นวนิยายรหัส Da Vinci เป็นจริงแค่ไหน? รหัสดาวินชี (นวนิยาย).

บ้าน / ความรู้สึก

". หนังสือเล่มนี้ได้กลายเป็นหนังสือขายดีระดับสากล: มันถูกแปลเป็น 44 ภาษาและเผยแพร่ การไหลเวียนทั้งหมดกว่า 60 ล้านเล่ม Da Vinci Code ติดอันดับหนังสือขายดีของ New York Times หลายคนเชื่อนวนิยายเรื่องนี้ หนังสือที่ดีที่สุดทศวรรษ. นวนิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นในแนวสืบสวนระทึกขวัญนักสืบทางปัญญาสามารถปลุกความสนใจอย่างกว้างขวางในตำนานของจอกศักดิ์สิทธิ์และสถานที่ของแมรี่แม็กดาลีนในประวัติศาสตร์ของศาสนาคริสต์

พล็อต

ตามเนื้อเรื่องในหนังสือของเธอ ตัวละครหลักดร.โรเบิร์ต แลงดอน ศาสตราจารย์ด้านสัญลักษณ์ทางศาสนาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดต้องไขคดีฆาตกรรมจ๊าค เซานิแยร์ ภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ศพของซาอูนิแยร์ถูกพบเปลือยเปล่าในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ และจัดวางในลักษณะเดียวกับภาพวาดที่มีชื่อเสียงของลีโอนาร์โด ดา วินชี "วิทรูเวียน แมน" พร้อมจารึกที่เข้ารหัสไว้บนลำตัวของเขา คำจารึกนี้บ่งชี้ว่าต้องค้นหากุญแจไขปริศนาการฆาตกรรมภายใน ผลงานที่มีชื่อเสียงเลโอนาร์โด ดา วินชี. การวิเคราะห์ผลงานของ Leonardo เช่น Mona Lisa และ The Last Supper ช่วยในการไขปริศนานี้อย่างมาก ต่อมา Robert ได้พบกับหลานสาวของ Jacques Sauniere - Sophie Neveu ครอบครัวของเธอ (พ่อ แม่ พี่ชาย) เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนนี้โซฟีและโรเบิร์ตต้องไขความลับและความลึกลับมากมาย

ตัวละครหลักของนวนิยายเรื่องนี้ต้องไขปริศนาหลักสองข้อ:

Saunière กำลังปกป้องความลับอะไรและทำไมเขาถึงถูกฆ่า?
ใครเป็นคนฆ่าเซานิแยร์และใครเป็นคนวางแผนการฆาตกรรมครั้งนี้?

นวนิยายเรื่องนี้มีตุ๊กตุ่นคู่ขนานหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวละครที่แตกต่างกัน ในตอนท้ายของหนังสือทั้งหมด เนื้อเรื่องรวมตัวกันที่โบสถ์รอสลินและได้รับอนุญาต

การไขปริศนาต้องแก้ปริศนาหลายชุด ความลับอยู่ที่ตำแหน่งของจอกศักดิ์สิทธิ์ ในสังคมลับที่เรียกว่าไพรเออรี่แห่งไซอัน และในอัศวินเทมพลาร์ องค์กรคาทอลิก Opus Dei ก็เล่นด้วย บทบาทสำคัญในโครงเรื่อง

รุ่นก่อน

นวนิยายเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือ Sacred Blood and the Holy Grail ปี 1982 โดย Michael Baigent, Richard Lee และ Henry Lincoln ควรสังเกตว่าชื่อของหนึ่งในตัวละครหลักในหนังสือ Leigh Teabing เป็นการปนเปื้อนของชื่อ Leigh และ Baigent (anagram of Teabing) Lee และ Baigent ฟ้อง Brown ในเวลาต่อมา โดยโต้แย้งว่า The Da Vinci Code ไม่ใช่งานเดี่ยว แต่เป็นหนังสือในเวอร์ชั่นสมมติของพวกเขาเอง แต่ในปี 2549 ศาลได้เพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องของพวกเขา บราวน์เองโดยไม่ปฏิเสธความคุ้นเคยของเขากับ "The Sacred Blood and the Holy Grail" (ซึ่งถูกกล่าวถึงอย่างชัดเจนในบทที่ 60) กระนั้นก็ตามตั้งชื่อหนังสือของ Margaret Starbird และ "Revelation of the Templars" โดย Lynn Picknett และ Clive Prince ในกลุ่มหลัก แหล่งข้อมูล

ในทางกลับกัน หนังสือ "Sacred Blood and the Holy Grail" มีพื้นฐานมาจากการวิจัยและสมมติฐานของนักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีชาวเยอรมัน Otto Rahn ที่กำหนดไว้ในหนังสือ "Crusade Against the Grail" ("Kreuzzug gegen den Gral", 1933)

ผลแห่งความสำเร็จ

วิจารณ์ศาสนา

นวนิยายเรื่องนี้อาจไม่มีใครสังเกตเห็นโดยผู้นำศาสนาคริสต์หลายคนหากไม่ประสบความสำเร็จ และหากหน้าแรกของหนังสือไม่ยืนยันความจริงของเหตุการณ์ที่อธิบายไว้ การวิพากษ์วิจารณ์ดึงความสนใจไปที่ความไม่ถูกต้องจำนวนมากในการนำเสนอประวัติศาสตร์ การตีความ ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์และการใช้ตำนานที่ไม่ได้รับการยืนยันทุกประเภท

นักวิจารณ์ที่กระตือรือร้นที่สุดในรัสเซียคือคุณพ่อ Andrey Kuraev ผู้รวบรวมข้อเท็จจริงมากมายในเอกสารแยกต่างหากบนพอร์ทัลมิชชันนารีของเขา

คำติชมของการแปลภาษารัสเซีย

การแปลนวนิยายภาษารัสเซียซึ่งตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ AST ในปี 2547 ได้รับการวิเคราะห์เชิงวิพากษ์โดยนักภาษาศาสตร์ชาวรัสเซีย D.I. เออร์โมโลวิช ในบทความของเขา "อย่างน้อยก็ทำให้เสร็จ" เขายกตัวอย่างจำนวนมากของตัวอย่างความไม่ถูกต้องเชิงตรรกะ ศัพท์และคำศัพท์ การบิดเบือนและการละเว้นที่ทำโดยผู้แปลนวนิยายในด้านความรู้เช่นศาสนา ประวัติศาสตร์ ศิลปะ ภูมิศาสตร์ , คณิตศาสตร์, วิทยาการคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

วรรณกรรม

ไซม่อน ค็อกซ์ ผู้ทำลายรหัสดาวินชี Dan Brown's Guide to Mysteries of Mysteries "(สำนักพิมพ์ ACT, ISBN 5-17-028748-8)
Darrell Bock, "การเปิดเผยรหัส Da Vinci" (, Phoenix Publishing, ISBN 5-222-06601-0)
Michael J. Gelb, รหัสถอดรหัส Da Vinci การเปิดเผยความลับทางจิตวิญญาณของหลักการทั้งเจ็ดของเลโอนาร์โด "(, สำนักพิมพ์ Potpourri, ISBN 985-483-375-5)

หมายเหตุ (แก้ไข)

มูลนิธิวิกิมีเดีย 2010.

ดูว่า "Da Vinci Code (นวนิยาย)" ในพจนานุกรมอื่น ๆ คืออะไร:

Da Vinci Code ประเภท Da Vinci Code Thriller ... Wikipedia

The Da Vinci Code ยังเป็นชื่อภาพยนตร์ปี 2006 ที่นำแสดงโดย Tom Hanks และ Audrey Tautou "มนุษย์วิทรูเวียน" โดยเลโอนาร์โด ดา วินชี ในนวนิยายร่างของ Jacques Saunière ภัณฑารักษ์ที่ถูกฆาตกรรมของพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ถูกพบบนพื้นของพิพิธภัณฑ์ในตำแหน่งเดียวกับในภาพนี้ ... Wikipedia

The Da Vinci Code ยังเป็นชื่อภาพยนตร์ปี 2006 ที่นำแสดงโดย Tom Hanks และ Audrey Tautou รหัสดาวินชี ... Wikipedia

The Da Vinci Code ประเภท Da Vinci Code ประเภท Thriller ผู้กำกับ Ron Howard ผู้เขียนบท Akiva Goldsman ... Wikipedia

ในเวลาอันควรใน 2003 ปี, นวนิยาย"รหัสดาวินชี" เขียนโดยนักเขียนชาวอเมริกัน Danon Brownทำให้เกิดเสียงดังมาก และทั้งหมดนี้เกิดจากการที่ผู้อ่านจำนวนมากใช้สิ่งที่อธิบายในหนังสืออย่างแท้จริงเกินไป ความจริงก็คือทั้งในนิยายเองและในหนังที่อิงจากเวอร์ชั่นนั้นก็ถือว่า แมรี่ แม็กดาลีนไม่ใช่หญิงแพศยาเหมือนที่เคยได้ยินมาแต่สมัยเด็กๆ ว่าแท้จริงแล้วผู้หญิงคนนี้เป็นเมีย พระเยซูคริสต์หลังจากที่เธอเสียชีวิตแล้วเธอก็ให้กำเนิดลูกสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นทายาทโดยตรงของนักเทศน์ผู้ยิ่งใหญ่ ตัวเขาเอง พระเยซูคริสต์นำเสนอแก่เราตลอดเรื่องนี้ในฐานะลูกผู้ชาย พระเจ้า... ข้อมูลทั้งหมดนี้มอบให้เราในรูปแบบของปริศนาที่ซับซ้อนซึ่งคาดว่าข้อมูลลับทั้งหมดนี้จะถูกเก็บไว้ ปีที่ยาวนานเพราะทายาท ของพระคริสต์มีอันตรายถึงตายอยู่เสมอ

อย่างไม่ต้องสงสัย แดน บราวน์ มีความรู้เชิงสัญลักษณ์ ประวัติศาสตร์ศาสนา วิทยาการเข้ารหัสลับ และด้วยเหตุนี้เขาจึงสามารถดึงดูดผู้อ่านจากทั่วทุกมุมโลกด้วยนิยายของเขา คนธรรมดาในท้องถนนถูกกระแสความรู้ถ่ายทอดโดยนักเขียนในรูปแบบของนักสืบแนวสืบสวนสอบสวน แต่นักประวัติศาสตร์ที่มีประสบการณ์ได้ทุบทฤษฎีทั้งหมดที่หยิบยกมา โดย แดน บราวน์... ฉันแนะนำให้คุณดูหนังเรื่องนี้ แต่คุณไม่ควรเอาโครงเรื่องของมันเป็นมูลค่าแม้ว่าเรื่องนี้จะทำให้คุณคิดหลายสิ่งหลายอย่าง!

ปี: 2006

ประเภท:ระทึกขวัญนักสืบ

ประเทศ:สหรัฐอเมริกา มอลตา ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร

ผู้อำนวยการ:รอน ฮาวเวิร์ด

หล่อ: Tom Hanks, Audrey Tautou, Ian McKellen, Jean Reno, Paul Bettany

นักแสดงและบทบาทของพวกเขาในภาพยนตร์เรื่อง "The Da Vinci Code"

นักแสดงชาวอเมริกัน ทอม แฮงค์เล่น โรเบิร์ต แลงดอน- ศาสตราจารย์วิชาสัญลักษณ์ทางศาสนา

โรเบิร์ต แลงดอนไม่เคยแต่งงาน. เมื่ออายุได้ 9 ขวบ เขาตกลงไปในบ่อน้ำและรอดชีวิตมาได้ปาฏิหาริย์ หลังจากอุบัติเหตุครั้งนี้ พระเอกของเราก็เริ่มป่วยด้วยโรคกลัวที่แคบ

ในภาพยนตร์ "รหัสดาวินชี"ศาสตราจารย์ โรเบิร์ต แลงดอนเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมภัณฑารักษ์ พิพิธภัณฑ์ลูฟร์และเขาไม่เพียงต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขาเท่านั้น แต่ยังต้องแก้ปริศนาทางปัญญาที่ซับซ้อนที่สุดด้วยเพื่อให้เข้าใจว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไร จอกศักดิ์สิทธิ์และวิธีที่การค้นพบนี้จะช่วยมนุษยชาติให้คิดใหม่เกี่ยวกับสัญลักษณ์ที่ดูเหมือนจะทำลายล้างไม่ได้ของศาสนาคริสต์

ผลงาน ทอม แฮงค์กว้างขวางมาก นักแสดงคนนี้เป็นที่รู้จักของหลายคน และฉันจะเอ่ยถึงภาพยนตร์ที่เขาเล่นเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น บทบาทหลัก- ในความคิดของฉันนี่คือภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด อย่างแรกเลยคือควรค่าแก่การชมภาพยนตร์เรื่องนี้ "ฟอเรสท์กัมพ์", ที่ไหน ทอม แฮงค์แสดงให้เห็นอย่างเชี่ยวชาญว่าเป็นคนทื่อ แต่จริงใจและอบอุ่นมาก อย่างที่สองที่ฉันจะพูดถึงคือภาพยนตร์เรื่องนี้ "ผู้ถูกขับไล่", ในตัวเขา ทอม แฮงค์เล่น โรบินสันครูโซของเราและวันที่สามฉันจะเรียกทั้งหมด หนังดัง “กรีนไมล์”.

ออเดรย์ เตาตูเล่น Sophie Neveu- พนักงานแผนกเข้ารหัสลับของตำรวจ โซฟีช่วยศาสตราจารย์ โรเบิร์ต แลงดอนหาทางแก้ปริศนา จอกศักดิ์สิทธิ์... รัฐมนตรีสังหาร พิพิธภัณฑ์ลูฟร์เป็นปู่ของเด็กผู้หญิงคนนี้ ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาได้เข้ารหัสข้อความบางอย่างว่า โรเบิร์ตและ โซฟีโดยทุกวิถีทางจะต้องคลี่คลาย

เมื่อไหร่ Sophie Neuveยังเป็นเด็กอยู่ พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ปู่ของเธอมีส่วนในการเลี้ยงเด็กผู้หญิง Jacques Saunièreผู้ซึ่งหลงใหลในหลานสาวของเขาเรียกเธอว่าเจ้าหญิงสอนให้เธอไขปริศนาและปริศนาทุกประเภท เมื่อไหร่ โซฟีเติบโตขึ้นมา เธอตัดสินใจเรียนการถอดรหัสรหัสที่มหาวิทยาลัย เมื่อนักเรียนสาวกลับบ้านเร็วกว่าที่คุณปู่ของเธอคาดไว้และพบว่าเขาประกอบอาชีพอนาจาร การกระทำทั้งหมดของปู่และแขกของเขาดูเหมือนเป็นพิธีกรรมนอกรีตบางอย่าง สิ่งที่เธอเห็นทำให้โซฟีตกใจมากจนเธออยู่ได้ 10 ปีนั่นเอง จนกระทั่งเธอตาย Jacques Saunièreไม่ได้พูดกับเขา แม้ว่าคุณปู่ของเธอจะเขียนจดหมายถึงเธอทุกสัปดาห์ แต่เขามองหาการพบปะและต้องการคืนความสัมพันธ์อันอบอุ่นในอดีตของพวกเขาในทุกวิถีทาง

ในระหว่างขั้นตอนของปริศนาทั้งหมดจะเห็นได้ชัดว่า โซฟี เนฟทายาทของตัวเอง พระเยซูคริสต์.

ออเดรย์ เตาตู– นักแสดงสาวชาวฝรั่งเศส เกิดในปี 1976, ตอนถ่ายทำ "รหัสดาวินชี"เธออายุ 30 ปี เช่นเดียวกับนางเอกในหนังสือของเธอ

ออเดรย์ เตาตูกลายเป็นที่รู้จักจากภาพยนตร์เรื่องนี้ “เอมิลี่”,ถ้าใครไม่เคยดูหนังเรื่องนี้แนะนำให้ดูเพราะติดอันดับ 182 วางใน TOP-250.

วี 2009 ปี ออเดรย์ เตาตูเล่นในภาพยนตร์ “โคโค่ ชาแนล”ตัวละครหลัก.

นักแสดงชาวอังกฤษ Paul Bettanyเล่นพระเผือกชื่อ สิลาส... พระนักฆ่าเป็นสมาชิกนิกายคาทอลิกที่เรียกว่า Opus Dei. สิลาสสวมโซ่ - ในกรณีนี้มันเป็นโซ่ที่มีหนามแหลมซึ่งขุดเข้าไปในต้นขาของเผือก เหตุฉะนั้น ภิกษุผู้ยากไร้ผู้นี้จึงลงโทษตนเอง ให้เนื้อหนังของตนสงบลง และทนทุกข์เพื่อ ของพระคริสต์... เว้นแต่การทรมานด้วยโซ่ตรวน สิลาสถูกหลอกให้หลงตัวเอง วัยเด็กของผู้ชายคนนี้เป็นเรื่องยาก พ่อของเขาถือว่าเขาด้อยกว่าเพราะเผือก พ่อขี้เมามักจะทุบตีภรรยาและลูกชายของเขาและครั้งเดียว สิลาสทนการรังแกไม่ได้ เขาเอามีดแทงเข้าไปในพ่อที่หลับใหล การทดลองที่ยากลำบากหลายครั้งตกอยู่ที่คนเผือกจำนวนมาก คนรอบข้างเขาหลีกเลี่ยงเขา และเริ่มเรียกเขาว่าผีด้วยซ้ำ วันหนึ่ง สิลาสแม้จะลงเอยในคุกซึ่งเขาสามารถออกไปได้เพียงเพราะแผ่นดินไหวที่เริ่มทำลายกำแพงห้องขังของเขา หายจากความหิวและความกระหาย สิลาสหยิบขึ้นมาโดยนักบวช Aringarosaเขาทิ้งผู้โชคร้ายไว้ และเมื่อผู้พลีชีพนี้แข็งแกร่งขึ้น เขาต้องการเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์และเป็นผู้ช่วยของผู้ช่วยให้รอดของเขา ศรัทธาคนตาบอดใน พระเจ้านำ เซย์ลอสกับความจริงที่ว่าเขากลายเป็นนักฆ่าเลือดเย็นที่สละชีวิต "เพื่อความดี" ของเป้าหมายอันยิ่งใหญ่

Paul Bettanyเป็นที่รู้จักสำหรับหลาย ๆ คนสำหรับหนังระทึกขวัญ “ด็อกวิลล์”ที่เขาเล่นด้วย นิโคล คิดแมน. Paul Bettanyแต่งงานกับดาราสาวสวย เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี, ทั้งคู่มีลูกด้วยกันสองคน.

นักแสดงชาวฝรั่งเศส ฌอง เรโนรับบทเป็น ร้อยตำรวจเอก เบซู ฟาเช.

ในภาพยนตร์ The Da Vinci Code โดย Facheหลอกหลอน โรเบิร์ต แลงดอนเนื่องจากเขาสงสัยว่าเป็นศาสตราจารย์ด้านคดีฆาตกรรม แต่เมื่อกัปตันรู้ความจริง เขาจึงลบข้อกล่าวหาทั้งหมดออกจากตัวละครหลัก

ในหนังสือ เบซู ฟาเชรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าพี่ โอเบิร์ต แลงดอนไม่ผิด แต่ตามล่าเขาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของอาชญากรตัวจริง

ฌอง เรโนเป็นที่รู้จักกันดีในการนำแสดงในภาพยนตร์ "ลีออน"ที่ซึ่งเขาเล่นเป็นนักฆ่าวัย 45 ปีกับเด็กสาววัยรุ่นที่กำลังมีความรัก โดยทั่วไปแล้วเสน่ห์นี้ นักแสดงชาวฝรั่งเศสมากกว่า 80 ทุกบทบาทและใบหน้าของเขาก็คุ้นเคยกับแทบทุกคนที่ดูทีวี

นักแสดงชาวอังกฤษ เอียน แมคเคเลนเล่น ลี ตี๋ปิง- ตัวร้ายหลักของเรื่อง "รหัสดาวินชี".

น้ำชาแกล้งเป็นเพื่อน โรเบอร์ต้า แลงดอนเป็นเวลาหลายปี. นักวิทยาศาสตร์ผู้คลั่งไคล้ผู้นี้อุทิศทั้งชีวิตเพื่อศึกษาความลึกลับนี้ จอกศักดิ์สิทธิ์และเมื่อเขามีโอกาสค้นพบความลับและได้คำตอบสำหรับคำถามทั้งหมดที่ทรมานนักคิดมาเป็นเวลาหนึ่งศตวรรษ ชายชราคนนี้ก็พร้อมที่จะฆ่าทุกคนที่ตัดสินใจขวางทางเขา ลี ตี๋ปิงเขาเรียกตัวเองว่าครู สมาชิกในแก๊งของเขาไม่มีใครเห็นใบหน้าของเขา มีเพียงผู้ร้ายที่ไม่เปิดเผยตัวตนเท่านั้นที่เพิ่มโอกาสในการชนะ ลี ตี๋ปิงเมื่อตอนเป็นเด็กเขาเป็นโรคโปลิโอซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขายังคงพิการและเคลื่อนไหวด้วยความช่วยเหลือของไม้ค้ำยัน แต่ผู้ชายคนนี้รวยมากจนเขาสามารถมีเครื่องบินส่วนตัวและอสังหาริมทรัพย์ทั่วยุโรปดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะอุทิศ ทั้งชีวิตของเขาเพื่อธุรกิจอันเป็นที่รักของเขา

เอียน แมคเคลเลนไม่ได้ปิดบังความจริงที่ว่าเขาเป็นเกย์อย่างเปิดเผย และนักแสดงคนนี้เป็นที่รู้จักในฐานะพ่อมด แกนดัล์ฟในภาพยนตร์ซีรีส์ "ลอร์ดออฟเดอะริงส์".

พล็อต สรุป, คำอธิบาย, ความหมายของภาพยนตร์เรื่อง "The Da Vinci Code"

โรเบิร์ต แลงดอนมาจาก สหรัฐอเมริกาใน ฝรั่งเศสเพื่อจะได้อ่านรายวิชาบรรยายเรื่องสัญลักษณ์ ณ เวลานี้ใน พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ภัณฑารักษ์ถูกโจมตี Jacques Saunière.

ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต ชายผู้เคราะห์ร้ายได้ทิ้งข้อความลึกลับบางอย่างไว้ด้วยเหตุนี้ เขาจึงถอดเสื้อผ้าทั้งหมดของเขา นอนราบกับพื้นในท่าของชายชาววิทรูเวียน และวาดสัญลักษณ์บนหน้าอกของเขาในรูปของ ดาวห้าแฉก, นอกจากนี้Jacques Saunièreทิ้ง rebus ไว้ทั้งหมดซึ่งเป็นผู้ที่ต้องแก้หลานสาว Sophie Neveuและศาสตราจารย์ โรเบิร์ต แลงดอน.

ภัณฑารักษ์ถูกพระเผือกฆ่าเพราะอยากรู้ว่าเขาซ่อนอยู่ที่ไหน จอกศักดิ์สิทธิ์, Jacques Saunièreเขาไม่สามารถบอกความลับนี้แก่ฆาตกรได้ แต่เขาไม่ต้องเผชิญกับภารกิจในการพาเขาไปที่หลุมศพ

โรเบิร์ต แลงดอนกลายเป็นผู้ต้องสงสัยหลักในฐานะ ซานิแยร์เขียนชื่อของเขาลงบนพื้น ภัณฑารักษ์ต้องการให้ตำรวจหาศาสตราจารย์ และแม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญด้านสัญลักษณ์นี้สามารถไขปริศนาทั้งหมดได้ แต่สำหรับตำรวจแล้ว ทุกอย่างเป็นเรื่องง่าย - เหยื่อเขียนชื่อใครบางคนข้างๆ เขาก่อนที่เขาจะตาย - และ มันสามารถเป็นของนักฆ่าเท่านั้น

หลานสาวก็มีส่วนร่วมในการสอบสวนด้วย Jacques Saunière – Sophie Neveuผู้หญิงคนนี้ไม่ได้พูดกับปู่ของเธอใน 10 ปีและทั้งหมดนี้เกิดจากการที่คนจนกลายเป็นพยานโดยไม่รู้ตัวว่าปู่ของเธอทำพิธีกรรมทางเพศบางอย่างต่อหน้าสังคมลับได้อย่างไร

Sophie Neveuช่วย โรเบิร์ต แลงดอนหลบหนีจากที่เกิดเหตุ แต่ก่อนอื่น คู่นี้มีเวลาสำรวจภาพเขียนเลโอนาร์โด ดา วินชีและเพื่อค้นหากุญแจที่อยู่เบื้องหลังหนึ่งในนั้นคือกุญแจไปยังตู้นิรภัยที่เข้ารหัสลับพร้อมข้อมูลลับ

Kryptex เป็นเกมไขปริศนา หากคุณเลือกคีย์ที่ถูกต้อง กุญแจจะเปิดขึ้น แต่ถ้าคุณพยายามทำลายโครงสร้างนี้ มันจะทำลายข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในนั้นเอง เลโอนาร์โด ดา วินชีคิดค้น cryptox ตัวแรกและ Sophie Neveuตั้งแต่วัยเด็กฉันขลุกอยู่กับของเล่นดังกล่าว หนึ่ง cryptox ที่พวกเขาอยู่กับ โรเบิร์ตเปิดออก แต่ข้างในมีอีกอัน คราวนี้แก้ยากกว่า โรเบิร์ตและ โซฟีกำลังจะ ลี ตี๋ปิง- นักวิทยาศาสตร์ผู้อุทิศทั้งชีวิตเพื่อค้นหา จอกศักดิ์สิทธิ์... ในระหว่าง ระดมความคิด โรเบิร์ตและ โซฟีเข้าใจว่าคำพูดในข้อความลึกลับของผู้ตาย Jacques Saunièreมันเกี่ยวกับ จอกศักดิ์สิทธิ์.

น้ำชาบอก โซฟีนี่คืออะไร จอกศักดิ์สิทธิ์เด็กหญิงเรียนรู้จากนักวิทยาศาสตร์ว่านี่ไม่ใช่ชามที่นักเรียนทุกคนจิบพระเยซูคริสต์คืนก่อนการทรยศจู๊ด. จอกศักดิ์สิทธิ์- นี่คือหลักธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ของสตรี คือ ครรภ์ ครรภ์ ซึ่งกำเนิดชีวิต ในกรณีนี้ หมายความว่าMaria Magdalenaเป็นภรรยา พระเยซูคริสต์และให้กำเนิดบุตรสาวแก่เขา ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ต้องหาเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับปัญหานี้รวมทั้งโลงศพที่มีการฝังศพแมรี่ แม็กดาลีน... เพื่อที่จะ โซฟีเชื่อว่าพระเยซูมีภรรยา น้ำชาแสดงภาพให้เธอดูเลโอนาร์โด ดา วินชี” มื้อสุดท้าย» ซึ่งเธอเห็นชัดเจนว่าข้างๆพระผู้ช่วยให้รอดผู้หญิงกำลังนั่ง

และนี่คือคำถามที่เกิดขึ้น - เนื่องจากหลักฐานของทฤษฎีที่บ้าคลั่งนี้กำลังจะถูกค้นพบ - ฉันควรจะบอกโลกเกี่ยวกับการค้นพบนี้หรือเงียบไว้? ภัณฑารักษ์ พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ โซนิแยร์ปรากฎว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้รักษาความลับหลักและเขาต่อต้านการเปิดเผยข้อมูล แต่คนบ้าคลั่งไคล้ จอกของลี ตี๋ปิงย้ำให้ปชช.รู้ความจริง โซฟีและ โรเบิร์ตกลัวว่าถ้าคนรู้ความจริง อำนาจของคริสตจักรจะล่มสลาย และสิ่งนี้จะนำมาซึ่งผลลัพธ์มากมาย: ใหม่ สงครามศาสนาและไม่เพียงแต่ในโลกของคริสเตียนเท่านั้น

โดยทั่วไปตลอดทั้งเรื่อง โซฟีและ แลงดอนไขปริศนาทุกชนิดพร้อมๆ กันก็ถูกพระเผือกไล่ตาม ตำรวจก็นั่งทับหางอยู่ น้ำชาเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขาแก่พวกเขา ในท้ายที่สุด โรเบิร์ตไขความลับทั้งหมด แต่ตัดสินใจไม่เปิดเผย เหลือแต่ของเขาและ โซฟีคุณสมบัติ. เขาพบว่าโลงศพอยู่ที่ไหน และตอนนี้ถ้า โซฟีหวังว่าเธอจะเปรียบเทียบ DNA ของเธอกับสารพันธุกรรมของผู้หญิงที่อยู่ในสุสานได้ หลังจากนั้น Sophie Neveuกลายเป็นเจ้าหญิงมกุฎราชกุมาร - ทายาทของ พระเยซูคริสต์... แต่เธอคนนี้ทำถูกแล้ว เธอตัดสินใจไม่ต่อสู้เพื่ออำนาจและไม่ประกาศความสัมพันธ์ของเธอด้วย พระเยซูคริสต์... แล้วไงล่ะ? แม้ว่าเขาจะเป็นมหาบุรุษหรือ ลูกของพระเจ้าแต่ลูกหลานของเขาเป็นเพียงมนุษย์ พวกเขาแทบไม่มีความเหนือกว่าใครเลย จงบริสุทธิ์ในจิตใจและจิตวิญญาณ ถ้าคุณมีปัญญาเพียงพอ นำผู้คนไปกับคุณ เรียกพวกเขาให้มีชีวิตที่ชอบธรรม และไม่ว่าเลือดจะไหลเวียนอยู่ในเส้นเลือดของคุณ คุณก็สามารถเป็นคนแรกได้เสมอ

โกรธ ลี ตี๋ปิงอุเบกลีอยู่หลังลูกกรง เพราะเป็นผู้ที่กลับกลายเป็นคนเดียวกัน เพราะเหตุนั้น ผู้รักษาความลับทั้งสี่คนจึงถูกสังหาร แมรี่ แม็กดาลีน... อย่างแน่นอน น้ำชาจ้างคนเผือกที่หมกมุ่นอยู่กับศรัทธา

โดยทั่วไปฉันอยู่ใน โครงร่างทั่วไปบรรยายถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ แม้ว่าทุกอย่างจะซับซ้อนกว่านั้นมาก และมีการวางอุบายอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้น หากคุณสนใจนักสืบประเภทนี้ ให้ค้นหาในเน็ตและดูหนัง "รหัสดาวินชี".

ภาพยนตร์เรื่อง "Angels and Demons" - หนังระทึกขวัญเรื่องนี้จะไม่ทำให้คุณเฉย

และตีพิมพ์ด้วยยอดจำหน่ายรวมกว่า 81 ล้านเล่ม Da Vinci Code ติดอันดับหนังสือขายดีของ New York Times และได้รับการยกย่องจากหลาย ๆ คนให้เป็นหนังสือที่ดีที่สุดในทศวรรษ นวนิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นในแนวสืบสวนระทึกขวัญนักสืบทางปัญญาสามารถปลุกความสนใจอย่างกว้างขวางในตำนานของจอกศักดิ์สิทธิ์และสถานที่ของแมรี่แม็กดาลีนในประวัติศาสตร์ของศาสนาคริสต์

วิทยาลัย YouTube

1 / 5
ตามเนื้อเรื่องของหนังสือ ตัวละครหลักของหนังสือคือ ดร.โรเบิร์ต แลงดอน ศาสตราจารย์ด้านสัญลักษณ์ทางศาสนาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด จะต้องไขคลี่คลายคดีฆาตกรรมจ๊าค เซานิแยร์ ภัณฑารักษ์พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ศพของซาอูนิแยร์ถูกพบเปลือยเปล่าในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ และจัดวางในลักษณะเดียวกับภาพวาดที่มีชื่อเสียงของลีโอนาร์โด ดา วินชี "วิทรูเวียน แมน" พร้อมจารึกที่เข้ารหัสไว้บนลำตัวของเขา คำจารึกนี้บ่งชี้ว่าต้องหากุญแจไขปริศนาฆาตกรรมภายในผลงานอันโด่งดังของเลโอนาร์โด ดา วินชี การวิเคราะห์ผลงานของ Leonardo เช่น Mona Lisa และ The Last Supper ช่วยในการไขปริศนานี้อย่างมาก ในเวลาเดียวกัน Robert ได้พบกับหลานสาวของ Jacques Sauniere - Sophie Neveu ครอบครัวของเธอ (พ่อ แม่ พี่ชาย) เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนนี้โซฟีและโรเบิร์ตต้องไขความลับและความลึกลับมากมาย แต่กัปตัน CUSP Bezu Fache เชื่อว่าเป็น Langdon ที่ฆ่า Jacques Sauniere โรเบิร์ตและโซฟีต้องหักล้างเรื่องนี้
ตัวละครหลักของนวนิยายเรื่องนี้ต้องไขปริศนาหลักสองข้อ:
- Saunière กำลังปกป้องความลับอะไรและทำไมเขาถึงถูกฆ่า?
- ใครเป็นคนฆ่าเซานิแยร์และใครเป็นคนวางแผนการฆาตกรรมครั้งนี้?
ด้วยความช่วยเหลือของจารึกที่ Jacques Sauniere ทิ้งไว้บนร่างของเขาและบนภาพโมนาลิซ่า โซฟีและโรเบิร์ตพบกุญแจที่โซฟีเห็นเมื่อตอนเป็นเด็กในโลงศพของปู่ของเธอ โซฟีตัดสินใจพาแลงดอนไปที่สถานทูตอเมริกา แต่พวกเขาถูกตำรวจปิดกั้น โซฟีพยายามแยกตัวจากพวกเขาด้วยความฉลาดของเธอ พวกเขาทิ้งรถของเธอและเรียกแท็กซี่ ในรถแท็กซี่ พวกเขาเห็นที่อยู่บนกุญแจ: 24 RYU AXO... ทั้งคู่เดินทางไปที่นั่นและค้นพบธนาคารรับฝากของซูริก Langdon และ Sophie เปิดตู้เซฟด้วยกุญแจและรหัสเข้าใช้งาน (กลายเป็น Fibonacci Series) ในนั้นพวกเขาพบกล่อง ในขณะเดียวกัน ยามที่ปฏิบัติหน้าที่ก็จำแลงดอนและโซฟีได้ตามที่ต้องการขององค์การตำรวจสากล André Vernet ประธานธนาคาร เมื่อรู้ว่าโซฟีเป็นหลานสาวของ Jacques Saunière จึงพาพวกเขาไปที่ป่าด้วยรถธนาคาร ในรถ แลงดอนเปิดกล่องและเห็นรหัสลับเปิดออกซึ่งเขาหวังว่าจะได้รับ หินรองพื้น- แผนที่สู่จอกศักดิ์สิทธิ์ แต่ Vernet ได้เรียนรู้ว่านอกจาก Saunière แล้ว ยังมีผู้เสียชีวิตอีก 3 คน และ Sophie และ Robert ก็ถูกตำหนิสำหรับการตายของคนเหล่านี้ และเลิกเชื่อในความบริสุทธิ์ของพวกเขา ขู่ด้วยปืนพก เขาเรียกร้องให้ส่งคืนกล่อง แลงดอนปลดอาวุธศัตรูด้วยไหวพริบ ศาสตราจารย์พร้อมกับโซฟี ออกจากป่าในรถหุ้มเกราะแล้วไปที่ชาโต-วิลเล็ต ที่ซึ่งเซอร์ ลิว ทีบิง ผู้เชี่ยวชาญในจอกและสำนักไพรเออรี่แห่งไซอันอาศัยอยู่ Teabing พร้อมด้วยแลงดอนบอกโซฟีถึงเรื่องราวของจอก ในขณะเดียวกัน Remi พ่อบ้านของ Teabing เห็นรูปถ่ายของ Sophie และ Langdon ที่ทำเครื่องหมายว่า "ต้องการ" ในทีวี เขาบอก Teabing เกี่ยวกับเรื่องนี้ หลิวต้องการไล่พวกเขาออกไป แต่โซฟีบอกว่าพวกเขามีรากฐานที่สำคัญ Teabing มีความสนใจ จู่ๆ แลงดอนก็ถูกโจมตีโดยสิลาส พระโอปัสเดอีที่สังหารฌาคโซนิแยร์ พระสงฆ์ทำให้แลงดอนมึนงงและเรียกร้องศิลามุมเอกจากโซฟีและทีบิง ทีบิ้งแสร้งทำเป็นว่าให้ แต่ใช้ไม้เท้าตีสิลาสที่ขาจนหมดสติ ขณะที่เขาสวมสายรัดถุงเท้ายาวโลหะ ซึ่งระงับการเรียกของเนื้อโดยการแทะเข้าไปในร่างกาย ทำให้เกิด เจ็บหนัก... Teabing และ Sophie ปลุก Langdon ในขณะเดียวกัน คอลเลและสายลับได้รู้ว่าแลงดอนและโซฟีอยู่ที่ร้านทีบิงส์ พวกเขามาที่ Chateau-Villette Collet พร้อมที่จะเริ่มการโจมตี แต่แล้ว Fache เรียกเขาและสั่งให้เขาไม่เริ่มโจมตีคฤหาสน์จนกว่าเขาจะมาถึง แต่คอลได้ยินเสียงปืนยิงจากไซลอส ร้อยโทต้องเสี่ยงภัยและตัดสินใจโจมตีคำสั่งของฟาเช แต่ Teabing, Sophie, Langdon, Remy หลบหนีไปพร้อมกับ Silas ที่ถูกผูกไว้กับ Range Rover พวกเขาไปที่สนามบิน Le Bourget เพื่อบินไปอังกฤษ บนเครื่องบิน แลงดอนเปิดกล่องและพบรูลับที่พวกเขาใช้ระบุว่ารูปดอกกุหลาบบนกล่องเป็นเหรียญตรา Teabing บอกว่าคุณต้องการกระจก รายการถูกเขียนกลับหัวกลับหาง กลายเป็นบทกวีลึกลับซึ่งมีบทกวีเข้ารหัสอีกบทหนึ่งซึ่งกล่าวว่าจำเป็นต้องหาหลุมฝังศพของอัศวินที่สมเด็จพระสันตะปาปาฝังไว้ ด้วยปริศนานี้ คุณสามารถเปิด cryptex ได้ ขณะอยู่ในฝรั่งเศส Fache ได้สั่งให้ตำรวจ Kent ส่งเสียงเรียกสนามบิน Biggin Hill โรเบิร์ต โซฟี และนักบวชพยายามซ่อนตัวอยู่ในรถเมื่อตำรวจมาถึง ตำรวจตรวจไม่พบว่ามีคนแปลกหน้าอยู่บนเครื่องบิน และทีบิงได้รับการปล่อยตัว ในรถ Teabing บอกว่าเขารู้ว่าหลุมศพของอัศวินอยู่ที่ไหน เธออยู่ที่วัด แต่ปรากฎว่าในโบสถ์มีเพียงหลุมฝังศพของอัศวินเท่านั้นไม่ใช่หลุมศพของพวกเขา ทันใดนั้นสิลาสก็พุ่งเข้ามา เขาถูกปลดโดย Remi ซึ่งบังเอิญอยู่กับเขาในเวลาเดียวกัน พระต้องการรหัสลับ แต่แลงดอนปฏิเสธที่จะมอบให้เขา จากนั้นเรมี่ก็เข้ามาแทรกแซง เขาจับตัว Teabing เป็นตัวประกัน แลงดอนมอบรหัสลับให้สิลาส แต่เรมีและสิลาสไม่ยอมปล่อยทีบิง พวกเขาพาเขาไปด้วย หลังจากนั้น Remi ก็แนะนำตัวเองว่าเป็นครูผู้ลึกลับ ซึ่งสิลาสและอธิการของเขาทำงานให้ ครูฆ่าเขาในฐานะพยานที่ไม่จำเป็น ในเวลานี้ แลงดอนและโซฟีมาถึงคิงส์คอลเลจ พวกเขากำลังค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอัศวินที่พระสันตะปาปาฝังไว้ ปรากฎว่านี่คือ Isaac Newton แต่เขาไม่ได้ถูกฝังโดยสมเด็จพระสันตะปาปา แต่โดย Alexander Pope เพียงใน ภาษาอังกฤษพ่อกับป๊อปสะกดเหมือนกัน แลงดอนและโซฟีเดินทางไปที่หลุมศพของเขาในเวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ ซึ่งพวกเขาค้นพบคำจารึกที่ระบุว่าทีบิงอยู่กับผู้ลักพาตัว และพวกเขากำลังรออยู่ในสวน แลงดอนและโซฟีไปที่นั่น แต่ทีบิงหยุดพวกเขาระหว่างทาง พระองค์ทรงเป็นพระอาจารย์ เขาเป็นคนที่จัดงานฆาตกรรมSaunièreและคนอื่น ๆ แกล้งขู่ด้วยปืนพก เรียกร้องให้แลงดอนเปิดห้องลับ แลงดอนบอกว่าเขารู้คำตอบ แต่อยากให้โซฟีได้รับการปล่อยตัวก่อน ทีบิงตระหนักว่าแลงดอนไม่รู้รหัส จากนั้นแลงดอนก็ดรอป Cryptex การล้อเล่นรีบวิ่งตาม cryptex แต่ไม่มีเวลาจับมัน อันที่จริงแลงดอนรู้รหัสแล้ว คำสำคัญมันกลับกลายเป็นคำว่า แอปเปิ้ล... Teabing ถูกจับโดย Beza Fache
นวนิยายเรื่องนี้มีตุ๊กตุ่นคู่ขนานหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวละครที่แตกต่างกัน ในตอนท้ายของหนังสือ โครงเรื่องทั้งหมดมารวมกันในโบสถ์รอสลินและได้รับการแก้ไข
การไขปริศนาต้องแก้ปริศนาหลายชุด ความลับอยู่ที่ตำแหน่งของจอกศักดิ์สิทธิ์ ในสังคมลับที่เรียกว่าไพรเออรี่แห่งไซอัน และในอัศวินเทมพลาร์ องค์กรคาทอลิก Opus Dei ก็มีบทบาทสำคัญในโครงเรื่องเช่นกัน

วีรบุรุษแห่งหนังสือ

Mikhail Anikin นักวิจัยอาวุโสของ Hermitage ก็ประท้วงเช่นกัน ซึ่งเชื่อว่าแนวคิดบางอย่างถูกยืมมาจากหนังสือของเขา Leonardo da Vinci หรือ Theology in Paints ซึ่งตีพิมพ์ในปี 2000

ผลแห่งความสำเร็จ

การประเมินผล

2549 อัครสังฆราชแองเจโล อามาโต เลขาธิการชุมนุมเพื่อหลักคำสอนแห่งศรัทธา เรียกร้องให้คว่ำบาตร Da Vinci Code; Amato อธิบายหนังสือของ Brown ว่า "ต่อต้านคริสเตียนอย่างฉุนเฉียว เต็มไปด้วยการหมิ่นประมาท อาชญากรรม และข้อผิดพลาดทางประวัติศาสตร์และศาสนศาสตร์เกี่ยวกับพระเยซู พระกิตติคุณ และคริสตจักรที่ไม่เป็นมิตร" อันเนื่องมาจากความสำเร็จของหนังสือดังกล่าวคือ "ความยากจนทางวัฒนธรรมอย่างสุดขั้ว" จำนวนมากคริสเตียนที่เชื่อ ", Amato กระตุ้นคริสเตียนด้วยความกระตือรือร้นอย่างยิ่งที่จะ" ปฏิเสธคำโกหกและใส่ร้ายป้ายสี " เขายังกล่าวอีกว่าถ้า “การกล่าวเท็จและการดูหมิ่นดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่อัลกุรอานหรือความหายนะ พวกเขาจะทำให้เกิดการจลาจลในโลกอย่างยุติธรรม”, ในขณะที่ “คำโกหกและใส่ร้ายที่ต่อต้านคริสตจักรและคริสเตียนก็ไม่ได้รับโทษ”... อามาโตแนะนำว่าชาวคาทอลิกทั่วโลกเริ่มจัดระเบียบการประท้วงต่อต้าน The Da Vinci Code เหมือนกับที่มีการประท้วงต่อต้านภาพยนตร์เรื่องนี้

ตามเนื้อเรื่องของหนังสือ ตัวละครหลักของหนังสือคือ ดร.โรเบิร์ต แลงดอน ศาสตราจารย์ด้านสัญลักษณ์ทางศาสนาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด จะต้องไขคลี่คลายคดีฆาตกรรมจ๊าค เซานิแยร์ ภัณฑารักษ์พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ศพของซาอูนิแยร์ถูกพบเปลือยเปล่าในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ และจัดวางในลักษณะเดียวกับภาพวาดที่มีชื่อเสียงของลีโอนาร์โด ดา วินชี "วิทรูเวียน แมน" พร้อมจารึกที่เข้ารหัสไว้บนลำตัวของเขา คำจารึกนี้บ่งชี้ว่าต้องหากุญแจไขปริศนาฆาตกรรมภายในผลงานอันโด่งดังของเลโอนาร์โด ดา วินชี การวิเคราะห์ผลงานของ Leonardo เช่น Mona Lisa และ The Last Supper ช่วยในการไขปริศนานี้อย่างมาก ในเวลาเดียวกัน Robert ได้พบกับหลานสาวของ Jacques Sauniere - Sophie Neveu ครอบครัวของเธอ (แม่ พ่อ พี่ชาย ยาย) เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนนี้โซฟีและโรเบิร์ตต้องไขความลับและความลึกลับมากมาย แต่กัปตัน CUSP Bezu Fache เชื่อว่าเป็น Langdon ที่ฆ่า Jacques Sauniere โรเบิร์ตและโซฟีต้องหักล้างเรื่องนี้
ตัวละครหลักของนวนิยายเรื่องนี้ต้องไขปริศนาหลักสองข้อ:
Saunière กำลังปกป้องความลับอะไรและทำไมเขาถึงถูกฆ่า?
ใครเป็นคนฆ่าเซานิแยร์และใครเป็นคนวางแผนการฆาตกรรมครั้งนี้?
ด้วยความช่วยเหลือของจารึกที่ Jacques Sauniere ทิ้งไว้บนร่างของเขาและบนภาพโมนาลิซ่า โซฟีและโรเบิร์ตพบกุญแจที่โซฟีเห็นเมื่อตอนเป็นเด็กในโลงศพของปู่ของเธอ โซฟีตัดสินใจพาแลงดอนไปที่สถานทูตอเมริกา แต่พวกเขาถูกตำรวจปิดกั้น โซฟีพยายามแยกตัวจากพวกเขาด้วยความฉลาดของเธอ พวกเขาทิ้งรถของเธอและเรียกแท็กซี่ ในรถแท็กซี่ พวกเขาเห็นที่อยู่บนกุญแจ: 24 RYU AXO ทั้งคู่เดินทางไปที่นั่นและค้นพบธนาคารรับฝากของซูริก Langdon และ Sophie เปิดตู้เซฟด้วยกุญแจและรหัสเข้าใช้งาน (กลายเป็น Fibonacci Series) ในนั้นพวกเขาพบกล่อง ในขณะเดียวกัน ยามที่ปฏิบัติหน้าที่ก็จำแลงดอนและโซฟีได้ตามที่ต้องการขององค์การตำรวจสากล André Vernet ประธานธนาคาร เมื่อรู้ว่าโซฟีเป็นหลานสาวของ Jacques Sauniere จึงพาพวกเขาไปที่ป่าด้วยรถธนาคาร ในรถ แลงดอนเปิดกล่องและเห็นรหัสลับ ซึ่งเปิดออก ซึ่งเขาหวังว่าจะได้รับกุญแจหลัก - แผนที่ไปยังจอกศักดิ์สิทธิ์ แต่ Vernet ได้เรียนรู้ว่านอกจาก Saunière แล้ว ยังมีผู้เสียชีวิตอีก 3 คน และ Sophie และ Robert ก็ถูกตำหนิสำหรับการตายของคนเหล่านี้ และเลิกเชื่อในความบริสุทธิ์ของพวกเขา ขู่ด้วยปืนพก เขาเรียกร้องให้ส่งคืนกล่อง แลงดอนปลดอาวุธศัตรูด้วยไหวพริบ ศาสตราจารย์พร้อมกับโซฟี ออกจากป่าในรถหุ้มเกราะแล้วไปที่ชาโต-วิลเล็ต ที่ซึ่งเซอร์ ลิว ทีบิง ผู้เชี่ยวชาญในจอกและสำนักไพรเออรี่แห่งไซอันอาศัยอยู่ Teabing พร้อมด้วยแลงดอนบอกโซฟีถึงเรื่องราวของจอก ในขณะเดียวกัน Remi พ่อบ้านของ Teabing เห็นรูปถ่ายของ Sophie และ Langdon ที่ทำเครื่องหมายว่า "ต้องการ" ในทีวี เขาบอก Teabing เกี่ยวกับเรื่องนี้ อัศวินต้องการไล่พวกเขาออกไป แต่โซฟีบอกว่าพวกเขามีรากฐานที่สำคัญ Teabing มีความสนใจ พวกเขาร่วมกันตรวจสอบห้องลับและแลงดอนค้นพบหลุมลับในกล่อง จู่ๆ แลงดอนก็ถูกโจมตีโดยสิลาส พระโอปัสเดอีที่สังหารฌาคโซนิแยร์ พระสงฆ์ทำให้แลงดอนมึนงงและเรียกร้องศิลามุมเอกจากโซฟีและทีบิง การล้อเล่นแกล้งทำเป็นยอมแพ้ แต่อัศวินใช้ไม้ยันรักตีขาของ Silas และสิลาสเป็นลมเมื่อเขาสวมสายรัดถุงเท้ายาวที่เป็นโลหะซึ่งระงับการเรียกของเนื้อหนังโดยทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างรุนแรงโดยการเจาะเข้าไปในกล้ามเนื้อ Teabing และ Sophie ปลุก Langdon ในขณะเดียวกัน คอลเลและสายลับได้รู้ว่าแลงดอนและโซฟีอยู่ที่ร้านทีบิงส์ พวกเขามาที่ Chateau-Villette Collet พร้อมที่จะเริ่มการโจมตี แต่แล้ว Fache เรียกเขาและสั่งให้เขาไม่เริ่มโจมตีคฤหาสน์จนกว่าเขาจะมาถึง แต่คอลได้ยินเสียงปืนยิงจากไซลอส ร้อยโทต้องเสี่ยงภัยและตัดสินใจโจมตีคำสั่งของฟาเช แต่ Teabing, Sophie, Langdon, Remy หลบหนีไปพร้อมกับ Silas ที่ถูกผูกไว้กับ Range Rover พวกเขาไปที่สนามบิน Le Bourget เพื่อบินไปอังกฤษ บนเครื่องบิน แลงดอนเปิดกล่องอีกครั้ง มีจารึกอยู่ในนั้น โซฟีระบุว่าเป็นภาษาอังกฤษ แต่เขียนเป็น ภาพสะท้อนในกระจก... กลายเป็นกลอนปริศนา แลงดอนและลิวสามารถเดาคีย์เวิร์ดได้ ปรากฎว่าชื่อโซเฟีย ภายในห้องใต้ดินมีห้องใต้ดินสีดำขนาดเล็ก มีบทกวีเข้ารหัสอีกบทหนึ่งซึ่งกล่าวว่าจำเป็นต้องหาหลุมฝังศพของอัศวินที่สมเด็จพระสันตะปาปาฝังไว้ ขณะอยู่ในฝรั่งเศส Fache ได้สั่งให้ตำรวจ Kent ส่งเสียงเรียกสนามบิน Biggin Hill ตำรวจแจ้งนักบินของเครื่องบินว่ามีแก๊สรั่วและคุณต้องลงจอดไม่อยู่ในโรงเก็บเครื่องบิน แต่ใกล้อาคารผู้โดยสาร ภายใต้แรงกดดันจาก Teabing นักบินยังคงนั่งอยู่ในโรงเก็บเครื่องบิน โรเบิร์ต โซฟี และนักบวชพยายามซ่อนตัวอยู่ในรถเมื่อตำรวจมาถึง ตำรวจตรวจไม่พบว่ามีคนแปลกหน้าอยู่บนเครื่องบิน และทีบิงได้รับการปล่อยตัว ในรถ Teabing บอกว่าเขารู้ว่าหลุมศพของอัศวินอยู่ที่ไหน เธออยู่ที่วัด เด็กรับใช้สังเกตเห็นว่าในโบสถ์มีเพียงหลุมฝังศพของอัศวิน ไม่มีหลุมศพของพวกเขา ทันใดนั้นสิลาสก็บุกเข้าไปในโบสถ์ เขาถูกปลดโดย Remi ซึ่งบังเอิญอยู่กับเขาในเวลาเดียวกัน พระต้องการรหัสลับ แต่แลงดอนปฏิเสธที่จะมอบให้เขา จากนั้นเรมี่ก็เข้ามาแทรกแซง เขาจับตัว Teabing เป็นตัวประกัน แลงดอนมอบรหัสลับให้สิลาส แต่เรมีและสิลาสไม่ยอมปล่อยทีบิง พวกเขาพาเขาไปด้วย หลังจากนั้น Remi ได้พบกับครูผู้ลึกลับที่เขาทำงานให้ ครูฆ่าเขาในฐานะพยานที่ไม่จำเป็น ในเวลานี้ แลงดอนและโซฟีมาถึงคิงส์คอลเลจ ร่วมกับ Pamela Gettem พวกเขากำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับอัศวินที่พระสันตะปาปาฝังไว้ ปรากฎว่านี่คือ Isaac Newton แต่เขาไม่ได้ถูกฝังโดย Pope แต่โดย Alexander Pope ในภาษาอังกฤษ Pope และ Pope สะกดเหมือนกัน แลงดอนและโซฟีเดินทางไปที่หลุมศพของเขาในเวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ ซึ่งพวกเขาค้นพบคำจารึกที่ระบุว่าทีบิงอยู่กับผู้ลักพาตัว และพวกเขากำลังรออยู่ในสวน แลงดอนและโซฟีไปที่นั่น แต่ทีบิงหยุดพวกเขาระหว่างทาง พระองค์ทรงเป็นพระอาจารย์ เขาเป็นคนที่จัดงานฆาตกรรมSaunièreและคนอื่น ๆ แกล้งขู่ด้วยปืนพก เรียกร้องให้แลงดอนเปิดห้องลับ แลงดอนบอกว่าเขารู้คำตอบ แต่อยากให้โซฟีได้รับการปล่อยตัวก่อน ทีบิงตระหนักว่าแลงดอนไม่รู้รหัส จากนั้นแลงดอนก็ดรอป Cryptex การล้อเล่นรีบวิ่งตาม cryptex แต่ไม่มีเวลาจับมัน อันที่จริง แลงดอนรู้รหัสแล้ว คำสำคัญคือคำว่าแอปเปิ้ล Teabing ถูกจับโดย Beza Fache
นวนิยายเรื่องนี้มีตุ๊กตุ่นคู่ขนานหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวละครที่แตกต่างกัน ในตอนท้ายของหนังสือ โครงเรื่องทั้งหมดมารวมกันในโบสถ์รอสลินและได้รับการแก้ไข
การไขปริศนาต้องแก้ปริศนาหลายชุด ความลับอยู่ที่ตำแหน่งของจอกศักดิ์สิทธิ์ ในสังคมลับที่เรียกว่าไพรเออรี่แห่งไซอัน และในอัศวินเทมพลาร์ องค์กรคาทอลิก Opus Dei ก็มีบทบาทสำคัญในโครงเรื่องเช่นกัน

ความลับของความสำเร็จ“เอกสาร พิธีกรรม และองค์กรทั้งหมดที่อธิบายในงานนั้นเป็นของจริง” - นี่คือคำที่นวนิยายเริ่มต้นด้วย อันที่จริง มันเต็มไปด้วยเอกสาร หลักฐานทางประวัติศาสตร์ และความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าหลักฐานที่ไม่ได้รับการยืนยันนั้นไม่สามารถใช้เป็นข้อพิสูจน์ของทฤษฎีที่จริงจังได้ และสถานการณ์ที่มีการพิสูจน์ยืนยันในนวนิยายนั้นไม่ดี

เวอร์ชั่นของบราวน์หากคุณวาดโครงร่างของรากฐาน "สารคดี" ของนวนิยายเรื่องนี้ มันจะออกมาหน้าตาประมาณนี้ พระเยซูคริสต์ทรงแต่งงานกับมารีย์ชาวมักดาลา, และ พวกเขามีลูกสาวคนหนึ่งชื่อซาร่าห์ซึ่งมาจากตระกูลของกษัตริย์แฟรงก์คนแรก - เมโรแว็งเกียน คริสตจักรพยายามที่จะซ่อนการแต่งงานของพระคริสต์เพื่อไม่ให้มีข้อสงสัยเกี่ยวกับความเป็นพระเจ้าของเขา เอกสารยืนยันความเป็นจริงของการแต่งงานนั้นเป็นขององค์กรลับ Priory of Zion ซึ่งมีปรมาจารย์ใน ต่างเวลามี Isaac Newton, Leonardo da Vinci, Victor Hugo, Claude Debussy และผู้คนที่คู่ควร คริสตจักรพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนเข้าถึงความลับ ในเวลาเดียวกัน Leonardo da Vinci ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มทิ้งข้อความที่เข้ารหัสไว้ในผลงานของเขาที่เปิดเผยความจริง ข้อความเหล่านี้เรียกว่ารหัสดาวินชี เอกสารที่เกี่ยวข้องกับรหัส Priory of Zion และลำดับวงศ์ตระกูลของลูกหลานของพระเยซูถูกรวบรวมไว้ในโฟลเดอร์ "The Secret Dossier" ซึ่งค้นพบในปี 1975 ในจดหมายเหตุของหอสมุดแห่งชาติปารีส

ข้อเท็จจริงโฟลเดอร์ดังกล่าวมีอยู่จริงและประกอบด้วยแผ่นงานห้าแผ่นพร้อมไดอะแกรมของแผนภูมิต้นไม้ตระกูลเมอโรแว็งเกียนตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 ถึงศตวรรษที่ 20 รายชื่อปรมาจารย์แห่ง Priory of Zion จดหมายหนังเข้ารหัส ... แต่นี่อาจเป็นสิ่งเดียวที่ ไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์สร้างสรรค์ของผู้เขียน

การแต่งงานของพระเยซู เวอร์ชั่นของบราวน์เพื่อปิดบังความจริงของการอภิเษกสมรสของพระคริสต์ พวกคริสตจักรได้ลบล้างพระวรสารที่อ้างถึงงานแต่งงานของพระองค์และการกำเนิดบุตร แต่ในบางแห่งยังคงมีร่องรอยของการแต่งงานอยู่ ตัวอย่างเช่น ในข่าวประเสริฐของลูกา ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งนักศาสนศาสตร์หลายคนพิจารณาว่ามารีย์ มักดาลีน ล้างพระบาทของพระคริสต์และเช็ดผมของเธอเอง ซึ่งบ่งบอกว่าเธอเป็นคู่สมรสหรือทาสของเขา

ข้อเท็จจริงปลายศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล - และในตอนนั้นเองที่พระวรสารทั้งสี่เล่มถูกเขียนขึ้น - โบสถ์คริสต์เป็นกลุ่มของนิกายทางศาสนาขนาดเล็ก พระวรสารถูกแจกจ่ายในรายการจากสมาชิกคนหนึ่งของนิกายหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง ไม่มีใครติดตามกระบวนการนี้และแก้ไขสำเนาใหม่ทั้งหมด นอกจากนี้ ในสังคมชาวยิว การถือโสดไม่ถือเป็นสัญญาณที่จำเป็นของความศักดิ์สิทธิ์เลย ไม่มีคำพยากรณ์เกี่ยวกับพระผู้มาโปรดสักคำเดียวที่กล่าวว่าเขาควรเป็นชายโสดที่ไม่มีบุตร การถือโสดเริ่มถูกมองว่าเป็นผลงานในยุคกลางเท่านั้น ดังนั้นจึงเข้าใจยากว่าทำไมคริสเตียนยุคแรกจึงต้องปิดบังข้อเท็จจริงนี้ นักประวัติศาสตร์ที่เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ของชาวยิวทราบดีว่าในแคว้นยูเดียโบราณ ประเทศที่ร้อนและทะเลทราย การล้างเท้าของแขกถือเป็นการแสดงความเคารพต่อนักเดินทางที่เหนื่อยล้า และการใช้ผมเป็นผ้าขนหนูก็เป็นเรื่องธรรมดาเช่นกัน ยิ่งกว่านั้น เจ้าของบ้านมักจะทำพิธีล้างเท้าด้วย

สายเลือดเมโรแว็งเกียน เวอร์ชั่นของบราวน์ตามต้นไม้ลำดับวงศ์ตระกูลของกษัตริย์กลุ่มแรกแห่งตระกูลเมอโรแว็งเกียนที่ค้นพบใน "เอกสารลับ" ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากธิดาของแมรี มักดาเลนและพระเยซู ซาราห์ ซึ่งถูกพรากจากอิสราเอลไปยังกอล กลุ่มนี้ยังคงมีอยู่จนถึงทุกวันนี้ และลูกหลานของพระเยซูอยู่ท่ามกลางพวกเรา

ข้อเท็จจริงความถูกต้องของแผนภูมิต้นไม้ตระกูล Merovingian ที่พิมพ์ดีดที่พบในเอกสารลับนั้นเป็นที่น่าสงสัย ตามข้อมูลสมัยใหม่ การสืบเชื้อสายของกษัตริย์กลุ่มแรกสิ้นสุดในปี 751 ผู้เชี่ยวชาญที่ใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับ Merovingians ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ Paul Fouracre กล่าวว่าเขาผู้ศึกษาประวัติศาสตร์ของ Merovingians มานานกว่า 30 ปีไม่ทราบเอกสารฉบับเดียวตามที่ King Dagobert II ซึ่ง ถูกสังหารโดยผู้สมรู้ร่วมคิดจะมีลูกหลานในขณะที่รวบรวมบุคคลที่ไม่รู้จัก มันมาจากเขาที่กิ่งก้านที่ยาวที่สุดทอดยาวไปถึงยุคของเรา แม้ว่าการประพันธ์ของแผนภูมิต้นไม้ครอบครัวนี้จะไม่ยากที่จะสร้าง

เวอร์ชั่นของบราวน์เงื่อนงำหลัก - ว่าพระคริสต์เกี่ยวข้องกับผู้หญิง - เลโอนาร์โดผู้ยิ่งใหญ่ทิ้งไว้ในผลงานที่โด่งดังที่สุดของเขา - "โมนาลิซ่า" เขาระบุสิ่งนี้ในชื่อเรื่องของภาพเพราะว่า "โมนาลิซ่า" ไม่มีอะไรมากไปกว่าแอนนาแกรมของสองชื่อ: อมร (เทพเจ้าอียิปต์ ผู้ชาย) และ L'Iza (ภรรยาของเขาคือเทพธิดา Isis ซึ่งมีชื่อเขียนไว้พร้อมรูปสัญลักษณ์ว่า L'Isa)

ข้อเท็จจริง « Mona Lisa "แต่เดิมเรียกง่ายๆว่า" Portrait of a Florentine Lady "หลังจากที่ผู้ชื่นชอบงานของอาจารย์พบว่าภาพวาดนี้เป็นภาพของลิซ่า วัย 24 ปี ภรรยาของพ่อค้าชาวฟลอเรนซ์ ฟรานเชสโก เดล จิโอคอนโด ภาพวาดดังกล่าวจึงถูกตั้งชื่อว่า "ภาพเหมือนของโมนา ลิซา เดล จิโอคอนโด" "โมนาลิซ่า" หรือ "ลาจิโอคอนดา" พวกเขาเริ่มเรียกเธอว่าหลายปีหลังจากการเสียชีวิตของเลโอนาร์โดดาวินชี

ข้อเท็จจริงพื้นฐานตามเชื้อสายของเมอโรแว็งยิอัน ปิแอร์ แพลนทาร์ดบางคนเป็นทายาทสายตรงของกษัตริย์ในศตวรรษที่ 20 เขายังเป็นปรมาจารย์ของ Priory of Sion ... Real Plantard ตั้งแต่วัยเด็กใฝ่ฝันที่จะค้นหารากเหง้าในอดีตของเขา ร่วมกับเพื่อน นักเขียน และนักข่าว Philippe de Chérisi เขาได้คิดค้น "โบราณ" ขึ้นในช่วงกลางทศวรรษ 1950 สมาคมลับได้ทำรหัสและสายเลือดเมโรแว็งเกียน

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2499 แพลนตาร์ดได้จดทะเบียนสำนักไพรเออรี่แห่งไซออนในจังหวัดแซงต์-จูเลียน-ออง-เฌเนอวัวส์ แล้วในปารีเซียง หอสมุดแห่งชาติ"เอกสารลับ" ถูกฝากไว้ ในปี 1975 นักข่าว Michael Baigent "พบ" เขาและเขียนหนังสือ "The Holy Blood and the Holy Grail" ในปี 1982 ร่วมกับ Richard Lee และ Henry Lincoln ตามแรงจูงใจของเธอ Da Vinci Code นวนิยายอิงเรื่องหลอกลวงได้ถูกสร้างขึ้น

พล็อต

รุ่นก่อน

ผลแห่งความสำเร็จ

วิจารณ์ศาสนา

คำติชมของการแปลภาษารัสเซีย

วรรณกรรม

หมายเหตุ (แก้ไข)

ดูว่า "Da Vinci Code (นวนิยาย)" ในพจนานุกรมอื่น ๆ คืออะไร:

วิทยาลัย YouTube

วีรบุรุษแห่งหนังสือ

ผลแห่งความสำเร็จ

การประเมินผล

ทางเลือกของบรรณาธิการ