร

2. ระบุหน้าที่ของข้อมูลข่าวสาร

3. วิเคราะห์หน้าที่ของข้อมูลข่าวสาร

โครงสร้างของหลักสูตรการศึกษา: ประกอบด้วยคำนำ ส่วนทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ข้อสรุปและการประยุกต์ใช้

ในระหว่างการวิจัย เราได้วิเคราะห์นิตยสาร Expert เนื่องจากนี่เป็นสิ่งพิมพ์ทางธุรกิจที่จริงจัง และ Ogonyok เป็นหนึ่งในนิตยสารระดับประเทศที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในช่วงครึ่งปี 2550 ในแต่ละฉบับของนิตยสารทั้งสองฉบับ เราได้ติดตามหัวข้อ "วัฒนธรรม": "ผู้เชี่ยวชาญ" ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายนและ "Ogonyok" ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงธันวาคม

ผู้เขียนหลักซึ่งผลงานและความคิดเห็นที่เราไว้วางใจตลอดหลักสูตรคือ: หนังสือเรียนของศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยแห่งรัฐมอสโก E.P. Prokhorov "ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับทฤษฎีวารสารศาสตร์", S.G. Korkonosenko "พื้นฐานของวารสารศาสตร์", VL Tsvik "ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับวารสารศาสตร์"

บทบาทของข้อมูลข่าวสาร

วารสารศาสตร์ทำงานอย่างไร

การสร้างการติดต่อกับผู้ชม มีอิทธิพลต่อมัน การปรับทิศทางในประเด็นบางอย่างของชีวิตสาธารณะ ความบันเทิง การแจ้งข่าวสาร การสร้างจิตสำนึกของมวลชน ทั้งหมดนี้เป็นหน้าที่ของวารสารศาสตร์สมัยใหม่ แล้วแนวคิดของฟังก์ชันเองคืออะไรกันแน่?

ฟังก์ชั่น (จาก Lat. "Functio" - หน้าที่, วัตถุประสงค์) ของวารสารศาสตร์แสดงให้เห็นถึงจำนวนรวมของหน้าที่และงานที่ดำเนินการโดยมัน กิจกรรมของมนุษย์ล้วนมีเป้าหมาย บุคคลพยายามที่จะได้รับผลลัพธ์จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ "จำเป็นต้องมีแนวคิดเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ต้องการ" สาระสำคัญของวัตถุประสงค์ของข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องคือการเผยแพร่และนำเสนอต่อผู้ชมจำนวนมาก หากไม่เป็นไปตามหน้าที่หลักที่สำคัญที่สุดประการหนึ่ง คุณไม่ควรคิดถึงการใช้งานฟังก์ชันรองด้วยซ้ำ

การเข้าสู่ยุคใหม่ของข้อมูลข่าวสาร ความสนใจและความจำเป็นในการเรียนรู้เพิ่มเติมจึงเพิ่มขึ้น ดังนั้นความสำคัญของสื่อจึงเติบโตขึ้น เอส.จี. Korkonosenko อาศัยลักษณะบทบาททางสังคมเสนอแนวทางอัตนัยต่อระบบการทำงานของวารสารศาสตร์ “ในบรรดาวิชาที่ใช้สื่อเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง สังคม ระบบสังคมคือเรื่องทั่วไป: ในที่นี้ การบูรณาการและการทำงานด้านความรู้ความเข้าใจของวารสารศาสตร์มีความสำคัญ อีกเรื่องหนึ่ง - โครงสร้างทางสังคมในสังคม - การปลุกปั่น การโฆษณาชวนเชื่อ และการจัดองค์กร ประการที่สาม - บุคลิกภาพ - ความพึงพอใจด้านศีลธรรมและจิตใจ สำหรับนักข่าว สื่อมวลชนทำหน้าที่บริการ ความเป็นมืออาชีพและสร้างสรรค์ เมื่อพิจารณาถึงบทบาทที่ข้อมูลข่าวสารทางหนังสือพิมพ์นำมาใช้ในตอนแรก จำเป็นต้องพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ "พื้นที่ของฟังก์ชัน" ทั้งหมดโดยละเอียด นักวิจัยเสนอรายการวิธีการทำงานของวารสารศาสตร์ที่สำคัญในความเห็นของพวกเขา ในวิทยาศาสตร์ของสหภาพโซเวียตที่เรียกว่าฟังก์ชัน triune อธิบายรายละเอียดไว้ในผลงานของ V.I. เลนิน: "หนังสือพิมพ์ไม่ได้เป็นเพียงนักโฆษณาชวนเชื่อกลุ่มและผู้ก่อกวนเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้จัดงานโดยรวมด้วย"

ในทศวรรษที่ 1960 นักสังคมวิทยาบางคนเริ่มแยกแยะความแตกต่างของข้อมูล, การศึกษา, การศึกษา, การกำกับดูแล, การพึ่งพาอาศัยกัน และเมื่อครูของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งกล่าวในการสัมมนาทางวิทยาศาสตร์ว่าอาจารย์ของพวกเขาได้ตัดสินใจที่จะใช้เป็นพื้นฐานเพียงสองหน้าที่ - ข้อมูลและการศึกษา

วีแอล Zwick ปฏิเสธพรรคการเมือง - โซเวียตซึ่งหน้าที่หลักคือ: การโฆษณาชวนเชื่อ, การปลุกปั่นและการจัดระเบียบ ในงานเขียนของเขา เขาเป็นพื้นฐานของทุกหน้าที่ ข้อมูลยู ฟังก์ชันคำว่า "โฆษณาชวนเชื่อ" ถูกแทนที่ด้วย สังคม-การสอนแยกเน้นฟังก์ชั่น การจัดการสังคม, การจัดโดยตรงที่เกิดขึ้นจากองค์กรเพื่อความบันเทิงเผย - สันทนาการ, วัฒนธรรมและการศึกษาไหลจากการพักผ่อนหย่อนใจและ บูรณาการเป็นหน้าที่ที่สำคัญที่สุดที่นักวิจัยหลายคนให้ความสำคัญ

ดังที่เราเห็นในวารสารศาสตร์สมัยใหม่ นักวิจัยแต่ละคนให้แนวคิดเกี่ยวกับหน้าที่ทางสังคมของสื่อแก่โลก ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะ "เข้าหาจากมุมมองของการจัดกลุ่มอย่างเป็นระบบ จากนั้นคำถามจะเกิดขึ้นเกี่ยวกับการเลือกพื้นฐานสำหรับการจำแนกประเภท”

ที่. เราหันไปใช้การจำแนกหน้าที่ที่พบบ่อยที่สุดในผลงานของศาสตราจารย์ E.P. Prokhorov เพราะเขาให้การตีความแนวคิดของแต่ละหน้าที่เข้าใจและแม่นยำที่สุด มันมาจากผลลัพธ์สุดท้ายที่หลากหลาย กลุ่มของหน้าที่ดังต่อไปนี้ได้รับการจัดตั้งขึ้น: อุดมการณ์ วัฒนธรรมและการศึกษา นันทนาการ องค์กรโดยตรง การโฆษณาและการอ้างอิงและการสื่อสาร เราจะพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติมในย่อหน้าถัดไป

คณะอักษรศาสตร์และวารสารศาสตร์

ภาควิชาทฤษฎีวารสารศาสตร์

คู่มือระเบียบวินัยสำหรับวินัย:

เทคนิคการทำงานวารสาร

ลักษณะทั่วไป

ตามหลักสูตรของภาควิชาวารสารศาสตร์ หลักสูตร "เทคนิควารสารศาสตร์" รวมอยู่ในกลุ่มสาขาวิชาวิชาชีพทั่วไปและมีการศึกษาในภาคการศึกษาแรก มีการบรรยาย 12 ชั่วโมง, การศึกษาในห้องปฏิบัติการ 24 ชั่วโมงสำหรับการศึกษาในห้องเรียน)

จุดมุ่งหมายของหลักสูตรคือเพื่อแนะนำนักเรียนให้รู้จักสาขากิจกรรมวารสารศาสตร์ ให้แนวคิดเกี่ยวกับสถานที่และบทบาทของการรายงานเป็นกิจกรรมนักข่าวประเภทพิเศษ สอนเทคนิคการรายงาน ปลูกฝังทักษะการรายงาน

หลักสูตรเทคนิควารสารศาสตร์เป็นพื้นฐานทางเทคโนโลยีสำหรับการศึกษาประเภทวารสารศาสตร์ ให้นักศึกษาได้ทราบถึงแนวทาง วิธีการ ระบบการทำงานของนักข่าวในการรวบรวม ประมวลผล และถ่ายทอดข้อมูลผ่านสื่อต่างๆ แนวคิดต่างๆ เช่น ข้อมูลนักข่าว ประเภทของข้อมูล วิธีการรวบรวมและตรวจสอบข้อมูล แหล่งที่มาของข้อมูลและการจัดหมวดหมู่ควรเป็นผู้เชี่ยวชาญในหลักสูตรภาคทฤษฎีและนำไปปฏิบัติในชั้นเรียนในห้องปฏิบัติการ

หลักสูตรจะจบลงด้วยการทดสอบเมื่อสิ้นสุดภาคการศึกษาแรก โดยจะอนุญาตให้ส่งตัวนักเรียนได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการสำเร็จงานจริงทุกประเภทและงานที่มอบหมายตามแผนหลักสูตร

งานของนักข่าวเชื่อมโยงกับงานที่สำคัญที่สุดของสื่อ - เพื่อให้ครอบคลุมกระบวนการที่สำคัญที่สุดของชีวิตสาธารณะทั้งหมดโดยทันทีซึ่งปรากฏในข้อเท็จจริงและเหตุการณ์

นักข่าวทุกคนต้องมีทักษะในการเป็นนักข่าว ดังนั้น เพื่อที่จะเชี่ยวชาญเทคนิคการทำงานของนักข่าวได้สำเร็จ นักศึกษาจะต้องได้รับความรู้เกี่ยวกับปัญหา: ข้อมูลข่าวสารและประเภทของมัน แหล่งข้อมูล รูปแบบและวิธีการรับรู้ความเป็นจริงโดยนักข่าว หลักการและขั้นตอนของความรู้ความเข้าใจของนักข่าว งาน.

แผนวิทยานิพนธ์ของการบรรยาย

แนวคิดข้อมูลข่าวสาร

เป้าหมายของกิจกรรมข้อมูลใดๆ คือการย้ายจากสถานะของเอนโทรปีเริ่มต้นสูงไปเป็นสถานะเอนโทรปีขั้นต่ำ ข้อมูลช่วยขจัดความไม่แน่นอนช่วยให้บุคคลสร้างแบบจำลองของโลกภายนอกช่วยในการตัดสินใจที่ถูกต้องและนำทางกระบวนการและกฎหมายของความเป็นจริงโดยรอบ

ข้อมูลมีคุณสมบัติบางอย่าง

ประการแรกคือความสามารถของข้อมูลที่จะมีคุณค่าและไร้ประโยชน์ ข้อมูลที่สำคัญที่สุดคือความแปลกใหม่ แต่เราต้องคำนึงว่าข้อมูลใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนจำเป็นต้องมีคุณค่าที่เป็นรูปธรรม แต่ก็ไม่ได้มีคุณค่าสำหรับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลแต่ละคนเสมอไป ดังนั้นเราต้องจำไว้เสมอเกี่ยวกับคุณค่าของข้อมูลซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้คน คุณสมบัติที่สองของข้อมูลคือความซ้ำซ้อน ข้อมูลใหม่อย่างแน่นอนจะต้องมีความเครียดอย่างต่อเนื่อง บุคคลนั้นจะเหนื่อยอย่างรวดเร็ว ดังนั้นนักข่าวมักจะอธิบายเงื่อนไข ดังนั้นข่าวเดียวกันจึงออกอากาศตามความถี่ที่กำหนด

ในทฤษฎีสารสนเทศ มีข้อมูลสองระดับ - ข้อมูลที่เป็นไปได้และข้อมูลจริง ข้อมูลข่าวสารทั้งหมดที่ทำงานในสังคม กล่าวคือ ข้อมูลทางสังคม เป็นข้อมูลที่มีศักยภาพ ข้อมูลจริงคือความสัมพันธ์ระหว่างข้อความกับผู้บริโภค: โดยการเชื่อมต่อกับผู้บริโภคเท่านั้น (ผู้ฟัง ผู้อ่าน ผู้ดู ฯลฯ) ข้อมูลจะกลายเป็นจริง

ข้อกำหนดสำหรับข้อมูลข่าวสาร

ความคิดริเริ่มไม่ใช่ข้อมูลธรรมดา

ความพร้อมใช้งานหรือการถอดรหัสของข้อความ

ความเกี่ยวข้องหรือความเกี่ยวข้องของข้อความ

ประเภทของข้อมูลข่าวสาร:

ข้อมูลเหตุการณ์เป็นข้อเท็จจริง เหตุการณ์ เผยแพร่โดยไม่มีความคิดเห็น

ข้อมูลการตีความคือการวิเคราะห์ ข้อคิดเห็น ข้อสรุปและบทสรุปที่มีอยู่ในสิ่งพิมพ์

ข้อมูลพื้นฐานเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในสารคดี ข้อมูลเชิงทฤษฎีของรัฐ คุณธรรม กฎหมาย ศาสนา และลักษณะอื่นๆ ที่มีนัยสำคัญโดยทั่วไป

นักข่าวทำงานในระบบกิจกรรมนักข่าว

ความแตกต่างที่ทันสมัยของงานวารสารศาสตร์คือความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพจำนวนหนึ่ง ได้แก่ นักข่าว นักวิเคราะห์ นักประชาสัมพันธ์ สำหรับนักข่าว ให้ความสำคัญกับคุณภาพของความคล่องตัวและประสิทธิภาพ ซึ่งรับประกันความสำเร็จภายใต้เงื่อนไขของจังหวะการรวบรวมข้อมูลที่เข้มงวด

วารสารศาสตร์ข่าวสารคือกลุ่มของประเภทที่เน้นการรายงานข้อมูลกิจกรรมการดำเนินงาน

หัวข้อของการทำข่าวคือช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงความเป็นจริง

หัวใจสำคัญของการทำข่าวคือข้อเท็จจริง

ข้อเท็จจริงคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่เหตุการณ์สมมติ เป็นเหตุการณ์ที่มีลักษณะโดดเดี่ยว นี่ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้น แต่มันเกิดขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในกรณีเฉพาะ สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ เมื่อวาน ในสถานที่เฉพาะ

เขามีละครภายใน - การเริ่มต้นการพัฒนาความสมบูรณ์นั่นคือพลวัต

เรื่องราวข่าวสามารถแบ่งคร่าวๆ ได้เป็นสามประเภท: ปฏิทิน ร้อนแรง และจัดระเบียบ

ปฏิทินเกี่ยวข้องกับวันครบรอบของเหตุการณ์บางอย่างกับสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน นี่คือข้อมูลที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า ข่าวร้อนรายงานเหตุการณ์ดราม่าทั้งในและต่างประเทศ - ภัยใหญ่ ภัยธรรมชาติ

- ประเภทของกิจกรรมสร้างสรรค์ของบุคคลโดยที่พื้นฐานของอาชีพคือความเข้าใจในชีวิตการครอบคลุมวัตถุประสงค์ของแง่มุมใด ๆ ของความเป็นจริงความเข้าใจในความหลากหลายของการดำรงอยู่ของมนุษย์ตลอดจนรูปแบบการสื่อสารที่ไม่มีตัวตนเฉพาะ วารสารศาสตร์สะท้อนและกำหนดจิตสำนึกสาธารณะ รับใช้สังคม และเป็นเครื่องมือในการจัดการสังคม วารสารศาสตร์เป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของความก้าวหน้าทางสังคม เพราะหากไม่มีการพัฒนาวารสารศาสตร์ การพัฒนาสังคมรอบด้านก็เป็นไปไม่ได้

ข้อมูลและประเภทของข้อมูล

ข้อมูล - ความต้องการข้อมูลถูกกำหนดโดยบทบาททางสังคม ความรับผิดชอบ และวิถีชีวิตของบุคคล ความสนใจของข้อมูลเกิดขึ้นจากความต้องการ - ความปรารถนาที่จะได้รับข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการเติมเต็มบทบาททางสังคมและงานเฉพาะ

มีคำว่า "ข้อมูล" สามคำในวารสารศาสตร์

ในความหมายที่แคบ คำนี้หมายถึงข้อมูลเหตุการณ์ (ข่าว)

ในความหมายกว้างๆ ข้อมูลคือชุดข้อมูลทั้งหมดที่วารสารศาสตร์นำเสนอต่อผู้ชม (งานใดๆ ที่ตีพิมพ์ในสื่อ ตำแหน่งในแถบหรือในตารางออกอากาศ ลักษณะของหัวข้อข่าวของสิ่งพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ ขนาดตัวอักษร น้ำเสียงของผู้พูด เป็นต้น) ดังนั้น ข้อคิดเห็นจะถูกเพิ่มลงในข้อมูลเหตุการณ์ และข้อมูลอย่างเป็นทางการจะถูกเพิ่มในระดับเนื้อหา

พิเศษ : ข้อมูลถือเป็นความรู้ใหม่

วารสารศาสตร์เกี่ยวข้องกับข้อมูลมวลชน ข้อมูลมวลชน ตรงกันข้ามกับข้อมูลเฉพาะทาง โดยทั่วไปแล้วจะถูกต้องและเปิดเผยต่อสาธารณะ ตอบสนองความต้องการที่สำคัญหลายประการของสังคมสมัยใหม่ สิ่งสำคัญในหมู่พวกเขาคือความต้องการการก่อตัวของจิตสำนึก การมีสติสัมปชัญญะเป็นกลุ่มความคิดของกลุ่มสังคมต่างๆ เกี่ยวกับปรากฏการณ์ของความเป็นจริงโดยรอบที่ส่งผลต่อความสนใจของพวกเขา ความต้องการนี้ได้รับการสนองตอบโดยสิ่งพิมพ์ที่กล่าวถึงประเด็นทั่วไปที่มีลักษณะทางการเมือง เศรษฐกิจ และศีลธรรม หากไม่มีสิ่งนี้ จิตสำนึกมวลจะก่อตัวขึ้นภายใต้อิทธิพลของตำราอื่นๆ: แท็บลอยด์ การทำลายล้าง วารสารศาสตร์หัวรุนแรง

2. ข้อมูลที่เป็นไปได้ เป็นที่ยอมรับ และเป็นจริง

นักข่าวที่รวบรวมและทำความเข้าใจข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นจริง สร้างสรรค์ผลงานของตนเองและแก้ไขข้อความบนสื่อวัสดุบางอย่าง จากนั้นข้อความนี้ซึ่งแก้ไขและรวมเข้ากับคนอื่น ๆ จะถูกส่งไปยังผู้ชม แต่ข้อความนี้ถือเป็นสื่อกลางเท่านั้น ข้อมูลที่เป็นไปได้... เนื่องจากไม่ทราบก่อนพบปะกับผู้ฟังว่าจะได้ผลหรือไม่ ความล้มเหลวในการรับข้อมูลที่มีอยู่ในข้อความจากผู้ชมจะขัดขวางการทำงานที่มีประสิทธิภาพของระบบทั้งหมด หากผู้ชมไม่เข้าใจข้อความ กระบวนการข้อมูลก็จะหยุดชะงักหรือหยุดชะงัก สิ่งที่ผู้ชมรับรู้เรียกว่าข้อมูลที่ได้รับ

การกระทำที่สามคือการประมวลผลข้อมูลที่ได้รับการปรับโครงสร้างจิตสำนึกและพฤติกรรมของผู้ฟังภายใต้อิทธิพลของมัน การสร้างใหม่ในจิตใจของผู้ฟังภายใต้อิทธิพลของข้อมูลที่ได้รับคือ ข้อมูลจริง ดังนั้นเฉพาะสิ่งที่ผู้ชมยอมรับและเข้าใจเท่านั้นคือข้อมูลของตัวเองในข้อความ

ประเภทของข้อมูล

โดยวิธีการรับรู้: ภาพ, การได้ยิน, สัมผัส, การดมกลิ่น, รสชาติ

ตามรูปแบบการนำเสนอ: ข้อความ ตัวเลข กราฟิก เสียง

ตามนัยสำคัญทางสังคม: มวล (ทุกวัน สังคมการเมือง ความงาม) พิเศษ (ตามอาชีพ กิจกรรมทางสังคม งานอดิเรกสมัครเล่น) ส่วนบุคคล (รวมถึงความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ส่วนตัวเฉพาะ ความรู้สึก ปรีชาญาณ การทำนาย และ แผน)

อันเป็นผลมาจากการเรียนรู้เนื้อหาในบทนี้ นักเรียนจะต้อง:

ทราบ

• ประเภทของข้อมูลประเภทต่างๆ
• ข้อมูลเฉพาะเกี่ยวกับประเภทของกิจกรรมของมนุษย์
• ข้อมูลเฉพาะขึ้นอยู่กับวิธีการส่งและการรับรู้
• ลักษณะเฉพาะของการรับรู้ข้อมูลภาพ
• ลักษณะเฉพาะของการรับรู้ข้อมูลทางวาจา

สามารถ

• ใช้คุณสมบัติต่าง ๆ ของข้อมูลในการปฏิบัติด้านวารสารศาสตร์
• ใช้ในการปฏิบัติงานด้านวารสารศาสตร์ ประโยชน์ของข้อมูลประเภทหนึ่งเหนือสิ่งอื่นใด
• คำนึงถึงความแตกต่างในการรับรู้ของผู้ชมต่อข้อมูลประเภทต่างๆ
• เพื่อเชื่อมโยงข้อดีของการสื่อสารของข้อมูลประเภทต่างๆ ในกระบวนการสื่อสารเข้าด้วยกัน

เป็นเจ้าของ

• ทักษะการใช้ข้อมูลประเภทต่างๆ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและความต้องการของผู้ฟัง
• เทคนิคที่เน้นข้อดีของข้อมูลประเภทหนึ่งมากกว่าข้อมูลประเภทอื่น

คำสำคัญ: ประเภทของข้อมูล: วาจา, การมองเห็น; ช่องสัญญาณ; ข้อมูลภาพและเสียง สื่อ; ห้องบรรยาย; ช่องทางการรับรู้

มาดูการพิจารณาประเภทข้อมูลที่มีอยู่กัน ในทฤษฎีและแนวปฏิบัติของความคิดสร้างสรรค์ด้านวารสารศาสตร์ ปัจจุบันยอมรับตัวเลือกต่อไปนี้สำหรับการจำแนกข้อมูล

ตัวเลือกแรก: ตามวิธีการรับรู้ ดังนั้น ข้อมูลอาจเป็นภาพ การได้ยิน การสัมผัส การดมกลิ่น การรับรส ซึ่งสอดคล้องกับประสาทสัมผัสทั้งห้าของมนุษย์ที่เต็มเปี่ยม อย่างไรก็ตาม ขอให้เราสังเกตว่าระบบสื่อสมัยใหม่ส่วนใหญ่ใช้เฉพาะช่องทางการมองเห็นและการได้ยินในการเผยแพร่ข้อมูล การทดลองกับรุ่นเคลือบเงาที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพกระดาษและจัดหานิตยสารแฟชั่นบางฉบับที่มีน้ำหอมทดลองขวดขนาดเล็กไม่นับรวม

ตัวเลือกที่สอง: ตามรูปแบบการนำเสนอ สามารถเผยแพร่ข้อมูลภายนอกได้ในรูปแบบข้อความ ตัวเลข ภาพกราฟิก (รูปภาพ แผนภาพ แผนที่) เสียงดนตรี นอกจากนี้ยังสามารถใช้ข้อมูลที่รวมกันเพื่อการสื่อสารได้

ตัวเลือกที่สาม: ตามความสำคัญสาธารณะ จากนั้นจึงเป็นไปได้ที่จะกำหนดลักษณะข้อมูลตามแนวคิดที่มั่นคง: "มวล", "ทุกวัน", "สังคมการเมือง", "สุนทรียศาสตร์", "พิเศษ" (วิทยาศาสตร์, เทคนิค, การจัดการ, การผลิต)

พิจารณาตัวเลือกแรกสำหรับการจำแนกข้อมูล มาให้ความสนใจกับคุณลักษณะที่แสดงถึงข้อมูลสองประเภท (การได้ยินและการมองเห็น) ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักในกิจกรรมของสื่อและการปฏิบัติด้านวารสารศาสตร์ เกี่ยวข้องกับวิธีการรับรู้และด้วยเหตุนี้ วิธีการรวบรวม ประมวลผล และเตรียมข้อมูลเบื้องต้นอย่างเพียงพอ ให้สังเกตทันทีว่ามีข้อมูลประเภทที่ 3 แบบลูกผสมตามวิธีการรับรู้ ในทางทฤษฎี เป็นเรื่องปกติที่จะเรียกว่า "โสตทัศนูปกรณ์" ในอดีตเขาเป็นคนที่กลายเป็นข้อมูลประเภทแรกเพราะแม้ในขณะที่อ่านหนังสือพิมพ์หรือหน้านิตยสารผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่งตรวจสอบข้อความ (ดังหรือเงียบ) ที่เขาเห็นด้วยตาของตัวเอง ในที่นี้ เราสามารถพูดเกี่ยวกับลักษณะภาพและเสียงที่แฝงอยู่ของข้อมูลที่นำเสนอในสื่อสิ่งพิมพ์ได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เด่นชัดที่สุดคือลักษณะการมองเห็นของการรับรู้ข้อความ ภาพกราฟิกและข้อมูลภาพประกอบ

ผู้อ่านรับรู้สื่อสิ่งพิมพ์ เช่นเดียวกับสิ่งที่เขาเห็นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ด้วยความช่วยเหลือจากสายตาของเขาเองเท่านั้น ดังนั้นลักษณะทางภาพทั้งหมดที่มีอยู่ในเรื่องหรือปรากฏการณ์ใด ๆ สามารถใช้โดยนักข่าว (หรือช่างภาพข่าวหรือบรรณาธิการบิลที่ออกแบบหนังสือพิมพ์และนิตยสาร) เพื่อเพิ่มผลกระทบต่อผู้ฟังที่มีศักยภาพเพื่อดึงดูดความสนใจทั้ง เนื้อหาข้อความและรูปภาพประกอบ ภาพวาด ไดอะแกรม อินโฟกราฟิกประเภทอื่นๆ พนักงานที่มีประสบการณ์ของกองบรรณาธิการของสื่อสิ่งพิมพ์ทราบดีว่าแบบอักษรที่แตกต่างกันซึ่งใช้ในการพิมพ์ชื่อบทความและหัวหน้าบทความ มีผลกระทบต่อสาธารณชน

ในทำนองเดียวกัน พวกเขาจะชี้ให้นักข่าวมือใหม่ทราบถึงวิธีที่ดีที่สุดในการวางเนื้อหาบนหน้าหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารในรูปแบบเฉพาะ เช่น ไม่เพียงแต่เนื้อหาของสื่อข่าวเท่านั้นที่มีความสำคัญ แต่ยังรวมถึงการออกแบบด้วย ในกรณีนี้องค์ประกอบของหน้าหนังสือพิมพ์ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลภาพ ผู้อ่านเห็นสิ่งที่อยู่ใน "ห้องใต้ดิน" เช่น ที่ด้านล่างของแถบซึ่งถูกนำออกไปที่ "ห้องใต้หลังคา" เช่น เปิดแถบ ดังนั้น อันที่จริง มีการระบุลำดับความสำคัญที่เสนอต่อสาธารณชนสำหรับการอ่านข้อความนี้หรือข้อความนั้น

ในทำนองเดียวกัน เป็นที่ชัดเจนว่าหากคุณหยิบนิตยสารฉบับหนึ่งขึ้นมา ก่อนอื่นให้ใส่ใจกับการประกาศเนื้อหาที่อยู่บนหน้าปกนั่นคือ คุณต้องเผชิญกับอิทธิพลที่เป็นเป้าหมายของข้อมูลภาพอีกครั้ง ซึ่ง "กระตุ้น" ความสนใจของผู้บริโภคข้อมูลที่มีศักยภาพต่อข้อความในอนาคตที่อยู่ "ภายใน" สิ่งพิมพ์

ภาพถ่ายมีบทบาทอย่างมากในการสร้างภาพข้อมูลซึ่งในสื่อสิ่งพิมพ์สมัยใหม่จากวิธีการแสดงภาพประกอบข้อความใดข้อความหนึ่งได้กลายเป็นองค์ประกอบที่ค่อนข้างใส่ใจในผลกระทบที่ซับซ้อนต่อผู้ชมของสิ่งพิมพ์ทั้งหน้าหรือ ของวัสดุเฉพาะโดยเฉพาะ พอเพียงที่จะระลึกได้ว่ารูปถ่ายใดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาในช่วงเปลี่ยนศตวรรษที่ XX-XXI จัดพิมพ์โดยกองบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ Kommersant โดยทั่วไปแล้วสิ่งเหล่านี้คือภาพถ่ายพอร์ตเทรตของนักธุรกิจรายใหญ่และมีชื่อเสียง ซึ่ง "ถ่าย" ด้วยเลนส์ในช่วงเวลาใกล้ชิดของการบริหารงานของมนุษย์ในแต่ละวัน ซึ่งทำให้ภาพถ่ายดังกล่าวเกือบจะมีลักษณะเป็นการเยาะเย้ย ยิ่งไปกว่านั้น ภาพถ่ายดังกล่าวยังถูกวางไว้บนหน้าแรกของหนังสือพิมพ์ตามธรรมเนียมและมีสื่อการวิเคราะห์ที่ค่อนข้างจริงจังซึ่งอุทิศให้กับธุรกิจของ "ฮีโร่" ของภาพถ่ายที่เผยแพร่ นี่คือวิธีที่แนวความคิดเกี่ยวกับมาตรฐานข้อมูลของเอกสารนี้ซึ่งกำหนดขึ้นในทศวรรษ 1990 ถูกนำมาใช้ในทางปฏิบัติ นักวิจารณ์ภาพยนตร์ Alexander Timofeevsky: "ไม่มีอะไรทำให้เรากังวล แต่ทุกอย่างสนใจเรา" พูดง่ายๆ ก็คือ ภาพถ่ายของคู่แข่งกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้แข่งขันกับเจ้าของหนังสือพิมพ์เสียชื่อเสียงในบางพื้นที่ของการสร้างรายได้ เฉพาะกับการมาถึงของ Alisher Usmanov ในฐานะเจ้าของใหม่ของสำนักพิมพ์ "Kommersant" การปฏิบัตินี้จึงถูกยกเลิก

ฟังก์ชั่นเดียวกันนี้ถูกนำมาใช้ในสื่อสิ่งพิมพ์และภาพประกอบกราฟิก (ไดอะแกรม, ภาพวาด, ไดอะแกรม, ฯลฯ ) ซึ่งในอดีตแนวปฏิบัติด้านนักข่าวในประเทศของศตวรรษที่ XX หายากมาก บ่อยครั้งที่องค์ประกอบกราฟิกดังกล่าวเป็นลักษณะของสิ่งพิมพ์ทางเทคนิคพิเศษ ในสื่อทางสังคมและการเมืองนั้นแทบจะไม่ได้ใช้เลย เนื่องจากพวกเขาถูกมองว่าเป็นสื่อกลางในการให้ข้อมูล ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องสื่อสารให้ผู้ชมฟัง อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของปริมาณ คุณภาพ และความเร็วของการไหลของข้อมูลในช่วงเปลี่ยนผ่านสองศตวรรษทำให้ต้องเปิดใช้งานทรัพยากรของภาพประกอบกราฟิก ซึ่งในบางกรณีช่วยประหยัดพื้นที่พิมพ์ เพิ่มความชัดเจนของภาพประกอบ เพิ่มระดับ ของผลกระทบทางอารมณ์ต่อผู้อ่านที่หยิบหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร ตัวอย่างเช่น เรื่องยาวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนรูเบิลเมื่อเทียบกับดอลลาร์หรือยูโรในปีที่ผ่านมามีกำไรมากกว่าที่จะแทนที่ด้วยไดอะแกรมของการเปลี่ยนแปลงในความผันผวนของสกุลเงินในแผนภาพกราฟิกที่แนวนอน แกน xจะแสดงลักษณะตามลำดับเวลาและแนวตั้ง แกน yสะท้อนความผันผวนเชิงปริมาณในอัตราแลกเปลี่ยนรูเบิลที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินต่างประเทศที่เลือกสำหรับภาพประกอบ

รูปแบบกราฟิกดังกล่าวถูกใช้อย่างแข็งขันโดยสื่อสิ่งพิมพ์ของธุรกิจ (เช่น หนังสือพิมพ์ Vedomosti) รวมถึงหน่วยงานกระจายเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เชี่ยวชาญในข้อมูลทางธุรกิจ (เช่น ช่อง RBC) เป็นที่ชัดเจนว่าแหล่งข้อมูลที่เป็นภาพประกอบดังกล่าวไม่สามารถเป็นที่ต้องการของนักข่าววิทยุได้ อย่างไรก็ตาม หากเราพิจารณาว่าในปัจจุบัน ผู้แพร่ภาพกระจายเสียงกำลังสำรวจพื้นที่เครือข่ายอย่างแข็งขัน ซึ่งพวกเขาสร้างไซต์สนับสนุนของตนเอง ก็อาจกล่าวได้ว่าสื่อเสียงเช่นวิทยุมีโอกาสทางทฤษฎีในการมองเห็นข้อมูลเสียงของตัวเอง สถานีวิทยุหลายแห่งมีความสุขที่จะใช้ (เช่น "Echo of Moscow") เชื่อมต่อกับผลกระทบต่อกลุ่มเป้าหมายของพวกเขาไม่เพียง แต่อินโฟกราฟิกแบบคงที่เท่านั้น แต่ยังมีไฟล์วิดีโอพร้อมการบันทึกการแสดงทางอากาศของผู้นำเสนอและแขกรับเชิญ อากาศของสถานี

จนถึงขณะนี้ เรากำลังพูดถึงเฉพาะข้อมูลภาพนิ่งที่นักข่าวใช้ในกิจกรรมทางวิชาชีพของตน นี่คือกลุ่มย่อยแรกของข้อมูลประเภทนี้ ดังที่เราได้เห็นแล้ว เป็นลักษณะของสื่อสิ่งพิมพ์และทรัพยากรเครือข่าย กลุ่มย่อยที่สอง (ตามเงื่อนไข) ของข้อมูลภาพ การใช้ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในสภาพทางเทคโนโลยีและองค์กรในปัจจุบันคือข้อมูลภาพแบบไดนามิก ซึ่งอาจรวมถึง: โทรทัศน์และวิดีโอฟุตเทจของเหตุการณ์ใดๆ บุคคล เหตุการณ์ เหตุการณ์หรือการกระทำมวลชน ฯลฯ ; ภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกซีรีส์เหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกัน แผนผังแสดงเหตุการณ์ ข้อเท็จจริง เหตุการณ์ การกระทำที่ไม่สามารถหรือไม่มีเวลาให้บันทึกได้

เป็นที่น่าสังเกตและในขณะเดียวกันก็ควรเตือนนักข่าวมือใหม่เกี่ยวกับการขอความช่วยเหลือจากสื่อวิดีโอแบบไดนามิกบ่อยเกินไปซึ่งตอนนี้ยืมมาจากแหล่งที่ไม่เป็นทางการ - แหล่งข้อมูลเครือข่ายต่างๆ โฮมวิดีโอ, การบันทึกเครื่องบันทึกวิดีโอและกล้องเฝ้าระวังวิดีโอภายนอกและภายใน แหล่งที่มาของการเพิ่มคุณค่าวิดีโอนักข่าวโดยไม่สมัครใจที่ได้รับความนิยมดังกล่าวเต็มไปด้วย "ข้อผิดพลาด" หลายประการที่ร้ายแรงต่อชื่อเสียงระดับมืออาชีพและทางธุรกิจของสื่อและพนักงานของพวกเขา ด้านล่างเราจะพูดถึงพวกเขา

สถานการณ์การบรรจบกันของสื่อต่างๆ ในแนวปฏิบัติของสื่อสมัยใหม่ในตอนต้นของศตวรรษนี้ ได้เปลี่ยนจากปัญหาที่เป็นปัญหาไปสู่การปฏิบัติจริง หากอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการรุกและการแพร่กระจายของอินเทอร์เน็ตในประเทศของเราในปี 1990 เนื่องจากมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการใช้เป็นแหล่งเสริมของการสื่อสารและข้อมูล จากนั้นด้วยการเปลี่ยนแปลงของทศวรรษและศตวรรษ บทบาทที่เพิ่มขึ้นของเวิลด์ไวด์เว็บในการทำงานของสื่อจึงชัดเจน เราเห็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของอิทธิพลเชิงลบในความสัมพันธ์ระหว่างโทรทัศน์กับอินเทอร์เน็ต

โทรทัศน์เป็นสื่อกลางในขณะที่อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อข้อมูลการสื่อสารที่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางเป็นระยะ ในสาขาความสนใจทางทฤษฎีของเรา เป็นเพียงตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดจากการปฏิบัติที่ไม่มีตัวตน ซึ่งระบุถึงปัญหาที่กำหนดไว้

สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าวิดีโอทางอินเทอร์เน็ตสามารถมีที่มาทางเทคนิค เทคโนโลยี และสถานการณ์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เป็นเรื่องหนึ่งที่เราเห็นบันทึกจากกล้องวงจรปิดกลางแจ้ง เช่นเดียวกับกรณีการระเบิดที่สถานีรถไฟ Volgograd ในเดือนธันวาคม 2013 และอีกสิ่งหนึ่งคือภาพจำนวนมากที่ได้รับจากโทรศัพท์มือถือระหว่างอุกกาบาตตกที่ Chelyabinsk ในเดือนมีนาคม 2013 แหล่งที่มาของวิดีโอทางอินเทอร์เน็ตที่หลากหลายยังก่อให้เกิดความแปรปรวนในการใช้งานโดยการรวม แก้ไขใหม่ การแทรกแซงที่เหมาะสมโดยตรงใน "ข้อความ" ของภาพวิดีโอ เป็นที่ชัดเจนว่าภาพประกอบวิดีโอประเภทนี้สามารถจำแนกได้ตามพารามิเตอร์ต่อไปนี้: ระยะเวลาในการถ่ายภาพ สถานที่ถ่ายภาพ (ผู้เล่นหรือในอาคาร) การมีหรือไม่มีผู้คนในเฟรม ความชัดเจนของภาพ การส่องสว่างของวัตถุ กล่าวอีกนัยหนึ่งด้วยความช่วยเหลือของพารามิเตอร์ทั้งหมดที่กำหนดลักษณะของภาพโทรทัศน์ด้วยตัวมันเอง

ด้วยการเติบโตแบบทวีคูณของทั้งจำนวนผู้ใช้เวิลด์ไวด์เว็บและจำนวนข่าวสารและแหล่งข้อมูลที่ใช้ด้วยความช่วยเหลือ ปัญหาจึงปรากฏชัดที่สามารถกำหนดได้ด้วยวิธีเจียระไน: ไม่ใช่กลไกเฉพาะของการบรรจบกันของ อินเทอร์เน็ตที่มีสื่อบางอย่าง (หรือช่องทางการสื่อสาร) ที่สำคัญ แต่เนื้อหาของการสื่อสารนั้นเป็นไปได้เนื่องจากกระบวนการปฏิสัมพันธ์ กล่าวคือ ลำดับความสำคัญไม่ใช่คำถามว่า อย่างไรหัวข้อของกระบวนการดังกล่าวมีปฏิสัมพันธ์และการวิเคราะห์สถานการณ์ของการมีปฏิสัมพันธ์จากตำแหน่งที่พิจารณาว่า อะไรแหล่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต "แพร่ภาพ" ไปยังสื่อมวลชนแบบเดิมๆ ในแง่นี้ สื่อละทิ้งหน้าที่การให้ข้อมูลตามธรรมชาติของตนเอง โดยเปลี่ยนไปใช้การจำลองข้อมูล ข้อเท็จจริง ตัวเลข ความคิดเห็น และข้อความประเภทและประเภทอื่นๆ ที่ได้รับแล้ว จึงปรากฏในรูปแบบของผู้ใช้เว็บ ดังที่นักวิจัยได้กล่าวไว้มากกว่าหนึ่งครั้ง: "ผู้ใช้เวิลด์ไวด์เว็บทุกคนสามารถแบ่งออกเป็นสองค่ายตามเงื่อนไข: การสร้าง, การดูดซับ" แน่นอน ในสถานการณ์ที่เราสนใจ โทรทัศน์เป็นหัวข้อที่ดึงดูดข้อมูลวิดีโอเพื่อแปลงเป็นรูปแบบการจัดส่งทางอากาศที่ผู้ชมคุ้นเคย อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้เต็มไปด้วยลักษณะรองของภาพประกอบวิดีโอที่ออกอากาศทางอากาศ

มีการจำลองเสมือนสองเท่าของความเป็นจริงเชิงประจักษ์ ในขั้นต้น ภาพสะท้อนของวิดีโอได้รับบนอินเทอร์เน็ต จากนั้นจึงทำซ้ำในเนื้อหาทางโทรทัศน์ อย่างไรก็ตามไม่มีการรับประกันว่าวิดีโอหรือชิ้นส่วนเบื้องต้น โฮมวิดีโอโพสต์บนเว็บจะเป็นที่ต้องการในวงกว้าง ในขณะที่ชิ้นงานที่ถ่ายทำโดยตากล้องเพื่อการแถลงข่าวนั้นเกือบจะรับประกันว่าจะออกอากาศ นอกจากนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดซ้ำในประเด็นต่างๆ (เช่น ตอนเย็นและตอนเช้า) ตัวอย่างเช่น วิดีโอที่มีหัวไม้ของตัวแทนบางส่วนของ "กลุ่มที่ถูกต้อง" (องค์กรถูกห้ามในอาณาเขตของสหพันธรัฐรัสเซีย) ที่รู้จักกันภายใต้ชื่อเล่น "Sashko Bily" ซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่เป็นมืออาชีพในแหล่งกำเนิดและถ่ายทำด้วย ความช่วยเหลือของการบันทึกวิดีโอชั่วคราวหมายถึง เฟรมเหล่านี้แสดงอย่างน้อยมากกว่าสองโหลครั้งในช่องทีวีที่เป็นของสื่อ VGTRK ที่ถือครองสื่อ VGTRK ในช่วงหลายวันในเดือนกุมภาพันธ์ 2014 นอกจากนี้ วิดีโอนี้ใช้เฉพาะในรายการข่าวเท่านั้น ในขณะที่การสาธิตอย่างแข็งขันในเวลาต่อมาของ "วิดีโออันธพาล" ในช่องอื่น ๆ เกิดขึ้นเฉพาะในรายการวิเคราะห์และวารสารศาสตร์เท่านั้น

โทรทัศน์เป็นวงกว้างของการสื่อสารมวลชนในปัจจุบันให้โอกาส เนื่องจากความสามารถทางเทคโนโลยีของตัวเอง ในการคำนวณจำนวนผู้ชมที่เป็นไปได้ที่สามารถดูเรื่องราวที่กำหนดได้

ในเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ มีความเป็นไปได้ของการบัญชีสำหรับตัวชี้วัดเชิงปริมาณด้วย ตัวอย่างเช่น ในรูปแบบการลงทะเบียนบนเว็บไซต์หรือการนับจำนวนการดูวิดีโอของคลิปวิดีโอที่โพสต์ แต่ไม่เหมือนโทรทัศน์ เว็บไม่รับประกันว่ามุมมองเหล่านี้จะเกิดขึ้นพร้อมกัน เป็นลักษณะเฉพาะที่หน่วยวัดคือคำว่า "การดู" ซึ่งบ่งบอกถึงความไม่ต่อเนื่องของกระบวนการทำความคุ้นเคยกับเนื้อหาวิดีโอที่ผู้ใช้สนใจ เราสามารถพูดได้ว่าพวกเขาดูโทรทัศน์ แต่พวกเขาดูเนื้อหาบนเว็บ

ในสถานการณ์ปัจจุบันของอารยธรรมการแสดง เมื่อช่องทางภาพของการเผยแพร่ข้อมูลโดดเด่น ความหลงใหลในเนื้อหาวิดีโอที่ดึงมาจากส่วนลึกของเว็บแทบจะเป็นสากลนั้นสามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจนเป็นพิเศษจากหัวข้อต่างๆ ของการออกอากาศทางโทรทัศน์ เป็นลักษณะเฉพาะที่ไม่เพียงแต่ใช้สื่อวิดีโอเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภาพถ่ายที่โพสต์บนอินเทอร์เน็ตด้วย ทราบประสิทธิภาพของผลกระทบ ยิ่งไปกว่านั้น ภาพถ่ายไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับชีวิตส่วนตัวของบุคคลสาธารณะ (เช่น Anastasia Volochkova) แต่ยังรวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ร้ายแรงด้วย พอเพียงเพื่ออ้างถึงความคิดเห็นของ Wael Ghonim ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตคนหนึ่งที่ใช้โอกาสที่มีอิทธิพลของ WWW เพื่อจัดระเบียบขบวนการประท้วงในอียิปต์ในปี 2010-2011 ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ "Arab Spring" (ในขณะที่ V. Gonim ตัวเองอยู่ในประเทศอื่นนอกอียิปต์) “มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างข้อความที่มีคำขอเร่งด่วนให้ทำบางสิ่ง - V. Gonim วิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการสื่อสารของคำและรูปภาพ และรูปภาพ ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าสามารถทำได้ คนที่กล่าวว่า "ภาพหนึ่งภาพมีค่าหนึ่งพันคำ" รู้ว่าเขากำลังพูดถึงอะไร ... ทุกสิ่งที่บันทึกไว้ด้วยสายตาเป็นหลักฐานที่เสนอให้คนทั้งโลก "

สามารถพูดได้เช่นเดียวกันเกี่ยวกับเฟรมวิดีโอที่โพสต์บนเว็บแล้วทำซ้ำ (แน่นอนด้วยการสูญเสียคุณภาพของภาพ) ทางอากาศ กลายเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาที่ถูกกฎหมายและแจกจ่ายเพียงฝ่ายเดียว มีคำพังเพยที่รู้จักกันดีของนักประวัติศาสตร์ชาวอเมริกัน แดเนียล เบอร์สติน: "ไม่มีสิ่งใดมีอยู่จริงจนกว่าจะแสดงบนทีวี" ในบริบทของความต้องการทางสังคมแบบเฉียบพลันในปัจจุบันสำหรับความบันเทิงของสื่อทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น มันได้รับลักษณะของสโลแกนของช่วงเวลาปัจจุบันในการพัฒนาระบบสื่อและประการแรกสื่อเหล่านั้นที่อยู่ในภววิทยาของพวกเขา อาศัยช่องทางการเผยแพร่ภาพของเนื้อหาที่พวกเขาสร้างขึ้น

อินเทอร์เน็ตถูกประดิษฐ์ขึ้นแม้ว่าโทรทัศน์จะครอบงำตระกูลสื่อดั้งเดิมอย่างชัดเจน ฟังก์ชันการทำงานของเครือข่ายเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน ตามที่นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า "เวิลด์ไวด์เว็บเป็นแบบโต้ตอบ ส่วนบุคคล ipsoceptric ทันที ปรับขนาดได้ ยืดหยุ่น เชื่อมต่อถึงกัน คุ้มราคา" เรามีความสนใจในคุณสมบัติสองประการในรายการนี้ - ความเป็นศูนย์กลางและความทันที

ในกรณีแรกเป็นที่ชัดเจนว่าอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการเข้าถึงข้อมูลที่มีอยู่ใน เวิลด์ไวด์เว็บในเวลาที่ผู้ใช้ร้องขอพร้อมกับคำขอที่เกี่ยวข้อง และหากเสิร์ชเอ็นจิ้นไม่พบข้อมูลใด ๆ บนเว็บก็เห็นได้ชัดว่าข้อมูลดังกล่าวไม่ได้ถูกโพสต์บนเว็บไซต์หรือไม่ได้รับการระบุว่าเป็นที่ต้องการจากมุมมองที่แน่นอน ดังนั้นจึงไม่รับประกันความพร้อมของข้อมูลที่จำเป็นหรือหลักฐานวิดีโอของเหตุการณ์เฉพาะใดๆ สำหรับนักข่าว (รวมถึงสำหรับผู้ใช้ในความหมายกว้างๆ ของคำ) และไม่สามารถเป็นเช่นนั้นได้

สำหรับความเร็วในการค้นหา ตรวจจับ และที่สำคัญที่สุดคือทำซ้ำข้อมูลที่ค้นพบ รวมทั้งในรูปแบบของภาพถ่ายและวิดีโอ ถือว่าด้อยกว่าวิธีการทำงานตามปกติของนักข่าวกับแหล่งข่าวและข้อมูลอย่างชัดเจน เร็วไม่ได้หมายความว่าจะดี มีคุณภาพสูง และแม่นยำ เครือข่ายไม่สามารถรับประกันความถูกต้องของเนื้อหาวิดีโอที่โพสต์ได้ ประการแรก เนื่องจากการไม่เปิดเผยตัวตนแบบดั้งเดิมของผู้ใช้ทั้งสอง (“การดูดซับ”) และผู้ที่บันทึกเหตุการณ์ของความเป็นจริงโดยรอบในวิดีโอ การจัดเรียงและโพสต์เนื้อหาเหล่านี้บนเว็บ (“สร้าง”) ในกรณีส่วนใหญ่ในรายการข่าวเมื่อใช้วิดีโอที่ยืมมาจากเว็บ จะไม่ระบุผู้เขียน การระบุเวลาและวันที่ของการถ่ายภาพที่แสดงจะทำได้ก็ต่อเมื่อได้รับการบันทึกโดยอัตโนมัติบนจอแสดงผลของกล้องถ่ายวิดีโอ (แม้ว่าตัวเลขเหล่านี้สามารถลบออกจากหน้าจอได้อย่างง่ายดายด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย)

เราไม่สามารถเพิกเฉยต่อปัจจัยของข้อผิดพลาดที่ไม่ได้ตั้งใจที่อาจเกิดขึ้น ข้อมูลที่ผิดเบื้องต้น การโกหกโดยเจตนา เมื่อด้วยความเชื่อถือที่มีอยู่ในแหล่งข้อมูล ฝ่ายหลังชอบความเร็วในการโพสต์ข้อมูลอย่างชัดเจนมากกว่าการตรวจสอบความถูกต้องของการโต้ตอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นและสิ่งที่เกิดขึ้น

เป็นไปได้ในทางทฤษฎีและทางเทคนิคที่จะปฏิเสธข้อมูลหรือเนื้อหาที่เผยแพร่บนเวิลด์ไวด์เว็บ กรณีล่าสุดรายหนึ่งเกี่ยวข้องกับช่อง Dozhd TV ซึ่งเปิดตัวการลงคะแนนเสียงหลายครั้งเกี่ยวกับการล้อมเมืองเลนินกราดเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2014 คำถามเดียวถูกโพสต์บนเว็บไซต์ของช่อง แต่ถูกลบออกจากไซต์เพียงไม่กี่ นาทีต่อมาเนื่องจากความโกรธที่เกิดขึ้นบนเว็บ อย่างไรก็ตาม คราวนี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับการโต้เถียงที่รุนแรงในประเด็นนี้เพื่อพัฒนาในสังคมรัสเซีย

แต่ในทางปฏิบัติ สถานการณ์เช่นนั้นจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น พวกเขาเริ่มต้นในกรณีส่วนใหญ่อย่างท่วมท้นโดยผู้ที่กลายเป็นเป้าหมายของผู้กระทำอุดมการณ์เท่านั้น การขาดความแม่นยำในสถานการณ์เช่นนี้กลายเป็นข้อเสีย ซึ่งเป็นด้านลบของประสิทธิภาพในการโพสต์วิดีโอ รูปภาพ หรือข้อความบนอินเทอร์เน็ต เป็นที่ชัดเจนว่าคลิปวิดีโอมีความยาวไม่เกินสองสามนาที ความไม่ต่อเนื่องของการรับรู้ซึ่งนำโดยโลกาภิวัตน์ทั่วไปของกระบวนการข้อมูลในโลกสอนให้ผู้ใช้ทำความคุ้นเคยกับข่าวหรือดูวิดีโอในโหมด "โดยย่อ"(ภาษาอังกฤษ - "สั้น", "โดยย่อ")

ความกะทัดรัดซึ่งมาจากแหล่งข้อมูลดั้งเดิมบนอินเทอร์เน็ตกลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการรับรู้ข่าวหรือข้อเท็จจริงที่เพียงพอ เช่นเดียวกับการรับรู้ด้วยภาพว่าเกิดอะไรขึ้นในความเป็นจริง ดังที่นักสื่อสารชาวฝรั่งเศส Dominique Volton ได้กล่าวเชิงเชิงพยากรณ์ว่า "เวลาเป็นศัตรูตัวสำคัญของอินเทอร์เน็ต" ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ในโบรชัวร์โฆษณาที่ส่งเสริมบริการของผู้ให้บริการต่างๆ คำคุณศัพท์ "ความเร็วสูง" มักใช้ถัดจากคำว่า "อินเทอร์เน็ต" เกือบทุกครั้ง ในกรณีนี้ หลักการทำงานของเครือข่ายสามารถกำหนดได้ง่ายมาก: "เร็ว เร็วขึ้น เร็วขึ้นอีก" ความสั้นของเวลาและปริมาณของเนื้อหาวิดีโอที่โพสต์บนเว็บมีส่วนทำให้เกิดเรื่องนี้ในวงกว้าง

การใช้งานของพวกเขาในการปฏิบัติงานของช่องทางทุกประเภททุกประเภทและทุกระดับได้กลายเป็นเรื่องธรรมดาและเป็นนิสัยจนถูกมองว่าเป็นความจริงแบบมืออาชีพ ส่วนใหญ่แล้ว สื่อวิดีโอดังกล่าวแทบไม่ต้องผ่านการประมวลผลหรือตัดต่อใดๆ เราสามารถพูดได้ว่าการทำสำเนานั้นเป็นของจริง ภาพคุณภาพต่ำจะช่วยเพิ่มผลกระทบจากการปรากฏตัวของผู้ชมในเหตุการณ์ที่ถ่ายทำด้วยกล้องโทรศัพท์มือถือ กล้องวงจรปิด หรือเครื่องบันทึกวิดีโอ ในสองกรณีสุดท้าย เรากำลังจัดการกับการปรับทิศทางของฟังก์ชันของวัสดุที่ใช้ แทนที่จะใช้การควบคุมด้วยความช่วยเหลือ พวกเขากลายเป็น "แหล่งข้อมูล" สำหรับการสร้างโครงเรื่องหรือรายงาน บ่งชี้ในแง่นี้คือเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่เกี่ยวข้องกับการระเบิดที่สนามบินมอสโก Domodedovo เมื่อวิดีโอจากกล้องวงจรปิดในห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าสิ้นสุดลงในมือของนักข่าวของหนึ่งในสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลกลางและพวกเขาก็รีบเร่ง เพื่อออกอากาศ นอกจากนี้ การบันทึกเดียวกันนี้ปรากฏในรายการข่าวทั้งหมดที่ออกอากาศทางช่องทีวีอื่นโดยไม่มีข้อยกเว้น ไม่มีใครได้รับข้อมูลวิดีโอสารคดีอื่น ๆ เกี่ยวกับการโจมตีของผู้ก่อการร้าย เป็นสิ่งสำคัญที่นักข่าวต้องปกปิดแหล่งที่มาของการบันทึกอย่างระมัดระวัง แต่ให้เข้าใจผิดว่าพวกเขาได้มาเพื่อเงิน

ความสั้นของวิดีโอดังกล่าว ซึ่งบางครั้งได้รับมาอย่างผิดกฎหมาย ก็ทำให้เกิดความขัดแย้งในการใช้ซ้ำ อันที่จริงจำเป็นต้องแสดง "ภาพ" ทางโทรทัศน์ แม้ว่าจะกินเวลาเพียงไม่กี่วินาทีก็ตาม สถานการณ์นักข่าวมืออาชีพในสถานการณ์เช่นนี้รุนแรงขึ้นด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าลำดับวิดีโอสั้น ๆ ดังกล่าวมักเป็นลำดับเดียวที่มีอยู่ในห้องข่าว และนักข่าวของช่องทีวีนี้หรือช่องนั้นไม่มีเนื้อหาวิดีโอเพิ่มเติม เมื่อถึงเวลานั้นการแสวงหาประโยชน์จากเนื้อหาวิดีโอเดียวกันที่ได้รับจากเว็บก็เริ่มต้นขึ้น ช่องทีวีส่วนใหญ่ออกอากาศกระดานข่าวหลายครั้งในระหว่างวัน ควรพิจารณาการประกาศวิดีโอแบบเดิมๆ เกี่ยวกับข่าวที่สำคัญที่สุด ซึ่งรวมถึงเฟรมวิดีโอ "สั้น" ด้วย อันเป็นผลมาจากการออกอากาศซ้ำๆ กัน ค่าตัดจำหน่ายข่าวและการคิดค่าเสื่อมราคาทางจิตวิทยาจึงเกิดขึ้น ยิ่งมีการแสดงทางโทรทัศน์มากเท่าไร ความหมายและอารมณ์ของพวกเขาก็ก็ยิ่งมีระดับมากขึ้นเท่านั้น ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวิดีโอไม่ได้ถูกมองว่าเป็นหลักฐาน แต่จะเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์ที่มองเห็นได้ ซึ่งเป็นสัญญาณของเหตุการณ์หนึ่งๆ จากตัวอย่างล่าสุดของรัสเซีย เราสามารถเรียกคืนภาพวิดีโอที่ได้รับโดยใช้กล้องวงจรปิดซึ่งบันทึกช่วงเวลาของการระเบิดที่สถานีรถไฟในโวลโกกราด

หลักการที่คล้ายกันของการเล่นสื่อวิดีโอจากเว็บถูกใช้อย่างแข็งขันและถูกใช้เมื่อครอบคลุมเหตุการณ์ในยูเครนที่เกี่ยวข้องกับองค์กรของขบวนการประท้วงใน Maidan Nezalezhnosti ในเคียฟในเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2013 รวมถึงในเดือนมกราคม 2014 จากอินเทอร์เน็ตเล่นบนอากาศเป็นเรื่องง่ายที่จะสังเกตเห็นว่าแผนและมุมการถ่ายภาพเดียวกันมักจะซ้ำกัน การปรากฏตัวบนอากาศในช่วงเวลาสั้น ๆ นั้นน่าทึ่งมาก ตัวอย่างเช่น รายงานเกี่ยวกับการปราบปรามกลุ่ม Euromaidan ครั้งแรกนั้นเต็มไปด้วยช็อตช็อต "กราด" และบทสนทนาฉาวโฉ่ของ V. Klitschko กับตำรวจ ถ่ายบนโทรศัพท์มือถือและโพสต์บนแหล่งข้อมูล Youtubeโดยทั่วไปจะใช้เวลาไม่กี่วินาที ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่เพียงแต่จะระบุตัวบุคคลเหล่านั้นที่อยู่ใน "ขอบเขตการมองเห็น" ของกล้อง "โทรศัพท์มือถือ" ได้ยากเท่านั้น แต่ยังต้องได้ยินสิ่งที่พวกเขากำลังพูดอย่างถูกต้องอีกด้วย กล่าวคือ แทนที่จะเป็นหลักฐานวิดีโอที่ชัดเจนและชัดเจนเกี่ยวกับธรรมชาติและเนื้อหาของสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตก่อน จากนั้นผู้ชมจะได้รับเพียง "ภาพ" ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันทีด้วยภาพบุคคลเชิงสัญลักษณ์ที่คลุมเครือของผู้เล่น เมื่อรู้สึกว่ามีหลักฐานไม่เพียงพอในการบันทึกวิดีโอสั้น ๆ ตัวแทนของฝ่ายค้านยูเครนในการประชุมนานาชาติมิวนิกเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2557 รีบจัดพิมพ์หนังสือเล่มเล็กเป็นภาษาเยอรมัน (!) ซึ่งภาพถ่ายที่เกี่ยวข้องได้รับการคัดเลือกซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นพยานถึงความโหดร้ายของกฎหมาย กองกำลังบังคับใช้ที่แสดงในระหว่างการสลายผู้ประท้วง

เป็นที่ชัดเจนว่าการใช้สื่อวิดีโอจากเว็บดังกล่าวก่อให้เกิดการล่อลวงอย่างจริงจังเพื่อจัดการกับจิตสำนึกของมวลชน เพื่อสร้างความคิดเห็นของสาธารณชน เพื่อกระตุ้นทัศนคติที่สำคัญต่อบุคคลหรือเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง ไม่มีเวลาที่จะเห็นอะไรบนหน้าจอทีวีจริงๆ ผู้ชมมักจะพร้อมที่จะพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาเห็นและตัดสินตัวเองอย่างรุนแรงเกี่ยวกับสาระสำคัญของสิ่งที่เกิดขึ้นในความเป็นจริง เปลี่ยนแปลงสองครั้ง - บนเว็บและบนทีวี

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้วิดีโอทางอินเทอร์เน็ตอย่างแพร่หลายโดยผู้เชี่ยวชาญด้านโทรทัศน์ควรเตือนผู้ปฏิบัติงานด้านวารสารศาสตร์รุ่นใหม่ นอกจากนี้ ในหลายประเทศทางตะวันตก สื่อวิดีโอดังกล่าวจาก WWW ได้รับสถานะของหลักฐานภาพที่เป็นเอกสารแล้ว ในประเทศของเรา แม้จะหลงใหลในแหล่งข้อมูลวิดีโอดังกล่าว แต่ก็ยังมีทัศนคติที่ระมัดระวังต่อเนื้อหาดังกล่าว และวิธีที่จะไม่จำสุภาษิตรัสเซียเรื่องหนึ่งซึ่งประธานาธิบดีโรนัลด์เรแกนของสหรัฐอเมริกาชอบที่จะนำมาใช้ในที่นี้และนอกสถานที่: "เชื่อ แต่ยืนยัน"

อย่างไรก็ตาม ให้เรากลับไปที่การพิจารณาคุณสมบัติที่แท้จริงของข้อมูลภาพแบบไดนามิก ซึ่งนักข่าวยุคใหม่ต้องรับมือ หากเราแปลคำจำกัดความดังกล่าวจากภาษาเชิงทฤษฎีไปสู่ระดับที่ใช้งานได้จริงมากขึ้น เราจะเข้าใจว่าเรากำลังพูดถึงภาพเคลื่อนไหว อย่างไรก็ตาม สามารถถ่ายทอดไปยังผู้ชมจำนวนมากโดยใช้อุปกรณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่การสื่อสารผ่านเครือข่าย ไปจนถึงโทรทัศน์และภาพยนตร์ ข้อมูลภาพแบบไดนามิกดังกล่าวสามารถทำซ้ำได้จากหน้าจอพลาสมาขนาดใหญ่ในเมืองใหญ่ หรือสามารถถ่ายทอดจากหน้าจอขนาดเล็กที่ติดตั้งในที่สาธารณะ ส่วนใหญ่แล้ว ช่องทางการแจกจ่ายข้อมูลภาพดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการโฆษณา การก่อกวน และการโฆษณาชวนเชื่อ และมีความสัมพันธ์ทางอ้อมกับวิชาชีพนักข่าวเท่านั้น

การถ่ายภาพยนตร์ ตรงกันข้ามกับระยะเริ่มต้นของการพัฒนาตนเอง ปัจจุบันสามารถจัดประเภทเป็นสื่อมวลชนตามเงื่อนไขได้มาก ถ้าก่อนหน้านี้ หน้าที่ของภาพหน้าจอนี้ถูกใช้โดยหนังข่าวและหนังข่าวต่างๆ จากนั้นเมื่อมีการถือกำเนิดขึ้นของโทรทัศน์ และจากอินเทอร์เน็ต กิจกรรมของช่องโสตทัศนูปกรณ์สำหรับการเผยแพร่ข้อมูลก็ลดลงจนเหลือศูนย์ ดังนั้น เมื่อเราพิจารณาข้อมูลภาพแบบไดนามิก เป็นที่แน่ชัดโดยปริยายว่าเรากำลังพูดถึงขอบเขตของการประยุกต์ใช้งานด้านนักข่าวมืออาชีพเช่นโทรทัศน์

• Baranov A.E. จิตวิทยาอินเทอร์เน็ต ม., 2555.ส. 45.
• Persecuted V. Revolution 2.0: นวนิยายสารคดี SPb., 2012.S. 106.
• Kalmykov A.A. , Kokhanova L.A. วารสารศาสตร์ทางอินเทอร์เน็ต: บทช่วยสอน มม. 2548 น. สิบหก
• Volton D. ข้อมูลไม่ได้หมายถึงการสื่อสาร ม., 2554.ส. 14.