ซิดนี่ย์โอเปร่าเฮาส์. ออสเตรเลีย

หนึ่งในอาคารที่น่าสนใจที่สุดของศตวรรษที่ XX อยู่ในออสเตรเลีย สร้างขึ้นในปี 1957-1973 อาคารของโรงละครโอเปร่าในซิดนีย์ล้อมรอบด้วยน้ำมีลักษณะคล้ายเรือใบอย่างมาก สถาปนิกของอาคารในตำนานคือ Yorn Uston จากเดนมาร์ก

ประวัติการก่อสร้าง

จนกระทั่งกลางศตวรรษที่ XX ไม่มีอาคารเดียวที่เหมาะสมสำหรับการแสดงโอเปร่า ด้วยการมาถึงของหัวหน้าตัวนำใหม่ในซิดนีย์ วงออเคสตราซิมโฟนี Yujina Gusens ปัญหาถูกเปล่งออกมาดัง ๆ

แต่การสร้างอาคารใหม่ล่าสุดสำหรับเป้าหมายโอเปร่าและวงออเคสที่ไม่ได้กลายเป็นเรื่องของความสำคัญครั้งแรก ในเวลานี้โลกทั้งโลกอยู่ในสภาวะการฟื้นตัวหลังสงครามการบริหารซิดนีย์ไม่รีบเริ่มทำงานโครงการถูกแช่แข็ง

ค่าใช้จ่ายสำหรับการก่อสร้างโรงอุปรากรในซิดนีย์เริ่มขึ้นในปี 2497 พวกเขายังคงดำเนินต่อไปจนถึงปี 1975 ได้รับการรวบรวมประมาณ 100 ล้านดอลลาร์

Cape Bennelong ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในโครงสร้างทางวัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุด ตามข้อกำหนดอาคารควรมีสองห้องโถง ในครั้งแรกของพวกเขามีไว้สำหรับการแสดงโอเปร่าและบัลเล่ต์เช่นเดียวกับเพลงไพเราะประมาณสามพันคนที่จะรองรับ ในครั้งที่สองมีโปรดักชั่นที่น่าทึ่งและเพลงห้อง - 1,200 คน

Yorn Uton ตามที่คณะกรรมาธิการกลายเป็นสถาปนิกที่ดีที่สุดจาก 233 ที่กำลังเล่นงานของเขา ผู้สร้างสรรค์ในการสร้างโครงการให้เขาเป็นเรือใบในท่าเรือซิดนีย์ สำหรับการดำเนินงานของโครงการผู้สร้างใช้เวลา 14 ปี

การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี 1959 ปัญหาเริ่มทันที รัฐบาลเรียกร้องให้เพิ่มจำนวนห้องจากสองถึงสี่ห้อง นอกจากนี้ปีกแล่นเรือที่ได้รับการออกแบบเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ดังนั้นจึงใช้เวลาสองสามปีในการทดลองเพื่อค้นหาการตัดสินใจที่ถูกต้อง เนื่องจากการดำเนินการเริ่มต้นในปี 1966 UPC จะถูกแทนที่ด้วยกลุ่มสถาปนิกจากออสเตรเลียนำโดย Peter Hall

เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2516 โรงละครโอเปร่าในซิดนีย์เปิดประตูของเขา รอบปฐมทัศน์กำลังตั้งค่าการโอเปร่า "สงครามและโลก" S. Prokofiev พิธีเปิดอย่างเป็นทางการจัดขึ้นในวันที่ 20 ตุลาคมต่อหน้า Elizabeth II

ตัวเลขเล็ก ๆ น้อย ๆ

โอเปร่าที่สร้างขึ้นอย่างต่อเนื่องในประวัติศาสตร์ นี่เป็นคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่มี 5 ห้องโถงและประมาณ 1,000 สถานที่มีวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ความสูงสูงสุดของอาคารโรงละครโอเปร่าคือ 67 เมตร น้ำหนักรวมของอาคารตามการคำนวณ 161,000 ตัน

ฮอลล์ออฟโอเปร่า

1 ห้องโถง

ห้องโถงที่ใหญ่ที่สุดของโอเปร่าซิดนีย์เป็นคอนเสิร์ต มันรองรับผู้เยี่ยมชม 2679 คน นอกจากนี้ยังมีออร์แกนคอนเสิร์ตขนาดใหญ่

2 ห้องโถง

สำหรับการแสดงโอเปร่าและบัลเล่ต์ห้อง Opera สำหรับผู้ชม 1547 คนใช้ ในห้องโถงเป็น "ม่านของดวงอาทิตย์" ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

3 ห้องโถง

ห้องโถงที่น่าทึ่งรองรับผู้ชม 544 คน มีการแสดงละครและการเต้นรำที่น่าทึ่ง นี่คือพรมม่านอีกอันหนึ่งทอใน Obusson ในโทนสีเข้มของเขาเขาได้ชื่อ "ม่านแห่งดวงจันทร์"

4 ห้องโถง

The Playechus Hall ได้รับการออกแบบสำหรับผู้ชม 398 คน มันมีไว้สำหรับ Miniatures โรงละครการบรรยายเช่นเดียวกับการใช้เป็นโรงภาพยนตร์

5 ห้องโถง

ห้องโถงใหม่ล่าสุด "สตูดิโอ" เปิดในปี 1999 ผู้ชม 364 คนที่นี่สามารถดูละครในจิตวิญญาณของแก่นสาร

ตั้งแต่ปีพ. ศ. 2516 อาคารโอเปร่าในซิดนีย์เกือบเกือบตลอดรอบที่ไม่มีการหยุดชะงัก นอกเหนือจากคู่รักของวัฒนธรรมและศิลปะอาคารที่รักนักท่องเที่ยวหลายพันคนเยี่ยมชมซิดนีย์ โอเปร่าซิดนีย์กลายเป็นสัญลักษณ์ที่แท้จริงของออสเตรเลีย

วิดีโอเกี่ยวกับ Opera House ซิดนีย์

– ซิดนี่ย์โอเปร่าเฮาส์และแม้ว่าคุณจะไม่ได้ยินแล้วคุณจำภาพถ่ายของโครงสร้างการแล่นเรือใบที่ผิดปกตินี้ได้อย่างง่ายดาย

เรื่องราวของเราจะแนะนำให้คุณรู้จักกับอาคารที่ไม่เหมือนใครนี้คุณจะได้เรียนรู้ว่าทำไมมันถึงได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวและคุณสามารถตัดสินใจได้ว่าจะสมควรได้รับความสนใจหรือไม่

ประวัติความเป็นมาของการสร้างโรงละครโอเปร่าในซิดนีย์

ประวัติความเป็นมาของการก่อสร้างสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกเริ่มขึ้นในระยะไกล 1954 ปีที่ผู้ควบคุมวงอังกฤษ Y. Hussensในการทำงานมาถึงในค้นพบว่าไม่เพียง แต่ไม่เพียง แต่โรงละครโอเปร่า แต่ยังรวมถึงสถานที่ที่กว้างขวางมากพอที่ผู้คนสามารถฟังเพลงได้
เขาถูกไฟไหม้ความคิดของการก่อสร้างและในไม่ช้าก็พบสถานที่ที่เหมาะสม - Cape Bennelong Point ซึ่ง Tram Depot ตั้งอยู่ในเวลานั้น
Y. Gussens ทำงานได้มากและที่นี่ในวันที่ 17 พฤษภาคม 1955 รัฐบาลออสเตรเลียประกาศการแข่งขันสำหรับการพัฒนาโครงการโรงละครโอเปร่าใหม่ สถาปนิกจากทั่วโลกส่งโครงการของพวกเขา แต่ในที่สุดก็เอาชนะ Dane เจ. วัตสัน.
การก่อสร้างขนาดใหญ่เริ่มต้นขึ้นซึ่งล่าช้าเป็นเวลา 14 ปีและแทนที่จะคำนวณในขั้นต้น 7 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียเรียกร้อง 102 ล้านดอลลาร์
ในปี 1973 การค้นพบอย่างเป็นทางการของบ้านโอเปร่าซิดนีย์ถูกจัดขึ้นในไม่ช้าหลังจากนั้นอาคารเป็นสัญลักษณ์หลักหลักของสถาปัตยกรรมไม่เพียง แต่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงออสเตรเลีย

สถานที่ท่องเที่ยวหลัก - สิ่งที่เห็นในโรงละครโอเปร่าซิดนีย์?

ไม่ต้องสงสัยเลยความสนใจของผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกไปจนถึงโรงละครโอเปร่าในซิดนีย์มากที่สุด ดึงดูดหลังคาที่สามารถจดจำได้ง่ายซึ่งบางคนคล้ายกับใบเรืออ่างล้างมือของใครบางคนและคนอื่น ๆ บอกว่าเป็นสัญลักษณ์ของเพลงแช่แข็ง

เธอรู้รึเปล่า? หลายคนคิดว่าหลังคามีพื้นผิวสีขาวในความเป็นจริงกระเบื้องสีขาวบางส่วน - ครีมเนื่องจากซึ่งขึ้นอยู่กับการส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์มันสามารถ "เปลี่ยน" สีได้

แต่นอกจากหลังคามีจุดอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้โครงสร้างโดดเด่นจริงๆ จากสามด้านมันถูกล้อมรอบด้วยน้ำและยืนบนเสาเข็มคอนกรีตขนาดใหญ่ พื้นที่โรงละครถึงตัวเลขที่เหลือเชื่อ - 22,000 ตารางเมตร m.!

โรงละครรองรับห้องโถงขนาดใหญ่ 4 ห้องในครั้งเดียว:

• ห้องคอนเสิร์ตซึ่งสามารถรับผู้เยี่ยมชมได้ 2679 คนพร้อมกัน
• โรงละครโอเปร่าออกแบบมาสำหรับผู้ชม 1507 คนที่นี่ไม่เพียง แต่โอเปร่า แต่ยังบัลเล่ต์;
• โรงละครแห่งละครความสามารถในการรองรับ 544 คน
• โรงละครละครขนาดเล็ก - ห้องพักที่สะดวกสบายที่สุดสำหรับผู้ชม 398 คน

นอกเหนือจากห้องโถงหลักในโรงละครยังมีสถานที่อื่น ๆ อีกมากมาย - การซ้อมห้องเครื่องแต่งกายทางเดินบาร์และร้านอาหาร

ความบันเทิง

ความบันเทิงหลักของโรงละครโอเปร่าในซิดนีย์คือ ดูการเล่นที่โดดเด่นการแสดงโอเปร่าและบัลเล่ต์. ทริปละครและบัลเล่ต์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาที่นี่ด้วยความคิดของพวกเขารวมถึงออเคสตร้านักร้องและผู้นำศิลปะอื่น ๆ

เธอรู้รึเปล่า? ในเวลาเดียวกัน 4 มุมมองที่แตกต่างกันสามารถจัดขึ้นในโรงละคร!

ด้วยการเรียกเก็บเงินของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นคุณสามารถรู้ได้ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของโรงละครโอเปร่าซิดนีย์.
หากคุณไม่ใช่คนรักที่ว่องไวของศิลปะหรือมีเวลาน้อย แต่คุณต้องการทำความคุ้นเคยกับโครงสร้างที่มีชื่อเสียงระดับโลกมันเป็นไปได้ง่าย

เมื่อไปเยี่ยมหนึ่งในนั้นคุณไม่เพียง แต่เรียนรู้ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจมากขึ้นเกี่ยวกับโครงสร้างที่มีชื่อเสียงเท่านั้น แต่ยังเยี่ยมชมฉาก ชีวิตการแสดงละครเพื่อทำความคุ้นเคยกับนักแสดงของคณะและแม้แต่ลองอาหารโรงละคร โดยวิธีการเกี่ยวกับอาหาร
ในดินแดนของสำนักงานโอเปร่าซิดนีย์มีบาร์และร้านอาหารที่ดีหลายแห่ง ความนิยมมากที่สุดของพวกเขา:

• Opera Bar - บาร์และร้านอาหารในเวลาเดียวกันเป็นหนึ่งใน "สัตว์เลี้ยง" ในหมู่ซีเดลาส์;
• Bennelong - หนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดในออสเตรเลียเชฟซึ่งเป็น P. Gilmore ซึ่งเตรียมอาหารดั้งเดิมจากส่วนผสมของออสเตรเลีย
• Portside ซิดนีย์ - เหมาะที่สุดสำหรับขนมขบเคี้ยวง่าย ๆ ถ้วยกาแฟหรือร้านอาหารสำหรับครอบครัวที่เป็นมิตรกับขนมหวาน

ยังอยู่ใน อาคารโรงละคร คุณจะพบ ร้านขายของที่ระลึกมากมายเสนอให้นักท่องเที่ยวมีสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่น่ารื่นรมย์และน่าจดจำ

Sydney Opera House อยู่ที่ไหน

โครงสร้างที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่ในท่าเรือที่งดงามของซิดนีย์ที่จุด Cape Bennelong
คุณสามารถไปที่นี่ได้อย่างง่ายดายจากทุกที่ในเมืองหลวงของออสเตรเลียเนื่องจากมีทางแยกทางทะเลและเส้นทางการขนส่งทางบก
พิกัด GPS: 33.856873 ° S, 151.21497 ° E

โหมดการทำงานของโรงอุปรากรซิดนีย์

• โรงละครเปิดให้ผู้เยี่ยมชมทุกวันตั้งแต่ 9.00 น. (ในวันอาทิตย์เวลา 10:00 น.) และจนถึงเย็น

• ราคาของการเยี่ยมชมโรงละครขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการเยี่ยมชมดังกล่าว - ไม่ว่าจะเป็นการทัศนศึกษาหรือคุณต้องการที่จะเห็นสิ่งนี้หรือความคิดนั้นหรือคุณเพียงแค่ต้องการผ่อนคลายและอร่อยที่จะกินในหนึ่งในร้านอาหารโรงละคร - ใน แต่ละกรณีราคาสามารถแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
• สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นใด ๆ คุณสามารถติดต่อ "บริการข้อมูล" ของโรงละครตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ทางโทรศัพท์ +61 2 9250 7111 หรือเขียนถึงกิน ที่อยู่ [อีเมลได้รับการป้องกัน]
  เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Opera House ในซิดนีย์ - www.sydneyoperahouse.com

ซิดนีย์โอเปร่าเฮ้าส์ - ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ

• ผู้เขียนโรงละครซิดนีย์ Y. Hussens แม้จะมีปริมาณงานที่ทำโดยเขานั้น "ถูกไล่ออก" จากออสเตรเลีย, ตั้งแต่เขาถูกกล่าวหาว่าค้นพบรายการที่ต้องห้ามของมวลสีดำ
• มีการรวบรวมเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย 7 ล้านดอลลาร์ในการก่อสร้างโรงละครเนื่องจาก ลอตเตอรีการกุศล.
• หลังคาที่มีชื่อเสียงที่มีชื่อเสียงมีอะคูสติกของสถานที่แสดงละครอย่างมีนัยสำคัญในการเชื่อมต่อที่เพิ่มเติม การกู้คืนเพดาน หลังคาโดยวิธีการที่หนักเกินไปและผู้สร้างถูกบังคับให้สร้างความมั่นใจให้กับรากฐานทั้งหมดของโรงละคร
• ในการเชื่อมต่อกับการก่อสร้างที่เป็นเวลานานของสถาปนิกของซิดนีย์โอเปร่าเฮ้าส์ Y. วัตสันมีปัญหากับรัฐบาลออสเตรเลียและเขาถูกบังคับให้ออกจากออสเตรเลีย เสร็จสิ้นการโรงละครสถาปนิกอื่น ๆ.
• เพื่อเปิดโรงละครโอเปร่าในซิดนีย์มาเอง queen of Britain Elizabeth іі.
• โรงละครซิดนีย์มีผ้าม่านละครที่ยาวที่สุดในโลกและในห้องโถงคอนเสิร์ตใหญ่ของเขา เป็นอย่างมาก อวัยวะใหญ่ บนโลกใบนี้
• โรงละครโอเปร่าซิดนีย์ - อาคารแห่งแรกของโลกที่นับ เว็บไซต์มรดกโลกของยูเนสโก ในชีวิตของสถาปนิกของเขา
• อาคารของโอเปร่ายังไม่เสร็จสมบูรณ์จนกว่าจะสิ้นสุด. เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2000 รัฐบาลออสเตรเลียได้เชิญ Y. Watson ให้เสร็จสิ้นอาคาร แต่เขาปฏิเสธ สถาปนิกที่มีชื่อเสียงไม่เคยกลับไปออสเตรเลียหลังจากการยกเลิกการก่อสร้างที่ถูกบังคับ
• Y. Watson ในปี 2003 ได้รับความโดดเดี่ยว รางวัลพูลิตเซอร์ สำหรับโครงการโรงละครที่มีชื่อเสียงระดับโลก
• ซิดนี่ย์โอเปร่าเฮาส์ เป็นผู้ท้าชิงในชื่อของหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก.
• ยังคง ซ่อมแซมโครงสร้างที่มีชื่อเสียง.

ซิดนีย์โอเปร่าเฮ้าส์ - วิดีโอ

ในวิดีโอนี้คุณจะได้เรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงละครโอเปร่าซิดนีย์ มีความสุขในการดู!

ความลับอื่น ๆ เหล่านี้และอื่น ๆ ซ่อนอยู่ด้านหลังกำแพงโรงละครที่มีชื่อเสียงระดับโลก - รีบไปพบเขาสัมผัสความลับของเขาและสัมผัสกับศิลปะดนตรีและละครที่ยอดเยี่ยมซึ่งทุกวันแผ่ออกไปหลังฉากของเขา

(Eng. Sydney Opera House) - หนึ่งในอาคารที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียซิดนีย์และหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวหลักของออสเตรเลีย - เชลล์การแล่นเรือใบที่สร้างหลังคา อาคารนี้ไม่เหมือนกับอื่น ๆ ในโลก โอเปร่าเฮ้าส์ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในโครงสร้างที่โดดเด่นของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่และตั้งแต่ปี 1973 พร้อมกับสะพานสะพานฮาร์เบอร์ของนามบัตรซิดนีย์

Sydney Opera House ตั้งอยู่ในท่าเรือซิดนีย์ใน Bennelong Point สถานที่นี้ได้รับชื่อดังกล่าวโดยชื่อของชาวอะบอริจินออสเตรเลียเพื่อนของผู้ว่าการครั้งแรกของอาณานิคม มันเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการถึงซิดนีย์โดยไม่มีโอเปร่าอย่างไรก็ตามจนถึงปี 1958 ในสถานที่ของเธอคือคลังรถรางปกติ (ป้อมปราการตั้งอยู่ก่อนการสร้างโอเปร่าที่นั่นแล้วสถานีรถราง)

สถาปนิกของ Opera House คือ Dane of Yorn Rezon แม้จะมีแนวคิดที่ประสบความสำเร็จของกระสุนทรงกลมซึ่งแก้ไขปัญหาการก่อสร้างทั้งหมดประสบความสำเร็จในการเข้าใกล้การผลิตจำนวนมากผู้ผลิตที่ถูกต้องและความสะดวกในการติดตั้งการก่อสร้างถูกลากส่วนใหญ่เนื่องจากการตกแต่งภายในของสถานที่ มีการวางแผนว่าการก่อสร้างโอเปร่าจะใช้เวลา 4 ปีและจะมีราคา 7 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย แต่โอเปร่าถูกสร้างขึ้นมากถึง 14 ปีและมีราคา 102 ล้านดอลลาร์!

ซิดนีย์โอเปร่าเฮ้าส์เป็นอาคารที่ทำในสไตล์ของการแสดงออกที่มีการออกแบบที่รุนแรงและเป็นนวัตกรรม อาคารครอบคลุมพื้นที่ 2.2 เฮกตาร์ ความสูงของมันคือ 185 เมตรและความกว้างสูงสุดคือ 120 เมตร อาคารมีน้ำหนัก 161,000 ตันและอาศัยกอง 580 ฝักลงไปในน้ำเพื่อความลึกเกือบ 25 เมตรจากระดับน้ำทะเล แหล่งจ่ายไฟเทียบเท่ากับการใช้ไฟฟ้าของเมืองแห่งหนึ่งโดยมีประชากร 25,000 คน ไฟฟ้าถูกกระจาย 645 กิโลเมตรของสายเคเบิล

หลังคาของโรงละครโอเปร่าประกอบด้วย 2 194 ล่วงหน้าของส่วนที่ผลิตขึ้นความสูงของมันคือ 67 เมตรและน้ำหนักมากกว่า 27 ตันการออกแบบทั้งหมดถือสายเหล็กที่มีความยาว 350 กิโลเมตร หลังคาของโรงละครเป็นชุดของ "อ่างล้างมือ" จากทรงกลมคอนกรีตที่ไม่มีอยู่จริงด้วยเส้นผ่านศูนย์กลาง 492 ฟุตพวกเขามักจะเรียกว่า "กระสุน" หรือ "ใบเรือ" แม้ว่ามันจะไม่ถูกต้องจากมุมมองของสถาปัตยกรรม นิยามของการออกแบบดังกล่าว เปลือกหอยเหล่านี้ทำจากแผงคอนกรีตสำเร็จรูปในรูปแบบของรูปสามเหลี่ยมซึ่งใช้ซี่โครง 32 ชนิดจากวัสดุเดียวกัน ซี่โครงทั้งหมดประกอบขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของวงกลมขนาดใหญ่หนึ่งตัวซึ่งอนุญาตให้เอียงของหลังคามีรูปร่างที่เหมือนกันและอาคารทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์และมีลักษณะที่กลมกลืนกัน

หลังคาทั้งหมดถูกปกคลุมด้วย 1.056.006 พร้อมสีขาวและสีครีมเคลือบ แม้ว่าการออกแบบดูเหมือนว่าจะทำจากกระเบื้องสีขาวโดยเฉพาะด้วยแสงที่แตกต่างกันกระเบื้องสร้างขอบเขตสีที่แตกต่างกัน ต้องขอบคุณวิธีการเชิงกลของการวางกระเบื้องพื้นผิวทั้งหมดของหลังคากลายเป็นไปอย่างราบรื่นอย่างสมบูรณ์แบบซึ่งเป็นไปไม่ได้ในระหว่างการเคลือบด้วยตนเอง กระเบื้องทั้งหมดทำโดยโรงงานสวีเดนHöganäs AB ด้วยเทคโนโลยีการทำความสะอาดตัวเอง แต่แม้จะมีสิ่งนี้ทำงานเป็นประจำในการทำความสะอาดและเปลี่ยนกระเบื้องบางอย่างเป็นประจำ

สองฤดูกาลที่ใหญ่ที่สุดจากเปลือกหอยก่อตัวเพดานของคอนเสิร์ตฮอลล์ (Eng.concert Hall) และโรงละครโอเปร่า (ENG โรงละครโอเปร่า) ในห้องโถงอื่น ๆ เพดานฟอร์มของซุ้มโค้งขนาดเล็ก

โครงสร้างหลังคาที่ก้าวหน้านั้นสวยงามมาก แต่สร้างปัญหาความสูงภายในอาคารเพราะความสูงที่ได้รับไม่ได้ให้เสียงที่เหมาะสมในห้องโถง เพื่อแก้ปัญหานี้ให้ทำเพดานแยกกัน ในเปลือกที่เล็กที่สุดนอกเหนือจากทางเข้าหลักและบันไดด้านหน้าร้านอาหารเบ็นเนลยง (Bennelong) ตั้งอยู่

การตกแต่งภายในของอาคารได้รับการตกแต่งด้วยหินแกรนิตสีชมพูนำมาจากภูมิภาคทาร์น (นิวเซาธ์เวลส์) ไม้และไม้อัด

สำหรับโครงการนี้ USTONT ได้รับรางวัล Pritzker ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดในสถาปัตยกรรมในปี 2003 รางวัลดังกล่าวมาพร้อมกับคำ: "ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบ้านโอเปร่าซิดนีย์เป็นผลงานชิ้นเอกนี่เป็นหนึ่งในสัญญาณใหญ่ของศตวรรษที่ 20 ภาพของความงามที่ไม่ธรรมดาที่กลายเป็นที่รู้จักทั่วโลก - สัญลักษณ์ไม่เพียง แต่เมืองเท่านั้น แต่ยังรวมทั้งประเทศและทวีปทั้งหมดด้วย "

ในซิดนีย์โอเปร่าเฮ้าส์สี่ บริษัท ที่สำคัญในออสเตรเลียพบว่าบ้านของพวกเขา - โอเปร่าออสเตรเลียบัลเล่ต์ออสเตรเลีย บริษัท โรงละครซิดนีย์และซิดนีย์ซิมโฟนีออร์เคสตร้านอกจากนี้ยังมี บริษัท และโรงภาพยนตร์อื่น ๆ อีกมากมายที่อาศัยอยู่ในซิดนีย์โอเปร่า โรงละครแห่งนี้เป็นหนึ่งในศูนย์ศิลปะการแสดงที่คึกคักที่สุดประมาณ 1,500 การแสดงที่มีการเข้าร่วมทั้งหมดของผู้คนมากกว่า 1.2 ล้านคนที่เกิดขึ้นทุกปี นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของออสเตรเลียมากกว่าเจ็ดล้านนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมทุก ๆ ปี

ในอาคารของโรงละครโอเปร่าสามห้องโถงหลักสำหรับการแสดง:

คอนเสิร์ตฮอลล์ 2679 ที่นั่งเป็นบ้านของซิดนีย์ซิมโฟนีออร์เคสตร้ามันมีอวัยวะทางกลที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากมากกว่า 10,000 ท่อ

Opera House, 1507 ที่นั่งเป็นบ้านของโอเปร่าซิดนีย์และบัลเล่ต์ออสเตรเลีย

ละครละครละคร 544 แห่งใช้โดย บริษัท โรงละครซิดนีย์และการเต้นรำและการแสดงละครอื่น ๆ

นอกเหนือจากห้องโถงทั้งสามนี้แล้วซิดนีย์โอเปร่าเฮ้าส์ยังมีห้องพักขนาดเล็กและสตูดิโอขนาดเล็ก

Salome Amvrosievna Kruzhelnitskaya - นักร้องโอเปร่ายูเครนที่มีชื่อเสียง (โซปราโน), ครู ครั้งสุดท้ายที่ Salome Krushelnitskaya ได้รับการยอมรับว่าเป็นนักร้องที่โดดเด่นของโลก เขามีความโดดเด่นและความงามด้วยเสียงที่หลากหลาย (ประมาณสามอ็อกเทฟที่มีการลงทะเบียนสื่อฟรี), หน่วยความจำดนตรี (สามารถเรียนรู้ปาร์ตี้โอเปร่าในสองหรือสามวัน) การให้สดใสสดใส เพลงของนักร้องได้รับผลงานปาร์ตี้ที่แตกต่างกันมากกว่า 60 ฝ่าย ในบรรดารางวัลและความแตกต่างมากมายโดยเฉพาะตำแหน่งของ "Wagner Primadonna XX Century" นักแต่งเพลงชาวอิตาลี Giacomo Puccini ให้แนวตั้งของเขาด้วยจารึก "ผีเสื้อที่สวยงามและมีเสน่ห์" Salome Krushelnitsky เกิดเมื่อวันที่ 23 กันยายน 1872 ในหมู่บ้าน Belvyntsy ตอนนี้เขต Buchacksky ของภูมิภาค Ternopil ในครอบครัวของปุโรหิต มันมาจากโนเบิลและยูเครนเก่า ตั้งแต่ปี 1873 ครอบครัวย้ายไปหลายครั้งในปี 1878 พวกเขาย้ายไปที่หมู่บ้านสีขาวใกล้กับ Ternopil จากที่ที่พวกเขาไม่ได้ทิ้งไว้ทุกที่ ร้องเพลงเริ่มต้นตั้งแต่อายุยังน้อย ในวัยเด็กซาโลเมนให้เพลงพื้นบ้านจำนวนมากซึ่งเธอเรียนรู้โดยตรงจากชาวนา พื้นฐานของการเตรียมดนตรีที่ได้รับในโรงยิม Ternopil ซึ่งตรวจสอบการสอบภายนอก ที่นี่เธออยู่ใกล้กับวงดนตรีของนักยิมนักกายดนตรีซึ่งเป็นสมาชิกที่ยังเป็น Denis Sichinsky - ต่อมานักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียงครั้งแรกใน ยูเครนตะวันตก นักดนตรีมืออาชีพ ในปี 1883 การกล่าวสุนทรพจน์สาธารณะแห่งแรกของ Salome ซึ่งร้องเพลงในคริสตจักรของการสนทนาภาษารัสเซียในคริสตจักรของการสนทนาของรัสเซียจัดขึ้นที่คอนเสิร์ต Shevchenko ใน Ternopol ใน Ternopil Salomew Kruzhelnitskaya พบกับโรงละครครั้งแรก ที่นี่เป็นครั้งคราว Lviv โรงละครของสมาคมการสนทนารัสเซีย ในปี 1891 SaloMewoo เข้าสู่ Lviv Conservatory ในเรือนกระจกครูของเธอโด่งดังแล้วในศาสตราจารย์ลวิฟ Valery Vysotsky ผู้ระดมชาติของชาวยูเครนที่มีชื่อเสียงและนักร้องโปแลนด์ ในระหว่างการศึกษาการแสดงเดี่ยวครั้งแรกของเธอเกิดขึ้นในเรือนกระจกในวันที่ 13 เมษายน 2435 นักร้องได้ดำเนินการโดยพรรคหลักใน Oratorio of G.f. Hejdel "Messiah" เปิดตัวโอเปร่าครั้งแรก Salomew Kruzhelnitsky เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 เมษายน 1893 เธอแสดงบทบาทของ Leonora ในการเล่นของนักแต่งเพลงชาวอิตาลี G.Donicetti "Favoritsa" บนเวทีของโรงละครเมือง Lviv 2436 ในKrušelnitskayaจบการศึกษาจาก Lviv Conservatory ประกาศนียบัตรสำเร็จการศึกษาของ Salome ถูกเขียนขึ้น: "ประกาศนียบัตรนี้ได้รับ Panna Salomew Kruzhelnitskaya เป็นหลักฐานการศึกษาศิลปะที่ได้รับจากความขยันที่เป็นแบบอย่างและความสำเร็จที่รุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแข่งขันสาธารณะเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 1893 ซึ่งมีการบันทึกเหรียญเงิน" ในขณะที่เรียนที่ Conservatory Salome Krushelnitskaya ได้รับข้อเสนอจาก Lviv Opera House แต่เธอตัดสินใจที่จะศึกษาต่อไป Jamma Bellinconi นักร้องชาวอิตาลีที่มีชื่อเสียงได้รับอิทธิพลจากการตัดสินใจของเธอซึ่งในเวลานั้นไปเที่ยวใน Lviv ในฤดูใบไม้ร่วงปี 1893 Salome กำลังออกเดินทางไปเรียนในอิตาลีซึ่งครูของเธอกลายเป็นศาสตราจารย์ของ Faust Cresmen ในกระบวนการศึกษาโรงเรียนที่ดีสำหรับ Salome มีการแสดงที่คอนเสิร์ตที่เธอ Sang Opera Aria ในช่วงครึ่งหลังของปี 1890 การแสดงชัยชนะของมันเริ่มขึ้นในฉากของโรงภาพยนตร์แห่งโลก: อิตาลี, สเปน, ฝรั่งเศส, โปรตุเกส, รัสเซีย, โปแลนด์, ออสเตรีย, อียิปต์, อาร์เจนตินา, ชิลีในโอเปร่า "Aida", "Troubadur", "Troubadur" D . Verdy "Faust » SH Guno," น่ากลัว Dvor "S.Myushko" แอฟริกัน "D. Meerber" Manon Lesko "และ" Chio-Chio-San "J. Puccini" Carmen "J. Bizé" Electra "R.Straus," Evgeny Onegin "และ" หญิงสูงสุด"P.I. . Tchaikovsky และอื่น ๆ ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 1904 ในโรงละครมิลาน" La Scala "Gakomo Puccini นำเสนอ Opera Madame Batterfly ใหม่ของเขา ยังคงเป็นนักแต่งเพลงที่ไม่มั่นใจในความสำเร็จ ... แต่ผู้ชม Opera โดดเด่น Maestro ที่มีชื่อเสียงรู้สึกถูกบดขยี้ เพื่อนชักชวน Puccini เพื่อรีไซเคิลงานของพวกเขาและไปยังฝ่ายหลักเพื่อเชิญ Salome Krizhelnitskaya เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมปฐมทัศน์ของ "Madame Batterfly" ที่อัปเดตถูกจัดขึ้นบนเวทีของ The Grand Theatre ใน Breshi คราวนี้ - Triumphal ประชาชนได้เห็นนักแสดงและนักแต่งเพลงบนเวทีเจ็ดครั้ง หลังจากประสิทธิภาพการทำงานที่สัมผัสและกตัญญู pucchini ส่งภาพของเขาด้วยจารึก: "ผีเสื้อที่สวยที่สุดและมีเสน่ห์" ในปี 1910, S. Krushelnitskaya แต่งงานกับนายกเทศมนตรีของ Viareggio (อิตาลี) และทนายความ Cesare Ricconi ซึ่งเป็นนักเลงที่บอบบางของดนตรีและขุนนางขุนนาง พวกเขารวมกับการแต่งงานในหนึ่งในวัดของบัวโนสไอเรส หลังจากการแต่งงานของ Cesare และ Salome ตัดสินใน Viareggio, Salome ซื้อวิลล่าที่ Salome เรียกว่า "Salome" และยังคงทัวร์ต่อไป ในปี 1920 Krušelnitskayaใน Zenith แห่งสง่าราศีออกจากฉากการทำงานการแสดง ครั้งสุดท้าย ในโรงละครเนเปิลส์ในโอเปร่าที่ชื่นชอบ Loreley และ Lorangery ชีวิตต่อไปอุทิศให้กับห้อง กิจกรรมคอนเสิร์ต แสดงเพลงใน 8 ภาษา ดำเนินการทัวร์ในยุโรปและอเมริกา ทุกปีก่อนปี 1923 เธอมาที่บ้านเกิดของเธออย่างต่อเนื่องและแสดงใน Lviv, Ternopil และเมืองอื่น ๆ ของ Galicia เธอมีความเกี่ยวข้องกับพันธะที่แข็งแกร่งของมิตรภาพกับตัวเลขมากมายในยูเครนตะวันตก โสดในกิจกรรมสร้างสรรค์ของนักร้องถูกจัดขึ้นโดยคอนเสิร์ตที่อุทิศให้กับความทรงจำของ T. Shezchenko และ I Ya ฟรังก์ ในปี 1929 ทัวร์ครั้งสุดท้ายของ S. Krcheelnitskaya จัดขึ้นในกรุงโรม ในปี 1938 สามีของ Krishelnitsky Cesare Ricchoni เสียชีวิต ในเดือนสิงหาคมปี 1939 นักร้องเข้าเยี่ยมชมกาลิเซียและเนื่องจากจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่สองไม่สามารถกลับไปที่อิตาลีได้ ในช่วงอาชีพของเยอรมัน Lviv S. Krcheelnitskaya เป็นทุกข์มากดังนั้นให้รายชื่อนักร้องส่วนตัว ในช่วงหลังสงคราม S. Krcheelnitskaya เริ่มทำงานใน Lviv State Conservatory ที่ตั้งชื่อตาม n.lystenko อย่างไรก็ตามกิจกรรมการสอนของเธอแทบจะเริ่มขึ้นเกือบจะสิ้นสุดลง ในระหว่างการทำความสะอาดเฟรมจากองค์ประกอบของชาตินิยม "การไม่มีประกาศนียบัตรอนุรักษ์นิยม ต่อมาประกาศนียบัตรที่พบในรากฐานของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมือง การใช้ชีวิตและสอนในสหภาพโซเวียต Salome Ambrosievna แม้จะมีการอุทธรณ์จำนวนมากไม่สามารถรับสัญชาติโซเวียตเป็นเวลานานที่เหลืออยู่ในอิตาลีที่เหลืออยู่ ในที่สุดการเขียนแอปพลิเคชันสำหรับการถ่ายโอนวิลล่าอิตาลีและทรัพย์สินทั้งหมดไปยังรัฐโซเวียตKrušelnitskayaกลายเป็นพลเมืองของสหภาพโซเวียต วิลล่าถูกขายทันทีชดเชยให้เจ้าของส่วนน้อยของคุณค่าของมัน ในปี 1951 Salome Kruchelnitski มอบหมายตำแหน่งของคนงานศิลปะที่ให้เกียรติของยูเครน SSR และในเดือนตุลาคม 1952 หนึ่งเดือนก่อนการเสียชีวิต Kruzhelnitskaya ได้รับตำแหน่งของศาสตราจารย์ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2495 หัวใจของนักร้องที่ยิ่งใหญ่หยุดเต้น เธอถูกฝังอยู่ใน Lviv ในสุสาน Lychakov ถัดจากหลุมศพของเพื่อนและที่ปรึกษา - Ivan Franco ในปี 1993 ใน Lviv ชื่อของ S. Krushelnitsky เรียกว่าถนนที่เธออาศัยอยู่ในช่วงปีสุดท้ายของชีวิตของเธอ อพาร์ทเมนท์ของนักร้องเปิดพิพิธภัณฑ์ Salome Krizhelnitsky วันนี้ชื่อ S. Krcheelnitskoy ถูกสวมใส่โดย Lviv Opera House, Lviv Music High School, Ternopil Music School (ที่หนังสือพิมพ์ Salome ออกมา), โรงเรียนอายุ 8 ปีในหมู่บ้าน Belaya, ถนนในเคียฟ, Lviv, Ternopil , Buchach (ดู Salome Street Krizhelnitsky) ในห้องโถงกระจกของโรงละครโอเปรา Lviv และบัลเล่ต์อนุสาวรีย์บรอนซ์ Salome Krizhelnitsky ติดตั้งแล้ว งานศิลปะและดนตรีและภาพยนตร์และภาพยนตร์หลายแห่งนั้นอุทิศให้กับชีวิตและความคิดสร้างสรรค์ของ Salome Kruzhelnitsky ในปี 1982 ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์และชีวประวัติ "ผลตอบแทนของผีเสื้อ" (ขึ้นอยู่กับนวนิยายของ v.vrublevskaya ชื่อ) ซึ่งอุทิศให้กับชีวิตและความคิดสร้างสรรค์ของ Salome Krizhelnitskaya ถูกลบออกบนสตูดิโอภาพยนตร์ของ O. Fialzhenko ผู้อำนวยการ O. Fialko ภาพขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่แท้จริงของชีวิตของนักร้องและสร้างขึ้นเป็นความทรงจำของมัน ฝ่าย Salome ดำเนินการ CiPOL Gisel บทบาทของ Salome ในภาพยนตร์ดำเนินการ Elena Safonova นอกจากนี้สารคดียังถูกสร้างขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง "Salome Krushelnitskaya" (ผู้อำนวยการ I.Mudrak, Lviv, Bridge, 1994) "สองชีวิต Salome" (ผู้กำกับ A.Frololov, เคียฟ, "ติดต่อ", 1997) เตรียม telecast จากวงจร "ชื่อ" (2004) สารคดี "Solo-Mea" จากวงจร "The Game of Fate" (ผู้อำนวยการ V. Lame, Studio Viatel, 2008) 18 มีนาคม 2549 ในที่เกิดเหตุโอเปร่าวิชาการแห่งชาติลวิฟและโรงละครบัลเล่ต์ที่ตั้งชื่อตาม Kruzhelnitsky เกิดขึ้นรอบปฐมทัศน์ของบัลเล่ต์ของ Miroslav Vocarika "การกลับมาของผีเสื้อ" ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงจากชีวิตของ Salome Crushelnitsky บัลเล่ต์ใช้เพลงของ Jacomo Puccini ในปี 1995 รอบปฐมทัศน์ของการเล่น "Salome Krušelnitskaya" (ผู้แต่ง B. Melichuk, I. Lyakhovsky) ในโรงละครละครระดับภูมิภาค Ternopil (ปัจจุบันโรงละครวิชาการ) ตั้งแต่ปี 1987 ใน Ternopil การแข่งขัน Salome Krizhelnitsky จัดขึ้น ทุก ๆ ปีใน Lviv ได้รับการแข่งขันระดับนานาชาติที่ตั้งชื่อตาม Kruzhelnitsky; เทศกาลเหล็กแบบดั้งเดิมคือศิลปะโอเปร่า

Joyce Didonato (Joyce Didonato) เป็นนักร้องโอเปร่าชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียง Mezzo-Soprano ถือว่าเป็นหนึ่งใน Mezzo-Soprano ชั้นนำของเวลาของเราและล่ามที่ดีที่สุดของผลงานของ Joakkino Rossini Joyce Didonato (Nee Joyce Flamerty) เกิดเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2512 ในเมือง Prica Village, Kansas, USA ในครอบครัวที่มีรากไอริชเป็นลูกที่หกของเจ็ดคน พ่อของเธอเป็นหัวหน้าคณะนักร้องประสานเสียงของโบสถ์ท้องถิ่นจอยซ์ร้องเพลงในตัวเขาและฝันถึงการเป็นดาราบรอดเวย์ ในปี 1988 เขาเข้ามหาวิทยาลัยแห่งรัฐวิชิตซึ่งนักร้องศึกษา หลังจากมหาวิทยาลัย Joyce DidoNoto ตัดสินใจที่จะดำเนินการศึกษาดนตรีต่อไปและในปี 1992 เข้าสู่ Academy of Vocal Art ในฟิลาเดลเฟีย หลังจากสถาบันการศึกษาเธอเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมศิลปินหนุ่มใน บริษัท โอเปร่าต่าง ๆ : ในปี 1995 - ใน Santa Fe Opera "ที่เธอได้รับการฝึกดนตรีและการเปิดตัวละครโอเปร่าของเธอเกิดขึ้นในระยะที่สำคัญ แต่ตอนนี้ในบทบาทเล็กน้อยในโอเปร่า "Figaro งานแต่งงาน" VA Motsarta, "Salome" R. Straus, "Countess Maritsa" I. Kalman; จากปี 1996 ถึง 1998 - ในฮูสตันแกรนด์โอเปร่าและได้รับการยอมรับว่าเป็น "ศิลปินมือใหม่" ที่ดีที่สุด; ในช่วงฤดูร้อนปี 1997 - ในโอเปร่าซานฟรานซิสโกในโปรแกรมการเรียนรู้ "Merola Opera" ในการศึกษาและการปฏิบัติขั้นต้น Joyce Didonato มีส่วนร่วมในการแข่งขันแกนนำที่รู้จักกันดีหลายอย่าง ในปี 1996 เธอได้อันดับที่สองในการแข่งขัน Eleanora McKolam ในเมืองฮุสตันและได้รับรางวัลการฟังการแข่งขันโอเปร่านครหลวง ในปี 1997 เธอได้รับรางวัล William Sullan Prize ในปี 1998 เธอได้อันดับที่สองที่การแข่งขัน Domingo Plaside ในฮัมบูร์กและเป็นครั้งแรกในการแข่งขัน George London ในปีต่อ ๆ มาเธอได้รับรางวัลและรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย อาชีพของเขา Joyce Didonato เริ่มขึ้นในปี 1998 โดยการแสดงใน บริษัท โอเปร่าภูมิภาคหลายแห่งในสหรัฐอเมริกาเป็นหลักในฮูสตันแกรนด์โอเปร่า และกลายเป็นที่รู้จักกันในกลุ่มผู้ชมที่กว้างขวางเนื่องจากการปรากฏตัวในโทรทัศน์รอบปฐมทัศน์โลกของโอเปร่ามาร์ค Adamo "Little Woman" ในฤดูกาล 2000-2001 Didonato สร้างการเปิดตัวในยุโรปของเขาเริ่มต้นทันทีจาก "La Scala" ในฐานะ Angelina ใน "Cinderella" Rossini ฤดูกาลหน้าเธอขยายความคุ้นเคยกับผู้ชมชาวยุโรปแสดงในโอเปร่าเนเธอร์แลนด์ในบทบาทของการประชุม "Julius Caesar" Handel ในปารีสโอเปร่าเป็น Rosina ใน "Seville Barber" และในโอเปร่ารัฐบาวาเรียในบทบาท ของ Kerubino ใน "Figaro Wedding" Matsart และในโปรแกรมคอนเสิร์ต "Glory" Vivaldi กับ Ricardo Muti และออร์เคสตรา La Scala และ "นอนในคืนฤดูร้อน" F. Mendelssohn ในปารีส ในฤดูกาลเดียวกันในสหรัฐอเมริกาเดบิวต์ในโอเปร่ารัฐวอชิงตันเกิดขึ้นในบทบาทของ Dorabella ใน "ผู้หญิงทุกคน" V.A. Motsarta กำลังจะมา ในเวลานี้ Joyce Didonato ได้กลายเป็นจริงแล้ว โอเปร่าดาว ด้วย Glory โลกผู้ชมที่ชื่นชอบและยกย่องการกด อาชีพต่อไป เพียงขยายภูมิศาสตร์การท่องเที่ยวของเธอและเปิดประตูของโรงละครโอเปร่าและเทศกาลใหม่ - Covent Garden (2002), Metropolitan Opera (2005), Opera Bastille (2002), Royal Theatre ในมาดริด, ใหม่ โรงละครแห่งชาติ ในโตเกียวรัฐเวียนนารัฐโอเปร่าและอื่น ๆ Joyce Didonato รวบรวมคอลเลกชันที่อุดมไปด้วยทุกประเภท รางวัลดนตรี และพรีเมี่ยม ตามที่ระบุไว้โดยนักวิจารณ์เป็นไปได้หนึ่งในอาชีพที่ประสบความสำเร็จและราบรื่นที่สุดในโลกโอเปร่าที่ทันสมัย และแม้กระทั่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในเวทีการ์เด้นโคเวนต์ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2552 ในระหว่างการนำเสนอ "หมู่บ้านเซวิลล์" เมื่อจอยซ์ดินานาโตะลื่นบนเวทีและหักขาของเขาไม่ได้ขัดจังหวะการแสดงนี้ซึ่งเธอทำไม้ค้ำเสร็จแล้ว กล่าวสุนทรพจน์ที่กำหนดตามมาซึ่งเธอใช้เวลาจากรถเข็นเพื่อความกระตือรือร้นมาก เหตุการณ์ "ตำนาน" นี้เห็นได้บนดีวีดี สุดท้ายฤดูกาล 2010-2011 จอยซ์ Didonodato เริ่มต้นด้วย Salzburg เทศกาลและเปิดตัวเป็น Adaldzhiz ใน "บรรทัดฐาน" ของ Belinni กับ Edita Gruberova ในบทบาทของบรรทัดฐานแล้วกับโปรแกรมการแสดงคอนเสิร์ตในงานเทศกาลเอดินเบอระ ในฤดูใบไม้ร่วงในกรุงเบอร์ลินเธอมีบทบาทกับบทบาทของโรนี่ในเซวิลล์และมาดริดในมาดริด - ในฐานะอ็อคเทวาอานาใน "กุหลาบทหารม้า" ปีสิ้นสุดวันที่ด้วยรางวัลปกติคนแรกจากสถาบันการศึกษาเยอรมันของกรัม "Echo Classic (Echo Klassik)" ซึ่งเรียกว่า Joyce Didonato "นักร้องที่ดีที่สุดในปี 2010" สองรางวัลสองรางวัลจากนิตยสารภาษาอังกฤษเกี่ยวกับเพลงคลาสสิก "แผ่นเสียง" ซึ่งเรียกว่า "ศิลปินที่ดีที่สุดแห่งปี" และเลือกแผ่นดิสก์ของเธอกับ Arias of Rossini เป็น "คอนเสิร์ตเดี่ยวแห่งปีที่ดีที่สุด" ฤดูกาลต่อไปในสหรัฐอเมริกาเธอพูดในฮูสตันแล้วด้วยคอนเสิร์ตเดี่ยวใน Carnegie Hall Opera Metropolitan ยินดีต้อนรับในสองบทบาท - พิซซ่าของ Rossini และนักแต่งเพลงใน "Ariadne at Naxos" R. Stratus จบฤดูกาลในยุโรปพร้อมทัวร์ใน Baden-Baden, ปารีสลอนดอนและวาเลนเซีย เว็บไซต์ของนักร้องนำเสนอตารางเวลาที่อุดมไปด้วยในการกล่าวสุนทรพจน์ในอนาคตในรายการนี้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2012 เกี่ยวกับการแสดงสี่สิบในยุโรปและอเมริกา Joyce Didonato แต่งงานกับตัวนำชาวอิตาลี Leonardo Wordon ซึ่งพวกเขาอาศัยอยู่ในแคนซัสซิตี้มิสซูรีสหรัฐอเมริกา จอยซ์ยังคงใช้นามสกุลของสามีคนแรกซึ่งเธอแต่งงานกับวิทยาลัยทันที

Lyubov Yuryevna Kazarnovskaya - นักร้องโอเปร่าโซเวียตและรัสเซียโซปราโน ดุษฎีบัณฑิตสาขาดนตรีศาสตราจารย์ Lyubov Yuryevna Kazarnovskaya เกิดเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 1956 ในมอสโก, แม่ Kazarnovskaya Lidia Aleksandrovna - นักภาษา, อาจารย์, ภาษารัสเซียและวรรณกรรม, พ่อ, ยูริ Kazarnovsky Ignatievich - ทั่วไป, พี่สาว - Bokadorova Natalia Yurevna - นักเต้นอักษรศาสตราจารย์ฝรั่งเศสและวรรณคดี Lyuba Sang อยู่เสมอหลังจากที่โรงเรียนมีความเสี่ยงที่จะส่งเอกสารไปยังสถาบัน Gnesin - ที่คณะนักแสดงละครเพลงแม้ว่ามันจะเตรียมที่จะเป็นนักเรียนของคณะภาษาต่างประเทศ ปีนักศึกษาได้รับจำนวนมากของนักแสดงเช่นใด แต่เด็ดขาดคือการประชุมด้วยความหวังของ Matveyevaya Malyshevaya องุ่น, ครูที่ยอดเยี่ยม, นักร้องที่ concertmeister chalpine นักเรียนของ Stanislavsky ตัวเองเป็น นอกจากนี้ยังมีบทเรียนที่ทรงคุณค่าของการร้องเพลง, Nadezhda Matveyevna ภรรยาม่ายของนักวิจารณ์วรรณกรรม Pushkinist นักวิชาการ V.V. Vinogradova เปิดใด ๆ ของอำนาจและความงามของคลาสสิกรัสเซียสอนให้เข้าใจความสามัคคีของเพลงและคำที่ซ่อนอยู่ในนั้น การประชุมกับความหวังของ Matverevna ในที่สุดก็กำหนดชะตากรรมของนักร้องหนุ่ม ในปี 1981 ตอนอายุ 21 นักศึกษาของมอสโก Conservatory, Lyubov Kazarnovskaya ได้เปิดตัวในบทบาทของตาเตียนา ( "Yevgeny Onegin" ไชคอฟสกี) ในฉากของละครเพลงของน้ำ. Stanislavsky และ Nemirovich-Danchenko ที่ ผู้ได้รับการยกย่องจากการแข่งขันทั้งหมดของสหภาพ IM Glinka (II Prize) ตั้งแต่นั้นมาความรักของ Kazarnovskaya ตั้งอยู่ในใจกลาง ชีวิตดนตรี รัสเซีย. ในปี 1982 เขาจบการศึกษาจาก Moscow State Conservatory ในปี 1985 - บัณฑิตวิทยาลัยในชั้นเรียนของรองศาสตราจารย์ Ivanovna 2524-2529 -. ศิลปินเดี่ยวของโรงละครเพลงวิชาการทหารเรือ Stanislavsky และ Nemirovich-Danchenko ในละคร "Evgeny Onegin" ไชคอฟสกี "Iolanta", "พฤษภาคมกลางคืน" ของโรมัน Korzakov "ละเมิด" Leonkallo "โบฮีเมีย" ปุชชีนี 1984 - ที่คำเชิญของ Svetlanova ดำเนินการปาร์ตี้ Fevronia ใน สูตรใหม่ "เรื่องราวของเกรดที่มองไม่เห็น" Rimsky-Korsakov และในปี 1985 - พรรคของ Tatiana ("Evgeny Onegin" Tchaikovsky) และ Neddi ("Boyts" Leonkallo) ที่โรงละครวิชาการแห่งรัฐของรัสเซีย 1984 Gran- ที่ประกวดผู้บริหารรุ่นใหม่ของยูเนสโก (บราติสลาวา) ได้รับการยกย่องจากการประกวดของ Mirian Hellin (เฮลซิงกิ) - รางวัล III และประกาศนียบัตรกิตติมศักดิ์สำหรับการประหารชีวิตอิตาลี Aria - ส่วนตัวจากประธานการแข่งขันและนักร้องโอเปร่าชาวสวีเดนในตำนาน Birgit Nilsson 2529- ผู้รับรางวัลของรางวัล Leninsky Komsomol 2529-2532 - นักประเสริฐชั้นนำของชื่อโรงละครวิชาการของรัฐ Kirova: Leonora ("The Force of Fate" Verdi), Margarita ("Faust" Guno), Donna Anna และ Donna Elvira ("Don Juan" Mozart), Leonora ("Troubadur" Verdi), Violetta ("Tarthat" Verdi), Tatyana ("Yevgeny Onegin" Tchaikovsky), Lisa ("Picovaya Lady" Tchaikovsky), Soprano ("Requiem" Verdi) ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับตัวนำดังกล่าวเป็น Jansons, Temirkanov, Kolobov, Gergiev ชัยชนะในต่างประเทศครั้งแรกอยู่ในโรงละคร Covent Garden (ลอนดอน) ในงานปาร์ตี้ของ Tatiana ในโอเปร่า Tchaikovsky "Eugene Onegin" (1988) 1989 "Maestro Mir" Herbert Von Karaians เชิญนักร้องหนุ่มไปสู่ \u200b\u200b"เทศกาล" เทศกาลฤดูร้อนของเขาใน Salzburg ในเดือนสิงหาคมปี 1989 การเปิดตัวชัยชนะใน Salzburg (บังสุกุล Verdi ผู้ดำเนินการ Ricardo Muti) โลกดนตรีทั้งหมดตั้งข้อสังเกตและชื่นชมคำพูดของโซปราโนหนุ่มจากรัสเซีย คำพูดที่น่าตื่นเต้นนี้วางจุดเริ่มต้นของอาชีพที่วิงเวียนซึ่งต่อมานำไปสู่โรงละครโอเปร่าเช่นสวนโควิง, โอเปร่านครหลวง, Lyric Chicago, San Francisco Opera, Wiener Staatsoper, Teatro Colon, Houstro Colon, Houstro Grand Opera พันธมิตร - Pavarotti, Domingo, Carreras, Arazy, Nucchichi, Capacilly, Cossotto, Stadian Background, Balts กันยายน 2532 - การมีส่วนร่วมในคอนเสิร์ต Global Gala บนเวที Gabta รัสเซียเพื่อสนับสนุนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของแผ่นดินไหวในอาร์เมเนียพร้อมกับ Kraus, Bargon, Prei, Arkhipova ตุลาคม 2532 - การมีส่วนร่วมในทัวร์ของ Milan Opera House "La Scala" ในกรุงมอสโก (J.Verdi "Requiem") 2534 - ซาลซ์บูร์ก 2535-2531 - ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ Opera Metropolitan 1994-1997- ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับโรงละคร Mariinsky และ Valery Gergiev ในปี 1996 ความรักของ Kazarnovskaya ประสบความสำเร็จในขั้นตอนของโรงละคร La Scala ใน Opera Prokofiev "ผู้เล่น" และในเดือนกุมภาพันธ์ 1997 เธอร้องเพลงกับพรรค Salome ในโรงละครโรมัน Santa Cecilia มันใช้จ้าวระดับนำของศิลปะโอเปร่าในเวลาของเรา - ตัวนำดังกล่าวเช่น Mutin, Levine, Tilemanne, Barenboim, Heitink, Temirkanov, Kolobov, Gergiev, กรรมการ - Dzemielli, Egyan, Wick, Temimore, น้ำค้าง .. "La Kazarnovskaya" ในขณะที่สื่อมวลชนอิตาลีเรียกมันว่ามีมากกว่าห้าสิบปาร์ตี้ในละครของเขา เธอเรียกว่า Salome ที่ดีที่สุดของวันของเราโอเปร่าผู้แสดงที่ดีที่สุด Verdi และ Veristov ไม่ต้องพูดถึงปาร์ตี้ของ Tatiana จาก Evgeny Onegin นามบัตรของเธอ เธอประสบความสำเร็จเป็นพิเศษในการเติมเต็มของพรรคหลักใน Salome Opera, Richard Straus, "Evgeny Onegin" Tchaikovsky "Manon Lesko" และ "Tosca" Puccini "The Force of Fate" และ "Traviatta" Verdi 1997- Lyubov Kazarnovskaya สร้างองค์กรในรัสเซีย - "มูลนิธิ Lyubov Kazarnovskaya" เพื่อสนับสนุนศิลปะโอเปร่าของรัสเซีย: ขอเชิญผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของศิลปะเสียงร้องแก่รัสเซียสำหรับคอนเสิร์ตและชั้นเรียนหลักเช่น Renat Scotto, Franco Bonisolli, Simon Estes, Jose Kura et al. ประเมินทุนการศึกษาเพื่อช่วยนักร้องชาวรัสเซียรุ่นเยาว์ * 1998-2000 G. - ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับโรงละครขนาดใหญ่ของรัสเซีย 2000 - ผู้อุปถัมภ์นักร้องโรงละครโอเปราสำหรับเด็กเพียงคนเดียวในโลกความรัก Kazarnovskaya (Dubna) ด้วยโรงละครนี้ Lyubov Kazarnovskaya วางแผนโครงการที่น่าสนใจในรัสเซียและต่างประเทศ 2000 - หัวหน้าสภาประสานงานสร้างสรรค์ของศูนย์วัฒนธรรม "Union of Cities" ดำเนินงานทางวัฒนธรรมและการศึกษาที่มากขึ้นในเมืองและภูมิภาคของรัสเซีย 25.12.2000 - นายกรัฐมนตรีอีกคนหนึ่งจัดขึ้นในคอนเสิร์ตฮอลล์ "รัสเซีย" - ละครโอเปร่าที่ยอดเยี่ยม "Love Licks" ออกอากาศสดไปทั่วโลก การกระทำทางดนตรีสามชั่วโมงเป็นครั้งแรกในโลกนำเสนอโดยนักร้องโอเปร่าชั้นนำกลายเป็นเหตุการณ์ในปีสุดท้ายของศตวรรษที่ผ่านมาและก่อให้เกิดการตอบสนองอย่างกระตือรือร้นในรัสเซียและต่างประเทศ 2545 - Lyubov Kazarnovskaya ตั้งอยู่ในศูนย์กิจกรรมทางสังคมที่ใช้งานอยู่ได้รับการเลือกตั้งจากประธานคณะกรรมาธิการเกี่ยวกับความร่วมมือทางวัฒนธรรมและความร่วมมือด้านมนุษยธรรมของการศึกษาเทศบาลของสหพันธรัฐรัสเซียเป็นประธานของคณะกรรมการการศึกษาดนตรีของรัสเซีย Lyubov Kazarnovskaya ได้รับรางวัลประกาศนียบัตรของศูนย์ที่มีชื่อเสียงในเคมบริดจ์ (อังกฤษ) เป็นหนึ่งในนักดนตรีที่โดดเด่นที่สุดในปี 2000 ในศตวรรษที่ยี่สิบ ชีวิตที่สร้างสรรค์ของความรัก Kazarnovskaya เป็นซีรี่ส์ของชัยชนะที่รวดเร็วและไม่สามารถควบคุมได้การค้นพบความสำเร็จในความสัมพันธ์ที่ "เป็นครั้งแรก" ได้รับการชื่นชม: * Grand Prix ที่การแข่งขันนักร้องของยูเนสโก * Kazarnovskaya - โซปราโนรัสเซียคนแรกที่ได้รับเชิญไปยัง Salzburg Herberton von Karaian * นักร้องชาวรัสเซียเพียงคนเดียวที่แสดงปาร์ตี้ Mozartov ที่บ้านเกิดของนักแต่งเพลงใน Salzburg ในวันครบรอบ 200 ปีของเขา * คนแรกและยังคงเป็นนักร้องรัสเซียเพียงคนเดียวที่ทำปาร์ตี้ที่ซับซ้อนที่สุด (Salome Richard Strauss) บนฉากโอเปร่าที่ใหญ่ที่สุดของโลกด้วยความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ L. Kazarnovskaya ถือเป็น Salome ที่ดีที่สุดในยุคสมัยของเรา * นักร้องคนแรกที่เก็บรักษา (บนซีดี) ของความรัก 103 Tchaikovsky ทั้งหมด * ด้วยแผ่นดิสก์เหล่านี้และคอนเสิร์ตมากมายในทุกศูนย์ดนตรีของโลก Lyubov Kazarnovskaya เปิดเพลงความคิดสร้างสรรค์ของนักแต่งเพลงชาวรัสเซียไปยังสาธารณะตะวันตก * นักร้องโอเปร่าคนแรกของระดับสากลซึ่งได้แสดงการแสดงที่ไม่เคยมีมาก่อน - โอเปร่าโอเปราโรแมนติกชานสัน ... * นักร้องคนแรกและตัวเดียวที่แสดงบทบาทสองบทบาทในเย็นวันหนึ่ง (ในผู้ให้บริการ "Manon Lesko "Puccini) ในการเล่น" Portrait of Manon "ในที่เกิดเหตุของโรงละคร Bolshoi ของรัสเซีย เมื่อเร็ว ๆ นี้ Lyubov Kazarnovskaya นอกเหนือไปจากกิจกรรมระหว่างประเทศให้ความแข็งแกร่งและเวลาในการพัฒนาชีวิตดนตรีในภูมิภาครัสเซีย ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นปรากฏการณ์ที่สว่างที่สุดในชีวิตดนตรีของรัสเซียและสื่อมวลชนที่ทุ่มเทให้กับมันเป็นประวัติการณ์โดยแนวเพลงและปริมาตร ในละครของมันมากกว่า 50 ปาร์ตี้โอเปร่าและเพลงขนาดใหญ่ของห้องแชมเบอร์ บทบาทที่เธอโปรดปราน - Tatyana, Violetta, Salome, Tosca, Manon Lesko, Leonora ("พลังแห่งโชคชะตา"), Amelia ("Ball Masquerade") การเลือกโปรแกรมสำหรับคืนเดี่ยว Kazarnovskaya หลีกเลี่ยงการเลือกที่กระจัดกระจายให้แม้กระทั่งการชนะสิ่งที่น่าสนใจเลือกรอบที่แปลกประหลาดซึ่งเป็นตัวแทนของงานของผู้แต่งที่แตกต่างกัน เอกลักษณ์ของนักร้องความสว่างของการตีความความรู้สึกที่ลึกล้ำของความเป็นบุคลิกลักษณะของแนวทางของภาพรวมของภาพที่ซับซ้อนที่สุดในผลงาน ยุคที่แตกต่างกัน ทำให้การแสดงของเธอกับเหตุการณ์ที่แท้จริงของชีวิตทางวัฒนธรรม เสียงและวิดีโอจำนวนมากเน้นความสามารถของเสียงร้องขนาดใหญ่สไตล์สูงและยิ่งใหญ่ที่สุด ความสามารถทางดนตรี นักร้องที่ยอดเยี่ยมนี้ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมรัสเซียระดับที่แท้จริงของโลกสู่โลก บริษัท อเมริกัน Vai (Video Artists International) ได้เปิดตัวชุดของวิดีโอเทปด้วยการมีส่วนร่วมของ Diva รัสเซียซึ่ง "นักร้องยอดเยี่ยมของรัสเซีย 1901-1999" (สอง cassettes), "Gypsy Love" (บันทึกวิดีโอของคอนเสิร์ตของ Kazarnovskaya ใน The Great Hall of the Moscow Conservatory) รายชื่อจานเสียงแห่งความรักของ Kazarnovskaya รวมถึงรายการใน บริษัท DGG, Philips, Delos, Naxos, Melodia ปัจจุบัน Lyubov Kazarnovskaya กำลังเตรียมโปรแกรมใหม่สำหรับคอนเสิร์ตเดี่ยวปาร์ตี้โอเปร่าใหม่ (Carmen, Isolde, Lady Macbeth) วางแผนทัวร์ต่างประเทศมากมายและในรัสเซียถ่ายทำในภาพยนตร์ แต่งงานกับ Robert Ratsik ตั้งแต่ปี 1989 ในปี 1993 Son Andrei เกิด คำพูดหลายคำเหล่านี้ - ไม่เพียง ส่วนใหญ่ การตอบสนองความกระตือรือร้นที่มาพร้อมกับการแสดงของความรัก Kazarnovskaya ว่า "เสียงของเธออยู่ลึกและรุนแรงยั่วยวนใจ ... สัมผัสฉากดำเนินการอย่างสมบูรณ์แบบของตัวอักษรของตาเตียนาและการประชุมครั้งล่าสุดของเธอกับ Onegin ปล่อยให้ความสงสัยในความสามารถสูงสุดของนักร้อง (ไม่" โอเปร่า " " นิวยอร์กไทม์ส ')' ที่มีประสิทธิภาพ, นักร้องเสียงโซปราโนลึกการจัดการที่ยอดเยี่ยมที่แสดงออกตลอดช่วง ... โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่น่าประทับใจและความสว่างของลักษณะแกนนำ '(ลินคอล์นเซ็นเตอร์คอนเสิร์ตเดี่ยว' นิวยอร์กไทม์ส ')' เสียงของ Kazarnovskaya มุ่งเน้น ละเอียดอ่อนลึกลงทะเบียนเฉลี่ยและสดใสในสังคม ... เธอเป็นสองจิตสองใจสดใส "(ฝรั่งเศส" เลอม็ De La Musique ")" ... Lyuba Kazarnovskaya หลงผู้ชมด้วยราคะของพวกเขาได้อย่างน่าอัศจรรย์ในเสียงโซปราโนทั้งหมด ลงทะเบียน "(" Muenchner Merkur ")" divae รัสเซียเพื่อให้กระจ่างใสในบทบาทของซาโลเมถนนเริ่มที่จะละลายน้ำแข็งเมื่อ Lyuba Kazarnovskaya ป๊อป ฉากสุดท้าย "Salome" ... "(" Cincinnati Enquirer ") ข้อมูลและภาพถ่ายจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: http://www.kazarnovskaya.com เว็บไซต์ใหม่เกี่ยวกับสีสันที่สวยงามโลกแห่งไอริสการผสมพันธุ์การดูแลการปลูกถ่ายไอริส

Galina Pavlovna Vishnevskaya (25 ตุลาคม 1926 - 11 ธันวาคม 2012) - รัสเซียที่ดีนักร้องโอเปร่าโซเวียต (Lyrical sopran ละคร. ศิลปินของประชาชนของสหภาพโซเวียต ผู้บัญชาการแห่งการสั่งซื้อภาษาฝรั่งเศสของกองทหารเกียรติยศแพทย์กิตติมศักดิ์ของมหาวิทยาลัยจำนวนมาก Galina Pavlovna Vishnevskaya เกิดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 1926 ใน Leningrad (ตอนนี้เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก) แต่เกือบทุกวัยในวัยเด็กใช้ใน Kronstadt เขาประสบกับการปิดล้อมเลนินกราดเมื่ออายุสิบหกเสิร์ฟในบางส่วนของการป้องกันลม ของเธอ กิจกรรมสร้างสรรค์ เริ่มต้นในปี 1944 ในฐานะศิลปินเดี่ยวของโรงละครเลนินกราดและจุดเริ่มต้นของอาชีพในฉากขนาดใหญ่ตกอยู่ในวัยห้าสิบ ในการแต่งงานครั้งแรกแต่งงานกับ Savory George Vishnevsky ทหารที่พวกเขาหย่ากันในสองเดือน แต่ยังคงนามสกุลของเขา ในการแต่งงานครั้งที่สอง - กับผู้อำนวยการโรงละคร Operta Mark Ilyich Ruby ในปี 1955 สี่วันหลังจากการทำความคุ้นเคยแต่งงานกับครั้งที่สามสำหรับนักเลงที่มีชื่อเสียง M.L. Rostropovich ในวงดนตรีที่มี (M.L. Rostropovich - ครั้งแรกในฐานะนักเปียโนและต่อมาตัวนำ) ดำเนินการในสถานที่จัดคอนเสิร์ตที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลก จากปี 1951 ถึง 1952 ออกจากโรงละคร Operetta Vishnevskaya รับบทเรียนของการร้องเพลงที่ V.N. Garina รวมเสียงร้องคลาสสิกด้วยสุนทรพจน์ในฐานะนักร้องป๊อป ในปี 1952 เขามีส่วนร่วมในการแข่งขันในกลุ่มอินเวอร์เตอร์ของโรงละครบอลชอยที่ถูกนำมาใช้แม้จะขาดการศึกษาอนุรักษ์นิยมและเร็ว ๆ นี้ (ตามการแสดงออกเป็นรูปเป็นร่างของบริติชแอร์เวย์ Pokrovsky) กลายเป็น "ไต๋ในตัวแทนจำหน่ายที่ โรงละครบอลชอย" ศิลปินเดี่ยวชั้นนำของโรงละครโอเปร่าหลัก เป็นเวลา 22 ปี อาชีพศิลปะ ในโรงละคร Bolshoi (จาก 2495 ถึง 2517) Galina Vishnevskaya สร้างภาพผู้หญิงที่น่าจดจำมาก (มากกว่าสามสิบ!) ในยุโรปรัสเซียและยุโรปตะวันตก โอเปร่าผลงานชิ้นเอก . ด้วยความสดใสเปิดตัวในบทบาทของ Tatiana ใน Opera "Eugene Onegin" เธอแสดงที่ AIDA และ Violetta Party Theatre ("Aida" และ "Traviata" Verdi), Chio-Chio-San ("Chio-chio-san" Puccini ), Natasha Rostova ("สงครามและสันติภาพ" prokofiev), Katharina ("ฝึกฝนของแม่แปรก" Schebalina, ดำเนินการครั้งแรก, 1957), Lisa ("Picovaya Lady" Tchaikovsky), Kupava ("Snow Maiden" Roman Corsakov), Maunda ( "Tsarist Bride" โรมัน Korsakov) และอื่น ๆ อีกมากมาย Vishnevskaya มีส่วนร่วมในการผลิตครั้งแรกในฉากรัสเซียของ Opera "Player" Prokofiev (1974, Polyna's Party), Mono-Pool "เสียงของมนุษย์" Polenka (1965) ในปี 1966 นำแสดงในภาพยนตร์โอเปร่า "Katerina Izmailov" D.D. Shostakovich (ผู้อำนวยการ Mikhail Shapiro) มีนักแสดงคนแรกของงานเขียนจำนวนหนึ่งที่อุทิศให้กับมัน Shostakovich, b .britten และนักแต่งเพลงสมัยใหม่ที่โดดเด่นอื่น ๆ ภายใต้ความประทับใจในการฟังบันทึกของเธอบทกวี Anna Akhmatova "เสียงหญิง" เขียนขึ้น ในช่วงรัฐบาลโซเวียต Galina Vishnevskaya รวมกับสามีของเธอนักเชลลี่ต์และผู้ควบคุมวง Mstislav Rostropovich ให้การสนับสนุนที่ล้ำค่าแก่นักเขียนชาวรัสเซียและนักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนที่โดดเด่น Alexander Solzhenitsyn และนี่กลายเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ให้ความสนใจอย่างต่อเนื่องและแรงกดดันจาก บริการพิเศษ SSR ในปี 1974 Galina Vishnevskaya และ Mstislav Rostropovich ออกจากสหภาพโซเวียตและในปี 1978 ถูกกีดกันจากการเป็นพลเมืองเกียรติยศและรางวัลของรัฐบาล แต่ในปี 1990 พระราชกฤษฎีกาของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสภาสูงสุดถูกยกเลิก Galina Pavlovna กลับไปรัสเซียเธอกลับไปที่ชื่อกิตติมศักดิ์ของศิลปินของสหภาพโซเวียตและคำสั่งของเลนินเธอกลายเป็นศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ของกรุงมอสโก . ในต่างประเทศ Rostropovich และ Vishnevskaya อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาแล้วในฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร Galina Vishnevskaya ร้องเพลงบนฉากที่ใหญ่ที่สุดของโลก (Covent Garden, Opera Metropolitan, Grand Opera, La Scala, Munich Opera et al.) พูดกับผู้เชี่ยวชาญที่โดดเด่นที่สุดของโลกดนตรีและวัฒนธรรมละครโลก ฉันแสดงปาร์ตี้มารีน่าในการบันทึกที่เป็นเอกลักษณ์ของโอเปร่า "Boris Godunov" (ตัวนำ Herbert von Karaians, Soloists Gayurov, Talvela, Schalis, Maslennikov), Sang พรรคเดียวกันในเกมเดียวกันในปี 1989 (ผู้อำนวยการ A. Zhulawskiy ผู้ควบคุมวง . Rostropovich) ท่ามกลางบันทึกที่ทำในช่วงระยะเวลาของการย้ายถิ่นฐานบังคับอย่างเต็มรูปแบบของโอเปร่าของ S.prokofeva "สงครามและสันติภาพ" ห้าดิสก์ที่มีความรักของนักแต่งเพลงชาวรัสเซีย M. Glinka, A. Dargomyzhsky, M.Morusorgsky, A. Korodina และ P. Tchaikovsky ตลอดชีวิตและการทำงานของ Galina Vishnevskaya มุ่งเป้าไปที่การต่อเนื่องและสรรเสริญรัสเซียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเพณีของแพทเทิร์น หลังจากการเริ่มต้นของการปรับโครงสร้างในปี 1990 Galina Vishnevskaya และ Mstislav Rostropovich ได้รับการบูรณะในการเป็นพลเมือง ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 Vishnevskaya กลับไปรัสเซียกลายเป็นศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ของกรุงมอสโก เธออธิบายชีวิตของเธอในหนังสือ "Galina" (ตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษในปี 1984 ในรัสเซีย - 1991) Galina Vishnevskaya - หมอกิตติมศักดิ์ของมหาวิทยาลัยจำนวนมากเป็นเวลาหลายปีที่เธอทำงานกับเยาวชนที่มีความคิดสร้างสรรค์ให้ชั้นเรียนหลักทั่วโลกและพูดในฐานะสมาชิกของคณะลูกขุนของการแข่งขันระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุด ในปี 2002 ศูนย์เปิดในมอสโก โอเปร่าร้องเพลง Galina Vishnevskaya เกี่ยวกับการสร้างนักร้องที่ยอดเยี่ยมในฝันยาวนาน ในศูนย์กลางเธอผ่านประสบการณ์ที่สะสมไว้และความรู้ที่เป็นเอกลักษณ์ของนักร้องหนุ่มที่มีความสามารถเพื่อให้พวกเขาสามารถเป็นตัวแทนของโรงเรียนโอเปร่ารัสเซียได้อย่างเพียงพอในเวทีระหว่างประเทศ ด้านมิชชันนารีของกิจกรรมของ Galina Vishnevskaya เน้นสื่อกลางและระดับภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดผู้นำโรงภาพยนตร์และองค์กรคอนเสิร์ตประชาชนทั่วไป Galina Vishnevskaya ได้รับรางวัลโลกที่มีชื่อเสียงที่สุดสำหรับการมีส่วนร่วมที่ทรงคุณค่าสู่โลก ศิลปะดนตรีรัฐบาลที่ได้รับรางวัลจำนวนมากของประเทศต่าง ๆ : เหรียญ "สำหรับการป้องกันเลนินกราด" (1943), คำสั่งของเลนิน (1971), เหรียญเพชรของเมืองปารีส (1977), คำสั่ง "สำหรับการทำบุญของบ้านเกิด "III (1996), ครั้งที่สองการศึกษาระดับปริญญา (2006 กรัม) Galina Vishnevskaya - วรรณกรรม Grand-Officier Orden and Art (ฝรั่งเศส, 1982), Kavaler of the Order of the Honorary Legion (ฝรั่งเศส. 1983), พลเมืองกิตติมศักดิ์ของ Kronstadt (1996)

Angela Georghiu (เหล้ารัม. Angela Gheorghiu) - นักร้องโอเปร่าโรมาเนียโซปราโน หนึ่งในนักร้องโอเปร่าที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคของเรา Angela Georgiu (Burlaca) เกิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2508 ในเมืองเล็ก ๆ ของ Adjud, โรมาเนีย ตั้งแต่ปฐมวัยเห็นได้ชัดว่าเธอจะกลายเป็นนักร้องชะตากรรมของเธอเป็นเพลง เธอเรียน B. โรงเรียนดนตรี ในบูคาเรสต์และจบการศึกษาจาก National University of Bucharest Music เธอเปิดตัวมืออาชีพโอเปร่าที่เกิดขึ้นในปี 1990 ในบทบาทของมี่ใน "โบฮีเมียน" ของปุชชีนีในเมืองลูชที่ในปีเดียวกันเธอได้รับรางวัลในการแข่งขันระหว่างประเทศของนักร้องชื่อหลังจากที่ฮันส์บอร์ "Belvedere" ในกรุงเวียนนา นามสกุล Georgiu ยังคงอยู่จากสามีคนแรกของเธอ Angela International Debut Georgiu เกิดขึ้นในปี 1992 ที่ Royal Opera House Covent Garden ใน "Boheme" ในปีเดียวกันเธอเดบิวต์บนเวทีของปริมณฑลโอเปร่านิวยอร์กและในโรงละครโอเปรารัฐเวียนนา ในปี 1994 ในรอยัลโอเปราเฮาส์ Covent Garden ครั้งแรกที่ดำเนินการโดยบุคคลที่ไวโอเล็ตใน Trestiate ในขณะที่ว่า "วันเกิดของสตาร์" ที่เกิดขึ้นแองเจล่า Georgy เริ่มที่จะสนุกกับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในโรงละครโอเปร่าและคอนเสิร์ตรอบโลก: ในนิว นิวยอร์ก, ลอนดอน, ปารีส, Salzburg, เบอร์ลิน, โตเกียว, โรม, โซล, เวนิซ, เอเธนส์, Monte Carlo, Chicago, ฟิลาเดล, เซาเปาลู, Los Angeles, ลิสบอน, วาเลนเซีย, ปาแลร์โม, อัมสเตอร์ดัม, กัวลาลัมเปอร์, ซูริค, เวียนนา, Salzburg, มาดริด, บาร์เซโลนา, ปราก, มอนทรีออล, มอสโก, ไทเป, ซานฮวน, ลูบลิยานา ในปี 1994 เธอได้พบกับเทเนอร์ Roberto Alanya ซึ่งแต่งงานกันในปี 1996 พิธีแต่งงานเกิดขึ้นบนฉากโอเปร่านครหลวงในนิวยอร์ก คู่รัก Alanya-Georgiu เป็นเวลานานคือความคิดสร้างสรรค์ที่สดใสที่สุด สหภาพครอบครัว ในฉากโอเปร่าตอนนี้พวกเขาจะหย่าร้าง สัญญาพิเศษครั้งแรกกับ บริษัท บันทึกได้ลงนามในปี 1995 กับ Decca หลังจากนั้นเธอก็ออกอัลบั้มหลายปีแล้วตอนนี้เธอมีอัลบั้มประมาณ 50 อัลบั้มทั้ง Staged Opera และ Nutrates Solo แผ่นดิสก์ทั้งหมดของเธอได้รับการวิจารณ์นักวิจารณ์ที่ดีและได้รับรางวัลระดับนานาชาติมากมายรวมถึงรางวัลนิตยสาร Gramophone รางวัล Echo German, ฝรั่งเศส "Diapason d'Or" และ "Choc du Monde de la Musique" และอื่น ๆ อีกมากมาย สองครั้งในปี 2544 และ 2010 อังกฤษ "คลาสสิคบริทรางวัล" เรียกว่า "นักร้องที่ดีที่สุดแห่งปี" ของเธอ " ช่วงของบทบาทของ Angela Georgiu มีความกว้างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่คุณรัก Opera Verdi และ Puccini ของเธอ บทละครของอิตาลีอาจเป็นความคล้ายคลึงกันของโรมาเนียและอิตาลีมันกลับกลายเป็นอย่างสมบูรณ์แบบนักวิจารณ์บางคนทราบว่าโอเปร่าฝรั่งเศสเยอรมันรัสเซียและอังกฤษทำงานอ่อนแอลง ส่วนใหญ่บทบาทที่สำคัญแองเจลา Georgiu: เบลลินี "Somnammbula" - มินาบีเซ "คาร์เมน" - มิคาเอลการ์เมนชิลี "Adriana Lekuzurör" - Adriana Lekuzurr Donizetti "ลูเซียดิ Lammermur" - ลูเซีย Donizetti "Lucretia Bordzhia" - Lucretia Borgia Dyzetti "ความรักเครื่องดื่ม" - addin GUNU "FAUST" - มาร์การิ Guno "โรมิโอและจูเลียต" - จูเลียตแมสเซนา "ท่วม" - ท่วม Massne "Wayer" - ชาร์ลอสโมซาร์ท "ดอนฮวน" - Cerril Leonkallo "Pigets" - ไม่จำเป็นต้อง PUCHCHINI "กลืน" - Magda Pucchini "โบฮีเมีย "- มีมี่ Pucchini "Gianni Skikki" - Loretta Puchchini "ทอสก้า" - Tosca Puccini "Turandot" - หลิว Verdi Troubadur - Leonor แวร์ดี "Traviata" - ไวโอเล็ตแวร์ดี "หลุยส์มิลเลอร์" - หลุยส์แวร์ดี "ไซมอน Bokkanta" - มาเรียแองเจลา Georgiu ยังคง ทำหน้าที่อย่างแข็งขันและตั้งอยู่ด้านบนของโอเปร่าโอลิมปั ภาระผูกพันในอนาคตรวมถึงคอนเสิร์ตต่าง ๆ ในยุโรปอเมริกาและเอเชีย "Tosca" และ "Faust" ใน Royal Opera House of Covent Garden

Joan Alston Sutherland (Joan Alston Sutherland) - นักร้องโอเปร่าออสเตรเลีย, Coloratura Soprano หนึ่งในนักร้องโอเปร่าที่โดดเด่นที่สุดของศตวรรษที่ 20 เสียงที่สวยงามที่ทรงพลังของ Luciano Pavarotti เรียกเสียงของศตวรรษและ Montserrat Caballe อธิบายว่าเป็น "Paradise Voice" Joan Sutherland มีส่วนร่วมอย่างมากต่อการฟื้นฟูของ Belkanto Resoloire คำสั่งสุภาพสตรี - ผู้บัญชาการของจักรวรรดิอังกฤษ Joan Sutherland เกิดเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2469 ในซิดนีย์ออสเตรเลียในครอบครัวสก็อต แม่ของเธอเป็นนักร้อง Mezzo-Soprano และสอน Joan Singing การกล่าวสุนทรพจน์คอนเสิร์ตครั้งแรกของ Sutherland เกิดขึ้นในปี 1947 ในซิดนีย์เธอแสดง Aria Didona จาก Opera Persela "Didona และ Eney" ในฉากโอเปร่าทำให้เขาเดบิวต์ในปี 1950 ใน พรรคหลัก ในโอเปร่า "Judith" ในซิดนีย์ ในปี 1951 หลังจากชัยชนะในการแข่งขันโอเปร่าของออสเตรเลียอันทรงเกียรติเธอก็ไป การเรียนรู้เพิ่มเติม ในลอนดอนในราชวิทยาลัยดนตรี เธอได้รับคำเชิญจาก Royal Opera House, Covent Garden และทำที่นั่นในวันที่ 28 ตุลาคม 1952 เติมเต็มปาร์ตี้เล็ก ๆ ของผู้หญิงคนแรกใน "ขลุ่ยมหัศจรรย์" ของโมสาร์ทและในภายหลังในภายหลังพรรคของ Clothylds Opera "Norma" Bellini ในบทบาทของบรรทัดฐานคือ Maria Callas ในเดือนธันวาคม 1952 เขาแสดงบทบาทสำคัญครั้งแรกของเขา - Amelia ในโอเปร่า "Ball Masquerade" Verdi สำหรับบทบาทอื่น ๆ ของเธอตาม: Agatha ใน "Volnar Arrow", Countess ใน "Wedding Figaro", Dzemmeon ใน "Othello", Gilde ใน "Rigoletto", EVA ในนูเรมเบิร์ก Masonryers, Pamin ใน "Magic Flute" เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2497 Joan Sutherland แต่งงานกับตัวนำและนักเปียโนของชาวออสเตรเลีย Richard Boning ในปี 1956 พวกเขามีอดัมลูกชาย การเริ่มต้นอาชีพของเขากับแฟนของ Kirsten Flagstat Joan พยายามที่จะวางตำแหน่งตัวเองเป็นโซปราโนที่น่าทึ่งของ Wagner แต่สามีของเธอค่อยๆเชื่อว่าเธอสามารถแสดงโน้ตที่สูงขึ้นได้อย่างง่ายดายและเธอควรสำรวจ Belkanto Resoloire ในปี 1957-1958 เธอแสดงพรรคหลักของ Alzina ใน Opera Handel ของ Emilia จาก "Emilia จากลิเวอร์พูล" Donizetti และแวนคูเวอร์ปาร์ตี้ Donna Anna ไปยัง Don Juan ในบทบาทเหล่านี้และแสดงให้เห็นถึงความคิดเห็นของ Belkanto อย่างชัดเจนซึ่งยืนยันถึงความคิดเห็นของสามี . ในปี 1958 ใน Royal Opera House หลังจากการประหารชีวิต Aria จาก Oratoria Handel "Samson" ฮอลล์นานกว่าสิบนาทีปรบมือ ในปี 1959 Sutherland ได้รับเชิญให้เข้าร่วมใน "Lucia di Lammermur" ใน Covent Garden มันเป็นความก้าวหน้าในอาชีพของนักร้อง - เธอกลายเป็นดารา ในปีหน้าเธอบันทึกอัลบั้ม "Art Primaronna" ซึ่งได้รับรางวัลแกรมมี่ในการเสนอชื่อนักร้องคลาสสิกที่ดีที่สุด ในช่วงต้นปี 1960 Sutherland ได้พิสูจน์แล้วว่าตัวเองเป็น Opera Demal ที่เหนือกว่าด้วยเสียงที่ไม่ธรรมดา หลังจากการดำเนินการของ Altoment ใน Venetian "La Phenic" ผู้ชมเริ่มเรียกเธอว่า "La Stupenda" ของเธอ - Magnificent และในไม่ช้าหนังสือพิมพ์ทั่วโลกจะหยิบชื่อเล่นนี้ขึ้นมา ในปี 1960 Sutherland ขยายบทละครของเขาอย่างกว้างขวางด้วยปาร์ตี้ที่ดีที่สุด Belkanto: Violetta จาก "Traviata" Amina จาก "Somnambula", Elvira จาก Puritan, Beatrice Delas จาก Opera eponymed, Margarita de Valua จาก "Huguenot" Meyerber หลัก บทบาทใน "Semiramide" Rossini บรรทัดฐานใน "บรรทัดฐาน" คลีโอพัตราใน "Yulia Cesar" Handel และอื่น ๆ ในปี 1966 เธอเพิ่ม Marie จากลูกสาวของ Shelf ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในบทบาทที่นิยมมากที่สุดของเธอ ในปี 1965 Sutherland ในออสเตรเลียส่งไปยังผู้เริ่มต้นอายุน้อยของ Luciano Pavarotti และทัวร์ครั้งนี้กลายเป็นเหตุการณ์สำคัญในอาชีพ Pavarotti แม้จะมีความจริงที่ว่าเธอได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนักร้องโอเปร่าชั้นนำ แต่เธอมีปัญหากับความบริสุทธิ์ของพจน์และการวิจารณ์อย่างต่อเนื่องชี้ไปที่มัน บันทึก SSERLAND ในช่วงต้นแสดงว่าเธอมีคริสตัล เสียงสะอาด และพจน์ที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตามเมื่อถึงจุดเริ่มต้นของยุค 60 เสียงของเธอสูญเสียความชัดเจนนี้บางคนอธิบายให้การผ่าตัดผ่าตัดในโพรงจมูกซึ่งเธอได้รับความเดือดร้อนในปี 1959 แต่อัลบั้มของเธอ "The Art of Primaronna" ซึ่งเธอบันทึกหลังการผ่าตัด แสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ของคริสตัลของเสียงและความคมชัดของพจนานุกรม เธอต้องดิ้นรนกับปัญหานี้อย่างต่อเนื่องกับความสำเร็จ ในปี 1970 Joan Sutherland ยังคงทำงานอย่างแข็งขันและต้องขอบคุณความยืดหยุ่นของแกนนำและเทคนิคที่ได้รับการยกย่องเธอยังคงร้องเพลงที่ยากที่สุดอย่างน่าประหลาดใจและขยายบทเพลงอย่างต่อเนื่อง การแสดงโอเปร่าครั้งสุดท้ายของเธอเกิดขึ้นในปี 1990 ในซิดนีย์ในโอเปร่า "Huguenotes" และในปีเดียวกันคอนเสิร์ตกาลาสุดท้ายพร้อมกับเพื่อนร่วมงานและเพื่อน ๆ ของเขาใน Covent Garden หลังจากออกจากฉากใหญ่ Joan Sutherland เริ่มชีวิตที่เงียบสงบในบ้านของเธอในสวิตเซอร์แลนด์ค่อนข้างปรากฏตัวเล็กน้อยในที่สาธารณะ อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้เหลืออย่างสมบูรณ์ ชีวิตสาธารณะ "เธอถูกยิงในโรงภาพยนตร์เขียนหนังสืออัตชีวประวัติดำเนินการเรียนระดับต้นแบบเป็นสมาชิกของคณะลูกขุนเทศกาลโอเปร่าจำนวนมากรวมถึงการแข่งขันระดับนานาชาติของนักร้องโอเปร่าในคาร์ดิฟฟ์ Joan Sutherland เสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2010 ในบ้านของเขาในสวิตเซอร์แลนด์ Joan Sutherland ใน Opera Gaetano Donizetti "Lucia di Lammermur" "ฉากแห่งความบ้าคลั่ง"

Polina Viardo ชื่อเต็มของ Polina Michelle Ferdinand Garcia Viardande García-Viardot - นักร้องชาวฝรั่งเศสชั้นนำ, Mezzo-Soprano, ศตวรรษที่ 19, นักร้องและนักแต่งเพลงของสเปน Polina Viardo เกิดเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ค.ศ. 1821 ในปารีส ลูกสาวและนักเรียนของนักร้องชาวสเปนและครู Manuel Garcia น้องสาว Mary Malibran ในฐานะเด็กเธอเรียนศิลปะการเล่นเปียโนบนใบ Ferenz และจะกลายเป็นนักเปียโน แต่ข้อมูลเสียงที่น่าทึ่งกำหนดอาชีพของเธอ ฉันแสดงในโรงภาพยนตร์ต่าง ๆ ของยุโรปและคอนเสิร์ตมากมาย มันมีชื่อเสียงในด้าน fidentes ("ศาสดาพยากรณ์" Meyerbera), Orpheus ("Orpheus และ Evriidika" Glitch), Rosina (Seville Berber "Rossini) ผู้แต่ง Romances และ Comic Operas บน Libretto Ivan Turgenev เพื่อนสนิทของเธอ ร่วมกับคู่สมรสของเขาแปลโดยผลงานของ Turgenev ถึงฝรั่งเศสส่งเสริมความสำเร็จของวัฒนธรรมรัสเซีย นามสกุลของเธอเขียนในรูปแบบต่าง ๆ ด้วยของตัวเอง นามสกุลหญิงสาว Garcia เธอถึงชื่อเสียงและชื่อเสียงหลังจากการแต่งงานบางครั้งฉันใช้นามสกุลสองครั้งของ Garcia-Viardo และในบางจุดที่เธอละทิ้งนามสกุลของหญิงสาวและเรียกตัวเองว่า "Ms. Viardo" ในปี 1837 Polina Garcia วัย 16 ปีให้คอนเสิร์ตครั้งแรกของเขาในกรุงบรัสเซลส์และในปี 1839 เขาเปิดตัวในบทบาทของ Dovemone ในโอเปร่า "Othello" Rossini ในลอนดอนกลายเป็นเล็บของฤดูกาล แม้จะมีข้อเสียบางอย่างในเสียงของหญิงสาวเข้าร่วมเทคนิคประณีตด้วยความหลงใหลที่น่าทึ่ง ในปี 1840 Polina แต่งงานกับ Louis Viardo นักแต่งเพลงและผู้อำนวยการThéatre Italien ในปารีส เป็นภรรยาที่มีอายุมากกว่า 21 ปีสามีเริ่มมีส่วนร่วมในอาชีพของเธอ ในปี 2387 ในเมืองหลวงของจักรวรรดิรัสเซียเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กพูดในระยะเดียวกันกับอันโตนิโอทับกรินีและ Giovanni Batista Rubini Viardo มีแฟน ๆ จำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเขียนชาวรัสเซีย Ivan Sergeevich Turgenev ก็ตกหลุมรักนักร้องในปี 1843 โดยเคยได้ยินการประหารชีวิตของเธอในเซวิลล์เบอร์เบอร์ ในปี 1845 เขาออกจากรัสเซียให้ติดตาม Polina และในที่สุดกลายเป็นสมาชิกของตระกูล Viardo ผู้เขียนเป็นเด็กสี่คนของโปลิน่าเป็นของเขาเองและชื่นชอบเธอจนกระทั่งเขาเสียชีวิต เธอในทางกลับกันมีความสำคัญต่อผลงานของเขาและตำแหน่งของเธอในโลกและการสื่อสารของเธอเป็นตัวแทนของนักเขียนในแสงที่ดีที่สุด ธรรมชาติที่แท้จริง ความสัมพันธ์ของพวกเขายังคงมีการอภิปราย นอกจากนี้ Polina Viardo สื่อสารกับคนที่ดีอื่น ๆ รวมถึง Charles Guno และ Hector Berlioz มีชื่อเสียงโดยแกนนำข้อมูลและความสามารถที่น่าทึ่ง Viardo แรงบันดาลใจให้นักประพันธ์เพลงอย่างเช่นเฟรเดอริโชแปง Hector Berlioz คามิลล์ Saint-Sans และ Gacomo Meyerber เขียนของ Opera "พระศาสดา" ซึ่งเธอก็กลายเป็นผู้จัดการคนแรกของพรรค Fides เธอไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นนักแต่งเพลง แต่จริง ๆ แล้วแต่งการรวบรวมดนตรีสามครั้งและยังช่วยในการเขียนเพลงสำหรับบทบาทที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับเธอ ต่อมาออกจากที่เกิดเหตุเธอเขียนโอเปร่าที่เรียกว่า Le Dernier Sorcier Viardo พูดอย่างอิสระในสเปนฝรั่งเศสอิตาลีภาษาอังกฤษเยอรมันและรัสเซียและใช้เทคนิคระดับชาติต่าง ๆ ในการทำงานของพวกเขา ขอบคุณความสามารถของเขาเธอแสดงในห้องโถงคอนเสิร์ตที่ดีที่สุดของยุโรปรวมถึงที่โรงละครโอเปร่าแห่งเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (ในปี 1843-1846) ความนิยมของ Viardo นั้นยอดเยี่ยมมากที่ George Sand ทำให้มันเป็นต้นแบบ นางเอกหลัก โรมัน "Consuelo" Viardo Sang Metzo-Soprano ปาร์ตี้ใน Tuba Mirum ("Requiem" ของ Mozart) ที่งานศพของ Chopin เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 1849 มีบทบาทสำคัญใน Opera Glitka "Orpeus และ Eurydika" ในปี 1863 Polina Viardo Garcia ออกจากที่เกิดเหตุฝรั่งเศสถูกทิ้งไว้กับครอบครัวของเขา (สามีของเธอเป็นฝ่ายตรงข้ามของระบอบ Napoleon III) และตั้งรกรากอยู่ใน Baden-Baden หลังจากการล่มสลายของ Napoleon III ครอบครัวของ Viardo กลับไปที่ฝรั่งเศสโดยที่ Polina สอนใน Paris Conservatory จนกระทั่งการตายของสามีของเธอในปี 1883 และยังจัดร้านดนตรีบน Saint-Germain Boulevard ในหมู่นักเรียนและนักศึกษา Polina Viardo ที่มีชื่อเสียง Desiree Art-อาภัพโซฟี Ryrin-Brownin, Bayleodz, Hasselman, Holmsen, Schliman, Shmeyser บิลโบ Bashle เมเยอร์, \u200b\u200bโรแลนด์และอื่น ๆ เธอมีโรงเรียนเสียงที่ยอดเยี่ยมกับนักร้องชาวรัสเซียหลายคนรวมถึง F.V Litvin, E. Lavrovskaya-Cervian, N. Iretskaya, N. Sttembg 18 พฤษภาคม 1910 Polina Viardo เสียชีวิตล้อมรอบ ญาติรัก. เขาถูกฝังอยู่ที่สุสาน Montmartra ในปารีส กวีรัสเซีย Alexey Nikolayevich Plescheev ทุ่มเทบทกวีของเขา "นักร้อง" (Viardo Garcia): ไม่! อย่าลืมฉันที่น่าหลงใหลเสียงเป็นน้ำตาแห่งความรักครั้งแรกที่ฉันไม่ลืม! เมื่อฉันโค้งคำนับให้คุณแป้งกระตุ้นในหน้าอกและอีกครั้งฉันก็พร้อมที่จะเชื่อและรัก! ฉันไม่ลืมเธอ ... จากนั้นปุโรหิตแรงบันดาลใจผ้าห่อศพหุ้มด้วยพวงหรีดเธอเป็น ... และเพลงศักดิ์สิทธิ์ศักดิ์สิทธิ์และการจ้องมองของเธอคือการเผาไหม้ด้วยไฟอันศักดิ์สิทธิ์ ... จากนั้นภาพซีดในนั้นฉันเห็น Desden เมื่อเธอออกจากพิณสีทองเกี่ยวกับ Iwa Sang เพลง ... และขัดจังหวะเสียงครวญครางของการล้นของเพลงเก่าที่น่าเศร้า เมื่อเธอได้รับความเดือดร้อนอย่างล้ำลึกเขาศึกษาคนที่รู้จักผู้คนและความลับของหัวใจของพวกเขา และถ้าหลุมฝังศพที่ยิ่งใหญ่ถูกกบฏเขาจะใส่มงกุฎของเธอกับคนของเขา บางครั้งฉันก็เป็นโรน่าหนุ่มและหลงใหลเหมือนคืนของประเทศของเธอพื้นเมืองของเธอ ... และเสียงของความสนใจเวทมนตร์ของเธอฉันแสวงหาวิญญาณของฉันที่มีข่าวลือทุกอย่างทุกอย่างชื่นชมดวงตาที่สีฟ้านิรันดร์เปล่งประกาย ท้องฟ้าที่ซึ่ง Nightingaws ถูกยิงบนกิ่งก้านของ Sicomora และ Cypress Shadow สั่นสะเทือนบน STROIT ของน้ำ! และหน้าอกของฉันเต็มไปด้วยความเพลิดเพลินที่ศักดิ์สิทธิ์ชื่นชมความสุขสูงยกสูงขึ้นและบินไปด้วยความสงสัยที่น่ารำคาญและมันก็สงบและง่ายดาย ในฐานะเพื่อนหลังการแยกเกราะฉันพร้อมที่จะสรุปทั้งโลกในอ้อมแขน ... โอ้! อย่าลืมฉันที่น่าหลงใหลเสียงเป็นน้ำตาแห่งความรักครั้งแรกที่ฉันไม่ลืม!<1846>

Natalie Dessay (Natalie Dessay, Rod. Nathalie Dessaiix) - นักร้องโอเปร่าฝรั่งเศส Soprano Colutureated หนึ่งในนักร้องชั้นนำของความทันสมัยที่จุดเริ่มต้นของอาชีพเป็นที่รู้จักกันในเรื่องเสียงที่สูงและโปร่งใสของเขาตอนนี้ร้องเพลงในช่วงที่ต่ำกว่า ความรักของผู้ชมสำหรับข้อมูลที่น่าทึ่งที่ยอดเยี่ยมและอารมณ์ขันที่มีชีวิต Natalie Dessay เกิดเมื่อวันที่ 19 เมษายน 1965 ในลียงเติบโตขึ้นในบอร์โดซ์ ยังอยู่ที่โรงเรียนเธอลดจดหมาย "H" จากนามของเขาเองเพื่อเป็นเกียรติแก่นักแสดง Natalie Wood และต่อมาทำให้การเขียนของ Fimilia ง่ายขึ้น ในวัยหนุ่มสาวของเขา Desssey ใฝ่ฝันที่จะเป็นนักบัลเล่ต์หรือนักแสดงและรับบทเรียนทักษะการแสดง แต่ครั้งหนึ่งเล่นกับเพื่อนนักเรียนในการเล่นที่รู้จักกันเล็กน้อยของศตวรรษที่ 18 เธอต้องร้องเพลงเธอแสดงข่าวของ Aria จาก " ขลุ่ยมหัศจรรย์ "ทุกคนรู้สึกประหลาดใจเธอแนะนำให้เปลี่ยนความสนใจให้กับเพลง นาตาลีเข้าสู่เรือนกระจกของรัฐในบอร์โดซ์ผ่านการฝึกอบรมห้าปีในเวลาเพียงหนึ่งปีและจบด้วยเกียรตินิยมในปี 1985 หลังจากเรือนกระจกเขาทำงานร่วมกับ Capitol Orchestra แห่งชาติ Toulouse ในปี 1989 เขาได้รับการจัดอันดับที่สองในการแข่งขัน "เสียงใหม่" ซึ่งจัดขึ้นโดย France Telecom ซึ่งอนุญาตให้เธอศึกษาปีที่โรงเรียนสอนศิลปะ Lyrical of the Paris Opera และดำเนินการในบทบาทของ Eliza ในโอเปร่า "Tsar- Shepherd "Mozart ในฤดูใบไม้ผลิของปี 1992 เธอร้องเพลงสั้น ๆ ของ Olympia จาก "นิทานแห่ง Hoffmann" Offenbach ใน Opera Bastilly หุ้นส่วนของเธอคือ Jose Van Dame การผลิตนักวิจารณ์และผู้ชมที่ผิดหวัง แต่นักร้องหนุ่มได้รับรางวัล Ovations และ Noticed บทบาทนี้จะเป็นสัญญาณสำหรับเธอจนถึงปี 2544 เธอจะเล่น Olympia ในแปดโปรดักชั่นที่แตกต่างกันรวมถึงในระหว่างการเปิดตัวใน La Scala ในปี 1993 Natalie Dessay ชนะการแข่งขัน Mozartov นานาชาติจัดขึ้นโดยเวียนนาโอเปร่าและยังคงฝึกอบรมและการแสดงในโรงอุปรากรเวียนนา ที่นี่เธอร้องเพลงบทบาทของสีบลอนด์จาก "การลักพาตัวจาก Seralya" Mozart ซึ่งกลายเป็นบทบาทที่โด่งดังที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุด ในเดือนธันวาคม 1993 Natali เสนอให้แทนที่ Cheryl Studder (Cheryl Studer) ในบทบาทที่รู้จักกันอยู่แล้วของ Olympia ใน Opera Vienna คำพูดของเธอได้รับการยอมรับจากผู้ชมของกรุงเวียนนาและสรรเสริญ Placido Domingo ในปีเดียวกันเธอได้รับบทบาทในโอเปร่าลียง จากสุนทรพจน์ในเวียนนาโอเปร่าเริ่มอาชีพนานาชาตินาตาลี Dssay ในปี 1990 การยอมรับของเธอกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องและขยายบทบาทของบทบาทอย่างต่อเนื่องมีข้อเสนอมากมายเธอทำหน้าที่ในโรงละครโอเปราที่เป็นผู้นำในทุกโรงละครโอเปร่า La Scala โรงละครโอเปร่าบาวาเรียนการ์เด้นเวนเซอรี่โอเปร่าและอื่น ๆ คุณสมบัติที่แตกต่างของนักแสดงหญิง Dessse คือเธอเชื่อว่านักร้องโอเปร่าควรประกอบด้วย 70% ของโรงละครและอีก 30% ของดนตรีและมุ่งมั่นไม่เพียง แต่จะร้องเพลงบทบาทของพวกเขา แต่ยังเล่นกับพวกเขาอย่างมากดังนั้นแต่ละตัวละครของเธอ เป็นการค้นพบใหม่ไม่เหมือนคนอื่น ๆ ในฤดูกาล 2001/2002 DSSay เริ่มประสบปัญหาทางเสียงและเธอต้องยกเลิกการกล่าวสุนทรพจน์และคอนเสิร์ตเดี่ยว เธอออกจากที่เกิดเหตุและในเดือนกรกฎาคม 2545 ทำการผ่าตัดเพื่อกำจัดติ่งลงในเอ็นเสียงในเดือนกุมภาพันธ์ 2546 เธอกลับมาพร้อมกับคอนเสิร์ตเดี่ยวในปารีสและดำเนินการต่อเนื่องในอาชีพของเขาอย่างแข็งขัน ในฤดูกาล 2004/2005 Natalie Dssay ต้องเลื่อนการดำเนินงานอีกครั้ง สิ่งพิมพ์ใหม่เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2005 ในมอนทรีออล การกลับมาของ Natalie Dssay มาพร้อมกับการ reorientation ในเพลงที่เป็นโคลงสั้น ๆ เธอปฏิเสธ "ปอด" โดยไม่มีบทบาทลึก (เช่น Gilda ใน Rigoletto) หรือจากบทบาทที่เธอไม่ต้องการเติมเต็ม (Queen of the Night หรือ Olympia) ในความโปรดปรานของตัวละคร "โศกนาฏกรรม" มากขึ้น ตำแหน่งนี้ในตอนแรกนำความแตกต่างอย่างจริงจังกับไดเรกทอรีและเพื่อนร่วมงานบางอย่าง วันนี้ Natalie Dessay อยู่ด้านบนของอาชีพของเธอและเป็นนักร้องโซปราโนชั้นนำ ชีวิตและการกระทำส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกา แต่ทัวร์ในยุโรปอย่างต่อเนื่อง แฟน ๆ ชาวรัสเซียสามารถมองเห็นได้ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในปี 2010 และในมอสโกในปี 2554 ในต้นปี 2554 เธอร้องเพลง (ครั้งแรก) บทบาทของคลีโอพัตราใน "Julia Cesar" Handel ใน Opera Garnier กลับไปที่ Metropolitan-Opera "Lucia di Lammermur" จากนั้นกลับไปยุโรปอีกครั้งด้วยรุ่นคอนเสิร์ต "Pelleas และ Melizanda" ในปารีสและลอนดอนและคอนเสิร์ตในมอสโก ในแผนการที่ใกล้ที่สุดของนักร้องหลายโครงการ: "Traviata" ในกรุงเวียนนาในปี 2554 และในเมืองโอเปร่าในปี 2012 คลีโอพัตราใน "จูเลียซีซาร์" ในโรงละครโอเปรานครหลวงในปี 2556 "Manon" ในปารีสโอเปร่าและ La Scala ใน 2012, Marie ("Shelf ลูกสาว") ในปารีสในปี 2013 และ Elvira ในเมืองหลวงในปี 2014 Natalie Dessay แต่งงานกับ Bas-Bariton Laurent Nai พวกเขามีลูกสองคน ในฉากโอเปร่าด้วยกันพวกเขาสามารถเห็นได้น้อยมากในทางตรงกันข้ามกับดาวคู่ของ Alanya-Georgiu ความจริงก็คือว่าสำหรับบาริโทน - โซปราโนน้อยกว่าละครกว่าสำหรับนักร้องโซปราโน เพื่อประโยชน์ของสามีของเธอ Dessay ยอมรับศาสนาของเขา - ยูดาย

Rita Streich (18 ธันวาคม 1920 - 20 มีนาคม 2530) เป็นหนึ่งในนักร้องโอเปร่าเยอรมันที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในยุค 40 และ 198 ของศตวรรษที่ 20 โซปราโน Rita Shtrech เกิดที่ Barnaul ในดินแดนอัลไตรัสเซีย พ่อของเธอ Bruno ความเครียด efreitor ของกองทัพเยอรมันถูกจับที่ด้านหน้าของสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและถูกวางยาพิษใน Barnaul ซึ่งเขาได้พบกับสาวรัสเซียแม่ในอนาคต singe ที่มีชื่อเสียง Vera Alekseev เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 1920 ลูกสาวของ Margarita Shtrech เกิดที่ Vera และ Bruno ในไม่ช้าพลังงานโซเวียตอนุญาตให้เชลยศึกชาวเยอรมันกลับบ้านและบรูโน่พร้อมกับศรัทธาและมาร์การิต้าไปเยอรมนี ขอบคุณแม่รัสเซียของเขา Rita Stach กล่าวว่าดีและร้องเพลงในรัสเซียซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับอาชีพของเธอในเวลาเดียวกันเนื่องจากภาษาเยอรมัน "ไม่บริสุทธิ์" ของเธอในตอนแรกมีปัญหาบางอย่างกับระบอบการปกครองของฟาสซิสต์ Reta Vocal Data ถูกเปิดเผยในช่วงต้นเริ่มต้นด้วยชั้นเรียนที่อายุน้อยกว่าเธอเป็นนักแสดงชั้นนำที่คอนเสิร์ตของโรงเรียนคนหนึ่งที่เธอสังเกตเห็นและพาเธอนักร้องโอเปร่าเยอรมันที่ยอดเยี่ยมของเธอ Erna Berger กับการศึกษาของเธอในกรุงเบอร์ลิน ยังอยู่ใน เวลาที่แตกต่างกัน ในบรรดาครูของเธอเป็นผู้มีชื่อเสียงที่มีชื่อเสียง Willy Domgraf Fasbender และ Soprano Maria iPhogun Rita Rita ตรงในฉากโอเปร่าเกิดขึ้นในปี 1943 ในเมือง Osseig (Aussig ตอนนี้ USTi-Nad Labem สาธารณรัฐเช็ก) กับบทบาทของ Surbins ในโอเปร่า "Ariadne ที่ Naxos" Richard Straus "Richard Straus ในปี 1946 Rita เปิดตัวใน Opera รัฐเบอร์ลินเกิดขึ้นในคณะหลักกับพรรคโอลิมเปียใน "เทพนิยาย" Jacques of offebach หลังจากนั้นก็เริ่มใช้อาชีพบนเวทีของเธอซึ่งกินเวลาจนถึงปี 1974 ใน Opera Opera Rita Strach ยังคงอยู่จนถึงปี 1952 จากนั้นย้ายไปออสเตรียและใช้เวลาเกือบยี่สิบปีในที่เกิดเหตุเวียนนาโอเปร่า ที่นี่เธอแต่งงานแล้วและในปี 1956 ให้กำเนิดลูกชาย Rita Strach มี Soprano Coloratura สดใสและทำปาร์ตี้ที่ยากที่สุดในโลกของโอเปร่าโลกได้อย่างง่ายดายเธอถูกเรียกว่า "Nightingale เยอรมัน" หรือ "กองทัพเรือเวียนนา" สำหรับอาชีพที่ยาวนานของเขา Rita Shtrech แสดงในโรงภาพยนตร์หลายแห่ง - เธอมีสัญญาจาก "La Scala" และ Bavarian Radio ในมิวนิคซังใน Covent Garden, ปารีส Opera รวมถึงโรมเวนิสนิวยอร์กชิคาโกซานฟรานซิสโก ญี่ปุ่น, ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ดำเนินการที่ Salzburg, Baytiete และ Glantborn เทศกาลโอเปร่า. เพลงของเธอรวมถึงปาร์ตี้โอเปร่าที่สำคัญเกือบทั้งหมดสำหรับโซปราโนซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามนักแสดงที่ดีที่สุดของบทบาทของราชินีใน "ขลุ่ยมหัศจรรย์" Mozart, Annhen ในเวเบอร์ "เสรีนิยม" เวเบอร์และคนอื่น ๆ รวมถึงเพลงรวมถึงผลงานของนักแต่งเพลงชาวรัสเซียซึ่งเธอแสดงเป็นภาษารัสเซีย เธอยังถือว่าเป็นล่ามที่งดงามของมวยปล้ำและเพลงพื้นบ้านและความโรแมนติก เธอทำงานร่วมกับออเคสทรสที่ดีที่สุดและตัวนำของยุโรปบันทึกบันทึกหลัก 65 รายการ หลังจากจบอาชีพของ Rita Shtrech ตั้งแต่ปี 1974 เขาเป็นศาสตราจารย์ที่ Music Academy ในเวียนนาสอนที่โรงเรียนดนตรีใน Essen ให้ชั้นเรียนหลักมุ่งหน้าไปยังศูนย์พัฒนาศิลปะโคลงสั้น ๆ ในนีซ Rita Shtreich เสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 1987 ในกรุงเวียนนาและถูกฝังอยู่ในสุสานเมืองเก่าที่อยู่ถัดจากพ่อของบรูโน่สายพันธุ์และแม่ศรัทธา Alexeva

Bartoli Cecilia (Cecilia Bartoli) เป็นนักร้องโอเปร่าอิตาลี Coloratura Mezzo-Soprano หนึ่งในนักร้องโอเปร่าชั้นนำและประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์แห่งความทันสมัย Bartoli Batoli เกิดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 1966 ในกรุงโรม พ่อแม่ของ Bartoli - Silvana Bazzoni และ Pietro Angelo Bartoli นักร้องมืออาชีพพนักงานของ Opera โรมัน ครูคนแรกและหัวหน้าของการดูแลแกนนำคือแม่ของเธอ ในช่วงเก้าปีที่ผ่านมา Churchilia ครั้งแรกถึง "ฉากใหญ่" - ปรากฏในหนึ่งในฉากมวลชนในโรมันโอเปร่าในการก่อตัวของคนเลี้ยงแกะในการผลิต "Tosca" ในฐานะเด็กนักร้องในอนาคตชื่นชอบการเต้นรำและมีส่วนร่วมใน Flamenko แต่พ่อแม่ไม่เห็นอาชีพของเธอในการเต้นรำและไม่มีความสุขกับความหลงใหลในลูกสาวของเธอพวกเขายืนยันว่าเธอยังคงการศึกษาดนตรีต่อไป Flamenco ให้ Bartoli ง่ายขึ้นและหลงใหลที่เธอยื่นออกมาบนเวทีและความรักของเธอสำหรับการเต้นรำนี้ยังคงมีความเกี่ยวข้อง ตอนอายุ 17 ปี Bartoli เข้ามาในเรือนกระจก "Santa Churchilia" ในปี 1985 เธอพูดในรายการโทรทัศน์ "ความสามารถใหม่": Sang "Barcarol" จาก "Tales of Hoffmann" Offenbach, Aria Rosina จาก Seville Village และแม้แต่คู่กับ Bariton Leo Nucchi และถึงแม้ว่าเธอจะได้อันดับที่สอง แต่คำพูดของเธอถูกสร้างขึ้นจากภายนอกที่แท้จริงในหมู่คนรักโอเปร่า ในไม่ช้า Bartoli แสดงที่คอนเสิร์ตที่จัดขึ้นโดยปารีสโอเปร่าในความทรงจำของ Mary Callas หลังจากคอนเสิร์ตนี้สาม "เฮฟวี่เวท" ในโลกของดนตรีคลาสสิก - เฮอร์เบิร์ตฟอน Karaians Daniel Barenboim และ Nikolaus Arnoncourt ดึงความสนใจไปที่มัน เปิดตัว Opera Professional เกิดขึ้นในปี 1987 ใน Arena Di Verona ในปีหน้าเธอเติมเต็มบทบาทของโรน่าในโอเปร่ารอสนี "เซวิลล์ช่างตัดผม" ในโรงละครโอเปราโคโลญและบทบาทของ Kerubino ในคู่กับ Nicaus Arnoncourt ใน "การแต่งงานของ Figaro" Mozart ในซูริกสวิตเซอร์แลนด์ Herbert Von Karaians เชิญเธอเข้าร่วมในเทศกาล Salzburg และเติมเต็มมวล Si Minor I. S. Baha กับเขา แต่การตายของ Maestro ไม่ได้ปล่อยให้แผน ในปี 1990 Bartoli เปิดตัวใน Opera Bastilly ด้วยบทบาทของ Kerubino ในโอเปร่ารัฐฮัมบูร์กในพรรค Idamnata ใน Oman Mozart Opera เช่นเดียวกับในสหรัฐอเมริกาที่เทศกาล Mozart ส่วนใหญ่ในนิวยอร์กและเข้าสู่ สัญญาพิเศษกับ Decca ในปี 1991 เขาเปิดตัวใน La Rock ในฐานะกลุ่มของ Rossini ใน Opera "Count Ori" ตั้งแต่เวลานั้นอายุ 25 ขวบเธออนุมัติชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในศิลปินชั้นนำของโลกและ Rossini ตั้งแต่นั้นมาอาชีพของเธอพัฒนาอย่างรวดเร็ว - รายชื่อ โรงภาพยนตร์ที่ดีที่สุด โลก, นายกรัฐมนตรี, คอนเสิร์ตเดี่ยว, ตัวนำ, บันทึก, เทศกาลและพรีเมี่ยมที่ถูกเก็บไว้ใน Bartoli อาจเติบโตในหนังสือ ตั้งแต่ปี 2005 Bartoli มุ่งเน้นไปที่ดนตรีของยุคบาโรกและคลาสสิกยุคแรกของนักแต่งเพลงเช่นความผิดพลาด, Vivaldi, Gaidn และ Salieri และเมื่อเร็ว ๆ นี้ - ในเพลงของ Belkanto โรแมนติกและอิตาลี ปัจจุบันเธออาศัยอยู่กับครอบครัวของเธอใน Monte Carlo ทำงานในซูริคโอเปร่า Bartoli Bartoli เป็นแขกรับเชิญเป็นประจำในรัสเซียตั้งแต่ปี 2001 เธอไปเยี่ยมประเทศของเราหลายครั้งสุดท้ายของทัวร์ที่จัดขึ้นในเดือนกันยายน 2554 นักวิจารณ์บางคนแจ้งให้ทราบว่า Bartoli ของ Bartoli ถือเป็นหนึ่งใน Mezzo-Soprano ที่ดีที่สุดของความทันสมัยเท่านั้นเพราะด้วยเสียงประเภทนี้ (ตรงกันข้ามกับโซปราโน) เธอมีคู่แข่งน้อยมากอย่างไรก็ตามการแสดงของเธอกำลังรวบรวมห้องโถงเต็มของแฟน ๆ และ แผ่นดิสก์ถูกขายโดยการไหลเวียนนับล้าน สำหรับการทำบุญในด้านดนตรีเพลงของ Batoli ได้รับรางวัลรัฐและสาธารณะมากมายรวมถึงคำสั่งซื้อภาษาฝรั่งเศส "สำหรับการทำบุญ" และ "ศิลปะและวรรณคดี" และอิตาลี chivalry และเธอเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของ Royal Academy of Music ในลอนดอนและ คนอื่น ๆ . เธอเป็นผู้ชนะของ Five Gremmy Premium ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่ชนะในปี 2011 ในการเสนอชื่อ "ประสิทธิภาพการร้องคลาสสิกที่ดีที่สุด" กับอัลบั้ม "Sacrificius"

Sumi Cho (Jo Sumi) - นักร้องโอเปร่าเกาหลีโซปราโน Colutureated นักร้องโอเปร่าที่มีชื่อเสียงที่สุดมาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Sumi Cho เกิดเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 1962 ในกรุงโซล เกาหลีใต้ . ชื่อจริง Sudzhin Cho (Jo Suyeong) แม่ของเธอเป็นนักร้องและนักเปียโนมือสมัครเล่น แต่ไม่สามารถรับการศึกษาทางดนตรีมืออาชีพที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมืองในเกาหลีในปี 1950 เธอตั้งใจแน่วแน่ที่จะให้การศึกษาดนตรีที่ดี Sumi Cho เริ่มเรียนในเปียโนที่ 4 ปีและการฝึกซ้อมเสียงจาก 6 ปีที่แล้วในวัยเด็กบางครั้งเธอต้องใช้เวลาถึงแปดชั่วโมงในดนตรี ในปี 1976 Sumi Cho เข้าสู่ Seoul School of Arts (Private Academy) "San Hwa" ซึ่งเสร็จสมบูรณ์ในปี 1980 กับ Diplomas ในความพิเศษของนักร้องและเปียโน ในปี 1981-1983 เขายังคงการศึกษาดนตรีของเขาที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล ในระหว่างการศึกษาของเขาที่มหาวิทยาลัยการเปิดตัวมืออาชีพครั้งแรกของ Sumi Cho ได้จัดขึ้นเธอได้จัดคอนเสิร์ตหลายครั้งโดยทีวีเกาหลีและดำเนินการปาร์ตี้ซูซานที่งานแต่งงาน Figaro ใน Opera Seoul ในปี 1983 โชตัดสินใจที่จะออกจากมหาวิทยาลัยโซลและย้ายไปที่อิตาลีเพื่อศึกษาดนตรีในสถาบันการศึกษาดนตรีที่เก่าแก่ที่สุด - The National Academy of Holy Churchilia ในกรุงโรมจบการศึกษาระดับเกียรตินิยม ในบรรดาครูชาวอิตาลีของเธอคือ Carlo Bargon และ Janell Borelli ในขณะที่เรียนที่ Cho Academy เป็นไปได้ที่จะได้ยินในคอนเสิร์ตในเมืองอิตาเลียนที่แตกต่างกันเช่นเดียวกับทางวิทยุและโทรทัศน์ ในเวลานั้นที่เลือกที่จะใช้ชื่อ "Sumi" เป็นนามแฝงบนเวทีของเขาที่จะเป็นผู้ชมชาวยุโรปที่เข้าใจได้มากขึ้น ในปี 1985 เธอจบการศึกษาจากสถาบันการศึกษาด้วยความเชี่ยวชาญในเปียโนและเสียงร้อง หลังจากที่สถาบันเธอได้รับบทเรียนจาก Elizabeth Schwarzkopf และได้รับการประกวดเสียงร้องหลายครั้งในกรุงโซลเนเปิลส์บาร์เซโลนาพริทอเรียและสำคัญที่สุดในปี 1986 การแข่งขันระหว่างประเทศในเวโรนาซึ่งเป็นเพียงผู้ชนะการแข่งขันที่มีชีวิตที่สำคัญเท่านั้น สามารถเข้าร่วมได้ดังนั้นการพูดที่สุดของนักร้องหนุ่มที่ดีที่สุด เดบิตโอเปร่าแห่งยุโรปของ SUI Cho เกิดขึ้นในปี 1986 ในฐานะ Gilda ใน Rigoletto ในโรงละคร Juseppe Verdi ใน Trieste ผลการดำเนินงานนี้ดึงดูดความสนใจของเฮอร์เบิร์ตฟอน Karaian ที่เชิญเธอเข้าสู่บทบาทของ Paza Oscar ใน "Ball Masquerade" Opere ด้วยการมีส่วนร่วมของ Placido Domingo การผลิตที่จัดขึ้นที่เทศกาล Salzburg ในปี 1987 ปีต่อ ๆ ไป Sumi Cho อย่างต่อเนื่องไปที่โอเปร่าโอลิมปัสขยายภูมิศาสตร์ของสุนทรพจน์ของเขาอย่างต่อเนื่องและเปลี่ยนละครจากบทบาทเล็ก ๆ ไปจนถึงหลัก ในปี 1988 Sumi Cho เปิดตัวใน La Rock และใน Opera รัฐบาวาเรียในปี 1989 - ในโรงละครโอเปรารัฐเวียนนาและปริมณฑลในปี 1990 - ใน Chicago Lirik Opera และ Covent Garden Sumi Cho ได้กลายเป็นหนึ่งในโซปราโนที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดและยังคงอยู่ในสถานะนี้จนถึงวันนี้ ผู้ชมรักเธอด้วยเสียงที่อบอุ่นและมีความยืดหยุ่นเช่นเดียวกับการมองโลกในแง่ดีและอารมณ์ขันที่สดใสบนเวทีและในชีวิต มันเป็นเรื่องง่ายและฟรีบนเวทีให้รูปแบบโอเรียนเต็ลที่ละเอียดอ่อนแต่ละรูปแบบ Sumi Cho ไปเยี่ยมชมทุกประเทศของโลกที่พวกเขารักโอเปร่ารวมถึงหลาย ๆ ครั้งในรัสเซียการเยี่ยมชมครั้งสุดท้ายคือในปี 2008 เมื่อพวกเขาอยู่ในคู่กับ Dmitry Zhvorostovsky เป็นส่วนหนึ่งของทัวร์ของทัวร์ของหลายประเทศ เธอมีตารางการทำงานที่หนาแน่นรวมถึงการแสดงโอเปร่า โปรแกรมคอนเสิร์ตทำงานกับ บริษัท บันทึก ปัจจุบัน Discraphy Sui Cho มีมากกว่า 50 รายการรวมถึงสิบอัลบั้มเดี่ยวและดิสก์ครอสโอเวอร์ อัลบั้มทั้งสองที่มีชื่อเสียงที่สุด - ในปี 1992 เธอได้รับรางวัลแกรมมี่ในการเสนอชื่อ "บันทึกโอเปร่าที่ดีที่สุด" สำหรับ Opera R. Vacner "Woman Without Shadow" กับ Hildegard Berens, Jose Van Dame, Julia Varadi, Placido Domingo, Placido Domingo ตัวนำ Georg Scholti และอัลบั้มที่มีโอเปร่า "Ball Masquerad" J.Verdi ซึ่งได้รับรางวัลจากแกรมโฟนเยอรมัน

City Opera House (Lyrical Opera) (Civic Opera House / Lyric Opera) - Opera House ในชิคาโกรัฐอิลลินอยส์สหรัฐอเมริกา ห้องพูดของโรงละครได้รับการออกแบบมาสำหรับ 3563 แห่งซึ่งทำให้เป็นโรงละครที่ใหญ่เป็นอันดับสองในโลกหลังจากโรงละครเมโทร โรงละครเป็นส่วนหนึ่งของอาคารสำนักงาน 45 ชั้นที่มีปีก 22 ชั้นสองแห่ง ตอนนี้อาคารเป็นเจ้าของโดย บริษัท "Lyrical Opera Chicago" อาคารของ Urban Opera House ที่สร้างขึ้นในปี 1929 ในโครงการ "Graham, Anderson, Probst & White" ซึ่งสร้างอาคารที่ดีเลิศในใจกลางของ Chigago สถาปนิกหลักคืออัลเฟรดชอว์ (อัลเฟรดชอว์) วิศวกรชั้นนำ - ผู้สร้าง Magnus Ganderson (Magnus Gunderson) อาคารตั้งอยู่บน ถนนสายหลัก Chicago - Walker Drive และมีสองรูปแบบและสองใบหน้า - ที่ด้านข้างของแม่น้ำชิคาโกมันมีมุมมองในรูปแบบของอาร์ตเดโคแบบที่เป็นแบบอย่างทั่วไปในเวลานี้ดูจากถนนที่มีสัดส่วนยาวของคอลัมน์ เช่นเดียวกับการตกแต่งภายในของ Tetra นั้นได้รับแรงบันดาลใจจาก Neoclassicism ของฝรั่งเศสสันนิษฐานว่าในการเลียนแบบของปารีสโอเปร่า Garnier ภายในพื้นที่และห้องโถงยังได้รับการตกแต่งอย่างอุดมไปด้วยผ้าม่าน "คะนอง" วาดตามฉากและตัวละครจากโอเปร่าต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไฮไลท์แกรนด์เดือนมีนาคมของไอด้าเป็นศูนย์กลาง ลูกค้าหลักและนักการเงินซึ่งลงทุนครึ่งต้นทุนการก่อสร้างคือนักธุรกิจ Chigagi ผู้มีพระคุณของศิลปะซามูเอลอินซูลผู้ซึ่งเป็นพนักงานของโทมัสเอดิสันเจนเนอรัลอิเล็กทรอนิกส์และมาถึงชิคาโกเพื่อขยายธุรกิจ เป็นเวลาหลายปี บริษัท Chigago Edison ใหม่ (ภายหลังเปลี่ยนชื่อและเปลี่ยนแปลง) กลายเป็นที่ใหญ่ที่สุดในเมืองของ บริษัท สำหรับอุตสาหกรรมไฟฟ้าและพลังงานไฟฟ้านอกจากนี้เขายังเป็นของ บริษัท รายใหญ่อื่น ๆ ในเมือง ดูถูกนักแสดงในหลายปีที่อายุน้อยกว่าเขาพวกเขาทั้งคู่ที่รักศิลปะและเขาสร้างโรงละครเป็นของขวัญให้กับภรรยาของเขาซึ่งถูกปฏิเสธคำพูดในการโอเปร่านครหลวง (แม้ว่าจะเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้นเพราะภรรยาของเขาไม่ใช่นักร้องและไม่ มันพยายามแสดงในโอเปร่า) แนวคิดของการรวมโรงละครโอเปร่าและสถานที่เชิงพาณิชย์และสำนักงานคือการได้รับรายได้เพิ่มเติมและในช่วงพักระหว่างฤดูกาลโอเปร่า อาคารสูงที่มีปีกสองตัวมีลักษณะคล้ายกับเก้าอี้ยักษ์เนื่องจากบางครั้งเรียกว่า "บัลลังก์ซังเนื้อ" การเปิดตัวโอเปร่าที่เคร่งขรึมในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2472 โดยการส่งโอเปร่า "Aida" Verdi โปแลนด์โปแลนด์โซปราโน Rosa Rosa, โอเปร่าสำหรับการเปิดตัวเลือกซามูเอลนั้นเอง อย่างไรก็ตามภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ซึ่งเริ่มหกวันก่อนหน้านี้ได้ส่งผลกระทบต่อโรงละครโรงละครที่ว่างเปล่าและกำลังจะอยู่รอดกลุ่มโอเปร่าคนแรกเลิกกัน อินสติกเองสูญเสียธุรกิจส่วนใหญ่ของเขาได้รับการดำเนินคดี HID ในยุโรปจากนั้นเขาก็เป็นธรรมและเสียชีวิตในปารีสในความยากจนสัมพัทธ์ ในช่วงทศวรรษที่ 1930 และ 40 บริษัท โอเปร่าหลายแห่งตั้งอยู่ในโรงละครไม่มีใครมีอยู่นาน ในปี 1954 โรงละครได้เช่าโดย บริษัท Lyrical Opera Chicago ซึ่งซื้ออาคารในปี 1993 อย่างสมบูรณ์ Lyrical Opera เริ่มงานซ่อมขนาดใหญ่ ทุกอย่างได้รับการปรับปรุงการฟื้นฟูโลกเสร็จสมบูรณ์ในปี 1996

โรงละคร Mariinsky - โรงละครโอเปร่าและบัลเล่ต์ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, รัสเซีย เปิดในปี 1860 โรงละครดนตรีรัสเซียที่โดดเด่น ปฐมทัศน์ของผลงานชิ้นเอกของ Tchaikovsky, Mussorgsky, โรมัน Corsakov และนักแต่งเพลงอื่น ๆ อีกมากมายเกิดขึ้นในฉากของเขา โรงละคร Mariinsky เป็น House of Opera และ Ballet Troupe สำหรับวงออเคสตราซิมโฟนี โรงละคร Mariinsky. ผู้กำกับศิลป์ I. หัวหน้าตัวนำ valery gergiev มานานกว่าสองศตวรรษโรงละคร Mariinsky นำเสนอศิลปินที่ยอดเยี่ยมมากมาย: ที่นี่เบสที่โดดเด่นให้บริการผู้ก่อตั้งโรงเรียนโอเปราผู้บริหารรัสเซีย Osip Petrov ฝึกฝนทักษะของเขาและถึงจุดยอดของ Glory นักร้องที่ยอดเยี่ยมเช่น Fedor Shalyapin, Ivan Ershov, Medea และ Nikolai Figner, Sophia Preobrazhenskaya ศิลปินของบัลเล่ต์ Shone บนเวที: Matilda Kshesinskaya, Anna Pavlova, Vaclav Nizhinsky, Galina Ulanova, Rudolf Nureyev, Mikhail Baryshnikov เริ่มไปที่ศิลปะของ George Balanchine โรงละครได้เห็นความรุ่งเรืองของความสามารถของศิลปินมัณฑนูที่ชาญฉลาดเช่น Konstantin Korovin, Alexander Golovin, Alexander Benoit, Simon Virusladze, Fyodor Fedorovsky และอื่น ๆ อีกมากมาย มันมานานแล้วที่โรงละคร Mariinsky เป็นผู้นำสายเลือดนับแล้วนับเปลือกตาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1783 เมื่อพระราชกฤษฎีกาออกเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมพระราชกฤษฎีกาได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการละคร "เพื่อจัดการแว่นตาและดนตรี" ออกและในวันที่ 5 ตุลาคม โรงละครหินขนาดใหญ่เปิดอย่างเคร่งขรึม โรงละครให้ชื่อใหม่ของสแควร์ - เธอไปถึงวันของเราในฐานะละคร สร้างขึ้นโดยโครงการ Antonio Rinaldi โรงละครขนาดใหญ่หลงจินตนาการด้วยมิติสถาปัตยกรรมอันงดงามฉากพร้อมกับ คำสุดท้าย โรงละครแห่งเทคนิคโรงละคร เมื่อเขาถูกค้นพบโอเปร่า Giovanni Phazielo Il Mondo della Luna ("Moon World") ได้รับ คณะกรรมการรัสเซียพูดที่นี่สลับกับอิตาเลียนและฝรั่งเศสมีการแสดงละครอย่างน่าทึ่งและมีการจัดคอนเสิร์ต ปีเตอร์สเบิร์กสร้างขึ้นลักษณะของเขาเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง ในปี 1802-1803 Tom de Tomon เป็นสถาปนิกที่ยอดเยี่ยมและ Draftman - ดำเนินการเสริมสร้างทุนของการวางแผนและการตกแต่งภายในของโรงละครเปลี่ยนรูปลักษณ์และสัดส่วนของมัน ใหม่ได้รับรูปลักษณ์หลักและเทศกาลโรงละครบิ๊กได้ทำจากหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางสถาปัตยกรรมของ Nevsky Capital พร้อมกับ Admiralty, Exchange, Cathedral Kazan อย่างไรก็ตามในคืนวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1811 ไฟที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นในโรงละคร Bolshoi ในสองวันการตกแต่งภายในที่อุดมไปด้วยโรงละครเสียชีวิตในกองไฟและซุ้มของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส Tom de Tomon ผู้ประกอบโครงการฟื้นฟูสมองที่รักของเขาไม่ได้อยู่ก่อนการดำเนินการ ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1818 โรงละครขนาดใหญ่ที่เปิดใหม่เปิดโดยอารัมภบท "Apollo และ Pallada ในภาคเหนือ" และบัลเล่ต์ Charles Didlo "Marshmallow และ Flora" เพื่อเป็นเพลงของนักแต่งเพลงคาเวียร์คาวอก เรากำลังเข้าใกล้ยุคทองของโรงละคร Bolshoi เพลงของยุค "Affered" รวมถึง "ขลุ่ยมหัศจรรย์", "การลักพาตัวจาก Seryral", "Mozart Mercy" Mozart สาธารณะรัสเซียดึงดูด "Cinderella", "SemiraMid", "Soroka-Thief", "Seville Berber" Rossini ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1824 รอบปฐมทัศน์ของ "นักกีฬาฟรี" ของเวเบอร์ - ผลงานมากที่หมายถึงโอเปร่าโรแมนติกรัสเซียสำหรับต้นกำเนิด alyabyev และ verstai เล่น; หนึ่งในโอเปร่าที่เป็นที่รักและละครยอดนิยมมากที่สุดกลายเป็น "Ivan Susanin" Kavos ซึ่งลงไปสู่การปรากฏตัวของโอเปร่าของ Glink บนพล็อตเดียวกัน การเกิดขึ้นของความรุ่งเรืองของโลกของบัลเล่ต์รัสเซียมีความเกี่ยวข้องกับรูปตำนานของ Charles Didlo มันเป็นช่วงหลายปีที่ผ่านมา Pushkin เป็นคนสำคัญที่เปิดตัวโดย Petersburg ซึ่งเป็นโรงละครที่จับในข้ออ้างอมตะ ในปี 1836 โดยมีจุดประสงค์ในการปรับปรุงอะคูสติกโดยสถาปนิก Alberto Kavosom - ลูกชายของนักแต่งเพลงและ Cappecuser - โดมทับซ้อนกันของห้องโรงละครถูกแทนที่ด้วยแบนและการประชุมเชิงปฏิบัติการศิลปะวางอยู่เหนือห้องโถงสำหรับการวาดภาพ ตกแต่ง ALBERTO Cavos ทำความสะอาดคอลัมน์ในหอประชุมซึ่งทำให้ยากที่จะตรวจสอบและอะคูสติกที่บิดเบี้ยวทำให้ห้องโถงไปที่ห้องโถงที่มีรูปร่างตามปกติของเกือกม้าเพิ่มความยาวและความสูงเพิ่มจำนวนผู้ชมถึงสองพัน เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ค.ศ. 1836 การเป็นตัวแทนครั้งแรกของ Opera Glunka "Life for the King" ต่อการแสดงของโรงละครที่สร้างขึ้นใหม่ ความประสงค์ของคดีและอาจไม่ได้มีเจตนาที่ดีรอบปฐมทัศน์ของ "Ruslan and Lyudmila" - โอเปร่าที่สอง Glinka - เกิดขึ้นในช่วงหกปีที่ 27 พฤศจิกายน 1842 วันที่สองเหล่านี้น่าจะทำให้โรงละครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กตลอดกาลในประวัติศาสตร์ของวัฒนธรรมรัสเซีย แต่แน่นอนว่ามีผลงานชิ้นเอกของเพลงยุโรป: โอเปร่า Mozart, Rossini, Bellini, Donizetti, Verdi, Meyerbera, Guno, Obrave, Tom ... เมื่อเวลาผ่านไปการเล่นท่อโอเปร่ารัสเซียที่ขี้เล่นไปยังฉาก โรงละคร Alexandrinsky และละครสัตว์ที่เรียกว่าโรงละครที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับที่ใหญ่ (ที่กล่าวสุนทรพจน์ของคณะบัลเล่ต์ยังคงดำเนินต่อไปเช่นเดียวกับโอเปร่าอิตาลี) เมื่อในปี 1859 ละครเวทีที่ถูกไฟไหม้ในสถานที่ของสถาปนิกเดียวกัน Alberto Kavos สร้างโรงละครใหม่ เขาได้รับชื่อ Mariinsky เพื่อเป็นเกียรติแก่จักรพรรดินีแห่ง Mary Alexandrovna คู่สมรส Alexander II ฤดูกาลโรงละครแห่งแรกในอาคารใหม่เปิดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 1860 โอเปร่า "ชีวิตสำหรับกษัตริย์" Glinka ดำเนินการโดยหยดหลักของโอเปร่ารัสเซีย Konstantin Lyadov พ่อแห่งอนาคต นักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียง Anatoly Lyadova โรงละคร Mariinsky เสริมสร้างและพัฒนาประเพณีอันยิ่งใหญ่ของรัสเซียคนแรก ฉากดนตรี. เมื่อมาถึงในปี 1863 เอ็ดเวิร์ดผู้นำผู้แทนที่ Konstantin Lyadov ที่ตำแหน่งหัวหน้า Dropletter เริ่มต้น Sorny Epoch ในประวัติศาสตร์ของโรงละคร โพสต์ที่ได้รับจากทิศทางของโรงละคร Mariinsky ถูกทำเครื่องหมายด้วยปฐมทัศน์ของโอเปร่าที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของเพลงรัสเซีย เราเรียกเพียงบางคนเท่านั้น - "Boris Godunov" Mussorgsky "Pskovtyanka", "May Night", "Snow Maiden" ของโรมัน Corsakov "เจ้าชาย Igor" Borodina, "Orleansian Virgo", "Charger", "Charger", "Peak Lady", "Iolanta » Tchaikovsky," Demon "Rubinstein," Orestea "Taneyev ที่จุดเริ่มต้นของศตวรรษที่ยี่สิบในละครของโรงละครโอเปร่าแว็กเนอร์ (ในหมู่พวกเขา "แหวน Nibelung"), "Electra" Richard Strauss, "Tale ของเกรด Kitezh" Roman-Korsakov, Khovanshchina Mussorgsky เขามุ่งหน้าไปที่โรงละคร Ballet Tarpet ในปี 1869 Marius Petipa ยังคงประเพณีของผู้บุกเบิกของ Jules Perra และ Artur Saint-Leon Petipa ได้รับการเก็บรักษาแบบคลาสสิกแบบคลาสสิกเช่น "Giselle", "Esmeralda", "Corsair" เผยให้เห็นเฉพาะกับคณะบรรณาธิการที่อ่อนโยนเท่านั้น "Bayaderka" ส่งถึงพวกเขาก่อนนำลมหายใจขนาดใหญ่ไปยังฉากบัลเล่ต์ องค์ประกอบการออกแบบท่าเต้นที่ "การเต้นรำเปรียบเสมือนเพลง" การประชุมที่มีความสุขของ Petipa กับ Tchaikovsky ที่อ้างว่า "บัลเล่ต์เป็นซิมโฟนีเดียวกัน" นำไปสู่การเกิดของ "ความงามนอนหลับ" - บทกวีดนตรีและการออกแบบที่แท้จริง ในเครือจักรภพของ Petip และ Lion Ivanova การออกแบบท่าเต้น "Nutcracker" ปรากฏขึ้น หลังจากการตายของ Tchaikovsky " ทะเลสาบหงส์"มันได้รับชีวิตที่สองบนเวทีของโรงละคร Mariinsky - และอีกครั้งในท่าเต้น Joint ของ Petip และ Ivanov นักออกแบบท่าเต้น - Symphonist ของ Petipa เสริมสร้างสูตรของบัลเล่ต์ของ Glazunov "Raymond" ความคิดที่เป็นนวัตกรรมของเขาถูกหยิบขึ้นมาโดย Mikhail Fokin ซึ่งอยู่ในโรงละคร Mariinsky "Pavilion Armida" Craniche "Swan" Saint-Sansa "Chopenian" กับเพลงของ Chopin เช่นเดียวกับบัลเล่ต์ที่สร้างขึ้นในปารีส - "Shehrazada "เพลงของ Corsakov โรมัน" Firebird "และ" Parsley "Stravinsky โรงละคร Mariinsky ได้สร้างใหม่ซ้ำ ๆ ในปี 1885 เมื่อปิดโรงละคร Bolshoi บนเวที Mariinsky การแสดงส่วนใหญ่ถูกถ่ายโอนหัวหน้าสถาปนิกของอิมพีเรียลโรงละคร Victor Schreter ดึงดูดอาคารสามชั้นสำหรับการประชุมเชิงปฏิบัติการโรงละครห้องโถงซ้อมโรงไฟฟ้าและบ้านหม้อไอน้ำ . ในปี 1894 ภายใต้ความเป็นผู้นำของ Schretcher จันทันไม้ถูกแทนที่ด้วยเหล็กและคอนกรีตเสริมเหล็กไหลออกมาด้านข้างเข้าร่วมล็อบบี้ผู้ชมได้รับการขยาย ภายใต้การฟื้นฟู I. ซุ้มหลักผู้ที่ได้รับรูปแบบอนุสาวรีย์ ในปี 1886 การแสดงบัลเล่ต์จนถึงเวลานั้นยังคงดำเนินต่อไปบนเวทีของบิ๊ก โรงละครหิน ถูกย้ายไปที่โรงละคร Mariinsky และบนเว็บไซต์ของหินก้อนใหญ่สร้างอาคารของวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2460 พระราชกฤษฎีกาของรัฐบาลเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2460 ได้ประกาศสถานะและโอนไปยังผู้ติดยาเสพติด ในปี 1920 เขาถูกเรียกโดยโรงละครโอเปราวิชาการและบัลเล่ต์ (Gatob) และตั้งแต่ปี 1935 เขาได้รับมอบหมายชื่อ S. M. Kirov พร้อมกับคลาสสิกของศตวรรษที่ผ่านมาบนเวทีของโรงละครในวันที่ 20 - ต้นยุค 30 โอเปร่าสมัยใหม่ปรากฏ - "ความรักที่มีไว้สำหรับสามส้ม" Sergey Prokofiev, "Mascotsk" Alban Berg, Salome และ "Kavaler Rosa" Richard Strauss; บัลเล่ต์ที่เห็นด้วยกับทิศทางการออกแบบท่าเต้นใหม่เกิดมานานหลายทศวรรษการเต้นรำที่เรียกว่า "ดอกป๊อปปี้สีแดง" Ringold Gliera "Flame of Paris" และ "Bakhchisarai Fountain" Boris Asafieva "Laurencia" Alexander Kerin "Romeo และ Juliet" Sergey prokofiev และดร. นายกรัฐมนตรีโอเปร่าครั้งสุดท้ายของโรงละคร Kirov คือ Wagner "Loengrin" การปฏิบัติที่สองซึ่งสิ้นสุดลงในช่วงเย็นของวันที่ 21 มิถุนายน 2484 แต่การแสดงในการแสดงที่ 24 และ 27 ถูกแทนที่ด้วย Ivan Susanin ในช่วงสงครามความรักชาติที่ยิ่งใหญ่โรงละครถูกอพยพไปที่ระดับปฐมทัศน์ของการแสดงหลายครั้งรวมถึงรอบปฐมทัศน์ของบัลเล่ต์ของ Aram Khachaturian "Gayane" เมื่อกลับไปที่เลนินกราดโรงละครเปิดฤดูกาลเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2487 โดยโอเปร่ากลอง "Ivan Susanin" ใน 50-70 วินาที ในโรงละครบัลเล่ต์ที่มีชื่อเสียงเช่น "Shurale" Farid Yarullina, Spartak Aram Khachaturian และสิบสอง Boris Tishchenko ในการออกแบบท่าเต้น Leonid Jacobson "ดอกไม้หิน" Sergey Prokofiev และ "Legend of Love" Arif Melikov ในท่าเต้น Yuri Grigorovich "Leningrad Symphony" Dmitry Shostakovich ในท่าเต้นของ Igor Belsky และในเวลาเดียวกันบัลเล่ต์คลาสสิกได้รับการเก็บรักษาไว้ในละครของโรงละครในละครของโรงละคร ในละครโอเปร่าพร้อมกับ Tchaikovsky, โรมัน Corsakov, Mussorgsky, Verdi, Biza ปรากฏโอเปร่า Prokofiev, Dzerzhinsky, Shaporin, Khrennikov ในปี 1968-1970 การสร้างใหม่ของโรงละครในโครงการของ Salomei Gelfer อันเป็นผลมาจากปีกซ้ายของอาคารคือ "ยาว" และได้รับลักษณะปัจจุบัน ขั้นตอนสำคัญในประวัติศาสตร์ของโรงละครในปี 1980 คือการผลิตโอเปร่าของ Tchaikovsky "Eugene Onegin" และ "Peak Lady" ดำเนินการโดยโรงละครในปี 1976 โดย Yuri Temirkanov ในโปรดักชั่นเหล่านี้ซึ่งยังคงมีอยู่ในละครเพลงศิลปินรุ่นใหม่ประกาศตัวเอง ในปี 1988 Valery Gergiev กลายเป็นหัวหน้าตัวนำของโรงละคร เมื่อวันที่ 16 มกราคม 1992 โรงละครกลับไปที่ชื่อประวัติศาสตร์ของเขา - Mariinsky และในปี 2549 คณะและวงดุริยางค์ของโรงละครอยู่ที่การกำจัดของพวกเขาที่สร้างขึ้นในความคิดริเริ่มของผู้อำนวยการด้านศิลปะของโรงละคร Mariinsky Valery Gergiev ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตฮอลล์บนถนนของ Decembrist, 37. แหล่งที่มา: Mariinsky โรงละคร

Royal Opera House "Covent Garden") - โรงละครในลอนดอนสหราชอาณาจักรซึ่งทำหน้าที่เป็นสถานที่สำหรับการแสดงโอเปร่าและบัลเล่ต์ฉากในบ้านของลอนดอน Royal Opera และลอนดอน บัลเล่ต์รอยัล. ตั้งอยู่ในพื้นที่ของสวนโคเวนต์ตามที่เรียกว่า ในขั้นต้น "Covent Gardena" เป็นคณะอิสระเพียงไม่กี่แห่งพร้อมกับการแสดงละครและบัลเล่ต์ที่น่าทึ่ง การแสดงละครสัตว์ . ในช่วงกลางศตวรรษที่ 18 การแสดงดนตรีครอบครองสถานที่สำคัญในขั้นตอนของโรงละครและจากปี 1847 มีเพียงโอเปร่าและบัลเล่ต์เท่านั้น อาคารที่ทันสมัยของโรงละครเป็นอันดับสามของคะแนนที่ตั้งอยู่ในสถานที่แห่งนี้ มันถูกสร้างขึ้นในปี 1858 และได้รับการฟื้นฟูพระคาร์ดินัลในปี 1990 ห้องโถงของ Opera ของ Royal รองรับผู้ชมได้ 2268 คนและประกอบด้วยสี่ชั้น ความกว้างของแบบสอบถามคือ 12.2 เมตรความสูงคือ 14.8 ม. โรงละครแห่งแรกในจุดที่ตั้งอยู่ที่นี่เป็นครั้งแรกที่สวนสาธารณะถูกสร้างขึ้นในช่วงเปลี่ยนอายุ 1720-30 วินาที ที่ความคิดริเริ่มของผู้อำนวยการและ Impresario John Richa และเปิดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 1732 การเล่นในการเล่นของ William Conciva "So Come World" (ภาษาอังกฤษวิธีการของโลก) ก่อนการแสดงของนักแสดงกระบวนการอันศักดิ์สิทธิ์จะถูกป้อนเข้าสู่โรงละครทำให้รวยในมือของเขา เป็นเวลาเกือบหนึ่งศตวรรษโรงละคร Covent Garden เป็นหนึ่งในสองโรงละครที่น่าทึ่งในลอนดอนตั้งแต่ในปี 1660 King Karl II อนุญาตให้ผลิตการแสดงละครที่น่าทึ่งเฉพาะในโรงภาพยนตร์สองแห่ง (ครั้งที่สองเป็นโรงละคร Drury Lane ที่มีชื่อเสียงที่สุดอันดับสอง) ในปี ค.ศ. 1734 บัลเล่ต์ตัวแรก Pygmalion กับ Maria Salle ในปาร์ตี้หลักที่เต้นรำตรงกันข้ามกับประเพณีโดยไม่มี Corset ถูกส่งไปยัง Covent Gardena ในตอนท้ายของปี 1734 โอเปร่าเริ่มใส่โคเวนท์การ์เด้น - ก่อนอื่นงานเขียนของจอร์จฟรีดริชฮัสเล่อดีตผู้นำดนตรีของโรงละคร: ครั้งแรกถูกใส่ในช่วงต้นของเขาแม้ว่าจะทำใหม่อย่างมากโอเปร่า "เรอหนวดต้อน" ( il. il pastor fido) จากนั้นในเดือนมกราคม 1735 ผู้ประกอบการที่มีความแตกต่างและอื่น ๆ ตามมา ในปี ค.ศ. 1743 Oratorio ของ Handel "Messiah" ดำเนินการที่นี่และในอนาคตการดำเนินการของ Oratorius ในหัวข้อทางศาสนาในสมัยของโพสต์ที่ยิ่งใหญ่เป็นประเพณีของประเพณี ที่นี่เป็นครั้งแรกคือ Opera ของนักแต่งเพลง Thomas Arna รวมถึงโอเปร่าของลูกชายของเขา ในปี 1808 โรงละครแห่งแรก Covent Garden ถูกทำลายด้วยไฟ อาคารใหม่ของโรงละครได้รับการสร้างขึ้นในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 1809 ในโครงการของโรเบิร์ตเม่มและเปิดในวันที่ 18 กันยายนโดยการกำหนดของสก็อตส์ การจัดการละครโรงละครยกระดับราคาตั๋วเพื่อชดใช้ค่าใช้จ่ายของอาคารใหม่อย่างไรก็ตามประชาชนทำลายการแสดงของเสียงร้องถาวรฝ้ายและนกหวีดเป็นเวลาสองเดือนด้วยผลลัพธ์ที่ว่าการเป็นผู้นำของโรงละครถูกบังคับให้ส่งคืนราคา ระดับก่อนหน้า ในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ XIX, Operas, บัลเล่ต์, การแสดงละครอย่างมากกับการมีส่วนร่วมของโศกนาฏกรรมที่โดดเด่น Edmund Kina และ Sara Siddons, Pantomimim และแม้แต่ Clownada ถูกสลับกันบนเวทีของ Covent Garden (Siddons, Pantomiima และ Ch Mozynef Grimaldi) สถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงหลังจากในปี 1846 อันเป็นผลมาจากความขัดแย้งในโรงละครแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว - The London Opera House - ส่วนสำคัญของคณะของเขานำโดย Costa Michael Costa ย้ายไปที่ Covent Garden; ห้องโถงถูกสร้างขึ้นใหม่และในวันที่ 6 เมษายน 1847 โรงละครเปิดอีกครั้งเรียกว่าการดำเนินงานของ Opera of Opera of Rossini " อย่างไรก็ตามน้อยกว่าเก้าปีที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 1856 โรงละครเผาเป็นครั้งที่สอง สวนโรงละครที่สามถูกสร้างขึ้นในปี 1857-1858 ตามโครงการ Eduard Middleon Barry และเปิดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 1858 โดยการกำหนด Opera Meerber "Huguenotes" ในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งโรงละครได้รับการร้องขอและใช้เป็นคลังสินค้า ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองมีห้องโถงเต้นรำในอาคารโรงละคร ในปี 1946 โอเปร่ากลับไปที่กำแพงของ Covent Garden: 20 กุมภาพันธ์โรงละครเปิดด้วย "ความงามนอนหลับ" Tchaikovsky ในสูตรฟุ่มเฟือยของ Oliver Messela ในเวลาเดียวกันการสร้างคณะทำงานของโอเปร่าเริ่มต้นที่โรงละครการ์เด้นโคเวนต์จะกลายเป็นขั้นตอนที่บ้านในวันที่ 14 มกราคม 2490 สวนโอเปร่าโคเวนท์การ์เด้น (อนาคตลอนดอน Royal Opera) เปิดตัว Opera Bizame "Carmen" ที่นี่

โรงละครเพลงวิชาการแห่งรัฐมอสโกตั้งชื่อตาม B.A Pokrovsky เป็นหนึ่งในสิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดและเป็นที่ต้องการทั่วโลกของโรงละครดนตรีในประเทศ ตั้งอยู่ในอาคารที่มีชื่อเสียง Slavic Bazaar Complex ซึ่งอยู่ในปี 1897 การประชุมทางประวัติศาสตร์ของ KS Stanislavsky และ VL.i Alirovich-Danchenko ผู้ซึ่งตกลงที่จะสร้างโรงละครสาธารณะในมอสโก (MHT) นี่คือวิธีที่ Boris Aleksandrovich Pokrovsky อธิบายถึงประวัติศาสตร์ของการสร้างโรงละครในหนังสือ "ชีวิตของฉัน" ... ทุกอย่างเกิดขึ้นขอบคุณปัญหาของชะตากรรมที่ใช้งานอยู่ในมอสโกพวกเขาตัดสินใจที่จะปฏิรูปทีมโอเปร่าขนาดเล็กทัวร์ในรัสเซียและร่ำรวย การกระจัดกระจายภายใต้แบรนด์ของการแสดงโอเปร่าแฮ็คที่ยอดเยี่ยมฉันขอให้ความช่วยเหลือในการปรับโครงสร้างของโรงละครช่วยโรงละครที่ฉันทำได้ด้วยความจริงที่ว่าฉันได้รับการแสดงหลังจากการคัดกรองที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ผู้คนจำนวนเล็กน้อยยังคงอยู่ ไม่เป็นโรงละคร แต่เท่านั้น วงเวียนแชมเบอร์ . ในขณะเดียวกันโอเปร่าเล็ก ๆ ของเด็ก ๆ ก็เป็นนักแต่งเพลงของ Generris ของ Rodion "ไม่เพียง แต่ความรัก" ซึ่งหลงใหลอยู่แล้วในคะแนน ... และเราซ้อมชุดสมอนส์ชิ้นเอกเล็ก ๆ นี้ ประสิทธิภาพถูกเล่นโดยขั้นตอนของโรงละครที่น่าทึ่ง K.S. STANISLAVSKY และ VL.I.. Midirovich Danchenko มีความสำเร็จ ... - ในปี 1972 โรงละคร Moscow Chamber Music เกิดขึ้น "เมื่อในปี 1972 Pokrovsky ก่อตั้งโรงละครดนตรีแชมเบอร์เขายังไม่มีสถานที่ของตัวเองและการแสดงครั้งแรก -" ไม่เพียง แต่รัก "Rodion SHCHEDRIN, "เสียงรบกวนมากมายเพราะ ... หัวใจ" Tikhon Hrennikova, "Fairigo Deli Alberiga Fairigo" Dmitry Borttyansky เดินบนแพลตฟอร์มที่แตกต่างกันของมอสโกและเพียงสองปีต่อมาในปี 1974 โรงละครได้รับการลงทะเบียนถาวรสนับสนุน นักแต่งเพลงของ t.krennikov (ในเวลานั้นเลขานุการแรกของสหภาพนักแต่งเพลงของสหภาพโซเวียต) และ ddshostakovich คณะของโรงละครเล็กได้รับการเติมเต็มด้วยนักศึกษาของทักษะการแสดงซึ่งเป็นผู้นำที่เป็น BA Pokrovsky จุดเปลี่ยนในชีวิตของทีมงานโรงละครอายุน้อย - 12 กันยายน 2517 เป็นรอบปฐมทัศน์ของโอเปร่า D. D.Shostakovich "จมูก" - ผลงานชิ้นเอกที่ได้รับการกำกับเอกที่ไม่มีใครเทียบและ "นามบัตร" ของโรงละครดนตรีหอการค้าตัวนำ ศิลปินของผู้คนในยีนของสหภาพโซเวียตกลายเป็นผู้นำดนตรีของโรงละคร นาดิคริสมาสต์ ตั้งแต่วันแรกโรงละครเป็นของแท้และเป็นเวลาหลายปีในห้องปฏิบัติการเดียวในประเทศโอเปร่าสมัยใหม่และในเวลาเดียวกัน - ผู้ค้นพบโอเปร่าหายาก ไม่มีใครสามารถสันนิษฐานได้ว่าชั้นใต้ดินขนาดเล็กบน "เหยี่ยว" จะกลายเป็นหนึ่งในศูนย์วัฒนธรรมหลักที่ไม่เพียง แต่ในมอสโก แต่ยังรวมถึงโลกทั้งใบ เพื่อดูการแสดงในตำนานผู้คนมาจากทั่วประเทศ ที่นี่อาจารย์ได้สร้างผลงานชิ้นเอก - ไม่ค่อยดำเนินการโอเปร่าคลาสสิกและทันสมัย: "จมูก" Shostakovich, "มือของ Strozhensky", "Don Juan หรือลงโทษดีบักเกอร์" และ "ผู้อำนวยการโรงละคร" Mozart "Rostov Deni" Metropolitan Dimitri Rostovsky .. . ในโรงละครนี้เป็นครั้งแรกที่โอเปร่าของนักแต่งเพลงสมัยใหม่ที่กลายเป็นคลาสสิกแล้ว - "Shinel", "Write", "Wedding", "Brothers Karamazov" Holminov, "ชีวิตด้วย Idiot" Schnitke "Count Caliostro" Caliostro " , "Lisa ที่น่าสงสาร" ทศวรรษ "โกหกสีแดงและทหาร" Hanelina, "Swan Song" Cobekin, "คนจน" Sadelnikov; โอเปร่าในยุโรปที่เก่าแก่และน้อย - "เภสัชกร" Gaidna "การเล่นน้ำบ่มเพาะและอื่น ๆ ตั้งแต่ปี 2010 โรงละครได้สร้างประเพณี: ทุกปีในวันเกิดของอาจารย์เพื่อเก็บการแสดงย้อนหลังของการแสดงของเขา ความเป็นผู้นำและทีมงานสร้างสรรค์ของโรงละครยังคงชื่อของผู้ก่อตั้งและทำตามความคิดที่เขาทำตามหนังสือและสิ่งพิมพ์จำนวนมากอย่างระมัดระวังและฟื้นฟูมรดกของผู้กำกับที่ชาญฉลาดอย่างระมัดระวัง และเทศกาลประจำปีของการแสดงของ Boris Pokrovsky จะได้รับการยืนยัน ความคิดเห็นของผู้ชมเกี่ยวกับโรงละคร Moscow Chamber Named B.a. Pokrovsky: นักเรียน Marha (# 106/23 พฤษภาคม 2554 เวลา 21:32) เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมในโรงละครเราดูโอเปร่าที่น่าทึ่งของนักแต่งเพลง Gacomo Puccini ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมและสด ทั้งหมดอยู่ด้านบน: ทิวทัศน์แสง, เกม, นักแสดงเสียง ฉันไม่ได้รับพายุแห่งอารมณ์จากการแสดงเป็นเวลานาน! และเขาก็ได้ยินและยืนอยู่ สำหรับการเขย่าอารมณ์เท่านั้นและมันก็คุ้มค่าที่จะไปโรงภาพยนตร์ ขอบคุณผู้ชำนาญเช่น Julia Moiseeva (Georges), Nikolai Schemlev (Michele), Leonid Kazachkov (Luigi) ในประวัติศาสตร์ที่ศิลปินแสดงคุณเชื่ออย่างแท้จริง ประสิทธิภาพที่บินได้ในหนึ่งลมหายใจและไม่มีฉากที่น่าเบื่อเพียงอย่างเดียว - ทุกอย่างยอดเยี่ยมมาก ครั้งหนึ่งเพื่อดูประสิทธิภาพดังกล่าวไม่สามารถยอมรับได้ อย่าลืมดูและประเมินอีกครั้งวิธีการ "ป้อนหัวข้อ" พูดตรงไปตรงมาเป็นครั้งแรกที่ใช้งานไม่ได้ ดังนั้นฉันจะไปอีกแน่นอน ขอบคุณมากที่หัวหน้าผู้ให้บริการโดย Vladimir Agronsky ผู้อำนวยการ Igor Merkulov และศิลปินทุกคนที่นำผู้ชมออกจากชีวิตและกิจกรรมสู่โลกแห่งความหลงใหลการวางอุบายและแรงกระแทก OLGA (# 95 / พฤษภาคม 07, 2011 ที่ 00:22) 4 พฤษภาคมอยู่ที่ "ขลุ่ยเวทมนตร์" เมื่อคุณเข้าสู่ห้องโถงคุณได้ยินเสียงของขลุ่ยและดูทิวทัศน์ของประเทศเวทมนตร์ - ปรากฏอารมณ์พิเศษทันทีความปรารถนาที่จะสัมผัสที่สวยงาม เพลงที่ดีมากเพื่องานที่ยอดเยี่ยมสนุกกับพวกเขาค่อนข้าง แปลก ๆ ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะร้องเพลงในภาษาเยอรมัน แต่มันช่างสวยงามแค่ไหน! และกระดานคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ที่เน้นการแปลภาษารัสเซียฉันไม่ต้องการมันและทุกอย่างชัดเจน ทาบทาม วีรบุรุษทุกคนของโอเปร่ากองกำลังของแสงและความมืดที่ชาญฉลาดและมีไหวพริบตลกและสง่างามและจริงจังปรากฏในฉาก และในโมสาร์ททั้งหมดนี้ อัจฉริยะของเขา จากคู่ของฮีโร่ที่ฉันจำได้มากที่สุดโดย Pamin-Olesya Starukhina และ Papagen-Andrey Tver Tver Pamina เป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนโยนความรักน้ำตาในดวงตาของเธอเมื่อเธอร้องเพลงเกี่ยวกับความตาย แต่ในเวลาเดียวกันซุกซนร่าเริงพี่สาวพี่สาวการให้อภัยการจับสาลูกล้อเด็ก ดูเหมือนว่าฉันเป็นตัวละครตลกที่เล่นยากกว่าเจ้าชายที่สมบูรณ์แบบมาก ท้ายที่สุดในบทบาทนี้สิ่งสำคัญคือการหาใบหน้าที่บางเฉียบเพื่อไม่ให้ไปที่เรื่องต่าง ๆ แต่ในเวลาเดียวกันเพื่อให้ผู้ชมกับตัวเอง Andrei Tsvetkov ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม ฮีโร่ของเขาเป็นเด็กที่ร่าเริงกระสับกระส่ายขี้เล่น แต่ในขณะเดียวกันก็จริงใจมาก Queen of the Night, Tatyana Fedotov พิชิตฉันด้วยเสียงของเขา! ไชโย! Aria Queen Night ... ไม่มีคำพูด! อย่างหรูหรา! ฉันชอบ Trio ของผู้หญิงจริงๆ: Alexander Martynova, Tatyana Vetrov และ Maria Patrushev ดังกล่าวแตกต่างกันดังกล่าวมีเสน่ห์ดังกล่าว! นักบวชคนที่สอง Edem Ibraimov คนแรกกลัวฉันอย่างแม่นยำยิ่งขึ้นฉันได้สัมผัสกับความเคารพเคารพปุโรหิตยังคงเป็นใบหน้าที่เข้มงวดท่าทางแบบสง่า่า แต่จากนั้นฉันก็ยิ้ม: Dupes กับ Papagoden อารมณ์มากดูเหมือนว่านักแสดงเองจะได้รับความพึงพอใจอย่างมากจากฉากเหล่านี้! มันเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ชื่อของนักแสดงหญิงที่ทำปาร์ตี้ชายไม่ได้ระบุ ใบหน้าที่สะอาดเช่น Smiles เปิดเด็ก! เครื่องแต่งกายลูบฉัน - โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องแต่งกายของราชินีแห่งกลางคืนและเข้มข้น ภาพของความเข้มกลายเป็นแบบสง่างาม! Pamin ถัดจากเขาดูผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จริงๆ อีกครั้งเช่นหลังจาก DSCH ฉันก็ลงไปตามถนนและซางท่วงทำนอง ฉันไม่สามารถได้ยินเสียงอะไรใน Subway - Opera Sounds ถูกซ่อนอยู่ในเสียงทั้งหมดของการขนส่งใต้ดิน ข้อมูลทั้งหมดจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของโรงละคร - www.opera-pokrovsky.ru

โรงละคร Goldoni (Teatro Goldoni) เป็นหนึ่งในโรงละครโอเปร่าชั้นนำและเก่าแก่ที่สุดของเวนิสอิตาลี โรงละครนำไปสู่ประวัติศาสตร์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1622 หลายครั้งเปลี่ยนชื่อและตั้งอยู่ในศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเวนิสไม่ไกลจากสะพานของ Rialto โรงละครได้รับการจัดการและเป็นฉากหลักของ บริษัท โอเปร่า Teatro Stabil Del Veneto ในอดีตโรงภาพยนตร์ Venetian รายใหญ่ทั้งหมดเป็นของครอบครัวที่สำคัญของ Patrician ตอนนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อโรงละคร Malibran และ San Benedetto โรงละครอยู่ในความครอบครองของตระกูล Grimani โรงละคร La Feniche เป็นของครอบครัวของ Venier พร้อมกับโรงภาพยนตร์ส่วนตัวในเวนิสในปี 1637 โรงละครโอเปราสาธารณะแห่งแรกที่ซานแคสเซียโน่ถูกสร้างขึ้น ครอบครัวของ Vendramin เป็นของโรงละครตอนนี้ถือชื่อของ Goldeni โรงละครถูกสร้างขึ้นในปี 1622 และเปิดด้วย Comedy Antonio Chiofo โรงละครได้เปลี่ยนชื่อซ้ำ ๆ เขาเป็นโรงละคร Vendramine, San Luke, San Sale, Apollo จนกว่าเขาจะได้รับชื่อของ Karl Goldoni Playwright วันนี้ ในปี 1652 (หลังจากไฟไหม้) และในปี 1684 อาคารของโรงละครได้รับการฟื้นฟูสองครั้ง ในช่วงแรกของการดำรงอยู่ของมันโอเปร่าส่วนใหญ่ติดตั้งในโรงละคร แต่ในศตวรรษที่สิบแปดส่วนใหญ่มีการแสดงที่น่าทึ่งในมัน ในปี ค.ศ. 1720 โรงละครซานลุคได้รับการสร้างใหม่และเปลี่ยนชื่อโรงละครของ Apollon อาคารนี้มาถึงวันนี้ ในปี ค.ศ. 1752 เจ้าของโรงละครสามารถจ้างผู้นำโรงละคร Carlo Goldoni ซึ่งในเวลานั้นได้รับการพิจารณาว่าเป็นนักเขียนบทละครเวนิสที่โด่งดังที่สุด มันเป็นเหตุการณ์สำคัญในชีวิตโรงละครของเมืองและอาจเป็นช่วงเวลาดาวของโรงละคร อย่างไรก็ตามเจ้าของโรงละครก็พยายามที่จะรับ การมีส่วนร่วมโดยตรง ในการจัดการและการแสดงของการแสดงและด้วยเหตุนี้เขาจึงมี ไม่ได้ง่ายความสัมพันธ์ และข้อพิพาทบ่อยครั้งกับผู้กำกับการจ้างงาน Carlo Goldoni ออกจากโรงละครและเวนิสในปี 1761 และไปปารีส ในศตวรรษที่สิบเก้ามีการปรับโครงสร้างและการซ่อมแซมมากมายในโรงละครในการปรับโครงสร้างที่สำคัญที่สุดในปี 1818 ภายใต้การนำของสถาปนิก Giuseppe Borsato ในปี 1826 การครอบคลุมก๊าซก่อตั้งขึ้นในโรงละครตามที่ระบุไว้เป็นครั้งแรกใน อิตาลีในปี 1833 การตกแต่งภายในได้รับการปรับปรุงภายใต้ทิศทางของนักออกแบบ Francesco Baniara ในปี 1875 ในระหว่างการเฉลิมฉลองวันเกิดของนักเขียนบทละครโรงละครได้เปลี่ยนชื่อโรงละครที่ตั้งชื่อตาม Karl Goldeni ครอบครัวของ Vendramine เป็นเจ้าของโรงละครจนถึงปี 1937 เมื่อเขาย้ายไปที่อสังหาริมทรัพย์ในเมือง ในปี 1957 โรงละครถูกปิดเนื่องจากการสึกหรอ ในปี 1979 หลังจากการฟื้นฟูทุนโรงละครที่ต่ออายุได้เผยให้เห็นประตูอีกครั้ง โรงละคร Goldoni ทั่วไป โรงละครอิตาลี ศตวรรษที่ 18 สี่ชั้นมีความจุ 800 คนพร้อมฉากกว้าง 12 เมตรและยาว 11 เมตร ปัจจุบันการแสดงละครการแสดงโอเปร่าวันหยุดเด็กและกิจกรรมอื่น ๆ ที่จัดขึ้นโดย บริษัท โอเปร่าของ Teatro Stabil Del Veneto จัดขึ้นในนั้น

โรงละครและบัลเล่ต์ของโรงละครแห่งรัฐ Voronezh จัดขึ้นทางใหญ่ในการเป็น ในเดือนกันยายน 1931 โรงละครเริ่มทำงานใน Voronezh ตลกดนตรีจัดขึ้นบนพื้นฐานของทีมงานเครือจักรภพของศิลปินมืออาชีพซึ่งนำผู้จัดงานที่มีความสามารถผู้อำนวยการและนักแสดง Lazar Arkadyevich Lazarev ในช่วงต้นของยุค 30 ของศตวรรษที่ผ่านมา Voronezh เป็นศูนย์กลางของคณะกรรมการกลางซึ่งรวมถึงเมืองซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางภูมิภาค: Kursk, Eagle, Tambov, Lipetsk หนึ่งในภารกิจสร้างสรรค์หลักของโรงละคร Voronezh ของเพลงตลกคือการให้บริการของดินของดินสีดำ ในเวลานั้นละครละครไม่เพียง แต่เป็นโอเปอเรตตาคลาสสิกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักดนตรีที่ทันสมัย ระดับสูง นักแสดงสนับสนุนความจริงที่ว่าการแสดงนั้นประสบความสำเร็จอย่างมากเสมอ ในปี 1958 รายงานความคิดสร้างสรรค์ของโรงละครในมอสโกเกิดขึ้น เขาผ่านสำเร็จได้รับการประเมินสูงของผู้ชมและประชาชนทางดนตรีของเมืองหลวง ในระหว่างการทัวร์ประธานของสหภาพนักแต่งเพลงของสหภาพโซเวียต T.N.Hrennikov เสนอให้จัดระเบียบโรงละครของละครตลกดนตรีให้กับละครเพลง ข้อเสนอนี้ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรมและความเป็นผู้นำของภูมิภาค Voronezh การตัดสินใจที่จะจัดระเบียบโรงละครตลกละครเพลงให้กับละครเพลงในปี 2503 การเล่นครั้งแรกที่ทำเครื่องหมายการกำเนิดของโรงละครใหม่ใน Voronezh Earth เป็น Opera P. Tchaikovsky "Eugene Onegin" ซึ่งจัดทำโดยตัวนำใหญ่คนแรกของโรงละคร V. Timofeyev รอบปฐมทัศน์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2504 วันที่นี้เป็นวันเกิดของโรงละคร การเล่น "Swan Lake" เริ่มต้นของเขา ศิลปะใหญ่ บัลเล่ต์คณะซึ่งนำโดยบัลเลตต์ที่มีความสามารถ T. Ramonov ในอายุหกสิบเศษศิลปินสร้างสรรค์ที่มีความสามารถดำเนินงานในโรงละคร: ผู้อำนวยการ - ศิลปินของผู้คนเบลารุส S.A สไตน์หัวหน้าหัวหน้าบัลเล่ต์เจ้านาย - ศิลปินที่ได้รับเกียรติจากศิลปะของเบลารุส K.A Mouller หัวหน้าศิลปิน - ศิลปินที่ได้รับเกียรติจากศิลปะของ RSFSR V.L. tsyubin ระยะเวลาของการก่อตัวที่สร้างสรรค์ของทีมหนุ่มสาวมีความเกี่ยวข้องกับชื่อของศิลปินของประชาชนของ RSFSR รางวัลของรัฐ Awards of Anatoly Alekseevich Lyudmilina - ตัวนำที่ยอดเยี่ยมอาจารย์กังวลและออแกไนเซอร์ที่มีความสามารถ เขาสร้างฐานของโอเปร่าคลาสสิกและ เพลงบัลเล่ต์พูดถึงงานของโคตรซ้ำ ๆ ซ้ำ ๆ ภายใต้การเป็นผู้นำของเขามีการจัดส่งมากกว่า 10 ครั้งรวมถึง "AIDA", "Rigoletto", "Traviata" J. Verdy, "Carmen" J. Bizet, "Tosca" และ "Chio-Chio-San" J. Puccini " Peak Lady "P. Tchaikovsky," อสูร "A. Serbestein," Lud Gidium "ของนักแต่งเพลงบัลแกเรีย P. Gagiyev" Fiery Years "A.Padavekki ในปี 1967 ศิลปินของประชาชนของสหภาพโซเวียตยาโรสลาฟอันท็อโนวิช Volpharov ได้รับเชิญให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าตัวนำ เขายังคงประเพณีของ A. Lyudmilin หลักซึ่งเป็นวัฒนธรรมดนตรีสูงของโรงละคร Opera "Mazepa" ของ P. Tchaikovsky "Troubadour" J. Verdy และ "ผู้หญิงรัสเซีย" K. Molchanova กลายเป็นเหตุการณ์การแสดงละครจริงพวกเขามาพร้อมกับความรักของผู้ชมและการประเมินการวิจารณ์สูง ภายใต้ YA.A ในปี 1968 โรงละครดนตรีได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงละครโอเปร่ารัฐ Voronezh และบัลเล่ต์ ในยุค 70 ตัวนำหลักได้รับเกียรติจากศิลปิน Kaz.svr I.z. Oostrovsky และศิลปิน KAZ.SH. Vasilyev หัวหน้าผู้อำนวยการ Honored ศิลปิน Moldovan Moldovan G. G. Gelovani มีบทบาทสำคัญในชีวิตที่สร้างสรรค์ของโรงละคร Balletmaster - ศิลปินที่มีเกียรติของ สหพันธรัฐรัสเซีย GG Malkhasyanz หัวหน้าศิลปิน - N.i. Kotov หัวหน้าหัวหน้า Chimester ให้เกียรติศิลปินของสหพันธรัฐรัสเซีย L.L.DEZKO ในยุค 90 ความเป็นผู้นำใหม่มาถึง: หัวหน้าตัวนำให้เกียรติศิลปินของสหพันธรัฐรัสเซีย Yu.p. Anisichkin หัวหน้าผู้อำนวยการให้เกียรติศิลปินของสหพันธรัฐรัสเซีย A.N.Zykov หัวหน้าศิลปินให้เกียรติศิลปินของสหพันธรัฐรัสเซีย VG Kocha'ashvili มานานกว่า 10 ปีศิลปินพื้นบ้านของสหพันธรัฐรัสเซีย N.Valitova เป็นผู้อำนวยการด้านศิลปะของบัลเล่ต์ ทีมนักร้องประสานเสียงในปี 1999 มุ่งหน้าไปที่การสัมมนาของการแข่งขันระหว่างประเทศ V.K.Kushnikov นับจากวันที่ค้นพบบนเวทีของโรงละครการแสดงมากกว่า 200 รายการได้รับการจัดส่งมากกว่า 200 รายการรวมถึงโอเปร่าคลาสสิกและเพลงบัลเล่ต์ยอดนิยมทั้งหมด จากการทำงานในปีแรกโรงละครถือว่าเป็นงานที่สำคัญในการก่อตัวของการผสมผสานอินทรีย์ของประเพณีคลาสสิก แนวโน้มที่ทันสมัย ศิลปะดนตรีและละคร การรับรู้ทั้งหมดที่ได้รับเป็นครั้งแรกที่จัดทำในฉาก Voronezh ของ Opera "ลูกสาวของคิวบา" K. Lisov, "Brest Fortress" และ "ผู้หญิงรัสเซีย" K. Molchanova "Diary of Anna Frank" ใน Phrida Opera Opera "Brest Fortress" (ผู้อำนวยการ S.stein ผู้ดำเนินการ G. Korlov ศิลปิน V.combin, Khoroster V.Iizhogin) ได้รับเสียงสะท้อนที่กว้าง และปริมณฑลและสื่อท้องถิ่นระบุว่าไม่เพียง แต่ทักษะการร้องของนักแสดงเท่านั้น แต่ยังเป็นศิลปะชั้นสูงซึ่งอนุญาตให้สร้างภาพของวีรบุรุษที่มีชีวิต ผลการดำเนินงานได้รับประกาศนียบัตรกิตติมศักดิ์ที่การแข่งขันโรงละครทั้งหมด โรงละครทำงานอย่างใกล้ชิดกับนักแต่งเพลง Voronezh ในปี 1971 รอบปฐมทัศน์ของบัลเล่ต์ "เพลงแห่งการเฉลิมฉลองความรัก" ถูกจัดขึ้นบนเพลงของนักแต่งเพลงและตัวนำของโรงละคร M.Nisherev ในการทำงานของ I.Turgenev ประสิทธิภาพได้รับการชื่นชมอย่างมากจากนักวิจารณ์และผู้ชมและได้รับการเก็บรักษาไว้ในละครเพลง (ตัวนำ M.NoSherev, Balletmaster D. Aripova ศิลปิน B. Cnoblock) ในเครือจักรภพ Oleko Oleko Dunditch ครั้งแรก (1972) ถูกใส่กับนักแต่งเพลงของ Dundich (1972) ซึ่งเรียกว่า Hrennikov เรียกว่า "เหตุการณ์ที่ยอดเยี่ยมในชีวิตดนตรีของประเทศ" และซิมโฟนีบัลเล่ต์ซิมโฟนี "เรื่องราวของ ดินแดนแห่งรัสเซีย "(1982) ถึงวันครบรอบ 400 ปีของ Voronezh และครบรอบ 300 ปีของกองทัพเรือทหารรัสเซียในปี 1986 โรงละครทำโดย Opera Mstoninna "Vivat, Russia!" วันนี้ในละครของโรงละครมากกว่า 40 ชื่อ - รัสเซียและต่างประเทศคลาสสิกงานของโคตรของเรา ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาโอเปร่าและบัลเล่ต์ที่ทำงานในโรงละครเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในประเทศที่สมควรได้รับการยอมรับจากความสามารถของพวกเขา: ศิลปินคนเดียวของชาวรัสเซียของสหพันธรัฐรัสเซีย E.Poymanov ผู้อยู่อาศัย S. Kadanz ศิลปินที่ได้รับเกียรติจาก RSFSR F .sebar, A. Matseva, L. Kondadtenko, Svetlova, V.V. Zhvwanovich, Yu. Danilova (ศิลปินของผู้คนของ Buryatia), i.monastorny, v .gorov, B. Roerofeev, I. Denisov, I..Nepomny, Kolmakov; บัลเล่ต์ศิลปินคนของสหพันธรัฐรัสเซีย N. Volitova, A.golovan, M. Tereykina - การแข่งขันศิลปินบัลเล่ต์นานาชาติในมอสโก, ปารีส, Varna ชื่อของเธอเข้าสู่หนังสือ "The Best Gisteners" หนังสือ, ศิลปินที่ดีที่สุด " สหพันธรัฐรัสเซีย L. Maslennikova, S. Kurtosmanova, V. Dragavtsev โรงละครมาพร้อมกับนักแสดงรุ่นเยาว์: บัณฑิตของ Voronezh Academy of Arts และ The Conservatories of the Country - ไปที่ Opera Truppe, Voronezh Choreographic School - ใน Ballet, Voronezh Music School of Sprintopovich - The Orchestra และ Theorette Choir ทัวร์ภูมิศาสตร์ที่กว้างขวางของโรงละคร The Art of Voronezh ผู้อยู่อาศัยปรบมือในประเทศเยอรมนีสเปนสาธารณรัฐเช็กโปแลนด์ออสเตรียญี่ปุ่นฟินแลนด์ประเทศแอฟริกา ในปี 1996 ในฝรั่งเศสบัลเล่ต์ "ความงามนอนหลับ" แสดงใน 38 เมืองและในปี 1997 และ 1999 เยี่ยมชมทัวร์ในอินเดีย ตั้งแต่ปี 2000 บัลเล่ต์ Voronezh ทัวร์ในฮอลแลนด์เยอรมนีเบลเยียมกับการแสดงของ "Giselle", "Nutcracker" และ "Sleeping Beauty" ในเดือนพฤษภาคม 2548 ทีมบัลเล่ต์มีส่วนร่วมในเทศกาลนานาชาติที่อุทิศตนเพื่อการทำงานของ P.I. Tchaikovsky ซึ่งจัดขึ้นในประเทศเยอรมนี ในปี 2549 และ 2552 โรงละครได้รับการเที่ยวชมสหรัฐอเมริกาและแคนาดาซึ่งแสดงให้เห็นว่าบัลเล่ต์ "Cinderella" S.prokofyev "Giselle" A. Adana และ "พันและหนึ่งคืน" F. Amirov การแสดงโอเปร่า "Trubadur" (ตัวนำ Mountainval Novakovsky (โปแลนด์) ผู้อำนวยการ A.Zicov), "Othello" (ตัวนำ Yu Annisichkin ผู้อำนวยการ F. Safarov), "Picovaya Lad" (ตัวนำ Yu. Anisichkin ผู้อำนวยการ A.zicov) ใน ปี 1999 และ 2001 ถูกแสดงในประเทศเนเธอร์แลนด์ Voronezh Opera and Ballet Theatre ซึ่งเป็นเพียง Chernozem กลางเท่านั้นที่เห็นงานของเขาในการโฆษณาชวนเชื่อของโอเปร่าและศิลปะบัลเล่ต์ในทุกภูมิภาคของภูมิภาคดำเนินการการแสดงออกไปอย่างต่อเนื่องการขยายภูมิศาสตร์ของทัวร์อย่างต่อเนื่อง Opera Trupper ของ Voronezh รัฐโรงละครโอเปร่าและบัลเล่ต์ Coluture Soprano Ekaterina Gavrilova เกียรติศิลปินของรัสเซีย Lyudmila Marchenko Elena Petrichenko Laureate ของการแข่งขันระหว่างประเทศ Elena Potiaeva Elena Sericnikova Oksana Shaposhnikova โซปราโนการแข่งขัน Olga Dobrolyubova Galina Kunakovskaya Olga Mitrofanko ศิลปินของสหพันธรัฐรัสเซีย Zoya Mitrofanov หัวเราะศิลปินของสหพันธรัฐรัสเซีย Alexandra Tyranu Laureate ของการแข่งขันระหว่างประเทศ Lyudmila Solod Natalia Tyutyunseva Anastasia Chernovolos Mezzo - Soprano Tatyana Kibalova Laureate ของการแข่งขันระดับนานาชาติ Elena Knyazeva Yulia Pretoreeva Tenors Laureate ของการแข่งขันระหว่างประเทศ Dmitry Bashkirov Evgeny Belov Alexey Ivanov ศิลปิน Mikhail Syrov เกียรติยศศิลปินบาริตัน Alexander Ainikin Leonid Vorobiev Leeg Guryev ได้รับการยกย่องจากการแข่งขันระหว่างประเทศและทั้งหมดรัสเซีย Igor Gornostayev Sergey Meshchersky Aleksey Tuhin นักการแข่งขันการแข่งขันระหว่างประเทศโรมัน Dudin Basya Nikolay เกวียนเกียรติศิลปิน Buryatia อเล็กซานเดอร์ Nazarov Honored ศิลปิน Buryatia Mikhail Turchanis Ivan Chernyshov Turchanis Ivan Chernyshov Turchanis Ivan Chernyshov Turchanis Ivan Chernyshov หัวสิทธิผู้อำนวยการผู้อำนวยการ Tatyana Kolesnichenko Svetlana : //theatre.vzh.ru/

โรงละคร Carlo Felice (Teatro Carlo Felice) - หัวหน้าโอเปร่าเฮ้าส์ในเจนัว, อิตาลี โรงละครตั้งอยู่ในใจกลางเมืองใกล้กับ Ferrari Square และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองอนุสาวรีย์ขี่ม้าไปยัง Giuseppe Garibaldi ติดตั้งอยู่หน้าโรงละคร การตัดสินใจสร้างโรงละครโอเปร่าใหม่ในเจนัวถูกนำมาใช้ในปี 1824 เมื่อเห็นได้ชัดว่าโรงภาพยนตร์เมืองที่มีอยู่ไม่ตอบสนองความต้องการของเมือง โรงละครใหม่. มันควรจะยืนอยู่แถวเดียวกันและแข่งขันกับโรงละครโอเปร่าที่ดีที่สุดในยุโรป มีการประกาศการแข่งขันทางสถาปัตยกรรมที่ออกแบบอาคารของโรงละครโอเปร่าของสถาปนิกท้องถิ่น Carlo Barbarino ได้รับการคัดเลือกในภายหลังเล็กน้อยสำหรับการก่อสร้างที่เกิดเหตุและห้องโถงยังได้รับเชิญโดย Milanian Luigi Canonika ที่มีชื่อเสียงซึ่งมีบัญชี เป็นส่วนหนึ่งในโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ - การฟื้นฟู La Scala การก่อสร้างโรงภาพยนตร์ในมิลาน, Cremona, Brescia และอื่น ๆ สำหรับโรงละครสถานที่ที่ได้รับเลือกซึ่งมีอารามโดมินิกันและโบสถ์ซานโดมิแกน อารามแห่งนี้เริ่มต้นจากศตวรรษที่สิบสามเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความยิ่งใหญ่ทางสถาปัตยกรรมและผลงานอันมีค่าของศิลปะการตกแต่งภายใน บางคนโต้แย้งว่าอารามถูกนำตัวโดย "การเสียสละ" โรงละคร แต่นี่ไม่ใช่ความจริง เร็วเท่า "ราชอาณาจักรอิตาลี" ในอารามในอารามมีค่ายทหารและคลังสินค้าของกองทัพของเขา คอมเพล็กซ์นั้นทรุดโทรมอย่างมากและในปี 1821 ตามแผนฟื้นฟูพังยับเยินอย่างสมบูรณ์และการตัดสินใจในการก่อสร้างโรงละครถูกนำมาใช้ในปี 1824 หินก้อนแรกของอาคารใหม่ถูกวางเมื่อวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 1826 การค้นพบที่เคร่งขรึมเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 1828 แม้ว่าการก่อสร้างและการตกแต่งจะไม่จบอย่างสมบูรณ์ โอเปร่าครั้งแรกในที่เกิดเหตุของโรงละครคือ "Bianca และ Fernando" Vincarzzo Belinni โรงละครตั้งชื่อตาม Duke of Carlo Feliche Savoy ผู้ปกครองของเจนัว Pythylastic Hall สามารถรองรับผู้ชมได้ประมาณ 2,500 คน ในปีต่อ ๆ มาโรงละครได้รับการฟื้นฟูหลายครั้งในการครอบคลุมก๊าซในปี 1852 ในปี 1892 - แสงไฟฟ้า เป็นเวลาเกือบสี่สิบปีตั้งแต่ปี 1853 Giuseppe Verdie ใช้เวลาช่วงฤดูหนาวในเจนัวและหลาย ๆ ครั้งนำโอเปร่าของเขาในโรงละคร Carlo Felice ในปี 1892 หลังจากการเฉลิมฉลองครบรอบ 400 ปีของการเปิดตัวของอเมริกา Christofore Columbus (Genoa ท้าทายสิทธิที่จะได้รับการพิจารณาเป็นบ้านเกิดขนาดเล็กโคลัมบัส), Verdi ถูกขอให้เขียนโอเปร่าที่เหมาะสมสำหรับเหตุการณ์นี้และวางไว้ในโรงละคร แต่เขาปฏิเสธอ้างถึงวัยชรา โรงละคร Carlo Felice ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและก่อนสงครามโลกครั้งที่สองยังคงอยู่ในสภาพดี ความเสียหายครั้งแรกถูกสร้างขึ้นในปี 2484 เมื่อหลังคาของอาคารถูกทำลายจากการปอกเปลือกของกองกำลังพันธมิตรและภาพวาดที่เป็นเอกลักษณ์ของเพดานของหอประชุมได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ต่อไปในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2486 หลังจากชนระเบิดอุบัติเหตุสถานที่หลังเวทีที่เผาไหม้ทิวทัศน์และห้องแต่งตัวถูกทำลาย แต่ไฟไม่ได้ส่งผลกระทบต่อห้องโถงหลัก แต่น่าเสียดายที่โรงละครได้รับความเดือดร้อนจากโจรที่เอาเยอะมาก ของสิ่งที่มีค่า ในที่สุดในเดือนกันยายน 2487 หลังจากคราบจุลินทรีย์อากาศเท่านั้นที่ยังคงอยู่จากโรงละคร โรงละครปรับปรุงใหม่อย่างต่อเนื่องกิจกรรมของมันต่อเนื่องตลอดเวลาและแม้แต่ Maria Callas ก็แสดงในเขา วางแผนที่จะใช้ประโยชน์จากอาคารของโรงละครเริ่มขึ้นในปี 2489 ในปีพ. ศ. 2494 มีการเลือกโครงการหนึ่งโครงการบนพื้นฐานของการแข่งขัน แต่เขาไม่เคยพยายามที่จะมีชีวิตอยู่ โรงละครถูกปิดในต้นปี 1960 เนื่องจากเหตุฉุกเฉิน ในปี 1963 โครงการฟื้นฟูได้รับความไว้วางใจจากสถาปนิกที่มีชื่อเสียง Carlo Scarpa แต่เขาลากงานและโครงการพร้อมเพียงในปี 1977 อย่างไรก็ตามในการเชื่อมต่อกับการเสียชีวิตที่ไม่คาดคิดของสถาปนิกในปี 1978 โครงการหยุดทำงาน แผนต่อไปนี้ถูกนำมาใช้ในปี 1984 Aldo Rossi ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าสถาปนิกของโรงละครแห่งใหม่ของ Carlo Felice Leitmotif หลักของนักพัฒนาคือการรวมกันของประวัติศาสตร์และความทันสมัย ผนังของโรงละครเก่าและซุ้มที่มีการบรรเทาจากฐานถูกทิ้งไว้รวมถึงองค์ประกอบบางอย่างของการตกแต่งภายในซึ่งสามารถเข้าสู่การตกแต่งภายในใหม่ได้อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่โรงละครก็ถูกสร้างขึ้นใหม่จากรอยขีดข่วน เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2530 หินก้อนแรกถูกวางในรากฐานของโรงละครใหม่ ด้านหลังโรงละครเก่าสร้างอาคารชั้นสูงใหม่ในฉากนี้กลไกการจัดการแพลตฟอร์มมือถือห้องซ้อมห้องโถงและห้องแต่งตัวตั้งอยู่ ตัวเอง หอประชุม ตั้งอยู่ในโรงละคร "เก่า" วัตถุประสงค์ของสถาปนิกคือการสร้างบรรยากาศของจัตุรัสละครเก่าเมื่อการแสดงเกิดขึ้นบนถนนในใจกลางเมือง ดังนั้นบนผนังของห้องโถงการลอบกำแพงด้านนอกของอาคารหน้าต่างและระเบียงถูกสร้างขึ้นและเพดานตั้งรกราก " ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว"ในวันที่ 18 ตุลาคม 2534 ในที่สุดม่านของโรงละคร Carlo Feliche ก็เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกของการเปิดฤดูกาลคือโอเปร่า" Troubadour "Giuseppe Verdi โรงละคร Carlo Felice เป็นหนึ่งในโรงละครโอเปร่าที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ความจุของห้องโถงหลักคือ 2,000 ที่นั่ง

Samara Academic Opera and Ballet Theatre - โรงดนตรีใน Samara, รัสเซีย โรงละครโอเปราวิชาการ Samara และ Ballet เป็นหนึ่งในโรงละครดนตรีรัสเซียที่ใหญ่ที่สุด การเปิดโรงละครจัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2474 โดย Opera Mussorgsky "Boris Godunov" ที่ต้นกำเนิดของเขายืนนักดนตรีรัสเซียที่โดดเด่น - นักเรียนของ Taneyev และ Rimsky-Korsakov ผู้ควบคุมวงและนักแต่งเพลง Anton Eyhenwald ผู้ดำเนินการโรงละคร Bolshoi Ary Pazovsky ผู้อำนวยการรัสเซียที่มีชื่อเสียงของ Isidore Zac ผู้อำนวยการโรงละคร Bolshoi Joseph Lapitsky เชิญชื่อของคุณในประวัติศาสตร์ของโรงละครดังกล่าวอาจารย์, Lion Osovo Cateriers ผู้อำนวยการ Boris Ryabikin นักร้องอเล็กซานเด Dolsky ศิลปินของชาวยูเครน Nikolay ครึ่งคนศิลปินของรัสเซีย Victor Chernomorstsev ศิลปินของผู้คนของ RSFSR โรงละคร RSFSR ในอนาคต Solochka Bolshoi โรงละคร Natalia Spieller, Larisa Boreyko และอื่น ๆ อีกมากมาย คณะกรรมการบัลเล่ต์ถูกนำโดยนักประเสริฐของโรงละคร Mariinsky ผู้มีส่วนร่วมในฤดูกาล Dyagilevsky ในตำนานในปารีส Evgenia Lopukhov เธอเปิดชุดนักออกแบบท่าเต้นปีเตอร์สเบิร์กที่ยอดเยี่ยมในปีที่แตกต่างกันที่ยืนอยู่ที่หัวหน้าของ Ballet Samara Balletmusers ของ The Samara Theatre เป็นนักออกแบบท่าเต้นที่มีความสามารถนักเรียนของ Agrippines Vaganova Natalia Danilova, St. Petersburg Ballerina Alla Briterle ในตำนาน The Soloist ของโรงละคร Mariinsky Igor Chernyshev ศิลปินของประชาชนของ USSR Nikita Dolgushin โรงละครรับสมัครมรดกอย่างรวดเร็ว ในการผลิตยุค 30 - โอเปร่าและบัลเล่ต์คลาสสิก: Tchaikovsky, Glinka, โรมัน Corsakov, Borodin, Dargomyzhsky, Rossini, Verdi, Puccini, Tchaikovsky, Minkus, บัลเล่ต์ของ Adana ความสนใจมากตามลำดับความต้องการเวลาโรงละครจ่ายให้กับละครที่ทันสมัย ในช่วงก่อนสงครามเป็นครั้งแรกในประเทศโอเปร่า "บริภาษ" A. Eyhenwald, Tanya, Cretener, "การฝึกฝนของแม่แปรก" Sheblin และอื่น ๆ การทดลองสร้างสรรค์ที่กล้าหาญดึงดูดความสนใจที่ไม่รู้จักหรือลืมไปแล้ว ผลงานชิ้นเอกในโรงละครและในปีหลังสงคราม ใน Posses ของเขา - หลายสิบชื่อจากคลาสสิกของศตวรรษที่ XVIII ("Medea" Kerubini "การแต่งงานลับ" ของ Chimaroza) และน้อย ดำเนินงาน ชาวรัสเซีย นักแต่งเพลง Xix ใน. ("Servilia" โรมัน Corsakov "Charger" Tchaikovsky "ต้นคริสต์มาส" Rebikova) ไปยังศตวรรษที่ยุโรป Avant-Garde XX (พื้นหลัง "Dwarf" Cemelinsky, "งานแต่งงาน" ของ Stravinsky, "Arquino" Buzoni) หน้าพิเศษในชีวิตของโรงละครเป็นการสร้างร่วมกับผู้เขียนในประเทศที่ทันสมัย ฉากของเราได้รับความไว้วางใจผลงานของพวกเขานักแต่งเพลงชาวรัสเซียที่โดดเด่น Sergey Slonimsky และ Andrei Eshpai, Tikhon Khrennikov และ Andrei Petrov รอบปฐมทัศน์โลกของโอเปร่าของ Syary "Vision of John Grozny" ดำเนินการโดยนักดนตรีที่ยอดเยี่ยมในศตวรรษที่ยี่สิบโดย Mstislav Rostropovich กลายเป็นรอบปฐมทัศน์โลกของชีวิตทางวัฒนธรรมของสแลมในเครือจักรภพด้วยปริญญาโทที่โดดเด่นของเวทีโดยผู้อำนวยการ Robert Sturia และศิลปิน George Alexi-Meshishvili โดยการเริ่มต้นของสงครามรักชาติที่ยิ่งใหญ่สถานการณ์ทางวัฒนธรรมในเมืองเปลี่ยนไปอย่างมาก ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2484 โรงละครใหญ่แห่งสหภาพโซเวียตของสหภาพโซเวียตถูกอพยพไปที่ Kuibyshev / Samara ("ทุนสำรอง") ความคิดริเริ่มทางศิลปะดำเนินต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญที่ใหญ่ที่สุดของโอเปร่าโซเวียตและฉากบัลเล่ต์ ในปี 1941 - 1943 Gabt แสดงให้เห็นว่า Operas และบัลเล่ต์ 14 แห่งใน Samara บนเวที Samara นักร้องที่มีชื่อเสียงระดับโลก Ivan Kozlovsky, Maxim Mikhailov, Mark Raisen, Valery Barsova, Natalia Spieller, Ballerina Olga Lepeshinskaya ดำเนินการโดย Samosud, Fayer, Melik Pashaev จนกระทั่งฤดูร้อนปี 2486 เขาอาศัยอยู่และทำงานในทีม Kuibyshev Gabt ด้วยความกตัญญูสำหรับความช่วยเหลือของผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่นในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ศิลปินของเขาและหลังสงครามมากกว่าหนึ่งครั้งก็มาถึง Volga กับงานใหม่ของพวกเขาเช่นเดียวกับการแสดงในประวัติศาสตร์ของ Wartime ในปี 2005 เพื่อเป็นการระลึกถึงวันครบรอบ 60 ปีแห่งชัยชนะในสงครามความรักชาติที่ยิ่งใหญ่ทีมโรงละคร Bolshoi ของรัสเซียนำเสนอการประชุมใหม่กับงานศิลปะของเขาไปยังผู้ชม Samara การแสดงระบบ Gastro และคอนเสิร์ต (บัลเล่ต์ Shostakovich "Light Creek", Mussorgsky Opera "Boris Godunov", Victory Symphony - Symphony ที่เจ็ดของ Shostakovich คอนเสิร์ตของวงออร์เคสตราทองเหลืองและโอเปร่า Soloists) ผ่านความสำเร็จที่ประสบความสำเร็จ ในฐานะอธิบดีโรงละคร Bolshoi ของรัสเซีย A.iksanov ระบุว่า "สำหรับทีมทั้งหมดของโรงละคร Bolshoi ทัวร์เหล่านี้ - อีกโอกาสที่จะแสดงความขอบคุณอย่างลึกซึ้งต่อผู้อยู่อาศัยของ Samara สำหรับความจริงที่ว่าในความจริงที่ยากที่สุด เวลาสงคราม โรงละคร Bolshoi ได้รับบ้านหลังที่สองที่นี่ " ด้านบนของชีวิตดนตรีของ Samara Twentieth ในช่วงศตวรรษประวัติศาสตร์อย่างแท้จริงคือการประหารชีวิตบนเวทีของ Samara Opera House of the Seventh ("Leningrad") Symphony ของ Dmitry Shostakovich การทำงานที่ยอดเยี่ยมสะท้อนให้เห็นถึงเหตุการณ์ที่น่าเศร้าของสงครามส่งสัญญาณความยิ่งใหญ่ของนักรบโซเวียตทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์โดยนักแต่งเพลงในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2484 ในการอพยพใน Samara และดำเนินการโดย Orchestra โรงละคร Bolshoi ภายใต้การเป็นผู้นำของ Samuel Samubood ในวันที่ 5 มีนาคม , 2485 โรงละครใช้ชีวิตอย่างเข้มข้น การสร้างใหม่สิ้นสุดชื่อใหม่ปรากฏในโปสเตอร์นักร้องและนักเต้นจะชนะในการแข่งขันระดับนานาชาติและรัสเซียที่มีชื่อเสียงกองกำลังสร้างสรรค์ใหม่จะถูกเทลงในคณะ ทีมโรงละครสามารถภูมิใจในความเข้มข้นของความสามารถที่มีความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ศิลปินที่ได้รับเกียรติจากรัสเซียมิคาอิล Gubsky และ Vasily Zakkin เป็นศิลปินเดี่ยวไม่เพียง แต่โดยโรงละคร Samara แต่ยังรวมถึงโรงละครใหญ่ของรัสเซียโรงละครมอสโก "โอเปร่าใหม่" Anatoly Nevda มีส่วนร่วมในการแสดงของโรงละคร Bolshoi และประสบความสำเร็จในฉากของโรงละครรัสเซียและต่างประเทศ Andrei Antonov ระดับของคณะทำงานได้รับการพิสูจน์โดยการปรากฏตัวของนักร้อง "ชื่อ" จำนวนมากใน: 5 ศิลปินพื้นบ้าน, 8 ศิลปินที่สมควรได้รับ 10 สัญญาการแข่งขันระดับนานาชาติและรัสเซีย ในคณะมีเยาวชนที่มีความสามารถมากมายที่ศิลปินรุ่นเก่าเต็มใจแบ่งปันความลับของทักษะ ตั้งแต่ปี 2008 คณะละครบัลเล่ต์โรงละครได้ยกระดับอย่างมีนัยสำคัญ ทีมงานของโรงละครนำโดยศิลปินที่ได้รับเกียรติจากรัสเซีย Cyril Schograder เป็นเวลานานประดับด้วยคณะบัลเล่ต์ของโรงละคร Perm K. Schograeder เชิญนักเรียนกลุ่มใหญ่ของเขาไปที่โรงละครบัณฑิตของหนึ่งในสถาบันการศึกษาที่ดีที่สุดของประเทศ - โรงเรียนสอนออกแบบท่าเต้นแบบดัดแปลง ศิลปินบัลเล่ต์หนุ่ม Ekaterina Verushin และ Viktor Malygin กลายเป็นผู้ได้รับการยกย่องจากการแข่งขันระหว่างประเทศที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ "Arabesque" นักเต้น Samara ทั้งกลุ่มประสบความสำเร็จในการดำเนินการ เทศกาลทั้งหมดรัสเซีย "เกม Delphic" ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมารัฐมนตรีสำคัญหลายคนได้ผ่านโรงละคร: โอเปร่า "Mozart และ Salieri" ของ Roman-Korsakov จอดเรือ Pravinsky, "Madse" Pergolesi "Yevgeny Onegin" Tchaikovsky, "Rigoletto" Verdi Madame Batterflaya "Pucchini, Choreographic Cantata "งานแต่งงาน" stravinsky, บัลเล่ต์ของส้นเท้า "ข้อควรระวังไร้ประโยชน์" โรงละครร่วมมือกันในโปรดักชั่นเหล่านี้กับมอสโคว์จ้าวจากโรงละคร Bolshoi ซึ่งเป็นโรงละครใหม่กับโรงละครอื่น ๆ ของรัสเซีย ความสนใจมากที่จ่ายให้กับสูตรของนิทานดนตรีสำหรับเด็ก ศิลปินของโอเปร่าและบัลเล่ต์ยื่นออกมาในฉากคอนเสิร์ต ท่ามกลางเส้นทางการท่องเที่ยวของโรงละคร - บัลแกเรียเยอรมนีอิตาลีสเปนจีนเมืองรัสเซีย การปฏิบัติทัวร์แบบเร่งรัดของโรงละครได้รับอนุญาตให้ทำความคุ้นเคยกับงานล่าสุดและผู้อยู่อาศัยในภูมิภาค Samara หน้าสดใสในชีวิตของโรงละคร - เทศกาล ในหมู่พวกเขาเทศกาลบัลเล่ต์คลาสสิกที่ตั้งชื่อตาม Alla Rustle เทศกาลนานาชาติ "Casy XXI Century", "ห้าตอนเย็นใน Togliatti" เทศกาล Opera Art "Samara Spring" ต้องขอบคุณความคิดริเริ่มของเทศกาลของโรงละคร Samara ผู้ชมสามารถทำความคุ้นเคยกับศิลปะของผู้เชี่ยวชาญที่ใหญ่ที่สุดของโรงละครในประเทศและต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและศิลปะบัลเล่ต์ แผนโรงละครสร้างสรรค์รวมถึงโอเปร่า "Prince Igor" Opera, Ballets Don Quixote, "Sleeping Beauty" โรงละครวางแผนที่จะแสดงให้เห็นถึง Opere ของ Mussorgsky "Boris Godunov" โดย Opera จึงกลับมาแล้วดังนั้นไปยังต้นกำเนิดในการบิดประวัติศาสตร์การพัฒนาประวัติศาสตร์ใหม่ บนจัตุรัสกลางของเมืองอาคารสีเทาขนาดใหญ่คือหอคอย - ตามความคิดเห็นของนักประวัติศาสตร์อาร์ต "อนุสาวรีย์ที่ยิ่งใหญ่ในช่วงปลาย" สไตล์ Pilon สไตล์ "ซึ่งเป็นคลาสสิกที่โหดร้ายได้รับการเพิ่ม" "สดใส ตัวอย่างของสถาปัตยกรรมของยุค 30 " ผู้เขียนโครงการ - Leningrad Architects N.A. Trotsky และ N.D. Kamelanbogen ในปี 1935 การแข่งขันที่ชนะสำหรับการสร้างวังของวัฒนธรรม โรงละครตั้งอยู่ในใจกลางของอาคาร ในปีกซ้ายมีห้องสมุดภูมิภาคบางครั้งในปีกขวา - โรงเรียนกีฬา และพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ในปี 2549 การฟื้นฟูอาคารเริ่มขึ้นเรียกร้องให้ขับไล่โรงเรียนกีฬาและพิพิธภัณฑ์ ภายในปี 2010 ฤดูกาลครบรอบของโรงละครการฟื้นฟูสิ้นสุดลง

ซิดนีย์โอเปร่าเฮ้าส์ - สัญลักษณ์ของเมืองที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย

(Eng. Sydney Opera House) - หนึ่งในอาคารที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักที่สุดในโลกเป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย - ซิดนีย์ หลังคารูปเรือทำให้โรงละครดนตรีนี้แตกต่างจากอื่น ๆ ในโลก

โอเปร่าเฮ้าส์ในซิดนีย์ มันได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในโครงสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสถาปัตยกรรมสมัยใหม่และเป็นบัตรเยี่ยมชมเมืองและทวีป การค้นพบเกิดขึ้นในวันที่ 20 ตุลาคม 2516 ต่อหน้าราชินีแห่งบริเตนใหญ่เอลิซาเบ ธ ที่สอง

โอเปร่าซิดนีย์อยู่ในท่าเรือบนจุด Bennelong ชื่อนี้เกิดขึ้นในนามของชาวอะบอริจินท้องถิ่นและเพื่อนของผู้ว่าราชการแห่งแรกของออสเตรเลีย ก่อนหน้านี้ ณ สถานที่นี้เป็นป้อมและจนถึงปี 1958 - สถานีรถราง

สถาปนิกของโอเปร่าเฮ้าส์เป็นสถาปนิกชาวเดนมาร์ก Yorn Rynd ในปี 2003 สำหรับโครงการของเขาเขาได้รับรางวัล Pritzherovsky

แม้จะมีความเรียบง่ายของการผลิตและการติดตั้งชิ้นส่วนสำหรับกระสุนทรงกลมการก่อสร้างอาคารล่าช้าเหตุผลคือการตกแต่งภายในของสถานที่ ตามแผนก่อสร้างโรงละครควรใช้เวลาไม่เกินสี่ปีและมีค่าใช้จ่ายประมาณ 7 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย แต่โอเปร่าถูกสร้างขึ้นมากถึง 14 ปีและราคา 102 ล้านบาท

ในโรงละครโอเปร่าซิดนีย์นักดนตรีที่ดีที่สุดหลายร้อยคนในโลกกำลังพูดเป็นประจำทุกปี หากคุณรักดนตรีและสนุกกับเกมบนเครื่องดนตรีแล้วที่นี่คุณสามารถค้นหาและซื้อได้ อุปกรณ์เสียง จากผู้ผลิตโลกที่ดีที่สุด

ซิดนีย์โอเปร่าเฮ้าส์สร้างขึ้นในสไตล์การแสดงออกด้วยองค์ประกอบของการออกแบบที่เป็นนวัตกรรม ความยาวของมันคือ 185 ม. และความกว้างคือ 120 ม. โอเปร่าครอบคลุมพื้นที่ 2.2 เฮกตาร์ น้ำหนักของอาคารอยู่ที่ประมาณ 161,000 ตันมันขึ้นอยู่กับ 580 กองทำประตูสู่ระดับความลึก 25 เมตรไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้าโดยอาคารไฟฟ้าเทียบเท่ากับเมืองที่มี 25,000 คน

หลังคาของโรงละครประกอบด้วย 2194 ส่วนความสูงของมันคือ 67 เมตรและน้ำหนักประมาณ 27 ตันการออกแบบทั้งหมดมีสายเคเบิลยาว 350 กม. หลังคาของโอเปร่าทำในรูปแบบของชุดของเปลือกหอย แต่มักเรียกว่าใบเรือหรือเปลือกหอยที่มาจากมุมมองของสถาปัตยกรรมมันไม่เป็นความจริง อ่างล้างมือเหล่านี้ทำจากแผงคอนกรีตสามเหลี่ยมที่ติดอยู่กับซี่โครงแห่งชาติ 32

หลังคาของอาคารครอบคลุม 1,056,006 กระเบื้อง Azulju สีขาวและสีครีมเคลือบ จากระยะไกลหลังคาดูเหมือนสีขาวบริสุทธิ์ แต่มีไฟที่แตกต่างกันคุณสามารถเห็นช่วงสีต่าง ๆ ด้วยความช่วยเหลือของวิธีการเชิงกลของการวางกระเบื้องพื้นผิวของหลังคากลายเป็นที่สมบูรณ์แบบซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุด้วยตนเอง

ขดลวดที่ใหญ่ที่สุดในรูปแบบหลังคาของคอนเสิร์ตฮอลล์และโรงละครโอเปร่า ห้องโถงอื่น ๆ แบบฟอร์มมากกว่าขนาดที่เล็กกว่า การตกแต่งภายในภายในของอาคารนั้นใช้หินแกรนิตสีชมพูต้นไม้และไม้อัด

บ้านโอเปร่าซิดนีย์

ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์

| ละติจูดและลองจิจูด (ทศนิยม): -33.856808 , 151.215264

ภูมิทัศน์ของเมืองออสเตรเลียที่ใหญ่ที่สุด - ซิดนีย์ - เรียนรู้เฉพาะในหมู่เมืองอื่น ๆ หลายพันเมืองในโลกเนื่องจากมีสององค์ประกอบ: สะพานโค้ง สะพานฮาร์เบอร์ และอาคารที่ผิดปกติของโรงละครสหสาขาวิชาชีพที่รู้จักกันดีกว่าชื่อ " โรงละครโอเปร่า» ( โรงละครโอเปร่า.) หนึ่งในมากที่สุด อาคารที่มีชื่อเสียง ในสถาปัตยกรรมโลก

ซิดนีย์โอเปร่าเฮ้าส์ฉลองครบรอบ 40 ปี แต่เรื่องราวของเขาเริ่มต้นขึ้นเรื่อย ๆ ย้อนกลับไปในปีพ. ศ. 2497 ซิดนีย์ซิมโฟนีออร์เคสตราและเรือนกระจกแห่งนิวเซาธ์เวลซ์นำแนวคิดในการสร้างบ้านโอเปร่าซิดนีย์ รัฐบาลของรัฐเลือกสถานที่สำหรับอาคารในอนาคตและประกาศการแข่งขันระดับนานาชาติแบบเปิดสำหรับโครงการที่ดีที่สุดสำหรับโรงละครโอเปร่า

ในท่าเรือซิดนีย์บน ปอด ป้อมปราการครั้งหนึ่งเคยอยู่ในภายหลังมีสถานีรถราง มีการตัดสินใจที่นี่เพื่อสร้างอาคารที่งดงามซึ่งจะกลายเป็นใบหน้าของเมือง

ภายในเดือนธันวาคม 2499, 233 ใบสมัครจาก 28 ประเทศ ตามตำนานคณะลูกขุนได้ลดวงกลมวงกลมให้แคบลงแล้วโดยปฏิเสธโครงการส่วนใหญ่เมื่อสถาปนิกชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงที่สุดของฟินแลนด์ต้นกำเนิดเข้าร่วมกับผู้พิพากษา Eero Saranin. ฉันเห็นบางสิ่งบางอย่างในตัวเลือกที่ถูกปฏิเสธของโครงการ "ที่ชื่นชอบ" - Danchanin Yorna Lodon (Jørn Utzon) ในความเป็นจริงยืนยันในชัยชนะของเขา เมื่อวันที่ 29 มกราคม 1957 ผู้ชนะได้รับการขนานนามว่าเป็นระบบที่แสดงออกหรือกระสุนหรือใบเรือโดย Utton

ในปี 1950 มีการเปลี่ยนแปลงในการตั้งค่าสถาปัตยกรรมโลก: สิ่งที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงแสดงในรูปแบบที่สะอาดตาของรูปแบบโค้งของเส้นโค้งธรรมชาติอย่างเห็นได้ชัดเส้นอินทรีย์มาแทนที่ "สไตล์สากล" ที่น่าเบื่อ " สไตล์ใหม่ จะถูกเรียกว่า "การแสดงออกเชิงโครงสร้าง" หรือ "โครงสร้าง" หนึ่งในสมัครพรรคพวกของเขาคือสมาชิกคนเดียวกันของคณะลูกขุนของ Ero Saarinen ที่ยืนยันในชัยชนะของโครงการตอนนี้ถือว่าเป็น "ไอคอน" ของโครงสร้าง

หลังคาของ Opera House ซิดนีย์สถาปนิกตัดสินใจดำเนินการจากส่วนของรูปแบบทรงกลมความโค้งคงที่ อีกเล็กน้อยในภายหลัง Yorn Razon จะบอกว่าแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจทำหน้าที่เป็นเปลือกแข็งของส้มถ่ายทำโดยกลุ่มสามเหลี่ยม ความแตกต่างกับอาคารเป็นเพียงในระดับ Worm Oliese จะมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 150 เมตรและเปลือกของเขาจะเป็นคอนกรีตเคลือบด้วย Azulu กระเบื้อง อาคารครอบคลุมพื้นที่ 2.2 เฮกตาร์ ความยาวของมันคือ 185 และความกว้างสูงสุดคือ 120 เมตร

ในการดำเนินโครงการปัญหาจำนวนมากเกิดขึ้นซึ่งนำไปสู่การทำให้กำหนดเวลาอย่างเข้มงวดการประมวลผลที่สำคัญของการออกแบบเริ่มต้นและต้นทุนทางการเงินขนาดใหญ่ แทนที่จะมีการวางแผนสี่ปีและเจ็ดล้านดอลลาร์ออสเตรเลียโอเปร่าถูกสร้างขึ้นเป็นเวลาสิบสี่ปีและราคา 102 ล้านดอลลาร์ (นั่นคือทับซ้อนงบประมาณเริ่มต้นมากกว่า 14.5 (!) ครั้ง)

ซิดนีย์โอเปร่าเฮ้าส์เปิดเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2516 ราชินี Elizabeth II.

หลังคาที่ราบรื่นอย่างสมบูรณ์แบบของโอเปร่าซิดนีย์ครอบคลุมมากกว่าหนึ่งล้านกระเบื้อง ด้วยแสงที่แตกต่างกันกระเบื้องสร้างขอบเขตสีที่แตกต่างกันและพวกเขาเล่นอย่างสวยงามโดยแสงแดดสะท้อนจากน้ำ

สองกล้องที่ใหญ่ที่สุดในรูปแบบเพดาน ห้องคอนเสิร์ต (ห้องคอนเสิร์ต.) และโรงละครโอเปร่า ( โรงละครโอเปร่า.. ในห้องโถงอื่น ๆ เพดานฟอร์มของซุ้มโค้งขนาดเล็ก ใน "อ่างล้างจาน" ที่เล็กที่สุดนอกเหนือจากทางเข้าหลักและบันไดด้านหน้ามีร้านอาหาร "Bennelong"

Opera House ดึงดูดเสมอ เพิ่มความสนใจ มืออาชีพ ในปี 2003 สถาปนิก Yorn Uton ได้รับรางวัล Pritzherovskiy (อะนาล็อกที่ผิดกฎหมายของรางวัลโนเบลในสถาปัตยกรรม)