"House of the Fool": คฤหาสน์ที่มีชื่อเสียงของ Arseny Morozov คืออะไร คฤหาสน์ของ Arseny Morozov

บ้าน / หย่า

เป็นไปไม่ได้เลยที่จะผ่านคฤหาสน์ที่สวยงามแห่งนี้โดยไม่แปลกใจและชื่นชม และที่นี่ใน อีกครั้ง- คฤหาสน์ของ Arseny Morozov บน Vozdvizhenka แต่ตอนนี้มาใส่ใจในรายละเอียดกันดีกว่า และมีจำนวนมากของพวกเขา ในภาพชื่อ - เถาหินที่สง่างามซึ่งทำซ้ำผนังของปราสาทโปรตุเกสที่โอบล้อมด้วยองุ่น ฉันไม่ต้องการที่จะเขียนคำพูดใดๆ เกี่ยวกับอาคารที่ยอดเยี่ยมนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างได้รับการกล่าวถึงแล้ว แต่ฉันได้เรียนรู้บางอย่างที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อน

ปรากฎว่าคฤหาสน์ที่สลับซับซ้อนนี้มีรูปแบบเฉพาะเจาะจงมาก นี่คือพระราชวังเปนา (Palácio Nacional da Pena) ในโปรตุเกส บนหน้าผาสูงเหนือเมืองซินตรา ในรูปแบบยุคกลางเทียมที่น่าอัศจรรย์ การก่อสร้างนี้จัดโดย Prince Ferdinand แห่ง Saxe-Coburg-Gotha พระสวามีของ Queen Mary II แห่งโปรตุเกส เขาลงทุนอย่างหนักในโครงการนี้ และทำงานต่อไปจนกระทั่งเขาเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2428 อาคารที่สร้างขึ้นใน กลางสิบเก้าศตวรรษที่ผสมผสานองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมยุคกลางแบบมัวร์และสไตล์มานูเอลีน - โปรตุเกสซึ่งเป็นที่นิยมในศตวรรษที่ XV-XVI พระราชวัง Pena เดียวกันนี้ในต้นทศวรรษ 1890 เป็นแรงบันดาลใจให้ Arseny Abramovich Morozov เศรษฐีชาวรัสเซียและสถาปนิก Viktor Aleksandrovich Mazyrin เพื่อสร้างคฤหาสน์บน Vozdvizhenka ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยความจริงที่ว่า Arseniy Morozov ได้รับพล็อตในใจกลางมอสโกเพื่อเป็นของขวัญ

พระราชวังเปนาในซินตรา

Varvara Alekseevna แม่ของ Arseny มาจากตระกูลพ่อค้า Khludov ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานกระดาษรัสเซียแห่งแรกที่ติดตั้งเครื่องยนต์ไอน้ำ พ่อของเขา อับราม อับราโมวิช ( ลูกพี่ลูกน้อง ผู้ใจบุญที่มีชื่อเสียง Savva Morozov) เป็นเจ้าของโรงงานตเวียร์ หลังจากที่เขาเสียชีวิต ผู้บริหารของบริษัทก็ตกไปอยู่ในมือของภรรยาของเขา ซึ่งเป็นผู้หญิงที่ฉลาด ฉลาด และสวยงาม เธอเป็นผู้ตัดสินใจนำเสนอในวันครบรอบ 25 ปีของลูกชายที่โชคร้ายของเธอ - Arseny ผู้คลั่งไคล้และผู้หลงไหล ที่ดินบน Vozdvizhenka

คอนสแตนติน มาคอฟสกี. ภาพเหมือนของ V. A. Morozova, 1874

Arseny หันไปหาสถาปนิกที่คุ้นเคยและ Viktor Mazyrin ผู้ยิ่งใหญ่ที่เขาพบ นิทรรศการโลกในเมืองแอนต์เวิร์ป และเขาเชิญ Morozov เดินทางไปทั่วยุโรปด้วยกันเพื่อค้นหาต้นแบบของบ้าน เมื่อกลับมาที่มอสโคว์ Arseniy Morozov ก็เริ่มสร้างบ้านปราสาทให้ตัวเอง โดยพูดถึงรูปแบบทั่วไปของพระราชวัง Pena

สถาปนิก Viktor Mazyrin (ภาพซ้าย) และเศรษฐี Arseniy Morozov

คฤหาสน์แห่งนี้สร้างขึ้นอย่างรวดเร็วในสี่ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงเวลานั้น

1. ตอนนี้ต้นไม้ได้เติบโตขึ้น และรั้วเหล็กหล่อมีเกราะทึบซึ่งแน่นอนว่าทำให้มองเห็นคฤหาสน์ได้ยาก แต่ถึงกระนั้น รายละเอียดการออกแบบบางอย่างก็สามารถเก็บบันทึกไว้ได้

2. ในคฤหาสน์ Morozov สไตล์มัวร์นั้นชัดเจนที่สุดในการออกแบบทางเข้าหลักรวมถึงหอคอยสองแห่งที่ตั้งอยู่ทั้งสองด้านของทางเข้าหลัก ทางเข้าประตูตกแต่งด้วยเชือกผูกปมทะเล - สัญลักษณ์แห่งความโชคดีในโปรตุเกส, ทางเข้าหลักในรูปของเกือกม้า - สัญลักษณ์แห่งความโชคดีในรัสเซียและเหนือ - มังกรถูกล่ามโซ่ด้วยโซ่ สัญลักษณ์แห่งความโชคดีทางทิศตะวันออก

4. หอคอยแสนโรแมนติกสองหลังพร้อมห้องใต้หลังคาลูกไม้และโครงตาข่ายระเบียงตั้งอยู่ทั้งสองด้านของทางเข้าหลัก

7. ในการออกแบบผนังใช้รายละเอียดการตกแต่งที่งดงาม - เปลือกหอย, เชือกคาราเบล, ช่องหน้าต่างรูปเกือกม้าและมีดหมอ

17. ในส่วนที่เหลือของโครงสร้างนี้ สถาปัตยกรรมเป็นแบบผสมผสาน ตัวอย่างเช่น ช่องหน้าต่างบางช่องตกแต่งด้วยเสาคลาสสิก

18. โครงสร้างทั่วไปที่ไม่สมมาตรของคฤหาสน์มีลักษณะเฉพาะของอาร์ตนูโวมากกว่า

19. คฤหาสน์ไม่ได้นำความโชคดีมาสู่ตัว Morozov เขาสามารถอาศัยอยู่ในนั้นได้เพียงเก้าปี ในปี 1908 ในงานปาร์ตี้ดื่มแห่งหนึ่ง Arseny ยิงตัวเองที่เท้าด้วยปืนพก ฉันต้องการพิสูจน์ว่าบุคคลสามารถทนต่อความเจ็บปวดได้ พวกเขาโต้เถียงกันเรื่องคอนยัค Morozov ไม่ได้กรีดร้องหลังจากการยิงและชนะการโต้เถียง แต่ถึงกระนั้นหลังจากนั้นเขาก็ไม่ไปหาหมอ แต่ยังคงดื่มต่อไป สามวันต่อมา เศรษฐี Arseniy Morozov เมื่ออายุได้ 35 ปี เสียชีวิตจากพิษเลือด กับความตายของเขา ความอื้อฉาวคฤหาสน์ยังไม่เสร็จ Morozov ออกจากบ้านไม่ได้ไปหาภรรยาและลูก ๆ ของเขา แต่ไปหา Nina Aleksandrovna Konshina ผู้เป็นที่รักของเขา

หลังการปฏิวัติ คฤหาสน์ของ Arseny Morozov เปลี่ยนเจ้าของมากกว่าหนึ่งครั้ง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2461 ถึง พ.ศ. 2471 เป็นที่ตั้งของ Proletkult และโรงละครตั้งแต่ปี พ.ศ. 2471 ถึง พ.ศ. 2483 ซึ่งเป็นที่พำนักของเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นตั้งแต่ปีพ. สาธารณรัฐอินเดีย. คฤหาสน์ของ Morozov เป็นที่ตั้งของ House of Friendship with Peoples เป็นเวลาเกือบครึ่งศตวรรษ ต่างประเทศ” เปิดทำการเมื่อ 31 มีนาคม 2502 ในเวลานั้น มีการสาธิตภาพยนตร์ต่างประเทศ การประชุมและแถลงข่าวกับศิลปินต่างประเทศ นิทรรศการภาพถ่าย และแม้แต่คอนเสิร์ต ครั้งสุดท้ายฉันอยู่ในสภามิตรภาพเมื่อปลายศตวรรษที่แล้ว แผนกต้อนรับของรัฐบาลสหพันธรัฐรัสเซียเปิดเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2549 และขณะนี้คฤหาสน์ปิดให้บริการแก่ชาวมอสโกและแขกของเมืองหลวง
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคฤหาสน์ของ Morozov ในรายงาน

คุณเดินอย่างไร้จุดหมาย มองไปรอบๆ บางสิ่งบางอย่างดึงดูดสายตา สิ่งที่คุณไม่ได้สังเกตเลย และบางครั้งคุณยืนมองดู ... ดังนั้นฉันจึงสะดุดกับคฤหาสน์ของ Arseny Morozov (Vozdvizhenka St. , 16) - หนึ่งในอาคารที่แปลกที่สุดในมอสโก จากนั้นฉันก็อ่านเรื่องราวของเขา น่าสนใจทีเดียว

คฤหาสน์นี้สร้างขึ้นด้วยเงินและตามความคิดของพ่อค้า Arseniy Morozov ผู้ชื่นชอบสไตล์มัวร์ การก่อสร้างคฤหาสน์เสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2442

จากวิกิพีเดีย: แม้แต่ในขั้นตอนการก่อสร้างก็กลายเป็นเป้าหมายของการสนทนาเยาะเย้ยของชาวมอสโกเรื่องซุบซิบข่าวลือและวิพากษ์วิจารณ์ สิ่งพิมพ์ทางหนังสือพิมพ์. ความคิดเห็นของประชาชนนำคฤหาสน์ที่แปลกใหม่ออกมาอย่างไม่เห็นด้วย เป็นการแสดงออกถึงความเวิ้งว้างอย่างสุดขั้ว บทสนทนาเกี่ยวกับการก่อสร้างสะท้อนให้เห็นในนวนิยายเรื่อง "การฟื้นคืนชีพ" ของ LN Tolstoy (ตีพิมพ์ในปี 2442): เจ้าชาย Nekhlyudov ขับรถไปตาม Volkhonka สะท้อนถึงการสร้าง "วังที่โง่เขลาที่ไม่จำเป็นสำหรับคนโง่และไม่จำเป็น" หมายถึง Morozov's กิจการ . มีตำนานเล่าว่าแม่ของ Arseny ที่โกรธจัดและปากแหลม ไปเยี่ยมลูกชายที่เพิ่งสร้างใหม่เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2442 พูดในใจว่า: ก่อนหน้านี้ฉันรู้เพียงคนเดียวว่าเธอเป็นคนโง่ แต่ตอนนี้ทุกคนในมอสโกจะได้รู้!

ความต่อเนื่องของเรื่องราวจาก Wikipedia: Arseny Morozov ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามผู้ใช้จ่ายอย่างประหยัดและชื่นชอบ ไม่ได้ลิขิตให้อยู่ในความหรูหราของบ้านที่แปลกใหม่มาเป็นเวลานาน ครั้งหนึ่งในปี 1908 เขากล้ายิงตัวเองที่เท้า พยายามพิสูจน์ว่าเขาจะไม่รู้สึกเจ็บปวดด้วยความแข็งแกร่งของจิตใจที่พัฒนาขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากเทคนิคลึกลับของ Mazyrin พิษในเลือดเริ่มต้นขึ้นซึ่งเขาเสียชีวิตในอีกสามวันต่อมาเมื่ออายุ 35 ปี

ตามความประสงค์ของ Morozov Nina Aleksandrovna Konshina ผู้เป็นที่รักของเขาได้กลายเป็นทายาทของบ้านใน Vozdvizhenka Vera Sergeevna ภรรยาตามกฎหมายของ Morozov ซึ่งเขาไม่ได้อาศัยอยู่มาตั้งแต่ปี 2445 พยายามท้าทายเจตจำนงนี้โดยอ้างถึง โรคทางจิต Arseniy Abramovich และด้วยเหตุนี้ความไร้ความสามารถของเขา ศาลพบข้อโต้แย้งของ V. S. Morozova ที่ไม่สามารถป้องกันได้และ N. A. Konshina เข้าครอบครองบ้านซึ่งขายให้กับ Leon Mantashev คนขายน้ำมันทันทีลูกชายของ A. I. Mantashev

หลังจาก การปฏิวัติเดือนตุลาคมบ้านกลายเป็นสำนักงานใหญ่ของผู้นิยมอนาธิปไตย แต่ไม่นาน ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2461 คณะเคลื่อนที่แห่งแรกของโรงละคร Proletkult ได้ย้ายมาที่นี่ ที่โรงละครกวี Sergei Yesenin และ Sergei Klychkov อาศัยอยู่ในบ้าน ในช่วงต้นทศวรรษ 1920 Sergei Eisenstein ได้ร่วมมือกับเธอ ทำให้เกิดการแสดงแนวเปรี้ยวจี๊ดหลายครั้งภายในกำแพงของคฤหาสน์ Morozov โรงละครครอบครองอาคารจนถึงปี พ.ศ. 2471

ในช่วงปลายทศวรรษ 1920 อาคารนี้ถูกส่งมอบให้กับสำนักงานกรมการต่างประเทศ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2471 ถึง พ.ศ. 2483 สถานทูตญี่ปุ่นตั้งอยู่ที่นี่ ในปี พ.ศ. 2484-2488 - บริการของสถานทูตอังกฤษและกองบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ "British Ally"; ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 เป็นเวลาสองปี - สถานเอกอัครราชทูตอินเดีย ในปีพ.ศ. 2502 สหภาพสังคมโซเวียตเพื่อมิตรภาพและความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมกับต่างประเทศ (SSOD) ได้กลายเป็นเจ้าของอาคาร คฤหาสน์นี้เรียกว่า House of Friendship with the People of Foreign Countries หรือในชีวิตประจำวัน House of Friendship of Peoples มีการจัดประชุม พบปะกับบุคคลสำคัญทางวัฒนธรรมต่างประเทศ ฉายภาพยนตร์ในบ้าน

ปัจจุบันคฤหาสน์นี้ใช้สำหรับงานราชการและการทูตต่างๆ

น่าเสียดายที่คฤหาสน์ไม่สามารถเข้าถึงได้สำหรับมนุษย์ทั่วไป

ผู้ที่สร้างคฤหาสน์ที่สะดุดตาบน Vozdvizhenka ได้รับการขนานนามว่าเป็นคนไร้ค่าและแม่ของเขาเรียกเขาว่าคนโง่: สถาปัตยกรรม Neo-Gothic Moorish ซึ่งไม่ธรรมดาสำหรับมอสโกทำให้พวกเขา "น่ารำคาญ" ในทางกลับกัน ลูกหลานชื่นชมคุณค่าอันแท้จริงของพวกที่อยู่ข้างหลัง ไม่ว่าจะเป็นสถานทูตต่างประเทศ หรือสภามิตรภาพประชาชน หรือสภารับรองของรัฐบาลรัสเซียอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม คฤหาสน์หลังนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย แม้ว่าพนักงานต้อนรับจะเริ่มต้นที่นี่ตั้งแต่เริ่มต้น และในระดับที่คุณไม่ได้เห็นบ่อยนักแม้แต่ตอนนี้ สำหรับเจ้าของเขาใช้นามสกุล Morozov ที่มีชื่อเสียง

ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่นิยม คฤหาสน์ที่ 16 Vozdvizhenka ไม่ได้สร้างขึ้นโดย Savva Morozov นักธุรกิจและผู้ใจบุญก่อนการปฏิวัติที่รู้จักกันดี แต่โดย Arseniy ลูกพี่ลูกน้องของเขาซึ่งเกือบจะตั้งแต่วัยเด็กมี "ความรุ่งโรจน์" ของผู้ชื่นชอบและ เตาเผาทุนผู้ปกครอง และมีบางอย่างที่จะเผาไหม้ Varvara Alekseevna แม่ของ Arseny มาจากตระกูลพ่อค้า Khludov ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานกระดาษรัสเซียแห่งแรกที่ติดตั้งเครื่องยนต์ไอน้ำ พ่อของเขา อับราม อับราโมวิช (ลูกพี่ลูกน้องของซาวา โมโรซอฟ) เป็นเจ้าของโรงงานตเวียร์ และในไม่ช้าผู้บริหารขององค์กรก็ตกไปอยู่ในมือของภรรยาของเขา หญิงสาวที่ฉลาด ดื้อรั้น และสวยงามอย่างน่าประหลาดใจ เธอเป็นผู้คิดไอเดียที่จะมอบของขวัญสุดหรูให้ลูกชายของเธอในวันเกิดครบรอบ 25 ปีของเขา ซึ่งเป็นที่ดินผืนใหญ่ในใจกลางกรุงมอสโก บน Vozdvizhenka ต้องบอกว่าถึงอย่างนั้น (และในสนามก็ยืน ปลายXIXศตวรรษ) กับที่ดินใจกลางเมืองไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป แต่โอกาสช่วยได้

สิ่งนี้ถูกมองเห็นโดย Varvara Alekseevna Morozova ศิลปินชาวรัสเซีย Vladimir Makovsky (ภาพต้นฉบับถูกเก็บไว้ใน Tretyakov Gallery)

ในช่วงปลายยุค 60 ของศตวรรษที่ 19 มีคณะละครสัตว์ปรากฏขึ้นใกล้กับจัตุรัส Arbatskaya ซึ่งเป็นอาคารไม้ที่สวยงามซึ่งสร้างโดย Karl Ginne ซึ่งเป็นตัวแทนของราชวงศ์ละครสัตว์ที่มีชื่อเสียงของเยอรมัน สถานบันเทิงแห่งใหม่นี้ ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามด้วยโปรแกรมที่น่าตื่นตาตื่นใจและทำเลที่ดี และทั้งๆ ที่มีการแข่งขันกันอย่างยิ่งใหญ่กับคณะละครสัตว์อื่นๆ ที่มีอยู่แล้วในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม คณะละครสัตว์ยอดนิยมมีอยู่จนถึงปี พ.ศ. 2435 เมื่อเกิดเพลิงไหม้และอาคารไม้ก็กลายเป็นกองเพลิงทันที มีข่าวลือว่าคู่แข่งมีส่วนร่วมในเหตุการณ์นี้ แต่ไม่พบหลักฐานการลอบวางเพลิงที่แท้จริง สำหรับ Carl Ginne สิ่งที่เกิดขึ้นคือเดจาวูตัวจริง ความจริงก็คือในปี 1859 คณะละครสัตว์อีกแห่งของเขาในกรุงวอร์ซอถูกไฟไหม้ แต่ถ้า Ginne สามารถเอาชีวิตรอดจากโศกนาฏกรรมครั้งแรกและต่อมาก็ยกธุรกิจละครสัตว์ของเขาเป็น รอบใหม่แล้วคดีในมอสโกก็เขย่าขวัญเขาอย่างรุนแรง ฐานะการเงิน. สาธารณชนที่เคารพซึ่งเคยพูดถึงการแสดงของจินเน่ด้วยความกระตือรือร้นเช่นนั้น ได้ย้ายไปยังสถานประกอบการอื่นอย่างรวดเร็ว นักแสดงละครสัตว์จึงคิดว่าเป็นการดีที่จะไม่ซ่อมแซมอาคาร แต่ให้ขายสถานที่ และแม่ของ Arseniy Morozov ก็กลายเป็นผู้ซื้อ

หน้าตาแบบนี้ การแสดงละครสัตว์ในศตวรรษที่ 19 (ภาพวาดโดย Georges Pierre Seurat ลัทธิหลังสมัยใหม่ 2434)

หลังจากได้รับของขวัญแล้ว Arseniy ก็จำ Viktor Mazyrin ได้ทันทีซึ่งเขาพบเมื่อหลายปีก่อนในเบลเยียมที่งาน World Exhibition ในเมือง Antwerp มาซิริน ตอนนั้นมันดีอยู่แล้ว สถาปนิกชื่อดังดึงดูดความสนใจของ Morozov ไม่เพียง แต่จากศูนย์รวมอันงดงามของเขา ความคิดสร้างสรรค์แต่ด้วยความคิดริเริ่มของมัน ดังนั้นท่านจึงค่อนข้างยืนยันอย่างจริงจังว่าใน ชีวิตที่ผ่านมาเป็นชาวอียิปต์และสร้างปิรามิด ดังนั้นประสบการณ์ของเขาในการสร้างจึงคำนวณมาหลายศตวรรษ ข้อความดังกล่าวทำให้ใครบางคนหัวเราะ แต่ในทางกลับกัน Morozov กลับเพิ่มความน่าสนใจให้กับผู้สร้างเท่านั้น

ผู้สร้างชาวอียิปต์ "กลับชาติมาเกิด" ในรูปของสถาปนิก Viktor Mazyrin (ภาพซ้าย) และ "คนไร้ค่า" Arseniy Morozov

“แล้วเราจะสร้างในรูปแบบใด” Mazyrin ถามลูกค้าใหม่ของเขา “แล้วพวกนั้นล่ะ?” Morozov ตอบคำถามด้วยคำถาม อย่างไรก็ตาม ทันทีที่สถาปนิกมีเวลาเขียนรูปแบบสามหรือสี่รูปแบบ Arseny ก็ขัดจังหวะเขาและตัดสินว่า: “ระบบในทุกรูปแบบ! ฉันมีเงินเพียงพอสำหรับทุกสิ่ง" อย่างไรก็ตามด้วยถ้อยคำดังกล่าวเมื่อความต้องการของลูกค้าไม่สามารถเข้าใจได้อย่างสมบูรณ์เงินไม่ใช่ทุกอย่าง Mazyrin เข้าใจสิ่งนี้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นเขาจึงโกงและแนะนำให้ Morozov เดินทางไปทั่วยุโรปด้วยกันและมองหาต้นแบบของ "บ้านในทุกรูปแบบ" ที่ Arseny ต้องการ และพวกเขาก็ทำเช่นนั้น พบบ้านในอุดมคติในโปรตุเกสใจกลางเมืองซินตรา กลายเป็นปาลาซิโอ นาซิโอนาล ดา เปนา ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโปรตุเกส อาคารหลังนี้สร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 โดยผสมผสานองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมยุคกลางแบบมัวร์และมานูเอลีน ซึ่งเป็นรูปแบบประจำชาติของโปรตุเกส ซึ่งเป็นที่นิยมในศตวรรษที่ 15-16

Palácio Nacional da Pena ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นต้นแบบของคฤหาสน์ที่ 16 Vozdvizhenka

เมื่อกลับมาที่รัสเซีย Mazyrin เริ่มพัฒนาโครงการ หินก้อนแรกของคฤหาสน์ในอนาคตของ Arseny Morozov ถูกวางในปี 1897 และในปี 1899 การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว: สำหรับเวลานั้นความเร็วในการก่อสร้างสูงผิดปกติ สไตล์มัวร์แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนที่สุดในการออกแบบทางเข้าหลัก เช่นเดียวกับหอคอยสองหลังที่ตั้งอยู่สองด้านของทางเข้าหลัก ในส่วนอื่นๆ ของโครงสร้างนี้ สถาปัตยกรรมเป็นแบบผสมผสาน ตัวอย่างเช่น ช่องหน้าต่างบางส่วนตกแต่งด้วยเสาแบบคลาสสิก และโครงสร้างที่ไม่สมมาตรโดยทั่วไปของคฤหาสน์เป็นแบบอาร์ตนูโวมากกว่า การผสมผสานระหว่างการตกแต่งภายในของอาคารยังคงไว้ซึ่งความผสมผสาน ตัวอย่างเช่น ห้องอาหารที่เรียกว่า "ห้องโถงอัศวิน" ตกแต่งในสไตล์โกธิก ส่วนผู้หญิงครึ่งหลังของบ้านตกแต่งในสไตล์บาโรก ห้องนั่งเล่นเป็นแบบเอ็มไพร์ และองค์ประกอบหลายอย่างของบ้าน การตกแต่งอาคารทำในลักษณะพิลึก

ภายในห้องโถงแห่งหนึ่งในคฤหาสน์ของ Arseniy Morozov

ผู้ร่วมสมัยของ Arseny Morozov มองในแง่ลบเกี่ยวกับอาคารที่แปลกใหม่สำหรับมอสโก ความคิดเห็นสาธารณะแสดงแม้ในนวนิยายเรื่อง "Sunday" โดย Leo Tolstoy งานนี้ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2442 และเจ้าชาย Nekhlyudov ซึ่งเป็นวีรบุรุษของงานซึ่งขับรถไปตามถนน Volkhonka ได้ไตร่ตรองถึงการสร้าง "พระราชวังที่โง่เขลาที่ไม่จำเป็นสำหรับคนโง่และไม่จำเป็น" สามารถสันนิษฐานได้ว่า เรากำลังพูดถึงเกี่ยวกับ Arseny Morozov และคฤหาสน์ของเขา แต่ Varvara Morozova ได้ให้การประเมินที่คมชัดที่สุดของอาคารที่ไม่ธรรมดา “แต่ก่อนฉันคนเดียวที่รู้ว่าคุณเป็นคนโง่ แต่ตอนนี้ทุกคนในมอสโกรู้แล้ว!” เธอพูดกับลูกชายของเธอเมื่อรู้ว่าเขาทำอะไรกับที่ดินที่เธอบริจาค Arseny ถูกกล่าวหาว่ามีรสนิยมไม่ดีและพี่ชายสองคน สำหรับข้อกล่าวหาทั้งหมด เขาตอบว่าบ้านของเขาจะอยู่ได้นานหลายศตวรรษ

ทุกคนที่บังเอิญผ่านไปก็พูดถึง "วังโง่"

อย่างไรก็ตาม Arseniy Morozov ในประวัติศาสตร์ของเรากลายเป็นฮีโร่ที่ฉลาดและมองการณ์ไกล นี้ไม่เป็นความจริงทั้งหมด หลานชายของลูกพี่ลูกน้องของ Morozov เป็นคนร่าเริงและคนทั่วไปรู้จักทั่วมอสโก แต่ Arseny พูดถูกในสิ่งหนึ่ง คฤหาสน์ที่เขาสร้างมีมานานกว่าศตวรรษและดูเหมือนจะยืนยาวมาก จริง Morozov เองสามารถอาศัยอยู่ในนั้นได้เพียงเก้าปี ในปี 1908 ที่การดื่มเหล้าครั้งหนึ่ง Arseniy แย้งว่าบุคคลสามารถทนต่อความเจ็บปวดใด ๆ และยิงตัวเองที่เท้าด้วยปืนพก พวกเขาโต้เถียงกันเรื่องคอนยัค Morozov ไม่ได้กรีดร้องหลังจากการยิงและชนะการโต้เถียง แต่ถึงกระนั้นหลังจากนั้นเขาก็ไม่ไปหาหมอ แต่ยังคงดื่มต่อไป สามวันต่อมา Arseniy Morozov เศรษฐีผู้แปลกประหลาดและก่อปัญหาในวัย 35 ปี เสียชีวิตด้วยพิษเลือด

หลังการปฏิวัติ สไตล์นีโอโกธิกในที่สุดอาคารก็ได้รับการชื่นชม มีคนมากเกินพอที่ต้องการตั้งรกรากอยู่ในบ้านของ "คนโง่" Morozov ในปีพ.ศ. 2460 ทันทีหลังจากการล้มล้างระบอบการปกครองของซาร์ พวกอนาธิปไตยก็ยึดคฤหาสน์เป็นสำนักงานใหญ่ของพรรค อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าพวกเขาก็มีข้อขัดแย้งมากมายกับพวกบอลเชวิค พวกอนาธิปไตยถูกขับไล่ออกจากคฤหาสน์ และในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2461 คณะละครของโรงละคร Proletkult ของ First Workers ได้ย้ายไปอยู่ที่ Vozdvizhenka อายุ 16 ปี โรงละครครอบครองอาคารนี้มาประมาณสิบปี และในปี พ.ศ. 2471 คฤหาสน์ก็ถูกย้ายไปอยู่ที่สำนักงานผู้แทนราษฎรเพื่อการต่างประเทศ จนถึงปีที่ 40 ของศตวรรษที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นตั้งอยู่ที่นี่ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง - กองบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ "British Ally"; ตั้งแต่ พ.ศ. 2495 ถึง พ.ศ. 2497 - สถานเอกอัครราชทูตอินเดีย

ในช่วงมหาราช สงครามรักชาติคฤหาสน์หลังนี้เป็นที่ตั้งของกองบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ British Ally

ในช่วงปลายยุค 50 ของศตวรรษที่ผ่านมา "สหภาพสังคมโซเวียตเพื่อมิตรภาพและความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมกับประชาชนในต่างประเทศ" ได้ตั้งรกรากอยู่ที่นี่ คฤหาสน์ของ Arseniy Morozov เริ่มถูกเรียกว่า House of Friendship of Peoples: มีการสาธิตภาพยนตร์ต่างประเทศการประชุมและการแถลงข่าวกับศิลปินต่างประเทศ และในช่วงต้นทศวรรษ 2000 "House of the Fool" อยู่ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีรัสเซียและในปี 2549 แผนกต้อนรับของรัฐบาลสหพันธรัฐรัสเซียได้เปิดขึ้นที่นั่น ดังนั้น "โมโรซอฟ" ที่ทันสมัยจะไม่สามารถอยู่ที่นั่นได้อีกต่อไป แต่คุณสามารถหาตัวเลือกในบริเวณใกล้เคียงได้ จริงไม่บ่อย แต่คุณสามารถรับอพาร์ทเมนต์ให้เช่า ตัวอย่างเช่นในบ้าน 6 บน Vozdvizhenka สำหรับ 150,000 rubles ต่อเดือนอพาร์ทเมนต์ขนาด 150 ตารางเมตรให้เช่า ม.และในบ้าน 5/25 อพาร์ตเมนต์พื้นที่ 50 ตร.ว. เมตร คุณสามารถเช่าได้แม้วันเดียว ราคาปัญหาคือ 3.5 พันรูเบิลต่อวัน แน่นอนว่าคุณแทบจะมองไม่เห็น “บ้านของคนโง่” จากหน้าต่างของอพาร์ทเมนท์เหล่านี้ แต่ทุกเย็นหลังจากก้าวไปไม่กี่สิบก้าว คุณก็จะได้ชื่นชมด้านหน้าอาคารที่สว่างไสวอย่างตระการตา และตื่นตาตื่นใจกับผู้ร่วมสมัยของ Morozov อีกครั้ง ไม่เหมือนปาฏิหาริย์ openwork นี้

Ekaterina Shablova และ Daria Kuznetsova ผู้สื่อข่าวของพอร์ทัล GdeEtoDom.RU

ครอบครัวของพ่อค้า Morozov เป็นหนึ่งในผู้มีอำนาจมากที่สุด แรงผลักดันในการพัฒนาอุตสาหกรรมและวัฒนธรรมรัสเซีย กิ่งก้านต่าง ๆ ของครอบครัวมีอิทธิพลต่อความเป็นมลรัฐตลอดศตวรรษที่ 19 - พวกเขาสร้างระบบทุนนิยมด้วยมือข้างหนึ่งและปลูกฝังแนวคิดการทำลายล้างของลัทธิสังคมนิยมภายใต้แนวคิดนี้ร่วมกับอีกฝ่ายหนึ่ง ได้รับการศึกษาที่ยอดเยี่ยมในมหาวิทยาลัยในยุโรป ทายาทของผู้ก่อตั้งราชวงศ์มีความโดดเด่นด้วยอารมณ์ที่เฉียบแหลมและความผิดปกติมากมาย ผู้ผลิตจึงไม่หวงแหนในการสร้างคฤหาสน์สำหรับตนเองและครอบครัว หนึ่งในบ้านดั้งเดิมที่สุดของ Morozovs คือที่ดินบน Vozdvizhenka

Morozov บน Vozdvizhenka

บน Vozdvizhenka คฤหาสน์ Morozov สองหลังตั้งอยู่ติดกัน แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในด้านสถาปัตยกรรม หนึ่งในนั้นในสไตล์นีโอคลาสสิกเป็นของ Varvara Morozova ในฐานะทายาทของอาณาจักรสิ่งทอ Khludov เธอแต่งงานกับ Abram Morozov ผู้ผลิตและเจ้าสัวสิ่งทอ

หลังจากการตายของสามีของเธอ เธอประสบความสำเร็จในการบริหารโรงงานตเวียร์ ทำงานการกุศล และเป็นผู้นำองค์กร ชีวิตสาธารณะและเป็นแม่ของลูกชายสามคน Arseniy Morozov น้องคนสุดท้องได้รับของขวัญเป็นที่ดินถัดจากบ้านแม่ของเขา และสร้างบ้านช้ากว่าที่ดินของแม่มาก

โครงการบ้านของ Morozova บน Vozdvizhenka สร้างขึ้นโดยสถาปนิก R. Klein เป็นครั้งแรกของเขา งานอิสระ. ที่ดินในเมือง 2 ชั้นนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2431 ด้านหน้าของบ้านหันหน้าไปทาง Vozdvizhenka และแยกจากถนนด้วยสวนเล็กๆ ที่มีน้ำพุ เสาหินด้านข้างสองข้างที่มีมุขโดดเด่นในการตกแต่ง ตกแต่งด้วยรูปปั้นกริฟฟินและดอกบัวหิน บ้านหลังนี้ตั้งอยู่บนฐานสูงและค่อนข้างคล้ายกับพาลาซโซสไตล์อิตาลีที่เก๋ไก๋ อย่างน้อยก็ตามคนรุ่นก่อน

ห้องพัก 23 ห้องได้รับการออกแบบบนสองชั้นของบ้านของ Morozova บน Vozdvizhenka ห้องโถงใหญ่รองรับแขกได้มากถึง 300 คน และในวันรื่นเริงรองรับแขกได้มากถึง 500 คน พื้นที่เพิ่มเติมอยู่ในห้องใต้ดินมี 19 ห้อง จาก มือเบาบรรดาผู้เป็นที่รัก บ้านนี้จึงกลายเป็นร้านเสริมสวยที่ทันสมัย ที่ซึ่งนักคิดหัวก้าวหน้า ขุนนางแห่งจิตวิญญาณ นักเขียน และนักปรัชญามารวมตัวกันเพื่อรับประทานอาหารค่ำ Varvara Morozova เป็นที่รู้จักในฐานะเสรีนิยมและสนับสนุนความคิดที่ก้าวหน้าจนกระทั่งสิ้นสุดวันของเธอซึ่งรัฐบาลปัจจุบันไม่ชอบดังนั้นการควบคุมความลับของตำรวจจึงไม่ถูกถอดออกจากเธอจนกว่าเธอจะเสียชีวิต

ก่อนการปฏิวัติเธอไม่ได้มีชีวิตอยู่สักหน่อย - เธอเสียชีวิตในเดือนกันยายน พ.ศ. 2460 วิถีชีวิตใหม่จะเหมาะกับเธอค่อนข้างดี ในความทรงจำของ Varvara Morozova ยังคงอยู่ ห้องสมุดสาธารณะในมอสโก, เมือง Morozov ในตเวียร์, โรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยทางจิต, สถาบันมะเร็ง, โรงเรียนอาชีวศึกษาและอีกมากมาย

ค้นหาไอเดีย

วันนี้คฤหาสน์ของ Morozova เป็นของฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซียมีการจัดงานเลี้ยงรับรองของคณะผู้แทนต่างประเทศ จากความซับซ้อนทางประวัติศาสตร์ ตัวบ้าน เกตเฮาส์ และอาคารหลังหลังได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสมบูรณ์ ออกแบบโดยสถาปนิก V. Mazyrin อาจารย์คนนี้กลายเป็นผู้เขียนหนึ่งในอาคารที่โดดเด่นที่สุดในมอสโกซึ่งสร้างขึ้นสำหรับลูกชายของ Varvara Morozova - Arseny

ลูกหลานของตระกูลพ่อค้าคนนี้ไม่ได้โดดเด่นในทางใดทางหนึ่ง การเดินทางเป็นสิ่งเดียวที่เขาหลงใหล หลังจากได้รับของขวัญวันเกิดจากแม่ในปี พ.ศ. 2438 ที่ดินที่น่าประทับใจซึ่งอยู่ติดกับคฤหาสน์ของเธอ Arseniy Morozov ตัดสินใจว่าเขาต้องการสร้างบ้าน แต่เขาไม่มีความคิดเฉพาะเจาะจง Viktor Mazyrin ได้รับคำสั่งสำหรับโครงการ แต่ไม่ได้รับคำแนะนำจากเจ้าของเกี่ยวกับลักษณะของคฤหาสน์ในอนาคต

ตัดสินใจที่จะดึงแรงบันดาลใจจากการเดินทางร่วมกันไม่พบแบบอย่างในทันที ในเมืองซินตราของโปรตุเกส ทายาทของ Morozovs ชอบสิ่งที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 สำหรับพระมหากษัตริย์ในท้องถิ่น เพื่อสร้างในมอสโกอาคารที่มีขนาดเช่น พระราชวังในโปรตุเกสไม่จำเป็น แต่ผู้เข้าร่วมการเดินทางทั้งสองชอบแนวคิดในการสร้างบ้านในสไตล์มัวร์หลอก

เรื่องอื้อฉาวทางสถาปัตยกรรม

กำหนดรูปลักษณ์ของอาคารไปในทิศทางใดก็ได้ รูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นไปไม่ได้ การผสมผสานและบุคลิกที่สดใสทำให้บ้านของ Morozov เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าจดจำของเมืองหลวง เริ่มก่อสร้างอย่างไม่แน่นอนในปี พ.ศ. 2440 และสิ้นสุดใน โดยเร็วที่สุด. อีกสองปีต่อมาบ้านของ Morozov นั้นน่าประหลาดใจหยอกล้อและตกตะลึงในมอสโกด้วยความผิดปกติ

แม้แต่ในระหว่างขั้นตอนการก่อสร้าง คฤหาสน์ก็ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากทั้งโลกและสื่อ ปฏิกิริยาของแม่ก็ชัดเจนเช่นกัน Arseniy รู้สึกขบขันจากการโจมตีทั้งหมดเล่าเรื่องซุบซิบทั้งหมดซ้ำแล้วซ้ำอีกเขายังกล่าวถึงคำพูดของ V. Morozova:“ ก่อนหน้านี้ฉันคนเดียวรู้ว่าคุณเป็นคนโง่ของฉัน แต่ตอนนี้มอสโกทุกคนรู้ ” วลีนี้กลายเป็นตำนานโดยไม่ได้มีส่วนร่วมของ Arseny และญาติที่เหลือไม่ได้ยืนเคียงข้างกัน

บ้านของ Morozov ทำให้เกิดการโจมตีจากลุงและพี่น้องของครอบครัวใหญ่ แต่ ทายาทหนุ่มพยากรณ์ตอบว่าบ้านของเขาจะคงอยู่ตลอดไปและไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับของสะสมของพวกเขา วรรณกรรมมอสโกสนุกกับการล้อเล่นเกี่ยวกับการปรากฏตัวของบ้าน - นักแสดง M. Sadovsky ได้อุทิศบทกวีที่กัดกร่อนให้กับคฤหาสน์ Leo Tolstoy ทำให้เป็นอมตะในนวนิยายเรื่อง Resurrection ในการก่อสร้างบ้านที่น่าตกตะลึง อาจเป็นเพราะความพิศวงของ Morozov ที่โด่งดังของ Arseny ได้แสดงออก บังคับให้มอสโกและรัสเซียทั้งหมดแข่งกันเพื่อหารือเกี่ยวกับราชวงศ์มานานกว่าร้อยปี แม้กระทั่งทุกวันนี้ ตัวแทนของตระกูลพ่อค้ารายนี้ก็ยังได้รับความสนใจอย่างแท้จริง

คำอธิบาย

ซุ้มของคฤหาสน์ตกแต่งด้วยเปลือกหอยผู้ชื่นชอบยอมรับว่าองค์ประกอบการตกแต่งที่ราบเรียบนี้ถูกยืมโดย Mazyrin ในสเปนจากสถานที่ท่องเที่ยวหลักของเมือง Salamanca - บ้าน Casa de las Conchas เชื่อว่าเปลือกหอยนำมาซึ่งความสุขและความโชคดี สไตล์มัวร์ในการออกแบบทางเข้าหลักมีหอคอยสองหลังที่ตั้งอยู่อย่างสมมาตร มียอดฟันที่สลับซับซ้อนเป็นรูปมงกุฎและคาดรอบขอบบนด้วยการแกะสลักอย่างชำนาญ

ทั้งสองด้านของซุ้มประตูด้านหน้าประตูมีเสาสองเสาเป็นรูปเชือกสามเส้นพันกันและรอบ ๆ ประตูมีการแกะสลักเชือกผูกปมทะเลซึ่งเป็นองค์ประกอบที่นำโชคตาม ความเชื่อของชาวโปรตุเกส เหนือทางเข้าหลักมีสัญลักษณ์แห่งความโชคดีอีกสองสัญลักษณ์ - เกือกม้าเพื่อเป็นเครื่องบรรณาการให้กับประเพณีของรัสเซีย และมังกรที่ถูกจับซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของตะวันออกและเอเชีย อาคารทุกหลังของคฤหาสน์อันน่าทึ่งนี้ล้อมรอบด้วยเชือกที่ทำขึ้นจริง ซึ่งบางครั้งก็ผูกเป็นปม

วันนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าไปในห้องของบ้าน Morozov แต่มีข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับการตกแต่งภายใน เจ้าของเมืองหลวงนับล้านเมื่อถูกถามว่าจะตกแต่งห้องในลักษณะใดมักจะตอบว่า: "ทั้งหมด" แฟชั่นสำหรับทุกสไตล์เกิดขึ้นอย่างมั่นคงในปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ดังนั้นห้องบอลรูมจึงเสร็จสิ้นเหมือนพระราชวังกรีก ห้องนอนสอดคล้องกับสไตล์โรโคโคหรือห้องส่วนตัวในจิตวิญญาณของหลุยส์ที่ 4 ยินดีต้อนรับสัญลักษณ์การล่าสัตว์ในสำนักงานของผู้ชาย

ข้างในคืออะไร

บ้านของ Morozov รองรับทิศทางของรูปแบบการผสม แต่การเลือกธีมสำหรับห้องโถงถูกสร้างขึ้นโดยเจ้าของฟุ่มเฟือยด้วยวิธีที่ซับซ้อนมาก ล็อบบี้อุทิศให้กับงานอดิเรกที่ชื่นชอบอีกอย่างของ Morozov - การล่าสัตว์ ระหว่างดำรงตำแหน่งของ Arseniy Abramovich ตุ๊กตาหมีที่เขาล่ามายืนอยู่ที่นี่ หัวของหมูป่าที่ถูกฆ่า กวาง กวาง อวดอยู่ใต้เพดาน มีที่สำหรับเก็บกระรอก

การตกแต่งพื้นที่เหนือเตาผิงขนาดใหญ่แสดงให้เห็นอาวุธทุกชนิด (ธนู หน้าไม้) อุปกรณ์ล่าสัตว์ (เขา เหยี่ยว) และสัญลักษณ์ ล่าสัตว์ดีๆ- กิ่งโอ๊คสองกิ่งผูกด้วยเชือกแน่น ว่ากันว่าแมวป่าชนิดหนึ่งเชื่องเดินเตร่ไปทั่วห้องโถง

ห้องโถงที่เหลือยังได้รับการตกแต่งอย่างโอ่อ่าและเสแสร้งอีกด้วย ความหรูหราสามารถเห็นได้ในทุกมุม - กระจกอันงดงามในกรอบปิดทองในอดีตห้องส่วนตัวสูง การปั้นปูนปั้นอันหรูหราได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างไม่บุบสลายในหลายห้อง

หลังจาก Morozov

วันนี้ได้รับมอบหมายจากต่างประเทศในบ้านของ Morozov ดังนั้นจึงไม่มีทัวร์ที่นี่และนักข่าวที่หายากจะได้รับอนุญาตในไม่กี่ห้องเท่านั้น ตามบันทึกของผู้ร่วมสมัย เจ้าของบ้านมีอัธยาศัยดีและมักจะจัดงานเลี้ยง การรวมสังคมไม่ใช่เรื่องยาก - ลุงอุปถัมภ์ได้รวมโรงละครโบมอนด์เข้าด้วยกันอย่างรวดเร็วและสร้างขึ้น บริษัทร่าเริง. ในงานปาร์ตี้ มีการแสดง ร้องเพลง คุยเรื่องซุบซิบกัน และธุรกิจก็เปลี่ยนไป

Arseniy Morozov ไม่เคยเปลี่ยนธรรมชาติของเขาความตายของเขามีสีสัน - ยิงขาของเขาด้วยความกล้าหาญขณะล่าสัตว์เขาไม่สะดุ้งและบอกเพื่อน ๆ ว่าเขาไม่รู้สึกเจ็บปวดเขาเรียนรู้ทักษะนี้ในการปฏิบัติทางจิตวิญญาณ สิ่งที่กลายเป็นจุดสิ้นสุดของชีวิตของเขาไม่ชัดเจนตามเรื่องราวบางเรื่องเขามีเลือดออกจนตายตามที่คนอื่น ๆ เขาติดเชื้อเนื่องจากบาดแผลที่ไม่ได้รับการรักษาซึ่งทำให้เกิดเนื้อตายเน่า

คฤหาสน์นี้ตกเป็นของกลางหลังการปฏิวัติ ในช่วงปีแรกๆ สำนักงานใหญ่ของพวกอนาธิปไตยตั้งอยู่ในบ้าน ต่อมาคือโรงละคร Proletkult ซึ่งมีการแสดงของ Meyerhold และ Eisenstein ใน ปีก่อนสงครามพระราชวังมอบให้กับสถานทูตญี่ปุ่นและจากนั้นก็ให้สถานทูตอินเดีย จนถึงปี พ.ศ. 2546 มิตรภาพของ House of Peoples ตั้งอยู่ในห้องของบ้านของ Morozov ภายหลังการบูรณะ รัฐบาลได้ยึดอาคารไว้ สหพันธรัฐรัสเซียและใช้เพื่อรับผู้แทนจากต่างประเทศ ตัวแทนและการเจรจาของรัฐบาล การประชุมระหว่างประเทศ ฯลฯ

Morozovs อื่นๆ, Suzdal

นามสกุล Morozov ในระดับจิตใต้สำนึกบางอย่างมีความเกี่ยวข้องอย่างยิ่งกับความสำเร็จและคุณภาพสำหรับหลาย ๆ คน โรงงานผลิตใน Morozov ได้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอ ดังที่ผู้ร่วมสมัยกล่าวว่าพวกเขาสามารถหลับตาได้ ไม่มีใครสงสัยในทรัพย์สินของผู้บริโภค และไม่เพียงแต่ในรัสเซียแต่ยังในต่างประเทศอีกมากมาย

ราชวงศ์พ่อค้าขยายวงออกไปและพิพิธภัณฑ์บ้านของ Morozovs กระจัดกระจายไปทั่วรัสเซีย - ในหมู่บ้าน Glukhovo (ภูมิภาค Noginsk) ใน Syktyvkar มอสโกเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและเมืองอื่น ๆ พวกเขาทิ้งโรงงานที่มีอุปกรณ์ครบครันซึ่งใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงและแสดงให้เห็นถึงแนวทางบูรณาการในการดำเนินโครงการ ตั้งแต่แนวคิดไปจนถึงการจัดชีวิตของคนงาน

ทุกวันนี้ พ่อค้าคนเดิมมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งเติบโตขึ้นจาก ความทรงจำในอดีตบางครั้งสิ่งนี้ไม่ยุติธรรม แต่ก็เป็นผลดีต่อผู้ประกอบการเสมอ เกสต์เฮาส์ของ Morozovs ใน Suzdal เป็นโรงแรมขนาดเล็กที่กำลังพัฒนาที่ประสบความสำเร็จ

แขกได้รับเชิญให้อยู่ในหนึ่งในสามห้อง ระดับต่างๆปลอบโยน. ทำเลที่สะดวกสบายในศูนย์กลางประวัติศาสตร์และธุรกิจของเมืองช่วยให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำกับพื้นที่ที่น่าสนใจในชีวิตของมหานครสมัยใหม่ สำหรับ นักธุรกิจ- สะดวกในการแก้ปัญหาปัจจุบันโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไกลและนักท่องเที่ยวตกหลุมพรางทันที เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และ สถาปัตยกรรมโบราณ. ที่อยู่โรงแรม: ถนน Krasnoarmeisky อาคาร 13 อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าพัก

การต้อนรับขับสู้ใน Adler

เกสต์เฮาส์บน Morozova ในเมืองนี้อยู่ห่างจากชายหาดที่ได้รับการดูแลอย่างดี 400 เมตร สำหรับนักท่องเที่ยว มีห้องพัก 20 ห้องที่มีขนาดแตกต่างกันตั้งแต่หนึ่งถึงห้าคน ความสะดวกสบายให้ เครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องปรับอากาศและสุขภัณฑ์ในแต่ละห้อง, ห้องครัวส่วนกลาง, พื้นที่บาร์บีคิวในบริเวณใกล้เคียง, สนามเด็กเล่น

นอกจากนี้ยังมีบริการซักรีด ห้องรีดผ้า อินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) ตลอด 24 ชั่วโมง โดยระบบขนส่งสาธารณะ ท่านสามารถเข้าถึง Olympic Park ได้ภายใน 10 นาที เกสต์เฮาส์ (ถนน Pavlik Morozov, 67) ใน Adler เป็นทางออกที่ดีสำหรับ วันหยุดงบประมาณกับเด็กๆ หากจำเป็น ฝ่ายบริหารจะจัดบริการรับส่งฟรีจากสถานีรถไฟหรือสนามบิน ค่าห้องเริ่มต้นที่ 2 พันรูเบิลต่อคนต่อวัน

เกือบแบรนด์

สำนักสถาปัตยกรรม "Dom Morozov" ทำงานในเบลารุสและพัฒนาโครงการกระท่อมแต่ละหลังรวมถึงอาคารแนวราบทั่วไปตามโครงการที่มีอยู่ ตามคำขอของลูกค้า จะมีการเปลี่ยนแปลงตัวเลือกที่เลือกเพื่อให้ได้โซลูชันที่เหมาะสมที่สุด การประชุมเชิงปฏิบัติการนำเสนอโครงการสำเร็จรูปซึ่งโหนดของเครือข่ายวิศวกรรมการออกแบบการออกแบบได้รับการดำเนินการอย่างรอบคอบแล้ว อวกาศแต่ละห้องรวมถึงการพัฒนาในแนวคิดการออกแบบพล็อตส่วนบุคคลการออกแบบภูมิทัศน์

ข้อดีของ House of Morozovs คือโครงการบ้านโดยคำนึงถึงความชอบส่วนบุคคลของลูกค้า ความสามารถในการทำงานในโหมดสะดวก - ในระยะไกลหรือโดยตรงที่สถานที่ก่อสร้าง แพ็คเกจเอกสารถูกสร้างขึ้นตามรหัสอาคารปัจจุบัน ลูกค้าจะได้รับภาพที่สมบูรณ์ของจำนวนที่ต้องการ วัสดุก่อสร้างในทุกขั้นตอนของการก่อสร้างกระท่อม นอกจากภาพวาดแล้ว ยังได้พัฒนาและแนบไปกับ เอกสารโครงการโมเดล 3 มิติของบ้าน ห้องพัก สวน คลังแสงของสำนักรวมถึงบ้าน หลากสไตล์จากบ้านไม้แบบรัสเซียดั้งเดิมไปจนถึงโซลูชั่นแบบมินิมอล

ในฤดูใบไม้ผลิของปี 2436 ซาวา ทิโมเฟวิช โมโรซอฟ พ่อพันธุ์แม่พันธุ์และผู้ประกอบการรายใหญ่ ตัดสินใจสร้างที่ดินใหม่ในใจกลางกรุงมอสโก ใกล้สระน้ำของพระสังฆราชบนถนนสปิริโดนอฟกา Morozov มอบหมายให้ดำเนินการตามคำสั่งให้กับ Fyodor Osipovich Shekhtel วัย 33 ปีซึ่งในเวลานั้นเป็นที่รู้จักในหมู่พ่อค้าผู้มั่งคั่งและสำหรับ Morozov ผู้สร้างเดชาซึ่งเป็นหอคอยไม้ที่สวยงามซึ่งผู้ผลิตชอบมาก . แต่นี่เป็นโครงการแรกในระดับดังกล่าวสำหรับเชคเทล ทุกสิ่งที่เขาสร้างขึ้นก่อนหน้านี้ไม่สามารถเทียบได้กับบ้านของ "จักรพรรดิผู้ไม่ได้สวมมงกุฎแห่งรัสเซีย" หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมอสโกแล้ว Savva Timofeevich ไปศึกษาต่อในอังกฤษ เรียนเคมีที่เคมบริดจ์ และรู้สึกทึ่งกับ English Gothic ในเวลานั้น Shekhtel ชอบความรักในยุคกลางดังนั้นรสนิยมของลูกค้าและแรงบันดาลใจของสถาปนิกจึงเกิดขึ้นอย่างมีความสุขและนำไปสู่ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์

งานเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2437 และงานตกแต่งภายในแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2441 ตัวอาคารซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เป็นที่รู้จักในมอสโก ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของเมืองในทันที ชื่อเสียงและโชคลาภมาถึงสถาปนิก ความสำเร็จอย่างมืออาชีพและเงินจากคำสั่งนี้ทำให้ Shekhtel สร้างบ้านที่สวยงามใน Ermolaevsky Fedor Osipovich วาดภาพคฤหาสน์มากกว่า 600 แบบเป็นการส่วนตัว ไม่เพียงแต่ด้านหน้าอาคาร แต่ยังรวมถึงโคมไฟระย้า รายละเอียดการตกแต่งภายใน เฟอร์นิเจอร์ด้วย องค์ประกอบนี้มีพื้นฐานมาจากแบบแผนของปราสาทแบบนีโอกอธิคซึ่ง Morozov เห็นบางทีในแมนเชสเตอร์ซึ่งเขาศึกษา โรงงานทอผ้า: ที่นั่น Alfred Waterhouse อันโด่งดังทำงาน สร้างคฤหาสน์สไตล์นีโอกอธิคสำหรับเจ้าพ่อสิ่งทอ Shekhtel หลงใหลในทุกสิ่งใหม่ผสมผสานความมีเหตุผลแบบโกธิกเข้ากับความโรแมนติกและจิตวิญญาณของอาร์ตนูโว หนึ่งในสถาปัตยกรรมแรกในรัสเซียเขาใช้หลักการวางแผนภาพเสรีภาพในการจัดวางห้องโดยละทิ้งความสมมาตรที่บังคับ

ภายนอกคฤหาสน์มีลักษณะคล้ายปราสาทแสนโรแมนติกที่มีอาคารคล้ายหอคอย มีดหมอโค้งของหน้าต่างและประตู ค้ำยัน และเชิงเทิน ภายในห้องมีซุ้มไม้สูง มีดหมอ สิ่งมีชีวิตที่น่าอัศจรรย์มากมาย เช่น มังกร คิเมร่า กริฟฟิน ปีศาจ งดงามเป็นบันไดหลักที่มีราวบันไดโอบด้วยงูซึ่งนำไปสู่โถงทางเข้าที่ปกคลุมไปด้วยผ้าสีน้ำเงินที่มีสัญลักษณ์สีทอง ห้องรับประทานอาหารตกแต่งด้วยเตาผิงขนาดใหญ่ที่มีรูปปั้นอัศวินและเพดานไม้ ห้องนั่งเล่นตกแต่งอย่างวิจิตร โดยเฉพาะห้องนอน (Small Marble Hall) และห้องส่วนตัวของแม่บ้าน (ตู้แดง) Shekhtel ดึงดูดศิลปินชาวรัสเซียผู้ยิ่งใหญ่ M. Vrubel (1856-1910) ให้นำความคิดสร้างสรรค์ของเขาไปใช้ เขาสร้างหน้าต่างกระจกสี "อัศวิน" ซึ่งประดับห้องโถงทางเข้ากลุ่มประติมากรรม "โรเบิร์ตและเบอร์แทรม" บนบันไดหลักแผง "เช้า", "เที่ยง" และ "เย็น" ในห้องรับแขกขนาดเล็ก ( วันนี้เรียกว่า "Vrubel Hall" ด้วยความเคารพและ Morozovs เป็นเพียงห้องสูบบุหรี่!) เฟอร์นิเจอร์, เตาผิงหินทราย, โคมระย้าขนาดใหญ่ในห้องอาหารถูกสร้างขึ้นโดยการประชุมเชิงปฏิบัติการที่ดีที่สุดในรัสเซีย

ซาวา ทิโมเฟวิช โมโรซอฟ

ซีไนดา กริกอรีเยฟนา โมโรโซวา

Morozov ตั้งรกรากอยู่ในคฤหาสน์ที่ยอดเยี่ยมกับภรรยาสาวของเขาซึ่งบ้านได้รับการตกแต่งตามธรรมเนียมของพ่อค้า แต่งงานกับ Morozov เพื่อความรักไม่กลัวเรื่องอื้อฉาว ความจริงก็คือ Zinaida Grigoryevna วัย 19 ปีแต่งงานแล้วและแม้กระทั่งกับญาติพี่น้องลูกพี่ลูกน้องของ Savva และเบื่อชื่อ Morozov แล้ว ไม่สวยมากแต่ฉลาดด้วย ตัวละครที่แข็งแกร่ง Zinaida Grigorievna ซึ่งกลายเป็นนายหญิงของคฤหาสน์ได้ตั้งชื่อข่าวลือของมอสโกว่า "วัง" นำวิถีชีวิตแบบฆราวาสเพื่อให้ชาวมอสโกที่มีชื่อเสียงจำนวนมากสามารถเยี่ยมชมบ้านของเธอได้ ตัวแทนของวงการศิลปะและปัญญาชนทางศิลปะมักมารวมตัวกันที่นี่ Savva Timofeevich เป็นเพื่อนกับ Stanislavsky และ Gorky; โรงละครศิลปะมอสโกถูกสร้างขึ้นด้วยเงินของเขาเป็นหลัก Gorky เขียน Yegor Bulychev ของเขาจาก Savva Morozov Morozov ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ RSDLP ต่อต้านการใช้กองกำลังในการต่อสู้กับกองหน้า และในคฤหาสน์ของเขา Morozov ได้ปกป้อง Bauman นักปฏิวัติซึ่งกำลังหลบหนีอยู่พักหนึ่ง และนี่คือความโชคร้าย: ในเวลานี้เองที่ผู้ว่าการกรุงมอสโก Sergey Alexandrovich เองตัดสินใจไปเยี่ยม Morozov พร้อมอาหารค่ำ ... แผนกต้อนรับได้รับการตกแต่งอย่างเก๋ไก๋ที่สุด Sergei Alexandrovich นั่งอยู่ที่โต๊ะและไม่สงสัยด้วยซ้ำว่า "เพื่อนของครอบครัว Morozov" ซึ่งนั่งอยู่ที่นี่ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก Bauman นักปฏิวัติที่อันตรายที่สุดซึ่งตำรวจมอสโกทุกคนกำลังมองหาและหาไม่พบ

การปฏิวัติในปี 1905 ความไม่ลงรอยกันทางจิตทำให้ Savva Morozov ฆ่าตัวตาย ในปี พ.ศ. 2452 หญิงม่ายขายคฤหาสน์ให้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ M.P. รยาบูชินสกี้ เธอกล่าวว่าวิญญาณของ Savva ไม่อนุญาตให้เธออาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ และคาดว่าในตอนกลางคืนวัตถุบนโต๊ะจะย้ายไปอยู่ในห้องทำงานของ Morozov ได้ยินเสียงไอและการเดินที่สับเปลี่ยนของเขา ในปี 1912 ตามคำสั่งของเจ้าของคนใหม่ ศิลปิน K. Bogaevsky ได้ตกแต่งห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ด้วยแผงขนาดใหญ่สามแผ่น ซึ่งเหมือนกับของ Vrubel ถูกเรียกว่า "Morning", "Noon" และ "Evening" ในช่วงฤดูร้อนปี 2461 ตระกูล Ryabushinsky ออกจากรัสเซียปฏิวัติโดยเอาเกือบทุกอย่าง - เฟอร์นิเจอร์จาน

ในปี ค.ศ. 1920 มีโรงเรียนประจำสำหรับเด็กกำพร้าจากสาธารณรัฐบูคาราตั้งอยู่ที่นี่ และในปี พ.ศ. 2472 บ้านหลังนี้ถูกย้ายไปอยู่ที่สำนักงานการต่างประเทศประชาชน จนถึงปี พ.ศ. 2481 ผู้บังคับการตำรวจ M. M. Litvinov อาศัยอยู่ที่นี่และในที่สุดแผนกต้อนรับก็ตั้งอยู่อย่างถาวร ในปี 1973 Evgeny Konstantinovich Baikov กลายเป็นผู้อำนวยการ เขามักจะบอกว่าเขาประหลาดใจอย่างไรเมื่อมาที่ Spiridonovka ครั้งแรกอายุ 17 ปี: “สิ่งที่ผมเห็นสามารถเรียกได้คำเดียวว่า - โรงนา ผนังและเพดานถูกปกคลุมด้วยเปลือกหนาสีขาว - ต่อมาเมื่อหักล้างเรานับ 17 หรือ 19 ชั้น ปรากฎว่าหลายครั้งที่คฤหาสน์ I. V. Stalin มาเยี่ยม แต่ละครั้ง สองสามวันก่อนที่เขาจะมาเยือน ทีมจิตรกรคนอื่นๆ มาทำความสะอาดผนังและเพดานอย่างระมัดระวัง ทุกอย่างถูกฉาบปูน - ปูนเปียก ปิดทอง ปูนปั้น ... เฟอร์นิเจอร์แย่มาก - โต๊ะราชการ เก้าอี้หนังเก่า ... "การบูรณะยังดำเนินต่อไปหลายปี: พวกเขาล้างเพดานของความงามที่ยิ่งใหญ่ เปิดปูนปั้น ค้นหาเฟอร์นิเจอร์โบราณ , หยิบจาน - พอร์ซเลน, คริสตัล, ช้อนส้อมเงิน. ผู้กำกับเดินไปรอบ ๆ ร้านขายของฝากซึ่งใคร ๆ ยังสามารถซื้อภาพวาดที่ดีได้ การซื้อครั้งแรกของเขาคือภาพเหมือนโดย F. Rokotov จากนั้นตามด้วยภาพวาดโดย I. Shishkin, A. Savrasov ศิลปินของโรงเรียน Hubert Robert ... ในปี 1987 การบูรณะเสร็จสมบูรณ์และคฤหาสน์เก่าก็ปรากฏในต้นฉบับ ความงาม.

ในคืนวันที่ 4-5 สิงหาคม พ.ศ. 2538 เกิดเพลิงไหม้บ้านทั้งหลังตั้งแต่ห้องใต้หลังคาจนถึงห้องใต้ดิน เมื่อมันดับลง อาคารดูน่าอนาถ: ผนังสีดำ, เพดานถล่ม, กองไม้ปาร์เก้ที่บิดเป็นเกลียว, ขยะที่ถูกไฟไหม้, กลิ่นของการเผาไหม้เปียก แผงโซตี้ของ Vrubel เศษภาพวาดของ Bogaevsky ชิ้นหน้าต่างกระจกสี "อัศวิน" ที่เคลือบด้วยสีดำ ในห้องเล็ก ๆ ในส่วนล่างของอาคารที่ซึ่งสินค้าที่รอดตายถูกทำลาย - หนังสือ, พรม, เครื่องลายคราม, สีบรอนซ์, สำนักงานใหญ่ได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อกำจัดผลที่ตามมาของไฟไหม้ เป็นเวลา 11 เดือน ทุกวัน เจ็ดวันต่อสัปดาห์ ในสามกะ จาก 180 เป็น 300 คนไปทำงานที่ "วัตถุหมายเลข 1" ที่ซ่อนอยู่ในผ้าคลุมสีเหลือง-ขาว การก่อสร้างและการบูรณะทั้งหมดดำเนินการโดยบริษัท "Dipcomfort" และบริษัทต่างๆ ที่ได้รับเชิญทั้งในและต่างประเทศ - จากสหรัฐอเมริกา โปแลนด์ ตุรกี สโลวีเนีย วัสดุมาจากเยอรมนี จีน ออสเตรีย ฟินแลนด์ สั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์ในอิตาลี ฮังการี อินเดีย พวกเขาไม่ได้ "ช้าทีละคน" แต่มีประสิทธิภาพรวดเร็วและในเวลาเดียวกัน การสร้างคฤหาสน์ขึ้นใหม่ได้ดำเนินการตามชุดภาพวาดเก่าที่นำเสนอโดยพิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมศาสตร์ พวกเขาทั้งหมดมีลายเซ็นส่วนตัวของผู้แต่งโครงการ: Fedor Shekhtel กระทรวงการต่างประเทศได้ควบคุมสถานที่ก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง งานยังเกิดขึ้นนอกคฤหาสน์: ใน Izmailovo กลุ่มผู้บูรณะสร้างผืนผ้าใบของ Bogaevsky ขึ้นใหม่ Vrubel ได้รับการบูรณะใน Tretyakov Gallery และหน้าต่างกระจกสี "Knight" ของเขาได้รับการฟื้นฟูในลอนดอน ตัวอาคารได้รับการบูรณะใหม่ทั้งหมดให้สวยงามดังเดิม อนิจจา ตอนนี้เป็นพลเมืองธรรมดาที่ไม่สามารถไปที่นั่นได้ เมื่อสองสามปีก่อน แผนกต้อนรับของกระทรวงการต่างประเทศอยู่ในรายชื่อที่จะเยี่ยมชมในวันพิพิธภัณฑ์ แต่ตอนนี้ไม่อยู่ในรายชื่อเหล่านี้แล้ว ตอนนี้มันน่าสนใจมากขึ้นแล้วที่จะได้ดูรูปที่สวยงามของเขา การตกแต่งภายในที่ไม่ซ้ำใคร.

รูปภาพ: misha_grizli

รูปภาพ: มิแรนดาลินา