โบสถ์ซิมโฟนีแห่งรัฐรัสเซีย โบสถ์ซิมโฟนีแห่งรัสเซีย Valery Polyansky คณะนักร้องประสานเสียง Philharmonic "Yaroslavia" ประวัติมูลนิธิ Svyatoslav Richter

บ้าน / รัก

Ruslan Rozyev

Ruslan Rozyev เป็นศิลปินเดี่ยวของ State Academic Symphony Capella แห่งรัสเซีย

เกิดในปี 1984 ในชาร์ดโจว (เติร์กเมนิสถาน) จบการศึกษาจากแผนกเปียโนของวิทยาลัยดนตรี Belgorod ตั้งชื่อตาม SA Degtyarev (2002 ชั้นเรียนของอาจารย์ LN Girzhanova) เรียนที่ Voronezh State Academy of Arts ที่แผนกร้องเพลงเดี่ยว (2002-2007, ชั้นเรียนของ NN Amelin) หลังจากนั้นเขาไปศึกษาต่อที่ Galina Vishnevskaya Opera Center บนเวทีของศูนย์ เขาเปิดตัวในฐานะมอนเตโรนในโอเปร่า Rigoletto โดย G. Verdi นักร้องยังเข้าร่วมในชั้นเรียนปริญญาโทโดย Sherrill Milns (ภายในกรอบของเทศกาล II ของมาสเตอร์คลาส "Glory to the Maestro") ในปี 2011 เขาได้รับการฝึกฝนที่ Tampa Opera (ฟลอริดาสหรัฐอเมริกา)

Ruslan Rozyev - ผู้ได้รับรางวัล II ของการแข่งขันระดับภูมิภาคของนักร้องหนุ่ม "Orpheus" (Volgograd, 2006) และการแข่งขัน IV International ของศิลปินโอเปร่าของ Galina Vishnevskaya (มอสโก, 2012) ผู้ชนะประกาศนียบัตรสำหรับการเข้าร่วมในงานกาล่าคอนเสิร์ต ของการแสดงนักร้อง XXXV - ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยดนตรีแห่งรัสเซีย (เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, 2550)

ในฤดูกาล 2010/11 - ศิลปินเดี่ยวรับเชิญของ Royal Opera of Wallonia (Liege, เบลเยียม) และ Santander International Festival (สเปน) ในฤดูกาล 2011/12 - ศิลปินเดี่ยวของ Lyon Opera (ฝรั่งเศส) และ Opera เทศกาลใน Aix-en-Provence (ฝรั่งเศส) ในฤดูกาล 2012/13 - ศิลปินเดี่ยวรับเชิญของ Rome Opera (อิตาลี)

ละครของนักร้องรวมถึงบางส่วนในโอเปร่าของ G. Verdi - Sparafucile และ Monterone (Rigoletto), Banco (Macbeth); ส่วนของ Bartolo (การแต่งงานของ Figaro โดย W. A. ​​​​Mozart); หัวหน้าปีศาจ ("เฟาสต์" โดย Ch. Gounod); Escamillo และ Zunigi (Carmen โดย J. Bizet); บทบาทในโอเปร่าโดย P. Tchaikovsky - King Rene และ Bertrand (Iolanta), Gremin, Zaretsky และ Rotny (Eugene Onegin); N. Rimsky-Korsakov - Malyuta Skuratova (เจ้าสาวของซาร์), Ded Moroz (The Snow Maiden), Tsar Saltan (The Tale of Tsar Saltan); D. Shostakovich - Priest ("Katerina Izmailova"), Shvohneva ("ผู้เล่น"); บางส่วนของ Boris Godunov, Varlaam และ Pimen (Boris Godunov โดย M. Musorgsky); Aleko ("Aleko" โดย S. Rachmaninoff); The Inquisitor ("The Fiery Angel" โดย S. Prokofiev); Mr. Gobino ("สื่อ" โดย D. Menotti)

R. Rozyev ได้เข้าร่วมการแสดงโอเปร่าของไชคอฟสกีเรื่อง The Legend of the City of Yelets, the Virgin Mary และ Tamerlane (2011) ด้วยการแสดงของ Symphony Capella แห่งรัสเซียภายใต้การนำของ V. Polyansky นอกจากนี้เขายังร้องเพลงในส่วน: Marquis de Calatrava ใน The Force of Destiny โดย G. Verdi, Prince Nikolai Andreevich Bolkonsky, นายพล Beliard ในสงครามและสันติภาพโดย S. Prokofiev; ส่วนเบสใน Requiems โดย A. Dvořák และ G. Verdi, “Solemn Mass” โดย L. van Beethoven

Ruslan Rozyev ประสบความสำเร็จในการทัวร์รัสเซีย ฝรั่งเศส เบลเยียม สเปน สาธารณรัฐเช็ก ฮังการี ลิทัวเนีย สหรัฐอเมริกา และเม็กซิโก

Maxim Sazhin

Maxim Sazhin เป็นศิลปินเดี่ยวของ State Academic Symphony Capella แห่งรัสเซีย

เกิดในปี 1978 ที่ Kostroma สำเร็จการศึกษาจากคณะแกนนำของมหาวิทยาลัยวัฒนธรรมและศิลปะแห่งรัฐมอสโก (2549 ระดับของ G. I. Mitsenko)

ผู้สมควรได้รับรางวัลการแข่งขันดนตรีโอเพ่นของรัสเซีย III All-Russian ซึ่งตั้งชื่อตาม GV Sviridov (2007, รางวัล II), การแข่งขันระดับนานาชาติครั้งที่สองของนักร้องโอเปร่ารุ่นเยาว์ในความทรงจำของ MD Mikhailov (2011), ผู้ชนะประกาศนียบัตรการแข่งขัน III All-Russian open ของนักร้องโอเปร่า "เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก" (2007) และการแข่งขันเทเนอร์ระดับนานาชาติในความทรงจำของ Luciano Pavarotti (2008)

อาชีพนักดนตรีเริ่มขึ้นในช่วงวัยเรียน เขาเป็นศิลปินเดี่ยวของโรงละครโอเปร่าและบัลเล่ต์แห่งรัฐ E. Sapaev Mari (2547-2551), Galina Vishnevskaya Opera Singing Center (2007-2009) ศิลปินเดี่ยวรับเชิญของ Perm Academic Opera and Ballet Theatre (2011-2012) ตั้งแต่ปี 2008 เขาเป็นศิลปินเดี่ยวของโรงละครดนตรีสำหรับเด็ก N. Sats Moscow State Academic Children's Musical ตั้งแต่ปี 2009 - ศิลปินเดี่ยวรับเชิญของ Russian Opera Theatre

ตั้งแต่ปี 2010 Maxim Sazhin เริ่มร่วมมือกับ State Academic Symphony Capella ของรัสเซียภายใต้การดูแลของ Valery Polyansky สามปีต่อมาเขาก็กลายเป็นศิลปินเดี่ยวของวงดนตรี นักร้องได้มีส่วนร่วมในคอนเสิร์ตและการแสดงโอเปร่าของ Capella หลายครั้งรวมถึงรอบปฐมทัศน์ของโอเปร่า The Legend of the City of Yelets ของ A. Tchaikovsky, Virgin Mary และ Tamerlane ในเมือง Yelets, War and Peace โดย S. Prokofiev และ Voevoda โดย P. Tchaikovsky

ในฐานะศิลปินเดี่ยวรับเชิญ เขาได้แสดงบนเวทีของโรงละครต่างประเทศ - Walloon Royal Opera, Lyon Opera, Opera de Rome มีส่วนร่วมในเทศกาลระดับนานาชาติใน Aix-en-Provence และ Santander

Anastasia Privoznova

Anastasia Privoznova เป็นศิลปินเดี่ยวของ State Academic Symphony Capella แห่งรัสเซีย ดำเนินการโดย Valery Polyansky ในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 เธอแสดงในรายการ Capella ที่อุทิศให้กับการครบรอบ 175 ปีของ P.I. Tchaikovsky ที่เวทีประวัติศาสตร์ของโรงละคร Bolshoi แห่งรัสเซีย

Anastasia Privoznova จบการศึกษาจาก Ural State Conservatory ตั้งชื่อตาม M.P. Mussorgsky (2006 ชั้นเรียนของศาสตราจารย์ V. Yu. Pisarev) ตั้งแต่ปี 2546 ถึง 2549 เธอเป็นศิลปินเดี่ยวของ Nizhne-Tagil Philharmonic เธอร่วมมือกับ Symphony Orchestra ภายใต้การกำกับดูแลของ E. Revinson วง Ryabinka Orchestra ของเครื่องดนตรีพื้นบ้านภายใต้การดูแลของ O. Popov วง Classic Chamber Orchestra ภายใต้การกำกับดูแลของ D. Davydov วงเปียโน Bon ton โรงละคร Old Romance ภายใต้การดูแลของอี. เวอร์นิกอร์

นักร้องได้รับรางวัลการแข่งขันระดับภูมิภาค IV ของนักร้องของเทือกเขาอูราลและไซบีเรีย (Yekaterinburg, 1996), การแข่งขัน III Open All-Russian "Three Centuries of Classical Romance" (เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, 2549), การแข่งขันระดับนานาชาติครั้งที่สองของ Opera Artists G. Vishnevskaya (มอสโก, 2008), การแข่งขันของนักร้องที่ได้รับการตั้งชื่อตาม I. Petrov (มอสโก, 2009) ผู้ชนะกรังปรีซ์ในการแข่งขันระดับนานาชาติ IV "A Trip to the Stars" (มอสโก, 2011)

ตั้งแต่ปี 2549 ถึง พ.ศ. 2551 A. Privoznova ศึกษาที่ Opera Singing Center ภายใต้การดูแลของ G. Vishnevskaya ในฐานะศิลปินเดี่ยวของศูนย์ เธอมีส่วนร่วมในการผลิตโอเปร่า The Tsar's Bride โดย N. Rimsky-Korsakov (Martha), Carmen โดย J. Bizet (Michaela) ในการแสดง phantasmagoria Marriage and Other Horrors (Parasya) ในปี 2549 เธอได้เข้าร่วมทัวร์ Center for Opera Singing ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพื่ออุทิศให้กับวันครบรอบของ Galina Vishnevskaya เธอมีส่วนร่วมในเทศกาลในรัสเซีย บัลแกเรีย เม็กซิโก อาเซอร์ไบจาน ในปี 2010 เธอปรากฏตัวในการผลิตโอเปร่า Boris Godunov ที่ Walloon Royal Opera ใน Liege (เบลเยียม) และในเทศกาลนานาชาติใน Santander (สเปน) เข้าร่วมในการเฉลิมฉลองวันสตรีสากลในเปียงยาง (เกาหลีเหนือ)

ในฐานะศิลปินเดี่ยวรับเชิญของ Russian Opera เธอได้แสดงบท Parasi ในโอเปร่าของ M. Musorgsky Sorochinskaya Yarmarka (2010) เข้าร่วมในโครงการของมอสโกฟิลฮาร์โมนิก

เขาเป็นสมาชิกของคณะลูกขุนของการแข่งขันระดับนานาชาติของเพลงทหาร - ผู้รักชาติ "ทายาทแห่งชัยชนะ" ภายใต้กรอบของเทศกาลนี้เขาได้จัดคอนเสิร์ตการกุศล

เพลงของนักร้องประกอบด้วยส่วนต่อไปนี้: Tatiana (Eugene Onegin โดย P. Tchaikovsky), Iolanta (Iolanta โดย P. Tchaikovsky), Francesca (Francesca da Rimini โดย S. Rachmaninov), Violetta (La Traviata โดย G. Verdi), Mimi ( La Bohème โดย G. Puccini), Margarita (Faust โดย Ch. Gounod); นักร้องเสียงโซปราโนใน W.A. Mozart's Requiem, Stabat Mater โดย J. B. Pergolesi, Stabat Mater โดย F. Poulenc, arias, Romances และเพลงโดยนักประพันธ์ชาวรัสเซียและชาวต่างประเทศ

Vladimir Ovchinnikov

"ใครก็ตามที่เคยได้ยินการแสดงของ Vladimir Ovchinnikov - นักเปียโนที่ละเอียดอ่อนและแสดงออกมากที่สุด - ตระหนักถึงความสมบูรณ์แบบของรูปแบบความบริสุทธิ์และพลังของเสียงที่ทำซ้ำด้วยนิ้วมือและสติปัญญาของเขา" - คำพูดนี้โดย Daily Telegraph สะท้อนให้เห็นเป็นส่วนใหญ่ ความสว่างและความคิดริเริ่มของนักดนตรี - ทายาทของโรงเรียน Neigauz ที่มีชื่อเสียง

Vladimir Ovchinnikov เกิดเมื่อปี 2501 ที่เมืองบัชคีเรีย สำเร็จการศึกษาจาก Central Special School of Music ที่ Moscow Conservatory ชั้นเรียนของ A. D. Artobolevskaya และในปี 1981 - Moscow Conservatory ซึ่งเขาศึกษาภายใต้ Professor A. A. Nasedkin (นักเรียน G. G. Neuhaus)

เขาได้รับรางวัลจากการแข่งขันเปียโนนานาชาติมอนทรีออล (แคนาดา รางวัลที่ 2 ปี 1980) และการแข่งขัน Vercelli International Chamber Ensemble (อิตาลี รางวัลที่ 1 รางวัลที่ 1 ปี 1984) สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือชัยชนะของนักดนตรีในการแข่งขัน International Tchaikovsky Competition ในมอสโก (1982) และการแข่งขันเปียโนระดับนานาชาติในลีดส์ (บริเตนใหญ่, 1987) หลังจากนั้น Ovchinnikov เปิดตัวอย่างมีชัยในลอนดอนซึ่งเขาได้รับเชิญเป็นพิเศษให้เล่น ต่อหน้าสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ

นักเปียโนบรรเลงร่วมกับวงออเคสตราที่ใหญ่ที่สุดในโลกหลายแห่ง รวมถึง Royal Philharmonic Orchestra และ BBC Orchestra (บริเตนใหญ่), วง Royal Royal แห่งสกอตแลนด์, วงดุริยางค์ซิมโฟนีแห่งชิคาโก, มอนทรีออล, ซูริก, โตเกียว, ฮ่องกง, วง ​​Gewandhaus Orchestra (ประเทศเยอรมนี ), วงดุริยางค์วิทยุแห่งชาติโปแลนด์ , The Hague Resident Orchestra, French Radio Orchestra, St. Petersburg Philharmonic Orchestra, Bolshoi Symphony Orchestra และ State Academic Symphony Orchestra ของรัสเซีย

ตัวนำที่มีชื่อเสียงหลายคน ได้แก่ V. Ovchinnikov หุ้นส่วนสร้างสรรค์: V. Ashkenazi, R. Barshai, M. Bamert, D. Brett, A. Vedernikov, V. Weller, V. Gergiev, M. Gorenstein, I. Golovchin, A. Dmitriev, D. Konlon, J. Kraitzberg, A. Lazarev, D. Liss, R. Martynov, L. Pechek, V. Polyansky, V. Ponkin, G. Rozhdestvensky, G. Rinkevicius, E. Svetlanov, Yu. Simonov, S. Skrovashevsky, V. Fedoseev, G. Solti, M. Shostakovich, M. Jansons, N. Yarvi

ศิลปินมีการแสดงเดี่ยวมากมายและทัวร์ในห้องโถงที่ดีที่สุดในโลก ในหมู่พวกเขามีห้องโถงใหญ่ของมอสโก Conservatory และห้องโถงใหญ่ของ St. Petersburg Philharmonic, Carnegie Hall และ Lincoln Center ในนิวยอร์ก, Albert Hall และ Royal Festival Hall ในลอนดอน, Hercules Hall และ Gewandhaus ในเยอรมนี, Musikverein ในเวียนนา, Concertgebouw ในอัมสเตอร์ดัม Suntory Hall ในโตเกียว Théâtre des Champs-Élysées และ Hall Pleyel ในปารีส

นักเปียโนมีส่วนร่วมในเทศกาลระดับนานาชาติที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดขึ้นในประเทศต่างๆ ทั่วโลก: ที่ Carnegie Hall, Hollywood Bowl และ Van Cliburn ใน Fort Worth (สหรัฐอเมริกา); ในเอดินบะระ Cheltenham และ BBC Proms (สหราชอาณาจักร); เทศกาลที่ดิน Schleswig-Holstein (เยอรมนี); ในซินตรา (โปรตุเกส); ในสเตรซา (อิตาลี); ที่งาน Singapore Festival (สิงคโปร์)

หลายครั้ง V. Ovchinnikov บันทึกผลงานของ Tchaikovsky, Taneev, N. Rubinstein, Liszt, Rachmaninov, Prokofiev, Shostakovich, Mussorgsky, Reger, Barber ซึ่งวางจำหน่ายบนฉลาก EMI, Collins Classics, Russian Seasons, Shandos, โกลด์ คลับ โอลิมเปีย

การสอนถือเป็นสถานที่สำคัญในชีวิตของศิลปิน เป็นเวลาหลายปีที่ V. Ovchinnikov ทำงานที่ Royal North College of Music ในบริเตนใหญ่ ตั้งแต่ปีพ. ศ. 2539 เขาเริ่มสอนที่ Moscow Conservatory ตั้งแต่ปี 2544 นักเปียโนก็ทำงานที่ Saku University ในญี่ปุ่นและตั้งแต่ปี 2548 ที่คณะอักษรศาสตร์ Lomonosov Moscow State University ในตำแหน่งศาสตราจารย์เปียโนรับเชิญ ตั้งแต่ปี 2011 ถึงปี 2016 Vladimir Ovchinnikov เป็นหัวหน้าโรงเรียนดนตรีกลางที่มอสโก Conservatory

V. Ovchinnikov แสดงคอนเสิร์ตที่ Moscow Philharmonic มาหลายปีแล้ว เขายังเป็นศิลปินประชาชนของรัสเซีย (2005) เป็นสมาชิกคณะกรรมการของการแข่งขันเปียโนระดับนานาชาติอันทรงเกียรติมากมาย - รวมถึงการแข่งขัน Tchaikovsky ในมอสโก, การแข่งขัน Viana da Motta ในลิสบอน, การแข่งขัน Busoni ในอิตาลี, Scheveningen ในกรุงเฮก, การแข่งขัน PETINA ในโตเกียว ตั้งชื่อตาม AD Artobolevskaya ในมอสโก

Valery Polyansky

Valery Polyansky เป็นนักดนตรีที่มีความสามารถหลากหลายด้าน วัฒนธรรมระดับสูงสุด ความหยั่งรู้ลึก ความสามารถพิเศษในการแสดงของเขาแสดงออกอย่างเท่าเทียมกันทั้งในด้านศิลปะการร้องประสานเสียงและที่คอนโซลของวงซิมโฟนีออร์เคสตรา และการค้นหาเชิงสร้างสรรค์ของเขาได้รับการตระหนักอย่างยอดเยี่ยมในหลากหลายแนวเพลง ไม่ว่าจะเป็นโอเปร่า ผลงานของคณะนักร้องประสานเสียงแคปเปลลา คันตาตาและโอราโตริโอ งานซิมโฟนีงานร่วมสมัย ...

Valery Polyansky เกิดเมื่อปี 2492 ที่กรุงมอสโก อาชีพของเขาถูกกำหนดเร็วมาก: หลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนดนตรี ตอนอายุ 13 เขาได้ดำเนินการคณะนักร้องประสานเสียงแล้ว ตามด้วยการศึกษากับ E. Zvereva หลายปีที่โรงเรียนที่ Moscow Conservatory ซึ่ง V. Polyansky สำเร็จในสามปี ที่ Conservatory แห่งรัฐมอสโก นักดนตรีรุ่นเยาว์ศึกษาพร้อมกันในสองคณะ: คณะนักร้องประสานเสียงและคณะนักร้องประสานเสียง (ชั้นเรียนของศาสตราจารย์บี. คูลิคอฟ) และการแสดงโอเปร่าและการแสดงซิมโฟนี (ชั้นเรียนของ O. Dimitriadi)

ในบัณฑิตวิทยาลัยโชคชะตานำ VK Polyansky ร่วมกับ GN Rozhdestvensky ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อกิจกรรมสร้างสรรค์เพิ่มเติมของผู้ควบคุมวงรุ่นเยาว์

ก้าวที่สำคัญที่สุดในชีวิตของ Valery Polyansky คือปี 1971 เมื่อเขาจัดตั้ง Chamber Choir จากนักเรียนของ Moscow Conservatory และกลายเป็นตัวนำของโรงละคร Moscow Operetta

ในปี 1975 ที่อิตาลี ในการแข่งขันระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุด "Guido d'Arezzo" Valery Polyansky และ Chamber Choir ของเขาได้กลายเป็นผู้ชนะอย่างไม่มีเงื่อนไข เป็นครั้งแรกที่คณะนักร้องประสานเสียงจากรัสเซียได้รับรางวัลเหรียญทองในการเสนอชื่อ "Academic Singing" และยังได้รับรางวัล "Golden Bell" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคณะนักร้องประสานเสียงที่ดีที่สุดของการแข่งขันอีกด้วย Valery Polyansky ได้รับรางวัลพิเศษในฐานะผู้ควบคุมการแข่งขันที่ดีที่สุด จากนั้นชาวอิตาลีก็เขียนเกี่ยวกับนักดนตรีว่า: "นี่เป็นการขับร้องประสานเสียงของ Karajan อย่างแท้จริง โดยมีการแสดงดนตรีที่สดใสและยืดหยุ่นเป็นพิเศษ"

ในปี 1977 V. Polyansky โดยไม่ต้องออกจากคณะนักร้องประสานเสียงกลายเป็นผู้ควบคุมวงโรงละคร Bolshoi แห่งสหภาพโซเวียตที่ซึ่งเหนือสิ่งอื่นใดเขามีส่วนร่วมกับ G. Rozhdestvensky ในการผลิตโอเปร่าของ Shostakovich "Katerina Izmailova" และเป็นผู้นำการแสดงอื่นๆ

ในปีเดียวกันนั้นเอง ความร่วมมือกับสหภาพนักแต่งเพลงเริ่มต้นขึ้น: Valery Polyansky กล้าพัฒนาคะแนนใหม่อย่างกล้าหาญกลายเป็นผู้มีส่วนร่วมประจำในเทศกาลดนตรีร่วมสมัยในมอสโกในฤดูใบไม้ร่วง คีตกวีชาวรัสเซียที่ดีที่สุด - N. Sidelnikov, E. Denisov, A. Schnittke, S. Gubaidulina, D. Krivitsky, A. Vieru - อุทิศงานให้กับเขา “... จำเป็นที่งานในสมัยของเราจะต้องดี เราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยสีสันทางอารมณ์ อารมณ์ ประสบการณ์ การเผชิญหน้าของกิเลสตัณหา ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นไม่ทางใดก็ทางหนึ่งในคลังเพลงระดับโลกที่ร่ำรวยที่สุดทุกอย่างควรถูกนำเสนอบนเวทีคอนเสิร์ตสมัยใหม่ เป็นหน้าที่ของเราในการสนับสนุนนักประพันธ์เพลงร่วมสมัย” ผู้ควบคุมวงกล่าว

หัวหน้าคณะนักร้องประสานเสียงแห่งรัฐ Valery Polyansky ร่วมมือกับวงซิมโฟนีออร์เคสตราชั้นนำของรัสเซียและต่างประเทศอย่างมีประสิทธิผล โดยได้แสดงซ้ำๆ กับวงออเคสตราของเบลารุส ไอซ์แลนด์ ฟินแลนด์ เยอรมนี ฮอลแลนด์ สหรัฐอเมริกา ไต้หวัน และตุรกี เขาแสดงโอเปร่าของไชคอฟสกี "Eugene Onegin" ที่โรงละครดนตรีโกเธนเบิร์ก (สวีเดน) เป็นเวลาหลายปีที่เขาเป็นหัวหน้าผู้ควบคุมเทศกาล "Opera Nights" ในโกเธนเบิร์ก

ตั้งแต่ปี 1992 Valery Polyansky ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์และหัวหน้าผู้ควบคุมวง State Academic Symphony Capella แห่งรัสเซีย

วาทยกรได้ทำการบันทึกมากกว่า 100 รายการสำหรับบริษัทบันทึกเสียงชั้นนำทั้งในรัสเซียและต่างประเทศ ในหมู่พวกเขามีผลงานของ Tchaikovsky, Taneyev, Glazunov, Scriabin, Bruckner, Dvorak, Reger, Shimanovsky, Prokofiev, Shostakovich, Schnittke (Schnittke's Eighth Symphony ที่ออกโดย บริษัท Chandos ของอังกฤษในปี 2544 ได้รับการยอมรับว่าเป็นบันทึกที่ดีที่สุดของปี ). ไม่มีใครพูดถึงการบันทึกคอนเสิร์ตประสานเสียงทั้งหมดของนักประพันธ์เพลงชาวรัสเซียชื่อ D. Bortnyansky และการฟื้นคืนชีพของเพลงของ A. Grechaninov ซึ่งแทบไม่เคยแสดงในรัสเซียเลย

วาทยากรยังเป็นหนึ่งในล่ามที่ดีที่สุดของรัคมานินอฟในผลงานของเขา - ซิมโฟนีของผู้แต่งทั้งหมด โอเปร่าทั้งหมดของเขาในการแสดงคอนเสิร์ต งานร้องประสานทั้งหมด Valery Polyansky - ประธาน Rachmaninov Society เป็นหัวหน้าการแข่งขันเปียโนนานาชาติ Rachmaninov

ปัจจุบัน G. Maler ได้รับความสนใจจากผู้ควบคุมวง: เป็นครั้งแรกในรัสเซีย วัฏจักรพิเศษ "กุสตาฟ มาห์เลอร์และเวลาของเขา" ดำเนินการโดยความพยายามของ State Capella ซึ่งจะคงอยู่ต่อไปอีกหลายปี ในปี 2015 เมื่อมีการเฉลิมฉลองกาญจนาภิเษกของไชคอฟสกีอย่างกว้างขวาง V. Polyansky และ the Capella ได้จัดเทศกาล Music for All Seasons ซึ่งสื่อเรียกว่า "ไม่เคยมีมาก่อน" ภายใต้กรอบของเทศกาล ซิมโฟนีทั้งหมดของนักประพันธ์เพลง Nine Spiritual Choirs, “Liturgy of St. John Chrysostom "และโอเปร่า" ราชินีแห่งโพดำ "ในคอนเสิร์ต

ตั้งแต่ปี 2000 ในรายการของ State Capella ความสนใจที่มีต่อประเภทของโอเปร่าในการแสดงคอนเสิร์ตมีความโดดเด่นอย่างชัดเจน จนถึงปัจจุบัน V. Polyansky ดำเนินการประมาณ 30 โอเปร่า เหล่านี้เป็นทั้งคลาสสิกรัสเซีย (Tchaikovsky, Rimsky-Korsakov, Grechaninov) และนักเขียนต่างประเทศโดยเฉพาะ Verdi ซึ่งเกจิได้มอบตั๋วฤดูกาลพิเศษสำหรับหลายฤดูกาลติดต่อกัน ผลงานชิ้นเอกของแวร์ดีที่นำเสนอโดยโบสถ์ ได้แก่ โอเปร่า Louise Miller, Troubadour, Rigoletto, The Force of Destiny, Falstaff, Macbeth และอื่น ๆ ในโอกาสครบรอบ 200 ปีการเกิดของ Verdi บนเวทีประวัติศาสตร์ของโรงละคร Bolshoi V. Polyansky กับ State Capella ได้จัดงานกาล่าคอนเสิร์ต "Viva, Verdi" ซึ่งรวมถึงชิ้นส่วนจาก 13 โอเปร่าและ "บังสุกุล" โดย นักแต่งเพลง. โครงการกลายเป็นที่ต้องการอย่างมากจนซ้ำแล้วซ้ำอีกในการสมัครสมาชิกของมอสโกฟิลฮาร์โมนิกและเมื่อปิดเทศกาลสร้อยคออำพัน (Kaliningrad, 2015)

ผู้ควบคุมวงอยู่ในวิสัยทัศน์ของคะแนนสมัยใหม่อย่างต่อเนื่องเขาได้แสดงรอบปฐมทัศน์ของรัสเซียและโลกหลายครั้งรวมถึง: "Gesualdo" โดย A. Schnittke (2000), "The Last Days of Pushkin" โดย A. Nikolaev (2007 ), "The Legend of the City of Yelets, Virgin Mary และ Tamerlane "โดย A. Tchaikovsky (2011)," Albert และ Giselle "โดย A. Zhurbin (2012), oratorio" The Czar's Affair "โดย A. Tchaikovsky (2013) ).

Valery Polyansky มุ่งมั่นที่จะนำเสนอโอเปร่าในการตีความที่ถูกต้องตามประวัติศาสตร์ ใช้เวอร์ชันของผู้แต่งต้นฉบับ และดึงดูดนักดนตรีจาก State Capella และนักร้องชั้นนำของโรงละครรัสเซียที่มีชื่อเสียงให้นำโอเปร่ามาใช้ในการแสดงคอนเสิร์ต ความร่วมมือกับ Capella ทำให้นักร้องหลายคนได้รู้จักตัวเองอย่างสร้างสรรค์ในโอเปร่าที่ไม่ได้อยู่ในรายการเพลงของโรงละครของพวกเขา ดังนั้นจึงขยายและเพิ่มคุณค่าให้กับละครของพวกเขา Polyansky สามารถรวบรวมทีมงานที่มีความคิดเหมือนกันเพื่อพัฒนารูปแบบดั้งเดิมของเขาในการตีความรูปแบบการแสดงคอนเสิร์ตของโอเปร่า

การมีส่วนร่วมของตัวนำในวัฒนธรรมดนตรีได้รับการยอมรับอย่างสูงจากรางวัลของรัฐ Valery Polyansky - ศิลปินประชาชนของรัสเซีย (1996), ผู้สมควรได้รับรางวัล State Prize of Russia (1994, 2010), ผู้ถือ Order of Merit for the Fatherland, IV degree (2007)

เซอร์เกย์ รัชมานินอฟ

Sergei Vasilievich Rachmaninov (1 เมษายน (20 มีนาคม) 2416 - 28 มีนาคม 2486) - นักแต่งเพลงนักเปียโนและผู้ควบคุมวงชาวรัสเซีย

เขาสังเคราะห์งานของเขาตามหลักการของโรงเรียนการประพันธ์เพลงในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและมอสโก (เช่นเดียวกับประเพณีของดนตรียุโรปตะวันตก) และสร้างรูปแบบดั้งเดิมของเขาเองซึ่งต่อมามีอิทธิพลต่อทั้งดนตรีรัสเซียและโลกของศตวรรษที่ 20

Sergei Vasilievich Rachmaninoff เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2416 ในตระกูลขุนนาง เป็นเวลานานสถานที่เกิดถือเป็นมรดกของพ่อแม่ Oneg ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโนฟโกรอด การศึกษาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเรียกว่าที่ดิน Semyonovo ของเขต Starorussky ของจังหวัด Novgorod (รัสเซีย)

พ่อของนักแต่งเพลง Vasily Arkadievich (1841-1916) มาจากขุนนางของจังหวัด Tambov ประวัติของตระกูลรัคมานินอฟย้อนไปถึงหลานชายของซาร์สตีเฟนมหาราชแห่งมอลโดวา Vasily มีชื่อเล่นว่ารัคมานิน แม่ Lyubov Petrovna (nee Butakova) - ลูกสาวของผู้อำนวยการโรงเรียนนายร้อยนายพล P.I.Butakov ปู่ของนักแต่งเพลง Arkady Alexandrovich เป็นนักดนตรี เรียนเปียโนกับ J. Field และจัดคอนเสิร์ตใน Tambov มอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รักษาความรักและชิ้นส่วนเปียโนในผลงานของเขา รวมถึง "Farewell Gallop in 1869" สำหรับเปียโนสี่มือ Vasily Rachmaninov ก็มีพรสวรรค์ทางดนตรีเช่นกัน แต่เขาเล่นดนตรีในฐานะมือสมัครเล่นเท่านั้น

ความสนใจในดนตรีของ S.V. Rachmaninoff ถูกเปิดเผยในวัยเด็ก แม่ของเขาให้บทเรียนเปียโนครั้งแรกแก่เขา จากนั้นครูสอนดนตรี A.D. Ornatskaya ก็ได้รับเชิญ ด้วยการสนับสนุนของเธอ ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2425 Rachmaninoff เข้าสู่แผนกจูเนียร์ของ St. Petersburg Conservatory ในชั้นเรียนของ V.V. Demyansky การศึกษาที่ St. Petersburg Conservatory แย่ลงเนื่องจาก Rachmaninov มักโดดเรียนดังนั้นในสภาครอบครัวจึงตัดสินใจย้ายเด็กชายไปมอสโคว์และในฤดูใบไม้ร่วงปี 2428 เขาเข้ารับการรักษาในปีที่สามของแผนกจูเนียร์ของมอสโก เรือนกระจกภายใต้ศาสตราจารย์ NS Zverev

Rachmaninov ใช้เวลาหลายปีในโรงเรียนประจำเอกชนชื่อดังของมอสโกชื่อ Nikolai Zverev ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของ Alexander Nikolayevich Scriabin และนักดนตรีชาวรัสเซียที่โดดเด่นอื่น ๆ อีกมากมาย (Alexander Ilyich Ziloti, Konstantin Nikolaevich Igumnov, Arseny Nikolaevich Koreshchenko, Matvey Leontyevich Presman เป็นต้น ). ที่นี่เมื่ออายุได้ 13 ปี Rachmaninov ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับ Pyotr Ilyich Tchaikovsky ซึ่งต่อมามีส่วนสำคัญในชะตากรรมของนักดนตรีหนุ่ม

ในปี พ.ศ. 2431 รัคมานินอฟศึกษาต่อที่แผนกอาวุโสของมอสโกคอนเซอร์วาทอรีในชั้นเรียนของลูกพี่ลูกน้อง A.I. Ziloti และอีกหนึ่งปีต่อมา ภายใต้การแนะนำของ S.I.Taneev และ A.S. Arensky เขาเริ่มศึกษาองค์ประกอบ

เมื่ออายุได้ 19 ปี Rachmaninov จบการศึกษาจาก Conservatory ในฐานะนักเปียโน (ร่วมกับ A.I. Ziloti) และเป็นนักแต่งเพลงที่มีเหรียญทองขนาดใหญ่ เมื่อถึงเวลานั้นโอเปร่าครั้งแรกของเขาปรากฏขึ้น - Aleko (งานประกาศนียบัตร) ตามผลงานของ A. Pushkin เรื่อง The Gypsies, คอนแชร์โตเปียโนเรื่องแรก, เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ, ชิ้นส่วนสำหรับเปียโนรวมถึงโหมโรงในซีชาร์ปไมเนอร์ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นหนึ่งใน ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของรัชมานินอฟ

ตอนอายุ 20 เนื่องจากขาดเงินเขาจึงกลายเป็นครูที่โรงเรียนมอสโก Mariinsky สำหรับผู้หญิงตอนอายุ 24 - ผู้ควบคุมวงของมอสโกรัสเซียส่วนตัวโอเปร่าของ Savva Mamontov ซึ่งเขาทำงานเป็นเวลาหนึ่งฤดูกาล แต่สามารถมีส่วนสำคัญในการพัฒนาโอเปร่ารัสเซีย

รัคมานินอฟเริ่มมีชื่อเสียงในฐานะนักแต่งเพลง นักเปียโน และผู้ควบคุมวง อย่างไรก็ตาม อาชีพที่ประสบความสำเร็จของเขาถูกขัดจังหวะเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2440 โดยการแสดงรอบปฐมทัศน์ของ First Symphony ที่ไม่ประสบความสำเร็จ (นำแสดงโดย A.K. Glazunov) ซึ่งจบลงด้วยความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงทั้งเนื่องจากประสิทธิภาพที่ไม่ดีและส่วนใหญ่เกิดจากธรรมชาติแห่งนวัตกรรมของดนตรี ตามที่ A. V. Ossovsky ขาดประสบการณ์ของ Glazunov ในฐานะหัวหน้าวงออเคสตราในระหว่างการซ้อม เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดอาการป่วยทางประสาทอย่างรุนแรง ในช่วงปี พ.ศ. 2440-2444 Rachmaninov ไม่สามารถเขียนได้และมีเพียงความช่วยเหลือจากจิตแพทย์ที่มีประสบการณ์ Dr. Nikolai Dahl เท่านั้นที่ช่วยเขาให้พ้นจากวิกฤติ

ในปีพ.ศ. 2444 เขาเสร็จสิ้นการเล่นเปียโนคอนแชร์โต้ครั้งที่สอง ซึ่งเป็นการสร้างจุดจบของรัคมานินอฟจากวิกฤตการณ์และในขณะเดียวกันก็เข้าสู่ช่วงต่อไปของความคิดสร้างสรรค์ที่เติบโตเต็มที่ ในไม่ช้าเขาก็ยอมรับคำเชิญให้เข้ารับตำแหน่งผู้ควบคุมวงที่โรงละครมอสโกบอลชอย หลังจากผ่านไปสองฤดูกาล เขาก็เดินทางไปอิตาลี (1906) จากนั้นตั้งรกรากอยู่ในเดรสเดนเป็นเวลาสามปีเพื่ออุทิศตนอย่างเต็มที่ในการแต่งเพลง ในปี 1909 รัคมานินอฟได้จัดทัวร์คอนเสิร์ตครั้งใหญ่ทั่วอเมริกาและแคนาดา โดยแสดงเป็นนักเปียโนและวาทยากร ในปี 1911 S. V. Rachmaninov ขณะอยู่ในเคียฟตามคำร้องขอของเพื่อนและเพื่อนร่วมงานของเขา A. V. Ossovsky ฟังนักร้องหนุ่ม Ksenia Derzhinskaya ชื่นชมความสามารถของเธออย่างเต็มที่ เขามีบทบาทสำคัญในการก่อตัวของอาชีพโอเปร่าของนักร้องชื่อดัง

ไม่นานหลังจากการปฏิวัติในปี 2460 เขาใช้ประโยชน์จากข้อเสนอที่ไม่คาดคิดมาจากสวีเดนเพื่อแสดงในคอนเสิร์ตที่สตอกโฮล์ม และเมื่อปลายปี 2460 ร่วมกับนาตาลียา อเล็กซานดรอฟนา ภรรยาของเขาและลูกสาวของเขา เขาออกจากรัสเซีย ในกลางเดือนมกราคม พ.ศ. 2461 รัคมานินอฟเดินทางผ่านเมืองมัลโมไปยังโคเปนเฮเกน เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เขาได้แสดงเป็นครั้งแรกในโคเปนเฮเกน ซึ่งเขาได้แสดงคอนแชร์โต้ครั้งที่สองกับผู้ควบคุมวง Heeberg จนกระทั่งสิ้นสุดฤดูกาล เขาได้แสดงคอนเสิร์ตซิมโฟนีและแชมเบอร์สิบเอ็ดครั้ง ซึ่งเปิดโอกาสให้เขาชำระหนี้

วันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1918 พร้อมกับครอบครัว แล่นเรือจากนอร์เวย์ไปยังนิวยอร์ก จนกระทั่งปี 1926 เขาไม่ได้เขียนงานสำคัญๆ วิกฤตสร้างสรรค์จึงกินเวลาประมาณ 10 ปี เฉพาะในปี พ.ศ. 2469-2470 เท่านั้น ผลงานใหม่ปรากฏขึ้น: คอนแชร์โต้ที่สี่และเพลงรัสเซียสามเพลง ในช่วงชีวิตของเขาในต่างประเทศ (พ.ศ. 2461-2486) รัชมานินอฟได้สร้างผลงานเพียง 6 ชิ้นซึ่งเป็นความสูงของดนตรีรัสเซียและโลก

เขาเลือกสหรัฐอเมริกาเป็นที่พำนักถาวรของเขา ออกทัวร์อย่างกว้างขวางในอเมริกาและยุโรป และในไม่ช้าก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนักเปียโนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของเขาและเป็นวาทยกรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในปีพ.ศ. 2484 เขาได้ทำงานชิ้นสุดท้ายจนเสร็จ ซึ่งหลายคนยอมรับว่าเป็นการสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา - Symphonic Dances ในช่วงมหาสงครามแห่งความรักชาติ Rachmaninov ได้จัดคอนเสิร์ตหลายครั้งในสหรัฐอเมริกา เงินทั้งหมดที่เขารวบรวมได้มาจากเงินที่เขาส่งไปยังกองทุนกองทัพแดง เขาบริจาคของสะสมจากคอนเสิร์ตครั้งหนึ่งของเขาให้กับ USSR Defense Fund ด้วยคำพูด: “จากหนึ่งในรัสเซีย ความช่วยเหลือที่เป็นไปได้สำหรับชาวรัสเซียในการต่อสู้กับศัตรู ฉันอยากจะเชื่อฉันเชื่อในชัยชนะที่สมบูรณ์ "

ปีสุดท้ายของรัชมานินอฟถูกบดบังด้วยโรคร้ายแรง (มะเร็งปอด) อย่างไรก็ตาม อย่างไรก็ตาม เขายังคงทำกิจกรรมคอนเสิร์ตต่อไป ซึ่งสิ้นสุดลงไม่นานก่อนที่เขาจะเสียชีวิต

ภาพลักษณ์ที่สร้างสรรค์ของรัคมานินอฟในฐานะนักแต่งเพลงมักถูกกำหนดโดยคำว่า "นักประพันธ์เพลงชาวรัสเซียส่วนใหญ่" คำอธิบายสั้น ๆ และไม่สมบูรณ์นี้เป็นการแสดงออกถึงทั้งคุณสมบัติวัตถุประสงค์ของสไตล์ของรัคมานินอฟและสถานที่มรดกของเขาในมุมมองทางประวัติศาสตร์ของดนตรีโลก เป็นผลงานของรัคมานินอฟที่ทำหน้าที่เป็นตัวส่วนการสังเคราะห์ที่รวมและหลอมรวมหลักการสร้างสรรค์ของมอสโก (P. Tchaikovsky) และโรงเรียนเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กให้เป็นสไตล์รัสเซียเดียวและครบถ้วน ชุดรูปแบบ "รัสเซียและชะตากรรมของมัน" ซึ่งเป็นศิลปะทั่วไปของรัสเซียทุกประเภทและทุกประเภทที่พบในงานของ Rachmaninov มีลักษณะเฉพาะและศูนย์รวมที่สมบูรณ์ ในเรื่องนี้ Rachmaninov เป็นทั้งผู้สืบสานประเพณีโอเปร่าโดย Mussorgsky, Rimsky-Korsakov, Tchaikovsky Symphonies และการเชื่อมโยงกันในสายโซ่แห่งประเพณีประจำชาติที่ไม่ขาดสาย (เนื้อหานี้ยังคงดำเนินต่อไปในผลงานของ S. Prokofiev, D. Shostakovich, G. Sviridov, A. Schnittke และอื่น ๆ ) บทบาทพิเศษของรัคมานินอฟในการพัฒนาประเพณีของชาติอธิบายโดยตำแหน่งทางประวัติศาสตร์ของงานของรัคมานินอฟซึ่งเป็นการปฏิวัติรัสเซียร่วมสมัย: มันคือการปฏิวัติซึ่งสะท้อนให้เห็นในศิลปะรัสเซียว่าเป็น "หายนะ" "จุดจบของ โลก” นั่นคือความหมายของธีม "รัสเซียและชะตากรรมของมัน" เสมอ (ดู N. Berdyaev "ต้นกำเนิดและความหมายของลัทธิคอมมิวนิสต์รัสเซีย")

งานของรัคมานินอฟตามลำดับเวลาหมายถึงศิลปะรัสเซียในยุคนั้น ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า "ยุคเงิน" วิธีการสร้างสรรค์หลักของศิลปะในยุคนี้คือสัญลักษณ์ซึ่งเป็นลักษณะที่ปรากฏอย่างชัดเจนในผลงานของรัคมานินอฟ ผลงานของรัคมานินอฟเต็มไปด้วยสัญลักษณ์ที่ซับซ้อน ซึ่งแสดงออกด้วยความช่วยเหลือของสัญลักษณ์-สัญลักษณ์ ซึ่งหลัก ๆ เป็นแรงจูงใจของนักร้องประสานเสียงยุคกลาง Dies Irae แรงจูงใจนี้เป็นสัญลักษณ์ของ Rachmaninov ว่าเป็นภัยพิบัติ "จุดจบของโลก" "การแก้แค้น"

แรงจูงใจของคริสเตียนมีความสำคัญมากในงานของรัคมานินอฟ เนื่องจากรัชมานินอฟเป็นคนเคร่งศาสนาอย่างยิ่ง รัชมานินอฟไม่เพียงแต่มีส่วนสนับสนุนอย่างโดดเด่นในการพัฒนาดนตรีศักดิ์สิทธิ์ของรัสเซีย (พิธีสวดของนักบุญยอห์น ไครซอสตอม, ค.ศ. 1910, การเฝ้ายามตลอดคืน, ค.ศ. 1916) แต่ยังเป็นตัวเป็นตนอีกด้วย แนวคิดและสัญลักษณ์ของคริสเตียนในงานอื่น ๆ ของเขา

งานของรัคมานินอฟแบ่งตามอัตภาพออกเป็นสามหรือสี่ช่วง: ช่วงต้น (พ.ศ. 2432-2440) ที่โตเต็มที่ (บางครั้งแบ่งออกเป็นสองช่วงคือ พ.ศ. 2443-2452 และ พ.ศ. 2453-2460) และช่วงปลาย (พ.ศ. 2461-2484)

สไตล์ของรัคมานินอฟซึ่งเกิดขึ้นจากแนวโรแมนติกตอนปลาย ต่อมาได้มีการวิวัฒนาการที่สำคัญ เช่นเดียวกับผู้ร่วมสมัยของเขา A. Scriabin และ I. Stravinsky Rachmaninov อย่างน้อยสองครั้ง (ประมาณ 1900 และประมาณ 1926) ได้ต่ออายุรูปแบบดนตรีของเขาอย่างรุนแรง สไตล์ที่เป็นผู้ใหญ่และโดยเฉพาะอย่างยิ่งปลายของรัคมานินอฟอยู่ไกลเกินกว่าประเพณีหลังโรแมนติก ("การเอาชนะ" ซึ่งเริ่มขึ้นในช่วงแรก) และในขณะเดียวกันก็ไม่ได้อยู่ในแนวโน้มโวหารของเปรี้ยวจี๊ดทางดนตรีของยุคที่ 20 ศตวรรษ. ดังนั้นงานของรัคมานินอฟจึงโดดเด่นในวิวัฒนาการของดนตรีโลกของศตวรรษที่ 20: หลังจากซึมซับความสำเร็จมากมายของอิมเพรสชั่นนิสม์และเปรี้ยวจี๊ด รูปแบบของรัคมานินอฟยังคงมีความเฉพาะตัวและแปลกประหลาด ไม่มีความคล้ายคลึงในศิลปะโลก ). ดนตรีวิทยาสมัยใหม่มักใช้คู่ขนานกับ L. van Beethoven: เช่นเดียวกับรัคมานินอฟ Beethoven ไปไกลกว่าสไตล์ที่เลี้ยงดูเขา (ในกรณีนี้คือความคลาสสิกแบบเวียนนา) โดยไม่ยึดติดกับความโรแมนติกและมนุษย์ต่างดาวที่เหลืออยู่ในมุมมองที่โรแมนติก ...

ครั้งแรก - ช่วงแรก - เริ่มต้นภายใต้สัญลักษณ์ของแนวโรแมนติกตอนปลายซึ่งหลอมรวมผ่านรูปแบบของ Tchaikovsky เป็นหลัก (First Concerto ชิ้นแรก) อย่างไรก็ตามแล้วใน Trio in D minor (1893) ซึ่งเขียนในปีที่ Tchaikovsky เสียชีวิตและอุทิศให้กับความทรงจำของเขา Rachmaninov ให้ตัวอย่างของการสังเคราะห์เชิงสร้างสรรค์อย่างกล้าหาญของประเพณีแนวโรแมนติก (Tchaikovsky), "Kuchkists", รัสเซียโบราณ ประเพณีของคริสตจักรและดนตรีสมัยใหม่ทุกวันและยิปซี งานนี้ - หนึ่งในตัวอย่างแรกของ polystylists ในดนตรีโลก - เป็นสัญลักษณ์ของความต่อเนื่องของประเพณีจาก Tchaikovsky ถึง Rachmaninov และการเข้าสู่เวทีใหม่ของการพัฒนาดนตรีรัสเซีย ใน First Symphony หลักการของการสังเคราะห์โวหารได้รับการพัฒนาอย่างกล้าหาญยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของความล้มเหลวในรอบปฐมทัศน์

ระยะเวลาของวุฒิภาวะถูกทำเครื่องหมายด้วยการก่อตัวของรูปแบบส่วนบุคคลที่เป็นผู้ใหญ่ตามสัมภาระสูงต่ำของบทสวด znamenny การแต่งเพลงรัสเซียและรูปแบบของแนวโรแมนติกยุโรปตอนปลาย คุณลักษณะเหล่านี้แสดงออกอย่างชัดเจนในเพลง Second Concerto และ Second Symphony อันโด่งดัง ในบทนำของเปียโน op 23. อย่างไรก็ตาม เริ่มต้นด้วยบทกวีไพเราะ "Isle of the Dead" รูปแบบของ Rachmaninov กลายเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากขึ้นซึ่งเกิดจากด้านหนึ่งโดยการอุทธรณ์ไปยังรูปแบบของสัญลักษณ์และความทันสมัยและอื่น ๆ โดยการดำเนินการ ของความสำเร็จของดนตรีสมัยใหม่: อิมเพรสชั่นนิสม์, นีโอคลาสสิก, ออเคสตราใหม่, พื้นผิว, เทคนิคฮาร์โมนิก งานสำคัญของยุคนี้คือกวีนิพนธ์อันยิ่งใหญ่ "The Bells" สำหรับคณะนักร้องประสานเสียง ศิลปินเดี่ยว และวงออเคสตรา จนถึงคำพูดของ Edgar Poe แปลโดย K. Balmont (1913) สร้างสรรค์อย่างสดใส อิ่มตัวด้วยเทคนิคการร้องประสานเสียงและออเคสตราแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน งานนี้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อดนตรีประสานเสียงและไพเราะของศตวรรษที่ 20 ธีมของงานนี้เป็นเรื่องปกติสำหรับศิลปะการแสดงสัญลักษณ์ สำหรับระยะนี้ของศิลปะรัสเซียและงานของรัคมานินอฟ: เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงช่วงเวลาต่างๆ ของชีวิตมนุษย์ที่นำไปสู่ความตายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สัญลักษณ์สันทรายของระฆังซึ่งมีแนวคิดเรื่องจุดจบของโลกน่าจะมีอิทธิพลต่อหน้า "ดนตรี" ของนวนิยายเรื่อง "Doctor Faustus" ของ T. Mann

ช่วงปลายยุคแห่งการสร้างสรรค์ - โดดเด่นด้วยความคิดริเริ่มที่โดดเด่น สไตล์ของรัคมานินอฟประกอบด้วยส่วนผสมที่ลงตัวขององค์ประกอบโวหารที่มีความหลากหลายมากที่สุด บางครั้งก็ตรงกันข้าม: ประเพณีของดนตรีรัสเซีย - และแจ๊ส, เพลงสเนมนีรัสเซียโบราณ - และศิลปะวาไรตี้ "ร้านอาหาร" ของทศวรรษที่ 1930, สไตล์อัจฉริยะของยุคที่ 19 ศตวรรษ - และ toccata ที่รุนแรงของเปรี้ยวจี๊ด ความหลากหลายของสถานที่โวหารมีความหมายทางปรัชญา - ความไร้สาระ, ความโหดร้ายของการอยู่ในโลกสมัยใหม่, การสูญเสียคุณค่าทางจิตวิญญาณ ผลงานของยุคนี้โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ลึกลับ ความหมายซ้อน หวือหวาทางปรัชญาลึก
งานสุดท้ายของรัคมานินอฟคือ Symphonic Dances (1941) รวบรวมคุณลักษณะทั้งหมดเหล่านี้ไว้อย่างชัดเจน หลายชิ้นเมื่อเปรียบเทียบกับนวนิยายเรื่อง The Master และ Margarita ของ M. Bulgakov ที่เสร็จสมบูรณ์ในเวลาเดียวกัน

ความสำคัญของงานนักแต่งเพลงของรัคมานินอฟนั้นยิ่งใหญ่มาก: รัคมานินอฟสังเคราะห์แนวโน้มต่างๆ ของศิลปะรัสเซีย ทิศทางเฉพาะเรื่องและโวหารต่างๆ และรวมไว้ภายใต้ตัวส่วนเดียว - สไตล์ประจำชาติรัสเซีย รัคมานินอฟช่วยเสริมคุณค่าดนตรีรัสเซียด้วยผลงานศิลปะแห่งศตวรรษที่ 20 และเป็นหนึ่งในผู้ที่นำประเพณีของชาติมาสู่เวทีใหม่ รัคมานินอฟ เสริมคุณค่ากองทุนเสียงสูงต่ำของดนตรีรัสเซียและดนตรีโลกด้วยสัมภาระสูงต่ำของเพลงซนามนีของรัสเซียโบราณ Rachmaninov เป็นครั้งแรก (ร่วมกับ Scriabin) นำเพลงเปียโนรัสเซียไปสู่ระดับโลก กลายเป็นหนึ่งในนักประพันธ์เพลงชาวรัสเซียคนแรกที่มีผลงานเปียโนรวมอยู่ในเพลงของนักเปียโนทุกคนในโลก Rachmaninov เป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรกๆ ที่สังเคราะห์ประเพณีคลาสสิกและดนตรีแจ๊ส

ความสำคัญของผลงานการแสดงของรัคมานินอฟนั้นยิ่งใหญ่ไม่น้อย: รัคมานินอฟในฐานะนักเปียโนได้กลายเป็นมาตรฐานสำหรับนักเปียโนหลายรุ่นจากประเทศและโรงเรียนต่าง ๆ เขาได้อนุมัติให้โรงเรียนเปียโนรัสเซียให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกของโลก โดยมีลักษณะเด่นดังนี้: 1 ) ความหมายเชิงลึกของประสิทธิภาพ; 2) ให้ความสนใจกับความร่ำรวยของดนตรี 3) "ร้องเพลงบนเปียโน" - เลียนแบบเสียงร้องและโทนเสียงร้องโดยใช้เปียโน รัคมานินอฟ นักเปียโน ได้ทิ้งงานบันทึกมาตรฐานของงานดนตรีระดับโลกหลายงาน ซึ่งนักดนตรีหลายชั่วอายุคนศึกษา

ซิมโฟนีวิชาการแห่งรัฐคาเปลลาแห่งรัสเซีย

State Academic Symphony Capella แห่งรัสเซียเป็นกลุ่มศิลปินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากกว่า 200 คน มันรวมคณะนักร้องประสานเสียงออเคสตราและนักร้องเดี่ยวที่มีอยู่ในความสามัคคีอินทรีย์รักษาความเป็นอิสระในการสร้างสรรค์บางอย่างในเวลาเดียวกัน

State Capella ก่อตั้งขึ้นในปี 2534 โดยมีการควบรวมกิจการของคณะนักร้องประสานเสียงแห่งสหภาพโซเวียตภายใต้การดูแลของ Valery Polyansky และ State Symphony Orchestra ของกระทรวงวัฒนธรรมล้าหลังนำโดย Gennady Rozhdestvensky

ทั้งสองกลุ่มได้ผ่านเส้นทางสร้างสรรค์อันรุ่งโรจน์ วงออเคสตราก่อตั้งขึ้นในปี 2500 และจนถึงปี 1982 เป็นวงออเคสตราของ All-Union Radio and Television ตั้งแต่ปี 1982 - State Symphony Orchestra ของกระทรวงวัฒนธรรมล้าหลัง หลายครั้งนำโดย S. Samosud, Y. Aranovich และ M. Shostakovich คณะนักร้องประสานเสียงก่อตั้งโดย V. Polyansky ในปี 1971 ตั้งแต่ปี 1980 กลุ่มได้รับสถานะใหม่และกลายเป็นที่รู้จักในนามคณะนักร้องประสานเสียงแห่งรัฐของกระทรวงวัฒนธรรมของสหภาพโซเวียต

ด้วยคณะนักร้องประสานเสียง Valery Polyansky ได้ไปเที่ยวสาธารณรัฐทั้งหมดของสหภาพโซเวียตจึงกลายเป็นผู้ริเริ่มเทศกาลใน Polotsk ซึ่ง Irina Arkhipova, Oleg Yanchenko วงดนตรีเดี่ยวของโรงละคร Bolshoi ล้าหลังเข้ามามีส่วนร่วม ... ในปี 1986 ตามคำเชิญ ของ Svyatoslav Richter, Valery Polyansky และคณะนักร้องประสานเสียงของเขานำเสนอรายการผลงานโดย P. I. Tchaikovsky ในงานเทศกาล "December Evenings" และในปี 1994 - "All-night vigil" โดย S. V. Rachmaninov ในเวลาเดียวกันคณะนักร้องประสานเสียงแห่งรัฐทำให้ตัวเองเป็นที่รู้จักในต่างประเทศโดยแสดงร่วมกับ Valery Polyansky อย่างมีชัยที่ "Singing Wroclaw" (โปแลนด์), Merano และ Spoleto (อิตาลี), Izmir (ตุรกี), Narden (Holland) การมีส่วนร่วมที่น่าจดจำใน "Promenade Concerts" ที่มีชื่อเสียงที่ Albert Hall (บริเตนใหญ่) การแสดงในมหาวิหารประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส - ในบอร์โด, อาเมียง, อัลบี

วันเกิดของ State Capella คือวันที่ 27 ธันวาคม 1991: จากนั้น Cantata "เสื้อแต่งงาน" ของ Antonin Dvořákที่กำกับโดย Gennady Rozhdestvensky ได้แสดงในห้องโถงใหญ่ของ Conservatory ในปี 1992 Valery Polyansky กลายเป็นผู้กำกับศิลป์และหัวหน้าผู้ควบคุมวงของ GASK Russia กิจกรรมของคณะนักร้องประสานเสียงและวงออเคสตราของ Capella ดำเนินการทั้งในการแสดงร่วมกันและแบบคู่ขนาน วงดนตรีและหัวหน้าวาทยกรยินดีต้อนรับแขกที่สถานที่ที่ดีที่สุดในมอสโก สมาชิกประจำของสมาคมมอสโกฟิลฮาร์โมนิกส์, วิทยาลัยดนตรีมอสโก และมอสโกอินเตอร์เนชั่นแนลเฮาส์ออฟมิวสิค แสดงร่วมกับผู้เข้ารอบสุดท้ายของการแข่งขันไชคอฟสกีและรัคมานินอฟระดับนานาชาติ Capella ได้ออกทัวร์อย่างมีชัยในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ อิตาลี เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ละครของกลุ่มขึ้นอยู่กับประเภท cantata-oratorio: ฝูง, oratorios, requiems ของยุคและรูปแบบทั้งหมด - Bach, Handel, Haydn, Mozart, Schubert, Berlioz, Liszt, Verdi, Dvorak, Rachmaninov, Reger, Stravinsky, Britten, Shostakovich, ชนิทเก ... Valery Polyansky ดำเนินวงจรซิมโฟนิก monographic อย่างต่อเนื่องเพื่ออุทิศให้กับ Beethoven, Brahms, Rachmaninov, Maler และนักประพันธ์เพลงที่ยอดเยี่ยมอื่น ๆ

นักแสดงชาวรัสเซียและชาวต่างประเทศหลายคนร่วมมือกับ Capella มิตรภาพที่สร้างสรรค์ที่ใกล้ชิดและยาวนานเป็นพิเศษผูกมัดกลุ่มนี้กับ Gennady Nikolaevich Rozhdestvensky ผู้ซึ่งนำเสนอการสมัครสมาชิก Philharmonic ส่วนตัวกับ State Capella ของรัสเซียเป็นประจำทุกปี

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทีมงานได้พัฒนารูปแบบของตนเองสำหรับการสร้างฤดูกาล ความสุดขั้วมีไว้สำหรับการแสดงในเมืองเล็กๆ ตั้งแต่ปี 2009 Capella ได้จัดเทศกาล September Evenings ในเมือง Tarusa (ร่วมกับมูลนิธิ Svyatoslav Richter) เพื่อแนะนำผลงานชิ้นเอกของดนตรีไพเราะและประสานเสียงแก่ชาว Torzhok, Tver และ Kaluga ในปี 2011 มีการเพิ่ม Yelets ซึ่งมีการแสดงโอเปร่าของ Alexander Tchaikovsky เรื่อง The Legend of the City of Yelets, Virgin Mary และ Tamerlane ที่กำกับโดย Georgy Isahakyan รอบปฐมทัศน์ “ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดมากมายเกี่ยวกับความรักชาติ” V. Polyansky กำหนดจุดยืนของเขา “คนหนุ่มสาวเพียงแค่ต้องได้ยินเพลงนี้ที่สร้างแรงบันดาลใจให้รักบ้านเกิดเมืองนอน มันเป็นอาชญากรรมที่มีเมืองที่ผู้คนไม่เคยได้ยินวงดนตรีซิมโฟนีสดไม่เคยดูการแสดงโอเปร่า เรากำลังพยายามแก้ไขความอยุติธรรมนี้ "

วันที่สำคัญที่สุดของประวัติศาสตร์โลกยังสะท้อนให้เห็นในนโยบายเพลงของ State Capella การแสดงคอนเสิร์ตโอเปร่า War and Peace โดย Prokofiev (ใน Torzhok และ Kaluga) เกิดขึ้นในวันครบรอบ 200 ปีของชัยชนะในสงครามรักชาติปี 1812 มอสโก) และบนเวทีใหม่ของโรงละคร Bolshoi แห่งรัสเซีย M. Glinka's ดำเนินชีวิตเพื่อซาร์

เหตุการณ์สำคัญในปี 2014 คือการแสดงคอนเสิร์ตโดย State Capella ของโอเปร่า "Semyon Kotko" ที่ไม่ค่อยได้เล่นโดย Prokofiev ซึ่งจัดขึ้นที่ New Stage ของโรงละคร Bolshoi และที่โรงละคร Central Academic ของกองทัพรัสเซียและกำหนดเวลาให้ ตรงกับวันครบรอบ 100 ปีการปะทุของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ที่สถานที่เดียวกันกลุ่มได้ฉลองครบรอบ 70 ปีแห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ด้วยการแสดงโอเปร่าของ K. Molchanov เรื่อง "The Dawns Here Are Quiet"

กิจกรรมการท่องเที่ยวของ State Capella นั้นเข้มข้น ทักษะการแสดงที่ยอดเยี่ยมของวงออเคสตราได้รับการปรบมือจากผู้ชมชาวอังกฤษในระหว่างการทัวร์ฤดูใบไม้ร่วงปี 2014 “มีวาทยกรที่คิดว่า Fifth Symphony ของไชคอฟสกีดังเกินไปและแสดงราวกับว่าอยู่บนหม้อแปลงไฟฟ้า แต่ Polyansky และวงออเคสตราของเขายอดเยี่ยมมาก แน่นอนว่าดนตรีของไชคอฟสกีเข้าสู่เนื้อหนังและเลือดของกลุ่มนี้ Polyansky เล่นผลงานชิ้นเอกที่เป็นอมตะนี้ในแบบที่ฉันแน่ใจว่าไชคอฟสกีเองก็อยากฟัง” นักวิจารณ์และนักแต่งเพลงชาวอังกฤษ Robert Matthew-Walker กล่าว

ในปี 2558 คอนเสิร์ตของกลุ่มจัดขึ้นอย่างมีชัยในสหรัฐอเมริกา เบลารุส (เทศกาลดนตรีศักดิ์สิทธิ์ "Mighty God") และญี่ปุ่น ซึ่งผู้ชมต่างชื่นชมการตีความของ V. Polyansky เกี่ยวกับซิมโฟนีไชคอฟสกีสามรายการสุดท้าย

ซิมโฟนีวิชาการแห่งรัฐคาเปลลาแห่งรัสเซีย- ทีมงานพิเศษกว่า 200 ศิลปิน มันรวมคณะนักร้องประสานเสียงออเคสตราและนักร้องเดี่ยวที่มีอยู่ในความสามัคคีอินทรีย์รักษาความเป็นอิสระในการสร้างสรรค์บางอย่างในเวลาเดียวกัน

State Capella ก่อตั้งขึ้นในปี 2534 โดยมีการควบรวมกิจการของคณะนักร้องประสานเสียงแห่งสหภาพโซเวียตภายใต้การดูแลของ Valery Polyansky และ State Symphony Orchestra ของกระทรวงวัฒนธรรมล้าหลังนำโดย Gennady Rozhdestvensky

ทั้งสองกลุ่มได้ผ่านเส้นทางสร้างสรรค์อันรุ่งโรจน์ วงออเคสตราก่อตั้งขึ้นในปี 2500 และจนถึงปี 1982 เป็นวงออเคสตราของ All-Union Radio and Television ตั้งแต่ปี 1982 - State Symphony Orchestra ของกระทรวงวัฒนธรรมล้าหลัง หลายครั้งนำโดย S. Samosud, Y. Aranovich และ M. Shostakovich คณะนักร้องประสานเสียงก่อตั้งโดย V. Polyansky ในปี 1971 ตั้งแต่ปี 1980 กลุ่มได้รับสถานะใหม่และกลายเป็นที่รู้จักในนามคณะนักร้องประสานเสียงแห่งรัฐของกระทรวงวัฒนธรรมของสหภาพโซเวียต

ด้วยคณะนักร้องประสานเสียง Valery Polyansky ได้ไปเที่ยวสาธารณรัฐทั้งหมดของสหภาพโซเวียตจึงกลายเป็นผู้ริเริ่มเทศกาลใน Polotsk ซึ่ง Irina Arkhipova, Oleg Yanchenko วงดนตรีเดี่ยวของโรงละคร Bolshoi ล้าหลังเข้ามามีส่วนร่วม ... ในปี 1986 ตามคำเชิญ ของ Svyatoslav Richter, Valery Polyansky และคณะนักร้องประสานเสียงของเขานำเสนอรายการผลงานโดย P. I. Tchaikovsky ในงานเทศกาล "December Evenings" และในปี 1994 - "All-night vigil" โดย S. V. Rachmaninov ในเวลาเดียวกันคณะนักร้องประสานเสียงแห่งรัฐทำให้ตัวเองเป็นที่รู้จักในต่างประเทศโดยแสดงร่วมกับ Valery Polyansky อย่างมีชัยที่ "Singing Wroclaw" (โปแลนด์), Merano และ Spoleto (อิตาลี), Izmir (ตุรกี), Narden (Holland) การมีส่วนร่วมที่น่าจดจำใน "Promenade Concerts" ที่มีชื่อเสียงที่ Albert Hall (บริเตนใหญ่) การแสดงในมหาวิหารประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส - ในบอร์โด, อาเมียง, อัลบี

วันเกิดของ State Capella คือวันที่ 27 ธันวาคม 1991: จากนั้น Cantata "เสื้อแต่งงาน" ของ Antonin Dvořákที่กำกับโดย Gennady Rozhdestvensky ได้แสดงในห้องโถงใหญ่ของ Conservatory ในปี 1992 Valery Polyansky กลายเป็นผู้กำกับศิลป์และหัวหน้าผู้ควบคุมวงของ GASK Russia กิจกรรมของคณะนักร้องประสานเสียงและวงออเคสตราของ Capella ดำเนินการทั้งในการแสดงร่วมกันและแบบคู่ขนาน วงดนตรีและหัวหน้าวาทยกรยินดีต้อนรับแขกที่สถานที่ที่ดีที่สุดในมอสโก สมาชิกประจำของสมาคมมอสโกฟิลฮาร์โมนิกส์, วิทยาลัยดนตรีมอสโก และมอสโกอินเตอร์เนชั่นแนลเฮาส์ออฟมิวสิค แสดงร่วมกับผู้เข้ารอบสุดท้ายของการแข่งขันไชคอฟสกีและรัคมานินอฟระดับนานาชาติ Capella ได้ออกทัวร์อย่างมีชัยในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ อิตาลี เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ละครของกลุ่มขึ้นอยู่กับประเภท cantata-oratorio: ฝูง, oratorios, requiems ของยุคและรูปแบบทั้งหมด - Bach, Handel, Haydn, Mozart, Schubert, Berlioz, Liszt, Verdi, Dvorak, Rachmaninov, Reger, Stravinsky, Britten, Shostakovich, ชนิทเก ... Valery Polyansky ดำเนินวงจรซิมโฟนิก monographic อย่างต่อเนื่องเพื่ออุทิศให้กับ Beethoven, Brahms, Rachmaninov, Maler และนักประพันธ์เพลงที่ยอดเยี่ยมอื่น ๆ

นักแสดงชาวรัสเซียและชาวต่างประเทศหลายคนร่วมมือกับ Capella มิตรภาพที่สร้างสรรค์ที่ใกล้ชิดและยาวนานเป็นพิเศษผูกมัดกลุ่มนี้กับ Gennady Nikolaevich Rozhdestvensky ผู้ซึ่งนำเสนอการสมัครสมาชิก Philharmonic ส่วนตัวกับ State Capella ของรัสเซียเป็นประจำทุกปี

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทีมงานได้พัฒนารูปแบบของตนเองสำหรับการสร้างฤดูกาล ความสุดขั้วมีไว้สำหรับการแสดงในเมืองเล็กๆ ตั้งแต่ปี 2009 Capella ได้จัดเทศกาล September Evenings ในเมือง Tarusa (ร่วมกับมูลนิธิ Svyatoslav Richter) เพื่อแนะนำผลงานชิ้นเอกของดนตรีไพเราะและประสานเสียงแก่ชาว Torzhok, Tver และ Kaluga ในปี 2011 มีการเพิ่ม Yelets ซึ่งมีการแสดงโอเปร่าของ Alexander Tchaikovsky เรื่อง The Legend of the City of Yelets, Virgin Mary และ Tamerlane ที่กำกับโดย Georgy Isahakyan รอบปฐมทัศน์ “ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดมากมายเกี่ยวกับความรักชาติ” V. Polyansky กำหนดจุดยืนของเขา “คนหนุ่มสาวเพียงแค่ต้องได้ยินเพลงนี้ที่สร้างแรงบันดาลใจให้รักบ้านเกิดเมืองนอน มันเป็นอาชญากรรมที่มีเมืองที่ผู้คนไม่เคยได้ยินวงดนตรีซิมโฟนีสดไม่เคยดูการแสดงโอเปร่า เรากำลังพยายามแก้ไขความอยุติธรรมนี้ "

วันที่สำคัญที่สุดของประวัติศาสตร์โลกยังสะท้อนให้เห็นในนโยบายเพลงของ State Capella การแสดงคอนเสิร์ตโอเปร่า War and Peace โดย Prokofiev (ใน Torzhok และ Kaluga) เกิดขึ้นในวันครบรอบ 200 ปีของชัยชนะในสงครามรักชาติปี 1812 มอสโก) และบนเวทีใหม่ของโรงละคร Bolshoi แห่งรัสเซีย M. Glinka's ดำเนินชีวิตเพื่อซาร์

เหตุการณ์สำคัญในปี 2014 คือการแสดงคอนเสิร์ตโดย State Capella ของโอเปร่า "Semyon Kotko" ที่ไม่ค่อยได้เล่นโดย Prokofiev ซึ่งจัดขึ้นที่ New Stage ของโรงละคร Bolshoi และที่โรงละคร Central Academic ของกองทัพรัสเซียและกำหนดเวลาให้ ตรงกับวันครบรอบ 100 ปีการปะทุของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ที่สถานที่เดียวกันกลุ่มได้ฉลองครบรอบ 70 ปีแห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ด้วยการแสดงโอเปร่าของ K. Molchanov เรื่อง "The Dawns Here Are Quiet"

กิจกรรมการท่องเที่ยวของ State Capella นั้นเข้มข้น ทักษะการแสดงที่ยอดเยี่ยมของวงออเคสตราได้รับการปรบมือจากผู้ชมชาวอังกฤษในระหว่างการทัวร์ฤดูใบไม้ร่วงปี 2014 “มีวาทยกรที่คิดว่า Fifth Symphony ของไชคอฟสกีดังเกินไปและแสดงราวกับว่าอยู่บนหม้อแปลงไฟฟ้า แต่ Polyansky และวงออเคสตราของเขายอดเยี่ยมมาก แน่นอนว่าดนตรีของไชคอฟสกีเข้าสู่เนื้อหนังและเลือดของกลุ่มนี้ Polyansky เล่นผลงานชิ้นเอกที่เป็นอมตะนี้ในแบบที่ฉันแน่ใจว่าไชคอฟสกีเองก็อยากฟัง” นักวิจารณ์และนักแต่งเพลงชาวอังกฤษ Robert Matthew-Walker กล่าว

ในปี 2558 คอนเสิร์ตของกลุ่มจัดขึ้นอย่างมีชัยในสหรัฐอเมริกา เบลารุส (เทศกาลดนตรีศักดิ์สิทธิ์ "Mighty God") และญี่ปุ่น ซึ่งผู้ชมต่างชื่นชมการตีความของ V. Polyansky เกี่ยวกับซิมโฟนีไชคอฟสกีสามรายการสุดท้าย

Valery Polyansky

Valery Polyansky- นักดนตรีที่มีความสามารถหลากหลาย วัฒนธรรมสูงสุด ความหยั่งรู้ลึก ความสามารถพิเศษในการแสดงของเขาแสดงออกอย่างเท่าเทียมกันทั้งในด้านศิลปะการร้องประสานเสียงและที่คอนโซลของวงซิมโฟนีออร์เคสตรา และการค้นหาเชิงสร้างสรรค์ของเขาได้รับการตระหนักอย่างยอดเยี่ยมในหลากหลายแนวเพลง ไม่ว่าจะเป็นโอเปร่า ผลงานของคณะนักร้องประสานเสียงแคปเปลลา คันตาตาและโอราโตริโอ งานซิมโฟนีงานร่วมสมัย ...

Valery Polyansky เกิดเมื่อปี 2492 ที่กรุงมอสโก อาชีพของเขาถูกกำหนดเร็วมาก: หลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนดนตรี ตอนอายุ 13 เขาได้ดำเนินการคณะนักร้องประสานเสียงแล้ว ตามด้วยการศึกษากับ E. Zvereva หลายปีที่โรงเรียนที่ Moscow Conservatory ซึ่ง V. Polyansky สำเร็จในสามปี ที่ Conservatory แห่งรัฐมอสโก นักดนตรีรุ่นเยาว์ศึกษาพร้อมกันในสองคณะ: คณะนักร้องประสานเสียงและคณะนักร้องประสานเสียง (ชั้นเรียนของศาสตราจารย์บี. คูลิคอฟ) และการแสดงโอเปร่าและการแสดงซิมโฟนี (ชั้นเรียนของ O. Dimitriadi)

ในบัณฑิตวิทยาลัยโชคชะตานำ VK Polyansky ร่วมกับ GN Rozhdestvensky ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อกิจกรรมสร้างสรรค์เพิ่มเติมของผู้ควบคุมวงรุ่นเยาว์

ก้าวที่สำคัญที่สุดในชีวิตของ Valery Polyansky คือปี 1971 เมื่อเขาจัดตั้ง Chamber Choir จากนักเรียนของ Moscow Conservatory และกลายเป็นตัวนำของโรงละคร Moscow Operetta

ในปี 1975 ที่อิตาลี ในการแข่งขันระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุด "Guido d'Arezzo" Valery Polyansky และ Chamber Choir ของเขาได้กลายเป็นผู้ชนะอย่างไม่มีเงื่อนไข เป็นครั้งแรกที่คณะนักร้องประสานเสียงจากรัสเซียได้รับรางวัลเหรียญทองในการเสนอชื่อ "Academic Singing" และยังได้รับรางวัล "Golden Bell" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคณะนักร้องประสานเสียงที่ดีที่สุดของการแข่งขันอีกด้วย Valery Polyansky ได้รับรางวัลพิเศษในฐานะผู้ควบคุมการแข่งขันที่ดีที่สุด จากนั้นชาวอิตาลีก็เขียนเกี่ยวกับนักดนตรีว่า: "นี่เป็นการขับร้องประสานเสียงของ Karajan อย่างแท้จริง โดยมีการแสดงดนตรีที่สดใสและยืดหยุ่นเป็นพิเศษ"

ในปี 1977 V. Polyansky โดยไม่ต้องออกจากคณะนักร้องประสานเสียงกลายเป็นผู้ควบคุมวงโรงละคร Bolshoi แห่งสหภาพโซเวียตที่ซึ่งเหนือสิ่งอื่นใดเขามีส่วนร่วมกับ G. Rozhdestvensky ในการผลิตโอเปร่าของ Shostakovich "Katerina Izmailova" และเป็นผู้นำการแสดงอื่นๆ

ในปีเดียวกันนั้นเอง ความร่วมมือกับสหภาพนักแต่งเพลงเริ่มต้นขึ้น: Valery Polyansky กล้าพัฒนาคะแนนใหม่อย่างกล้าหาญกลายเป็นผู้มีส่วนร่วมประจำในเทศกาลดนตรีร่วมสมัยในมอสโกในฤดูใบไม้ร่วง คีตกวีชาวรัสเซียที่ดีที่สุด - N. Sidelnikov, E. Denisov, A. Schnittke, S. Gubaidulina, D. Krivitsky, A. Vieru - อุทิศงานให้กับเขา “... จำเป็นที่งานในสมัยของเราจะต้องดี เราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยสีสันทางอารมณ์ อารมณ์ ประสบการณ์ การเผชิญหน้าของกิเลสตัณหา ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นไม่ทางใดก็ทางหนึ่งในคลังเพลงระดับโลกที่ร่ำรวยที่สุดทุกอย่างควรถูกนำเสนอบนเวทีคอนเสิร์ตสมัยใหม่ เป็นหน้าที่ของเราในการสนับสนุนนักประพันธ์เพลงร่วมสมัย” ผู้ควบคุมวงกล่าว

หัวหน้าคณะนักร้องประสานเสียงแห่งรัฐ Valery Polyansky ร่วมมือกับวงซิมโฟนีออร์เคสตราชั้นนำของรัสเซียและต่างประเทศอย่างมีประสิทธิผล โดยได้แสดงซ้ำๆ กับวงออเคสตราของเบลารุส ไอซ์แลนด์ ฟินแลนด์ เยอรมนี ฮอลแลนด์ สหรัฐอเมริกา ไต้หวัน และตุรกี เขาแสดงโอเปร่าของไชคอฟสกี "Eugene Onegin" ที่โรงละครดนตรีโกเธนเบิร์ก (สวีเดน) เป็นเวลาหลายปีที่เขาเป็นหัวหน้าผู้ควบคุมเทศกาล "Opera Nights" ในโกเธนเบิร์ก

ตั้งแต่ปี 1992 Valery Polyansky ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์และหัวหน้าผู้ควบคุมวง State Academic Symphony Capella แห่งรัสเซีย

วาทยกรได้ทำการบันทึกมากกว่า 100 รายการสำหรับบริษัทบันทึกเสียงชั้นนำทั้งในรัสเซียและต่างประเทศ ในหมู่พวกเขามีผลงานของ Tchaikovsky, Taneyev, Glazunov, Scriabin, Bruckner, Dvorak, Reger, Shimanovsky, Prokofiev, Shostakovich, Schnittke (Schnittke's Eighth Symphony ที่ออกโดย บริษัท Chandos ของอังกฤษในปี 2544 ได้รับการยอมรับว่าเป็นบันทึกที่ดีที่สุดของปี ). ไม่มีใครพูดถึงการบันทึกคอนเสิร์ตประสานเสียงทั้งหมดของนักประพันธ์เพลงชาวรัสเซียชื่อ D. Bortnyansky และการฟื้นคืนชีพของเพลงของ A. Grechaninov ซึ่งแทบไม่เคยแสดงในรัสเซียเลย

วาทยากรยังเป็นหนึ่งในล่ามที่ดีที่สุดของรัคมานินอฟในผลงานของเขา - ซิมโฟนีของผู้แต่งทั้งหมด โอเปร่าทั้งหมดของเขาในการแสดงคอนเสิร์ต งานร้องประสานทั้งหมด Valery Polyansky - ประธาน Rachmaninov Society เป็นหัวหน้าการแข่งขันเปียโนนานาชาติ Rachmaninov

ปัจจุบัน G. Maler ได้รับความสนใจจากผู้ควบคุมวง: เป็นครั้งแรกในรัสเซีย วัฏจักรพิเศษ "กุสตาฟ มาห์เลอร์และเวลาของเขา" ดำเนินการโดยความพยายามของ State Capella ซึ่งจะคงอยู่ต่อไปอีกหลายปี ในปี 2015 เมื่อมีการเฉลิมฉลองกาญจนาภิเษกของไชคอฟสกีอย่างกว้างขวาง V. Polyansky และ the Capella ได้จัดเทศกาล Music for All Seasons ซึ่งสื่อเรียกว่า "ไม่เคยมีมาก่อน" ภายใต้กรอบของเทศกาล ซิมโฟนีทั้งหมดของนักประพันธ์เพลง Nine Spiritual Choirs, “Liturgy of St. John Chrysostom "และโอเปร่า" ราชินีแห่งโพดำ "ในคอนเสิร์ต

ตั้งแต่ปี 2000 ในรายการของ State Capella ความสนใจที่มีต่อประเภทของโอเปร่าในการแสดงคอนเสิร์ตมีความโดดเด่นอย่างชัดเจน จนถึงปัจจุบัน V. Polyansky ดำเนินการประมาณ 30 โอเปร่า เหล่านี้เป็นทั้งคลาสสิกรัสเซีย (Tchaikovsky, Rimsky-Korsakov, Grechaninov) และนักเขียนต่างประเทศโดยเฉพาะ Verdi ซึ่งเกจิได้มอบตั๋วฤดูกาลพิเศษสำหรับหลายฤดูกาลติดต่อกัน ผลงานชิ้นเอกของแวร์ดีที่นำเสนอโดยโบสถ์ ได้แก่ โอเปร่า Louise Miller, Troubadour, Rigoletto, The Force of Destiny, Falstaff, Macbeth และอื่น ๆ ในโอกาสครบรอบ 200 ปีการเกิดของ Verdi บนเวทีประวัติศาสตร์ของโรงละคร Bolshoi V. Polyansky กับ State Capella ได้จัดงานกาล่าคอนเสิร์ต "Viva, Verdi" ซึ่งรวมถึงชิ้นส่วนจาก 13 โอเปร่าและ "บังสุกุล" โดย นักแต่งเพลง. โครงการกลายเป็นที่ต้องการอย่างมากจนซ้ำแล้วซ้ำอีกในการสมัครสมาชิกของมอสโกฟิลฮาร์โมนิกและเมื่อปิดเทศกาลสร้อยคออำพัน (Kaliningrad, 2015)

ผู้ควบคุมวงอยู่ในวิสัยทัศน์ของคะแนนสมัยใหม่อย่างต่อเนื่องเขาได้แสดงรอบปฐมทัศน์ของรัสเซียและโลกหลายครั้งรวมถึง: "Gesualdo" โดย A. Schnittke (2000), "The Last Days of Pushkin" โดย A. Nikolaev (2007 ), "The Legend of the City of Yelets, Virgin Mary และ Tamerlane "โดย A. Tchaikovsky (2011)," Albert และ Giselle "โดย A. Zhurbin (2012), oratorio" The Czar's Affair "โดย A. Tchaikovsky (2013) ).

Valery Polyansky มุ่งมั่นที่จะนำเสนอโอเปร่าในการตีความที่ถูกต้องตามประวัติศาสตร์ ใช้เวอร์ชันของผู้แต่งต้นฉบับ และดึงดูดนักดนตรีจาก State Capella และนักร้องชั้นนำของโรงละครรัสเซียที่มีชื่อเสียงให้นำโอเปร่ามาใช้ในการแสดงคอนเสิร์ต ความร่วมมือกับ Capella ทำให้นักร้องหลายคนได้รู้จักตัวเองอย่างสร้างสรรค์ในโอเปร่าที่ไม่ได้อยู่ในรายการเพลงของโรงละครของพวกเขา ดังนั้นจึงขยายและเพิ่มคุณค่าให้กับละครของพวกเขา Polyansky สามารถรวบรวมทีมงานที่มีความคิดเหมือนกันเพื่อพัฒนารูปแบบดั้งเดิมของเขาในการตีความรูปแบบการแสดงคอนเสิร์ตของโอเปร่า

การมีส่วนร่วมของตัวนำในวัฒนธรรมดนตรีได้รับการยอมรับอย่างสูงจากรางวัลของรัฐ Valery Polyansky - ศิลปินประชาชนของรัสเซีย (1996), ผู้สมควรได้รับรางวัล State Prize of Russia (1994, 2010), ผู้ถือ Order of Merit for the Fatherland, IV degree (2007)

คณะนักร้องประสานเสียงฟิลฮาร์โมนิก "ยาโรสลาเวีย"

คณะนักร้องประสานเสียงฟิลฮาร์โมนิก "ยาโรสลาเวีย"ก่อตั้งขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงปี 2546 โดยนักดนตรีและอาจารย์ Yaroslavl ที่มีชื่อเสียง S.M. Berezovsky การปรากฏตัวของทีมในระดับและระดับนี้ในยาโรสลาฟล์ได้กลายเป็นเหตุการณ์ทางวัฒนธรรมที่สำคัญ The Capella ประกอบด้วยนักดนตรีมืออาชีพ ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในมอสโก, Nizhny Novgorod, Yaroslavl, Kostroma

โบสถ์แห่งนี้นำไปสู่ชีวิตที่สร้างสรรค์อย่างเข้มข้น การแสดงของเธอโดดเด่นด้วยการแสดงละครและศิลปะที่สดใส กลุ่มนี้สามารถแปลงร่างเป็นห้องและคณะนักร้องประสานเสียงขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยให้สามารถแสดงละครได้หลากหลาย

ในปี 2008 Vladimir Kontarev ผู้ควบคุมวงและอาจารย์ที่มีชื่อเสียง ศาสตราจารย์ของ Moscow Conservatory ผู้ได้รับรางวัล L.V. Sobinov Prize กลายเป็นผู้กำกับศิลป์และหัวหน้าผู้ควบคุมวง Yaroslavia Philharmonic Choir อำนาจสูงของนักดนตรีประสบการณ์ทางศิลปะอันยาวนานของเขาช่วยให้ทีมได้รับการยอมรับในระดับสากล

ในฤดูใบไม้ผลิของปี 2011 ยาโรสลาเวียได้รับรางวัลผู้สมควรได้รับรางวัลจากเทศกาลดนตรีคริสตจักรนานาชาติในฮัจโนวกา (โปแลนด์) ทักษะของ Capella ซึ่งยังคงเป็นประเพณีที่ดีที่สุดของโรงเรียนสอนร้องเพลงประสานเสียงของรัสเซีย ได้รับการชื่นชมอย่างสูงจากคณะลูกขุน นักวิจารณ์ และชุมชนดนตรีนานาชาติ

Yaroslavia Philharmonic Choir เป็นผู้มีส่วนร่วมในโครงการสร้างสรรค์ที่โดดเด่นมากมาย ดังนั้นด้วย State Symphony Orchestra "New Russia" ภายใต้กระบองของ Yuri Bashmet ศิลปินเดี่ยวของโรงละคร Bolshoi และศิลปินที่น่าทึ่งจึงมีการแสดงโอเปร่า Eugene Onegin ของไชคอฟสกีในเวอร์ชันคอนเสิร์ต กับ Symphony Orchestra นักร้องประสานเสียงและศิลปินเดี่ยวของ Mariinsky Theatre ภายใต้ Valery Gergiev - "Bells" โดย S. V. Rachmaninoff นอกจากนี้ Capella ยังเข้าร่วมในโครงการสำคัญๆ ร่วมกับศิลปินจากโรงละคร Bolshoi แห่งรัสเซีย, โรงละคร Moscow Academic Musical Theatre ซึ่งตั้งชื่อตาม K. Stanislavsky และ VI Nemirovich-Danchenko, โรงละครโอเปร่า Moscow Novaya Opera ที่ตั้งชื่อตาม EV Kolobov ร่วมกับวง National Academic Orchestra of Folk เครื่องดนตรี รัสเซีย ตั้งชื่อตาม NP Osipov, วง Symphony Orchestra ของผู้ว่าการ Yaroslavl, แชมเบอร์ออเคสตรา Pratum Integrum, Russian Camerata, วงดนตรีเดี่ยวของ Hermitage งานศิลป์เหล่านี้รวมถึงการแสดงคอนเสิร์ตของโอเปร่า Tosca, Madame Butterfly โดย G. Puccini, Othello โดย G. Verdi, Cinderella โดย G. Rossini, Khovanshchina โดย M. P. Mussorgsky; ผลงานของประเภท cantata-oratorio - "Alexander Nevsky" โดย S. Prokofiev, Requiem และ Great Mass ใน C minor โดย WA ​​Mozart, "Nenia" โดย I. Brahms, "Carmina Burana" โดย K. Orff, "Kursk Songs "," Oratorio น่าสงสาร ”, “ บทกวีในความทรงจำของ Sergei Yesenin ” โดย G. Sviridov, “ เจ็ดเพลงเกี่ยวกับพระเจ้า” โดย A. Mikita,“ Requiem” โดย A. Karamanov ตัวนำที่มีชื่อเสียงได้แสดงร่วมกับ Capella: Vladimir Andropov, Murad Annamamedov, Yuri Bashmet, Evgeny Bushkov, Dmitry Volosnikov, Valery Gergiev, Wolf Gorelik, Valery Polyansky, Dimitris Botinis (กรีซ), Claudio Vandelli (อิตาลี), Johannes Wildner (เยอรมนี), Terje Mikkels (นอร์เวย์), Andres Mustonen (เอสโตเนีย) และอื่นๆ

กลุ่มมีส่วนร่วมในเทศกาลที่สำคัญของรัสเซียและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องรวมถึงเทศกาลอีสเตอร์มอสโกภายใต้การดูแลของ Valery Gergiev, เทศกาลของ Yuri Bashmet ใน Yaroslavl และ Sochi, ฤดูใบไม้ร่วงของมอสโก, เทศกาลศิลปะการเปลี่ยนรูปและเทศกาลดนตรีออร์แกนนานาชาติ Leonid Roizman ใน Yaroslavl เทศกาล Five Kremlins "ใน Veliky Novgorod, เทศกาลดนตรี JS Bach ในตเวียร์" Organ Evenings ใน Kuskovo "ในมอสโก, เทศกาล Prokofiev ในโดเนตสค์ (ยูเครน), เทศกาล Credo ของ Orthodox Sacred Music (เอสโตเนีย), เทศกาลดนตรีใน Bialystok, Katowice , Rybnik (โปแลนด์) ใน Vologda, Vladimir, Kostroma, Rybinsk และเมืองอื่น ๆ อีกมากมาย

Oksana Sekerina

Oksana Sekirinaเกิดที่เมือง Novy Urengoy, Yamalo-Nenets Autonomous Okrug สำเร็จการศึกษาจากสาขา Khanty-Mansiysk ของ Gnessin Russian Academy of Music

กิจกรรมคอนเสิร์ตของนักร้องเริ่มขึ้นระหว่างการศึกษาของเธอ ท่ามกลางเหตุการณ์ที่โดดเด่นที่สุด - การมีส่วนร่วมในโปรแกรมที่อุทิศให้กับการครบรอบ 30 ปีของกิจกรรมสร้างสรรค์ของ Metropolitan Hilarion ใน Great Hall of the Moscow Conservatory ที่ Oksana Sekerina แสดงร่วมกับ Russian National Orchestra (2014); การแสดงของพระมารดาแห่งพระเจ้าในการแสดงรอบปฐมทัศน์ของอังกฤษเรื่อง "St. Matthew Passion" ของ Metropolitan Hilarion (Alfeyev) ที่ Cadogan Hall ในลอนดอน (ผู้ดำเนินรายการ - Alexei Puzakov) ซึ่งได้รับการวิจารณ์อย่างล้นหลามจากสื่อมวลชน ในเดือนกันยายน 2558 Oksana Sekerina แสดงบท Liza Brichkina ในการผลิตคอนเสิร์ตโอเปร่า "The Dawns Here Are Quiet" โดย Kirill Molchanov ที่โรงละคร Bolshoi แห่งรัสเซีย (นำโดย Valery Polyansky)

รัสตัม ยาวาเยฟ

Rustam Yavaev ชาว Astrakhan จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยการสอนแห่งรัฐมอสโกในชั้นเรียนโอเปร่าและการแสดงในห้อง (ชั้นเรียนของอาจารย์ MA Ganeshina และศาสตราจารย์ GI Urbanovich) และการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา (2005) ในชั้นเรียนร้องเพลงเดี่ยวที่ State Classical Academy ตั้งชื่อตาม VI Maimonides (ชั้นเรียนของศาสตราจารย์ G. I. Urbanovich) ในปี 2549 นักร้องได้สำเร็จการฝึกงานที่ G.P. Vishnevskaya Opera Singing Center

ผู้ชนะการแข่งขันนักเรียน All-Russian ใน Yekaterinburg (1 รางวัล, 2000), ผู้ชนะเลิศการแข่งขัน "Be11a vose" ในมอสโก (2001), ผู้ได้รับรางวัลการแข่งขันดนตรีนานาชาติแห่งศตวรรษที่ 20 ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (2 รางวัล, 2002) ผู้ได้รับรางวัลการแข่งขัน All-Russian ใน Kostroma (1 รางวัล , 2004), ผู้สมควรได้รับรางวัล Ilham Shakirov International Competition (Kazan, 2005), ผู้ได้รับรางวัลการแข่งขันระดับนานาชาติ "Amber Nightingale" ในคาลินินกราด (รางวัลที่ 3, 2006), ผู้ได้รับรางวัลการแข่งขันระดับนานาชาติในอิตาลี (Pesaro) "Citta di Pesaro" (รางวัลที่ 2, 2009) ...

Rustem Yavaev ร่วมมือกับ Collegium of Early Music ที่ Moscow Conservatory ซึ่งเขาได้เข้าร่วมในการแสดงโอเปร่าและ oratorios โดย K. Monteverdi, I.A. Hasse, J.S.Bach, G.F. Handel, A. Scarlatti, K.V. Gluck, J. Pergolesi, F . Cavalli, J. Peri, D. Bortnyansky. นักร้องได้เข้าร่วมเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงในมอสโกหลายครั้งที่ Moscow House of Composers ซึ่งแสดงดนตรีโดยนักประพันธ์เพลงชาวรัสเซียและชาวต่างประเทศในปัจจุบัน ในปี 2011 Rustam Yavaev ได้รับเชิญให้เป็นศิลปินเดี่ยวที่โรงละคร Bolshoi แห่งรัสเซียเพื่อแสดง cantata "Stabat mater" โดย A. Vivaldi ในบัลเล่ต์ "Reflection" นักร้องมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในคอนเสิร์ตในรัสเซียและต่างประเทศ

Anton Vinogradov

Anton Vinogradovสำเร็จการศึกษาจาก Gnessin Russian Academy of Music (ชั้นเรียนศาสตราจารย์ ศิลปินผู้มีเกียรติแห่งรัสเซีย V.V. Gromova) และการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาที่ Moscow State Tchaikovsky Conservatory (ชั้นเรียนของศาสตราจารย์ ศิลปินประชาชนรัสเซีย P.I.Skusnichenko) ในปี 2011 เขาเข้าร่วมชั้นเรียนปริญญาโทของ D. Hvorostovsky

ผู้สมควรได้รับรางวัลที่ 1 ของการแข่งขันที่ Moscow International Festival of Slavic Music (2008) และรางวัลที่ 2 ของ International S.V. Rachmaninov Music Competition (เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, 2009)

ในปี 2010 เขากลายเป็นศิลปินเดี่ยวของ Mosconcert และโรงละครโอเปร่ามอสโกโนวายาซึ่งได้รับการตั้งชื่อตาม V.I. อี. วี. โคโลโบวา. ตั้งแต่ปี 2014 - ศิลปินเดี่ยวของโรงละครดนตรีหอการค้าแห่งรัฐมอสโกได้รับการตั้งชื่อตาม B. A. Pokrovsky ได้ไปเที่ยวที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ฮังการี แคนาดา ออสเตรเลีย

เพลงของนักร้องประกอบด้วยส่วนต่อไปนี้: Almaviva ("การแต่งงานของ Figaro" โดย WA ​​Mozart), Belcore ("Love Potion" โดย G. Donizetti), Malatesta ("Don Pasquale" โดย G. Donizetti), Count di Luna ("Troubadour" โดย G. Verdi ), Germont (La Traviata โดย G. Verdi), Atanael (Tais โดย J. Massenet), Tonio (Pagliacci โดย R. Leoncavallo), Alfio (Rural Honor โดย P. Mascagni), Michele ( เสื้อคลุมโดย G. Puccini), Onegin (Eugene Onegin โดย P. Tchaikovsky), Robert, Ebn-Khakia (Iolanta โดย P. Tchaikovsky), Yeletsky (ราชินีแห่งโพดำโดย P. Tchaikovsky)

ในฐานะศิลปินเดี่ยวรับเชิญของ State Capella แห่งรัสเซีย เขาได้มีส่วนร่วมในการแสดงละครเพลง Love Drink ของ Donizetti ที่ Tchaikovsky Concert Hall

State Academic Symphony Capella แห่งรัสเซียเป็นกลุ่มศิลปินที่มีจำนวนมากกว่า 200 คน เป็นการรวมตัวของศิลปินเดี่ยว-นักร้องประสานเสียง คณะนักร้องประสานเสียงและวงออเคสตรา ซึ่งมีอยู่ในความสามัคคีแบบออร์แกนิก รักษาความเป็นอิสระเชิงสร้างสรรค์บางอย่างไว้ในเวลาเดียวกัน

GASK ก่อตั้งขึ้นในปี 2534 ด้วยการควบรวมกิจการของคณะนักร้องประสานเสียงแห่งสหภาพโซเวียตภายใต้การดูแลของ V. Polyansky และ State Symphony Orchestra ของกระทรวงวัฒนธรรมล้าหลังนำโดย G. Rozhdestvensky ทั้งสองกลุ่มได้ผ่านเส้นทางสร้างสรรค์อันรุ่งโรจน์ วงออเคสตราก่อตั้งขึ้นในปี 2500 และเข้ามาแทนที่วงดนตรีซิมโฟนีที่ดีที่สุดในประเทศทันที จนถึงปี 1982 เขาเป็นวงออเคสตราของ All-Union Radio and Television ในเวลาที่ต่างกันกำกับโดย S. Samosud, Y. Aranovich และ M. Shostakovich: ตั้งแต่ปี 1982 - วง State Orchestra ของกระทรวงวัฒนธรรม คณะนักร้องประสานเสียงก่อตั้งโดย V. Polyansky ในปี 1971 จากบรรดานักศึกษาของโรงเรียนสอนดนตรีแห่งรัฐมอสโก (ต่อมาได้มีการขยายองค์ประกอบของคณะนักร้องประสานเสียง) ชัยชนะที่แท้จริงทำให้เขาเข้าร่วมการแข่งขัน Guido d'Arezzo International Polyphonic Choir Competition ในอิตาลีในปี 1975 ซึ่งคณะนักร้องประสานเสียงได้รับเหรียญทองและเหรียญทองแดง และ V. Polyansky ได้รับการยอมรับว่าเป็นตัวนำที่ดีที่สุดของการแข่งขันและได้รับรางวัลพิเศษ ในสมัยนั้น สื่อของอิตาลีเขียนว่า: "นี่คือการขับร้องประสานเสียงของคาราจันอย่างแท้จริง มีละครเพลงที่สดใสและยืดหยุ่นเป็นพิเศษ" หลังจากประสบความสำเร็จ ทีมงานก็ก้าวขึ้นสู่เวทีคอนเสิร์ตใหญ่อย่างมั่นใจ

วันนี้ทั้งคณะนักร้องประสานเสียงและวงออเคสตรา GASK ได้รับการยอมรับอย่างเป็นเอกฉันท์ว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มดนตรีที่หรูหราและน่าสนใจที่สุดในรัสเซีย

การแสดงครั้งแรกของ Capella พร้อมการแสดง Cantata "เสื้อแต่งงาน" ของ A. Dvorak ภายใต้การดูแลของ G. Rozhdestvensky เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 1991 ในห้องโถงใหญ่ของมอสโก Conservatory และประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นซึ่งทำให้ ระดับความคิดสร้างสรรค์ของกลุ่มและกำหนดระดับความเป็นมืออาชีพสูง

ตั้งแต่ปี 1992 Capella นำโดย Valery Polyansky

ละครของ Capella นั้นไร้ขอบเขตอย่างแท้จริง ด้วยโครงสร้าง "สากล" พิเศษ ทำให้กลุ่มมีโอกาสได้แสดงไม่เพียงแต่งานชิ้นเอกของดนตรีประสานเสียงและไพเราะในยุคและสไตล์ที่แตกต่างกัน แต่ยังเปลี่ยนเป็นชั้นขนาดใหญ่ของประเภท cantata-oratorio เหล่านี้เป็นงานมวลชนและงานอื่น ๆ โดย Haydn, Mozart, Beethoven, Schubert, Rossini, Bruckner, Liszt, Grechaninov, Sibelius, Nielsen, Shimanovsky; requiems โดย Mozart, Verdi, Cherubini, Brahms, Dvorak, Fore, Britten; Ioann Damaskin ของ Taneev, Bells ของ Rachmaninov, Les Noces ของ Stravinsky, oratorios และ cantatas โดย Prokofiev, Myaskovsky, Shostakovich, ผลงานแกนนำและไพเราะโดย Gubaidulina, Schnittke, Sidelnikov, Berinsky ฯลฯ (การแสดงของรัสเซียเหล่านี้กลายเป็นระดับโลกหรือ ...

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา V. Polyansky และ Capella ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการแสดงคอนเสิร์ตโอเปร่า จำนวนและความหลากหลายของโอเปร่าที่จัดทำโดย GASK ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้แสดงในรัสเซียมานานหลายทศวรรษมีความโดดเด่น: "Cherevichki", "The Enchantress", "Mazepa" และ "Eugene Onegin" โดย Tchaikovsky, "Nabucco", " Troubadour" และ "Louise Miller" โดย Verdi, "Nightingale" และ "King Oedipus" โดย Stravinsky, "Sister Beatrice" โดย Grechaninov, "Aleko" โดย Rachmaninov, "Bohemia" โดย Leoncavallo, "Hoffmann's Tales" โดย Offenbach, "Sorochinskaya Fair " โดย Mussorgsky "คืนก่อนวันคริสต์มาส" โดย Rimsky-Korsakov "Andre Chenier "Giordano" งานเลี้ยงในช่วงเวลาแห่งโรคระบาด "โดย Cui" สงครามและสันติภาพ "โดย Prokofiev" Gesualdo "โดย Schnittke ...

รากฐานอย่างหนึ่งของละครของ Capella คือดนตรีแห่งศตวรรษที่ 20 และในปัจจุบัน กลุ่มนี้เป็นผู้เข้าร่วมถาวรของเทศกาลดนตรีร่วมสมัยนานาชาติ "มอสโกฤดูใบไม้ร่วง" ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2008 เขาได้เข้าร่วมใน Fifth International Gavrilin Music Festival ใน Vologda

Capella คณะนักร้องประสานเสียงและวงออเคสตราเป็นแขกประจำในภูมิภาคของรัสเซียและในหลายประเทศทั่วโลก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมากลุ่มประสบความสำเร็จในการทัวร์สหราชอาณาจักร, ฮังการี, เยอรมนี, ฮอลแลนด์, กรีซ, สเปน, อิตาลี, แคนาดา, จีน, สหรัฐอเมริกา, ฝรั่งเศส, โครเอเชีย, สาธารณรัฐเช็ก, สวิตเซอร์แลนด์, สวีเดน ...

นักแสดงชาวรัสเซียและต่างประเทศที่โดดเด่นหลายคนร่วมมือกับ Capella โดยเฉพาะอย่างยิ่งมิตรภาพที่ใกล้ชิดและสร้างสรรค์ในระยะยาวเชื่อมโยงกลุ่มนี้กับ G.N. Rozhdestvensky ผู้ซึ่งนำเสนอการสมัครสมาชิก Philharmonic ส่วนตัวกับ GASK เป็นประจำทุกปี

รายชื่อจานเสียงของ Capella นั้นกว้างขวางมาก โดยมีจำนวนประมาณ 100 รายการ (ส่วนใหญ่สำหรับ Chandos) รวมถึง คอนเสิร์ตประสานเสียงทั้งหมดโดย D. Bortnyansky งานไพเราะและการร้องประสานเสียงทั้งหมดโดย S. Rachmaninov ผลงานมากมายโดย A. Grechaninov ซึ่งแทบไม่รู้จักในรัสเซีย เมื่อเร็ว ๆ นี้ การบันทึกของซิมโฟนีที่ 4 ของ Shostakovich ได้เปิดตัวแล้ว ซิมโฟนีที่ 6 ของ Myaskovsky, สงครามและสันติภาพของ Prokofiev และ Gesualdo ของ Schnittke กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัว

ในวันที่ 20 มีนาคม 2555 คอนเสิร์ตของ State Academic Symphony Capella แห่งรัสเซียภายใต้การดูแลของผู้กำกับศิลป์และหัวหน้าผู้ควบคุมวง Valery Polyansky จะจัดขึ้นที่ห้องโถงใหญ่ของ Conservatory มอสโก ผู้ชมจะได้ชมผลงานของ Ludwig van Beethoven Solemn Mass, opus 123

เอกลักษณ์ของคณะนักร้องประสานเสียงและวงดุริยางค์ซิมโฟนีที่ผสมผสานในตัวเอง ช่วยให้คุณบรรลุผลงานชิ้นเอกที่กลมกลืนกัน ด้วยพรสวรรค์ของเขา ผู้กำกับศิลป์ของ Capella ได้นำจิตวิญญาณแห่งความทันสมัยมาสู่ผลงานดนตรีที่สร้างขึ้นเมื่อหลายศตวรรษก่อน

โครงการ Tribute to Svyatoslav Richter เป็นงานประจำปีที่จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ความทรงจำของนักเปียโนที่เก่งกาจ เป็นเวลาหลายปีแล้วที่คอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นงานรื่นเริงแบบดั้งเดิมในชีวิตของมอสโกว์ และดึงดูดผู้ชมมืออาชีพและผู้ชื่นชอบดนตรีคลาสสิกมาเป็นจำนวนมาก “ผู้ชมมีความสุขที่ได้มาคอนเสิร์ตประจำปีนี้ โดยเป็นการรำลึกถึงหนึ่งในนักดนตรีที่เก่งที่สุดแห่งศตวรรษที่ 20 มันเป็นประเพณีของ Svyatoslav Teofilovich ที่จะเล่นคอนเสิร์ตในวันเกิดของเขาซึ่งเราจะดำเนินการต่อ” Svyatoslav Pisarenko ผู้อำนวยการทั่วไปของมูลนิธิ Svyatoslav Richter กล่าว

การค้นพบและส่งเสริมผู้มีความสามารถจากต่างจังหวัด นักดนตรี และศิลปิน เป็นกิจกรรมหลักของมูลนิธิฯ จุดเริ่มต้นของเทศกาลฤดูร้อนที่คนหนุ่มสาวสามารถแสดงความสำเร็จของพวกเขาได้ถูกกำหนดโดยทีมที่นำโดย Valery Polyansky ซึ่งเป็นเสียงที่สื่อถึงเฉดสีต่างๆของ Svyatoslav Richter ที่มีชื่อเสียง นักแสดงรุ่นเยาว์หลายคนโชคดีพอที่จะเข้าร่วมในโครงการนี้และมีโอกาสถูกนำเสนอต่อสาธารณชนทั่วไป เพื่อแสดงความสามารถและความรักในดนตรีของพวกเขา

ในวันที่ 20 มีนาคม ในวันเกิดของเกจิผู้ยิ่งใหญ่ นักดนตรีที่มีชื่อเสียงที่ได้รับความรักและความเคารพ จะขึ้นเวทีในห้องโถงใหญ่ของเรือนกระจก และจะอุทิศการแสดงของพวกเขาให้กับ Svyatoslav Teofilovich คอนเสิร์ตเริ่มเวลา 19 นาฬิกา

State Academic Symphony Capella of Russia (GASK) ก่อตั้งขึ้นในเดือนธันวาคม 2534 อันเป็นผลมาจากการควบรวมกิจการของคณะนักร้องประสานเสียงแห่งสหภาพโซเวียตภายใต้การดูแลของ Valery Polyansky และ State Symphony Orchestra ของกระทรวงวัฒนธรรมของสหภาพโซเวียต Valery Polyansky กลายเป็นผู้กำกับศิลป์และหัวหน้าผู้ควบคุมวงออร์เคสตราใหม่

กิจกรรมของคณะนักร้องประสานเสียงและวงออเคสตราของ GASK ของรัสเซียภายใต้การดูแลของ V. Polyansky ดำเนินการทั้งในการแสดงร่วมกันและแยกจากกัน ด้วยโครงสร้างที่พิเศษและไม่เหมือนใครนี้ Capella จึงมีความสามารถในการดึงดูดตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมมากมายของดนตรีคลาสสิก - มวลชนและออราทอริโอ เรเควียม และแคนตาตา - ออกแบบมาเพื่อแสดงโดยศิลปินเดี่ยว คณะนักร้องประสานเสียง และวงออเคสตรา

ความพากเพียรและความอุตสาหะที่ไม่ธรรมดาของหัวหน้าผู้ควบคุมวงสะท้อนให้เห็นในคุณภาพของการปฏิบัติงาน ทุกรายละเอียดขององค์ประกอบได้รับการตรวจสอบอย่างรอบคอบแล้วจึงรวมเข้ากับการตีความองค์ประกอบทั้งหมด ผู้ควบคุมวงประสบความสำเร็จเป็นพิเศษในงานที่ยิ่งใหญ่: ซิมโฟนีของมาห์เลอร์, นักประพันธ์เพลงโรมิโอและจูเลียของ Berlioz และวัยเด็กของพระคริสต์, รัคมานินอฟรูปแบบใหญ่, โชสตาโควิช, ชนิทเก ฯลฯ

ในฐานะสมาชิกถาวรของการสมัครสมาชิกของ Conservatory มอสโกและ International House of Music กลุ่มนี้มักจะแสดงร่วมกับผู้เข้ารอบสุดท้ายของการแข่งขัน International Tchaikovsky, Scriabin และ Rachmaninov ทัวร์ในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ อิตาลี (Spoletto), เยอรมนี, สวิตเซอร์แลนด์ (เจนีวา) ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


วาทยากรชาวรัสเซีย, นักร้องประสานเสียง, อาจารย์; ผู้ได้รับรางวัลการแข่งขันระดับนานาชาติ, ศิลปินประชาชนของรัสเซีย, ผู้สมควรได้รับรางวัลแห่งรัฐของรัสเซีย, ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์และหัวหน้าผู้ควบคุมวงของ State Academic Symphony Capella แห่งรัสเซีย - Valery Polyansky เป็นนักดนตรีจำนวนหนึ่งที่หายากในยุคนั้นซึ่งมีความเจริญรุ่งเรือง ดนตรีคลาสสิกของรัสเซียมีความเกี่ยวข้อง

ในช่วงปีการศึกษาของเขา Valery Kuzmich เป็นผู้นำคณะนักร้องประสานเสียงสมัครเล่นหลายคน ต่อมาเขาได้เป็นวาทยกรของโรงละคร Moscow Operetta จากนั้นไปที่โรงละคร Bolshoi ในขณะที่สอนอยู่ที่โรงเรียนสอนดนตรีแห่งรัฐมอสโก

Polyansky เป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งที่รวมบริการที่ทุ่มเทให้กับประเพณีและนวัตกรรมที่กล้าหาญมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่แค่งานสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ชีวิตของมาเอสโตรเองก็เป็นตัวอย่างของการรับใช้งานศิลปะ พันธกิจที่นักดนตรีในตำนานในสมัยก่อนปฏิบัติต่อทักษะของพวกเขา ดังนั้นการตีความผลงานชิ้นเอกที่มีชื่อเสียงของคลาสสิกที่ดำเนินการโดย Valery Polyansky และ State Academic Symphony Capella ของรัสเซียที่นำโดยเขาจึงดูมีสไตล์และกลมกลืนเป็นพิเศษ

Valery Polyansky ผสมผสานความสนใจเข้ากับมรดกของอดีตและการยึดมั่นในแบบจำลองมาตรฐานระดับสูงอย่างมีเอกลักษณ์ด้วยการค้นหาการทดลองใหม่ๆ ที่ท้าทายและการทดลองที่ผิดปกติมากที่สุดอย่างต่อเนื่อง การผสมผสานระหว่างประเพณีและนวัตกรรมนี้เป็นความเชื่อของเกจิและคาเปลลาของเขา ท้ายที่สุด Polyansky และทีมของเขาเคยเป็นนักแสดงคนแรกของผลงาน oratorio หลายชิ้นโดย Alfred Schnittke ซึ่งกลายเป็นปรากฏการณ์ที่แท้จริงในยุค 90 และค้นพบโลกดนตรีที่ไม่รู้จัก

ประวัติความเป็นมาของการก่อตั้งมูลนิธิ Svyatoslav Richter

นำงานศิลปะที่ยอดเยี่ยมมาสู่จังหวัดและช่วยเหลือนักดนตรีและศิลปินที่มีความสามารถ - นี่คือแนวคิดหลักของ Svyatoslav Richter เมื่อมูลนิธิก่อตั้งขึ้นในปี 1992 มูลนิธิก่อตั้งขึ้นโดยเขาในฐานะองค์กรการกุศล - ในเวลานั้นเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งในประเทศที่พยายามจัดเทศกาลดนตรีคลาสสิกในจังหวัดของรัสเซียและการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์

ในอายุหกสิบเศษ ใน "House on the Oka" ใกล้เมืองเล็ก ๆ ที่มีชื่อเสียงสำหรับชื่อของศิลปินนักเขียนและนักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่ท่ามกลางธรรมชาติรัสเซียที่น่าทึ่ง Svyatoslav Teofilovich ทำงานมากและมีผล เขาคิดว่ามันเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการสร้างสรรค์ ในช่วงฤดูร้อน ริกเตอร์ได้เตรียมรายการเพลงหกรายการสำหรับการทัวร์อเมริกาครั้งแรกของเขา หลังจากการเดินทางครั้งนี้ โลกดนตรีได้รู้จักนักเปียโนผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคของเรา

ในช่วงต้นทศวรรษ 90 ริกเตอร์มีแนวคิดในการสร้างบ้านแห่งความสร้างสรรค์สำหรับนักดนตรีและศิลปินรุ่นเยาว์ในทารูซา ที่ซึ่งพวกเขาสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิผลเหมือนที่ทำในช่วงเวลาของเขา เขาเห็นการสนับสนุนทางการเงินสำหรับกิจกรรมสันทนาการสำหรับคนหนุ่มสาวในการรับเงินจากเทศกาลดนตรีและศิลปะประจำปี จากเงินบริจาคส่วนตัวและการกุศลจากเพื่อนและเพื่อนร่วมงานของเขา ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะเข้าร่วมในคอนเสิร์ตของเทศกาลอย่างแข็งขันรวมทั้งเชิญ Yuri Bashmet, Natalia Gutman, Eliso Virsaladze, Galina Pisarenko และคนอื่น ๆ : ผู้ที่ร่วมกับเขากลายเป็นผู้ก่อตั้งกองทุน ความคิดของริกเตอร์ในการสร้างกองทุนได้รับการสนับสนุนและตัวเขาเองได้โอนเข้าเป็นเจ้าของกองทุน "House on the Oka" ซึ่งตั้งอยู่ที่ชายป่าบนฝั่งสูงของ Oka

เทศกาลดนตรีและศิลปะครั้งแรกใน Tarusa ซึ่งอุทิศให้กับงานของ Grieg เกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนปี 2536 การตกแต่งของเทศกาลซึ่งเป็นโปรแกรมที่รวบรวมโดย Richter เองเป็นนิทรรศการผลงานของศิลปินชาวสแกนดิเนเวียจาก ของสะสมของพิพิธภัณฑ์พุชกิน เช่น. พุชกิน. คอนเสิร์ตจัดขึ้นอย่างประสบความสำเร็จทั้งใน Tarusa และในมอสโก น่าเสียดายที่ริกเตอร์ไม่สามารถตระหนักถึงแนวคิดในการสร้างห้องปฏิบัติการที่สร้างสรรค์สำหรับคนหนุ่มสาว

รากฐานยังคงสานต่อความคิดของอาจารย์ ในช่วงฤดูร้อนปี 2555 เทศกาลดนตรีฤดูร้อนแบบดั้งเดิมจะจัดขึ้นที่เมืองทารูซาเป็นครั้งที่ยี่สิบซึ่งมีนักดนตรีรุ่นเยาว์เข้าร่วมด้วย สำหรับพวกเขาแต่ละคน คำเชิญนี้เป็นงานในชีวิตการงานและความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่อุทิศให้กับนักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่

ในวันที่ 20 มีนาคม มูลนิธิจะเฉลิมฉลองวันเกิดของ Svyatoslav Teofilovich ทุกปีด้วยคอนเสิร์ต "ส่วยให้ Svyatoslav Richter" ในห้องโถงใหญ่ของมอสโก Conservatory ในปัจจุบัน นอกเหนือจากกิจกรรมเทศกาลและคอนเสิร์ตแล้ว มูลนิธิกำลังดำเนินโครงการสำหรับโรงเรียนดนตรีสร้างสรรค์ภาคฤดูร้อน มีนักดนตรีที่โดดเด่นหลายร้อยคนในค่ายฤดูร้อน

© 2022 skudelnica.ru - ความรัก, การทรยศ, จิตวิทยา, การหย่าร้าง, ความรู้สึก, การทะเลาะวิวาท